แรงและการเปลยี่ นแปลง การเคล่ือนที่ของวัตถุ
แรงและการเปลย่ี นแปลงการเคลือ่ นท่ขี องวัตถุ การดึงหรือการผลักเป็นการออกแรงที่เกิดจากวัตถุหนึ่ง กระทากับอีกวัตถุหนึ่ง โดยวัตถุทั้งสองอาจสัมผัสหรือ ไม่ต้อง สัมผัสกัน เช่น การออกแรงโดยใช้มือดึงหรือการผลักโต๊ะให้ เคลื่อนที่เป็นการออกแรงที่วัตถุต้องสัมผัสกัน แรงนี้จึงเป็น แรงสมั ผสั
แรงและผลของการออกแรงทกี่ ระทาต่อวตั ถุ แรง คือ ส่ิงท่ีกระทาตอ่ วตั ถุ แลว้ ทาให้วัตถเุ กดิ การเปลย่ี นแปลงไป เช่น ทาให้วัตถุ เคลื่อนที่วัตถุหยดุ การเคล่ือนท่ี วตั ถเุ ปล่ียนทิศทาง วัตถเุ ปล่ียนรูปร่าง แรง มหี น่วยเป็น นวิ ตัน (N) แรงท่กี ระทาตอ่ วัตถุ ทศิ ทางการเคล่ือนทข่ี องวตั ถุ พนื้ วทิ ยน์ ่ารกั
แรงและผลของการออกแรงที่กระทาต่อวตั ถุ ชนดิ ของการออกแรง มีดงั น้ี แรงดงึ เป็นการออกแรงกระทาต่อวตั ถุ แลว้ ทาใหว้ ตั ถุเคล่ือนที่เขา้ หาตัวเรา แรงผลัก เป็นการออกแรงกระทาต่อวัตถุ แล้วทาให้วัตถุเคลื่อนท่ีออกจากตัวเรา แรงผลกั แรงดึง วิทยน์ า่ รกั
ผลของการออกแรงกระทาตอ่ วัตถมุ ผี ล ทาใหว้ ัตถเุ คลื่อนทใ่ี นลกั ษณะตา่ ง ๆ ดังนี้ วตั ถทุ หี่ ยุดนง่ิ เกดิ การเคลอื่ นที่ เชน่ การออกแรงแตะลกู ฟุตบอลที่วางอยู่ วิทยน์ ่ารกั
ผลของการออกแรงกระทาตอ่ วัตถมุ ผี ล ทาใหว้ ัตถเุ คลื่อนท่ใี นลกั ษณะตา่ ง ๆ ดงั น้ี วตั ถทุ ี่กาลังเคลื่อนที่ มีการเคลอื่ นทเี่ ร็วขนึ้ โดยออกแรงกระทากับวัตถทุ กี่ าลงั เคล่อื นทีใ่ นทิศทาง เดยี วกับท่วี ตั ถกุ าลังเคล่ือนที่ เช่น การออกแรงแตะลกู ฟตุ บอลที่กาลังเคลอ่ื นทอี่ ยู่ไปขา้ งหนา้ วทิ ยน์ ่ารัก
ผลของการออกแรงกระทาตอ่ วตั ถุมีผล ทาใหว้ ัตถเุ คลือ่ นทใ่ี นลกั ษณะตา่ ง ๆ ดงั น้ี วัตถทุ กี่ าลงั เคล่อื นท่ี มีการเคลอ่ื นทช่ี า้ ลงหรอื หยดุ นงิ่ โดยออกแรงกระทากบั วัตถุทกี่ าลงั เคลอ่ื นทใ่ี นทศิ ทาง ตรงกนั ขา้ มกับที่วตั ถกุ าลงั เคลือ่ นที่ เช่น การออกแรง หยุดลูกฟตุ บอลท่ีกาลังเคล่อื นที่ด้วยมอื วทิ ยน์ า่ รัก
ผลของการออกแรงกระทาต่อวัตถมุ ีผล ทาให้วตั ถเุ คล่อื นท่ใี นลักษณะตา่ ง ๆ ดงั นี้ วตั ถุท่ีกาลังเคลอ่ื นที่ มกี ารเปล่ียนทิศทาง โดยออกแรงกระทากบั วตั ถทุ ่ีกาลงั เคลือ่ นทใ่ี นทิศทางอ่นื ทไี่ มใ่ ช่ทิศทางเดยี วกบั ทวี่ ัตถุกาลงั เคล่อื นท่ี เชน่ การออกแรงโหม่งลกู ฟุตบอลหลบผู้ต่อสู้ วทิ ย์น่ารัก
แรงสัมผัสและแรงไมส่ ัมผสั แรงสมั ผัส คือ การออกแรงของวัตถุหนง่ึ กระทา ต่ออกี วตั ถหุ น่งึ โดยวัตถุทงั้ สอง มีการสัมผสั กัน เช่น การดงึ เชือกจงู มา้ การผลักเปิดประตู วทิ ย์นา่ รกั
แรงสมั ผสั และแรงไมส่ ัมผสั แรงไมส่ ัมผัส คอื การออกแรงของวตั ถหุ นง่ึ กระทาตอ่ อกี วัตถหุ นง่ึ โดยวตั ถทุ งั้ สองไมม่ กี ารสมั ผสั กนั เชน่ ใบไมร้ ว่ งจากตน้ ไมล้ งสพู่ นื้ โดยเกดิ จากแรงโนม้ ถว่ ง ของโลกทด่ี งึ ดดู วตั ถบุ นโลกใหเ้ ข้าสศู่ นู ยก์ ลางโลก วทิ ยน์ ่ารกั
แมเ่ หลก็ คอื วตั ถชุ นดิ หนง่ึ ท่มี สี มบตั ดิ งึ ดูดสารแมเ่ หลก็ ได้ แม่เหลก็ แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท ดงั น้ี แม่เหล็กธรรมชาติ หรอื เรยี กวา่ แมกนไี ทต์ แหลง่ ท่พี บแร่แมเ่ หลก็ ในประเทศไทย ได้แก่ จังหวดั ลพบรุ ี นครสวรรค์ เลย ชลบุรี ระยอง กระบ่ี และ นครศรีธรรมราช วิทย์นา่ รกั
วทิ ยน์ า่ รัก แมเ่ หล็กประดษิ ฐ์ มีรปู ร่างหลากหลายรูปแบบ เช่น แมเ่ หลก็ รปู ตวั ยู แม่เหล็กรูปวงแหวน แม่เหลก็ แบบแท่ง แมเ่ หล็กรปู ทรงกลม วิทยน์ ่ารัก
สารแมเ่ หล็ก คอื วัตถทุ ีแ่ ม่เหลก็ สามารถดงึ ดดู ได้ วตั ถทุ เ่ี ปน็ สารแมเ่ หล็ก นอต ตะปู คลปิ หนีบกระดาษ ลูกกญุ แจ ไดแ้ ก่ โลหะบางชนิด เช่น เหล็ก นิกเกิล และโคบอลต์ วิทยน์ ่ารกั
วัตถทุ ่ีไม่ใชแ่ มเ่ หล็ก แม่เหลก็ จะไม่สามารถดึงดูดได้ ไม้ ยาง พลาสตกิ วัตถทุ ไี่ ม่ใชส่ ารแมเ่ หลก็ เชน่ ไม้ แกว้ ยาง กระดาษ และ โลหะบางชนิด ไดแ้ ก่ ทองแดง ผา้ แก้ว กระดาษ สังกะสี เงิน อลมู ิเนยี ม วทิ ย์นา่ รกั
แรงแมเ่ หล็ก แม่เหลก็ มขี วั้ 2 ข้วั คอื ขว้ั เหนือ (North) ขว้ั ใต้ (South) ใช้สัญลักษณ์ N ใช้สัญลกั ษณ์ S วิทยน์ ่ารัก
แรงแม่เหลก็ แม่เหล็กจะมแี รงแม่เหลก็ อยู่โดยรอบแทง่ แม่เหล็ก ซ่ึงตาแหน่งปลายแท่งแมเ่ หล็กจะมอี านาจ แมเ่ หลก็ สงู สดุ และจะลดน้อยลงเมอื่ เขา้ มาตรงกง่ึ กลางแมเ่ หลก็ โดยแรงแม่เหลก็ จะว่ิงออกจาก ขัว้ เหนอื ไปขัว้ ใต้ แรงแมเ่ หลก็ รปู แทง่ แรงแมเ่ หลก็ รปู ตัวยู วทิ ยน์ า่ รกั
แรงระหวา่ งแมเ่ หลก็ แมเ่ หล็กแตล่ ะแท่งจะมแี รงกระทาตอ่ กนั และกนั โดยอาจเกิดแรงดึงดูดหรอื แรงผลกั กนั ดงั นี้ เมือ่ วางแม่เหลก็ ข้วั ตา่ งกนั ไวใ้ กลก้ ัน แรงดงึ ดดู แรงดึงดดู วิทย์นา่ รัก
แรงระหวา่ งแม่เหล็ก แมเ่ หล็กแตล่ ะแท่งจะมแี รงกระทาต่อกนั และกนั โดยอาจเกดิ แรงดงึ ดดู หรือแรงผลักกนั ดังนี้ เมอื่ วางแมเ่ หล็กขั้วเหมือนกนั ไวใ้ กลก้ นั แรงดงึ ผลกั แรงดงึ ผลกั วทิ ยน์ า่ รัก
ประโยชนข์ องแมเ่ หล็ก มนุษย์นาประโยชน์จากสมบตั ขิ องแม่เหล็กมาประดิษฐเ์ ป็นของเลน่ ของใชต้ ่าง ๆ เช่น ใช้แม่เหลก็ ตดิ ทปี่ ระตตู ูเ้ ยน็ นาแมเ่ หล็กมาทาของเล่น เพอื่ ทาใหป้ ระตูต้เู ยน็ ปดิ สนิท โดยติดแมเ่ หลก็ ไวท้ ีป่ ลายคันเบ็ด และป้องกันไม่ใหค้ วามเยน็ ออกจากตเู้ ย็น เพ่อื ให้ดึงดูดกับตวั ปลาท่ีมีแผ่นเหล็กตดิ อยู่ วิทย์นา่ รกั
ประโยชนข์ องแมเ่ หลก็ มนษุ ยน์ าประโยชน์จากสมบตั ขิ องแมเ่ หลก็ มาประดิษฐเ์ ปน็ ของเล่นของใช้ต่าง ๆ เช่น ติดแผ่นแมเ่ หลก็ ไวท้ ่ผี นงั ของหอ้ งครวั ใชแ้ มเ่ หล็กทาเข็มทอี่ ยใู่ นเขม็ ทิศ แลว้ นาเคร่ืองครวั ที่เป็นสารแมเ่ หลก็ มาดดู ติดกับ เพอ่ื ใช้หาทศิ ทาง แม่เหลก็ เพอื่ ความสะดวกตอ่ การใชง้ าน วิทย์นา่ รกั
เหลก็ ทใี่ ช้ทาประตรู ว้ั หรือใชท้ าโครงสร้างบา้ นไมใ่ ช่แม่เหลก็ แตเ่ ป็นสารแม่เหลก็ เพราะแม่เหลก็ สามารถดึงดูดเหลก็ ทใ่ี ช้ทาประตูรั้วหรือใช้ทาโครงสร้างบ้านได้ ซง่ึ วัตถทุ ี่แม่เหลก็ สามารถดงึ ดูดได้ เราเรียกว่า สารแมเ่ หลก็ วทิ ยน์ ่ารกั
Thank you
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: