สั ญ ญ า ซื อ ข า ย CONTRACT OF SALE ACCOUNTING (สาขาการบัญชี) Faculty of Management Science ( ค ณ ะ วิ ท ย า ก า ร จั ด ก า ร )
ก คาํ นํา E-Book เลม นม้ี ีเนื้อหาเก่ยี วกบั เรื่องของกฎหมายทางธรุ กิจ ซึง่ มรี ายละเอยี ด ประกอบดว ย ประวัติท่มี าของกฎหมาย ความหมายของกฎหมาย และประเภทของกฎหมาย โดยรวบรวมขอ มลู จากแหลงตา งๆ มาเพื่อนาํ เสนอใหผ ูท สี่ นใจในการทจี่ ะศึกษา และเรยี นรเู พม่ิ เตมิ ในเรื่องของกฎหมายทางธุรกจิ เพ่ือสามารถนํามาปรับใชใ นชีวติ ประจาํ วนั ได โดย E-Book เลม น้ถี ือไดว า เปนสวนหนึ่งของรายวิชากฎหมายธุรกจิ และกฎหมาย วิชาชพี หวงั เปนอยา งยงิ่ วาผทู ีส่ นใจในเรอ่ื งของกฎหมายทางธุรกิจจะไดรบั ประโยชนไม มากกน็ อยและขอขอบคุณทุกทานที่ใหค วามสนใจ E-Book เลมนีข้ องผูจ ัดทาํ คณะผจู ัดทํา
สารบัญ ข คาํ นาํ ก สารบญั ข ทีมาของกฎหมาย 1 1 ทีมาของระบบกฎหมายลายลกั ษณอ์ ักษร 1 ทีมาของกฎหมายไมเ่ ปนลายลกั ษณ์อกั ษร 2 2 ความหมายของกฎหมาย 3 3 ความหมายของธรุ กิจ 3 3 ประเภทของกฎหมาย 4 4 1.กฎหมายเอกชน 4 2.กฎหมายมหาชน 4 3.กฎหมายระหวา่ งประเทศ 4-6 7 สัญญา 7-8 9-11 สญั ญาเกิดขึนอย่างไร 12 การเกดิ สญั ญาตอ้ งประกอบดว้ ยสาระสําคญั 3 ประการ 12 สาระสําคญั ของสญั ญา 13 ประเภทของสญั ญา 13-16 17 สัญญาซอื ขาย 18 19 กฎหมายเอกเทศสญั ญา ค สาระสําคญั ของสัญญาซอื ขาย การเปรยบเทียบชนิดของสญั ญาซือขาย หนา้ ทีและความรับผดิ ของผขู้ าย หนา้ ทีและความรับผิดของผู้ซือ สัญญาซือขายล่วงหนา้ การเลิกสัญญา สทิ ธิในการบอกเลกิ สัญญา ผลการบอกเลิกสัญญา ตวั อยา่ งแบบฟอร์มสญั ญาซือขาย บรรณานกุ รม
1 ทีมาของกฎหมาย คาํ วา ทีม่ าของกฎหมาย นักกฎหมายหลายทานใหความหมายไวแตกตางกัน บางทานหมายถึง แหลงที่มาหรือบอ เกิดของกฎหมาย บางทานหมายความถงึ แหลงทีจ่ ะคนพบกฎหมาย หรือบางทา น อาจหมายความถึงศาลหรอื ผูทีจ่ ะนํากฎหมายไปปรับใชกบั คดีทเี่ กดิ ขึ้น ถงึ แมวานกั กฎหมายจะมคี วาม เห็นแตกตา งกันออกไป แตท ีม่ าของกฎหมายโดยทั่วไปแลวมีความใกลเคียงกัน โดยพิจารณาถึงทีม่ า ของกฎหมายหลกั สองระบบคอื ระบบกฎหมายลายลกั ษณอ กั ษร และระบบกฎหมายไมเปนลายลกั ษณ อกั ษร ทีมาของระบบกฎหมายลายลกั ษณ์อักษร 1.กฎหมายลายลกั ษณอกั ษร เปน ระบบท่สี บื ทอดมาจากกฎหมายโรมัน ซง่ึ ใหค วามสาํ คัญกบั ตวั บท กฎหมายท่ีบัญญัตขิ ึ้นใชโดยถูกตองตามกระบวนการบัญญตั กิ ฎหมาย ดงั น้ันท่ีมาประการสาํ คัญของ ระบบกฎหมายลายลักษณอ กั ษร กค็ อื กฎหมายทมี่ กี ารบญั ญัตไิ วเ ปนลายลักษณอ กั ษร 2.จารีตประเพณี ในบางครัง้ การบญั ญตั กิ ฎหมายเปนลายลักษณอกั ษร จะใหครอบคลมุ ทกุ เรอ่ื ง เปน ไปไดย าก จงึ ตองมีการนําเอาจารีตประเพณี มาบญั ญตั ใิ ชเปนกฎหมายลายลกั ษณอกั ษรดว ย 3.หลักกฎหมายทว่ั ไป ในบางคร้งั ถึงแมจ ะมกี ฎหมายลายลักษณอักษร และกฎหมายจารีต ประเพณี มาใชพจิ ารณาตดั สนิ ความแลว ก็ตาม แตก ็อาจไมเ พยี งพอครอบคลมุ ไดทกุ เร่อื ง จงึ ตองมี การนาํ เอาหลักกฎหมายทัว่ ไป ซึ่งประเทศอ่ืนๆ ท่มี คี วามกา วหนาทางกฎหมายไดยอมรับกฎหมายน้ัน แลว มาปรับใชในการพิจารณาตัดสินคดีความดว ย ทมี าของกฎหมายไม่เปนลายลกั ษณอ์ กั ษร 1.จารีตประเพณี ถอื วา เปนท่มี าประการสําคญั ของระบบกฎหมายไมเ ปน ลายลักษณอกั ษร เนือ่ งจากกฎหมายระบบน้ีเกดิ จากการนําเอาจารีตประเพณี ซง่ึ คนในสงั คมยอมรบั และปฏิบัตสิ บื ตอ กนั มานาน มาใชเปน หลกั ในการพจิ ารณาตัดสินคดีความ 2.กฎหมายลายลกั ษณอ กั ษร ในสมยั ตอ ๆ มาบานเมอื งเจริญข้นึ อยา งรวดเร็ว การทจี่ ะรอให จารตี ประเพณเี กดิ ขน้ึ ยอ มไมท ันกาล บางครั้งจงึ จาํ เปน ตองสรางกฎหมายทเี่ ปนลายลกั ษณอ ักษรขน้ึ มา ใชด ว ย
2 3.คําพิพากษาของศาล จารีตประเพณใี ดที่ถกู นาํ มาใชเปนหลักในการพจิ ารณาตัดสนิ คดคี วามแลว ก็จะกลายเปน คาํ พิพากษาของศาล ซง่ึ คาํ พพิ ากษาบางเรือ่ งอาจถกู นําไปใชเ ปน หลัก หรือเปน บรรทดั ฐานในการพจิ ารณาตดั สนิ คดคี วามตอๆ ไป คําพพิ ากษาของศาลจงึ เปน ท่มี าอกี ประการหน่งึ ของระบบกฎหมายไมเ ปนลายลกั ษณอกั ษร 4.ความเห็นของนกั นิตศิ าสตร ระบบกฎหายไมเ ปนลายลักษณอกั ษร ยงั ยอมรับความเหน็ ของนัก นติ ิศาสตรมาใชเ ปน หลักในการตัดสินคดีความดวย เพราะนกั นติ ิศาสตรเ ปนผทู ศ่ี ึกษากฎหมายอยเู สมอ เปน ผทู ม่ี ีความรู ความคิด มเี หตผุ ล ความเหน็ ของนักนิติศาสตรท ่ีมชี ่ือเสสยี งและเปนที่ยอมรับโดย ท่ัวไป ยอ มมนี ้ําหนกั พอทีจ่ ะนาํ ไปใชอ า งองิ ในการพจิ ารณาตดั สนิ ความได 5.หลกั ความยตุ ิธรรมหรือมโนธรรมของผพู พิ ากษา ในระยะหลงั ทบี่ านเมืองเจริญขึ้นสภาพสง่ิ แวดลอมตางๆ ก็เปลี่ยนแปลงไป การใชจารตี ประเพณีและคาํ พิพากษากอ น ๆ มาเปนหลักในการ พจิ ารณาตดั สินคดคี วามอาจไมยตุ ิธรรม จึงเกิดศาลระบบใหมข้ึน ซ่ึงศาลระบบนจ้ี ะไมผ กู มัดกบั จารตี ประเพณีหรอื คาํ พพิ ากษาของศาลเดมิ แตจ ะยึดหลกั ความยตุ ิธรรมและใหค วามเปน ธรรมแกคูก รณี ซงึ่ เรยี กวามโนธรรมของผูพิพากษา(Squity) ซง่ึ ตอมาไดรบั การยอมรบั เปนสว นหนงึ่ ของระบบ กฎหมายไมเ ปนลายลักษณอักษร ความหมายของกฎหมาย กฎหมาย หมายถึง กฎเกณฑแ ละวธิ กี ารของสงั คมท่กี าํ หนดขึน้ ใชบงั คับพฤติกรรมของประชากร ใหประพฤตปิ ฎบิ ตั ติ าม เพื่อความสงบสขุ และความเปนระเบียบเรียบรอ ยในการอยูร วมกนั หากผูใด ฝา ฝนตองถกู ลงโทษ ความหมายของธรุ กจิ “ธุรกจิ ” หมายถึงกิจกรรมตา ง ๆ ทเ่ี ก่ียวของกับการผลิต การจดั จําหนาย และการบรกิ าร โดย ภายในหนวยงานหรือธรุ กจิ นั้น ๆ มกี ารนาํ ทรพั ยากรที่มีอยูมาผสมผสานกนั อยา งมรี ะบบ มรี ะเบียบ ตามกฎเกณฑ เพ่ือตอบสนองความตอ งการของประชาชนหรอื ผูบริโภค ในขณะเดียวกนั ก็กอ ใหเ กิด ผลประโยชนห รือบรรลุตามเปาหมายของธรุ กิจ และไมกอใหเกดิ มลภาวะทไี่ มดตี อ สิ่งแวดลอ ม
3 ประเภทของกฎหมาย กฎหมายแบงออกเปน 3 ประเภท 1.กฎหมายเอกชน กฎหมายเอกชนเปน กฎหมายทกี่ ําหนดถึงความสัมพนั ธร ะหวา งบคุ คลกับบุคคลดวยกนั เชน ประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย เปนตน 2.กฎหมายมหาชน กฎหมายมหาชนเปน กฎหมายทกี่ ําหนดถึงความสมั พนั ธร ะหวา งรฐั ซ่งึ อยูในฐานะผูใชอ าํ นาจ ปกครองกับเอกชน หรอื ประชากรในรัฐนน้ั ๆซึ่งอยูในฐานะผูป กครอง เชน ประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารราความตา งๆเปนตน 3.กฎหมายระหวา งประเทศ กฎหมายระหวางประเทศ คอื กฎหมายทก่ี าํ หนดถึงความสัมพันธร ะหวางรัฐตอรัฐ เพอื่ กอ ใหเ กดิ ความสงบ สขุ ในสงั คมโลก แลงออกเปน 3 แผนก 3.1 กฎหมายระหวางประเทศแผนกคดีเมือง เปน กฎหมายทก่ี าํ หนดถงึ ความสัมพันธระหวางรัฐตอ รฐั โดยถือวารฐั แตล ะรฐั มสี ภาพเปน บคุ คลตามนยั แหง กฎหมายน้ี เชน สนธิสัญญาระหวา งประเทศ หรือขอ ตกลงระหวางประเทศท่มี ีการ รับรองหรือใหส ตั ยาบันซึ่งกนั และกันแลว เปน ตน 3.2 กฎหมายระหวางประเทศแผนกคดีบคุ คล เปน กฎหมายทกี่ าํ หนดถึงความสมั พันธร ะหวางประชากรในรัฐหนง่ึ กบั ประชากรของอกี รฐั หนง่ึ เชนการสมรส หรอื การบังคับใหปฏิบัติตามสัญญาทีก่ ระทําโดยบคุ คลตางรัฐ เปนตน 3.3 กฎหมายระหวางประเทศแผนกคดีอาญา เปน กฎหมายทีก่ าํ หนดความสมั พันธร ะหวา งรฐั ในเร่อื งคดีความอนั มลี ักษณะเปนความผิดท่ี อาญาระหวางรัฐตอ รัฐ เชน กฎหมายวา ดว ยการสง ผูรายขา มแดนในคดคี วามผิดทางอาญา เปน ตน ความผดิ ทีอ่ าญาระหวางรฐั ตอ รฐั เชน กฎหมายวา ดว ยการสงผรู า ยขา มแดนในคดคี วามผิดทางอาญา เปน ตน
4 สัญญา สัญญา เปน นิตกิ รรมสองฝายทีเ่ กดิ ขึ้นจากการแสดงเจตนาของบุคคลแตละฝาย โดยมคี วาม ประสงคตกลงกนั และรวมใจกนั ในอนั ทจ่ี ะกอใหเกิดนิตสิ มั พนั ธอ ยาง ใด อยางหนงึ่ ขนึ้ สัญญาเกิดขนึ อย่างไร เกดิ จากการแสดงเจตนาของบคุ คลต้งั แตส องฝายข้ึนไปโดยฝา ยหน่งึ ทาํ คาํ เสนอ อีกฝา ยหนง่ึ ทาํ คําสนอง เมื่อคาํ เสนอและคาํ สนองมีขอ ความถกู ตอ งสอดคลองกนั สัญญาจึงจะเกดิ ข้นึ และกอหนี้ ผูกพันคูสัญญาทกุ ฝา ยตองใหปฏิบตั ติ ามสทิ ธิ และหนา ทอี่ นั เปนนิติสัมพันธต ามกฎหมายท่เี กดิ ขน้ึ การเกดิ สญั ญาต้องประกอบดว้ ยสาระสําคญั 3 ประการ 1.ตอ งมีบคุ คลอยางนอยสองฝายคอื ฝายผเู สนอและฝายผูสนอง 2.ตองมีการแสดงเจตนาตอกันและกนั ทง้ั ฝา ยผูเ สนอและฝา ยผูส นอง 3.ตอ งมีการแสดงเจตนา ทีส่ อดคลอ งตองตรงกนั สาระสําคัญของสญั ญา 1.ตองมบี คุ คลเปน คสู ัญญาสองฝา ย เชน สัญญาซือ้ ขาย ตอ งมผี ขู ายและผูซื้อ 2.ตอ งมกี ารแสดง เจตนารมณ คอื มคี าํ เสนอและมคี าํ สนองตรงกัน ประเภทของสัญญา 1.สัญญาตางตอบแทน กับสัญญาไมตา งตอบแทน 2.สัญญามคี า ตอบแทน กับสญั ญาไมม ีคาตอบแทน 3.สัญญาประธานกับสัญญาอปุ กรณ 4.สญั ญาเพอ่ื ประโยชนบ คุ คลภายนอก 5.เอกเทศสญั ญา กบั สัญญาเรียกชื่ออยางอน่ื
5 สญั ญาตางตอบแทน คอื สญั ญาทคี่ ูสัญญาเปนทัง้ เจา หน้ี และลกู หนีใ้ นคราวเดยี วกัน คูส ัญญาตางมหี น้ที ่ีตองชาํ ระ ตอบแทนซึง่ กันและกนั เชน สัญญาซอ้ื ขาย ผขู ายเปน ลูกหนี้ท่ตี องสง มอบทรัพยใหแ กผ ซู อ้ื ซ่งึ เปนเจา หน้ี ขณะเดียวกนั ผูซ้ือกเ็ ปนลูกหนท้ี ีต่ องชําระราคาใหแกผ ขู ายเปนการตอบแทน เปนตน สญั ญาไมตา งตอบแทน คือ สัญญาท่ีไมทําใหคสู ัญญาเปน เจา หนี้ ลูกหน้ีซง่ึ กันและกัน กลา วคือ คูสญั ญาฝา ยหน่ึงเปน เจาหน้ี อกี ฝายหนึง่ กเ็ ปนลูกหนเ้ี ทา น้นั เชน สญั ญายืม ผยู มื (ลกู หน้)ี มหี นาทต่ี องสงมอบ หรือคนื ทรัพยทยี่ มื ใหแกผ ูใ หยืม ขณะทผี่ ใู หย ืมไมมีหนา ทต่ี อ งชําระคาตอบแทนแตอยา งใด สญั ญามีคา ตอบแทน คูส ญั ญาตางมสี ทิ ธิไดร ับคาตอบแทนซงึ่ กนั และกนั คา ตอบแทนนนั้ อาจเปน ทรัพยสนิ แรงงาน หรือประโยชนอ่นื ใดกไ็ ด เชน สญั ญาซ้ือขาย ผขู ายไดรับชําระราคาจากผูซอื้ หรือสัญญาจางแรงงาน นายจาไดรบั ประโยชนจากแรงงานลกู จา ง เปนตน สญั ญาไมมคี าตอบแทน สัญญาท่ที าํ ใหคสู ัญญาเพียงฝายเดียวไดรบั ประโยชนจ ากสัญญานัน้ เชน สญั ญาให ฯลฯ สัญญาประธาน คอื สญั ญาทีเ่ กิดขึ้นไดโดยลําพงั ไมข้ึนอยูกบั สญั ญาอื่นใด ความสมบรู ณของสัญญาขึ้นอยูก บั สัญญาน้นั ๆ เชน สญั ญาซ้อื ขาย สญั ญาเชาทรัพย สัญญาเชาซ้ือ สญั ญาให ฯลฯ สัญญาอุปกรณ คือสัญญาทไ่ี มสามารถเกิดขน้ึ ไดเ องโดยลําพัง ดงั นั้นสญั ญาอุปกรณจ ะเกิดข้นึ ไดต อ งมีสญั ญา ประธานขึน้ มากอน ตวั อยางเชน สัญญาคํ้าประกัน สญั ญาจาํ นอง สญั ญาจาํ นํา ฯลฯ สญั ญาเพอ่ื ประโยชนบุคคลภายนอก สัญญาที่คูส ญั ญาฝายหนึ่งตกลงกับคูสญั ญาอีกฝายหน่ึงวา จะชาํ ระหนใ้ี หแ กบคุ คลภายนอก โดย บุคคลภายนอกน้นั มไิ ดเขามามีสว นเกี่ยวขอ งในฐานะคูสัญญา ตัวอยา งเชน สญั ญาประกันภยั
6 เอกเทศสัญญา กบั สัญญาเรียกช่ืออยา งอืน่ เอกเทศสญั ญา คือสญั ญาท่มี ชี ่ือระบไุ วในประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย บรรพ 3 วา ดว ย เอกเทศสัญญา เชน ซ้อื ขาย(มาตรา 453) แลกเปลี่ยน(มาตรา 518) ให( มาตรา 521) เชา ทรพั ย(มาตรา 537) เชา ซ้ือ(มาตรา 572) จางแรงงาน(มาตรา 575) จา งทําของ(มาตรา 587) รับขน(มาตรา 608) ยมื (มาตรา 640) ฝากทรพั ย( มาตรา 657) ค้าํ ประกัน(มาตรา 680) จํานอง(มาตรา 702) จํานาํ (มาตรา 747) เก็บของในคลังสินคา (มาตรา 770) ตัวแทน(มาตรา 797) นายหนา (มาตรา 815) ประนีประนอมยอมความ(มาตรา 850) การพนนั และขนั ตอ (มาตรา 853) บญั ชี เดนิ สะพดั (มาตรา856) ประกนั ภยั (มาตรา 861) ตั๋วเงนิ (มาตรา 898) หางหุนสวนและบริษทั (มาตรา 1012) สมาคม(มาตรา 1274) สัญญาเรยี กชอื่ อยา งอ่ืน คอื เปนสัญญาซงึ่ ไมม ชี อ่ื บญั ญัติไวใ นประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย บรรพ 3 เลย แตก็ ถอื วาเปนสัญญาประเภทหน่ึงท่ีมผี ลใชบังคับกนั ได เชน สญั ญารว มหุน (เลนแชรเ ปย หวย) สญั ญาให คา ตอบแทน สัญญารบั มอบสินคา เชอ่ื (ทรสั ตร ซี ีท) เปน ตน
7 สัญญาซอื ขาย กฎหมายเอกเทศสัญญา ซือ้ ขาย คอื สญั ญาซง่ึ บคุ คลฝายหนึ่งเรียกวา “ผขู าย” โอนกรรมสิทธ์แิ หงทรัพยส ิน ใหแ กบุคคล อีกฝา ยหนง่ึ เรยี กวา ”ผซู ื้อ”โดยผูซ้อื ไดใ ชร าคาทรพั ยน้ัน เปนเงินใหแ กผ ูขายเปน การตอบแทน ลกั ษณะของสญั ญาซื้อขาย สัญญาซือ้ ขาย เปนเอกเทศสัญญาอยา งหน่ึง หมายถึง นติ กิ รรมสญั ญาท่กี ฎหมายไดบ ัญญตั ไิ วโ ดย เฉพาะกําหนดรปู แบบ สาระสําคญั กาํ หนดสทิ ธิหนาทีร่ ะหวางคูกรณี และ การระงับ แหงสญั ญา กฎหมายใหเสรภี าพแกประชาชนแตละคนทจี่ ะเขาทํานติ กิ รรมสัญญาใดๆ ก็ไดภ ายใต การคมุ ครอง ของกฎหมายหลักในบรรพ 1-2 แหง ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย และ นิตกิ รรม สัญญาน้ัน ยอ มสมบูรณมผี ล ใชบังคบั ไดห าก ไมข ัดบทบญั ญัติ แหงกฎหมาย เชน กรณเี จา ของทดี่ นิ สองคนซึ่ง มที ีด่ นิ ติดตอกัน ตางคนทาํ สญั ญาไวต อกนั วา จะสรางบา นอยอู าศัยในทด่ี นิ จะไมสรา ง โรงงาน หรือ โรงแรมใหเ ปนทีเ่ ดือดรอนราํ คาญแกอ ีกฝา ยหนง่ึ ดังน้ยี อมเกิดเปนสญั ญา อยางหนง่ึ และ มผี ลบังคบั กนั ไดต ามกฎหมายสญั ญาซือ้ ขาย เปน สัญญาตางตอบแทนชนิดหนง่ึ ซึง่ มีคกู รณี ท่เี ก่ยี วขอ งสองฝา ย คอื ฝา ยผูขาย และ ฝา ยผซู ื้อ โดยทฝ่ี า ยผูขายโอนกรรม สิทธ์แิ หงทรพั ยส ินทซ่ี ้ือ ขาย ใหแ กผซู ้อื แตผูซื้อตกลงจะใชร าคาทรัพยน้ันใหแ กผูข าย ลักษณะของสญั ญาซอ้ื ขายประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ยไดบ ัญญตั ิเร่ืองสญั ญา ซื้อขายไวใน บรรพ 3 ลกั ษณะ 1 เรมิ่ ตง้ั แตม าตรา 453 ถงึ มาตรา 517 ซง่ึ ครอบคลุมถงึ สัญญาซ้อื ขายธรรมดาและ สัญญาซอื้ ขาย เฉพาะบางอยาง ซงึ่ ไดแก สญั ญาขายฝาก สัญญาขายตามตวั อยา งขายตามคาํ พรรณนา ขาย เผ่อื ชอบ และขายทอดตลาดมาตรา 453 “อนั วา ซอ้ื ขายนั้น คอื สัญญา ซึง่ บคุ คลฝายหนงึ่ เรียก วา ผขู าย โอนกรรมสทิ ธแ์ิ หง ทรัพยสนิ ใหแ กบคุ คลอีกฝา ยหนง่ึ เรียกวา ผูซอ้ื และ ผูซ้ือตกลงวา ใช ราคาทรพั ยสินนน้ั ใหแกผ ูขาย”มลี ักษณะสาํ คญั ดงั นี้ สัญญาซือ้ ขายเปน สัญญาตา งตอบแทน ซ่งึ มคี กู รณีทีเ่ ก่ียวขอ งสองฝา ยคอื ฝา ยหน่ึงทเ่ี รยี กวา “ผู ขาย” และอกี ฝายหนึง่ ท่ีเรยี กวา “ผซู ้ือ” มาตกลงทาํ สัญญากัน สญั ญาซอ้ื ขายเปน สญั ญาทฝี่ ายผูขายโอนกรรมสิทธแิ์ หง ทรัพยส นิ ทซี่ ้ือขายใหแกผูซ ้ือในสญั ญาซ้อื ขายนนั้ ผูขายมหี นาทีผ่ ูกพันตนท่ีจะโอนกรรมสิทธิใ์ นทรพั ยสนิ ทต่ี กลงซ้อื ขายกนั
8 สญั ญาซอื้ ขายเปนสัญญาท่ฝี า ยผูซอ้ื ตกลงจะใชร าคาทรัพยสนิ ใหแ กผ ูขาย คําวา “ราคา” ในท่นี ้ี คงหมายถึง เงนิ ตราที่ใชกันอยใู นปจจบุ ัน อาจจะเปน เงินของไทยหรือเงนิ สกลุ อื่นได เพราะสามารถ แลกเปลี่ยน ตามอัตรา ที่กาํ หนดโดยธนาคารแหงประเทศไทยเปน รายวนั คาํ วา “ตกลงจะใชราคา” ยอ มหมายความวา ในการทําสัญญาซือ้ ขายกนั นน้ั เม่อื ผูซ อ้ื และผขู าย ตกลงเพียงวา “จะ” ใชร าคาทรัพยสิน สัญญาซื้อขายกเ็ กิดข้ึนแลว แมจ ะยงั ไมได กาํ หนดราคาเปนท่ี แนนอนกต็ าม และยอ มมผี ลผกู พันกันตามกฎหมายทีจ่ ะเรียกรอง ใหช าํ ระราคา กันในเวลาใดเวลา หน่งึ กไ็ ด สัญญาจะซอ้ื ขายเปน สัญญาประเภทหนงึ่ ดังนั้นจึงตองมคี าํ เสนอคาํ สนองถกู ตองตรงกนั สญั ญาจะ ซือ้ ขายจงึ จะเกดิ ข้นึ และมผี ลผูกพนั คูก รณีท้ังสองฝา ย สัญญาจะซ้ือขายตางจากคํามนั่ จะซอื้ หรือจะขาย ตรงท่คี าํ มน่ั จะซอ้ื หรอื จะขายเปน นิติกรรมฝา ยเดียวมผี ลผกู พนั เฉพาะฝายใหคํามั่นเทา น้นั แตส ญั ญา จะซ้อื ขายเปน นติ ิกรรมสองฝายเพราะเปน สญั ญาและผผี ลผกู พันคกู รณที ้ังสองฝาย สญั ญาจะซ้ือขายเปน สัญญาซงึ่ คกู รณมี ขี อ ตกลงวาจะไปทาํ สญั ญาซอื้ ขายใหเสร็จสมบูรณตอไป สญั ญาจะซือ้ ขายจึงมีไดแตเฉพาะทรัพยท ี่ระบไุ วใ นมาตรา 456 วรรคแรก คืออสังหาริมทรพั ยและ สังหารมิ ทรพั ยชนิดพเิ ศษไดแก เรอื กาํ ปน หรอื เรอื มีระวางหกตันขน้ึ ไป เรอื กลไฟหรือเรือยนตมรี ะวาง หา ตันขึน้ ไป แพและสตั วพาหนะ เพราะทรพั ยเ หลา น้กี รรมสิทธ์ิจะโอนไปตอ เม่ือไดไ ปทําตามแบบคอื ทําเปนหนงั สอื และจดทะเบยี นตอ พนักงานเจาหนาที่ การทําความตกลงซ้อื ขายกนั เองสําหรบั ทรพั ยด ัง กลาวจงึ ไมอ าจเปน สญั ญาซื้อขายท่ีเสร็จสมบรู ณไ ด จะเปน ไปไดเ พยี งสัญญาจะไปทาํ สญั ญาซื้อขายให เสรจ็ สมบรู ณโ ดยการไปจดทะเบยี นตอพนกั งานเจา หนาท่ีในภายหลงั ซ่ึงก็คอื สญั ญาจะซอ้ื ขาย สวนทรพั ยอ่ืนๆ คือทรพั ยน อกจากท่ีระบุไวใ นมาตรา 456 วรรคแรก คูก รณีอาจตกลงโอน กรรมสิทธก์ิ ันไดเอง เพราะกฎหมายไมไดบงั คบั วาตองทําตามแบบคือทาํ เปน หนงั สอื และจดทะเบยี น ตอพนักงานเจา หนาที่ ดังน้นั จึงไมเปด ชองใหทาํ สญั ญาจะซือ้ ขายหรือมีขอ ตกลงวาจะไปทาํ สญั ญาซ้ือ ขายในภายหลงั ไดและถึงแมค ูก รณีจะมีขอตกลงหนวงเหน่ยี วกรรมสทิ ธ์โิ ดย เง่อื นไขหรือเงอ่ื นเวลา อยางไรกเ็ ปน สญั ญาท่ีมผี ลผกู พนั อยูในตัว กรรมสิทธยิ์ อ มโอนไปตามเง่อื นไขหรือเงอ่ื นเวลานน้ั เอง โดยไมต องไปตกลงทาํ สัญญากนั ใหม ดงั นนั้ จงึ เปนสญั ญาซ้ือขายเสร็จเดด็ ขาดทม่ี ีเง่อื นไขหรอื เง่ือน เวลาแตไม ใชส ญั ญาจะซื้อขาย
9 สาระสําคัญของสัญญาซอื ขาย 1.ตองมีการโอนกรรมสทิ ธใิ์ นทรัพยส ินท่ซี ื้อขาย ปญ หาวากรรมสทิ ธิใ์ นทรพั ยส นิ ทซี่ อื้ ขายนัน้ โอนไปเม่อื ไร หลกั กรรมสทิ ธ์ใิ นทรพั ยสนิ นน้ั จะโอนไปยังผูซื้อตงั้ แตเมื่อไดตกลงทาํ สัญญาซอื้ ขายกนั ขอยกเวน กรรมสทิ ธ์ใิ นทรัพยสนิ น้ันยังไมโอนไป ในกรณดี งั ตอไปน้ี 1) สญั ญาซอ้ื ขายเสร็จเด็ดขาดทีม่ ีเง่อื นไขหรอื เง่อื นเวลา ซ่งึ กรรมสทิ ธิจ์ ะโอนก็ตอ เมื่อเกดิ เง่อื นไขหรือถงึ กาํ หนดเง่อื นเวลา สาํ หรบั สญั ญาซือ้ ขายทม่ี เี ง่อื นไขน้นั หมายถงึ การท่ผี ูซอ้ื ผูข ายตกลงกนั เอาเหตกุ ารณใน อนาคตที่ ไมแนนอนบางอยา งมากําหนดไววา ถาเหตุการณน ั้นเกิด กรรมสิทธิ์ก็โอน เพราะฉะนนั้ กรรมสิทธ์จิ งึ ยังไมโอน จนกวา เหตกุ ารณน้นั เกดิ ตัวอยางเชน จอ ยตกลงซ้อื เคร่อื งสขี า วโดยผอ นใช เงนิ กับดว ง โดยมขี อ ตกลงกนั วา เคร่ืองสีขา วยังเปน ของดวงอยจู นกวาจะใชเงินเสร็จ เชนนตี้ ราบใดท่ี จอ ยยงั ไมใ ชเงินจนครบจํานวนก็จะไมไดก รรมสทิ ธิใ์ นเครื่องสีขาวน้ัน สวนสัญญาซ้ือขายทม่ี เี งือ่ นเวลาน้นั หมายถึง การทีผ่ ซู ้อื ผูข ายตกลงกนั ใหกรรมสิทธใ์ิ น ทรพั ยส ินท่ี ซือ้ ขายน้นั โอนไปเมื่อถงึ เวลาใดเวลาหน่งึ ซ่ึงไดกาํ หนดไว ตวั อยางเชน นายดาํ ขายขา วให นายขาว แตต กลงกนั วาใหกรรมสทิ ธิ์ในขา วนน้ั โอนไปยงั นายขาวเมอื่ ถึงส้ินเดือนสิงหาคม เชน นี้ตราบ ใดที่ยงั ไมถึงส้ินเดอื นสงิ หาคม กรรมสิทธใ์ิ นขา วนัน้ กย็ ังไมโ อนไปยงั นายขาว 2) สัญญาซอ้ื ขายทรัพยทยี่ ังไมเปนทรพั ยเ ฉพาะส่ิง หมายถงึ สัญญาซอื้ ขายทรัพยสินท่ยี ังไม ไดก ําหนดประเภทหรือจาํ นวนไวแ นนอนวา อันไหน ส่ิงไหน ตัวไหน ในกรณีเชน นก้ี รรมสทิ ธ์จิ ะโอนก็ ตอ เม่ือไดทาํ ใหเปน ทรพั ยเฉพาะส่ิงแลว โดยการนับ ชงั่ ตวง วัด หรอื คดั เลือกทรพั ย เพ่ือใหเกิด ความแนน อนวา ช้นิ ไหน อันไหน ตัวไหน หรือจาํ นวนไหน ตวั อยางเชน ตกลงซอื้ มะพราว 50 ลูก ซ่ึง รวมอยูในกองใหญ กรรมสิทธิย์ งั ไมโ อนจนกวาจะเลือกมะพรา ว 50 ลูกน้นั ออกมาจากกองกอน 3) สญั ญาซ้ือขายทรพั ยเ ฉพาะสง่ิ ทยี่ งั ตองดําเนินการบางอยางเพื่อใหรรู าคาแนน อน ในกรณี น้กี รรมสิทธิย์ งั ไมโ อนไปจนกวาจะไดมีการกระทํา เพ่ือใหรูราคานัน้ กอน ตัวอยางเชน ซ้อื มะพราว ทัง้ กองในราคาลูกละ 1 บาท ความจรงิ มะพรา วทง้ั กองน้นั กเ็ ปนทรพั ยเ ฉพาะสงิ่ แลว เพยี งแตยังไม ทราบวา มะพรา วท้งั กองนั้น มกี ล่ี กู เพอื่ ทีจ่ ะคาํ นวณราคาเทา นนั้ เพราะฉะนัน้ จะตอ งรกู อนวา มะพราว กองนั้นมกี ่ีลูก กรรมสิทธ์ิจึงจะโอน
10 4) การซอ้ื ขายอสงั หาริมทรัพยหรือสังหารมิ ทรัพยชนิดพิเศษกรรมสิทธจ์ิ ะโอนกต็ อเม่อื มกี าร ทาํ เปน หนงั สือและจดทะเบยี นตอ พนกั งานเจา หนา ท่เี รยี บรอยแลว 2.ตอ งมกี ารตกลงวา จะชําระราคา เพียงแตตกลงกนั วาจะชําระราคาก็เปนการเพยี งพอแลว ยงั ไม ตองชาํ ระราคากันทนั ที จะตกลงชําระกนั ในภายหลัง หลงั จากทีส่ ัญญาเกดิ ข้ึนแลวก็ได 3.บคุ คลที่มีสทิ ธทิ ําสัญญา ดงั ไดกลาวมาในตอนแรกแลววาทัง้ ผซู ้อื และผขู ายจะตองเปนคนบรรลุ นติ ภิ าวะ คืออายุ 20 ปบ ริบรู ณ หรือบรรลนุ ิตภิ าวะโดยการสมรส ถา ท้ังชายและหญิงตางมีอายุ 17 ป บริบูรณแ ลว อยางไรกต็ าม เหตกุ ารณที่เราพบกันอยใู นชีวิตประจาํ วัน จะเห็นวาผเู ยาวหรอื คนที่ยังไม บรรลนุ ติ ภิ าวะตางก็ไปทาํ สญั ญาซือ้ ขายตางๆ มากมาย เชน ซอ้ื สมดุ ดนิ สอ ยางลบ หรอื อาหารกลาง วันรับประทานท่โี รงเรยี นตรงนีป้ ญ หาวา เขาจะทาํ ไดหรอื ไม คาํ ตอบอยใู นบทยกเวนในเรอื่ งการทาํ นิติกรรมของผูเยาว ซึ่งในกรณเี หลา น้ีถอื วาสามารถทจ่ี ะทาํ ได เพราะเปน การกระทาํ ทสี่ มแกฐ านานุรปู และจําเปน แกการดํารงชีพดว ย สาํ หรบั ผซู ้ือนัน้ เมอ่ื มคี ุณสมบัติท่ีกลา วขา งตนก็พอเพียงที่จะเปนผูซ ือ้ แลว สําหรับผูขายนนั้ เพียง แตบรรลุนิติภาวะอยางเดียวยังไมพอ ยงั ตอ งเปน ผมู ีสทิ ธิทจี่ ะขายทรพั ยส นิ นนั้ เพ่ือท่ผี ูซ อ้ื จะได กรรมสทิ ธโิ์ ดยสมบรู ณไ ดอีกดว ย สาํ หรับผทู ถ่ี ือวา “มสี ิทธิที่จะขายทรัพยสนิ ” นน้ั ไดแก 1) เจาของกรรมสิทธิ์ หมายถงึ ผทู ีเ่ ปน เจา ของทรัพยสนิ ที่จะขายนน่ั เอง ซ่งึ ตามหลัก กฎหมายแลว ผทู เี่ ปน เจา ของกรรมสิทธยิ์ อมมีอํานาจในการจําหนา ยจายโอนทรัพยส นิ ของตน ซ่ึงคาํ วา “จําหนา ย” ในทน่ี ้หี มายถึง การโอนกรรมสิทธใิ์ นทรัพยสนิ นัน้ ไมว า โดยการกระทาํ ใด ๆ กต็ าม เพราะ ฉะนนั้ ในเวลาทีจ่ ะทําสญั ญาซอ้ื ขาย ผซู ้ือก็จะตองมีความระมดั ระวังพิจารณาดใู หด วี า ผูข ายเปน เจา ของกรรมสิทธห์ิ รอื ไม เพราะถาไมเปน หากผซู ือ้ ทาํ การซ้อื ไปกจ็ ะไมไ ดกรรมสิทธ์ิ ตามหลักเรอ่ื ง “ผรู บั โอนไมมีสทิ ธิดกี วา ผูโ อน” เพราะถาผูโ อนหรือ ผขู ายในกรณีนี้ไมม ีกรรมสทิ ธ์ิ ผรู บั โอนหรือผู ซอื้ ก็ยอ มไมม ีกรรมสิทธ์ิไปดวย ตัวอยางเชน นายแดงซือ้ เรอื มาดจากนายดาํ ซง่ึ เปน เรอื มาดทีน่ ายดํา ขโมยนายขาวมา เมอื่ นายดําไมม ีกรรมสทิ ธ์ิ ไปขายใหนายแดง นายแดงก็ไมไ ดกรรมสทิ ธไ์ิ ปดว ย เพราะเจาของกรรมสทิ ธ์ิทแ่ี ทจ ริงของเรอื มาดลํานี้คอื นายขาว
11 2) บุคคลอนื่ ซึ่งมสี ิทธิขายไดตามกฎหมาย เชน 2.1) ผจู ัดการมรดก ซ่งึ มหี นาทีต่ ามกฎหมายที่จะรวบรวมทรัพยส ินของเจา มรดกผูต าย เพื่อชาํ ระหนี้ และแบงปนใหแกท ายาท 2.2) ผใู ชอํานาจปกครอง ซึ่งมีสิทธขิ ายอสังหาริมทรพั ยข องผูอยใู ตอํานาจปกครอง เชน ของผเู ยาว แตจ ะขายไดก ็ตอ เม่อื ไดรบั อนญุ าตจากศาลแลว 2.3) เจา พนกั งานขายทอดตลาดบังคับคดี มสี ิทธิขายทอดตลาดทรพั ยสนิ ของลกู หนตี้ ามคาํ สง่ั ศาล 2.4) เจา พนกั งานพทิ ักษทรัพย มีอาํ นาจจดั การทรัพยส นิ ของลกู หน้ีผทู ี่ถูกศาลพพิ ากษาให ลมละลาย และมีอํานาจขายทรัพยส ินของลูกหนผ้ี ทู ่ถี กู ศาลพิพากษาใหล มละลายได
12 การเปรยบเทยี บชนิดของสญั ญาซือขาย สัญญาซื้อขายมี 2 ชนดิ ดว ยกนั คือ สญั ญาซ้ือขายสําเรจ็ บริบูรณ หรือเรยี กอีกอยางหนงึ่ วาสญั ญาซ้อื ขายเสรจ็ เด็ดขาด คือ สัญญาท่ี กรรมสิทธใ์ิ นทรพั ยสนิ โอนไปยงั ผูซ อ้ื ทันทอี ยา งเดด็ ขาด เมื่อการซื้อขายสาํ เร็จ บรบิ ูรณ การซ้ือขาย สําเรจ็ บรบิ ูรณเ มื่อใดนัน้ นอกจากการตกลงแลว ตอ งทําตามแบบที่ กฎหมายกาํ หนดอีกดว ย สัญญาจะซื้อจะขาย คือ สัญญาทกี่ รรมสิทธ์ใิ นทรพั ยส นิ ยงั ไมโอนไปยังผซู ือ้ ในขณะทที่ าํ สัญญา ซือ้ ขายกัน แตเ ปน สัญญาซึ่งจะโอนกรรมสทิ ธใิ์ นทรพั ยส ินจากผูขายไปยงั ผซู อ้ื ในเวลาภายหนา เปนการแลกเปลย่ี นกบั เงนิ อนั เปนราคาของทรพั ยสนิ นัน้ มผี ลผกู พนั ใหแกคู สญั ญาตองทําการซอ้ื ขาย ใหสําเร็จตลอดไป หนา้ ทแี ละความรับผดิ ของผ้ขู าย 1.หนาทใ่ี นการสงมอบทรัพยส ิน การสงมอบอาจจะเกดิ ขน้ึ หลงั จากการโอนกรรมสิทธิ์ในทรพั ยส นิ ไปแลว 2.ความรบั ผิดในความชํารุดบกพรอง กฎหมายกําหนดใหผ ูข ายตอ งรบั ผดิ ในความชาํ รดุ บกพรองในทรพั ยสินท่ซี ื้อขาย จนเปน เหตุ ใหท รพั ยน นั้ เสื่อมราคา หรอื เสือ่ มความเหมาะสมในการใชป ระโยชน แตถ าความเสียหายเกิดขนึ้ หลงั จากสงมอบทรพั ยสนิ ไปแลวผูขายไมต อ งรับผดิ 3.ความรบั ผิดในการรอนสิทธิ ผขู ายจะตอ งรับรองตอผูซอื้ ดว ยวา ผซู อ้ื จะไดครอบครองและใชประโยชนจ ากทรพั ยสินนนั้ โดยปกตสิ ขุ ถาผอู นื่ มารบกวนสิทธิของผูซ ื้อ (ผูข ายตอ งรบั ผดิ )
13 หนา้ ทแี ละความรับผดิ ของผูซ้ อื 1.หนาท่ีในการรบั มอบทรัพยสินท่ีซ้อื ขายตามเวลาตามสถานที่และดวยวิธีการตามท่ตี กลงกนั ใน สัญญาซอื้ ขายเวน แตผ ซู ือ้ จะมสี ทิ ธบิ อกปด ในกรณที ีเ่ ปนสงั หารมิ ทรัพยเมอ่ื ผูขายสง ทรพั ยสินใหม าก เกนิ ไปหรอื นอยกวา ไปกวาทไ่ี ดต กลงกันไวห รอื ผูขายสงมอบทรัพยสนิ ตามที่ตกลงกันปะปนกบั ทรพั ยส ินอยางอ่นื หรอื ในกรณีทีเ่ ปนอสงั หารมิ ทรัพยผขู ายสง มอบอสงั หาริมทรัพยนนั้ มากเกนิ ไปหรือ นอ ยกวาเกนิ ไปจาท่ไี ดตกลงกนั ไว 2.หนา ทีใ่ นการชําระราคาทรพั ยสนิ ทีซ่ ื้อขายตามราคาทก่ี าํ หนดไวในสัญญาหรอื ตามทางการที่คู สญั ญา เคยประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ อ กันแตถ าไมไดกําหนดราคาไวเปน ทแ่ี นน อน ผซู ื้อก็ตองชาํ ระราคาตาม สมควรและการชาํ ระราคาก็ตอ งชาํ ระภายในเวลาท่ีกําหนดตามสญั ญาดว ยแตถาหากไมไ ดกาํ หนดเวลา ไวใ หช ําระราคาในเวลาเดยี วกบั เวลาที่สง มอบทรัพยส นิ ที่ซ้ือขายนัน้ 3.หนาทใี่ นการชาํ ระคา ธรรมเนยี มในการซอ้ื ขาย หากตกลงกนั ไวใ นสญั ญาวาใหผ ูซ้ือชําระคน เดยี วท้ังหมด แตถ า ไมไ ดต กลงกันไวผ ูซ้อื ก็ตอ งมีหนาทชี่ าํ ระคา ธรรมเนยี มครึง่ หนึง่ สญั ญาซือขายลว่ งหนา้ สัญญาซอื้ ขายลว งหนา หมายความวา สัญญาที่มีลกั ษณะใดลกั ษณะหนึ่งหรอื หลายลกั ษณะดงั ตอ ไปน้ี 1.สัญญาท่กี ําหนดใหค ูสัญญาฝายหนงึ่ สงมอบสินคาใหคสู ัญญาอกี ฝา ยหน่ึงซง่ึ เปนผูชาํ ระราคา ณ เวลาใดเวลาหนึง่ ในอนาคต เปนจํานวนและราคาตามท่กี าํ หนดไวใ นสัญญา 2.สญั ญาท่ีกาํ หนดใหค สู ญั ญาฝา ยหนงึ่ ไดร บั ชาํ ระเงินหรือตอ งชําระเงนิ ใหแกคสู ญั ญาอกี ฝายหน่ึง เทา กบั จาํ นวนเงนิ ทค่ี าํ นวณไดจากสว นตางระหวางราคา หรอื มลู คาของสนิ คา หรือตวั แปรที่กาํ หนดไว ในสญั ญากับราคา หรือมลู คา ของสินคา หรือตัวแปรทีเ่ ปน อยู ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหรอื ชว งเวลาใด เวลาหน่งึ ในอนาคตตามท่ีกาํ หนดไวในสัญญา 3.สัญญาทีก่ ําหนดใหส ิทธิแกค สู ญั ญาฝา ยหนง่ึ ทจี่ ะเรยี กใหค ูสัญญาอกี ฝายหนง่ึ สง มอบสินคา หรอื ชําระราคาของสนิ คา หรอื ชําระเงนิ ทีค่ ํานวณไดจากสวนตางระหวา งราคา หรือมูลคาของสนิ คา หรือ ตัวแปรท่ีกําหนดไวใ นสญั ญากบั ราคา หรือมลู คาของสินคา หรอื ตวั แปรทเี่ ปน อยู ณ เวลาใดเวลาหน่ึง หรือชว งเวลาใดเวลาหนึง่ ในอนาคต ตามที่กาํ หนดไวใ นสญั ญา หรือเรียกใหคสู ัญญาอีกฝา ยหน่ึงเขาทํา สัญญาตาม 1 หรือ 2
14 “ธรุ กิจสัญญาซ้อื ขายลวงหนา” หมายความถึง การใหบริการดงั ตอไปนี้ 1.การเปน ตัวแทนซื้อขายสัญญาซอื้ ขายลวงหนา 2.การเปนผคู าสัญญาซอ้ื ขายลว งหนา 3.การเปน ทป่ี รกึ ษาสญั ญาซอื้ ขายลว งหนา 4.การเปน ผูจัดการเงินทนุ สัญญาซอื้ ขายลวงหนา 5.กิจการอืน่ ทีเ่ กย่ี วกับสญั ญาซอ้ื ขายลว งหนาตามท่ีคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกําหนด “ตัวแทนซอ้ื ขายสญั ญาซ้อื ขายลว งหนา ” หมายความวา บุคคลซ่ึงใหบ ริการหรอื แสดงตอ บคุ คล ท่วั ไปวา พรอมจะใหบริการ เพือ่ ทําการเปน ตวั แทนในการซอื้ ขายสัญญาซอื้ ขายลว งหนากบั บคุ คลอืน่ โดยกระทาํ เปนทางคา ปกติและไดรบั ใบอนญุ าต หรอื ไดจดทะเบยี นตามพระราชบัญญัตินี้ แตท ้ังนี้ ไม รวมถงึ ตัวแทนซอ้ื ขายสัญญาซ้ือขายลว งหนา ในลกั ษณะตามทีค่ ณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกาํ หนด “ผูคาสญั ญาซอ้ื ขายลว งหนา ” หมายความวา บคุ คลซึง่ แสดงตอบุคคลท่ัวไปวา พรอมจะเขา เปนคู สญั ญาซื้อขายสัญญาซ้อื ขายลวงหนา ใหแกผ ซู ึ่งประสงคจะซอ้ื ขายสัญญาซือ้ ขายลว งหนา โดยการเสนอ เขาหรือเขา เปน คูส ญั ญาฝา ยใดฝา ยหนงึ่ โดยกระท าเปน ทางคา ปกติและไดรบั ใบอนุญาตหรือไดจ ด ทะเบียนตามพระราชบัญญัตินี้ แตท้งั นี้ ไมร วมถงึ บคุ คลซ่งึ เสนอซอื้ ขายสญั ญาซือ้ ขายลวงหนา หรอื ซอ้ื ขายสญั ญาซือ้ ขายลว งหนา เพ่ือตนเอง ที่กระทาํ ในศูนยซือ้ ขายสญั ญาซื้อขายลว งหนาท่ไี ดรับใบอนญุ าต ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี หรือผูคา สัญญาซอ้ื ขายลวงหนาในลกั ษณะตามท่คี ณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศ กําหนด “ทป่ี รกึ ษาสัญญาซ้อื ขายลวงหนา ” หมายความวา บคุ คลซง่ึ ใหคาํ แนะนาํ หรือแสดงตอบคุ คลทวั่ ไป วา พรอ มจะใหค าํ แนะนําไมว าโดยทางตรงหรือทางออมแกบคุ คลอนื่ เกี่ยวกับสญั ญาซอ้ื ขายลว งหนา หรือความเหมาะสมในการซอื้ ขายสญั ญาซื้อขายลวงหนา โดยกระทาํ เปน ทางคา ปกติและไดร บั ใบ อนญุ าตหรอื ไดจ ดทะเบียนตามพระราชบัญญตั ินี้ แตท งั้ นไ้ี มร วมถงึ บคุ คลซง่ึ ใหคาํ แนะนาํ อนั เปนสว น หนง่ึ หรอื เกี่ยวเนอ่ื งกับการประกอบการของตวั แทนซือ้ ขายสญั ญาซอ้ื ขายลวงหนาหรือผูคาสัญญาซ้ือ ขายลวงหนา หรอื การใหคําแนะนําในลักษณะตามท่ีคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกาํ หนด
15 “ผจู ดั การเงินทุนสญั ญาซ้อื ขายลวงหนา” หมายความวา บุคคลซง่ึ เขาจัดการเงนิ ทนุ หรอื แสดงตอ บุคคลทั่วไปวาพรอมจะรับจัดการเงนิ ทุนใหแ กบุคคลอืน่ เพอ่ื แสวงหาประโยชนจากสญั ญาซอื้ ขายลว ง หนา โดยกระทําเปนทางคา ปกติและไดรบั ใบอนุญาตหรือไดจ ดทะเบียนตามพระราชบญั ญัติน้ี แต ทงั้ น้ไี มร วมถึงผจู ดั การเงนิ ทุนสญั ญาซอ้ื ขายลว งหนาในลกั ษณะตามทีค่ ณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศ กําหนด “ศนู ยซ ื้อขายสัญญาซอื้ ขายลวงหนา” หมายความวา ศูนยก ลางหรือเครอื ขา ยใดๆ ทจ่ี ดั ใหม ขี ึน้ เพ่อื การซ้ือขายสัญญาซือ้ ขายลว งหนา โดยการจบั คูหรือหาคสู ญั ญาให หรือการจัดระบบหรืออํานวย ความสะดวกใหผ ซู ง่ึ ประสงคจะซอ้ื ขายสญั ญาซื้อขายลวงหนาสามารถทําความตกลงหรอื จับคสู ญั ญากนั ได โดยกระทําเปนทางคา ปกตแิ ละไดร บั ใบอนุญาตหรอื ไดจดทะเบียนตามพระราชบัญญัตนิ ้ี แตท ง้ั นี้ ไมรวมถงึ ศูนยกลางหรือเครือขายในลักษณะตามท่คี ณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกําหนด “สํานกั หักบัญชสี ญั ญาซื้อขายลวงหนา ” หมายความวา ศนู ยกลางหรือเครอื ขายใดๆ ในการชําระ หนต้ี ามสัญญาซอ้ื ขายลวงหนา โดยกระทาํ เปน ทางคา ปกติและไดรับใบอนุญาตหรอื ไดจดทะเบยี น ตามพระราชบัญญตั ิน้ี แตท ัง้ นไ้ี มร วมถงึ ศนู ยก ลางหรือเครือขา ยในลักษณะตามท่ีคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกาํ หนด “ซ้อื ขายสัญญาซือ้ ขายลวงหนา ” หมายความวาการเขา ผกู พนั ตามสญั ญาซ้อื ขายลวงหนา “ฐานะสญั ญาซ้อื ขายลวงหนา ” หมายความวา ภาระหรอื สิทธิของบคุ คลหนงึ่ บุคคลใด อันเนอื่ งมา จากการซอ้ื ขายสญั ญาซ้อื ขายลว งหนา “ลา งฐานะสญั ญาซ้ือขายลว งหนา ” หมายความวา การปลดภาระหรอื สิทธติ ามสญั ญาซ้ือขายลว ง หนาท่ีมอี ยูเดิมใหหมดไป โดยการซอ้ื ขายสญั ญาซ้อื ขายลวงหนาขึน้ ใหมท่ีมีผลในทางตรงกนั ขาม หรือ โดยวธิ กี ารอ่ืนใดตามกฎเกณฑของสํานกั หักบญั ชสี ัญญาซ้ือขายลว งหนา “หลักทรัพย” หมายความวา หลกั ทรพั ยต ามกฎหมายวาดวยหลักทรัพยแ ละตลาดหลกั ทรัพย
16 “ตลาดหลกั ทรัพย” หมายความวา ตลาดหลักทรัพยแ หงประเทศไทยตามกฎหมายวา ดว ยหลกั ทรพั ยแ ละตลาดหลกั ทรัพย “ศูนยซ้อื ขายหลกั ทรัพย” หมายความวาศูนยซอื้ ขายหลักทรพั ยตามกฎหมายวา ดวยหลักทรพั ย และตลาดหลักทรัพย “สาํ นักหักบัญชีหลักทรัพย” หมายความวา สาํ นกั หักบญั ชตี ามกฎหมายวาดวยหลักทรพั ยและ ตลาดหลกั ทรพั ย “ผูลงทุนสถาบัน” หมายความวา ผูล งทนุ ที่เปน สถาบนั การเงนิ ตามกฎหมายวา ดว ยธนาคาร พาณิชย บรษิ ัทหลักทรพั ย บริษัทประกนั วินาศภยั บริษทั ประกันชีวติ นิติบุคคลประเภทบรรษทั กองทุนรวม กองทุนสวนบคุ คล กองทนุ บาํ เหนจ็ บาํ นาญขา ราชการ ตลอดจนกองทนุ สาํ รองเล้ียงชีพ หรอื ผูล งทนุ ประเภทอ่นื ท่เี ปนนติ ิบคุ คล ท้งั น้ี ตามทคี่ ณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกําหนด “พนักงานเจา หนาท”่ี หมายความวา ผูซง่ึ รฐั มนตรแี ตง ต้ังใหปฏิบตั กิ ารตามพระราชบัญญตั ิน้ี “สํานกั งาน ก.ล.ต.” หมายความวา สาํ นักงานคณะกรรมการกํากับหลกั ทรัพยแ ละตลาดหลกั ทรัพย ตามกฎหมายวาดว ยหลกั ทรัพยและตลาดหลักทรพั ย “คณะกรรมการกาํ กับตลาดทุน” หมายความวา คณะกรรมการกํากบั ตลาดทนุ ตามกฎหมายวา ดว ย หลักทรพั ยแ ละตลาดหลักทรัพย “คณะกรรมการ ก.ล.ต.” หมายความวา คณะกรรมการกาํ กับหลกั ทรพั ยและตลาดหลกั ทรพั ย ตามกฎหมายวา ดว ยหลักทรพั ยและตลาดหลกั ทรัพย
17 การเลกิ สญั ญา เมอื่ สญั ญาเกดิ ขน้ึ แลว ยอมมีผลผูกพนั คสู ญั ญาใหต องมหี นา ทีป่ ฏิบตั ติ ามสัญญาน้นั และเม่อื ปฏบิ ตั ติ ามหนา ทีข่ องตนครบถวนแลว สัญญาเปน อันระงับสิ้นไป เพราะคูสญั ญาไดปฏิบตั ิการชาํ ระหน้ี เรียบรอ ยแลว หากมคี ูกรณฝี า ยใดฝา ยหนงึ่ ไมชาํ ระหนี้ เจาหนีม้ สี ทิ ธฟิ องรองบงั คับใหลูกหนช้ี ําระหนไ้ี ด แตถา หากไมป ระสงคจ ะฟองรองบงั คับใหลูกหนช้ี ําระหน้ี เจา หน้ีอาจใชสทิ ธบิ อกเลกิ สญั ญานน้ั เปน การตดั ความผูกพันทม่ี ตี อกันได สิทธิในการบอกเลิกสัญญา ฝา ยที่ประสงคจ ะบอกเลิกสัญญาตอ งเปน ฝายท่ีสิทธบิ อกเลิกสัญญาไดต ามกฎหมาย หรือตามขอ สัญญาทค่ี ูสัญญาตกลงเอาไว จึงจะมีสิทธบิ อกเลิกสญั ญาได การเลิกสญั ญาถือเปนนติ กิ รรมฝายเดียว ดงั นั้นหากฝา ยทม่ี ีสทิ ธบิ อกเลิกสญั ญาไดแ สดงเจตนา บอกเลิกสญั ญาตอคูส ัญญาอกี ฝาย สัญญานน้ั ยอมระงบั สิน้ ไป แตถ าฝา ยหนึง่ ไมม ีสิทธิบอกเลกิ ฯ แต กลบั ไปบอกเลกิ สัญญาสญั ญากไ็ มระงบั ลงไป (ทวเี กียรติ มีนะกนิษฐา, กฎหมายเบ้ืองตนทางธุรกจิ , พิมพค รงั้ ท่ี ๑๘, (กรงุ เทพ : วญิ ชู น, ๒๕๖๒). น.๘๑) สทิ ธใิ นการบอกเลิกสัญญาสามารถกระทําไดใน ๒ กรณี คอื 1.สิทธิในการบอกเลิกสัญญาโดยบทบัญญตั แิ หงกฎหมาย 2.สิทธบิ อกเลกิ สัญญาโดยขอสัญญา สทิ ธใิ นการบอกเลิกสัญญาโดยบทบญั ญตั ิแหงกฎหมาย 1.เม่ือคูสัญญาฝายหน่ึงไมช ําระหน้ี คูสญั ญาอกี ฝา ยหนึง่ อาจกาํ หนดระยะเวลาพอสมควร แลว บอ กลาวใหฝา ยนน้ั ชาํ ระหนภี้ ายในระยะเวลานัน้ ได ถาฝา ยนัน้ ไมชําระหนี้ อีกฝายบอกเลิกสญั ญาได 2.เมือ่ คูสญั ญาฝายหนึ่งไมช าํ ระหนีซ้ ่งึ โดยสภาพ หรอื โดยเจตนาท่ีคูสญั ญาไดแ สดงไว วตั ถปุ ระสงคแหงสัญญาจะเปน ผลสําเร็จไดก ็แตดว ยการชําระหน้ี ณ เวลาทกี่ าํ หนด หรอื ภายในระยะ เวลาซงึ่ กาํ หนดไว เจา หนี้มสี ทิ ธบิ อกเลกิ สญั ญาไดทันที โดยไมจ าํ ตอ งบอกกลา วกําหนดระยะเวลาชาํ หนก้ี อ น 3.เมอ่ื การชาํ ระหนีท้ ั้งหมดหรอื แตบ างสวนกลายเปนพน วสิ ยั เพราะเหตอุ ยางใดอยา งหนง่ึ อันจะ โทษลกู หนี้ได เจา หนี้จะบอกเลิกสญั ญาเสียกไ็ ด
18 สทิ ธใิ นการบอกเลกิ สญั ญาโดยขอ สญั ญา คูสญั ญาไดต กลงกนั กาํ หนดสิทธใิ นการบอกเลกิ สัญญาไวล ว งหนา ถา มเี หตุการณอยา งใดอยา ง หนง่ึ ตามทีก่ าํ หนดเอาไว ก็ใหส ทิ ธิในการบอกเลกิ สญั ญาแกค กู รณี โดยกฎหมายรบั รองหลกั การเร่ือง เสรภี าพในการแสดงเจตนาของคสู ัญญา ผลการบอกเลิกสัญญา 1.คูสญั ญากลบั คนื สฐู านะเดมิ 2.การเลิกสัญญาไมกระทบกระเทือนสิทธิของเจา หน้ที ี่จะเรยี กรอ งเอาคา เสียหายจากอกี ฝา ย
19 ตัวอย่างแบบฟอร์มสญั ญาซอื ขาย ตวั อย่าง
ค บรรณานกุ รม http://waraporn199510.blogspot.com/2018/05/blog-post_2.html https://sites.google.com/site/ordinarylawthai/bth-thi-1-laksna-khxng- kdhmay-laea-rabb-khxng-kdhmay/1-1-thima-khxng-kdhmay https://sites.google.com/site/ccommerciallaw22001008/khwam-ru-khxng- kdhmay https://sites.google.com/site/kdhmaythurkic16/bth-thi-2-sux-khay-khay- fak/2-5-hnathi-laea-siththi-khxng-phu-sux http://www.thailaws.com/aboutthailaw/knowing_law_005.htm? fbclid=IwAR3AxOpVTGyVexzCiLnfM0pufn1qw94DtUzMQ1PwlagPe5XBUB _G8hOqbJc file:///C:/Users/ThikPad/Downloads/act-derivatives2546-codified%20(1).pdf แบบการเรียนการสอนของรายวิชา กฎหมายธรุ กจิ และกฎหมายวชิ าชีพ(MAC207) โดย อาจารยศ ุภวิชญ พวงสุวรรณ
จัดทําโดย นางสาวสภุ ญิ ญา ระยา้ เพช็ ร์ 63123600001 นางสาวปณิธาน คํานาค 63123600004 นางสาวปยวรรณ เครออาษา 63123600007 นางสาวปรารชาติ พาละแพน 63123600009 นางสาวธนิษฐา กายจรต 63123600020 นางสาวเสาวลกั ษณ์ สขุ ใจ 64123600028
Search
Read the Text Version
- 1 - 26
Pages: