Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พันธุ์บัวในประเทศไทย (1)

พันธุ์บัวในประเทศไทย (1)

Published by aommi284, 2021-10-11 10:15:08

Description: พันธุ์บัวในประเทศไทย (1)

Search

Read the Text Version

Lotus ช นิ ด ส า ย พั น ธุ์ บั ว Speci es in ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย Thailand

บทคัดย่อ บัวหลวง หรือดอกบัวที่ใช้จัดแจกันบูชาพระมีดอกและใบชูขึ้นเหนือน้ำ ใบสี เขียวนวลค่อนข้างกลม ขอบใบเรียบ ผิวด้านบนมีขนอ่อนๆ และนวล ดอกมี 4 สี ได้แก่ สีขาว สีแดง สีชมพูและสีเหลือง บัวสาย เป็นบัวที่อยู่ตามหนองบึงที่มีระดับน้ำลึก เป็นบัวที่ชาวบ้านมักนิยม เก็บก้านดอกมาทำอาหาร หรือที่เรียกว่า สายบัว แม้ปัจจุบันนี้ยังนิยมนำมา ปรุงอาหารบัวสายมีใบที่ใหญ่ ขอบใบหยัก มีดอกสีบานเย็น สีขาว และ สีชมพู ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน บัวผันมีดอกเล็กและมีกลีบดอกน้อย ปัจจุบันได้มีการผสมพันธุ์ผัวบัน เกิดเป็นบัวลูกผสมที่กลีบดอกซ้อนสีสันสวยงามและเป็นที่นิยมปลูกประดับ กันทั่วไปบัวประดับที่พบเห็นส่วนใหญ่ล้วนเป็นบัวลูกผสมของกลุ่มบัวผัน เกือบทั้งหมด อีกชนิดหนึ่งที่นิยมปลูกในเมืองไทย ได้แก่บัวนอกหรือบัวฝรั่ง มีสีสัน สวยงาม มีรูปทรงดอกสวย ใบกลมมันสวย สมัยก่อนมีราคาแพงต้นละ 1000 กว่าบาท ลดลงมาเหลือ 500 บาท 300 บาท จนตอนหลังนี้เหลือกระ ถางละ 150 บาท ไปจนถึง กระถางละ 50 บาท แต่ไปอาจจะราคา 3 กระถาง 100 , แต่ละชนิดมีสีสวยงามทั้งสีขาว สีแดง สีชมพู สีเหลือง ดอกเหลือง เกสรชมพู สารพัด บัวนอกจะมีลำต้นอยู่ใต้ดิน เจริญเติบโตไปทิศทางข้าง หน้าลักษณะเหมือนไหลบัว

บัวหลวง หรือดอกบัว ที่ใช้จัดแจกันบูชาพระ มีดอกและใบชูขึ้นเหนือน้ำ ใบสีเขียวนวลค่อนข้างกลม ขอบใบเรียบ ผิวด้านบนมีขนอ่อนๆ และนวล ดอกมี 4 สี ได้แก่ สีขาว สีแดง สีชมพู และ สีเหลือง ติดผลเป็นฝัก การขยายพันธุ์ บัวหลวงมีไหล ชอนไชไป ตามหน้าดิน ต้นใหญ่จะเกิดมาจากไหลเหล่านั้น ปลูกต้นเดียวถ้าไม่ ตายในหนึ่งปีขายออกไปได้เยอะจนกระทั่งเต็มบึง

บัวสาย เป็นบัวที่อยู่ตามหนองบึงที่มีระดับน้ำลึก เป็นบัวที่ชาวบ้านมักนิยม เก็บก้านดอกมาทำอาหาร หรือที่เรียกว่า สายบัว แม้ปัจจุบันนี้ยังนิยม นำมาปรุงอาหารเช่น แกงเลียงสายบัว บัวสายมีใบที่ใหญ่ ขอบใบหยัก มีดอกสีบานเย็น สีขาว และสีชมพู ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน การขยาย พันธุ์ บัวสายมีเหง้าอยู่ใต้ดิน เมื่อต้นเก่าโทรมไปเมื่อน้ำแห้ง ครั้นถึงฤดู น้ำท่วมหัวเหล่านั้นก็จะแตกต้นอ่อนขึ้นมาใหม่ และอีกแบบคือการเพาะ เมล็ด

บัวลูกผสมกลุ่มบัวผัน บัวผันมีดอกเล็กและมีกลีบดอกน้อย ปัจจุบันได้มีการผสมพันธุ์ ผัวบันเกิดเป็นบัวลูกผสมที่กลีบดอกซ้อนสีสันสวยงาม และเป็นที่ นิยมปลูกประดับกันทั่วไป บัวประดับที่พบเห็นส่วนใหญ่ล้วนเป็บัว ลูกผสมของกลุ่มบัวผันเกือบทั้งหมด สำหรับชื่อของพันธุ์ลูกผสม นั้นมีชื่อเรียกกันมากมายแล้วแต่ผู้คิดค้นพันธุ์จะตั้งชื่อ ตั้งชื่อตาม เจ้าของบ้าง ตั้งชื่อใหม่ตามจินตนาการบ้าง จดจำกันไม่หวัดไม่ ไหว ขายยพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด

บัวนอกหรือบัวฝรั่ง มีสีสันสวยงาม มีรูปทรงดอกสวย ใบกลมมันสวย สมัยก่อน ราคาแพงต้นละ 1000 กว่าบาท ลดลงมาเหลือ 500 บาท 300บาท จนตอนหลังนี้เหลือกระถางละ 150 บาท ไปจนถึง กระถางละ 50 บาท แต่ไปอาจจะราคา 3 กระถาง 100 , แต่ละ ชนิดมีสีสวยงามทั้งสีขาว สีแดง สีชมพู สีเหลือง ดอกเหลือง เกสรชมพู สารพัด บัวนอกจะมีลำต้นอยู่ใต้ดิน เจริญเติบโตไป ทิศทางข้างหน้าลักษณะเหมือนไหลบัว การขยายพันธุ์เพียงแค่ ตัดลำต้นออกเป็นท่อนๆ แล้ววางไว้ก็จะแตกกอใหญ่ออกมา มากมาย ด้วยเหตุที่ขยายพันธุ์ง่ายจึงทำให้ราคาลดลงอย่าง รวดเร็ว

ปทุมชาติหรือบัวหลวง จัดอยู่ในสกุล Nelumbo มีแหล่งกำเหนิดในทวีป เอเซีย มีไหลอยู่ใต้ดิน ใบมีขนาดใหญ่ ดอกมีทั้ง ดอกซ้อนและไม่ซ้อน ใบและดอกชูขึ้นเหนือน้ำ ใน ประเทศไทยมีอยู่ 4 พันธ์ บัวสัตตบุษย์ บัวบุณฑรัก บัวสัตตบงกช บัวปทุม

อุบลชาติ (Water-lily) จัดอยู่ในสกุล Nymphaea มีแหล่งกำเหนิดในทวีปเอเซีย มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ใบลอยแตะผิวน้ำ รูปร่างใบมีหลายแบบ ก้านใบไม่มีหนาม กลีบดอกมีทั้งดอกซ้อนแบ่งเป็น2 ประเภท 1.อุบลชาติยืนต้น ( Hardy water-lily ) มีถิ่นกำเหนิดในเขตอบอุ่น และเขตหนาว หรือที่เรียกว่า บัว ฝรั่ง มีเหง้าเลื้อยไปตามผิวดิน แตกหน่อง่าย ติดเมล็ดยาก พัก ตัวในฤดูหนาว ขอบใบเรียบ ดอกลอยแตะผิวน้ำหรือชูเหนือน้ำ เล็กน้อย ดอกมีหลายสี กลีบดอกซ้อนสวยงามมาก มีชื่อเรียก แตกต่างกันไปตามลักษณะดอกและสีตามที่ผู้พัฒนาพันธุ์คิดขึ้น บัวฝรั่ง บัวซีรีอุส บัวฟาบีโอร่า บัวยิปซี บัวมังคลอุบล

2 อุบลชาติล้มลุก ( Tropical water-lily ) มีถิ่นกำเหนิดในเขตร้อน ไม่พักตัวในฤดูหนาว มีเหง้าเจริญเติบโต ในแนวดิ่ง ดอกมีหลายสี ใบลอยแตะผิวน้ำ ดอกชูขึ้นเหนือผิวน้ำ ขอบใบจักมน หรือ แหลม แบ่งออกเป็น 4 ชนิด 2.1 บัวผันและบัวเผื่อน ( บานกลางวัน ) ดอกมีกลิ่นหอมมาก บานตอนเช้าหุบตอนเย็น ก้านและใบไม่มี ขน ดอกมีหลายสี ติดเมล็ดง่าย ผสมพันธุ์ข้ามระหว่างสีต่างๆ ได้ ง่ายทั้งโดยแมลงในธรรมชาติ และโดยฝีมือมนุษย์ บัวชนิดนี้จึง เกิดสีสันต่างๆ มากมาย เป็นที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับกันมาก ราคาถูก ขยายพันธุ์ง่าย ดูแลง่าย ดอกก็หอมมาก สามารถหาซื้อ ได้ตามร้านต้นไม้ทั่วไป ราคากระถางละ 25-50 บาท บัวผันและบัวเผื่อน บัวของขวัญ บัวนางกวักชมพู บัวไจแกนเดียไวโอเซีย

2.2 บัวสาย ( บานกลางคืน ) เป็นบัวที่ชาวบ้านนิยมเก็บสายบัวมาประกอบอาหาร บานตอน ใกล้ค่ำและหุบตอนเช้า บางชนิดไม่หอม บางชนิดหอมอ่อนๆ บัว ชนิดนี้มีก้านใบและก้านดอกยาวสามารถขึ้นอยู่ได้ในระดับน้ำ ลึกๆ ได้ พบเห็นได้ทั่วไปตามหนองบึงและในแหล่งน้ำธรรมชาติ ตามชนบท แตกกอง่ายและมีหัวอยู่ใต้ดิน ในฤดูแล้งที่น้ำแล้งก็ โทรมไปแต่หัวยังฝังอยู่ในดิน เมื่อฤดูฝนมีน้ำมาก็จะแตกใบขึ้นมา ใหม่เต็มหนองบึง ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาจนเกิดสีสันและพันธุ์ ใหม่ขึ้นมาอีกหลายชนิด และยังจะมีพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ บัวชมพูซีลอน บัวปริมลาภ บัวมิชซิสจีซีอิทธ์คอด บัวธัญกาฬ บัวสาย บัวสัตตบรรณ บัวเศวตอุบล

2.3 จงกลนี เป็นบัวพันธุ์ใหม่ที่พบในธรรมชาติคาดว่าเกิดจากการแปลง พันธุ์ในธรรมชาติ ใบเหมือนบัวตระกูลบัวผัน บัวเผื่อน แต่ ดอกซ้อนเหมือนบัวฝรั่ง มีเหง้าใต้ดิน เหง้าเจริญในแนวดิ่ง ต้นอ่อนจะเกิดจากเหง้าใต้ดินเจริญเติบโตขึ้นมาจากโคนต้น แม่ ใบลอยลอยแตะผิวน้ำ ดอกลอยแตะผิวน้ำเล็กน้อย ก้อน ใบก้านดอกยาวและอ่อนควรปลูกในที่ระดับน้ำลึก ดอกบาน แล้วบานเลยจะไม่หุบจนกว่าจะโรยไป ประมาณ 3 วัน จงกลนี เป็นบัวที่มีกลีบดอกเยอะแต่สีสันยังไม่สวยและที่กลีบดอกมีสี เขียวดูเปรอะ กลีบดอกเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ บัวจงกลนี บัวจงกลนี

3.บัวกระด้งหรือบัววิคตอเรีย ( Royal water-lily, Victoria ) บัวใบใหญยักษ์ ขอบใบยกตัวขึ้นคล้ายกระด้ง ลอยบนผิวน้ำ ใบ ก้านใบ ก้านดอกมีหนามแหลมอยู่ทั่ว ดอกสีขาว และ สีชมพู ดอก มีกลิ่นหอมแรง บานตอนกลางคืนและหุบในตอนเช้า เป็นบัวที่ ต้องใช้พื้นที่ปลูกมาก และมีปัญหากอบัวหลุดลอยขึ้นสู่ผิวน้ำหาก ระดับน้ำที่ปลูกมีการเปลี่ยนขึ้นอย่างกระทันหัน บัววิคตอเรีย