Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore น้ำในชีวิตประวัน

น้ำในชีวิตประวัน

Published by 945sce00473, 2021-05-10 14:44:50

Description: น้ำในชีวิตประวัน

Search

Read the Text Version

นำ้ ในชีวติ ประจำวนั

นน้ำ้ำใในนชชวี วีติ ิตปประรจะ้ำววันนั สมบตั ิและควำมส้ำคญั ของน้ำ โลกประกอบด้วยพ้นื นำ้ 3สว่ น (71 %) และพื้นดนิ (29%) ส่วนของพื้นน้ำได้แก่ ทะเลและมหำสมทุ ร 97% ธำรน้ำแขง็ และภูเขำนำ้ แขง็ 2% เหลือเพียง 1 % คอื นำ้ จืด นำ้ จืดทใี่ ชใ้ นกำรอปุ โภคบรโิ ภคของส่งิ มีชีวติ ได้แก่ คลอง บงึ ทะเลสำบ แม่น้ำ บ่อน้ำ รวมท้งั น้ำท่อี ยู่ใต้ดนิ 1.สมบตั ิของนำ้ นำ้ มสี มบตั ิในกำรรกั ษำระดับ รูปร่ำงเปลย่ี นไปตำมภำชนะทบี่ รรจุ ไหลจำกทส่ี ูงลงสู่ทตี่ ้่ำเสมอ เมอ่ื มีกำรเปลี่ยนแปลงอุณหภูมินำ้ จะเปล่ยี นสถำนะได้ทัง้ ของแข็ง ของเหลวและก๊ำซ โดยจดุ เดอดของนำ้ อยู่ที่ 100 C และจดุ เยือกแขง็ ชองน้ำอยทู่ ี่ 0 C (ณ ควำม ดนั 1 ATM) 2.ควำมส้ำคัญของนำ้ ตอ่ ส่งิ มชี ีวิต สง่ิ มีชวี ิตทกุ ชนิดต้องกำรน้ำในกำรด้ำรงชีวติ ร่ำงกำยมนุษยม์ นี ้ำเป็นองคป์ ระกอบประมำณ 65 % (2 ใน 3 ของน้ำหนกั ตวั ) โดยส่วนใหญน่ ้ำจะ อยู่ในเลอื ดน้ำเหลือง ตับ หวั ใจ และปอด ถำ้ ร่ำงกำยขำดน้ำเปน็ เวลำนำนจะท้ำให้เกดิ ภำวะชอ็ ก จนอำจถึงตำยได้ ถำ้ ขำดน้ำเกิน 3 วัน 3.ควำมสำ้ คญั ของนำ้ ตอ่ สภำพอำกำศ นำ้ มอี ิทธพิ ลตอ่ สภำพอำกำศของโลกอยำ่ ง มำกท้ำใหอ้ ำกำศไมแ่ ห้งจนเกินไป และเป็นตัวกำรท้ำใหเ้ กิดฝนลมซ่ึงมีควำมจ้ำเป็นต่อกำร เกษตรกรรมและอตุ สำหกรรม วัฏจักรของน้ำ วฏั จักรของน้ำ หมำยถงึ ปรำกฏกำรณ์ทน่ี ำ้ จำกแหล่งต่ำงๆบนพนื้ โลก เช่น ทะเลแม่น้ำ คลอง กำรขบั ถำ่ ยของส่ิงมชี ีวติ กำรหำยใจ กำรคำยน้ำของ พืช และกำรสงั เครำะห์แสงของพืช เมอ่ื ไดร้ บั ควำม รอ้ นจำกดวงอำทิตยแ์ ละระเหยข้นึ ไปในอำกำศจะ กลำยเป็นไอน้ำ จำกน้นั เมื่อควำมรอ้ นท่สี ะสมในไอ นำ้ ลดลงจะเกดิ กำรควบแนน่ เปน็ ละอองน้ำรวมกัน เปน็ ก้อนเมฆ และเมอื่ กอ้ นเมฆมีขนำดใหญข่ ้ึนจะตก มำเปน็ ฝน ลกู เห็บหรอื หมิ ะ ลงส่พู ืน้ และแหลง่ น้ำอีกครัง้ เกดิ เปน็ วัฏจกั รหมนุ เวียนไปเร่อื ยๆ

แหล่งน้ำบนโลก 1 นำ้ ผิวดินหรือน้ำบนดิน (Surface water) แบ่งเปน็ 2 ชนดิ ตำมลกั ษณะกำรใช้งำนดงั นี้ 1.1 น้ำจืดน้ำท่ไี ม่มเี กลือละลำยอยู่ ในปริมำณน้ำทัง้ หมดนำ้ จืดมเี พียง 1% เทำ่ น้นั และมี ควำมสำ้ คัญตอ่ กำรดำ้ รงชีวติ ของส่งิ มีชวี ิตทัง้ หมด น้ำจืดเกิดจำกไอน้ำในบรรยำกำศกลน่ั ตวั กลำยเปน็ หยดน้ำ ตกลงสู่พนื้ โลกแลว้ ถกู กักเก็บไว้ในล้ำธำร หว้ ย หนอง คลอง บึง และแหล่งกัก เกบ็ น้ำที่มนุษย์สรำ้ งขึน้ เช่น ฝำย เขอ่ื น อ่ำงเกบ็ น้ำหรือบ่อน้ำ สำ้ หรับใช้อปุ โภคบริโภคและ กำรเกษตรตอ่ ไป 1.2 นำ้ เค็ม นำ้ ทม่ี ีเกลอื ละลำยอยู่จ้ำนวนมำก มรี สเค็ม พบในทะเล มหำสมุทร และ ทะเลสำบน้ำเค็ม เกลอื ท่ลี ะลำยอย่มู ำจำกกำรผุพงั ของหินและสิง่ มชี ีวติ นำ้ เค็มใชอ้ ปุ โภคบริโภค ไม่ได้ต้องผ่ำนกำรกล่ันก่อนจงึ ใช้ได้ ประโยชนข์ องน้ำทะเลคอื ใช้เป็นแหลง่ เพำะเล้ียงสตั วน์ ้ำและพชื น้ำ เช่น ก้งุ ปลำสำหรำ่ ย และใชใ้ นกำรเดินทำงทำงเรือดว้ ย 2 น้ำใต้ดิน (Ground water) คือน้ำที่ถกู กกั เก็บไว้อยู่ใตผ้ ิวดนิ เกิดจำกน้ำบนผิวดิน ซึมลงไป ตำมรูพรุนของดนิ และหนิ จนถึงชน้ั ของหนิ ท่กี ักเก็บน้ำไวไ้ ดน้ ้ำใตด้ ินมีปรมิ ำณมำกถึง 31%ของ ปริมำณน้ำจดื ท้งั หมดบนโลก น้ำใต้ดนิ ด้ำนบนแนวชนั้ หินเรยี กว่ำ น้ำใตด้ ิน สวนนำ้ ทไ่ี หลซมึ ต่อลงไปดำ้ นล่ำงผ่ำนรอย แยกของชั้นหิน จะไปคำ้ งอยทู่ ีช่ ั้นหินดำ้ นลำ่ ง เรียกน้ำในชั้นนี้ว่ำ น้ำบำดำล ระดบั ของนำ้ บำดำล จะเปลยี่ นไปตำมฤดกู ำลแตจ่ ะไมเ่ ปลย่ี นแปลงอยำ่ งรวดเร็วเทำ่ กบั ระดับนำ้ ในแมน่ ้ำ น้ำบำดำลแต่ ละแหล่ง มีสมบัตติ ำ่ งกนั ข้นึ กับสภำพทำงธรณีวิทยำของชัน้ หนิ บรเิ วณนน้ั น้ำบำดำลที่ดีจะตอ้ งมี สำรละลำยเจอื ปนอยูน่ ้อยโดยเฉพำะปริมำณธำตุ Fe, MN และโลหะหนกั อนั ตรำยต่ำงๆ

2.1 แผน่ ดินทรดุ เกดิ จำกกำรสูบน้ำบำดำลมำกเกินไปทำ้ ให้เกดิ ช่องวำ่ งของชัน้ หินซง่ึ เกดิ กำรทรุด ตัวของหน้ำดนิ 2.2 น้ำพุ ชั้นหินอ้มุ น้ำทีม่ ีแรงดนั นำ้ เม่ือขุดเจำะน้ำลงไปนำ้ จะไหลออกจำกชัน้ หนิ อุ้มนำ้ โดยไมต่ ้อง ใช้เคร่อื งสูบน้ำในลักษณะพุ่งขึ้นมำอนั เนอ่ื งจำกควำมดนั ของน้ำทอ่ี ยภู่ ำยในช้นั หิน 3 นำ้ พุร้อน น้ำทมี่ แี รงดนั นำ้ อนั เกิดจำกควำมร้อนของแมกม่ำซงึ่ มีอุณหภูมสิ งู เมื่อขุดเจำะนำ้ ลงไป ควำมดันน้ำจะทำ้ ใหน้ ้ำทม่ี ีอุณหภมู สิ งู พุ่งขน้ึ ไปในอำกำศกลำยเป็นนำ้ พรุ ้อน 2.4น้ำซับ น้ำใตด้ นิ ที่ไหลหรือผุดออกมำตำมรอยแยกของหินหรอื ชอ่ งหนิ 3 น้ำในบรรยำกำศ (Atmospheric water) คอื นำ้ ทพี่ บบริเวณช้ันบรรยำกำศช่วยทำ้ ให้ อำกำศมคี วำมชื้นเหมำะแก่กำรหำยใจและเหมำะแกก่ ำรดำ้ รงชวี ิตของสงิ่ มชี วี ิตมำกขนึ้ นำ้ ใน บรรยำกำศมที ้งั 3 สถำนะ สถำนะของแขง็ เกดิ ในท่อี ำกำศเย็นจัดหรือทมี่ ีควำมกดอำกำศสงู ไดแ้ ก่ ลกู เห็บ หิมะ สถำนะ ของเหลว เกดิ จำกกำรควบแนน่ ของเมฆหรือหมอกได้แก่ น้ำฝน น้ำค้ำง สถำนะแกส๊ เกดิ จำกนำ้ จำกแหล่งอ่นื ระเหยเขำ้ ส่บู รรยำกำศ ได้แก่ หมอก เมฆ กำรอนรุ กั ษน์ ำ้ 1 ประโยชน์ของนำ้ ใช้อปุ โภคบริโภค หรอื เพื่อกำรเกษตรเพำะปลูกพชื เลย้ี งสตั วแ์ ละเปน็ แหลง่ พักผอ่ นหยอ่ น ใจได้ เปน็ แหลง่ ทอ่ี ยู่อำศัยของสตั ว์ ทม่ี นุษย์สำมำรถนำ้ มำท้ำเปน็ อำหำรได้ ใชใ้ นอตุ สำหกรรม เช่น ใช้ระบำยควำมร้อน หล่อเย็นเครื่องจักร ลำ้ งของเสยี ผลติ ไฟฟ้ำ คมนำคมขนส่ง 2 ปญั หำของน้ำ ปัญหำขำดแคลนน้ำ จำกกำรตดั ไม้ท้ำลำยป่ำท้ำใหแ้ หลง่ ต้นน้ำหำยไปฝนไมต่ กตำมฤดกู ำล เกดิ ควำมแหง้ แลง้ ส่งผลตอ่ พืชท่เี พำะปลูกและสัตวเ์ ล้ียง ปัญหำน้ำท่วม จำกกำรตดั ไม้ทำ้ ลำยป่ำ เพรำะไม่มีแหล่งดูดซบั นำ้ จำกกำรไหลบ่ำของน้ำ ในฤดูฝน ปัญหำน้ำเสีย เกดิ จำกกำรทง้ิ สิ่งปฏิกูลลงในแหลง่ น้ำน้ำเสียที่เกิดจำกกระบวนกำรผลิต ของโรงงำนอตุ สำหกรรมหำกไมไ่ ด้มกี ำรบ้ำบดั ก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำจะท้ำให้เกดิ นำ้ เสยี และ สำรพษิ ตกค้ำงในแหลง่ นำ้ ได้

3 ดัชนีชวี ดั คณุ ภำพน้ำเสียกอ่ นปลอ่ ยลงสู่แหล่งนำ้ 1 ค่ำ DO (Dissolved Oxygen) คอื ปริมำณแกส๊ ออกซเิ จนที่ละลำยอยู่ในน้ำมีค่ำตัง้ แต่ 0 - 9 mg/l นำ้ สะอำดจะมคี ่ำ DO มำก น้ำที่มีค่ำ DO ต่ำ้ กวำ่ 3 mg/l จดั เป็นน้ำเสีย นำ้ ที่มีคำ่ DO ต่ำ้ กวำ่ 1 mg/l สตั ว์น้ำจะตำย 2 ค่ำ CDO (Chemical Oxygen Demand) คือปริมำณแกส๊ ออกซเิ จนทีต่ อ้ งใช้ในกำร ย่อยสลำยสำรอนิ ทรียใ์ นน้ำโดยใช้สำรเคมีเป็นตวั ย่อยสลำยน้ำสะอำดจะมคี ่ำ COD ต้่ำ น้ำเสียค่ำ COD จะสงู ตง้ั แต่ 100 จนถึงมำกกวำ่ 100 mg/l และนำ้ เสยี ที่สำมำรถปล่อยลงสู่แหล่งน้ำได้ จะต้องถกู บำ้ บัดให้มคี ่ำ CODไมเ่ กิน 120 mg/l 3 ค่ำ BOD (Biochemical Oxygen Demand) คือ ปริมำณแก๊สออกซิเจนทตี่ อ้ งใชใ้ น กำรยอ่ ยสลำยสำรอินทรีย์ในน้ำโดยใช้จุลินทรยี ์เปน็ ตัวย่อยสลำยนำ้ สะอำดจะมีคำ่ BOD ต้่ำ นำ้ เสยี ค่ำ BOD จะสงู ตัง้ แต่ 100 จนถงึ มำกกวำ่ 1,000 mg/l และน้ำเสียที่สำมำรถปล่อยลงสแู่ หล่งนำ้ ได้ จะต้องมีค่ำ BOD ไม่เกิน 20 mg/l 4 สี สขี องแหลง่ นำ้ เกิดจำกสำรแขวนลอยในน้ำน้ำท่ีดีตอ้ งใสไมม่ ีสี 5 ควำมเป็นกรด คำ่ pH ท่เี หมำะสมตอ่ กำรด้ำรงชีวิตของสัตว์นำ้ ส่วนใหญ่อยทู่ ี่ 6.5 ถึง 8.5 6.อณุ หภมู ิ อุณหภมู นิ ้ำสูงจะเร่งปฏิกิริยำเคมีในนำ้ และส่งผลตอ่ คำ่ DO ในน้ำโดยยิง่ อุณหภมู ิสูง DO จะยง่ิ ตำ้่ 7 โคลิฟอร์มแบคทีเรีย เป็นแบคทีเรียทอี่ ำศยั อยใู่ นล้ำไส้คนและสตั วต์ รวจวดั ไดท้ ำง อุจจำระ หำกแหล่งนำ้ ใดมโี คลฟิ อรม์ แบคทีเรียปนเปื้อนแสดงวำ่ ไมเ่ หมำะสมตอ่ กำรอุปโภคและ บริโภค 8 กำรน้ำไฟฟำ้ กำรน้ำไฟฟำ้ ของน้ำขน้ึ อยู่กบั ปริมำณสำรอินทรีย์ทีล่ ะลำยในน้ำ เช่นเกลอื แร่ต่ำงๆท่ีละลำยในน้ำ ดังนั้น ถำ้ น้ำนำ้ ไฟฟำ้ ไดด้ ีแสดงว่ำมสี ำรเจอื ปนอย่มู ำก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook