สมุดบนั ทกึ กจิ กรรมการเรียนรู้ ชดุ วชิ า วัสดุศาสตร์ 1 รายวิชาเลือกบังคับ ระดบั ประถมศกึ ษา รหัส พว12011 หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 สานักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย สานักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ก คำนำ สมุดบันทึกกิจกรรมการเรียนรู้ ชุดวิชาวัสดุศาสตร์ 1 ระดับประถมศึกษาน้ี เป็นสมุดบันทึกสาหรับทากิจกรรมที่กาหนดไว้ในชุดวิชา เพ่ือให้ผู้เรียนได้ทดสอบ ความรู้ ความเขา้ ใจ และฝกึ ทกั ษะประสบการณ์ทีจ่ าเป็นในวิชาวัสดุศาสตร์ระดับประถมศึกษา กิจกรรม ที่กาหนดจะชว่ ยสง่ เสรมิ ให้ผู้เรยี น มีประสทิ ธิภาพในการเรียนรเู้ พมิ่ ขึ้นในแต่ละเร่ืองโดยกิจกรรม จะประกอบดว้ ย 1. กิจกรรมประเมินผลการเรียนรู้ จากบทเรียนที่ผู้เรียนได้ศึกษามา ซ่ึงกิจกรรม น้จี ะมแี นวทางเฉลยคาตอบใหผ้ ู้เรยี นไดต้ รวจสอบได้ด้วยตนเองทา้ ยเลม่ 2. กจิ กรรม การนาความรู้ไปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวัน 3. กจิ กรรม การค้นควา้ และแสดงความคดิ เห็น 4. กจิ กรรม ทดลอง ปฏิบตั ิ จากวัสดอุ ุปกรณ์ทีห่ าได้จากท้องถน่ิ สานักงาน กศน. หวังว่าเม่ือผู้เรียนได้ศึกษาจากชุดวิชา พร้อมได้ทดสอบ ปฏิบัติ และทากิจกรรม ตามคาแนะนาอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนแล้ว ผู้เรียนจะประสบความสาเร็จ ในการศึกษาได้ สานกั งาน กศน.
ข คำช้แี จงกำรใชส้ มดุ บันทึกกิจกรรมกำรเรียนรู้ สมดุ บันทึกกจิ กรรมการเรียนรนู้ ี้ ใชค้ วบคูก่ บั ชดุ วิชา วสั ดุศาสตร์ 1 พว12011 ใหผ้ ู้เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนของชุดวิชาตามที่กาหนด เพื่อให้ผู้เรียนทราบความรู้พื้นฐาน และตรวจคาตอบจากเฉลยแบบทดสอบท้ายเล่มของชุดวิชา หลังจากนั้นผู้เรียนศึกษาเนื้อหา ในชดุ วชิ าในแต่ละหนว่ ยการเรียนรู้ และให้ทากจิ กรรมทา้ ยเรอ่ื งของแต่ละหนว่ ยลงในสมุดบันทึก กิจกรรมการเรียนรู้ ผู้เรียนสามารถตรวจแนวคาตอบจากเฉลยท้ายเล่มของชุดวิชา หากผู้เรียน ทากิจกรรมไม่ถูกตอ้ งให้กลับไปทบทวนเน้ือหาสาระในเรื่องน้ัน ให้เข้าใจ แล้วทากิจกรรมเรียนรู้ ซ้าอีกคร้ังจนถูกต้อง และเมื่อทากิจกรรมการเรียนรู้ครบทุกหน่วยแล้ว ให้ทาแบบทดสอบ หลังเรียนและตรวจคาตอบจากเฉลยทา้ ยเล่มของชุดวชิ า ในการทากจิ กรรมการเรยี นรนู้ ี้ ผเู้ รยี นตอ้ งทากิจกรรมดว้ ยตนเองให้ครบถ้วน ทุกกิจกรรม เพอ่ื ใหก้ ารเรียนรูข้ องผูเ้ รยี นมีประสิทธภิ าพประสิทธิผลบรรลุผลการเรียนรู้ ทคี่ าดหวงั ของชุดวิชาน้ี
สารบญั ค คำนำ หน้า คำช้ีแจงกำรใช้สมุดบันทึกกจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ก สำรบญั ข แบบทดสอบก่อนเรยี น ค กจิ กรรมกำรเรยี นรหู้ น่วยที่ 1 วัสดุในชีวิตประจำวัน 1 กจิ กรรมกำรเรยี นรหู้ น่วยท่ี 2 สมบัตขิ องวสั ดุ 11 กจิ กรรมกำรเรยี นรหู้ น่วยที่ 3 กำรเลือกใช้วสั ดใุ นชีวติ ประจำวนั 15 กิจกรรมกำรเรยี นรหู้ น่วยที่ 4 กำรจัดกำรและกำจดั วสั ดทุ ใ่ี ช้แล้ว 29 แบบทดสอบหลงั เรยี น 33 เฉลยกจิ กรรมกำรเรียนรหู้ นว่ ยท่ี 1 วสั ดใุ นชีวติ ประจำวัน 37 เฉลยกิจกรรมกำรเรียนร้หู นว่ ยท่ี 2 สมบตั ขิ องวสั ดุ 49 เฉลยกิจกรรมกำรเรียนรู้หนว่ ยที่ 3 กำรเลือกใชว้ สั ดุในชวี ิตประจำวนั 53 เฉลยกจิ กรรมกำรเรียนรู้หน่วยท่ี 4 กำรจดั กำรและกำจดั วัสดทุ ใี่ ชแ้ ลว้ 61 เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน 66 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น 71 คณะผจู้ ดั ทำ 73 75
1 แบบทดสอบกอนเรยี น คาํ ชแี้ จง จงเลือกคาํ ตอบท่ีถกู ที่สุดเพยี งขอเดียว 1. ขอ ใดใหความหมายของคําวา “วสั ดุศาสตร” ไดถ กู ตองท่ีสดุ ก. เปน การศึกษาความรูเ กี่ยวกบั สมบตั ิของวสั ดทุ ี่ใชใ นชีวิตประจาํ วนั ข. เปน การศึกษาโครงสรา งของวสั ดุแตละชนิด เพือ่ นาํ มาผลิตหรอื สรา งเปน ผลติ ภณั ฑ ค. เปน การศึกษาองคประกอบของวสั ดุ เพ่ือนาํ มาพฒั นาผลติ ภัณฑหรือสิง่ ของเครื่องใช ง. เปนการศึกษาองคความรทู เ่ี กีย่ วขอ งกับวสั ดุ ที่นาํ มาใชป ระกอบกันเปนชิ้นงาน ตามการ ออกแบบ มตี ัวตน สามารถสัมผัสได 2. สง่ิ ใดตอ ไปน้ีทาํ จากวัสดุธรรมชาติ ก. ขวดนํ้า ข. เกา อไ้ี ม ค. ตะกราผา ง. กลอ งดินสอ 3. สง่ิ ใดตอ ไปน้ีทําจากวสั ดสุ งั เคราะห ก. ถงั น้าํ ข. โอง นํา้ ค. ไมกวาด ง. กระถางตนไม 4. เสอื้ กันฝน เปน ผลติ ภัณฑทไี่ ดจากการใชประโยชนของวสั ดุในขอใด ก. ผา ข. ยาง ค. กระดาษ ง. พลาสตกิ
2 5. ยางพาราสามารถนาํ มาทําประโยชนไดห ลายอยาง ยกเวน ขอ ใด ก. ถุงมือ ข. ยางลบ ค. ยางรัดของ ง. ถุงใสอ าหาร 6. วัสดุชนิดใดเม่ือไดรับความรอนจะไมเปลีย่ นแปลงรูปรา ง ก. เทยี นไข ข. ดินนาํ้ มัน ค. กระดาษ ง. ดนิ เหนยี ว 7. จากการศึกษาสมบตั ิดานความแขง็ ของวสั ดุ สามารถนําไปใชประโยชนในดานใด ก. การนาํ เพชรมาใชในการตัดกระจก ข. การทําผลติ ภณั ฑเ ครื่องปน ดินเผา ค. การใชเ สนเอ็นทาํ สายเบด็ ตกปลา ง. การผลิตอปุ กรณในครัวเรอื น 8. จากการทดลอง พบวา เมอ่ื นาํ วัสดุ A ไปขูดวัสดุ B ทําใหว สั ดุ B เปนรอย และเมือ่ นาํ วสั ดุ C ไปขดู วัสดุ A ทาํ ใหวสั ดุ A เปนรอย ขอใดเรียงลาํ ดับความแขง็ ของวสั ดจุ ากมากไปนอ ยได ถกู ตอ ง ก. A B C ข. C B A ค. B A C ง. C A B
3 9. ความแตกตางดานการใชง านของถุงกระดาษและถงุ พลาสติกแสดงถึงสมบัติดา นใดของวัสดุ ก. ความแข็ง ข. ความเหนยี ว ค. ความยืดหยนุ ง. ความสวยงาม 10. วัสดุในขอใดทสี่ ามารถรบั แรงหรอื นา้ํ หนกั ที่มากระทาํ ไดมากทสี่ ุด เมอื่ วสั ดนุ ้ันมขี นาดและ ความยาวเทา กัน ก. เสนเอน็ ข. เสน ไหม ค. เชือกฟาง ง. ยางรัดของ 11. การรบั แรงหรือนา้ํ หนักท่มี ากระทําของวสั ดุท่ีมขี นาดและความยาวเทา กนั แสดงถงึ สมบัติ ดา นใดของวัสดุ ก. ความแขง็ ข. ความเหนยี ว ค. ความยดื หยุน ง. ความหนาแนน 12. วัสดุชนดิ หนงึ่ เมอื่ ถกู แรงกระทาํ แลวมีการเปลยี่ นรปู รางหรอื ขนาด และเมอ่ื หยุดออกแรง กค็ นื สภาพเดมิ แสดงวา วัสดนุ ้ันมสี มบัติดา นใด ก. การยืดตัว ข. การคลายตวั ค. การคืนสภาพ ง. สภาพยืดหยนุ
4 13. วสั ดุในขอ ใดท่มี สี มบตั ิดา นความยืดหยุน ก. ฟองนํ้า ข. เชือกฟาง ค. ดินนํา้ มัน ง. ดินเหนียว 14. การผลิตส่งิ ของเครือ่ งใชในขอ ใดใชป ระโยชนจ ากสมบตั ิการนาํ ความรอนของวัสดุ ก. เครือ่ งเรือน ข. เคร่ืองนอน ค. ภาชนะหุงตม ง. อุปกรณตกแตงบา น 15. วสั ดใุ นขอใดควรนํามาทําฉนวนความรอน ก. ไม ข. เงนิ ค. ทองเหลือง ง. อะลูมเิ นียม 16. นาํ ทพั พีทีท่ าํ จากวสั ดุ A และ B ไปคนแกงที่กําลงั เดือด พบวา ทพั พที ่ที ําจากวัสดุ A ไม รสู กึ รอ นมือ แตทัพพีท่ีทาํ จากวัสดุ B รสู กึ รอนมอื อยากทราบวา ทพั พี A และ B นาจะทํามา จากวัสดุในขอใดตามลาํ ดบั ก. พลาสตกิ แกว ข. แกว พลาสตกิ ค. พลาสติก โลหะ ง. โลหะ พลาสตกิ
5 17. ในการดําเนินชวี ติ ประจําวนั ถา ตองการเลอื กใชวัสดทุ ีม่ ีสมบตั ิในการนาํ ไฟฟา ควรเลอื ก วสั ดใุ นขอ ใด ก. ผา ข. แกว ค. โลหะ ง. พลาสตกิ 18. เพราะเหตุใดจึงใชพ ลาสติกหมุ สายไฟฟา ก. เพราะเปน ตัวรับพลงั งานไฟฟา ข. เพราะทําใหก ระแสไฟฟาไหลผา นไดด ี ค. เพราะพลาสตกิ มีสมบตั เิ ปนตัวนําไฟฟา ง. เพราะพลาสติกมีสมบตั ิเปนฉนวนไฟฟา 19. วสั ดุในขอใดมีความหนาแนน นอ ยกวา น้ํา ก. กอนหิน ข. ลูกแกว ค. ตะปู ง. โฟม 20. การทดสอบความหนาแนนของวัสดุสามารถทาํ ไดดวยวิธกี ารใด ก. การขดู ขีดของวัสดุ ข. การจมนํา้ – ลอยนํ้า ของวัสดุ ค. การกลับคนื สูส ภาพเดมิ ของวัสดุ ง. ความสามารถรบั แรงหรอื นา้ํ หนกั ทมี่ ากระทําไดมาก
6 21. ผลิตภัณฑทีเ่ ปนมิตรตอ สิง่ แวดลอม หมายถงึ ขอ ใด ก. ผลติ ภัณฑผลติ ท่ีขนึ้ จากวสั ดุธรรมชาติ ข. ผลิตภัณฑท ี่มีการออกแบบใหสามารถนาํ กลบั มาใชใ หมไ ด ค. ผลิตภณั ฑท ่ีสงผลกระทบตอ สง่ิ แวดลอ มนอยกวาเม่อื เปรยี บเทียบกบั ผลิตภัณฑอน่ื ๆ ง. ผลติ ภณั ฑที่มกี ารใชเทคโนโลยีในการผลิตท่ซี ับซอนเพอ่ื เพ่มิ ประสิทธภิ าพการใชงาน 22. ขอใดกลาว ไมถูกตอ ง เกี่ยวกับผลิตภณั ฑที่เปนมิตรตอ สิ่งแวดลอม ก. ใบบวั เลอื กซื้อสินคา ทม่ี ีสัญลักษณฉ ลากประหยัดไฟเบอร 5 เพราะชวยประหยดั คา ไฟฟา ข. ใบขาวเลือกซื้อสินคาท่ีมสี ญั ลักษณฉ ลากประหยดั ไฟเบอร 1 เพราะชว ยลดการใช พลังงานไฟฟา ค. ใบตองเลอื กซอื้ เตาแกส ท่มี ีสัญลกั ษณฉลากประสทิ ธิภาพสงู กาํ กับ เพราะจะไดช ว ย อนุรักษพ ลังงาน ง. มะลเิ ลอื กซือ้ ผลติ ภัณฑท มี่ สี ัญลกั ษณฉ ลากสีเขียว เพราะมผี ลกระทบตอสิง่ แวดลอม นอ ยเม่อื เปรยี บเทยี บกบั ส้ินคา ชนิดเดยี วกัน 23. สญั ลกั ษณน้หี มายถงึ ขอ ใด ก. ฉลากทีแ่ สดงประสทิ ธิภาพสาํ หรบั อุปกรณไมใชไ ฟฟา ข. ฉลากทีใ่ หไวกบั ผลติ ภณั ฑที่มกี ารพฒั นากระบวนการผลติ โดยใชเ ทคโนโลยที ม่ี ี ประสทิ ธิภาพสงู สุด ค. ฉลากสินคา ทผี่ า นการรับรองวา มผี ลกระทบตอ ส่ิงแวดลอมนอ ย โดยอนญุ าตใหใช สัญลกั ษณฉลากทีม่ สี เี ขยี วตดิ ไวก บั ผลติ ภัณฑ ง. ฉลากทใ่ี หก บั ผลิตภณั ฑท่มี คี ุณภาพและมีผลกระทบตอสิ่งแวดลอ มนอยเมอ่ื นํามา เปรยี บเทียบกับผลติ ภัณฑช นดิ เดียวกัน
7 24. สัญลักษณ “ฉลากเขยี ว” ใชไดกบั สนิ คา ทุกประเภท ยกเวน สินคา ประเภทใด ก. ยาธาตุนํ้าขาว นํ้าอัดลมและปลากระปอ ง ข. กระติกน้าํ รอน ตเู ย็นและหมอ หุงขา วไฟฟา ค. เคร่ืองปรับอากาศ หลอดผอมและหมอหุงขา วไฟฟา ง. เคร่อื งทาํ น้ําอุนไฟฟา พัดลมระบายอากาศและโคมไฟ 25. สัญลกั ษณนี้หมายถงึ ขอ ใด ก. ฉลากท่แี สดงประสิทธิภาพสาํ หรบั อุปกรณไ มใชไฟฟา ข. ฉลากทใ่ี หไวก บั ผลิตภณั ฑท มี่ ีการพฒั นากระบวนการผลติ โดยใชเ ทคโนโลยที ม่ี ี ประสิทธิภาพสงู สดุ ค. ฉลากสินคาท่ีผานการรบั รองวามีผลกระทบตอ สง่ิ แวดลอ มนอ ย โดยอนญุ าตใหใช สัญลักษณฉลากท่มี สี เี ขียวติดไวก ับผลติ ภณั ฑ ง. ฉลากทใี่ หกบั ผลิตภัณฑท ี่มีคุณภาพและมผี ลกระทบตอส่งิ แวดลอมนอยเมื่อนาํ มา เปรยี บเทยี บกบั ผลิตภัณฑชนิดเดียวกัน 26. ขอใด ไมใช ผลกระทบดา นระบบนิเวศที่เกดิ จากการใชว ัสดใุ นชวี ิตประจําวัน ก. อนงค ทิ้งแบตเตอรร ีโ่ ทรศัพทลงในถงั สีแดง ข. ยพุ า ใชส ารเคมีกําจดั หญาในแปลงผกั สวนครวั ค. สมศักด์ิ เทน้าํ ท่ใี ชซักผา ลงแมน ํ้าหนาบานทกุ วัน ง. ชมพู กําจัดขยะในครัวเรอื นดวยวธิ ีการเผาในท่โี ลง 27. บุคคลในขอ ใดมีจิตสํานึกในการอนุรกั ษส งิ่ แวดลอ ม ก. สมใจ สงสารคนเกบ็ ขยะจงึ ชวยเก็บขยะดวย ข. สมศกั ดิ์ ทิ้งขยะลงถงั เสมอ แตไมไดแยกขยะกอนทิง้ ค. สมหวงั เหน็ ขยะตกลงพืน้ จงึ รบี ไปเก็บและคดั แยกกอนทิง้ ง. สมพงษ เหน็ ขยะตกอยูแ ลวบอกคนเก็บขยะใหมาเก็บไปทิ้ง
8 28. หากรา งกายไดร ับสารตะกั่ว จะสงผลกระทบตอ สขุ ภาพอยางไร ก. ปวดศีรษะ หายใจขดั ข. เกิดตะคริวกินทีแ่ ขน ขา ค. เกดิ การระคายเคืองตอผิวหนัง ง. ปวดศีรษะ ออนเพลีย คล่ืนไส 29. บุคคลในขอ ใด ไม ตระหนกั ถงึ ผลกระทบทีเ่ กดิ จากการใชว สั ดุในชวี ิตประจําวัน ก. นาํ้ ผึ้งแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับการกาํ จัดวสั ดุที่ใชแลวใหถ ูกวิธี ข. นํ้าใจทําการบา นเรอ่ื งผลกระทบทเ่ี กดิ จากการใชวสั ดใุ นชวี ิตประจาํ วนั ค. นํา้ ตาลซกั ถามครผู สู อนเรื่องสารอนั ตรายท่ีสามารถปนเปอนตอสงิ่ แวดลอ ม ง. น้ําหวานกระตอื รือรนทจี่ ะศกึ ษาคน ควา วิธีการกาํ จดั น้าํ เสยี ในแมน้ําลําคลอ ง 30. ถาคาบโี อดี (BOD) ในนํา้ คลองสงู แสดงวานํา้ คลองมีลักษณะเปน อยา งไร ก. มีคุณภาพดี ข. อยใู นระดับปกติ ค. นาํ ไปอุปโภคบริโภคได ง. เกิดสภาพเหมน็ เนา ไดง าย 31. หลัก 3R หมายถึงขอ ใด ก. หลักการบริหารจดั การวสั ดุเพ่อื การใชง าน ข. หลักการบาํ รงุ รกั ษาวัสดุใหสามารถใชง านไดด ี ค. หลักการจดั การวสั ดเุ พ่ือลดปรมิ าณวัสดุทใี่ ชแ ลว ง. หลกั การจดั การวัสดุเพอื่ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการใชง าน 32. ขอใดใหความหมายของ Reuse ไดถกู ตอ ง ก. มดซ้อื นํา้ อัดลมที่เปนขวดแลว คืนได ข. นอ ยนําปน โตไปใสอ าหารแทนการใชก ลอ งโฟม ค. เบนซน ําขวดนํ้าพลาสตกิ ไปทํากับดักแมลงวันทอง ง. แกว เลือกซือ้ นา้ํ รีดผา ชนิดเติมแทนการแบบเปน ขวด
9 33. ขอ ใดใหความหมายของ Recycle ไดถูกตอ ง ก. นกนาํ ซองกาแฟมาทําตะกราใสข อง ข. จอยยืมหนังสือนทิ านจากหองสมุดประชาชน ค. จอรน นาํ ขวดน้ําพลาสติกท่ีใชแ ลว ไปลางแลว นํากลบั มาใชใหม ง. น้าํ นาํ ขวดแกวทีใ่ ชแลว ไปหลอมใหม เพอื่ ขึ้นรูปเปนแกว ใบใหม 34. การใชถงุ ผา ไปจา ยตลาดตรงกบั หลกั การจดั การ 3R ขอ ใด ก. Reuse ข. Return ค. Reduce ง. Recycle 35. บุคคลในขอใดปฏิบตั ิตนตามหลกั การใชนอ ยหรือลดการใช (Reduce) ไดถ ูกตอ ง ก. อํานวย นําสิง่ ของท่ีใชแลวมาดัดแปลงใหใ ชป ระโยชนไ ดอกี ข. อาํ พล เลอื กซ้อื หรอื ใชผลติ ภัณฑท อี่ อกแบบมาใหใชไ ดมากกวา 1 ครั้ง ค. อาํ นาจ นําถงุ กระดาษท่เี คยใสข องแตยังมีสภาพดีกลบั มาใชประโยชนใ หม ง. อาํ ไพ หลีกเลยี่ งการเลือกซื้อสนิ คา หรอื ผลติ ภณั ฑท ใ่ี ชบรรจภุ ัณฑหอหมุ หลายช้นั 36. วสั ดุในขอใดใชร ะยะเวลายอยสลายมากกวา 500 ป ก. ถุงพลาสตกิ ข. รองเทาหนัง ค. โฟมบรรจุอาหาร ง. กระปองอะลูมเิ นยี ม 37. ขอใดกลาวถูกตอ ง ก. ขวดแกว ไมสามารถยอ ยสลายไดเลย ข. ไม สามารถยอยสลายไดภ ายใน 5 ป ค. ผา ฝา ย สามารถยอ ยสลายไดภ ายใน 1 ป ง. กระดาษ สามารถยอยสลายไดภายใน 1 เดอื น
10 38. ขอใดเปน วิธีการกาํ จัดวัสดทุ ี่ใชแ ลวทถ่ี ูกตอ งตามหลักสุขาภบิ าล ก. อว นนาํ เส้ือผา ทใ่ี สแ ลว ไปทาํ การฝง กลบ ข. หนอ ยนาํ ถุงพลาสติกที่ใชแ ลว ไปเผากลางแจง ค. จอยนําเศษอฐิ ที่เหลอื จากการสรา งบา นไปทง้ิ ในทะเล ง. เบนซนาํ เศษอาหารทีเ่ หลือจากการประกอบอาหารไปทิ้งไวบ นดิน 39. ขอ ดขี องการกาํ จดั วสั ดุท่ีใชแ ลวโดยใชเตาเผา คอื ขอใด ก. เปนระบบท่ีไมยงุ ยากซบั ซอน ข. ไมมีเศษเหลือตกคางทจี่ ะตอ งนําไปกําจัดตอไป ค. สว นท่ีเหลอื จากการเผาไหม (ขเ้ี ถา) สามารถนาํ ไปถมที่ดนิ ได หรอื ทาํ วัสดกุ อ สรา งได ง. สามารถกาํ จัดวสั ดไุ ดท กุ ประเภท ทกุ ขนาด ยกเวนของเสยี อนั ตรายและของเสยี ตดิ เชอ้ื 40. เพราะเหตใุ ดการกาํ จดั วสั ดุท่ใี ชแ ลว โดยวิธกี ารฝง กลบแบบพ้นื ราบจึงจําเปนตองทําคนั ดิน ตามแนวขอบพื้นท่ี ก. เพ่ือปองกันไมใ หเกิดการปนเปอนตอนา้ํ ใตด ิน ข. เพอ่ื ปองกันแมลง และสตั วทเี่ ปน พาหนะนาํ โรค ค. เพอื่ ปองกันการปนเปอนของนํา้ เสียจากวัสดทุ ใ่ี ชแลวลงสนู ํา้ ใตดนิ ง. เพ่อื ปองกนั น้าํ เสยี ท่ีเกิดจากการยอยสลายของวสั ดไุ มใ หซ มึ ออกมาดานนอก
11 กิจกรรมการเรียนรู้หน่วยท่ี 1 วสั ดุในชีวติ ประจาวนั ช่อื – สกลุ ………………………………………………………...…. เลขท่ี ………………………. คาชแ้ี จง ให้ผู้เรียนศกึ ษาคน้ คว้าเพม่ิ เติมจากสอ่ื และแหล่งเรยี นรู้ตา่ ง ๆ ตามทแี่ นะนาไว้ ทา้ ยหน่วยในชดุ วิชา แลว้ ทากจิ กรรมตอ่ ไปน้ี กจิ กรรมท่ี 1. อธบิ ายความหมายของวัสดุศาสตร์ มาพอสงั เขป …………………………………………………………………………………………….............................................. ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………… ...................................................................................................................................................... กิจกรรมท่ี 2 2.1 อธิบายความหมายของวัสดธุ รรมชาติ พร้อมยกตวั อยา่ ง 5 อยา่ ง ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2.2 อธบิ ายความหมายของวัสดสุ ังเคราะห์ พรอ้ มยกตวั อย่าง 5 อย่าง ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................
12 กิจกรรมท่ี 3 วเิ คราะหส์ งิ่ ของเครื่องใชต้ ่อไปน้แี ล้วเขยี นเคร่ืองหมายถกู ลงในตารางประเภท ของวัสดุใหถ้ กู ต้อง สง่ิ ของเคร่อื งใช้ ทาจากวสั ดุ ประเภทวสั ดุ 1. วัสดธุ รรมชาติ วสั ดสุ งั เคราะห์ 2. 3. 4. 5.
13 กจิ กรรมที่ 4 จบั คกู่ ารนาวัสดไุ ปใชป้ ระโยชน์ในชวี ิตประจาวัน ตอ่ ไปนใี้ ห้ถูกตอ้ ง 1. วัสดุที่มีความยืดหย่นุ ก. ทาภาชนะหุงตม้ เช่น หมอ้ กระทะ กาตม้ นา้ 2. วสั ดุท่ีมีความแขง็ ข. ทาของเลน่ และของใช้ตา่ ง ๆ 3. วัสดุท่ีมคี วามเหนียว เช่น ยางรดั ของ ค. ทาโครงสรา้ งอาคาร เครอื่ งบนิ รถยนต์ เครื่องมอื ช่างต่าง ๆ 4. วสั ดทุ ่มี ีสมบตั ินาความ ง. ทาสายไฟ ปลั๊กไฟ สว่ นประกอบของ รอ้ น เครอ่ื งใช้ไฟฟ้า 5. วสั ดุท่ีมสี มบัตินาไฟฟา้ จ. ทาโซ่ รอก เส้นลวด มงุ้ ลวด ภาชนะตา่ ง ๆ สายเบด็ ตกปลา ขงึ ไม้ เทนนสิ ไมแ้ บดมินตนั
14 กจิ กรรมที่ 5 ให้ผูเ้ รียนยกตัวอยา่ งการนาวัสดุไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจาวันตอ่ ไปนี้ ไม้ แก้ว พลาสติก โลหะ ผา้ ทอหรือสิ่งทอ ยาง
15 กจิ กรรมการเรียนรหู้ นว่ ยที่ 2 สมบัติของวสั ดุ ชือ่ – สกุล …………………………………………….……………………….. เลขที่ …………………………….. คาชแ้ี จง ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาค้นควา้ เพิ่มเติมจากสอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ ตามที่แนะนาไว้ ทา้ ยหนว่ ยในชุดวชิ า แล้วทากิจกรรมต่อไปนี้ กิจกรรมที่ 1 ความแข็ง ใหผ้ เู้ รียนทาการทดลองเพื่ออธบิ ายเก่ียวกับสมบัตคิ วามแขง็ แลว้ บันทกึ ผล อปุ กรณ์ 1. ยางลบ 2. ไม้บรรทดั เหลก็ 3. ไม้ วธิ กี ารทดลอง 1. ใหผ้ ้เู รียนแต่ละคนนาอปุ กรณ์ข้นึ มาวางบนโตะ๊ 2. ใชย้ างลบถบู นไม้บรรทดั เหลก็ และถบู นไม้ สงั เกตรอยบนไม้บรรทดั เหล็ก และ รอยบนไม้ 3. ใช้ขอบไม้บรรทัดเหลก็ ขดู ยางลบ และขูดบนไม้ สงั เกตรอยบนยางลบ และ รอยบนไม้ 4. ใชไ้ ม้ขดู บนยางลบ และขดู บนไมบ้ รรทดั เหล็ก สงั เกตรอยบนยางลบและรอย บนไมบ้ รรทัดเหล็ก 5. เปรียบเทียบรอยทเ่ี กดิ ขึน้ บนวัตถทุ ้ัง 3 ชนดิ
16 บันทึกผลการทดลอง การทดลอง ผลการสังเกต การทดลอง ผลการสงั เกต 1. ใช้ยางลบถบู น ……………………..… ใช้ยางลบถูบนไม้ ……………………..… ไมบ้ รรทดั เหล็ก ………………………… ………………………… 2. ใชข้ อบไม้บรรทัดเหล็ก ……………………..… ใช้ขอบไม้บรรทดั เหลก็ ……………………..… ขูดยางลบ ………………………… ขดู บนไม้ ………………………… 3. ใชไ้ ม้ขดู บนยางลบ ……………………..… ใชไ้ ม้ขดู บน ……………………..… ………………………… ไม้บรรทัดเหลก็ ………………………… สรุปผลการทดลอง ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………. คาถามประกอบกิจกรรม 1. วสั ดชุ นิดใดมีความแข็งนอ้ ยท่ีสุด สังเกตจากอะไร ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. วสั ดุชนดิ ใดมีความแขง็ มากทส่ี ดุ สังเกตจากอะไร ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 3. ยกตวั อย่างของใช้ที่ทาจากวัสดุทม่ี ีความแขง็ แรง ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................
17 กลมุ่ ท…ี่ ………………………… สมาชิกกล่มุ 1. ชอื่ – สกลุ ……………………………………………………. เลขท…่ี ………………………… 2. ชอื่ – สกุล ………………………………………….…………. เลขที่…………………………… 3. ช่อื – สกุล ………………………………………….…………. เลขท…่ี ………………………… กิจกรรมท่ี 2 ความเหนียว ใหผ้ ู้เรียนทาการทดลองเพือ่ อธิบายเก่ยี วกับสมบตั คิ วามเหนียว แล้วบนั ทกึ ผล การทดลอง อุปกรณ์ 1. ไมย้ าว 2. ขอเกี่ยว 3. เชือกฟาง 4. เสน้ ดา้ ย 5. เสน้ เอ็น 6. ถุงทราย วิธกี ารทดลอง 1. แบง่ กลมุ่ ผู้เรยี น กลมุ่ ละเท่า ๆ กนั แลว้ นาวัสดุท่ีจะมาทดสอบ ได้แก่ เชือกฟาง เส้นด้าย และเส้นเอน็ ใหม้ ีความยาวเท่า ๆ กนั 2. พาดไมย้ าวระหวา่ งโต๊ะ 3. ผกู เชอื กฟาง เสน้ ดา้ ย และเส้นเอ็น กับไม้ สว่ นปลายดา้ นลา่ งผกู ติดกบั ขอเกย่ี ว 4. แขวนถงุ ทรายที่ขอเก่ียว ทีละถงุ จนเชอื กฟาง เสน้ ดา้ ย และเสน้ เอ็น ขาด นับจานวนถงุ ทรายทงั้ หมด บันทึกผล
18 บนั ทึกผลการทดลอง จานวนถงุ ทราย (ถุง) วสั ดุ 1. เชือกฟาง 2. เส้นด้าย 3. เส้นเอ็น สรปุ ผลการทดลอง ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................. ……………………………………………………………………………………………………………………….. คาถามประกอบกิจกรรม 1. วัสดุชนดิ ใดมคี วามเหนียวมากที่สดุ ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 2. วิธที ่ใี ช้ทดสอบความเหนียว ในกจิ กรรมน้ีคืออะไร ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................
19 กลมุ่ ท…่ี ………………………… สมาชกิ กลุม่ 1. ชื่อ – สกุล ……………………………………………………. เลขท…่ี ……………………… 2. ช่ือ – สกลุ ………………………………………….…………. เลขท่ี………………………… 3. ช่ือ – สกุล ………………………………………….…………. เลขที่………………………… กิจกรรมท่ี 3 ความยืดหย่นุ ให้ผเู้ รียนทาการทดลองเพ่ืออธิบายเก่ยี วกับสมบัตคิ วามยืดหยุน่ แลว้ บันทกึ ผล การทดลอง อุปกรณ์ 1. ไม้ 2. เชือก 3. ยางรดั ของ 4. ถงุ พลาสตกิ 5. ลูกโป่งใบใหญ่ 6. ไมบ้ รรทัด วิธกี ารทดลอง 1. ผเู้ รยี นจดั กล่มุ ๆ ละ เทา่ ๆ กัน 2. ใหผ้ ้เู รียนนาวัสดุท่ีครูมอบหมายให้ นามาตดั และวัดขนาดให้ได้ความยาวชนิ้ ละ 10 เซนตเิ มตร 3. ใชไ้ ม้บรรทดั วดั ความยาวของวัสดทุ ั้งหมดแล้วบันทึกผลลงในบนั ทึกผล การทดลอง 4. ใชน้ วิ้ กดปลายด้านหน่ึงของวสั ดุ แลว้ ดงึ ปลายอกี ด้านหนง่ึ ของวัสดจุ นสดุ แรง และใหเ้ พอื่ นใช้ไมบ้ รรทัดวัดความยาวของวัสดุขณะดึง แลว้ บนั ทึกผล 5. ค่อย ๆ ปลอ่ ยมือออก แลว้ วดั ความยาวของวัสดุอีกคร้ัง 6. ทาการทดลองในข้อ 3 – 5 แต่เปลี่ยนวัสดุตามท่ีผูเ้ รยี นเตรยี มมา (ไม้ เชอื ก ยางรดั ของ ถงุ พลาสติก ลูกโป่งใบใหญ่) 7. บันทึกผลการทดลอง 8. สรุปผลการทดลอง
20 บนั ทึกผลการทดลอง เร่ิมตน้ (ชม.) ความยาว (ชม.) ขณะดึง หลงั จากปลอ่ ย ชนิดของวสั ดุ ไม้ เชือก ยางรัดของ ถงุ พลาสตกิ ลกู โป่งใบใหญ่ สรปุ ผลการทดลอง ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………
21 คาถามประกอบกจิ กรรม 1. วสั ดชุ นดิ ใดบา้ งที่ขณะออกแรงดึงแล้ว ความยาวเปล่ียนไป ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ผู้เรียนคดิ วา่ เพราะเหตุใด “ความยาวขณะดึงของวัสดไุ มเ่ ทา่ กนั ” ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… 3. วสั ดมุ ีสภาพอยา่ งไรถ้าความยาวของวสั ดุกอ่ นออกแรงกระทาเท่ากบั ความยาวของวัสดุ หลงั ออกแรงกระทา ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… 4. วสั ดมุ ีสภาพอย่างไร ถ้าความยาวของวัสดุหลังออกแรงกระทายาว กว่าก่อนออกแรงกระทา ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ถ้าผเู้ รียนมีความจาเป็น หรอื ต้องการทจ่ี ะใชว้ สั ดุท่ีมีอย่ใู นการทดลองเพอ่ื ใช้รัดถงุ ใสข่ อง ผเู้ รียนจะเลอื กใช้วสั ดุชนิดใด เพราะอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ...................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................
22 กลมุ่ ท…่ี ………………………… สมาชกิ กล่มุ 1. ชื่อ – สกลุ ……………………………………………………. เลขท…่ี ……………………… 2. ชื่อ – สกุล ………………………………………….…………. เลขท่ี………………………… 3. ชอ่ื – สกลุ ………………………………………….…………. เลขท่ี………………………… กจิ กรรมท่ี 4 การนาความรอ้ น ให้ผู้เรียนทาการทดลองเพ่ืออธบิ ายเกยี่ วกบั สมบตั ิการนาความรอ้ น แลว้ บันทกึ ผล วสั ดุอปุ กรณ์ 1. แกว้ นา้ 2. ช้อนพลาสติก 3. ชอ้ นโลหะ 4. ตะเกียบ วิธีการทดลอง 1. ผเู้ รียนจดั กลุ่ม ๆ ละ เท่า ๆ กัน 2. ใหแ้ ต่ละกลมุ่ เทน้ารอ้ นใส่แกว้ อยา่ งระมดั ระวังจนเกอื บเต็มแกว้ 3. นาช้อนพลาสตกิ ช้อนโลหะ และตะเกียบ แช่ลงในแก้วนา้ ร้อนทิ้งไว้สกั ครู่ 4. จบั ปลายชอ้ นพลาสติก ปลายช้อนโลหะ และปลายตะเกยี บ เปรยี บเทียบความรสู้ กึ ว่ารอ้ นหรอื ไม่ จากนั้นบนั ทึกผล บนั ทกึ ผลการทดลอง การทดลอง ความรูส้ กึ ขณะจบั วตั ถุ รอ้ น ไมร่ อ้ น 1. จับปลายช้อนพลาสติก 2. จบั ปลายช้อนโลหะ 3. จบั ปลายตะเกยี บ
23 สรุปผลการทดลอง ……………………………..……………………………………………………………………………….…………… ……………………………..……………………………………………………………………………….…………… ……………………………..……………………………………………………………………………….…………… ……………………………..……………………………………………………………………………….…………… ……………………………..……………………………………………………………………………….…………… คาถามประกอบกจิ กรรม 1. จากการทดลองวัสดชุ นิดใดนาความร้อนไดด้ ที ่สี ดุ ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… 2. จากการทดลองวัสดชุ นิดใดไมน่ าความรอ้ น ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… 3. วสั ดุท่ีความร้อนผ่านได้ดี เรยี กว่าอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… 4. วัสดุท่ีไม่นาความรอ้ นหรอื นาความรอ้ นนอ้ ย เรียกวา่ อะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ผู้เรยี นคิดวา่ เพราะเหตใุ ดวสั ดุจงึ มีความร้อนไมเ่ ท่ากัน ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………
24 กลมุ่ ท…่ี ………………………… สมาชกิ กลุ่ม 1. ชอื่ – สกุล ……………………………………………………. เลขท…ี่ ……………………… 2. ช่ือ – สกลุ ………………………………………….…………. เลขท่ี………………………… 3. ชือ่ – สกุล ………………………………………….…………. เลขท่ี………………………… กิจกรรมที่ 5 การนาไฟฟ้า ใหผ้ ้เู รียนทาการทดลองเพ่ืออธบิ ายเกย่ี วกับสมบัติการนาไฟฟ้าของวสั ดแุ ล้ว บนั ทกึ ผล อปุ กรณ์ 1. ชดุ วงจรไฟฟ้า 2. ชอ้ นโลหะ 3. ตะเกยี บ 4. เหรียญบาท 5. ไม้บรรทัดเหล็ก 6. ไม้บรรทัดพลาสตกิ 7. ดนิ สอ 8. คลิปเสยี บกระดาษ 9. ปากกา
25 วธิ ีการทดลอง 1. ผู้เรยี นนาวสั ดแุ ตล่ ะอยา่ งมาต่อเข้ากับวงจรไฟฟา้ ท่เี ตรยี มไว้ ดังภาพ สังเกต ทห่ี ลอดไฟ 2. บันทกึ ผลการทดลอง ถ่ายไฟฉาย หลอดไฟ วสั ดทุ นี่ ามาทดลอง การตอ่ วงจรไฟฟา้ เพ่อื ทดลอง บนั ทกึ ผลการทดลอง ผลการสังเกตทห่ี ลอดไฟ หลอดไฟสวา่ ง หลอดไฟไม่สวา่ ง วสั ดุ 1. ช้อนโลหะ 2. ตะเกียบ 3. เหรียญบาท 4. ไม้บรรทดั เหล็ก 5. ไม้บรรทดั พลาสติก 6. ดนิ สอ 7. แก้ว 8. ปากกา
26 สรปุ ผลการทดลอง ……………………………..……………………………………………………………………………….…………… ……………………………..……………………………………………………………………………….…………… ……………………………..……………………………………………………………………………….…………… ……………………………..……………………………………………………………………………….…………… ……………………………..……………………………………………………………………………….…………… คาถามประกอบกจิ กรรม 1. จากการทดลองวัสดใุ ดจดั ว่าเป็นตวั นาไฟฟา้ และวัสดใุ ดจัดวา่ เปน็ ฉนวนไฟฟา้ ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… 2. วสั ดุที่ยอมใหก้ ระแสไฟฟา้ ไหลผ่านได้ เรียกว่าอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… 3. วัสดทุ ่ีไม่ยอมใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ เรียกว่าอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… 4. เพราะเหตใุ ดสายอปุ กรณไ์ ฟฟา้ จึงต้องหมุ้ ด้วยพลาสตกิ ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………
27 กลุม่ ท…่ี ………………………… สมาชิกกล่มุ 1. ชื่อ – สกลุ ……………………………………………………. เลขท…ี่ ……………………… 2. ชอ่ื – สกลุ ………………………………………….…………. เลขที่………………………… 3. ชอื่ – สกลุ ………………………………………….…………. เลขท่ี………………………… กจิ กรรมท่ี 6 ความหนาแน่น ใหผ้ เู้ รียนทาการทดลองเพือ่ อธบิ ายเกยี่ วกับสมบัติความหนาแน่น แลว้ บนั ทึกผล วัสดุอุปกรณ์ 1. แผ่นไม้ 2. ก้อนหนิ 3. ฟองนา้ 4. โฟม 5. ตะปู 6. อา่ งน้า วิธีการทดลอง 1. ใสน่ ้าลงในอ่างน้าประมาณ 3 ใน 4 ส่วน 2. นาวสั ดุท่ีเตรยี มมาใส่ลงไปในอ่างนา้ ทีละชนิ้ สงั เกตการจม – การลอย ของวสั ดุ แต่ละชนดิ 3. บนั ทึกผลการทดลอง ผลการทดลอง ผลการสังเกต จมนา้ ลอยนา้ วสั ดุ 1. แผ่นไม้ 2. ก้อนหิน 3. ฟองน้า 4. โฟม 5. ตะปู
28 สรุปผลการทดลอง ……………………………..……………………………………………………………………………….………………..…… ……………………………..……………………………………………………………………………….…………….……… ……………………………..………………………………………………………………………………………..…………… ……………………………..……………………………………………………………………………….…………….……… ……………………………..………………………………………………………………………………………..…………… คาถามประกอบกิจกรรม 1. เพราะเหตใุ ด วัสดุจงึ มีการจมน้าและลอยนา้ ได้ ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. จากการทดลอง ถ้าผเู้ รียนมีความจาเปน็ ต้องข้ามแม่น้าไปอีกฝ่ังหน่ึง ผเู้ รียนจะเลือกใชว้ ัสดุ ชนิดใดเพ่ือทาอุปกรณช์ ่วย เพราะอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………
29 กิจกรรมการเรียนรู้หน่วยที่ 3 การเลือกใชแ้ ละผลกระทบจากการใช้วัสดุ ชอื่ – สกุล…………………………………………………………………………. เลขท่ี ………………………….. คาชี้แจง ใหผ้ ูเ้ รยี นศกึ ษาคน้ คว้าเพ่ิมเติมจากสอ่ื และแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ตามท่ีแนะนาไว้ ทา้ ยหนว่ ยในชดุ วิชา แล้วทากิจกรรมต่อไปน้ี กิจกรรมที่ 1 1.1 จงอธบิ ายความหมายของผลิตภณั ฑท์ ี่เป็นมติ รต่อสิง่ แวดลอ้ ม …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 หากผเู้ รยี นมีความจาเป็นต้องซื้อสินคา้ หรอื ผลิตภณั ฑ์เพอ่ื นาไปใช้ใน ชวี ติ ประจาวัน ผู้เรียนมีแนวทางในการพจิ ารณาคุณสมบตั ิของสินค้าหรอื ผลติ ภัณฑ์อยา่ งไรบ้าง จงอธบิ าย …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………..
30 กิจกรรมที่ 2 จงบอกความหมายของสญั ลกั ษณต์ ่อไปนี้ พร้อมทั้งอธิบายวิธีการนาไปใชก้ บั สนิ คา้ หรือผลิตภัณฑ์ในชวี ิตประจาวัน มาพอเขา้ ใจ สญั ลกั ษณ์ ความหมาย นาไปใชก้ บั สินคา้ หรือ ผลติ ภณั ฑป์ ระเภท ………………………………………..... ………………………………………..... …………………………………………. …………………………………………. …………………………………………. …………………………………………. …………………………………………. …………………………………………. ………………………………………….. ………………………………………….. …………………………………………. …………………………………………. ………………………………………..... ………………………………………..... …………………………………………. …………………………………………. …………………………………………. …………………………………………. …………………………………………. …………………………………………. ………………………………………….. ………………………………………….. …………………………………………. …………………………………………. ………………………………………… ………………………………………… ………………………………………..... ………………………………………..... …………………………………………. …………………………………………. …………………………………………. …………………………………………. …………………………………………. …………………………………………. ………………………………………….. ………………………………………….. …………………………………………. …..…………………………………….
31 กจิ กรรมที่ 3 จงอธิบายผลกระทบจากการทิ้งวสั ดุทใี่ ช้แลว้ ทไี่ ม่ถูกวธิ ี ตอ่ ไปน้ี 3.1 ผลกระทบตอ่ สุขภาพ …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… 3.2 ผลกระทบต่อระบบนิเวศและส่งิ แวดล้อม …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… 3.3 ผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………..
32 กจิ กรรมที่ 4 หากร่างกายไดร้ ับสารพษิ อันตราย จะสง่ ผลกระทบต่อสุขภาพอยา่ งไรบ้าง จงอธบิ าย สารทาความเย็น …………………………………… ตะก่ัว …………………………………… ……………………………………… ……………………………………… …………………………………… โครเมียม …………. …………………………………… ……………………………………… …………………………………… …. แคดเมียม …………………………………… ปรอท …………………………………… …………. ………………………………… …………………………………… สารหนู ………………………………… …………………………………… ………………………………… …………………………… …………………. …………. …………………………… …………………………… นิกเกลิ …………………………… ………………………………… ………………………………… ……. ………………………………… โปรมีน ………………………………… ……………………. ………………………………… ………………………………… ………………….
33 กิจกรรมการเรียนรูห้ น่วยที่ 4 การจดั การและกาจดั วสั ดุทใี่ ช้แล้ว ชอื่ – สกุล ……………………………………..……………………………………..เลขท่ี ………………………. คาช้ีแจง ใหผ้ เู้ รียนศึกษาค้นคว้าเพม่ิ เติมจากส่อื และแหลง่ เรียนรู้ต่าง ๆ ตามท่ีแนะนาไว้ ทา้ ยหน่วยในชุดวิชา แล้วทากจิ กรรมต่อไปนี้ กิจกรรมที่ 1 1. จงอธบิ ายความหมายของหลกั 3R ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. จงอธบิ ายวธิ กี ารจัดการวสั ดุที่ใชแ้ ล้วดว้ ยหลกั 3R ต่อไปน้ี 2.1 การใชน้ ้อยหรอื ลดการใช้ (Reduce) มวี ิธีการปฏิบตั ิดังน้ี ..................................................................................................................................................... …................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2.2 การใชซ้ า้ (Reuse) มีวธิ กี ารปฏบิ ตั ิดังนี้ ..................................................................................................................................................... …................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2.3 การแปรรูปนากลับมาใช้ใหม่ (Recycle) มวี ิธกี ารปฏบิ ัติดงั น้ี ..................................................................................................................................................... …................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………..
34 กิจกรรมที่ 2 ผเู้ รียนสามารถมสี ่วนร่วมในการช่วยลดปริมาณวสั ดทุ ีใ่ ชแ้ ล้วท่ีเกดิ ข้ึนในครอบครัว และชมุ ชนด้วยหลกั 3R อยา่ งไรบา้ ง จงอธิบาย ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... กิจกรรมท่ี 3 จากการศึกษาเร่อื ง ระยะเวลาการยอ่ ยสลายของวัสดุ ใหผ้ ูเ้ รียนนาตัวอักษรที่อยู่ ด้านหนา้ คาตอบด้านขวามือมาเติมลงในช่องวา่ งด้านซ้ายมอื ใหถ้ กู ต้อง ………………1. เปลือกสม้ ก. 5 วัน – 1 เดือน ..................2. กน้ กรองบุหร่ี ข. 3 เดอื น ..................3. ถุงพลาสติก ค. 2 - 5 เดือน ..................4. เศษพืชผกั ง. 6 เดอื น ..................5. โฟม จ. 5 ปี ..................6. ผ้าออ้ มเด็กชนิดสาเร็จรูป ฉ. 12 – 15 ปี ..................7. รองเท้าหนัง ช. 25 – 40 ปี ..................8. ขวดพลาสตกิ ซ. 80 – 100 ปี ..................9. เศษกระดาษ ฌ. 450 ปี .................10. กระปอ๋ งอลูมเิ นยี ม ญ. 450 ปี .................11. ใบไม้ ฐ. 500 ปี .................12. กลอ่ งนมเคลือบพลาสตกิ ณ. ไม่ยอ่ ยสลาย .................13. เชือก ด. 1- 5 เดอื น .................14. ผา้ ฝ้าย ต. 13 ปี .................15. ไม้ ถ. 3 - 14 เดือน
35 กจิ กรรมท่ี 4 1. จงอธิบายวิธกี ารกาจัดวสั ดุที่ใชแ้ ลว้ ด้วยวธิ กี ารตอ่ ไปน้ี 1.1 การกาจดั วสั ดทุ ่ีใช้แล้วโดยใช้เตาเผา ...................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... 1.2 การกาจัดวัสดุท่ีใช้แลว้ โดยวิธีการฝังกลบ ...................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................
36 กิจกรรมที่ 5 หากผเู้ รียนได้รบั มอบหมายให้ดาเนินการกาจดั วัสดุที่ใชแ้ ลว้ ในชุมชน ผู้เรยี นจะ เลอื กวธิ กี ารกาจัดวัสดุที่ใช้แลว้ ดว้ ยวิธีการใด เพราะเหตุใด ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................
37 แบบทดสอบหลังเรียน คําช้แี จง จงเลือกคาํ ตอบท่ถี ูกที่สดุ เพียงขอเดียว 1. ขอใดใหค วามหมายของคาํ วา “วสั ดศุ าสตร” ไดถูกตองทส่ี ดุ ก. เปนการศึกษาความรเู กย่ี วกับสมบัติของวัสดุทใี่ ชใ นชีวิตประจําวนั ข. เปนการศกึ ษาโครงสรางของวัสดแุ ตละชนดิ เพ่อื นาํ มาผลติ หรือสรา งเปนผลติ ภัณฑ ค. เปน การศกึ ษาองคป ระกอบของวัสดุ เพื่อนาํ มาพฒั นาผลิตภณั ฑหรือสง่ิ ของเครือ่ งใช ง. เปน การศึกษาองคความรทู เี่ กี่ยวขอ งกับวสั ดุ ท่ีนาํ มาใชป ระกอบกนั เปนชิ้นงาน ตามการ ออกแบบ มตี ัวตน สามารถสัมผัสได 2. ยางพาราสามารถนาํ มาทาํ ประโยชนไ ดหลายอยา ง ยกเวน ขอ ใด ก. ถุงมอื ข. ยางลบ ค. ยางรดั ของ ง. ถงุ ใสอ าหาร 3. สง่ิ ใดตอ ไปนีท้ าํ จากวสั ดุธรรมชาติ ก. ขวดนา้ํ ข. เกาอ้ไี ม ค. ตะกรา ผา ง. กลองดนิ สอ 4. สงิ่ ใดตอไปนที้ าํ จากวสั ดสุ ังเคราะห ก. ถังน้ํา ข. โอง นาํ้ ค. ไมก วาด ง. กระถางตน ไม
38 5. เส้ือกนั ฝน เปน ผลิตภณั ฑท ี่ไดจ ากการใชประโยชนของวสั ดใุ นขอ ใด ก. ผา ข. ยาง ค. กระดาษ ง. พลาสติก 6. วัสดุชนดิ ใดเม่ือไดรับความรอนจะไมเ ปลี่ยนแปลงรูปรา ง ก. เทียนไข ข. ดินนํา้ มัน ค. กระดาษ ง. ดนิ เหนยี ว 7. จากการศึกษาสมบตั ิดา นความแขง็ ของวสั ดุ สามารถนาํ ไปใชป ระโยชนใ นดา นใด ก. การนาํ เพชรมาใชในการตัดกระจก ข. การทําผลิตภณั ฑเ คร่อื งปน ดินเผา ค. การใชเ สนเอน็ ทําสายเบด็ ตกปลา ง. การผลติ อุปกรณใ นครัวเรอื น 8. จากการทดลอง พบวา เมอ่ื นาํ วสั ดุ A ไปขูดวสั ดุ B ทาํ ใหวัสดุ B เปนรอย และเม่อื นําวสั ดุ C ไปขดู วสั ดุ A ทาํ ใหว ัสดุ A เปนรอย ขอใดเรียงลาํ ดับความแข็งของวัสดจุ ากมากไปนอ ยได ถูกตอง ก. A B C ข. C B A ค. B A C ง. C A B
39 9. การรบั แรงหรือน้ําหนกั ที่มากระทําของวสั ดทุ มี่ ีขนาดและความยาวเทากนั แสดงถงึ สมบัติ ดานใดของวสั ดุ ก. ความแข็ง ข. ความเหนยี ว ค. ความยืดหยุน ง. ความหนาแนน 10. ความแตกตางดา นการใชง านของถุงกระดาษและถงุ พลาสตกิ แสดงถึงสมบัตดิ า นใดของวัสดุ ก. ความแข็ง ข. ความเหนียว ค. ความยดื หยนุ ง. ความสวยงาม 11. วัสดุในขอ ใดที่สามารถรบั แรงหรือนา้ํ หนกั ทีม่ ากระทาํ ไดม ากท่สี ุด เมอื่ วสั ดนุ ั้นมขี นาดและ ความยาวเทากัน ก. เสน เอน็ ข. เสน ไหม ค. เชือกฟาง ง. ยางรัดของ 12. วสั ดุชนิดหน่งึ เมอื่ ถกู แรงกระทําแลว มีการเปลย่ี นรปู รา งหรอื ขนาด และเมื่อหยดุ ออกแรง ก็คืนสภาพเดมิ แสดงวา วัสดุนน้ั มสี มบัติดานใด ก. การยืดตวั ข. การคลายตัว ค. การคืนสภาพ ง. สภาพยืดหยุน
40 13. วสั ดใุ นขอ ใดท่มี สี มบตั ดิ า นความยดื หยนุ ก. ฟองน้ํา ข. เชอื กฟาง ค. ดินนํา้ มัน ง. ดนิ เหนยี ว 14. วสั ดุในขอ ใดควรนํามาทาํ ฉนวนความรอน ก. ไม ข. เงิน ค. ทองเหลอื ง ง. อะลูมเิ นยี ม 15. การผลติ สงิ่ ของเครอื่ งใชใ นขอ ใดใชป ระโยชนจ ากสมบัตกิ ารนาํ ความรอนของวัสดุ ก. เครอ่ื งเรือน ข. เครอื่ งนอน ค. ภาชนะหงุ ตม ง. อุปกรณตกแตง บาน 16. นําทัพพที ่ที าํ จากวสั ดุ A และ B ไปคนแกงท่กี ําลังเดอื ด พบวา ทพั พที ่ที าํ จากวัสดุ A ไม รูสึกรอนมือ แตทพั พีทท่ี ําจากวสั ดุ B รสู กึ รอ นมอื อยากทราบวา ทพั พี A และ B นา จะทํามา จากวัสดุในขอ ใดตามลําดับ ก. พลาสติก แกว ข. แกว พลาสตกิ ค. พลาสตกิ โลหะ ง. โลหะ พลาสติก
41 17. ในการดําเนนิ ชวี ติ ประจาํ วนั ถาตองการเลือกใชวสั ดุทีม่ สี มบัติในการนาํ ไฟฟา ควรเลอื ก วัสดุในขอ ใด ก. ผา ข. แกว ค. โลหะ ง. พลาสติก 18. เพราะเหตใุ ดจึงใชพ ลาสตกิ หมุ สายไฟฟา ก. เพราะเปนตัวรบั พลงั งานไฟฟา ข. เพราะทําใหกระแสไฟฟาไหลผา นไดด ี ค. เพราะพลาสตกิ มสี มบตั ิเปน ตวั นาํ ไฟฟา ง. เพราะพลาสตกิ มีสมบัตเิ ปนฉนวนไฟฟา 19. การทดสอบความหนาแนนของวสั ดุสามารถทาํ ไดด วยวธิ กี ารใด ก. การขูดขีดของวัสดุ ข. การจมนํ้า – ลอยนาํ้ ของวัสดุ ค. การกลบั คนื สูส ภาพเดมิ ของวัสดุ ง. ความสามารถรบั แรงหรือน้าํ หนกั ทม่ี ากระทําไดม าก 20. วสั ดุในขอใดมีความหนาแนนนอยกวานา้ํ ก. กอ นหนิ ข. ลูกแกว ค. ตะปู ง. โฟม
42 21. ผลิตภัณฑท ่เี ปนมิตรตอ สิง่ แวดลอม หมายถึงขอ ใด ก. ผลติ ภณั ฑผลิตทขี่ ึ้นจากวสั ดธุ รรมชาติ ข. ผลติ ภณั ฑท่มี กี ารออกแบบใหส ามารถนาํ กลบั มาใชใ หมไ ด ค. ผลิตภัณฑท่ีสงผลกระทบตอส่ิงแวดลอ มนอยกวาเมือ่ เปรียบเทยี บกับผลติ ภณั ฑอ ื่น ๆ ง. ผลิตภณั ฑทมี่ ีการใชเทคโนโลยใี นการผลิตท่ซี ับซอ นเพอื่ เพม่ิ ประสิทธภิ าพการใชงาน 22. ขอ ใดกลา ว ไมถูกตอง เกย่ี วกบั ผลติ ภัณฑท ่ีเปน มิตรตอ สงิ่ แวดลอม ก. ใบบวั เลือกซ้ือสินคาทม่ี สี ัญลักษณฉ ลากประหยดั ไฟเบอร 5 เพราะชวยประหยดั คา ไฟฟา ข. ใบขาวเลอื กซ้ือสินคา ท่ีมสี ัญลักษณฉลากประหยัดไฟเบอร 1 เพราะชว ยลดการใช พลงั งานไฟฟา ค. ใบตองเลอื กซอื้ เตาแกส ที่มสี ญั ลักษณฉลากประสทิ ธภิ าพสูง กาํ กบั เพราะจะไดช วย อนุรักษพ ลังงาน ง. มะลเิ ลอื กซอื้ ผลิตภัณฑท ี่มีสัญลกั ษณฉ ลากสเี ขยี ว เพราะมีผลกระทบตอสิง่ แวดลอ ม นอยเมอื่ เปรยี บเทยี บกบั ส้ินคา ชนิดเดยี วกนั 23. สญั ลกั ษณ “ฉลากเขียว” ใชไดกับสนิ คาทกุ ประเภท ยกเวน สินคา ประเภทใด ก. ยาธาตนุ าํ้ ขาว นํา้ อัดลมและปลากระปอ ง ข. กระตกิ นํา้ รอ น ตูเย็นและหมอหุงขา วไฟฟา ค. เครอ่ื งปรับอากาศ หลอดผอมและหมอ หงุ ขา วไฟฟา ง. เคร่ืองทําน้าํ อุนไฟฟา พัดลมระบายอากาศและโคมไฟ
43 24. สญั ลักษณน ห้ี มายถงึ ขอใด ก. ฉลากท่ีแสดงประสทิ ธภิ าพสําหรับอุปกรณไ มใ ชไฟฟา ข. ฉลากที่ใหไวกบั ผลิตภัณฑท ี่มกี ารพฒั นากระบวนการผลิตโดยใชเ ทคโนโลยีที่มี ประสทิ ธภิ าพสงู สุด ค. ฉลากสินคา ท่ผี านการรบั รองวามผี ลกระทบตอ สิ่งแวดลอ มนอ ย โดยอนญุ าตใหใ ช สญั ลักษณฉ ลากทม่ี สี เี ขยี วติดไวกับผลติ ภณั ฑ ง. ฉลากท่ใี หก ับผลติ ภณั ฑท่ีมีคุณภาพและมีผลกระทบตอสิง่ แวดลอ มนอ ยเม่อื นํามา เปรียบเทียบกับผลิตภัณฑชนิดเดียวกัน 25. สญั ลกั ษณน หี้ มายถงึ ขอใด ก. ฉลากทีแ่ สดงประสิทธิภาพสาํ หรบั อุปกรณไมใ ชไ ฟฟา ข. ฉลากที่ใหไวกับผลิตภัณฑท ่มี กี ารพัฒนากระบวนการผลติ โดยใชเ ทคโนโลยีทม่ี ี ประสิทธิภาพสูงสุด ค. ฉลากสินคา ท่ีผานการรับรองวามีผลกระทบตอส่ิงแวดลอมนอ ย โดยอนญุ าตใหใช สัญลกั ษณฉลากที่มสี ีเขียวตดิ ไวกบั ผลติ ภณั ฑ ง. ฉลากทใ่ี หกับผลิตภณั ฑทีม่ คี ุณภาพและมผี ลกระทบตอส่ิงแวดลอมนอ ยเม่ือนํามา เปรียบเทียบกบั ผลิตภัณฑชนดิ เดียวกัน
44 26. ขอ ใด ไมใ ช ผลกระทบดา นระบบนิเวศท่ีเกิดจากการใชวัสดใุ นชีวติ ประจําวนั ก. อนงคทิ้งแบตเตอรร ่ีโทรศัพทลงในถังสีแดง ข. ยพุ าใชส ารเคมกี าํ จดั หญา ในแปลงผกั สวนครวั ค. สมศักดิเ์ ทนํ้าท่ีใชซักผา ลงแมน ้าํ หนา บานทุกวัน ง. ชมภกู าํ จดั ขยะในครวั เรือนดว ยวธิ กี ารเผาในที่โลง 27. บคุ คลในขอใดมจี ิตสํานกึ ในการอนรุ กั ษส ิง่ แวดลอม ก. สมใจ สงสารคนเกบ็ ขยะจงึ ชว ยเก็บขยะดว ย ข. สมศักด์ิ ทง้ิ ขยะลงถังเสมอ แตไ มไดแ ยกขยะกอ นท้งิ ค. สมหวัง เหน็ ขยะตกลงพ้ืน จึงรีบไปเก็บและคัดแยกกอ นท้งิ ง. สมพงษ เหน็ ขยะตกอยูแ ลวบอกคนเกบ็ ขยะใหมาเก็บไปทงิ้ 28. บุคคลในขอใด ไม ตระหนกั ถงึ ผลกระทบทเี่ กดิ จากการใชวสั ดุในชวี ิตประจําวัน ก. นาํ้ ผ้งึ แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับการกําจดั วสั ดทุ ่ีใชแลว ใหถูกวธิ ี ข. น้าํ ใจทําการบานเร่อื งผลกระทบทีเ่ กิดจากการใชว ัสดใุ นชวี ิตประจาํ วัน ค. นํา้ ตาลซักถามครผู ูสอนเรือ่ งสารอนั ตรายท่สี ามารถปนเปอ นตอสงิ่ แวดลอ ม ง. นาํ้ หวานกระตอื รอื รนที่จะศึกษาคนควา วธิ ีการกําจดั น้ําเสยี ในแมนาํ้ ลาํ คลอ ง 29. ถา คา บีโอดี (BOD) ในน้าํ คลองสูง แสดงวา นาํ้ คลองมลี ักษณะเปนอยางไร ก. มคี ณุ ภาพดี ข. อยใู นระดับปกติ ค. นําไปอปุ โภคบรโิ ภคได ง. เกดิ สภาพเหม็นเนาไดงาย 30. หากรางกายไดรบั สารตะกั่ว จะสงผลกระทบตอ สขุ ภาพอยางไร ก. ปวดศีรษะ หายใจขัด ข. เกดิ ตะคริวกินทแ่ี ขน ขา ค. เกดิ การระคายเคอื งตอ ผวิ หนัง ง. ปวดศรี ษะ ออนเพลยี คล่นื ไส
45 31. หลัก 3R หมายถงึ ขอใด ก. หลักการบริหารจัดการวสั ดุเพอื่ การใชง าน ข. หลกั การบาํ รุงรักษาวัสดใุ หสามารถใชงานไดดี ค. หลกั การจดั การวัสดเุ พอ่ื ลดปรมิ าณวสั ดุทใ่ี ชแ ลว ง. หลักการจัดการวสั ดุเพอื่ เพิ่มประสิทธภิ าพการใชง าน 32. ขอ ใดใหความหมายของ Reuse ไดถ ูกตอ ง ก. มดซ้อื นํ้าอดั ลมทเ่ี ปนขวดแลว คืนได ข. นอ ยนาํ ปน โตไปใสอาหารแทนการใชก ลอ งโฟม ค. เบนซนําขวดนํ้าพลาสติกไปทาํ กับดักแมลงวันทอง ง. แกว เลือกซือ้ นํา้ รดี ผาชนิดเติมแทนการแบบเปนขวด 33. การใชถงุ ผา ไปจา ยตลาดตรงกับหลักการจดั การ 3R ขอ ใด ก. Reuse ข. Return ค. Reduce ง. Recycle 34. ขอ ใดใหความหมายของ Recycle ไดถ ูกตอง ก. นกนําซองกาแฟมาทาํ ตะกราใสของ ข. จอยยืมหนังสอื นิทานจากหองสมดุ ประชาชน ค. จอรน นาํ ขวดนํา้ พลาสติกทใ่ี ชแ ลวไปลางแลว นํากลบั มาใชใหม ง. นา้ํ นําขวดแกวท่ีใชแลว ไปหลอมใหม เพอ่ื ขึ้นรูปเปนแกว ใบใหม 35. บุคคลในขอใดปฏิบตั ิตนตามหลักการใชนอ ยหรือลดการใช (Reduce) ไดถ กู ตอง ก. อํานวย นาํ สง่ิ ของทีใ่ ชแลวมาดัดแปลงใหใ ชประโยชนไดอีก ข. อาํ พล เลอื กซอื้ หรอื ใชผลติ ภณั ฑทอ่ี อกแบบมาใหใ ชไ ดม ากกวา 1 คร้ัง ค. อาํ นาจ นําถุงกระดาษทเี่ คยใสของแตยงั มีสภาพดกี ลบั มาใชประโยชนใหม ง. อาํ ไพ หลีกเล่ียงการเลอื กซื้อสินคาหรอื ผลติ ภัณฑท ่ใี ชบ รรจภุ ัณฑหอ หมุ หลายช้นั
Search