ประวตั สิ ว่ นตวั ชือ่ -สกลุ นางฐติ ารยี ์ ศรีพรหม อายุ 47 ปี อายรุ าชการ 15 ปี ประวตั กิ ารศกึ ษา 1. วุฒปิ รญิ ญาตรี ครศุ าสตร์บัณฑิต (คบ.) วิชาเอก สงั คมศกึ ษา จากสถาบันการศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยราชภัฎกาญจนบรุ ี 2. วฒุ ิสงู กวา่ ปริญญาตรี การศกึ ษาศาสตรม์ หาบณั ฑติ (ศษ.ม.) สาขาหลกั สตู รและการสอนสงั คมศกึ ษา จากสถาบนั การศึกษา มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น ปจั จบุ นั ดารงตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ รบั เงนิ เดอื น 35, 420 บาท ประวัติการรับราชการ ลำดบั ที่ ตำแหนง่ หนว่ ยงำน/สถำนศึกษำ วัน เดือน ปี ท่ดี ำรงตำแหน่ง 1 ครูผชู้ ่วย โรงเรียนนาง้ิววิทยาสรรค์ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2551 2 โรงเรียนางิว้ วิทยาสรรค์ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554 3 ครู โรงเรียนางวิ้ วิทยาสรรค์ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ครู วิทยฐานะ 4 ครชู านาญการ โรงเรียนางิว้ วิทยาสรรค์ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพิเศษ- ปจั จบุ นั
เนื่องจากข้าพเจ้าได้รับหน้าที่ดูแลเร่ืองงานหลักสูตรและการจัดการ เรียนการสอน ทาให้มีความรู้เร่ืองการพัฒนาหลักสูตร และการจัดการเรียนการ สอน ซึ่งในทุกภาคเรียนจะทาหน้าท่ีเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ท่ีเก่ียวกับการ พัฒนาหลักสูตรให้กับคณะครูในสถานศึกษา ซึ่งตัวของข้าพเจ้าเองต้องเป็น แบบอยา่ งท่ีดีให้กบั คณะครู โดยในแตล่ ะภาคเรียนต้องวิเคราะห์หลักสูตรก่อนท่ีจะ จดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้ โดยยึดมาตรเกฐ่าียนวกการเรียนรู้และตัวช้ีวัดจากหลักสูตร แกนกลาง เพ่ือจัดทารายวิชาและหน่วยการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการ ของผู้เรยี น และบริบทของชุมชน มีการประเมินผลการใช้หลักสูตร และรายงานให้กับผู้บังคับบัญชา ทราบอยา่ งเปน็ ระบบและนาผลการประเมินการใชห้ ลกั สูตรมาปรับปรุงพัฒนาในปี การศกึ ษาตอ่ ไป
ข้าพเจ้าได้ออกแบบหน่วยการเรียนรู้ โดยการปรับประยุกต์ให้ สอดคล้องกับบริบทสถานศึกษา ท้องถิ่น และเหมาะสมกับผู้เรียน มีการนา หลักทฎษฎีต่าง ๆ มาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เช่น กลยุทธ์การ เรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับโซเชียลคอนสตรัคติวิสต์ (Social Constructivism) ของ Vygotsky เพ่ือฝึกให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้จากการช่วยกันแก้ปัญหา (Collaborative Problem Solving) โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในสถานศึกษา และ สถานการณ์ปัญหาต่างๆ ท่ีนักเรียนกาลังประสบปัญหา เพ่ือให้ผู้เรียนได้รู้จักการ แกป้ ัญหา ซ่งึ เปน็ ทกั ษะหน่ึงทผี่ ู้เรียนต้องนามาใชใ้ นสถานการณป์ ัจจุบนั มีการประเมินผลการใช้หน่วยการเรียนรู้ และนาผลการประเมินมา ปรบั ปรงุ พฒั นาใหม้ คี ณุ ภาพสงู ขนึ้
ข้าพเจ้าได้ดาเนินการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ทุกภาคเรียน และ เสนอขออนุญาตการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ให้กับผู้บังคับบัญชารับทราบก่อนที่ จะนาแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้ โดยมีการวิเคราะห์หลักสูตร วิเคราะห์ผู้เรียน ตามกระบวนการวิธีการออกแบบหน่วยการเรยี นร้ทู ี่สถานศึกษากาหนด มีกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการปฏิบัติท่ีสร้างสรรค์และหลากหลาย โดยออกกิจกรรมเพื่อดึงศักยภาพของผู้เรียนให้ได้มากที่สุด มีการใช้กิจกรรม PLC ในกจิ กรรมการเรยี นการสอน ฝกึ ให้ผู้เรียนเป็นผู้นา ผู้ตามที่ดี โดยนากิจกรรมกลุ่ม มาเป็นตวั ชว่ ยในการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคม มีการบันทึกหลังการสอนท่ีนาผล ทีไ่ ด้มาปรบั ปรงุ แผนการจดั การเรยี นรู้ให้มคี ุณภาพสูงขึ้น
ข้าพเจ้าได้การจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบและเทคนิควิธีการต่างๆ มาใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอน เช่น ขนั้ ตอนการเรียนการสอนตามแนวคอนสตัคตวิ สิ ต์ ดังน้ี 1. ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน (Invitation) เร้าความสนใจด้วยการให้สังเกตเหตุการณ์ ถามคาถาม บันทึก ปรากฏการณ์ ผลที่เกดิ ข้นึ ชีใ้ ห้เหน็ ถึงการเปลี่ยนแปลง 2. ขั้นการสารวจ (Exploration) เป็นขั้นสืบเสาะหาข้อมูลข่าวสาร จากแหล่งข้อมูลต่างๆหรือทาการ ทดลอง สงั เกตผล บนั ทึก และจัดการกับขอ้ มูล อภิปรายปัญหา วางแผนการแก้ปญั หา ระบุเหตุผล ข้อดีขอ้ จากัด 3. ขั้นการนาเสนอรายละเอียดของปัญหาและวิธีการแก้ปัญหา (Proposal explanation and solution) ให้นาเสนอ อธิบายปญั หาใหช้ ัดเจน วิพากษป์ ญั หาและวธิ ีแก้ปญั หา 4. ขั้นการปฏิบัติ (Taking Action) นาแผนสู่การปฏิบัติ ประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะใน การแก้ปัญหา พัฒนาผลทีเ่ กิดขนึ้ ให้การสนบั สนนุ แนวคดิ วธิ ดี าเนนิ การ และนาเสนองาน ซ่งึ ได้ปรบั ปรงุ และประยกุ ต์กลยุทธ์ตา่ งๆ เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นได้เกิดการเรยี นรู้ และมีความสขุ ในการเรียน
ข้าพเจ้าได้ดาเนินการจัดการเรียนการสอน จัดกิจกรรมการเรียนรู้จนทาให้ผู้เรียนมีผลการพัฒนาในเร่ืองของ ความรู้ ทักษะกระบวนการและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และมีการรายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ ดังนี้ ในภาค เรียนท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 ปรากฏผล ดังนี้ 1) นักเรียนมีระดับผลการเรียนต้ังแต่ 2.0 ข้ึนไป คิดเป็น ร้อยละ 70.87 2) นักเรียนมีคะแนนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ อยู่ในระดับ 3 คิดเป็นร้อยละ 100 3) นักเรียนมี คะแนนการอา่ น คดิ วิเคราะหแ์ ละเขียน อยู่ในระดับ 3 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ปรากฏผล ดังน้ี 1) นกั เรยี นมีระดับผลการเรียนต้ังแต่ 2.0 ขึ้นไป คิดเป็น ร้อยละ 74.3 2) นักเรียนมีคะแนนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ อยู่ในระดับ 3 คิดเป็นร้อยละ 100 3) นักเรียนมี คะแนนการอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขียน อยใู่ นระดับ 3 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100
ข้าพเจ้าได้สร้างและพัฒนา ส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษาและแหล่งเรียนรู้ นาไปใช้ในการจัดการ เรียนรู้เหมาะสมกับผู้เรียนสอดคล้องกับเน้ือหาสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และจุดประสงค์การเรียนรู้ โดย ขา้ พเจ้าไดจ้ ัดทาการพฒั นาชุดกิจกรรมส่งเสรมิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา เรื่อง รู้หลักธรรม นาความสุข โดยใช้ปัญหา เป็นฐาน สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 และนาผลการประเมินไปปรับปรุงพัฒนาให้มีคุณภาพสูงข้ึน มีการ รายงานการใช้สอื่ เพ่ือประเมนิ ประสิทธภิ าพของสื่อ นอกจากน้ีข้าพเจ้ายังได้นาเกมการศึกษาจากเว็บไชต์ https://wordwall.net/ เพื่อนามาประยุกต์ให้เข้ากับ เนื้อหา รายวิชาที่สอน เช่น เกมตอบปัญหาท้าเซียนการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เกมตีตุ่นเทคโนโลยีสารสนเทศ เกมหุบ เขาวงกตเครอ่ื งมือทางภมู ิศาสตร์ เปน็ ตน้
ข้าพเจา้ ไดท้ าการสรา้ งพัฒนาเคร่ืองมือวัดและประเมินผลที่หลากหลายเหมาะสม และสอดคล้องกับมาตรฐาน การเรยี นรู้ ตวั ช้ีวัด และจุดประสงค์การเรียนรู้ โดยมีการวิเคราะหข์ ้อสอบตามทฤษฎีของบลูม (Bloom) คือ 1. ความรู้ที่ เกิดจากความจา (knowledge) 2. ความเข้าใจ (Comprehend) 3. การประยุกต์ (Application) 4. การวิเคราะห์( Analysis) 5. สังเคราะห์ (Synthesis) 6. ประเมินค่า (Evaluation) นอกจากนี้ยังมีการวัดผลประเมินจากการ สัมภาษณ์ การปฏบิ ัติ เพ่ือให้สอดคล้องกับความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลของผูเ้ รยี น มกี ารประเมนิ คณุ ภาพเคร่ืองมือวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และนาผลการประเมินคุณภาพของเคร่ืองมือวัด และประเมินผลการเรยี นรู้ไปปรบั ปรุง พฒั นา ใหม้ คี ุณภาพสูงขึ้น
ขา้ พเจ้าไดใ้ ชก้ ระบวนการวิจัยเพอื่ แกป้ ญั หาและพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยได้จัดทาวิจัย ในปีการศึกษา 2564 คือ รายงานการวิจัยในช้ันเรียนภาคเรียนที่ 1 เรื่อง การพฒั นาชดุ กิจกรรมส่งเสรมิ ความสามารถในการ แกป้ ัญหา เร่ือง รูห้ ลักธรรม นาความสขุ โดยใชป้ ัญหาเป็นฐาน สาหรบั นกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โดยได้มีการสังเคราะห์เอกสารต่างๆ เพ่ือจัดทาเป็นงานวิจัย และนอกจากน้ีได้มีการเผยแพร่ผลงานทาง วิชาการ เพ่ือประโยชนต์ อ่ วงการศกึ ษา
ข้าพเจ้าในฐานะเป็นทั้งครูผู้สอน และครูทีป่ รึกษา ได้มีการบรหิ ารจัดการชนั้ เรยี น โดยใหผ้ เู้ รยี นมสี ่วนร่วมอย่าง สร้างสรรค์ในการจัดสภาพแวดล้อม บรรยากาศท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ในช้ันเรียน โดยมีการจัดมุมห้องให้มีมุมสาหรับการ เรยี นรู้ สะอาดและปลอดภัยสาหรับผู้เรียน มีการจัดเวรทาความสะอาดประจาชั้นเรียน ในชั้นเรียนมีเคร่ืองมือท่ีทันสมัย ในการประกอบการจัดการเรียนการสอน นอกจากน้ียังมีและมีการจัดรวบรวมข้อมูลเพ่ือทาสารสนเทศ และมีการจัด รวบรวมข้อมลู เพือ่ จดั ทาสารสนเทศและเอกสารประจาช้ันเรยี นหรือประจาวิชา
ข้าพเจ้าเป็นท่ีปรกึ ษานักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6/2 ทุกเช้าก่อนกิจกรรมเคารพธงชาติ จะมีกิจกรรมร่วมกับ นกั เรียนในทีป่ รกึ ษา คือ การทาความสะอาดเขตพนื้ ทีร่ ับผดิ ชอบ และหลังกิจกรรมเคารพธงชาติ จะมีกิจกรรมโฮมรูมใน ทุกเช้ามีการเช็คชื่อการเข้าแถว การตรวจความเรียบร้อยของนักเรียน ในทุกๆ วันจะอบรมนักเรียนในเร่ืองคุณธรรม จรยิ ธรรม และติดตามพฤติกรรมตา่ งๆ ของนกั เรียน ท้ังการใชช้ ีวติ และการเรียน ใหแ้ ง่คดิ ในการดาเนนิ ชวี ติ มีการจัดทา ทะเบียนประวัตขิ องนักเรยี นในท่ีปรกึ ษา ประเมนิ พฤตกิ รรม วเิ คราะห์ นักเรยี นจากแบบประเมนิ ตนเอง (SDQ) ข้าพเจ้าได้ดาเนินกิจกรรมการเย่ียมบ้านนักเรียนปีการศึกษาละ 1 ครั้ง เพื่อจะได้ติดตามพฤติกรรมของ นกั เรียนทง้ั ท่ีบา้ น และที่โรงเรยี น เพ่อื จะไดห้ าวิธีชว่ ยเหลอื นักเรียน และแก้ปญั หาไดท้ ันที มีการรายงานผลการดาเนินกิจกรรมทุกกิจกรรมให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ เพ่ือนาปัญหาที่พบและช่วยเหลือ ผ้เู รยี นในอนั ดับตอ่ ไป
ข้าพเจ้าได้จัดข้อมูลสารสนเทศ เอกสารประจาชั้นเรียน ประจาวิชาอย่างเป็นระบบ ผ่านการ วิเคราะห์ สังเคราะห์อย่างถูกต้องและมีการช่วยเหลือให้คาปรึกษาผู้เรียนที่มีพฤติกรรมสุ่มเส่ียงต่อการออก นอกระบบการศึกษา มีบันทึกการให้คาปรึกษา รายงานให้ฝ่ายปกครอง ครูแนะแนว ในการช่วยปรับ พฤติกรรมผ้เู รยี น และชว่ ยเหลอื ผู้เรยี นให้อย่ใู นสงั คมอยา่ งมีความสขุ
ข้าพเจ้ามีการพัฒนาตนเองโดยยึดแบบประเมินตนเอง และแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (Individual Development Plan : ID PLAN) ซ่ึงจะทาให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยของความสามารถในการ ปฏิบัตงิ านของตน และสามารถพฒั นาตนเองให้สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการจาเป็นของหน่วยงาน และของตนเอง อยา่ งแท้จรงิ มีการพัฒนาตนเองมีความสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ของสถานศึกษา หรือส่วนราชการโดยความ เหน็ ชอบของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา พัฒนาตนเองทีส่ อดคล้องกับความรู้ ความสามารถ ทักษะ และคุณลักษณะของ ตนเองและสภาพปัญหา หรือความต้องการจาเป็นการปฏิบัติงานในสถานศึกษา ร่วมแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกับ เครือข่ายวิชาการ หรือชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ มีการนาความรู้ ทักษะที่ได้จากการพัฒนาตนเองมาพัฒนา นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ท่ีส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน เป็นการพัฒนาที่สนองตอบความต้องการแต่ละบุคคล สนองความสนใจในรปู แบบวิธีการพัฒนา ก็จะส่งผลต่อสมรรถนะในการปฏิบัติหน้าที่ที่มีประสิทธิภาพต่อไป และ เป็นการพัฒนาท่ีต่อเนื่องจนทาให้การปฏิบัติหน้าท่ีมีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ในการ ปฏิบัติงาน อันนาไปสู่การพัฒนาตนเองให้เป็นครูมืออาชีพที่มีมาตรฐานในการปฏิบัติงานอย่างแท้จริงสามารถ ตรวจสอบได้ และพฒั นาสู่ความเปน็ วิชาชพี ต่อไป
ข้าพเจ้าเข้าร่วมกจิ กรรมชุมชนการเรยี นรทู้ างวิชาชพี ซง่ึ ทาให้ เกิดจากการประยุกตแ์ นวคิดองคก์ ร แห่งการเรียนรู้สู่โรงเรียนแห่งการเรียนรู้ เป็นนวัตกรรมใหม่ท่ีช่วยให้ครูแสวงหาวิธีการท่ีจะช่วยให้นักเรียน สามารถเรยี นรแู้ ละพัฒนาตนเอง ได้ ครู นักการศึกษา ชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรวมกลุ่มกัน เรียนรู้ร่วมกันและ สะท้อนการปฏิบัติ อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง มีการทางานกลุ่มหรือเป็นทีม การแลกเปล่ียนเรียนรู้จาก ประสบการณ์ตรง เป็นการรวมตัวกันไปพร้อมกับการพัฒนาทักษะและการเรียนรู้เพื่อปฏิบัติหน้าที่ \"ครูเพื่อศิษย์\" สถานศึกษาเป็นสถานที่สาหรับ \"ปฏิสัมพันธ์\" ลดความ \"โดดเดี่ยว\" ส่ิงสาคัญที่สุดของ PLC คือ การทางานที่มุ่ง ไปที่การเรียนรู้ ของเด็กแต่ละคนเป็นสาคัญ ซึ่งกระบวนการ PLC มุ่งการปฏิบัติการสอนและผลสัมฤทธิ์ของ นักเรยี น
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: