Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คลังต้นไม้แห่งการเรียนรู้

คลังต้นไม้แห่งการเรียนรู้

Published by ปภัสสร์กุล ชูช่วย, 2023-04-17 00:02:40

Description: คลังต้นไม้

Search

Read the Text Version

กิจกรรมส่งเสริมการอ่านออนไลน์ ฉบับที่ 1 กศน.ตำบลเทพราช กศน.อำเภอสิชล ค ลั ง ต้ น ไ ม้ แ ห่ ง ก า ร เ รี ย น รู้ บัวบก • ชื่อไทย บัวบก • ชื่ออื่น ผักหนอก ผักแว่น กะโต่ • ชื่อวิทยาศาสตร์ Centella asiatica Urban. • ชื่อวงศ์ APIACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ • ลักษณะวิสัย เป็ นไม้ล้มลุก มีลำต้นเลื้อยไปตามดินที่ชื้นแฉะ เรียกว่าไหล มีรากงอกออกตามข้อของ ลำต้น • ลักษณะใบ ใบเป็ นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ใบงอกเป็ นกระจุกออกจากข้อ ข้อละ 2-10 ใบ ลักษณะใบ รูปไต รูปร่างกลม ฐานใบโค้งเว้าเข้าหากัน ขอบเป็ นคลื่นหยักเล็กน้อย แผ่นใบสีเขียวมี ขนเล็กน้อย ก้านใบสีเขียวยาว • ลักษณะดอก ดอกออกเป็ นช่อแบบซี่ร่มตามซอกใบ มีประมาณ 2-5 ช่อ ช่อหนึ่ งมีดอกย่อยประมาณ 4-5 ดอก ดอกมีขนาดเล็ก กลีบดอกมี 5 กลีบ สีม่วงเข้มอมแดงสลับกัน ก้านช่อดอกจะมี ความยาวประมาณ 0.5-5 เซนติเมตร • ลักษณะเมล็ด เมล็ ดมี สี ดำ • ลักษณะผล ผลเป็ นผลแห้งแตก ลักษณะแบน มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาวประมาณ 3-4 มิลลิเมตร • สรรพคุณ ใบรสขมเย็น เป็ นยาดับร้อน ลดอาการอักเสบ บวม แก้ปวดท้อง แก้บิด แก้นิ่ วในระบบ ทางเดินปัสสาวะ ต้นบำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย เมื่อยล้า รักษาแผลไฟไหม้ น้ำ ร้อนลวก READ THE BOOKS IS NOT HARD, EVERYONE CAN. อ่านหนังสือไม่ใช่เรื่องยาก เราทุกคนก็ทำได้ กศน.ตำบลเทพราช อำเภอสิชล

กิจกรรมส่งเสริมการอ่านออนไลน์ ฉบับที่ 2 กศน.ตำบลเทพราช กศน.อำเภอสิชล ค ลั ง ต้ น ไ ม้ แ ห่ ง ก า ร เ รี ย น รู้ การบูร ชื่ อไทย การบูร ชื่ ออื่ น การบูร การบูร อบเชยญวน ชื่ อวิทยาศาสตร์ CINNAMOMUM CAMPHORA (L.) J.PRESL ชื่ อวงศ์ LAURACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลักษณะวิสัย เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ทรงพุ่มกว้างและทึบ สูงได้ถึง 30 เมตร ลำต้นมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5 เมตร เปลือกต้นเป็นสีน้ำตาล ผิวหยาบ ส่วนเปลือกกิ่งเป็นสีเขียวหรือเป็นสีน้ำตาลอ่อน ลำต้นและกิ่งเรียบ ไม่มีขน ส่วนเนื้ อไม้เป็นสีน้ำตาลปนแดง ลักษณะใบ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ใบเป็นรูปรีหรือรูปรีแกมรูปไข่ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบป้านหรือกลม ส่วนขอบ ใบเรียบหรือเป็นคลื่ นเล็กน้อย ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-5.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 5.5-15 เซนติเมตร แผ่นใบค่อนข้างเหนียว หลังใบเป็นสีเขียวเข้มและเป็นมัน ส่วนท้องใบเป็นสีเขียวอมเทาหรือนวล ไม่มีขน เมื่ อนำใบมาขยี้จะมีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นการบูร ลักษณะดอก ดอกออกเป็นหน่อแบบแยกแขนง ออกดอกเป็นกระจุกตามง่ามใบ ดอกมีขนาดเล็กเป็นสีขาวอมเหลืองหรืออมสี เขียว ก้านดอกย่อยมีขนาดสั้นมาก ดอกรวมมีกลีบ 6 กลีบ เรียงเป็นวง 2 วง วงละ 3 กลีบ ลักษณะเป็นรูปรี ปลายมน ด้านนอกเกลี้ยง ส่วนด้านในมีขนละเอียด ใบประดับมีลักษณะเรียวยาว ร่วงได้ง่าย มีขนอ่อนนุ่ม ออกดอกในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม ลักษณะเมล็ด ลักษณะผล ผลเป็นรูปไข่หรือทรงกลม ผลมีเนื้ อ ผลเป็นสีเขียวเข้ม มีขนาดยาวประมาณ 6-10 มิลลิเมตร เมื่ อสุกแล้วจะ เปลี่ยนเป็นสีดำ ผลมีฐานรองดอกซึ่งเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นแป้นรองรับผล ภายในผลมีเมล็ด 1 เมล็ด สรรพคุณ ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย แก้ธาตุพิการ คุมธาตุ บำรุงหัวใจ เป็นยากระตุ้นหัวใจ เป็นยาระงับประสาท แก้เลือดลม แก้ปวดฟัน ขับเหงื่ อ แก้ไข้หวัด แก้ไอ ขับเสมหะ ขับความชื้ นในร่างกาย ขับลม แก้อาการจุกแน่นเฟ้อ แก้ กระเพาะหรือลำไส้อักเสบ แก้ปวดท้อง ท้องเสีย ฆ่าพยาธิในท้อง ขับน้ำเหลือง พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย Read the books is not hard, everyone can. อ่านหนังสือไม่ใช่เรื่ องยาก เราทุกคนก็ทำได้ กศน.ตำบลเทพราช อำเภอสิชล

กิจกรรมส่งเสริมการอ่านออนไลน์ ฉบับที่ 3 กศน.ตำบลเทพราช กศน.อำเภอสิชล ค ลั ง ต้ น ไ ม้ แ ห่ ง ก า ร เ รี ย น รู้ จันผา ชื่อไทย จันผา ชื่ออื่น จันทน์ผา จันทน์ผา ลักกะจันทน์ จันแดง จันทร์แดง ชื่อวิทยาศาสตร์ DRACAENA LOUREIR GAGNEP ชื่อวงศ์ AGAVACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลักษณะวิสัย เป็นไม้พุ่มขนาดกลางหรือเป็นไม้ยืนต้น สูงประมาณ 1.5-4 เมตร ต้นโตเต็มที่อาจมีความสูงถึง 17 เมตร เปลือกต้นเป็นสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลอมเทา แตกเป็นร่องตามยาว ไม่มีกิ่งก้าน ใบจะ ออกตามลำต้น มักพบขึ้นตามป่า ภูเขาหินปูนสูง ๆ และมีแสงแดดจัด ลักษณะใบ ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับกับถี่ ๆ ที่ปลายกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปยาวรีขอบขนาน หรือ เป็นรูปแถบยาวแคบ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบแผ่เป็นกาบหุ้มลำต้น ขอบใบเรียบ กว้าง ประมาณ 4-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 45-80 เซนติเมตร เนื้อใบหนากรอบ โคนใบจะติดกับ ลำต้นหรือโอบคลุมลำต้น ไม่มีก้านใบ ลักษณะดอก ดอกออกเป็นพวงช่อขนาดใหญ่ตามซอกใบและที่ปลายยอด ช่อจะโค้งห้อยลง มีความยาว ประมาณ 45-100 เซนติเมตร มีดอกย่อยขนาดเล็กจำนวนมากหลายพันดอก ดอกเป็นสีขาว นวล หรือขาวครีม ดอกมีกลิ่นหอม ตรงกลางมีจุดสีแดงสด กลีบดอกมี 6 กลีบ ดอกขนาด 0.7- 1 เซนติเมตร ออกดอกช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดิอนสิงหาคม ลักษณะเมล็ด ลักษณะผล ออกผลเป็นช่อพวงโต ผลเป็นผลสดทรงกลมขนาดเล็ก อยู่รวมกันเป็นพวง ขนาด 1 เซนติเมตร ผิวผลเรียบ ผลอ่อนเป็นสีเขียวอมสีน้ำตาล ผลแก่เป็นสีแดงคล้ำ ภายในผลมีเมล็ดเดียว สรรพคุณ ช่วยแก้ไข้ตัวร้อนและช่วยแก้กระหายน้ำ Read the books is not hard, everyone can. อ่านหนังสือไม่ใช่เรื่ องยาก เราทุกคนก็ทำได้ กศน.ตำบลเทพราช อำเภอสิชล

กิจกรรมส่งเสริมการอ่านออนไลน์ ฉบับที่ 4 กศน.ตำบลเทพราช กศน.อำเภอสิชล ค ลั ง ต้ น ไ ม้ แ ห่ ง ก า ร เ รี ย น รู้ มันปู ชื่อไทย มันปู ชื่ออื่น มันปู ยอดเทะ นกนอนทะเล ชื่อวิทยาศาสตร์ GLOCHIDION WALLICHIANUM MUELL. ARG. ชื่อวงศ์ EUPHORBIACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลั ก ษ ณ ะ วิ สั ย เป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่ สูงเต็มที่ประมาณ 15-20 เมตร ปลายกิ่งห้อยลง ลักษณะใบ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ 2 ข้างของกิ่งแผ่น ใบเป็นรู ปรีหรือรู ปรีไข่กลับ ผิวใบเกลี้ยงทั้ง 2 ด้าน ปลายใบแหลม โคนใบสอบ มีเสินแขนง ใบ 5-7 คู่ ใบเสีเขียวสด ยอดอ่อนมีสีแดง ลักษณะดอก ดอกเป็นแบบกลุ่ม มีขนาดเล็กมาก สีเขียวอ่อนหรือเหลืองนวล เป็นช่อ กระจุกตามซอกใบ มีกลีบเลี้ยง 6 กลีบ ไม่มีกลีบดอก ดอกแยกเพศอยู่ใน ต้นเดียวกัน ออกตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงเดือนตุลาคม ลักษณะเมล็ด ลักษณะผล ผลแก่เป็นสีชมพูถึงแดง ทรงกลมแป้น กว้าง 1.5-2 เซนติเมตร ยาว 1.2-1.5 เซนติเมตร ภายในผลมี 10-12 พู ผลจะแตกเมื่อแห้ง มี 10-12 เมล็ดต่อผล เมล็ดมีขนาดเล็ก ค่อนข้างกลม มีเยื่อสีแดงหุ้ม ติดที่ปลายของแกนผล สรรพคุณ รากและลำต้น แก้ร้อนใน เป็นยาบำรุ ง ใบ ช่วยให้เจริญอาหาร รักษาแผล ในกระเพาะลำไส้ ทั้งต้น ต้มแก้ไข้ร้อนเย็น Read the books is not hard, everyone can. อ่านหนังสือไม่ใช่เรื่ องยาก เราทุกคนก็ทำได้ กศน.ตำบลเทพราช อำเภอสิชล

กิจกรรมส่งเสริมการอ่านออนไลน์ ฉบับที่ 5 กศน.ตำบลเทพราช กศน.อำเภอสิชล ค ลั ง ต้ น ไ ม้ แ ห่ ง ก า ร เ รี ย น รู้ ขมิ้นอ้อย ชื่อไทย ขมิ้นอ้อย ชื่ออื่น - ชื่อวิทยาศาสตร์ CURCUMA ZEDOARIA (CHRISTM.) ROSCOE ชื่อวงศ์ ZINGIBERACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลักษณะวิสัย มีเหง้าหลักลักษณะทรงกระบอกคล้ายปล้องอ้อย ระหว่างข้อจะมีรอยย่นตามยาว ผิวนอกสีเหลืองน้ำตาล เนื้อในสี เหลืองอ่อนกว่าขมิ้นชัน มีกลิ่นหอม รสฝาด เฝื่ อน และเผ็ดเล็กน้อย สรรพคุณ ในด้านความเชื่อ ให้เป่าเสกหัวว่านด้วยคาถา 3 จบ “อิกะวิติ โอม พระยาขมิ้น ลิ้นกูเป็นทองแดง ตับกูแข็งดังศิลาแลง หัวกูแข็งยิ่ง กว่าคนทั้งหลาย เดชะคุณครูประสิทธิ์ให้แก่กู โอมสวาหะ” แล้วนำ มากินหรือพกติดตัวไว้ จะทำให้ผู้นั้นอยู่ยงคงกระพัน มีสรรพคุณทางยาใช้รักษาทั้งภายในและภายนอก ช่วยรักษามดลูก ลดความดันโลหิต ขับลม ขับปัสสาวะ แก้ท้องเสียท้องร่วง ขับ เสมหะ สมานแผลในลำไส้ แก้ผด ผื่น คัน และอาการฟกช้ำ บวม ใช้ เป็นส่วนผสมในเครื่องแกงทำอาหาร และช่วยบำรุงผิวพรรณ Read the books is not hard, everyone can. อ่านหนังสือไม่ใช่เรื่ องยาก เราทุกคนก็ทำได้ กศน.ตำบลเทพราช อำเภอสิชล

กิจกรรมส่งเสริมการอ่านออนไลน์ ฉบับที่ ุ6 กศน.ตำบลเทพราช กศน.อำเภอสิชล ค ลั ง ต้ น ไ ม้ แ ห่ ง ก า ร เ รี ย น รู้ ว่านกาบหอย ชื่อไทย ว่านกาบหอย ชื่ออื่น กาบหอยแครง ว่านหอยแครง ชื่อวิทยาศาสตร์ TRADESCANTIA SPATHACEA SW. ชื่อวงศ์ COMMELINACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลักษณะวิสัย เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี ขึ้นเป็นกอ ไม่แตกกิ่งก้าน ลำต้นอวบใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5-5 เซนติเมตร สูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร ลักษณะใบ ใบออกจากลำต้น ออกเรียงเป็นวงซ้อนกันหลายชั้น ใบเป็นใบเดี่ยว ลักษณะใบเป็นรูปหอกยาว หรือรูปแกมขอบชนานปลายแหลม ปลายใบแหลม โคนใบ ตัดและโอบลำต้น ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาและตั้งตรง ใบกว้างประมาณ 2-6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 10-30 เซนติเมตร หน้าใบเป็นสีเขียวเข้ม ส่วนหลังใบเป็นสี ม่วงแดง ไม่มีก้านใบ ลักษณะดอก ออกดอกเป็นช่อที่โคนใบหรือตามซอกใบ ช่อดอกมีทั้งช่อเดี่ยวและหลาย ช่อ แต่ละช่อประกอบไปด้วยใบประดับที่มีลักษณะเป็น 2 กาบ สีม่วงแซมเขียว ลักษณะ เป็นรูปหัวใจโค้ง กว้างประมาณ 3-6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร โคน กาบทั้ง 2 ประกบเกยซ้อนและโอบหุ้มดอกขนาดเล็กสีขาวที่อยู่รวมกันเป็นกระจุก ก้าน ช่อดอกยาวประมาณ 1-5 เซนติเมตร ดอกมีกลีบสีขาว 3 กลีบ ลักษณะเป็นรูปไข่แกม รูปขอบขนาน ยาว 3-6 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 5-8 มิลลิเมตร แผ่นกลีบดอกหนา ออกดอกในช่วงฤดูร้อน ลักษณะผล ผลเป็นผลแห้ง เมื่อแตกจะแยกออกเป็นแฉก 2-3 แฉก ลักษณะของผลเป็น รูปกระสวย ผลมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-3 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 3.5 มิลลิเมตร มีขนเล็กน้อย ภายในมีเมล็ดขนาดเล็ก สรรพคุณ ใบและดอกมีรสจืดชุ่ม เป็นยาเย็น ออกฤทธิ์ต่อตับและปอด ใบใช้เป็นยาทำให้ เลือดเย็น แก้อาการร้อนในกระหายน้ำ ดอกใช้แก้หวัด แก้ไอ แก้เสมหะมีเลือด แก้ อาเจียนเป็นเลือด แก้บิดจากแบคทีเรีย แก้ปัสสาวะเป็นเลือด ราก เป็นยาบำรุงตับและ ม้ามพิการได้ดี แก้อาการตกเลือดในลำไส้ Read the books is not hard, everyone can. อ่านหนังสือไม่ใช่เรื่ องยาก เราทุกคนก็ทำได้ กศน.ตำบลเทพราช อำเภอสิชล

กิจกรรมส่งเสริมการอ่านออนไลน์ ฉบับที่ 7 กศน.ตำบลเทพราช กศน.อำเภอสิชล ค ลั ง ต้ น ไ ม้ แ ห่ ง ก า ร เ รี ย น รู้ รวงผึ้ง ชื่อไทย รวงผึ้ง ชื่ออื่น น้ำผึ้ง สายน้ำผึ้ง ดอกน้ำผึ้ง ชื่อวิทยาศาสตร์ SCHOUTENIA GLOMERATA KING SUBSP.PEREGRINA (CRAIB)ROEKM. ชื่อวงศ์ MALVACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลักษณะวิสัย เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลำต้นแตกกิ่งก้านต่ำ กิ่งค่อนข้างเล็ก เรือนยอดเป็นพุ่มมน ลักษณะใบ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ แผ่นใบสองข้างไม่เท่ากัน ผิวใบด้าน บนเป็นสีเขียว ด้านล่างสีน้ำตาลอมนวล ลักษณะดอก ดอกมีกลิ่นหอมตลอดทั้งวัน บานได้นาน 7-10 วัน ช่อดอกดก เกิดตามซอกใบ เป็นช่อสั้น โคนกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน ปลายแยกออกเป็น 5 แฉก คล้ายรูปดาว ไม่มีกลีบดอก มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก ซึ่งเป็นส่วนที่มองเห็นเป็นสี เหลือง ติดดอกช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ลักษณะผล ผลเป็นผลแห้ง ทรงกลม มีขน เมื่อแก่จะไม่แตก ขนาด 0.5-1 เซนติเมตร สรรพคุณ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ และเป็นต้นไม้ประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหา วชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร Read the books is not hard, everyone can. อ่านหนังสือไม่ใช่เรื่ องยาก เราทุกคนก็ทำได้ กศน.ตำบลเทพราช อำเภอสิชล

กิจกรรมส่งเสริมการอ่านออนไลน์ ฉบับที่ 8 กศน.ตำบลเทพราช กศน.อำเภอสิชล ค ลั ง ต้ น ไ ม้ แ ห่ ง ก า ร เ รี ย น รู้ ตะลิงปลิง ชื่อไทย ตะลิงปลิง ชื่ออื่น มูงมัง กะลิงปริง ลิงปลิง ปลีมิง บลีมิง มะเฟืองตรน หลิงปลิง ชื่อวิทยาศาสตร์ AVERRHOA CARAMBOIA L. ชื่อวงศ์ OXALIDACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลักษณะวิสัย เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 5-15 เมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก เปลือก ต้นสีชมพู ผิวเรียบ มีขนนุ่มปกคลุมอยู่ตามกิ่ง ลักษณะใบ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ใบสีเขียวอ่อนมีขุยนุ่มปกคลุม ใบคล้ายรูปหอก ปลายใบแหลม โคนใบมน ในหนึ่งก้านจะมีใบย่อยประมาณ 11-37 ใบ ขนาดใบกว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ยาว 2-5 เซนติเมตร ลักษณะดอก ดอกออกเป็นช่อหลายช่อตามกิ่งและลำต้น โดยในแต่ละช่อจะมีความยาวไม่เกิน 6 นิ้ว ลักษณะดอกมีกลีบ 5 กลีบ ดอกสีแดงเข้ม มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีเขียวอมชมพู มีเกสร กลางดอกสีขาว ลักษณะเมล็ด เมล็ดแบนยาว มีสีขาว ลักษณะผล ผลกลมยาวปลายมน ผลยาวประมาณ 4-6 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร เป็นพูตามยาว ออกผลเป็นช่อห้อย ผิวของผลมีลักษณะเรียบสีเขียว แต่เมื่อสุกแล้ว จะกลายเป็นสีเหลือง เนื้อข้างในเป็นเนื้อเหลว มีรสเปรี้ยว และมีเมล็ด สรรพคุณ ผล ช่วยละลายเสมหะ แก้เสมหะเหนียวข้น ลดไข้ ช่วยฟอกโลหิต ช่วยทำให้ เจริญอาหาร ช่วยขับเหงื่อ รักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน ใบ รักษาอาการอักเสบ รักษาโรครูมา ตอยด์ แก้ไขข้ออักเสบ Read the books is not hard, everyone can. อ่านหนังสือไม่ใช่เรื่ องยาก เราทุกคนก็ทำได้ กศน.ตำบลเทพราช อำเภอสิชล

กิจกรรมส่งเสริมการอ่านออนไลน์ ฉบับที่ 9 กศน.ตำบลเทพราช กศน.อำเภอสิชล ค ลั ง ต้ น ไ ม้ แ ห่ ง ก า ร เ รี ย น รู้ มะม่วงหิมพานต์ ชื่อไทย มะม่วงหิมพานต์ ชื่ออื่น มะม่วงไม่รู้หาว มะม่วงกุลา กาหยู ชื่อวิทยาศาสตร์ ANACARDIUM OCCIDENTALE L. ชื่อวงศ์ ANACARDIAERAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลักษณะวิสัย เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง เมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงเฉลี่ย 6 เมตร สามารถสูงได้ถึง 12 เมตร เนื้อไม้แข็ง มีกิ่งแขนงแตกออกเป็นพุ่มแน่นทรงกลมถึง กระจาย เปลือกหนา ผิวเรียบมีสีน้ำตาลเทา พบได้ทั่วไปในภาคใต้ ลักษณะใบ ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงเวียน ใบหนาเกลี้ยงเหมือนแผ่นหนัง ใบคล้าย รูปไข่กลับหัวถึงรูปรีกว้าง ปลายใบกลม โคนใบแหลม เนื้อใบมีกลิ่นหอม ใบมีขนาด กว้างประมาณ 6-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 8-20 เซนติเมตร ลักษณะดอก ดอกออกเป็นช่อกระจาย ดอกมีสีขาวหรือสีเหลืองนวล และจะ เปลี่ยนไปเป็นสีชมพู ช่อดอกแต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมาก และมีกลีบ เลี้ยงสีเขียวขนาดเล็ก โคนดอกเชื่อมติดกัน ดอกหนึ่งมีปลายแยกเป็นกลีบ 5 กลีบ ปลายแหลมเรียว ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้ประมาณ 8-10 อัน หลังจากดอกร่วง จะติดผล ลักษณะเมล็ด เมล็ด ลักษณะคล้ายรูปไต เปลือกนอกแข็งและยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร มีสีน้ำตาลอมเทา ลักษณะผล ผลลักษณะคล้ายชมพู่หรือลูกแพร์ ผลเป็นพวงห้อยลงมา ขนาด ผลยาวประมาณ 5-8 เซนติเมตร เนื้อผลฉ่ำน้ำมีกลิ่นหอม ผลอ่อนมีสีเขียวหรือ เหลืองอมชมพู เมื่อสุกเป็นสีเหลืองหรือสีส้มแดง ที่ปลายผลมีเมล็ด 1 สรรพคุณ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ป้องกันโรคมะเร็ง บำรุงสุขภาพเหงือก ฟัน และกระดูกให้แข็งแรง Read the books is not hard, everyone can. อ่านหนังสือไม่ใช่เรื่ องยาก เราทุกคนก็ทำได้ กศน.ตำบลเทพราช อำเภอสิชล

กิจกรรมส่งเสริมการอ่านออนไลน์ ฉบับที่ 10 กศน.ตำบลเทพราช กศน.อำเภอสิชล ค ลั ง ต้ น ไ ม้ แ ห่ ง ก า ร เ รี ย น รู้ ดาหลา ชื่อไทย ดาหลา ชื่ออื่น กาหลา กะลา ชื่อวิทยาศาสตร์ ETLINGERA ELATIOR (JACK) R.M.SM. ชื่อวงศ์ ZINGIBERACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลักษณะวิสัย เป็นไม้พุ่ม มีเหง้าใต้ดิน สามารถเกิดได้ทั้งหน่อ ดอกและหน่อต้น ลำต้นเทียมเหนือดินเป็นกาบใบที่โอบซ้อนกัน แน่น สูง 2-3 เมตร มีสีเขียวเข้ม ลักษณะใบ ใบเป็นใบเดี่ยว รูปขอบขนานหรือรูปใบหอก สีเขียว เข้มและมัน ผิวเรียบทั้งด้านบนและด้านล่าง ปลายแหลมฐานเรียว ลาดเข้าหาก้านใบ ด้านล่างใบมีเส้นกลางใบชัดเจน ลักษณะดอก ออกดอกเป็นช่อกระจุกแน่น ภายในมีดอกจริง ขนาดเล็กสีแดง ซึ่งเป็นดอกสมบูรณ์เพศจำนวนมาก ก้านช่อดอก แข็งตรง ยาวถึง 1 เมตร ดอกพัฒนามาจากหน่อดอกที่แทนออก มาจากเหง้าใต้ดิน ลักษณะของหน่อจะมีสีชมพูที่ปลายหน่อ สรรพคุณ ทั้งต้น แก้ลมพิษ โรคผิวหนัง เป็นไม้ดอกไม้ประดับ ดอกอ่อน ใช้ เป็นอาหาร Read the books is not hard, everyone can. อ่านหนังสือไม่ใช่เรื่ องยาก เราทุกคนก็ทำได้ กศน.ตำบลเทพราช อำเภอสิชล

กิจกรรมส่งเสริมการอ่านออนไลน์ ฉบับที่ 11 กศน.ตำบลเทพราช กศน.อำเภอสิชล ค ลั ง ต้ น ไ ม้ แ ห่ ง ก า ร เ รี ย น รู้ ตดหมูตดหมา ชื่อไทย ตดหมูตดหมา ชื่ออื่น ตำยานตัวผู้ เครือตดหมา หญ้าตดหมา พังโหม ย่านพาโหม หญ้าตดหมูตดหมา ชื่อวิทยาศาสตร์ PAEDERIA LINEARIS HOOK.F. ชื่อวงศ์ RUBIACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลักษณะวิสัย จัดเป็นไม้เถาขนาดเล็ก มีกลิ่นเหม็นเขียวเฉพาะ และมียางสีขางทั้งต้น เจริญเติบโตแบบไม้เลื้อยเนื้ออ่อน ลำต้นเป็นสีเขียว มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.8-5 เซนติเมตร ก้านใบ กิ่งอ่อน ก้านช่อดอก และผลมีขนสั้นๆปกคลุมอยู่หนาแน่น ลักษณะใบ ใบรูปหอก ปลายแหลมหรือเรียวยาว โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ ขอบใบเรียบ กว้างประมาณ 1-2.2 เซนติเมตร ยาว 7.1-12 เซนติเมตร ใบมีสีเขียวถึงเขียวเข้ม หน้าใบ มัน หลังใบไม่มีขน แต่จะมีขนสั้นๆละเอียดที่มุมเส้นใบตัดกับเส้นกลางใบ ลักษณะดอก ดอกออกเป็นช่อบริเวณยอดและตามซอกใบ ยาวประมาณ 15-25 เซนติเมตร ดอกย่อยมีจำนวนมากอยู่ชิดติดกันเป็นกระจุก กลีบดอกด้านนอกเป็นสีเขียว ส่วนด้านในเป็นสีม่วงเข้ม ดอกเป็นรูปกรวยปลายแยกเป็นแฉก 5 แฉก และหยักตื้น ออกดอกช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม ลักษณะผล ผลเป็นรูปไข่หรือกลมแบน ผลมีขนาดกว้างประมาณ 0.4-0.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 0.5-0.7 เซนติเมตร ผลจะแก่ในช่วงเมษายนถึงพฤษภาคม สรรพคุณ เป็นยาอายุวัฒนะ ใบมีรสขม ใช้ทำเป็นอาหารบำรุงกำลังคนฟื้นไข้หรือคน ชราได้ ช่วยแก้พิษงู นำมาตำพอกเวลาปวดศีรษะ แก้อาการปวดฟัน ยอดอ่อนเป็นยาระ บายอ่อนๆ ใช้เป็นยาขับน้ำนมของสตรี ราก แก้ริดสีดวงทวาร แก้โรคตานขโมย รักษา ดีซ่าน แก้ท้องเสีย ลำไส้พิการ แก้อาการจุกเสียด ขับน้ำเหลืองเสีย Read the books is not hard, everyone can. อ่านหนังสือไม่ใช่เรื่ องยาก เราทุกคนก็ทำได้ กศน.ตำบลเทพราช อำเภอสิชล

กิจกรรมส่งเสริมการอ่านออนไลน์ ฉบับที่ 12 กศน.ตำบลเทพราช กศน.อำเภอสิชล ค ลั ง ต้ น ไ ม้ แ ห่ ง ก า ร เ รี ย น รู้ ลีลาวดี ชื่ อไทย ลีลาวดี ชื่ ออื่น ลั่นทม จำปา จงป่ า จำปาลาว จำปาขาว จำปาขอม ชื่ อวิทยาศาสตร์ PLUMERIA SPP. ชื่ อวงศ์ APOCYNACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลักษณะวิสัย เป็ นไม้ยืนต้นขนาดเล็ด สูง 3-6 เมตร ทุกส่ วน มีน้ำยางขาว เป็ นไม้ผลัดใบที่สลัดใบในฤดูแล้ง ก่อนที่จะผลิ ดอกและผลิใบรุ่นใหม่ กิ่งที่ยังไม่แก่มีสี เขียว อ่อนนุ่ ม ดูเกือบจะ อวบน้ำ กิ่งแก่มีสี เทามีรอยตะปุ่ มตะป่ำ กิ่งไม่สามารถทานน้ำหนัก ได้ กิ่งเปราะ ลำต้นหนา ลักษณะใบ ใบเป็ นใบเดี่ยว มีการเรียงตัวแบบสลับและหนา แน่ น ใกล้ปลายกิ่งมีลักษณะแตกต่างกันไปทั้งรูปร่าง ขนาด สี และความหนาแน่ น โดยทั่วไปใบจะหนาเหนี ยว แข็ง และมีสี ตั้งแต่สี เขียวอ่อนถึงสี เขียวเข้ม ลักษณะดอก ดอกช่อกระจุกแยกแขนง บริเวณปลายยอดเหนื อ ใบ ดอกย่อยหลายดอก กลีบดอกสี ขาว เชื่ อมติดกันเป็ นหลอดรูป กรวย มีกลิ่นหอม ออกดอกประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือน เมษายน ลักษณะเมล็ด เมล็ดมีขนสี ขาว ลักษณะผล ผลแห้งเป็ นฝักคู่สี ม่วงแกมน้ำตาล ลักษณะฝัก คล้ายฝักต้นชวนชม ฝักอ่อนสี เขียว ฝักแก่จะมีสี แดงถึงดำ สรรพคุณ รักษาไข้หวัด แก้ไอ ขับเสมหะและโลหิ ต ช่วยขับเหงื่อ แก้ร้อนใน ขับลม ขับระดู ขับปัสสาวะ ขับพยาธิ รักษาโรค หนองใน Read the books is not hard, everyone can. อ่านหนังสือไม่ใช่เรื่ องยาก เราทุกคนก็ทำได้ กศน.ตำบลเทพราช อำเภอสิชล

กิจกรรมส่งเสริมการอ่านออนไลน์ ฉบับที่ 13 กศน.ตำบลเทพราช กศน.อำเภอสิชล ค ลั ง ต้ น ไ ม้ แ ห่ ง ก า ร เ รี ย น รู้ สะเดา ชื่ อไทย สะเดา ชื่ ออื่น สะเดาบ้าน สะเลียม เดา กระเดา กะเดา จะดัง จะตัง ผักสะเลม ลำต๋ าว สะเรียม ตะหม่าเหมาะ ควินิน สะเดาอินเดียว กาเดา เดา ไม้เดา ชื่ อวิทยาศาสตร์ AZADIRACHTA INDICA A.JUSS. ชื่ อวงศ์ MELIACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลักษณะวิสัย เป็ นไม้ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 20-25 เมตร เรือนยอดเป็ นพุ่ม หนาทึบตลอดปี รากแข็งแรง กว้างขวางและหยั่งลึก เปลือกค่อนข้างหนา มีสีน้ำตาลเทาหรือสี เทาปนดำ ผิวเปลือกแตกเป็ นร่องตื้นๆ หรือเป็ นสะเก็ดยาวๆ เนื้อไม้มีสีแดงเข้มปนสีน้ำตาล ลักษณะใบ ใบมีสีเขียวเข้มหนาทึบ เมื่ออ่อนมีสีแดง ใบเป็ นใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ ยาวประมาณ 15-35 เซนติเมตร มีใบย่อยประมาณ 4-7 คู่ ใบย่อยติดตรงข้ามหรือกิ่งตรง ข้าม ลักษณะใบเป็ นรูปใบหอกกึ่งรูปเคียวโค้ง กว้างประมาณ 1.5-3.5 เซนติเมตร ยาว ประมาณ 5-9 เซนติเมตร โคนใบเบี้ยวเห็นชัดเจน ส่วนปลายใบแหลม ขอบใบเป็ นจักคล้าย ฟันเลื่อย ลักษณะดอก ออกดอกเป็ นช่อแยกแขนงขนาดใหญ่ตามง่ามใบหรือตามมุมที่ร่วงหลุดไป และที่ปลายกิ่ง ช่อดอกยาวได้ถึง 30 เซนติเมตร ดอกมีขนาดเล็กสีขาวหรือสีเทา ดอกมีกลิ่น หอมอ่อนๆ แกนกลางของช่อมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5 มิลลิเมตร ลักษณะค่อนข้าง เกลี้ยง แตกกิ่งก้านออกเป็ น 2-3 ชั้น ที่ปลายมีช่อกระจุกอยู่ 1-3 ดอก มีขนคล้ายไหม มีใบ ประดับและใบประดับย่อยเป็ นรูปใบหอก ลักษณะเมล็ด เมล็ดมีลักษณะกลมรี ผิวเมล็ดค่อนข้างเรียบหรือแตกเป็ นร่องเล็กๆตามยาวสี เหลืองซีด หรือเป็ นสีน้ำตาล ลักษณะผล ผลคล้ายผลองุ่น ผลมีลักษณะกลมรี ขนาดกว้างประมาณ 1 เซนติเมตร และยาว ประมาณ 1-2 เซนติเมตร ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็ นสีเหลืองอมเขียว มีรส หวานเล็กน้อย สรรพคุณ ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย ช่วยบำรุงธาตุไฟ ขับน้ำย่อย บำรุงโลหิต บำรุง ร่างกาย รักษาสายตา ทำให้เจริญอาหาร แก้กษัย ลดความเครียด ทำให้นอนหลับสบาย แก้ ไข้ สร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย Read the books is not hard, everyone can. อ่านหนังสือไม่ใช่เรื่ องยาก เราทุกคนก็ทำได้ กศน.ตำบลเทพราช อำเภอสิชล

กิจกรรมส่งเสริมการอ่านออนไลน์ ฉบับที่ 14 กศน.ตำบลเทพราช กศน.อำเภอสิชล ค ลั ง ต้ น ไ ม้ แ ห่ ง ก า ร เ รี ย น รู้ ผักหวานบ้าน ชื่ อไทย ผักหวานบ้าน ชื่ ออื่น ผักหวานก้านตง จ๊ าผักหวาน ใต้ใบใหญ่ มะยมป่ า ผักหวานใต้ใบ นานาเซียม ชื่ อวิทยาศาสตร์ SAUROPUS ANDROGYNUS (L.) MERR. ชื่ อวงศ์ EUPHORBIACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลักษณะวิสัย เป็ นไม้พุ่มขนาดเล็กถึงกลาง ลำต้นสูงประมาณ 0.1-4 เมตร ลำต้นกลม ตั้ง ตรง แตกกิ่งแขนงตั้งแต่ระดับล่าง แตกกิ่งแขนงมาก ทรงพุ่มหนาทึบ โคนลำต้นเป็ นไม้เนื้อ แข็ง เปลือกโคนลำต้นมีสีน้ำตาล ปลายลำต้นมีเปลือกสีเขียว กิ่งมีเปลือกสีเขียว เป็ นไม้เนื้อ อ่อน เปราะ หักง่าย เมื่อตัดแต่งกิ่งหรือตัดลำต้น 1 สัปดาห์ จะแทงยอดและกิ่งใหม่แทน ลักษณะใบ ใบเป็ นใบประกอบแบบขนนกชนิดใบเดียว แตกออกจากลำต้นและกิ่งใน ลักษณะเวียนสลับกัน ประกอบด้วยก้านใบหลัก สีเขียว ยาว 15-30 เซนติเมตร บนก้านใบ หลักมีใบย่อยเรียงเยื้องสลับกัน ใบย่อยแต่ละใบมีก้านใบขนาดเล็ก สั้น มีหูใบรูป สามเหลี่ยมที่โคนก้านใบ แต่ละใบรูปไข่หรือรูปไข่รียาว โคนใบสอบ ปลายใบแหลม ลักษณะดอก ดอกเป็ นช่อกระจุกบริเวณซอกใบย่อย เป็ นดอกไม่สมบูรณ์ เพศ ดอกแยกเพศ บนต้นเดียวกัน ดอกมีลักษณะคล้ายจานหรือร่ม เมื่อบานเต็มที่จะกว้าง 5-12 มิลลิเมตร ก้าน ดอกสั้น ดอกไม่มีกลีบเลี้ยง กลีบดอกมี 6 กลีบ แบ่งออกเป็ น 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบ ออกดอก ช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน ลักษณะผล ผลเป็ นผลเดี่ยว ผลห้อยลงด้านล่างใต้ก้านใบหลัก หรือใต้ใบย่อย ผลมีลักษณะ กลมและแผ้นเล็กน้อย คล้ายผลมะยม ขนาดเล็กกว่า ขนาดผลกว้าง 1-1.5 เซนติเมตร ยาว 0.8-1.2 เซนติเมตร ที่ขั้วผลมีกลีบเลี้ยงสีแดงติดอยู่ ท้ายผลด้านล่างมีติ่งสีแดงขนาดเล็ก 3 ติ่ง เปลือกผลเรียบ หนา แบ่งเป็ นร่องพูเล็กๆพอมองเห็นได้ 3 พู แต่มี 6 ร่องเมื่อปริแตก ผล อ่อนมีสีเขียวอ่อน ผลสุกมีสีขาวอมชมพู สรรพคุณ ช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำนม และเพิ่มน้ำนมหลังคลอดบุตร ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อน คลาย บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ระงับอาการปวดเกร็ดที่กระเพาะอาหาร ลำไส้ ถุงน้ำดี และทางเดินปัสสาวะ ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ เชื้อ HIV ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ กระดูกและฟันแข็งแรง ป้ องกันโรคภูมิแพ้จากอากาศ Read the books is not hard, everyone can. อ่านหนังสือไม่ใช่เรื่ องยาก เราทุกคนก็ทำได้ กศน.ตำบลเทพราช อำเภอสิชล

กิจกรรมส่งเสริมการอ่านออนไลน์ ฉบับที่ 15 กศน.ตำบลเทพราช กศน.อำเภอสิชล ค ลั ง ต้ น ไ ม้ แ ห่ ง ก า ร เ รี ย น รู้ กระถิน ชื่ อไทย กระถิน ชื่ ออื่ น กะเส็ดโคก กะเส็ดบก กะตง กระถินน้อย กระถินบ้าน ผักก้านถิน ผักหนองบก กระถินบ้าน กระถินดอกขาว กระถินหัวหงอก กระถินยักษ์ ชื่ อวิทยาศาสตร์ LEUCAENA LEUCOCEPHALA (LAM.) DE WIT ชื่ อวงศ์ LEGUMINOSAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลักษณะวิสัย จัดเป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 3-10 เมตร ไม่ผลัดใบ ลักษณะทรงต้นเป็นเรือนยอดรูปไข่หรือกลม เปลือกต้นมีสีเทา มีปุ่มนูนของรอยกิ่งก้านที่ หลุดร่วงไป ลักษณะใบ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้นเรียงสลับกัน ยาวประมาณ 12.5-25 เซนติเมตร แกนกลางใบประกอบมีขน ใบแยกแขนงประมาณ 3-19 คู่ เรียงตรงข้ามกัน มี ความยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร ส่วนใบย่อยมีประมาณ 5-20 คู่ เรียงตรงข้ามกัน ใบ ย่อยเป็นรูปขอบขนาน กว้าง 2-5 มิลลิเมตรและยาว 0.6-2.1 เซนติเมตร ลักษณะดอก ดอกมีสีขาว ออกดอกเป็นช่อแบบกระจุกแน่นตามง่ามใบและปลายกิ่ง ประมาณ 1-3 ช่อ กลีบเลี้ยงโคนติดกัน ลักษณะเป็นรูประฆัง ส่วนปลายแยกเป็นสามเหลี่ยม เล็ก 5 แฉก มีขน มีกลีบดอก 5 กลีบ ออกดอกในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน ลักษณะเมล็ด ในฝักมีเมล็ดเรียงตามขวางอยู่ประมาณ 15-30 เมล็ด และจะออกผลในช่วง เดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนมกราคม เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปไข่แบนกว้าง มีสีน้ำตาลเป็นมัน ลักษณะผล ฝักมีลักษณะแบน ปลายฝักแหลม โคนสอบ เมื่ อฝักแก่จะแตกตามยาว ฝักยาว ประมาณ 10-20 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร สรรพคุณ ยอดอ่อน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง บำรุงรักษาสายตา บำรุงหัวใจ ทำให้เจริญอาหาร แก้ร้อนในกระหายน้ำ ดอก บำรุงตับ แก้เกล็ดกระดี่ขึ้นตา ฝัก แก้อาการท้องร่วง เป็นยาฝาดสมาน ใช้ห้ามเลือด เมล็ด ลดการเกิดนิ่วในกระเพาะอาหาร บำรุงไต ช่วยชับลมในลำไส้ ขับระดูขาวของสตรี Read the books is not hard, everyone can. อ่านหนังสือไม่ใช่เรื่ องยาก เราทุกคนก็ทำได้ กศน.ตำบลเทพราช อำเภอสิชล


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook