บทที่ 1

การบัญชีการเงิน (FINANCIAL ACCOUNTING) ขอ้ สรุปตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้

บทที่ 1 ความรู้ทวั่ ไปเกย่ี วกบั สินค้า (INTRODUCTION OF INVENTORY)  จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ หลงั จากศึกษาเน้ือหาในบทเรียนน้ีแลว้ ควรจะสามารถ

ประวตั กิ ารบัญชี (History of Accounting)  แหล่งกาเนิดของการบญั ชี – เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี จากหนงั สือเกี่ยวกบั คณิตศาสตร์ที่มีเรื่องราวของหลกั การบญั ชีคู่ ช่ือ Summa de Arithmetica, Geometria, Proportione et Proportionalite เขียนโดยนกั บวชชื่อ Luca Pacioli  ประเทศไทย – มีพระราชบญั ญตั ิการบญั ชีคร้ังแรกปี 2482 และมีการแกไ้ ข ขอ้ บกพร่องโดยประกาศคณะปฏิวตั ิ ฉบบั ท่ี 285 (ปว.285) ต้งั แต่ 30 พ.ย. 2515 เป็นตน้ มา และปัจจุบนั ไดม้ ีการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิการบญั ชี พ.ศ. 2543 ต้งั แต่ 10 ส.ค. 2543 เป็นตน้ มา มีหน่วยงานท่ีกากบั ดูแลคือ สภา วิชาชีพบญั ชี (Federation of Accounting Professions) ภายใตพ้ ระราชบญั ญตั ิวิชาชีพบญั ชี พ.ศ. 2547

ความหมายของการบญั ชี (Accounting Defined)  การบญั ชี หมายถึง ศิลปะของการเก็บรวบรวม บนั ทึก จาแนก และทาสรุป ขอ้ มูล อนั เกี่ยวกบั เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจซ่ึงสามารถใช้เป็ นหน่วยเงินตรา ผลงานชิ้นสุดทา้ ยของการบญั ชีคือ การใชข้ อ้ มูลทางการเงินซ่ึงเป็นประโยชน์ แก่บุคคลหลายฝ่ ายและผทู้ ่ีสนใจในกิจกรรมของกิจการ

ความแตกต่างระหว่างการทาบัญชีกบั การบญั ชี (Distinguishing between Bookkeeping and Accounting)  การทาบญั ชีเป็นเร่ืองของการบนั ทึกรายการทางการเงินที่เกิดข้ึนจากกิจกรรม ทางธุรกิจ โดยเป็นลกั ษณะการเกบ็ และจดบนั ทึกขอ้ มูลที่เกิดข้ึนประจาวนั เท่าน้นั ส่วนการบญั ชีน้นั ไดร้ วมไปถึงการออกแบบและการวางระบบขอ้ มูล ทางการบญั ชีตามความตอ้ งการของผใู้ ช้ และการนาขอ้ มลู ไปวเิ คราะห์และ แปลความหมายเพ่ือประโยชนใ์ นการตดั สินใจในเร่ืองต่างๆ

แม่บทการบญั ชี (Accounting Framework)  ขอ้ สมมติ (Assumptions)  เกณฑค์ งคา้ ง (Accrual Basis)  การดาเนินงานต่อเน่ือง (Going Concern)  ลกั ษณะเชิงคุณภาพของงบการเงิน (Qualitative Characteristics)  ความเขา้ ใจได้ (Understandability)  ความเกี่ยวขอ้ งกบั การตดั สินใจ (Relevance)  ความเช่ือถือได้ (Reliability)  การเป็นตวั แทนอนั เที่ยงธรรม (Faithful Representation)  เน้ือหาสาคญั กวา่ รูปแบบ (Substance over Form)  ความเป็นกลาง (Neutrality)  ความระมดั ระวงั (Prudence)  ความครบถว้ น (Completeness)  การเปรียบเทียบกนั ได้ (Comparability)

ผู้ใช้ข้อมูลทางการบัญชี (The Users of Accounting Information)  ผใู้ ชภ้ ายนอก (External Users) => ผถู้ ือหุน้ เจา้ หน้ี หน่วยงาน หรือองคก์ ารของรัฐบาล  ผใู้ ชภ้ ายใน (Internal Users) => ผบู้ ริหารภายในองคก์ าร

รูปแบบของธุรกจิ (TYPE OF BUSINESS)  แบ่งตามรูปแบบทางกฎหมาย  กจิ การประเภทเจ้าของคนเดยี ว (Single or Sole or Individual Proprietorship)  กจิ การประเภทห้างหุ้นส่วน (Partnership)  กจิ การประเภทบริษทั จากดั (Company Limited or Corporation)  แบ่งตามลกั ษณะของการประกอบธุรกจิ  ธุรกจิ เกย่ี วกบั การให้บริการ (Service Firm)  ธุรกจิ เกยี่ วกบั สินค้า  ธุรกจิ ซื้อ-ขายสินค้า (Merchandising Firm)  ธุรกจิ ผลติ สินค้า (Manufacturing Firm)

งบการเงนิ (Financial Statements)  งบการเงินที่สมบูรณ์ซ่ึงถือวา่ เป็นการรายงานขอ้ มูลทางการเงินที่ครบถว้ นน้นั จะตอ้ งประกอบดว้ ย รายงานในลกั ษณะดงั ต่อไปน้ี 1. งบแสดงฐานะการเงิน ณ วนั สิ้นงวด (a statement of financial position as at the end of the period) 2. งบกาไรขาดทุนเบด็ เสร็จสาหรับงวด (a statement of comprehensive income for the period) 3. งบแสดงการเปล่ียนแปลงส่วนของเจา้ ของสาหรับงวด (a statement of changes in equity for the period) 4. งบกระแสเงินสดสาหรับงวด (a statement of cash flows for the period) 5. หมายเหตุประกอบงบการเงิน (notes) ซ่ึงประกอบดว้ ยสรุปนโยบายบญั ชีท่ีสาคญั ขอ้ มูลท่ี ใหค้ าอธิบายอื่น และ 6. งบแสดงฐานะการเงิน ณ วนั ตน้ งวดของงวดที่นามาเปรียบเทียบงวดแรกสุด เมื่อกิจการไดน้ า นโยบายการบญั ชีใหม่มาถือปฏิบตั ิยอ้ นหลงั หรือการปรับงบการเงินยอ้ นหลงั หรือเม่ือกิจการมี การจดั ประเภทรายการในงบการเงินใหม่

ประโยชน์ของการบญั ชี (Advantages of Accounting)  เป็ นแหล่งข้อมูลเพ่ือการวางแผนและควบคุมการดาเนินงาน ตามปกติของผบู้ ริหารภายในองคก์ าร  เป็ นแหล่งขอ้ มูลเพ่ือการกาหนดกลยทุ ธ์ในกรณีพิเศษของผบู้ ริหาร ภายในองคก์ าร  เป็นแหล่งขอ้ มูลเพ่อื ผสู้ นใจภายนอกองคก์ ารในทุกๆ ดา้ น อาทิเช่น การวางแผนการลงทุน การประเมินภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ