Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปคำบรรยายวิชาการให้บริการงานทะเบียนในอำนาจหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

สรุปคำบรรยายวิชาการให้บริการงานทะเบียนในอำนาจหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

Description: สรุปคำบรรยายวิชาการให้บริการงานทะเบียนในอำนาจหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

Keywords: e Book วิทยาลัยการปกครอง

Search

Read the Text Version

สำนักบรหิ ำรกำรทะเบยี น กรมกำรปกครอง วิชำกฎหมำยเกีย่ วกับ งำนทะเบยี นรำษฎร และบตั รประจำตวั ประชำชน โดย อ.อนุชยั คำชู

1 สรุปคำบรรยำยวิชำกำรใหบ้ ริกำรงำนทะเบยี นในอำนำจหน้ำที่ของกำนนั ผู้ใหญ่บ้ำน โดย อ.อนชุ ยั คาชู สานักบริหารงานทะเบียน กรมการปกครอง บรรยายหลักสตู รกานัน ผู้ใหญบ่ ้าน เม่ือวันท่ี ๒ ธ.ค. ๒๕๖๓ งานทะเบยี นมีอยหู่ ลายงานด้วยกนั ได้แก่ ทะเบยี นราษฎร บตั รประจาตัวประชาชน ทะเบยี นครอบครัว เป็นตน้ ในฐานะทก่ี านัน ผู้ใหญ่บ้านเปน็ ผู้นาในพืนที่ ในชุมชน ต้องใหค้ าแนะนาประชาชนในพืนท่ีท่านไดไ้ มม่ าก กน็ ้อย กรมการปกครองนนั ดูแลประชาชนตังแตเ่ กิดจนถงึ ตาย เริ่มจากการเกิดกม็ าแจง้ เกิด เรอื่ งบา้ นกต็ อ้ งมา ขอเลขทบ่ี ้าน เรอ่ื ย้ายทอ่ี ยู่กม็ าแจง้ ย้าย เรอ่ื งการทาบัตรประจาตวั ประชาชน การจดทะเบียนสมรส การหย่า การเปลี่ยนช่ือตัวชื่อสกลุ การจดทะเบยี นรับรองบตุ ร พินัยกรรม สดุ ท้ายตายก็ต้องมาแจง้ ตาย เราจะมาเริ่มใน รายละเอียดกนั เรื่องแรกเรอื่ งของการเกิด ตามกฎหมายทะเบียนราษฎร ทา่ นเปน็ นายทะเบียนผ้รู ับแจ้ง ในเขตหมบู่ ้าน ท่านเทา่ นัน ปัจจบุ ันการรับแจ้งการเกดิ ในหมู่บ้านมีน้อยท่ีจะไปแจ้งเกิดกบั กานัน ผ้ใู หญ่บ้าน เพราะการ คมนาคมสะดวกขึน จะไปแจง้ ทเ่ี ขตสานกั ทะเบียนที่โรงพยาบาลตงั อยู่เป็นส่วนใหญ่ แต่ทงั นที ังนันเปน็ อานาจ หน้าที่ของท่าน ทา่ นตอ้ งทราบว่าควรทาอย่างไรถ้ามีคนเกดิ ในพืนท่ีของท่านแล้วมาแจ้งท่าน การแจ้งเกิดต้อง แจง้ ภายใน ๑๕ วนั ท่านสามารถรับแจง้ ไดภ้ ายในกาหนดเท่านนั หากเกินกาหนด๑๕ วนั ทา่ นรับแจ้งไมไ่ ด้ ต้อง แนะนาไปทีส่ านักทะเบยี นอาเภอ/เขต การเกดิ แยกเป็น ๒ กรณี กรณีแรก เกิดในบา้ น ผมู้ ีหนา้ ทีแ่ จ้งคอื เจา้ บ้าน บดิ าหรอื มารดา ๓ คนนีเท่านันทีม่ ีหน้าท่ีในการแจ้ง รวมถึงคนทไี่ ดร้ บั มอบอานาจหรือมอบหมายจาก ๓ คนดังกลา่ ว ปู่ ยา่ ตา ยาย แจ้งไม่ได้ กรณที ี่สอง เกดิ นอกบ้าน ผู้มหี น้าทีแ่ จ้ง พ่อหรือแม่ เท่านนั กรณีทีเ่ กดิ ในโรงพยำบำลตำมกฎหมำยทะเบียนรำษฎรถือว่ำเปน็ กำรเกิดในบำ้ น เพราะโรงพยาบาล มีบา้ นเลขที่ ผู้อานวยการโรงพยาบาลมีหน้าทีแ่ จง้ ซงึ่ สามารถมอบอานาจให้เจา้ หน้าที่โรงพยาบาลดาเนินการ แทนได้ เมอ่ื ทราบใครมีหน้าทีแ่ จง้ แลว้ ต่อไปเรอื่ งสถานที่ในการแจ้ง ซึ่งมสี านกั ทะเบยี นอาเภอ/ทอ้ งถน่ิ ตงั ๓ พนั กว่าแห่งจะแจ้งทไ่ี หน ตามหลักกฎหมายทะเบียนราษฎร เกิดท่ีไหนใหแ้ จ้งทีน่ ัน่ เมือ่ เกิดในสานักทะเบียนนีก็ไป แจง้ ในเขตสานักทะเบียนนี จะแจง้ ข้ามเขตสานกั ทะเบยี นไมไ่ ด้ ส่วนเอกสารหลักฐานที่ใชแ้ จง้ ประกอบดว้ ย บตั รประจาตัวผู้แจ้ง บัตรของบดิ ามารดา ทะเบียนบา้ นของพ่อแม่ สาเนาทะเบยี นบ้านของพ่อแม่ฉบับเจ้าบ้านที่ จะเพม่ิ ช่ือเขา้ ในทะเบยี นบ้าน วชิ าการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าทีข่ องกานนั ผ้ใู หญบ่ ้าน โดย อ.อนชุ ัย คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

2 ตัวอย่ำง กรณีมเี หตุเกดิ ทีโ่ รงพยาบาลในกรุงเทพฯ แล้วกลับภมู ลิ าเนาโดยไม่ไดแ้ จ้งในเขตกรุงเทพฯ ทา่ น แนะนาใหไ้ ปแจ้งทส่ี านักทะเบียนอาเภอทต่ี ัวพอ่ แมม่ ชี อื่ ในทะเบียน เพราะทา่ นไมม่ อี านาจหน้าที่ในการรับแจง้ ทา่ นรบั แจง้ ไดเ้ ฉพาะคนท่ีเกิดในหมูบ่ า้ นเท่านนั และให้พ่อแมเ่ ดก็ นาเอกสารหนังสือรบั รองการเกิดที่ โรงพยาบาลออกให้ หรือผลตรวจ DNA ถงึ จะแจง้ เกิดต่างสานกั ทะเบยี นได้ กรณเี กดิ นอกรำชอำณำจักร ต้องแจ้งทส่ี ถานกงสลุ หรอื สถานทูตในประเทศนันเดก็ ท่เี กิดกจ็ ะได้เลข ๑๓ หลักเลย แต่ถ้ากลับมาประเทศไทยจะแจ้งเกดิ ไมไ่ ด้แต่จะใช้การเพ่มิ ชื่อแทน (เกดิ ท่ไี หนให้แจง้ ทน่ี นั ) กรณีพบเด็กเรร่ ่อนแลว้ เก็บมำอุปกำระ ถ้าไมแ่ จง้ ตารวจ อาเภอ พ.ม. (กระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความม่ันคงของมนษุ ย์) เด็กจะไมไ่ ดเ้ ข้าส่รู ะบบทะเบียนราษฎร จะเสียสทิ ธใิ นการเขา้ โรงเรยี น สทิ ธิในการ รกั ษาพยาบาล จงึ ตอ้ งแจง้ เพอื่ ดาเนินการตามอานาจหนา้ ทีต่ ่อไป เร่ืองทสี่ องเรือ่ งตำย การแจ้งตายต้องแจ้งภายใน ๒๔ ชว่ั โมง (ต้องนบั เปน็ ชัว่ โมง) ท่านรับแจ้งภายใน กาหนด ๒๔ ชัว่ โมงเท่านัน เกิน ๒๔ ชั่วโมงไมไ่ ดอ้ ยใู่ นอานาจหน้าท่ขี องท่าน ต้องไปที่สานักทะเบียนอาเภอ/เขต ใครมีหน้าทีใ่ นการแจง้ ตาย แยกเป็น ๒ กรณี กรณแี รก ตายในบา้ น ผมู้ ีหน้าท่ีแจง้ คอื เจ้าบ้าน (พ่อ แม่ ญาติ แจง้ ไม่ได้ถ้าไมใ่ ชเ่ จ้าบ้าน) หรอื บคุ คลที่ ไดร้ ับมอบหมายจากเจ้าบ้าน ถา้ เจา้ บ้านตาย อยา่ ไปมองเพียงเจา้ บ้านตามที่อยู่ในทะเบยี นบ้านเพราะทะเบยี น บ้านบางหลงั ก็ไมร่ ะบเุ จ้าบ้าน แต่คำวำ่ เจำ้ บ้ำนหมำยถึงบคุ คลทคี่ รอบครองบำ้ นในฐำนะเจำ้ ของกรรรมสิทธิ์ ผเู้ ชำ่ หรือผู้ดูแลแทน ดังนนั มรดกตกเป็นของใคร ก็มีหน้าที่แจ้งได้ กรณสี อง ตายนอกบ้าน ผู้ทมี่ ีหนา้ ท่ีแจง้ คือ ๑. คนทีไ่ ปกับผู้ตาย ๒. บคุ คลท่พี บศพ (ศพพบทีไ่ หนแจง้ ท่นี ่นั ) หลกั ฐานท่ีใช้ บตั รประจาตวั ผแู้ จ้ง สาเนาทะเบียนบ้านของผตู้ ายมีช่อื หนังสือรับรองการตาย หนงั สอื มอบหมาย ( ถา้ มี ) ตวั อย่ำง กรณตี ายทโ่ี รงพยาบาลในกรุงเทพฯ เคลอื่ นศพกลบั ไปภมู ลิ าเนา สามารถแจ้งตายต่างสานักทะเบยี น ไดโ้ ดยตอ้ งมหี นงั สอื รับรองการตายหรอื ผลตรวจ DNA โดยแจ้งสานักทะเบียนท่ีศพตงั อยู่ ต่างจากการเกิดทตี่ อ้ ง ดูภูมิลาเนาของพอ่ แมเ่ ดก็ ปญั หำที่พบในกำรแจง้ ตำย ๑. ประชำชนสำมำรถไปแจง้ ท่สี ำนกั ทะเบียนอำเภอเลยได้เลย โดยไม่ตอ้ งผ่านกานัน ผู้ใหญบ่ ้าน ซง่ึ เปน็ นายทะเบียนผู้รบั แจ้งเหมอื นกันมอี านาจหนา้ ท่เี หมือนกนั เพราะเปน็ ทางเลอื กของประชาชน แต่ทางสานกั วชิ าการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานัน ผ้ใู หญ่บา้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

3 ทะเบียนอาเภอกจ็ ะไลก่ ลบั ใหไ้ ปแจ้งกานนั ผู้ใหญบ่ ้าน ใหอ้ อกใบรบั แจ้งการตาย ซ่ึงต้องใหก้ านนั ผู้ใหญ่บา้ น ทาความเข้าใจกับทางสานักทะเบยี นอาเภอให้ดีเพ่ือไมใ่ ห้เกิดภาระกบั ประชาชน ซง่ึ การตายเป็นเรือ่ ง ละเอียดอ่อนอยแู่ ล้ว เพยี งใหท้ ำงสำนักทะเบียนเรยี กทำ่ นไปเปน็ พยำนก็เพยี งพอแล้ว ๒. การลงสาเหตกุ ารตาย โดยหลกั เมอ่ื มกี ารตายโดยผดิ ธรรมชาติ (อุบัติเหตุ ถูกทาร้าย ตายไม่ทราบ สาเหตุ ฆ่าตวั ตาย เป็นตน้ ) ตามกฎหมายตอ้ งแจ้งตารวจมาดาเนนิ การชันสูตรพลกิ ศพเพื่อใหท้ ราบสาเหตุการ ตาย และสานักทะเบยี นก็ยดึ ตามรายงานชันสูตรพลิกศพของตารวจ แตม่ ีหลายพนื ท่ีทไี่ ม่ไดแ้ จ้งตารวจ ทาง สานักทะเบียนก็จะให้ท่านกานนั ผใู้ หญ่ มาลงสาเหตุการตาย จริงจรงิ ทา่ นไมม่ ีอานาจหนา้ ที่แต่ทา่ นจะลงกไ็ มผ่ ิด เป็นหน้าท่ขี องนายทะเบยี นอาเภอ/ทอ้ งถิ่น แล้วจะรู้ได้อยำ่ งไร กต็ อ้ งสอบสวนญาติพีน่ ้องของผูต้ าย พยาน บุคคล และเมื่อสอบสวนแล้วไมท่ ราบข้อเทจ็ จรงิ กส็ ามารถระบไุ ม่ทรำบสำเหตกุ ำรตำยในมรณบัตรก็ได้ ส่วน กรณลี งสำเหตุกำรตำยโรคชรำลงไมไ่ ดเ้ พรำะควำมชรำไมใ่ ช่โรค เรื่องท่สี ำมกำรย้ำย ท่านเป็นนายทะเบยี นผ้รู ับแจ้งแตป่ ัจจุบนั ไมไ่ ด้ดาเนินการ เพราะไปยา้ ยที่สานกั ทะเบียน ดว้ ยระบบคอมพวิ เตอรแ์ ล้ว หลกั ของการย้ายตอั งดทู ่ีกายภาพเป็นหลักคือตวั ตอ้ งไปอยู่กอ่ นแล้วชือ่ ถึงไปอยูไ่ ด้ ตวั อย่างจะย้ายไปอยู่บ้านเลขที่ ๒๐ ตวั ตอ้ งไปอย่กู ่อน ย้ำยไปแตช่ ่ือไมไ่ ด้ การย้ายชื่อออกจากสานักทะเบยี น หนึ่งไปอยูอ่ กี สานักทะเบียนหนง่ึ (จะไปติดตอ่ ๒ สานกั ทะเบยี นที่ยา้ ยออกกบั สานักทะเบยี นยา้ ยเข้า ) การย้ายที่อยู่ปลายทาง (ไปแคส่ านกั ทะเบยี นเดยี วที่จะยา้ ยเข้าใหม่) การเดินทางไปพกั ต่างประเทศ (พักอาศยั เปน็ ประจาต้องแจง้ ยา้ ย) กำรย้ำยเข้ำทะเบยี นบ้ำนกลำง (ไม่อยเู่ กิน ๑๘๐ วัน และ ไมท่ รำบไปอยทู่ ่ใี ด) นอกจากนี ปัจจบุ ันเด็กอำยุ ๑๕ ปี สำมำรถขอย้ำยดว้ ยตนเองได้ (ก่อนหน้านตี ้องบรรลุนิตภิ าวะ) ส่วนกรณีคนแจ้งยา้ ยออกแตไ่ ม่เขา้ ไปทีไ่ หนเลย ซ่งึ กอ่ นหน้านีชือ่ เขาก็ลอยด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ปจั จบุ นั คน กลมุ่ นี กฎหมายทะเบียนราษฎรออกมาแกป้ ัญหาไม่ใหย้ ้ายลอย ถ้าย้ายลอยเกิน ๓๐ วัน จะจับเข้าทะเบียนบ้าน กลาง ในกรณบี ุคคลถกู ศาลออกหมายจบั และตารวจยงั ตามตัวมาดาเนนิ คดไี ม่ได้เกนิ ๑๘๐ วนั ก็จะแจ้งมายัง สานกั ทะเบียนกลางเพอื่ แจง้ ตอ่ ไปยังสานกั ทะเบยี นอาเภอ/เขต ใหย้ า้ ยบคุ คลนนั เข้าทะเบียนบ้านกลาง เพ่ือเป็น มาตรการกดดนั ไมใ่ หม้ ีสิทธริ ักษาพยาบาล ทาบัตรประชาชน เลือกตัง เป็นตน้ เมอ่ื ถกู ยำ้ ยเขำ้ ทะเบียนบ้ำนกลำง ปัจจุบนั สามารถแจง้ ยา้ ยปลายทางไดก้ อ่ นหนา้ นีไมไ่ ด้ ยกเวน้ กรณี ถูกออกหมายจับต้องกลบั ไปทีต่ น้ ทางเพียงอยา่ งเดยี ว สาหรับระยะเวลาในการแจง้ ยา้ ยออก ภายใน ๑๕ วันนบั แต่วันท่ียา้ ยออก ซ่ึงการย้ายออก เจ้าบา้ นไม่ต้องอนุญาต ตา่ งจากการย้ายเข้าเจ้าบา้ นตอ้ งยนิ ยอมไมง่ นั ไม่ได้ วิชาการให้บรกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ีของกานัน ผใู้ หญบ่ ้าน โดย อ.อนุชยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

4 เรือ่ งท่ีส่ีเร่ืองบ้ำน มาดคู านิยามของเจำ้ บ้ำน คอื ผ้คู รอบครองบ้ำนในฐำนะเจ้ำของ ผูเ้ ชำ่ ในฐำนะอื่นใด ผูด้ แู ลบำ้ น บำงคนเข้ำใจวำ่ สถำนะเจำ้ บำ้ นเปน็ เจ้ำของบำ้ นเสมอไป ซ่งึ ควำมเปน็ เจำ้ บำ้ นไม่สำมำรถอ้ำง เป็นเจำ้ ของทรพั ย์ได้ คานยิ ามบ้าน คือ โรงเรอื น สิง่ ปลกู สร้าง ไวส้ าหรบั อยู่อาศัย ไมไ่ ด้อย่อู าศยั ไมใ่ ชบ่ า้ น ซงึ่ กอ่ นหน้านนั เคยมีออก บา้ นเลขท่ีให้ Office สานักงาน ร้านคา้ 7-Eleven ซึง่ ผดิ เพราะไมไ่ ด้เป็นท่ีอยู่อาศัยมไี ว้แคท่ างาน แตเ่ พื่อท่จี ะ ไปขอใช้นาใช้ไฟฟา้ ปจั จุบันมีการแก้ไขกฎหมายส่งิ ปลกู สร้างหลงั ปี ๒๕๖๒ ให้ขอเปน็ ทะเบียนอาคาร (สเี ขยี ว คลา้ ยทะเบียนรถต่างจากทะเบยี นบ้านซ่ึงจะเป็นสนี าเงนิ ) ได้ บา้ นเมอ่ื สร้างเสรจ็ ตอ้ งมาขอบา้ นเลขที่ภายใน ๑๕ วันนบั แตว่ นั สร้างเสรจ็ ปัญหาทพ่ี บเม่อื บา้ นสรา้ งในท่ีสาธารณะ (อาเภอกับทอ้ งถ่ินดูแลรว่ มกัน) ปา่ สงวน ทา่ น จะออกเลขท่บี า้ น (ทร.๙) ให้ไดไ้ หม ตอบวา่ สามารถออกบา้ นเลขที่ได้ (ตามระเบียบสานักทะเบียนกลาง ขอ้ ที่ ๒๐ ) แต่ถ้าบุกรกุ ในที่ดนิ เอกชนไม่สามารถออกบ้านเลขทีใ่ หไ้ ด้ โดยระบุวา่ เป็น “ทะเบียนบ้านช่ัวคราว” ท่ี สามารถออกบ้านเลขที่ไดเ้ พราะเพ่อื ประโยชน์ในการสารวจ ไม่ได้รับรองกรรมสิทธ์ิในท่ดี นิ นนั แม้แตบ่ า้ นทีไ่ ม่ได้ ขออนุญาตปลูกสร้างในเขต พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ท่ีทอ้ งถนิ่ ประกาศใช้ กอ็ อกบ้านเลขทไ่ี ดแ้ ตก่ เ็ ป็น “ทะเบียน บา้ นช่วั คราว ” หากขอนญุ าตก็เป็น “ ทะเบียนบา้ นปกติ ” หลักฐานทใี่ ช้ในการแจ้ง บัตรประจาตวั ประชาขน ของผู้แจง้ หลักฐานการขออนญุ าตปลกู สร้าง (ถ้ามี) เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ (โฉนดทีด่ นิ , น.ส.๓, ส.ค. ๑ ) ส่วน ภ.บ.ท. ๕ ไม่ใชเ่ อกสารแสดงกรรมสทิ ธิ์ จงึ ตอ้ งออกให้เป็น “ทะเบียนบ้านช่ัวคราว” ในทางทะเบยี นราษฎร นนั ทะเบยี นบ้านปกติ กับบ้านชวั่ คราวไมไ่ ดแ้ ตกตา่ งกัน สามารถย้ายคนเข้าออกได้ตามปกติ แต่หน่วยงานอื่น เชน่ การไฟฟา้ อัตราการใชไ้ ฟฟ้าของทะเบยี นบ้านชัว่ คราวจะคิดในอตั ราหลายเท่าตัวกว่าทะเบียนบา้ นปกติ เป็นต้น ปัญหาอีกอย่างทพี่ บ สาหรับบ้านทไ่ี ม่มีสภาพเปน็ บ้านแล้วแตพ่ อมเี ลือกตังก็มรี ายชอื่ มาใช้สทิ ธไ์ิ ด้ ซงึ่ ปญั หานี เจา้ บ้านไปแจ้งรอื ถอนได้ แตถ่ า้ หากเจ้าบา้ นไมไ่ ดแ้ จ้ง แต่รอื ถอนไปแล้ว กานนั ผู้ใหญบ่ ้าน ไมส่ ามารถแจง้ รอื ถอนได้ แต่สามารถแจง้ ไปยังสานกั ทะเบียนอาเภอด้วยลายลกั ษณ์อกั ษร หรือบอกทางอาเภอ ให้ไปตรวจสอบ เม่อื สานกั ทะเบียนมาตรวจสอบพบว่าไม่มสี ภาพความเป็นบ้านแลว้ ก็สามารถจาหน่ายบ้านเลขที่นนั ได้ ผู้ทมี่ ี รายชือ่ กจ็ บั ย้ายเขา้ ทะเบียนบ้านกลาง การเพ่ิมชื่อในทะเบียนบา้ น ตามโครงการตรวจสารพันธกุ รรม (DNA) เพือ่ การแก้ไขปัญหาสถานะและ สทิ ธขิ องคนไทยท่ตี กหลน่ ทางทะเบียนราษฎร เพ่ือช่วยคนไทยที่ทย่ี ังไมม่ ชี ่ือและรายการบุคคลในทะเบียนบา้ น (ท.ร.๑๔) ฝากประชาสัมพันธ์ กรมการปกครอง มโี ครงการนีฟรี ตรวจฟรี เป็นประจาทกุ ปี เพื่อประโยชน์ของ ประชาชนในพืนทีข่ องทา่ น วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหนา้ ท่ีของกานนั ผใู้ หญบ่ ้าน โดย อ.อนชุ ัย คาชู วิทยาลยั การปกครอง

5 เรอ่ื งทหี่ ้ำบัตรประจำตวั ประชำชน บัตรประจาตวั ประชาชนจะมีอายุ ๘ ปี (เมื่อก่อนจะแค่ ๖ ปี) คุณสมบัติของบุคคลท่ีต้องทาบัตร ๑. ตอ้ งมีสญั ชาติไทย ๒. ทาบตั รครงั แรกอายุ ๗ ปบี ริบรู ณ์ ๓. ต้องมชี อ่ื อยู่ในทะเบียนบ้าน ( ไมม่ ีทาไม่ได้ ) บคุ คลทีก่ ฎหมายยกเว้นไม่ตอ้ งมบี ัตรประจาตัวประชาชน ๑. สมเด็จพระบรมราชนิ ี ๒. พระบรมวงศานวุ งศต์ งั แต่ชนั พระองคเ์ จา้ ขึนไป ๓. ภิกษุ สามเณร นักพรต และนักบวช ๔. ผู้มกี ายพิการเดินไม่ได้ หรือเป็นใบ้ หรือตาบอดทังสองขา้ ง หรือจิตฟ่นั เฟือน ไม่สมประกอบ ๕. ผู้อยู่ในทีค่ ุมขังโดยชอบด้วยกฎหมาย ๖. บคุ คลซึ่งกาลังศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศและไม่สามารถยื่นคาขอมบี ัตรประตวั ประชาชนได้ ประเภทของการมีบตั ร ๑. การขอมีบัตรประจาตวั ครงั แรก (ตอ้ งทาภายใน ๖๐ วัน เกนิ กาหนด เสยี ค่าปรบั ไมเ่ กิน ๑๐๐ บาท) ๒. กรณีบตั รเดมิ หมดอายุ (ต้องทาก่อนหรอื หลังบตั รหมดอายุ ๖๐ วัน เกินกาหนดเสียค่าปรับไม่เกนิ ๑๐๐ บาท) ๓. กรณบี ตั รหายหรอื ถูกทาลาย (ทาบัตรใหมภ่ ายใน ๖๐ วัน เกนิ กาหนดเสยี คา่ ปรับไมเ่ กิน ๑๐๐ บาท) ๔. กรณเี ปล่ยี นช่ือตัวหรือชอื่ สกุล(ทาบัตรใหมภ่ ายใน ๖๐ วันเกนิ กาหนดเสียค่าปรับไมเ่ กิน ๑๐๐ บาท ) ๕. กรณบี ัตรเดิมชารุดในสาระสาคัญ บตั รถูกทาลาย ( ทาบตั รภายใน ๖๐ วัน เกินกาหนดเสียคา่ ปรบั ไม่ เกิน ๑๐๐ บาท ) ๖. กรณบี ุคคลท่ีพน้ สภาพได้รบั การยกเว้นขอทาบัตร ( ทาบัตรภายใน ๖๐ วนั เกนิ กาหนดเสียคา่ ปรับไม่ เกิน ๑๐๐ บาท ) ๗. กรณผี ู้ซึง่ มอี ายุเกนิ ๗๐ ปี ขอมบี ัตร (ทาบัตรภายใน ๖๐ วนั เกินกาหนดเสยี คา่ ปรบั ไมเ่ กิน ๑๐๐ บาท ) หลกั ฐานท่ีใชเ้ ชน่ ๑. บัตรประจาตวั ประชาชนเดมิ ๒. เอกสารที่มีรปู ถา่ ยของผู้ขอมบี ตั รใหมท่ ี่ทางราชการออกให้ เชน่ ใบอนุญาตขบั ขี่ หลักฐานการศกึ ษา หรอื หนังสอื เดนิ ทางเตน้ ๓. หลักฐานการเปล่ียนชอ่ื ตัวหรือช่ือสกุล แลว้ แต่กรณี วิชาการให้บรกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหนา้ ท่ขี องกานนั ผใู้ หญบ่ า้ น โดย อ.อนุชยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

6 ๔. สาเนาทะเบียนบ้าน ๕. สูติบัตร ( กรณที าบตั รครังแรก ๗ ปีบรบิ รู ณ์ ) เรื่องสุดทำ้ ยทะเบยี นครอบครัว หมายถึง การจด หรือบนั ทกึ รายการต่าง ๆ ท่ีเกย่ี วข้องถึงความสัมพันธ์ของ บุคคลในครอบครัว ไมว่ า่ จะในฐานะสามีกับภรยิ า หรือบดิ ามารดากบั บตุ ร ทะเบียนครอบครวั แบ่งเปน็ ๗ ประเภท ได้แก่ ทะเบียน การสมรส ทะเบียนการหย่า ทะเบียนการรับรองบตุ ร ทะเบยี นการรับบุตรบญุ ธรรม ทะเบยี นการเลกิ รับบุตรบุญธรรม การบนั ทึกฐานะภรยิ า และการบันทึกฐานะแห่งครอบครวั ๑. ทะเบยี นสมรส การจะจดทะเบียนสมรสไดต้ ้องเป็นชายกับหญิง หญงิ กบั หญิง ชายกบั ชาย ยงั ไมไ่ ด้ อนาคต อาจไดเ้ พราะกาลังยกรา่ ง “ พ.ร.บ.คู่ชีวติ ” แตป่ จั จบุ ันตอ้ งชายกบั หญงิ และมีอายไุ มต่ า่ กว่า ๑๗ ปีบริบูรณ์ ถ้า ตา่ กว่า ๑๗ ปีบรบิ รู บูรณต์ ้องมคี าส่ังศาล หากเกิน ๑๗ ปีบริบรู ณ์ แต่ไม่ถงึ ๒๐ ปี ตอ้ งไดร้ ับความยินยอมจาก บิดามารดา ไมเ่ ป็นบคุ คลวกิ ลจริต หรือเปน็ บุคคลซึ่งศาลส่งั ให้เป็นคนไร้ความสามารถ ไมเ่ ป็นพนี่ อ้ งรว่ มบิดา มารดา หรอื รว่ มแต่บดิ ามารดา ไมเ่ ปน็ คูส่ มรสของบคุ คลอ่ืน ผูร้ ับบุตรบญุ ธรรมจะสมรสกับบตุ รบุญธรรมไม่ได้ การจดทะเบยี นสมรสนัน สามารถยืน่ คาร้องขอจดทะเบียนไดท้ ุกแห่ง โดยไม่ตอ้ งคานงึ ถงึ ภมู ิลาเนาของคู่สมรส หลกั ฐานที่ใช้ มบี ตั รประจาตวั ประชาชน สาเนาทะเบียนบ้าน พยานบคุ คล ๒ คน ๒. ทะเบยี นหย่ำ สามารถยน่ื คารอ้ งขอจดทะเบียนอยา่ ได้ทุกแห่งเขน่ เดยี วกบั การสมรส โดยไมต่ อ้ งคานึงถึง ภมู ลิ าเนาของค่สู มรส เอกสารที่ใช้มี บัตรประจาตัวประชาชน ใบสาคญั การสมรส หนังสือหย่าหรอื หนงั สอื สญั ญาหยา่ พยานบุคคล ๒ คน ๓. ทะเบยี นกำรรับรองบุตร โดยกฎหมายชายกบั หญงิ ไมไ่ ดจ้ ดทะเบยี นสมรส ลกู ทเ่ี กดิ จะเป็นลกู ทีช่ อบด้วย กฎหมายของผหู้ ญิงฝ่ายเดยี ว หากจะให้เดก็ เปน็ บตุ รท่ีชอบดว้ ยกฎหมายต้องจดทะเบยี นสมรสไมว่ ่าจะกอ่ นเกิด หรือหลงั เกดิ หากฝ่ายชายไมส่ ามารถจดทะเบยี นสมรสได้ ฝา่ ยชายต้องขอจดทะเบยี นรับรองบุตรเพื่อเปน็ บตุ รที่ ชอบด้วยกฎหมายของฝา่ ยมสี ทิ ธใิ นการรับมรดก แต่มีเง่อื นทต่ี อ้ งได้รบั ความยินยอมจากทงั แมแ่ ละเด็กทังสอง คนดว้ ย ในกรณีทีเ่ ด็กยงั ไม่สามารถให้ความยนิ ยอมไดเ้ พราะยังไรเ้ ดียวสา( เดก็ อายุยงั ไมเ่ กิน ๗ ปี ถือวา่ ยังเป็น เด็กไร้เดียวสาตามกฎกระทรวง ) กใ็ ห้ศาลส่งั ให้ความยินยอม ๔. ทะเบียนรบั บตุ รบญุ ธรรม มเี ง่อื นไขทผ่ี รู้ ับบตุ รบุญธรรมตอ้ งมีอายุ ๒๕ ปีบรบิ รู ณ์ และต้องมีอายุมากกวา่ บตุ รบุญธรรมอย่างนอ้ ย ๑๕ ปี ตัวอยา่ งเช่น ถ้าผู้รบั บตุ รบุญธรรมอายุ ๓๐ ปี บตุ รบญุ ธรรมจะอายุ ๑๘ ปีไมไ่ ด้ ต้อง ๑๕ ปี เป็นตน้ สถานทย่ี ืน่ รบั บุตรบุญธรรม ถ้าอย่ใู นเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยนื่ ที่ อธิบดกี รมกิจการเดก็ และเยาวชน ถ้าอยตู่ ่างจังหวัด ให้ย่ืนท่ี ผวู้ ่าราชการจังหวดั ขอ้ สงั เกตเมอ่ื รับบุตรเปน็ บุตรบญุ ธรรมแลว้ จะมี ฐานะเป็นบตุ รท่ีชอบดว้ ยกฎหมายสามารถรบั มรดกได้ แตใ่ นทางกลับกันผรู้ บั บุตรบุญธรรมไมม่ สี ทิ ธิ์รบั มรดก ของบุตรบญุ ธรรม วิชาการให้บรกิ ารงานทะเบียนในอานาจหน้าที่ของกานนั ผู้ใหญ่บา้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

7 นอกจากนันการรบั บุตรบุญธรรมก็สนิ สุดได้ดว้ ย ๑. จดทะเบียนเลิกรบั บุตรบุญธรรม ๒. บตุ รบุญธรรมสมรสกับผู้รบั บุตรบุญธรรม ๓. ศาลพิพากษาให้เลกิ รับบตุ รบญุ ธรรม ในสว่ นทำ้ ยสุดพนิ ยั กรรม จะมที ังหมด ๕ แบบ ดงั นี ๑. พนิ ัยกรรมแบบเขยี นเองทังฉบับ ๒. พินยั กรรมแบบธรรมดา ๓. พินยั กรรมแบบฝา่ ยเมอื ง ๔. พนิ ยั กรรมลับ ๕. พินัยกรรมแบบทาดว้ ยวาจา ท่ีอาเภอ/เขตจะเก่ยี วในส่วนของพินัยกรรมแบบฝ่ายเมอื ง หลักฐานท่ใี ช้ มีบัตรประจาตัวประชาชน พรอ้ มสาเนา หลักฐานแสดงกรรมสทิ ธิ์ทรพั ย์สนิ ทจี่ ะทาพินยั กรรม พยานบคุ คลอยา่ งนอ้ ย ๒ คน หลักฐานอนื่ ๆ (ถา้ มี) ท่านสามารถระบใุ ห้ใครก็ไดไ้ มจ่ าเปน็ ต้องเป็นญาติ พี่น้องกัน พนิ ัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมอื ง หลกั ฐานที่ใช้ 1. บตั รประจาตวั ประชาชนฉบับจรงิ พรอ้ มสาเนา 2. หลกั ฐานแสดงกรรมสทิ ธ์ิทรัพยส์ ินทจี่ ะทาพินัยกรรม 3. กรณผี ทู้ าพินัยกรรมอายุเกิน 60 ปี หรือป่วยควรมีใบรับรองแพทย์วา่ มสี ตสิ มั ปชญั ญะสมบรู ณ์ 4. พยานบคุ คลอย่างนอ้ ย 2 คน (ตอ้ งเป็นผู้ไมม่ สี ่วนได้เสียกับทรัพย์สินในพนิ ยั กรรม) 5. หลักฐานอ่ืนๆ (ถ้ามี) • ค่าธรรมเนียมกรณที าในสานกั งานเขต 50 บาท ค่ฉู บบั ๆ ละ 10 บาท • กรณีทานอกสานักงานเขต 100 บาท คฉู่ บับๆ ละ 20 บาท ตัวอยา่ งพินัยกรรมสามารถทาได้ 5 แบบดงั นี 1. พนิ ยั กรรมแบบเขยี นเองทังฉบับ คอื เขียนดว้ ยลายมือตนเองทงั ฉบบั ลงวนั เดอื น ปีท่ีทา และทส่ี าคญั ต้องลง ลายมือชอื่ ผู้ทาด้วย กรณีนีจะมพี ยานมารบั รกู้ ารทาพินยั กรรมด้วยหรอื ไมม่ ีกไ็ ด้ 2. พินยั กรรมแบบธรรมดา เป็นพนิ ัยกรรมท่ีสามารถพิมพข์ นึ มาได้ ผู้ทาต้องลงลายมอื ชื่อไว้ตอ่ หนา้ พยานทไ่ี ม่มี ส่วนได้เสยี ในกองมรดกอย่างน้อย 2 คนและพยานตอ้ งลงลายมือช่ือรับรองการทาพนิ ยั กรรมดว้ ย วิชาการให้บรกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหนา้ ที่ของกานนั ผใู้ หญ่บา้ น โดย อ.อนุชัย คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

8 3. พินัยกรรมแบบฝ่ายเมอื ง เป็นการทาพินัยกรรมแบบให้เจ้าหน้ารัฐชว่ ยทา ใช้พยาน 2 คน โดยผูท้ า พินัยกรรมต้องไปแจ้งความประสงคแ์ ละใหถ้ ้อยคาข้อความของตนแกเ่ จ้าพนกั งานทเ่ี ขตหรอื อาเภอพร้อมพยาน อยา่ งนอ้ ย 2 คน ผูท้ าพนิ ัยกรรมพรอ้ มพยานทัง 2 ตอ้ งลงลายมือชอ่ื ไว้ จากนัน เจา้ พนกั งานจะลงลายมือชอ่ื วนั เดอื น ปี ที่ทา พร้อมประทับตราตาแหนง่ 4. พินัยกรรมแบบลบั อาจจะเขียนด้วยลายมือของตนทงั ฉบบั หรอื พิมพ์ขนึ มาก็ได้ ปดิ ผนกึ แลว้ ไปฝากกบั เจา้ หนา้ ทีร่ ัฐ ท่อี าเภอหรอื สานักงานเขต 5. พินยั กรรมแบบทาดว้ ยวาจา ในกรณีทีผ่ ู้ต้องการทาพินัยกรรมไมอ่ ยู่ในสภาวะทสี่ ามารถขยบั ร่างกายได้ หรอื ปว่ ยหนกั มาก การทาพินยั กรรมไม่ยาก เพียงแต่ถา้ ทรพั ยส์ นิ มีความซบั ซอ้ นในเรื่องของการจัดการ อาจจะมี เง่อื นไขบางอยา่ ง เช่น รอให้อายุครบเท่าไหรแ่ ล้วค่อยมารับ ทรพั ย์สนิ ทม่ี อบให้แลว้ หา้ มขาย เปน็ ต้น จงึ มีความ จาเป็นอย่างยิง่ ที่จะตอ้ งปรึกษาผทู้ มี่ คี วามรู้ทางด้านกฎหมายและมีประสบการณ์โดยตรงมาชว่ ยดาเนินการ ----------------------------------------------- ภฐั ทรเดช อนิ ทรศร นทบ.ชก. สรุปคาบรรยายและเรยี บเรียง วชิ าการใหบ้ รกิ ารงานทะเบียนในอานาจหน้าท่ีของกานัน ผู้ใหญ่บ้าน โดย อ.อนชุ ัย คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

9 วิชาการให้บรกิ ารงานทะเบียนในอานาจหน้าทขี่ องกานัน ผใู้ หญบ่ ้าน โดย อ.อนชุ ัย คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

10 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

11 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

12 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

13 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

14 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

15 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

16 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

17 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

18 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

19 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

20 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

21 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

22 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

23 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

24 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

25 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

26 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

27 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

28 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

29 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

30 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

31 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

32 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

33 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

34 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

35 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง

36 วิชาการใหบ้ รกิ ารงานทะเบยี นในอานาจหน้าท่ขี องกานนั ผู้ใหญบ่ า้ น โดย อ.อนชุ ยั คาชู วทิ ยาลยั การปกครอง