Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 2 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีการศึกษา

บทที่ 2 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีการศึกษา

Published by varaphorn914, 2017-10-09 09:01:05

Description: บทที่ 2 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีการศึกษา

Search

Read the Text Version

บทที่ 2ความรู้เบ้อื งตน้ เกี่ยวกบั เทคโนโลยกี ารศกึ ษา

เน้ือหา เทคโนโลยี ความเป็นมาและพัฒนาการของเทคโนโลยี แนวคดิ ทฤษฎแี ละพัฒนาการของเทคโนโลยีการศกึ ษา พัฒนาการเทคโนโลยกี ารศกึ ษาในประเทศไทย ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนา ICT ของประเทศไทย ปรชั ญาแนวคิดและทฤษฎที างเทคโนโลยกี ารศึกษา ขอบขา่ ยของเทคโนโลยกี ารศกึ ษา

ความหมายของเทคโนโลยีเทคโนโลยี หมายถงึ การนาแนวคดิ หลกั การ เทคนคิ วิธกี าร กระบวนการตลอดจนผลติ ผลทางวิทยาศาสตร์มาประยกุ ต์ใชใ้ นระบบงานตา่ งๆ อนั จะเอ้อื อานวยในด้านตา่ งๆ ดังน้ี ด้านประสทิ ธิภาพ (Efficiency) ดา้ นประสิทธผิ ล (Effectiveness) ประหยัด (Economy) ปลอดภยั (Safety)

ความเป็นมาและพฒั นาการของเทคโนโลยี รากฐานของเทคโนโลยกี ารศกึ ษา เร่ิมจากสมยั กรกี คาวา่ Technologia หมายถงึ การกระทาอยา่ งเปน็ ระบบ หรืองานฝมี ือ(Craft) โดยกลุ่ม “โซฟสิ ต์” (Sophist) ซึ่งแปลวา่ “ผ้รู ู้” หรอื “ผูท้ รงภูมิปัญญา” กลุ่มโซฟิสตส์ ่วนใหญจ่ ะมอี าชีพเป็นครรู บั จา้ ง ทาหนา้ ที่สอนทกั ษะและความร้ตู า่ งๆ ใหก้ บั เยาวชนของเอเธนส์ พวกเขาไดร้ ับความเช่ือถอื จากคนในสงั คมเปน็ อย่างมาก ไดร้ บั การยอมรับวา่ เปน็ ผ้ทู ่ีมีความฉลาดปราดเปร่ืองในเรอ่ื งการอภิปราย โตแ้ ยง้ ถกปัญหา จนได้รบั ขนานนามว่าเป็น นกั เทคโนโลยีการศึกษากลุ่มแรก

ผ้นู ิยามพฒั นาการของเทคโนโลยกี ารศึกษา ฟรานซิส เบคอน (ค.ศ.1561-1626) เปน็ ผู้สนับสนนุ วธิ ใี หม่ ๆ แบบ Realism คือหันมายดึ วัตถุและ ความคิด โดยเสนอแนะว่า การเรียนการสอนนนั้ ควรให้ผู้เรียนได้รจู้ ักสงั เกต พิจารณา เหตุผลในชวี ติ จรงิ โดยครเู ป็นผนู้ าให้นกั เรยี น คิดหาวิธแี กป้ ัญหาซึ่งจะต้องอาศัยการสังเกตพจิ ารณานน่ั เอง ไมใ่ ชค่ รเู ป็นผูบ้ อกเสยี ทกุ อยา่ ง

ความเปน็ มาและพัฒนาการของเทคโนโลยี โจฮนั อะมอส คอมินิออสุ Johann Amoss Cominius (1592-1670) เปน็ ผู้ท่ีใชว้ สั ดุส่ิงของที่เปน็ ของจริงและรปู ภาพเข้ามาชว่ ยสอนอยา่ งจริงจัง และได้แต่งหนังสือมากมายที่สาคญั คือ Obis Sensualium Pictus หรือเรียกวา่ โลกในรูปภาพ ซึง่ เปน็ หนงั สือท่ีมีรูปภาพประกอบบทเรียน และไดร้ ับขนานนามว่าเปน็ บิดแหง่ โสตทศั นศกึ ษา

 โจฮนั น์ อะมอส คอมินอิ ุส (Johannes Amos Comenius ค.ศ.1592- 1670) เปน็ ผทู้ ่พี ยายามใชว้ ัตถุ สิ่งของช่วยในการสอนอยา่ งจรงิ จงั จนไดร้ ับเกียรติวา่ เป็น บิดาแห่งโสตทัศนศึกษา คอมนิ ิอสุ ได้แต่ง หนงั สอื สาคัญ ๆ ไวม้ ากมาย ทสี่ าคญั ย่งิ คอื หนงั สือ \"โลกในรูปภาพ\" ซง่ึ พมิ พค์ รัง้ แรก ในปี ค.ศ.1685 เปน็ หนังสือทใี่ ช้รูปภาพประกอบ บทเรยี น ถึง 150 ภาพ ซง่ึ นบั วา่ เปน็ การใชท้ ัศนวสั ดุ ประกอบการเรยี นเปน็ ครั้งแรก

ความเปน็ มาและพฒั นาการของเทคโนโลยี พัฒนาทฤษฎกี ารเรียนรูอ้ ย่างเปน็ วทิ ยาศาสตร์ โดยเริม่ ทดลองกบั สัตว์ “อนิ ทรยี ส์ รา้ งความสัมพันธ์ เชือ่ มโยงระหวา่ งสงิ่ เรา้ (Stimulus) และการสนองตอบ (Response)”ธอร์นไดค์ ( Edward L. Thorndike,1898 )

 ธอร์นไดค์ (thorndike) เป็นนกั จิตวทิ ยาการศกึ ษาชาวอเมริกัน ทีใ่ ชว้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยีทางการศกึ ษาประกอบ หลักการทางจิตวทิ ยา โดยไดท้ ดลองทางจติ วทิ ยาเก่ียวกบั การตอบสนองของสตั ว์และมนุษย์ เขาได้ออกแบบส่อื การสอน เพอื่ ใหต้ อบสนองเรือ่ งความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล โดยเฉพาะ อย่างยิง่ การสอนแบบโปรแกรมจงึ ได้ชื่อว่า เปน็ คนแรกที่รเิ ร่ิม เทคโนโลยกี ารศกึ ษาแนวใหม่

 บี เอฟ สกนิ เนอร์ (B.F.Skinner) เปน็ ผู้ใชแ้ นวความคิดใหมท่ างจิตวิทยาเก่ยี วกบั สง่ิ เรา้ และ ผลตอบสนองโดยคานงึ ถึงธรรมชาติของมนษุ ย์ เขาไดท้ าการ ทดลองกับสัตว์โดยฝกึ เปน็ ข้นั ๆ เป็นผู้ท่ีมชี ื่อเสยี งในการสอน แบบโปรแกรม และเป็นผ้ทู ่คี ดิ เครอ่ื งช่วยสอนไดเ้ ปน็ ผลสาเรจ็ เปน็ คนแรก แนวคดิ ทางเทคโนโลยีการศึกษาปจั จบุ นั ได้ รากฐานมาจากแนวความคดิ ของสกนิ เนอร์เป็นส่วนมาก

ความเป็นมาและพฒั นาการของเทคโนโลยี เสนอแนวทฤษฎกี ารวางเงือ่ นไข (Operant Conditioning) ซงึ่ มีรากฐานมาจากแนวคิดของ ธอรน์ ไดค์ “เน้นการเสรมิ แรงในการเชอ่ื มโยง ระหวา่ งส่งิ เร้ากบั การตอบสนอง” “แนวคิดของ Skinner เปน็ ทม่ี าของวธิ ี ระบบ (System Approach) ในการออกแบบ (Design) การพฒั นา (Development) การประเมิน (Evaluation) และการปรบั ปรุง (Revise)”บี เอฟ สกนิ เนอร์ (B. F. Skinner,1950-60)

ความเป็นมาและพัฒนาการของเทคโนโลยี  แฟรงคลนิ (Franklin Bobbilt,1920-30) พัฒนาการสอนรายบุคคล “เป้าหมายของโรงเรียน ควรมา จากพน้ื ฐานการวเิ คราะห์ทักษะทจ่ี าเปน็ สาหรับชวี ติ ที่ประสบความสาเรจ็ ”

ความเปน็ มาและพฒั นาการของเทคโนโลยี จาแนกวัตถุประสงค์ทางการศกึ ษา เปน็ ลาดบั ข้ันทีช่ ัดเจน (Taxonomy of Educational Objectives)“ ใชท้ ัว่ ไปในกลมุ่ สาขาศกึ ษาศาสตร์จนถงึ ปัจจุบัน”เบนจามิน บลูม ( Benjamin Bloom,1956)

ความเปน็ มาและพฒั นาการของเทคโนโลยี ปรับปรงุ กระบวนการการเขยี น วัตถปุ ระสงค์การสอน “วัตถุประสงค์การสอนเชิงพฤตกิ รรม (Student Behaviors)ประเมนิ เพือ่ ปรับปรงุ ”ไทเลอร์ (Ralph W. Tyler,1930)

ความเป็นมาและพฒั นาการของเทคโนโลยี นาเสนอแนวคิดทางพุทธปิ ญั ญา(Cognitive Theories) มาใชใ้ นการออกแบบการสอน “ศึกษาความเข้าใจ (Understand) ท่ีเกดิ ขึ้นใน จติ ใจ (Mind)” “ปลายปี ค.ศ. 1960 การออกแบบการสอนไดร้ ับ การยอมรบั วา่ เป็นสาขาวิชา” เกดิ คาวา่ “Instructional System”โรเบิร์ต กาเย ( Robert Gagne,1960)

1. แนวคิดทฤษฎแี ละพฒั นาการของเทคโนโลยกี ารศกึ ษาความหมายเทคโนโลยที างการศกึ ษา Techno มาจากภาษากรกี วา่ Technologia หมายถงึ ศลิ ปะ วิทยาศาสตร์ หรอื ทกั ษะ (art science or skill) และมาจากภาษาลาตนิ วา่ Texere หมายถึงการสานหรือการสรา้ ง (กดิ านันท์ มลทิ อง, 2540) Good C. (1973) การนาหลกั การทางวทิ ยาศาสตร์มาประยกุ ตใ์ ชเ้ พอื่ การ ออกแบบและส่งเสรมิ ระบบการเรียนการสอน โดนเนน้ ท่วี ัตถุประสงค์ ทางการศึกษาที่สามารถวดั ได้อยา่ งถูกตอ้ งแนน่ อน มกี ารยึดหลักผู้เรียนเป็น ศูนยก์ ลางการเรยี น มีการใชก้ ารศกึ ษาเชงิ ปฏิบัตโิ ดยผา่ นการวเิ คราะหแ์ ละ การใชโ้ สตทัศนูปกรณ์รวมถงึ เทคนิคการสอนโดยใช้คอมพวิ เตอร์ และ อุปกรณ์อน่ื ๆ

1. แนวคดิ ทฤษฎแี ละพฒั นาการของเทคโนโลยกี ารศึกษาความหมายเทคโนโลยีทางการศกึ ษา Gane and Briggs (1974) กลา่ ววา่ เทคโนโลยกี ารศกึ ษา พฒั นาจากการ ออกแบบการเรยี นการสอนรปู แบบต่าง ๆ ทีส่ มั พนั ธ์กบั พฤตกิ รรมศาสตร์ ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ เทคโนโลยดี ้านวทิ ยาศาสตร์กายภาพ และความสนใจใน เรยี นรู้ของแตล่ ะบุคคล AECT (1977) ไดใ้ ห้คานิยามไว้วา่ เทคโนโลยีการศกึ ษาเปน็ สิ่งทซี่ ับซ้อน เปน็ กระบวนการบูรณาการท่ีเก่ยี วกบั มนุษย์ วิธีดาเนนิ การ แนวคิด เครอื่ งมือ และอปุ กรณ์ เพ่ือการวิเคราะห์ปัญหา การคิดวธิ กี ารนาไปใช้ การประเมนิ และการจดั แนวทางการแก้ปญั หาในส่วนทเี่ กย่ี วกับการเรียนรทู้ ง้ั มวลของ มนุษย์

แนวคิดทฤษฎีและพฒั นาการของเทคโนโลยกี ารศึกษาความหมายเทคโนโลยที างการศึกษา กดิ านันท์ มลทิ อง (2540) ได้ให้ความหมายว่า เทคโนโลยีการศึกษาเปน็ การ ประยกุ ตเ์ อาแนวคิด เทคนิค วิธกี าร วัสดุ อุปกรณ์ การจดั ระบบสารสนเทศ และ สิ่งตา่ ง ๆ มาใชใ้ นการศึกษาใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพสงู สดุ เพ่ือพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์ และกระตนุ้ ใหผ้ ูเ้ รียนเกดิ การเรยี นร้ตู ลอดชีวติ ท้งั ในและนอกหอ้ งเรยี น ชยั ยงค์ พรหมวงศ์ (2545) ไดใ้ หค้ วามหมายวา่ เทคโนโลยีการศกึ ษาเปน็ ศาสตร์ ว่าด้วยวธิ กี ารหรอื การศกึ ษา เปน็ เร่ืองของระบบในการประยุกต์เอาเทคนคิ วธิ กี าร แนวความคดิ อปุ กรณ์และเคร่ืองมือใหมๆ่ มาใชเ้ พ่อื ชว่ ยแกป้ ัญหาทางการศกึ ษา ทั้งในดา้ นการขยายงานและดา้ นการปรบั ปรุงคณุ ภาพของการเรยี นการสอน

1. แนวคิดทฤษฎแี ละพัฒนาการของเทคโนโลยกี ารศกึ ษาสรุปความหมายเทคโนโลยที างการศกึ ษา จากพจนานกุ รมศัพท์ทางการศกึ ษาไดใ้ หค้ วามหมายของเทคโนโลยี การศึกษาวา่ เป็นกระบวนการทซ่ี บั ซอ้ นและประสานสมั พนั ธ์อย่างมีบรู ณา การ ระหว่างบุคคล วธิ กี าร เครื่องมอื และการจัดระบบองค์การสาหรับ วิเคราะหป์ ัญหา วิธแี ก้ปัญหา ดาเนินการประเมนิ ผล และการจดั การ แกป้ ญั หาเหลา่ นนั้ ซ่ึงเปน็ ปญั หาทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั ทกุ ลักษณะของการเรยี นรู้ (สุ วทิ ย์ และคณะ, 2540)

2. ความสาคัญของเทคโนโลยที างการศกึ ษาท่มี ตี ่อการศึกษา ทาใหก้ ารเรยี นการสอนและการจดั การศึกษามีความหมายมากขึ้น ตอบสนองในด้านความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลได้ ทาให้การจดั การศกึ ษา ต้งั อยู่บนรากฐานของวิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ ชว่ ยให้การจดั การศึกษามีพลงั มากข้ึน ทาใหก้ ารเรยี นรอู้ ยแู่ คเ่ ออ้ื ม ทาใหเ้ กดิ ความเสมอภาคทางการศกึ ษา

Singapore and Korea are ahead of thecurve.Benchmarking IT Adoption Country India China Brazil Russia Singapore KoreaKPILeadershipSponsorship?Strategy in Place?Internet Access inSchools?Program for ICT teachertraining?Integration of ICT intoCurriculum?Piloting innovativetechnologies?

Example: Master Plan Korea Computer Education Initial Infra ICT Utilization e-Learning u-Learning Stage Stage Stage Stage Stagevision 1987 ~ 1995 1996 ~ 2000 2001 ~ 2003 2004~2005 2006 ~ present Computer Ed Infra Structure ICT Integration e-Learning HRD opportunity (World Class ICT (Enhance effect (Realize (World-class (ICT Literacy) educational environment) & Quality of Education competitiveness) Education) Welfare)Characteristic •Introduction & • ICT infrastructure •Digital Textbook in all schools • Content • Cyber Home • Future education expansion of - 1 PC : 1 teacher development & Learning System - Internet access distribution R&D computer to classrooms - Standardization • EBS video - u-Learning/u-Class - Education streaming content - Augmented reality education in • Education Resources information Sharing (ERS) • KEM as contents curriculum(K-12) service system : Environment guideline on •Teacher training EDUNET Korean educational • ICT integrated • Teaching & metadata for ERS curriculum Program • ICT literacy Learning Center •CAI program education • Ed Information •Comprehensive • e-Administration disclosure system NEIS • ECSC Support by • Global Partnership • Teacher training Government for ICT use for ICT in Education Computer Education Master Plan I Master Plan II Master Plan III Plan

ICT tools are widely used in secondary education, butonly Singapore and Korea do in an integrated way.Sample of ICT Tools in Secondary Education – non exhaustiveIndia China Brazil Russia Singapore Korea• Radio • Computer • Shared • Information • Open • White- Labs elearning Services source &Programs platforms open boards •Broadcasting • Computer contentsInfor• Computer via Satellite • TV School Radio mation • DigitalAssisted Services TextbooksLearning • Online • Digital • elearningCenters Course Library platforms • persona- • Digital Warehouse lized learning Library• Multi-media • Educational • Computer devicesCD‘s • Distant Software on Wheels • Cyber Home education • interactive Learning• Village programs • Computer • Computer software and ContentTelecentres/ Labs Labs digital contentKiosks • Multimedia • Web 2.0 • Information • gaming, based• Computer • CD-Roms Services programming integratedon Wheels tools, 3D Education • Computer Modelling Information• Broad- on Wheels services dorcasting via & animation student, teacher &Satellite • Web 2.0 parents

พฒั นาการเทคโนโลยีการศึกษาในประเทศไทย เทคโนโลยีการศกึ ษาของไทยมกี ารพฒั นาการมา 3 ยคุ คือ 1. ยุคแรกสมยั กรงุ สโุ ขทยั จนถงึ สมยั กรงุ ธนบรุ ี ยคุ นเี้ ปน็ ยุค เร่มิ ต้นของการพัฒนาเทคโนโลยที างการศกึ ษาของไทย ใน สมัยสุโขทัย พอ่ ขุนรามคาแหงมหาราชทรงประดษิ ฐ์อกั ษรไทย เพราะตวั อกั ษรเป็นพื้นฐานที่สาคัญในการเผยแพร่วิทยาการ ตา่ งๆ ใหก้ ้าวหนา้ ยิง่ ขึ้น

http://numkhingzz.exteen.com/20120514/entry

พฒั นาการเทคโนโลยกี ารศกึ ษาในประเทศไทย 2. เทคโนโลยีการศึกษายคุ ปรับเปล่ียน ในยคุ น้นี ับต้งั แตส่ มัย พระพุทธยอดฟา้ จฬุ าโลกคร้ังท่ี 2 จนถงึ ปจั จบุ ัน สหรฐั อเมรกิ า ได้เขา้ มามอี ทิ ธพิ ลในประเทศไทยมากข้นึ แทนองั กฤษและ ฝรง่ั เศส สหรัฐอเมริกาไดน้ าเทคโนโลยีการศึกษาสมัยใหม่ หลายอย่างมาเผยแพรใ่ นประเทศไทย เริม่ ต้นด้วยภาพยนตร์

Ebook ประวัตศิ าสตร์ภาพยนตร์ https://www.youtube.com/watch?v=bPkYNGVN3UY

พัฒนาการเทคโนโลยีการศึกษาในประเทศไทย 3. ยุคสารสนเทศ เทคโนโลยีการศกึ ษาในยคุ สารสนเทศ เป็นยคุ ทีค่ อมพวิ เตอร์เขา้ มามี บทบาทในการสอื่ สารคือเร่มิ ตง้ั แต่ พ.ศ. 2530 เป็นตน้ มา อิทธิพล ของคอมพวิ เตอร์ท่ีมตี ่อการส่อื สารและสงั คมทาใหบ้ ทบาทของ เทคโนโลยกี ารศึกษา 1) เทคโนโลยีดา้ นสอื่ 2) เทคโนโลยกี ารสื่อสาร 3) เทคโนโลยดี ้านระบบ 4) เทคโนโลยีการสอน

ASEAN ICT Masterplan 2015

ASEAN ICT Masterplan 2015

อนั ดบั ของการจดั ลาดบั การพฒั นาดา้ น ICT

ยุทธศาสตร์การพัฒนา ICT ของประเทศไทยในระยะพ.ศ.2557-2561

5. ปรัชญาแนวคิดและทฤษฎีทางเทคโนโลยีการศึกษา กลมุ่ สารนยิ ม กล่มุ น้เี ชอ่ื ว่าการศึกษาตอ้ งถ่ายทอดเนอื้ หาสาระแกผ่ เู้ รียน มากท่ีสุด ครูและตาราจงึ เปน็ แหล่งความรหู้ ลกั กลุ่มจรยิ นยิ ม เช่อื ในความดแี ละการอบรมจิตใจเป็นแนวทางใหเ้ กดิ การ เรียนรู้ ซ่งึ เทคโนโลยกี ารศกึ ษานามาใชใ้ นฐานะวธิ กี าร กลุม่ พิพฒั นาการนิยม ถือวา่ สาระสาคญั นอ้ ยกวา่ ใหผ้ เู้ รยี น เรยี นรู้จาก ประสบการณแ์ ละลงมือปฏบิ ตั ิกจิ กรรมผา่ นส่ือ กลุม่ น้เี ชือ่ ว่าเทคโนโลยี การศึกษาเปน็ เครอ่ื งมือสาคญั ในการเรยี นรขู้ องผูเ้ รยี น

ปรัชญาแนวคิดและทฤษฎีทางเทคโนโลยีการศึกษา กลมุ่ สวภาพนิยม กลมุ่ น้จี ัดการเรียนรูต้ ามความสามารถ ความสนใจ และ ความพรอ้ มของผูเ้ รียน ยดึ ความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล สรา้ งสภาพแวดลอ้ ม ทเ่ี หมาะสม ยดึ การศกึ ษาระบบเปิด เสรภี าพในการศกึ ษา (ชัยยงค,์ 2533: 42) กลมุ่ มนษุ ย์นยิ มแนวใหม่ เนน้ ความรัก ความเมตตา ความสันตสิ ขุ ในสงั คม เนน้ การทาความเขา้ ใจธรรมชาติและกฎธรรมชาติ รูจ้ ักประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยี ในการแก้ปัญหาอยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม กลมุ่ สังคมปราศจากโรงเรยี น เชื่อวา่ การเรยี นรู้เกดิ ขน้ึ ไดต้ ลอดเวลา ตลอด ชีวติ และเกดิ ไดท้ กุ สถานทไ่ี มจ่ าเปน็ ต้องเกดิ ในโรงเรียน แนวคดิ นท้ี าใหเ้ กิด การศกึ ษาตลอดชวี ติ การศกึ ษาทางไกล และ Home School

5. ปรชั ญาแนวคิดและทฤษฎที างเทคโนโลยีการศึกษา กลุ่มโรงเรยี นระบบสัญญา หรือการศกึ ษาชุมชน เปน็ การจดั การศกึ ษาเพอื่ ตอบสนองความต้องการของชุมชน ให้เด็กเป็นศูนย์กลางการเรยี นรู้ กลุม่ การเรียนปนเล่น (PLearn) เปน็ การเรยี นร้จู ากการเลน่ ทากจิ กรรมอย่าง มีความสขุ นาไปสู่การคิดสงั เคราะห์ สอดคลอ้ งกบั ความถนดั โดยอาศยั ทรพั ยากรการเรียนร้ทู ี่หลากหลาย (ไพพรรณ, 2543: 63-65) กลุ่ม Determinist มแี นวคดิ วา่ เทคโนโลยีมพี ลงั อสิ ระเกนิ กว่าที่มนษุ ยจ์ ะ ควบคุมไดท้ าให้เกิดการเปลย่ี นแปลงทางสงั คม ซึง่ มีทั้งผลดแี ละผลรา้ ย กลมุ่ Instrumentalism มีแนวคดิ ว่า เทคโนโลยอี ยูท่ ี่การควบคมุ และการใช้ ของมนษุ ย์ เนน้ ความตอ้ งการและการยอมรบั ของผรู้ ับเทคโนโลยี (กฤษมันต์, 2546: 4-6)

6. ปัจจัยท่ีมผี ลต่อเทคโนโลยีการศึกษา 1. ดา้ นทรัพยากรการเรียนรู้ 2. ด้านการบรหิ ารและการจัดการ 3. ด้านนโยบาย และแผนงาน 4. ด้านแนวคิด ทฤษฎี ปรชั ญา และกระบวนทศั น์ 5. ด้านเศรษฐกจิ สังคม และวฒั นธรรม 6. ดา้ นวิจัย พฒั นา ประชาสัมสมั พันธแ์ ละเผยแพร่ 7. ดา้ นการประเมินเทคโนโลยีการศกึ ษา 8. ปัจจยั อน่ื ๆ ทม่ี ผี ลตอ่ เทคโนโลยกี ารศกึ ษา

ปจั จัยอน่ื ๆ ท่ีมีผลตอ่ เทคโนโลยีการศึกษา 1. ปัจจัยดา้ นสภาพปญั หาการศกึ ษา 2. ปจั จยั ด้านจานวนประชากรและความตอ้ งการเรยี นรู้ 3. ปัจจัยด้านสภาพสงั คม 4. ปัจจัยด้านโยบายและแผน

ปัจจยั อ่ืนๆ ที่มีผลตอ่ เทคโนโลยกี ารศกึ ษา1. ปจั จัยดา้ นสภาพปัญหาการศกึ ษา ตอ้ งการให้การศึกษามีคณุ ภาพดขี นึ้ คิดคน้ ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ การสรา้ งองค์ความรดู้ ้วยตนเอง ทฤษฎีการจัดระบบ พฒั นาแนวคดิ ของส่ือและวธิ กี ารเรยี นรู้ พัฒนาทฤษฎแี ละแนวคดิ ดา้ นบรหิ ารจัดการ คิดคน้ งานวจิ ัยและพัฒนาการประเมิน พฒั นาทฤษฎีการเผยแพรแ่ ละยอมรับนวตั กรรม

ปัจจัยอ่ืนๆ ทม่ี ีผลต่อเทคโนโลยีการศกึ ษา2. ปจั จัยด้านจานวนประชากร และความตอ้ งการเรยี นรู้ ทาให้เกิดแนวคดิ การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรูต้ ลอดชวี ิต การสอนทางไกล การสอบสอนผ่านส่ือสมยั ใหม่ สอนผ่านสอ่ื บุคคล สื่อมวลชน ทุกคนสามารถเรยี นไดท้ กุ ทที่ ุกเวลา

ปัจจัยอนื่ ๆ ที่มผี ลต่อเทคโนโลยีการศึกษา3. ปจั จยั ด้านสภาพสงั คม ทาใหพ้ ัฒนาทฤษฎแี ละแนวคดิ การคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์คิดวพิ ากษค์ ดิ สร้างสรรค์ ทฤษฎีการตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหา พฒั นาทักษะชวี ติ แนวคดิ ที่จะอยใู่ นสงั คมอย่างมคี วามสุข มีจรยิ ธรรมและคา่ นิยมท่ีถกู ต้อง รบั ผดิ ชอบต่อตนเองและสังคม เกิดทฤษฎเี ศรษฐกิจพอเพยี ง หันกลับมาเห็นความสาคัญของศาสนาและท้องถนิ่ เช่น ภมู ปิ ญั ญาท้องถิ่น การศกึ ษากับชมุ ชน

ปัจจัยอ่ืนๆ ทมี่ ีผลต่อเทคโนโลยกี ารศึกษา4. ปัจจยั ด้านโยบายและแผน พระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ (พ.ศ.2555-2559) แผนพัฒนาการศกึ ษาระดบั อุดมศึกษา ฉบบั ท่ี 11 (พ.ศ.2555-2559)

ขอบข่ายของเทคโนโลยกี ารศกึ ษาการออกแบบ การใช้ การจดั การการพัฒนา ขอบข่าย การประเมิน

ขอบข่าย และองคป์ ระกอบทม่ี คี วามสาคัญต่อเทคโนโลยที างการศกึ ษาในการศึกษาในยคุ ปจั จบุ นั1. การออกแบบ (design) คอื กาหนดสภาพการเรยี นรู้ การออกแบบระบบการสอน (instructional systems design) ออกแบบสาร (message design) กลยทุ ธก์ ารสอน (instructional strategies) ลักษณะผู้เรียน (learner characteristics)

ขอบขา่ ย และองค์ประกอบที่มคี วามสาคญั ต่อเทคโนโลยีทางการศึกษาในการศกึ ษาในยคุ ปัจจบุ ัน2. การพัฒนา (development) กระบวนการเปล่ยี นการออกแบบ เทคโนโลยสี ิ่งพิมพ์ (print technologies) เทคโนโลยีโสตทศั นปู กรณ์ (audiovisual technologies) เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ (computer – based technologies) เทคโนโลยีบูรณาการ (integrated technologies)

ขอบขา่ ย และองคป์ ระกอบท่มี ีความสาคญั ต่อเทคโนโลยที างการศึกษาในการศกึ ษาในยคุ ปจั จบุ นั3. การใช้ (utilization) ใช้กระบวนการ และแหล่งทรพั ยากรเพ่อื การเรยี นการสอน การใชส้ อ่ื การแพร่กระจายนวัตกรรม วิธกี ารนาไปใช้ และการจัดการ นโยบาย หลักการและกฎระเบยี บขอ้ บังคับ

ขอบข่าย และองค์ประกอบท่มี คี วามสาคญั ตอ่ เทคโนโลยีทางการศกึ ษาในการศกึ ษาในยุคปัจจบุ นั4. การจดั การ (management) ควบคุมกระบวนการทาง เทคโนโลยีการศกึ ษา ตลอดจนการวางแผน การจัดการ การประสานงาน และการให้คาแนะนา การจัดการโครงการ การจัดการแหล่งทรัพยากร การจดั การระบบสง่ ถา่ ย การจดั การสารสนเทศ

ขอบข่าย และองค์ประกอบทมี่ คี วามสาคญั ต่อเทคโนโลยที างการศกึ ษาในการศึกษาในยุคปัจจบุ นั 5. การประเมนิ (evaluation) หาขอ้ มูลเพื่อกาหนดความ เหมาะสมของการเรยี นการสอน การวิเคราะห์ปัญหา เกณฑ์การประเมิน การประเมินความกา้ วหน้า การประเมินผลสรปุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook