รายงานผล โครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trannier วนั ที่ 25-26 มิถนุ ายน 2563 ณ แปลงเรยี นรตู้ ามระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ (พืชผกั ) หมู่ 3 ตาบลสัตหบี อาเภอสตั หบี จังหวัดชลบรุ ี ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอสตั หีบ สานักงาน กศน.จงั หวัดชลบรุ ี
คำนำ จากการท่ีศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสัตหีบ กศน.ตาบลสัตหีบ ได้จัดทาโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier เพ่ือตอบสนองต่อนโยบายของสานักงาน กศน. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพ่ือส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้เพิ่มมากขึ้นและสามารถเป็นเกษตรกร ปราดเปรื่อง Smart Farmer สามารถปรับเปล่ียนไปทาเกษตรตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทาให้ สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ ซึ่งโครงการดาเนินการจัดในวันที่ 25-26 มิถุนายน 2563 ณ แปลงเรียนรู้ตาม ระบบส่งเสรมิ เกษตรแบบแปลงใหญ่ (พืชผัก) หมู่ 3 ตาบลสัตหีบ อาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โครงการนี้ได้ วิทยากร เกษตรกรต้นแบบ Master Trannier มาให้ความรู้ให้กับชุมชนตาบลสัตหีบ เพื่อให้ผู้เข้าอบรม สามารถนาความรทู้ ี่ได้รบั ไปประยกุ ต์ใช้ในการทางานไดจ้ รงิ โครงการดงั กลา่ วไดด้ าเนนิ การเสร็จส้นิ ไปได้ด้วยดี ซงึ่ รายละเอยี ดผลการดาเนินงานตา่ งๆ ตลอดจนปัญหาและอุปสรรค ได้สรุปไว้แล้ว เพ่ือรวบรวมกระบวนการ ดาเนนิ งาน ผลท่ีได้นาไปใช้ ตลอดจนการพฒั นาเพ่อื ให้สอดคล้องกับสภาพวิถีชีวิต และการตอบสนองความ ต้องการของผเู้ ขา้ รบั การฝึกอบรม สุดท้ายคือ การนาไปใช้ประโยชน์อย่างแท้จริงและสามารถแนะนาผู้อ่ืนได้ เพือ่ ให้เกดิ การพฒั นาคุณภาพชวี ิตอยา่ งตอ่ เนอื่ ง รายงานผลการดาเนินงานเล่มนี้ หวงั เป็นอย่างย่ิงว่าคงจะมีประโยชน์บ้างสาหรับผู้ที่ต้องการศึกษาหา ข้อมูล เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดอบรมในลักษณะนี้ และถ้ามีส่ิงหน่ึงสิ่งใดขาดตกบกพร่อง คณะผู้จัดทา ขอนอ้ มรบั ไว้ เพ่ือจะปรับปรงุ ในโอกาสตอ่ ไป กศน.ตาบลสตั หีบ กรกฎาคม 2563
สำรบญั บทท่ี หน้ำ บทท่ี 1 บทนำ ...........................................................................................................................................1 ความเป็นมาและความสาคัญ........................................................................................................1 วตั ถปุ ระสงค์.................................................................................................................................1 เปา้ หมาย......................................................................................................................................2 ระยะเวลาดาเนินงาน....................................................................................................................2 ดชั นีวดั ผลสาเร็จของโครงการ ......................................................................................................2 บทท่ี 2 เอกสำรกำรศกึ ษำและรำยงำนทเี่ ก่ยี วขอ้ ง...................................................................................3 ยทุ ธศาสตรแ์ ละจุดเนน้ การดาเนินงาน สานักงาน กศน.ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 ............3 แนวทาง/กลยุทธก์ ารดาเนินงาน ของ กศน.ตาบลสัตหบี ..............................................................9 เอกสาร/งานวจิ ยั ทเี่ กี่ยวข้อง .........................................................................................................24 บทที่ 3 วธิ ดี ำเนินงำน ...............................................................................................................................26 ประชุมบคุ ลากรกรรมการสถานศกึ ษา ..........................................................................................26 แต่งตั้งคณะทางาน........................................................................................................................26 ดาเนินงานตามแผน ......................................................................................................................26 การวิเคราะห์ขอ้ มลู .......................................................................................................................27 บทท่ี 4 ผลกำรดำเนนิ งำนและกำรวิเครำะห์ขอ้ มูล..................................................................................28 ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลสว่ นตัวผู้แบบสอบถามของผูเ้ ข้ารบั การอบรมในโครงการขยายผลเกษตรกร ตน้ แบบ Master Trannier ..........................................................................................28 ตอนท่ี 2 ข้อมูลเก่ยี วกบั ความคิดเห็นทีม่ ตี อ่ โครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trannier.......................................................................................................................29 บทท่ี 5 สรปุ ผลกำรประเมิน อภปิ รำยผล และขอ้ เสนอแนะ......................................................................30 สรปุ ผลการดาเนนิ งาน.....................................................................................................................30 อภิปรายผล.....................................................................................................................................30 ขอ้ เสนอแนะ.................................................................................................................................31 บรรณำนุกรม ภำคผนวก
สำรบญั ตำรำง ตำรำงที่ หนำ้ 1 แสดงคา่ ร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามเพศ...................................................28 2 แสดงคา่ รอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอายุ ..................................................28 3 แสดงค่ารอ้ ยละของผ้ตู อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอาชพี ................................................28 4 ผลการประเมนิ โครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trannier ....................................29
บทสรุปผบู้ รหิ ำร โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier จัดข้ึนในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา ศักยภาพเกษตรกรให้มอี งคค์ วามรดู้ ้านการบริหารจดั การงานเกษตรและการเกษตร เชิงท่องเท่ียวเพ่ิมขึ้น และ ให้เกษตรกรต้นแบบ (Master Trannier) ได้ไปขยายผลการอบรมประชาชนให้เป็นเกษตรกรปราดเปร่ือง Smart Farmer โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ประชาชนท่ัวไปในพื้นที่ตาบลสัตหีบ จานวน 17 คน โดยจะใช้ กลุ่มเป้าหมายทั้งหมดในการคานวณโดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูปคอมพิวเตอร์ (โปรแกรมตารางคานวณ) เพื่อ สรุปผลการดาเนินงานในครัง้ น้ี วิธีการดาเนินงาน โดยการสารวจความต้องการของประชาชนและนาผลจากการสารวจมาจัดทา กิจกรรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier ให้กับประชาชนทั่วไปในพ้ืนท่ีตาบลสัตหีบ จานวน 17 คน ในวันท่ี 25-26 มิถุนายน 2563 ณ แปลงเรียนรู้ตามระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ (พชื ผัก) ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี นายเกรียงศักด์ิ คีรีรัตน์เวทย์ นายสนอง สุภาผล และนายสกนธ์ นพรเกตุประธาน เป็นวิทยากร นาลงพ้ืนที่ศึกษาดูงานในครั้งน้ี หลังจากการจัดกิจกรรมโครงการแล้วมีการ แจกแจงแบบประเมินความพึงพอใจ สาหรับผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด จานวน 17 ชุด แล้วนาข้อมูลที่ได้มา คานวณทางสถิติ หาคา่ รอ้ ยละ ค่าเฉลี่ย และคา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน ในการแปรผล ผลการดาเนินงาน จากการนาข้อมูลที่ได้มาทาการคานวณหาค่าสถิติต่างๆ สรุปว่า ผู้เข้าร่วม กจิ กรรม มคี วามพงึ พอใจอยูใ่ น ระดบั 4.64 (มากที่สดุ )
บทท่ี 1 บทนำ หลักกำรและเหตุผล ตามที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร โดยชี้นาเกษตรกร ไทยต้องเป็น Smart Farmer คือ ต้องนาความรู้ หลักวิชาการ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาช่วยในการทา การเกษตร โดยต้องทาให้น้อยลง ได้ผลผลิตมากขึ้น ใช้พื้นที่ให้น้อยลง ใช้น้าให้น้อยลง ผลผลิตเพิ่มขึ้น ในปงี บประมาณ 2562 สานักงาน กศน.จังหวัดชลบุรี ได้รับงบประมาณในการพัฒนาศักยภาพการ ผลิตภาคการเกษตร การสร้างองค์ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายให้มีความรู้ ความชานาญอย่างต่อเน่ืองสามารถ ขยายผลแก่ผู้อื่นได้ เป็นความจาเป็นที่จะต้องดาเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ มุ่งเน้นการสร้าง สมดุลระหว่างการพัฒนาความมั่นคง สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในรูปแบบ “ประชารฐั ” โดยยุทธศาสตรช์ าติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มีเป้าหมายการพัฒนาที่มุ่งเน้นการ ยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ บนพื้นฐานแนวคิด 3 ประการ ได้แก่ (1) “ต่อยอดอดีต” โดยมองกลับไปท่ีรากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตและจุดเด่นทา ทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย รวมท้ังความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศในด้านอื่น ๆ นามา ประยุกต์ผสมผสานกบั เทคโนโลยีและนวตั กรรม เพอ่ื ใหส้ อดกับบริบทของเศรษฐกิจและสังคมโลกสมัยใหม่ (2) “ปรับปัจจุบัน” เพื่อปูทางสู่อนาคตผ่านการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐานของประเทศในมิติต่าง ๆ ท้ังโครงข่าย ระบบคมนาคม และการขนสง่ โครงสรา้ งพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและดิจทิ ัล และปรับสภาพแวดล้อมให้ เออ้ื ต่อการพฒั นาอตุ สาหกรรมและบริการอนาคต และ (3) “สร้างคุณค่าใหม่ในอนาคต” ด้วยการเพิ่มศักยภาพ ของผู้ประกอบการ พฒั นาคนรุ่นใหมร่ วมถึงปรบั รูปแบบธรุ กจิ เพอ่ื ตอบสองความต้องการของตลาด ผสมผสาน กับยุทธศาสตร์ท่ีรองรับอนาคต บนพื้นฐานของการต่อยอดอดีตและปรับปัจจุบัน พร้อมท้ังการส่งเสริมและ สนบั สนุนจากภาครัฐใหป้ ระเทศไทยสามารถสรา้ งฐานรายได้และการจ้างงานใหม่ ขยายโอกาสทางการค้าและ การลงทนุ ในเวทีโลก ควบคู่กบั การยกระดับรายไดแ้ ละการกินดอี ยดู่ ี รวมถึงการเพ่ิมขนึ้ ของคนชนั้ กลาง และลด ความเหลือ่ มล้าของคนในประเทศในคราวเดียวกนั ในปีงบประมาณ 2561 ไดด้ าเนินการจัดอบรมประชาชนในตาบล จานวน 92 แห่ง มีประชาชนที่ผ่าน การอบรมเรื่องเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer จานวน 1,380 คน และเพ่ือการพัฒนาต่อเนื่องให้ เกษตรกรผผู้ ่านการอบรมสามารถไปขยายผลกับเกษตรกรอื่น ๆ ให้สามารถประกอบอาชีพด้านการเกษตรได้ อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว มีความมั่นคงในอาชีพด้านการเกษตร มีความ ภูมิใจในการเป็นเกษตรกร รวมท้ังเป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นหลัง ให้เกิดความรัก หวงแหนในอาชีพด้าน การเกษตร จึงได้กาหนดให้มีโครงการ Smart ONIE เพื่อสร้าง Smart Farmer ปีงบประมาณ 2562 เพ่ือจัด อบรมตอ่ ยอดการพัฒนาให้เป็นเกษตรกรต้นแบบ (Master Trannier) ปีงบประมาณ 2563 เกษตรกรต้นแบบ (Master Trannier) ที่ผ่านการอบรมในปงี บประมาณ 2562 ไดไ้ ปขยายผลการอบรมประชาชนใหเ้ ป็นเกษตรกร ปราดเปรือ่ ง Smart Farmer ตอ่ ไป วัตถุประสงค์ เพือ่ พฒั นาศักยภาพเกษตรกรให้มอี งคค์ วามรู้ด้านการบริหารจดั การงานเกษตรและการเกษตร เชิงท่องเท่ียวเพมิ่ ข้ึน เพือ่ ใหเ้ กษตรกรตน้ แบบ (Master Trannier) ไดไ้ ปขยายผลการอบรมประชาชนให้เปน็ เกษตรกร ปราดเปรือ่ ง Smart Farmer
เปำ้ หมำย เชิงปริมาณ ประชาชนในตาบลสัตหบี จานวน 15 คน เชงิ คณุ ภาพ ร้อยละ 80 ของประชาชนทไี่ ด้รับการอบรมมคี วามรเู้ พ่ิมมากข้นึ และสามารถเปน็ เกษตรกร ปราดเปรอื่ ง Smart Farmer ได้ ระยะเวลำดำเนินงำน เร่มิ ตั้งแตว่ นั ท่ี 25-26 มถิ นุ ายน 2563 ณ แปลงเรียนรตู้ ามระบบส่งเสรมิ เกษตรแบบแปลงใหญ่ (พืชผัก) หมู่ 3 ตาบลสตั หีบ อาเภอสัตหีบ จังหวดั ชลบุรี ผลลพั ธ์ (Outcomes) - ผู้เข้าอบรมมมี คี วามรเู้ พมิ่ มากขนึ้ และสามารถเป็นเกษตรกรปราดเปรือ่ ง Smart Farmer สามารถปรับเปลย่ี นไปทาเกษตรตามแนวปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ทาให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ ดัชนีวดั ผลและควำมสำเร็จของโครงกำร ตัวชี้วัดผลผลติ (Outputs) - มผี ้เู ข้ารว่ มโครงการฯ ไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 ของกลุ่มเปา้ หมาย - ผ้เู ข้าร่วมโครงการมีความพงึ พอใจในระดบั มากข้ึนไปไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 80 ตัวช้ีวัดผลลพั ธ์ (Outcomes) - ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการฯ ร้อยละ 80 ไดน้ าความรู้ไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวนั อย่างเป็นรูปธรรม - ผู้เขา้ ร่วมโครงการฯ รอ้ ยละ 80 ไดน้ าความร้ทู ่ีไดร้ บั ไปขยายผลให้กับชมุ ชน ติดตำมและประเมินผลโครงกำร 1. แบบสอบถาม 2. แบบตดิ ตามผู้เขา้ ร่วมโครงการ 3. การรายงานผลการจัดโครงการ
บทที่ 2 เอกสำรกำรศึกษำและรำยงำนทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ในการจดั ทารายงานครง้ั นี้ ได้ทาการศกึ ษาค้นควา้ เนอื้ หาจากเอกสารการศึกษาและ รายงานท่ีเก่ียวขอ้ ง ดงั ต่อไปนี้ 1. นโยบายและจุดเน้นการดาเนินงาน สานักงาน กศน.ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 1.1 วิสัยทศั น์ 1.2 พันธกจิ 1.3 เปา้ ประสงค์ 1.4 ตวั ชี้วัดความสาเร็จ/ยุทธศาสตร/์ โครงการ 2. นโยบายและจุดเนน้ การดาเนินงาน กศน.อาเภอสตั หีบ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2563 3. การศึกษาเพื่อพฒั นาทกั ษะชวี ิต 4. แผนแมบ่ ท สมารท์ ฟาร์มเมอร์ พลกิ ชีวติ เกษตรกร 5. งานวจิ ัยท่ีเก่ยี วขอ้ ง นโยบำยและจุดเนน้ กำรดำเนนิ งำน สำนกั งำน กศน. ประจำปงี บประมำณ พ.ศ. 2563 วิสยั ทศั น์ คนไทยได้รบั โอกาสการศึกษาและการเรยี นรตู้ ลอดชีวติ อยา่ งมีคุณภาพ สามารถดารงชวี ติ ทีเ่ หมาะสม กบั ช่วงวัย สอดคลอ้ งกับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และมที กั ษะที่จาเปน็ ในโลกศตวรรษที่ 21 พนั ธกิจ 1. จดั และส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยทีม่ ีคณุ ภาพ เพือ่ ยกระดับการศึกษา พัฒนาทักษะการเรียนรู้ของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมทุกช่วงวัย พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง บริบททางสังคม และสรา้ งสงั คมแห่งการเรยี นรู้ตลอดชีวิต 2 ส่งเสริม สนับสนุน และประสานภาคีเครือข่าย ในการมีส่วนร่วมจัดการศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอัธยาศัย และการเรียนรตู้ ลอดชีวิต รวมทั้งการดาเนินกิจกรรมของศูนย์การเรียนและแหล่งการ เรียนรู้อน่ื ในรปู แบบตา่ ง ๆ 3. ส่งเสริมและพฒั นาการนาเทคโนโลยีทางการศกึ ษา และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ ในการจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ให้กบั ประชาชนอยา่ งทัว่ ถึง 4. พัฒนาหลกั สูตร รูปแบบการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ สอื่ และนวัตกรรม การวัดและประเมินผลในทุก รปู แบบใหส้ อดคล้องกบั บรบิ ทในปัจจบุ นั 5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจัดการให้มีประสทิ ธภิ าพ เพื่อมงุ่ จดั การศกึ ษาและการเรียนรู้ที่ มีคณุ ภาพ โดยยึดหลกั ธรรมาภบิ าล เปำ้ ประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมทั้งประชาชนท่ัวไปได้รับโอกาสทาง การศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน การศึกษาต่อเน่ือง และการศึกษาตาม อัธยาศยั ท่มี คี ุณภาพอย่างเท่าเทยี มและทว่ั ถึง เปน็ ไปตามสภาพ ปัญหา และความต้องการของแต่ละ
กลมุ่ เป้ำหมำย 2. ประชาชนได้รับการยกระดับการศึกษา สร้างเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และความเป็น พลเมอื ง อนั นาไปสกู่ ารยกระดับคุณภาพชวี ติ และเสรมิ สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เพื่อพัฒนาไปสู่ความม่ันคง และยงั่ ยนื ทางดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรม ประวัติศาสตร์ และสง่ิ แวดลอ้ ม 3. ประชาชนได้รับโอกาสในการเรียนรู้ และมีเจตคติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เหมาะสม สามารถคิด วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน รวมท้ังแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่าง สรา้ งสรรค์ 4. ประชาชนได้รับการสร้างและสง่ เสรมิ ให้มีนสิ ยั รกั การอ่านเพ่ือการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 5. ชุมชนและภาคเี ครอื ขา่ ยทุกภาคสว่ น รว่ มจดั สง่ เสริม และสนับสนุนการดาเนินงานการศึกษานอก ระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการขับเคลอื่ นกิจกรรมการเรียนรู้ของชุมชน 6. หนว่ ยงานและสถานศึกษาพฒั นา เทคโนโลยีทางการศึกษา เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการยกระดับ คุณภาพในการจดั การเรยี นรแู้ ละเพิม่ โอกาสการเรียนรูใ้ หก้ ับประชาชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนาส่ือและการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนา คณุ ภาพชวี ิต ทตี่ อบสนองกับการเปลีย่ นแปลงบรบิ ทด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และส่ิงแวดล้อม รวมทง้ั ตามความต้องการของประชาชนและชมุ ชนในรปู แบบท่หี ลากหลาย 8. หน่วยงานและสถานศกึ ษามรี ะบบการบรหิ ารจดั การทีเ่ ป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล 9. บุคลากรของหนว่ ยงานและสถานศกึ ษาไดร้ ับการพัฒนาเพอ่ื เพิ่มสมรรถนะในการปฏิบตั ิงาน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ตัวช้วี ัด ตวั ชีว้ ดั เชงิ ปรมิ ำณ 1. จานวนผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาชน้ั พ้นื ฐานทไี่ ดร้ บั การสนบั สนุนค่าใช้จา่ ยตาม สทิ ธทิ ีก่ าหนดไว้ 2. จานวนของคนไทยกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/เข้ารับบริการกิจกรรม การศกึ ษาตอ่ เน่อื ง และการศึกษาตามอธั ยาศัยทส่ี อดคลอ้ งกับสภาพ ปญั หา และความตอ้ งการ 3. รอ้ ยละของกาลงั แรงงานท่สี าเร็จการศึกษาระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ ขึ้นไป 4. จานวนภาคีเครือข่ายท่ีเข้ามามีส่วนร่วมในการจัด/พัฒนา/ส่งเสริมการศึกษา (ภาคีเครือข่าย : สถานประกอบการ องค์กร หน่วยงานทีม่ ารว่ มจดั /พฒั นา/สง่ เสรมิ การศกึ ษา) 5. จานวนประชาชน เด็ก และเยาวชนในพ้นื ที่สงู และชาวไทยมอแกน ในพน้ื ท่ี 5 จังหวดั 11 อากอ ได้รบั บรกิ ารการศกึ ษาตลอดชวี ติ จากศนู ย์การเรยี นชมุ ชนสงั กดั สานกั งาน กศน. 6. จานวนผรู้ บั บรกิ ารในพน้ื ทเี่ ปา้ หมายไดร้ ับการส่งเสริมดา้ นการรู้หนงั สอื และการพัฒนาทกั ษะชวี ติ 7. จานวนนกั เรยี นนักศึกษาท่ไี ดร้ ับบริการตวิ เข้มเตม็ ความรู้ 8. จานวนประชาชนที่ไดร้ บั การฝึกอาชีพระยะสน้ั สามารถสรา้ งอาชีพเพอื่ สรา้ งรายได้ 9. จานวน ครู กศน. ตาบล จากพ้ืนท่ี กศน.ภาค ได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการ สอนภาษาอังกฤษเพอื่ การสื่อสาร 10. จานวนประชาชนทีไ่ ดร้ ับการฝกึ อบรมภาษาตา่ งประเทศเพ่อื การสอื่ สารดา้ นอาชีพ 11. จานวนผสู้ ูงอายุภาวะพ่ึงพิงในระบบ Long Term Care มีผู้ดูแลท่ีมีคณุ ภาพและมาตรฐาน 12. จานวนประชาชนทผี่ า่ นการอบรมจากศนู ยด์ จิ ทิ ลั ชุมชน 13. จานวนศูนย์การเรยี นชุมชน กศน. บนพ้ืนท่ีสูง ในพ้ืนท่ี 5 จังหวัด ท่ีส่งเสริมการพัฒนาทักษะการ ฟงั พูดภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร รว่ มกนั ในสถานศกึ ษาสังกัด สพฐ. ตชด. และกศน. 14.จานวนบุคลากร กศน. ตาบลที่สามารถจัดทาคลังความรูไ้ ด้
15. จานวนบทความเพอื่ การเรยี นรู้ตลอดชวี ติ ในระดับตาบลในหัวขอ้ ต่าง ๆ 16. จานวนหลักสตู รและสอ่ื ออนไลน์ท่ใี หบ้ รกิ ารกับประชาชน ท้งั การศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ข้ันพนื้ ฐาน การศึกษาต่อเนอ่ื ง และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ตวั ชีว้ ัดเชงิ คณุ ภำพ 1. ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดบั ชาติ การศึกษานอกระบบ (N-NET) ทุกรายวิชาทุกระดบั 2. ร้อยละของผเู้ รยี นท่ีได้รบั การสนบั สนนุ การจัดการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานเทยี บกบั ค่าเปา้ หมาย 3. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ลงทะเบียนเรียนในทุกหลักสูตร/กิจกรรมการศึกษาต่อเน่ือง เทยี บกบั เป้าหมาย 4. ร้อยละของผู้ผา่ นการฝกึ อบรม/พฒั นาทกั ษะอาชีพระยะสนั้ สามารถนาความรู้ไปใช้ในการประกอบ อาชพี หรอื พฒั นางานได้ 5. ร้อยละของผู้เรียนในเขตพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ท่ีได้รับการพัฒนาศักยภาพ หรือทักษะด้าน อาชพี สามารถมงี านทาหรือนาไปประกอบอาชพี ได้ 6. ร้อยละของผู้จบหลักสูตร/กิจกรรมที่สามารถนาความรู้ความเข้าใจไปใช้ได้ตามจุดมุ่งหมายของ หลกั สตู รกจิ กรรม การศกึ ษาต่อเนอ่ื ง 7. ร้อยละของประชาชนท่ีได้รับบริการมีความพึงพอใจต่อการบริการ/เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั 8. ร้อยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับบริการ/ข้าร่วมกิจกรรมที่มีความรู้ความเข้าใจ/เจตคติ ทักษะ ตามจดุ มุ่งหมายของกิจกรรมทกี่ าหนด ของการศึกษาตามอธั ยาศยั 9. ร้อยละของนักเรียน/นักศึกษาท่ีมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนในวิชาที่ได้รับบริการติวเข้มเต็มความรู้ เพิ่มสูงขนึ้ 10. ร้อยละของผูส้ ูงอายทุ ี่เป็นกลมุ่ เป้าหมาย มีโอกาสมาเข้าร่วมกจิ กรรมการศึกษาตลอดชีวติ นโยบำยเร่งดว่ นเพือ่ ร่วมขับเคล่อื นยุทธศำสตร์กำรพฒั นำประเทศ 1.ยทุ ธศำสตรด์ ้ำนควำมมันคง 1.1 พฒั นาและเสริมสร้างความจงรักภักดตี อ่ สถาบนั หลกั ของชาติ โดยปลูกฝังและสร้างความตระหนัก รถู้ ึงความสาคัญของสถาบันหลักของชาติ รณรงค์เสริมสร้างความรักและความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย และชาติไทย น้อมนาและเผยแพร่ศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงรวมถึงแนวทาง พระราชดาริตา่ ง ๆ 1.2 เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และการมีส่วนร่วมอย่างถูกต้องกับการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ ในบรบิ ทของไทย มีความเป็นพลเมอื งดี ยอมรับและเคารพ ความหลากหลายทางความคดิ และอุดมการณ์ 1.3 ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ทง้ั ยาเสพติด การคา้ มนษุ ย์ ภัยจากไซเบอร์ ภยั พบิ ัตจิ ากธรรมชาติ โรคอุบตั ใิ หม่ ฯลฯ 1.4 ยกระดบั คุณภาพการศึกษาและสรา้ งเสริมโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษา การพัฒนาทักษะ การสร้างอาชีพ และการใช้ชีวิตในสังคมพหุวัฒนธรรม ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพืน้ ทช่ี ายแดนอื่น ๆ 1.5 สร้างความรู้ ความเข้าใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของประเทศเพ่ือนบ้านยอมรับ และเคารพในประเพณี วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธ์ุ และชาวต่างชาติที่มีความหลากหลาย ในลักษณะ พหสุ ังคมทอ่ี ย่รู ่วมกนั
2 ยุทธศำสตร์ด้ำนกำรสร้ำงควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขัน 2.1 เร่งปรับหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพ กศน. เพ่ือยกระดับทักษะด้านอาชีพของประชาชนให้ เป็นอาชีพท่ีรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (First S - curve และ New S-curve) โดยบูรณาการ ความร่วมมือในการพฒั นาและเสรมิ ทกั ษะใหม่ด้านอาชีพ (Upskill & Reskill) รวมถงึ มงุ่ เน้นสรา้ งโอกาสในการ สร้างงาน สร้างรายได้ และตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงานทั้งภาคอุตสาหกรรมและการบริการ โดยเฉพาะในพ้ืนท่ีเขตระเบียงเศรษฐกิจ และเขคพฒั นาพิเศษตามภมู ิภาคต่าง ๆ ของประเทศสาหรับพ้ืนที่ปกติ ให้พฒั นาอาชพี ท่ีเนน้ การตอ่ ยอดศักยภาพและตามบรบิ ทของพ้ืนที่ 2.2 จดั การศกึ ษาเพอื่ พฒั นาพืน้ ท่ีภาคตะวันออก ยกระดับการศึกษาให้กับประชาชนให้จบการศึกษา อย่างน้อยการศกึ ษาภาคบงั คบั สามารถนาคุณวุฒิทีไ่ ด้รบั ไปตอ่ ยอดในการประกอบอาชีพ รวมท้ังพัฒนาทักษะ ในการประกอบอาชีพตามความต้องการของประชาชน สรา้ งอาชีพ สร้างรายได้ ตอบสนองต่อบริบทของสังคม และชมุ ชน รวมทั้งรองรับการพัฒนาเขตพน้ื ทีร่ ะเบยี บเศรษฐกจิ ภาคตะวันออก (EEC) 2.3 พฒั นาและสง่ เสริมประชาชนเพือ่ ต่อยอดการผลติ และจาหน่ายสนิ ค้และผลติ ภณั ฑ์ ออนไลน์ 1) เร่งจดั ต้งั ศูนยใ์ หค้ าปรกึ ษาและพัฒนาผลิตภณั ฑ์ Brand กศน. เพ่ือยกระดับคุณภาพของสินค้าและ ผลิตภัณฑ์ การบรหิ ารจดั การท่ีครบวงจร (การผลติ การตลาด การส่งออก และสร้างช่องทางจาหน่าย) รวมทั้ง สง่ เสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทลั ในการเผยแพร่และจาหน่ายผลติ ภัณฑ์ 2) พัฒนาและคัดเลือกสุดยอดสินค้าและลิตภัณฑ์ กศน. ในแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งประสานความ รว่ มมือกับสถานีบริการนา้ มนั ในการเป็นซ่องทางการจาหน่ายสุดยอดสินค้าและผลิตภัณฑ์ กศน.ให้กว้างขวาง ย่ิงข้ึน 3 ยทุ ธศำสตร์กำรพัฒนำและเสริมสรำ้ งศักยภำพทรพั ยำกรมนุษย์ 3.1 พัฒนาครูและบุคลากรท่ีเก่ียวข้องกับการจัดกิจกรรมและการเรียนรู้ เป็นผู้เชื่อมโยงความรู้กับ ผู้เรียนและผู้รับบริการ มีความเป็น \"ครูมืออาชีพ\" มีจิตบริการ มีความรอบรู้และทันต่อการเปล่ียนแปลงของ สังคมและเป็น \"ผอู้ านวยการการเรยี นรู้\" ทส่ี ามารถบริหารจดั การความรู้ กิจกรรม และการเรยี นรทู้ ีด่ ี 1) เพิ่มอัตราข้าราชการครูให้กับ กศน. อาเภอทุกแห่ง โดยเร่งดาเนินการเรื่องการหาอัตราตาแหน่ง การสรรหา บรรจุ และแต่งต้งั ขา้ ราชการครู 2) พัฒนาข้าราชการครใู นรูปแบบครบวงจร ตามหลกั สูตรที่เชอ่ื มโยงกบั วทิ ยฐานะ 3) พฒั นาครู กศน.ตาบลให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นเร่ืองการพัฒนาทักษะ การจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ทกั ษะภาษาต่างประเทศ ทกั ษะการจดั กระบวนการเรียนรู้ 4) พฒั นาศึกษานเิ ทศก์ ใหส้ ามารถปฏบิ ัติการนเิ ทศได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ 5) พัฒนาบุคลากร กศน.ทุกระดับทุกประเภทให้มีทักษะความรู้เร่ืองการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลและ ภาษาต่างประเทศท่ีจาเปน็ 3.2 พัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีความพร้อมในการ ใหบ้ ริการกิจกรรมการศกึ ษาและการเรยี นรู้ เปน็ แหล่งสารสนเทศสาธารณะที่ง่ายต่อการเข้าถึง มีบรรยากาศที่ เอื้อต่อการเรียนรู้ เป็นพื้นท่ีการเรียนรู้สาหรับคนทุกช่วงวัย มีส่ิงอานวยความสะดวก มีบรรยากาศสวยงามมี ชวี ติ ทดี่ ึงดดู ความสนใจ และมีความปลอดภยั สาหรบั ผู้ใชบ้ ริการ 1) เร่งยกระดับ กศน.ตาบลนาร่อง 928 แห่ง (อาเภอละ 1 แห่ง) ให้เป็น กศน.ตาบล 5 ดี พรีเม่ียม ที่ประกอบด้วย ครูดี สถานท่ีดี (ตามบริบทของพ้ืนที่) กิจกรรมดี เครือข่ายดี และมีนวัตกรรมการเรียนรู้ท่ีดีมี ประโยชน์ 2) จัดให้มศี นู ย์การเรียนรู้ตน้ แบบ กศน. เพือ่ ยกระดับการเรียนรู้ ใน 6 ภมู ิภาค เป็นพ้นื ทก่ี ารเรียนรู้ (Co - Learning Space) ทท่ี ันสมยั สาหรับทุกคน มีความพร้อมในการให้บริการต่าง ๆ อาทิ พ้ืนท่ีสาหรับการ ทางาน/การเรียนรู้ พื้นท่ีสาหรับกิจกรรมต่าง ๆ มีห้องประชุมขนาดเล็ก รวมท้ังทางานร่วมกับห้องสมุด
ประชาชนในการให้บรกิ ารในรูปแบบห้องสมุดดิจิทัล บริการอินเทอร์เน็ต ส่ือมัลติมีเดีย เพ่ือรองรับการเรียนรู้ แบบ Active Learning 3) พัฒนาห้องสมดุ ประชชน \"เฉลิมราชกุมารี\" ให้เป็น Digital Library โดยให้มีบริการหนงั สือ ในรูปแบบ e - Book บริการคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รวมท้ัง Free Wifi เพ่ือการสืบค้น ข้อมลู 3.3 สง่ เสริมการจดั การเรียนรู้ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เอ้ือต่อการเรียนรู้สาหรับทุกคน สามารถ เรยี นได้ทกุ ท่ที ุกเวลา มกี ิจกรรมทหี่ ลากลาย น่าสนใจ สนองตอบความต้องการของชุมชน เพื่อพัฒนาศักยภาพ การเรียนรู้ของประชาชน รวมทั้งใช้ประโยชน์จากประชาชนในชุมชนในการร่วมจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อ เช่ือมโยงความสัมพันธ์ของคนในชมุ ชนไปสู้การจดั การความร้ขู องชุมชนอย่างย่งั ยนื 1) ส่งเสริมการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ทีป่ ลกู ฝงั คุณธรรม สรา้ งวนิ ยั จติ สาธารณะ ความรับผิดชอบ ต่อส่วนรวม และการมีจิตอาสา ผ่านกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ อาทิ กิจกรรมลูกเสือ กศน. กิจกรรมจิตอาสา ตลอดจนสนับสนุนใหม้ ีการจดั กจิ กรรมเพอื่ ปลกู ฝงั คุณธรรม จรยิ ธรรมใหก้ ับบคุ ลากรในองคก์ ร 2) จัดใหม้ หี ลักสตู รลูกเสือมคั คเุ ทศก์ โดยใหส้ านกั งาน กศน.จังหวดั ทุกแห่ปกทม. จัดตั้งกองลูกเสอื ทลี่ ูกเสือมีความพร้อมดา้ นทกั ษะภาษาตา่ งประเทศ เปน็ ลกู เสอื มัคคุเทศก์จังหวัดละ 1 กอง เพ่ือส่งเสริมลูกเสือ จิตอาสาพัฒนาการท่องเทยี่ วในแตล่ ะจังหวัด 3.4 เสริมสร้างความรว่ มมือกบั ภาคีเครอื ขา่ ย ประสาน ส่งเสริมความรว่ มมอื ภาคเี ครือขา่ ย ทงั้ ภาครฐั เอกชน ประชาสังคม และองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน รวมท้ังส่งเสรมิ และสนับสนนุ การมีส่วนรว่ มของชมุ ชน เพอ่ื สรา้ งความเข้าใจ และให้เกิดความร่วมมอื ในการส่งเสริม สนบั สนุน และจดั การศึกษาและการเรียนรูใ้ ห้กบั ประชาชนอยา่ งมคี ุณภาพ 1) เร่งจัดทาทาเนียบภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ในแต่ละตาบล เพือ่ ใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ ในการสร้างการเรียนรู้จากองค์ความรู้ในตัวบุคคลให้เกิดการถ่ายทอดภูมิปัญญา สร้างคุณค่าทางวัฒนธรรม อยา่ งย่งั ยนื 2) สง่ เสรมิ ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถิ่นสกู่ ารจัดการเรียนรชู้ มุ ชน 3) ประสานความร่วมมอื กับภาคเี ครือข่ายเพอ่ื การขยายและพัฒนาการศกึ ษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศัยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มอย่างกว้างขวางและมีคุณภาพ อาทิ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม อสม. 3.5 พฒั นานวัตกรรมทางการศึกษาเพอื่ ประโยชน์ตอ่ การจดั การศึกษาและกลุ่มเปา้ หมาย 1) พัฒนาการจัดการศกึ ษาออนไลน์ กศน. ทง้ั ในรปู แบบของการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน การพฒั นาทกั ษะ ชีวติ และทักษะอาชพี การศกึ ษาตามอัธยาศัย รวมทั้งการพัฒนาชอ่ งทางการคา้ ออนไลน์ 2) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการปฏบิ ตั ิงาน การบรหิ ารจัดการ และการจดั การเรียนรู้ 3) ส่งเสรมิ ใหม้ ีการใชก้ ารวิจัยอย่างงา่ ยเพือ่ สร้างนวตั กรรมใหม่ 3.6 พฒั นาศกั ยภาพคนดา้ นทกั ษะและความเขา้ ใจในการใชเ้ ทคโนโลยีดิจทิ ัล (Digital Literacy) 1) พฒั นาความรแู้ ละทกั ษะเทคโนโลยดี ิจิทัลของครูและบุคลากรทางการศึกษา เพอ่ื พฒั นา รปู แบบกำรจดั กำรเรียนกำรสอน 2) ส่งเสรมิ การจัดการเรยี นร้ดู ้านเทคโนโลยีดิจทิ ลั เพ่ือใหป้ ระชาชนมที ักษะความเขา้ ใจและ ใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ที่สามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั รวมทงั้ สรา้ งรายไดใ้ ห้กับตนเองได้ 3.7 พัฒนาทกั ษะภาษาตา่ งประเทศเพื่อการสื่อสารของประชาชนในรูปแบบต่าง ๆอย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นทักษะภาษาเพอื่ อาชีพ ทงั้ ในภาคธุรกิจ การบริการ และการท่องเที่ยว รวมท้ังพัฒนาส่ือการเรียนการ สอนเพ่อื ส่งเสริมการใชภ้ าษาเพ่อื การสื่อสารและการพฒั นาอาชีพ 3.8 เตรยี มความพรอ้ มการเขา้ สู่สังคมผสู้ งู อายุทีเ่ หมาะสมและมีคณุ ภาพ
1) ส่งเสริมการจัดกจิ กรรมใหก้ บั ประชาชนเพอื่ สรา้ งความตระหนกั ถึงการเตรยี มพรอ้ มเข้าสู่ สังคมผู้สงู อายุ (Aging Society) มีความเขา้ ใจในพฒั นาการของชว่ งวัย รวมทงั้ เรียนร้แู ละมสี ว่ นรว่ มในการดแู ล รบั ผดิ ชอบผู้สูงอายใุ นครอบครัวและชุมชน 2) พัฒนาการจัดบรกิ ารการศึกษาและการเรียนรู้สาหรับประชาชนในการเตรียมความพรอ้ ม เข้าสู่วยั สูงอายุท่ีเหมาะสมและมีคณุ ภาพ 3) จดั การศึกษาเพ่ือพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ สาหรบั ผ้สู ูงอายุภายใต้แนวคิด \"Active Aging\" การศกึ ษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวติ และพฒั นาทกั ษะชวี ติ ให้สามารถดูแลตนเองทัง้ สุขภาพกายและสขุ ภาพจิต และรจู้ กั ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 4) สรา้ งความตระหนกั ถึงคุณค่าและศักด์ศิ รขี องผสู้ งู อายุ เปิดโอกาสให้มีการเผยแพรภ่ ูมปิ ญั ญา ของผู้สูงอายุ และใหม้ ีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมด้านต่าง ๆ ในชมุ ชน เชน่ ดา้ นอาชีพ กฬี า ศาสนาและวฒั นธรรม 5) จดั การศกึ ษาอาชพี เพือ่ รองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ในทุกระดับ 3.9 การส่งเสรมิ วทิ ยาศาสตรเ์ พอ่ื การศึกษา 1) จดั กจิ กรรมวิทยาศาสตร์เชิงรุก และเน้นให้ความรู้วิทยาศาสตร์อย่างง่ายกับประชาชนในชุมชนท้ัง วทิ ยาศาสตรใ์ นวิถชี ีวิต และวทิ ยาศาสตร์ในชวี ติ ประจาวนั 2) พฒั นาสอื่ นิทรรศการเละรูปแบบการจัดกจิ กรรมทางวทิ ยาศาสตรใ์ ห้มีความทันสมัย 3.10 ส่งเสริมการรู้ภาษาไทยใหก้ บั ประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะประชาชนในเขตพ้ืนท่ีสูงให้ สามารถฟัง พดู อ่าน และเขยี นภาษาไทย เพือ่ ประโยชในการใช้ชีวติ ประจาวันได้ 4 ยุทธศำสตรต์ น้ กำรสร้ำงโอกำสและควำมเสมอภำคทำงสังคม 4.1 จัดต้ังศูนย์การเรียนรู้สาหรับทุกช่วงวัย ท่ีเป็นศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิตที่สามารถให้บริการ ประชาชนได้ทุกคน ทุกชว่ งวยั ทีม่ ีกิจกรรมท่ีหลากหลาย ตอบสนองความตอ้ งการในการเรียนรู้ในแต่ละวัยและ เป็นศูนย์บรกิ ารความรู้ ศนู ย์การจดั กจิ กรรมทีค่ รอบคลุมทกุ ชว่ งวัย เพื่อใหม้ ีพัฒนาการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมและมี ความสขุ กับการเรียนรตู้ ามความสนใจ 1) เร่งประสานกับสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน เพอ่ื จดั ทาฐานข้อมูลโรงเรียนที่ถูกยุบ รวม หรอื คาดว่านา่ จะถูกยุบรวม 2) ใหส้ านักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่งที่อยู่ในจังหวัดท่ีมีโรงเรียนท่ีถูกยุบรวม ประสานขอใช้พ้ืนท่ีเพื่อ จัดต้ังศูนยก์ ารเรยี นรสู้ าหรบั ทุกชว่ งวยั กศน. 4.2 ส่งเสรมิ และสนบั สนนุ การจัดการศกึ ษาและการเรียนรสู้ าหรบั กลุ่มเป้าหมายผู้พกิ าร 1) จัดการศึกษาข้ันพื้นฐาน การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ และการศึกษาตาม อัธยาศัย โดยเน้นรูปแบบการศึกษาออนไลน์ 2) ให้สานกั งาน กศน.จงั หวัดทุกแห่ง/กทม. ทาความรว่ มมือกบั ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัด ใน การใชส้ ถานท่ี วสั ดุอุปกรณ์ และครุภัณฑด์ ้านการศกึ ษา เพ่ือสนับสนุนการจัดการศึกษาและการเรียนรู้สาหรับ กลุม่ เปา้ หมายผู้พกิ าร 4.3 ยกระดับการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมายทหารกองประจาการ รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายพิเศษอ่ืน ๆ อาทิ ผู้ต้องขัง คนพิการ เด็กออกกลางคัน ประชากรวัยเรียนท่ีอยู่นอกระบบการศึกษาให้จบการศึกษานอก ระบบระดบั การศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน สามารถนาความรทู้ ี่ได้รับไปพฒั นาตนเองไดอ้ ยา่ งตอ่ เน่ือง 4.4 พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะสั้น ให้มีความหลากหลาย ทันสมัย เหมาะสมกับ บรบิ ทของพนื้ ที่ และตอบสนองความต้องการของประชาชนผรู้ บั บรกิ าร
5. ยทุ ธศำสตรด์ ำ้ นกำรสร้ำงกำรเติบโตบนคณุ ภำพชีวิตทเี่ ปน็ มติ รตอ่ สง่ิ แวดล้อม 5.1 ส่งเสริมให้มีการให้ความรู้กับประชาชนในการรับมือและปรับตัวเพ่ือลดความเสียหายจากภัย ธรรมชาตแิ ละผลกระทบทเี่ ก่ยี วข้องกบั การเปลย่ี นแปลงสภาพภูมิอากาศ 5.2 สร้างความตระหนักถึงความสาคัญของการสร้างสังคมสีเขียว ส่งเสริมความรู้ให้กับประชาชน เก่ียวกับการคัดแยกต้ังแต่ต้นทาง การกาจัดขยะ และการนากลับมาใช้ช้า เพื่อลดปริมาณและต้นทุนในการ จดั การขยะของเมือง และสามารถนาขยะกลับมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้โดยงา่ ย รวมทั้งการจดั การมลพิษในชุมชน 5.3 ส่งเสริมให้หน่วยงานและสถานศึกษาใช้พลังงานท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมท้ังลดการใช้ ทรพั ยากรทสี่ ่งผลกระทบตอ่ สิ่งแวดลอ้ ม เชน่ รณรงคเ์ รอ่ื งการลดการใชถ้ ุงพลาสติก การประหยัดไฟฟา้ เปน็ ต้น 6. ยทุ ธศำสตรด์ ำ้ นกำรปรับสมดลุ และพัฒนำระบบหำรบรหิ ำรจัดกำรภำครัฐ 6.1 พัฒนาและปรับระบบวิธีการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและ ประพฤติ มิชอบ บรหิ ารจัดการบนข้อมูลและหลักฐานเชงิ ประจักษ์ มงุ่ ผลสมั ฤทธ์ิมคี วามโปร่งใส 6.2 นานวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบการทางานที่เป็นดิจิทัลมาใช้ในการบริหารและพัฒนางาน สามารถเช่ือมโยงกับระบบฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งพัฒนาโปรแกรมออนไลน์ท่ี สามารถเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ที่ทาให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างต่อเนื่องกันต้ังแต่ต้นจนจบกระบวนการ และใหป้ ระชาชนกลุ่มเปา้ หมายสามารถเขา้ ถงึ บริการได้อยา่ งทันที ทกุ ทแ่ี ละทุกเวลา 6.3 ส่งเสริมการพฒั นาบคุ ลากรทุกระดับอยา่ งต่อเน่ือง ให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐาน ตาแหน่ง ให้ตรงกบั สายงาน ความชานาญ และความตอ้ งการของบุคลากร แนวทำง/กลยทุ ธก์ ำรดำเนินงำน ของ กศน.อำเภอสตั หบี ประจำปีงบประมำณ พ.ศ.2563 ปรชั ญำ คดิ เป็น ทาเป็น เน้นคุณธรรม วสิ ัยทศั น์ “ภายในปี 2565 ผเู้ รียน/ผรู้ บั บรกิ าร ของศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอ สัตหีบ มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ ใช้แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญา สื่อเทคโนโลยี ในการจัดกระบวนการ เรียนรู้ โดยเครอื ขา่ ยมีส่วนรว่ ม” อัตลักษณ์ “เท่าทนั เทคโนโลยี” ความหมาย การใชเ้ ทคโนโลยี ในการเรียนรู้และการดารงชวี ติ ไดอ้ ย่างถูกต้อง เอกลกั ษณ์ “องคก์ ร ออนไลน์” หมายถงึ สถานศกึ ษาใชเ้ ทคโนโลยใี นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ และการบริหารงานภายในองคก์ ร พันธกจิ 1. ออกแบบการจดั กระบวนการเรียนรูใ้ ห้สอดคลอ้ งกบั หลักสูตร 2. จัดระบบสารสนเทศเพอื่ การเรยี นรู้และการบรหิ ารการศกึ ษา 3. พัฒนาบุคลากรด้านการออกแบบการจัดกระบวนการเรยี นรู้/สอ่ื /การประเมนิ ผล 4. สง่ เสรมิ และสนับสนนุ การมีส่วนรว่ มของภาคเี ครอื ข่ายและชมุ ชนในการจดั กิจกรรมการศึกษา
เปำ้ ประสงค์ 1. ใช้สอ่ื เทคโนโลยีในการจดั การเรียนรู้ 2. จดั การเรียนร้รู ่วมกบั เครือข่าย กลยุทธ์ กลยุทธ์ วตั ถุประสงค์ 1. พัฒนาคุณภาพผเู้ รียน 1. เพื่อให้ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรมคา่ นิยมอันพึงประสงค์ 2. เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนมีทกั ษะและความสามารถในการแสวงหาความรู้ 3. เพื่อใหผ้ ู้เรียนมีทักษะและความสามารถในการคดิ สรา้ งสรรค์ 4. เพื่อใหผ้ ู้เรียนมผี ลสมั ฤทธิ์ทางการศึกษาตามนโยบายสถานศึกษา 5. เพื่อใหผ้ ู้เรยี นการศกึ ษาต่อเน่ืองนาความรไู้ ปใช้ได้ 6. เพื่อใหผ้ ้เู รียนการศกึ ษาเศรษฐกจิ พอเพียงสามารถนาความรไู้ ปใช้ได้ 7. เพื่อใหผ้ เู้ รยี นการศึกษาดจิ ทิ ัลชมุ ชนสามารถนาความรู้ไปใช้ได้ 8. เพื่อให้ผรู้ ับบริการการศกึ ษาตามอธั ยาศัยนาความรไู้ ปใชไ้ ด้ 9. เพื่อให้ผู้เรียน/ผู้รับบริการสามารถเข้าถึงข้อมูลจากระบบสารสนเทศและสามารถนา ความรู้ไปใช้พฒั นาตนเองได้ 2. พฒั นาบุคลาการ 1. เพ่อื ใหบ้ ุคลากรมีความรแู้ ละทักษะด้านการออกแบบการจัดกระบวนการเรยี นการสอน 2. เพื่อใหบ้ คุ ลากรมคี วามร้แู ละทกั ษะด้านการออกแบบสอ่ื การเรียนการสอน 3. เพอ่ื ให้บุคลากรมคี วามรแู้ ละทกั ษะด้านวธิ กี ารประเมินผลที่มคี ุณภาพ 3.บริหารการจดั การสถานศึกษา 1. เพ่ือจดั ระบบสารสนเทศเพอ่ื การเรยี นร้แู ละการบริหารสถานศึกษา 4.ภาคีเครอื ขา่ ยร่วมจัดกิจกรรม 1. เพื่อให้เครือขา่ ยมีสว่ นร่วมส่งเสรมิ สนบั สนนุ และรว่ มจัดการจัดกิจกรรมการศึกษา ผลการวิเคราะห์ SWOT (Swot Analysis) ของ กศน.อาเภอสตั หีบ S = จดุ แขง็ 1. ด้านอาคารสถานท่ีต้ังอยู่ในเขตชุมชนเมือง สะดวกในการตดิ ต่อ 2. ดา้ นบคุ ลากรมีจานวนเพียงพอตอ่ การปฏิบตั ิงาน 3. มีระบบการจัดเกบ็ และสืบค้นขอ้ มูลทท่ี นั สมัยสามารถสืบคน้ ขอ้ มูลทางเวปไซดไ์ ด้ W = จดุ อ่อน 1. ส่ือ วัสดุ อุปกรณ์ ไมเ่ พยี งพอตอ่ การดาเนินงานและการบริการ 2. ระบบสารสนเทศ เทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต wifi ไม่เพียงพอต่อการดาเนินงานและการบริการ ประชาชนและนกั ศึกษา 3. สถานท่คี ับแคบ ไมเ่ หมาะสมกบั การจดั กจิ กรรมขนาดใหญ่ O = โอกาส 1. ไดร้ บั ความรว่ มมอื กบภาคีเครอื ขา่ ยเปน็ อยา่ งดี 2. ไดร้ บั การยอมรบั จากชมุ ชนและหน่วยงานอนื่ ๆ 3. มีแหลง่ เรียนรแู้ ละภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ ท่โี ดดเดน่ จากเศรษฐกจิ พอเพียง 4. มีกรอบแนวทางการดาเนินงานที่ชดั เจน T = อปุ สรรค 1. สถานที่ 2. นกั ศึกษาไมส่ ามารถเขา้ รว่ มกิจกรรมได้บ่อยคร้ัง 3. ผ้เู รยี นไม่ค่อยพัฒนาตนเองอยา่ งตอ่ เนือ่ ง 4. การจัดสรรงบประมาณจากหน่วยงานลา่ ช้า
นโยบำยและจดุ เน้นของ กศน.อำเภอสตั หีบ ตัวชี้วดั 1. จานวนผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานท่ีได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามสิทธิท่ี กาหนดไว้ 2. จานวนของคนไทยกลุ่มเป้าหมายต่างๆ (กลุ่มเป้าหมายท่ัวไป กลุ่มเป้าหมายพิเศษ และกลุ่มคนไทยทั่วไป เป็นต้น) ท่ีเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/ได้รับบริการกิจกรรมการศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัยท่ี สอดคลอ้ งกบั สภาพ ปญั หา และความตอ้ งการ 3. ร้อยละผู้จบหลักสูตร/กิจกรรมการศึกษานอกระบบสามารถนาความรู้ความเข้าใจไปใช้ได้ตามจุดมุ่งหมาย ของหลกั สตู ร/กิจกรรมที่กาหนด 4. จานวนแหล่งเรียนรู้ในระดับตาบลที่มีความพร้อมในการให้บริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย 5. จานวนประชาชนกลมุ่ เปา้ หมายที่เขา้ รบั การฝึกอาชพี เห็นช่องทางในการประกอบอาชีพ 6. รอ้ ยละของผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมที่สามารถอ่านออกเขยี นไดแ้ ละคดิ เลขเปน็ ตามจุดมุ่งหมายของกจิ กรรม 7. รอ้ ยละของประชาชนกลุม่ เปา้ หมายท่ีได้รับบรกิ ารเข้าร่วมกจิ กรรมแหลง่ เรียนรตู้ ามอธั ยาศัย มีความรคู้ วามเข้าใจ เจตคติ ทกั ษะตามจุดมุ่งหมายของกจิ กรรมท่ีกาหนด 8. จานวนผู้ดูแลประชาชนที่ผ่านการอบรมตามหลักสตู รทก่ี าหนด 9. จานวนองค์กรภาคส่วนต่าง ๆ ท้ังในและต่างประเทศ ท่ีร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการดาเนินงานการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย 10. จานวนนกั เรยี น นักศกึ ษา และประชาชนทว่ั ไปทเ่ี ขา้ ถึงบรกิ ารการเรยี นรูท้ างดา้ นวทิ ยาศาสตร์ในรูปแบบ 11. จานวน/ประเภทของส่ือ และเทคโนโลยีทางการศึกษาท่ีมีการจัดทา/พัฒนาและนาไปใช้เพ่ือส่งเสริมการ เรียนร้ขู องผเู้ รียน/ผรู้ บั บรกิ ารการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศยั 12. จานวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนท่ัวไปที่เข้าถึงบริการความรู้นอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั ผา่ นชอ่ งทางส่ือเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีการส่อื สาร 13. รอ้ ยละของนกั ศึกษาท่มี ีผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นท่ีไดร้ ับบริการตวิ เขม้ เตม็ ความรู้เพมิ่ สงู ข้นึ 14. จานวนบุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพ่ือเพ่ิมสมรรถนะในการปฏิบัติงาน การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั 15. ร้อยละของสถานศึกษาในสังกัดท่ีมีระบบประกันคุณภาพภายในและมีการจัดทารายงานการประเมิน ตนเอง 16. ร้อยละของหน่วยงาน และสถานศกึ ษา กศน. ทม่ี ีการใชร้ ะบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการ จดั ทาฐานขอ้ มลู ชุมชนและการบริหารจัดการ เพอ่ื สนบั สนนุ การดาเนนิ งานการศกึ ษานอกระบบ และการศึกษา ตามอธั ยาศยั ขององค์การ 17. ร้อยละของหน่วยงาน และสถานศึกษา กศน. ที่สามารถดาเนินงานโครงการ/กจิ กรรมตามบทบาทภารกิจท่ี รับผิดชอบได้สาเรจ็ ตามเป้าหมายท่กี าหนดไว้อย่างโปรง่ ใส ตรวจสอบได้ โดยใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า/ตามแผน ทก่ี าหนดไว้
จุดเน้นกำรดำเนินงำน กศน. ตำมยุทธศำสตรก์ ระทรวงศกึ ษำธกิ ำร 6 ยทุ ธศำสตร์ 1. พฒั นำหลกั สูตร กระบวนกำรเรียนกำรสอน และกำรวดั ผลประเมนิ ผล จดุ เนน้ การดาเนนิ งาน 1.1 จัดกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองกับการเปล่ียนแปลงและความต้องการของประชาชนชุมชน และสังคม ในรูปแบบที่หลากหลาย ให้ประชาชนคิดเป็น วิเคราะห์ได้ ตัดสินใจภายใต้ฐานข้อมูลท่ีถูกต้อง เช่น ความรูเ้ รือ่ งการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมุข/การเลือกตั้ง แนวทางและ ทิศทางการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ ของรัฐบาล โดยประสานความร่วมมือกับกระทรวงต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง ร่วมจัดทาเน้ือหาและสื่อประกอบการจัดกระบวนการเรียนรู้ รวมท้ังให้มีการจัดทาแผนการเรียนรู้รายชุมชน เพอื่ พัฒนาสชู่ มุ ชน/เมืองแห่งการเรยี นรู้ 1.2 ส่งเสริมให้มีการจัดการเรียนการสอนแบบ “สะเต็มศึกษา” (STEM Education) โดยบูรณาการ ความรูด้ า้ น คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เพือ่ พัฒนาทักษะชีวิต สู่การประกอบอาชีพ ประยุกต์ใช้ ในการทางาน และเป็นแนวทางของการสร้างแรงงานทมี่ ีศักยภาพไดใ้ นอนาคต 1.3 จดั การศกึ ษาเพื่อเพิ่มอัตราการรูห้ นังสือใหค้ นไทยใหส้ ามารถอา่ นออกเขยี นได้ โดยใช้หลักสูตรการ รู้หนงั สือของคนไทยของสานกั งาน กศน.และสอ่ื ท่เี หมาะสมกบั สภาพและพ้ืนที่ของกลุ่มเปา้ หมาย 2. กำรผลติ พฒั นำ ครู คณำจำรย์ และบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ จดุ เน้นการดาเนินงาน 2.1 จดั ทาแผนพัฒนาอตั รากาลงั ลว่ งหน้าระยะ 10 ปี เพอ่ื ใชเ้ ป็นข้อมลู สาหรับการขอกรอบอัตรากาลัง เพม่ิ เตมิ ใหเ้ พียงพอต่อขอบข่ายการดาเนินงานของ กศน. 2.2 เร่งพฒั นาศกั ยภาพครู กศน. ทุกประเภท เพื่อให้สามารถเป็นท้ังผู้สอนและผู้ออกแบบการเรียนรู้ รายบุคคล และจดั กิจกรรมการเรียนรไู้ ดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ และจัดทาแผนพัฒนาครู กศน.ทุกประเภท และ ทกุ ระดบั ช่วงระยะ 10 ปี เพื่อพัฒนาสมรรถนะครู กศน. ใหไ้ ดเ้ กณฑ์มาตรฐานทก่ี าหนด 2.3 สารวจขอ้ มูล และทบทวนหลักเกณฑก์ ารจา้ งลูกจ้างแบบจ้างเหมาบริการ และพนักงานราชการให้ ตรงตามความต้องการของพ้ืนท่ี 3. ผลิต และพัฒนำกำลังคน รวมท้ังงำนวิจัยท่สี อดคลอ้ งกบั ควำมตอ้ งกำรของกำรพัฒนำประเทศ จดุ เนน้ การดาเนินงาน 3.1 ยกระดับการศึกษาให้กับกลุ่มพนักงานรักษาความปลอดภัย ให้จบการศึกษาภาคบังคับอย่างมี คุณภาพ โดยเน้นการเรียนรปู แบบโปรแกรมเรียนรู้รายบคุ คล 3.2 จัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ให้สอดคล้องและรองรับกับความต้องการของ การพัฒนาตามบริบทของแต่ละพื้นท่ีในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยมุ่งเน้นผลิตกาลังคนให้สอดคล้องกับ ความตอ้ งการของพน้ื ที่ พร้อมทั้งสรา้ งทกั ษะทางวชิ าชพี โดยเน้นด้านการบริหารและการประกอบการ เพ่ือให้ ประชาชนในพนื้ ทไ่ี ดร้ ับการพัฒนาศักยภาพในแนวทางท่ีดขี นึ้ 4. ขยำยโอกำสในกำรเขำ้ ถงึ บริกำรกำรศึกษำและกำรเรียนรอู้ ย่ำงตอ่ เน่อื งตลอดชีวิต จดุ เน้นการดาเนนิ งาน 4.1 เร่งบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก โดยประสานข้อมูลโรงเรียนขนาดเล็กจากสานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (สพฐ.) และประสานหน่วยงานในพ้ืนท่ีเพ่ือสารวจความต้องการในกา จดั การโรงเรียนขนาดเล็กเพ่ือทาเป็น กศน. ตาบลหรอื แหลง่ การเรียนรขู้ องชมุ ชนภายในตาบลสตั หีบ 4.2 จัดและส่งเสริมความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ให้กับ กลมุ่ เปา้ หมายเดก็ ออกกลางคัน/เดก็ ตกหลน่ และกล่มุ คนพกิ ารในตาบลสตั หีบ
4.3 เร่งสารวจขอ้ มูลการรู้หนังสือของคนไทย โดยให้ความสาคัญกับกลุ่มเป้าหมายนักศึกษา กศน.ใน ตาบล สตั หบี 4.4 พัฒนา กศน.ตาบล/แขวง ให้เป็นฐานการขับเคลื่อนการจัดการศึกษา โดยเน้นการประสาน เชื่อมโยงระหว่างชุมชนและภาคีเครือข่าย ในการจัดการศึกษารูปแบบ กศน.ตาบล 4 ศูนย์ ได้แก่ (1) ศูนย์ เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจาตาบล (2) ศูนย์ส่งเสริมพัฒนา ประชาธิปไตยตาบล (3) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน และ (4) ศูนย์การศึกษาตลอดชีวิตชุมชน เพื่อสนองตอบต่อความ ตอ้ งการของประชาชนอยา่ งมีประสิทธภิ าพ รวมทั้งสรา้ งและกระจายโอกาสในการเรียนรตู้ ลอดชวี ติ ในชมุ ชน 4.5 จดั การศกึ ษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวติ ประชาชนทกุ ช่วงวัย“กศน.เพ่ือประชาชน”เช่น จัดการเรียน วิชาชีพระยะส้ัน (โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน) ให้กับประชาชนท่ีสอดคล้องกับความต้องการของ ตลาดแรงงาน บริบทของพ้ืนท่ี จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับกลุ่มประชาชนและการพัฒนา ทกั ษะชวี ติ ในการเตรยี มความพรอ้ มรบั มือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม และการเขา้ ส่สู งั คมเศรษฐกิจที่ขบั เคล่ือนดว้ ยนวัตกรรม (Thailand 4.0) 4.6 มงุ่ เนน้ การสง่ เสรมิ ให้เกิดชุมชนรักการอ่านภายในตาบลสัตหีบ “นั่งท่ีไหน อ่านท่ีนั่น” ในรูปแบบ ตา่ ง ๆ เชน่ อาสาสมัครส่งเสริมการอา่ น หอ้ งสมุดประชาชน บ้านหนงั สือชุมชน ตู้หนังสือเคลื่อนที่ในตลาด และ หนังสือพิมพฝ์ าผนงั เปน็ ต้น 5. ส่งเสรมิ และพฒั นำระบบเทคโนโลยีดิจทิ ัลเพ่อื กำรศึกษำ จุดเน้นการดาเนินงาน 5.1 พัฒนา กศน. ตาบลสัตหีบ ให้มีความพร้อมเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT และเทคโนโลยี เพื่อการศึกษาอ่ืนท่ีเหมาะสมกับพ้ืนที่ เพ่ือให้ กศน.ตาบลสัตหีบ เข้าถึงการใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตมีความ พรอ้ มในการใหบ้ รกิ ารการศกึ ษาและการเรียนรู้ทเี่ ป็นไปตามความต้องการของประชาชนและชุมชน และสร้าง โอกาสในการเรียนรไู้ ดอ้ ย่างทัว่ ถงึ 5.2 พฒั นาระบบชอ่ งทางแหลง่ เรียนรอู้ อนไลน์ (Portal Web) และส่งเสรมิ ให้ประชาชนนาเทคโนโลยี สารสนเทศและการส่ือสารมาประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้/กิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือเพ่ิมโอกาสการเรียนรู้ และการ พัฒนาอาชีพ เช่น การแสวงหาความรู้เพ่ือการดารงชีวิต การพัฒนาต่อยอดอาชีพเพื่อสร้างรายได้ โดยผ่าน กลไกของศูนยด์ ิจิทลั ชมุ ชน เพอ่ื ให้ผเู้ รียนสามารถนาความรคู้ วามสามารถ เจตคติทด่ี ีตอ่ การประกอบอาชีพและ ทักษะท่ีพัฒนาขึ้นไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพท่ีสร้างรายได้ได้จริงและการพัฒนาสู่เศรษฐกิจเชิง สร้างสรรคต์ อ่ ไป 6. พฒั นำระบบบรหิ ำรจัดกำรสง่ เสรมิ ให้ทุกภำคส่วนมสี ่วนรว่ มในกำรจัดกำรศึกษำ จุดเนน้ การดาเนินงาน 6.1 สารวจ วิเคราะห์ และปรบั ปรงุ ค่าใช้จา่ ยในการจดั การศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพื้นฐาน โดยดาเนินการให้ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนค่าจัดซื้อตาราเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่า เลา่ เรยี นอยา่ งทว่ั ถงึ และเหมาะสมกับสภาพการจัดการศึกษา เพื่อเพ่ิมโอกาสในการรับการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยไม่เสยี คา่ ใชจ้ ่าย 6.2 สร้างความรู้ ความตระหนัก และปลูกจิตสานึกตามหลักธรรมาภิบาล ตลอดจนความรู้เร่ือง กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และอ่ืนๆท่ีเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานให้กับบุคลากรทุกระดับทุกประเภทโดย สง่ เสริมการจดั กจิ กรรม การจัดทานวตั กรรมเกย่ี วกบั องคค์ วามรู้ด้านคุณธรรมจริยธรรม การป้องกันการทุจริต และราชการใสสะอาด ของหน่วยงานและสถานศึกษา เพ่ือให้ กศน.ตาบลสัตหีบ เป็นองค์กรแห่งศักดิ์ศรีและ สุจริตธรรมท่ปี ระชาชนมคี วามเช่อื มน่ั ศรทั ธาและมีความไว้วางใจในการปฏบิ ัติงาน
ภำรกจิ ตอ่ เนอื่ ง 1. ดำ้ นกำรจัดกำรศึกษำและกำรเรยี นรู้ 1.1 การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน 1) สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบต้ังแต่ปฐมวัยจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานโดย ดาเนินการให้ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนค่าจัดซ้ือตาราเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่าเล่า เรยี นอยา่ งทวั่ ถงึ และเพียงพอเพ่อื เพ่มิ โอกาสในการรับการศึกษาทีม่ คี ุณภาพโดยไมเ่ สยี คา่ ใชจ้ ่าย 2) จดั การศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้ด้อย พลาดและ ขาดโอกาสทางการศึกษา ทั้งระบบการให้บริการ ระบบการเรียนการสอน ระบบการวัดและประเมินผลการ เรียน ผา่ นการเรยี นแบบเรยี นรู้ด้วยตนเอง การพบกลุ่ม การเรยี นแบบช้ันเรียน และการจัดการศึกษาทางไกล 3) จัดใหม้ กี ารประเมินเพ่ือเทยี บระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ ท่ีมีความโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ มีมาตรฐานตามท่ีกาหนด และสามารถตอบสนองความต้องการของ กลมุ่ เป้าหมายไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 4) ส่งเสริมให้ผู้เรียนต้องเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อดาเนินกิจกรรม เสริมสร้างความสามัคคี บาเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเน่ือง และส่งเสริมการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด กิจกรรม จติ อาสา การจัดต้งั ชมรม/ชุมนุม และเปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นนากจิ กรรมการบาเพ็ญประโยชน์อื่น ๆนอกหลักสูตร มาใช้เพ่ิมช่วั โมงกิจกรรมใหผ้ เู้ รยี นจบตามหลักสตู รได้ 5) จดั ตง้ั ศนู ยแ์ นะแนวและประสานการศกึ ษาพิเศษอาเภอ/เขต ใหค้ รบทุกอาเภอท่วั ประเทศ 1.2 การศึกษาตอ่ เน่ือง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาอย่างยั่งยืน โดยให้ความสาคัญกับการจัดการศึกษา อาชีพเพื่อการมีงานทาประเภทช่างพ้ืนฐาน/ช่างชนบท และอาชีพท่ีสอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียนและ ศักยภาพของแตล่ ะพนื้ ท่ี 2) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตให้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยจัดกิจกรรมการศึกษาใน รูปแบบต่างๆ อาทิ ค่ายพัฒนาทักษะชีวิต การจัดตั้งชมรม/ชุมนุม การส่งเสริมความสามารถพิเศษต่างๆ ที่ มงุ่ เน้นใหท้ ุกกล่มุ เปา้ หมายมีความรคู้ วามสามารถในการบริหารจัดการชีวิตของตนเองให้อยู่ในสังคมได้อย่างมี ความสขุ มคี ุณธรรมจรยิ ธรรม รวมท้ังสามารถใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชนต์ ่อตนเอง ครอบครัวและชุมชน 3) จัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชน โดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้ แบบบูรณาการในรูปแบบของการฝึกอบรม การเรียนทางไกล การประชุม สัมมนา การจัดเวทีแลกเปลี่ยน เรยี นรู้ การจดั กจิ กรรมจิตอาสา การสรา้ งชุมชนนักปฏิบัติ และรูปแบบอ่ืนๆ ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและ บริบทของชุมชนแต่ละพื้นท่ี โดยเน้นการดาเนินตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การสร้างจิตสานึก ความเปน็ ประชาธิปไตย ความเป็นพลเมืองดี การบาเพ็ญประโยชน์ การอนุรักษ์พลังงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม 4) ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เพ่ือสร้างจิตสานึกและวินัยในชุมชน เช่น การส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในชุมชน การเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจัดการขยะมลู ฝอยของชมุ ชน ศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพยี งและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจาตาบลสัตหบี 1.3 การศึกษาตามอธั ยาศยั 1) ส่งเสริมให้มีการขยายและพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ในระดับตาบล เพื่อการถ่ายทอดองค์ ความรู้ และจดั กจิ กรรมเพอื่ เผยแพร่องค์ความรใู้ นชุมชนได้อย่างทวั่ ถงึ 2) จดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรยี นร้เู พอ่ื ปลูกฝงั นิสัยรักการอา่ น และพัฒนาความสามารถในการ อา่ นและศกั ยภาพการเรยี นรู้ของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายให้ได้ระดับอ่านคล่อง อ่านเข้าใจความเขียนคล่อง
และอ่านเชงิ คิดวิเคราะหพ์ ้นื ฐาน และให้ประชาชนสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและทันเหตุการณ์ เพ่ือ สามารถนาความรูท้ ไ่ี ด้รับไปใชป้ ระโยชนใ์ นการปฏบิ ัติจริง 3) ส่งเสรมิ ให้มกี ารสรา้ งบรรยากาศ และส่ิงแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการอ่านให้เกิดข้ึนในสังคมไทย โดยสนับสนนุ การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เช่น พัฒนาห้องสมุดประชาชน ทุกแห่งให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตของชุมชน ส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน การสร้าง เครือข่ายส่งเสริมการอ่าน จัดหน่วยบริการเคลื่อนที่พร้อมอุปกรณ์เพื่อส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ที่ หลากหลายออกให้บริการประชาชนในพนื้ ที่ต่าง ๆ อยา่ งทัว่ ถึง สมา่ เสมอ รวมท้ังเสริมสร้างความพร้อมในด้าน สอื่ อุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการอา่ น และการจัดกิจกรรมเพอ่ื สง่ เสรมิ การอ่านอย่างหลากหลาย 4) จดั ทามุมวทิ ยาศาสตรเ์ พอื่ การศกึ ษา ใหเ้ ป็นแหลง่ การเรียนรู้เชิงวิชาการประจาตาบล โดย พฒั นาและจัดทานทิ รรศการ และจัดกิจกรรมที่เน้นการเสริมสร้างทักษะ กระบวนการเรียนรู้ และเจตคติทาง วิทยาศาสตร์ เพ่ือให้นักศึกษา ประชาชนนาความรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์ ไปใช้พัฒนาทักษะการคิด วิเคราะหบ์ นฐานข้อมูลท่ีถูกตอ้ ง และสามารถปรบั ตัวรองรบั ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงในอนาคตได้อย่าง มีประสิทธิภาพ รวมทัง้ เชื่อมโยงกระบวนการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรเ์ พ่อื พฒั นาชุมชน ให้ผู้รับบริการสามารถนาไป ประยุกต์ใชใ้ นการดาเนินชวี ิตการพัฒนาอาชีพ การรักษาสงิ่ แวดล้อม และการป้องกันภัยพิบัติจากธรรมชาติใน พืน้ ท่ี 2. ด้ำนหลักสูตร ส่ือ รูปแบบกำรเรียนรู้ กำรวัดและประเมินผล งำนบริกำรทำงวิชำกำรและกำรประกัน คณุ ภำพกำรศึกษำ 2.1 ส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการเรียนการสอน และกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยทห่ี ลากหลาย ทนั สมยั รวมทั้งหลักสูตรท้องถิ่นที่สอดคล้องกับ สภาพบริบทของพื้นท่ี และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและชุมชน เช่น การจัดโปรแกรมการเรียนรู้ รายบุคคล และแผนการเรยี นรู้รายชุมชน 2.2 พฒั นารูปแบบการจดั การศกึ ษาทางไกลใหม้ คี วามทนั สมัยดว้ ยระบบหอ้ งเรียนและการควบคุมการ สอบออนไลน์ 2.3 พฒั นาระบบการประเมนิ เพอ่ื เทยี บระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ให้ มคี ุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเปา้ หมายไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 2.4 ส่งเสริมการพัฒนาสื่อแบบเรียน สื่ออิเล็กทรอนิกส์และส่ืออ่ืนๆ ที่เอ้ือต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน กลุ่มเปา้ หมายทัว่ ไปและกลุ่มเป้าหมายพิเศษ 2.5 พัฒนาระบบการวัดผลและประเมินผลการศึกษานอกระบบทุกหลักสูตร โดยเฉพาะหลักสูตรใน ระดบั การศึกษาข้ันพ้ืนฐานให้ไดม้ าตรฐาน โดยการนาแบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอิเลก็ ทรอนิกส์ (e- Exam) มาใช้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 2.6 ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัย พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้และ เผยแพรร่ ปู แบบการจัด สง่ เสริม และสนับสนนุ การจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพ่ือให้มี การนาไปสู่การปฏบิ ัติอยา่ งกว้างขวางและมีการพัฒนาใหเ้ หมาะสมกับบรบิ ทอย่างตอ่ เน่ือง 2.7 พฒั นาระบบประกนั คณุ ภาพภายในสถานศึกษาให้ไดม้ าตรฐาน เพื่อพรอ้ มรบั การประเมินคุณภาพ ภายนอก โดยพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสาคัญของระบบการประกันคุณภาพ และสามารถดาเนินการประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษาได้อย่างต่อเน่ืองโดยใช้การประเมินภายในด้วย ตนเอง และจัดให้มีระบบสถานศึกษาพ่ีเลี้ยงเข้าไปสนับสนุนอย่างใกล้ชิด สาหรับสถานศึกษาที่ยังไม่ได้เข้ารับ การประเมินคณุ ภาพภายนอก ใหพ้ ัฒนาคณุ ภาพการจัดการศกึ ษาใหไ้ ดค้ ณุ ภาพตามมาตรฐานท่ีกาหนด
3. ดำ้ นเทคโนโลยเี พอ่ื กำรศึกษำ 3.1 ผลติ และพฒั นารายการวทิ ยุและรายการโทรทัศนเ์ พ่อื การศกึ ษาให้เชอื่ มโยงและตอบสนองต่อการ จดั กิจกรรมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาเพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษา สาหรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ให้มีทางเลือกในการเรียนรู้ที่หลากหลายและมีคุณภาพ สามารถพัฒนาตนเองให้ รเู้ ทา่ ทนั สอื่ และ เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การส่อื สาร เช่น รายการพัฒนาอาชีพเพ่ือการมีงานทารายการติวเข้มเติมเต็มความรู้ ฯลฯ เผยแพร่ทางสถานีวิทยุศึกษา สถานีวิทยุโทรทัศน์เพ่ือการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ (ETV) และทาง อนิ เทอร์เน็ต 3.2 พัฒนาช่องทางการเผยแพร่การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยผ่านระบบ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารแบบออนไลน์ เพ่ือส่งเสริมให้ครู กศน.นาเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สอื่ สารมาใช้ในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง (Do It Yourself: DIY) 3.3 พฒั นาสถานีวทิ ยุศกึ ษา และสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการ ออกอากาศให้กลุ่มเป้าหมายสามารถใช้เปน็ ช่องทางการเรยี นรทู้ ี่มีคณุ ภาพไดอ้ ย่างต่อเนอื่ งตลอดชีวิต โดยขยาย เครือข่ายการรับฟังให้สามารถรับฟังได้ทุกท่ี ทุกเวลา ครอบคลุมพื้นท่ีท่ัวประเทศและเพ่ิมช่องทางให้สามารถ รับชมรายการโทรทัศน์ได้ทั้งระบบ Ku - Band , C - Band และทางอินเทอร์เน็ตพร้อมท่ีจะรองรับการพัฒนา เป็นสถานีวิทยโุ ทรทศั น์เพอื่ การศึกษาสาธารณะ (Free ETV) 3.4 พัฒนาระบบการให้บริการสื่อเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาให้ได้หลายช่องทางทั้งทางอินเทอร์เน็ต และรูปแบบอื่น ๆ เช่น Application บนโทรศัพท์เคล่ือนที่ และ Tablet, DVD, CD, VCD และ MP3 เป็นต้น เพ่อื ให้กลมุ่ เปา้ หมายสามารถเลือกใช้บริการเพ่ือเข้าถงึ โอกาสทางการศึกษาและการเรียนรไู้ ดต้ ามความตอ้ งการ 3.5สารวจ วจิ ัย ติดตามประเมินผลด้านส่ือเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาอย่างต่อเน่ือง และนาผลมาใช้ใน การพัฒนางานให้มคี วามถูกต้อง ทันสมยั และสามารถส่งเสริมการศึกษาและการเรียนร้ตู ลอดชวี ิตของประชาชน ได้อยา่ งแท้จรงิ 5. ด้ำนบุคลำกรระบบกำรบริหำรจดั กำร และกำรมีสว่ นรว่ มของทกุ ภำคส่วน 5.1 การพัฒนาบุคลากร 1) พัฒนาบุคลากรทุกระดับ ทุกประเภทให้มีสมรรถนะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท้ังก่อนและ ระหว่างการดารงตาแหน่งเพื่อให้มีเจตคติที่ดีในการปฏิบัติงาน สามารถปฏิบัติงานและบริหารจัดการการ ดาเนินงานของหน่วยงานและสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมท้ังส่งเสริมให้บุคลากรในสังกัดพัฒนา ตนเองเพอื่ เลือ่ นตาแหนง่ หรือเลอื่ นวิทยฐานะโดยเน้นการประเมนิ วทิ ยฐานะเชงิ ประจักษ์ 2) พัฒนาหัวหน้า กศน. ตาบล ให้มีสมรรถนะสูงข้ึนในการบริหารจัดการ กศน. ตาบลสัตหีบ และการปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการเป็นนักจัดการความรู้และผู้อานวย ความสะดวกในการเรยี นรูเ้ พอ่ื ให้ผูเ้ รยี นเกดิ การเรียนร้ทู ี่มปี ระสิทธภิ าพอย่างแท้จริง 3) พัฒนาครู กศน. และผู้ท่ีเกี่ยวข้องให้สามารถจัดรูปแบบการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพโดย ส่งเสรมิ ให้มีความรคู้ วามสามารถในการจดั ทาแผนการสอน การจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และการวจิ ัยเบ้ืองต้น 4) ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการ กศน. ตาบลสัตหีบ เพ่ือให้มีส่วนร่วมในการ บรหิ ารการดาเนินงานตามบทบาทภารกจิ ของ กศน. ตาบลสตั หีบ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 5) พัฒนาศักยภาพบุคลากรท่ีรับผิดชอบการบริการการศึกษาและการเรียนรู้ให้มีความรู้ ความสามารถและความเปน็ มอื อาชีพในการจดั บรกิ ารสง่ เสริมการเรยี นรตู้ ลอดชีวติ ของประชาชนตาบลสัตหีบ 6)พัฒนาอาสาสมัคร กศน.สัตหบี ให้สามารถทาหน้าท่เี ปน็ ผจู้ ัด ส่งเสรมิ และสนับสนุนการจดั 7)การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
8) เสริมสร้างสัมพันธภาพระหว่างบุคลากร รวมทั้งภาคีเครือข่ายท้ังในตาบลและตาบล ใกลเ้ คียงในทกุ ระดับเพ่อื เพม่ิ ประสิทธภิ าพในการทางานร่วมกัน โดยจัดให้มกี ิจกรรมการพัฒนาสมรรถนะ และ เสริมสร้างความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบุคลากร และภาคเี ครอื ขา่ ยในรูปแบบทีห่ ลากหลายอย่างตอ่ เน่ือง 5.2 การพัฒนาโครงสร้างและอัตรากาลงั 1) จดั ทาแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและดาเนินการปรับปรุงสถานที่ และวัสดุอุปกรณ์ ใหม้ ีความพร้อมในการจดั การศกึ ษา 2) แสวงหาภาคีเครอื ข่ายในทอ้ งถ่ินเพื่อการมีส่วนร่วมในการดาเนินกิจกรรม การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งระดมทรัพยากรเพ่ือนามาใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้มี ความพร้อมสาหรับดาเนนิ กจิ กรรมส่งเสรมิ การเรียนรู้ของประชาชน 3) บริหารอตั รากาลงั ที่มีอยู่ทง้ั ในส่วนทเี่ ป็นขา้ ราชการ พนกั งานราชการ และลกู จ้างใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สุดในการปฏบิ ตั ิงาน 5.3 การพัฒนาระบบบริหารจัดการ 1) เรง่ ผลักดนั ให้มกี ารประกาศใชก้ ฎหมายวา่ ด้วยการศึกษาตลอดชีวิต 2) เพ่มิ ประสิทธภิ าพการบริหารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกากับ ควบคุมและ เรง่ รดั การเบิกจา่ ยงบประมาณใหเ้ ป็นตามเปา้ หมายทก่ี าหนดไว้ 3) พัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และเช่ือมโยงกันทั่วประเทศ อย่างเป็นระบบเพื่อให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดสามารถนาไปใช้เป็นเครื่องมือสาคัญในการบริหาร การวางแผน การปฏบิ ัติงาน การติดตามประเมนิ ผล และการนาผลมาพัฒนาการดาเนินงานอย่างต่อเนื่องตาม วงจรคุณภาพ เดมมิ่ง (PDCA) รวมทั้งจัดบริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างมี ประสิทธิภาพ 4) พัฒนาระบบฐานข้อมูลรวมของนักศึกษา กศน.ตาบลสัตหีบ ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทนั สมยั และเชือ่ มโยงกนั ทั่วประเทศ สามารถสืบค้นและสอบทานได้ทันความต้องการเพ่ือประโยชน์ในการจัด การศกึ ษาให้กบั ผู้เรยี นและการบรหิ ารจดั การอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 5) ส่งเสริมให้มีการจัดการความรู้ในหน่วยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งการศึกษา วจิ ัยเพ่ือสามารถนามาใช้ในการพัฒนาประสิทธภิ าพการดาเนินงานทส่ี อดคลอ้ งกับความต้องการของประชาชน และชมุ ชนพร้อมท้ังพฒั นาขดี ความสามารถเชิงการแข่งขันของหนว่ ยงานและสถานศกึ ษา 6) สร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการพัฒนาและ สง่ เสริมการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย และการเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ 5.4 การกากบั นเิ ทศ ตดิ ตาม ประเมิน และรายงานผล 1) สร้างกลไกการกากับ นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผลการดาเนินงานการศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ใหเ้ ชอื่ มโยงกับหนว่ ยงาน สถานศกึ ษา และภาคเี ครอื ข่ายทง้ั ระบบ 2)ให้หนว่ ยงานและสถานศกึ ษาทเี่ กยี่ วข้องทกุ ระดับ พฒั นาระบบกลไกการกากบั ติดตามและ รายงานผลการนานโยบายสกู่ ารปฏบิ ัติ ใหส้ ามารถตอบสนองการดาเนินงานตามนโยบายในแต่ละเร่ืองได้อย่าง มีประสทิ ธิภาพ 3) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสื่ออ่ืน ๆ ท่ีเหมาะสม เพ่ือการ กากบั นเิ ทศ ตดิ ตาม ประเมินผล และรายงานผลอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 4) พัฒนากลไกการติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคารับรองการปฏิบัติราชการ ประจาปีของ กศน.ตาบล เพอ่ื การรายงานผลตามตัวช้วี ดั ในคารบั รองการปฏิบตั ิราชการประจาปีของสานักงาน กศน. ใหด้ าเนนิ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ เป็นไปตามเกณฑ์ วธิ กี าร และระยะเวลาทีก่ าหนด
5) ให้มีการเช่ือมโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกองค์กร ตั้งแต่ส่วนกลาง ภูมิภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด อาเภอ/เขต และตาบล/แขวง เพื่อความเป็นเอกภาพในการใช้ ข้อมลู และการพฒั นางานการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ทศิ ทำงกำรพัฒนำและโอกำสของ กศน.ตำบลสตั หีบ 1. กำรพัฒนำชุมชนตำบลสัตหีบตำมหลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง ชุมชนตาบลสัตหีบ ประชากรในพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพที่หลากหลาย เช่น ทาประมง ค้าขาย รับจา้ งทวั่ ไป พนักงานบริษัทเอกชนเน่ืองจากอยู่ใกล้เขตใกล้โรงแรม และ อาชีพเกษตรกรเนื่องจากเป็นพ้ืนที่ ราบลุ่มภูเขา ดินมีความอุดมสมบูรณ์ ทิศทางการพัฒนาชุมชนท่ีเหมาะสมและมีความยั่งยืนคือการใช้แนวคิด ทศิ ทางการพัฒนาประเทศสคู่ วามยัง่ ยนื ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติและ สิง่ แวดล้อมทมี่ ีอยใู่ นชุมชนอยา่ งเหมาะสมกับสภาพพ้ืนที่ และวิถีการดาเนินชีวิตในประจาวันของคนในชุมชน เป็น 6 ทุน ได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนสังคม ทุนกายภาพ ทุนทางการเงิน ทุนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทนุ วัฒนธรรมมาใช้ประโยชนอ์ ย่างบรู ณาการและเกื้อกูลกัน โดยเฉพาะการสร้างฐานทางปัญญา เพื่อเป็น ภูมิคุ้มกันให้กับคนในสังคม ภาคเกษตร รวมทั้งการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมอย่างย่ังยืน ควบค่ไู ปกับการเสริมสร้างระบบ ธรรมาภิบาลและความสมานฉันท์ในชุมชน เพ่ือให้ประชาชนในพ้ืนท่ีตาบล สัตหบี และชุมชนใกลเ้ คยี งอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมอย่างมีความสุขและเปน็ ธรรม 2. กำรสง่ เสรมิ กำรเรียนรตู้ ลอดชีวิตของชมุ ชนตำบลสัตหีบ กศน.ตาบลสตั หีบ มงุ่ เนน้ ใหป้ ระชาชนในพนื้ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ ตลอดชวี ิตอย่างมคี ุณภาพ โดยพัฒนาคุณภาพ การศึกษาและการเรียนรู้ อย่างเป็นระบบโดยใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนมาช่วยในการจัดการศึกษาเพิ่ม โอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้จากการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในชุมชนเพื่อให้ประชาชนทุก กลุ่มเป้าหมายได้เรียนรู้ ตลอดชวี ิตดา้ นการศกึ ษานอกระบบและตามอธั ยาศัยอย่างมีคุณภาพมีเป้าหมายเพ่ือให้ ประชาชนในพ้นื ท่เี ป็นคนเก่ง คนดี มีความสขุ มคี วามรู้ ความชานาญด้านทักษะการประกอบอาชีพมีคุณธรรม จริยธรรมใฝ่เรียนรู้ และแสวงหาความรู้ อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต ดารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง มีความสุข มีสุขภาพท้ังกายและใจท่ีสมบูรณ์สามารถประกอบอาชีพและอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมี ความสขุ 3. กำรจดั กำรศกึ ษำเพอ่ื สง่ เสริมศิลปะและวัฒนธรรมในท้องถิ่นธรรม กศน.ตาบลสัตหบี มุง่ เนน้ ใหป้ ระชาชนในพื้นท่ีศึกษาเรียนรู้ดา้ นทานุบารุงศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม ในทอ้ งถนิ่ ดังนี้ 3.1 จดั ให้มีการศึกษาและการเรยี นรู้ ทางเลือกตามความสนใจของผู้เรียนและกลุ่มเป้าหมาย 3.2 สนับสนนุ การศึกษาใหส้ อดคล้องกับความจาเป็นของผ้เู รียนโดยนาแนวทางการใช้คูปองการศึกษา เพื่อการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยมาปรับใชก้ บั การจัดการศึกษาของ กศน.ตาบลสัตหบี 3.3 ร่วมมือกบั ภาคเี ครือขา่ ยองคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นตาบลสัตหบี กานนั ผู้ใหญบ่ ้านและประชาชน ทั่วไปจดั การการเรียนรทู้ มี่ ีคณุ ภาพและท่วั ถึง 3.4 จัดการศึกษาให้กับทุกกลุ่มเป้าหมายโดยส่งเสริมการเรียนรู้ ตลอดชีวิตโดยเน้นความร่วมมือ ระหว่างผูเ้ กยี่ วขอ้ ง 3.5 พัฒนาตนเองใหม้ คี ุณภาพและมจี ิตวิญญาณของความเปน็ ครู 3.6 สนับสนุนการมีส่วนร่วมกับองค์กรทางศาสนาในชุมชน เพ่ือการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม การสร้างสันติสุขค่านิยมไทย 12 ประการและจัด กิจกรรมส่งเสริมความปรองดองสมานฉันท์ในชุมชนอย่าง ยงั่ ยนื
3.7 สนับสนุนภาคีเครือข่าย ประชาชนในพื้นที่ให้มีการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และเผยแพร่มรดกทาง วัฒนธรรม ภาษาไทย และภาษาถนิ่ ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ เพือ่ การเรยี นรู้ การสรา้ งจิตสานกึ ความเปน็ ไทยและการ เพ่มิ มลู คา่ ทางเศรษฐกิจใหแ้ กค่ นในชุมชน 3.8 สนับสนุนการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ วัฒนธรรมของประเทศเพ่ือนบ้านและวัฒนธรรมสากล ตลอดจนสง่ เสริมและอนุรกั ษ์ภาษาทอ้ งถ่ินในชมุ ชน 3.9 ปลูกฝังค่านิยมและจิตสานึกดีให้เยาวชนและประชาชนพื้นที่ ได้มีโอกาสแสดงออกอย่าง สร้างสรรค์ ตัวชี้วดั ควำมสำเร็จตำมยทุ ธศำสตร์ และจุดเนน้ กศน.ตำบลสตั หีบ 1. จานวนกลุ่มเป้าหมายในตาบลสัตหีบมี ผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษาท่ีได้รับบริการ การศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน้ พ้นื ฐานโดยไม่เสยี คา่ ใช้จ่ายมีจานวนเพ่มิ 2. จานวนประชากรกลุม่ เปา้ หมายในตาบลสัตหีบท่ีเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/ได้รับบริการกิจกรรม การศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง และการศกึ ษาตามอัธยาศยั ทส่ี อดคล้องกับสภาพ ปญั หา และความต้องการได้โดยทว่ั ถึง 3. ร้อยละของผู้เรียนและผู้รับบริการในตาบลสัตหีบท่ีมีผลสัมฤทธิ์ตามจุดมุ่งหมายการเรียนรู้ของแต่ ละหลกั สตู ร/กจิ กรรมเพมิ่ ข้นึ 4. รอ้ ยละของผไู้ ม่รูห้ นังสือในตาบลสัตหบี ที่ผา่ นการประเมนิ การร้หู นังสือตามหลักสูตรส่งเสริมการ รู้หนงั สือเพ่มิ ขนึ้ 5. ร้อยละของชุมชนในตาบลสตั หีบทมี่ ีการจัดการความรู้และกระบวนการเรียนรู้อันเป็นผลเนื่องจาก การเข้าร่วมกจิ กรรมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั เพมิ่ ขนึ้ 6. รอ้ ยละของชมุ ชนในตาบลสตั หีบที่ใช้แหล่งการเรียนรู้ชุมชนในการจัดกระบวนการเรียนรู้ในชุมชน เพ่มิ ขึน้ 7. จานวนประชาชนกลุ่มเป้าหมายในตาบลสัตหีบที่ได้รับการศึกษาอบรมในหลักสูตรภาษาอังกฤษ และภาษากล่มุ ประเทศอาเซยี นมจี านวนเพม่ิ มากขน้ึ 8. รอ้ ยละของผู้รับการฝึกอบรมในหลักสูตรภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษากลุ่มประเทศอาเซียน และ อาเซยี นศึกษาทผี่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ ตามหลกั สตู รมจี านวนเพ่มิ มากขน้ึ 9. จานวนกิจกรรม/หลักสูตรที่ใช้กระบวนการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์/เทคโนโลยีที่เหมาะสมเป็น กระบวนการ/สาระในการเรยี นรูใ้ น กศน.ตาบลสัตหบี มีกจิ กรรมที่หลากหลายมากยิ่งขนึ้ 10. จานวนองค์กรภาคส่วนต่างๆ ในเขตพ้ืนท่ีรับผิดชอบของ กศน.ตาบลสัตหีบที่ร่วมเป็นภาคี เครือขา่ ยในการดาเนนิ งานการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั มีจานวนเพิ่มขึน้ 11. จานวน/ประเภทของสื่อ และเทคโนโลยีทางการศึกษาที่มีการจัดทา/พัฒนาและนาไปใช้เพื่อ สง่ เสริมการเรียนรู้ของผ้เู รยี น/ผรู้ บั บรกิ ารการศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัยของ กศน.ตาบลสัต หีบมีจานวนเพ่มิ ขน้ึ หลากหลาย 12. จานวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนท่ัวไปในเขตพ้ืนท่ีรับผิดชอบของ กศน.ตาบลสัตหีบท่ี เข้าถึงบริการความรู้นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยผ่านช่องทางส่ือเทคโนโลยีทางการศึกษา และ เทคโนโลยีการสอ่ื สารมีจานวนเพ่ิมข้นึ ปจั จยั หลกั แหล่งควำมสำเร็จ กศน.ตำบลสตั หีบ 1. กศน.ตาบลสตั หีบ ยดึ หลักวิชา หลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง หลักปรัชญาคดิ เป็น หลัก ธรมมาภบิ าล และผลสัมฤทธใ์ิ นการบริหารจดั การ ท้ังด้านวิชาการงบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการ บริหารทั่วไปทั้งภายในกศน.ตาบลสตั หบี และการทางานร่วมกันกับภาคีเครือข่าย
2. กศน.ตาบลสัตหีบ ใช้ยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ในการดาเนินงาน ท้ังที่ยึดพื้นท่ี ยึดสภาวะแวดล้อม ยึด กล่มุ เป้าหมายาและความตอ้ งการยดึ ประเดน็ ปัญหาของกลมุ่ เป้าหมายหรือประเด็นการพัฒนา ยึดความสาเร็จ และยดึ นโยบายเป็นฐาน 3. กศน.ตาบลสัตหีบ การเน้นการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ท้ังเครือข่ายเชิงพ้ืนท่ี เครอื ขา่ ยเชิงภารกจิ และการสร้างความเข้มแข็งรว่ มมือและความยงั่ ยืนในการเป็นภาคีเครือข่าย 4. กศน.ตาบลสัตหีบ เป็นฐานและสถานีปลายทาง ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้กับประชาชนใน พนื้ ท่ี โดยไดร้ บั การพฒั นาให้มีศักยภาพและพร้อมในการปฏบิ ัตงิ านตลอดเวลา 5. กศน.ตาบลสัตหีบ ใช้สถานศึกษาเป็นกลไกขับเคลื่อนการบริหารนโยบายในระดับพ้ืนท่ี โดยมี คณะกรรมการสถานศึกษาคณะกรรมการ กศน.ตาบลเป็นผู้เสนอแนะ กากับติดตาม นิเทศการดาเนินงาน เพ่อื ใหส้ ามารถจดั การศกึ ษาในระดับพ้ืนฐานได้อยา่ งคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ 6. กศน.ตาบลสัตหีบ มีข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มตามจุดเน้น มาใช้ในการวางแผนการจัด การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และ ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ในชุมชนได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ 7. กศน.ตาบลสัตหีบ มีระบบการนิเทศกากับติดตามและรายงานผล การปฏิบัติงานและการใช้จ่าย งบประมาณท่ีสามารถตรวจสอบความก้าวหน้าในการดาเนนิ งานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 8. กศน.ตาบลสัตหีบ มกี ลไก/ระบบท่สี ามารถเช่ือมโยงการทางานระหว่างส่วนราชการและหน่วยงาน ตา่ งๆ ท่ไี ดร้ บั มอบหมายจากสถานศึกษาเช่น ระบบ ฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องและการจัดกิจกรรมเพ่ือตอบสนอง นโยบายเรง่ ดว่ นหรือ นโยบายเฉพาะทีไ่ ด้รับมอบหมายจากสถานศึกษาไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ 9. กศน.ตาบลสัตหีบ มีหน่วยงาน/สถานศึกษารับผิดชอบตัวช้ีวัดความสาเร็จ ตามยุทธศาสตร์และ จุดเน้นท่ีตรงตามภารกิจอย่างชัดเจนท่ีกากับติดตามและรายงานผลตัวช้ีวัดท้ังส่วนกลางระดับจังหวัด และ ระดบั สถานศกึ ษาอย่างเป็นระบบ จดุ เนน้ ของ กศน.ตำบลสัตหีบ และภำคเี ครอื ขำ่ ย 2.1 ผู้บริหารสถานศึกษา ครู บุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา คณะกรรมการ กศน.ตาบล และครู กศน.ตาบล ทุกคน ได้รับการพัฒนาให้มี ศักยภาพและความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจ ตามบทบาทหน้าทอ่ี ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 2.2 มีการประสานเช่อื มโยงการทางานตามโครงสร้างภายใน กศน.ตาบลกับภาคีเครือข่ายทั้งในระดับ นโยบายและระดับปฏิบัติอย่างเป็นระบบโดยมีเอกภาพในเชิงนโยบาย และเน้นผลสัมฤทธิ์เป็นเป้าหมาย ความสาเร็จในการทางาน 2.3 กศน.ตาบลมีแผนจุลภาค (Micro Planning) เป็นเครื่องมือในการจัดกิจกรรมหรือออกแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ ทางการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายใน พื้นที่ โดยมีข้อมูลพ้ืนฐานท่ีสาคัญ ได้แก่ สภาพทางกายภาพของชุมชน ปัญหา/ความต้องการของประชาทาง การศึกษา กลุ่มเป้าหมาย แต่ละกลุ่ม แต่ละประเภท แหล่งวิทยากรชุมชน (ทุนมนุษย์ ทุนสังคมกายภาพ และ ทกุ การเงนิ ) ซ่งึ มกี ารปรับปรงุ ขอ้ มลู ดังกลา่ วใหเ้ ปน็ ปัจจบุ ันทุกรอปงี บประมาณ จุดเนน้ ดำ้ นผลสมั ฤทธิ์ กศน.ตำบลสตั หบี 3.1 ประชากรกลุ่มเป้าหมาย อาเภอสัตหีบ ท่ีสาเร็จหลักสูตรหรือร่วมกิจกรรมการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย มผี ลสมั ฤทธทิ์ ่ีมคี ณุ ภาพ ตรง ตามจุดมงุ่ หมายของหลักสูตรหรือกิจกรรมการศึกษา /การเรยี นรทู้ ่กี าหนดไว้ และสามารถนาความรู้ และประสบการณก์ ารเรียนรโู้ ยชน์ไดจ้ รงิ ที่ได้รบั ไปใช้
3.2 นักศึกษา/ผู้เรียนท่ีสาเร็จหลักสูตรการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มีคุณธรรม จริยธรรม ยึดค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ในการดาเนินชีวิตและมีความใฝ่รู้ ใฝ่เรียนอย่างต่อเนื่อง ตลอดชีวิต แผนแมบ่ ท สมำร์ทฟำรม์ เมอร\"์ พลิกชวี ิตเกษตรกร ปัญหาของเกษตรกร ยังเป็นปัญหาท่ีแก้ไม่ตกและยังคงดารงอยู่อย่างน้ันในทุกยุคทุกสมัย เกษตรกรไทยยังไม่เคยหนีพ้นวังวนปัญหาเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหน้ีสิน ราคาผลผลิตตกต่า ขาดอานาจ ต่อรองในระบบเศรษฐกิจทุนนิยม และยังถกู เอารัดเอาเปรียบจากนายทุนที่มีอานาจทางการเงินสูงกว่า ทาให้ เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อยของประเทศท่ีเติบโตด้วยผลผลิตทางเกษตรกรรม กลายเป็นชนช้ันราก หญ้าท่ีไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ง่ายๆ โครงการสมาร์ทฟาร์มเมอร์ หรือเกษตรกรปราดเปรื่อง เป็นอีกหน่ึง โครงการความหวงั ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ต้องการยกระดบั เกษตรกรไทย เร่ิมมาต้ังแต่ยุค ยุคล ล้ิม แหลมทอง เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในช่วงปลายปี 2556มีเป้าหมายของโครงการก็คือเกษตรกรต้องมี รายได้ไม่ตา่ กว่า 1.8 แสนบาท/ปี หรอื อย่างน้อย 300 บาท/วัน แต่ท่ีน่าตระหนกและต้องกลับมาทบทวน เม่ือ กรมสง่ เสรมิ การเกษตร รายงานว่า ผลการสารวจของสานักงานเศรษฐกิจ การเกษตร (สศก.) สรุปผลคัดกรอง เกษตรกรตามคุณสมบัติจากจานวนแรงงานภาคเกษตร 17 ล้านราย (ปี 2559 ) พบว่า มีเกษตรกรผ่าน คณุ สมบัตเิ พียง 9.6 แสนรายเทา่ น้นั ที่เหลือยังไม่ผา่ นเกณฑ์ ผลจากการตรวจสอบและพูดคยุ ของคนทาเกษตร จรงิ มผี ลออกมาเป็นเหรียญสองด้าน โดยพบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่ท่ีเข้าโครงการมักจะก้าวผ่านความยากจน และหลายคนเริ่มขยายพ้ืนท่ีเพาะปลูก โดยมีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลัก และการเรียนรู้จากสมาร์ท ฟาร์มเมอร์มาเป็นฐานเพ่ิมองค์ความรู้ในขณะท่ีอีกส่วนใหญ่ของประเทศยอมรับว่า การเปล่ียนเป็นเร่ืองยาก เพราะยังขาดความมั่นใจเรื่องรายได้ที่จะหล่อเลี้ยงครอบครัว และยังไม่พร้อมจะปรับตัวด้วยเหตุผลท่ีต้องรับ ฟังพัฒน์พงษ์ มงคลกาญจนกุล อาชีพไร่นาสวนผสม อ.ศรีสวัสด์ิ จ.กาญจนบุรี หนึ่งในเกษตรกรที่เข้าอบรม โครงการสมาร์ทฟาร์มเมอร์ เล่าว่า ก่อนหน้านั้นทาเกษตรเชิงเด่ียว คือ ปลูกข้าวโพด 21 ไร่ แต่เป็นหนี้มา ตลอด ไมเ่ คยปลดหนี้ได้ เพราะระหว่างรอผลผลิตไมม่ ีรายได้เขา้ บ้านมแี ตต่ อ้ งจ่ายออกทุกวัน เม่ือเข้าโครงการ สมาร์ทฟาร์มเมอร์ และทาสวนแบบผสมผสาน โดยนาแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ของในหลวง รัชกาลที่ 9 มา ปรับใช้ ทาให้มีรายไดเ้ ข้าบ้านทุกวันจากการขายไข่ เห็ด ผัก โดยไม่ต้องรอขายข้าวโพดอย่างเดียว จนขณะนี้มี การขยายพื้นที่ทาไร่นาสวนผสมเป็น 39 ไร่ และเป็นศูนย์เรียนรู้กับเกษตรกรด้วย พัฒน์พงษ์ กล่าวว่า การที่ เกษตรกรสว่ นมากไม่ยอมท่ีจะปรับปรุง หรอื เปล่ยี นรปู แบบการทาการเกษตร มาจากความกลัว ไม่ม่ันใจ เกรง ว่าหากเปลยี่ นแลว้ จะทาไม่ได้ ลม้ เหลว และสุดท้ายก็ต้องกลับมาท่ีเดิม ในฐานะที่ผ่านมาแล้วก็อยากสื่อให้รู้ว่า ในช่วงแรกเราอาจจะต้องยอมปรับตัวบ้าง แต่เม่ือเริ่มไปได้สักระยะ เราจะเร่ิมเห็นหน้าเห็นหลัง อย่างน้อยมี รายได้เข้ามาทุกวัน อย่างไรก็ตาม วิเชียร พวงลาเจียก แกนนาเกษตรกรชาวนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สะทอ้ นอกี มมุ มองหนึง่ ว่า ยอมรับว่าชาวนาสว่ นใหญไ่ ม่ยอมเปลี่ยนไปปลูกพืชอ่ืนเพราะไม่กล้าทา เน่ืองจากไม่ คุ้นเคย และเกรงจะทาไม่ได้ และพื้นท่ีนาไม่เหมาะกับการปลูกพืชอ่ืน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มหรือในพื้นท่ี ชลประทานของเขา ปัญหาสาคัญ คือ ปัญหาท่ีดินซ่ึงส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เช่า ทาให้เกษตรกรไม่กล้าที่จะ ปรบั เปล่ียนอาชพี ตามคาแนะนาของกระทรวงเกษตรฯ เพราะไม่มั่นใจรายได้ และจะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า เพราะ ปัจจุบันผู้ให้เช่าไม่ง้อเกษตรกร เน่ืองจากสามารถจ้างผลิต จ้างปลูกได้โดยไม่ต้องลงมือเอง ดังน้ันไม่ว่ารัฐจะ วางโครงการอะไรกย็ าก เพราะทด่ี นิ ไมใ่ ช่ของเกษตรกรเองกว่า 60% เปน็ พืน้ ท่ีเชา่ ทง้ั ส้นิ ควำมหมำยของสมำร์ทฟำร์มเมอร์ สมาร์ทฟาร์ม หรอื เกษตรอัจฉรยิ ะ เปน็ รปู แบบการทาเกษตรแบบใหม่ที่จะทาให้ การทาไร่ทานา มีภูมิคุ้มกันต่อสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการนาเอาข้อมูลของภูมิอากาศทั้งในระดับพ้ืนที่ย่อย (Microclimate) ระดับไร่ (Mesoclimate) และระดับมหภาค (Macroclimate) มาใช้ในการบริหารจัดการ
ดแู ลพนื้ ทเ่ี พาะปลกู เพอื่ ใหส้ อดคล้องกบั สภาพอากาศทีเ่ กิดขึ้น รวมถึงการเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศ ที่จะเปลย่ี นแปลงไปในอนาคต ดร.สมุ ทิ มองว่าอยู่ที่มุมมองของแต่ละองค์กรหรือหน่วยงาน “แล้วแต่ว่าองค์กรไหน หน่วยงาน ไหนพูดถึง ซึง่ เป็นไปตามจรติ ของหน่วยงานหรอื องค์กรน้ัน หลายคนก็พูดถึง Smart Farmer ในบริบทเหมือน เป็นผู้ประกอบการ มีความรู้ มีการวางแผน หรือมีรายได้เยอะ ซ่ึงก็ถือว่าเป็น Smart Farmer ถ้าเป็นอย่าง มุมมองของธนาคารก็อยากให้ Smart Farmer รา่ รวย มีความสามารถในการบริหารเงิน เพ่ือจะได้ไม่มีหน้ีเสีย ซ่ึงก็เป็น Smart Farmer ในอีกมุมหนึ่งที่คิดแบบธนาคาร แต่ในความหมายท่ีเราต้องการนั้น หากจะเป็น Smart Farmer ต้องเข้าใจธรรมชาติ หมายถึงการทต่ี อ้ งลงทนุ ลงแรงน้อย ให้ธรรมชาตชิ ว่ ยเยอะ ๆ ก็คือการไม่ ทารา้ ยธรรมชาติ ใช้ทรัพยากรเทา่ ท่จี าเป็น ทาแล้วต้องสบายข้ึนเรื่อย ๆ ไม่ใช่ย่ิงทาย่ิงเหน่ือย เช่น การมีพื้นที่ เล็ก ๆ แต่สามารถออกแบบใหป้ ลูกแบบผสมผสานและเกอื้ กูลกนั ได้” นายธนวทิ ย์ วงษใ์ หญ่ (2560) ได้ให้ความหมายว่า สาหรับระบบสมารท์ ฟารม์ เปน็ ระบบบรหิ าร จัดการแปลงเกษตรผ่านแอพลเิ คช่ันในโทรศัพทม์ ือถอื สามารถสั่งงานระบบใหน้ ้าและปุ๋ยนา้ ควบคุมปรมิ าณ และต้ังเวลาให้น้าและปุ๋ยลว่ งหน้า ตรวจสอบอณุ หภูมเิ พ่ือการตดั สนิ ใจสงั่ ใหน้ ้าผ่านสมาร์ทโฟน รวมท้ังยังดแู ล โรงเรอื นผ่านกล้องวงจรปิดทต่ี ดิ ต้ังไวไ้ ดท้ ุกเวลาตามทีต่ อ้ งการ ธรี เกียรต์ิ เกดิ เจริญ. Smart Farm. [ออนไลน์] มาร์ทฟาร์ม หรือ เกษตรอัจฉริยะ เป็นรูปแบบ การทาเกษตรแบบใหม่ท่ีจะทาให้ การทาไร่ทานามีภูมิคุ้มกันต่อสภาพภูมิอากาศท่ีเปล่ียนแปลงไป โดยการ นาเอาขอ้ มลู ของภูมิอากาศท้ังในระดบั พ้ืนท่ียอ่ ย (Microclimate) ระดบั ไร่ (Mesoclimate) และระดับมหภาค (Macroclimate) มาใช้ในการบริหารจัดการ ดูแลพื้นที่เพาะปลูก เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพอากาศท่ีเกิดข้ึน รวมถึงการเตรียมพรอ้ มรบั มือกบั สภาพอากาศที่จะเปลย่ี นแปลงไปในอนาคต ดร. ฤทยั ชนก จรงิ จิตร เจาะลึก “Smart Farmer” แคแ่ นวคิดใหม่ หรือจะพลกิ โฉมการเกษตร ไทย. [ออนไลน]์ “สมาร์ทฟารม์ เมอร์” เป็นวตั ถุประสงค์ของยุทธศาสตร์ท่ี ๑ จาก 4 ประเดน็ ยุทธศาสตรข์ อง แผนพฒั นาการเกษตร ซึง่ สอดคล้องกับแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติฉบับที่ 11 แนวคิดน้เี น้นการ พฒั นาเกษตรกรให้มีความสามารถในการพ่ึงพาตนเองได้ มภี มู คิ ุ้มกนั พรอ้ มรับความเสยี่ งในมติ ิของการผลติ และ การตลาด รวมทัง้ มคี วามสามารถในการผลิตและการตลาดในระดบั ท่ีพร้อมก้าวสูก่ ารเปน็ ผู้จดั การฟาร์มมือ อาชีพทท่ี าการเกษตรไดจ้ นประสบความสาเรจ็ สมำรท์ ฟำร์ม(Smart farm) สมารท์ ฟาร์ม(Smart farm) เปน็ นวัตกรรมทเ่ี กดิ จากแนวพระราชดาริในพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช (พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย) เก่ียวกับการส่งเสริม สนับสนุนให้เกษตรกรและ ผู้ประกอบการใช้นวัตกรรมด้านการเกษตรมากข้ึน เพื่อนาไปสู่การเพิ่มผลผลิตและพัฒนาภาคการเกษตรให้ ยั่งยนื ในอนาคต โดยรายละเอยี ดทน่ี า่ สนใจเก่ยี วกับสมารท์ ฟาร์ม มีดังนี้ สมาร์ฟาร์ม หรือ เกษตรอัจฉริยะ เป็นรูปแบบการทาเกษตรแบบใหม่ท่ีจะทาให้การทาไร่ทานามี ภูมิคุ้มกันต่อสภาพภูมิอากาศที่เปล่ียนแปลงไป โดยการนาข้อมูลของภูมิอากาศท้ังในระดับพื้นท่ีย่อย (Microclimate) ระดับไร่ (Mesoclimate) และระดับมหภาค (Macroclimate) มาใช้ในการบริหารจัดการ ดแู ลพ้ืนที่เพาะปลกู เพ่อื ใหส้ อดคล้องกับสภาพอากาศทีเ่ กิดขึ้น รวมถึงการเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศ ท่จี ะเปล่ยี นแปลงไปในอนาคต โดยไดร้ บั การขนานนามวา่ เกษตรกรรมความแม่นยาสูง หรือ เกษตรแม่นยาสูง (Precision Agriculture) ซึง่ เปน็ ท่นี ิยมกนั มากในประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเริ่มแพรหลายเขาไป ในหลายประเทศ ทัง้ ยโุ รป ญี่ปุน มาเลเซีย และอนิ เดีย แนวคิดหลักของสมาร์ทฟาร์ม คือ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ รวมถึง เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร ในการพัฒนาทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ของกระบวนการผลิต สนิ ค้าเกษตรไปจนถึงผูบ้ ริโภค เพื่อยกระดับคณุ ภาพการผลิต ลดต้นทุน รวมท้ังพัฒนามาตรฐานสินค้า สมาร์ท
ฟาร์มเป็นความพยายามยกระดับการพัฒนาเกษตรกรรม 4 ด้านท่ีสาคัญ ได้แก่ (1) การลดต้นทุนใน กระบวนการผลิต (2) การเพ่ิมคุณภาพมาตรฐานการผลิตและมาตรฐานสินค้า (3) การลดความเสี่ยงในภาค เกษตร ซ่ึงเกิดจากการระบาดของศัตรูพืชและจากภัยธรรมชาติ (4) การจัดการและส่งผ่านความรู้ โดยนา เทคโนโลยีสารสนเทศจากการวิจัยไปประยุกต์สู่การพัฒนาในทางปฏิบัติ และให้ความสาคัญต่อการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศของเกษตร กร ซึ่งเทคโนโลยีที่นามาใช้ในการทาสมาร์ทฟาร์ม ได้แก่ -Global Positioning System (GPS) เปนเทคโนโลยีในการระบุพิกัด หรือตาแหนงบน พ้ืนผิวโลกโดยใชกลุมของดาวเทียมจานวน 24 ดวง ซึ่งโคจรรอบโลกในวงโคจร 6 วง ท่ีความสูง 20,200 กิโลเมตรเหนือพื้นโลก -Geographic Information System (GIS) เปนเทคโนโลยใี นการรวบรวมและวเิ คราะหข์ ้อมลู เชงิ พื้นที่ แลวนา มาแสดงผลในรูปแบบตางๆ สามารถเก็บข้อมูลได้หลากหลายมิติ ซ่ึงระบบ GIS ท่ีรู้จักกันดีคือ Google Earth -Remote Sensing หรือเทคโนโลยกี ารรบั รูระยะไกล เปนเครื่องมือท่ีใชในการเก็บขอมูลพื้น ท่ี โดยอาศัยคล่นื แสงในชวงความยาวคลื่นตางๆ และคลื่นแมเหล็กไฟฟา เชน เรดาห์ ไมโครเวฟ วิทยุ เปนตน อปุ กรณรบั รูเหลานีม้ กั จะติดตง้ั บนอากาศยาน หรือดาวเทยี ม -Proximal Sensing หรือเทคโนโลยีการรับรูระยะใกล อาศัยเซ็นเซอรวัดขอมูลต่างๆ ได้ โดยตรงในจดุ ท่ีสนใจ เชน เซ็นเซอรตรวจอากาศ (Weather Station) เซน็ เซอรวดั ดนิ (Soil Sensor) เซ็นเซอร ตรวจโรคพืช (Plant Disease Sensor) เซน็ เซอรตรวจวดั ผลผลิต (Yield Monitoring Sensor) เป็นตน้ เซ็นเซอรเหลานี้สามารถนามาวางเปนระบบเครือขายไรสาย (Wireless Sensor Network) โดยนาไปติดต้ัง หรือ ปลอยในพ้ืนที่ไรนา เพ่ือเก็บขอมูลตางๆ ได้แก่ ความชื้นในดิน อุณหภูมิ ปริมาณแสง และสารเคมี -Variable Rate Technology (VRT) หรือเทคโนโลยีการใหปุย น้า ยาฆาแมลง ตามสภาพ ความแตกตางของพื้นท่ี โดยมกั จะใชรวมกับเทคโนโลยี GPS -Crop Models and Decision Support System (DSS) เปนเทคโนโลยีท่ีบูรณาการ เทคโนโลยที ้ังหมดท่ีกลาวมาขางตนเขาไวดวยกัน เพอ่ื ใชในการตัดสินใจวาจะทาอะไรกับฟารม เมื่อไร อยางไร รวมถงึ ยังสามารถทานายผลผลิตได้ดว้ ย การทาสมาร์ทฟาร์มในประเทศไทยอาจมีข้อจากัด เนื่องจากระบบเทคโนโลยีบางชนิดยังมี ประสิทธภิ าพไมด่ ี เชน่ ระบบ GPS และ GIS ต้องใช้เงินในการลงทุนสูง รวมถึงเกษตรกรขาดความชานาญใน การใช้เครอ่ื งมอื แตเ่ ม่ือโลกเขา้ สกู่ ารเปลยี่ นแปลงท้ังทางกายภาพ สังคม ตลอดจนองค์ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ทมี่ ีการแลกเปลีย่ นส่งผา่ นกันอย่างรวดเร็วไปทวั่ ทุกภูมิภาค เกษตรกรไทยจงึ จาเปน็ ตอ้ งมีการปรับเปล่ียนตัวเอง ตามสภาพการดาเนินชีวิต การเปิดรับ เรียนรู้ ข้อมูลข่าวสาร เพื่อพาตัวเองก้าวสู่การเป็นเกษตรกรคุณภาพ (Smart farmer) ตามนโยบายและแนวทางปฏิบัติงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ว่า การพัฒนา เกษตรกรใหเ้ ปน็ Smart farmer โดยมี Smart officer เปน็ เพื่อนคคู่ ิด ซ่ึงคณุ สมบตั พิ ื้นฐำนของ Smart farmer มี 6 ประกำร คอื ประการที่ 1 เป็นผูม้ คี วามรู้ในเร่ืองทีท่ าอยู่ สามารถเปน็ วทิ ยากรถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการ เกษตร หรอื ให้คาแนะนาปรกึ ษากับผ้อู น่ื ทสี่ นใจในเรอื่ งทท่ี าอย่ไู ด้ ประการที่ 2 มีขอ้ มูลประกอบการตดั สนิ ใจ สามารถเข้าถงึ แหล่งขอ้ มูลทงั้ จากเจ้าหนา้ ทีข่ อง รฐั และผา่ นทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารอนื่ ๆ เช่น Internet, Mobile smart phone เปน็ ต้น ประการท่ี 3 มีการบรหิ ารจดั การผลผลติ และการตลาด มีความสามารถในการบริหารจัดการ ปัจจัยการผลิต แรงงาน และทุน สามารถเช่ือมโยงการผลิตและการตลาดเพ่ือให้ขายผลผลิตได้ ตลอดจน สามารถจัดการของเหลอื จากการผลติ ทม่ี ีประสทิ ธิภาพ (Zero waste management)
ประการท่ี 4 เปน็ ผู้มคี วามตระหนกั ถึงคุณภาพสินค้าและความปลอดภัยของผบู้ ริโภค มี ความรหู้ รอื ไดร้ ับการอบรมเก่ียวกับมาตรฐาน GAP/GMP เกษตรอินทรยี ์ หรอื มาตรฐานอื่นๆ ประการที่ 5 มีความรับผิดชอบต่อส่งิ แวดล้อม/สังคม มีกระบวนการผลติ ที่ไม่ก่อให้เกดิ มลภาวะและไม่ทาลายสิง่ แวดล้อม (Green economy) มกี จิ กรรมชว่ ยเหลือชมุ ชนและสังคมอย่างต่อเนอ่ื ง ประการท่ี 6 มีความภมู ใิ จในความเป็นเกษตรกร มคี วามมงุ่ มั่นในการประกอบอาชพี การเกษตร รักและหวงแหนพน้ื ทแ่ี ละอาชีพทางการเกษตรไวใ้ หค้ นรุ่นตอ่ ไป มีความสขุ และพงึ พอใจในการ ประกอบอาชีพการเกษตร กระบวนการสรา้ ง Smart farmer เป็นการพัฒนา Smart Officer หรือเจ้าหนา้ ท่ีรัฐ ซ่งึ มี องค์ความรู้ทางวิชาการและนโยบาย สามารถนาเทคโนโลยีมาใช้สนบั สนนุ เกษตรกร โดยชน้ี าเกษตรกรตามแนว ทางการพัฒนาทีเ่ ปน็ มิตรต่อสิง่ แวดลอ้ ม สว่ นการก้าวสกู่ ารเปน็ Smart Officer คือ การปรบั กระบวนการ ทางาน ซ่งึ เรม่ิ จากการทาความเขา้ ใจอยา่ งลกึ ซ้ึงถงึ ชนดิ และปริมาณผลผลติ สินค้าเกษตรของแต่ละพ้ืนท่ี รวมทงั้ ปญั หาของสินคา้ แตล่ ะชนิด และตอ้ งสามารถเช่อื มโยงกบั ศนู ยว์ ิจัยของเครอื ข่ายหนว่ ยงานในกระทรวง เกษตรฯ และข้อมูลจากสานกั งานเศรษฐกิจการเกษตร โดยนามาวางแผนด้านการผลิตให้กับเกษตรกรได้อย่าง มปี ระสิทธิภาพ http://www.sptn.dss.go.th [ออนไลน]์ ตามแนวคิดของ ตาบลนาจอมเทียน มี ดังน้ี 1. จัดทาแผนยุทธศาสตร์ จัดทาโครงการ ฝึกอบรมโดยมีชาวบ้านในชุมชนมาร่วมอบรม 2. ให้ความรู้ในเร่ืองของการทาเกษตร โดยการเชิญวิทยากร ของเกษตรอาเภอมาให้ความรู้แก่ชาวบ้าน 3. ให้ชุมชนได้เข้าถึงในยุคของ 4.0 เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนมี งานทาและก่อให้เกิดรายได้ 4. สร้างแรงจูงใจให้ประชาชนมีความคิดท่ีสร้างสรรค์ 5. ประสานงานกับองค์กร ต่าง ๆ ภายในทอ้ งถิน่ เชน่ บ้าน วัด โรงเรยี น ในการทาเกษตร อยา่ งคุ้มคา่ และให้เกิดรายได้ท่ีดีข้ึน 6. ติดตาม นโยบายของจงั หวดั เกี่ยวกับงานดา้ น Smart Onie เอกสำร/งำนวจิ ยั ที่เกยี่ วขอ้ ง โดย ดร. ฤทัยชนก จรงิ จติ ร (นกั วิชาการพาณิชย์ชานาญการ) แนวคิด “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” เป็น วัตถุประสงค์ของยุทธศาสตร์ที่ 1 จาก 4 ประเด็นยุทธศาสตร์ของ แผนพัฒนาการเกษตร ซ่ึงสอดคล้องกับ แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาตฉิ บับท่ี 11 แนวคดิ นเี้ นน้ การ พัฒนาเกษตรกรให้มีความสามารถในการ พง่ึ พาตนเองได้ มีภมู ิคมุ้ กันพรอ้ มรับความเส่ยี งในมติ ิของการผลติ และ การตลาด รวมทง้ั มีความสามารถในการ ผลิตและการตลาดในระดับท่ีพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้จัดการฟาร์มมือ อาชีพที่ทาการเกษตรได้จนประสบความ สาเร็จ เกษตรกรรมในประเทศไทยยังประสบปัญหาหลายด้าน โดยเฉพาะในมิติของผลิตภาพ (Productivity) ยงั อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สูงและรายได้เกษตรกรมีอัตราเฉล่ียต่า เนื่องจากเกษตรกรไม่มีความรู้เพียงพอ ขาดข้อมูล เชิงลึกด้านการตลาดสาหรับวางแผนการผลิต รวมท้ังความรู้ในการผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพสูงที่มีความ ปลอดภัยต่อผู้บรโิ ภคและเป็นมติ รต่อส่งิ แวดลอ้ ม ประเดน็ ปญั หาดังกล่าวสะท้อนว่าอาชีพเกษตรกรยังขาดการ พฒั นาอย่างยง่ั ยืน โดยเฉพาะการสรา้ งความเขม้ แข็งใหส้ ามารถพ่ึงตนเองได้ในระยะยาว ซึ่งจะทาให้ภาครัฐไม่ จาเป็นตอ้ งกาหนดนโยบายเพอื่ แกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ และโอบอมุ้ เกษตรกร แนวคิด “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” จึง เป็นกลไกสาคัญในการตอบโจทย์การพัฒนาดังกล่าว ในมุมมองของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และ คอมพิวเตอร์แห่งชาตซิ ่ึงได้นาเสนอ Smart Farm Flagship ในภาคการเกษตร แนวคิดหลักของสมาร์ทฟาร์ม คือการใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ รวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ ในการพัฒนาท้ังห่วงโซ่ อุปทาน สินคา้ เกษตรเพื่อยกระดับผลติ ภาพ มาตรฐาน สินค้า และลดต้นทุน โดยการพัฒนาเกษตรกรรมใน 4 ด้านได้แก่ 1) ลดต้นทุน 2) เพ่ิมคุณภาพการผลิตและ มาตรฐานสินค้า 3) ลดความเสี่ยงจากศัตรูพืชและภัย ธรรมชาติ และ 4) การจดั การและส่งผ่านความรู้ ส่วน แนวคิด “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” ในมุมมองของกระทรวง เกษตรฯ หมายถงึ เกษตรกรที่มีความรอู้ ย่างถ่องแท้ เก่ียวกับการประกอบอาชีพเกษตรกรรม สามารถวางแผน โดยรู้ถึงอุปสงค์ตลาดและเตรียมการผลิตให้ สอดคล้อง รวมท้ังมีความสามารถในเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิต
และในการแกป้ ัญหาได้รวดเร็ว โดยการ วิเคราะห์ข้อมูลรอบด้านเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจที่ต้ังอยู่บน หลกั การและเหตผุ ล ตลอดจนรจู้ กั ประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยใี นการเกษตร ในมติ ิของผลผลติ “สมารท์ ฟาร์มเมอร์” จะเนน้ การผลติ สนิ คา้ เกษตรทีม่ ีคณุ ภาพสูง ปลอดภัยตอ่ ผบู้ ริโภค และเป็นมิตรกบั สง่ิ แวดลอ้ ม จักรกฤษณ์ หมั่นวิชา ฟาร์มอัจฉริยะหรือฟาร์มท่ีมีการจัดการอย่างถูกต้องแม่นยา(Smart Farm/ Precision Farm) จัดเป็น นวัตกรรมใหม่ของการเกษตรในยุคดิจิตอล มีการนาเอาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี สารสนเทศหลายด้านมาใช้ในฟาร์ม เช่น GPS GIS remote-sensing proximal-sensing VRT และ DSS โดย ผ่านเครือข่ายสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สาย ในการรับส่งข้อมูล และมีการประมวลผลด้วยโปรแกรมสาเร็จรูป ฟาร์มอัจฉริยะมีข้ันตอนการดาเนินงาน 5 ขั้นตอนคือ การเก็บข้อมูล การวินิจฉัยข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การปฏิบัติการตามแผน และการประเมนิ ผล โดยมีการ จัดการฟาร์มในทุกขั้นตอน คือ การจัดทาแผนที่สภาพ ดนิ การใหน้ ้า การใหป้ ุ๋ย การกาจดั ศตั รพู ืช การเก็บเก่ียว การ คานวณต้นทุน กาไร ตลอดจนการวางแผนการ เพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป การดาเนินการฟาร์มอัจฉริยะ ส่งผลให้ เกิดการใช้ปัจจัยการผลิตท่ีมีประสิทธิภาพ เพิ่มปริมาณผลผลิตท่ีมีคุณภาพ คุ้มค่าต่อการลงทุน ลดผลกระทบต่อ ส่ิงแวดล้อม ลดต้นทุน ลดการจ้าง แรงงาน ประหยัดเวลา และนาไปสู่การเกษตรย่งั ยนื และเปน็ มิตรกับสง่ิ แวดลอ้ ม
บทที่ 3 วธิ กี ำรดำเนินงำน ททททททททศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสัตหีบ ได้เห็นความสาคัญของ ชาวบ้านท่ีมีอาชีพเกษตรกรเป็นหลักและมีรายได้น้อยในการทาเกษตร ทาง กศน.ตาบลสัตหีบ จึงได้มีการ จดั ทาโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier เพ่อื เพ่ือส่งเสรมิ ให้ประชาชนมีความรู้เพิ่มมากข้ึน และสามารถเป็นเกษตรกรปราดเปร่ือง Smart Farmer สามารถปรับเปลี่ยนไปทาเกษตรตามแนวปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง ทาให้สามารถลดตน้ ทุนการผลติ ได้ จึงมขี น้ั ตอนดงั นี้ 1.ประชมุ บุคลากรกรรมการ กศน.ตาบลสตั หบี 2.แตง่ ต้ังคณะทางาน 3.ดาเนนิ งานตามแผน 4.ประชากรท่ใี ช้ในการดาเนนิ งาน 5.เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ในการดาเนนิ งาน 6.การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 7.การวเิ คราะหข์ อ้ มลู 1. ประชุมบุคลำกรกรรมกำร กศน.ตำบลสัตหบี ททททททททกศน.ตาบลสัตหีบ ได้วางแผนประชุมบุคลากรกรรมการ กศน.ตาบลสัตหีบ เพื่อหาแนวทางใน การดาเนินงานและกาหนดวัตถปุ ระสงค์รว่ มกัน 2. จดั ต้ังคณะทำงำน ททททททททจัดทาคาส่ังแต่งต้ังคณะทางานโครงการ เพื่อมอบหมายหน้าท่ีในการทางานให้ชัดเจน เช่น ทท ทททททททททท2.1 คณะกรรมการทปี่ รกึ ษา/อานวยการ มีหนา้ ทอ่ี านวยความสะดวก และให้คาปรึกษาแก้ไข ปญั หาทีเ่ กดิ ข้นึ ทททททททททท2.2 คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหี น้าที่ประชาสัมพนั ธ์รับสมัครผเู้ ข้าร่วมโครงการ ททททททททท 2.3 คณะกรรมการฝ่ายรับลงทะเบียนและประเมินผลหน้าท่ีจัดทาหลักฐานการลงทะเบียน ผเู้ ข้าร่วมโครงการ และรวบรวมการประเมินผล และรายงานผลการดาเนินการ 3. ดำเนนิ กำรตำมแผนงำนโครงกำร ททททททททวั ;วันท่ี 25-26 มิถนุ ายน 2563 แปลงเรียนรู้ตามระบบส่งเสรมิ เกษตรแบบแปลงใหญ่ (พชื ผัก) หมู่ 3 ตาบลสตั หีบ อาเภอสตั หีบ จงั หวัดชลบุรี 4. กลุม่ ตัวอยำ่ งทใี่ ช้ในกำรดำเนนิ งำน ททททททททเป็นกลุม่ ประชากรในตาบลสัตหบี จานวนกลมุ่ ประชากรทัง้ หมดจานวน 15 คน 5. เครื่องมือที่ใชใ้ นกำรดำเนินงำน 1. แบบสารวจความคิดเหน็ โครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trannier 2. แบบสอบถามความพึงพอใจโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trannier 6. กำรเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ททททททททจากการดาเนนิ งานโครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trannier ณ แปลงเรยี นรตู้ าม ระบบส่งเสรมิ เกษตรแบบแปลงใหญ่ (พชื ผกั ) หมู่ 3 ตาบลสตั หีบ อาเภอสัตหบี จงั หวดั ชลบุรี มีผเู้ ขา้ ร่วม
กจิ กรรมจานวน 15 คน โดยมกี ารแจกสอบถามทั้งหมด 15 ชุด และเกบ็ รวบรวมแบบสอบถามได้ 15 ชุด คิด เปน็ 100 เปอรเ์ ซ็นต์ 7. กำรวเิ ครำะห์ข้อมูล ททททททททจากการดาเนินงานโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier โดยมีเครื่องมือทีใ่ ช้ใน การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ดงั นี้ 1. คา่ แจกแจงความถ่ี 2. คา่ ร้อยละ 3. ค่าเฉลีย่ 4. ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ททททททททเพ่อื ใหต้ อบสนองความตอ้ งการของผ้เู ขา้ อบรมไดร้ บั ประโยชน์นาไปใชไ้ ด้จริงตามศกั ยภาพของแต่ ละคน ใหม้ คี ุณภาพชีวติ ทด่ี ตี อ่ ไป และได้ดาเนนิ การตามขน้ั ตอนและไดร้ วบรวมข้อมลู จากแบบสารวจสถติ ิที่ใช้ ในการวเิ คราะห์ กศน.ตาบลสตั หีบ จะได้นาแนวทางไปใชข้ อ้ มลู พิจารณาหลักสตู ร เนื้อหาตลอดจนเทคนิค วิธกี ารจดั การกระบวนการเรียนรตู้ ่างๆ เพ่ือให้ตอบสนองความตอ้ งการของผเู้ ข้าอบรมได้รับประโยชน์นาไปใช้ ได้จรงิ ตามศักยภาพของแตล่ ะคน ให้มีความเข้าใจและมีคณุ ภาพต่อไป ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศยั อาเภอสตั หีบ ไดด้ าเนินการตามขน้ั ตอนและไดร้ วบรวมข้อมูล โดยใช้สภาพการใช้สอื่ การสอนของ ครูในสถานศึกษาเปน็ แบบมาตรวัดประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดบั โดยมีรายละเอียดดงั น้ี (บุญชม ศรี สะอาด และบญุ ส่ง นิลแก้ว ,2545) 5 หมายถงึ มีการดาเนินงานในระดบั มากท่สี ุด 4 หมายถึง มกี ารดาเนินงานในระดบั มาก 3 หมายถึง มีการดาเนนิ งานในระดบั ปานกลาง 2 หมายถึง มีการดาเนนิ งานในระดบั น้อย 1 หมายถึง มกี ารดาเนนิ งานในระดบั นอ้ ยท่ีสุด โดยมีเกณฑก์ ารแปลความหมายค่าเฉล่ยี (บุญชม ศรสี ะอาด,2556) ดงั น้ี 4.50 – 5.00 หมายถึง มีความคดิ เห็น/การดาเนินงานอย่ใู นระดับมากทีส่ ุด 3.50 – 4.49 หมายถึง มีความคดิ เห็น/การดาเนนิ งานอย่ใู นระดับมาก 2.50 – 3.49 หมายถงึ มีความคิดเห็น/การดาเนินงานอยู่ในระดับปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายถงึ มีความคดิ เหน็ /การดาเนนิ งานอยูใ่ นระดบั น้อย 1.00 – 1.49 หมายถงึ มคี วามคิดเห็น/การดาเนินงานอยูใ่ นระดบั น้อยทส่ี ุด ผเู้ ข้าร่วมโครงการจะต้องกรอกขอ้ มูลตามแบบสอบถาม เพอื่ นาไปใช้ในการประเมินผลของการจดั กิจกรรมดังกล่าว และจะไดน้ าไปเป็นข้อมลู ปรบั ปรุง และพฒั นา ตลอดจนใช้ในการจดั ทาแผนการดาเนนิ การ ในปีต่อไป
บทท่ี 4 ผลกำรดำเนนิ งำนและกำรวเิ ครำะหข์ ้อมูล ในการจัดโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier ณ แปลงเรียนรู้ตามระบบส่งเสริม เกษตรแบบแปลงใหญ่ (พืชผัก) หมู่ 3 ตาบลสัตหีบ อาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 25-26 มิถุนายน 2563 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.ซึ่งได้สรุปผลจากแบบสอบถามและนาเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลจาก ผ้เู ขา้ รว่ มอบรมโครงการ จานวน 17 ชุด ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัวผู้ตอบแบบถำมของผู้เข้ำร่วม โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier ณ แปลงเรียนรตู้ ามระบบสง่ เสรมิ เกษตรแบบแปลงใหญ่ (พืชผกั ) หมู่ 3 ตาบลสตั หีบ อาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ผู้เข้าร่วมกิจกรรมท่ีตอบแบบสอบถามได้นามาจาแนกตามเพศ อายุ และอาชีพ ผู้จัดทาได้ นาเสนอจาแนกตามข้อมูลดงั กลา่ ว ดังปรากฏตามตารางท่ี 1 ดังตอ่ ไปนี้ ตารางท่ี 1 แสดงค่าร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามเพศ เพศ ชาย หญิง จานวน รอ้ ยละ ความคิดเห็น จานวน รอ้ ยละ 11 64.70 โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier 6 35.30 จากตารางที่ 1 แสดงวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามของผเู้ ข้ารว่ มโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier เป็นชาย 6 คน ร้อยละ 35.30 เป็นหญิง 11 รอ้ ยละ 64.70 ตารางที่ 2 แสดงค่ารอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอายุ อายุ 14 - 39 ปี 40 - 59 ปี 60 ปี ขนึ้ ไป จานวน ร้อยละ ความคิดเห็น จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ 7 41.17 โครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master 2 11.76 8 47.05 Trannier จากตารางท่ี 2 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการขยายผล เกษตรกรต้นแบบ Master Trannier ในช่วงอายุ 40-59 ปี มากท่ีสุด จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 11.76 รองลงมาอายุ 60 ปีข้ึนไป มีจานวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 41.17 และ อายุ 14-39 ปี จานวน 2 คน คิดเป็น ร้อยละ 11.76 ตารางท่ี 3 แสดงค่ารอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอาชีพ ประเภท เกษตรกร คา้ ขาย รับราชการ แม่บ้าน อ่ืนๆ ความคดิ เหน็ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ โครงการขยายผล 1 5.88 2 11.76 1 5.88 4 23.52 9 52.94 เกษตรกรตน้ แบบ Master Trannier จากตารางท่ี 3 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier มีอาชีพอื่นๆ มากที่สุด จานวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 52.94 รองลงมาคืออาชีพแม่บ้าน จานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 23.52 อาชีพค้าขาย จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 11.76 อาชีพรับราชการ จานวน 1 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.88 และอาชพี เกษตรกร จานวน 1 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 5.88
ตอนท่ี 2 ข้อมูลเกีย่ วกับควำมคดิ เห็นของผเู้ ข้ำร่วมโครงกำรขยำยผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trannier ความคดิ เห็นของผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรม จานวน 17 คน จากแบบสอบถามทั้งหมดที่มตี ่อโครงการขยายผล เกษตรกรตน้ แบบ Master Trannier ณ แปลงเรยี นรู้ตามระบบสง่ เสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ (พชื ผัก) หมู่ 3 ตาบลสตั หีบ อาเภอสตั หีบ จงั หวัดชลบุรี ดังปรากฏในตารางที่ 4 ตำรำงท่ี 4 ผลกำรประเมนิ โครงการขยายผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Trannier N = 17 รำยกำรท่ปี ระเมนิ µ σ อันดับที่ ระดบั ผล ตอนที่ 1 ความพึงพอใจด้านเน้อื หา กำรประเมิน 1 เน้ือหาตรงตามความตอ้ งการ 4.71 2 เน้ือหาเพียงพอตอ่ ความตอ้ งการ 4.65 0.57 2 มากทส่ี ดุ 3 เนือ้ หาปัจจุบันทนั สมัย 4.65 4 เนือ้ หามีประโยชนต์ ่อการนาไปใชใ้ นการพฒั นาคุณภาพชวี ิต 4.47 0.59 3 มากที่สุด ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจัดกจิ กรรม 5 การเตรียมความพรอ้ มก่อนจัดกจิ กรรม 4.88 0.59 3 มากทส่ี ดุ 6 การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์ 4.65 4.71 0.78 6 มาก 7 การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกับเวลา 4.53 8 การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกบั กล่มุ เป้าหมาย 4.71 0.32 1 มากทส่ี ดุ 9 วิธกี ารวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์ 0.59 3 มากที่สดุ ตอนที่ 3 ความพงึ พอใจตอ่ วิทยากร 4.71 0.57 2 มากท่สี ดุ 10 วทิ ยากรมีความร้คู วามสามารถในเรอ่ื งที่ถา่ ยทอด 4.59 0.70 5 มากทสี่ ุด 11 วิทยากรมเี ทคนคิ การถ่ายทอดใช้สอื่ เหมาะสม 4.59 0.46 2 มากที่สดุ 12 วิทยากรเปิดโอกาสให้มสี ว่ นรว่ มและซักถาม ตอนที่ 4 ความพึงพอใจด้านการอานวยความสะดวก 4.47 0.57 2 มากที่สดุ 13 สถานท่ี วัสดุ อปุ กรณ์และสิ่งอานวยความสะดวก 4.59 0.69 4 มากทสี่ ุด 14 การส่อื สาร การสร้างบรรยากาศเพือ่ ให้เกิดการเรียนรู้ 4.65 0.60 4 มากทีส่ ดุ 15 การบรกิ าร การช่วยเหลอื และการแกป้ ญั หา 4.64 0.70 6 มาก คำ่ เฉลีย่ 0.60 4 มากทีส่ ุด 0.59 3 มากที่สดุ 0.11 มากทส่ี ุด จากตารางแสดงให้เหน็ ว่า ผู้เขา้ ร่วม โครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier ดังนี้ จำกตำรำง 4 พบว่า โดยเฉลย่ี แลว้ ผู้เขา้ รบั การอบรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier อยใู่ นระดับ มากท่ีสุด เมื่อวิเคราะห์เป็นรายข้อพบว่า (µ = 4.88) เป็นอันดับที่ 1 คือ การเตรียม ความพร้อมก่อนจัดกิจกรรม(µ = 4.71), เป็นอันดับท่ี 2 คือ เนื้อหาตรงตามความต้องการ ,การจัดกิจกรรม เหมาะสมกับเวลา ,วิธกี ารวดั ผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกับวัตถปุ ระสงค์ ,วิทยากรมีความรู้ความสามารถในเรื่อง ท่ีถ่ายทอด (µ = 4.65) เป็นอันดับที่ 3 คือ เนื้อหาเพียงพอต่อความต้องการ,เน้ือหาปัจจุบันทันสมัย,การ ออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์,การบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา (µ =4.59) เป็น อันดับท่ี 4 คือ วิทยากรมีเทคนิคการถ่ายทอดใช้สื่อเหมาะสม, วิทยากรเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมและซักถาม, การส่อื สาร การสรา้ งบรรยากาศเพื่อใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ (µ =4.53) เป็นอันดับท่ี 5 คือ การจัดกิจกรรมเหมาะสม กับกลุ่มเป้าหมาย (µ =4.47) เป็นอันดับท่ี 6คือ เน้ือหามีประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ,สถานท่ี วัสดุ อปุ กรณ์และส่งิ อานวยความสะดวก ตามลาดบั
บทท่ี 5 สรปุ ผลกำรดำเนนิ กำร การจัดทาโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier โดยมวี ัตถปุ ระสงค์เพือ่ พฒั นา ศักยภาพเกษตรกรใหม้ อี งคค์ วามรดู้ า้ นการบรหิ ารจัดการงานเกษตรและการเกษตร เชิงท่องเทีย่ วเพิ่มข้ึน และใหเ้ กษตรกรต้นแบบ (Master Trannier) ได้ไปขยายผลการอบรมประชาชนให้เป็นเกษตรกรปราดเปร่ือง Smart Farmer ซึ่งโครงการได้จัดข้ึนในวันที่ 25-26 มิถุนายน 2563 เวลา 08.30-16.30น. ณ แปลงเรียนรู้ ตามระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ (พืชผัก) หมู่ 3 ตาบลสัตหีบ อาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ตลอด ระยะเวลาท่รี บั การอบรมโดยมกี ารซักถามพูดคุยโตต้ อบกบั วิทยากรอย่างสนใจ ในดา้ นต่าง ๆ คือ ความพึงพอใจดา้ นเนือ้ หา - ด้านหลักสูตรเนอ้ื หาตรงตามความต้องการ - เน้อื หาเพียงพอต่อความต้องการ - เนือ้ หาปจั จบุ ันทนั สมยั - เนอ้ื หามปี ระโยชน์ตอ่ การนาไปใช้ในการพฒั นาคุณภาพชีวติ ความพึงพอใจด้านกระบวนการจดั กิจกรรม - การเตรยี มความพรอ้ มก่อนจัดกจิ กรรม - การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ - การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา - การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกับกลุม่ เป้าหมาย - วิธกี ารวดั ผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวตั ถุประสงค์ ความพึงพอใจต่อวิทยากร - วิทยากรมีความรูค้ วามสามารถในเรอ่ื งที่ถา่ ยทอด - วทิ ยากรมเี ทคนคิ การถ่ายทอดใช้สอื่ เหมาะสม - วทิ ยากรเปิดโอกาสใหม้ ีส่วนร่วมและซักถาม ความพงึ พอใจดา้ นการอานวยความสะดวก - สถานที่ วัสดุ อปุ กรณ์และสงิ่ อานวยความสะดวก - การส่ือสาร การสรา้ งบรรยากาศเพือ่ ใหเ้ กดิ การเรียนรู้ - การบริการ การชว่ ยเหลอื และการแกป้ ัญหาได้ สรปุ ผลกำรดำเนนิ งำน ผู้เข้าร่วมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier ของศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยของอาเภอสัตหีบ (กศน.ตาบลสัตหีบ) มีผู้เข้าร่วมอบรมทั้งหมด 17 คน โดยแยกเป็น ผู้ชาย 6 คน และ ผู้หญิง 11 คน โดยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอื่นๆ และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมำกท่ีสุด (µ =4.64) โดยมี นายเกรียงศักด์ิ คีรีรัตน์เวทย์ นายสนอง สุภาผล และนายสกนธ์ นพรเกตุประธาน เป็นวทิ ยากร อภิปรำยผล จากการจัดกิจกรรมโครงการขยายผลเกษตรกรต้นแบบ Master Trannier ผ้เู ข้าร่วมโครงการขยายผล เกษตรกรตน้ แบบ Master Trannier อยู่ในระดบั มากที่สดุ
ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนาความรู้เพิ่มมากขึ้นและสามารถเป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer สามารถปรับเปลี่ยนไปทาเกษตรตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทาให้สามารถลดต้นทุนการ ผลติ ได้ ปัญหำและอุปสรรคทเี่ กดิ ขนึ้ ระหวำ่ งกำรดำเนนิ งำน ไม่มี ข้อเสนอแนะ -
บรรณำนุกรม กรมการศึกษานอกโรงเรยี น (2546) กระทรวงศกึ ษาธกิ าร . (2543). บญุ ชม ศรีสะอาด และ บญุ สง่ นิลแกว้ (2535 หน้า 22-25) https://sites.google.com/site/adec5801122041/sma-rfar-me-xr-khux-xari http://www.trat.doae.go.th/data/smart%20Farmer/SF&SOdoae.pdf https://www.sme.go.th/upload/mod_download/download-20181005060126.pdf
ภำคผนวก
ภำพกิจกรรม โครงกำรขยำยผลเกษตรกรตน้ แบบ Master Tranner
Search
Read the Text Version
- 1 - 41
Pages: