ข้าวหอมมะลทิ ่งุ กลุ าร้องไห้ ข้าวหอมมะลทิ ุ่งกุลาร้องไห้ เป็นข้าวหอมท่ีไวตอ่ แสง พันธ์ขุ าวดอกมะลิ 105 และพนั ธ์ุ กข 15 ซง่ึ ปลูกปลกู ในฤดูนาปี ในพืน้ ท่ที ุ่งกุลาร้องไห้ ไดแ้ ก่ พื้นท่ี จงั หวัดร้อยเอ็ด สรุ นิ ทร์ มหาสารคาม ศรสี ะเกษ ยโสธร ไดร้ ับการข้ึนทะเบียนเป็นสิ่งบง่ ชี้ทางภมู ศิ าสตรเ์ มอ่ื เดอื นกันยายน 2550 เลขที่ บง่ ชีภ้ มู ศิ าสตร์ สช.50100022 และเป็นขา้ วที่บง่ ชีท่ างภูมิศาสตรส์ ินค้าแรกของภูมภิ าคเอเชยี ท่ี ไดร้ บั ข้นึ ทะเบียนสิ่งบ่งชภ้ี มู ศิ าสตรใ์ นสหภาพยโุ รบ มผี ลบังคับใชเ้ มื่อวนั ที่ 4 มนี าคม 2556 ลกั ษณะเดน่ ขา้ วเปลือกมีสีฟาง เมลด็ ข้าวยาว เรยี ว และเมลด็ ขา้ วไม่มีหางข้าว เมล็ดข้าวที่ผา่ นการสีแล้ว จะมี ความเลื่อมมันจมูกข้าวเล็ก เมล็ดข้าวสขี าวเหมือนมะลิ เมอ่ื หุงจะมีกลิน่ หอมคลา้ ยใบเตยนุ่มเหนียว หรือนยิ าม วา่ หอม ยาว ขาว นุ่ม
คณุ ค่าทางโภชนาการ มอี มิโลส ร้อยละ 14 – 16 มคี วามหอมท่เี กดิ จากสารระเหย 2 acetyl 1 pyroline (2AP) ทำ ให้เมอื่ รับประทานจะรูส้ กึ หอมกวา่ ข้าวสายพันธ์ุอนื่ กระบวนการผลติ พ้นื ทีป่ ลูกตอ้ งอยใู่ นเขตทุ่งกุลารอ้ งไห้ ใน 5 จังหวัด ไดแ้ ก่ อำเภอเกษตรวิสยั สวุ รรณภูมิ ประ ทุมรัตต์ โพนทราย และอำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด อำเภอท่าตูม อำเภอชุมพลบุรี จังหวัด สุรินทร์ อำเภอราศีไศล และอำเภอศิลาลาด จังหวัดศรีสะเกษ อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัด มหาสารคาม และอำเภอมหาชัยชนะ อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร และผลิตข้าวทุ่งกุลาร้องไห้ใน ระบบ GAP ความสมั พนั ธ์ระหว่างสินคา้ กับแหลง่ ภมู ศิ าสตร์ ทงุ่ กลุ ารอ้ งไห้ เป็นท่งุ ใหญ่ของภาคอสี าน มีพ้นื ที่อยู่ในเขต 5 จงั หวดั ได้แก่ จังหวัด มหาสารคาม รอ้ ยเอ็ด ยโสธร ศรีสะเกษ และ จงั หวัดสรุ นิ ทร์ จำนวนพ้ืนที่ทั้งสิน้ 2,107,690 ไร่ เดมิ มีชื่อวา่ ทงุ่ หมาหลง หรือ ทุ่งปหู่ ลาน ทไี่ ด้ชื่อ “ทุ่งกุลาร้องไห้” น้นั มีตำนานกล่าวว่า มพี อ่ คา้ ชาวกลุ าเดนิ เรข่ ายสนิ ค้าผ่านเข้ามาในทุ่งกว้างแห่งน้ีจนเม่อื ลา้ ยงั ไม่พน้ ท่งุ กว้างแหง่ นส้ี ักที ท่งุ นจ้ี งึ มี ชอื่ ว่า “ทุ่งกลุ าร้องไห้” พืน้ ท่ีทงุ่ กุลาร้องไหเ้ ป็นแอง่ ขนาดใหญ่ เปน็ ดนิ รว่ มปนทราย ในดนิ มโี ซเดยี มและซลิ กิ า้ มคี วาม อดุ มสมบรู ณต์ ำ่ ลกั ษณะสภาพภมู ิประเทศมีความเคม็ ในดนิ ความแห้งแล้งของพ้ืนที่ สภาพอากาศ ธาตุ อาหารในดนิ ส่งผลใหเ้ กดิ ความเครียดและหล่ังสารหอม 2AP ทำใหข้ ้าวหอมมะลิในแหลง่ นี้ หอมมากกว่าขา้ วหอมมะลิแห่งอนื่ ๆ
พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงไดร้ ับการยกยอ่ งว่าเปน็ พระบิดาแห่งขา้ วไทย ซงึ่ เรือ่ งน้ีเป็นทีป่ ระจกั ษแ์ ก่ทกุ คนท้งั ชาวไทย และชนทั่วโลกวา่ พระปรีชาสามารถด้านการเกษตรของพระองค์ทา่ นสูงส่งย่ิงนกั โดยเฉพาะอย่าง ย่งิ เรอื่ งข้าว ซง่ึ เป็นอาหารหลักของชาวไทยทกุ คน พระองค์ท่านได้ใสพ่ ระราชหฤทยั และให้ ความสำคญั กับการพัฒนาข้าวมาโดยตลอด แมก้ ระทง่ั ในเขตพระราชฐานคอื พระราชวังดุสติ กย็ ัง มีแปลงทดลองและปลกู ข้าว มโี รงสี และอน่ื ๆ ทเี่ ก่ยี วข้องกบั เรอื่ งข้าว เพ่ือท่จี ะไดพ้ ฒั นาส่งิ ใหมๆ่ ออกมาใหป้ วงชนชาวไทยได้ใช้ประโยชน์กนั รวมทงั้ มหี น่วยงานทท่ี ำหน้าที่โดยเฉพาะในการพัฒนา และวิจัยเรื่องขา้ ว อย่างเชน่ กรมการข้าว ที่ดำเนินงานด้านวิชาการมาอย่างต่อเนือ่ ง จนในที่สุด ประเทศไทยก็เปน็ ประเทศทม่ี คี วามโดดเด่นเรือ่ งขา้ วของโลก ในปัจจบุ นั กลุ่มข้าวหอมทไี่ ดร้ บั ความนยิ มอยูใ่ นปัจจบุ ัน เรียกกันกวา้ งๆ วา่ ข้าวหอมมะลิ ซง่ีึ มีความ หลากหลายพนั ธุ์พอสมควร แตท่ ่ขี ้นึ ช่อื มากก็คอื ข้าวพันธข์ุ าวดอกมะลิ 105 และท่ไี ดร้ บั การจด ทะเบียนรับรองส่งิ บง่ ชท้ี างภมู ศิ าสตร์ ก็คือขา้ วหอมมะลิทุง่ กลุ าร้องไห้ ขา้ วหอมมะลิก็เป็นอกี หนงึ่ ในสงิ่ ทีน่ า่ ภาคภมู ใิ จของคนไทย เพราะกลายเป็นข้าวท่ไี ด้รับการชน่ื ชมจากท่วั โลกว่าเปน็ หน่ึงใน ข้าวที่ดที ส่ี ุดในโลก แต่หลายคนไม่คอ่ ยได้ทราบท่มี าท่ไี ปของข้าวดงั กลา่ ว เพียงแต่รบั รู้วา่ ขา้ วหอม มะลเิ ปน็ ของไทย จริงๆ การที่ข้าวหอมมะลขิ ึ้นมาผงาดเป็นอันดบั ตน้ ของโลกได้นน้ั เป็นผลจากการ วจิ ยั โดยแท้ และเปน็ สิง่ ท่ตี อ่ เนอื่ งมาจากภมู ิปัญญาของคนไทยในอดตี จนกระท่ังไดข้ องดีของ ประเทศเปน็ มรดกแกท่ ุกคนในวันนี้
สนุ ทร สหี ะเนิน อดีตพนกั งานข้าว อ.บางคลา้ จ.ฉะเชงิ เทรา ย้อนหลังไปเม่ือปี 2493 นกั วชิ าการหนา้ ใหมเ่ ร่อื งข้าวของกรมการขา้ วในสมัยนั้นทา่ นหน่งึ คอื ดร.สุนทร สีหะเนิน เป็นผู้รวบรวมพนั ธ์ขุ ้าวและทดลองปลกู ทีต่ ำบลท่าทองหลาง อำเภอบาง คลา้ จงั หวดั ฉะเชิงเทรา จนค้นพบขา้ วพนั ธุ์ขาวดอกมะลิ 105 เพราะว่าได้ไปรวบรวมรวงข้าวจาก แหลง่ ต่างๆ แหล่งละ 200 รวงแล้วนำมาปลูกทดสอบและคดั เลอื ก โดยมาปลกู เปน็ แถวเปน็ แนว ซึี่งก็พบวา่ ข้าวหอมรวงท่ีให้หมายเลขว่า 105 เม่ือปลกู ทดสอบแล้วใหล้ ักษณะต่างๆ ที่ดีที่สุด ทัง้ เรื่องความหอมและคณุ ภาพด้านอ่นื ๆ ซึง่ เปน็ ต้นกำเนิดของขา้ วหอมมะลิ โดยได้จดทะเบียนพนั ธ์ุ เมื่อปพี ุทธศกั ราช 2512 จากน้นั ท่านได้นำข้าวพนั ธด์ุ ังกล่าวไปทดลองปลูกทท่ี งุ่ กุลาร้องไห้ จังหวัดรอ้ ยเอด็ ความจรงิ ชื่อ ของทุง่ กุลารอ้ งไห้ กบ็ อกอยู่ว่า เป็นพื้นทท่ี ีก่ นั ดารสุดๆ มที ้ังความเค็มของดิน และความแหง้ แลง้ จนกระท่งั ไมส่ ามารถเพาะปลกู พชื ชนดิ อื่นได้ แต่ปรากฎว่าข้าวพันธุข์ าวดอกมะลิ 105 กลบั ปลูก ไดผ้ ลดี จนกระทัง่ ปัจจุบนั น้ี กลายเปน็ ข้าวหอมมะลิท่มี คี ุณภาพ มีช่อื เสียง เปน็ ท่ีรู้จกั ทง้ั ในประเทศ และทว่ั โลก จนไดร้ บั การรับรองขน้ึ ทะเบยี นส่งิ บ่งชีท้ างภมู ิศาสตร์ ทใ่ี ครก็ตามไม่อาจเลยี นแบบได้
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: