Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นาย สุทิวัส ครามเขียว

นาย สุทิวัส ครามเขียว

Published by sutiwat2016, 2022-02-13 13:13:32

Description: นาย สุทิวัส ครมเขียว

Search

Read the Text Version

วิชา เทคโนโลยี ดิจิทัลเพื่อการ จัดการอาชีพ

หน่วยที่1 Big Data Big Data บิ๊ก ดาต้า (Big Data) คือคํานิยามของข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ทุกชนิดที่อยู่ใน องค์กรของเราไม่ว่า จะเป็น ข้อมูลบริษัท ข้อมูลลูกค้า Suppliers พฤติกรรมผู้บริโภค Transaction ไฟล์เอกสารต่างๆที่ เกี่ยวข้อง ทั้งหมด รวมไปจนถึง รูปภาพ URLS ง ด่า คุณเก้บไว้ ฯลฯ ที่มี ปริมาณมากจนกระทั่ง ซอฟต์แวร์ปกติทั่วไปไม่สามารถรองรับการ เก็บข้อมูลหรือประมวลผลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

1.มีปริมาณมาก (Volume) ปัจจัยข้อแรกแน่นอนว่า Big Dato มีคำว่า \"Big\" นั่นก็คือข้อมูลขนาด ใหญ่ ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งรูปแบบ Online และ Offlire มาก จะมีปริมาณมากกว่าหน่วย TE (Terabyte) ขึ้นไป หรือ ปริมาณของ อมูล ที่ต้องมีคุณค่า และมีมากพอ 2.มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (Velocity) ส่งผ่านข้อมูล update: อย่าง Real- time) ในทา การวิเคราะห์ง่ายๆแบบ Manua เกิดจํากัด หรือไม่สามารถจับรูปแบบหรือ ทิศทางของข้อมูล หรือความเร็วของข้อมูลที่เข้ามา และการค้นหาข้อมูล แต่ถ้าเข้ามา แล้วหาไม่เร็วไม่ถือว่าเร็ว 3.หลากหลายประเภทหรือแหล่งที่มา (Variety) หมายถึงรูปแบบของข้อมูลที่แตกต่างกันออกไป ทั้งใน รูปแบบ ตัวอักษรวิดีโอ รูปภาพ ไฟล์ต่างๆ ฯลฯ และหลากหลายแหล่งที่มาเช่น Social Network หรือ Platform E- Commerce an 4.ยังไม่ผ่านการประมวลผล (Verocity) ยังไม่ผ่านการ Process ให้อยู่ในรูป แบบของข้อมูลดิบ (Row: Data) ที่สามารถใช้สร้างประโยชน์ต่อองค์กรไม้ หรือ คุณภาพของข้อมูล ต้องเรียกได้

ทําไมต้อง Big Data คุณเป็นลูกค้าธุรกิจเหล่านี้หรือไม่ Netflix, Youtube, Facebook, Twitter, Google, Walmart, Starbucks หา งานเทคโนโลยีที่ทําให้บริษัทเหล่านี้ประสบความสําเร็จคือ Big Data พวกเรามีข้อมูลใบมีจํานวน หาศาล สามารถนำ มาใช้ราย เพื่อหาโอกาสทางธุรกิจ และตัดสินใจในเรื่อง สําคัญจากผลประมวลจากข้อมูลเหล่านั้น

ประโยชน์ที่จะนํา Big Data ไปใช้ มี 3 เรื่องใหญ่ 1. ลดค่าใช้จ่าย ช่วยตัดสินใจสร้างโอกาสให้ธุรกิจ 2.การออกโปรดัก หรือบริการใหม่ มีข้อมูลทำให้ออกผลิตภัณฑ์ได้ถูกใจลูกค้า แม้อาจ ไม่ได้ดีที่สุด คาม งองค์กรขนาดใหญ่จะใช้ big data มาวิเคราะห์ตลาด แม้แต่ วิเคราะห์คู่แข่ง และ พฤติกรรมลูกค้า สนใจอะไร ใช้วัดเสียงสะท้อนผู้บริโภค 3. การมีข้อมูลทำให้ออกผลิตภัณฑ์ได้รวดเร็วกว่า และถูกใจลูกค้ากว่า แม้อาจไม่ได้ดี ที่สุดก็ตามหลายๆ ผู้ประกอบการนํา Big data มาวิเคราะห์ตลาด และ ข้อมูล แข่งว่า ทําอะไรบ้าง ไปถึง ไหนแล้ว และดูพฤติกรรมลูกค้าว่าสนใจอะไร ชอบอะไร โดย จาก consumer voice g keyword อะไรที่จะโดนใจผู้บริโภคทําให้ปีเดียวยาหารเสริมยี่ห้อ หนึ่งทํายอดขายได้ 600 ล้านบาท

ทําไมต้อง Big Data คุณเป็นลูกค้าธุรกิจเหล่านี้หรือไม่ Netflix, Youtube, Facebook, Twitter, Google, Walmart, Starbucks หางาน เทคโนโลยีที่ทําให้บริษัทเหล่านี้ประสบความสําเร็จคือ Big Data พวกเรามีข้อมูลใบมีจํานวน หาศาล สามารถนำมาใช้ราย เพื่อหา โอกาสทางธุรกิจ และตัดสินใจในเรื่องสําคัญจากผลประมวลจาก ข้อมูลเหล่านั้น

หน่วยที่2 IOT INTERNET OF THINGS (IOT) NTERNET OF THINGS DT) ส่ง การ อุปการ น แรอนิก สามารยหรือส่งข้อมูลด้วย นอ เอ โดย ไม่ต้องยนอ มา เรียมโยง ง่ายจนทำให้เราสามารถสั่งการตาม ใช้งานปรก หายไปต่างๆ ผ่านทางแชนเนีไป ไป จนการเรียน การใช้ งานอุปกรณ์ กทรอนิกส์ต่างๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอรอ เข้ากับการใช้งานอื่นๆ จนเกิดเป็นบรรดา SMART ต่างๆ la SMART DEVICE, SMART GRID, SMART HOME SVART NETWORK SMART INTELLIGENT TRANSPORTATION

ประโยชน์และความเสี่ยงของ IOT เทคโนโลยี INTERNET OF THINGS มีประโยชน์ในหลายด้านทั้งเรื่องการเก็บข้อมูลที่ แม่นยำ และเป็นปัจจุบัน ช่วยลดต้นทุน แถมยังช่วยเพิ่มผลผลิตของพนักงานหรือผู้ใช้ งานได้ แม้ว่าแนวโน้ มของ OT มีแต่จะเพิ่มขึ้นด้วยคุณประโยชน์ ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว แต่ประโยชน์ใดๆนั้น มาพร้อมกับความเสี่ยง เพราะความท้าทายในการรักษาความ ปลอดภัยของ เครือข่ายใหม่ที่เกิดขึ้นนั้น จะผลักดันให้ผู้เชี่ยวชาญการรับมือทางด้าน ความปลอดภัยมากขึ้น ในทางตรงกันข้ามแฮกเกอร์ หรือผู้ไม่หวังดี ทํางานหนักเพื่อที่ จะเข้าควบคุม โจมตีเครือข่าย หรือเรียกค่าไถ่ในช่อใหร่ IOT มีอยู่ ฉะนั้นผู้เชี่ยวชาญ ด้านความปลอดภัยทาง IDT จึงจำเป็นต้องพัฒนามาตรการ และระบบรักษาความ ปลอดภัยไอทีควบคู่กันไป เพื่อให้ธุรกิจ และการใช้งาน OT

วิวัฒนาการยุค 5G สรุป ระบบ 5G เป็นพื้นฐานของเเนวคิดINTERNET OF THING BE MACHINE TO MACHINE เป็นการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่า จะเป็นเครื่อง พาหนะ หรือ อาคาร งดสร้างที่มีการใด งวงจรปเลคทรอนิกส์ ซอฟแวร์ เซ็นเซอร์ และเครืองานการเรียนต่างๆ ที่ทำให้ อุปกรณ์เหล่านี้สามารถส่งผ่านข้อมูลถึงกัน โดยมีความสำรองเล (TIME LAG ให้ สามารถใช้เพื่อนนาน ไม่ได้ในคณะ เช่น การผ่าตัดทางไทยที่แพทย์สามารถทำการมาสั่งให้ ผมใช้ที่อยู่ในโลยให้ ดังนั้น หน่วยงานต่างๆ ครัวรัฐเอกชนจึงต้องเร่งพัฒนา เทคโนโลยีให้ รองรับกับระบบ ซึ่งการพัฒนาเหล่านั้นเปลี่ยนวิถีชีวิตในแนวคิดผู้คนโดนีเซีย หรือขายแบบ ใช้สายใน 10 ซึ่งมีความสามารถในการ ส่งข้อมูลในปริมาณที่มากกว่าระบบ 40 ถึง 1,000 เท่า โดยมิวเป็นระบบ 50 ถูกมองว่า เป็นเพียงระบบใหม่ที่ถูกนำมาใช้แทนของเดิมด้วย ประสิทธิภาพที่สูงกว่า งานระบบ 40 บาท แทนระบบ 35 ในความจริงแล้ว 50 เป็น เทคโนโลยีที่มีความเร็วสูง และความสามารถในการฟังข้อมูล ปริมาณ 1 ซึ่งทำให้อุปกรณ์ที่ รองรับระบบนี้ ไม่จำกัดเพียงแค่โทรศัพท์ อีกต่อไป และรวมไปถึงเครื่องมือ เครื่องใช้ และ แบบดาราหนุนโภคทั้งหมด

ประโยชน์ของ INTERNET OF THING ในยุคดิจิทัล 1.ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางาน IOT จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานให้แม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากความสามารถในการทํางานและการ ส่งผ่านข้อมูลของ IOT นั่นสูงกว่าการใช้มนุษย์ทำงาน การทำงานของมนุษย์อาจจะทําให้เกิด HUMAN ERROR และ เกิด ข้อจํากัดด้านพลังงาน, เวลา และสถานที่ใต้ แต่ IOT มีความสามารถในการเก็บข้อมูล ประมวลผล ส่งผ่าน และ แสดงผลได้ อย่างรวดเร็วและสามารถรองรับข้อมูลได้เป็นจํานวนมหาศาล 2.ไร้ข้อจํากัดด้านเวลาและสดานที IOT สามารถทํางานได้แบบไร้พรมแดน เพราะนับเคลื่อนด้วยอินเทอร์เน็ต อย่างที่เราทราบกันดีว่า อินเทอร์เน็ต สามารถเขียนสิ่งที่อยู่ห่างไกล ให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นสามารถ ติดตามผลการดำเนินงานและเช็คสถานะการผลิต ได้ แม้ว่าโรงงานจะอยู่คนละจังหวัดหรือประเทศ ก็ตาม และ IOT ยังสามารถทํางานได้ตลอดเวลา ต่างจากมนุษย์ที่มีพลังงาน จํากัด ต้องการการพัก ผ่อน สิ่งที่ทำให้เห็นว่าการ IOT ช่วยทําลายจําแพงด้านเวลาและสถานที่ได้

หน่วยที่3 Blockchain เป็ นนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ที่คิดค้นขึ้นมาเพื่ อความปลอดภัยสําหรับข้อมูลที่ เปิดเผยได้ โดยมีแนวสัตวา การสร้าง จมูก ทุกฝ่ายยอมรับซึ่งกันและกัน จากนั้น น่าข้อมูลบันทึกลงในกล่องสี่เหลี่ยมโดยมีข้อมูลเหมือนกันทุกกล่อง (Black) และ เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันแบบห่วง (Chain) ทำให้บล็อกเชนไม่ต้องผ่านตัวกลาง ในการส่งข้อมูลอีกต่อไป ยกตัวอย่างเช่นปัจจุบัน เครื่องมือสื่อสารต้องเดินทาง ผ่านไปเตอร์เอเตอลระหว่างกัน ตอนนี้เริ่มมีการ พัฒนาการส่งข้อความตัวอักษร ระหว่างเครื่อง เครื่อง (P2P : Peer to Peer) ซึ่งอาจจะทำให้เกิดเครือข่ายใหม่ ขึ้นใน นาค แม้ว่าตอนนี้ทําได้แค่ตัวอักษรเท่านั้นก็ตาม

ที่มาที่ไปของการมาเป็น Blockchain ก่อนอื่นเราต้องขอย้อนกลับไปทําความรู้จักกับ Bitcoin ก่อนเชื่อว่าหลายท่านพอ ทราบกันแล้ว ว่าเป็นระบบสกุลเงินใหม่ A Peer-to-Peer Electronic Cash System หรือทุกวันนี้ก็เรียกกันอีกอย่าง หนึ่งว่า Cryptocurrency (or crypto currency) หรือสกุลเงินอิเล็กทรอนิกส์ เป็นผลงานการออกแบบ ของบุรุษ ไม่เปิด เผยตัวตน Satoshi Nakamoto ที่เผยแพร่เอกสารการทํางานของ Bitcoin ออก มา ในเดือนพฤศจิกายนปี 2008 และเอกสารกลับว่าเป็นของใคร มเองก็ได้ เปลี่ยนโลกเทคโนโลยีครั้ง ใหญ่เลยทีเดียว ในเอาสารฉบับนั้นของ Satoshi มี การพูดถึงหลักการของส่งเงินระหว่างกันเอาไว้โดย อาศัยการทํางานของ Blockchain อยู่ด้วย นั่นจึงเป็นที่มาของการเกิดเทคโนโลยี Blockchain มาใน เดือนมกราคมในปี 2009 ซึ่งขณะนั้นทําขึ้นมาเพื่อใช้งานกับการส่งเงินสกุล Bitcoin นั่นเอง

ลักษณะเด่นๆของ Blockchain 1.ทุกๆ ข้อมูลที่มีการบันทึกลงไปใน Blockchain นั้นจะไม่สามารถลบออกไปได้ และสามารถติดตามข่าดิบ การบันทึก ข้อมูลย้อนหลังทั้งหมดได้อย่างโปร่งใส 2.ข้อมูลภายใน Blockchain จะถูกกระจายไปกับ Huaraware หลายๆ เครื่อง เราจะเรียก Hardware แต่ละ ชุด ว่า Node โดยจะมีการรับประกันว่าเขียนเหล่านั้นจะเหมือนกันทั้งหมด ซึ่ง Mode เหล่านี้จะเก็บเอาไว้ในองค์กร เดียวกัน หรือ ช่วยเต็มในหลายองค์กรได้เช่นกัน 3.การบันทึกข้อมูลใดๆ ลงไปใน Blockchain จะต้องได้รับการตรวจสอบ และยืนยันจาก Nodo ตาม เงื่อนไข การตรวจสอบที่กำหนด ก่อนที่จะมีการบันทึกข้อมูลเหล่านั้นเข้าระบบและกระจายให้ Node ต่างๆ บันทึกข้อมูลชุดเดียวกันลงไป เพื่อให้สามารถปรับใช้งานได้ตามความต้องการ 4.รองรับการเร่ารหัส าหรับแต่ละรุ่นได้ ดังนั้นถึงแม้ข้อมูลของเราจะถูกกระจายไปยัง Node อื่นๆเเละ อาจถูกบางคนมองเห็น คนอื่นๆ จะไม่สามารถถอดรหัสข้อความของเราได้ นอกจากตัวเราเอง และผู้ ที่เกี่ยวข้องกับเหล่านี้ ญาตให้เข้าถึงได้เท่านั้น

Bitcoin (บิทคอยน์ กับ Blockchain (บล็อกเชน เกี่ยวข้องกันอย่างไร บล็อกเชน เป็นเทคโนโดยอ้านความปลอดภัยของข้อมูล บิทคอยน์ ว่าด้วยเรื่องสกุลเงินบนโลกดิจิตอล จะเห็นได้ว่า บล็อก ไม่ใช่ บิทคอยน์ และบิทคอยน์ ก็ไม่ใช่บล็อกเชน แร่โมเดลมิทคอยน์ มี ความต้องการ ส เทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ เพื่อให้การซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลนี้ มีความ ปลอดภัย และเพราะว่า บล็อกเชน ว่าด้วยเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ เกี่ยวข้องได้กับทุก อุตสาหกรรม ไม่เจาะจงเฉพาะบิทคอยน์ หรือ FinTech เพียงแต่ เทคโนโลยีนี้เรียกได้ว่าส่งผลกระทบต่อวงการ FinTech ค่อนข้างเห็นได้ชัดเจน และการบูม ของเทคโนโลยีตัวนี้ มาจากความพยายามในการทําบิทคอยน์

หน่วยที่4 1.ความหมายของธุรกรรมในธุรกิจดิจิทัล ธุรกรรม ตรงกับคําภาษาอังกฤษว่า transition แกรนแขก ชน หมาย การประกอบกิจกรรมอย่าง ไม่อย่างหนึ่ง โดยเฉพาะฝ่า ธุรกิจเเละการเงิน 2.การทำธุรกิจแบบแพลตฟอร์ม (Platform Business) การท่าธุรกิจแบบแพลตฟอร์ม (Platform Businus) ให้ Geoffrey Parker, Marshall Van Alstyre: Sanger Choudary datiluriuviswal Platform Revolutio ให้นิยามคำว่า Platfort Business Me เราต คุณค่าจากการอ่าน ความสะดวกให้เกิดการเปลี่ย ระหว่างกลุ่มคนหรือผู้ใช้งานตั้งแต่ 2 กลุ่มขึ้น ไป โดยทั่วไปก็ กมุมหนึ่งเป็นผู้บริโภค และอีกกลุ่มเป็นผู้ผลิต

3.นวัตกรรมกับธุรกิจดิจิทัล เป็นการสร้างแตภัณฑ์ การให้บริการ หรือ กระบวนการรูปแบบใหม่ อาศัยข้อมูล ข่าวสารและ การดำเนินการทางด้านเทคโนโลยีโดยมีเครื่องมือ (Tools) หรือ แอปพเคนโปรแกรม (Application Program) เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ จัดเก็บ รวบรวม วิเคราะห์ พยากรณ์ข้อมูล เพื่อช่วยให้การ สําเนินธุรกิจหรือการ ค้าของตนเองได้เปรียบเชิง การแข่งขัน สร้างผลการและสนองตอบต่อความ อง การให้กับลูกค้าเป็ นหลัก 4.การเปรียบเทียบระหว่างธุรกิจแบบดั้งเดิมกับธุรกิจแบบแพลตฟอร์ม ธุรกิจดั้งเดิมในกลุ่มผู้ผลิตจะดำเนินการ การจัดหาวัตถุดิบ การ ประกอบ การผลิต การจัดจําหน่ายท่าการส่งต่อกลุ่มผู้บริโภค ซึ่ง ธุรกิจแบบดั้งเดิมจะมีลักษณะเป็น เจ้าของสินทรัพย์และ ทรัพยากรเนินกระบวนการทางอุปทาน (Supply) การผลิต สินค้า และบริการ ซึ่งเป็นกระบวนการภายในของห่วงโซ่อุปทานส่วน แพลตฟอร์ม จะเน้ นกระบวนการภายนอกของห่วงโซ่อุปทาน การสร้างและครอบครอง กระบวนการในทางอุปสงค์ (Dermind)

5.แพลตฟอร์มโมเดลธุรกิจ ระบบนิเวศใหม่ของธุรกิจแบบแพลตฟอร์ม รูปแบบในการหารายไหมีหลากหลายรูป แบบ ส่วนมากจะเป็นการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จาก คุณค่าที่เกิดขึ้นจากการ ปฏิสัมพันธ์ของกลุ่ม ลูกค้าหรือผู้ใช้งานตั้งแต่ 2 กลุ่มขึ้นไป รูปแบบ การหารายได้ จะไม่มีผลต่อการลดจํานวนของ การปฏิสัมพันธ์และจํานวนกลุ่มลูกค้าหรือ ผู้ใช้งาน โดยมีรูปแบบของแพลตฟอร์มดังนี้ 6.โมเดลธุรกิจ (Business Model Canvas) การที่จะทราบรายละเอียดของกิจการราประกอบการ อะไร ขายอะไร กลุ่มแก่าคือใคร ค่าใช้ จ่ายอะไร และอื่น ๆ แก้วทราบรายละเอียดของกิจการราชการเขียนอะไรบ้าง จะเป็นโมเดล ทางธุรกิจ (Business Model Canvas) เป็นลักษณะของเทมเพลต (Temptatus) โมเดล ธุรกิจที่มี ส่วนประกบกัน 3 ด้าน ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้งานในกลุ่ม ธุรกิจทาง ๆ และได้รับ ความนิยมจากนักการตลาดและ SMEs ใช้เป็นเครื่องมือพื้นฐาน แสดงแผนภูมิภาพ Business Mode Canvan

7.ธุรกรรมการซื้อขายสินค้าและบริการในธุรกิจดิจิทัล การซื้ อขายสินค้าและบริการเป็ นสิ่งที่มีความสำคัญของธุรกิจและเป็ นธุรกรรมในธุรกิจดิจิทัลด้วยซึ่งจะก่อให้เกิด รายได้เข้าธุรกิจ โดยทำการแยกธุรกิจติดตามแพลตฟอร์มเป็นกลุ่มดังต่อไปนี้ 8.การชำระเงินออนไลน์ โอนเงิน กระเป๋ าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Walet) พร้อมเพย์ บริการชำระเข้าธนาคาร (Cross-bank Bill Payment) Mobile Payment

หน่วยที่5 1.ความหมายของสื่อสังคมออนไลน์กับธุรกิจดิจิทัล ธุรกิจดิจิทัน หมายถึง การนำเทคโนโลยี ทาง ๆ เข้ามาพัฒนาธุรกิจที่ทำอยู่เพิ่ง เพิ่ม ความสะดวกสบายให้ทั้งผู้ประกอบการและ ผู้บริโภคในการเขียกชื้อสินค้า หรือบริการ ต่างๆ Socin ให้ความหมายสื่อสังคม หมายถึงการ รองมนุษย์ได้ รับการพิมานให้มีการเลือกัน เทคโนโลคอมพิวเตอร์ที่ได้ เข้ามามีบทบาทใน ชีวิตประจำวันของมนุษย์มากขึ้น ซึ่ง ชนิดหนึ่งที่ ผู้ใช้สามารถเปิยวนร่วมสร้างและแลกเปลี่ยน ความ

2.คุณลักษณะของสื่อสังคมออนไลน์ สื่ อสังคมออนไลน์เป็ นอินเทอร์เน็ตแอปพลิเคชัน เนื้ อหาในสังคมออนไลน์ถูกสร้างโดยผู้ใช้งานสื่ อสังคม ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์สามารถสร้างข้อมูลส่วนที่เป็น ตัวแทนของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ช่วยในการสร้างกลุ่มสังคมออนไลน์

3.ความแตกต่างของสื่อสังคมออนไลน์กับสื่อประเภทอื่น การกระจายของเนื้อหาบนสื่อสังคมออนไลน์ซึ่งเป็นแบบไล (Via การที่เนื้ อหาบนสังคมออนไลน์สามารถถูกเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ปริมาณ เนื้อหาเพื่อสังคมออนไม่มีจำนวนมาก การเนื้อหาบน อสังคมออนไลน์สามารถถูกดัดแปลงแก้ไขได้ตลอดเวล

4. ประเภทของสื่อสังคมออนไลน์ จึงสังคมออนไลน์ให้มีความหน้ าหมาะมากมีการ นิยม แทคโนโลยีการสื่อสารต่าง ๆ รายการต่าง ๆ มีความรับปรุงด้านความ ความมั่นใจในการใช้ สังคมออนไลน์ ประเภทขอเพีย 5.หน้ าที่ของสื่อสังคมออนไลน์ การระบุตัวตน การเเบ่งปั นข้อมูล ความสัมพันธ์ การสนทนา การมีตัวตน ชื่อเสียง การสร้างกลุ่มใน

6.ผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์ในธุรกิจดิจิทัล 6.1 เปลี่ยนแปลงของวัฏจักรการบริโภค 6.2 การเปลี่ยนแปลงของประเภทข้อมูลที่ผู้ใช้เข้าถึงได้ 6.3 การมีส่วนร่วมของผู้บริโภค 6.4 บุคคลที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค

หน่วยที่6 1. ความหมายของธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ ธุรกิจดิจิทัล โมไบล์ (Digital Mobile Businese) เป็น การนำ เทคโนโลยีพิจิทันต่าง ๆ และอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้ใน การพกพาเข้ามา พัฒนาธุรกิจเพื่ออำนวยความสะดวก ให้แก่ผู้ประกอบการและผู้บริโภค 2.คุณลักษณะและความสำคัญของแพลตฟอร์มระบบธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ สามารถสร้างสินค้าหรือบริการใหม่ ที่เรียกว่าการบูรณาการในแนวตั้ง (Verticast integration) สามารถสร้างตลาดหลาน (Multi-sided markets) สามารถสร้างการผูกขาดของธุรกิจ สามารถสนับสนุนให้ผู้ใช้งานทําธุรกรรมต่าง ๆ ได้ง่าย

3.โครงสร้างของระบบธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ กลุ่มผู้ใช้งาน รายละเอียดดังนี้ 01 โครงสร้างพื้นฐานการเชื่อมต่อ เครือข่าย ตอน ลาย 02 มิดเดิลแวร์ของระบบอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์เคลื่อนที่ไร้สาย 03โครงสร้างพื้นฐานระบบอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์เคลื่อนที่ไร้สาย 04. แอปพลิเคชั่นธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ 05 การให้บริการธุรกรรมต่าง ๆ 06 การให้ข้อมูลและเนื้อหาต่าง ๆ 07 การพัฒนาแอปพลิเคชัน

4.แอปพลิเคชันของกลุ่มธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ จะมีกลุ่มของผู้ใช้งานจะเป็นลูกค้า ห้างร้าน และองค์กรธุรกิจต่าง ๆ เช่น เดอะ พิซซ่า คอมปะนี (The Pizza Company) ซีพีออล (CP ALL) หรือเซเว่ นอีเลฟเว่น (7-Eleven TH) เป็นต้น 4.1 กลุ่มธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ด้านการค้าขาย 4.2 กลุ่มธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ด้านการศึกษา 4.3 กลุ่มธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ต้านการประกัน 4.4 กลุ่มธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ด้านการวางแผนทรัพยากรองค์กร 4.5 กลุ่มธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ด้านความบันเทิง 4.6กลุ่มธุรกิจดิจิทัลโมไมล์ด้านสุขภาพ 4.7 กลุ่มธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ด้านสินค้าคงคลังและการขนส่ง 4.8 กลุ่มธุรกิจดิจิทัลโมไบล่ด้านการจราจร 4.9 กลุ่มธุรกิจทัลโมไบล์ด้านการท่องเที่ยว

5.การประยุกต์เทคโนโลยีสำหรับธุรกิจดิจิทัลโมไบล์ - ช่องทางการท่าธุรกิจ สโมไบ ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เคลื่อนที่ไร้สาย - การตลาดเคลื่อนที่ (Mobile Marketing) - การใช้โมไบล์คูปอง - การชำระเงินเคลื่อนที - ผู้ช่วยส่วนบุคคลดิจิทัล (Digital Personal Assistant) - การสร้างความภักดีในตัวสินค้าและการบริการเคลื่อนที่ (Mobile Loyalty) - การให้บริการของธุรกิจแบบเคลื่อนที่

หน่วยที่7 1.ความเสี่ยงและภัยคุกคามต่อธุรกรรมดิจิทัล จากนดการการจองเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม (Warrie Economin Forum, WEF) ใน ค.ศ. 2015เรื่องความเสี่ยงจาก การรับรู้ทั่วโลก ซึ่งพิจารณาจากความเสี่ยงที่ผู้มี อำนาจ ตัดสินใจจากทั่วโลก มอง แนะ ว่าเป็นความเสียว คาดการณ์จะมีโอกาสเกิด เพิ่มมาก นใน ค.ศ. 2020 โดย สามารถสรุปแบ่งประเด็นที่เกี่ยวข้อง อก 5 ความ เสี่ยง าคัญที่จะถวามเตียงสภาพแวดล้อม ความเสี่ยงงานภูมิ ศาสตรา งานสังคม ความเพียงด้านเทคโนโลย และความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ

2.ประเภทเหตุการณ์ของภัยคุกคามต่อธุรกรรมดิจิทัล จากการสํารวจของศูนย์ปฏิบัติการ Security Operation Center (SOC) ของ บริษัท CAT Cylence ให้บริการดูแลความปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศของ ประเทศไทย ได้รวบรวมข้อมูลสถิติภัยคุกคาม บนโลกไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นการ ยืนยันตัวตนล้มเหลว โปรแกรมประสงค์ร้ายต่าง ๆ การค้นหาช่องโหว่ บน เว็บไซต์จาก ไม่ประสงค์ดี การโจมตีไปยังเป้ าหมายโดยตรง การปลอมแปลง เว็บไซต์ในการทํา ธุรกรรมดิจิทัลและโปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์เพื่อกระทำการ บางสิ่ง ซึ่งล้วนแต่เป็นภัยคุกคามที่ส่งผล กระทบต่อหน่วยงานหรือองค์กรที่มีผลก ระทบชนิดเบาไปจนถึงชนิดรุนแรงในรูปแบบที่แตกต่างกันไป พอสรุปประเภท เหตุการณ์ของภัยคุกคามต่อธุรกิจดิจิทัลได้ 6 เหตุการณ์

3.การจัดการความเสี่ยงและภัยคุกคามธุรกรรมดิจิทัล ความเสี่ยง (Risk Definition) หมายถึง ความไม่แน่นอน และ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้เกิดผลเชิงลบ เป้ าหมายของ : องค์กรการจัดการความเสี่ยง และภัยคุกคาม กรรมดีอันเป็น องค์ประกอบสําคัญในการทำธุรกรรมตรีกับตนเอง หน่วยงาน องค์กรต่าง ๆ เป็น อย่างมากโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้งาน เทคโนโลยีสาราน เทศทุกคนมีความรู้ความ เข้าใจ และพระหนักถึงความเสี่ยงและภัย

4.ความมั่นคงปลอดภัยในการทำธุรกรรมดิจิทัล ปัจจุบันผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลกมีจํานวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะจํา นวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคเอเชีย มีจำนวน ถึง 2,300 ล้านคน เมื่อ เปรียบเทียบกับจำนวนภูมิภาคที่เหลือจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมด รวมกันเพียง 2,233 ล้านคน คิดเป็น 50.3% ของประชากรที่ใช้อินเทอร์เน็ต ทั่วโลก รองลงมาเป็นภูมิภาคยุโรป มีจํานวนถึง 727 ล้านคน คิดเป็น 15,9% และ สุด ภูมิภาค เชียเนีย ทตร บมีจํานวน 29 ล้านคน คิดเป็น 0.65% ของประชากรที่ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก

หน่วยที่8 1.กฎหมายและจริยธรรม กฏหมายคือข้อบังคับที่เป็นมาตรฐานที่ใช้วัดและใช้กำหนดราย ประพฤติของ ประชากรในสังคมได้ว่าสิ่งที่กระทำลงไปนั้น ถูกหรือผิด สามารถกระทำได้ หรือกระทำไม่ได้ 2.จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาทและ ความเกี่ยวข้องกับชุมชนและสังคมใน ทุกระดับชั้น ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเฉพาะการใช้ งานกับชุมชนและ สังคมออนไลน์ จำเป็นจะต้อง คำนึงถึง จริยธรรมใน 4 ประเด็น ประกอบด้วย

3.ความหมายของธุรกรรมดิจิทัล ยุรกรรมดิจิทัล (digital transaction) หมายถึง ธุรกรรมที่กระทำขึ้นโดย ใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยใช้ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็ นเครื่ องมือดำเนินการเป็ นหลัก 4.กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทย 1.กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทย ได้ทําการ กา และยกร่างกฎหมาย เทคโนโลยีสารสนเทศตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2541 โดยคณะกรรมการเทคโนโลยีสาร สนเทคแห่งชาติ (กทสช.) (National Infomation Technology Committee) และมอบ หมาย ให้ศูนย์เทคโนโลยีอิเลกทรอนิกส์และคอมพิวเตอรี่แห่งชาติ (National Electronics and Computer Technology Center) ร่วมกับสํานักงานพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (National Science and Technology Development Agency) lu ฐานะนักงานเอาการคณะกรรมการไอแห่งชาติ ทําหน้ าที่ เป็นเขานุการประกอบด้วยกฎหมายที่ดำเนินการศึกษาและก ร่างทั้งหมด 6 ฉบับ

5.กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศของประเทศไทยที่มีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีผลบังคับใช้อยู่ใน ปัจจุบัน มีอยู่ด้วยกัน 3 ฉบับ คือ กฎหมายธุรกรรม ทาง นักทรอนิกส์ กฎหมายการคุ้มครอง ข้อมูลส่วน ตาก และกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับ 6.การทำธุรกรรมดิจิทัล จากความหมายของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (electronic transaction) คือ ธุรกรรมที่ กระทำขึ้นโดยใช้ วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนนั้น ปัจจุบัน ประเทศไทยมีหลายหน่วยงานทั้งในส่วนภาครัฐและ ภาคธุรกิจ การปรับเปลี่ยนการทำ ธุรกรรมด้านต่าง ๆ จาก เติมที่โชเอกสารเป็นหลักโดยเฉพาะภาคการเงินและการ ธนาคาร มีการปรับรูปแบบการทำธุรกรรมการเงินที่สะดวก รวดเร็ว นผ่านระบบอิเกทรอ นิกส์ คือการใช้เทคโนโลยีเข้า มาพัฒนาระบบการเงิน (financial technology)

หน่วยที่9 1.ธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Banking) ซึ่งในปัจจุบันแต่ละธนาคารได้มีการพัฒนาธุรกรรมดิจิทั เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าหลากหลาย รูปแบบทั้งบริการบน เว็บไซต์ หรือ อพที่สามารถดาวน์โหลดและติดตั้ง เพื่อใช้งานบนเอง คอมพิวเตอร์พีซี ใ จ านเดี่ย โทรคมีอดี สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์พกพาต่าง ๆ เช่น กดเงิน โดยไม่ใช้บัตร สแนป OR รวะเน เติมเงิน โอน จากกา ทน การแจ้งเตือนการบริการพิเศษ ห บริการฝาบ่อเยนต์ เป็นต้น 2.การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketing) ซึ่งในปัจจุบันและธุรกิจได้มีการพัฒนาธุรกรรมดิจิทัล เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าหลากหลายรูป แบบทั้งบริการบน เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน สามารถดาวน์โหลดและ ติดตั้งเพื่อใช้งาน บนเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี โน้ ตบุ๊ก แท็บ เล็ต โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์พก พาต่าง ซึ่งมีให้บริการหลากหลายรูปแบบ เช่น การไลฟ์ ขาย สินค้า การสั่งซื้อสินค้า ออนไลน์ การโฆษณาผ่าน เว็บไซต์หรือองคมออนไลน์ เป็นต้น

3.สถาบันการศึกษาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Institute) ซึ่งในปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดการเรียนการสอน รายวิชา หลักสูตร คอร์สฝึกอบรม การประชุมหรือสัมมนา ทางวิชาการ ไว้ให้บริการ แก่ผู้เรียน นิสิต นักศึกษา นักวิชาการ ชาวบ้าน ชุมชนหรือประชาชนทั่วไป หลากหลายรูปแบบทั้ง บริการบนเว็บไซท์ หรือแอปพลิเคชั่นที่สามารถ ดาวน์โหลดและติดตั้งเพื่อใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี โน้ ตบุ๊ก แท็บเล็ต โทร พท์มือถือสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์พกพาต่าง ๆ ซึ่งสถาบัน การศึกษาอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการปรับเปลี่ยนเป็นจัดการเรียนรู้ จิทัล เช่น การศึกษาระบบเปิดเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Thai MOOC) สถาบันกวด วิชา โรงเรียน สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลับหน่วยงานหรือองค์กรที่ เกี่ยวข้องกับงานด้านวิชาการหรือการให้ความรู้สู่ชุมชน เป็นต้น

4.การเกษตรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Agriculture) เป็นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมา ประยุกต์ใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการ จัดการข้อมูล ข่าวสารหรือการติดต่อเพื่อการสื่อสารและส่งข้อมูลใน ระยะไกล อีกทั้งยังนำ ไปประยุกต์เพื่อประโยชน์ ทางด้านเกษตรกรรมบางครั้งอาจจะเรียกว่า เกษตร จฉริยะ Smart Agriculture) เช่น ระบบการท ภูมิศาสตร์ ฟาร์มอัจฉริยะ (Smart Farm) เกษตรกรรม ความแม่นยาสูง (Precision Farming) เป็นต้น 5.โรงพยาบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Hospital) ในปัจจุบันมีรูปแบบทั้งบริการบนเว็บใหม่หรือแบบละเคชัน สามารถดาวน์โหลดและจัดตั้งเพื่อ ใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ โนทก แผ่นเด็ก โทรศัพท์มือถือสมาร์ตโฟนหรืออุปกรณ์ทหา ต่าง นิก โรงพยาบาก สถาบันภาพสาว ๆ ของรัฐก็ได้ที่มีก ปรับเปลี่ยนการบริการให้กับลูกค้า หรือประชาชนหลายรูปแบบเซ ระบบควออนไลน์ การดูแลสุขภาพด้วยการใช้เทคโนโลยีอัจฉ ริย (Inteligent healthcare) jimb (Governme Smart Kosk) luu

6.การขนส่งอิเล็กทรอนิกส์ (e-Transportation) ซึ่งในปัจจุบันมีรูปแบบทั้งบริการบนเว็บไซต์ หรือแถบ พลิเคชัน สามารถดาวน์โหลก และติดตั้งเพื่อใช้งานบน สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์พกพาต่าง ๆ ซึ่งหน่วยงานภาค ขนส่งของเอกชนและภาครัฐ ได้มีการปรับเปลี่ยนการ บริการให้กับลูกค้าหรือประชาชน หลายรูปแบบ เช่น ระบบตรวจสอบและติดตาม Trick & Trace กาบบบบบบ ไทม์ เป็ นต้น 7.การกีฬาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Sports) ซึ่งในปัจจุบันมีรูปแบบการเล่นเป็นกลุ่มที่มหรือบุคคลบนเว็บไซต์หรือ แอปพลิเคชันที่สามารถ ดาวน์โหลดและติดตั้งเพื่อใช้งานบนเครื่อง ทอมพิวเตอร์พีซี โน้ ตบุ๊ก แท็บเล็ต โทร พท์มือถือ สมาร์ทโฟน หรือ อุปกรณ์พกพา าง ๆ ปัจจุบัน อยู่เกมหลายประเภทที่มีการแข่งขันกี อาชีพ หรือระดับมืออาชีพ เงินรางวัลก่อนโดเฟ้ องดูดผู้เข้าชม เช่น เวิลไซเบอร์เกมอาริโอ เมเจอร์ลก และอิเล็กทรอนิกส์สปอร์ต แชมป์โลก เป็นต้น

8.อุตสาหกรรมการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ (e-Manufacturing) ซึ่งในปัจจุบันมีอุตสาหกรรมการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถควบคุมและสั่งการกระบวนการ ผลิตผ่าน เว็บไซต์ หรือควบคุมและสั่งการผ่านแอปพลีเตชันที สามารถดาวน์โหลดและติดตั้ง เพื่อใช้งานบนเครื่อง คอมพิวเตอร์พีซี โน้ ตบุ๊ก แทบเล็ตโทร พท อ สมาร์ตโฟน หรืออุปกรณ์ พกพาต่าง ๆ ได้หลาย อุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วน เ ก ทรอนิกส์ และ อุตสาหกรรมผลิตกระดาษ เป็นต้น 9.ธุรกิจบันเทิงอิเล็กทรอนิกส์ (e-Entertainment) เป็นการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสตรีมมิ่ง (Seoming คือ การรับส่งสัญญาณ ถ่ายทอไฟล์มัลติมีเดียทั้งภาพและเสียงผ่านเครือข่ายระบบ อินเทอร์เน็ตด้วยการใช้เทคโนโลยี 4G หรือ 5G โดยไม่ต้องมีการดาวน์โหลดไฟล์จนครบ เช่น เน็ตฟลิกซ์ (Netfix) ยูทูบ (YouTube) และเฟซบุ๊ก (Facebook) เป็นต้นNETFLIX

10.รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและระบบการสื่อสารอินเทอร์เน็ต เข้ามา ช่วยในการบริหาร จัดการและช่วยงานของภาคราชการให้มีความคลอง ตัวและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าเดิม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook