Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงสร้างการวิจัย

โครงสร้างการวิจัย

Published by Maew Paleerat, 2019-06-30 00:56:07

Description: โครงสร้างการวิจัย

Keywords: reserch,วิจัย

Search

Read the Text Version

โครงสร้างการวจิ ยั 17-4204-8501 โครงการวชิ าชีพคอมพวิ เตอร์ธุรกจิ 1 (Business Computer Project 1) 3(1-7-4) ผู้สอน อ.ปาลรี ัตน์ แดงดี วท.ม.เทคโนโลยสี ารสนเทศ, บธ.บ.คอมพวิ เตอร์ธุรกจิ

องค์ประกอบของการวจิ ยั มีองค์ประกอบด้วย 5 บท บทท่ี 1 บทนา บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ยั ทีเ่ กย่ี วข้อง บทที่ 3 วธิ ีดาเนินการวจิ ยั บทท่ี 4 ผลการวจิ ัย บทท่ี 5 สรุป อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ

โครงสร้างเนื้อหาบทท่ี 1 บทนา การเขยี นบทที่ 1 บทนา ของงานวจิ ัย ประกอบด้วยหัวข้อต่อไปนี้ 1. ความเป็ นมาและความสาคญั ของปัญหา 2. วตั ถุประสงค์ของการวจิ ยั 3. ขอบเขตของการวจิ ยั 4. สมมติฐานของการวจิ ยั (ถ้ามี) 5. กรอบแนวคดิ ในการวจิ ยั (ถ้ามี) 6. นิยามคาศัพท์เฉพาะ 7. ประโยชน์ท่จี ะได้รับ

การเขียนความเป็ นมา และความสาคญั ของปัญหา 1. เขียนให้เห็นความสาคญั ของช่ือเร่ือง การเขียนให้เห็นความสาคัญตามชื่อเร่ือง เป็ นการเขียนให้เห็น ความสาคัญตามคาหลักของช่ือเร่ือง ซ่ึงเป็ นเนื้อหาท่ีต้ องการศึกษา โดยเขียนเป็ นแนวคิดเป็ นสานวนของตนเองให้ได้ประมาณ 2-3 วรรค (ย่อหน้า) โดยไม่อ้างอิงใครเลย เป็ นการเขียนปูพื้นหรือเกริ่นนา เพ่ือนา ผู้วิจัยหรือผู้อ่านเข้าสู่เรื่องท่ีจะวิจัย ในการเขียนส่วนนี้ เรียกว่า “วรรค เปิ ด”

การเขียนความเป็ นมา และความสาคญั ของปัญหา 2. เขียนให้เห็นความสาคญั ของตวั แปรตาม เป็ นการเขียนให้เห็นความสาคัญตามช่ือเรื่องเพ่ิมเติม โดยเขียนให้เห็น ความสาคญั ตามขอบเขตเนื้อหาหรือตัวแปรตาม ซึ่งอาจเขียนรวมตามเนื้อหาของ เร่ืองวจิ ัยตามที่ระบุไว้ในขอบเขตการวจิ ัย หรือตวั แปรตามโดยรวมและแต่ละด้าน (ตัวแปรตาม คือ เนื้อหาตามความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่าง) การเขียนในส่วนนี้ จะต้องเขียนให้เห็นความสาคัญของเนื้อหาโดยรวมแต่ละด้านเป็ นสานวนของ ตนเองก่อนประมาณ 1-2 วรรค แล้วอ้างองิ งานเขียนผู้อ่ืนมาสนับสนุน (ซึ่งจะต้อง กล่าวไว้ในเนื้อหาในบทที่ 2 ด้วย)

การเขยี นความเป็ นมา และความสาคญั ของปัญหา 3. เขยี นให้เห็นปัญหา เป็ นการเขียนให้เห็นปัญหาตามเนื้อหาของเร่ืองท่ีวิจัย และตามตัวแปร ตาม โดยเขียนให้เห็นปัญหาโดยรวมแต่ละด้านตามความคิดเห็นของตนเอง (ซึ่ง อาจเป็ นการเรียบเรียงจากแนวคดิ ผู้อ่ืนหลายคน) การเขียนในส่วนนีต้ ้องเขยี นเป็ น สานวนของตนเองก่อนในแต่ละประเด็นหรือแต่ละด้าน แล้วจึงอ้างอิงคว าม คดิ เห็นหรือแนวคดิ ของผู้อื่น

การเขียนความเป็ นมา และความสาคญั ของปัญหา 4. เขยี นสรุป การเขียนสรุปของผู้วิจัยในการทาวิจัยเรื่องดังกล่าว อาจใช้ข้อความ ขึน้ ต้นว่า....จากความเป็ นมาและความสาคัญของปัญหาดังกล่าว ผู้วิจัยจึงสนใจ ศึกษา..(ระบุหัวข้อวจิ ยั )..เพ่ือนาผลวจิ ัยไปใช้เป็ นแนวทางในการ.....

การเขียนความเป็ นมา และความสาคญั ของปัญหา ตวั อย่างการเขยี นสรุป จากความเป็ นมาและความสาคัญของปัญหาดังกล่าว ผู้วิจัยจึงสนใจ ศึกษาการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนขยายโอกาส สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ี การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 2 เพื่อนาผลวิจัยไปเป็ นแนวทางในการ กาหนดนโยบายและวางแผนการจัดการศึ กษาให้ ผลสั มฤทธ์ิทางการเรี ยนของ นักเรียนมคี ุณภาพและบรรลุเป้าหมายอย่างมปี ระสิทธิผลต่อไป

การเขยี นวตั ถุประสงค์ ของการวจิ ัย การเขียนวัตถุประสงค์ของการวิจัย ต้องเขียนเป็ นข้อ ๆ เมื่ออ่านแล้ว เข้าใจทันทีว่า ผู้วิจัยจะทาอะไร กับใคร ท่ีไหน และอย่างไร โดยโยงให้เห็น ความสัมพนั ธ์ระหว่างตวั แปรตามกบั ตวั แปรอสิ ระ

การเขยี นวตั ถุประสงค์ ของการวจิ ัย ตัวอย่างการเขยี นวตั ถุประสงค์ของการวจิ ยั 1. เพ่ือศึกษาสภาพการดาเนินงานตามแนวปฏิรูปการศึกษาในโรงเรียนสังกดั สานักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร สถานศึกษาใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านหลักสูตร ด้านการเรียนการสอน ด้านการพัฒนา วชิ าชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา และด้านการบริหารสถานศึกษา 2. เพ่ือเปรียบเทียบสภาพการดาเนินงานตามแนวปฏิรูปการศึกษาในโรงเรียนสังกัด สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 ตามความคิดเห็นของ ผู้บริหารสถานศึกษา ใน 4 ด้าน จาแนกตามตัวแปรอิสระ ได้แก่ ประสบการณ์และ ขนาดสถานศึกษา

การเขยี นวตั ถุประสงค์ ของการวจิ ยั ตวั อย่างการเขยี นวตั ถุประสงค์ของการวจิ ยั 1. เพ่ือสร้างเอกสารประกอบการสอน วิชาการพัฒนาเว็บไซต์ในงานธุรกิจ รหัสวิชา 3204- 2106 ตามหลกั สูตรระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้ันสูง (ปวส.) พทุ ธศักราช 2557 2. เพื่อหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบการสอน วิชาการพัฒนาเว็บไซต์ในงานธุรกจิ รหัส วิชา 3204-2106 ตามหลักสูตรระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) พุทธศักราช 2557 สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้มปี ระสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3. เพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ของนักศึกษาระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้เอกสารประกอบการสอน วชิ าการพฒั นาเวบ็ ไซต์ในงานธุรกจิ รหัสวชิ า 3204-2106

การเขยี นขอบเขตการวจิ ยั การเขียนขอบเขตการวจิ ัยเป็ นการเขียนเพ่ือกาหนดกรอบของส่วนต่าง ๆ ทเ่ี ก่ียวข้องกบั การทาวจิ ัยหรือวทิ ยานิพนธ์ ตามปกติจะมี 5 ขอบเขต ของสิ่งทเี่ กย่ี วข้องกนั ได้แก่  ด้านเนื้อหา  ด้านประชากรและกล่มุ ตัวอย่าง  ด้านตวั แปรทศ่ี ึกษา  ด้านระยะเวลาดาเนินการวจิ ยั  ด้านพืน้ ที่ดาเนินการวจิ ัย

การเขียนขอบเขตการวจิ ยั ตวั อย่างการเขียนขอบเขตของเนื้อหา

การเขยี นขอบเขตการวจิ ยั การเขยี นขอบเขตประชากรและกลุ่มตวั อย่าง 1. ประชากร การเขยี นประชากรต้องระบุว่าเป็ นใคร จานวนเท่าใด จากไหน เม่ือไหร่ 2. กล่มุ ตวั อย่าง การเขยี นกลุ่มตวั อย่างต้องระบุว่าเป็ นใคร จานวนเท่าใด จากไหน เม่ือไหร่ และได้มาอย่างไร ซ่ึงต้องเขยี นให้ส้ันและกะทดั รัด

การเขยี นขอบเขตการวจิ ยั ตวั อย่างการเขยี นขอบเขตประชากรและกล่มุ ตวั อย่าง

การเขยี นขอบเขตการวจิ ัย การเขยี นขอบเขตด้านตวั แปรทศ่ี ึกษา ตัวแปรทศ่ี ึกษามี 2 ประเภท คือ 1. ตัวแปรอสิ ระ หรือตัวแปรต้น ให้พจิ ารณาถึงความเหมาะสมและสอดคล้องกับ เรื่องทว่ี จิ ยั เช่น สถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม : เพศ อายุ ตาแหน่ง วุฒิ ประสบการณ์ 2. ตวั แปรตาม คือ ตวั แปรทเี่ ปลย่ี นค่าไปตามตวั แปรอสิ ระ เช่น ความคิดเห็นของ กล่มุ ตัวอย่าง หรือผู้ตอบแบบสอบถาม

การเขียนขอบเขตการวจิ ยั ตวั อย่างการเขยี นขอบเขตด้านตวั แปรทศี่ ึกษา

การเขียนขอบเขตการวจิ ยั ตัวอย่างการเขยี นขอบเขตการวจิ ัย

การเขียนขอบเขตการวจิ ยั ตัวอย่างการเขยี นขอบเขตการวจิ ัย

การเขยี นสมมตฐิ าน ของการวจิ ัย สมมติฐาน คือ เป็ นคาตอบล่วงหน้าที่อยู่บนพื้นฐานของเหตุผล ปรากฏการณ์ ทฤษฎี งานวิจัยที่ได้ศึกษา เพื่อใช้เป็ นแนวทางในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล ดังน้ันการ เขียนสมมติฐานเม่ือมีวตั ถุประสงค์เพ่ือเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มของตัวแปรอิสระเท่าน้ัน ถ้าไม่มกี ารเปรียบเทยี บ ไม่จาเป็ นต้องมีสมมตฐิ าน ดงั น้ัน การเขยี นสมมติฐาน ต้องเขยี นในสอดคล้องกบั สภาพจริงระหว่างตวั แปร อสิ ระสองกลุ่มหรือสามกลุ่มกบั ตวั แปรตาม การเขียนสมมติฐานอาจเขียนเป็ นข้อ ๆ ตามจานวนตัวแปรอสิ ระหรือเขียนรวม เป็ นวรรคเดยี วกนั กไ็ ด้

การเขียนขอบเขตการวจิ ยั ตวั อย่างการเขียนสมมติฐานการวจิ ยั

การเขียนกรอบแนวคดิ ในการวจิ ยั กรอบแนวคดิ ในการวจิ ัย คือ ส่วนท่ีเป็ นขอบเขตท่ีจดั ทา เป็ นกรอบความคิดที่แสดงให้เห็น แนวคิด (Concepts) ของผู้วิจัยท่ีมีต่อเร่ืองที่กาลังศึกษาและแสดงความสัมพันธ์ ระหว่างแนวคิดต่าง ๆ ในปรากฏการณ์น้ันโดยใช้แผนภูมิ แผนผัง ซึ่งกรอบแนวคิดของ งานวจิ ยั หน่ึง ๆ ต้งั อยู่บนพืน้ ฐานของกรอบทฤษฎี

การเขียนกรอบแนวคดิ ในการวจิ ยั ตวั อย่างการเขียนกรอบแนวคดิ การวจิ ัย

การเขียนกรอบแนวคดิ ในการวจิ ยั ตวั อย่างการเขียนกรอบแนวคดิ การวจิ ัย

การเขียนกรอบแนวคดิ ในการวจิ ยั ตวั อย่างการเขียนกรอบแนวคดิ การวจิ ัย

การเขียนนิยามคาศัพท์ เฉพาะ นิยามศัพท์เฉพาะ เป็นการใหค้ วามหมายของคาศพั ทบ์ างคาท่ีใชเ้ ฉพาะการวจิ ยั ไม่เป็นคาที่ ผู้อ่านรู้กันท่ัวไป เพื่อให้ผู้ทาวิจัยและผู้อ่านงานวิจัยมีความเข้าใจตรงกันในคาน้ัน นอกจากน้นั ยงั ใชเ้ ป็นแนวทางในการนาไปทาเคร่ืองมือเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล การเขียนคานิยามคาศพั ทเ์ ฉพาะ ตอ้ งเขียนให้เป็นขอ้ ความกระชบั กะทัดรัด ส้ัน แต่ครอบคลุม และไดค้ วามหมายชดั เจน

การเขียนประโยชน์ทจ่ี ะได้รับ การเขยี นประโยชน์ทจ่ี ะได้รับจะต้องสอดคล้องกบั วตั ถุประสงค์ของการวจิ ัย เขียนได้ 2 วธิ ี ดงั นี้ 1. เขยี นเป็ นข้อ ๆ สอดรับกบั วตั ถุประสงค์ของการวจิ ยั แต่ละข้อ 2. เขียนเป็ นความเรียงวรรคเดียว แต่ให้สอดคล้องกบั วัตถุประสงค์ของการวิจัยรายข้อ หรือตามลาดบั

การเขียนประโยชน์ท่จี ะได้รับ ตัวอย่างการเขยี นประโยชน์ทจี่ ะได้รับ

การเขียนประโยชน์ท่จี ะได้รับ ตัวอย่างการเขยี นประโยชน์ทจี่ ะได้รับ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook