อเิ หนา ตอนศกึ กะ หมังกุหนงิ พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลศิ หล้านภาลยั
เนือ้ หาทงั้ หมด ๑. ความเปน็ มา ๔. ตัวละคร ๒. ประวัติผแู้ ต่ง ๕. เนื้อเรื่อง ๓. ลกั ษณะคาประพนั ธ์ ๖. คาศัพท์
ความเปน็ มา
ความเปน็ มา อิเหนา เปน็ วรรณคดที ม่ี มี าตั้งแตส่ มยั โบราณ ซงึ่ ชาวชวาไดแ้ ตง่ ขนึ้ เอ เฉลิมพระเกียรตแิ ด่พระมหากษตั รยิ ์ ชวาพระองคน์ ีท้ รงนาความเจรญิ ให้แกช่ าวชวา ซงึ่ พระองค์เปน็ ท้งั นักรบ นักปกครอง และพระองค์ทรงมี พระราชธดิ า ๑ พระองค์ และพระราชโอรส ๒ พระองค์ เมือ่ พระราชธิดา ของพระองคไ์ ด้ทรงเสด็จออกผนวช จงึ ได้แบ่งราชอาณาจกั รเป็น ๒ ส่วน คือกุเรปนั และ ดาหา ตอ่ มาท้าวกเุ รปันได้ทรงมีพระราชโอรสพระองคห์ นงึ่ และทา้ วดาหาทรงมี พระราชธดิ าพระองคห์ นงึ่ ซงึ่ ทั้งสองพระองคม์ พี ระนามวา่ อิเหนาและ บุษบา เมอื่ เจรญิ พระชนั ษา อดตี พระราชธิดาของกษตั รยิ พ์ ระองคเ์ ดมิ ท่ี เสดจ็ ออกผนวช จึงมพี ระดาริใหอ้ ิเหนาและบษุ บาอภิเษกกนั เพ่อื ให้ กเุ รปนั และดาหากลับมารวมกนั เป็นราชอาณาจกั รเดียวกนั ดง่ั เดมิ
เนอื่ งจากนิทานอิเหนาเปน็ เรอ่ื งราวทไ่ี ดร้ ับความนยิ มจากชาวชวาเปน็ อยา่ งมาก เนือ้ เร่อื งจึงปรากฏเปน็ หลายสานวน และเม่ือ ได้เขา้ มาสปู่ ระเทศไทย มคี ากลา่ วสืบเนอ่ื งกันมาวา่ พระราชดิ าในสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั บรมโกศกบั เจา้ ฟ้าสังวาล คอื เจ้าฟา้ กุณฑลและเจ้าฟ้ามงกฎุ ได้ฟังนิทานอิเหนาจากนางกานลั ชาวมลายูที่ได้มาจากเมืองปตั ตานี พระราชธดิ าทั้งสองพระองคจ์ งึ มีพระราชธิดาจงึ มีพระราชนิพนธ์ข้นึ นทิ านเรือ่ งนข้ี นึ้ เจา้ ฟ้ากุณฑลทรงนิพนธบ์ ทละครเรือ่ งของดาหลงั ส่วนเจ้าฟ้ามงกุฎ ทรงนิพนธ์เป็นละครเรอื่ ง อเิ หนา แต่คนทวั่ ไปมกั เรียกบทพระราชนพิ นธข์ องท้งั สองพระองค์นีว้ า่ อิเหนาใหญ่ และอิเหนา เลก็ นทิ านปนั หยีของไทยจงึ มี ๒ สานวนแต่นนั้ มา สมยั รัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชกท็ รงพระราชนิพนธบ์ ทละคร อเิ หนา ขึ้น โดยยงั คง เคา้ โครงเรอ่ื งเดมิ ตอ่ มาพระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลัยได้พระราชนพิ นธ์ขึ้นมาใหมท่ ง้ั หมด เนอื่ งจาก เน้อื ความเขา้ กนั ไมส่ นิทกับบทเมอื่ คร้ังกรงุ เกา่ และนามาเลน่ ละครไดไ้ มเ่ หมิจึงทรงพระราชนิพนธใ์ หมใ่ หส้ นั้ และสอดคล้องกับท่าราโดย รักษากระบวนการเดิม แล้วพระราชทานใหส้ มเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ เจ้าฟา้ ฯ กรมหลวงพิทักษม์ นตรซี ึง่ เช่ียวชาญในการ ละคร ได้นาไปประกอบท่าราและฝกึ ซอ้ มจนเหน็ สมควรวา่ ดี แล้วจงึ ราถวายใหท้ อดพระเนตรเพ่ือใหม้ พี ระบรมราชวนิ จิ ฉยั อกี คร้ังเปน็ อนั เสรจ็
ประวตั ิผ้แู ตง่
ประวัตผิ ู้แต่ง “อิเหนาเปน็ บทละครราพระราชนิพนธใ์ นพระบาทสมเด็จพระพทุ ธ เลศิ หล้านภาลัยมหาราช รัชกาลที่ ๒ แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี ตลอดระยะเวลาทพี่ ระองคท์ รงครองราชย์ เปน็ สมยั ที่วรรณคดี เจริญทส่ี ุดในสมยั น้หี ลาย เรอื่ งไดร้ บั การยกยอ่ งว่าเปน็ ยอดของ วรรณคดี และทรงไดร้ ับการเทิดพระเกยี รตจิ ากองคก์ าร การศึกษาวิทยาศาสตร์และวฒั นธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ในฐานะบคุ คลสาคญั ของโลก”
ลกั ษณะ คาประพนั ธ์
ลักษณะคาประพันธ์ ● บทละครรา เรื่อง อเิ หนา มรี ูปแบบการแต่งกลอนบทละครซึง่ มลี กั ษณะบังคบั เหมือนกลอนสส่ี ุภาพ แต่ละวรรคมกั จะขึน้ ต้นดว้ ยคาวา่ “เม่อื นั้น” “บัดนนั้ ” และ “มาจะกลา่ วบทไป” แผนผงั และตัวอยา่ งบทละคร บดั นั้น ดะหมังผ้มู ยี ศถา นับนิ้วบงั คมคลั วนั ทา ทูลถวายสาราพระภมู ี ระตูหมันหยาเรอื งศรี เมอ่ื น้นั แลว้ คลี่ออกอ่านทันใด รบั สารมาจากเสนี
ตวั ละคร
ตวั ละคร เส้นตรง = ความสมั พันธ์ทาง สายเลอื ด เส้นประ = ความสัมพันธท์ ่ีไมม่ ี ความเกย่ี วขอ้ งกนั ทางสายเลอื ด ขอบคณุ รปู ภาพจากhttps://blog.startdee.com/
เนือ้ เรือ่ ง อเิ หนา ตอนศึกกะหมังกหุ นงิ
ท้าวกะหมงั กุหนิงปราศรยั กบั ระตปู าหยงั และระตูประหมนั ทา้ วกะหมงั กหุ นิงนงั่ อยบู่ นทป่ี ระทับเหน็ ระตปู าหยัง กับ ระตูประหมันน้องชายท้ังสองกเ็ รียกให้มารว่ มนงั่ ด้วยกนั แลว้ จึงไตถ่ ามสารทุกขส์ ขุ ดิบกับเหล่าระตเู มืองเลก็ ๆ พร้อมท้งั ปรกึ ษาหารอื เร่ืองท่จี ะไปตีเมอื งดาหา เหลา่ ระตตู า่ ง ๆ ก็ตอบรบั ด้วยดี ยนิ ดที ี่จะไปออกรบดว้ ย ซง่ึ เปน็ ท่ีพอใจ แกท่ า้ วกะหมังกหุ นงิ อย่างยิ่ง จงึ เชิญให้เหลา่ ระตตู า่ ง ๆ ไปพกั ผ่อนตามอธั ยาศยั แตก่ ย็ งั เรยี กนอ้ งทั้งสองไว้ แลว้ จึงเลา่ เรอื่ งตามจริงทัง้ หมดให้ฟงั จนสง่ สารไป ฝ่ายน้องทัง้ สองไดฟ้ ังเร่ืองทั้งหมดกไ็ ม่เห็นด้วยจึงทูลทดั ทานไปวา่ ไมค่ วรยกกองทัพไปต่อกรกบั เหลา่ วงศ์อสัญแดหวา ซงึ่ มีพระเดชานุ ภาพและเชย่ี วชาญในการรบจนเป็นทเ่ี ล่อื งลือ ถงึ ขนาดว่ามเี มืองมาขอเปน็ เมืองขึ้นนับร้อย การยกทพั ไปรบกบั เมืองดาหาจงึ เหมือนกับหิ่งห้อยแข่ง กับแสงอาทิตยม์ ีแตจ่ ะพ่ายแพ้ จงึ ขอใหพ้ ีล่ องคดิ ไตร่ตรองดกู ่อน เพราะผ้หู ญงิ สวย ๆ ใช่วา่ จะมแี ต่เพียงพระธิดาของทา้ วดาหาเสียทีไ่ หน ทา้ วกะหมังกหุ นิงก็ตอบไปวา่ ทีไ่ ปไมใ่ ช่ไปรบกับท้าวดาหา เพยี งแตจ่ ะไปรบชงิ นางบษุ บาจากจรกาเท่านั้น ระตทู งั้ สองจงึ กราบทลู ไปว่า ตอนน้ี บุษบายังอยู่กบั พระบดิ าท่เี มอื งดาหา หากเกิดศึกชิงตวั นางขึ้น ทา้ วดาหากย็ อ่ มจะต้องไปบอกความแก่เมืองพน่ี อ้ งทงั้ ๓ เมอื งเป็นแน่ จะทาให้เกดิ ศกึ กระหนาบข้นึ เกินกาลังท่เี ราจะรับไหว ย่ิงถ้าเสียทีในการรบ กจ็ ะเป็นทีอ่ บั อายขายหน้าแกจ่ รกา ท้าวกะหมงั กหุ นิง ก็ตอบไปวา่ พวกเจ้าไม่เข้าใจอันตัวอิเหนานั้นไปอยเู่ มอื งหมนั หยา ไดส้ กั ปีกวา่ แล้ว ทาให้พระญาตวิ งศ์โกรธมาก คงจะไม่ยกพลมา ครัน้ เมอื งกาหลงั กับสิงหัดส่าหรยี กทัพมา กไ็ ม่เหน็ จะนา่ กลวั แตอ่ ยา่ งใด สว่ นจรกา ลา่ สาน้ัน ต่อให้ยกพลมาเป็นสบิ แสน (ล้าน) หากโดนโจมตี ประเดีย๋ วเดียวก็คงหนเี ขา้ ปา่ ไป ขอให้นอ้ งทง้ั สองเหน็ แก่หลานด้วย หากไมไ่ ดน้ างมากค็ งจะตรอมใจตาย พก่ี ค็ งจะตอ้ งตายเพราะลกู ตามไปดว้ ย เพราะฉะนั้น ไหนๆถา้ จะตอ้ งตาย จะเร็วจะชา้ กต็ ายเช่นกนั หากโชคดกี ็คงจะได้ดงั ที่หวังไว้ น้องท้ังสองเม่อื ฟงั พช่ี ายพดู เชน่ น้ีแล้วกไ็ ม่กลา้ ขัดอะไรอีก ต่อไป ทา้ วกะหมังกุหนงิ กช็ วนไปนอนพกั ผอ่ น
ทา้ วดาหาเสดจ็ ออกรบั ทูตกะหมังกุหนิง พอบา่ ยสามโมง ท้าวดาหาอาบน้า แต่งตัวออกไปยงั ท้องพระโรง น่งั ลงบนท่ีประทับให้ยาสาเบิกตัวราชทตู เข้าเฝ้า อามาตยร์ บั คาสง่ั รีบ เชิญทตู เข้าเฝา้ แลว้ ให้อาลกั ษณ์รับสารมาอ่าน ในสารก็กลา่ วไวว้ ่า \"ทา้ วกะหมงั กุหนิงขอถวายความเคารพมา ด้วยท้าวกะหมงั กุหนงิ มลี ูกชาย และออกไปล่าสตั วใ์ นปา่ บังเอญิ พบรูปของนางบุษบาท่ีกลางป่า ชะรอยว่าตัววิหยาสะกาและนางบษุ บาน้จี ะเป็นเนอื้ คู่กัน วิหยาสะกานนั้ กเ็ ฝ้าแต่ หลงใหลใฝ่ฝนั ในรูปนาง หวังวา่ เราทัง้ สองเมืองจะไดเ้ ป็นทองแผน่ เดยี วกันและขอพ่ึงบารมี ไปจนตาย\" ท้าวดาหาทรงทราบจดุ ประสงค์ ก็ตรัสตอบราชทูตไปวา่ นางบษุ บานั้นได้ยกให้หม้ันหมายกับจรกาไปแล้ว ทง้ั ยังนัดวนั ววิ าห์ไวด้ ้วย การ ท่จี ะรบั ของหมัน้ จากระตูนีก้ เ็ กรงวา่ จะเป็นการผดิ ประเพณี คนเขาจะตฉิ ินนนิ ทาเอาได้ เครือ่ งราชบรรณาการจงคืนไป เมื่อราชทตู ไดฟ้ งั ดังน้ันก็ กราบทูลทา้ วดาหาว่าท้าวกะหมังกหุ นงิ สงั่ ให้ทูลทา้ วดาหาดว้ ยว่าหากไม่ยอมยกบุษบาใหก้ ับวิหยาสะกา กข็ อใหเ้ ตรียมตกแต่งบ้านเมืองใหม้ ัน่ คง ทา้ วดาหาได้ฟังดังนน้ั ก็ประกาศขึ้นดว้ ยเสียงอันดงั วา่ จะทาสงครา มกต็ ามใจ เมอ่ื รบั สง่ั เชน่ นนั้ แลว้ กเ็ สด็จเข้าพระราชฐานช้นั ในทันที เมอ่ื ราชทูตกลบั ไปแลว้ ท้าวดาหากเ็ ปิดหนา้ ต่างออกมาสง่ั เสนาใหร้ ีบไปทลู พระเชษฐาและ พระอนชุ าท้ังสองรวมถึงจรกาวา่ จะมีข้าศึกยกมาชงิ ชยั
ทา้ วกเุ รปันมรี าชสารถงึ อเิ หนาและระตหู มนั หยา ท้าวกเุ รปนั ร้วู ่ามขี ้าศึกจึงเขียนสารลับให้เสนาถอื ไปยังเมืองหมันหยา ๒ ฉบบั ฉบับหน่งึ แจง้ ให้ อเิ หนารีบยกทพั มามา ส่วนอกี ฉบบั หนง่ึ ใหถ้ วายทา้ วหมนั หยาให้เสนารีบไปในเวลา ๑๕ คืน ดะหมงั รบั คาสง่ั จงึ นาสารรบี ออกจากทอ้ งพระโรงรอ้ งเรียกบ่าวไพรพ่ ร้อมกันรีบขี่ม้าออกจากกุเรปนั ไป ทนั ที เมอ่ื ดะหมังทูลลาไปแล้วทา้ วกเุ รปนั จึงคิดตรกึ ตรองในเร่ืองราวแล้วมรี บั สั่งกบั กะหรดั ตะปาตีวา่ ศึกครั้งน้ียง่ิ ใหญน่ ักอเิ หนาจะลาบาก หงอยเหงา และไม่มที ี่ปรกึ ษา จงยกทัพไปสมทบกบั ทพั อเิ หนารบี ยกทพั ไปชว่ ยอย่าให้ขา้ ศกึ ประชดิ เมืองได้ กะหรัดตะปาตรี บั คาส่ังวา่ จะไปในวันพรุ่งนี้ ในเวลาร่งุ เชา้ กะหรดั ตะปาตี เขา้ ท่ีสรงสนานอาบน้าทป่ี นด้วยนา้ หอมบรรจงแต่งกายในชดุ วันเสาร์ ประดับเจยี ระบาด ป้ันเหนง่ เพชร ตาบทศิ ทับทรวง สวมสร้อยสงั วาลประสานกนั กาไลแขน แหวนเพชรประดับพลอย สวมชฎาทดั ดอกไม้ เหน็บอาวุธที่เอวแลว้ เข้าเฝา้ ท้าวกเุ รปัน ทา้ วกุเรปันจงึ อวยพรให้มเี ดชานุภาพปราบศัตรูให้แพพ้ ่ายไป กะหรัดตะปาตีรับพรแลว้ ออกไปที่ กองทัพขน้ึ ข่มี ้าเคลอ่ื นทัพออกไป เดนิ ทางจนถงึ ทางรว่ มเมืองหมนั หยาก็ใหห้ ยุดทพั รอทัพของ อเิ หนา
ทพั เมอื งกาหลงั ยกมาสมทบ ตามะหงงและดะหมัง เสนาเมอื งกาหลงั เร่งยกกองทัพมาพร้อมทหารอาสาหา้ หม่นื ลว้ นมีความ สามารถ ชา้ ง มา้ อาวธุ ครบครัน มธี งสาคัญนาหนา้ ยกทัพออกจากเมอื งมาถงึ ทางร่วมรมิ ดงกพ็ บกบั ทัพ ของสหุ รานากงจงึ ยกทพั มาพร้อมกนั ทูตของท้าวกะหมงั กหุ นิงทถ่ี อื สารไปยงั เมอื งดาหากก็ ลบั เขา้ เฝา้ ทา้ วกะหมงั กหุ นงิ พร้อมกับทลู วา่ ได้นาสารไปถวายทา้ วดา หา ท้าวดาหาทราบเรื่องทุกประการแตต่ ดั ขาดวา่ ได้ยกนางบุษบาลกู สาวใหก้ บั จรกาพรอ้ มกับกาหนดวันแตง่ งานไวเ้ รียบรอ้ ย ทัง้ ยงั ส่งคนื ของทงั้ หมดท่ีได้นาไปให้ ไมไ่ ดเ้ กรงใจท้าวกะหมังกุหนงิ สกั นดิ และยังบอกไปอกี วา่ ถ้าท้าวดา หาไม่ยอมยกนาง บษุ บาให้กข็ อใหเ้ ตรียมตกแตง่ ป้องกนั บา้ นเมอื งเพอ่ื จะรบั ศึกท่จี ะยกไป ถึงขัน้ บอกไปเช่นนี้ วา่ จะมีข้าศกึ แต่ท้าวดาหาก็ยังไม่ สนใจ กลบั บอกวา่ ตามแตใ่ จ เม่ือได้ฟงั แล้ว ท้าวกะหมังกุหนงิ กร็ ู้สกึ โกรธมาก พดู วา่ \"ดดู เู๋ จา้ เมืองดาหาตนอตุ สา่ ห์ออ่ นข้อไป งอ้ เขาควรที่จะพูดจาดี ๆ กลบั ตัดไมตรี อันตัวเรานนั้ ก็มเี ดชานภุ าพ อาณาจักรก็กวา้ งใหญ่ เพราะฉะน้ันจะตอ้ งไปเอาตวั บษุ บา มาให้ได้ ถา้ ไม่ได้จะไมย่ อมกลับเมอื ง และจะสจู้ นกว่าชีวติ จะหาไม่\" ทูตท้ังสองได้ทูลอกี วา่ ในวนั ทจี่ ะออกจากเมืองมาไดย้ ินท้าว ดาหาสั่งเสนีให้รบี ไปแจง้ เรอ่ื งแกท่ า้ วกุเรปันเชษฐา ท้าวสงิ หสั สา่ หรี และทา้ วกาหลังอนชุ ารวมท้งั จรกา เหน็ วา่ กษัตรยิ ์ทั้งส่ี เมอื งจะมาชว่ ยป้องกนั เมืองดาหา
ท้าวกะหมังกุหนิง ไดฟ้ ังก็โกรธมากจงึ มปี ระกาศวา่ ถงึ กษตั รยิ ท์ ัง้ สีก่ รุงจะมาชว่ ยรบเป็นศึกใหญก่ ็ไม่กลวั จะรบให้ แหลกเป็นผยุ ผงแลว้ มีพระราชโองการให้อามาตยต์ ามะหงง ดะหมงั เร่งเกณฑ์พวกไพรพ่ ลท่ีมีความสามารถในการ สงครามเลอื กทหารท้ังสีเ่ หล่าท่เี คยทาลายคา่ ยขวากหนาม รวบรวมได้สามสบิ หมน่ื ให้วหิ ยาสะกาเป็นกองหน้า กอง หลังใหร้ ะตูปาหยงั และระตปู ระหมนั สองน้องชาย ส่วนทา้ วกะหมังกุหนิงนนั้ เป็นจอมทพั คอยหนนุ ทพั หนา้ ไม่กลวั เกรงพวกวงศ์เทวญั จะตอ่ ส้กู นั ใหป้ รากฏเป็นศักด์ิศรใี นครงั้ น้ี เมอื่ ส่งั มหาเสนาแล้วจงึ ถามขุนโหราทั้งสว่ี า่ จะยกทพั ไปในวนั พรุ ง่ นีจ้ ะดีรา้ ยประการใด โหรรับคาส่งั จากท้าวกะหมังกหุ นิงคลต่ี าราตรวจดูชะตาทา้ วกะหมงั กุหนงิ กบั วหิ ยาสะกาเหน็ วา่ ชะตาถึงฆาต หากยกทพั ในวนั พรงุ่ น้ี แตห่ ากรอก่อนเป็นเวลา ๗ วัน หลังจากน้นั ไมเ่ ปน็ ไร ทา้ วกะหมงั กุหนงิ ไดฟ้ ังโหรทานาย ดังนน้ั จึงกลา่ วว่าไดม้ คี าส่ังออกไปแลว้ พระองค์คดิ ว่าหากยับยงั้ การยกกองทพั ไปรบ จะอบั อายขายหน้าเหล่าไพร่ พลว่าตนขลาดกลัวข้าศกึ ดงั นัน้ ถึงแม้ตัวตายกจ็ ะไม่ยอมใหใ้ ครมาดหู มน่ิ ได้ อีกทงั้ หากยกทพั ชา้ ไป เมอื งดาหา จะไดก้ องทพั จากเมืองอน่ื มาสมทบ จะทาให้เอาชนะยากขึ้นไปอกี ดังน้นั จะเป็นอย่างไรกข็ อใหส้ ุดแท้แต่บญุ แต่กรรม แลว้ ท้าวกะหมงั กหุ นงิ ก็เสดจ็ กลับเขา้ ขา้ งใน
วหิ ยาสะกาเดนิ ทพั มา กต็ ีเมอื งเลก็ ๆ ตามรายทางไปดว้ ยและให้ตรวจตราจดั ทพั เดินทางมาเป็นทพั หนา้ ตามทาง มาได้ ๑๐ วนั กม็ องเห็นกาแพงเมืองดาหาอย่ลู บิ ๆ มองเห็นปราสาทราชวังเรียงรายกนั จงึ หยุดทพั แลว้ ตั้งค่ายไวท้ ช่ี ายปา่ ท้าวกะหมังกุหนงิ เรง่ รีบยกทพั มาใกลท้ ุ่งเมืองดาหาเห็นธารนา้ ไหลใสเย็นมรี ม่ เงาจากตน้ ไทรบังแสงแดดจึงสง่ั เสนใี ห้ตั้งทพั แบบนาคนามตามตาราสงคราม ดะหมงั รับคาสงั่ ออกมาเกณฑ์ทหารให้ถากถางทีท่ าคา่ ยหนา้ คา่ ยหลงั ยกหอรบขึ้นเป็นชนั้ ๆ ชกั ปกี กาขงึ ถึงกนั ผกู เป็นราวสามชัน้ มัดใหแ้ นน่ แบบขันชะเนาะ ตง้ั ปอ้ มวางเป็นระยะใสท่ ่กี าบงั และไมเ้ สยี้ มแหลมเปน็ อาวธุ อยา่ ง เหมาะสม ตามสนามเพลาะพูนดินใหเ้ ตม็ ใช้ไม้ไผ่เจาะทะลวงปลอ้ งทาเป็นช่องใสป่ นื ปลกู โรงรถโรงชา้ ง โรงม้าเพื่อผูกไวไ้ มใ่ ห้แตกต่ืนใชเ้ สาตะลงุ ไวผ้ ูกชา้ ง สนามกป็ ราบจนเลี่ยนเตียน เรง่ ทาตาหนักน้อย ใหญ่ และทาเพงิ รายรอบทง้ั ซา้ ยขวา ภายนอกค่ายปักขวากหนามไวอ้ ยา่ งมากมายจนรอบคา่ ย และจัดทหารออก ตระเวนวางหลมุ กบั ดักและคอยสอดCแcRนrEeมDaขIt้าTeศSdึก:bTyสh่วSisนliใpdนreคes่าsgยeoใnห,tiป้antรciะoluชndมุ tiกenาmgรรipcบloantes was by ทา้ วกะหมงั กุหนงิ เหน็ ค่าFยlaเสtiรcจ็ oจnึง,ชinวfนoวgหิ rยaาpสhะiกcsาโอ&รiสmแaลgะเeรsยี กbรyะFตrปู eาeหpยikงั กบั ระตปู ระ หมันนอ้ งชายทงั้ สอง ลงจากรถขน้ึ ไปยงั พลบั พลาทีพ่ กั
ฝา่ ยทหารของเมืองดาหาออกสอดแนมขา้ ศกึ เหน็ ขา้ ศึกยกทพั มาถงึ ชายปา่ เห็น ขบวนทัพหนา้ ทัพหลังต้งั คา่ ยมีธงทิวมากมายเสียงคนตัดไม้ราบ ไปท้ังปา่ ต่าง คนรีบขึ้นมา้ ควบเข้าเมอื งทันทีแจง้ แกป่ าเตะเสนาผ้ใู หญ่ ปาเตะตกใจจดเอาทกุ ถอ้ ยคารบี เข้าเฝ้าทา้ วดาหาว่าข้าศึกยกมาตเี มืองมากมายทั้งชา้ งม้ารถเสียงดงั สนน่ั ดงั เสยี งคลนื่ ในมหาสมทุ รกไ็ ม่ปานตอนน้ตี งั้ อย่ทู เ่ี นนิ ทรายชายทงุ่ ติดป่า ต่อกัน ท้าวดาหาไดฟ้ งั กต็ รึกตรองวา่ อนั ศกึ ครง้ั นเ้ี กดิ ข้นึ เพราะเขามาส ู่ขอ นางบุษบาแลว้ ไมย่ กใหค้ ิดนอ้ ยใจอิเหนาทแี่ กลง้ ใหเ้ กดิ ความวนุ่ วายไปทวั่ ทั้ง เส่อื มเสียถงึ วงศต์ ระกลู จนมศี ึกยกมาทาให้ประชาชนเดอื ดรอ้ นไปท้งั แผน่ ดนิ ท้าวดาหาจึงให้เสนาไปเกณฑ์พลรกั ษาเมืองเอาไวใ้ หม้ นั่ คอยดูท่าทีของขา้ ศึก และจะคอยทหารที่ใหไ้ ปแจง้ เร่ืองแก่ทา้ วกเุ รปันพช่ี ายและท้าวสงิ หัดส่าหรี กบั กาหลงั น้องชายว่าจะยกทพั มาช่วยหรอื ไมอ่ ยา่ งไรหากไมย่ กมาชว่ ยก็จะทา สงครามตามลาพงั แมจ้ ะยากเยน็ แค่ไหนกต็ าม
กลา่ วถึงสุหรานากง และเสนาเมืองกาหลงั ยกทพั เดินทางนอนปา่ สิบห้าวนั กเ็ ดินทางมาถงึ เมืองดาหา เม่อื ถงึ กลางเมืองจึงหยดุ ทัพแล้วชวนตามะหงงไปเขา้ เฝา้ ท้าวดาหาเห็นสุหรานากงกบั เสนาเมืองกาหลังกด็ ีใจมากที่ นอ้ งชายของตนส่งกองทัพมาช่วยรบแตก่ ารศกึ ครัง้ นี้ไม่ควรจะเกดิ ขึ้น เพราะนางบษุ บานนั้ อปั ลกั ษณค์ หู่ มั้นกไ็ ม่รกั แกลง้ ทาอย่างสมใจ แตท่ า้ วดาหาก็ถามไปวา่ เมอื งกเุ รปนั สง่ ใครมาชว่ ยรบ สุหรานากงก็ตอบไปวา่ ทา้ วกเุ รปัน ไดใ้ หก้ ะหรดั ตะปาตียกทพั มาสมทบกบั อเิ หนา ทา้ วดาหาได้ฟังเชน่ นนั้ กป็ ระชดอเิ หนา วา่ กะหรัดตะปาตมี าช่วยก็ไมเ่ ป็นท่ีน่าแปลกใจ แต่อเิ หนาเล่า เขาจะมา ทาไม ทา้ วกุเรปันเรยี กใหก้ ลบั ก่ีครัง้ กไ็ ม่ยอมจากเมอื งหมันหยาจนตัดขาดการแตง่ งาน มีศกึ ประชดิ เมืองกเ็ พราะ ใคร เห็นทีคงจะรกั เมยี มากกวา่ ญาติ ถ้ามาก็เห็นว่าคงจะมาเพราะกลวั ท้าวกุเรปันเสียมากกว่าแล้วท้าวดาหา บอกสหุ รานากงว่าคงไม่ตอ้ งคอยอเิ หนาหรอก แลว้ ให้สหุ รานากงไปพกั ผ่อน สหุ รานากงจงึ ขอถวายชวี ติ ใหเ้ พอ่ื รบั ใช้ทา้ วดาหา และอาสาไปออกรบกบั ทพั ของทา้ วกะหมงั กหุ นงิ
ดะหมังกุเรปนั ถวายสารท้าวหมันหยาและอเิ หนา กลา่ วถึงดะหมงั จากเมอื งกุเรปนั เมื่อเดนิ ทางมาถึงเมืองหมันหยาก็ตรงไปยังเรือนพักของอเิ หนาเข้าเฝา้ ถวายพระราชสารแกอ่ เิ หนา อิเหนาคลีส่ ารของท้าวกเุ รปันออกอ่าน ซ่งึ ในสารน้ันกลา่ ววา่ ตอนนี้มขี ้าศกึ มาตงั้ ทพั ประชิดเมอื งดาหา ขอให้อิเหนารีบยกพลไปตใี ห้ทันท่วงที ถงึ ไม่ เห็นแกบ่ ษุ บากข็ อใหเ้ ห็นแก่ท้าวดาหาผเู้ ป็นอา ศกึ ครงั้ นเี้ กดิ ขึ้นก็เพราะใครไปทางามหน้าไว้ให้ เสียคาพูดใหอ้ ายชาวเมืองดาหา คร้ังน้ีจะเมนิ เฉย อกี ทาใหเ้ สียศักดิ์ศรีกแ็ ล้วแตใ่ จ ถา้ ไมม่ าช่วยก็ขาดกันอย่าได้เผาผกี ันอกี เลย เมอื่ อเิ หนาไดอ้ ่านดงั นนั้ ก็ถอนใจดว้ ยความสงสัยว่าบษุ บาจะงามถึง เพียงไหนเชียวจงึ ถกู ใจระตูทกุ เมอื ง แคเ่ พียงเหน็ รูปก็จะพากนั มาตายเสียแลว้ หากงามเหมอื น จนิ ตะหราก็วา่ ไปอย่าง จึงบอกแก่ดะหมังไปวา่ จะยกทพั ไปในอีก ๗ วนั แต่ดะหมงั รีบทูลว่าต้องรีบไปในทันที เพราะตอนนข้ี า้ ศึกยกทัพมาตดิ พระ นครแลว้ อิเหนาเกรงกลวั ทา้ วกเุ รปนั พระบิดาสดุ ท่ีจะเลื่อนวันไป ท้งั รักทงั้ กลัวหว่ งหน้าพะวงหลังคดิ แล้วก็ทอดถอนใจจงึ สงั่ ตามะห งงให้รีบจดั ทพั ใหญ่ทงั้ ทพั ม้า ทัพรถ ทพั ช้างเลอื กทหารทม่ี คี วามสามารถทัง้ ทหารปนื และทหารดาบ อิเหนาจะตัดศึกใหญด่ ว้ ยกาลงั ท่เี ข้มแขง็ แมน้ ข้าศึกหนีกจ็ ะ ทาลาย ให้สน้ิ ไป ถอื เอาฤกษพ์ รุ่งนี้จะยกทัพไปช่วยเมอื งดาหาเม่ือส่ังเสรจ็ อิเหนา กไ็ ปเข้าเฝา้ ท้าวหมันหยา เม่ือไปถึงเขตวังในก็ลงจากหลังมา้ เขา้ ทอ้ งพระโรงทันที ดะหมังเมอื งกเุ รปันก็เข้าเฝ้าทา้ วหมันหยาเช่นกนั แล้วถวายสารแก่ เจ้าเมอื งหมนั หยา
ท้าวหมนั หยารับสารจากดะหมังคลอ่ี อกอา่ นทันทใี นสารมีใจความวา่ ตัวทา้ วหมันหยามีลูกสาวให้แตง่ ตัวยั่วชายจน อิเหนาตอ้ งรา้ งคู่ไป หลงรักไปติดพันชา่ งไม่อายผูค้ น ตอนนี้มีศึกประชิดเมืองดาหา จนเกิดเรอื่ งวนุ่ วายเสียงานการ ววิ าห์ไปหมดต่างคนกห็ มางใจกนั ในการสงครามคร้ังนถี้ า้ ไม่ไปชว่ ยกจ็ ะตัดญาตขิ าดมติ รกนั ไปก็แล้ว แต่ใจ เมอ่ื อ่านสารแล้วท้าวหมนั หยากลวั ท้าวกเุ รปนั ขนุ่ เคอื งจงึ ย่ืนสารให้แกอ่ เิ หนาและกลา่ ววา่ เหน็ หรือไม่อเิ หนาหลานรกั เจ้า ไม่เช่ือฟงั คาจงึ ทาให้มคี วามผิดไป ดว้ ย แลว้ เร่งให้อิเหนารีบยกทพั ไปชว่ ยเมืองดาหาหากไมไ่ ปก็จะไมใ่ ห้อยู่กบั นางจินตะหรา พร้อมทงั้ ใหร้ ะเดน่ ดาหยนคุมกองทพั ของเมอื งหมนั หยาไปด้วย ไดฤ้ กษย์ กทัพไปในตอนเชา้ พรุ่งนี้ อิเหนารับคาสง่ั แลว้ ลาไปยังปราสาทนางจนิ ตะหรา เมอื่ ไปถึงกเ็ ขา้ แนบชดิ นางทอดถอนใจแล้วแจง้ เรอ่ื งราวแก่ นางว่าดะหมงั ถือสารจากพระบิดาว่าเมืองดาหาเกิดศึกใหอ้ เิ หนารบี ยกทพั ไปชว่ ยในวนั พร่งุ นขี้ อให้นางจงอยู่ดีอยา่ โศกเศรา้ เสียใจเสรจ็ ศึกแลว้ จะรีบกลบั ทันที นางจนิ ตะหรา ไดฟ้ ังก็แคน้ ใจสะบัดหนา้ หนั หลังใหพ้ ร้อมกบั ตดั พอ้ ต่อวา่ อเิ หนาวา่ จะไปปราบข้าศึกหรอื จะกลบั ไป หวนคืนสคู่ หู่ มน้ั เก่า กันแน่ ไหนบอกว่าจะไมไ่ ปไหนจนกวา่ จะตายจากกนั นางก็หลงเช่ือ ไมร่ ูว้ า่ ภายหลังจะมาเป็น เชน่ นี้ แล้วอีกนานเทา่ ไหร่เล่าอิเหนาจะกลบั มา
อิเหนาชแ้ี จงวา่ ไม่เคยคลายความรักในตัวจนิ ตะหราเลย แต่ตนมีเหตจุ าเป็นต้องไป เพราะทา้ วกเุ รปนั ให้กลับสองคร้งั แล้ว แต่ครง้ั น้เี กดิ ศกึ สงคราม ไมอ่ าจจะขัดได้ แล้วจึงย่ืนสารให้จนิ ตะหราอา่ น นางจินตะหรากร็ ้สู กึ คับแคน้ ใจไมม่ องดูสารแล้วคร่าครวญว่า อนิจจา ความรกั นั้นกเ็ หมือนนา้ ท่ไี หลเช่ียว ไฉนเลา่ จะไหลกลับคืนมา คงไม่มหี ญิงใดจะเจบ็ ช้าไปกว่านาง เพราะหลงเช่อื หลงรัก ถงึ ตอนนี้ แลว้ จะไปโทษใครได้ เสยี แรงหวังทีจ่ ะฝากชวี ิตไวก้ ับอเิ หนาแต่กไ็ ม่ปราณี ทีจ่ กั รีบเสด็จไปนนั้ กเ็ ขา้ ใจเพราะนางบุษบาน้นั คูค่ วรกับ อิเหนา ไมต่ ่าศักดเ์ิ หมือนนาง ตอ่ ไปชาวเมอื งดาหาก็จะนินทาได้ นางเอาแต่รอ้ งไห้ครา่ ครวญ อิเหนาปลอบโยนให้จินตะหราคลาย ความโศกเศรา้ วา่ ที่อเิ หนาไปนน้ั แม้บุษบาจะสวยกจ็ รงิ แต่อิเหนาตัดสมั พันธไ์ ปแลว้ จรกาจึงมาทาการสู่ขอและเตรียมการววิ าห์พอ ทา้ วกะหมังกหุ นิงทราบกม็ าสขู่ อนางอีกเมอื่ ไมไ่ ด้นางจงึ เกิดศกึ ในเมืองดาหาเพอื่ ชว่ งชิงนางบุษบาไม่ใชว่ า่ นางไม่มใี คร อนั ข่าวลือท่ีว่า บษุ บางามนกั น้ันแตก่ ็งามสนู้ างจินตะหราไมไ่ ด้ คร้ังนี้จาเป็นจึงตอ้ งจาจากไปเพราะเกรงกลวั ทา้ วกเุ รปันบดิ าตา่ ง หาก หากเสียเมือง ดาหากเ็ หมอื นเสยี ถึงวงศ์ตระกลู มแี ตจ่ ะถูกนินทา ขอให้นางคดิ ให้ดีเมอ่ื ไปแลว้ ก็ไม่อยูน่ านจะรีบกลับมาหานาง นางอยา่ ไดโ้ ศกเศรา้ เสียใจ อิเหนาหอมแก้มนางและประคองCขR้ึนEบDนตITักS:นTาhงจisิตะpหrรeาsเหeน็nสtaารtแioลnว้ คtอ่eยmบpรlรaเทteาคwวาaมsทกุ ขค์ วามแคลงใจ นางบอกอเิ หนา ว่าจะไปทาศกึ ก็ตามใจแตเ่ ม่อื เสรจ็ ศึกให้คcิดถreงึ aเมtือeงdหbมyนั หSยliาdแeลsะรgีบoก,ลinับcมlาuนdาiงnจgะรiอconsอิเbหyนารับขวญั นางแล้วว่าคงเปน็ เวรกรรมที่ ตอ้ งจากไปกข็ อฝากนางมาหยารัศมีแลFะlนaาtงicสoกาnร,ะiวnาfตoี gใหra้จินpตhะiหcsรา&ดแู iลmเพaรgาeะนsางbทyงั้ Fสrอeงeหp่าiงkไกลบิดามารดาอย่าได้เคยี ดแคน้ หงึ หวงถา้ ผิดกใ็ ห้เมตตานางท้ังสองอยา่ ถอื โทษโกรธเคอื ง แลว้ ถอดสังวาลให้นางจนิ ตะหราไวด้ ตู า่ งหนา้
อเิ หนาเขา้ เฝ้าระตูหมนั หยาและถวายบังคมลา อเิ หนาทูลลาทา้ วหมันหยาและประไหมสหุ รี ต่างองคต์ ่างอวยพรให้เดนิ ทางปลอดภยั และให้ขา้ ศึกศตั รพู า่ ยแพ้ แล้วอิเหนากท็ ลู ลากลับมา ที่ตาหนกั ของตน อเิ หนากรีฑาทพั ไปกรงุ ดาหา พอรงุ่ เชา้ อเิ หนาทรงช้างหันหน้าไปทางทิศตะวันออกพร้อมดว้ ยเสนาอามาตย์ โหรา และชีพราหมณ์พอได้ ฤกษ์กล็ ่นั ฆอ้ งดังสนัน่ กกึ ก้องไปทง้ั สนาม ปโุ รหติ ทาพิธีตดั ไมข้ ่มนามตามตาราพิชัยสงคราม ทั้งทัพหน้า ทพั หลงั ทพั หลวงพรอ้ มกัน ทหาร โบกธงทองกระบีค่ รฑุ พวกฝรัง่ จดุ ปนื ใหญ่ให้สญั ญาณ ชพี ราหมณ์ทาพธิ ีเบกิ โขลนทวารอ่านคาถาอาคม เคลือ่ นกองทัพ ออกจากเหมอื ง หมันหยา มงุ่ ตรงไปเมอื งดาหา ระหวา่ งทางอเิ หนาโศกเศร้าเสียใจอาลัยรักนางท้ังสามยิ่งนัก ว่าป่านนจ้ี ะครา่ ครวญหา ใครจะปลอบนาง คิดถึง ความหลงั แล้งยิ่งใจหายคิดไปกอ็ ายพวกไพรพ่ ลจงึ ชกั มา่ นปิดทง้ั สี่ทิศเหมือนจะบังแสงดวงอาทติ ย์ ลมพัดกลนิ่ ดอกไม้เหมือนกล่นิ ผ้านางทีเ่ ปลย่ี น มา ไดย้ ินเสียงนกยูงรอ้ งก็คิดว่าเป็นเสยี งของนาง จงึ เผยมา่ นออกมาเห็นแตต่ น้ ไม้ใบไมจ้ ึงเอนตวั ลงพิงหมอนเอามือก่ายหนา้ ผากคิดถึงความรกั กย็ งิ่ เศร้าใจจนน้าตาไหลออกมา ประสันตาพเ่ี ล้ยี งเหน็ เช่นน้ันกข็ ่ีช้างมาขา้ งทา้ ยชี้ชวนให้ชมธรรมชาตขิ องป่าไปตลอดทาง วา่ ปา่ น้ีแปลกตากว่า ป่าไหนๆ ไว้เสรจ็ ศกึ แล้วนา่ จะชวนนางทัง้ สามมาเท่ียวพักผอ่ นให้สบาย อิเหนาน่ิงฟังอยู่นานก็คลายทุกข์แลว้ ลกุ ขนึ้ ถามว่าป่านี้หรอื สนุกวา่ พลาง อเิ หนากม็ องไปถามว่าไหนล่ะอย่าโกหกกนั
ประสันตาแกลง้ ทาตกใจทูลวา่ อย่ดู งน้ีเพราะช้างเดนิ เลยมาแล้วแตด่ งข้างหน้ายังมี อิเหนายิ้มแลว้ ตอบวา่ โกหกซงึ่ ๆ หน้าชา่ งไม่อาย ยังมาเฉไฉไปอกี คนอะไรนา่ จะผลกั ให้ตกจากช้างท่าจะดี อเิ หนาชมนกชมไม้ต่าง ๆ เหน็ นกตา่ ง ๆ ไมว่ ่าจะเปน็ นกเบญจวรรณ นกนางนวล นก จากพราก นกแขกเตา้ ที่กาลังเกาะต้นเต่ารา้ ง นกแก้ว นกตระเวนไพร นกเค้าโมง นกคบั แค ก็ให้นกึ ไปถงึ นางทงั้ สามตลอดทาง เดนิ ทางมาหลายวนั กม็ าถงึ ทางร่วมเมืองกุเรปันพบกบั กองทัพของกะ หรัดตะปาตอี เิ หนาก็ใหห้ ยุดกองทัพ กะหรดั ตะปาตีพชี่ ายอิเหนา เห็นทพั อเิ หนายกมากด็ ใี จ บอกว่าทา้ วกเุ รปันบิดาให้คุมทพั มา รอทัพอิเหนาเพื่อไปชว่ ยเมอื งดาหามาคอยอยหู่ ลายวนั แล้วขา่ วว่าขา้ ศกึ ประชิดเมอื งแลว้ จะไดร้ ีบไป อิเหนาจงึ วา่ การเดนิ ทางทัพนัน้ อ้อมกว่ากุเรปนั แล้วท้ังสองทพั ก็จัดทัพเขา้ กระบวนเดียวกนั เรง่ รบี ยกทัพไปยังกรงุ ดาหาทันที เม่อื ถึงชายแดนเมืองดาหา อเิ หนากห็ ยุดตั้งค่ายนามครุฑตามตาราพิชยั สงคราม แลว้ ให้ตามะหงงรีบไปกราบทูลท้าวดาหา ใหก้ ราบทูลอยา่ ใหข้ ่นุ เคอื งใจ ตามะหงงรบั คาสง่ั แลว้ ควบมา้ ไปทันทเี มื่อไปถึงก็แจง้ ยาสาเสนา เมื องดาหาวา่ บดั นี้อเิ หนา และกะหรดั ตะปาตีจากกุเรปันยกทัพมาชว่ ยพระธดิ าดาหาแลว้ จงพาเข้า เฝา้ กราบทูลเรอื่ งราวใหก้ ระจ่าง
ยาสาดใี จมากพาตามะหงงเขา้ ไปท้องพระโรงทนั ที ตามะหงงกราบทลู วา่ บดั น้อี เิ หนากับกะหรดั ตะปาตียกทพั มามากมายหลายแสนตั้งอยู่ปลายแดน เมอื งดาหา ท้าวดาหารวู้ ่าอเิ หนายกทัพมาช่วยก็มีความดใี จเพราะอเิ หนามคี วาม เก่งกล้าสมารถเห็นว่านางบุษบาจะไม่เป็นอันตราย แตไ่ ม่ แสดงออกใหใ้ ครเหน็ ยม้ิ แล้วกล่าวว่าอิเหนายกทพั มาช่วยกข็ อขอบใจ แล้วใหต้ ามะหงงไปเชญิ ใหเ้ ข้ามาในเมอื งจะได้พกั ผ่อนให้สบาย ตามะหงงก ราบทูลว่าอิเหนารตู้ วั ดวี ่ามีความผิดติดตวั อยู่ จึงขอทาศกึ ใหเ้ สร็จสิน้ ก่อน จึงจะเขา้ มาถวายบงั คม ทา้ วดาหาจึงไม่ไดร้ ับสงั่ อะไร แต่ถามสุหรานากงวา่ จะทาศกึ ในเมอื ง หรือจะไปช่วยพ่ี ๆ รบ สหุ รานากงทลู ว่ามาอย่ดู าหานานแล้วจงึ ขออาสาออกไปชว่ ยอเิ หนาและกะหรดั ตะปาตอี อกรบ เมื่อท้าวดาหาอนญุ าต สุหรานากงก็กราบทูลลาออก มาเตรียมไพร่พลแล้วยกพลออกจากเมืองไปยงั ค่ายของอิเหนา เมือ่ ไปถงึ ก็เขา้ เฝา้ อเิ หนาสนทนากนั ด้วยความยนิ ดเี ลา่ เร่อื งราว ตั้งแตต่ น้ จนจบว่า เมือ่ วนั ทส่ี ุหรานากงมาถงึ เมืองดาหาได้ทลู วา่ อเิ หนาจะยกทัพมาชว่ ย ดทู า่ ทางทา้ วดาหาจะขดั เคอื งว่าไหนเลยจะจากเมอื งหมันหยามาเพราะรักเมยี ดงั แกว้ ตาคงไมม่ าแน่นอน เกิดศึกก็เพราะใครจนเดือดรอ้ นไปทง้ั เมอื ง นบั ประสาอะไรกับท้าวดาหาแมน้ ตายก็คงไม่เผาผี อเิ หนาได้ฟังก็ตอบว่าที่ ท้าวดาหาขุน่ เคอื งนั้นกร็ ู้กนั อยู่อิเหนาไม่ถอื โทษโกรธตอบคิดแต่จะทาศึกให้ไดช้ ยั ชนะแลว้ เข้าเฝ้าจะดา่ ว่าอยา่ งไรกแ็ ล้วแต่ ตามะหงงทูลว่าท้าวดาหา รับสง่ั ใหท้ ูลอิเหนาวา่ ท่านขอบใจมากเชญิ เ ขา้ ในเมอื งจะได้พักพล แตต่ ามะหงงทูลท้าวดาหาวา่ อิเหนาจะขอทาศึกแก้ตวั ก่อนเสร็จศึกแล้ วจึงจะเข้า เฝ้าดูท่าทจี ะคลายความโกรธเคืองลงแล้ว อเิ หนาไดฟ้ ังตามะหงงทลู ก็รูส้ กึ สบายใจเสด็จกลับเข้าขา้ งใน สุหรานากงกก็ ลับไปยังทีพ่ กั
อเิ หนามบี ัญชาใหจ้ ัดทพั เตรยี มรบกับกะหมังกหุ นงิ อิเหนา ได้ฟงั พี่เล้ยี งเลา่ เรือ่ งราวใหฟ้ งั จงึ สงั่ ตามะหงงใหเ้ ร่งจัดทัพ ตามะหงงรับคาสงั่ แล้วรีบออกไปจดั ทพั ทนั ที อิเหนาและ อนุชากรีพาทัพเผชิญทัพกะหมังกหุ นงิ เม่อื ไดฤ้ กษ์ อเิ หนา กะหรดั ตะปาตี สุหรานากง สงั คามาระตา และระเด่นดาหยน ต่างพากันเข้าท่ี อาบน้าทิพย์มนต์ ทง้ั ห้าองคช์ าระรา่ งกายแล้วมหาดเล็กก็นาเครือ่ งทรงถวายบรรจงทาแปง้ ที่ปรงุ ด้วยกลน่ิ ดอกไม้ สวมใส่กางเกง สวมเสื้อ สีตา่ ง ๆ รัดเขม็ ขดั ที่ประดับด้วยเพชรพลอย สวมสังวาล สวมกาไลขอ้ มอื แก้วจากพม่า สวมแหวนสวยงามระยบั ตา สวมมงกุฎและใส่ตุ มหเู ป็นอบุ ะเพชร เหน็บกรชิ อนั มีฤทธ์เิ สดจ็ ออกมาท่เี กยแกว้ ตา่ งองคข์ ้นึ ม้าพรอ้ มพลทัง้ สีเ่ หล่า มหาดเลก็ กัน้ รม่ ทองเปน็ สตี า่ งกันให้เดนิ ทัพ เปน็ ห้ากอง เสียงกลองเสยี งปนื ดงั สน่ันครนั่ ครน้ื ฝุน่ ตลบอบอวนดงั ควนั ไฟ เมอื่ มาใกลก้ องทัพข้าศกึ เห็นธงทวิ ปลวิ ไสวกใ็ ห้หยดุ ทพั ตามะ หงงรับคาสง่ั ก็ให้ธงสญั ญาณหยุดทัพจัดทพั แบบนามครุฑวางกองทหารเยอ้ื งกนั เป็นปันปลา ฝ่ายทา้ วกะหมงั กุหนงิ เหน็ กองทัพใหญ่ตั้งมั่นขวางเมืองไว้จงึ เรียกวหิ ยาสะกาโอรสและระ ตูปาหยัง กบั ระตูประหมนั นอ้ งชายรบี กระตนุ้ มา้ ออกไปประจาท่กี องทัพ แล้วประกาศใหเ้ รง่ ตที ัพดาหาให้ได้ในวันนี้ ดะหมังรับคาสง่ั กร็ บี เข้าโจมตีทันที บ้างจุดปนื ใหญ่ (ฉตั รชยั มณฑก นกสับ) นายกองแกว่งดาบควบมา้ เขา้ ชิงชัยกนั ทหารเมืองกเุ รปันใชป้ ืนตับยงิ สกัดไว้แล้วไล่ประจญั บานกนั ต่างฝ่ายตา่ งมฝี มี อื ตอ่ สกู้ นั จนถงึ อาวุธส้ัน ดาบสองมือโถมเข้าทะลวงฟัน พวกใชก้ ริชต่อสกู้ ็ต่อสกู้ ันพลวัน ทหารหอกก็ป้องปัดอาวุธไม่หลบหนี ทหารมา้ รา ทวนเขา้ สกู้ ัน บา้ งสกัดหอกท่ซี ดั มา บ้างพงุ่ หอก บา้ งยิงเกาทณั ฑ์ เขา้ ตะลมุ บอนกันกลางสนามรบ สว่ นทต่ี ายทับกนั เหมอื นกองฟาง เลือดไหลนองไปทวั่ ท้องท่งุ กองหลังกห็ นนุ ขึ้นไปไม่ขาดสาย
สังคามาระคาเห็นขา้ ศกึ โจมตไี มห่ ยดุ ก็โกรธมากแกว่งดาบขับมา้ เข้าโจมตขี ้าศกึ ตามลาพงั อเิ หนากับระเดน่ ทั้งสามหันไปดเู หน็ สงั คามาระตากล้า หาญไม่กลัวเก รงข้าศกึ จึงขบั ม้าตามไป ทา้ วกะหมังกหุ นิงมองเห็นอิเหนาและระเดน่ ทง้ั สามจงึ ถามว่าใครคอื จรกา อิเหนาย้มิ แล้วตอบว่ายกทัพ มาจากเมืองกเุ รปันเพอ่ื สงั หารข้าศึกท่มี าตดิ เมอื งดาหา มาถามหาจรกานนั้ ไม่อยู่ในกองทพั น้ี ทา้ วกะหมังกุหนิงรวู้ า่ เป็นอิเหนากร็ สู้ ึกกลัวอยู่ลึก ๆ แต่ แข็งใจตอบว่า อิเหนาอายุยงั นอ้ ยและรปู ร่างกส็ วยงามพอไดเ้ ห็นก็นา่ เสยี ดายทีต่ อ้ งมาตายเสยี เปล่าไม่ควรต่อสกู้ บั ทา้ วกะหมังกหุ นงิ เพราะท้าว กะหมังกุหนิงกับอิเหนาไมม่ ีข้อขดั ข้องหมองใจกันใหจ้ รก ามารบเถดิ จะไดด้ เู ลน่ เปน็ ขวญั ตา อเิ หนาจงึ ตอบวา่ อนั ตวั จรกานั้นไม่ไดอ้ ยู่ทเ่ี มอื งดาหานเ้ี มือ่ ทา้ วกะหมงั กหุ นิง หลับหูหลบั ตามารบผิดเมือง ทาใหไ้ พร่พลลม้ ตายเสยี เปล่า ถา้ จะรบ กบั จรกาก็ตอ้ งไปเมืองของจรกา หากไม่รู้จกั ทาง อเิ หนาจะชว่ ยช้ีทางให้ แตถ่ ้ายังขืนตงั้ ทพั ประชิดดาหาอยอู่ ีก ก็คงจะตอ้ งรบกัน เพราะถึงระตจู รกา จะไม่ยกทพั มา ตวั อิเหนาเองในฐานะพ่ชี าย กต็ ้องปกป้องบษุ บาผ้เู ปน็ นอ้ งใหป้ ลอดภัย ท้าวกะหมงั กุหนิงจึงชแ้ี จงว่า ที่ยกกองทพั มาหมายจะชิงตัวนางบุษบา เพราะถึงทา้ วดาหาจะรับของหม้นั จากจรกาไวแ้ ลว้ แต่กย็ งั มไิ ด้อภเิ ษกสมรส กัน จรกาไม่ได้มาด้วยก็ดี จะไดไ้ ม่มกี ้างขวางคอ การชงิ นางเชน่ น้ยี ่อมไม่ผิดธรรมเนียม เพราะเป็นประเพณมี าแตโ่ บราณ สุดแตว่ ่าใครจะมีฝีมอื มากกว่ากไ็ ดน้ างไป ดังนนั้ เรือ่ งน้ีคงไมใ่ ช่ธรุ ะกงการอะไรของพีช่ าย เพราะฉะนั้นจงยกทัพกลับไปเสียดีกว่า อิเหนาจึงทา้ รบกบั ทา้ วกะหมงั -กุหนงิ แล้วบอกวา่ หากรกั ตวั กลวั ตาย กใ็ หร้ ีบมากม้ กราบแล้วยกทัพกลับเมืองไปเสีย
วหิ ยาสะกาได้ยินแลว้ เคียดแคน้ แทนทา้ วกะหมังกุหนงิ จึงกลา่ วกบั อเิ หนาว่าอย่าปากกลา้ โอหังลบหลูผ่ ู้ใหญ่ อย่าทะนงตัวว่าเกง่ เมอ่ื รบกนั ไมใ่ ครก็ ใครกต็ ้องตายกันไปขา้ งหนงึ่ นี่ยังไมท่ นั รบเลยกม็ าพดู จาขม่ ขใู่ ห้ค่ตู อ่ สยู้ อมแพ้เสยี แล้ว สังคามาระตาฟังวิหยาสะกาพดู ดังนัน้ กโ็ กรธ ขออาสารบกบั วหิ ยากะกา อิเหนาก็อนุญาตแต่กาชับเตือนวา่ อย่าลงจากหลงั มา้ เพราะไม่ชานาญเพลงดาบ ใหร้ บดว้ ยทวนบนหลังมา้ ซึ่งชานาญดแี ลว้ จะได้มชี ัยชนะ ในการรบ สงั คามาระตาจงึ ขบั ม้าไปหยดุ ท่ีหนา้ วิหยาสะกา ร้องท้าให้รบดว้ ยเพลงทวน และแกล้งเยาะเยย้ ว่าหากมฝี มี ือควรคู่กับวงศเ์ ทวัญก็จะยก นางบุษบาให้ วิหยาสะกาแค้นใจย่ิงนกั จงึ ถามออกไปวา่ เจ้าผเู้ ก่งกลา้ มชี ่อื เสยี งเรยี งนามว่าอะไร อยเู่ มืองไหนเปน็ เชื้อสายตระกูลใด หรือเป็นเชือ้ สายในวงศ์เทวญั ของส่เี มอื งจึงมาท้ารบช่างไมก่ ลวั ตาย และผูท้ ท่ี รงม้าอยใู่ นร่มมีใครบ้าง แลว้ ค่อยมารบกนั สังคามาระตาได้ฟงั ก็โกรธมาก ก็ ชีแ้ จงว่ามีอเิ หนาเมืองกเุ รปัน กะหรดั ตะปาตพี ช่ี ายอิเหนา สุหรานากง แห่งเมอื งสงิ หดั สา่ หรี ระเดน่ ดาหยนจากเมืองหมันหยา ตัวเราชอื่ สงั คา มาระตาบุตรท้าวปักมาหงันเปน็ น้องของอเิ หนา วหิ ยาสะกายิ้มเยาะแลว้ ว่ายงั สงสยั ว่าตวั สังคามาระตาน้ันเป็นนอ้ งอิเหนาไดอ้ ยา่ งไร หรอื มคี วามรกั ใคร่กนั ขอให้บอกมาตามตรง
สังคามาระตาโกรธมากรอ้ งวา่ ไอข้ า้ ศึกวาจาหยาบคายมาถามเอาอะไรนักหนา จึงตอบว่า“สดุ แตว่ า่ จติ พิศวาส กน็ ับเป็นวงศญ์ าติกนั ได้” หลงั จากที่เจรจาได้สกั พกั ก็ลงมือรบกัน ทัง้ สองส้ดู ว้ ยทวนบนหลงั มา้ อยา่ งกลา้ หาญ สง่างามรา่ ยรายักย้ายเปลี่ยนแปลกระบวนทา่ เพลง ทวนอยา่ งชานชิ านาญ ในที่สดุ สังคามาระตา ก็แกลง้ ลวงให้วิหยาสะกาแทงทวนแล้วทาทีพ่ายหนี วิหยาสะกาหลงกลชักมา้ เลย้ี วตาม สังคา มาระตาตลบหลงั กลับมาทนั ที แลว้ แทงทวนสอดลอดเกราะของวิหยาสะกาทาใหว้ ิหยาสะกาตกจากหลงั ม้า ตายทันที เมื่อทา้ วกะหมงั กุหนงิ เห็นวิหยาสะกาถกู อาวธุ ตกจากหลงั ม้ากโ็ กรธ ยิง่ นัก ชักม้าแกวง่ หอกเขา้ ใสส่ งั คามาระตาทันที อิเหนาจงึ รบี ควบม้าเขา้ มาขวาง พุ่งหอกสกดั ไว้ แตท่ ้าวกะหมังกุหนงิ ก็รับไวไ้ ด้ ทัง้ สองรกุ ไล่กันไปมา ในท่ีสดุ อเิ หนาชกั มา้ ออกรอ ไม่บกุ เข้าไป คิดวา่ ท้าว กะหมังกุหนงิ น้นั มีฝมี ือในการใช้เพลงทวนบนหลงั มา้ ยากต่อการเอาชนะ จงึ ตอ้ งออกอบุ ายให้รบด้วยเพลงดาบ จงึ จะสามารถเอาชนะได้ อิเหนาจงึ ทา้ ให้ ทา้ วกะหมงั กหุ นงิ มาสู้กันดว้ ยดาบ ทา้ วกะหมังกหุ นงิ ก็รับคา ชักดาบออกมาจว้ งฟนั อยา่ งคล่องแคล่ว เมอ่ื ผา่ นไปไดพ้ กั ใหญ่ อิเหนานึกในใจวา่ ท้าวกะหมงั กุหนงิ ก็เก่ง เพลงดาบ ยากทใ่ี ครจะทดั เทยี ม จึงตอ้ งสดู้ ว้ ยกรชิ ซึ่งองค์เทวัญประทานให้ จงึ จะเอาชนะได้ อเิ หนากร็ อ้ งทา้ ทา้ วกะหมงั กุหนิงใหม้ ารากริชสู้ อีกเชน่ กัน ทา้ วกะหมงั กหุ นิงก็ชกั กรชิ เข้าปะทะตอ่ สอู้ ย่างไมค่ รน่ั คร้าม จนเมื่ออเิ หนาเห็นท้าวกะหมังกุหนิงก้าวเท้าผิด จงึ แทงกรชิ ทะลอุ กไป ถงึ หลังทาให้ ทา้ วกะหมังกหุ นิงสน้ิ ใจตายทันที
กะหรดั ตะปาตี ระเด่นดาหยน สุหรานากง เหน็ อเิ หนาสงั หารท้าวกะหมงั กุหนงิ สิ้นชวี ติ ลง ทั้งสามจงึ ชักม้าเข้าสงั หาร ข้าศกึ จนระตูปาหยงั กบั ระตูประหมันพา่ ยหนไี ป ระตูปะหมนั และระตปู าหยงั สุดทจี่ ะทัดทานไดก้ ็แตกพา่ ยไป ไพร่พลต่างกระจดั กระจายกันไปคนละทศิ คนละ ทาง บ้างปลอมปนกบั พลทหาร บา้ งบ่าวหามใสบ่ า่ พาวงิ่ หนี เคร่อื งแป้งทิ้งตกกระจายเกลอื่ น บา้ งหนามเกยี่ วหัวหูก็ ไม่รู้สกึ ตวั บ้างก็หนไี ปตามลาพงั บา้ งกท็ ง้ิ ปนื หนีไปแอบหลงั เพอ่ื น พวกถูกปืนกเ็ ซซงั คลานหนี ระตูทงั้ สองเม่ือ กลับถงึ คา่ ยกป็ รึกษากันขอยอมแพ้แกอ่ ิเหนา เพือ่ เป็นการรกั ษาชีวติ และรพี้ ลไว้ แล้วระตูท้งั สองก็เข้าเฝา้ อเิ หนา ระตูปะหมนั และระตปู าหยังตา่ งกลวั จนตวั สั่นแจง้ แก่อเิ หนาวา่ ทัง้ สองมีความผิดหนกั หนาแตข่ อประทานชีวติ ไวจ้ ะขอเป็นขา้ รับใชต้ อ่ อิเหนาจนกว่าจะตายและจะสง่ บรรณาการมาถวายตามประเพณี อิเหนาก็รับไวเ้ ปน็ เมืองขนึ้ แลว้ ให้ ทงั้ สองนาศพของท้าวกะหมงั กหุ นงิCRแEลDะวIหิTSย:าสTะhกisาไpปrทeาsพeธิnีตtaามtioราnชtปeรmะเpพlaณtีe wแลas้วอเิ หนากม็ าดศู พวหิ ยาสะกา เห็น ศพถกู ทงิ้ อยู่พจิ ารณาดแู ลว้ ก็ใจหายเcพrรeาaะtยeังdเปbน็ yหSนlุม่idอeยs่รูgูปoร,่าinงกcส็luวdยinงgามicนoบั nวsา่ สbมyชายชาตรี ฟงั แดงดังแสงทบั ทมิ Flaticon, infographics & images by Freepik หน้าตางดงามรบั กบั คว้ิ ผมปลายงอนงามรูปรา่ งสมสว่ นอย่างนีบ้ ดิ าจึงรกั รักรกั หนาจนต้องมา ตายเพราะลูก หากจร กางดงามอย่างวิหยาสะกากจ็ ะไมร่ ้อนใจว่าจะมาปะปนศกั ดิ์กนั แลว้ อเิ หนาก็ขึ้นม้ากลบั ที่พกั ไป
ระตูปะหมนั และระตปู าหยงั กอดศพทา้ วกะหมังกุหนงิ พชี่ ายรอ้ งไหร้ าพนั ออกมาด้วยความเศรา้ วา่ ทา้ วกะหมงั กหุ นงิ นน้ั มชี อ่ื เสียงเกียรตยิ ศปรากฏไป ทว่ั ทุกแผน่ ดนิ ทาสงครามทกุ ครัง้ ท่ผี ่านมาไม่เคยพ่ายแพค้ รั้งน้ีเปน็ เพราะคดิ ประมาทรกั ลูกมากเกินไปจะทดั ทานอยา่ งไรกไ็ ม่ฟัง อนจิ จาวิหยาสะกาคงเปน็ เวรกรรมแต่ครงั้ ก่อน เสียแรงทีม่ ีกาลงั มคี วามกลา้ หาญต้องมาตายตง้ั แตย่ ัง อายนุ อ้ ย ตอ่ ไปนี้คงไมไ่ ดเ้ หน็ หนา้ กลบั บ้านเมืองไปคงจะมแี ตค่ วามเงยี บเหงา ท้ังสองระตูตา่ งโศกเศรา้ เสยี ใจ
คาศพั ท์ อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง กระยาหงนั แปลวา่ วิมาน สวรรค์ชัน้ ฟา้ กะระตะ แปลว่า เรง่ ม้า กนั้ หย่นั แปลวา่ อาวธุ สาหรับเหน็บตดิ ตวั กิดาหยนั แปลว่า ผมู้ ีหน้าทร่ี บั ใช้ใกล้ชดิ พระมหากษตั ริย์ กริ ณิ ี แปลว่า ชา้ ง แก้วพกุ าม แปลว่า แกว้ อันมีคา่ จากเมอื งพกุ ามในพมา่ เขนง แปลว่า เขาสตั วส์ าหรับใส่ดินปนื คับแคบ แปลวา่ ชอื่ นกชนดิ หน่ึงเป็นนกเปด็ น้าท่มี ีขนาดเลก็ ทสี่ ดุ เค้าโมง แปลว่า ชื่อนกมหี ลายชนดิ หากินเวลากลางคนื เคา้ หรือฮูก กเ็ รยี ก แค แปลวา่ ชือ่ ตน้ ไมด้ อกมีสีขาวและแดง ยอดอ่อนและฝกั กนิ ได้
คาศัพท์ อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง งาแซง แปลว่า ไม่เสี้ยมปลายแหลม วางเอนเรียงเปน็ ลาดับสาหรบั ปอ้ งกนั จากพราก แปลว่า ชอ่ื นกในวงศน์ กเปด็ น้า ในวรรณคดนี ยิ มวา่ คู่ของนกชนิดนตี้ อ้ งพรากและ ครวญถงึ กนั ในเวลากลางคืน เจยี ระบาด แปลว่า ผา้ คาดเอวชนิดหน่งึ มชี ายห้อยที่หน้าขา ชนัก แปลว่า เคร่อื งผกู คอช้าง ทาดว้ ยเชือก มปี มหรอื หว่ งห้อยพาดลงมาเพ่ือให้คนทข่ี ใี่ ช้หวั แมเ่ ทา้ คบี กนั ตก ชกั ปีกกา แปลว่า รูปกองทพั ทต่ี งั้ มกี องขวา กองซา้ ยคล้ายปีก ชาลี แปลวา่ ตาขา่ ย ชังคลอง แปลว่า แยง่ ทางทีต่ นจะได้เปรียบ เชด็ หน้า แปลว่า ผา้ เช็ดหนา้ ดะหมงั แปลวา่ เสนาผู้ใหญ่ ตระเวนไพร แปลว่า ชอื่ ของนกชนิดหน่ึง ชอบหากนิ เปน็ ฝงู
คาศพั ท์ อิเหนา ตอนศึกกะหมังกหุ นิง ตรัสเตร็จ แปลวา่ สว่างแจง้ สวยงาม ตาด แปลวา่ ผา้ ทอดว้ ยไหมควบเสน้ เงินหรอื เสน้ ทอง ตามะหงง แปลว่า เสนาผู้ใหญ่ ตุนาหงนั แปลวา่ หมัน้ เตา่ ร้าง แปลว่า ช่อื ต้นไมช้ นิดหนง่ึ ตน้ คล้ายต้นหมาก ผลทะลายเป็นพวง ไถ้ แปลวา่ ถงุ สาหรับคาดเอวนาตดิ ตัวไปทีต่ า่ ง ๆ ธงฉาน แปลวา่ ธงนากระบวนการ มลี ักษณะเปน็ รูปสามเหลย่ี ม ธงชาย แปลว่า ธงมชี ายเป็นรปู สามเหลีย่ ม นามครุฑา แปลว่า ชือ่ การต้งั คา่ ยกองทัพตามตาราพชิ ยั สงคราม แนน่ นนั ต์ แปลว่า มากมาย
บหุ รง คาศพั ท์ อเิ หนา ตอนศึกกะหมังกหุ นงิ เบญจวรรณ ประเสบนั แปลว่า นกยงู ปาเตะ แปลวา่ นกแก้ว ขนาดใหญ่มหี ลายสี ปนื ตบั แปลว่า ทพี่ กั เจ้านาย พลขันธ์ แปลว่า ชือ่ ตาแหนง่ ขนุ นาง พนั ตู แปลว่า ปืนหลายกระบอกเรยี งกนั เป็นตบั โพยมบน แปลว่า กองกาลังทหาร ไพชยนต์ แปลวา่ ต่อสตู้ ิดพัน เฟ่ือง แปลว่า ทอ้ งฟา้ เบอื้ งบน ภสั มธ์ ลุ ี แปลวา่ ชอ่ื รถหรอื วิมานของพระอนิ ทร์ ใช้เรยี กที่ประทบั ของพระเจา้ แผน่ ดนิ มณฑก แปลว่า เครือ่ งหอ้ ยโยงตามช่องหนา้ ตา่ งเพอ่ื ประดบั ให้งาม แปลวา่ ผง ฝ่นุ ละออง แปลว่า เรียกปนื เล็กยาวชนิดหน่งึ ว่า ปืนมณฑก
Search
Read the Text Version
- 1 - 37
Pages: