Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงการขยะรีไซเคิลปรับปรุงสิ่งแวดล้อมป้องกันโรค

โครงการขยะรีไซเคิลปรับปรุงสิ่งแวดล้อมป้องกันโรค

Description: โครงการขยะรีไซเคิลปรับปรุงสิ่งแวดล้อมป้องกันโรค

Search

Read the Text Version

สรปุ ผลโครงกำรขยะรีไซเคลิ ปรบั ปรงุ สิ่งแวดล้อมปอ้ งกันโรค วันที่ 22 มถิ ุนำยน 2563 ณ กศน.ตำบลสัตหีบ กศน.ตำบลสัตหบี ศนู ย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัย อำเภอสัตหีบ สำนกั งำน กศน.จงั หวดั ชลบรุ ี

บทสรุปผบู้ รหิ าร โครงการขยะรีไซเคิลปรับปรงุ สงิ่ แวดลอ้ มปอ้ งกันโรค จดั ขึน้ ในครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่อื สรา้ งแนวทีด่ ีตอ่ การ จัดการขยะมลู ฝอยและเข้าใจคุณค่าของส่งิ ตา่ ง ๆวา่ วสั ดุบางประเภทสามารถนาไปใช้ประโยชนไ์ ด้หลายคร้งั หรือ สามารถเปลีย่ นเป็นเงินได้ และปลูกจิตสานึกดา้ นอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมท่ีสอดคลอ้ งกบั สภาพ ปัญหาของทอ้ งถ่ินอยา่ งยงั่ ยืน โดยมกี ลมุ่ เป้าหมายคือ ประชาชน เยาวชน ทวั่ ไปในพื้นท่ีตาบลสัตหบี จานวน 20 คน โดยจะใชก้ ลมุ่ เปา้ หมายทัง้ หมดในการคานวณโดยใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูปคอมพิวเตอร์ (โปรแกรมตารางคานวณ) เพ่ือ สรปุ ผลการดาเนินงานในคร้งั น้ี วิธีการดาเนินงาน โดยการสารวจความต้องการของประชาชนและนาผลจากการสารวจมาจัดทากิจกรรม โครงการขยะรีไซเคิลปรับปรุงส่ิงแวดล้อมป้องกันโรค ให้กับประชาชน และเยาวชนท่ัวไปในพ้ืนท่ีตาบลสัตหีบ จานวน 20 คน ในวันที่ 22 มิถุนายน 2563 ณ กศน.ตาบลสัตหีบ ตาบลสัตหีบ อาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี จ่าเอกวุฒิชยั วฒุ วิ ิทยางกลู เป็นวิทยากร จดั การเรียนการสอนในคร้ังน้ี หลังจากการจัดกิจกรรมโครงการแล้วมีการ แบบประเมิน สาหรับผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด จานวน 20 ชุด แล้วนาข้อมูลท่ีได้มาคานวณทางสถิติ หาค่าร้อยละ คา่ เฉลยี่ การแจกแจงความถี่ และคา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน ในการแปรผล ผลการดาเนินงาน จากการนาข้อมูลที่ได้มาทาการคานวณหาค่าสถิติต่างๆ สรุปว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรม มคี วามพงึ พอใจอย่ใู น ระดับมากที่สุด (µ =4.57)

คานา จากการที่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสัตหีบ กศน.ตาบลสัตหีบ ได้จัดทา โครงการขยะรีไซเคิลปรับปรุงส่ิงแวดล้อมป้องกันโรค เพ่ือตอบสนองต่อนโยบายของสานักงาน กศน. โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อสร้างแนวทางท่ีดีต่อการจัดการขยะมูลฝอยและเข้าใจคุณค่าของสิ่งต่าง ๆว่าวัสดุบางประเภท สามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้หลายครั้งหรือสามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ และปลูกจิตสานึกด้านอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมที่สอดคลอ้ งกับสภาพปญั หาของทอ้ งถนิ่ อย่างยง่ั ยนื ซึ่งโครงการดาเนินการจัดใน วันที่ 22 มิถุนายน 2563 ณ กศน.ตาบลสัตหีบ หมู่ 2 ตาบลสัตหีบ อาเภอสัตหีบ จังหวัด โครงการดังกล่าวได้ ดาเนนิ การเสร็จสิ้นไปไดด้ ้วยดี ซ่งึ รายละเอียดผลการดาเนินงานต่างๆ ตลอดจนปัญหาและอุปสรรค ได้สรุปไว้แล้ว เพ่อื รวบรวมกระบวนการดาเนนิ งาน ผลทไี่ ด้นาไปใช้ ตลอดจนการพัฒนาเพ่ือให้สอดคล้องกับสภาพวิถีชีวิต และ การตอบสนองความตอ้ งการของผู้เข้ารับการฝึกอบรม สุดท้ายคือ การนาไปใช้ประโยชน์อย่างแท้จริงและสามารถ แนะนาผ้อู ่นื ได้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตอย่างตอ่ เน่อื ง กศน.ตาบลสัตหบี มิถุนายน 2563

สารบญั หนา้ บทที่ 1 บทนา .................................................................................................................................................... 1 ความเปน็ มา................................................................................................................................. 1 วตั ถปุ ระสงค์ ................................................................................................................................ 1 เป้าหมาย ..................................................................................................................................... 1 ผลท่คี าดว่าจะได้รับ ..................................................................................................................... 1 ดัชนวี ดั ผลสาเรจ็ ของโครงการ...................................................................................................... 1 2 เอกสารการศึกษาและรายงานทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ............................................................................................. 3 นโยบายและจดุ เนน้ การดาเนนิ งาน กศน.ปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ........................................... 3 นโยบายและจดุ เนน้ การดาเนนิ งาน กศน.ตาบลสัตหีบประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563.............. 17 เอกสารท่ีเกย่ี วข้อง........................................................................................................................20 3 วธิ ดี าเนนิ งาน......................................................................................................................................... 41 ประชุมบคุ ลากรกรรมการสถานศึกษา ........................................................................................ 41 จัดต้ังคณะทางาน........................................................................................................................ 41 ประสานงานกบั หน่วยงานและบคุ คลที่เกี่ยวขอ้ ง......................................................................... 41 ดาเนนิ การตามแผน .................................................................................................................... 41 วดั ผล/ประเมินผล/สรปุ ผลและรายงาน ...................................................................................... 41 4 ผลการดาเนินงานและการวิเคราะหข์ อ้ มลู ............................................................................................. 43 ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนตัวผู้แบบสอบถามของผู้เข้ารบั การอบรมในโครงการขยะรไี ซเคลิ ปรับปรุง สง่ิ แวดล้อมป้องกนั โรค..................................................................................................................43 ตอนท่ี 2 ข้อมลู เกยี่ วกับความคิดเหน็ ท่มี ตี อ่ โครงการขยะรีไซเคิลปรับปรงุ ส่ิงแวดลอ้ มปอ้ งกันโรค43 5 สรปุ ผล อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................... 45 สรปุ ผลการดาเนนิ งาน ................................................................................................................ 45 อภิปรายผล................................................................................................................................. 46 ปญั หาและอปุ สรรค..................................................................................................................... 46 ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................... 46 บรรณานกุ รม ภาคผนวก

สารบญั ตาราง ตารางท่ี หนา้ 1 แสดงค่าร้อยละของผูต้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามเพศ.........................................................43 2 แสดงค่ารอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอายุ.........................................................43 3 แสดงค่าร้อยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอาชพี .......................................................43 4 ผลการประเมินโครงการขยะรีไซเคลิ ปรับปรงุ สงิ่ แวดล้อมป้องกนั โรค………………………………...........44

บทที่ 1 บทนา หลกั การและเหตุผล ขยะมูลฝอยขยะหรือของเสีย แบ่งเป็น มูลฝอยธรรมดาท่ัวไป ได้แก่ มูลฝอยสด เศษอาหาร กระดาษ โฟม พลาสติก ขวด แก้ว โลหะ ฯลฯ และของเสียอันตราย ได้แก่ มูลฝอยติดเช้ือจากโรงพยาบาล กากสารเคมี สารเคมี กาจดั แมลง กากนา้ มัน หลอดฟลูออเรสเซนต์ แบตเตอร่ีใช้แล้ว แหล่งกาเนิดของเสียที่สาคัญ ได้แก่ ชุมชน โรงงาน อุตสาหกรรมและพนื้ ทเ่ี กษตรกรรม ปริมาณขยะมูลฝอยดังกล่าว ส่งผลให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ขยะท่ีเกิดข้ึนทาให้ เกิดปริมาณมูลฝอยตกค้าง ตามสถานท่ีต่าง ๆ หรือมีการนาไปกาจัดโดยวิธีกองบนพื้นซึ่งไม่ถูกต้องตามหลัก สขุ าภบิ าลกอ่ ใหเ้ กดิ ปัญหาส่ิงแวดล้อม ได้แก่อากาศเสียน้าเสียแหล่งพาหะนาโรค จากมูลฝอยตกค้างบนพ้ืนจะเป็น แหล่งเพาะพันธุ์ของหนูและแมลงวัน ซึ่งเป็นพาหะนาโรคติดต่อทาให้มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมถึงเกิดเหตรุ าคาญและความไม่น่าดู จากการเกบ็ ขยะมลู ฝอยไม่หมดทาให้เกิดกล่ินเหมน็ รบกวน ดังนั้น กศน.ตาบลสัตหีบ จึงจัดทาโครงการขยะรีไซเคิลปรับปรุงส่ิงแวดล้อมป้องกันโรค มีความรู้เก่ียวกับ ขยะประเภทต่างๆ ปัญหาและผลกระทบทเี่ กดิ จากขยะ วธิ กี ารลดปรมิ าณขยะ การคดั แยก การนากลับมาใช้ใหม่การ กาจดั ขยะอยา่ งถูกวิธี รวมท้ังขยะในชุมชนมีปริมาณลดลง จากการที่ประชาชนนาความรู้ท่ีได้ไปปฏิบัติคัดแยกขยะ จากต้นทางและรว่ มกจิ กรรมในโครงการคดั แยกขยะเพือ่ ชมุ ชนสะอาด ปราศจากเช้ือโรค วตั ถุประสงค์ 1.เพอ่ื สรา้ งเกดิ แนวทีด่ ตี อ่ การจดั การขยะมลู ฝอยและเขา้ ใจคุณคา่ ของส่งิ ต่าง ๆว่าวสั ดบุ างประเภทสามารถ นาไปใช้ประโยชนไ์ ดห้ ลายคร้งั หรอื สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ 2.เพ่ือปลูกจติ สานกึ ด้านอนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มท่ีสอดคล้องกบั สภาพปัญหาของทอ้ งถนิ่ อย่างยั่งยนื เป้าหมาย เชิงปริมาณ ประชาชนและเยาวชนตาบลสตั หบี จานวน 20 คน เชงิ คณุ ภาพ ผ้เู ข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องขยะรีไซเคิลปรับปรุงสิ่งแวดล้อมป้องกันโรค เป็นการ เพ่มิ ศักยภาพของประชาชนในชมุ ชนและเสรมิ สร้างความรู้ในเรื่องการคัดแยกขยะที่ถูกต้อง ลดการเกิดโรคจากขยะ ในชุมชนได้ ระยะเวลาดาเนนิ งาน วนั ท่ี 22 มิถนุ ายน 2563 ณ กศน.ตาบลสัตหบี หมู่ 2 ตาบลสัตหบี จังหวัดชลบุรี ผลลัพธ์ (Out come) ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเขา้ ใจเรอ่ื งขยะรไี ซเคลิ ปรับปรงุ สิง่ แวดลอ้ มป้องกันโรค เป็นการเพิ่ม ศักยภาพของประชาชนในชมุ ชนและเสรมิ สรา้ งความรู้ในเร่อื งการคัดแยกขยะทถี่ กู ตอ้ ง ลดการเกิดโรคจากขยะใน ชมุ ชน ดัชนตี วั ชีว้ ัดผลสาเรจ็ ของโครงการ ตวั ชีว้ ัดผลผลิต (Outputs) - มผี ้เู ข้ารว่ มโครงการ ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 ของกลมุ่ เป้าหมาย - ผูเ้ ข้ารว่ มโครงการมีความพึงพอใจในระดบั ดีมากขนึ้ ไปไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80

ตัวช้ีวัดผลลพั ธ์ (Outcomes) ผู้เข้าร่วมโครงการรอ้ ยละ 80 สามารถนาความร้ไู ปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน มีความรู้ ความเข้าใจ เรื่องขยะรไี ซเคิลปรบั ปรุงสงิ่ แวดล้อมปอ้ งกันโรค เปน็ การเพ่ิมศกั ยภาพของประชาชนในชมุ ชนและเสริมสรา้ งความรู้ ในเรอื่ งการคัดแยกขยะที่ถูกตอ้ ง ลดการเกิดโรคจากขยะในชุมชนได้ การตดิ ตามและประเมนิ ผลโครงการ 1.การสงั เกต 2.แบบประเมิน 3.รายงานและตดิ ตามผลการจัดกิจกรรมเม่อื สิ้นสุดโครงการ

บทที่ 2 เอกสารการศึกษาและรายงานทเี่ ก่ียวขอ้ ง ในการจดั ทารายงานครงั้ นี้ ไดท้ าการศกึ ษาคน้ ควา้ เนื้อหาจากเอกสารการศึกษาและ รายงานทเ่ี กี่ยวข้อง ดงั ต่อไปน้ี 1. นโยบายและจุดเน้นการดาเนนิ งาน สานักงาน กศน.ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 1.1 วสิ ัยทัศน์ 1.2 พนั ธกจิ 1.3 เปา้ ประสงค์ 1.4 ตวั ชว้ี ัดความสาเร็จ/ยุทธศาสตร์/โครงการ 2. นโยบายและจดุ เน้นการดาเนนิ งาน กศน.อาเภอสัตหีบ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 3. การศกึ ษาเพอื่ พฒั นาทักษะชีวติ 4. โภชนาการสาหรับผูส้ ูองอายุ 5. งานวิจยั ท่ีเกี่ยวข้อง นโยบายและจุดเนน้ การดาเนนิ งาน สานกั งาน กศน. ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วิสยั ทศั น์ คนไทยได้รับโอกาสการศกึ ษาและการเรียนร้ตู ลอดชวี ติ อย่างมคี ณุ ภาพ สามารถดารงชวี ติ ที่เหมาะสม กับชว่ งวัย สอดคล้องกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และมีทกั ษะทจี่ าเป็นในโลกศตวรรษที่ 21 พนั ธกจิ 1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีมีคุณภาพ เพื่อยกระดับการศึกษา พฒั นาทักษะการเรียนรู้ของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายใหเ้ หมาะสมทุกช่วงวัย พร้อมรับการเปล่ียนแปลงบริบททาง สงั คม และสรา้ งสงั คมแห่งการเรียนรู้ตลอดชวี ิต 2 ส่งเสริม สนับสนุน และประสานภาคีเครือข่าย ในการมีส่วนร่วมจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมทั้งการดาเนินกิจกรรมของศูนย์การเรียนและแหล่งการเรียนรู้อ่ืน ใน รปู แบบต่าง ๆ 3. สง่ เสริมและพฒั นาการนาเทคโนโลยีทางการศกึ ษา และเทคโนโลยีดิจทิ ลั มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพในการ จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ใหก้ ับประชาชนอย่างทัว่ ถงึ 4. พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือและนวัตกรรม การวัดและประเมินผลในทุก รปู แบบใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทในปัจจุบนั 5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งจัดการศึกษาและการเรียนรู้ที่มี คุณภาพ โดยยดึ หลักธรรมาภบิ าล เป้าประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมทั้งประชาชนทั่วไปได้รับโอกาสทางการศึกษา ในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย ท่ีมี คุณภาพอยา่ งเท่าเทยี มและท่ัวถึง เปน็ ไปตามสภาพ ปญั หา และความต้องการของแตล่ ะ กลมุ่ เป้าหมาย 2. ประชาชนได้รบั การยกระดบั การศึกษา สรา้ งเสรมิ และปลกู ฝงั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และความเป็นพลเมือง อันนาไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เพ่ือพัฒนาไปสู่ความม่ันคงและยั่งยืน ทางด้านเศรษฐกจิ สังคม วฒั นธรรม ประวัติศาสตร์ และสง่ิ แวดลอ้ ม

3. ประชาชนได้รบั โอกาสในการเรียนรู้ และมีเจตคติทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมสามารถคิด วิเคราะห์ และประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวัน รวมทง้ั แกป้ ญั หาและพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ได้อย่างสร้างสรรค์ 4. ประชาชนได้รบั การสรา้ งและส่งเสรมิ ให้มีนสิ ยั รกั การอา่ นเพอ่ื การแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 5. ชุมชนและภาคเี ครือข่ายทกุ ภาคส่วน รว่ มจัด ส่งเสริม และสนบั สนุนการดาเนินงานการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศัย รวมทั้งการขบั เคล่อื นกจิ กรรมการเรยี นรขู้ องชุมชน 6. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนา เทคโนโลยีทางการศึกษา เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการยกระดับ คณุ ภาพในการจดั การเรียนรู้และเพม่ิ โอกาสการเรยี นรูใ้ ห้กับประชาชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนาสื่อและการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพ ชีวิต ท่ีตอบสนองกับการเปล่ียนแปลงบริบทด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และ สิง่ แวดลอ้ ม รวมท้งั ตามความตอ้ งการของประชาชนและชมุ ชนในรปู แบบทีห่ ลากหลาย 8. หนว่ ยงานและสถานศึกษามีระบบการบริหารจดั การท่เี ป็นไปตามหลกั ธรรมาภิบาล 9. บคุ ลากรของหน่วยงานและสถานศกึ ษาได้รับการพัฒนาเพื่อเพ่มิ สมรรถนะในการปฏิบัตงิ าน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ตวั ชีว้ ดั ตัวชีว้ ดั เชิงปรมิ าณ 1. จานวนผ้เู รียนการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาชั้นพืน้ ฐานทไี่ ด้รับการสนบั สนนุ ค่าใช้จา่ ยตาม สิทธทิ กี่ าหนดไว้ 2. จานวนของคนไทยกลุ่มเปา้ หมายต่าง ๆ ท่เี ขา้ ร่วมกิจกรรมการเรยี นรู/้ เข้ารบั บริการกจิ กรรม การศกึ ษาต่อเนือ่ ง และการศกึ ษาตามอัธยาศัยท่ีสอดคลอ้ งกับสภาพ ปัญหา และความต้องการ 3. รอ้ ยละของกาลังแรงงานท่ีสาเร็จการศกึ ษาระดบั มัธยมศึกษาตอนต้นขนึ้ ไป 4. จานวนภาคีเครือข่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมในการจัด/พัฒนา/ส่งเสริมการศึกษา (ภาคีเครือข่าย : สถาน ประกอบการ องค์กร หน่วยงานท่มี าร่วมจัด/พัฒนา/สง่ เสรมิ การศกึ ษา) 5. จานวนประชาชน เด็ก และเยาวชนในพ้นื ทสี่ ูง และชาวไทยมอแกน ในพื้นท่ี 5 จังหวัด 11 อากอ ไดร้ ับบริการการศึกษาตลอดชวี ิตจากศูนย์การเรยี นชุมชนสังกดั สานักงาน กศน. 6. จานวนผรู้ บั บรกิ ารในพน้ื ทเ่ี ปา้ หมายได้รบั การส่งเสรมิ ด้านการรู้หนังสอื และการพัฒนาทักษะชีวติ 7. จานวนนักเรียนนกั ศกึ ษาทไ่ี ดร้ บั บรกิ ารตวิ เขม้ เตม็ ความรู้ 8. จานวนประชาชนทไ่ี ดร้ บั การฝกึ อาชพี ระยะสน้ั สามารถสร้างอาชีพเพื่อสร้างรายได้ 9. จานวน ครู กศน. ตาบล จากพนื้ ท่ี กศน.ภาค ได้รับการพัฒนาศกั ยภาพด้านการจดั การเรียน การสอนภาษาองั กฤษเพ่อื การส่ือสาร 10. จานวนประชาชนทีไ่ ดร้ บั การฝึกอบรมภาษาตา่ งประเทศเพ่ือการสอ่ื สารดา้ นอาชพี 11. จานวนผู้สูงอายภุ าวะพง่ึ พิงในระบบ Long Term Care มีผูด้ แู ลทม่ี คี ุณภาพและมาตรฐาน 12. จานวนประชาชนทผี่ า่ นการอบรมจากศูนยด์ จิ ทิ ัลชมุ ชน 13. จานวนศนู ย์การเรยี นชุมชน กศน. บนพืน้ ทีส่ งู ในพื้นท่ี 5 จังหวดั ท่สี ง่ เสริมการพัฒนาทักษะ การฟัง พูดภาษาไทยเพ่ือการส่ือสาร รว่ มกนั ในสถานศกึ ษาสงั กดั สพฐ. ตชด. และกศน. 14.จานวนบคุ ลากร กศน. ตาบลท่สี ามารถจดั ทาคลงั ความรู้ได้ 15. จานวนบทความเพอ่ื การเรียนรตู้ ลอดชีวิตในระดับตาบลในหัวขอ้ ตา่ ง ๆ 16. จานวนหลักสูตรและส่อื ออนไลนท์ ี่ใหบ้ ริการกับประชาชน ท้งั การศกึ ษานอกระบบระดบั

การศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน การศกึ ษาตอ่ เนอ่ื ง และการศึกษาตามอธั ยาศัย ตวั ชีว้ ดั เชิงคณุ ภาพ 1. ร้อยละของคะแนนเฉลยี่ ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ การศึกษานอกระบบ (N-NET) ทุกรายวิชาทกุ ระดบั 2. ร้อยละของผูเ้ รยี นที่ไดร้ ับการสนบั สนนุ การจดั การศึกษาขัน้ พน้ื ฐานเทยี บกับคา่ เป้าหมาย 3. รอ้ ยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายท่ีลงทะเบียนเรียนในทุกหลักสูตร/กิจกรรมการศึกษาต่อเน่ืองเทียบ กับเปา้ หมาย 4. ร้อยละของผผู้ า่ นการฝึกอบรม/พฒั นาทักษะอาชีพระยะส้นั สามารถนาความร้ไู ปใช้ในการประกอบอาชีพ หรือพฒั นางานได้ 5. รอ้ ยละของผู้เรียนในเขตพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพ หรือทักษะด้านอาชีพ สามารถมีงานทาหรอื นาไปประกอบอาชพี ได้ 6. รอ้ ยละของผูจ้ บหลักสูตร/กิจกรรมท่ีสามารถนาความรู้ความเข้าใจไปใช้ได้ตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร กิจกรรม การศึกษาต่อเนอ่ื ง 7. รอ้ ยละของประชาชนทไ่ี ดร้ ับบริการมคี วามพงึ พอใจตอ่ การบริการ/เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้การศึกษา ตามอธั ยาศยั 8. รอ้ ยละของประชาชนกลุม่ เป้าหมายท่ีได้รับบริการ/ข้าร่วมกิจกรรมท่ีมีความรู้ความเข้าใจ/เจตคติทักษะ ตามจุดมงุ่ หมายของกิจกรรมท่กี าหนด ของการศึกษาตามอธั ยาศยั 9. ร้อยละของนักเรียน/นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาท่ีได้รับบริการติวเข้มเต็มความรู้เพิ่ม สูงขนึ้ 10. ร้อยละของผูส้ งู อายทุ ีเ่ ปน็ กล่มุ เป้าหมาย มีโอกาสมาเขา้ รว่ มกิจกรรมการศกึ ษาตลอดชีวติ นโยบายเร่งดว่ นเพือ่ ร่วมขบั เคล่ือนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 1.ยุทธศาสตร์ดา้ นความมนั คง 1.1 พัฒนาและเสรมิ สร้างความจงรกั ภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ โดยปลูกฝังและสร้างความตระหนักรู้ถึง ความสาคญั ของสถาบันหลกั ของชาติ รณรงค์เสรมิ สรา้ งความรกั และความภาคภมู ใิ จในความเป็นคนไทยและชาติไทย นอ้ มนาและเผยแพรศ่ าสตร์พระราชา หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งรวมถงึ แนวทางพระราชดารติ า่ ง ๆ 1.2 เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และการมีส่วนร่วมอย่างถูกต้องกับการปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ ในบรบิ ทของไทย มคี วามเปน็ พลเมอื งดี ยอมรับและเคารพความ หลากหลายทางความคดิ และอดุ มการณ์ 1.3 ส่งเสรมิ และสนับสนุนการจัดการศึกษาเพอื่ ป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาภยั คุกคามในรูปแบบใหม่ ทั้งยาเสพ ติด การค้ามนุษย์ ภัยจากไซเบอร์ ภยั พิบัตจิ ากธรรมชาติ โรคอุบัติใหม่ ฯลฯ 1.4 ยกระดบั คุณภาพการศกึ ษาและสรา้ งเสริมโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษา การพัฒนาทักษะ การ สร้างอาชีพ และการใช้ชีวิตในสังคมพหุวัฒนธรรม ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นท่ี ชายแดนอืน่ ๆ 1.5 สร้างความรู้ ความเข้าใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของประเทศเพ่ือนบ้านยอมรับและ เคารพในประเพณี วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธ์ุ และชาวต่างชาติที่มีความหลากหลาย ในลักษณะพหุสังคมที่อยู่ รว่ มกนั

2 ยทุ ธศาสตรด์ ้านการสรา้ งความสามารถในการแข่งขนั 2.1 เร่งปรับหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพ กศน. เพ่ือยกระดับทักษะด้านอาชีพของประชาชนให้เป็น อาชีพที่รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (First S - curve และ New S-curve) โดยบูรณาการความ รว่ มมอื ในการพัฒนาและเสรมิ ทักษะใหม่ด้านอาชีพ (Upskill & Reskill) รวมถึงมุ่งเน้นสร้างโอกาสในการสร้างงาน สร้างรายได้ และตอบสนองตอ่ ความต้องการของตลาดแรงานทง้ั ภาคอุตสาหกรรมและการบริการ โดยเฉพาะในพ้ืนท่ี เขตระเบียงเศรษฐกิจ และเขคพัฒนาพิเศษตามภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศสาหรับพื้นท่ีปกติให้พัฒนาอาชีพท่ีเน้น การตอ่ ยอดศักยภาพและตามบริบทของพืน้ ท่ี 2.2 จัดการศกึ ษาเพ่ือพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก ยกระดับการศึกษาให้กับประชาชนให้จบการศึกษาอย่าง น้อยการศึกษาภาคบังคับ สามารถนาคุณวุฒิที่ได้รับไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ รวมท้ังพัฒนาทักษะในการ ประกอบอาชีพตามความต้องการของประชาชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ตอบสนองต่อบริบทของสังคมและชุมชน รวมท้งั รองรับการพัฒนาเขตพื้นที่ระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) 2.3 พัฒนาและส่งเสรมิ ประชาชนเพื่อต่อยอดการผลติ และจาหนา่ ยสนิ คแ้ ละผลติ ภณั ฑ์ ออนไลน์ 1) เร่งจัดต้ังศูนย์ให้คาปรึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ Brand กศน. เพ่ือยกระดับคุณภาพของสินค้าและ ผลิตภัณฑ์ การบริหารจัดการที่ครบวงจร (การผลิต การตลาด การส่งออก และสร้างช่องทางจาหน่าย) รวมท้ัง ส่งเสรมิ การใช้ประโยชนจ์ ากเทคโนโลยีดจิ ิทลั ในการเผยแพร่และจาหนา่ ยผลติ ภัณฑ์ 2) พฒั นาและคดั เลอื กสดุ ยอดสนิ ค้าและลิตภณั ฑ์ กศน. ในแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับ สถานีบริการน้ามนั ในการเป็นซ่องทางการจาหนา่ ยสดุ ยอดสนิ ค้าและผลติ ภัณฑ์ กศน.ให้กวา้ งขวางยง่ิ ขึ้น 3 ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาและเสรมิ สร้างศักยภาพทรพั ยากรมนุษย์ 3.1 พัฒนาครูและบุคลากรท่ีเก่ียวข้องกับการจัดกิจกรรมและการเรียนรู้ เป็นผู้เช่ือมโยงความรู้กับผู้เรียน และผ้รู ับบรกิ าร มีความเปน็ \"ครูมืออาชพี \" มจี ติ บรกิ าร มีความรอบรู้และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเป็น \"ผูอ้ านวยการการเรยี นรู้\" ท่ีสามารถบรหิ ารจัดการความรู้ กิจกรรม และการเรียนรู้ที่ดี 1) เพ่ิมอัตราข้าราชการครูให้กับ กศน. อาเภอทุกแห่ง โดยเร่งดาเนินการเร่ืองการหาอัตราตาแหน่ง การสรรหา บรรจุ และแต่งต้ัง ข้าราชการครู 2) พัฒนาข้าราชการครใู นรปู แบบครบวงจร ตามหลกั สูตรทเ่ี ช่อื มโยงกบั วทิ ยฐานะ 3) พัฒนาครู กศน.ตาบลให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นเร่ืองการพัฒนาทักษะการ จัดการเรยี นการสอนออนไลน์ ทกั ษะภาษาตา่ งประเทศ ทักษะการจดั กระบวนการเรยี นรู้ 4) พัฒนาศึกษานิเทศก์ ให้สามารถปฏบิ ัติการนิเทศไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ 5) พัฒนาบุคลากร กศน.ทุกระดับทุกประเภทให้มีทักษะความรู้เร่ืองการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลและ ภาษาต่างประเทศทจ่ี าเปน็ 3.2 พัฒนาแหล่งเรยี นรู้ใหม้ บี รรยากาศและสภาพแวดลอ้ มท่เี อื้อต่อการเรียนรู้ มคี วามพรอ้ มในการให้บริการ กิจกรรมการศึกษาและการเรียนรู้ เป็นแหล่งสารสนเทศสาธารณะที่ง่ายต่อการเข้าถึง มีบรรยากาศที่เอื้อต่อการ เรยี นรู้ เปน็ พนื้ ทกี่ ารเรยี นรู้สาหรบั คนทกุ ช่วงวัย มสี ่ิงอานวยความสะดวก มีบรรยากาศสวยงามมีชีวิต ที่ดึงดูดความ สนใจ และมีความปลอดภยั สาหรบั ผู้ใชบ้ ริการ 1) เร่งยกระดับ กศน.ตาบลนาร่อง 928 แห่ง (อาเภอละ 1 แห่ง) ให้เป็น กศน.ตาบล 5 ดี พรีเม่ียม ท่ี ประกอบด้วย ครดู ี สถานทีด่ ี (ตามบริบทของพ้นื ท)่ี กจิ กรรมดี เครือขา่ ยดี และมีนวัตกรรมการเรยี นรู้ทด่ี ีมปี ระโยชน์ 2) จัดให้มศี นู ย์การเรยี นรู้ต้นแบบ กศน. เพ่ือยกระดับการเรียนรู้ ใน 6 ภูมิภาค เปน็ พน้ื ที่การเรียนรู้ (Co - Learning Space) ท่ีทันสมัยสาหรับทุกคน มีความพร้อมในการให้บริการต่าง ๆ อาทิ พื้นที่สาหรับการ ทางาน/การเรียนรู้ พืน้ ท่ีสาหรับกิจกรรมต่าง ๆ มีห้องประชุมขนาดเล็ก รวมทั้งทางานร่วมกับห้องสมุดประชาชนใน การให้บริการในรูปแบบห้องสมุดดิจิทัล บริการอินเทอร์เน็ต ส่ือมัลติมีเดีย เพื่อรองรับการเรียนรู้แบบ Active Learning

3) พัฒนาห้องสมุดประชชน \"เฉลมิ ราชกุมารี\" ใหเ้ ปน็ Digital Library โดยใหม้ ีบริการหนังสอื ในรูปแบบ e - Book บรกิ ารคอมพวิ เตอร์ และอินเทอรเ์ น็ตความเรว็ สูง รวมทงั้ Free Wifi เพ่ือการสบื ค้นข้อมลู 3.3 ส่งเสรมิ การจดั การเรียนร้ทู ่ที ันสมัยและมปี ระสทิ ธิภาพ เอือ้ ต่อการเรยี นร้สู าหรับทุกคน สามารถ เรียนไดท้ ุกที่ทกุ เวลา มีกจิ กรรมทหี่ ลากลาย นา่ สนใจ สนองตอบความต้องการของชุมชน เพือ่ พฒั นาศกั ยภาพ การเรียนรขู้ องประชาชน รวมทั้งใชป้ ระโยชน์จากประชาชนในชุมชนในการร่วมจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเช่ือมโยง ความสัมพันธ์ของคนในชมุ ชนไปสูก้ ารจดั การความรู้ของชมุ ชนอยา่ งยั่งยนื 1) ส่งเสรมิ การจดั กิจกรรมการเรยี นรูท้ ่ีปลูกฝงั คุณธรรม สร้างวนิ ัย จติ สาธารณะ ความรบั ผดิ ชอบ ต่อส่วนรวม และการมจี ิตอาสา ผา่ นกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ อาทิ กิจกรรมลูกเสือ กศน. กิจกรรมจิตอาสา ตลอดจน สนับสนนุ ใหม้ ีการจัดกจิ กรรมเพอื่ ปลกู ฝังคุณธรรม จริยธรรมใหก้ บั บุคลากรในองคก์ ร 2) จัดให้มีหลักสูตรลกู เสือมคั คเุ ทศก์ โดยใหส้ านกั งาน กศน.จังหวดั ทกุ แห่ปกทม. จดั ตงั้ กองลกู เสือ ที่ลูกเสือมีความพร้อมด้านทักษะภาษาต่างประเทศ เป็นลูกเสือมัคคุเทศก์จังหวัดละ 1 กอง เพ่ือส่งเสริมลูกเสือจิต อาสาพฒั นาการทอ่ งเท่ยี วในแต่ละจงั หวัด 3.4 เสรมิ สร้างความรว่ มมอื กับภาคีเครอื ขา่ ย ประสาน ส่งเสริมความร่วมมือภาคเี ครอื ขา่ ย ทัง้ ภาครฐั เอกชน ประชาสังคม และองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น รวมทั้งส่งเสริมและสนบั สนนุ การมีส่วนรว่ มของชมุ ชน เพือ่ สรา้ งความเขา้ ใจ และให้เกดิ ความร่วมมือในการสง่ เสริม สนบั สนุน และจดั การศึกษาและการเรยี นรู้ให้กับ ประชาชนอยา่ งมคี ณุ ภาพ 1) เร่งจัดทาทาเนยี บภูมิปญั ญาทอ้ งถิน่ ในแตล่ ะตาบล เพ่อื ใช้ประโยชนจ์ ากภมู ิปญั ญาท้องถนิ่ ในการสร้างการเรียนรู้จากองค์ความรู้ในตัวบุคคลให้เกิดการถ่ายทอดภูมิปัญญา สร้างคุณค่าทางวัฒนธรรมอย่าง ย่งั ยนื 2) ส่งเสรมิ ภูมิปัญญาท้องถน่ิ สกู่ ารจัดการเรยี นรชู้ มุ ชน 3) ประสานความร่วมมอื กับภาคเี ครอื ข่ายเพ่ือการขยายและพฒั นาการศกึ ษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยให้เข้าถงึ กลุ่มเปา้ หมายทุกกลุ่มอย่างกว้างขวางและมคี ณุ ภาพ อาทิ กลมุ่ ผสู้ งู อายุ กลุม่ อสม. 3.5 พฒั นานวัตกรรมทางการศกึ ษาเพ่ือประโยชน์ตอ่ การจัดการศึกษาและกลุ่มเป้าหมาย 1) พัฒนาการจดั การศกึ ษาออนไลน์ กศน. ท้งั ในรูปแบบของการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน การพัฒนาทักษะ ชวี ิตและทักษะอาชีพ การศกึ ษาตามอัธยาศยั รวมท้งั การพัฒนาช่องทางการค้าออนไลน์ 2) สง่ เสริมการใชเ้ ทคโนโลยีในการปฏิบตั งิ าน การบรหิ ารจัดการ และการจัดการเรียนรู้ 3) สง่ เสรมิ ใหม้ ีการใชก้ ารวิจยั อยา่ งงา่ ยเพือ่ สร้างนวตั กรรมใหม่ 3.6 พฒั นาศักยภาพคนดา้ นทักษะและความเข้าใจในการใชเ้ ทคโนโลยดี ิจทิ ัล (Digital Literacy) 1) พัฒนาความรู้และทักษะเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลของครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา เพอ่ื พฒั นา รปู แบบการจัดการเรียนการสอน 2) สง่ เสรมิ การจัดการเรียนร้ดู ้านเทคโนโลยีดิจิทลั เพ่ือให้ประชาชนมีทกั ษะความเข้าใจและ ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลทีส่ ามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั รวมทงั้ สรา้ งรายได้ให้กบั ตนเองได้ 3.7 พฒั นาทักษะภาษาต่างประเทศเพ่ือการส่ือสารของประชาชนในรูปแบบต่าง ๆอย่างเป็นรูปธรรม โดย เนน้ ทักษะภาษาเพื่ออาชีพ ทั้งในภาคธุรกิจ การบริการ และการท่องเที่ยว รวมทั้งพัฒนาสื่อการเรียนการสอนเพื่อ ส่งเสริมการใช้ภาษาเพ่อื การสื่อสารและการพัฒนาอาชพี 3.8 เตรียมความพรอ้ มการเขา้ ส่สู ังคมผู้สูงอายุท่ีเหมาะสมและมีคณุ ภาพ 1) ส่งเสริมการจัดกิจกรรมใหก้ ับประชาชนเพือ่ สรา้ งความตระหนกั ถงึ การเตรียมพร้อมเข้าสู่ สังคมผู้สงู อายุ (Aging Society) มีความเขา้ ใจในพัฒนาการของชว่ งวัย รวมทง้ั เรยี นรูแ้ ละมสี ว่ นรว่ มในการดแู ล รบั ผดิ ชอบผสู้ งู อายใุ นครอบครัวและชุมชน

2) พฒั นาการจดั บรกิ ารการศึกษาและการเรียนรสู้ าหรับประชาชนในการเตรียมความพรอ้ ม เข้าสวู่ ัยสูงอายทุ ่ีเหมาะสมและมีคุณภาพ 3) จดั การศึกษาเพ่ือพฒั นาคุณภาพชีวิตสาหรับผสู้ ูงอายุภายใตแ้ นวคิด \"Active Aging\" การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพชีวติ และพฒั นาทกั ษะชีวิต ใหส้ ามารถดแู ลตนเองทงั้ สุขภาพกายและสุขภาพจติ และรู้จกั ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 4) สร้างความตระหนกั ถึงคณุ คา่ และศกั ดิ์ศรีของผูส้ งู อายุ เปดิ โอกาสใหม้ กี ารเผยแพร่ภมู ปิ ัญญา ของผ้สู ูงอายุ และใหม้ ีสว่ นร่วมในกจิ กรรมด้านตา่ ง ๆ ในชมุ ชน เชน่ ด้านอาชีพ กฬี า ศาสนาและวฒั นธรรม 5) จัดการศกึ ษาอาชีพเพือ่ รองรับสังคมผสู้ ูงอายุ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ในทุก ระดบั 3.9 การส่งเสรมิ วทิ ยาศาสตรเ์ พือ่ การศกึ ษา 1) จัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์เชิงรุก และเน้นให้ความรู้วิทยาศาสตร์อย่างง่ายกับประชาชนในชุมชนท้ัง วิทยาศาสตร์ในวถิ ีชวี ติ และวิทยาศาสตรใ์ นชีวติ ประจาวนั 2) พัฒนาสือ่ นิทรรศการเละรปู แบบการจดั กจิ กรรมทางวิทยาศาสตรใ์ ห้มคี วามทันสมัย 3.10 ส่งเสริมการรู้ภาษาไทยให้กับประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะประชาชนในเขตพ้ืนท่ีสูงให้ สามารถฟงั พดู อา่ น และเขยี นภาษาไทย เพ่ือประโยชในการใช้ชวี ติ ประจาวันได้ 4 ยทุ ธศาสตรต์ น้ การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 4.1 จดั ต้ังศูนย์การเรียนร้สู าหรับทกุ ช่วงวัย ท่ีเป็นศูนย์การเรยี นรูต้ ลอดชวี ิตทส่ี ามารถให้บริการประชาชนได้ ทุกคน ทุกชว่ งวัย ที่มีกิจกรรมที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการในการเรียนรู้ในแต่ละวัยและเป็นศูนย์บริการ ความรู้ ศูนย์การจดั กจิ กรรมทีค่ รอบคลมุ ทกุ ช่วงวยั เพ่อื ให้มีพัฒนาการเรยี นรู้ทีเ่ หมาะสมและมีความสขุ กบั การเรียนรู้ ตามความสนใจ 1) เร่งประสานกบั สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพ่ือจัดทาฐานข้อมูลโรงเรียนท่ีถูกยุบรวม หรอื คาดวา่ นา่ จะถกู ยุบรวม 2) ใหส้ านักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่งท่ีอยู่ในจังหวัดที่มีโรงเรียนที่ถูกยุบรวม ประสานขอใช้พ้ืนที่เพ่ือจัดตั้ง ศนู ย์การเรยี นรู้สาหรับทุกช่วงวยั กศน. 4.2 ส่งเสรมิ และสนับสนนุ การจดั การศกึ ษาและการเรยี นร้สู าหรบั กลมุ่ เปา้ หมายผพู้ กิ าร 1) จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ และการศึกษาตามอัธยาศัย โดยเนน้ รปู แบบการศกึ ษาออนไลน์ 2) ใหส้ านกั งาน กศน.จังหวัดทุกแห่ง/กทม. ทาความร่วมมอื กบั ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจาจงั หวัด ในการใช้ สถานท่ี วัสดุอุปกรณ์ และครุภัณฑ์ด้านการศึกษา เพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษาและการเรียนรู้สาหรับ กลุ่มเปา้ หมายผู้พกิ าร 4.3 ยกระดับการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมายทหารกองประจาการ รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายพิเศษอ่ืน ๆ อาทิ ผู้ต้องขัง คนพิการ เด็กออกกลางคัน ประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาให้จบการศึกษานอกระบบระดับ การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน สามารถนาความรู้ทีไ่ ด้รบั ไปพัฒนาตนเองได้อย่างตอ่ เน่อื ง 4.4 พัฒนาหลักสตู รการจดั การศึกษาอาชพี ระะส้ัน ให้มีความหลากหลาย ทันสมัย เหมาะสมกับบริบทของ พน้ื ที่ และตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนผู้รบั บรกิ าร 5. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชวี ิตทเี่ ปน็ มติ รต่อสงิ่ แวดลอ้ ม 5.1 สง่ เสรมิ ให้มกี ารใหค้ วามรกู้ ับประชาชนในการรับมือและปรับตัวเพื่อลดความเสียหายจากภัยธรรมชาติ และผลกระทบที่เกีย่ วขอ้ งกับการเปล่ียนแปลงสภาพภูมอิ ากาศ

5.2 สร้างความตระหนักถึงความสาคัญของการสร้างสังคมสีเขียว ส่งเสริมความรู้ให้กับประชาชนเก่ียวกับ การคัดแยกตั้งแต่ต้นทาง การกาจัดขยะ และการนากลับมาใช้ช้า เพ่ือลดปริมาณและต้นทุนในการจัดการขยะของ เมอื ง และสามารถนาขยะกลับมาใช้ประโยชน์ได้โดยง่าย รวมทงั้ การจัดการมลพิษในชมุ ชน 5.3 สง่ เสรมิ ให้หนว่ ยงานและสถานศึกษาใช้พลังงานท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม รวมท้ังลดการใช้ทรัพยากรที่ ส่งผลกระทบตอ่ ส่งิ แวดล้อม เชน่ รณรงคเ์ รื่องการลดการใชถ้ งุ พลาสตกิ การประหยดั ไฟฟ้า เปน็ ต้น 6. ยุทธศาสตร์ดา้ นการปรบั สมดุลและพัฒนาระบบหารบรหิ ารจัดการภาครัฐ 6.1 พัฒนาและปรับระบบวิธีการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและ ประพฤติ มิชอบ บริหารจดั การบนขอ้ มลู และหลักฐานเชิงประจักษ์ มุ่งผลสมั ฤทธ์ิมีความโปร่งใส 6.2 นานวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบการทางานท่ีเป็นดิจิทัลมาใช้ในการบริหารและพัฒนางาน สามารถ เชื่อมโยงกับระบบฐานขอ้ มลู กลางของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งพัฒนาโปรแกรมออนไลน์ที่ สามารถเชื่อมโยง ข้อมูลต่าง ๆ ท่ีทาให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างต่อเน่ืองกันตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการและให้ประชาชน กลุ่มเปา้ หมายสามารถเข้าถึงบริการไดอ้ ยา่ งทันที ทุกทแี่ ละทกุ เวลา 6.3 ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรทุกระดับอย่างต่อเน่ือง ให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐาน ตาแหน่ง ให้ ตรงกบั สายงาน ความชานาญ และความต้องการของบคุ ลากร แนวทาง/กลยทุ ธก์ ารดาเนนิ งาน ของ กศน.อาเภอสตั หีบ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 ปรัชญา คดิ เป็น ทาเป็น เน้นคุณธรรม วสิ ยั ทัศน์ “ภายในปี 2565 ผเู้ รียน/ผ้รู ับบรกิ าร ของศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอสัตหีบ มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ ใช้แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญา สื่อเทคโนโลยี ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ โดยเครือข่ายมีส่วนร่วม” อตั ลักษณ์ “เทา่ ทันเทคโนโลยี” ความหมาย การใช้เทคโนโลยี ในการเรยี นรแู้ ละการดารงชวี ิตได้อย่างถกู ต้อง เอกลักษณ์ “องคก์ ร ออนไลน์” หมายถงึ สถานศกึ ษาใช้เทคโนโลยใี นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ และการบริหารงานภายในองคก์ ร พนั ธกิจ 1. ออกแบบการจัดกระบวนการเรียนรใู้ ห้สอดคลอ้ งกบั หลักสตู ร 2. จัดระบบสารสนเทศเพ่ือการเรียนรแู้ ละการบรหิ ารการศกึ ษา 3. พฒั นาบคุ ลากรด้านการออกแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้/สอ่ื /การประเมินผล 4. สง่ เสรมิ และสนับสนนุ การมีสว่ นร่วมของภาคเี ครอื ขา่ ยและชมุ ชนในการจัดกิจกรรมการศกึ ษา เปา้ ประสงค์ 1. ใช้สื่อเทคโนโลยใี นการจัดการเรยี นรู้ 2. จัดการเรยี นร้รู ่วมกบั เครือข่าย

กลยุทธ์ กลยทุ ธ์ วตั ถปุ ระสงค์ 1. พัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น 1. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นมคี ุณธรรม จริยธรรมค่านยิ มอนั พงึ ประสงค์ 2. เพ่อื ให้ผเู้ รียนมที ักษะและความสามารถในการแสวงหาความรู้ 3. เพอ่ื ให้ผเู้ รียนมีทักษะและความสามารถในการคิดสรา้ งสรรค์ 4. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการศกึ ษาตามนโยบายสถานศึกษา 5. เพ่อื ใหผ้ ้เู รยี นการศกึ ษาต่อเนือ่ งนาความร้ไู ปใชไ้ ด้ 6. เพ่อื ใหผ้ ้เู รียนการศกึ ษาเศรษฐกิจพอเพียงสามารถนาความร้ไู ปใชไ้ ด้ 7. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นการศกึ ษาดจิ ทิ ลั ชุมชนสามารถนาความร้ไู ปใช้ได้ 8. เพอ่ื ใหผ้ ู้รบั บรกิ ารการศกึ ษาตามอธั ยาศยั นาความรไู้ ปใช้ได้ 9. เพื่อให้ผู้เรียน/ผู้รับบริการสามารถเข้าถึงข้อมูลจากระบบสารสนเทศและสามารถนา ความร้ไู ปใชพ้ ฒั นาตนเองได้ 2. พัฒนาบุคลาการ 1. เพ่อื ใหบ้ คุ ลากรมคี วามรแู้ ละทักษะดา้ นการออกแบบการจัดกระบวนการเรยี นการสอน 2. เพื่อใหบ้ คุ ลากรมีความรแู้ ละทักษะดา้ นการออกแบบส่อื การเรยี นการสอน 3. เพอ่ื ใหบ้ คุ ลากรมีความรูแ้ ละทกั ษะด้านวธิ ีการประเมินผลท่มี ีคุณภาพ 3.บริหารการจัดการสถานศึกษา 1. เพ่ือจดั ระบบสารสนเทศเพื่อการเรียนรแู้ ละการบริหารสถานศกึ ษา 4.ภาคีเครอื ขา่ ยร่วมจัดกจิ กรรม 1. เพอื่ ใหเ้ ครือข่ายมสี ว่ นร่วมส่งเสรมิ สนบั สนนุ และร่วมจดั การจัดกิจกรรมการศกึ ษา ผลการวิเคราะห์ SWOT (Swot Analysis) ของ กศน.อาเภอสตั หีบ S = จดุ แขง็ 1. ด้านอาคารสถานทตี่ ้ังอยู่ในเขตชุมชนเมอื ง สะดวกในการติดตอ่ 2. ดา้ นบุคลากรมจี านวนเพียงพอตอ่ การปฏบิ ตั งิ าน 3. มรี ะบบการจัดเกบ็ และสืบค้นขอ้ มูลทท่ี ันสมัยสามารถสืบคน้ ขอ้ มูลทางเวปไซด์ได้ W = จุดอ่อน 1. ส่อื วสั ดุ อุปกรณ์ ไม่เพยี งพอตอ่ การดาเนินงานและการบรกิ าร 2. ระบบสารสนเทศ เทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต wifi ไม่เพียงพอต่อการดาเนินงานและการบริการประชาชน และนกั ศึกษา 3. สถานที่คับแคบ ไมเ่ หมาะสมกบั การจดั กจิ กรรมขนาดใหญ่ O = โอกาส 1. ได้รับความร่วมมอื กบภาคีเครอื ขา่ ยเป็นอยา่ งดี 2. ไดร้ ับการยอมรับจากชุมชนและหน่วยงานอื่นๆ 3. มีแหลง่ เรยี นรู้และภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ท่โี ดดเด่นจากเศรษฐกจิ พอเพียง 4. มีกรอบแนวทางการดาเนินงานท่ีชดั เจน T = อุปสรรค 1. สถานท่ี 2. นกั ศกึ ษาไมส่ ามารถเข้ารว่ มกิจกรรมไดบ้ ่อยครง้ั 3. ผู้เรยี นไมค่ อ่ ยพัฒนาตนเองอยา่ งต่อเนื่อง 4. การจัดสรรงบประมาณจากหนว่ ยงานล่าช้า

นโยบายและจุดเนน้ ของ กศน.อาเภอสตั หีบ ตวั ชีว้ ดั 1. จานวนผเู้ รียนการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐานทีไ่ ดร้ ับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามสทิ ธทิ ่กี าหนดไว้ 2. จานวนของคนไทยกลุ่มเปา้ หมายต่างๆ (กลุ่มเป้าหมายท่ัวไป กลมุ่ เปา้ หมายพิเศษ และกลุ่มคนไทยทั่วไป เป็นต้น) ที่เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/ได้รับบริการกิจกรรมการศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัยที่สอดคล้องกับ สภาพ ปัญหา และความต้องการ 3. ร้อยละผู้จบหลักสูตร/กิจกรรมการศึกษานอกระบบสามารถนาความรู้ความเข้าใจไปใช้ได้ตามจุดมุ่งหมายของ หลกั สตู ร/กิจกรรมทีก่ าหนด 4. จานวนแหลง่ เรียนรู้ในระดบั ตาบลทมี่ คี วามพรอ้ มในการใหบ้ รกิ ารการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 5. จานวนประชาชนกลมุ่ เป้าหมายทเ่ี ข้ารบั การฝึกอาชพี เห็นช่องทางในการประกอบอาชีพ 6. ร้อยละของผู้เข้ารว่ มกจิ กรรมทีส่ ามารถอ่านออกเขียนได้และคิดเลขเปน็ ตามจุดมุ่งหมายของกจิ กรรม 7. ร้อยละของประชาชนกล่มุ เปา้ หมายท่ีได้รบั บรกิ ารเขา้ ร่วมกจิ กรรมแหล่งเรยี นรู้ตามอัธยาศยั มคี วามร้คู วามเข้าใจ เจตคติ ทักษะตามจุดมุง่ หมายของกิจกรรมทก่ี าหนด 8. จานวนผ้ดู แู ลประชาชนท่ีผ่านการอบรมตามหลักสูตรทกี่ าหนด 9. จานวนองค์กรภาคส่วนต่าง ๆ ท้ังในและต่างประเทศ ที่ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการดาเนินงานการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั 10. จานวนนักเรยี น นักศกึ ษา และประชาชนท่ัวไปท่เี ขา้ ถึงบริการการเรียนรทู้ างดา้ นวิทยาศาสตรใ์ นรูปแบบ 11. จานวน/ประเภทของส่อื และเทคโนโลยีทางการศึกษาท่ีมีการจัดทา/พัฒนาและนาไปใช้เพ่ือส่งเสริมการเรียนรู้ ของผู้เรยี น/ผ้รู บั บริการการศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 12. จานวนนกั เรียน นกั ศกึ ษา และประชาชนทว่ั ไปทีเ่ ขา้ ถึงบริการความรู้นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยผ่าน ช่องทางสื่อเทคโนโลยีทางการศกึ ษา และเทคโนโลยีการส่อื สาร 13. รอ้ ยละของนักศกึ ษาท่มี ีผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นท่ไี ดร้ บั บรกิ ารติวเข้มเต็มความรเู้ พม่ิ สูงขน้ึ 14. จานวนบุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการปฏิบัติงานการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย 15. รอ้ ยละของสถานศกึ ษาในสังกดั ท่มี ีระบบประกนั คุณภาพภายในและมีการจดั ทารายงานการประเมนิ ตนเอง 16. ร้อยละของหนว่ ยงาน และสถานศึกษา กศน. ที่มีการใชร้ ะบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการจัดทา ฐานข้อมูลชุมชนและการบริหารจัดการ เพื่อสนับสนุนการดาเนินงานการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตาม อัธยาศัยขององค์การ 17. ร้อยละของหน่วยงาน และสถานศึกษา กศน. ที่สามารถดาเนินงานโครงการ/กิจกรรมตามบทบาทภารกิจที่ รับผิดชอบได้สาเร็จตามเป้าหมายที่กาหนดไว้อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า/ตามแผนท่ี กาหนดไว้ จดุ เน้นการดาเนนิ งาน กศน. ตามยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธกิ าร 6 ยทุ ธศาสตร์ 1. พฒั นาหลักสูตร กระบวนการเรยี นการสอน และการวัดผลประเมินผล จดุ เนน้ การดาเนนิ งาน 1.1 จัดกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงและความต้องการของประชาชนชุมชนและ สังคม ในรูปแบบที่หลากหลาย ให้ประชาชนคิดเป็น วิเคราะห์ได้ ตัดสินใจภายใต้ฐานข้อมูลที่ถูกต้อง เช่น ความรู้ เร่อื งการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข/การเลือกตั้ง แนวทางและทิศทางการ พัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ ของรัฐบาล โดยประสานความร่วมมือกับกระทรวงต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง ร่วมจัดทาเน้ือหา และส่อื ประกอบการจัดกระบวนการเรยี นรู้ รวมทงั้ ใหม้ ีการจดั ทาแผนการเรยี นร้รู ายชุมชน เพ่ือพัฒนาสู่ชุมชน/เมือง แหง่ การเรยี นรู้

1.2 ส่งเสรมิ ใหม้ ีการจดั การเรียนการสอนแบบ “สะเต็มศึกษา” (STEM Education) โดยบูรณาการความรู้ ด้าน คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เพือ่ พัฒนาทักษะชวี ิต สู่การประกอบอาชีพ ประยุกต์ใชใ้ นการทางาน และเป็นแนวทางของการสรา้ งแรงงานทมี่ ีศักยภาพได้ในอนาคต 1.3 จัดการศึกษาเพื่อเพ่ิมอัตราการรู้หนังสือให้คนไทยให้สามารถอ่านออกเขียนได้ โดยใช้หลักสูตรการรู้ หนังสือของคนไทยของสานักงาน กศน.และสอื่ ท่ีเหมาะสมกบั สภาพและพ้นื ที่ของกลมุ่ เปา้ หมาย 2. การผลิต พัฒนา ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา จุดเนน้ การดาเนนิ งาน 2.1 จัดทาแผนพัฒนาอัตรากาลังล่วงหน้าระยะ 10 ปี เพ่ือใช้เป็นข้อมูลสาหรับการขอกรอบอัตรากาลัง เพม่ิ เติมใหเ้ พียงพอตอ่ ขอบข่ายการดาเนนิ งานของ กศน. 2.2 เร่งพัฒนาศักยภาพครู กศน. ทุกประเภท เพ่ือให้สามารถเป็นท้ังผู้สอนและผู้ออกแบบการเรียนรู้ รายบุคคล และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจัดทาแผนพัฒนาครู กศน.ทุกประเภท และทุก ระดบั ชว่ งระยะ 10 ปี เพื่อพฒั นาสมรรถนะครู กศน. ให้ไดเ้ กณฑ์มาตรฐานทีก่ าหนด 2.3 สารวจขอ้ มลู และทบทวนหลักเกณฑก์ ารจ้างลูกจ้างแบบจ้างเหมาบริการ และพนักงานราชการให้ตรง ตามความต้องการของพน้ื ท่ี 3. ผลิต และพัฒนากาลังคน รวมทง้ั งานวจิ ัยทส่ี อดคลอ้ งกับความต้องการของการพัฒนาประเทศ จดุ เน้นการดาเนินงาน 3.1 ยกระดับการศกึ ษาใหก้ ับกลุม่ พนักงานรักษาความปลอดภัย ให้จบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพ โดยเน้นการเรยี นรูปแบบโปรแกรมเรียนรรู้ ายบคุ คล 3.2 จัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้สอดคล้องและรองรับกับความต้องการของการ พัฒนาตามบรบิ ทของแตล่ ะพื้นที่ในเขตพฒั นาเศรษฐกจิ พิเศษ โดยมงุ่ เนน้ ผลิตกาลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการ ของพืน้ ท่ี พร้อมทงั้ สร้างทักษะทางวิชาชีพ โดยเน้นด้านการบริหารและการประกอบการ เพ่ือให้ประชาชนในพ้ืนที่ ได้รบั การพฒั นาศักยภาพในแนวทางที่ดีขึ้น 4. ขยายโอกาสในการเขา้ ถงึ บรกิ ารการศึกษาและการเรยี นรูอ้ ยา่ งตอ่ เนือ่ งตลอดชวี ติ จดุ เน้นการดาเนนิ งาน 4.1 เรง่ บริหารจดั การโรงเรียนขนาดเล็ก โดยประสานข้อมลู โรงเรียนขนาดเล็กจากสานักงานคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน (สพฐ.) และประสานหนว่ ยงานในพื้นทเี่ พื่อสารวจความต้องการในกาจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก เพ่ือทาเป็น กศน. ตาบลหรือแหล่งการเรยี นรู้ของชุมชนภายในตาบลสัตหบี 4.2 จัดและส่งเสริมความร่วมมือหน่วยงานที่เก่ียวข้องในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ให้กับ กลมุ่ เป้าหมายเด็กออกกลางคัน/เด็กตกหลน่ และกลุม่ คนพิการในตาบลสัตหีบ 4.3 เร่งสารวจข้อมูลการร้หู นังสือของคนไทย โดยให้ความสาคัญกับกลุ่มเป้าหมายนักศึกษา กศน.ในตาบล สตั หบี 4.4 พัฒนา กศน.ตาบล/แขวง ให้เป็นฐานการขับเคล่ือนการจัดการศึกษา โดยเน้นการประสานเชื่อมโยง ระหว่างชุมชนและภาคเี ครือข่าย ในการจัดการศึกษารูปแบบ กศน.ตาบล 4 ศูนย์ ได้แก่ (1) ศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎใี หมป่ ระจาตาบล (2) ศนู ย์สง่ เสริมพัฒนาประชาธปิ ไตยตาบล (3) ศูนย์ดิจิทัล ชุมชน และ (4) ศูนยก์ ารศกึ ษาตลอดชวี ติ ชมุ ชน เพ่ือสนองตอบต่อความต้องการของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทง้ั สร้างและกระจายโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวติ ในชุมชน 4.5 จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนทุกช่วงวัย“กศน.เพื่อประชาชน”เช่น จัดการเรียน วิชาชีพระยะส้ัน (โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน) ให้กับประชาชนที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน บรบิ ทของพืน้ ที่ จัดการศึกษาเพอื่ เสรมิ สรา้ งคณุ ภาพชวี ติ ใหก้ บั กลมุ่ ประชาชนและการพัฒนาทักษะชวี ิตในการเตรียม ความพรอ้ มรบั มอื กบั การเปลีย่ นแปลงทางเศรษฐกจิ สงั คม ธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม และการเข้าสู่สังคมเศรษฐกิจท่ี ขบั เคลอ่ื นด้วยนวัตกรรม (Thailand 4.0)

4.6 มุ่งเน้นการสง่ เสรมิ ให้เกดิ ชมุ ชนรักการอา่ นภายในตาบลสัตหีบ “นั่งท่ีไหน อ่านท่ีนั่น” ในรูปแบบต่าง ๆ เชน่ อาสาสมัครส่งเสรมิ การอ่าน หอ้ งสมดุ ประชาชน บา้ นหนงั สอื ชุมชน ต้หู นังสือเคลื่อนท่ีในตลาด และหนังสือพิมพ์ ฝาผนัง เป็นตน้ 5. ส่งเสริมและพัฒนาระบบเทคโนโลยดี ิจทิ ลั เพอ่ื การศึกษา จุดเน้นการดาเนนิ งาน 5.1 พัฒนา กศน. ตาบลสัตหีบ ให้มีความพร้อมเก่ียวกับโครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT และเทคโนโลยีเพ่ือ การศึกษาอื่นท่ีเหมาะสมกับพน้ื ที่ เพ่ือให้ กศน.ตาบลสัตหบี เขา้ ถงึ การใช้บริการทางอนิ เทอร์เน็ตมีความพร้อมในการ ใหบ้ ริการการศึกษาและการเรยี นรทู้ ่ีเปน็ ไปตามความตอ้ งการของประชาชนและชมุ ชน และสรา้ งโอกาสในการเรียนรู้ ไดอ้ ยา่ งทั่วถงึ 5.2 พัฒนาระบบช่องทางแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ (Portal Web) และส่งเสริมให้ประชาชนนาเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารมาประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้/กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเพ่ิมโอกาสการเรียนรู้ และการพัฒนา อาชพี เช่น การแสวงหาความรู้เพื่อการดารงชีวิต การพัฒนาต่อยอดอาชีพเพ่ือสร้างรายได้ โดยผ่านกลไกของศูนย์ ดิจทิ ลั ชุมชน เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถนาความรู้ความสามารถ เจตคติท่ีดีต่อการประกอบอาชีพและทักษะที่พัฒนาข้ึน ไปใชป้ ระโยชนใ์ นการประกอบอาชพี ทีส่ รา้ งรายไดไ้ ด้จริงและการพฒั นาสูเ่ ศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ต่อไป 6. พฒั นาระบบบริหารจดั การส่งเสรมิ ใหท้ กุ ภาคสว่ นมสี ่วนรว่ มในการจดั การศกึ ษา จุดเน้นการดาเนนิ งาน 6.1 สารวจ วิเคราะห์ และปรับปรุงค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน โดยดาเนินการใหผ้ เู้ รยี นได้รบั การสนับสนุนคา่ จดั ซอ้ื ตาราเรียน ค่าจดั กิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่าเล่าเรียน อย่างทั่วถึง และเหมาะสมกับสภาพการจัดการศึกษา เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับการศึกษาที่มีคุณภาพโดยไม่เสีย คา่ ใชจ้ ่าย 6.2 สร้างความรู้ ความตระหนัก และปลูกจิตสานึกตามหลักธรรมาภิบาล ตลอดจนความรู้เรื่องกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และอื่นๆที่เก่ียวข้องกับการปฏิบัติงานให้กับบุคลากรทุกระดับทุกประเภทโดยส่งเสริมการจัด กิจกรรม การจัดทานวัตกรรมเก่ียวกับองค์ความรู้ด้านคุณธรรมจริยธรรม การป้องกันการทุจริต และราชการใส สะอาด ของหนว่ ยงานและสถานศกึ ษา เพื่อให้ กศน.ตาบลสตั หีบ เป็นองค์กรแห่งศักดิ์ศรีและสุจริตธรรมท่ีประชาชน มคี วามเช่อื มน่ั ศรทั ธาและมคี วามไวว้ างใจในการปฏบิ ตั งิ าน ภารกจิ ต่อเน่ือง 1. ด้านการจดั การศกึ ษาและการเรยี นรู้ 1.1 การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน 1) สนับสนนุ การจดั การศกึ ษานอกระบบต้งั แต่ปฐมวยั จนจบการศึกษาข้ันพื้นฐานโดยดาเนินการให้ ผูเ้ รียนไดร้ บั การสนับสนุนคา่ จดั ซอื้ ตาราเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่าเล่าเรียนอย่างท่ัวถึงและ เพยี งพอเพ่ือเพม่ิ โอกาสในการรับการศกึ ษาที่มีคุณภาพโดยไม่เสียคา่ ใช้จา่ ย 2) จัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้ด้อย พลาดและขาด โอกาสทางการศึกษา ท้ังระบบการให้บริการ ระบบการเรียนการสอน ระบบการวัดและประเมินผลการเรียน ผ่าน การเรียนแบบเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง การพบกลมุ่ การเรยี นแบบชั้นเรยี น และการจดั การศกึ ษาทางไกล 3) จัดให้มีการประเมินเพ่ือเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ที่มี ความโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ มีมาตรฐานตามท่ีกาหนด และสามารถตอบสนองความต้องการของ กลุ่มเป้าหมายไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 4) ส่งเสริมให้ผู้เรียนต้องเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อดาเนินกิจกรรม เสรมิ สร้างความสามคั คี บาเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

อนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด กิจกรรม จิตอาสา การจัดตั้ง ชมรม/ชุมนุม และเปิดโอกาสใหผ้ ้เู รยี นนากจิ กรรมการบาเพญ็ ประโยชน์อน่ื ๆนอกหลกั สูตร มาใช้เพ่ิมชั่วโมงกิจกรรม ใหผ้ ูเ้ รียนจบตามหลกั สูตรได้ 5) จัดต้งั ศูนย์แนะแนวและประสานการศกึ ษาพเิ ศษอาเภอ/เขต ใหค้ รบทุกอาเภอทั่วประเทศ 1.2 การศึกษาตอ่ เนอื่ ง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทาอย่างยั่งยืน โดยให้ความสาคัญกับการจัดการศึกษาอาชีพ เพ่อื การมีงานทาประเภทชา่ งพื้นฐาน/ชา่ งชนบท และอาชพี ทีส่ อดคล้องกบั ศักยภาพของผู้เรียนและศักยภาพของแต่ ละพืน้ ท่ี 2) จดั การศกึ ษาเพอื่ พัฒนาทักษะชีวิตให้กับทกุ กลมุ่ เป้าหมาย โดยจัดกิจกรรมการศึกษาในรูปแบบ ต่างๆ อาทิ ค่ายพัฒนาทักษะชีวิต การจัดต้ังชมรม/ชุมนุม การส่งเสริมความสามารถพิเศษต่างๆ ที่มุ่งเน้นให้ทุก กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการชีวิตของตนเองให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข มคี ณุ ธรรมจริยธรรม รวมท้งั สามารถใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง ครอบครวั และชุมชน 3) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน โดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบ บูรณาการในรูปแบบของการฝึกอบรม การเรียนทางไกล การประชุม สัมมนา การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การจัด กิจกรรมจติ อาสา การสร้างชมุ ชนนกั ปฏบิ ตั ิ และรูปแบบอื่นๆ ท่ีเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและบริบทของชุมชนแต่ ละพ้นื ท่ี โดยเนน้ การดาเนนิ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การสรา้ งจิตสานึกความเปน็ ประชาธิปไตย ความ เป็นพลเมอื งดี การบาเพญ็ ประโยชน์ การอนุรักษ์พลงั งานทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม 4) ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เพ่ือสร้างจิตสานึกและวินัยในชุมชน เช่น การส่งเสริมคุณธรรมและ จริยธรรมในชุมชน การเพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของชุมชน ศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหมป่ ระจาตาบลสัตหีบ 1.3 การศึกษาตามอธั ยาศยั 1) ส่งเสริมให้มีการขยายและพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ในระดับตาบล เพื่อการถ่ายทอดองค์ความรู้ และจดั กจิ กรรมเพอื่ เผยแพร่องค์ความรู้ในชมุ ชนได้อย่างทว่ั ถึง 2) จดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรียนรูเ้ พอื่ ปลกู ฝังนิสัยรักการอ่าน และพัฒนาความสามารถในการอ่าน และศักยภาพการเรยี นรู้ของประชาชนทกุ กลุม่ เปา้ หมายให้ได้ระดับอ่านคล่อง อ่านเข้าใจความเขียนคล่อง และอ่าน เชิงคิดวิเคราะห์พื้นฐาน และให้ประชาชนสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและทันเหตุการณ์ เพ่ือสามารถนา ความรทู้ ไ่ี ดร้ บั ไปใช้ประโยชนใ์ นการปฏิบตั จิ ริง 3) สง่ เสริมให้มีการสร้างบรรยากาศ และส่ิงแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อการอ่านให้เกิดข้ึนในสังคมไทย โดย สนบั สนุนการพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ให้เกิดข้ึนอย่างกว้างขวางและท่ัวถึง เช่น พัฒนาห้องสมุดประชาชนทุกแห่งให้ เปน็ แหลง่ เรียนร้ตู ลอดชวี ติ ของชุมชน สง่ เสริมและสนับสนุนอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน การสร้างเครือข่ายส่งเสริม การอ่าน จัดหน่วยบริการเคลื่อนท่ีพร้อมอุปกรณ์เพื่อส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ที่หลากหลายออกให้บริการ ประชาชนในพื้นท่ีต่าง ๆ อย่างทั่วถึง สม่าเสมอ รวมทั้งเสริมสร้างความพร้อมในด้านส่ืออุปกรณ์เพ่ือสนับสนุนการ อา่ น และการจดั กจิ กรรมเพอื่ สง่ เสรมิ การอา่ นอย่างหลากหลาย 4) จัดทามุมวทิ ยาศาสตร์เพ่อื การศกึ ษา ใหเ้ ป็นแหล่งการเรียนรเู้ ชิงวชิ าการประจาตาบล โดยพัฒนา และจัดทานทิ รรศการ และจดั กิจกรรมที่เน้นการเสริมสร้างทักษะ กระบวนการเรียนรู้ และเจตคติทางวิทยาศาสตร์ เพอื่ ใหน้ กั ศกึ ษา ประชาชนนาความรู้และทกั ษะทางวิทยาศาสตร์ ไปใชพ้ ฒั นาทักษะการคิด วิเคราะห์บนฐานข้อมูลท่ี ถูกต้อง และสามารถปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมท้ัง เชอื่ มโยงกระบวนการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรเ์ พอื่ พัฒนาชมุ ชน ให้ผรู้ ับบรกิ ารสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิต การพัฒนาอาชีพ การรกั ษาส่ิงแวดลอ้ ม และการป้องกันภัยพบิ ัตจิ ากธรรมชาตใิ นพน้ื ท่ี

2. ดา้ นหลักสูตร สอ่ื รูปแบบการเรียนรู้ การวดั และประเมินผล งานบริการทางวิชาการและการประกันคุณภาพ การศึกษา 2.1 ส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการเรียนการสอน และกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือส่งเสริมการศึกษา นอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ทหี่ ลากหลาย ทนั สมยั รวมทัง้ หลักสูตรทอ้ งถิ่นที่สอดคลอ้ งกับสภาพบริบทของ พ้ืนท่ี และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและชุมชน เช่น การจัดโปรแกรมการเรียนรู้รายบุคคล และแผนการ เรียนรรู้ ายชมุ ชน 2.2 พัฒนารปู แบบการจัดการศึกษาทางไกลให้มคี วามทันสมยั ด้วยระบบห้องเรียนและการควบคุมการสอบ ออนไลน์ 2.3 พัฒนาระบบการประเมินเพ่ือเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ให้มี คณุ ภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการของกลุม่ เป้าหมายไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 2.4 ส่งเสริมการพัฒนาส่ือแบบเรียน สื่ออิเล็กทรอนิกส์และสื่ออื่นๆ ท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน กลมุ่ เปา้ หมายทั่วไปและกลมุ่ เป้าหมายพเิ ศษ 2.5 พัฒนาระบบการวัดผลและประเมินผลการศึกษานอกระบบทุกหลักสูตร โดยเฉพาะหลักสูตรในระดับ การศกึ ษาข้ันพ้นื ฐานใหไ้ ด้มาตรฐาน โดยการนาแบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Exam) มา ใชอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ 2.6 สง่ เสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัย พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้และเผยแพร่ รูปแบบการจัด ส่งเสริม และสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพื่อให้มีการนาไปสู่ การปฏบิ ตั ิอย่างกว้างขวางและมกี ารพัฒนาให้เหมาะสมกับบริบทอย่างต่อเนอ่ื ง 2.7 พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาให้ได้มาตรฐาน เพื่อพร้อมรับการประเมินคุณภาพ ภายนอก โดยพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสาคัญของระบบการประกันคุณภาพ และ สามารถดาเนนิ การประกนั คุณภาพภายในของสถานศึกษาได้อยา่ งตอ่ เนื่องโดยใชก้ ารประเมินภายในด้วยตนเอง และ จัดให้มีระบบสถานศึกษาพ่ีเลี้ยงเข้าไปสนับสนุนอย่างใกล้ชิด สาหรับสถานศึกษาที่ยังไม่ได้เข้ารับการประเมิน คณุ ภาพภายนอก ใหพ้ ัฒนาคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานทีก่ าหนด 3. ดา้ นเทคโนโลยเี พื่อการศกึ ษา 3.1 ผลิตและพัฒนารายการวิทยุและรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาให้เช่ือมโยงและตอบสนองต่อการจัด กจิ กรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาเพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษาสาหรับ กลุ่มเปา้ หมายต่างๆ ใหม้ ีทางเลอื กในการเรยี นรู้ทหี่ ลากหลายและมีคุณภาพ สามารถพฒั นาตนเองให้รเู้ ทา่ ทันสอ่ื และ เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการสอื่ สาร เชน่ รายการพัฒนาอาชีพเพ่ือการมีงานทารายการติวเข้มเติมเต็มความรู้ ฯลฯ เผยแพร่ทางสถานวี ทิ ยศุ ึกษา สถานวี ทิ ยุโทรทัศน์เพอื่ การศกึ ษากระทรวงศกึ ษาธกิ าร (ETV) และทางอินเทอร์เน็ต 3.2 พัฒนาชอ่ งทางการเผยแพรก่ ารจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ผ่านระบบเทคโนโลยี สารสนเทศและการสือ่ สารแบบออนไลน์ เพือ่ ส่งเสรมิ ใหค้ รู กศน.นาเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารมาใช้ในการ สร้างกระบวนการเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง (Do It Yourself : DIY) 3.3 พัฒนาสถานีวิทยุศึกษา และสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษาเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิตและการ ออกอากาศให้กลุ่มเป้าหมายสามารถใช้เป็นช่องทางการเรียนรู้ท่ีมีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยขยาย เครือข่ายการรับฟังให้สามารถรับฟังได้ทุกท่ี ทุกเวลา ครอบคลุมพื้นท่ีท่ัวประเทศและเพิ่มช่องทางให้สามารถรับชม รายการโทรทัศน์ได้ทั้งระบบ Ku - Band , C - Band และทางอินเทอร์เน็ตพร้อมที่จะรองรับการพัฒนาเป็นสถานี วทิ ยโุ ทรทศั น์เพ่อื การศกึ ษาสาธารณะ (Free ETV) 3.4 พัฒนาระบบการให้บริการสื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาให้ได้หลายช่องทางท้ังทางอินเทอร์เน็ต และ รูปแบบอื่น ๆ เช่น Application บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และ Tablet, DVD, CD, VCD และ MP3 เป็นต้น เพื่อให้ กล่มุ เป้าหมายสามารถเลือกใช้บรกิ ารเพือ่ เขา้ ถงึ โอกาสทางการศึกษาและการเรียนร้ไู ดต้ ามความต้องการ

3.5สารวจ วิจัย ติดตามประเมินผลด้านส่ือเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอย่างต่อเน่ือง และนาผลมาใช้ในการ พฒั นางานให้มีความถูกต้อง ทนั สมัยและสามารถสง่ เสริมการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชนได้อย่าง แทจ้ รงิ 5. ดา้ นบคุ ลากร ระบบการบริหารจัดการ และการมีสว่ นร่วมของทกุ ภาคส่วน 5.1 การพัฒนาบคุ ลากร 1) พฒั นาบคุ ลากรทกุ ระดับ ทุกประเภทใหม้ ีสมรรถนะสูงข้นึ อยา่ งต่อเนื่อง ทั้งกอ่ นและระหวา่ งการ ดารงตาแหน่งเพื่อให้มีเจตคติที่ดีในการปฏิบัติงาน สามารถปฏิบัติงานและบริหารจัดการการดาเนินงานของ หน่วยงานและสถานศกึ ษาได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ รวมทง้ั สง่ เสริมใหบ้ คุ ลากรในสงั กัดพัฒนาตนเองเพ่อื เล่อื นตาแหน่ง หรอื เลอื่ นวิทยฐานะโดยเนน้ การประเมินวทิ ยฐานะเชงิ ประจักษ์ 2) พฒั นาหวั หน้า กศน. ตาบล ให้มีสมรรถนะสูงขึ้นในการบริหารจัดการ กศน. ตาบลสัตหีบ และ การปฏบิ ตั ิงานตามบทบาทภารกิจอย่างมีประสทิ ธภิ าพ โดยเน้นการเป็นนักจัดการความรู้และผู้อานวยความสะดวก ในการเรียนรู้เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นเกดิ การเรียนรทู้ ่มี ปี ระสิทธภิ าพอย่างแท้จริง 3) พฒั นาครู กศน. และผทู้ เี่ กย่ี วข้องใหส้ ามารถจดั รูปแบบการเรยี นร้ไู ด้อย่างมีคุณภาพโดยส่งเสริม ใหม้ ีความรู้ความสามารถในการจดั ทาแผนการสอน การจดั กระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และการวิจัย เบื้องต้น 4) สง่ เสรมิ และพฒั นาศักยภาพคณะกรรมการ กศน. ตาบลสัตหีบ เพื่อให้มีส่วนร่วมในการบริหาร การดาเนินงานตามบทบาทภารกจิ ของ กศน. ตาบลสัตหีบ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ 5) พัฒนาศักยภาพบุคลากรที่รับผิดชอบการบริการการศึกษาและการเรียนรู้ให้มีความรู้ ความสามารถและความเปน็ มอื อาชพี ในการจดั บริการสง่ เสรมิ การเรียนรู้ตลอดชีวิตของประชาชนตาบลสัตหบี 6)พัฒนาอาสาสมัคร กศน.สัตหีบ ให้สามารถทาหน้าทเี่ ปน็ ผจู้ ดั สง่ เสริมและสนบั สนุนการจดั 7)การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 8) เสรมิ สรา้ งสมั พนั ธภาพระหวา่ งบคุ ลากร รวมทง้ั ภาคีเครือข่ายท้ังในตาบลและตาบลใกล้เคียงใน ทุกระดับเพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพในการทางานร่วมกัน โดยจัดให้มีกิจกรรมการพัฒนาสมรรถนะ และเสริมสร้าง ความสัมพนั ธ์ระหว่างบคุ ลากร และภาคีเครอื ขา่ ยในรปู แบบทีห่ ลากหลายอยา่ งตอ่ เนอื่ ง 5.2 การพัฒนาโครงสรา้ งและอัตรากาลงั 1) จัดทาแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและดาเนินการปรับปรุงสถานที่ และวัสดุอุปกรณ์ให้มี ความพร้อมในการจดั การศึกษา 2) แสวงหาภาคเี ครอื ขา่ ยในท้องถ่นิ เพอ่ื การมีสว่ นร่วมในการดาเนินกิจกรรม การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย รวมท้ังระดมทรัพยากรเพ่ือนามาใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้มีความพร้อม สาหรบั ดาเนินกจิ กรรมส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชน 3) บริหารอัตรากาลังที่มอี ย่ทู ง้ั ในสว่ นทเี่ ป็นข้าราชการ พนกั งานราชการ และลกู จ้างให้เกดิ ประสิทธิภาพสูงสดุ ในการปฏิบัตงิ าน 5.3 การพัฒนาระบบบริหารจดั การ 1) เร่งผลักดันให้มกี ารประกาศใช้กฎหมายวา่ ดว้ ยการศกึ ษาตลอดชีวิต 2) เพ่ิมประสิทธภิ าพการบรหิ ารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกากับ ควบคุมและเร่งรัด การเบกิ จา่ ยงบประมาณให้เป็นตามเป้าหมายที่กาหนดไว้ 3) พัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และเช่ือมโยงกันทั่วประเทศอย่าง เปน็ ระบบเพือ่ ให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดสามารถนาไปใช้เป็นเครื่องมือสาคัญในการบริหารการวางแผน การปฏิบัติงาน การติดตามประเมินผล และการนาผลมาพัฒนาการดาเนินงานอย่างต่อเนื่องตามวงจรคุณภาพ เดมมงิ่ (PDCA) รวมทงั้ จัดบรกิ ารการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อย่างมีประสิทธิภาพ

4) พฒั นาระบบฐานข้อมลู รวมของนักศกึ ษา กศน.ตาบลสตั หีบ ให้มีความครบถว้ น ถูกต้อง ทันสมัย และเชอื่ มโยงกนั ทั่วประเทศ สามารถสบื ค้นและสอบทานไดท้ นั ความต้องการเพ่อื ประโยชนใ์ นการจดั การศึกษาให้กับ ผู้เรยี นและการบรหิ ารจดั การอย่างมีประสทิ ธิภาพ 5) ส่งเสริมใหม้ ีการจดั การความรใู้ นหนว่ ยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งการศึกษาวิจัยเพื่อ สามารถนามาใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพการดาเนินงานท่ีสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและชุมชน พรอ้ มท้งั พฒั นาขีดความสามารถเชงิ การแขง่ ขันของหน่วยงานและสถานศึกษา 6) สรา้ งความร่วมมือของทกุ ภาคส่วนท้ังในประเทศและต่างประเทศ ในการพฒั นาและส่งเสริมการ จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย และการเรยี นร้ตู ลอดชีวติ 5.4 การกากบั นิเทศ ตดิ ตาม ประเมิน และรายงานผล 1) สร้างกลไกการกากับ นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผลการดาเนินงานการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ใหเ้ ชื่อมโยงกับหนว่ ยงาน สถานศึกษา และภาคเี ครือขา่ ยทงั้ ระบบ 2)ให้หน่วยงานและสถานศึกษาท่ีเกี่ยวข้องทุกระดับ พัฒนาระบบกลไกการกากับ ติดตามและ รายงานผลการนานโยบายสู่การปฏิบัติ ให้สามารถตอบสนองการดาเนินงานตามนโยบายในแต่ละเร่ืองได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 3) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร และส่ืออื่น ๆ ท่ีเหมาะสม เพื่อการกากับ นเิ ทศ ตดิ ตาม ประเมนิ ผล และรายงานผลอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 4) พฒั นากลไกการตดิ ตามประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิราชการตามคารบั รองการปฏิบัติราชการประจาปี ของ กศน.ตาบล เพ่ือการรายงานผลตามตัวช้ีวัดในคารับรองการปฏิบัติราชการประจาปีของสานักงาน กศน. ใหด้ าเนินไปอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ เปน็ ไปตามเกณฑ์ วธิ ีการ และระยะเวลาที่กาหนด 5) ให้มีการเชื่อมโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกองค์กรตั้งแต่ ส่วนกลาง ภูมิภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด อาเภอ/เขต และตาบล/แขวง เพื่อความเป็นเอกภาพในการใช้ข้อมูล และ การพัฒนางานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ทศิ ทางการพัฒนาและโอกาสของ กศน.ตาบลสัตหบี 1. การพฒั นาชมุ ชนตาบลสตั หีบตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ชุมชนตาบลสตั หีบ ประชากรในพ้ืนที่สว่ นใหญ่ประกอบอาชีพที่หลากหลาย เช่น ทาประมง ค้าขาย รับจ้าง ทว่ั ไป พนักงานบริษัทเอกชนเนื่องจากอยู่ใกล้เขตใกล้โรงแรม และ อาชีพเกษตรกรเน่ืองจากเป็นพ้ืนที่ราบลุ่มภูเขา ดินมีความอุดมสมบูรณ์ ทิศทางการพัฒนาชุมชนที่เหมาะสมและมีความยั่งยืนคือการใช้แนวคิด ทิศทางการพัฒนา ประเทศสู่ความยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้ทรัพยากรธร รมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ใน ชมุ ชนอย่างเหมาะสมกบั สภาพพนื้ ท่ี และวิถกี ารดาเนินชีวิตในประจาวนั ของคนในชุมชนเป็น 6 ทุน ได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนสังคม ทุนกายภาพ ทุนทางการเงิน ทุนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทุนวัฒนธรรมมาใช้ประโยชน์ อย่างบรู ณาการและเกอื้ กลู กัน โดยเฉพาะการสร้างฐานทางปัญญา เพ่ือเป็นภูมิคุ้มกันให้กับคนในสังคม ภาคเกษตร รวมทั้งการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมอย่างย่ังยืน ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างระบบ ธรรมาภิบาล และความสมานฉันท์ในชุมชน เพื่อให้ประชาชนในพ้ืนท่ีตาบลสัตหีบและชุมชนใกล้เคียงอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมี ความสขุ และเป็นธรรม 2. การสง่ เสริมการเรียนรู้ตลอดชีวติ ของชมุ ชนตาบลสัตหบี กศน.ตาบลสัตหีบ มุ่งเน้นให้ประชาชนในพ้ืนที่ได้เรียนรู้ ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ โดยพัฒนาคุณภาพ การศกึ ษาและการเรียนรู้ อย่างเป็นระบบโดยใช้ ทรพั ยากรท่มี อี ยู่ในชมุ ชนมาช่วยในการจัดการศึกษาเพ่ิมโอกาสทาง การศกึ ษาและการเรียนรู้จากการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในชุมชนเพ่ือให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายได้เรียนรู้ ตลอดชีวติ ด้านการศึกษานอกระบบและตามอัธยาศยั อยา่ งมีคุณภาพมีเป้าหมายเพ่ือให้ประชาชนในพ้ืนที่เป็นคนเก่ง คนดี มีความสุข มีความรู้ ความชานาญด้านทักษะการประกอบอาชีพมีคุณธรรมจริยธรรมใฝ่เรียนรู้ และแสวงหา

ความรู้ อย่างต่อเนอ่ื งตลอดชวี ติ ดารงชวี ิตตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง มคี วามสขุ มีสุขภาพทั้งกายและใจ ทีส่ มบรู ณ์สามารถประกอบอาชีพและอยรู่ ว่ มกับผูอ้ ่ืนไดอ้ ย่างมีความสขุ 3. การจดั การศกึ ษาเพือ่ ส่งเสรมิ ศิลปะและวฒั นธรรมในทอ้ งถ่นิ ธรรม กศน.ตาบลสัตหีบ มุ่งเน้นให้ประชาชนในพ้ืนที่ศึกษาเรียนรู้ด้านทานุบารุงศาสนาศิลปะและวัฒนธรรมใน ทอ้ งถน่ิ ดงั นี้ 3.1 จัดให้มกี ารศกึ ษาและการเรยี นรู้ ทางเลือกตามความสนใจของผู้เรียนและกลมุ่ เปา้ หมาย 3.2 สนับสนนุ การศึกษาใหส้ อดคล้องกับความจาเป็นของผู้เรียนโดยนาแนวทางการใช้คูปองการศึกษาเพื่อ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยมาปรบั ใชก้ บั การจดั การศึกษาของ กศน.ตาบลสตั หบี 3.3 ร่วมมือกับภาคีเครือขา่ ยองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่ ตาบลสัตหบี กานัน ผู้ใหญ่บา้ นและประชาชนทั่วไป จัดการการเรียนร้ทู ีม่ ีคณุ ภาพและท่ัวถงึ 3.4 จัดการศึกษาให้กับทุกกลุ่มเป้าหมายโดยส่งเสริมการเรียนรู้ ตลอดชีวิตโดยเน้นความร่วมมือระหว่าง ผเู้ ก่ยี วขอ้ ง 3.5 พฒั นาตนเองใหม้ ีคุณภาพและมีจิตวิญญาณของความเปน็ ครู 3.6 สนับสนุนการมีส่วนร่วมกับองค์กรทางศาสนาในชุมชน เพ่ือการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม การสร้าง สนั ติสขุ ค่านิยมไทย 12 ประการและจัด กิจกรรมสง่ เสรมิ ความปรองดองสมานฉันทใ์ นชมุ ชนอย่างยั่งยนื 3.7 สนับสนุนภาคีเครือข่าย ประชาชนในพื้นท่ีให้มีการอนุรักษ์ ฟ้ืนฟู และเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรม ภาษาไทย และภาษาถ่ิน ภูมิปัญญาท้องถ่ินเพื่อ การเรียนรู้ การสร้างจิตสานึกความเป็นไทยและการเพ่ิมมูลค่าทาง เศรษฐกจิ ใหแ้ ก่คนในชุมชน 3.8 สนับสนนุ การเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ วฒั นธรรมของประเทศเพ่ือนบา้ นและวฒั นธรรมสากลตลอดจน สง่ เสรมิ และอนรุ กั ษภ์ าษาท้องถนิ่ ในชมุ ชน 3.9 ปลกู ฝงั ค่านยิ มและจิตสานึกดใี หเ้ ยาวชนและประชาชนพื้นท่ี ได้มโี อกาสแสดงออกอย่างสรา้ งสรรค์ ตวั ช้ีวดั ความสาเรจ็ ตามยุทธศาสตร์ และจุดเน้น กศน.ตาบลสัตหีบ 1. จานวนกลุ่มเป้าหมายในตาบลสัตหีบมี ผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษาท่ีได้รับบริการ การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พืน้ ฐานโดยไม่เสียค่าใช้จา่ ยมีจานวนเพ่มิ 2. จานวนประชากรกลุ่มเป้าหมายในตาบลสัตหีบที่เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/ได้รับบริการกิจกรรม การศกึ ษาต่อเนอ่ื ง และการศกึ ษาตามอัธยาศยั ทส่ี อดคล้องกับสภาพ ปัญหา และความตอ้ งการไดโ้ ดยท่ัวถงึ 3. ร้อยละของผู้เรียนและผู้รับบริการในตาบลสัตหีบท่ีมีผลสัมฤทธิ์ตามจุดมุ่งหมายการเรียนรู้ของแต่ละ หลกั สูตร/กจิ กรรมเพ่มิ ขน้ึ 4. ร้อยละของผู้ไม่รู้หนังสือในตาบลสัตหีบท่ีผ่านการประเมินการรู้หนังสือตามหลักสูตรส่งเสริมการรู้ หนงั สือเพิม่ ข้ึน 5. รอ้ ยละของชุมชนในตาบลสตั หบี ทม่ี ีการจดั การความร้แู ละกระบวนการเรยี นรู้อนั เปน็ ผลเนอื่ งจากการเข้า ร่วมกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยเพ่ิมขึ้น 6. รอ้ ยละของชุมชนในตาบลสตั หีบทใี่ ชแ้ หล่งการเรียนรชู้ ุมชนในการจดั กระบวนการเรียนรู้ในชมุ ชนเพ่มิ ข้นึ 7. จานวนประชาชนกลุ่มเป้าหมายในตาบลสัตหีบที่ได้รับการศึกษาอบรมในหลักสูตรภาษาอังกฤษ และ ภาษากลุ่มประเทศอาเซียนมจี านวนเพิม่ มากขึน้ 8. ร้อยละของผรู้ บั การฝึกอบรมในหลักสตู รภาษาองั กฤษ ภาษาจนี ภาษากล่มุ ประเทศอาเซยี น และอาเซียน ศกึ ษาทผ่ี ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามหลักสูตรมีจานวนเพ่ิมมากขน้ึ 9. จานวนกิจกรรม/หลักสูตรท่ีใช้กระบวนการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์/เทคโนโลยีท่ีเหมาะสมเป็น กระบวนการ/สาระในการเรยี นร้ใู น กศน.ตาบลสตั หบี มีกจิ กรรมที่หลากหลายมากย่งิ ขึน้

10. จานวนองคก์ รภาคส่วนต่างๆ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ กศน.ตาบลสัตหีบท่ีร่วมเป็นภาคีเครือข่ายใน การดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั มีจานวนเพ่ิมขึ้น 11. จานวน/ประเภทของสือ่ และเทคโนโลยที างการศึกษาท่ีมกี ารจดั ทา/พัฒนาและนาไปใช้เพอื่ ส่งเสริมการ เรียนรู้ของผู้เรียน/ผู้รับบริการการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยของ กศน.ตาบลสัตหีบมีจานวน เพิ่มขนึ้ หลากหลาย 12. จานวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ กศน.ตาบลสัตหีบท่ีเข้าถึง บริการความรู้นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยผ่านช่องทางส่ือเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีการ สื่อสารมจี านวนเพมิ่ ขน้ึ ปจั จัยหลักแหล่งความสาเร็จ กศน.ตาบลสัตหีบ 1. กศน.ตาบลสัตหบี ยึดหลักวชิ า หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง หลกั ปรชั ญาคดิ เปน็ หลกั ธรมมาภิบาล และผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการ ท้ังด้านวิชาการงบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการ บริหารท่วั ไปท้ังภายในกศน.ตาบลสตั หีบ และการทางานร่วมกนั กับภาคเี ครอื ข่าย 2. กศน.ตาบลสตั หบี ใชย้ ทุ ธศาสตร์/กลยทุ ธใ์ นการดาเนนิ งาน ทง้ั ท่ียึดพนื้ ที่ ยดึ สภาวะแวดล้อม ยึดกลุ่มเป้า หมายาและความต้องการยึดประเด็นปัญหาของกลุ่มเป้าหมายหรือประเด็นการพัฒนา ยึดความสาเร็จ และยึด นโยบายเปน็ ฐาน 3. กศน.ตาบลสัตหีบ การเน้นการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ท้ังเครือข่ายเชิงพ้ืนท่ีเครือข่าย เชงิ ภารกิจและการสร้างความเขม้ แข็งรว่ มมอื และความยัง่ ยืนในการเปน็ ภาคเี ครอื ข่าย 4. กศน.ตาบลสัตหีบ เป็นฐานและสถานีปลายทาง ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้กับประชาชนในพื้นท่ี โดยไดร้ ับการพัฒนาใหม้ ศี ักยภาพและพรอ้ มในการปฏิบตั งิ านตลอดเวลา 5. กศน.ตาบลสัตหีบ ใช้สถานศึกษาเป็นกลไกขับเคลื่อนการบริหารนโยบายในระดับพ้ืนที่ โดยมี คณะกรรมการสถานศึกษาคณะกรรมการ กศน.ตาบลเป็นผู้เสนอแนะ กากับติดตาม นิเทศการดาเนินงานเพ่ือให้ สามารถจดั การศกึ ษาในระดับพ้นื ฐานไดอ้ ยา่ งคลอ่ งตัวและมีประสิทธภิ าพ 6. กศน.ตาบลสัตหีบ มีข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มตามจุดเน้น มาใช้ในการวางแผนการจัด การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั และ ออกแบบกจิ กรรมการเรียนรใู้ นชมุ ชนไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 7. กศน.ตาบลสัตหีบ มีระบบการนิเทศกากับติดตามและรายงานผล การปฏิบัติงานและการใช้จ่าย งบประมาณทสี่ ามารถตรวจสอบความก้าวหนา้ ในการดาเนินงานไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 8. กศน.ตาบลสัตหบี มกี ลไก/ระบบที่สามารถเช่ือมโยงการทางานระหว่างส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายจากสถานศึกษาเช่น ระบบ ฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องและการจัดกิจกรรมเพ่ือตอบสนองนโยบาย เร่งดว่ นหรือ นโยบายเฉพาะทีไ่ ดร้ ับมอบหมายจากสถานศึกษาได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ 9. กศน.ตาบลสัตหบี มีหนว่ ยงาน/สถานศึกษารับผิดชอบตัวช้ีวัดความสาเร็จ ตามยุทธศาสตร์และจุดเน้นที่ ตรงตามภารกจิ อย่างชดั เจนท่กี ากบั ติดตามและรายงานผลตัวชี้วัดท้ังส่วนกลางระดับจังหวัด และระดับสถานศึกษา อยา่ งเปน็ ระบบ จดุ เน้นของ กศน.ตาบลสัตหีบ และภาคเี ครอื ขา่ ย 2.1 ผู้บริหารสถานศึกษา ครู บุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา คณะกรรมการ กศน. ตาบล และครู กศน.ตาบล ทุกคน ได้รับการพัฒนาให้มี ศักยภาพและความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจตามบทบาท หน้าท่ีอยา่ งมีประสิทธิภาพ 2.2 มีการประสานเช่ือมโยงการทางานตามโครงสร้างภายใน กศน.ตาบลกับภาคีเครือข่ายท้ังในระดับ นโยบายและระดบั ปฏิบตั อิ ย่างเปน็ ระบบโดยมเี อกภาพในเชิงนโยบาย และเน้นผลสัมฤทธ์ิเป็นเป้าหมายความสาเร็จ ในการทางาน

2.3 กศน.ตาบลมีแผนจุลภาค (Micro Planning) เป็นเครื่องมือในการจัดกิจกรรมหรือออกแบบกิจกรรม การเรียนรู้ ทางการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อัธยาศัยให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายในพ้ืนที่ โดยมีข้อมูล พื้นฐานท่ีสาคัญ ไดแ้ ก่ สภาพทางกายภาพของชุมชน ปัญหา/ความต้องการของประชาทางการศึกษา กลุ่มเป้าหมาย แต่ละกลุ่ม แต่ละประเภท แหล่งวิทยากรชุมชน (ทุนมนุษย์ ทุนสังคมกายภาพ และทุกการเงิน) ซึ่งมีการปรับปรุง ข้อมูลดงั กลา่ วให้เปน็ ปัจจบุ นั ทุกรอปีงบประมาณ จุดเนน้ ดา้ นผลสัมฤทธิ์ กศน.ตาบลสตั หีบ 3.1 ประชากรกลุ่มเป้าหมาย อาเภอสัตหีบ ที่สาเร็จหลักสูตรหรือร่วมกิจกรรมการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย มีผลสัมฤทธ์ิท่ีมีคุณภาพ ตรง ตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรหรือกิจกรรมการศึกษา / การเรยี นรูท้ ีก่ าหนดไว้ และสามารถนาความรู้ และประสบการณ์การเรียนรู้โยชน์ได้จริงท่ไี ดร้ บั ไปใช้ 3.2 นกั ศกึ ษา/ผ้เู รยี นที่สาเรจ็ หลกั สูตรการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มีคุณธรรม จริยธรรม ยดึ ค่านยิ มหลักของคนไทย 12 ประการ ในการดาเนนิ ชวี ติ และมีความใฝร่ ู้ ใฝ่เรยี นอยา่ งตอ่ เน่อื งตลอดชวี ิต เอกสารทีเ่ กยี่ วข้อง 1. สถานการณด์ า้ นการจัดขยะมูลฝอยของประเทศไทย ปริมาณขยะมูลฝอยที่เกิดข้ึนจากชุมชนทั่วประเทศในปี พ.ศ. 2546 มีปริมาณใกล้เคียงกับปีท่ีผ่านมาคือ ประมาณ 14.4 ลา้ นต้น หรือ 39,240 ตันต่อวัน โดยอัตราการเพิ่มปริมาณขยะมูลฝอยเมื่อเปรียบเทียบจากปี พ.ศ. 2545 ทั้งน้ีเนื่องจากการส่งเสริมให้ประชาชนคัดแยกขยะมูลฝอยเพ่ือลดปริมาณขยะมูลฝอย และขยะมูลฝอยส่วน หน่ึงได้ถูกนามาใช้ประโยชน์ใหม่มากข้ึน ปริมาณขยะมูลฝอยโดยเฉพาะในพื้นที่เขตเมืองอย่างกรุงเทพมหานครมี ปริมาณขยะมูลฝอยลดลงจากเดิมเกือบ 300 ตันต่อวัน ซ่ึงเดิมเกิดขึ้นเฉพาะกระบวนการสามล้อรับซ้ือตามบ้านมี อตั ราการรีไซเคิลร้อยละ 18 ในปี พ.ศ. 2545 เพิ่มขึ้นมาเป็นร้อยละ 19 ในปี พ.ศ. 2546 และวัสดุท่ีแยก 3 ลาดับ แรก คือ เหล็ก กระดาษ และแก้ว การบริหารเก็บขนรวบรวมมูลฝอยทั้งจากบ้านเรือน แหล่งชุมชน และแหล่ง สาธารณะยงั มีปญั หาด้านประสิทธิภาพการเก็บรวบรวมอันเน่อื งมาจากข้อจากัดในการเกบ็ ค่าบริการทาให้ไม่สามารถ พัฒนารูปแบบการให้บริการได้ อย่างไรก็ตามการให้บริการในเขตเมือง มีอัตราการเก็บรวบรวมได้มากข้ึน โดยมี ปริมาณขยะมูลฝอยตกค้างลดลง การกาจดั ขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินเขตปริมณฑลทั้งในเขตเมืองใหญ่ เช่น เทศบาลและ เขตเมอื งใหญ่ทเี่ ป็นศนู ยก์ ลางความเจริญ ในระดบั เทศบาลนคร เทศบาลเมือง จะมีการจัดสร้างสถานท่ีกาจัดขยะมูล ฝอยแบบถูกสุขาภิบาล แต่ยังมีปัญหาในด้านการดาเนินงานการเน่ืองจากขาดการบริหารจัดการทั้งในเร่ืองงบการ ดาเนินการและบุคลากร รวมทั้งการเก็บค่าธรรมเนียมขาดประสิทธิภาพ บางแห่งยังมีปัญหามวลชนต่อต้านการ แกป้ ญั หาไปไดร้ ะดบั หน่งึ แตย่ งั มปี ญั หาเร่อื งการจดั การขยะมูลฝอยอยา่ งครบวงจร ซึง่ ตอ้ งการ การประสานเพ่ือการ จดั ระบบทีส่ มบูรณ์ และการสนับสนุนจากสว่ นกลางด้านวิชาการและบรหิ ารจัดการ สาหรบั ขยะมลู ฝอยอตุ สาหกรรม ทีม่ ิใชข่ องเสียอันตรายจากภาคอุตสาหกรรม มกี ารนาของเสีย ของเหลือใช้ ไปใชป้ ระโยชน์ใหม่ในอัตราร้อยละ 40 ของปริมาณการบริโภคผลิตภัณฑ์ และของเสียหรือของเหลือใช้ท่ีนามาเป็น วัตถดุ ิบในการผลิต ยงั มีอัตราการนาเข้ามาใช้สูงอยู่ ซง่ึ หากมีการรวบรวมของเสีย ของเหลือใช้ในประเทศมาแปรรูป ใช้ใหมจ่ ะทาใหป้ ัญหาการนาเขา้ วตั ถดุ ิบลดลงได้ ส่วนขยะมลู ฝอยท่วั ไปท่มี ิใชข่ องเสียอันตรายจากอุตสาหกรรมขนาด เล็กและอุตสาหกรรมขนาดย่อม ยังคงทิ้งรวมกับขยะมูลฝอยชุมชน แต่จากอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มีบางแห่งจ้าง เอกชนไปท้ิงรวมกับขยะมูลฝอยชุมชน ซ่ึงนับเป็นปัญหาส่ิงแวดล้อม ท้ังดิน น้า และอากาศ กรณีมีการเผาเป็น บางครั้งคราว

ปญั หาและสาเหตุ 1. การขาดแคลนทดี่ นิ สาหรบั ใช้เป็นสถานที่กาจัด 2. การดาเนินการและดแู ลรกั ษาระบบกาจดั ไมม่ ีประสทิ ธภิ าพเท่าที่ควร 3. ขาดบุคลากรระดับปฎบิ ตั ิทีม่ คี วามรคู้ วามชานาญ 4. ขอ้ จากดั ด้านงบประมาณ 5. แผนการขยะมูลฝอยในระดับทอ้ งถิ่นยงั ไม่มกี ารพจิ ารณาดาเนนิ การในลกั ษณะศูนย์กาจดั ขยะมลู ฝอยรวม 6. ระเบียบและแนวทางปฎิบัติในเร่ืองศูนย์กาจัดขยะมลู ฝอยรวมยังไม่เคยมกี ารกาหนดข้ึนอยา่ งชดั เจน 7. ยังมกี ารนาขยะมูลฝอยกลับมาใชป้ ระโยชน์นอ้ ย 8. กฏหมายที่เกี่ยวข้องไม่เอื้ออานวยต่อการจัดการ เช่น ระเบียบให้ท้องถ่ินลงทุนและถิ่นขาดจิตสานึก ความเข้าใจ และทัศนคติทม่ี ตี ่อการจัดการขยะมลู ฝอย 9. ประชาชนในท้องถ่นิ ขาดจติ สานกึ ความเขา้ ใจ และทัศนคติทมี่ ตี ่อการจัดการขยะมูลฝอย 10. ประชาชนที่อย่ใู นเขตพนื้ ทใี่ กลเ้ คียงตอ่ ต้านการก่อสร้างระบบกาจัดขยะมลู ฝอย 2.นโยบายการบรหิ ารจดั การขยะมูลฝอยชุมชนของประเทศไทย เพอ่ื ใหก้ ารจดั การขยะมลู ฝอย สามารถดาเนนิ การได้อยา่ งต่อเน่ืองโดยสนองตอบตอ่ เป้าหมายที่ได้กาหนดไว้ ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 8 และเป็นแนวทางสาหรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติฉบบั ที่ 9 จึงสมควรกาหนดนโยบายการบริหารจัดการขยะมูลฝอยดังนี้ นโยบาย การบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชนของประเทศไทย โดยกาหนดรูปแบบการกาจัดขยะมูลฝอยแบบศูนย์ กาจดั ขยะท่ีได้รบั การศึกษาออกแบบและกอ่ สรา้ งด้วยเทคโนโลยีทเ่ี หมาะสม มรี ะบบและมาตรการการป้องกันปัญหา ผลกระทบส่ิงแวดล้อมและประชาชน และยังสามารถรองรับปริมาณขยะมูลฝอยชุมชนหลาย ๆ แห่งรวมกัน ซ่ึงจะ ช่วยลดปัญหาการบรหิ ารจดั การขยะมลู ฝอยแต่ละชุมชนและไมใ่ หเ้ กิดข้ึนอีกตอ่ ไปในอนาคตโดย 1. ควบคมุ การผลติ ขยะมูลฝอยของประชาชน 2. สนับสนุนงบประมาณ บุคลากร และวิชาการแก่ท้องถ่ินเพ่ือให้มีการจัดการขยะมูลฝอยแบบครบวงจร ตั้งแต่การเก็บ การคดั แยก การขนส่ง การนากลับมาใชป้ ระโยชน์ และการกาจดั ทีถ่ กู ตอ้ งตามหลกั สขุ าภิบาล 3. ส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีความร่วมมือกันในการจัดการขยะมูลฝอยโดย มงุ่ เน้นรูปแบบศนู ยก์ าจดั ขยะมูลฝอยชุมชนรวม 4. สนบั สนนุ ใหม้ กี ฎระเบียบ และเกณฑ์การจัดการขยะมูลฝอยท่ีเหมาะสมเพื่อให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องถือ ปฏบิ ัติ ปัญหาและสาเหตุ 1. การขาดแคลนทด่ี นิ สาหรับใช้เป็นสถานทกี่ าจดั 2. การดาเนินการและดแู ลรกั ษาระบบกาจัดไมม่ ีประสทิ ธิภาพเท่าท่คี วร 3. ขาดบคุ ลากรระดบั ปฏบิ ตั ิทม่ี คี วามรคู้ วามชานาญ 4. ข้อจากัดดา้ นงบประมาณ 5. แผนการขยะมลู ฝอยในระดับท้องถิ่นยงั ไม่มกี ารพิจารณาดาเนนิ การในลักษณะศนู ย์กาจดั ขยะมลู ฝอยรวม 6. ระเบยี บและแนวทางปฏิบัตใิ นเร่อื งศูนยก์ าจดั ขยะมูลฝอยรวมยงั ไมเ่ คยมกี ารกาหนดขน้ึ อย่างชัดเจน 7. ยังมกี ารนาขยะมูลฝอยกลับมาใชป้ ระโยชน์น้อย

8. กฎหมายทีเ่ กีย่ วขอ้ งไม่เอือ้ อานวยต่อการจดั การ เชน่ ระเบยี บใหท้ ้องถ่ินลงทุนและดาเนินการจัดการขยะ มลู ฝอยร่วมกัน 9. ประชาชนในทอ้ งถิ่นขาดจิตสานึก ความเข้าใจ และทัศนคติท่มี ตี อ่ การจดั การขยะมลู ฝอย 10. ประชาชนที่อยใู่ นเขตพนื้ ท่ีใกล้เคยี งตอ่ ตา้ นการก่อสร้างระบบกาจดั ขยะมลู ฝอย เปา้ หมาย 1. ควบคุมอตั ราการผลติ ขยะมูลฝอยใหม้ ไี ม่เกิน 1 กิโลกรมั ต่อคน ตอ่ วนั ภายในปี พ.ศ. 2544 2. ใหม้ ีการใชป้ ระโยชน์จากขยะมูลฝอยในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 และ 30 ภายในปี พ.ศ. 2544 และ พ.ศ. 2549 ตามลาดบั 3. ควบคุมปริมาณขยะมูลฝอยตกค้างในเขตเทศบาลไม่เกินร้อยละ 10 และ 5 ภายในปี พ.ศ. 2544 และ พ.ศ. 2549 ตามลาดับ 4. ให้ทกุ จงั หวดั มีแผนงานการจดั การขยะมลู ฝอยในรูปแบบศนู ย์กาจัดขยะมูลฝอย ส่วนกลางสาหรับท้องถ่ิน ต่าง ๆ สามารถใช้ร่วมกันได้ โดยสนับสนุนให้มีศูนย์กาจัดขยะมูลฝอยไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจานวนจังหวัด ท้งั หมดในปี พ.ศ. 2549 (หรือ 38 จังหวดั ) มาตรการท่ีจะเสริมใหส้ ามารถนาแนวนโยบายไปสู่การปฏบิ ตั ิ 1. สนับสนุนให้มกี ารจัดตัง้ ศนู ยก์ าจดั ขยะมลู ฝอยใชร้ ว่ มกันหลายชมุ ชน 2. สง่ เสรมิ การลงทนุ รว่ มจากภาคเอกชนในการกาจัดขยะมลู ฝอย และนาขยะมลู ฝอยมาใช้ประโยชน์ 3. สนับสนุนภาคเอกชนดาเนินธุรกจิ การจดั การขยะมลู ฝอย การตดิ ตามตรวจสอบ 4. ใชห้ ลกั การผกู้ อ่ มลพิษเป็นผจู้ า่ ยอยา่ งยุติธรรมและเสมอภาค 5. ปรับปรุงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ท่ีเก่ียวข้องกับอัตราค่าธรรมเนียมค่าบริการเก็บขนส่งและกาจัดให้ สอดคลอ้ งกับค่าดาเนนิ การ 6. ปลูกฝังทัศนคติที่ถูกต้องแก่เยาวชน โดยให้การศึกษาและรณรงค์ให้เกิดความร่วมมือปฏิบัติ รวมท้ังให้ ประชาชนและชุมชนเข้ามามสี ่วนรว่ มมากขน้ึ 7. ฝกึ อบรมเพม่ิ พนู ความรู้แกเ่ จา้ หนา้ ทีข่ องรัฐและเอกชน 8. สนับสนนุ การศึกษา วจิ ัยและพฒั นาเทคโนโลยีทีเ่ หมาะสมในการจัดการขยะมลู ฝอยอย่างมีระบบ 3.แนวทางการจดั การขยะมลู ฝอยอยา่ งครบวงจร เนน้ รูปแบบของการวางแผนจดั การขยะมูลฝอยอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพสูงสุด สามารถลดปริมาณขยะมูลฝอยที่ จะต้องสง่ เข้าไปทาลายด้วยระบบต่าง ๆ ใหน้ อ้ ยท่สี ุด สามารถนาขยะมูลฝอยมาใช้ประโยชน์ท้ังในส่วนของการใช้ซ้า และแปรรูปเพอ่ื ใชใ้ หม่ (Reuse & Recycle) รวมถึงการกาจัดท่ีได้ผลพลอยได้ เช่น ปุ๋ยหมัก หรือพลังงาน โดยสรุป วิธีการดาเนินการตามแนวทางมดี งั นี้ คอื 3.1การลดปริมาณการผลิตมูลฝอย รณรงค์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการลดการผลิตมูลฝอยในแต่ละวัน ไดแ้ ก่ 3.1.1 ลดการทิ้งบรรจุภัณฑ์โดยการใช้สินค้าชนิดเติมใหม่ เช่น ผงซักฟอก น้ายาล้างจาน น้ายาทาความ สะอาดและถา่ นไฟฉายชนดิ ชาร์ตใหม่ เป็นต้น 3.1.2 เลือกใชส้ นิ ค้าท่ีมคี ณุ ภาพมีหอ่ บรรจุภณั ฑ์นอ้ ย อายุการใชง้ านยาวนาน และตวั สนิ ค้าไมเ่ ปน็ มลพษิ 3.1.3 ลดการใช้วสั ดกุ าจดั ยาก เชน่ โฟมบรรจอุ าหาร และถงุ พลาสติก 3.2 จัดระบบการรีไซเคลิ หรือการรวบรวมเพอื่ นาไปสูก่ ารแปรรูปเพ่อื ใช้ใหม

3.2.1 รณรงค์ให้ประชาชนแยกของเสียนากลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เช่น กระดาษ พลาสติก และโลหะ นาไปใชซ้ า้ หรอื นาไปขาย/รีไซเคลิ ขยะเศษอาหารนามาหมักทาปุ๋ย ในรูปปุย๋ นา้ หรอื ปุ๋ยหมักเพ่ือใชใ้ นชมุ ชน 3.2.2 จดั ระบบทเี่ ออื้ ต่อการทาขยะรไี ซเคลิ 1. จัดภาชนะ (ถงุ /ถัง) แยกประเภทขยะมลู ฝอยที่ชดั เจนและเปน็ มาตรฐาน 2. จัดระบบบริการเกบ็ โดย - องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินจัดเก็บเอง โดยการจัดเก็บแบ่งเวลาการเก็บ เช่น หากแยกเป็นถุง 4 ถุง ขยะย่อยสลายได้ ขยะรีไซเคิล ขยะอันตราย และขยะท่ัวไป ให้จัดเก็บขยะย่อยสลายและขยะท่ัวไปทุก วัน สว่ นขยะรไี ซเคลิ และขยะอันตราย อาจจดั เก็บสปั ดาหล์ ะครง้ั หรอื ตามความเหมาะสม - จดั กลุ่มประชาชนทม่ี อี าชพี รับซอ้ื ของเก่าให้ช่วยเก็บขยะรีไซเคิลในรปู ของการรับซื้อ โดยการแบ่ง พน้ื ทใ่ี นการจัดเกบ็ และกาหนดเวลาให้เหมาะสม - ประสานงานกบั ร้านค้าทรี่ บั ซื้อของเก่าท่ีมีอย่ใู นพืน้ ท่หี รือพ้ืนทีใ่ กลเ้ คียงในการรบั ซื้อขยะรไี ซเคิล - จัดระบบตามแหล่งการเกิดขยะขนาดใหญ่ เช่น ตลาด โรงเรียน สถานที่ราชการ ห้างสรรพสินค้า เป็นตน้ 3.2.3 จัดกลมุ่ อาสาสมัครหรือชมรมหรือนกั เรียนให้มีกจิ กรรม/โครงการนาขยะมูลฝอยกลบั มาใช้ใหม่ เชน่ - โครงการขยะรไี ซเคิลแลกสง่ิ ของ เชน่ ต้นไม้ ไข่ - โครงการทาปุ๋ยนา้ ปุ๋ยอเี อ็ม ขยะหอม ป๋ยุ หมกั - โครงการตลาดนัดขยะรไี ซเคลิ - โครงการธนาคารวสั ดุเหลอื ใช้ - โครงการร้านค้าสนิ ค้ารีไซเคิล 3.2.4 จดั ตง้ั ศูนยร์ ีไซเคลิ หากพนื้ ทท่ี ป่ี รมิ าณขยะมลู ฝอยเกดิ ขน้ึ ในแต่ละวันเป็นปริมาณมากๆ อาจจะมีการจัดต้ังศูนย์คัดแยกขยะมูล ฝอยซ่งึ สามารถจะรองรบั จากชมุ ชนใกล้เคียงหรือรับซ้ือจากประชาชนโดยตรงซึ่งอาจจะให้เอกชนลงทุนหรืออาจให้ สมั ปทานเอกชนกไ็ ด้

3.3 การขนส่ง 3.3.1 ระยะทางไมไ่ กลใหร้ ถขนส่งขยะมูลฝอยไปยงั สถานทกี่ าจดั โดยตรง 3.3.2 ระยะทางไกลและมีปริมาณขยะมลู ฝอยมากอาจจะตอ้ งสรา้ งสถานีขนถ่าย เพ่ือถ่ายเทจากรถ เก็บขนขยะมลู ฝอยลงสรู่ ถบรรทกุ ขนาดใหญ่ 3.4 ระบบกาจัด เน่ืองจากขยะมลู ฝอยใช้ประโยชน์ใหม่ได้จึงควรจัดการเพ่ือกาจัดทาลายให้น้อยที่สุด ควรเลือกระบบกาจัด แบบผสมผสานเน่อื งจากปญั หาขาดแคลนพ้นื ที่ จงึ ควรพิจารณาปรับปรุงพื้นที่กาจัดมูลฝอยที่มีอยู่เดิม และพัฒนาให้ เป็นศูนย์กาจัดขยะมลู ฝอย โดยมีขั้นตอนดังนี้ 3.4.1 จดั ระบบคัดแยกขยะมูลฝอย 3.4.2ระบบกาจดั ผสมผสานหลาย ๆ ระบบในพื้นทเ่ี ดียวกนั ไดแ้ ก่ หมกั ทาปยุ๋ ฝงั กลบ และวิธีอ่ืน ๆ เป็นต้น 4.การคดั แยก เกบ็ รวบรวมและขนสง่ ขยะมูลฝอย ในการจัดการขยะมูลฝอยแบบครบวงจร จาเป็นต้องจัดให้มีระบบการคัดแยกขยะมูลฝอยประเภทต่างๆ ตามแต่ ลกั ษณะองค์ประกอบโดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือนากลบั ไปใช้ประโยชนใ์ หม่ สามารถดาเนินการไดต้ ั้งแต่แหลง่ กาเนิด โดย จดั วางภาชนะใหเ้ หมาะสม ตลอดจนวางระบบการเกบ็ รวบรวมมูลฝอยอย่างมปี ระสิทธิภาพ และสอดคล้องกับระบบ การคัดแยกขยะมูลฝอย พร้อมทั้งพิจารณาควรจาเป็นของสถานีขนถ่ายขยะมูลฝอยและระบบขนส่งขยะมูลฝอยไป กาจัดตอ่ ไป 4.1 หลักเกณฑ์ มาตรฐาน ภาชนะรองรบั ขยะมลู ฝอย 4.1.1 ภาชนะรองรบั ขยะมูลฝอย 1) ถังขยะ เพื่อใหก้ ารจัดเก็บรวบรวมขยะมูลฝอยเปน็ ไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดการปนเปื้อนของขยะมูล ฝอยที่มีศักยภาพในการนากลับมาใช้ประโยชน์ใหม่จะต้องมีการตั้งจุดรวบรวมขยะมูลฝอย (Station) และให้มีการ แบ่งแยกประเภทของถังรองรับขยะมูลฝอยตามสีต่าง ๆ โดยมีถุงบรรจุภายในถังเพ่ือสะดวกและไม่ตกหล่น หรือ แพรก่ ระจาย ดังนี้

สีเขยี ว รองรบั ขยะที่เน่าเสียและย่อยสลายได้เร็ว สามารถนามาหมักทา ปยุ๋ ได้ เชน่ ผัก ผลไม้ เศษอาหาร ใบไม้ สีเหลือง รองรับขยะที่สามารถนามารีไซเคิลหรือขายได้ เช่น แก้ว กระดาษ พลาสติก โลหะ สีเทาฝาสีส้ม รองรับขยะที่มีอันตรายต่อส่ิงมีชีวิต และส่ิงแวดล้อม เช่น หลอดฟลอู อเรสเซนต์ ขวดยา ถ่านไฟฉาย กระป๋องสีสเปรย์ กระป๋องยาฆ่าแมลง ภาชนะบรรจสุ ารอันตรายต่าง ๆ สีฟ้า รองรับขยะย่อยสลายไมไ่ ด้ ไม่เป็นพษิ และไม่คมุ้ คา่ การรีไซเคิล เช่น พลาสติกห่อลูกอม ซองบะหมี่สาเร็จรูป ถุงพลาสติก โฟมและฟอล์ยที่เปื้อน อาหาร นอกจากนยี้ ังมีถุงพลาสตกิ สาหรบั รองรบั ขยะมูลฝอยในแต่ละถงั โดยมดั ปากถงุ สีเดยี วกบั ถงั ที่รองรับมูลฝอย ตามประเภทดังกล่าวข้างตน้ ในกรณีท่ีสถานที่มพี ืน้ ทจ่ี ากัดในการจัดวางภาชนะรองรับขยะมูลฝอยและมีจานวนคนท่ี ค่อนข้างมากในบริเวณพ้ืนที่นั้น เช่น ศูนย์การประชุมสนามบิน ควรมีถังที่สามารถรองรับขยะมูลฝอยได้ท้ัง 4 ประเภทในถังเดียวกัน โดยแบ่งพ้ืนท่ีของถังขยะมูลฝอยออกเป็น 4 ช่อง และตัวถังรองรับขยะมูลฝอยทาด้วย สแตนเลส มฝี าผิดแยกเปน็ 4 สี ในแต่ละชอ่ งตามประเภทของขยะมลู ฝอยทร่ี องรับ ดังนี้ - ฝาสเี ขยี ว รองรับขยะมลู ฝอยทเี่ น่าเสยี และย่อยสลายไดเ้ รว็ - ฝาสีเหลอื ง รองรับขยะมลู ฝอยทีส่ ามารถนารไี ซเคิล หรอื ขายได้ - ฝาสีแดงรองรับขยะมลู ฝอยที่มอี ันตรายตอ่ ส่งิ มีชวี ติ และสงิ่ แวดล้อม - ฝาสีฟ้ารองรบั ขยะมลู ฝอย ทีย่ ่อยสลายไมไ่ ด้ ไมเ่ ป็นพษิ และไม่คุม้ คา่ การรีไซเคลิ และมีสัญลกั ษณข์ า้ งถัง

2) ถงุ ขยะ สาหรับคัดแยกขยะมูลฝอยฝนครัวเรือนและจะต้องมีการคัดแยกรวบรวมใส่ถุงขยะมูลฝอยตามสี ตา่ ง ๆ ดงั ต่อไปน้ี - ถงุ สีเขยี ว รวบรวมขยะมลู ฝอยทเ่ี น่าเสีย และยอ่ ยสลายได้เรว็ สามารถนามาหมักทาปุย๋ ได้ เช่น ผัก ผลไม้ เศษอาหาร ใบไม้ - ถุงสีเหลือง รวบรวมขยะมูลฝอยทส่ี ามารถนามารีไซเคลิ หรอื ขายได้ เช่น แก้ว กระดาษ พลาสติก โลหะ อลูมิเนียม - ถงุ สแี ดง รวบรวมขยะมูลฝอยทีม่ ีอันตรายต่อส่ิงมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม เช่น หลอดฟลูออเรสเซนต์ ขวด ยา ถ่านไฟฉาย กระป๋องสีสเปรย์ กระปอ๋ งสารฆา่ แมลง ภาชนะบรรจสุ ารอนั ตรายต่าง ๆ - ถงุ สฟี ้า รวบรวมขยะมูลฝอยท่ีย่อยสลายไม่ได้ไม่เป็นพิษและไม่คุ้มค่าการรีไซเคิล เช่น พลาสติกห่อลูก อม ซองบะหมสี่ าเร็จรูป ถุงพลาสตกิ โฟมและฟอลย์ ทเี่ ปื้อนอาหาร 4.1.2 เกณฑม์ าตรฐานภาชนะรองรับขยะมลู ฝอย - ควรมสี ดั สว่ นของถงั ขยะมูลฝอยจากพลาสตกิ ทีใ่ ชแ้ ลว้ ไม่ตา่ กว่ารอ้ ยละ 50 โดยน้าหนัก - ไม่มีสว่ นประกอบสารพษิ (toxic substances) หากจาเป็นควรใช้สารเติมแต่งในปริมาณที่น้อยและไม่อยู่ ในเกณฑ์ที่เปน็ อันตรายตอ่ ผบู้ ริโภค - มีความทนทาน แข็งแรงตามมาตรฐานสากล - มีขนาดพอเหมาะมีความจุเพียงพอต่อปริมาณขยะมูลฝอย สะดวกต่อการถ่ายเทขยะมูลฝอยและการทา ความสะอาด - สามารถปอ้ งกัน แมลงวนั หนู แมว สุนัข และสตั ว์อ่ืน ๆ มใิ หส้ มั ผสั หรือคยุ้ เขย่ี ขยะมลู ฝอยได้ 4.1.3 จดุ รวบรวมขยะมลู ฝอยขนาดย่อม เพ่ือสะดวกในการเกบ็ รวบรวมและประหยดั จึงต้องมีการต้ังจุดรวมรวบขยะมูลฝอยข้ึนโดยจุดรวบรวมขยะ มูลฝอยจะกาหนดไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ หมู่บ้าน โรงอาหาร โรงภาพยนต์ โดยมีภาชนะรองรับต้ังไว้เป็นจุด ๆ เช่น หมู่บ้านจัดสรร กาหนดให้จุดรวบรวม 1 จุด ต่อจานวนครัวเรือน 50 - 80 หลังคาเรือน จุดแรกจะต้ังที่ปาก ประตูทางเข้าหมู่บ้าน สาหรับอพาร์ตเมนต์จะตั้งท่ีลานจอดรถ บ้านท่ีอยู่ในซอยจุดแรกจะต้ังหน้าปากซอย แต่ละ ครัวเรือนจะรวบรวมขยะมูลฝอยที่คัดแยกได้ โดยถุงพลาสติกตามประเภทของสีต่าง ๆ มาทิ้งที่จุดรวบรวมขยะมูล ฝอย 4.1.4 การแปรสภาพขยะมูลฝอย ในการจัดการขยะมลู ฝอย อาจจัดให้มรี ะบบทช่ี ่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการแปรสภาพขยะมูลฝอยคือ การ เปล่ียนแปลงสภาพลกั ษณะทางกายภาพเพื่อลดปริมาณเปลี่ยนรูปร่าง โดยวิธีคัดแยกเอาวัสดุที่สามารถหมุนเวียนใช้ ประโยชน์ได้ออกมา วธิ กี ารบดให้มีขนาดเล็กลง และวธิ ีอดั เปน็ กอ้ นเพ่ือลดปรมิ าตรของขยะมูลฝอยได้ร้อยละ 20-75 ของปริมาตรเดมิ ทงั้ นข้ี ้ึนอยกู่ บั ประสทิ ธิภาพของเคร่ืองมือและลกั ษณะของขยะมูลฝอย ตลอดจนใช้วิธกี ารห่อหุ้มหรือ

การผูกรัดก้อนขยะมูลฝอยให้เป็นระเบียบมากยิ่งข้ึน ผลท่ีได้รับจากการแปรสภาพมูลฝอยน้ี จะช่วยให้การเก็บ รวบรวม ขนถา่ ย และขนสง่ ได้สะดวกข้นึ สามารถลดจานวนเทยี่ วของการขนส่ง ช่วยใหไ้ ม่ปลิวหลน่ จากรถบรรทกุ และช่วยรีดเอาน้าออกจากขยะมูลฝอย ทาให้ไม่มีน้าชะมูลฝอยร่ัวไหลในขณะขนส่ง ตลอดจนเพ่ิม ประสทิ ธภิ าพการกาจดั ขยะมูลฝอยโดยวิธีฝงั กลบ โดยสามารถจดั วางซ้อนไดอ้ ยา่ งเป็นระเบยี บจึงทาให้ประหยัดเวลา และค่าวัสดุในการกลบทับ และช่วยยืดอายกุ ารใชง้ านของบ่อฝงั กลบไดอ้ ีกทางหน่งึ ด้วย การพจิ ารณาเครอื่ งมือแปรสภาพขยะมูลฝอยสามารถเลือกใชไ้ ด้ตามองคป์ ระกอบและลักษณะสมบัติขยะมูล ฝอย ประเภทของแหลง่ กาเนดิ สถานทีต่ ัง้ ระบบใดมปี จั จยั ท่คี วรพิจารณาดงั น้ี - ความสามารถในการทางาน : เครื่องมอื จะช่วยทางานอะไรบ้างใหไ้ ดง้ านทดี่ ขี น้ึ กวา่ เดมิ - ความเชื่อถือได:้ ตอ้ งการบารงุ รกั ษามากน้อยเพยี งไร - การบรกิ าร : การตรวจเช็คและซอ่ มแซม สามารถทาไดเ้ อง และผู้ขายมีบรกิ ารหลังการขาย - ความปลอดภัย : เคร่ืองมือมีระบบป้องกันอันตรายแก่ผู้ใช้งาน ซ่ึงอาจเกิดการเลินเล่อหรือขาด ความรู้ความเข้าใจ - ผลกระทบตอ่ ส่งิ แวดล้อม : ไมก่ ่อใหเ้ กิดเสียงดังกลน่ิ รบกวน หรือมลพษิ อ่ืน ๆ - ความสวยงาม : เคร่อื งมอื ไม่ดเู ทอะทะกอ่ ความราคาญให้กับสายตา - คา่ ใช้จ่าย : ตอ้ งคานงึ ถึงเงินลงทุนและค่าบารงุ รักษารายปีอยใู่ นระดับราคาทย่ี อมรับได้ 5. การลดและการใชป้ ระโยชน์ขยะมูลฝอย 5.1 การลดปรมิ าณขยะมลู ฝอย การลดปริมาณขยะมูลฝอยให้ไดผ้ ลดตี ้องเรม่ิ ตน้ ทกี่ ารคดั แยกขยะมลู ฝอยกอ่ นท้งิ เพอ่ื ไม่ให้เกิดการปนเป้ือน ทาให้ได้วัสดุเหลือใช้ที่มีคุณภาพสูง สามารถนาไป Reused-Recycle ได้ง่าย รวมท้ังปริมาณขยะมูลฝอยท่ีจะต้อง นาไปกาจดั มปี รมิ าณนอ้ ยลงดว้ ย ซง่ึ การคัดแยกขยะมูลฝอย ณ แหล่งกาเนิดนั้นต้องคานึงถึงความเหมาะสมของแต่ ละชมุ ชน เชน่ ครัวเรือน ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า สานักงาน บริษัท สถานท่ีราชการต่าง ๆ เป็นต้น รวมท้ังปริมาณ และลักษณะสมบตั ขิ ยะมลู ฝอยทแ่ี ตกต่างกันด้วย ทง้ั น้กี ารคดั แยกขยะมูลฝอยสามารถดาเนนิ การได้ 4 ทางเลือก คอื ทางเลอื กที่ 1 การคัดแยกขยะมลู ฝอยทกุ ประเภทและทุกชนดิ ทางเลือกที่ 2 การคัดแยกขยะมูลฝอย 4 ประเภท (Four cans) ทางเลือกท่ี 3 การคดั แยกขยะสด ขยะแหง้ และขยะอนั ตราย (Three cans) ทางเลือกท่ี 4 การคดั แยกขยะสดและขยะแห้ง (Two cans) 5.2 การนาขยะมูลฝอยกลับมาใช้ประโยชนใ์ หม่ การนาขยะมูลฝอยกลบั มาใช้ประโยชนใ์ หม่มอี ยูห่ ลายวิธขี ้นึ อยู่กับสภาพและลักษณะสมบัติของขยะมูลฝอย ซ่ึงสามารถสรุปไดเ้ ปน็ 5 แนวทางหลกั ๆ คอื 1.การนาขยะมูลฝอยกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ (Material Recovery) เป็นการนามูลฝอยท่ีสามารถคัดแยก ได้กลบั มาใช่ใหม่ โดยจาเปน็ ตอ้ งผ่านกระบวนการแปรรปู ใหม่ (Recyele) หรือแปรรปู (Reuse) ก็ได้ (การทาสิง่ ประดิษฐจ์ ากวัสดเุ หลอื ใช)้ 2.การแปรรูปเพ่ือเปลี่ยนเป็นพลังงาน (Energy Recovery) เป็นการนาขยะมูลฝอยที่สามารถเปลี่ยนเป็น พลงั งานความรอ้ นหรอื เปลยี่ นเปน็ รปู กา๊ ซชวี ภาพมาเพ่ือใชป้ ระโยชน์ 3.การนาขยะมูลฝอยจาพวกเศษอาหารท่เี หลือจากการรบั ประทานหรือการประกอบอาหารไปเลย้ี งสัตว์ (การเล้ยี งสตั ว์ด้วยมลู ฝอยอินทรีย)์ 4.การนาขยะมูลฝอยไปปรับสภาพใหม้ ปี ระโยชน์ต่อการบารุงรักษาดิน เช่น การนาขยะมูลฝอยสดหรือเศษ อาหารมาหมักทาปยุ๋ (การทาปุย๋ หมกั )

5.การนาขยะมูลฝอยปรับปรุงพื้นที่โดยนาขยะมูลฝอยมากาจัดโดยวิธีฝังกลบอย่างถูกหลักวิชาการ (Sanitary landfill) จะไดพ้ ืน้ ทีส่ าหรับใชป้ ลกู พชื สร้างสวนสาธารณะ สนามกีฬา เป็นต้น 6.เทคโนโลยีการกาจดั ขยะมลู ฝอย เทคโนโลยีการกาจัดขยะมลู ฝอย สามารถแบ่งออกเป็น 3 ระบบใหญ่ คือ 1.ระบบการทาปุ๋ยหมกั เป็นการย่อยสลายอินทรีย์สารโดยขบวนการทางชีววิทยาของจุลินทรีย์เป็นตัวการย่อยสลายให้แปรสภาพ เปน็ แรธ่ าตุทมี่ ลี กั ษณะคอ่ นขา้ งคงรปู มีสดี าค่อนข้างแห้ง และสามารถใช้ในการปรับปรุงคุณภาพของดิน ขบวนการ หมกั ทาปุ๋ยสามารถแบ่งเป็น 2 ขบวนการ คือขบวนการหมักแบบใช้ออกซิเจน (Aerobic Decomposition) ซึ่งเป็น การสรา้ งสภาวะท่จี ุลินทรีย์ชนิดที่ดารงชพี โดยใชอ้ อกซเิ จนย่อยสารอาหารแลว้ เกดิ การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และ กลายสภาพเป็นแร่ธาตุเป็นขบวนการที่ไม่เกิดก๊าซกล่ินเหม็น ส่วนอีกขบวนการเป็นขบวนการหมักแบบไม่ใช้ ออกซเิ จน (Anaerobic Decomposition) เป็นการสร้างสภาวะให้เกิดจุลินทรีย์ชนิดที่ดารงชีพโดยใช้ออกซิเจน เป็นตัวช่วยย่อยสารอาหาร และแปร สภาพกลายเป็นแร่ธาตุขบวนการน้ีมักจะเกิดก๊าซที่มีกลิ่นเหม็น เช่น ก๊าซไข่เน่า (Hydrogen Sulfide: H2S) แต่ ขบวนการนจี้ ะมผี ลดีทเ่ี กดิ ก๊าซมีเทน (Methane gas) ซง่ึ เป็นกา๊ ซท่สี ามารถนาไปใชป้ ระโยชน์เป็นเชื้อเพลงิ ได้ 2.ระบบการเผาในเตาเผา เป็นการทาลายขยะมูลฝอยด้วยวิธีการเผาทาลายในเตาเผาท่ีได้รับการออกแบบก่อสร้างที่ถูกต้องและ เหมาะสม โดยตอ้ งใหม้ อี ุณหภมู ิในการเผาท่ี 850 - 1,200 องศาเซลเซียส เพื่อให้การทาลายที่สมบูรณ์ท่ีสุด แต่ในการ เผามักก่อให้เกิดมลพิษด้านอากาศได้แก่ ฝุ่นขนาดเล็ก ก๊าซพิษต่างๆ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sulfer dioxide: SO2) เป็นต้น นอกจากนี้แล้วยังอาจเกิดไดออกซิน (Dioxins) ซ่ึงเป็นสารก่อมะเร็งและเป็นสารท่ีกาลังอยู่ในความ สนใจของประชาชน ดังนั้นจึงจาเป็นจะต้องมีระบบควบคุมมลพิษทางอากาศและดักมิให้อากาศที่ผ่านปล่องออกสู่ บรรยากาศมีค่าเกินกว่าค่ามาตรฐานคณุ ภาพอากาศจากเตาเผาทก่ี าหนด

3.ระบบฝงั กลบอย่างถกู สุขาภบิ าล (Sanitary Landfill) เปน็ การกาจดั ขยะมลู ฝอยโดยการนาไปฝงั กลบในพนื้ ทีท่ ไี่ ด้จัดเตรยี มไว้ ซง่ึ เป็นพน้ื ทท่ี ่ีได้รับการคัดเลือกตาม หลักวิชาการทั้งทางด้าน เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วิศวกรรม สถาปัตยกรรม และการยินยอมจากประชาชน จากนนั้ จงึ ทาการออกแบบและก่อสรา้ ง โดยมีการวางมาตรการปอ้ งกันผลกระทบที่อาจเกดิ ข้นึ เช่น การปนเป้ือนของ นา้ เสียจากกองขยะมูลฝอยท่ีเรียกว่า น้าชะขยะมูลฝอย (Leachate) ซ่ึงถือว่าเป็นน้าเสียที่มีค่าความสกปรกสูงไหล ซึมลงสู่ชั้นน้าใต้ดิน ทาให้คุณภาพน้าใต้ดินเสื่อมสภาพลงจนส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ใช้น้าเพื่อการอุปโภค และ บรโิ ภค นอกจากนี้ยังต้องมีมาตรการป้องกันน้าท่วม กลิ่นเหม็น และผลกระทบต่อสภาพภูมิทัศน์ รูปแบบการฝัง กลบอย่างถูกหลักสุขาภิบาล อาจใช้วิธีขุดให้ลึกลงไปในชั้นดินหรือการถมให้สูงข้ึนจากระดับพ้ืนดิน หรืออาจจะใช้ ผสมสองวิธี ซง่ึ จะข้นึ อยูก่ บั สภาพภมู ิประเทศ หลกั เกณฑก์ ารเลือกพ้ืนท่ีที่เหมาะสมสาหรบั ศูนยก์ าจัดขยะมูลฝอย ในการพิจารณาพ้นื ท่ีท่ีมีศักยภาพเป็นสถานท่ีตั้งศูนย์กาจัดขยะนั้นจะต้องทราบความต้องการขนาดที่ดินที่ จะใช้ และทีต่ ้งั ของท้องถ่นิ ที่จะเข้าร่วมดาเนินการ โดยอาจจะพิจารณาสถานท่กี าจัดขยะมูลฝอยแห่งเดิมของท้องถ่ิน ท่มี ศี กั ยภาพรองรับ หรือขยายการรองรับขยะมูลฝอยภายในจังหวัดแต่ละแห่ง และอาจจะมีอานาจศูนย์กาจัด 1-2 แห่ง พร้อมกับจัดให้มีสถานีขนถ่ายตามความจาเป็นและเหมาะสม หลักเกณฑ์การคัดเลือกพ้ืนที่ท่ีมีศักยภาพเป็น สถานท่ตี ั้งศูนย์กาจดั ขยะมูลฝอยชุมชน สามารถใชเ้ กณฑม์ าตรฐาน และแนวทางการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนท่ีกรม ควบคุมมลพิษไดจ้ ดั ทาข้นึ ดงั น้ี 1.เกณฑก์ ารคดั เลือกพน้ื ทข่ี องสถานขี นถ่ายขยะมลู ฝอย และสถานที่นาวัสดกุ ลบั คืน 1.1 ไม่ต้งั อยูใ่ นพนื้ ทีล่ มุ่ นา้ ชนั้ ท่ี 1 และชั้นท่ี 2 ตามมติคณะรัฐมนตรี ท่ีเก่ียวข้องกับการกาหนดชั้น คุณภาพลมุ่ นา้ เม่อื วันที่ 28 พฤษภาคม 2538 1.2 ต้ังอยู่ห่างแนวเขตโบราณสถาน ตาม พ.ร.บ. โบราณสถานโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และ พพิ ิธภณั ฑ์สถานแห่งชาติไม่นอ้ ยกว่า 1 กิโลเมตร 1.3 ควรตงั้ อยู่หา่ งจากชมุ ชนไมน่ ้อยกวา่ 1 กโิ ลเมตร 2.เกณฑ์การคดั เลือกพนื้ ทีข่ องสถานที่กาจัดโดยเตาเผา และสถานทห่ี มกั ทาปุย๋ 2.1 ไม่ตั้งออยู่ในพื้นท่ีลุ่มน้าชั้นที่ 1 และช้ันท่ี 2 ตามมติคณะรัฐมนตรี ท่ีเกี่ยวข้องกับการกาหนด ชั้นคณุ ภาพลุ่มนา้ เมอื่ วันที่ 28 พฤษภาคม 2528 2.2 ตั้งอยู่ห่างจากแนวเขตโบราณสถาน ตาม พ.ร.บ โบราณสถาน โบราณวัสดุ ศิลปวัตถุ และ พิพธิ ภณั ฑส์ ดถานแห่งชาติ ไม่น้อยกว่า 1 กิโลเมตร 2.3 ควรตั้งอยหู่ า่ งจากชุมชนไมน่ ้อยกว่า 2 กิโลเมตร 2.4 ท่ตี ้งั ของสถานทีกาจดั โดยเตาเผาควรเป็นทโี่ ล่ง ไม่อยูใ่ นทอ่ี ับลม

3. เกณฑ์การคัดเลือกพื้นทขี่ องสถานทฝ่ี งั กลบขยะมูลฝอย 3.1 ไม่ตั้งอยใู่ นพนื้ ท่ลี มุ่ นา้ ชั้นที่ 1 และช้ันท่ี 2 ตามมติคณะรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องกับการกาหนดช้ัน คณุ ภาพลมุ่ น้าเม่ือวันท่ี 28 พฤษภาคม 2528 3.2 ตั้งอยู่ห่างจากแนวเขตโบราณสถาน ตาม พ.ร.บ. โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และ พิพิธภัณฑส์ ถานแหง่ ชาติ ไมน่ ้อยกว่า 1 กโิ ลเมตร 3.3 ตงั้ อยหู่ ่างจากแนวเขตสนามบินไมน่ อ้ ยกว่า 5 กิโลเมตร 3.4 ควรตงั้ อย่หู า่ งจากบ่อน้าดมื่ หรือโรงผลิตน้าประปาในปัจจุบนั ไมน่ อ้ ยกวา่ 700 เมตร 3.5 ควรต้ังอย่หู า่ งจากแหล่งน้าธรรมชาติหรือมนุษย์สร้างข้ึนมารวมทั้งพื้นที่ชุ่มน้า (Wetland) ไม่ นอ้ ยกวา่ 300เมตร ยกเวน้ แหลง่ น้าทต่ี ้ังอยใู่ นสถานที่ฝังกลบขยะมลู ฝอย 3.6 เป็นพื้นทซี่ ่ึงสภาพธรณีวทิ ยา หรอื ลกั ษณะใตพ้ ้นื ดนิ ม่งั คงแข็งแรงพอที่จะรองรับขยะมูลฝอย 3.7 ควรเป็นพ้ืนท่ีดอนในกรณีเป็นพ้ืนท่ีลุ่มท่ีมีโอกาสเกิดน้าท่วมฉับพลันหรือน้าป่าไหลหลาก จะต้องมมี าตรการปอ้ งกันแก้ไข 3.8 ควรเป็นพน้ื ท่ีซึ่งระดบั นา้ ใตด้ ินอยู่ลึก ในกรณีท่ีระดับน้าใต้ดินอยู่สูงจะต้องมีมาตรการป้องกัน แก้ไข 3.9 เมื่อพิจารณาคัดเลือกพื้นท่ีไว้ได้ 1-3 แห่ง แล้วควรจัดทาประชาพิจารณ์ให้เกิดความยอมรับ ของประชาชน กอ่ นทจ่ี ะดาเนินการตอ่ ไป 7. แนวทางการจดั การของเสียอันตรายจากชุมชน ของเสียอนั ตรายหมายถึง ของเสียใดๆ ที่มีองค์ประกอบหรือปนเป้ือนวัตถุอันตรายชนิดต่าง ๆ ซ่ึง ได้แก่ วัตถุระเบิด วัตถุไวไฟ วัตถุออกซิไดซ์ และวัตถุเปอร์ออกไซด์ วัตถุมีพิษวัตถุท่ีทาให้เกิดโรค วัตถุกัมมันตรังสี วัตถุที่ทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม วัตถุกัดกร่อนท่ีทาให้เกิดระคายเคือง วัตถุอย่างอ่ืน ไม่ว่าจะเป็น เคมีภณั ฑห์ รอื สง่ิ อื่นใดที่อาจทาให้เกิดอนั ตรายแกบ่ คุ คล สตั ว์ พชื ทรัพยส์ ิน หรือสง่ิ แวดลอ้ ม ของเสียอันตรายที่เกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชนได้แก่ บ้านเรือน ร้านล้างฟิลม์ อัดขยายรูป ร้านซกั แหง้ ห้องปฏิบัติการ เป็นต้น ซ่ึงมีประมาณ 300,000 ตัน ถูกท้ิงรวมไปกับขยะมูลฝอยท่ัวไป และมีแนวโน้ม เพมิ่ ขนึ้ เร่อื ย ๆ ตวั อยา่ งของเสยี อันตรายจากชุมชน เชน่ หลอดฟลูออเรสเซนต์มีสารปรอทบัลลาสต์มีสารพีซีบีน้ายา ทาความสะอาดมฤี ทธเ์ิ ปน็ กรด-ด่าง และแอมโมเนียกระป๋องสารฆ่าแมลงมีสารเคมีตกค้าง น้ามันเครื่อง แบตเตอร่ีมี สารไฮโดรคารบ์ อนและโลหะหนกั สี ทนิ เนอ์ มสี ารทาละลาย ถ่านไฟฉายมีแมงกานสี ปรอทและโลหะหนกั อื่น ๆ หากของเสียเหล่าน้ีไม่ได้รับการกาจัดอย่างถูกวิธี อาจจะทาให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพอนามัยของ ประชาชน และคุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม ของเสยี อนั ตรายในบ้านเรอื น หลอดฟลอู อเรสเซนต์มีปรอท บลั ลาสตม์ สี ารพีซีบี

น้ายาทาความสะอาดมีกรด ด่าง และแอมโมเนยี กระป๋องยาฆ่าแมลงมียาฆ่าแมลงตกค้าง กระป๋องสเปรย์ มีสารเคมีตกค้าง น้ามันเคร่ือง แบตเตอรี่ มีสารโฮโดรคาร์บอน และโหละ หนกั สี ทนิ เนอร์ มสี ารทาละลาย ถ่ายไฟฉายมแี มงกานีส ปรอท และโลหะหนกั อ่นื ๆ

วิธกี ารจดั การของเสยี อนั ตรายในบ้านเรือน เลอื กซอ้ื /เลอื กใช้ - ซื้อ/ใชเ้ ท่าทจ่ี าเป็น - ซ้ือ/ใช้สินค้าท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม สินค้าฉลากเขียว เช่น ถ่านไฟฉาย สูตรไม่ผสมสารปรอท ตเู้ ยน็ ฉลากเขียว สอี ีมัลชนั สตู รลดสารพษิ - ซ้ือ/ใช้ สารสกัดจากธรรมชาตหิ รอื สมนุ ไพร แทนการใช้สารเคมีท่สี งั เคราะหข์ นึ้ - ซื้อ/ใช้ สนิ คา้ ท่ใี ชซ้ ้าใหมไ่ ด้เช่น ถา่ นไฟฉายท่ีชารจ์ ใหม่ได้ ใชน้ า้ ยาทาความสะอาดชนดิ เตมิ เพ่ือลด ปริมาณภาชนะบรรจุ - ไม่ทิง้ ของเสียอนั ตรายปนกับขยะมลู ฝอยทว่ั ไป - ไมท่ ิ้งลงพื้น ท่อระบายน้าหรอื แหล่งน้า - แยกเก็บไว้ในภาชนะทไ่ี ม่รวั่ ซึม รอหนว่ ยงานทอ้ งถิน่ มาเกบ็ ไปกาจดั - นาไปท้ิงในภาชนะทีห่ นว่ ยงานทอ้ งถน่ิ จัดหาให้หรอื นาไปใหเ้ จ้าหนา้ ทท่ี ่มี าเก็บ ในวันทกี่ าหนด - นาไปส่งคืนรา้ นตัวแทน จาหนา่ ย เพือ่ รบั ส่วนลด และแลกซื้อผลติ ภณั ฑใ์ หม่ แนวทางในการจัดการของเสียอันตรายอยา่ งถูกวิธี ทอ้ งถิน่ /เทศบาล - รณรงคใ์ หผ้ ู้ประกอบการและประชาชนคแั ยกของเสยี อนั ตาย ไมท่ ิง้ รวมไปกบั ขยะมูลฝอยทว่ั ไป - จัดหาภาชนะรองรับของเสยี อนั ตรายทีม่ ฝี าปดิ ไม่รั่วซึมและเหมาะสมกับประเภทของของเสียอนั ตราย - จัดหารถเก็บขนชนิดพเิ ศษเพอ่ื เก็บขนของเสียอนั ตราย - กาหนดวันรณรงค์ เพ่ือเก็บรวบรวมของเสียอันตราย เช่น วันหยุดนักขัตฤกษ์ วันส้ินปี วันสิ่งแวดล้อม เปน็ ต้น - จัดทาระบบกากบั การขนส่ง (Manifest system) โดยควบคมุ ต้ังแต่แหล่งกาเนิด การเก็บรวบรวม การ เคลื่อนยา้ ยจนถงึ สถานที่กาจัด - จัดสร้างสถานีขนถ่ายของเสียอันตรายประจาจังหวัด เพื่อเป็นแหล่งรวบรวม และคัดแยกของเสีย อนั ตราย ส่วนทไ่ี มส่ ามารถนากลับมาใชป้ ระโยชน์ใหม่จะถกู นาไปกาจดั ยังศนู ย์กาจัดประจาภาคต่อไป - จัดสร้างศูนย์กาจัดของเสียอันตรายประจาภาคโดยเร่ิมตั้งแต่การคัดเลือกสถานที่ การจัดซ้ือท่ีดินการ ออกแบบระบบ การกอ่ สร้าง ควบคมุ การดาเนนิ งาน - ฝึกอบรมเจ้าหนา้ ทข่ี องหนว่ ยงานที่รบั ผดิ ชอบและสง่ เสริมให้ความรกู้ ับประชาชน - ประชาสัมพันธใ์ ห้ประชาชนมสี ว่ นร่วมในการจัดการของเสยี อันตรายอย่างถูกวธิ ี แนวทางในการจัดการของเสยี อันตรายอย่างถกู วิธี ผู้ประกอบการ - ไมท่ ิ้งของเสียอันตรายประเภทน้ามันเคร่ือง ทินเนอร์ น้ามันสน น้ายาฟอกขาว น้ายาทาความสะอาด นา้ ยาลา้ งรูป หมึกพิมพ์ ของเสียติดเช้ือ สารเคมีจากห้องปฏิบัติการ หลอดฟลูออเรสเซนต์ ถ่านไฟฉาย ฯลฯ รวมไปกับขยะมูลฝอยท่วั ไป - ไมท่ ิง้ ลงพื้น ไม่ฝังดิน ไมท่ ้ิงลงท่อระบายนา้ หรือแหล่งน้า - แยกเก็บของเสียอันตรายไว้ในภาชนะเดมิ ทร่ี ั่วซึม เพื่อรอหน่วยงานท้องถน่ิ มาเกบ็ ไปกาจัด - นาไปท้งิ ในภาชนะที่ท้องถ่นิ จดั ทาใหห้ รือนาไปทงิ้ ในสถานทที่ ก่ี าหนด - นาซากของเสียอนั ตรายไปคนื รา้ นตัวแทนจาหนา่ ย เช่น ซากแบตเตอรี่ ซากถ่านไฟฉาย ภาชนะบรรจุยา ฆา่ แมลง

การดาเนินงานของกรมควบคมุ มลพิษ 1. สารวจ จัดทาข้อมูลพนื้ ฐาน ชนดิ ปริมาณ และการจดั การของเสยี อนั ตรายจากกิจกรรมต่าง ๆ 2. จดั ทาระบบขอ้ มลู สารสนเทศภูมิศาสตร์ เพ่อื คัดเลือกสถานทตี่ ้งั ศูนย์กาจัดของเสยี อนั ตราย 3. กาหนดกลไกการคดั แยก การเกบ็ รวบรวมการเรียกคนื ซาก การจดั เก็บค่าธรรมเนียมในการกาจัดของเสีย อนั ตรายจากชมุ ชน 4. กาหนดสถานท่ตี ัง้ รปู แบบ และเทคโนโลยีของระบบและกาจัดของเสยี อันตรายจากชุมชนแบบรวมศนู ย์ 5. จดั ทาแผนแม่บทและแผนปฏบิ ตั กิ ารจดั การของเสยี อันตรายจากชุมชน ตามลาดับความสาคัญและความ จาเป็นเรง่ ด่วน 8. แนวทางการจดั การขยะมูลฝอยจากการก่อสร้างและการร้ือถอนส่ิงปลูกสร้าง (Construction and Demolition Waste Management) ขยะมลู ฝอยจากการก่อสร้างหรอื วสั ดุทเี่ หลือใชจ้ ากการกอ่ สร้าง เปน็ ปญั หาทมี่ ักเกดิ ข้นึ ในชมุ ชนเมอื งที่มีการ ขยายตัวอยา่ งรวดเร็ว ซ่ึงได้มีการก่อสร้างอาคารต่างๆ เพ่ิมขึ้น เพื่อใช้เป็นท่ีอยู่อาศัย สถานประกอบการธุรกิจและ อุตสาหกรรม และโครงสร้างพ้ืนฐานต่าง ๆ ได้แก่ ถนน ทางระบายน้า ระบบขนส่งมวลชน ขยะมูลฝอยจากการ ก่อสร้างมักไม่ได้รับการจัดการท่ีถูกวิธีและเหมาะสม โดยจะถูกนาไปกองไว้ตามสถานที่สาธารณะ พื้นที่ว่างเปล่า ตลอดจนเทลงแม่น้าลาคลอง ทาให้เกิดสภาพท่ีไม่น่าดูและลาน้าต้ืนเขินได้ องค์ประกอบของขยะมูลฝอยจากการ กอ่ สรา้ ง ประกอบดว้ ย เศษอิฐ หิน ดิน ทราย คอนกรีต เศษไม้ โลหะต่าง ๆ เหล็ก กระป๋อง ตลอดจนกระดาษและ พลาสตกิ โดยแนวทางการจดั การขยะมลู ฝอยเหล่าน้ี ควรมีการคดั แยกวัสดทุ ย่ี ังสามารถนากลับไปใช้ประโยชน์ได้ก่อน โดยการคดั แยกขยะมลู ฝอยอาจจาเป็นต้องมีเคร่ืองมือที่ใช้ในการคัดแยก อุปกรณ์บดขยะมูลฝอยที่มีขนาดใหญ่และ เปน็ วสั ดทุ ี่แขง็ เชน่ เศษคาน คอนกรีต เศษหัวเสาเข็ม เป็นต้น และส่วนท่ีเหลือจึงนาไปกาจัดด้วยวิธีการท่ีเหมาะสม อาทิ การฝงั กลบ มาตรการของการจัดการขยะมูลฝอยจากการก่อสร้าง - การกาหนดให้ผู้รับเหมาก่อสร้างต่าง ๆ มีแผนการจัดการกับขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้น และแจ้งให้ท้องถ่ิน ทราบ พรอ้ มกับการขออนุญาตปลูกสร้างและรื้อถอนอาคาร ซึ่งจะต้องไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ ประชาชนท่ัวไป หรอื ผลกระทบตอ่ สิง่ แวดล้อม หรือขัดต่อกฎหมาย โดยต้องกาหนด ประเภท ปริมาณ ขั้นตอนวิธีการดาเนินการ ระยะเวลา วธิ ีการกาจัด และสถานท่ีกาจดั - ท้องถิ่นจัดให้มีระบบการจัดการขยะมูลฝอยจากการก่อสร้าง โดยพิจารณาจัดหาสถานที่และคัดเลือก วิธกี ารที่เหมาะสม โดยไมต่ อ้ งเพิ่มภาระค่าใชจ้ า่ ย พรอ้ มท้งั กาหนดอัตราคา่ บริการในการจัดการขยะมูล ฝอยจากการกอ่ สรา้ ง - ในการขนย้ายวัสดุท่ีร้ือถอนไปทิ้งหรือกาจัด ต้องดาเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ก่อให้เกิดเหตุ ราคาญ ตกหลน่ ปลิวหรือฟุง้ กระจาย และไมก่ ่อให้เกดิ ผลกระทบตอ่ ส่งิ แวดล้อม - การใช้มาตรการทางด้านกฎหมายในการลงโทษ ผู้ที่ลักลอบท้ิงเศษวัสดุก่อสร้างในบริเวณที่ว่างของ เอกชน หรอื ทสี่ าธารณะ - สนับสนนุ ใหเ้ อกชนเป็นผ้บู รกิ ารเกบ็ ขนและกาจดั ขยะมลู ฝอยจากการกอ่ สร้าง

9. รูปแบบองคก์ รและระบบบรหิ ารจดั การกาจัดขยะมลู ฝอย การจัดรูปแบบองค์กรบริหารจัดการของหน่วยงานที่จะร่วมดาเนินการ ศูนย์กาจัดขยะมูลฝอยใน ระดบั จังหวัด หรือสาหรับบางพ้ืนที่ ควรมีการจัดทาบันทึกข้อตกลงไว้ นอกจากนี้ สามารถสนับสนุนให้ภาคเอกชน เข้ามามบี ทบาทร่วมดาเนินการซ่ึงรปู แบบการลงทุนและดาเนนิ การศูนยอ์ าจทาไดห้ ลายรปู แบบ ไดแ้ ก่ - ภาครัฐลงทนุ และดาเนินการเอง - รฐั ร่วมลงทนุ กบั ภาคเอกชน - รฐั ลงทุนก่อสรา้ งและให้เอกชนดาเนนิ การ - เอกชนลงทุนและดาเนินการ โดยขน้ั ตอนของการดาเนนิ งานเริ่มต้นจากการศึกษาและวิเคราะห์ความเหมาะสมในแต่ละจังหวัด การจัดหาที่ดิน การออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างระบบ และการดูแลรักษากาจัดขยะมูลฝอย นอกจากน้ียังมี ความจาเปน็ ทีจ่ ะตอ้ งพิจารณารปู แบบการลงทุนและคา่ ใช้จา่ ยที่เกดิ ขึน้ โดยมีขอ้ ควรพิจารณา ดงั น้ี - ราคาที่ดินหรอื ค่าเช่าที่ดิน - ราคาคา่ ลงทนุ ก่อสรา้ งระบบซึง่ อยกู่ ับเทคโนโลยีทเี่ ลือกใช้ - ราคาค่าดาเนินการและดแู ลระบบ - ความพร้อมของประชาชนในการจ่ายค่าบริการและประสิทธิภาพในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมจาก ประชาชน - การจดั หาแหลง่ เงนิ ทุนสนบั สนุนการลงทนุ 9.1รูปแบบการดาเนนิ การท่เี หมาะสมและมคี วามเปน็ ไปได้โครงการศูนยก์ าจัดขยะมลู ฝอย ภายใต้ข้อกาหนดตามกฎหมายองค์กรท่ีมีความเป็นได้ในทางปฏิบัติ จาเป็นต้องได้รับความ ร่วมมอื และประสานงานระหวา่ งหน่วยงานทอ้ งถิ่นเพื่อดาเนินการโครงการศนู ยก์ าจดั ขยะมูลฝอย สามารถดาเนนิ การ ได้หลายทางเลือก ในข้ันแรกองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินร่วมมือกันดาเนินงาน โดยมีบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ซ่ึง อาจจะดาเนนิ การเองโดยมีองค์กรใดองค์กรหน่ึงเป็นองค์กรหลัก และอาจให้ภาคเอกชนเข้ามาดาเนินการภายหลัง หรือร่วมลงทุนกบั ภาคเอกชน โดยทางเลอื กขององคก์ รในการจัดการขยะมลู ฝอยรว่ มกับภาคเอกชนแสดงได้ดงั นี้ 9.2.ปัจจัยทีจ่ าเป็นตอ่ การต้งั ศนู ย์กาจดั มูลฝอย 9.2.1 การรวมตัวกันของท้องถิ่น โดยจัดทาบันทึกข้อตกลง แล้วคัดเลือกตัวแทนทาสัญญากับ เอกชน 9.2.2 รัฐต้องมกี ฎระเบยี บปฏิบตั เิ ปน็ กฎหมาย ดงั นี้ - ประกนั ปริมาณขยะมลู ฝอยหรือรายได้ขน้ั ตา่ - ใหเ้ งินสนับสนุนในระยะแรก - สนบั สนนุ การจดั หาทีด่ ินเพอื่ ก่อสร้างสถานท่ีกาจัด - กาหนดอตั ราคา่ บรกิ ารทีเ่ หมาะสมกบั ความสามารถและการยมิ ยอมจา่ ยของประชาชน - มกี ฎหมายควบคุมการดาเนนิ การ และการลงโทษกรณีทไ่ี ม่ปฏิบัติตามกลักเกณฑ์อย่างชดั เจน - กาหนดให้ปรับปรุงประสทิ ธภิ าพการจัดเกบ็ คา่ ธรรมเนยี มเกบ็ ขน ซึง่ อาจรวมหรอื แยกกบั ค่ากาจัด - ผลักดันให้ข้อตกลงน้ีอยู่ในแผนปฏิบัติการส่ิงแวดล้อม โดยให้ผู้รับผิดชอบต้องกาหนดหน่วยวัด ความสาเรจ็ ของแผนงานทีช่ ดั เจน 9.3.การวิเคราะหก์ ารให้เอกชนเข้ารว่ มดาเนินการ 9.3.1ความจาเป็นในการให้เอกชนเข้ารว่ มดาเนนิ การเพื่อ - ปรับปรุงมาตรฐานการจัดการขยะมลู ฝอย - ลดภาระการลงทุนของรัฐ

- ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพอนามัย และการแพร่กระจายของเช้ือโรคและการปนเปื้อนต่อ สง่ิ แวดลอ้ ม - รัฐทาหนา้ ท่เี พยี งควบคมุ ดูแล จึงลดภาวะบคุ ลากร 9.3.2 ทางเลอื กในการให้เอกชนเข้าร่วมดาเนินการส่วนใดหรือส่วนหน่ึง หรือทั้งระบบการจัดการ ขยะมูลฝอยตง้ั แตก่ ารจัดเก็บ การขนถ่ายและการกาจัดในรูปแบบ BOO BOOT BOT BTO สัญญาบริการสัมปทาน สัญญาเชา่ แต่ทอ้ งถ่นิ ส่วนใหญ่ต้องการให้เอกชนดาเนินการเฉพาะขนถ่ายและกาจดั 9.3.3 ความเส่ียงของโครงการที่เอกชนตอ้ งคานึงถึงและให้ความสาคัญ - ปรมิ าณขยะมูลฝอยท้งั ปริมาณข้นั ต่า และแนวโน้มในอนาคต - ลกั ษณะสมบัติของขยะมลู ฝอย และแนวโนม้ ในอนาคต - พืน้ ท่ีบรกิ าร ขอบเขต และการขนสง่ - ดา้ นการเงินการลงทุน รายไดร้ ายจ่ายของการดาเนนิ งาน - การก่อสรา้ ง/ดาเนนิ การ - ดา้ นสง่ิ แวดล้อม - ดา้ นสังคม 10. แนวทางปฏิบัตใิ นการดาเนนิ การงานศนู ย์กาจัดขยะมูลฝอย 10.1 รปู แบบการดาเนินงาน การจัดให้มีระบบการจัดการขยะมูลฝอยแบบศูนย์รวมใช้ศูนย์กาจัดร่ วมกันหลายชุมชน โดยความรว่ มมอื ระหวา่ งหนว่ ยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดาเนินการ และบริหารจัดการ และมี หน่วยงานราชการส่วนกลางเป็นผู้สนับสนุนให้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการและงบประมาณ โดยเน้นให้เป็นไป ตามหลกั เกณฑ์ ดังน้ี 1. ใหโ้ ครงการศูนย์จดั การขยะมูลฝอยชมุ ชนแต่ละศูนย์ในแต่ละจังหวัดหรือระหว่างจังหวัด สามารถรองรับ การจดั การขยะมลู ฝอยได้ไม่ต่ากวา่ ร้อยละ 50 ของปริมาณขยะมูลฝอยท่ีเกิดขึ้นในช่วงปี โดยมีข้อตกลงของ หนว่ ยงานองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ (องค์การบริหารส่วนจังหวัดเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตาบล) ในการกาหนดปริมาณขยะมูลฝอยข้ันต่าที่จะส่งเข้ากาจัดและกาหนดการจ่ายค่ากาจัดในอัตราที่ตกลง เบ้ืองตน้ 2. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินที่มีศักยภาพสูงในการจัดการขยะมูลฝอย เช่น เทศบาล องค์การบริหาร ส่วนจังหวัด กรุงเทพมหานครเมือง พัทยา ทาหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบหลัก และเป็นผู้ดาเนินงานศูนย์กาจัด ขยะมลู ฝอย 3. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินที่เป็นสถานท่ีตั้งสถานที่ขนถ่ายและสถานที่กาจัด ได้รับผลประโยชน์จาก โครงการและมีส่วนรว่ มในการกากับดแู ล ติดตามตรวจสอบตลอดจนอายุของโครงการ 4. ใหพ้ จิ ารณาใช้ที่ดินสาธารณประโยชนแ์ ละที่ดนิ ของรัฐเป็นที่ตั้งโครงการลาดับแรก และนามูลค่าเข้ามาคิด เป็นตน้ ทุนในการดาเนนิ โครงการตลอดอายุของโครงการดว้ ย 5. ใหม้ กี ารประมาณวงเงนิ งบประมาณรวมตลอดจนอายุโครงการ และประมาณการขยายไว้ล่วงหน้า และ ให้ระบุแหล่งเงนิ ทุนท่เี หมาะสมด้วยทกุ โครงการ 6. กาหนดให้องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินท่รี ่วมโครงการ ต้องมแี ผนงานและรับผิดชอบ ในระบบการเก็บขน และระบบการเก็บเงนิ คา่ ธรรมเนียมบริการจัดการขยะมูลฝอยเพือ่ เป็นคา่ กาจดั ในสถานท่กี าจัด ซ่ึงในข้ันต้น ได้มขี ้อตกลงไว้เปน็ ส่วนหน่ึงของแผนปฏิบัติการระดับจงั หวดั 7. ให้องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ินผรู้ บั เป็นเจ้าของโครงการ ควรจดั หาเอกชน องค์กรเอกชนเป็นผู้ร่วมทุนใน สดั ส่วนทีเ่ หมาะสมโดยให้เปดิ การจดั หาผูร้ ว่ มทนุ โดยมีขอ้ กาหนดทช่ี ัดเจน สามารถเปรียบเทียบและเข้าร่วม การแขง่ ขนั เพอ่ื ให้ไดร้ ว่ มทุนท่สี ามารถดาเนินการไดต้ ลอดอายุโครงการตามมาตรฐาน

8. ให้องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ินท่ีเข้ารว่ มโครงการร่วมกนั กาหนดข้อสัญญา ระเบียบปฏิบัติ ค่าธรรมเนียม กาจดั ขยะมูลฝอยเพื่อให้องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ินท่ีเข้าร่วมโครงการจัดเก็บจากผู้รับบริการและให้แต่ละ ทอ้ งถนิ่ นาส่งให้แก่ทอ้ งถิ่นท่เี ป็นเจ้าของโครงการเพอ่ื เปน็ คา่ กาจดั ตามข้อตกลงรว่ มกัน 9. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินที่ร่วมโครงการปรับปรุงการจัดเก็บค่าบริการเก็บขนขยะมูลฝอยจาก บ้านเรือน ธุรกจิ และผรู้ บั บรกิ ารอ่ืน ๆ ใหม้ ีประสทิ ธิภาพและเพียงพอตอ่ การใหบ้ ริการท่เี ปน็ มาตรฐาน 10.ให้หน่วยงานส่วนกลาง (กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์) และชุมชนท่ีเข้าร่วมโครงการเป็น คณะทางานในการตดิ ตาม กากบั ดูแลตรวจสอบประเมินผล และเสนอแนะการแก้ไขปัญหาอันเน่ืองมาจาก ผลกระทบหรือข้อผิดพลาดข้อผิดพลาดจากการปฏิบัติงานตั้งแต่การเก็บรวบรวม การขนส่งการกาจัด รวมท้งั การติดตามตรวจสอบคุณภาพส่ิงแวดล้อมใกลเ้ คียง 10.2 ขน้ั ตอนและวธิ ีการนานโยบายจดั การขยะมูลฝอยครบวงจรไปสู่การปฎิบตั ิ 1) องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ในแตล่ ะจังหวดั จะตอ้ งดาเนนิ การในเร่อื งจดบันทึกข้อตกลง ระหว่างองค์ปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ ท่ีจะรว่ มกันในการจัดการขยะมลู ฝอย อาจจะเป็นอยู่ในรูปสหการ และมีการรับรองให้สมบูรณ์ 2) มีความพร้อมในการจัดหาที่ดินสาหรับก่อสร้างระบบโดยจะต้องผ่านการจัดทาประชา พจิ ารณ์ และไดร้ ับความเหน็ ชอบจากชุมชนแล้ว 3) เลือกแนวทางและวิธีการกาจัดขยะมูลฝอยโดยใช้เทคโนโลยีท่ีเหมาะสมกับศูนย์กาจัด ขยะมูลฝอยในแตล่ ะพน้ื ท่ี 4) ให้ประชาชนเข้ามีส่วนร่วม โดยโครงการท้ังหมดต้องผ่านขั้นตอนประชาพิจารณ์และ ไดร้ ับความเหน็ ชอบจากประชาชนแลว้ ไดแ้ ก่ 1. ทาประชาพิจารณต์ ามข้นั ตอนในเรอื่ งการใช้ที่ดนิ 2. ประชาชนเห็นชอบในเรอื่ งคา่ ใชจ้ า่ ยในการใชบ้ รกิ ารศูนยก์ าจดั 3. ประชาชนเห็นชอบในเรื่องค่าใช้จ่ายในการใช้บริการศูนย์กาจัดและอันตรา บริการเก็บขนทเี่ รียกเก็บจากประชาชน 4. ต้องมรี ูปแบบองคก์ ารบริหารจัดการเสนอมาใหพ้ รอ้ ม 5. กรณีที่ท้องถิ่นในจังหวัดต่าง ๆ มีความพร้อม และจัดทาแผนในลักษณะ แผนงานร่วมเพื่อบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการระดับจังหวัด ซ่ึงจะนาไปสู่การปฏิบัติต่อไป ท้ังนี้แผนในลักษณะศูนย์รวมจะได้รับการพิจารณาสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ในลาดับ ความสาคัญต้น ๆ เมื่อเปรียบเทียบกับการขอสนับสนุนในลักษณะต่างชุมชนต่าง ดาเนินการ

การกาจดั ขยะมลู ฝอย หลักการท่ีใชใ้ นการพิจารณาเลอื กวธิ กี ารกาจดั ขยะมูล 1. ลักษณะและปริมาณของขยะมูลฝอย วิธีการกาจัดมูลฝอยแต่ละวิธีอาจใช้ได้กับลักษณะมูลฝอย อกี อย่างหน่งึ เชน่ ขยะมูลฝอยท่เี ผาไดก้ เ็ หมาะกบั ขยะท่ตี ้องนามาเผา เป็นต้น 2. สถานที่ การเลอื กวธิ ที จ่ี ะกาจดั ขยะมลู ฝอยควรคานงึ ถงึ สถานท่ีดว้ ย เช่น ถ้าเลือกวิธีเผากลางแจ้ง ก็ควรคานงึ ด้วยว่ากลน่ิ หรือควนั จากการเผาไหมม้ ันจะรบกวนประชาชนหรือไม่ เป็นต้น 3. คา่ ใช้จ่ายในการลงทนุ ในการกาจัดขยะมลู ฝอยเราต้องคานึงถึงราคาด้วยว่ามันเหมาะสมหรือคุ้ม ทนุ หรอื ไม่ 4. คา่ ใชจ้ ่ายในกระบวนการกาจัด เชน่ ค่าใชจ้ ่ายในการซือ้ รถบดอดั ในการฝงั กลบแบบสขุ าภิบาล 5. การนาผลผลิตจากการกาจัดขยะมูลฝอยไปใช้ประโยชน์ เช่นถ้าต้องการพลังงานความร้อนก็ควร เลือกวิธีเผาด้วยเตาเผาขยะ 6. ผลกระทบของการกาจดั ขยะมูลฝอยต่อสิง่ แวดล้อมและสุขภาพอนามัย ซึ่งถือเป็นส่ิงที่สาคัญมาก เพราะในการที่จะกาจัดขยะมูลฝอยต้องคานึงถึงผลกระทบเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะอย่างย่ิงผลกระทบต่อ ส่งิ แวดล้อมและสขุ ภาพอนามัย การแปรสภาพและการใชป้ ระโยชนจ์ ากขยะมลู ฝอย การนาวัสดุเหลือใช้จากขยะมูลฝอยกลับมาใช้ให้เป็นประโยชน์ จะช่วยลดปริมาณขยะมูลฝอยที่ จะตอ้ งกาจดั ในขณะเดยี วกนั ก็เปน็ การสงวนทรพั ยากรธรรมชาตไิ วไ้ ดอ้ กี สว่ นหนง่ึ ด้วยการใช้ประโยชน์จากส่ิงเหลือ ใช้ อาจใชว้ ิธหี มุนเวยี นวัสดุ หรอื แปรสภาพขยะมูลฝอยให้เป็นพลงั งาน 1. การแปรสภาพขยะมูลฝอยเปน็ พลังงาน เราอาจแปรสภาพขยะมูลฝอยเป็นพลังงานได้ ดงั น้คี ือ พลังงานความร้อน ได้จากการนาเอาขยะมูลฝอยส่วนท่ีเผาไหม้ได้ มาเป็นเช้ือเพลิง สาหรับทาไอน้าร้อน แล้วส่งไปใหค้ วามอบอุ่นตามอาคารบา้ นเรอื น เชน่ ทท่ี าอย่ใู นประเทศญี่ปุ่น เป็นตน้ พลังงานไฟฟ้า ได้จากการนาขยะมูลฝอยไปเป็นเช้ือเพลิง สาหรับผลิตไอน้าการทาไปหมุน เครื่องกาเนิด ไฟฟา้ เพื่อผลติ กระแสไฟฟา้ บรกิ ารแกป่ ระชาชน ตัวอย่างเช่น การแปรสภาพของการใช้ประโยชน์จากขยะมูลฝอย ในบางรฐั ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีขยะมลู ฝอยจานวนมาก และเป็นชนิดทเ่ี ผาไหมไ้ ดเ้ ปน็ ส่วนมาก 2. การคัดแยกวัสดุเพือ่ นากลบั มาใช้ วสั ดุหลายอยา่ งในขยะมลู ฝอยท่ีอาจนากลับมาใช้ประโยชน์ได้อีก เช่น กระดาษ แก้ว ขวด พลาสติก เหล็ก และโลหะอ่นื ๆ การคัดเลือกวัสดุต่างๆ ที่รวมอยู่ในขยะมูลฝอย เพ่ือนากลับไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้อีก นับได้ว่า มี การปฏบิ ัตกิ ันมาชา้ นาน จะเหน็ ได้ว่า ตามกองขยะมูลฝอยทุกแห่ง มีบุคคลกลุ่มหนึ่งไปคอยคุ้ยเขี่ยเก็บวัสดุจากกอง ขยะมลู ฝอยตลอดเวลา เพื่อหารายได้

การเกบ็ วัสดุจากกองขยะมลู ฝอยนัน้ อาจจะเกิดผลเสีย คอื 1. ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ และความปลอดภัยของผู้แยกวัสดุจากกองขยะมูลฝอย ท่ีอาจเป็นอันตราย เนือ่ งมาจากความสกปรกของขยะมูลฝอย ซ่ึงมีได้ท้ังเชื้อโรค และสารพิษ สารเคมี ส่ิงสกปรก รวมท้ังของมีคม วัตถุ ระเบิด และสารกมั มนั ตรงั สี เปน็ ตน้ 2. ปญั หาจากการที่นาเอาวสั ดุที่เกบ็ มาไดเ้ อามากองรวมๆกนั เพือ่ รอจาหนา่ ยหรือขายนั้น ทาให้เกิดกองขยะ ข้ึนมาอีกส่วนหน่ึง ซึ่งสกปรกรกรุงรัง เป็นท่ีอาศัยของสัตว์และแมลงนาโรค เป็นภาพท่ีน่ารังเกียจ ขาดความเป็น ระเบียบเรยี บร้อยของพนื้ ที่ และบริเวณใกล้เคยี ง 3. การนาขยะมูลฝอยไปถมทด่ี นิ เพ่อื ปรบั ปรุงสภาพ ขยะมูลฝอยเกือบทุกชนิดสามารถนาไปใช้สาหรับถม ที่ดินท่ีเป็นหลุมเป็นบ่อ เช่น บ่อดินลูกรังท่ีน้าท่วม เหมืองร้าง ฯลฯ ทาให้ที่ดังกล่าวกลายเป็นพ้ืนที่ราบเรียบ ใช้ ประโยชน์ได้มากมายหลายประการ เช่น ทาสนามกีฬา สนามกอล์ฟ สวนสาธารณะ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ แมก้ ระท่ังสร้างเปน็ อาคารที่ทางาน หรือทีอ่ ย่อู าศัย ในตา่ งประเทศมีการใช้พ้ืนที่ดินทเ่ี กิดจากการถมด้วยขยะมูลฝอย แบบการฝังกลบ และสามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ได้ ประเทศไทยก็ได้ใช้ขยะมูลฝอยไปถมที่ทาประโยชน์ เช่น ที่สวนจตุจักร ซ่ึงเดิมเป็นที่ลุ่มน้าท่วม และเต็มไป ดว้ ยพงหญา้ รกมาก และไม่ได้ใช้ประโยชน์แต่อยา่ งใด ตอ่ มาไดม้ ีการนาเอาขยะมูลฝอยจาก สถานกาจัดขยะดินแดง มาถมท่ีบริเวณสวนจตุจักร และปรบั ปรงุ เป็นสถานท่พี กั ผ่อนหย่อนใจ ดงั ท่ปี รากฏอยูใ่ นขณะนี้ สาเหตกุ ารเกดิ ขยะมลู ฝอย 1. ความมักง่ายและขาดความสานกึ ถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นเป็นสาเหตุที่พบบ่อยมาก ซึ่งจะเห็นได้จากการ ทง้ิ ขยะลงตามพืน้ หรอื แหลง่ น้า โดยไมท่ ง้ิ ลงในถงั รองรับท่จี ัดไว้ให้ และโรงงานอุตสาหกรรมบางแห่งลักลอบนาส่ิง ปฏิกลู ไปทง้ิ ตามที่วางเปล่า 2. การผลติ หรือใช้สิ่งของมากเกินความจาเป็น เช่น การผลิตสินค้าที่มีกระดาษหรือพลาสติกหุ้มหลายๆช้ัน และการซือ้ สนิ้ ค้าโดยหอ่ แยกหรือใสถ่ งุ พลาสติกหลายถงุ ทาให้มีขยะปริมาณมาก 3. การเกบ็ และทาลาย หรือนาขยะไปใช้ประโยชน์ไม่มีประสิทธิภาพจึงมีขยะตกค้างกองหมักหมมและส่ง กลิน่ เหมน็ ไปท่ัวบริเวณจนกอ่ ปัญหามลพิษใหก้ ับส่งิ แวดล้อม การจดั การขยะด้วยแนวคดิ 7 R แนวคดิ ด้านการจัดการขยะเพ่ือการปรบั ตวั ตอ่ ภาวะโลกรอ้ น คือกอ่ นจะทง้ิ ขยะควรหยดุ คดิ สักนิดวา่ จะสามารถ ลดปริมาณขยะ หรือนาขยะกลับมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้หรอื ไม่ แนวคดิ ท่นี ่าสนใจคือแนวคดิ 7R ซ่งึ มีรายละเอียดดงั น้ี 1. Rethink ( คดิ ใหม่ ) เปน็ การเปล่ียนความคิดเรอ่ื งการใช้ทรพั ยากรธรรมชาตอิ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสมไมไ่ ดท้ าตามกระแส แต่อยา่ งเดียว แตท่ าจากใจหรือจากจิตสานกึ ที่ดี เชน่ - การซอ้ื สนิ คา้ ท่ีผลิตจากวสั ดุทเ่ี ป็นมติ รกับสิง่ แวดล้อม 2. Reduce ( ลดการใช้ ) เป็นการลดใชท้ รพั ยากรให้เหลอื เท่าทจ่ี าเป็นหรือนามาใช้ให้เกดิ ประสทิ ธิภาพสูงสุด เชน่ – ใชถ้ งุ ผา้ หรอื ตะกร้าหวายเลิกงอ้ ถุงพลาสตกิ – ใชก้ ล่องขา้ วหรอื ปิน่ โตลดการใช้โฟม

– ใชแ้ ก้วนา้ สว่ นตวั งดใชแ้ ก้วที่ใชค้ ร้งั เดียวแล้วท้ิง – พยายามอยา่ ใชก้ ระดาษสนิ้ เปลอื ง ควรพมิ พแ์ ละถา่ ยเอกสารเทา่ ท่ีจาเปน็ จะช่วยลดการตัด ต้นไม้และลดพลงั งานในการผลติ ได้ – ลดเว้นขอบกระดาษลงจากมาตรฐาน เชน่ การลดขอบเอกสารด้านซา้ ยจาก 3.175 ซม. เป็น 2.5 ซม. และขอบขวาจาก 3.175 ซม. เปน็ 1.25 ซม.สามารถใช้พ้นื ท่กี ระดาษเพิ่มได้มากขน้ึ ถึง 27% – ลองลดปริมาณน้าในถังชักโครก ด้วยการใสก่ อ้ นอิฐหรอื ขวดน้าไปแทนท่ีน้า – ปดิ นา้ เสมอเมื่อเลกิ ใชง้ าน ร่วมกนั สอดส่องไมใ่ ห้น้าเปดิ ไหลทิง้ กอ่ นจะออกจากหอ้ งน้า – รนิ น้าดม่ื ให้พอดี และดื่มใหห้ มดทกุ ครัง้ หากดื่มนา้ เหลอื นามาใชร้ ดน้าตน้ ไม้ หรอื รวบรวมเพอื่ ทาความสะอาดสิง่ ต่างๆ – ชแ้ ก้วนา้ ตอนแปรงฟนั และลา้ งหน้า เนอื่ งจากการแปรงฟันโดยใชน้ ้าจากแกว้ …จะใช้น้าเพยี ง 0.5 – 1 ลติ ร แต่หากปล่อยน้าไหลออกจากกอ๊ กตลอดเวลาจะใชน้ ้าถึง 20-30 ลติ ร – เลือกใชฝ้ กั บวั อาบน้าและปดิ นา้ ในขณะทถ่ี ูสบู่…จะใชน้ ้าเพียง 30 ลติ ร หากไม่ปิดอาจใชถ้ งึ 90 ลติ ร แต่ถ้าใชอ้ า่ งอาบน้าต้องใช้นา้ ถึง 110 – 200 ลิตร เลยทีเดยี ว – ล้างผกั และผลไม้ในอ่างหรือภาชนะท่มี ีการกักเกบ็ นา้ เพียงพอดกี วา่ ล้างโดยตรงจากก๊อก ประหยัดน้าไดม้ ากกว่า 50% – ทานอาหารใหเ้ ต็มอม่ิ แต่อย่าเหลือทงิ้ อยา่ เหลอื ขว้าง เพราะกว่าจะเปน็ อาหาร ต้องใช้ พลงั งานในการผลติ นะครบั – สนับสนนุ การซือ้ สินค้าในท้องถิ่นชว่ ยลดเช้อื เพลงในการขนส่งและชว่ ยพอ่ ค้าแมค่ ้า แถวบ้าน ใหม้ ีงานทา 3. Reuse ( ใช้ซา้ ) เปน็ การนากลับมาใช้ใหม่ หรือใช้อีกครั้ง หรอื หลายๆครัง้ เชน่ – แยกประเภทกระดาษทใี่ ชแ้ ลว้ เพื่อนากลับมาใช้ใหม่อยา่ งเหมาะสมกระดาษดีนามาใช้พมิ พใ์ หม่ เป็นกระดาษ 2 หนา้ สาหรับเอกสารร่าง กระดาษยบั นามาตัดเป็นกระดาษโน้ต กระดาษ 2 หน้าทาเปน็ ถุง ใส่ของ – บรจิ าคสิง่ ของที่เลิกใช้แลว้ แตม่ ีสภาพดใี ห้กับผู้ทข่ี าดแคลน – ประกวดนวตั กรรมนาขยะกลับมาใช้ซา้ เช่น การนากระดาษมาเปน็ ซองใส่ยา ฯลฯ – ใชถ้ ุงพลาสตกิ ซา้ หลายๆครง้ั ตามสภาพความเหมาะสม 4. Recycle ( นากลบั มาใช้ใหม่ ) เปน็ การนาวสั ดุที่หมดทีห่ มดสภาพแลว้ หรือท่ีใช้แล้วมาแปรสภาพดว้ ยกระบวนการตา่ ง ๆ เพ่ือนา กลับมาใช้หรอื แปรรูปเป็นผลติ ภัณฑ์ใหม่ เช่น – คิดกอ่ นทงิ้ วา่ ขยะช่วยกนั แยกประเภทขยะเพอ่ื ให้ไดข้ ยะรไี ซเคิลมากทส่ี ุดและเพอ่ื ช่วยลด ขั้นตอนและลดพลงั งานในการกาจัดขยะ เน่ืองจากขยะแตล่ ะชนดิ มวี ิธีการกาจัดท่ไี มเ่ หมือนกัน – สร้างธนาคารขยะทที่ กุ คนเป็นเจา้ ของรว่ มกัน เพื่อการหมุนเวียนทรพั ยากรกลบั มาใช้ให้เกดิ ประโยชน์สงู สดุ – คัดแยกขยะประเภทกระดาษ แก้ว โลหะเพื่อการนากลบั ไปรีไซเคิลไดไ้ มร่ ู้จบ – คัดแยกขยะประเภทกล่องนมเพ่อื บริจาคนาไปผลิตแผ่นกรนี บอรด์ 5. Repair ( ซอ่ มแซม ) เปน็ การซ่อมแซมให้ใชก้ ารไดใ้ หม่ เช่น

– กระป๋องพลาสตกิ ทแ่ี ตกร้าวหรอื เป็นรูใช้กาวประสานหรอื อุดรูเหลา่ นน้ั มนั กย็ งั ใชไ้ ดเ้ หมือนเดิม ทาให้อายุการใชง้ านนานขน้ึ การกลายเป็นขยะกย็ ดื เวลาออกไป 6. Reject ( ปฏเิ สธ ) เปน็ การปฏเิ สธการใช้ทรัพยากรแบบครง้ั เดยี วท้ิงหรอื หารนาเข้าจากแดนไกล หรอื การปฏเิ สธใช้ สินค้าหรือผลิตภณั ฑ์ท่ที าลายโลก เช่น พลาสตกิ กล่องโฟมบรรจุอาหาร 7. Return ( ตอบแทน ) เปน็ การตอบแทนสิ่งท่พี วกเราไดท้ าลายไปคืนสโู่ ลก เช่น – ปลูกตน้ ไม้กนั เยอะ ๆ เพอ่ื เพม่ิ พ้นื ทส่ี ีเขียวคนื แกโ่ ลก ชว่ ยโลกสดใส ลดกา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดปญั หาโลกร้อน

บทท่ี 3 วิธีการดาเนนิ งาน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสัตหีบ ได้เห็นความถึงสาคัญของสุข ภาวะอนามัยของประชนในชมุ ชน จึงไดใ้ ห้ กศน.ตาบลสตั หีบ จัดทาโครงการขยะรไี ซเคิลปรบั ปรุงส่ิงแวดล้อมป้องกัน โรค มขี ัน้ ตอนดังน้ี 1.ประชมุ บุคลากรกรรมการ กศน.ตาบลสตั หบี 2.จัดตั้งคณะทางาน 3.ประสานงานกับผูเ้ รยี น/วิทยากรผสู้ อน 4.ดาเนนิ งานตามแผน 5.วัดผล/ประเมนิ ผล/สรปุ ผลและรายงาน 1. ประชุมบคุ ลากรกรรมการ กศน.ตาบลสัตหีบ กศน.อาเภอสัตหีบ ได้วางแผนประชุมบุคลากรคณะกรรมการ กศน.ตาบลสัตหีบ เพ่ือหาแนวทางในการ ดาเนนิ งานและกาหนดวตั ถปุ ระสงค์รว่ มกนั 2. จัดตง้ั คณะทางาน จัดทาคาส่งั แตง่ ตง้ั คณะทางานโครงการ เพอื่ มอบหมอบหมายหนา้ ทใ่ี นการทางานให้ชัดเจน เช่น 2.1 คณะกรรมการท่ีปรึกษา/อานวยการ มีหน้าที่อานวยความสะดวก และให้คาปรึกษาแก้ไขปัญหาท่ี เกดิ ขึน้ 2.2 คณะกรรมการฝ่ายประชาสมั พันธ์ มหี นา้ ที่ประชาสัมพันธ์รับสมคั รผเู้ ข้าร่วมโครงการ 2.3 คณะกรรมการฝ่ายรับลงทะเบียนและประเมินผลหน้าท่ีจัดทาหลักฐานการลงทะเบียนผู้เข้าร่วม โครงการ และรวบรวมการประเมนิ ผล และรายงานผลการดาเนนิ การ 3. ประสานงานกบั ผู้เรยี น/วทิ ยากรผู้สอน ประสานงานกับผู้เรียนและวิทยากร เช่น ประสานเร่ืองสถานที่ใช้ทาการเรียนการสอน ประสานงานกับ วิทยากรผู้สอน เรอื่ งเนือ้ หา หลกั สูตรการเรียนการสอน รปู แบบการเรยี นการสอน วนั เวลา สถานที่ 4. ดาเนนิ การตามแผนงานโครงการ โครงการขยะรไี ซเคิลปรับปรงุ สิ่งแวดลอ้ มป้องกันโรค ณ กศน.ตาบลสตั หบี หมู่ 2 ตาบลสัตหีบ อาเภอสัตหีบ จงั หวดั ชลบรุ ี ในวนั ท่ี 22 มิถุนายน 2563 ตงั้ แตเ่ วลา 08.30-16.30 น. 5. สรปุ ผลและรายงาน โครงการขยะรไี ซเคิลปรบั ปรุงสิ่งแวดล้อมป้องกนั โรค ณ กศน.ตาบลสัตหีบ หมู่ 2 ตาบลสตั หีบ อาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในวันท่ี 22 มิถุนายน 2563 ต้ังแต่เวลา 08.30-16.30 น. มีผู้เข้าร่วมอบรมจานวน 22 คน โดยมี จา่ เอกวุฒิชยั วฒุ วิ ทิ ยางกูล เป็นวทิ ยากรในการใหค้ วามรู้เกี่ยวกับการจัดการขยะและการรักษาส่ิงแวดล้อมในชุมชน และสาธติ แปรรปู ขยะรีไซเคิลในชีวิตประจาวัน

6. การเกบ็ รวมรวมขอ้ มูล จากการดาเนินงานโครงการขยะรีไซเคิลปรับปรุงส่ิงแวดล้อมป้องกันโรค ณ กศน.ตาบลสัตหีบ หมู่ 2 ตาบลสัตหีบ อาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 22 มิถุนายน 2563 มี ผู้เข้าร่วมอบรมจานวน 22 คน โดยมี การแจกแบบสอบถามทั้งหมด 22 ชุด และเก็บรวบรวมแบบสอบถามได้ 22 ชดุ คิดเปน็ 100 เปอรเ์ ซ็นต์ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสัตหีบ จะได้นาแนวทางไปใช้ข้อมูลพิจารณา หลักสูตร เนื้อหาตลอดจนเทคนิควิธีการจัดการกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้เข้า อบรมได้รับประโยชนน์ าไปใชไ้ ดจ้ ริงตามศกั ยภาพของแต่ละคน ให้มีความเข้าใจและมีคุณภาพต่อไป ศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสัตหบี ไดด้ าเนินการตามขนั้ ตอนและได้รวบรวมขอ้ มลู โดยใช้สภาพการ ใช้ส่อื การสอนของครูในสถานศึกษาเป็นแบบมาตรวัดประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ โดยมีรายละเอียดดังน้ี (บญุ ชม ศรสี ะอาด และบญุ ส่ง นลิ แก้ว ,2545) 5 หมายถงึ มกี ารดาเนนิ งานในระดับมากที่สดุ 4 หมายถึง มีการดาเนินงานในระดับมาก 3 หมายถงึ มกี ารดาเนนิ งานในระดบั ปานกลาง 2 หมายถึง มกี ารดาเนินงานในระดับนอ้ ย 1 หมายถึง มกี ารดาเนนิ งานในระดับนอ้ ยทส่ี ดุ โดยมเี กณฑ์การแปลความหมายค่าเฉลี่ย (บุญชม ศรีสะอาด,2556) ดังนี้ 4.50 – 5.00 หมายถึง มคี วามคิดเหน็ /การดาเนินงานอย่ใู นระดบั มากท่ีสุด 3.50 – 4.49 หมายถึง มีความคิดเห็น/การดาเนินงานอย่ใู นระดับมาก 2.50 – 3.49 หมายถงึ มคี วามคดิ เห็น/การดาเนินงานอยใู่ นระดบั ปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายถึง มีความคิดเห็น/การดาเนนิ งานอยู่ในระดบั น้อย 1.00 – 1.49 หมายถงึ มีความคดิ เหน็ /การดาเนนิ งานอยู่ในระดบั นอ้ ยท่สี ุด ผ้เู ขา้ รว่ มโครงการจะต้องกรอกข้อมูลตามแบบสอบถาม เพือ่ นาไปใช้ในการประเมินผลของการจัดกิจกรรม ดังกล่าว และจะได้นาไปเป็นข้อมูล ปรับปรงุ และพัฒนา ตลอดจนใชใ้ นการจดั ทาแผนการดาเนินการในปตี ่อไป

บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งานและการวิเคราะหข์ อ้ มูล ในการจัดโครงการขยะรีไซเคิลปรับปรุงสิ่งแวดล้อมป้องกันโรค ณ กศน.ตาบลสัตหีบ หมู่ 2 ตาบลสัตหีบ อาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 22 มิถุนายน 2563 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.ซึ่งได้สรุปผลจาก แบบสอบถามและนาเสนอผลการวิเคราะหข์ ้อมลู จากผู้เข้ารว่ มอบรมโครงการ จานวน 22 ชดุ ตอนที่ 1 ข้อมลู สว่ นตวั ผูต้ อบแบบถามของผู้เขา้ รว่ มโครงการขยะรีไซเคลิ ปรับปรุงส่ิงแวดล้อมป้องกันโรค ณ กศน.ตาบลสตั หีบ หมู่ 2 ตาบลสัตหีบ อาเภอสัตหบี จงั หวัดชลบุรี ผ้เู ขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ีตอบแบบสอบถามได้นามา จาแนกตามเพศ อายุ และอาชพี ผจู้ ดั ทาไดน้ าเสนอจาแนกตามขอ้ มูลดงั กล่าว ดังปรากฏตามตารางที่ 1 ดงั ต่อไปน้ี ตารางที่ 1 แสดงค่ารอ้ ยละของผูต้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามเพศ เพศ ชาย หญิง จานวน รอ้ ยละ ความคดิ เหน็ จานวน รอ้ ยละ 10 45.45% ผ้เู ข้าร่วมกจิ กรรมโครงการขยะรีไซเคลิ ปรับปรุงสิ่งแวดล้อม 12 54.54% ป้องกนั โรค จากตารางที่ 1 แสดงว่า ผตู้ อบแบบสอบถามของผู้เขา้ รว่ มโครงการขยะรีไซเคิลปรับปรุงสิ่งแวดล้อมป้องกัน โรค เป็นชาย 12 คน ร้อยละ 54.54% เปน็ หญิง 10 รอ้ ยละ 45.45% ตารางท่ี 2 แสดงค่ารอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอายุ อายุ 14 - 39 ปี 40 - 59 ปี 60 ปี ขนึ้ ไป ความคดิ เหน็ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ ผู้เข้ารว่ มกจิ กรรมโครงการขยะรีไซเคลิ ปรบั ปรงุ 20 90.90 2 9.09 ส่ิงแวดล้อมปอ้ งกันโรค จากตารางที่ 2 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการขยะรีไซเคิลปรับปรุง สง่ิ แวดล้อมป้องกนั โรค ในชว่ งอายุ 14-39 ปีข้ึนไป จานวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 90.90% รองลงมาอายุ 40-59 ปีขน้ึ ไป มีจานวน 2 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 9.09% ตารางท่ี 3 แสดงค่ารอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอาชีพ ประเภท รับจ้าง คา้ ขาย รบั ราชการ แม่บา้ น อื่นๆ ความคิดเหน็ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการ 10 45.45% 4 18.18 2 9.09% 6 27.27% ขยะรไี ซเคลิ ปรบั ปรงุ สิง่ แวดล้อมปอ้ งกนั โรค จากตารางที่ 3 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการขยะรีไซเคิลปรับปรุงส่ิงแวดล้อม ปอ้ งกนั โรค มอี าชพี รบั จา้ ง มากทีส่ ดุ จานวน 10คน คิดเป็นรอ้ ยละ 45.45% รองลงมาคืออาชีพอื่นๆ จานวน 6 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 27.27% อาชีพค้าขาย จานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 18.18% และอาชีพรับราชการ จานวน 2 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 9.09%

ตอนท่ี 2 ขอ้ มูลเกยี่ วกับความคิดเห็นของผู้เขา้ ร่วมโครงการขยะรีไซเคลิ ปรบั ปรุงสง่ิ แวดลอ้ มปอ้ งกนั โรค ความคดิ เหน็ ของผู้เข้าร่วมกจิ กรรม จานวน 20 คน จากแบบสอบถามท้งั หมดท่มี ตี ่อโครงการขยะรไี ซเคิล ปรับปรุงส่ิงแวดล้อมปอ้ งกันโรค ณ กศน.ตาบลสัตหีบ หมู่ 2 ตาบลสตั หบี อาเภอสตั หีบ จงั หวดั ชลบุรี ดงั ปรากฏใน ตารางที่ 4 ตารางที่ 4 ผลการประเมินโครงการขยะรีไซเคลิ ปรบั ปรงุ สิ่งแวดลอ้ มปอ้ งกันโรค N = 22 รายการทีป่ ระเมิน µ σ อันดับที่ ระดับผล ตอนท่ี 1 ความพงึ พอใจด้านเน้อื หา การประเมิน 1 เนื้อหาตรงตามความต้องการ 4.68 2 เน้อื หาเพียงพอต่อความตอ้ งการ 4.73 0.47 3 มากทส่ี ดุ 3 เนอื้ หาปัจจบุ ันทนั สมัย 4.86 0.45 2 มากที่สดุ 4 เนื้อหามปี ระโยชนต์ อ่ การนาไปใช้ในการพัฒนาคณุ ภาพชีวติ 4.50 0.34 1 มากทส่ี ดุ ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจดั กิจกรรม 0.58 6 มากทส่ี ุด 5 การเตรียมความพรอ้ มก่อนจัดกจิ กรรม 4.55 6 การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกบั วัตถุประสงค์ 4.55 0.58 5 มากท่สี ดุ 4.55 7 การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกบั เวลา 4.41 0.58 5 มากทส่ี ดุ 8 การจดั กิจกรรมเหมาะสมกบั กล่มุ เปา้ หมาย 4.64 9 วธิ กี ารวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถปุ ระสงค์ 0.58 5 มากทส่ี ุด ตอนท่ี 3 ความพงึ พอใจต่อวิทยากร 4.50 10 วิทยากรมคี วามรคู้ วามสามารถในเร่อื งท่ีถา่ ยทอด 4.55 0.72 7 มาก 11 วิทยากรมเี ทคนิคการถ่ายทอดใช้ส่อื เหมาะสม 4.36 12 วทิ ยากรเปิดโอกาสให้มสี ว่ นร่วมและซักถาม 0.57 4 มากทส่ี ุด ตอนท่ี 4 ความพึงพอใจด้านการอานวยความสะดวก 4.50 13 สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์และส่งิ อานวยความสะดวก 4.64 0.66 6 มากทส่ี ุด 14 การส่อื สาร การสร้างบรรยากาศเพือ่ ให้เกิดการเรียนรู้ 4.55 15 การบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปญั หา 4.57 0.58 5 มากที่สดุ คา่ เฉล่ยี 0.71 8 มาก 0.66 6 มากท่สี ดุ 0.57 4 มากทส่ี ดุ 0.58 5 มากท่ีสุด 0.10 มากทส่ี ุด จากตารางแสดงใหเ้ หน็ ว่า ผู้เข้ารว่ ม โครงการขยะรไี ซเคิลปรับปรุงส่ิงแวดล้อมป้องกันโรค ดังน้ีจากตาราง 4 พบวา่ โดยเฉล่ยี แล้ว ผเู้ ข้ารับการอบรมโครงการขยะรไี ซเคิลปรบั ปรุงส่ิงแวดลอ้ มปอ้ งกนั โรค อยูใ่ นระดบั มาก ที่สุด เมื่อวิเคราะห์เป็นรายข้อพบว่า (µ = 4.86) เป็นอันดับที่ 1 คือ เน้ือหาปัจจุบันทันสมัย (µ = 4.73), เป็น อันดับที่ 2 คือ เนื้อหาเพียงพอต่อความต้องการ (µ =4.68) เป็นอันดับท่ี 3 คือ เนื้อหาตรงตามความต้องการ (µ =4.64) เป็นอันดับท่ี 4 คือ วิธีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์,การสื่อสาร การสร้างบรรยากาศ เพ่อื ให้เกิดการเรียนรู้ (µ =4.55) เปน็ อันดับที่ 5 คอื การเตรยี มความพร้อมก่อนจัดกิจกรรมม,การออกแบบกิจกรรม เหมาะสมกับวตั ถปุ ระสงค,์ การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับเวลา,การบริการ การช่วยเหลือและการแกป้ ญั หา (µ =4.50) เป็นอันดับท่ี 6 คือ เน้ือหามีประโยชน์ต่อการนาไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต,วิทยากรมีความรู้ความสามารถใน เรื่องท่ีถ่ายทอด,สถานท่ี วัสดุ อุปกรณ์และส่ิงอานวยความสะดวก (µ =4.45) เป็นอันดับที่ 7 คือ การจัดกิจกรรม เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และ (µ = 4.36) เป็นอันดับท่ี 8 คือวิทยากรเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมและซักถาม ตามลาดับ

บทที่ 5 สรปุ ผลการดาเนินการ การจัดทาโครงการขยะรีไซเคิลปรับปรุงส่ิงแวดล้อมป้องกันโรค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเกิดแนวคิดที่ดีต่อ การจัดการขยะมลู ฝอยและเข้าใจคณุ ค่าของสิง่ ต่างๆว่าวัสดุบางประเภทสามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้หลายครั้งหรือ สามารถเปล่ียนเป็นเงินคนื ได้ และปลูกจติ สานกึ ดา้ นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมท่ีสอดคล้องกับ สภาพปัญหาของท้องถ่ินอย่างยั่งยืน ซ่ึงโครงการได้จัดข้ึนในวันท่ี 22 มิถุนายน 2563 เวลา 08.30-16.30น. ณ กศน.ตาบลสัตหีบ หมู่ 2 ตาบลสัตหีบ อาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ตลอดระยะเวลาท่ีรับการอบรมโดยมีการ ซกั ถามพดู คุยโต้ตอบกบั วทิ ยากรอย่างสนใจ ในดา้ นตา่ ง ๆ คือ ความพึงพอใจด้านเนอ้ื หา - ด้านหลักสูตรเน้อื หาตรงตามความต้องการ - เนอ้ื หาเพียงพอตอ่ ความตอ้ งการ - เนอ้ื หาปจั จบุ ันทนั สมยั - เน้อื หามีประโยชนต์ อ่ การนาไปใชใ้ นการพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ความพงึ พอใจดา้ นกระบวนการจัดกิจกรรม - การเตรยี มความพร้อมก่อนจดั กิจกรรม - การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกับวตั ถุประสงค์ - การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา - การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย - วธิ ีการวดั ผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกับวตั ถปุ ระสงค์ ความพึงพอใจต่อวิทยากร - วิทยากรมีความรู้ความสามารถในเร่ืองทถี่ ่ายทอด - วทิ ยากรมเี ทคนคิ การถา่ ยทอดใชส้ ือ่ เหมาะสม - วิทยากรเปดิ โอกาสให้มีส่วนร่วมและซักถาม ความพงึ พอใจดา้ นการอานวยความสะดวก - สถานท่ี วัสดุ อปุ กรณแ์ ละส่งิ อานวยความสะดวก - การส่อื สาร การสรา้ งบรรยากาศเพ่ือใหเ้ กิดการเรยี นรู้ - การบรกิ าร การช่วยเหลอื และการแก้ปญั หาได้ สรปุ ผลการดาเนินงาน ผ้เู ขา้ ร่วมโครงการขยะรไี ซเคิลปรบั ปรงุ ส่ิงแวดล้อมปอ้ งกนั โรค ของศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยของอาเภอสตั หีบ (กศน.ตาบลสัตหีบ) มีผ้เู ขา้ ร่วมอบรมท้ังหมด 22 คน โดยแยกเป็นผู้ชาย 12 คน และ ผู้หญิง 10 คน โดยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด(µ =4.57) โดยมี จ่าาเอกวุฒิชยั วุฒิวทิ ยางกูล เป็นวทิ ยากร