Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปโตเลมี

ปโตเลมี

Published by 945sce00473, 2021-11-01 06:10:03

Description: ปโตเลมี

Search

Read the Text Version

คลอดอิ ุส ปโตเลมี CLAUDIUS PTOLEMAEUS (PTOLEMY)

ปโตเลมเี ป็นนักดาราศาสตร์และนกั ภูมศิ าสตรท์ ม่ี ีช่ือเสยี งมากในชว่ งทย่ี ังมชี ีวติ อยู่ (ค.ศ. 90 – 168) ปโตเลมเี ปน็ ชาวกรกี โดยกาเนิด แต่ใช้ชวี ิตสว่ นใหญ่ที่เมืองอเลก็ ซานเดรีย ประเทศอียิปต์ อตั ชีวประวัติส่วนตัวของปโตเลมมี ีการบนั ทึกไวน้ ้อยมากและไม่ชดั เจน ผลงานทส่ี รา้ งช่อื เสยี งใหป้ โตเลมีมากทสี่ ดุ ไดแ้ ก่ ชุดประมวลความรู้คณิตศาสตร์ ดา้ นดาราศาสตร์ ทเี่ รียกว่า \"Mathematical Syntaxis\" ซ่ึงมจี านวน 13 เล่ม โดยในเวลาต่อมา ซงึ่ เป็นยุคที่ดาราศาสตรร์ ุง่ เรอื งในดินแดนตะวนั ออกกลาง ชาวอาหรบั ได้นาหนังสือดังกล่าวมาแปล โดยเรียกว่า \"แอลมาเกสต\"์ (Almagest) ซ่งึ มคี วามหมายว่า \"The Greatest\" โดยชดุ ประมวลความรู้ ดงั กลา่ ว ปโตเลมีได้รวบรวมและเรยี บเรียงความรู้ตา่ งๆ ไวอ้ ย่างละเอียด และมีระเบยี บเป็นลาดบั ข้นั ตอน ซงึ่ สะดวกต่อการคน้ ควา้ และเขา้ ใจง่าย ถึงแมว้ า่ ผลงานท้งั หมดจะไมใ่ ช่ของปโตเลมีทั้งหมด

แอลมาเกสต์ หนา้ ซ้ายมือ อธิบายการคานวณช่วงเวลาเกดิ สรุ ิยุปราคา และจันทรุปราคา หนา้ ขวามอื อธิบายแบบจาลองการเคลอื่ นท่ีของดาวเคราะห์ อาทิเชน่ ดาวองั คาร ดาวพฤหสั บดี และดาวเสาร์ แอลมาเกสตเ์ ป็นชุดหนงั สือทร่ี วบรวมความร้ดู ้านดาราศาสตร์ในยคุ นนั้ โดยเฉพาะผลงานของฮิพพาคัส (Hipparchus : นักดาราศาสตร์ผมู้ ชี ่อื เสียงชาวกรีก มีชีวติ อยใู่ นช่วง ปี 170 – 125 กอ่ นครสิ ตกาล) ซ่งึ มอี ิทธิพลต่อ ความคิดในการพฒั นาผลงานต่างๆ ของปโตเลมี ผลจากการรวบรวมความรู้โดยปโตเลมีทาใหบ้ นั ทกึ ของฮพิ พาคสั ไดต้ กทอดมาถึงปัจจุบัน

จากหลกั การความคิดของอารสิ โตเติลท่เี ชอ่ื ว่าโลกเป็นศูนยก์ ลางของจักรวาล โดยมีดาวเคราะหแ์ ละดวงดาวต่างๆ โคจรรอบโลกเปน็ วงกลมสมบูรณน์ น้ั ไดท้ าให้ปโตเลมี ใช้การสงั เกต ทางดาราศาสตร์และความรดู้ า้ นคณิตศาสตร์ในการพัฒนาระบบจกั รวาล \"Ptolemaic System\" ท่ีอธิบายวา่ \"โลกเป็นศนู ย์กลางของจักรวาล\" เน่อื งจากปโตเลมีได้ใช้ คณติ ศาสตรใ์ นการพิสูจน์และอธิบายระบบจักรวาลดงั กลา่ ว ทาใหไ้ ม่มผี โู้ ต้แยง้ เปน็ เวลาร่วม 1,400 ปี จนกระท่ัง ค.ศ. 1543 โคเพอร์นิคัส นกั ดาราศาสตรช์ าวโปแลนด์ ไดพ้ ิสูจน์ว่าทฤษฎี ของปโตเลมที ร่ี ะบวุ า่ โลกเปน็ ศนู ยก์ ลางของจักรวาลนั้นผดิ โดยแท้ทจี่ รงิ แลว้ ดวงอาทติ ย์ ต่างหากท่เี ป็นศูนยก์ ลางของสรุ ิยจกั รวาล โดยมโี ลกและดาวเคราะห์โคจรรอบดวงอาทติ ย์

ระบบจักรวาลของปโตเลมี ที่มีโลกเปน็ ศนู ยก์ ลางของจักรวาล โดยมดี วงจันทร์ (LVNAE) ดาวพธุ (MERCVRII) ดาวศุกร์ (VENERIS) ดวงอาทติ ย์ (SOLIS) ดาวองั คาร (MARTIS) ดาวพฤหสั (IOVIS) และดาวเสาร์ (SATVRNIS) โคจรไปรอบโลก

เพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกับผลการสังเกตบนทอ้ งฟา้ ปโตเลมีไดอ้ ธบิ ายการโคจรของดาวเคราะหแ์ ละดวงดาว ต่างๆ ด้วยวงกลมวงใหญ่ (deferent) ที่หมนุ รอบโลก พรอ้ มกับมีวงกลมวงเล็กทีเ่ รียกวา่ \"epicycles\" ซ่ึงเปน็ วงโคจรของดาวเคราะห์โดยเคลือ่ นทบี่ นเส้นรอบวงของวงกลมวงใหญ่ การเคลอื่ นที่ของวงกลมใหญ่ จะเคลือ่ นท่ไี ปตามทิศทางของจุดท่ี 1 จนถึง 7 โดยวงกลมวงเลก็ จะเคลอ่ื นท่ีในลกั ษณะทีค่ วงสว่าน และสังเกตไดว้ า่ ดาวเคราะห์จะมกี ารโคจรถอยหลังจากจดุ 3 จนถงึ 5 ซึง่ ปโตเลมใี ช้อธิบายการโคจรถอยหลงั ของดาวเคราะห์ ทส่ี งั เกตได้ นกั ดาราศาสตร์รุน่ หลงั ไดว้ ิเคราะห์แล้ววา่ สาเหตุหลักทีป่ โตเลมใี ช้การอธิบายท่คี อ่ นขา้ งซบั ซ้อน ก็เน่อื งจากว่า ปโตเลมีเชอื่ วา่ ดาวเคราะห์โคจรเปน็ วงกลม ท้งั ที่ความเป็นจริงแลว้ ดาวเคราะหโ์ คจรเป็นวงรี (ค้นพบโดยเคปเลอร์ ในชว่ งเวลาอกี 1,450 ปีตอ่ มา) ทาให้การพยากรณส์ าหรบั การโคจรบางส่วนจงึ ผดิ พลาด สะสมไปเรอ่ื ยๆ อยา่ งไรก็ตาม นักดาราศาสตร์ในยุคปจั จุบนั กไ็ ดย้ อมรบั วา่ การอธบิ ายของปโตเลมถี ือว่าดีท่สี ุดแล้ว ในเวลาน้ัน

การอธิบายการโคจรของดาวเคราะหร์ อบโลกตามแบบจาลองจกั รวาลของปโตเลมี วงกลมวงใหญ่ และ epicycle นอกจากนี้ ปโตเลมไี ด้แสดงความคิดเหน็ ไวว้ ่า การทเ่ี ราเห็นดวงดาวต่าง ๆ บนทอ้ งฟา้ เคล่ือนทไ่ี ปน้ัน อาจเกิดจากการทโ่ี ลกหมุนรอบตัวเอง (เฮอราไคลดัส Heraclidus นกั ปราชญก์ รีกได้เสนอความคิดน้ีมาก่อนแล้ว) แต่วา่ ทฤษฎโี ลกหมุนรอบตัวเองนนั้ ยงั ไม่เป็นที่ยอมรบั ในเวลานั้น

ความเช่ือตามความคิดของอาริสโตเติล และแบบจาลองระบบจักรวาลโดยปโตเลมี ทร่ี ะบุและพสิ ูจน์วา่ โลกเปน็ ศนู ย์กลางของจักรวาล ไมเ่ พียงแต่ฝงั รากลึกในแวดวงวิทยาศาสตร์ในยุคดงั กล่าวเท่าน้ัน แต่ความเชือ่ ดังกลา่ ว ยังได้ฝงั รากลกึ ในศาสนจกั รคาทอลิกอย่างเหนยี วแน่นอีกดว้ ย ซ่งึ มีผลกระทบอย่างรนุ แรงตอ่ นักวทิ ยาศาสตรร์ นุ่ ตอ่ มา อาทิเชน่ โคเพอรน์ คิ ัส หรือ กาลิเลโอ ท่ีพยายามพสิ ูจนว์ า่ โลกไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล นอกจากผลงานทางด้านดาราศาสตร์แล้ว ปโตเลมียังสร้างผลงานทางด้านคณิตศาสตร์ อาทิเชน่ ทฤษฎบี ทปโตเลมี (Ptolemy’s Theorem) ซง่ึ อธบิ ายรปู สเี่ หลย่ี มด้านไมเ่ ทา่ ที่บรรจุอย่ใู นวงกลม นอกจากนี้ ปโตเลมียังได้พิสจู นค์ า่ Sin (A+B) Cos (A+B) ซึ่งถอื ไดว้ า่ เป็นจุดเร่มิ ตน้ ของตรโี กณมติ ิ (Trigonometry) นอกจากเปน็ นักคดิ แล้ว ปโตเลมียงั เปน็ นักประดิษฐเ์ ครือ่ งมือต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องมอื ด้านดาราศาสตร์ เพ่อื ใชส้ าหรับการวดั มมุ ทีด่ วงดาวหรือดวงอาทิตย์ทามมุ กบั โลก จากผลงานต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์ของปโตเลมีทไี่ ดส้ ร้างคุณประโยชนม์ ากมาย จนถอื ไดว้ ่าปโตเลมี เป็นผูย้ ง่ิ ใหญ่แห่งยุคในเวลานัน้ โดยเฉพาะผลงานทางด้านดาราศาสตรท์ ่ีได้มีอิทธิพลและเปน็ ทีย่ อมรับมาเป็น เวลานานรว่ ม 1,400 ปี จนกระทั่งโคเพอร์นคิ ัส ไดพ้ ิสจู น์ว่าระบบจกั รวาลของปโตเลมไี มถ่ ูกต้อง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook