หน่วยท่ี 2 ข้นั ตอนการจดั ทาโครงการ ผู้สอน อาจารย์ วาทนิ ี หมนื่ ปทุม ALLPPT.com _ Free PowerPoint Templates, Diagrams and Charts
๒. ขนั้ ตอนการทาโครงงาน ๒.๑ การคิดและการเลอื กหัวเร่ือง ผู้เรียนจะต้องคิด และเลอื กหัวเรื่อง ของโครงงานด้วยตนเองว่าอยากจะศึกษาอะไร ทาไมจึงอยากศึกษา หัวเร่ืองของ โครงงานมักจะได้มาจากปัญหา คาถามหรือความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเร่ือง ต่างๆ ของผู้เรียนเอง หัวเร่ืองของโครงงานควรเฉพาะเจาะจงและชัดเจน เม่ือใคร ได้อ่านช่ือเรื่องแล้วควรเข้าใจและรู้เรื่องว่าโครงงานนีท้ าจากอะไร การกาหนดหัว เร่ืองของโครงงานน้ันมแี หล่งทจ่ี ะช่วยกระตุ้นให้เกดิ ความคดิ และความสนใจหลาย แหล่งด้วยกนั เช่น จากการอ่านหนังสือ เอกสาร บทความ การเยยี่ มชมสถานที่ ต่างๆ การฟังบรรยายทางวิชาการ การเข้าชมนิทรรศการหรืองานประกวด โครงงานทางวิทยาศาสตร์ การสนทนากับบุคคลต่างๆ หรือจาการสังเกต ปรากฏการณ์ต่างๆ รอบตวั เป็ นต้น นอกจากนี้ ควรคานึงถึงประเดน็ ต่อไปนี้
๒. ขนั้ ตอนการทาโครงงาน (ต่อ) ความเหมาะสมของระดับความรู้ ความสามารถ ของผู้เรียน - วสั ดุ อุปกรณ์ ที่ใช้ - งบประมาณ - ระยะเวลา - ความปลอดภยั - แหล่งความรู้
๒. ขนั้ ตอนการทาโครงงาน (ต่อ) ๒.๒ การวางแผน การวางแผนการทาโครงงาน จะรวมถงึ การเขยี นเค้าโครง ของโครงงาน ซ่ึงต้องมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า เพอ่ื ให้การ ดาเนินการเป็ นไปอย่างรัดกมุ และรอบคอบ ไม่สับสน แล้ว นาเสนอต่อผู้สอนหรือครูท่ีปรึกษาเพื่อขอความเห็นชอบก่อน ดาเนินการข้นั ต่อไป การเขยี นเค้าโครงของโครงงาน โดยทั่วไป เขยี นเพอ่ื แสดงแนวคดิ แผนงาน และข้นั ตอนการทาโครงงาน ซึ่งควรประกอบด้วยหัวข้อต่อไปนี้
๒. ขนั้ ตอนการทาโครงงาน (ต่อ) ๒.๒ การวางแผน (ต่อ) ๑) ชื่อโครงงาน ควรเป็ นข้อความท่กี ะทดั รัด ชัดเจน สื่อความหมายได้ตรง ๒) ชื่อผู้ทาโครงงาน ๓) ช่ือท่ปี รึกษาโครงงาน
๒. ขนั้ ตอนการทาโครงงาน (ต่อ) ๒.๒ การวางแผน (ต่อ) ๔) หลกั การและเหตุผลของโครงงาน เป็ นการอธิบายว่าเหตุใด จงึ เลอื กทาโครงงานเรื่องนี้ มีความสาคัญอย่างไร มีหลกั การหรือทฤษฎี อะไรทเ่ี กยี่ วข้อง เร่ืองท่ีทาเป็ นเร่ืองใหม่หรือมีผู้อน่ื ได้ศึกษาค้นคว้าเรื่อง นีไ้ ว้บ้างแล้ว ถ้ามีได้ผลอย่างไร เร่ืองทที่ าได้ขยายเพ่ิมเติม ปรับปรุง จากเรื่องทผ่ี ู้อนื่ ทาไว้อย่างไร หรือเป็ นการทาซ้าเพอ่ื ตรวจสอบผล
๒. ขนั้ ตอนการทาโครงงาน (ต่อ) ๒.๒ การวางแผน (ต่อ) ๕) จุดมุ่งหมายหรือวตั ถุประสงค์ควรมคี วาม เฉพาะเจาะจง และสามารถวดั ได้ เป็ นการบอกขอบเขตของ งานทจ่ี ะทาได้ชัดเจนขึน้ ๖) สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า (ถ้ามี) สมมติฐานเป็ นคาตอบหรือคาอธิบายทค่ี าดไว้ล่วงหน้า ซ่ึง อาจจะถูกหรือไม่กไ็ ด้ การเขียนสมมตฐิ านควรมเี หตุมีผลมี ทฤษฎหี รือหลกั การรองรับ และทสี่ าคญั คอื เป็ นข้อความท่ี มองเห็นแนวทางในการดาเนินการทดสอบได้ นอกจากนี้ ควรมีความสัมพนั ธ์ระหว่างตัวแปรอสิ ระและตัวแปรตาม ด้วย
๒. ขนั้ ตอนการทาโครงงาน (ต่อ) ๒.๒ การวางแผน (ต่อ) ๗) วธิ ีดาเนินงานและข้นั ตอนการดาเนินงาน จะต้อง อธิบายว่า จะออกแบบการทดลองอะไรอย่างไร จะเกบ็ ข้อมูล อะไรบ้างรวมท้งั ระบุวสั ดุอปุ กรณ์ทจี่ าเป็ นต้องใช้ มีอะไรบ้าง ๘) แผนปฏิบัตงิ าน อธิบายเกย่ี วกบั กาหนดเวลาต้ังแต่ เร่ิมต้นจนเสร็จสิ้นการดาเนินงานในแต่ละข้นั ตอน ๙) ผลท่ีคาดว่าจะได้รับ ๑๐) เอกสารอ้างองิ
๒. ขนั้ ตอนการทาโครงงาน (ต่อ) ๒.๓ การดาเนินงาน เมื่อท่ีปรึกษาโครงงานให้ ความเห็นชอบเค้าโครงของโครงงานแล้ว ต่อไปกเ็ ป็ นข้ันลง มือปฏิบัติงานตามข้ันตอนที่ระบุไว้ ผู้เรียนต้องพยายามทา ตามแผนงานท่ีวางไว้ เตรียมวัสดุอุปกรณ์และสถานที่ให้ พร้อมปฏิบัติงานด้วยความละเอยี ดรอบคอบ คานึงถึงความ ประหยัดและปลอดภัยในการทางาน ตลอดจนการบันทึก ข้อมูลต่างๆ ว่าได้ทาอะไรไปบ้าง ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและ ข้อคิดเห็นอย่างไร พยายามบันทึกให้เป็ นระเบียบและ ครบถ้วน
๒. ขนั้ ตอนการทาโครงงาน (ต่อ) ๒.๔ การเขยี นรายงาน การเขียนรายงานเกี่ยวกับโครงงาน เป็ นวิธีส่ือ ความหมายวิธีหน่ึงท่ีจะให้ผู้อื่นได้เข้าใจถึงแนวคิด วิธีการ ดาเนินงาน ผลทไ่ี ด้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ ท่ี เกยี่ วกบั โครงงานน้ัน การเขียนโครงงานควรใช้ภาษาท่อี ่านแล้ว เข้าใจง่าย ชัดเจนและครอบคลุมประเดน็ สาคญั ๆ ท้ังหมดของ โครงงาน
๒. ขนั้ ตอนการทาโครงงาน (ต่อ) ๒.๕ การนาเสนอผลงาน การนาเสนอผลงาน เป็ นข้ันตอนสุดท้ายของการทา โครงงานและเข้าใจถึงผลงานน้ัน การนาเสนอผลงานอาจทาได้ หลายรูปแบบ ขนึ้ อยู่กบั ความเหมาะสมต่อประเภทของโครงงาน เนือ้ หา เวลา ระดับของผู้เรียน เช่น การแสดงบทบาทสมมติ การเล่าเร่ือง การเขยี นรายงาน สถานการณ์จาลอง การสาธิต การจัดนิทรรศการ ซ่ึงอาจมีท้งั การจัดแสดงและการอธิบายด้วย คาพูด หรือการรายงานปากเปล่า การบรรยาย ส่ิงสาคญั คือ พยายามทาให้การแสดงผลงานน้ันดงึ ดูดความสนใจของผู้ชม มี ความชัดเจน เข้าใจง่าย และมีความถูกต้องของเนือ้ หา
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: