รายงานผลการดาเนนิ งาน โครงการสอนอาชพี และการใช้ Social Media สาหรบั ผ้สู ูงอายุ วันที่ 2-3 กรกฎาคม 2563 ณ กลมุ่ วิสาหกจิ ชมุ ชนหนองระกา หมู่ 6 ตาบลสตั หบี อาเภอสัตหีบจงั หวดั ชลบุรี ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอาเภอสตั หบี สานกั งาน กศน.จงั หวัดชลบรุ ี
บทสรปุ ผบู้ ริหาร โครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผู้สูงอายุ จัดข้ึนในครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อ สง่ เสรมิ ให้ผู้สูงอายุให้มีความรู้ด้านการประกอบอาชีพ และ ให้ผู้สูงอายุให้มีความรู้ด้าน Social Media โดยมี กลุ่มเปา้ หมายคอื ประชาชนทัว่ ไปในพื้นท่ีตาบลสัตหีบ จานวน 15 คน โดยจะใช้กลุ่มเป้าหมายท้ังหมดในการ คานวณโดยใช้โปรแกรมสาเรจ็ รปู คอมพวิ เตอร์ (โปรแกรมตารางคานวณ) เพื่อสรปุ ผลการดาเนนิ งานในครัง้ นี้ วิธีการดาเนินงาน โดยการสารวจความต้องการของประชาชนและนาผลจากการสารวจมาจัดทา กจิ กรรมโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผู้สูงอายุ ให้กับประชาชนท่ัวไปในพ้ืนที่ตาบล สัตหีบ จานวน 15 คน ในวันที่ 2-3 กรกฎาคม 2563 ณ กลุ่ม วิสาหกิจชุมชนหนองระกา หมู่ 6 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังจากการจัดกิจกรรมโครงการแล้วมีการแจกแจงแบบประเมินความพึงพอใจ สาหรับ ผูเ้ ข้ารว่ มโครงการทง้ั หมด จานวน 15 ชุด แล้วนาข้อมลู ทไี่ ดม้ าคานวณทางสถิติ หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่า เบีย่ งเบนมาตรฐาน ในการแปรผล ผลการดาเนินงาน จากการนาข้อมูลที่ได้มาทาการคานวณหาค่าสถิติต่างๆ สรุปว่า ผู้เข้าร่วม กิจกรรม มีความพงึ พอใจอยใู่ น ระดับ 4.72 (มากท่สี ุด)
คานา จากการที่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสัตหีบ กศน.ตาบลสัตหีบ ได้จัดทาโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรบั สง่ เสริมให้ผสู้ งู อายใุ หม้ ีความรู้ด้านการประกอบ อาชพี และ ให้ผ้สู ูงอายุใหม้ คี วามรูด้ า้ น Social Media ซ่งึ โครงการดาเนนิ การจัดในวันท่ี 2-3 กรกฎาคม 2563 ณ กลุ่ม วสิ าหกิจชุมชนหนองระกา หมู่ 6 ต.สตั หีบ อ.สตั หบี จ.ชลบุรี โครงการน้ไี ดว้ ทิ ยากรการทาขนมบัวลอย เบญจรงค์ มาให้ความรู้ให้กับชุมชนตาบลสัตหีบ เพ่ือให้ผู้เข้าอบรมสามารถนาความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ใน การทางานได้จริง โครงการดังกล่าวได้ดาเนินการเสร็จส้ินไปได้ด้วยดี ซ่ึงรายละเอียดผลการดาเนินงานต่างๆ ตลอดจนปัญหาและอุปสรรค ไดส้ รุปไวแ้ ล้ว เพื่อรวบรวมกระบวนการดาเนนิ งาน ผลท่ไี ด้นาไปใช้ ตลอดจนการ พฒั นาเพ่อื ให้สอดคล้องกับสภาพวิถชี วี ิต และการตอบสนองความต้องการของผู้เข้ารับการฝึกอบรม สุดท้ายคือ การนาไปใชป้ ระโยชน์อยา่ งแทจ้ รงิ และสามารถแนะนาผอู้ ื่นได้ เพ่อื ใหเ้ กดิ การพัฒนาคณุ ภาพชีวิตอยา่ งต่อเนือ่ ง รายงานผลการดาเนินงานเลม่ นี้ หวังเปน็ อย่างย่ิงว่าคงจะมีประโยชน์บ้างสาหรับผู้ท่ีต้องการศึกษาหา ข้อมูล เพ่ือใช้เป็นแนวทางในการจัดอบรมในลักษณะนี้ และถ้ามีส่ิงหน่ึงสิ่งใดขาดตกบกพร่อง คณะผู้จัดทา ขอน้อมรบั ไว้ เพือ่ จะปรบั ปรุงในโอกาสต่อไป กศน.ตาบลสัตหีบ กรกฎาคม 2563
สารบญั หนา้ บทที่ 1 บทนา.....................................................................................................................................................1 ความเปน็ มา .................................................................................................................................1 วตั ถปุ ระสงค์.................................................................................................................................1 เป้าหมาย......................................................................................................................................1 ผลทีค่ าดว่าจะได้รับ......................................................................................................................3 ดัชนีวัดผลสาเร็จของโครงการ ......................................................................................................3 2 เอกสารการศึกษาและรายงานท่ีเกยี่ วขอ้ ง..............................................................................................4 นโยบายและจุดเน้นการดาเนนิ งาน กศน.ปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ...........................................4 นโยบายและจดุ เน้นการดาเนินงาน กศน.อาเภอสัตหบี ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563............11 เอกสารที่เกย่ี วขอ้ ง.......................................................................................................................21 3 วธิ ีดาเนินงาน..........................................................................................................................................26 ประชุมบคุ ลากรกรรมการสถานศึกษา..........................................................................................26 จัดต้ังคณะทางาน.........................................................................................................................26 ดาเนนิ การตามแผน......................................................................................................................26 วัดผล/ประเมนิ ผล/สรุปผลและรายงาน.......................................................................................26 4 ผลการดาเนนิ งานและการวเิ คราะหข์ ้อมูล..............................................................................................28 ตอนที่ 1 ข้อมูลสว่ นตัวผแู้ บบสอบถามของผเู้ ข้ารบั การอบรมในโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผู้สงู อายุ..................................................................................................28 ตอนท่ี 2 ข้อมูลเกย่ี วกับความคิดเห็นทมี่ ีต่อโครงการสอนอาชพี และการใช้ Social Media สาหรบั ผู้สงู อายุ……………………………………………………………………………………………………………..29 5 สรุปผล อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ........................................................................................ ...........31 สรุปผลการดาเนนิ งาน..................................................................................................................31 อภิปรายผล...................................................................................................................................31 ปัญหาและอุปสรรค......................................................................................................................31 ข้อเสนอแนะ.................................................................................................................................32 บรรณานุกรม ภาคผนวก
สารบญั ตาราง ตารางท่ี หนา้ 1 แสดงค่าร้อยละของผ้ตู อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามเพศ.........................................................28 2 แสดงคา่ รอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอายุ.........................................................28 3 แสดงค่าร้อยละของผ้ตู อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอาชพี .......................................................28 4 ผลการประเมินโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรบั ผู้สงู อายุ..............................29
บทที่1 บทนา หลกั การและเหตผุ ล ปจั จุบนั เทคโนโลยีทางการแพทยข์ องประเทศไทยพัฒนาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องทาให้อายุเฉลี่ยของ ประชากรไทยเพิ่มข้ึน และ อัตราการตายลดลง ประกอบกับประชากรมีการศึกษาสูงขึ้น มีการวางแผน ครอบครัว และมกี ารแตง่ งานช้าลง เมือ่ เทยี บกบั สังคมไทยในสมัยก่อน ทาให้อัตราการเกิดลดลง เม่ืออัตราการ ตายและการเกิดลดลงอย่างต่อเน่ือง อัตราส่วนของประชากรผู้สูงอายุต่อประชากรทั้งหมดของประเทศไทย ย่อมเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้โครงสร้างประชากรของประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปเป็นสังคมผู้สูงอายุซี่งการ เปล่ียนแปลงน้ีนอกจากจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ประเทศไทยเข้าสู่ “สังคมสูงวัย” (Aged society) ตง้ั แต่ปี 2548 จากน้ันประเทศไทยจะใช้เวลา 16 ปี ก่อนจะกลายเป็น “สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์” (Complete aged society) ในราวปี 2564 และจะใช้เวลาอีกเพียง 10 ปี ก็จะกลายเป็น “สังคมสูงวัยระดับ สุดยอด” (Super aged society) ประมาณปี 2574 ในปี 2557 ประเทศไทยมีผ้สู งู อายวุ ยั ตน้ จานวน 5.6 ล้าน คน (ร้อยละ 8.6 ของประชากรท้ังหมด) ผู้สูงวัยกลางคน จานวน 3.0 ล้านคน (ร้อยละ 4.6) และผู้สูงอายุวัย ปลาย จานวน 1.4 ลา้ นคน (ร้อยละ 2.1) ในปี 2583 ประมาณการว่าจะมีประชากรสูงอายุวัยปลายหรือมีอายุ 80 ปีข้ึนไปเพ่มิ ขึ้นอกี เกอื บเทา่ ตวั สานักงาน กศน.จงั หวัดชลบุรี จึงได้ตระหนักถึงความสาคัญของผู้สูงอายุจึงได้ดาเนินการจัดโครงการ สอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผู้สูงอายุขึ้น เพื่อให้ผู้สูงอายุมีเตรียมความพร้อมในการเป็น ผู้สูงอายุท่ีมีคุณภาพ โดยมีการให้ความรู้ในด้านการประกอบอาชีพทาให้ผู้สูงอายุมีรายได้เพ่ิมมากขึ้น และ มี การใหค้ วามรดู้ ้านการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ Social Media ต่อไป วัตถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือสง่ เสริมให้ผู้สงู อายุใหม้ ีความรูด้ ้านการประกอบอาชพี 2. เพ่อื ให้ผู้สูงอายใุ ห้มีความรู้ด้าน Social Media เป้าหมาย เชิงปริมาณ ประชาชนในพืน้ ท่ตี าบลสตั หีบ จานวน 15 คน เชิงคุณภาพ รอ้ ยละ 80 ของประชาชนมีความรู้ดา้ นการประกอบอาชพี และ Social Media ระยะเวลาดาเนินงาน ในระหว่างวนั ท่ี 2-3 กรกฎาคม 2563
วิธีดาเนนิ การ วัตถุประสงค์ กลมุ่ เป้าหมาย เปา้ หมาย พ้นื ที่ดาเนินการ ระยะเวลา งบประมาณ 4,700.-บาท กิจกรรมหลัก 1. เพ่ือส่งเสรมิ ให้ ผสู้ ูงอายุตาบล จานวน กศน.ตาบลสตั หีบ 2-3 ผ้สู ูงอายุให้มีความรู้ สัตหีบ 15 คน กรกฎาคม 1.จดั ทาโครงการเพือ่ ดา้ นการประกอบ 2563 ขออนุมัติโครงการและ อาชพี การประชาสมั พันธ์ 2. เพือ่ ให้ผู้สูงอายใุ หม้ ี 2.ประชุมช้แี จง ความรู้ด้าน Social เจา้ หนา้ ทรี่ บั ผิดชอบ/ Media แตง่ ตง้ั คณะกรรมการ เพื่อดาเนินงาน 3.ประสานงาน เครอื ข่ายท่ีเก่ียวขอ้ ง 4.ดาเนนิ การจัด กิจกรรม โครงการ 5.สรุปผลการ ดาเนนิ งานและจดั ทา เอกสารเพอ่ื สรปุ ผลการ ดาเนินการจัดกิจกรรม ผลลพั ธ์ ผเู้ ขา้ รบั การอบรมมีความรู้ ความเขา้ ใจด้านการประกอบอาชีพและSocial Media ดชั นวี ัดผลและความสาเร็จของโครงการ ตัวช้ีวัดผลผลิต (Outputs) - มผี ู้เข้ารว่ มโครงการ ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80 ของกลุ่มเป้าหมาย - ผเู้ ข้ารว่ มโครงการมคี วามพงึ พอใจในระดบั มากขึ้นไปไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80 ตัวชี้วัดผลลพั ท์ (Outcome) - ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการร้อยละ 80 สามารถนาความรู้ไปใช้ในชวี ติ ประจาวัน มีความรู้ ความ เข้าใจเรื่องการประกอบอาชพี และSocial
บทท่ี 2 เอกสารการศึกษาและงานวิจัยท่ีเกย่ี วขอ้ ง ในการจัดทารายงานครั้งนี้ ไดท้ าการศึกษาคน้ คว้าเนอื้ หาจากเอกสารการศกึ ษาและ รายงานที่เกี่ยวขอ้ ง ดงั ต่อไปนี้ 1. นโยบายและจุดเนน้ การดาเนินงาน สานกั งาน กศน.ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 1.1 วสิ ัยทศั น์ 1.2 พันธกจิ 1.3 เปา้ ประสงค์ 1.4 ตัวชี้วัดความสาเรจ็ /ยุทธศาสตร์/โครงการ 2. นโยบายและจดุ เนน้ การดาเนนิ งาน กศน.อาเภอสตั หบี ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563 3. การศกึ ษาเพอ่ื พัฒนาทักษะชีวติ 4. เอกสารทีเ่ กยี่ วข้อง นโยบายและจุดเนน้ การดาเนนิ งาน สานกั งาน กศน. ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 วสิ ยั ทัศน์ คนไทยได้รับโอกาสการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคณุ ภาพ สามารถดารงชีวติ ทเ่ี หมาะสม กบั ชว่ งวัย สอดคลอ้ งกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และมีทักษะท่ีจาเปน็ ในโลกศตวรรษท่ี 21 พันธกจิ 1. จดั และส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่มี ีคณุ ภาพ เพ่อื ยกระดับการศึกษา พัฒนาทักษะการเรียนรู้ของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมทุกช่วงวัย พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง บรบิ ททางสงั คม และสรา้ งสังคมแห่งการเรียนรตู้ ลอดชีวิต 2 ส่งเสริม สนับสนุน และประสานภาคีเครือข่าย ในการมีส่วนร่วมจัดการศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั และการเรียนรตู้ ลอดชีวิต รวมท้ังการดาเนินกิจกรรมของศูนย์การเรียนและแหล่งการ เรยี นรูอ้ ่นื ในรูปแบบตา่ ง ๆ 3. ส่งเสรมิ และพฒั นาการนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ ในการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ให้กบั ประชาชนอย่างทัว่ ถงึ 4. พฒั นาหลักสตู ร รปู แบบการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ สือ่ และนวัตกรรม การวัดและประเมินผลในทุก รปู แบบให้สอดคล้องกับบริบทในปจั จบุ นั 5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจัดการใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ เพือ่ มุ่งจดั การศึกษาและการเรียนรู้ท่ี มคี ณุ ภาพ โดยยึดหลกั ธรรมาภิบาล เปา้ ประสงค์ 1. ประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมท้ังประชาชนท่ัวไปได้รับโอกาสทาง การศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตาม อธั ยาศัย ทม่ี ีคุณภาพอย่างเท่าเทยี มและทั่วถึง เป็นไปตามสภาพ ปญั หา และความตอ้ งการของแต่ละ
กลุ่มเป้าหมาย 2. ประชาชนได้รับการยกระดับการศึกษา สร้างเสริมและปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และความเป็น พลเมือง อันนาไปสู่การยกระดบั คุณภาพชวี ิตและเสริมสรา้ งความเข้มแข็งให้ชุมชน เพ่ือพัฒนาไปสู่ความม่ันคง และย่งั ยนื ทางด้านเศรษฐกจิ สังคม วฒั นธรรม ประวัติศาสตร์ และสิง่ แวดล้อม 3. ประชาชนได้รับโอกาสในการเรียนรู้ และมีเจตคติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีเหมาะสม สามารถคิด วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน รวมทั้งแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่าง สรา้ งสรรค์ 4. ประชาชนไดร้ ับการสร้างและสง่ เสริมใหม้ ีนสิ ัยรักการอา่ นเพ่ือการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 5. ชมุ ชนและภาคีเครอื ขา่ ยทุกภาคส่วน ร่วมจดั ส่งเสริม และสนับสนุนการดาเนินงานการศึกษานอก ระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย รวมทง้ั การขับเคลอื่ นกิจกรรมการเรียนรูข้ องชุมชน 6. หนว่ ยงานและสถานศกึ ษาพฒั นา เทคโนโลยีทางการศกึ ษา เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการยกระดับ คณุ ภาพในการจัดการเรยี นรแู้ ละเพม่ิ โอกาสการเรยี นรูใ้ หก้ ับประชาชน 7. หน่วยงานและสถานศึกษาพัฒนาส่ือและการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพ่ือแก้ปัญหาและพัฒนา คณุ ภาพชวี ิต ทตี่ อบสนองกับการเปล่ียนแปลงบริบทด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งตามความตอ้ งการของประชาชนและชุมชนในรปู แบบที่หลากหลาย 8. หน่วยงานและสถานศึกษามีระบบการบรหิ ารจดั การท่ีเปน็ ไปตามหลกั ธรรมาภิบาล 9. บคุ ลากรของหนว่ ยงานและสถานศกึ ษาไดร้ ับการพฒั นาเพอ่ื เพิม่ สมรรถนะในการปฏบิ ัตงิ าน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ตวั ชี้วดั ตวั ชี้วดั เชิงปรมิ าณ 1. จานวนผเู้ รยี นการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาชั้นพน้ื ฐานทีไ่ ดร้ บั การสนับสนุนค่าใชจ้ ่ายตาม สิทธิท่กี าหนดไว้ 2. จานวนของคนไทยกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ท่ีเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/เข้ารับบริการกิจกรรม การศึกษาตอ่ เนอื่ ง และการศึกษาตามอัธยาศัยทส่ี อดคล้องกบั สภาพ ปัญหา และความตอ้ งการ 3. ร้อยละของกาลังแรงงานท่ีสาเรจ็ การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ ข้นึ ไป 4. จานวนภาคเี ครอื ขา่ ยที่เขา้ มามีสว่ นร่วมในการจัด/พฒั นา/สง่ เสรมิ การศึกษา (ภาคีเครือข่าย: สถาน ประกอบการ องคก์ ร หนว่ ยงานทีม่ ารว่ มจดั /พัฒนา/ส่งเสรมิ การศึกษา) 5. จานวนประชาชน เดก็ และเยาวชนในพืน้ ทสี่ งู และชาวไทยมอแกน ในพ้นื ท่ี 5 จงั หวดั 11 อากอ ไดร้ ับบรกิ ารการศึกษาตลอดชีวติ จากศนู ยก์ ารเรยี นชมุ ชนสงั กัดสานกั งาน กศน. 6. จานวนผู้รับบริการในพน้ื ทีเ่ ป้าหมายไดร้ ับการสง่ เสรมิ ด้านการรู้หนงั สือและการพัฒนาทักษะชีวติ 7. จานวนนกั เรียนนกั ศกึ ษาที่ไดร้ บั บรกิ ารติวเข้มเต็มความรู้ 8. จานวนประชาชนทไี่ ดร้ ับการฝกึ อาชีพระยะสั้น สามารถสร้างอาชพี เพื่อสรา้ งรายได้ 9. จานวน ครู กศน. ตาบล จากพื้นที่ กศน.ภาค ได้รับการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการ สอนภาษาองั กฤษเพือ่ การส่ือสาร 10. จานวนประชาชนที่ไดร้ บั การฝกึ อบรมภาษาตา่ งประเทศเพ่อื การสื่อสารด้านอาชพี 11. จานวนผู้สูงอายภุ าวะพ่งึ พิงในระบบ Long Term Care มีผู้ดูแลท่ีมคี ุณภาพและมาตรฐาน 12. จานวนประชาชนท่ผี ่านการอบรมจากศูนย์ดจิ ิทัลชมุ ชน 13. จานวนศูนย์การเรียนชุมชน กศน. บนพื้นที่สูง ในพ้ืนท่ี 5 จังหวัด ที่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะการ ฟงั พูดภาษาไทยเพื่อการสือ่ สาร รว่ มกันในสถานศกึ ษาสังกัด สพฐ. ตชด. และกศน.
14.จานวนบุคลากร กศน. ตาบลทส่ี ามารถจัดทาคลังความรู้ได้ 15. จานวนบทความเพื่อการเรยี นรู้ตลอดชีวิตในระดับตาบลในหัวข้อตา่ ง ๆ 16. จานวนหลักสตู รและสอื่ ออนไลนท์ ีใ่ หบ้ รกิ ารกบั ประชาชน ทัง้ การศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ข้นั พ้ืนฐาน การศึกษาต่อเน่ือง และการศึกษาตามอธั ยาศยั ตัวชวี้ ัดเชิงคณุ ภาพ 1. รอ้ ยละของคะแนนเฉล่ยี ผลการทดสอบทางการศกึ ษาระดับชาติ การศกึ ษานอกระบบ (N-NET) ทกุ รายวชิ าทุกระดบั 2. รอ้ ยละของผ้เู รียนท่ีไดร้ ับการสนับสนุนการจัดการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐานเทยี บกับค่าเป้าหมาย 3. ร้อยละของประชาชนกล่มุ เป้าหมายท่ีลงทะเบียนเรียนในทุกหลักสูตร/กิจกรรมการศึกษาต่อเน่ือง เทียบกบั เป้าหมาย 4. รอ้ ยละของผู้ผา่ นการฝกึ อบรม/พัฒนาทักษะอาชพี ระยะสัน้ สามารถนาความรู้ไปใช้ในการประกอบ อาชีพหรือพฒั นางานได้ 5. ร้อยละของผู้เรียนในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพ หรือทักษะด้าน อาชีพ สามารถมีงานทาหรือนาไปประกอบอาชพี ได้ 6. ร้อยละของผู้จบหลักสูตร/กิจกรรมที่สามารถนาความรู้ความเข้าใจไปใช้ได้ตามจุดมุ่งหมายของ หลกั สตู รกจิ กรรม การศึกษาตอ่ เนอื่ ง 7. ร้อยละของประชาชนที่ได้รับบริการมีความพึงพอใจต่อการบริการ/เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั 8. รอ้ ยละของประชาชนกลุ่มเป้าหมายท่ีได้รับบริการ/ข้าร่วมกิจกรรมท่ีมีความรู้ความเข้าใจ/เจตคติ ทกั ษะ ตามจุดมุง่ หมายของกิจกรรมทก่ี าหนด ของการศกึ ษาตามอัธยาศัย 9. ร้อยละของนักเรียน/นักศึกษาที่มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนในวิชาที่ได้รับบริการติวเข้มเต็มความรู้ เพิม่ สูงขน้ึ 10. รอ้ ยละของผู้สงู อายทุ เี่ ป็นกลุ่มเปา้ หมาย มโี อกาสมาเข้าร่วมกจิ กรรมการศึกษาตลอดชวี ิต นโยบายเร่งดว่ นเพ่ือร่วมขับเคลอื่ นยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 1.ยทุ ธศาสตรด์ า้ นความมันคง 1.1 พฒั นาและเสริมสร้างความจงรักภกั ดีต่อสถาบันหลกั ของชาติ โดยปลกู ฝังและสร้างความตระหนัก รู้ถึงความสาคัญของสถาบันหลักของชาติ รณรงค์เสริมสร้างความรักและความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทย และชาติไทย น้อมนาและเผยแพร่ศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงรวมถึงแนวทาง พระราชดาริต่าง ๆ 1.2 เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจท่ีถูกต้อง และการมีส่วนร่วมอย่างถูกต้องกับการปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข ในบรบิ ทของไทย มคี วามเป็นพลเมอื งดี ยอมรับและเคารพ ความหลากหลายทางความคิดและอุดมการณ์ 1.3 ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาเพ่ือป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ทั้งยาเสพตดิ การค้ามนษุ ย์ ภัยจากไซเบอร์ ภัยพิบตั ิจากธรรมชาติ โรคอุบตั ิใหม่ ฯลฯ 1.4 ยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษาและสร้างเสรมิ โอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษา การพัฒนาทักษะ การสร้างอาชีพ และการใช้ชีวิตในสังคมพหุวัฒนธรรม ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพ้นื ทช่ี ายแดนอ่นื ๆ
1.5 สร้างความรู้ ความเข้าใจในขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้านยอมรับ และเคารพในประเพณี วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธ์ุ และชาวต่างชาติที่มีความหลากหลาย ในลักษณะ พหุสงั คมท่ีอยูร่ ่วมกนั 2 ยทุ ธศาสตรด์ ้านการสรา้ งความสามารถในการแข่งขัน 2.1 เร่งปรับหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพ กศน. เพ่ือยกระดับทักษะด้านอาชีพของประชาชนให้ เป็นอาชีพท่ีรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ (First S - curve และ New S-curve) โดยบูรณาการ ความรว่ มมอื ในการพฒั นาและเสรมิ ทกั ษะใหม่ด้านอาชพี (Upskill & Reskill) รวมถึงมงุ่ เนน้ สรา้ งโอกาสในการ สร้างงาน สร้างรายได้ และตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงานทั้งภาคอุตสาหกรรมและการบริการ โดยเฉพาะในพ้ืนท่ีเขตระเบยี งเศรษฐกิจ และเขตพฒั นาพิเศษตามภมู ภิ าคต่าง ๆ ของประเทศสาหรับพื้นท่ีปกติ ใหพ้ ฒั นาอาชีพที่เน้นการตอ่ ยอดศกั ยภาพและตามบริบทของพนื้ ที่ 2.2 จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาพนื้ ที่ภาคตะวันออก ยกระดับการศึกษาให้กับประชาชนให้จบการศึกษา อยา่ งนอ้ ยการศึกษาภาคบังคับ สามารถนาคณุ วุฒิท่ีได้รับไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ รวมทั้งพัฒนาทักษะ ในการประกอบอาชพี ตามความต้องการของประชาชน สร้างอาชพี สร้างรายได้ ตอบสนองต่อบริบทของสังคม และชมุ ชน รวมท้ังรองรับการพฒั นาเขตพื้นที่ระเบยี บเศรษฐกจิ ภาคตะวันออก (EEC) 2.3 พัฒนาและสง่ เสรมิ ประชาชนเพอื่ ตอ่ ยอดการผลิตและจาหนา่ ยสนิ ค้าและผลติ ภัณฑ์ ออนไลน์ 1) เร่งจัดตั้งศนู ย์ใหค้ าปรกึ ษาและพฒั นาผลติ ภณั ฑ์ Brand กศน. เพื่อยกระดับคุณภาพของสินค้าและ ผลิตภัณฑ์ การบรหิ ารจัดการทคี่ รบวงจร (การผลิต การตลาด การส่งออก และสร้างช่องทางจาหน่าย) รวมทั้ง ส่งเสริมการใชป้ ระโยชนจ์ ากเทคโนโลยดี ิจทิ ัลในการเผยแพร่และจาหนา่ ยผลติ ภัณฑ์ 2) พัฒนาและคัดเลือกสุดยอดสินค้าและลิตภัณฑ์ กศน. ในแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งประสานความ รว่ มมือกับสถานีบรกิ ารนา้ มันในการเป็นซ่องทางการจาหน่ายสุดยอดสินค้าและผลิตภัณฑ์ กศน.ให้กว้างขวาง ยง่ิ ข้ึน 3 ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสรมิ สร้างศักยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ 3.1 พัฒนาครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมและการเรียนรู้ เป็นผู้เช่ือมโยงความรู้กับ ผู้เรียนและผู้รับบริการ มีความเป็น \"ครูมืออาชีพ\" มีจิตบริการ มีความรอบรู้และทันต่อการเปล่ียนแปลงของ สงั คมและเปน็ \"ผ้อู านวยการการเรียนรู้\" ท่ีสามารถบริหารจดั การความรู้ กิจกรรม และการเรียนรูท้ ดี่ ี 1) เพิ่มอัตราข้าราชการครูให้กับ กศน. อาเภอทุกแห่ง โดยเร่งดาเนินการเรื่องการหาอัตราตาแหน่ง การสรรหา บรรจุ และแต่งตั้ง ขา้ ราชการครู 2) พฒั นาขา้ ราชการครใู นรปู แบบครบวงจร ตามหลักสูตรที่เชอ่ื มโยงกับวิทยฐานะ 3) พัฒนาครู กศน.ตาบลให้สามารถปฏบิ ัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นเร่ืองการพัฒนาทักษะ การจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ทกั ษะภาษาตา่ งประเทศ ทักษะการจดั กระบวนการเรยี นรู้ 4) พฒั นาศึกษานิเทศก์ ใหส้ ามารถปฏิบตั ิการนิเทศไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ 5) พัฒนาบุคลากร กศน.ทุกระดับทุกประเภทให้มีทักษะความรู้เร่ืองการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลและ ภาษาต่างประเทศทีจ่ าเปน็ 3.2 พัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ มีความพร้อมในการ ใหบ้ รกิ ารกจิ กรรมการศึกษาและการเรียนรู้ เปน็ แหล่งสารสนเทศสาธารณะที่ง่ายต่อการเข้าถึง มีบรรยากาศที่ เอื้อต่อการเรียนรู้ เป็นพ้ืนท่ีการเรียนรู้สาหรับคนทุกช่วงวัย มีสิ่งอานวยความสะดวก มีบรรยากาศสวยงามมี ชีวิต ทดี่ ึงดดู ความสนใจ และมคี วามปลอดภัยสาหรับผู้ใช้บริการ
1) เร่งยกระดับ กศน.ตาบลนาร่อง 928 แห่ง (อาเภอละ 1 แห่ง) ให้เป็น กศน.ตาบล 5 ดี พรีเมี่ยม ท่ีประกอบด้วย ครูดี สถานท่ีดี (ตามบริบทของพื้นที่) กิจกรรมดี เครือข่ายดี และมีนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ดีมี ประโยชน์ 2) จัดให้มศี ูนย์การเรียนร้ตู น้ แบบ กศน. เพอ่ื ยกระดบั การเรียนรู้ ใน 6 ภูมภิ าค เปน็ พ้นื ทกี่ ารเรยี นรู้ (Co - Learning Space) ท่ที นั สมยั สาหรับทุกคน มีความพร้อมในการให้บริการต่าง ๆ อาทิ พ้ืนท่ีสาหรับการ ทางาน/การเรียนรู้ พ้ืนท่ีสาหรับกิจกรรมต่าง ๆ มีห้องประชุมขนาดเล็ก รวมทั้งทางานร่วมกับห้องสมุด ประชาชนในการใหบ้ รกิ ารในรูปแบบห้องสมุดดิจิทัล บริการอินเทอร์เน็ต สื่อมัลติมีเดีย เพื่อรองรับการเรียนรู้ แบบ Active Learning 3) พัฒนาห้องสมุดประชาชน \"เฉลมิ ราชกุมารี\" ใหเ้ ปน็ Digital Library โดยให้มบี ริการหนังสอื ในรูปแบบ e - Book บริการคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รวมท้ัง Free Wifi เพ่ือการสืบค้น ข้อมลู 3.3 ส่งเสริมการจดั การเรียนรู้ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เอ้ือต่อการเรียนรู้สาหรับทุกคน สามารถ เรยี นไดท้ ุกท่ีทกุ เวลา มีกจิ กรรมที่หลากลาย นา่ สนใจ สนองตอบความต้องการของชุมชน เพื่อพัฒนาศักยภาพ การเรียนรู้ของประชาชน รวมท้ังใช้ประโยชน์จากประชาชนในชุมชนในการร่วมจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อ เชอื่ มโยงความสัมพนั ธข์ องคนในชมุ ชนไปส้กู ารจดั การความรู้ของชุมชนอยา่ งยัง่ ยนื 1) สง่ เสรมิ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทีป่ ลูกฝงั คุณธรรม สร้างวนิ ยั จิตสาธารณะ ความรับผดิ ชอบ ต่อส่วนรวม และการมีจิตอาสา ผ่านกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ อาทิ กิจกรรมลูกเสือ กศน. กิจกรรมจิตอาสา ตลอดจนสนับสนนุ ใหม้ ีการจดั กจิ กรรมเพอื่ ปลกู ฝงั คณุ ธรรม จริยธรรมให้กับบคุ ลากรในองค์กร 2) จัดให้มหี ลักสตู รลกู เสอื มัคคเุ ทศก์ โดยใหส้ านักงาน กศน.จงั หวดั ทุกแห่ปกทม. จัดตั้งกองลกู เสือ ที่ลกู เสอื มีความพร้อมดา้ นทกั ษะภาษาต่างประเทศ เปน็ ลกู เสอื มคั คุเทศก์จังหวัดละ 1 กอง เพื่อส่งเสริมลูกเสือ จิตอาสาพัฒนาการท่องเที่ยวในแต่ละจงั หวดั 3.4 เสรมิ สรา้ งความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ประสาน สง่ เสรมิ ความรว่ มมือภาคเี ครือขา่ ย ทง้ั ภาครัฐ เอกชน ประชาสงั คม และองคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ รวมทั้งส่งเสรมิ และสนับสนนุ การมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชน เพ่ือสร้างความเข้าใจ และให้เกิดความร่วมมือในการส่งเสริม สนับสนนุ และจัดการศึกษาและการเรยี นรใู้ ห้กบั ประชาชนอยา่ งมีคุณภาพ 1) เรง่ จัดทาทาเนยี บภมู ิปัญญาท้องถ่นิ ในแต่ละตาบล เพ่อื ใชป้ ระโยชนจ์ ากภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ ในการสร้างการเรียนรู้จากองค์ความรู้ในตัวบุคคลให้เกิดการถ่ายทอดภูมิปัญญา สร้างคุณค่าทางวัฒนธรรม อย่างยง่ั ยืน 2) สง่ เสรมิ ภูมิปญั ญาท้องถนิ่ สู่การจัดการเรยี นร้ชู มุ ชน 3) ประสานความร่วมมือกบั ภาคีเครอื ข่ายเพ่อื การขยายและพัฒนาการศกึ ษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอัธยาศยั ให้เขา้ ถึงกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มอย่างกว้างขวางและมีคุณภาพ อาทิ กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม อสม. 3.5 พัฒนานวัตกรรมทางการศึกษาเพ่ือประโยชนต์ อ่ การจัดการศึกษาและกลมุ่ เป้าหมาย 1) พฒั นาการจัดการศึกษาออนไลน์ กศน. ทงั้ ในรูปแบบของการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน การพฒั นาทักษะ ชวี ติ และทักษะอาชพี การศึกษาตามอัธยาศัย รวมทัง้ การพฒั นาชอ่ งทางการค้าออนไลน์ 2) สง่ เสริมการใชเ้ ทคโนโลยีในการปฏบิ ัติงาน การบริหารจดั การ และการจัดการเรียนรู้ 3) สง่ เสรมิ ใหม้ กี ารใชก้ ารวิจยั อยา่ งงา่ ยเพอื่ สรา้ งนวตั กรรมใหม่ 3.6 พัฒนาศักยภาพคนดา้ นทกั ษะและความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั (Digital Literacy) 1) พัฒนาความรู้และทักษะเทคโนโลยีดจิ ิทลั ของครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา เพ่อื พฒั นา
รปู แบบการจดั การเรียนการสอน 2) สง่ เสรมิ การจัดการเรยี นรู้ดา้ นเทคโนโลยดี ิจิทลั เพอื่ ให้ประชาชนมที กั ษะความเข้าใจและ ใช้เทคโนโลยดี ิจทิ ลั ทส่ี ามารถนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจาวนั รวมทง้ั สร้างรายได้ใหก้ บั ตนเองได้ 3.7 พฒั นาทักษะภาษาต่างประเทศเพ่ือการสื่อสารของประชาชนในรูปแบบต่าง ๆอย่างเป็นรูปธรรม โดยเน้นทกั ษะภาษาเพ่ืออาชพี ทั้งในภาคธุรกิจ การบริการ และการท่องเท่ียว รวมทั้งพัฒนาส่ือการเรียนการ สอนเพื่อส่งเสริมการใชภ้ าษาเพือ่ การสื่อสารและการพฒั นาอาชพี 3.8 เตรียมความพร้อมการเข้าสูส่ ังคมผูส้ ูงอายทุ เ่ี หมาะสมและมีคุณภาพ 1) สง่ เสรมิ การจัดกจิ กรรมให้กับประชาชนเพอื่ สรา้ งความตระหนักถึงการเตรยี มพรอ้ มเข้าสู่ สงั คมผสู้ ูงอายุ (Aging Society) มคี วามเข้าใจในพฒั นาการของชว่ งวยั รวมทง้ั เรียนรแู้ ละมีสว่ นร่วมในการดแู ล รบั ผดิ ชอบผูส้ งู อายุในครอบครัวและชุมชน 2) พัฒนาการจัดบริการการศกึ ษาและการเรียนรสู้ าหรบั ประชาชนในการเตรียมความพรอ้ ม เขา้ สูว่ ยั สงู อายทุ ี่เหมาะสมและมคี ณุ ภาพ 3) จดั การศกึ ษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพชวี ติ สาหรับผู้สูงอายุภายใต้แนวคิด \"Active Aging\" การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาคุณภาพชวี ติ และพัฒนาทักษะชีวิต ใหส้ ามารถดแู ลตนเองท้งั สุขภาพกายและสุขภาพจิต และรู้จกั ใชป้ ระโยชน์จากเทคโนโลยี 4) สร้างความตระหนักถึงคุณค่าและศกั ดิ์ศรีของผสู้ งู อายุ เปิดโอกาสใหม้ ีการเผยแพร่ภูมปิ ญั ญา ของผู้สงู อายุ และให้มีส่วนรว่ มในกจิ กรรมดา้ นตา่ ง ๆ ในชมุ ชน เช่น ด้านอาชพี กฬี า ศาสนาและวัฒนธรรม 5) จดั การศึกษาอาชีพเพือ่ รองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในทุกระดบั 3.9 การสง่ เสริมวิทยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษา 1) จัดกจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์เชิงรุก และเน้นให้ความรู้วิทยาศาสตร์อย่างง่ายกับประชาชนในชุมชนท้ัง วิทยาศาสตรใ์ นวถิ ีชวี ิต และวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจาวัน 2) พฒั นาสอ่ื นทิ รรศการเละรปู แบบการจัดกิจกรรมทางวทิ ยาศาสตร์ให้มคี วามทันสมยั 3.10 สง่ เสริมการรภู้ าษาไทยให้กับประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะประชาชนในเขตพ้ืนท่ีสูงให้ สามารถฟัง พูด อา่ น และเขยี นภาษาไทย เพ่ือประโยชน์ในการใชช้ วี ิตประจาวันได้ 4 ยุทธศาสตรต์ ้นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม 4.1 จัดต้ังศูนย์การเรียนรู้สาหรับทุกช่วงวัย ท่ีเป็นศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิตที่สามารถให้บริการ ประชาชนได้ทุกคน ทุกช่วงวยั ท่มี ีกจิ กรรมทหี่ ลากหลาย ตอบสนองความต้องการในการเรียนรู้ในแต่ละวัยและ เป็นศนู ย์บริการความรู้ ศนู ย์การจดั กจิ กรรมทค่ี รอบคลุมทุกชว่ งวยั เพ่อื ให้มพี ัฒนาการเรียนรู้ที่เหมาะสมและมี ความสุขกับการเรียนรตู้ ามความสนใจ 1) เร่งประสานกบั สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน เพือ่ จัดทาฐานข้อมูลโรงเรียนท่ีถูกยุบ รวม หรอื คาดว่านา่ จะถูกยุบรวม 2) ให้สานักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่งที่อยู่ในจังหวัดท่ีมีโรงเรียนท่ีถูกยุบรวม ประสานขอใช้พ้ืนที่เพื่อ จดั ตง้ั ศนู ย์การเรยี นรสู้ าหรบั ทุกชว่ งวยั กศน. 4.2 ส่งเสริมและสนบั สนุนการจัดการศกึ ษาและการเรียนรู้สาหรับกลุ่มเป้าหมายผู้พิการ 1) จัดการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน การศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะชีวิตและทักษะอาชีพ และการศึกษา ตามอธั ยาศัย โดยเนน้ รูปแบบการศึกษาออนไลน์
2) ให้สานักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่ง/กทม. ทาความร่วมมือกับศูนย์การศึกษาพิเศษประจา จังหวัด ในการใช้สถานท่ี วัสดุอุปกรณ์ และครุภัณฑ์ด้านการศึกษา เพื่อสนับสนุนการจัดการศึกษาและการ เรยี นรสู้ าหรับกลุม่ เปา้ หมายผู้พิการ 4.3 ยกระดับการศึกษาให้กับกลุ่มเป้าหมายทหารกองประจาการ รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายพิเศษอ่ืน ๆ อาทิ ผู้ต้องขัง คนพิการ เด็กออกกลางคัน ประชากรวัยเรียนท่ีอยู่นอกระบบการศึกษาให้จบการศึกษานอก ระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน สามารถนาความร้ทู ไ่ี ด้รบั ไปพฒั นาตนเองไดอ้ ย่างต่อเนื่อง 4.4 พัฒนาหลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพระยะสั้น ให้มีความหลากหลาย ทันสมัย เหมาะสมกับ บริบทของพืน้ ที่ และตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนผู้รบั บรกิ าร 5. ยุทธศาสตรด์ า้ นการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตทเ่ี ปน็ มติ รต่อส่งิ แวดล้อม 5.1 ส่งเสริมให้มีการให้ความรู้กับประชาชนในการรับมือและปรับตัวเพื่อลดความเสียหายจากภัย ธรรมชาติและผลกระทบท่เี กย่ี วข้องกบั การเปล่ยี นแปลงสภาพภมู ิอากาศ 5.2 สร้างความตระหนักถึงความสาคัญของการสร้างสังคมสีเขียว ส่งเสริมความรู้ให้กับประชาชน เกี่ยวกับการคัดแยกต้ังแต่ต้นทาง การกาจัดขยะ และการนากลับมาใช้ช้า เพ่ือลดปริมาณและต้นทุนในการ จดั การขยะของเมือง และสามารถนาขยะกลบั มาใชป้ ระโยชน์ได้โดยง่าย รวมทัง้ การจดั การมลพิษในชมุ ชน 5.3 ส่งเสริมให้หน่วยงานและสถานศึกษาใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งลดการใช้ ทรพั ยากรที่สง่ ผลกระทบตอ่ สิ่งแวดล้อม เชน่ รณรงค์เรอ่ื งการลดการใช้ถุงพลาสตกิ การประหยดั ไฟฟา้ เป็นต้น 6. ยทุ ธศาสตร์ดา้ นการปรบั สมดลุ และพฒั นาระบบหารบรหิ ารจัดการภาครัฐ 6.1 พัฒนาและปรับระบบวิธีการปฏิบัติราชการให้ทันสมัย มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและ ประพฤติ มชิ อบ บริหารจัดการบนข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ มงุ่ ผลสัมฤทธ์มิ ีความโปรง่ ใส 6.2 นานวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบการทางานท่ีเป็นดิจิทัลมาใช้ในการบริหารและพัฒนางาน สามารถเชื่อมโยงกับระบบฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมท้ังพัฒนาโปรแกรมออนไลน์ท่ี สามารถเช่ือมโยงข้อมูลต่าง ๆ ท่ีทาให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างต่อเน่ืองกันตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ และใหป้ ระชาชนกลมุ่ เปา้ หมายสามารถเขา้ ถงึ บริการไดอ้ ยา่ งทนั ที ทกุ ท่แี ละทกุ เวลา 6.3 สง่ เสริมการพฒั นาบุคลากรทกุ ระดบั อย่างต่อเน่อื ง ให้มคี วามรู้และทักษะตามมาตรฐาน ตาแหน่ง ใหต้ รงกับสายงาน ความชานาญ และความต้องการของบุคลากร แนวทาง/กลยทุ ธ์การดาเนินงาน ของ กศน.อาเภอสัตหีบ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ปรัชญา คิดเป็น ทาเป็น เนน้ คณุ ธรรม วสิ ยั ทศั น์ “ภายในปี 2565 ผเู้ รยี น/ผ้รู บั บริการ ของศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอ สัตหีบ มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ ใช้แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญา ส่ือเทคโนโลยี ในการจัดกระบวนการ เรยี นรู้ โดยเครอื ขา่ ยมีสว่ นร่วม” อัตลกั ษณ์ “เทา่ ทันเทคโนโลยี” ความหมาย การใช้เทคโนโลยี ในการเรยี นรูแ้ ละการดารงชวี ิตไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
เอกลักษณ์ “องค์กร ออนไลน์” หมายถึง สถานศกึ ษาใชเ้ ทคโนโลยีในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ และการบริหารงานภายในองคก์ ร พันธกจิ 1. ออกแบบการจัดกระบวนการเรียนรใู้ ห้สอดคล้องกับหลกั สูตร 2. จัดระบบสารสนเทศเพื่อการเรียนรแู้ ละการบริหารการศกึ ษา 3. พัฒนาบคุ ลากรดา้ นการออกแบบการจดั กระบวนการเรยี นรู้/สือ่ /การประเมนิ ผล 4. สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การมีส่วนรว่ มของภาคเี ครือขา่ ยและชมุ ชนในการจัดกจิ กรรมการศึกษา เปา้ ประสงค์ 1. ใช้สอื่ เทคโนโลยีในการจัดการเรยี นรู้ 2. จดั การเรียนรรู้ ว่ มกับเครือขา่ ย กลยทุ ธ์ กลยุทธ์ วัตถุประสงค์ 1. พัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น 1. เพื่อใหผ้ เู้ รียนมีคณุ ธรรม จริยธรรมค่านิยมอันพึงประสงค์ 2. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนมีทักษะและความสามารถในการแสวงหาความรู้ 3. เพ่ือให้ผูเ้ รียนมที ักษะและความสามารถในการคิดสรา้ งสรรค์ 4. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมผี ลสมั ฤทธ์ิทางการศึกษาตามนโยบายสถานศกึ ษา 5. เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นการศึกษาตอ่ เน่ืองนาความรู้ไปใช้ได้ 6. เพื่อให้ผเู้ รยี นการศกึ ษาเศรษฐกิจพอเพียงสามารถนาความรไู้ ปใชไ้ ด้ 7. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นการศึกษาดิจทิ ัลชมุ ชนสามารถนาความรไู้ ปใชไ้ ด้ 8. เพ่อื ให้ผรู้ ับบรกิ ารการศกึ ษาตามอธั ยาศยั นาความรไู้ ปใช้ได้ 9. เพื่อให้ผู้เรียน/ผู้รับบริการสามารถเข้าถึงข้อมูลจากระบบสารสนเทศและสามารถนา ความรู้ไปใช้พัฒนาตนเองได้ 2. พฒั นาบุคลาการ 1. เพอ่ื ให้บุคลากรมีความร้แู ละทกั ษะดา้ นการออกแบบการจดั กระบวนการเรียนการสอน 2. เพือ่ ให้บคุ ลากรมีความรแู้ ละทกั ษะด้านการออกแบบส่อื การเรยี นการสอน 3. เพอื่ ให้บคุ ลากรมคี วามรแู้ ละทกั ษะดา้ นวธิ กี ารประเมินผลที่มคี ณุ ภาพ 3.บริหารการจดั การสถานศกึ ษา 1. เพอ่ื จดั ระบบสารสนเทศเพอื่ การเรยี นร้แู ละการบรหิ ารสถานศกึ ษา 4.ภาคเี ครอื ข่ายรว่ มจดั กจิ กรรม 1. เพือ่ ให้เครอื ขา่ ยมสี ว่ นร่วมสง่ เสรมิ สนับสนุนและรว่ มจดั การจดั กจิ กรรมการศกึ ษา ผลการวิเคราะห์ SWOT (Swot Analysis) ของ กศน.อาเภอสัตหบี S = จุดแข็ง 1. ดา้ นอาคารสถานที่ตัง้ อยใู่ นเขตชมุ ชนเมือง สะดวกในการติดต่อ 2. ดา้ นบุคลากรมจี านวนเพยี งพอตอ่ การปฏบิ ตั ิงาน 3. มีระบบการจดั เก็บและสบื คน้ ข้อมลู ทที่ นั สมยั สามารถสบื ค้นขอ้ มลู ทางเวปไซด์ได้ W = จดุ ออ่ น 1. สอื่ วสั ดุ อปุ กรณ์ ไมเ่ พียงพอต่อการดาเนินงานและการบรกิ าร 2. ระบบสารสนเทศ เทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต wifi ไม่เพียงพอต่อการดาเนินงานและการบริการ ประชาชนและนักศึกษา 3. สถานท่ีคบั แคบ ไมเ่ หมาะสมกับการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่
O = โอกาส 1. ไดร้ ับความร่วมมือกบภาคีเครือข่ายเปน็ อยา่ งดี 2. ได้รับการยอมรับจากชุมชนและหนว่ ยงานอื่นๆ 3. มแี หล่งเรียนรูแ้ ละภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่ินท่ีโดดเดน่ จากเศรษฐกจิ พอเพียง 4. มีกรอบแนวทางการดาเนนิ งานทชี่ ดั เจน T = อุปสรรค 1. สถานท่ี 2. นักศกึ ษาไมส่ ามารถเข้ารว่ มกจิ กรรมได้บอ่ ยคร้งั 3. ผู้เรียนไม่คอ่ ยพัฒนาตนเองอยา่ งต่อเนอื่ ง 4. การจดั สรรงบประมาณจากหน่วยงานล่าช้า นโยบายและจดุ เน้นของ กศน.อาเภอสัตหีบ ตวั ชวี้ ดั 1. จานวนผู้เรียนการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานที่ได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามสิทธิที่ กาหนดไว้ 2. จานวนของคนไทยกลุ่มเป้าหมายต่างๆ (กลุ่มเป้าหมายท่ัวไป กลุ่มเป้าหมายพิเศษ และกลุ่มคนไทยท่ัวไป เปน็ ต้น) ท่ีเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/ได้รับบริการกิจกรรมการศึกษาต่อเน่ือง และการศึกษาตามอัธยาศัยท่ี สอดคล้องกบั สภาพ ปญั หา และความต้องการ 3. ร้อยละผู้จบหลักสูตร/กิจกรรมการศึกษานอกระบบสามารถนาความรู้ความเข้าใจไปใช้ได้ตามจุดมุ่งหมาย ของหลักสตู ร/กิจกรรมที่กาหนด 4. จานวนแหล่งเรียนรู้ในระดับตาบลที่มีความพร้อมในการให้บริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย 5. จานวนประชาชนกลุ่มเปา้ หมายทเี่ ขา้ รบั การฝกึ อาชีพ เหน็ ชอ่ งทางในการประกอบอาชีพ 6. รอ้ ยละของผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมทีส่ ามารถอ่านออกเขยี นไดแ้ ละคดิ เลขเป็นตามจุดมงุ่ หมายของกิจกรรม 7. ร้อยละของประชาชนกลมุ่ เปา้ หมายทไ่ี ด้รับบรกิ ารเข้ารว่ มกิจกรรมแหล่งเรียนรตู้ ามอัธยาศัย มคี วามร้คู วามเข้าใจ เจตคติ ทกั ษะตามจดุ มงุ่ หมายของกิจกรรมที่กาหนด 8. จานวนผดู้ ูแลประชาชนทผี่ ่านการอบรมตามหลกั สตู รท่กี าหนด 9. จานวนองค์กรภาคส่วนต่าง ๆ ท้ังในและต่างประเทศ ท่ีร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการดาเนินงานการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย 10. จานวนนกั เรยี น นักศึกษา และประชาชนท่ัวไปที่เขา้ ถึงบรกิ ารการเรยี นร้ทู างด้านวทิ ยาศาสตรใ์ นรปู แบบ 11. จานวน/ประเภทของสื่อ และเทคโนโลยีทางการศึกษาที่มีการจัดทา/พัฒนาและนาไปใช้เพื่อส่งเสริมการ เรียนรู้ของผูเ้ รยี น/ผรู้ ับบริการการศกึ ษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย 12. จานวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่เข้าถึงบริการความรู้นอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั ผา่ นช่องทางสือ่ เทคโนโลยที างการศกึ ษา และเทคโนโลยกี ารสือ่ สาร 13. ร้อยละของนกั ศกึ ษาทีม่ ผี ลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนท่ไี ดร้ บั บริการติวเข้มเต็มความร้เู พม่ิ สงู ขน้ึ 14. จานวนบุคลากรของหน่วยงานและสถานศึกษาได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะในการปฏิบัติงาน การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั 15. ร้อยละของสถานศึกษาในสังกัดที่มีระบบประกันคุณภาพภายในและมีการจัดทารายงานการประเมิน ตนเอง
16. ร้อยละของหนว่ ยงาน และสถานศกึ ษา กศน. ทม่ี กี ารใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการ จดั ทาฐานขอ้ มูลชมุ ชนและการบรหิ ารจัดการ เพือ่ สนบั สนุนการดาเนินงานการศกึ ษานอกระบบ และการศึกษา ตามอธั ยาศยั ขององคก์ าร 17. รอ้ ยละของหนว่ ยงาน และสถานศึกษา กศน. ทส่ี ามารถดาเนินงานโครงการ/กจิ กรรมตามบทบาทภารกิจท่ี รับผิดชอบได้สาเร็จตามเปา้ หมายทีก่ าหนดไวอ้ ย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยใชท้ รัพยากรอย่างคุ้มค่า/ตามแผน ทีก่ าหนดไว้ จุดเนน้ การดาเนนิ งาน กศน. ตามยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ 6 ยทุ ธศาสตร์ 1. พฒั นาหลกั สูตร กระบวนการเรยี นการสอน และการวัดผลประเมินผล จุดเน้นการดาเนินงาน 1.1 จัดกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองกับการเปล่ียนแปลงและความต้องการของประชาชนชุมชน และสงั คม ในรูปแบบทห่ี ลากหลาย ให้ประชาชนคิดเป็น วิเคราะห์ได้ ตัดสินใจภายใต้ฐานข้อมูลท่ีถูกต้อง เช่น ความร้เู ร่ืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมุข/การเลือกตั้ง แนวทางและ ทิศทางการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ ของรัฐบาล โดยประสานความร่วมมือกับกระทรวงต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง ร่วมจัดทาเน้ือหาและส่ือประกอบการจัดกระบวนการเรียนรู้ รวมท้ังให้มีการจัดทาแผนการเรียนรู้รายชุมชน เพ่อื พัฒนาสูช่ มุ ชน/เมืองแหง่ การเรยี นรู้ 1.2 ส่งเสริมให้มีการจัดการเรียนการสอนแบบ “สะเต็มศึกษา” (STEM Education) โดยบูรณาการ ความรดู้ ้าน คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เพ่อื พฒั นาทกั ษะชีวิต สู่การประกอบอาชีพ ประยุกต์ใช้ ในการทางาน และเปน็ แนวทางของการสร้างแรงงานที่มศี กั ยภาพไดใ้ นอนาคต 1.3 จดั การศึกษาเพ่อื เพม่ิ อัตราการรหู้ นังสือให้คนไทยให้สามารถอ่านออกเขียนได้ โดยใชห้ ลกั สูตรการ รู้หนังสือของคนไทยของสานักงาน กศน.และสื่อทเ่ี หมาะสมกบั สภาพและพืน้ ที่ของกลมุ่ เป้าหมาย 2. การผลติ พฒั นา ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา จดุ เนน้ การดาเนนิ งาน 2.1 จัดทาแผนพฒั นาอตั รากาลังลว่ งหนา้ ระยะ 10 ปี เพ่อื ใชเ้ ปน็ ขอ้ มูลสาหรบั การขอกรอบอัตรากาลัง เพ่ิมเตมิ ให้เพียงพอต่อขอบข่ายการดาเนนิ งานของ กศน. 2.2 เรง่ พฒั นาศักยภาพครู กศน. ทุกประเภท เพื่อให้สามารถเป็นท้ังผู้สอนและผู้ออกแบบการเรียนรู้ รายบคุ คล และจดั กจิ กรรมการเรยี นรไู้ ด้อยา่ งมีประสิทธิภาพ และจัดทาแผนพัฒนาครู กศน.ทุกประเภท และ ทกุ ระดบั ช่วงระยะ 10 ปี เพอ่ื พฒั นาสมรรถนะครู กศน. ให้ได้เกณฑ์มาตรฐานทีก่ าหนด 2.3 สารวจข้อมลู และทบทวนหลักเกณฑ์การจา้ งลูกจ้างแบบจา้ งเหมาบรกิ าร และพนกั งานราชการให้ ตรงตามความตอ้ งการของพ้นื ที่ 3. ผลิต และพัฒนากาลังคน รวมทั้งงานวิจัยท่ีสอดคล้องกับความต้องการของการพัฒนา ประเทศ จดุ เน้นการดาเนนิ งาน 3.1 ยกระดับการศึกษาให้กับกลุ่มพนักงานรักษาความปลอดภัย ให้จบการศึกษาภาคบังคับอย่างมี คณุ ภาพ โดยเนน้ การเรียนรูปแบบโปรแกรมเรยี นรูร้ ายบคุ คล 3.2 จดั การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ให้สอดคล้องและรองรับกับความต้องการของ การพัฒนาตามบริบทของแต่ละพ้ืนท่ีในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยมุ่งเน้นผลิตกาลังคนให้สอดคล้องกับ
ความต้องการของพน้ื ที่ พร้อมท้ังสรา้ งทกั ษะทางวชิ าชพี โดยเนน้ ด้านการบริหารและการประกอบการ เพ่ือให้ ประชาชนในพืน้ ที่ไดร้ ับการพัฒนาศกั ยภาพในแนวทางทีด่ ีข้นึ 4. ขยายโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษาและการเรียนร้อู ย่างตอ่ เนือ่ งตลอดชวี ิต จุดเนน้ การดาเนินงาน 4.1 เร่งบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก โดยประสานข้อมูลโรงเรียนขนาดเล็กจากสานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และประสานหน่วยงานในพ้ืนที่เพื่อสารวจความต้องการในกา จัดการโรงเรียนขนาดเลก็ เพอื่ ทาเปน็ กศน. ตาบลหรือแหล่งการเรียนรขู้ องชุมชนภายในตาบลสตั หีบ 4.2 จัดและส่งเสริมความร่วมมือหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ให้กับ กลมุ่ เปา้ หมายเด็กออกกลางคนั /เด็กตกหลน่ และกลมุ่ คนพกิ ารในตาบลสตั หบี 4.3 เร่งสารวจขอ้ มูลการรู้หนังสือของคนไทย โดยให้ความสาคัญกับกลุ่มเป้าหมายนักศึกษา กศน.ใน ตาบล สตั หีบ 4.4 พัฒนา กศน.ตาบล/แขวง ให้เป็นฐานการขับเคล่ือนการจัดการศึกษา โดยเน้นการประสาน เชื่อมโยงระหว่างชุมชนและภาคีเครือข่าย ในการจัดการศึกษารูปแบบ กศน.ตาบล 4 ศูนย์ ได้แก่ (1) ศูนย์ เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจาตาบล (2) ศูนย์ส่งเสริมพัฒนา ประชาธิปไตยตาบล (3) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน และ (4) ศูนย์การศึกษาตลอดชีวิตชุมชน เพื่อสนองตอบต่อความ ตอ้ งการของประชาชนอย่างมีประสทิ ธภิ าพ รวมท้งั สร้างและกระจายโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิตในชุมชน 4.5 จดั การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพชีวิตประชาชนทุกช่วงวัย“กศน.เพื่อประชาชน”เช่น จัดการเรียน วิชาชีพระยะส้ัน (โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน) ให้กับประชาชนที่สอดคล้องกับความต้องการของ ตลาดแรงงาน บริบทของพื้นท่ี จัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับกลุ่มประชาชนและการพัฒนา ทกั ษะชีวติ ในการเตรยี มความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม และการเขา้ สูส่ งั คมเศรษฐกจิ ที่ขับเคลอ่ื นดว้ ยนวัตกรรม (Thailand 4.0) 4.6 มุ่งเนน้ การสง่ เสริมใหเ้ กดิ ชุมชนรกั การอ่านภายในตาบลสัตหีบ “นั่งท่ีไหน อ่านท่ีน่ัน” ในรูปแบบ ต่าง ๆ เช่นอาสาสมัครส่งเสรมิ การอา่ น หอ้ งสมุดประชาชน บา้ นหนังสือชุมชน ตู้หนังสือเคลื่อนที่ในตลาด และ หนังสอื พิมพ์ฝาผนงั เป็นตน้ 5. ส่งเสรมิ และพัฒนาระบบเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลเพือ่ การศึกษา จดุ เน้นการดาเนินงาน 5.1 พัฒนา กศน. ตาบลสัตหีบ ให้มีความพร้อมเก่ียวกับโครงสร้างพ้ืนฐานด้าน ICT และเทคโนโลยี เพื่อการศึกษาอ่ืนท่ีเหมาะสมกับพื้นท่ี เพ่ือให้ กศน.ตาบลสัตหีบ เข้าถึงการใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตมีความ พร้อมในการใหบ้ รกิ ารการศกึ ษาและการเรียนรูท้ ี่เปน็ ไปตามความต้องการของประชาชนและชุมชน และสร้าง โอกาสในการเรยี นรูไ้ ด้อย่างทว่ั ถึง 5.2 พฒั นาระบบชอ่ งทางแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ (Portal Web) และสง่ เสริมให้ประชาชนนาเทคโนโลยี สารสนเทศและการส่ือสารมาประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้/กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเพ่ิมโอกาสการเรียนรู้ และการ พัฒนาอาชีพ เช่น การแสวงหาความรู้เพื่อการดารงชีวิต การพัฒนาต่อยอดอาชีพเพื่อสร้างรายได้ โดยผ่าน กลไกของศนู ยด์ จิ ทิ ลั ชมุ ชน เพอ่ื ให้ผู้เรียนสามารถนาความรคู้ วามสามารถ เจตคติทีด่ ตี อ่ การประกอบอาชีพและ ทักษะที่พัฒนาข้ึนไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพที่สร้างรายได้ได้จริงและการพัฒนาสู่เศรษฐกิจเชิง สรา้ งสรรค์ต่อไป 6. พฒั นาระบบบรหิ ารจัดการส่งเสริมใหท้ ุกภาคส่วนมสี ่วนรว่ มในการจัดการศึกษา จดุ เนน้ การดาเนินงาน
6.1 สารวจ วเิ คราะห์ และปรับปรงุ คา่ ใชจ้ า่ ยในการจัดการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยดาเนินการให้ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนค่าจัดซื้อตาราเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่า เลา่ เรยี นอย่างทว่ั ถึง และเหมาะสมกับสภาพการจัดการศึกษา เพื่อเพ่ิมโอกาสในการรับการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยไมเ่ สยี ค่าใช้จา่ ย 6.2 สร้างความรู้ ความตระหนัก และปลูกจิตสานึกตามหลักธรรมาภิบาล ตลอดจนความรู้เรื่อง กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และอื่นๆท่ีเก่ียวข้องกับการปฏิบัติงานให้กับบุคลากรทุกระดับทุกประเภทโดย ส่งเสรมิ การจัดกิจกรรม การจัดทานวัตกรรมเกีย่ วกับองคค์ วามรู้ด้านคุณธรรมจริยธรรม การป้องกันการทุจริต และราชการใสสะอาด ของหน่วยงานและสถานศึกษา เพื่อให้ กศน.ตาบลสัตหีบ เป็นองค์กรแห่งศักด์ิศรีและ สุจริตธรรมท่ปี ระชาชนมีความเชือ่ มน่ั ศรทั ธาและมคี วามไวว้ างใจในการปฏบิ ตั ิงาน ภารกจิ ตอ่ เน่ือง 1. ดา้ นการจดั การศกึ ษาและการเรยี นรู้ 1.1 การศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน 1) สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบต้ังแต่ปฐมวัยจนจบการศึกษาข้ันพ้ืนฐานโดย ดาเนินการให้ผู้เรียนได้รับการสนับสนุนค่าจัดซ้ือตาราเรียน ค่าจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และค่าเล่า เรียนอยา่ งทั่วถงึ และเพียงพอเพ่ือเพิม่ โอกาสในการรบั การศกึ ษาท่มี ีคณุ ภาพโดยไมเ่ สียคา่ ใชจ้ ่าย 2) จัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้ด้อย พลาดและ ขาดโอกาสทางการศึกษา ทั้งระบบการให้บริการ ระบบการเรียนการสอน ระบบการวัดและประเมินผลการ เรยี น ผา่ นการเรียนแบบเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง การพบกล่มุ การเรยี นแบบชัน้ เรียน และการจดั การศึกษาทางไกล 3) จดั ใหม้ ีการประเมนิ เพอื่ เทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ ที่มีความโปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ มีมาตรฐานตามที่กาหนด และสามารถตอบสนองความต้องการของ กลุม่ เปา้ หมายไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 4) ส่งเสริมให้ผู้เรียนต้องเรียนรู้และปฏิบัติกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิต เพ่ือดาเนินกิจกรรม เสริมสร้างความสามัคคี บาเพ็ญสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด กิจกรรม จติ อาสา การจัดตั้งชมรม/ชุมนุม และเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรียนนากิจกรรมการบาเพ็ญประโยชน์อ่ืน ๆนอกหลักสูตร มาใช้เพิ่มช่วั โมงกิจกรรมใหผ้ เู้ รียนจบตามหลกั สูตรได้ 5) จดั ตัง้ ศนู ย์แนะแนวและประสานการศึกษาพเิ ศษอาเภอ/เขต ใหค้ รบทุกอาเภอทวั่ ประเทศ 1.2 การศกึ ษาตอ่ เน่ือง 1) จัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทาอย่างย่ังยืน โดยให้ความสาคัญกับการจัดการศึกษา อาชีพเพ่ือการมีงานทาประเภทช่างพื้นฐาน/ช่างชนบท และอาชีพที่สอดคล้องกับศักยภาพของผู้เรียนและ ศักยภาพของแตล่ ะพื้นท่ี 2) จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตให้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยจัดกิจกรรมการศึกษาใน รูปแบบต่างๆ อาทิ ค่ายพัฒนาทักษะชีวิต การจัดตั้งชมรม/ชุมนุม การส่งเสริมความสามารถพิเศษต่างๆ ท่ี ม่งุ เนน้ ให้ทุกกลมุ่ เป้าหมายมคี วามรู้ความสามารถในการบริหารจัดการชีวิตของตนเองให้อยู่ในสังคมได้อย่างมี ความสขุ มคี ุณธรรมจริยธรรม รวมทง้ั สามารถใชเ้ วลาว่างให้เปน็ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง ครอบครัวและชุมชน 3) จัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชน โดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้ แบบบูรณาการในรูปแบบของการฝึกอบรม การเรียนทางไกล การประชุม สัมมนา การจัดเวทีแลกเปลี่ยน เรยี นรู้ การจดั กิจกรรมจิตอาสา การสรา้ งชมุ ชนนักปฏิบัติ และรูปแบบอื่นๆ ท่ีเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและ บริบทของชุมชนแต่ละพ้ืนที่ โดยเน้นการดาเนินตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การสร้างจิตสานึก
ความเปน็ ประชาธิปไตย ความเป็นพลเมืองดี การบาเพ็ญประโยชน์ การอนุรักษ์พลังงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อม 4) ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เพ่ือสร้างจิตสานึกและวินัยในชุมชน เช่น การส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในชุมชน การเพิ่มประสทิ ธภิ าพการบริหารจัดการขยะมลู ฝอยของชมุ ชน ศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพยี งและเกษตรทฤษฎใี หม่ประจาตาบลสตั หบี 1.3 การศกึ ษาตามอธั ยาศยั 1) ส่งเสริมให้มีการขยายและพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ในระดับตาบล เพื่อการถ่ายทอดองค์ ความรู้ และจัดกจิ กรรมเพื่อเผยแพร่องคค์ วามรู้ในชุมชนได้อย่างทั่วถงึ 2) จัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรียนร้เู พือ่ ปลูกฝงั นสิ ยั รกั การอา่ น และพัฒนาความสามารถในการ อา่ นและศกั ยภาพการเรยี นรู้ของประชาชนทุกกลุ่มเปา้ หมายให้ได้ระดับอ่านคล่อง อ่านเข้าใจความเขียนคล่อง และอา่ นเชงิ คดิ วิเคราะหพ์ ื้นฐาน และให้ประชาชนสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและทันเหตุการณ์ เพื่อ สามารถนาความรู้ท่ไี ด้รับไปใช้ประโยชนใ์ นการปฏบิ ตั จิ รงิ 3) ส่งเสริมใหม้ กี ารสรา้ งบรรยากาศ และส่ิงแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยสนบั สนนุ การพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ให้เกิดข้ึนอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เช่น พัฒนาห้องสมุดประชาชน ทุกแหง่ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตของชุมชน ส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครส่งเสริมการอ่าน การสร้าง เครือข่ายส่งเสริมการอ่าน จัดหน่วยบริการเคล่ือนที่พร้อมอุปกรณ์เพ่ือส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ที่ หลากหลายออกใหบ้ ริการประชาชนในพน้ื ท่ตี า่ ง ๆ อยา่ งทัว่ ถึง สม่าเสมอ รวมท้ังเสริมสร้างความพร้อมในด้าน สือ่ อปุ กรณ์เพือ่ สนบั สนุนการอ่าน และการจัดกิจกรรมเพอ่ื ส่งเสรมิ การอ่านอย่างหลากหลาย 4) จัดทามุมวทิ ยาศาสตร์เพอ่ื การศึกษา ให้เป็นแหลง่ การเรียนรู้เชิงวิชาการประจาตาบล โดย พฒั นาและจัดทานทิ รรศการ และจัดกิจกรรมท่ีเน้นการเสริมสร้างทักษะ กระบวนการเรียนรู้ และเจตคติทาง วิทยาศาสตร์ เพ่ือให้นักศึกษา ประชาชนนาความรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์ ไปใช้พัฒนาทักษะการคิด วิเคราะห์บนฐานข้อมลู ที่ถูกต้อง และสามารถปรับตวั รองรับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงในอนาคตได้อย่าง มปี ระสทิ ธภิ าพ รวมท้ังเช่ือมโยงกระบวนการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือพฒั นาชุมชน ให้ผู้รับบริการสามารถนาไป ประยุกต์ใชใ้ นการดาเนินชีวิตการพัฒนาอาชพี การรักษาสงิ่ แวดลอ้ ม และการป้องกันภัยพิบัติจากธรรมชาติใน พน้ื ที่ 2. ด้านหลักสูตร สื่อ รูปแบบการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล งานบริการทางวิชาการและ การประกันคุณภาพการศึกษา 2.1 ส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการเรียนการสอน และกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือส่งเสริม การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยทหี่ ลากหลาย ทันสมัย รวมทั้งหลักสูตรท้องถ่ินท่ีสอดคล้องกับ สภาพบริบทของพ้ืนที่ และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและชุมชน เช่น การจัดโปรแกรมการเรียนรู้ รายบุคคล และแผนการเรียนรูร้ ายชุมชน 2.2 พัฒนารปู แบบการจัดการศกึ ษาทางไกลให้มีความทันสมัยดว้ ยระบบหอ้ งเรียนและการควบคุมการ สอบออนไลน์ 2.3 พฒั นาระบบการประเมินเพ่อื เทียบระดับการศึกษา และการเทยี บโอนความรูแ้ ละประสบการณ์ให้ มคี ณุ ภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความต้องการของกล่มุ เปา้ หมายได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ 2.4 ส่งเสริมการพัฒนาสื่อแบบเรียน สื่ออิเล็กทรอนิกส์และสื่ออื่นๆ ท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน กลุ่มเป้าหมายท่วั ไปและกลุม่ เป้าหมายพเิ ศษ
2.5 พัฒนาระบบการวัดผลและประเมินผลการศึกษานอกระบบทุกหลักสูตร โดยเฉพาะหลักสูตรใน ระดับการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐานใหไ้ ดม้ าตรฐาน โดยการนาแบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอเิ ล็กทรอนิกส์ (e- Exam) มาใช้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ 2.6 ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัย พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้และ เผยแพร่รปู แบบการจดั ส่งเสรมิ และสนบั สนุนการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพื่อให้มี การนาไปสู่การปฏบิ ตั ิอยา่ งกว้างขวางและมกี ารพัฒนาให้เหมาะสมกบั บรบิ ทอย่างต่อเน่ือง 2.7 พัฒนาระบบประกันคณุ ภาพภายในสถานศกึ ษาให้ไดม้ าตรฐาน เพ่อื พรอ้ มรบั การประเมินคุณภาพ ภายนอก โดยพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสาคัญของระบบการประกันคุณภาพ และสามารถดาเนนิ การประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศึกษาได้อย่างต่อเน่ืองโดยใช้การประเมินภายในด้วย ตนเอง และจัดให้มีระบบสถานศึกษาพี่เล้ียงเข้าไปสนับสนุนอย่างใกล้ชิด สาหรับสถานศึกษาท่ียังไม่ได้เข้ารับ การประเมนิ คุณภาพภายนอก ให้พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กาหนด 3. ดา้ นเทคโนโลยเี พ่ือการศึกษา 3.1 ผลติ และพฒั นารายการวทิ ยุและรายการโทรทัศน์เพอ่ื การศึกษาให้เช่อื มโยงและตอบสนองต่อการ จดั กิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาเพ่ือกระจายโอกาสทางการศึกษา สาหรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ให้มีทางเลือกในการเรียนรู้ท่ีหลากหลายและมีคุณภาพ สามารถพัฒนาตนเองให้ รเู้ ทา่ ทนั ส่ือและ เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการสอ่ื สาร เช่น รายการพัฒนาอาชีพเพ่ือการมีงานทารายการติวเข้มเติมเต็มความรู้ ฯลฯ เผยแพร่ทางสถานีวิทยุศึกษา สถานีวิทยุโทรทัศน์เพ่ือการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ (ETV) และทาง อนิ เทอรเ์ นต็ 3.2 พัฒนาช่องทางการเผยแพร่การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยผ่านระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแบบออนไลน์ เพื่อส่งเสริมให้ครู กศน.นาเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สอื่ สารมาใช้ในการสร้างกระบวนการเรียนร้ดู ้วยตนเอง (Do It Yourself: DIY) 3.3 พฒั นาสถานีวทิ ยศุ กึ ษา และสถานโี ทรทัศน์เพื่อการศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการ ออกอากาศให้กลมุ่ เปา้ หมายสามารถใชเ้ ปน็ ช่องทางการเรียนรทู้ ่มี ีคุณภาพไดอ้ ยา่ งตอ่ เนื่องตลอดชีวิต โดยขยาย เครือข่ายการรับฟังให้สามารถรับฟังได้ทุกท่ี ทุกเวลา ครอบคลุมพ้ืนท่ีท่ัวประเทศและเพิ่มช่องทางให้สามารถ รบั ชมรายการโทรทัศนไ์ ด้ทั้งระบบ Ku - Band , C - Band และทางอินเทอร์เน็ตพร้อมที่จะรองรับการพัฒนา เปน็ สถานวี ทิ ยโุ ทรทัศน์เพอ่ื การศึกษาสาธารณะ (Free ETV) 3.4 พัฒนาระบบการให้บริการส่ือเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาให้ได้หลายช่องทางท้ังทางอินเทอร์เน็ต และรูปแบบอื่น ๆ เช่น Application บนโทรศัพท์เคล่ือนที่ และ Tablet, DVD, CD, VCD และ MP3 เป็นต้น เพ่ือใหก้ ลุม่ เป้าหมายสามารถเลอื กใช้บริการเพ่ือเข้าถงึ โอกาสทางการศึกษาและการเรยี นรไู้ ด้ตามความตอ้ งการ 3.5สารวจ วิจัย ติดตามประเมินผลด้านสื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอย่างต่อเน่ือง และนาผลมาใช้ใน การพัฒนางานใหม้ ีความถกู ตอ้ ง ทนั สมัยและสามารถสง่ เสริมการศกึ ษาและการเรียนร้ตู ลอดชวี ติ ของประชาชน ไดอ้ ย่างแท้จรงิ 5. ด้านบคุ ลากรระบบการบรหิ ารจัดการ และการมีสว่ นร่วมของทุกภาคสว่ น 5.1 การพฒั นาบคุ ลากร 1) พัฒนาบุคลากรทุกระดับ ทุกประเภทให้มีสมรรถนะสูงข้ึนอย่างต่อเน่ือง ท้ังก่อนและ ระหว่างการดารงตาแหน่งเพ่ือให้มีเจตคติท่ีดีในการปฏิบัติงาน สามารถปฏิบัติงานและบริหารจัดการการ
ดาเนินงานของหน่วยงานและสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมท้ังส่งเสริมให้บุคลากรในสังกัดพัฒนา ตนเองเพ่อื เลื่อนตาแหน่งหรือเลอ่ื นวทิ ยฐานะโดยเนน้ การประเมินวิทยฐานะเชงิ ประจกั ษ์ 2) พัฒนาหวั หนา้ กศน. ตาบล ให้มีสมรรถนะสูงข้ึนในการบริหารจัดการ กศน. ตาบลสัตหีบ และการปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการเป็นนักจัดการความรู้และผู้อานวย ความสะดวกในการเรียนร้เู พอ่ื ให้ผู้เรยี นเกดิ การเรียนรู้ที่มีประสทิ ธิภาพอย่างแทจ้ รงิ 3) พัฒนาครู กศน. และผู้ที่เก่ียวข้องให้สามารถจัดรูปแบบการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพโดย สง่ เสริมใหม้ คี วามรคู้ วามสามารถในการจดั ทาแผนการสอน การจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล และการวจิ ยั เบอื้ งตน้ 4) ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการ กศน. ตาบลสัตหีบ เพ่ือให้มีส่วนร่วมในการ บรหิ ารการดาเนินงานตามบทบาทภารกิจของ กศน. ตาบลสตั หีบ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 5) พัฒนาศักยภาพบุคลากรที่รับผิดชอบการบริการการศึกษาและการเรียนรู้ให้มีความรู้ ความสามารถและความเป็นมืออาชพี ในการจัดบริการส่งเสรมิ การเรียนรตู้ ลอดชีวิตของประชาชนตาบลสัตหบี 6)พฒั นาอาสาสมคั ร กศน.สัตหีบ ให้สามารถทาหน้าทเ่ี ป็นผูจ้ ัด ส่งเสริมและสนับสนุนการจดั 7)การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ 8) เสริมสร้างสัมพันธภาพระหว่างบุคลากร รวมท้ังภาคีเครือข่ายทั้งในตาบลและตาบล ใกลเ้ คียงในทุกระดับเพ่อื เพิ่มประสทิ ธิภาพในการทางานร่วมกนั โดยจดั ใหม้ ีกจิ กรรมการพัฒนาสมรรถนะ และ เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบคุ ลากร และภาคีเครอื ข่ายในรปู แบบทห่ี ลากหลายอย่างตอ่ เน่ือง 5.2 การพฒั นาโครงสร้างและอัตรากาลงั 1) จดั ทาแผนการพฒั นาโครงสร้างพื้นฐานและดาเนินการปรับปรุงสถานท่ี และวัสดุอุปกรณ์ ใหม้ ีความพรอ้ มในการจัดการศกึ ษา 2) แสวงหาภาคีเครือข่ายในทอ้ งถ่ินเพื่อการมีส่วนร่วมในการดาเนินกิจกรรม การศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมทั้งระดมทรัพยากรเพื่อนามาใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้มี ความพร้อมสาหรบั ดาเนนิ กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรียนร้ขู องประชาชน 3) บริหารอตั รากาลังท่ีมีอยูท่ ง้ั ในส่วนที่เปน็ ขา้ ราชการ พนักงานราชการ และลกู จ้างใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพสูงสุดในการปฏิบตั งิ าน 5.3 การพฒั นาระบบบริหารจัดการ 1) เรง่ ผลักดนั ใหม้ กี ารประกาศใช้กฎหมายวา่ ดว้ ยการศึกษาตลอดชวี ติ 2) เพิ่มประสิทธภิ าพการบรหิ ารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกากับ ควบคุมและ เรง่ รดั การเบกิ จา่ ยงบประมาณให้เปน็ ตามเป้าหมายท่กี าหนดไว้ 3) พัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมัย และเชื่อมโยงกันทั่วประเทศ อย่างเป็นระบบเพ่ือให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดสามารถนาไปใช้เป็นเครื่องมือสาคัญในการบริหาร การวางแผน การปฏบิ ัติงาน การตดิ ตามประเมินผล และการนาผลมาพัฒนาการดาเนินงานอย่างต่อเนื่องตาม วงจรคุณภาพ เดมมิ่ง (PDCA) รวมท้ังจัดบริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอย่างมี ประสิทธิภาพ 4) พัฒนาระบบฐานข้อมูลรวมของนักศึกษา กศน.ตาบลสัตหีบ ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง ทันสมยั และเชื่อมโยงกนั ทั่วประเทศ สามารถสืบค้นและสอบทานได้ทันความต้องการเพ่ือประโยชน์ในการจัด การศกึ ษาใหก้ บั ผเู้ รยี นและการบรหิ ารจัดการอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 5) ส่งเสริมให้มีการจัดการความรู้ในหน่วยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมทั้งการศึกษา วจิ ัยเพ่ือสามารถนามาใช้ในการพฒั นาประสิทธิภาพการดาเนินงานท่ีสอดคลอ้ งกับความต้องการของประชาชน และชมุ ชนพรอ้ มทง้ั พัฒนาขดี ความสามารถเชิงการแข่งขันของหนว่ ยงานและสถานศกึ ษา
6) สร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วนท้ังในประเทศและต่างประเทศ ในการพัฒนาและ สง่ เสริมการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย และการเรยี นรู้ตลอดชีวติ 5.4 การกากับ นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผล 1) สร้างกลไกการกากับ นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผลการดาเนินงานการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยใหเ้ ช่ือมโยงกับหนว่ ยงาน สถานศึกษา และภาคีเครอื ข่ายทง้ั ระบบ 2)ให้หนว่ ยงานและสถานศกึ ษาทเ่ี กี่ยวข้องทกุ ระดับ พฒั นาระบบกลไกการกากบั ตดิ ตามและ รายงานผลการนานโยบายสูก่ ารปฏบิ ตั ิ ใหส้ ามารถตอบสนองการดาเนินงานตามนโยบายในแต่ละเรื่องได้อย่าง มีประสทิ ธภิ าพ 3) ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร และส่ืออ่ืน ๆ ที่เหมาะสม เพื่อการ กากบั นิเทศ ตดิ ตาม ประเมนิ ผล และรายงานผลอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 4) พัฒนากลไกการติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการตามคารับรองการปฏิบัติราชการ ประจาปีของ กศน.ตาบล เพ่ือการรายงานผลตามตัวชวี้ ัดในคารบั รองการปฏบิ ัติราชการประจาปีของสานักงาน กศน. ใหด้ าเนินไปอย่างมีประสิทธภิ าพ เปน็ ไปตามเกณฑ์ วิธกี าร และระยะเวลาทีก่ าหนด 5) ให้มีการเชื่อมโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกองค์กร ตั้งแต่ส่วนกลาง ภูมิภาค กลุ่มจังหวัด จังหวัด อาเภอ/เขต และตาบล/แขวง เพื่อความเป็นเอกภาพในการใช้ ขอ้ มูล และการพฒั นางานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ทศิ ทางการพัฒนาและโอกาสของ กศน.ตาบลสัตหบี 1. การพฒั นาชุมชนตาบลสัตหบี ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ชุมชนตาบลสัตหีบ ประชากรในพื้นท่ีส่วนใหญ่ประกอบอาชีพท่ีหลากหลาย เช่น ทาประมง ค้าขาย รับจา้ งทวั่ ไป พนักงานบริษัทเอกชนเน่ืองจากอยู่ใกล้เขตใกล้โรงแรม และ อาชีพเกษตรกรเนื่องจากเป็นพ้ืนที่ ราบลุ่มภูเขา ดินมีความอุดมสมบูรณ์ ทิศทางการพัฒนาชุมชนท่ีเหมาะสมและมีความย่ังยืนคือการใช้แนวคิด ทิศทางการพฒั นาประเทศสู่ความยัง่ ยนื ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติและ สงิ่ แวดลอ้ มทมี่ อี ยู่ในชุมชนอย่างเหมาะสมกับสภาพพ้ืนที่ และวิถีการดาเนินชีวิตในประจาวันของคนในชุมชน เป็น 6 ทุน ได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนสังคม ทุนกายภาพ ทุนทางการเงิน ทุนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทนุ วฒั นธรรมมาใช้ประโยชนอ์ ยา่ งบูรณาการและเกื้อกูลกัน โดยเฉพาะการสร้างฐานทางปัญญา เพ่ือเป็น ภูมิคุ้มกันให้กับคนในสังคม ภาคเกษตร รวมท้ังการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างย่ังยืน ควบคู่ไปกบั การเสริมสร้างระบบ ธรรมาภิบาลและความสมานฉันท์ในชุมชน เพื่อให้ประชาชนในพื้นท่ีตาบล สตั หีบและชุมชนใกล้เคยี งอยรู่ ่วมกนั ในสังคมอย่างมีความสุขและเปน็ ธรรม 2. การส่งเสริมการเรยี นรูต้ ลอดชีวิตของชมุ ชนตาบลสตั หบี กศน.ตาบลสตั หบี มงุ่ เนน้ ใหป้ ระชาชนในพื้นท่ไี ดเ้ รยี นรู้ ตลอดชีวิตอยา่ งมคี ุณภาพ โดยพัฒนาคุณภาพ การศึกษาและการเรียนรู้ อย่างเป็นระบบโดยใช้ ทรัพยากรท่ีมีอยู่ในชุมชนมาช่วยในการจัดการศึกษาเพ่ิม โอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้จากการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในชุมชนเพื่อให้ประชาชนทุ ก กลมุ่ เป้าหมายได้เรยี นรู้ ตลอดชวี ติ ดา้ นการศกึ ษานอกระบบและตามอัธยาศยั อยา่ งมคี ุณภาพมีเป้าหมายเพ่ือให้ ประชาชนในพ้ืนท่ีเป็นคนเกง่ คนดี มคี วามสุข มีความรู้ ความชานาญด้านทักษะการประกอบอาชีพมีคุณธรรม จริยธรรมใฝ่เรียนรู้ และแสวงหาความรู้ อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิต ดารงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง มีความสุข มีสุขภาพท้ังกายและใจท่ีสมบูรณ์สามารถประกอบอาชีพและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมี ความสุข 3. การจดั การศึกษาเพอื่ ส่งเสริมศิลปะและวฒั นธรรมในทอ้ งถ่นิ ธรรม
กศน.ตาบลสตั หบี มงุ่ เน้นให้ประชาชนในพ้ืนที่ศึกษาเรยี นรู้ด้านทานุบารุงศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม ในทอ้ งถนิ่ ดงั นี้ 3.1 จัดใหม้ กี ารศึกษาและการเรยี นรู้ ทางเลือกตามความสนใจของผูเ้ รยี นและกลุ่มเปา้ หมาย 3.2 สนบั สนุนการศึกษาให้สอดคลอ้ งกบั ความจาเป็นของผู้เรยี นโดยนาแนวทางการใช้คูปองการศึกษา เพอื่ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยมาปรับใช้กบั การจัดการศึกษาของ กศน.ตาบลสตั หีบ 3.3 ร่วมมอื กับภาคเี ครอื ขา่ ยองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นตาบลสตั หบี กานัน ผู้ใหญ่บา้ นและประชาชน ท่ัวไปจดั การการเรยี นรู้ท่ีมคี ุณภาพและท่วั ถงึ 3.4 จัดการศึกษาให้กับทุกกลุ่มเป้าหมายโดยส่งเสริมการเรียนรู้ ตลอดชีวิตโดยเน้นความร่วมมือ ระหว่างผู้เกยี่ วข้อง 3.5 พัฒนาตนเองใหม้ คี ณุ ภาพและมีจติ วญิ ญาณของความเปน็ ครู 3.6 สนับสนุนการมีส่วนร่วมกับองค์กรทางศาสนาในชุมชน เพ่ือการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม การสร้างสันติสุขค่านิยมไทย 12 ประการและจัด กิจกรรมส่งเสริมความปรองดองสมานฉันท์ในชุมชนอย่าง ย่งั ยืน 3.7 สนับสนุนภาคีเครือข่าย ประชาชนในพื้นท่ีให้มีการอนุรักษ์ ฟ้ืนฟู และเผยแพร่มรดกทาง วฒั นธรรม ภาษาไทย และภาษาถน่ิ ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่นเพื่อ การเรียนรู้ การสรา้ งจิตสานึกความเปน็ ไทยและการ เพม่ิ มลู คา่ ทางเศรษฐกิจใหแ้ ก่คนในชุมชน 3.8 สนับสนุนการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้านและวัฒนธรรมสากล ตลอดจนสง่ เสรมิ และอนรุ กั ษภ์ าษาท้องถ่ินในชุมชน 3.9 ปลูกฝังค่านิยมและจิตสานึกดีให้เยาวชนและประชาชนพ้ืนที่ ได้มีโอกาสแสดงออกอย่าง สรา้ งสรรค์ ตวั ชวี้ ัดความสาเร็จตามยุทธศาสตร์ และจดุ เน้น กศน.ตาบลสตั หบี 1. จานวนกลุ่มเป้าหมายในตาบลสัตหีบมี ผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษาท่ีได้รับบริการ การศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พ้นื ฐานโดยไมเ่ สยี คา่ ใช้จ่ายมจี านวนเพิ่ม 2. จานวนประชากรกลุม่ เปา้ หมายในตาบลสัตหีบท่ีเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้/ได้รับบริการกิจกรรม การศกึ ษาตอ่ เนือ่ ง และการศึกษาตามอัธยาศยั ท่สี อดคลอ้ งกบั สภาพ ปญั หา และความตอ้ งการไดโ้ ดยทว่ั ถึง 3. รอ้ ยละของผู้เรียนและผู้รับบริการในตาบลสัตหีบที่มีผลสัมฤทธ์ิตามจุดมุ่งหมายการเรียนรู้ของแต่ ละหลักสตู ร/กิจกรรมเพิ่มขึน้ 4. รอ้ ยละของผไู้ ม่ร้หู นงั สอื ในตาบลสัตหีบท่ผี า่ นการประเมินการรู้หนังสือตามหลักสูตรส่งเสริมการ รู้หนังสือเพิ่มข้ึน 5. รอ้ ยละของชมุ ชนในตาบลสตั หบี ที่มีการจัดการความรู้และกระบวนการเรียนรู้อันเป็นผลเน่ืองจาก การเข้ารว่ มกิจกรรมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยเพมิ่ ขึ้น 6. รอ้ ยละของชุมชนในตาบลสัตหีบท่ีใช้แหล่งการเรียนรู้ชุมชนในการจัดกระบวนการเรียนรู้ในชุมชน เพิม่ ขึ้น 7. จานวนประชาชนกลุ่มเป้าหมายในตาบลสัตหีบท่ีได้รับการศึกษาอบรมในหลักสูตรภาษาอังกฤษ และภาษากลมุ่ ประเทศอาเซยี นมีจานวนเพม่ิ มากขน้ึ 8. ร้อยละของผู้รบั การฝึกอบรมในหลักสูตรภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษากลุ่มประเทศอาเซียน และ อาเซียนศึกษาที่ผา่ นเกณฑ์การประเมินตามหลักสตู รมีจานวนเพิม่ มากขึน้ 9. จานวนกิจกรรม/หลักสูตรที่ใช้กระบวนการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์/เทคโนโลยีที่เหมาะสมเป็น กระบวนการ/สาระในการเรยี นรูใ้ น กศน.ตาบลสตั หบี มีกิจกรรมที่หลากหลายมากยิง่ ข้นึ
10. จานวนองค์กรภาคส่วนต่างๆ ในเขตพ้ืนท่ีรับผิดชอบของ กศน.ตาบลสัตหีบท่ีร่วมเป็นภาคี เครอื ข่ายในการดาเนนิ งานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยมีจานวนเพ่ิมขนึ้ 11. จานวน/ประเภทของส่ือ และเทคโนโลยีทางการศึกษาที่มีการจัดทา/พัฒนาและนาไปใช้เพ่ือ สง่ เสริมการเรียนรขู้ องผู้เรียน/ผู้รบั บรกิ ารการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัยของ กศน.ตาบลสัต หีบมีจานวนเพมิ่ ขึน้ หลากหลาย 12. จานวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนท่ัวไปในเขตพ้ืนที่รับผิดชอบของ กศน.ตาบลสัตหีบท่ี เข้าถึงบริการความรู้นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยผ่านช่องทางส่ือเทคโนโลยีทางการศึกษา และ เทคโนโลยกี ารส่อื สารมจี านวนเพมิ่ ข้นึ ปัจจยั หลักแหล่งความสาเร็จ กศน.ตาบลสัตหบี 1. กศน.ตาบลสตั หบี ยึดหลกั วชิ า หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักปรัชญาคิดเปน็ หลกั ธรมมาภิบาล และผลสัมฤทธใิ์ นการบรหิ ารจดั การ ทั้งด้านวชิ าการงบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการ บรหิ ารท่ัวไปทง้ั ภายในกศน.ตาบลสตั หีบ และการทางานรว่ มกันกับภาคเี ครือขา่ ย 2. กศน.ตาบลสัตหีบ ใช้ยุทธศาสตร์/กลยุทธ์ในการดาเนินงาน ท้ังที่ยึดพ้ืนท่ี ยึดสภาวะแวดล้อม ยึด กล่มุ เป้าหมายาและความต้องการยึดประเดน็ ปญั หาของกลุม่ เปา้ หมายหรือประเด็นการพัฒนา ยึดความสาเร็จ และยึดนโยบายเปน็ ฐาน 3. กศน.ตาบลสัตหีบ การเน้นการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งเครือข่ายเชิงพ้ืนท่ี เครือขา่ ยเชิงภารกิจและการสรา้ งความเขม้ แข็งร่วมมอื และความยงั่ ยืนในการเปน็ ภาคีเครอื ขา่ ย 4. กศน.ตาบลสัตหีบ เป็นฐานและสถานีปลายทาง ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้กับประชาชนใน พ้นื ท่ี โดยได้รับการพัฒนาให้มีศกั ยภาพและพร้อมในการปฏบิ ัติงานตลอดเวลา 5. กศน.ตาบลสัตหีบ ใช้สถานศึกษาเป็นกลไกขับเคล่ือนการบริหารนโยบายในระดับพ้ืนท่ี โดยมี คณะกรรมการสถานศึกษาคณะกรรมการ กศน.ตาบลเป็นผู้เสนอแนะ กากับติดตาม นิเทศการดาเนินงาน เพอื่ ให้สามารถจดั การศึกษาในระดับพน้ื ฐานไดอ้ ยา่ งคลอ่ งตัวและมีประสทิ ธิภาพ 6. กศน.ตาบลสัตหีบ มีข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มตามจุดเน้น มาใช้ในการวางแผนการจัด การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และ ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ในชุมชนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 7. กศน.ตาบลสัตหีบ มีระบบการนิเทศกากับติดตามและรายงานผล การปฏิบัติงานและการใช้จ่าย งบประมาณท่ีสามารถตรวจสอบความก้าวหน้าในการดาเนินงานไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 8. กศน.ตาบลสัตหบี มกี ลไก/ระบบทส่ี ามารถเชื่อมโยงการทางานระหว่างส่วนราชการและหน่วยงาน ตา่ งๆ ทไ่ี ด้รบั มอบหมายจากสถานศึกษาเช่น ระบบ ฐานข้อมูลที่เก่ียวข้องและการจัดกิจกรรมเพื่อตอบสนอง นโยบายเรง่ ด่วนหรอื นโยบายเฉพาะทไ่ี ด้รับมอบหมายจากสถานศึกษาได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ 9. กศน.ตาบลสัตหีบ มีหน่วยงาน/สถานศึกษารับผิดชอบตัวชี้วัดความสาเร็จ ตามยุทธศาสตร์และ จุดเน้นที่ตรงตามภารกิจอย่างชัดเจนท่ีกากับติดตามและรายงานผลตัวช้ีวัดทั้งส่วนกลางระดับจังหวัด และ ระดับสถานศกึ ษาอย่างเปน็ ระบบ จดุ เนน้ ของ กศน.ตาบลสัตหบี และภาคีเครอื ข่าย 2.1 ผู้บริหารสถานศึกษา ครู บุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา คณะกรรมการ กศน.ตาบล และครู กศน.ตาบล ทุกคน ได้รับการพัฒนาให้มี ศักยภาพและความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจ ตามบทบาทหนา้ ที่อย่างมปี ระสิทธิภาพ
2.2 มีการประสานเช่อื มโยงการทางานตามโครงสร้างภายใน กศน.ตาบลกับภาคีเครือข่ายทั้งในระดับ นโยบายและระดับปฏิบัติอย่างเป็นระบบโดยมีเอกภาพในเชิงนโยบาย และเน้นผลสัมฤทธิ์เป็นเป้าหมาย ความสาเรจ็ ในการทางาน 2.3 กศน.ตาบลมีแผนจุลภาค (Micro Planning) เป็นเคร่ืองมือในการจัดกิจกรรมหรือออกแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ ทางการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายใน พนื้ ท่ี โดยมีข้อมูลพื้นฐานท่ีสาคัญ ได้แก่ สภาพทางกายภาพของชุมชน ปัญหา/ความต้องการของประชาทาง การศกึ ษา กลมุ่ เป้าหมาย แตล่ ะกลุ่ม แต่ละประเภท แหล่งวิทยากรชุมชน (ทุนมนุษย์ ทุนสังคมกายภาพ และ ทุกการเงิน) ซงึ่ มกี ารปรบั ปรงุ ข้อมูลดงั กลา่ วให้เป็นปัจจบุ ันทกุ รอปงี บประมาณ จุดเน้นดา้ นผลสัมฤทธ์ิ กศน.ตาบลสตั หีบ 3.1 ประชากรกลุ่มเป้าหมาย อาเภอสัตหีบ ที่สาเร็จหลักสูตรหรือร่วมกิจกรรมการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย มีผลสัมฤทธิ์ท่ีมีคณุ ภาพ ตรง ตามจดุ มงุ่ หมายของหลักสูตรหรือกิจกรรมการศึกษา /การเรียนรู้ท่กี าหนดไว้ และสามารถนาความรู้ และประสบการณก์ ารเรียนรโู้ ยชนไ์ ดจ้ รงิ ทไ่ี ด้รับไปใช้ 3.2 นักศึกษา/ผู้เรียนท่ีสาเร็จหลักสูตรการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มีคุณธรรม จริยธรรม ยึดค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ในการดาเนินชีวิตและมีความใฝ่รู้ ใฝ่เรียนอย่างต่อเนื่อง ตลอดชีวิต เอกสารที่เกี่ยวข้อง การทาขนมบวั ลอยเบญจรงค์ สว่ นผสม 1. แปง้ ขา้ วเหนยี วสาปะหลงั 750 กรมั (แบง่ 150 กรมั 5 สว่ น) 2. นา้ ตาลโตนด 200 กรัม 3. กะทิ 1000 ml 4. เกลือ 1 ชช 5. ใบเตย 6. ดอกอัญชัน 7. มนั ม่วงนง่ึ สกุ 8. มันไข่นงึ่ สกุ 9. เผือกนึง่ สุก 10. ฟกั ทองน่ึงสกุ ขั้นตอนการทา 1. เดด็ ขว่ั ดอกอัญชนั ล้างให้สะอาด นาไปต้มใหเ้ ดือด นานา้ ดอกอญั ชันมานวดกับแป้ง150 กรมั นวดให้ เนยี น ได้สฟี า้ 2. นง่ึ มนั มว่ ง มันไข่ เผือก ฟกั ทองใหส้ กุ นา มนั ม่วงทนี่ ึง่ สุก มานวดกับแปง้ 150 กรมั นวดใหเ้ นยี น ไดส้ มี ่วง นา มันไข่ ท่นี งึ่ สุก มานวดกบั แป้ง150 กรัม นวดใหเ้ นยี น ไดส้ คี รมี นา ฟักทอง ท่ีนึ่งสกุ มานวดกับแป้ง150 กรมั นวดใหเ้ นยี น ไดส้ เี หลือง นา เผือก ที่นงึ่ สุก มานวดกบั แปง้ 150 กรมั นวดให้เนยี น ได้สขี าว
3. จากนั้นแป้งมาป้นั เปน็ ลูกกลมๆ 4. ทานากะทิ นากะทิตงั้ ไฟ ใส่เกลอื และใบเตยลงไป เมอื่ เร่มิ ร้อน ใหใ้ สน่ ้าตาลปีบบลงไป คนให้ละลาย เขา้ กัน
5. นาแป้งมาตม้ ให้สุก ลงในหมอ้ น้ากะทิ เทคโนโลยดี ิจิตอล (Digital Technology) ปัจจุบันไม่ว่าท่านจะอยู่ท่ีไหน จะทาอะไร ต้ังแต่ต่ืนจนเข้านอน ก็ต้องเกี่ยวข้องกับคาว่าดิจิตอล จน กล่าวได้ว่า โลกเราได้เปลี่ยนจากยุคอนาลอกเข้าสู่ยุคดิจิตอลแล้ว ดังจะสังเกตได้จากเคร่ืองไม้เครื่องมือ หรือ อุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ท่ีอยู่รอบ ๆ ตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรับโทรทัศน์จากเดิมท่ีใช้หลอดคาโธดเรย์ทิวบ์ (CRT) แสดงภาพเป็นเส้น ๆ กลายมาเป็น LED (Light Emitting Diode) ที่แสดงภาพเป็นจุด ๆ หรือพิกเซล (pixel) เทคโนโลยีดิจิตอล (Digital Technology) พลเรือตรี ด๊อกเตอร์ สหพงษ์ เครือเพ็ชรผู้อานวยการ ศนู ยว์ จิ ยั และพัฒนาการทหาร กรมวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหมและเม่ือเร็ว ๆ นี้ระบบการส่งสัญญาณ โทรทัศน์ของไทย ก็ได้เปลี่ยนจากระบบอนาลอกมาเป็นระบบดิจิตอล การเก็บข้อมูลต่าง ๆ เช่น การ บันทึกเสียงหรือภาพยนตร์ เดิมใช้การบันทึกร่องท่ีมีความลึกต่าง ๆ ลงบนเทป (ความลึกของร่องข้ึนอยู่กับ ขนาดสญั ญาณ) ก็กลายมาเปน็ การบันทึกข้อมูลดจิ ติ อลหรือไบนารีคอื มีแคห่ ลมุ (Pit) แทนตัวเลข 0 กับไม่มี หลุม(Land) แทนตัวเลข 1 เท่านั้น ลงบนแผ่นซีดีหรือดีวีดีด้วยแสงเลเซอร์ ระบบโทรศัพท์ท่ีรับ-ส่งสัญญาณ อนาลอกผ่านสายทองแดงก็เปลี่ยนมาเป็นการรับ-ส่งสัญญาณดิจิตอลผ่านสายไฟเบอร์ออปติก กล้องถ่ายภาพ จากเดิมท่ีใช้ฟิล์มบันทึกขนาดของแสงท่ีมาจากวัตถุ ก็เปล่ียนมาใช้ซีซีดี (Charge Couple Device) บันทึก แทน นอกจากนั้นยังมีอีกมายมายที่จะกล่าวถึงเทคโนโลยีดิจิตอลทาให้การใช้ชีวิตประจาวัน และการทางาน สะดวกสบายอยา่ งไมเ่ คยเป็นมาก่อน หลักการทางานอย่างไร การประยกุ ต์ใช้งานดา้ นต่าง ๆ ตลอดจนอนาคตของระบบดิจิตอล ระบบดจิ ิตอลคืออะไร? อันดับแรกเรามาทาความเข้าใจคาว่า ระบบหรือ system ในทางวิศวกรรมไฟฟ้าก่อนคือ การรวม อุปกรณห์ รือช้ินสว่ นต่าง ๆ ทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ เช่น ความต้านทาน ตัวเก็บประจุ ทรานซิสเตอร์ วงจรรวม (IC) เพื่อทาหน้าท่ีประมวลสัญญาณท่ีเข้ามา (input) ให้มีคุณลักษณะตามท่ีเราต้องการ แล้วส่งออกไป(Output) เชน่ ระบบขยายเสยี ง ระบบเครอื่ งรบั วิทยุ ระบบควบคุม เป็นต้น ในทางวิศวกรรมไฟฟ้าแบ่งระบบได้เป็นสอง ชนดิ คอื ระบบอนาลอก (Analog) และระบบดิจติ อล (Digital) ระบบดจิ ิตอลจริง ๆ แล้วก็ยังอยู่บนพ้ืนฐานของ ระบบอนาลอก คือมีเซนเซอร์รับสัญญาณจากภายนอกเข้ามาทาการประมวลสัญญาณ(เช่น เพ่ิมขนาด หน่วง เวลา ดีมอดูเลท) แล้วก็ส่งสัญญาณที่ประมวลแล้วกลับออกไปตัวอย่างเช่น ระบบขยายเสียง (amplifier) มี ไมโครโฟนเป็นเซนเซอร์ทาหนา้ ที่เปล่ยี นสัญญาณเสยี ง (อนาลอก) ให้เป็นสัญญาณไฟฟ้า (กระแส) ส่งเข้าไปใน วงจรขยายเสยี ง(ประกอบดว้ ย ทรานซิสเตอร์ ตัวเก็บประจุความต้านทาน อื่น ๆ) เพ่ือเพ่ิมขนาดของสัญญาณ
กระแสให้สงู ข้นึ (ประมวลผล) จากน้นั กเ็ ปลี่ยนสญั ญาณกระแสกลับเปน็ สัญญาณเสียงด้วยลาโพงตามภาพ ทั้งนี้ กเ็ พ่ือใหไ้ ดเ้ สียงทีม่ คี ณุ ภาพดีข้นึ (ดังขึ้น)ส่วนระบบดจิ ติ อล ตา่ งจากระบบอนาลอกตรงการประมวลสัญญาณ ที่ ใช้ตวั เลข (digit) แทนขนาดของสัญญาณ (กระแส) โดยใชเ้ ลขฐานสอง (๐ กับ ๑) ซ่ึงเป็นตัวเลขที่คอมพิวเตอร์ เข้าใจได้ ดังน้ันระบบจึงต้องมีตัวเปลี่ยนสัญญาณอนาลอกเป็นตัวเลขฐานสองเพิ่มขึ้นมา (Analog to Digital converter หรือ A/D) เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทาการประมวลผลทางตัวเลข (digital) ได้ (นั่นคือท่ีมาของคาว่า Digital system) เม่ือประมวลผลทางเลขเสร็จ สัญญาณนี้จะถูกเปลี่ยนกลับเป็นสัญญาณอนาลอกอีกครั้ง เพ่ือให้สู่โลกแห่งความเป็นจริงด้วยตัวเปลี่ยนเป็นอนาลอก (Digital to Analog converter หรือ D/A) ตาม ภาพยุคแรก ๆ ของระบบดิจิตอล ระบบมีขนาดใหญ่มาก เนื่องจากใช้คอมพิวเตอร์ซึ่งมีขนาดใหญ่ในการ ประมวลผล ต่อมาวิวฒั นาการทางด้านการผลิตไอซี (Integrated circuit) หรือIC ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วทา ให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลง กินกระแสไฟน้อยลง ประมวลผลได้รวดเร็วข้ึน และราคาถูกลง ทาให้ระบบ ดิจิตอลมีความนิยมมากขึ้นนอกจากน้ันแล้วจากระบบดิจิตอลยังมีข้อดีกว่าระบบอนาลอกมากมายหลาย ประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัญญาณรบกวนท่ีน้อยกว่ามากเร่ืองความผิดพลาดในการแปลงสัญญา ณ กลับมีน้อยมาก เรื่องความคมชัด เร่ืองการเข้าถึงข้อมูลท่ีรวดเร็วกว่า เรื่องการเก็บรักษาท่ีสามารถอยู่ได้เป็น ร้อยปี เรื่องการรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่ยากต่อการถอดรหัส เรื่องการออกแบบและพัฒนาระบบที่ทาได้ ง่ายและรวดเร็วกว่าด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น MATLAB และท่ีสาคัญผลิตภัณฑ์สามารถผลิตคราวละ จานวนมาก ๆ โดยมีคุณภาพเหมือนกนั ทุกประการ ทาให้สนิ ค้ามีราคาถูกอย่างไม่น่าเช่ือ และอีกมากมายมาถึง ตรงนี้ผมหวังว่าท่านคงจะเข้าใจหลักการและที่มาที่ไปของระบบดิจิตอลบ้างไม่มากก็น้อย ต่อไปจะกล่าวถึง ระบบดิจิตอลทมี่ ผี ลกระทบต่อชีวิตประจาวนั และการทางาน ระบบดิจิตอล จากท่กี ลา่ วถงึ ความแพรห่ ลายและหลักการทางานของระบบดิจิตอลพอสงั เขปมาแล้วข้างต้น ในหัวข้อ นจ้ี ะขอกลา่ วถึงรายละเอียดของระบบดิจติ อลบางตัวท่ีเราใชก้ ันอยูใ่ นชีวิตประจาวัน Compact Disk (CD) การเกบ็ ขอ้ มูลดว้ ยแผ่นซีดีเปน็ การปฏวิ ัตกิ ารเก็บข้อมูลในอดีตอย่างไม่มียุคไหนทามาก่อน ข้อมูลที่จะ ถกู เก็บ เชน่ เสียงเพลง จะถกู เปลีย่ นเป็นดิจิตอลหรอื ไบนารี (0 หรอื 1) แลว้ ไปควบคุมลาแสงเลเซอร์ให้ทาการ ยงิ หรอื ไม่ยงิ แสงลงบนแผน่ ซีดีทีท่ าจากพลาสติกชนดิ โพลคี ารบ์ อรเ์ นต ลาแสงเลเซอร์จะไปทาให้เกิดร่อง (pits) ร่องเหล่านี้มีขนาดเล็กมากกว้างประมาณ 0.5 ไมครอน (1 ไมครอน = หนึ่งในล้านเมตร) ยาว 0.83 ไมครอน และลึก125 นาโนเมตร (1 นาโนเมตร = หนึ่งในพันล้านเมตร) โดยแต่ละร่องห่างกัน 1.6 ไมครอนในการอ่าน ขอ้ มลู จะใช้เลเซอร์ความยาวคลนื่ เดยี วกับทเี่ ขยี น โดยโฟกสั แสงเลเซอร์ไปบนแผ่นซีดี ลาแสงเลเซอร์ท่ีโฟกัสจะ มขี นาดเล็กใกล้เคียงกับร่องท่ีถูกบันทึก เมื่อแสงเลเซอร์ตกกระทบร่องจะไม่มีการสะท้อนกลับออกมา(เพราะ แสงท่ีสะท้อนภายในร่องมีเฟสต่างกับแสงท่ีตกกระทบ 180 องศาทาให้หักล้างกัน) ความหนาแน่นข้อมูลที่ บนั ทกึ ข้นึ อยกู่ ับขนาดของร่อง (pit) หากใช้แสงที่มีความยาวคล่ืนส้ันก็จะทาให้ร่องมีขนาดเล็กลงส่งผลให้แผ่น ซีดีบรรจขุ ้อมลู ได้มากขึ้น แผ่นซีดีโดยทั่วไปมีความจุประมาณ 700 MB (Megabytes) ส่วนดวี ดี ีท่ีใช้สาหรับเก็บ ภาพยนตรม์ ีความจุ 4.7 GB หรอื ๗ เท่าของแผ่นซีดี นอกจากนี้ยังมีแผ่นบลูเรย์ (Blue ray) ท่ีใช้เลเซอร์ย่านสี น้าเงิน (Blue laser) ในการบนั ทกึ /อ่าน ซึ่งมีความจุประมาณ 25 GB ต่อหนงึ่ ช้นั หรอื จุเป็น 5 เท่าของแผ่นดีวี ดี การเกบ็ ข้อมลู ใหม้ ากขน้ึ นอกจากจะใช้คุณสมบตั ขิ องแสงเลเซอร์และระบบออปติก(hardware) ช่วยแล้ว ยัง ใช้การประมวลสัญญาณดจิ ิตอลช่วยอกี ดว้ ย โดยการบีบอัดข้อมูลในรูปแบต่าง ๆ เช่น MP3 format ใช้สาหรับ เสยี ง สามารถบีบอดั สัญญาณลงได้ 10-14 เท่า ขณะท่ีสัญญาณไม่ผิดเพี้ยนมากนักและ MP4 format สาหรับ ภาพยนตร์ เปน็ ต้น
การสือ่ สาร (Communication) ระบบดิจิตอลได้ปฏิวัติการติดต่อส่ือสารของมวลมนุษย์โดยสิ้นเชิง ท้ังแบบใช้สาย( wired communication) เช่น ระบบโทรศัพท์บา้ นระบบอนิ เตอรเ์ น็ท และแบบไร้สาย (wireless communication) เชน่ ระบบโทรศัพท์ หรือท่ีเราเรียกกันว่ามือถือ ระบบดิจิตอลช่วยให้การส่งข้อมูล (ไบนารี) ง่าย สะดวกและ ผิดพลาดนอ้ ยมาก รวมถงึ การรกั ษาความปลอดภัยของข้อมูลท่ีระบบอนาลอกทาไม่ได้หากใช้แสงเลเซอร์ในการ ส่งจะทาใหส้ ามารถมคี วามเร็วเป็นกิกะบิทต่อวินาที (กกิ ะ= พันล้าน) ระบบอนิ เตอร์เน็ทกเ็ ป็นผลพวงของระบบ ดจิ ิตอล เปน็ การรบั -สง่ ขอ้ มลู ดจิ ิตอลระหว่างคอมพิวเตอร์กับคอมพิวเตอร์ผ่านสายสง่ พัฒนาโดยหนว่ ยงานวิจัย ช้ันสูงของสหรัฐอเมริกา หรือ Advanced Research Projects Agency (ARPA) เพ่ือแลกเปลี่ยนข้อมูล ทางการวจิ ยั ในกลุ่มหน่วยงานรฐั บาลและมหาวิทยาลัย ต่อมาได้ขยายความนิยมมากข้ึนจนแพร่กระจายไปทั่ว โลก และถูกนาไปในวงการต่าง ๆ มากมายไมว่ ่าจะเป็นดา้ นการค้า การธนาคาร ที่สามารถทาธุรกรรมทางการ เงินในเวลาอันรวดเร็ว และปลอดภัย ด้านการวิจัยและพัฒนาที่สามารถสืบค้นข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สิทธิบัตรตา่ ง ๆ เอกสารวิจยั หนงั สอื ภายในเวลาอันรวดเร็ว ไมต่ อ้ งออกไปยืมทหี่ ้องสมุด ด้านความบันเทิงท่าน สามารถเ ลือกเพลงโปรดหรือดูตัวอย่างภาพยนตร์จากน้ันก็ส่ังซื้อผ่านอินเตอร์เน็ ทได้โดยไ ม่ต้องออกไปท่ี ธนาคาร ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงบางส่วนของเทคโนโลยีดิจิตอลท่ีได้เปล่ียนแปลงวิถีชีวิตของมนุษย์ชาติ การพัฒนาระบบดิจิตอลและการประยุกต์ใช้งานยังคงมีต่อไปอย่างไม่มีขีดจากัด ประเทศใดสร้างพ้ืนฐาน ทางด้านการศึกษาที่ดี และสามารถสนับสนุนให้คนเก่งได้ใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ประเทศน้ันย่อม ได้เปรียบ อย่างเช่น ประเทศสหรฐั อเมริกาทีม่ ี บลิ เกท และ สตีฟ จ๊อบ แค่เพียงสองคนก็สามารถนารายได้มา สู่ประเทศอย่างมหาศาลหรือประเทศจีนที่มี แจ๊ค มา (Jack Ma) ผู้ก่อตั้งAlibaba ธุรกิจขายตรงผ่าน อนิ เตอรเ์ น็ทท่ีนารายได้สปู่ ระเทศหลายพนั ลา้ นบาท ศูนยว์ ิจัยและพฒั นาการทหารซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจ ในการวิจัยโดยตรง ได้ตระหนักในความสาคัญของเทคโนโลยีดิจิตอล ได้พัฒนาห้องปฏิบัติการทางด้านการ ประมวลสญั ญาณดิจิตอล เพอื่ สามารถรองรับเทคโนโลยดี ิจติ อลทีจ่ ะมีบทบาทต่อกระทรวงกลาโหมในอนาคต
บทที่ 3 วิธกี ารดาเนินงาน ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสัตหีบ ได้เหน็ ความสาคญั ของการเรยี นรู้ จึงได้ให้ กศน.ตาบลสัตหีบ จัดทาโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผ้สู ูงอายุ มขี ั้นตอนดงั นี้ 1.ประชุมบุคลากรกรรมการ กศน.ตาบลสัตหบี 2.จดั ตงั้ คณะทางาน 3.วิทยากรผู้สอน 4.ดาเนินงานตามแผน 5.วดั ผล/ประเมินผล/สรปุ ผลและรายงาน 1. ประชมุ บคุ ลากรกรรมการ กศน.ตาบลสัตหบี กศน.ตาบลสตั หีบ ได้วางแผนประชมุ บุคลากรกรรมการ กศน.ตาบลสัตหบี เพอ่ื หาแนวทางในการ ดาเนนิ งานและกาหนดวัตถุประสงคร์ ่วมกนั 2. จัดต้ังคณะทางาน จดั ทาคาสัง่ แตง่ ต้งั คณะทางานโครงการ เพ่อื มอบหมอบหมายหนา้ ที่ในการทางานให้ชัดเจน เช่น 2.1 คณะกรรมการทป่ี รกึ ษา/อานวยการ มหี นา้ ทอี่ านวยความสะดวก และให้คาปรึกษาแกไ้ ขปัญหา ทีเ่ กิดขึ้น 2.2 คณะกรรมการฝ่ายประชาสมั พนั ธ์ มีหนา้ ทป่ี ระชาสมั พันธ์รับสมคั รผูเ้ ข้ารว่ มโครงการ 2.3 คณะกรรมการฝา่ ยรับลงทะเบยี นและประเมินผลหนา้ ท่จี ัดทาหลกั ฐานการลงทะเบยี นผู้เข้าร่วม โครงการ และรวบรวมการประเมนิ ผล และรายงานผลการดาเนนิ การ 3. วิทยากรผสู้ อน คณะวทิ ยากรจาก ครู กศน.ตาบลสตั หีบ โดย นางสาวสุภาวดี บางโสก หวั หน้า กศน.ตาบลสัตหีบ และนางสาวปารย์พชิ ชา เจรญิ ศรี ครู กศน.ตาบลสตั หีบ และ นางสาวศริ ิ สขุ เจรญิ วิทยากรสอนการทาขนม บวั ลอยเบญจรงค์ 4. ดาเนนิ การตามแผนงานโครงการ โครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผูส้ งู อายุ ณ กลุ่ม วิสาหกจิ ชมุ ชนหนองระกา หมู่ 6 ตาบลสัตหีบ อาเภอสัตหบี จงั หวัดชลบุรี 5. สรปุ ผลและรายงาน จากการดาเนินงานโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผู้สูงอายุ ณ กศน.ตาบล สัตหีบ ในระหว่างวันท่ี 2-3 กรกฎาคม 2563 เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ กลุ่ม วิสาหกิจชุมชนหนองระกา หมู่ 6 ตาบลสัตหบี อาเภอสตั หบี จังหวัดชลบุรี มผี เู้ ขา้ ร่วมอบรมจานวน 15 คน โดยคณะครู กศน.ตาบลสัตหีบ ได้นาแนวทางไปใช้ข้อมูลพิจารณาหลักสูตร เนื้อหาตลอดจนเทคนิควิธีการจัดการกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ เพ่ือให้ตอบสนองความต้องการของผู้เข้าอบรมได้รับประโยชน์นาไปใช้ได้จริงตามศักยภาพของแต่ละคน ให้มี คณุ ภาพชวี ติ ทดี่ ตี อ่ ไป
6. การวเิ คราะหข์ ้อมลู ททททททททจากการดาเนินงานโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรบั ผู้สูงอายุ โดยมี เคร่ืองมือทใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มูลดังนี้ 1. ค่าแจกแจงความถี่ 2. ค่ารอ้ ยละ 3. ค่าเฉล่ยี 4. คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน ททททททททเพอ่ื ให้ตอบสนองความตอ้ งการของผเู้ ขา้ อบรมได้รับประโยชนน์ าไปใชไ้ ด้จรงิ ตามศักยภาพของแต่ ละคน ให้มีคุณภาพชีวติ ที่ดีตอ่ ไป และได้ดาเนนิ การตามข้ันตอนและไดร้ วบรวมข้อมลู จากแบบสารวจสถิติทใี่ ช้ ในการวเิ คราะห์ กศน.ตาบลสตั หีบ จะไดน้ าแนวทางไปใช้ขอ้ มลู พิจารณาหลกั สูตร เนอื้ หาตลอดจนเทคนคิ วธิ กี ารจดั การกระบวนการเรียนรู้ตา่ งๆ เพื่อให้ตอบสนองความตอ้ งการของผ้เู ข้าอบรมได้รบั ประโยชน์นาไปใช้ ไดจ้ รงิ ตามศกั ยภาพของแต่ละคน ใหม้ ีความเข้าใจและมีคณุ ภาพต่อไป ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศัยอาเภอสัตหีบ ไดด้ าเนินการตามขน้ั ตอนและไดร้ วบรวมขอ้ มลู โดยใชส้ ภาพการใช้สือ่ การสอนของ ครูในสถานศกึ ษาเป็นแบบมาตรวดั ประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ โดยมรี ายละเอยี ดดังนี้ (บญุ ชม ศรี สะอาด และบญุ ส่ง นลิ แกว้ ,2545) 5 หมายถึง มกี ารดาเนนิ งานในระดบั มากทสี่ ุด 4 หมายถงึ มกี ารดาเนนิ งานในระดับมาก 3 หมายถงึ มีการดาเนินงานในระดับปานกลาง 2 หมายถงึ มกี ารดาเนินงานในระดับนอ้ ย 1 หมายถึง มีการดาเนนิ งานในระดับนอ้ ยทีส่ ุด โดยมเี กณฑ์การแปลความหมายค่าเฉล่ีย (บุญชม ศรีสะอาด,2556) ดังนี้ 4.50 – 5.00 หมายถงึ มคี วามคดิ เหน็ /การดาเนนิ งานอย่ใู นระดบั มากทสี่ ดุ 3.50 – 4.49 หมายถึง มคี วามคดิ เหน็ /การดาเนนิ งานอยู่ในระดับมาก 2.50 – 3.49 หมายถงึ มีความคิดเหน็ /การดาเนนิ งานอยใู่ นระดับปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายถงึ มีความคิดเหน็ /การดาเนินงานอยู่ในระดับน้อย 1.00 – 1.49 หมายถึง มคี วามคิดเห็น/การดาเนนิ งานอย่ใู นระดบั น้อยที่สดุ ผูเ้ ข้ารว่ มโครงการจะตอ้ งกรอกขอ้ มูลตามแบบสอบถาม เพอื่ นาไปใช้ในการประเมินผลของการจัด กิจกรรมดังกลา่ ว และจะได้นาไปเปน็ ข้อมลู ปรับปรุง และพัฒนา ตลอดจนใช้ในการจัดทาแผนการดาเนินการ ในปตี ่อไป
บทท่ี 4 ผลการดาเนินงานและการวเิ คราะหข์ อ้ มูล ในการจัดโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผู้สูงอายุ ณ กลุ่ม วิสาหกิจชุมชน หนองระกา หมู่ 6 ตาบลสัตหีบ อาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในวันท่ี 2-3 กรกฎาคม 2563 ต้ังแต่เวลา 08.30-16.30 น.ซึง่ ได้สรปุ ผลจากแบบสอบถามและนาเสนอผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูลจากผู้เข้ารว่ มอบรมโครงการ จานวน 15 ชุด ตอนที่ 1 ขอ้ มูลสว่ นตัวผู้ตอบแบบถามของผเู้ ข้าร่วม โครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผู้สูงอายุ ณ กลุ่ม วิสาหกิจชุมชนหนองระกา หมู่ 6 ตาบลสัตหีบ อาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ผูเ้ ขา้ ร่วมกิจกรรมที่ตอบแบบสอบถามได้นามาจาแนกตามเพศ อายุ และอาชีพ ผจู้ ัดทาได้นาเสนอจาแนกตาม ขอ้ มลู ดังกล่าว ดงั ปรากฏตามตารางที่ 1 ดังต่อไปนี้ ตารางท่ี 1 แสดงค่ารอ้ ยละของผูต้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามเพศ เพศ ชาย หญิง จานวน รอ้ ยละ ความคิดเหน็ จานวน ร้อยละ 13 86.66 โครงการสอนอาชพี และการใช้ Social Media สาหรับผสู้ งู อายุ 2 13.33 จากตารางที่ 1 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผู้สงู อายุ เปน็ ชาย 2 คน ร้อยละ 13.33 เป็นหญงิ 13 ร้อยละ 86.66 ตารางที่ 2 แสดงคา่ รอ้ ยละของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอายุ อายุ 14 - 39 ปี 40 - 59 ปี 60 ปี ขนึ้ ไป จานวน ร้อยละ ความคิดเหน็ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ 15 100 โครงการสอนอาชพี และการใช้ Social Media - - - - สาหรบั ผู้สูงอายุ จากตารางท่ี 2 แสดงว่า ผู้ตอบแบบสอบถามของผู้เข้าร่วมผู้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการสอนอาชีพและ การใช้ Social Media สาหรับผสู้ งู อายุ ในชว่ งอายุ 60 ปี ข้นึ ไป จานวน 15 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 100 ตารางท่ี 3 แสดงคา่ รอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอาชีพ ประเภท เกษตรกร คา้ ขาย รบั ราชการ แมบ่ า้ น อน่ื ๆ ความคดิ เห็น จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ โครงการสอนอาชพี และ - - - - - - 13 86.66 2 13.33 การใช้ Social Media สาหรับผู้สูงอายุ จากตารางที่ 3 แสดงวา่ ผูต้ อบแบบสอบถามผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผู้สูงอายุมีอาชีพแม่บ้าน มากที่สุด จานวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 86.66 รองลงมาคืออาชีพ อืน่ ๆ จานวน 2 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 13.33
ตอนที่ 2 ขอ้ มลู เกีย่ วกับความคดิ เห็นของผู้เข้าร่วมโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับ ผ้สู งู อายุ ความคิดเห็นของผูเ้ ข้าร่วมกจิ กรรม จานวน 15 คน จากแบบสอบถามทัง้ หมดท่มี ีตอ่ โครงการสอนอาชพี และการใช้ Social Media สาหรับผู้สงู อายุ ณ กลุ่ม วสิ าหกจิ ชมุ ชนหนองระกา หมู่ 6 ตาบลสัตหีบ อาเภอสัตหีบ จงั หวัดชลบรุ ี ดังปรากฏในตารางท่ี 4 ตารางที่ 4 ผลการประเมินโครงการสอนอาชพี และการใช้ Social Media N = 15 สาหรบั ผู้สูงอายุ รายการที่ประเมิน µ σ อันดับท่ี ระดบั ผลการ ประเมิน ด้านความพงึ พอใจดา้ นเนอ้ื หา 1. เนื้อหาตรงตามความต้องการ 4.80 0.40 2 มากทสี่ ุด 2. เน้ือหาเพยี งพอต่อความต้องการ 4.80 0.40 2 มากทส่ี ดุ 3. เนือ้ หาปจั จบุ ันทันสมัย 4.87 0.34 1 มากทส่ี ุด 4. เน้อื หามีประโยชนต์ อ่ การนาไปใชใ้ นการพัฒนาคณุ ภาพชีวิต 4.67 0.60 4 มากท่ีสุด ดา้ นความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจัดกจิ กรรม/การอบรม 5. การเตรียมความพรอ้ มก่อนอบรม 4.87 0.34 1 มากที่สุด 6. การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกบั วัตถปุ ระสงค์ 4.73 0.57 3 มากทส่ี ดุ 7. การจดั กิจกรรมเหมาะสมกบั เวลา 4.87 0.34 1 มากทส่ี ดุ 8. การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับกลุ่มเปา้ หมาย 4.80 0.54 2 มากทส่ี ดุ 9. วิธีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ 4.73 0.57 3 มากทส่ี ดุ ดา้ นความพึงพอใจตอ่ วทิ ยากร 10. วทิ ยากรมีความร้คู วามสามารถในเรอื่ งท่ีถ่ายทอด 4.67 0.60 4 มากที่สดุ 11. วทิ ยากรมีเทคนคิ การถ่ายทอดใช้สื่อเหมาะสม 4.53 0.62 5 มากที่สดุ 12. วทิ ยากรเปิดโอกาสให้มสี ว่ นรว่ มและซักถาม 4.67 0.60 4 มากที่สุด ดา้ นความพึงพอใจด้านการอานวยความสะดวก 13. สถานท่ี วัสดุ อุปกรณ์และส่งิ อานวยความสะดวก 4.67 0.60 4 มากที่สุด 14. การสือ่ สาร การสรา้ งบรรยากาศเพอ่ื ให้เกิดการเรียนรู้ 4.40 0.61 6 มาก 15. การบรกิ าร การชว่ ยเหลอื และการแกป้ ญั หา 4.73 0.44 3 มากทส่ี ุด ค่าเฉล่ีย 4.72 0.11 มากทีส่ ุด จากตาราง 4 พบว่า โดยเฉลยี่ แลว้ ผู้เขา้ รบั การโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผู้สูงอายุ อยู่ในระดับ มากที่สุด (µ = 4.72) เมื่อวิเคราะห์เป็นรายข้อพบว่า เนื้อหาปัจจุบันทันสมัย,การเตรียมความ พร้อมก่อนอบรม,การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา (µ = 4.87) เป็นอันดับที่ 1 , เน้ือหาเพียงพอต่อความ ตอ้ งการ,เนอื้ หาตรงตามความตอ้ งการ,การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย (µ = 4.80) เป็นอันดับที่ 2 , การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์,วิธีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถุประสงค์,การ บริการ การชว่ ยเหลอื และการแก้ปัญหา(µ = 4.73) เป็นอนั ดับท่ี 3 , เน้ือหามีประโยชนต์ อ่ การนาไปใช้ในการ พัฒนาคุณภาพชีวิต,วิทยากรมีความรู้ความสามารถในเรื่องที่ถ่ายทอด,วิทยากรเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมและ ซกั ถาม,สถานที่ วสั ดุ อุปกรณ์และสิง่ อานวยความสะดวก (µ = 4.67) เป็นอันดับที่ 4 , วิทยากรมีเทคนิคการ ถ่ายทอดใช้ส่ือเหมาะสม(µ = 4.53) เป็นอันดับที่ 5 และ การสื่อสาร การสร้างบรรยากาศเพ่ือให้เกิดการ เรยี นรู้ (µ = 4.40) เปน็ อนั ดับท่ี 6 ตามลาดับ
บทท่ี 5 สรุป ผลการดาเนนิ การ การจดั ทาโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรบั ผู้สูงอายุ โดยมวี ัตถปุ ระสงค์ เพื่อ ส่งเสริมใหผ้ ู้สูงอายใุ หม้ ีความรูด้ ้านการประกอบอาชีพ และ เพ่อื ให้ผ้สู ูงอายใุ ห้มีความรดู้ า้ น Social Media ซงึ่ โครงการได้จัดขน้ึ ในวันท่ี 2-3 กรกฎาคม 2563 เวลา 08.30-16.30 น. ณ กลมุ่ วสิ าหกิจชุมชนหนองระกา หมู่ 6 ตาบลสัตหบี อาเภอสัตหีบ จังหวดั ชลบรุ ี ตลอดระยะเวลาท่ีรับการอบรมโดยมีการซักถามพูดคยุ โต้ตอบ กับวทิ ยากรอยา่ งสนใจ ในดา้ นตา่ ง ๆ คอื ความพึงพอใจด้านเน้อื หา - ดา้ นหลักสตู รเน้ือหาตรงตามความต้องการ - เนอ้ื หาเพียงพอต่อความต้องการ - เนื้อหาปจั จุบันทันสมยั - เน้ือหามีประโยชนต์ อ่ การนาไปใช้ในการพฒั นาคุณภาพชีวติ ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจัดกจิ กรรม - การเตรียมความพรอ้ มก่อนจดั กจิ กรรม - การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกบั วตั ถุประสงค์ - การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกับเวลา - การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับกลมุ่ เป้าหมาย - วธิ ีการวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกบั วตั ถปุ ระสงค์ ความพึงพอใจต่อวิทยากร - วทิ ยากรมีความรูค้ วามสามารถในเรื่องที่ถา่ ยทอด - วทิ ยากรมีเทคนคิ การถ่ายทอดใชส้ อ่ื เหมาะสม - วิทยากรเปิดโอกาสใหม้ ีส่วนร่วมและซกั ถาม ความพึงพอใจดา้ นการอานวยความสะดวก - สถานท่ี วัสดุ อุปกรณแ์ ละส่งิ อานวยความสะดวก - การสอื่ สาร การสรา้ งบรรยากาศเพอื่ ใหเ้ กิดการเรียนรู้ - การบรกิ าร การช่วยเหลือและการแกป้ ัญหาได้ สรุปผลการดาเนนิ งาน ผู้เข้าร่วมโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผู้สูงอายุ ของศูนย์การศึกษานอก ระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยของอาเภอสัตหีบ (กศน.ตาบลสัตหีบ) มีผู้เข้าร่วมอบรมท้ังหมด 15 คน โดย แยกเป็นผู้ชาย 2 คน และ ผู้หญิง 13 คน โดยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอื่นๆ และมีความพึงพอใจอยู่ใน ระดบั มากทส่ี ุด (µ =4.72) อภิปรายผล จากการจดั กิจกรรมโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผู้สูงอายุ อยใู่ นระดบั มาก ท่ีสดุ สามารถนาความร้ไู ปใช้ในชวี ิตประจาวัน มีความรู้ ความเข้าใจเร่ืองการประกอบอาชพี และSocial ได้ ปัญหาและอุปสรรคท่ีเกิดข้นึ ระหว่างการดาเนนิ งาน ไมม่ ี
ขอ้ เสนอแนะ -
บรรณานุกรม กรมการศึกษานอกโรงเรยี น (2546) กระทรวงศกึ ษาธิการ . (2543). บญุ ชม ศรสี ะอาด และ บญุ ส่ง นิลแกว้ (2545 หน้า 22-25) http://lakmuangonline.com/?p=4207
คณะผจู้ ัดทา ทปี่ รกึ ษา เลยี้ งสุพงศ์ ผ้อู านวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตาม นางสรุ ัสวดี อธั ยาศยั อาเภอสัตหบี คณะทางาน บางโสก หัวหน้ากศน.ตาบลสตั หีบ 1. นางสาวสุภาวดี ครูกศน.ตาบลสตั หีบ เจรญิ ศรี ครู ศรช.ตาบลสตั หีบ 2. นางสาวปารย์พชิ ชา เตชะวงศ์ 3. นางปิยวดี ครู ศรช.ตาบลสัตหีบ เจ้าหน้าทจ่ี ัดพิมพ์/ผูเ้ ขยี น เตชะวงศ์ นางปิยวดี
ภาคผนวก
ภาพกิจกรรม โครงการสอนอาชพี และการใช้ Social Media สาหรบั ผู้สงู อายุ
บทสรปุ ผบู้ ริหาร โครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผู้สูงอายุ จัดข้ึนในครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อ สง่ เสรมิ ให้ผู้สูงอายุให้มีความรู้ด้านการประกอบอาชีพ และ ให้ผู้สูงอายุให้มีความรู้ด้าน Social Media โดยมี กลุ่มเปา้ หมายคอื ประชาชนทัว่ ไปในพื้นท่ีตาบลสัตหีบ จานวน 15 คน โดยจะใช้กลุ่มเป้าหมายท้ังหมดในการ คานวณโดยใช้โปรแกรมสาเรจ็ รปู คอมพวิ เตอร์ (โปรแกรมตารางคานวณ) เพื่อสรปุ ผลการดาเนนิ งานในครัง้ นี้ วิธีการดาเนินงาน โดยการสารวจความต้องการของประชาชนและนาผลจากการสารวจมาจัดทา กจิ กรรมโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผู้สูงอายุ ให้กับประชาชนท่ัวไปในพ้ืนที่ตาบล สัตหีบ จานวน 15 คน ในวันที่ 2-3 กรกฎาคม 2563 ณ กลุ่ม วิสาหกิจชุมชนหนองระกา หมู่ 6 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังจากการจัดกิจกรรมโครงการแล้วมีการแจกแจงแบบประเมินความพึงพอใจ สาหรับ ผูเ้ ข้ารว่ มโครงการทง้ั หมด จานวน 15 ชุด แล้วนาข้อมลู ทไี่ ดม้ าคานวณทางสถิติ หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่า เบีย่ งเบนมาตรฐาน ในการแปรผล ผลการดาเนินงาน จากการนาข้อมูลที่ได้มาทาการคานวณหาค่าสถิติต่างๆ สรุปว่า ผู้เข้าร่วม กิจกรรม มีความพงึ พอใจอยใู่ น ระดับ 4.72 (มากท่สี ุด)
คานา จากการที่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสัตหีบ กศน.ตาบลสัตหีบ ได้จัดทาโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรบั สง่ เสริมให้ผสู้ งู อายใุ หม้ ีความรู้ด้านการประกอบ อาชพี และ ให้ผ้สู ูงอายุใหม้ คี วามรูด้ า้ น Social Media ซ่งึ โครงการดาเนนิ การจัดในวันท่ี 2-3 กรกฎาคม 2563 ณ กลุ่ม วสิ าหกิจชุมชนหนองระกา หมู่ 6 ต.สตั หีบ อ.สตั หบี จ.ชลบุรี โครงการน้ไี ดว้ ทิ ยากรการทาขนมบัวลอย เบญจรงค์ มาให้ความรู้ให้กับชุมชนตาบลสัตหีบ เพ่ือให้ผู้เข้าอบรมสามารถนาความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ใน การทางานได้จริง โครงการดังกล่าวได้ดาเนินการเสร็จส้ินไปได้ด้วยดี ซ่ึงรายละเอียดผลการดาเนินงานต่างๆ ตลอดจนปัญหาและอุปสรรค ไดส้ รุปไวแ้ ล้ว เพื่อรวบรวมกระบวนการดาเนนิ งาน ผลท่ไี ด้นาไปใช้ ตลอดจนการ พฒั นาเพ่อื ให้สอดคล้องกับสภาพวิถชี วี ิต และการตอบสนองความต้องการของผู้เข้ารับการฝึกอบรม สุดท้ายคือ การนาไปใชป้ ระโยชน์อยา่ งแทจ้ รงิ และสามารถแนะนาผอู้ ื่นได้ เพ่อื ใหเ้ กดิ การพัฒนาคณุ ภาพชีวิตอยา่ งต่อเนือ่ ง รายงานผลการดาเนินงานเลม่ นี้ หวังเปน็ อย่างย่ิงว่าคงจะมีประโยชน์บ้างสาหรับผู้ท่ีต้องการศึกษาหา ข้อมูล เพ่ือใช้เป็นแนวทางในการจัดอบรมในลักษณะนี้ และถ้ามีส่ิงหน่ึงสิ่งใดขาดตกบกพร่อง คณะผู้จัดทา ขอน้อมรบั ไว้ เพือ่ จะปรบั ปรุงในโอกาสต่อไป กศน.ตาบลสัตหีบ กรกฎาคม 2563
สารบญั หนา้ บทที่ 1 บทนา.....................................................................................................................................................1 ความเปน็ มา .................................................................................................................................1 วตั ถปุ ระสงค์.................................................................................................................................1 เป้าหมาย......................................................................................................................................1 ผลทีค่ าดว่าจะได้รับ......................................................................................................................3 ดัชนีวัดผลสาเร็จของโครงการ ......................................................................................................3 2 เอกสารการศึกษาและรายงานท่ีเกยี่ วขอ้ ง..............................................................................................4 นโยบายและจุดเน้นการดาเนนิ งาน กศน.ปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ...........................................4 นโยบายและจดุ เน้นการดาเนินงาน กศน.อาเภอสัตหบี ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2563............11 เอกสารที่เกย่ี วขอ้ ง.......................................................................................................................21 3 วธิ ีดาเนินงาน..........................................................................................................................................26 ประชุมบคุ ลากรกรรมการสถานศึกษา..........................................................................................26 จัดต้ังคณะทางาน.........................................................................................................................26 ดาเนนิ การตามแผน......................................................................................................................26 วัดผล/ประเมนิ ผล/สรุปผลและรายงาน.......................................................................................26 4 ผลการดาเนนิ งานและการวเิ คราะหข์ ้อมูล..............................................................................................28 ตอนที่ 1 ข้อมูลสว่ นตัวผแู้ บบสอบถามของผเู้ ข้ารบั การอบรมในโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรับผู้สงู อายุ..................................................................................................28 ตอนท่ี 2 ข้อมูลเกย่ี วกับความคิดเห็นทมี่ ีต่อโครงการสอนอาชพี และการใช้ Social Media สาหรบั ผู้สงู อายุ……………………………………………………………………………………………………………..29 5 สรุปผล อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ........................................................................................ ...........31 สรุปผลการดาเนนิ งาน..................................................................................................................31 อภิปรายผล...................................................................................................................................31 ปัญหาและอุปสรรค......................................................................................................................31 ข้อเสนอแนะ.................................................................................................................................32 บรรณานุกรม ภาคผนวก
สารบญั ตาราง ตารางท่ี หนา้ 1 แสดงค่าร้อยละของผ้ตู อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามเพศ.........................................................28 2 แสดงคา่ รอ้ ยละของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอายุ.........................................................28 3 แสดงค่าร้อยละของผ้ตู อบแบบสอบถาม โดยจาแนกตามอาชพี .......................................................28 4 ผลการประเมินโครงการสอนอาชีพและการใช้ Social Media สาหรบั ผู้สงู อายุ..............................29
Search
Read the Text Version
- 1 - 46
Pages: