Best Practice การส่งเสริมการเรียนรู้ในแหล่งเรยี นรู้ชุมชน เพ่ือสร้างอาชีพ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง โดย นายกฤษณพงษ์ มลู หงษ์ ครู กศน. ตำบลบา้ นกาด ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอแมว่ าง สำนักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จังหวดั เชียงใหม่
ชอ่ื ผลงาน : การส่งเสริมการเรยี นรู้ในแหล่งเรียนรูช้ มุ ชนเพ่ือสร้างอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ชอ่ื เจ้าของผลงาน : นายกฤษณพงษ์ มลู หงษ์ ครู กศน.ตำบลบ้านกาด สถานศึกษา : ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอแม่วาง จงั หวดั เชียงใหม่ 1. ความเปน็ มาและความสำคัญ ตามนโยบายและจุดเนนการดำเนินงาน สำนักงานสงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย ประจำปงบประมาณ พ.ศ.2565 ข้อที่ 3 ดานองคกร สถานศึกษา และแหล่งเรียนรูคุณภาพ (3.5) สงเสริมและสนับสนุนการสร้างพื้นที่การเรียนรูในรูปแบบ Public Learning Space/Co- learning Space เพ่ือการสร้างนิเวศการเรยี นรูใหเกิดข้นึ สังคม การปฏิรปู การศกึ ษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ. 2552-2561) ได้ให้ความสำคัญเร่ืองการศึกษาและการ เรียนรู้ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพ และมาตรฐานการศึกษาและการเรียนรู้ของคนไทย เพิ่มโอกาสทาง การศึกษาและการเรียนรู้อย่างท่วั ถึงและมีคุณภาพและสง่ เสริมการมีสว่ นรว่ มของทุกภาคสว่ นของสังคมในการ บริหารจัดการเพื่อให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิต ทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษา ตามอัธยาศัยอย่างมีคุณภาพ ให้บรรลุวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ “คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ” กระทรวงศึกษาธกิ าร จงึ ไดม้ นี โยบายให้มีการจัดตงั้ กศน.ตำบล ขน้ึ เพือ่ ให้เป็นศูนย์การเรยี นรรู้ ะดบั ตำบล เป็น แหล่งเรียนรู้ สำหรับประชาชนเพื่อประชาชนได้ใช้ในการแสวงหาความรู้เพื่อให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ โดย หลกั การทำงาน กศน. ตำบล ยึดชมุ ชนเป็นฐาน ในการทำงานและการเรียนรู้ โดยใช้ตน้ ทุนของชุมชน เช่น อาคาร สถานที่ แหล่งวิทยาการ ภูมิปัญญาท้องถิ่น วัฒนธรรมประเพณี มีการประสานเครือข่ายในชุมชน ร่วมจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยส่งเสริม สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนในชุมชน/สังคม เข้ามามีส่วนร่วมเป็นภาคี เครอื ข่ายในการดำเนนิ การจดั กิจกรรม กศน. ตำบล ท้งั ในฐานะผใู้ หบ้ ริการ ผ้รู ับบรกิ าร มสี ่วนร่วมเป็นเจ้าของ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ปัญหา บูรณาการกระบวนการเรียนรู้ และจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้สอดคล้องกับ วิถีชีวิตของผู้เรียนและชุมมชน มีคณะกรรมการ กศน. ตำบล ที่เป็นคนในชุมชนให้การส่งเสริมสนับสนุน ตดิ ตามดแู ลและร่วมประเมนิ ผลการดำเนินงาน กศน. ตำบล ดังนั้น กศน.อำเภอแม่วาง ได้ประสานความร่วมมือกับมูลนิธิ เอ็มโอเอ ไทย และหน่วยงานภาคี เครือข่ายในพื้นที่ตำบลบ้านกาด ได้แก่ เทศบาลตำบลแม่วาง องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกาด โรงพยาบาล อำเภอแมว่ าง สาธารณสขุ อำเภอแมว่ าง สำนกั งานพฒั นาชุมชนอำเภอแม่วาง สำนกั งานเกษตรอำเภอแม่วาง เข้าร่วมเป็นเครือข่าย ในการขับเคลื่อนและสนับสนุนการส่งเสริมการเรียนรู้ในแหล่งเรียนรู้ชุมชน คือ แหล่ง เรียนรู้เกษตรธรรมชาติ MOA “สวนผักลุงรัง อาจารย์รังสรรค์ กันธิยะ” บ้านริมวาง หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านกาด อำเภอ แม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมให้เกิดอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้กับ นักศึกษาการศึกษาขั้นพื้นฐาน และประชาชนทั่วไป ได้เรียนรู้ และเกิดทักษะในการทำการเกษตรธรรมชาติ MOA สามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ภายใต้ความรับผิดชอบของ กศน.ตำบลบ้านกาด โดยครู กศน.ตำบลเป็นผู้ประสานงานในการจัด กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ในแหล่งเรียนรู้เกษตรธรรมชาติ MOA “สวนผักลุงรัง อาจารย์รังสรรค์ กันธิยะ” ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ ที่ถือว่าเป็นต้นแบบของการศึกษาดูงาน ในฐานะแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรธรรมชาติ และ เป็นที่ตั้งของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่วางเกษตรอินทรีย์ ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 22 บ้านริมวาง หมู่ 7 ตำบลบ้าน กาด อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ มีกิจกรรมที่โดดเด่น คือ การผลิตพืชผักปลอดภัยจากสารพิษ ตาม แนวทางเกษตรธรรมชาติ
จดุ เรมิ่ ตน้ มีแนวคิดทส่ี ำคัญคือ “ผู้ผลิตปลอดโรค ผบู้ ริโภคปลอดภยั เกษตรปลอดสารพิษ บ้านกาด” นายรังสรรค์ กันธิยะ ซึ่งเป็นประธานกลุม่ วิสาหกิจชุมชนแม่วางเกษตรอินทรีย์ และมีคุณธรรมประจำกลุ่ม คือ “ทำเกษตรแบบเพียงพอ ซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค” สั่งสมประสบการณ์จากการทำการเกษตรแบบอินทรีย์ โดยใช้ ปุ๋ยหมกั จากมูลสัตว์ การทำจุลนิ ทรียต์ า่ ง ๆ ประสบการณ์ที่สำคัญ เมื่อทางศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอแม่วาง โดยการ ประสานงานของ ครู กศน.ตำบลบ้านกาด ได้จัดโครงการอบรมพัฒนาคุณภาพดิน เพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน ณ กลุ่ม เกษตรกรใหมพ่ ัฒนาหว้ ยขา้ วกำ่ ตำบลหว้ ยขา้ วก่ำ อำเภอจนุ จังหวัดพะเยา นับวา่ เป็นจุดเร่ิมต้นในการนำองค์ความรู้ ในเรอื่ งการปรบั ปรุงดินมาใชอ้ ย่างจริงจังเรอื่ ยมา จวบจนปัจจุบัน ที่ทางสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ได้ทำข้อตกลง ร่วมกับมูลนิธิ MOA ในระดับประเทศ และศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอแม่วาง ได้จัด อบรมและชักชวนให้ นายรังสรรค์ กันธิยะ เข้าร่วมกิจกรรมอบรม เป็นแกนนำเกษตรธรรมชาติ ตามแนวทาง เศรษฐกิจพอเพียง เมื่อวันที่ 6 – 8 พฤษภาคม 2562 และผ่านการรับรองจากมูลนิธิ MOA เพื่อคุณภาพชีวิต เม่ือ วันท่ี 21 มกราคม 2563
2. ลกั ษณะสำคัญของวิธีปฏิบัตทิ ด่ี ี หลกั การคิด ใช้หลกั การเกษตรธรรมชาติ MOA ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง การปลูกผักปลอดสารพิษ เป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรม เนื่องจากพื้นที่ตำบลบ้านกาด มีอาชีพหลัก ในการทำการเกษตร มาช้านาน ในอดีตการทำเกษตรของเกษตรกร เป็นการทำเกษตรเชิงเดี่ยว ที่มีการใช้สารเคมี จำนวนมาก ทำให้เกษตรกร ประสบกับปัญหาต้นทุนในการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับราคาผลผลิตทางการเกษตร ตกต่ำ ทำให้เกษตรกรประสบกับปัญหาการขาดทุนตามมา ภายหลังจากการปรับเปลี่ยนแนวคิดในการทำเกษตร จุด เริม่ แรกจากทำเกษตรแบบผสมผสานทีย่ ดึ ถือหลกั ของความพอเพยี ง ตามแนวคดิ ที่วา่ “ผลติ เพ่อื บรโิ ภคในครัวเรอื น ที่ เหลือจึงนำออกจำหน่าย” ทำให้เกษตรกร สามารถลดปัญหาการขาดทุน และสามารถมีรายได้เพิ่มขึ้น จากการทำ เกษตรปลอดสารพษิ แบบผสมผสาน ในปัจจุบัน ได้เข้ามาร่วมเป็นแกนนำเกษตรธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอแม่วาง และมูลนิธิ MOA ซึ่งเน้นแนวทางเกษตรธรรมชาติ จนเกิดเป็นการ ถ่ายทอดแนวคิดดังกล่าว ไปสู่เกษตรกรรายอื่นในชุมชน เกิดเป็นเครือข่ายเกษตรธรรมชาติ MOA มุ่งหวังสร้างความ เข้มแข็งให้กับชุมชน และสามารถพึ่งพาตนเองได้ และยังมีเป้าหมายการดำเนินงาน เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และเผยแพร่ วิธีการทำการเกษตรเกษตรธรรมชาติ ให้กับนักศึกษา กศน. เด็กและเยาวชนในพื้นท่ีตำบลบ้านกาด และต่างพื้นที่ รวมถึงบุคคลทั่วไปที่สนใจ นอกจากนั้น ยังมุ่งสร้างและปลูกฝังจิตสำนึกในการประกอบอาชีพตามหลักคุณธรรม จริยธรรม จนนำไปสู่การพฒั นาที่ยงั่ ยนื ของชมุ ชนต่อไป หวั ใจหลักของการทำการเกษตรธรรมชาติ 1. สถาบันครอบครัว - การครองเรือน ทำอยา่ งไรให้ครอบครัวมีความสุข ส่ิงทีค่ วรทำต้องมีกิจกรรมใหท้ ุกคนในครอบครัว ช่วยกันทำงานร่วมกัน มีประโยชน์และสร้างรายได้ พ่อบ้านมีหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัว แม่บ้านดูแลบ้าน ลูกๆ จะต้องปฏิบัติให้เกิดความสามัคคีในครอบครัวเข้ากับคำกล่าวที่ว่า “บ้านน่าอยู่” ที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งเรื่อง ทัศนคติของคู่ครองต้องไมข่ ัดแย้งกนั โดยเฉพาะเร่ืองการทำการเกษตร มีความเห็นที่ตรงกันเชน่ การไมใ่ ช้สารเคมี การไม่ใชป้ ุ๋ย ยา สารเคมี การเขา้ รบั การอบรมความรู้ใหม่ๆมา กต็ ้องมาปรบั ความเขา้ ใจกนั ร่วมมือกนั ทำ เป็นตน้
2. สุขภาพอนามยั - การดูแลตนเอง ให้มีสุขภาพแข็งแรง เพื่อการครองตัวในสังคม กินเหล้าได้ แต่อย่าให้เหล้ากิน รู้ถึง หลักโภชนาการ รู้ถึงหลัก และวิธีการดูแลด้านสุขอนามัยพื้นฐาน ที่สามารถปฏิบัติได้ทันที รู้จักวิธีเลือกสิ่งที่เป็น ประโยชน์ และหลีกเลี่ยงสิ่งที่ให้โทษกับร่างกาย เพราะปัญหาการเจ็บป่วยของเกษตรกรจะส่งผลกระทบกับ แรงงานที่หยุดชะงักอย่างน้อย 2 - 3 คน เมื่อเกิดการเจ็บป่วย คือ ตัวผู้ป่วย คนเฝ้าผู้ป่วย และคนส่งข้าวส่งน้ำ ผู้ป่วย ถ้าป่วยนานก็สูญเสียแรงงาน สูญเสียรายได้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะฉะนั้นเรื่องสุขอนามัย ในการดูแล ตนเอง จึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก สำหรับเกษตรกร ที่สำคัญในครอบครัวสอนให้รู้จักวิธกี ารใช้เงิน ให้ถูกวิธีโดยเน้นท่ี การหมุนเวียนเงินลงทุน ในอาชีพการเกษตรที่ตนเองทำก่อน เพื่อให้ใช้เวลาน้อยลง แต่ทำงานได้มากขึ้น เช่นเรา ยังไม่มีระบบน้ำ พอขายผลผลิตได้ส่วนหนึ่งต้องกันเงินมาทำระบบน้ำก่อนนำไปใช้อย่างอื่น ที่ไม่จำเป็น เป็นต้น เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่เมื่อขายผลผลิตได้เงินแล้วจะนำไปใช้จ่าย ในเรื่องที่ไม่เอื้อกับอาชีพตนเอง เช่น ตกแต่ง บา้ น ทำบญุ บ้าน ซอ้ื รถมอเตอร์ไซด์คันใหม่ทง้ั ที่คนั เก่ากย็ ังใช้ไดด้ ีอยู่ เปน็ ต้น ทำใหเ้ กษตรกรไมส่ ามารถ หนีวังวน ของความยากจนได้ ดงั เหตุผล ทก่ี ล่าวข้างต้น 3. การอาชพี จะเน้นการปฏิบัตเิ รอื่ งการเกษตรธรรมชาติ - การปลกู พืชแขง็ แรง มคี วามรแู้ ละความเขา้ ใจพ้ืนฐานเรื่องพืช เรอ่ื งดนิ โดยหลกั การทสี่ ำคัญเน้นการ ปรับปรุงดินให้เหมาะกับสภาพการเพาะปลูก โดยหลักการ “ห่มบ่มฟื้นดิน” การใช้วัสดุคลุมดิน วิธีการเพิ่ม ผลผลิตและลดต้นทุนอย่างยั่งยืน และวิธีการจัดการแปลงปลูก แบบการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยให้ เหลอื พ้ืนที่ว่างน้อยที่สดุ คือ ทำพ้ืนที่ให้เกิดประโยชนส์ ูงสุด โดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งประกอบด้วย เกษตร ประณีต เกษตรผสมผสาน เกษตรยั่งยืน ปลูกพืชในพื้นที่จำกัดไม่มากเกินปริมาณแรงงานในครอบครัว เน้นการ ปลกู พชื “สงู กลาง ตำ่ เตยี้ เรยี่ ดิน กินหัว” กรอบแนวคดิ แนวคิดที่สำคัญในการทำการเกษตรธรรมชาติ ทำให้หลุดออกจากวงจรของการใช้สารเคมี เน้นการ ปรับปรุงดินเป็นสำคัญ เมื่อสินค้ามีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของตลาดและสามารถกำหนดราคาเองได้ ส่วนใน ดา้ นการทำงาน โดยเฉพาะในการบรหิ ารจัดการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่วางเกษตรอินทรีย์ การบริหารจดั การกลุ่ม - กลุ่มมีการกำหนดเงื่อนไขการรบั สมาชิก และมีการบันทึกไว้อย่างชดั เจน - กลุ่มมีการพัฒนาผู้นำและสมาชิกวิสาหกิจชมุ ชนอย่างเป็นขั้นเป็นตอนทั่วถึงและสอดคลอ้ ง กบั การพัฒนาวิสาหกิจขุมชน - กลุ่มมีแนวทางการสร้างขวัญ กำลังใจ ความพึงพอใจ แรงจูงใจ การจัดสวัสดิการอย่าง เหมาะสมทวั่ ถงึ เปน็ ธรรมและสมาชิกมคี วามพึงพอใจ - กลมุ่ มีระบบการประเมินผลและแจง้ ผลให้สมาชกิ ทราบเพื่อนำไปปรบั ปรุง เงอ่ื นไขการรบั สมาชกิ ขอ้ ตกลง และส่ิงทสี่ มาชิกพึงปฏบิ ัติมดี งั นี้ 1. มคี วามตงั้ ใจและมีใจรักในด้านการเกษตร 2. มคี วามซื่อสัตยต์ ่อตนเองและผ้อู นื่ ดว้ ยจิตสำนกึ 3. สมาชิกจะต้องไมข่ าดการประชมุ โดยเหตไุ ม่จำเปน็ 4. การผลติ ผักปลอดสารพษิ ห้ามใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดศัตรแู ละวชั พืชโดยเด็ดขาด
5. ทกุ ข้นั ตอนขบวนการผลติ ตอ้ งอยใู่ นความควบคุมดูแลของประธานและคณะกรรมการ 6. กอ่ นจำหนา่ ยพชื ผัก ให้ตรวจเช็คทำความสะอาดไม่ให้ศัตรูพืชตดิ ไปกับผลผลติ 7. ตัดแตง่ พืชผักกอ่ นบรรจุภณั ฑ์ใหม้ คี ณุ ภาพ และลูกคา้ พึงพอใจ 8. รายไดจ้ ากการจำหนา่ ยพชื ผกั ในแตล่ ะวันใหห้ กั เขา้ กลุ่ม รอ้ ยละ 1 บาท 9. ตอ้ งทำการตดิ สติ๊กเกอร์ โลโก้กลุ่ม ท่ถี ุงบรรจุทุกถุง 10. สมาชิกจะต้องทำบัญชี รายรบั -รายจ่าย ในแต่ละวนั 11. สมาชกิ จะต้องทำกจิ กรรมบำเพ็ญประโยชน์ร่วมกัน 12. สมาชิกจะต้องทำตามข้อตกลงอยา่ งเครง่ ครดั และถา้ ทำผดิ ระเบยี บข้อตกลงคณะกรรมการมี สทิ ธ์ใิ หอ้ อกจากการเป็นสมาชิกกลมุ่ การจดั การความรู้และข้อมลู - สมาชิกมกี ารประชุมรว่ มกันเดือนละครั้ง เพื่อแลกเปล่ียนความรู้ใหมๆ่ และปรึกษาหารือเรื่อง ต่าง ๆ - มีการทบทวนผลการดำเนินการร่วมกันระหว่างคณะกรรมการฯ และผู้แทนสมาชิก ในการ ดำเนินกจิ กรรมของกลุ่มให้มพี ฒั นาและยง่ั ยืนต่อไป - มกี ารนำปัญหาสว่ นใหญ่ท่ีพบมาปรับปรงุ แกไ้ ขอยา่ งตอ่ เนื่อง - มีการรวบรวม ถ่ายทอดและแลกเปล่ียนภูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ โดย ไดร้ ับการคดั เลอื กจาก อบต. บา้ นกาด ใหเ้ ป็นศนู ยก์ ารเรียนรู้เศรษฐกจิ ชุมชนเชิงคุณธรรมประจำตำบลบ้านกาด , เปน็ จดุ สาธติ และถ่ายทอด เทคโนโลยีการเกษตรด้านการผลิตผักปลอดสารพษิ ของศูนย์บรกิ ารและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำ ตำบลบ้านกาด อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ , เป็นแหล่งศึกษาดูงานแก่ผู้ที่สนใจ , เป็นศูนย์การเรียนรู้ของ ชุมชน , เป็นวิทยากรให้ความรู้ในเกี่ยวกับการปลูกผักปลอดสารพิษ และที่สำคัญเป็นแหล่งเรียนรู้เกษตร ธรรมชาติ โดยเป็นแกนนำเกษตรธรรมชาติของตำบลบา้ นกาด ให้กบั กศน.อำเภอแม่วาง - มีการแสวงหาความรูใ้ หม่ และนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาวสิ าหกิจชมุ ชน - มีการนำความรู้ เทคโนโลยีสมัยใหม่มาผสมผสานกับภมู ปิ ัญญาเดมิ ในการปรับปรุงการ ดำเนินงานวิสาหกจิ ชมุ ชน - มกี ารจดั เก็บขอ้ มูลอย่างเป็นระบบ มีการปรับข้อมลู ใหเ้ ปน็ ปจั จุบนั และมีความพร้อมสำหรบั ใชง้ าน - มกี ารสอ่ื สาร ประชาสัมพนั ธ์อยา่ งต่อเน่ือง และข้อมูลขา่ วสารของวสิ าหกิจชุมชนทนั สมัย ถูกต้อง น่าเชอ่ื ถือ .
การวางแผนการดำเนนิ งาน เนน้ การมสี ว่ นร่วมของสมาชิกและการปฏิบตั ติ ามแผนที่กำหนด - มีการวางแผนการปลกู การผลิตพชื ผกั ในฤดูกาลต่าง ๆ และปริมาณความต้องการตามชนดิ พืชที่ตลาดต้องการ - มีโครงสรา้ งพร้อมแบ่งหน้าท่ีและบนั ทึกชดั เจน - มกี ารประชุมทำแผนร่วมกันระหว่างกรรมการและสมาชิกเพื่อกำหนดเชิงปรมิ าณและเชิง คุณภาพ - มีรูปแบบแผนปฏบิ ตั ิทช่ี ดั เจน โดยกำหนดในแผนว่าใคร ทำอะไร ทไี่ หน เมอื่ ไร กับใคร อยา่ งไร - มีการถ่ายทอดและช้ีแจงและแลกเปลี่ยนเพื่อสร้างความเข้าใจแกผ่ ู้ที่เกย่ี วข้องใหเ้ ขา้ ใจใน ทิศทางเดยี วกนั มีการดำเนนิ งานตามแผนปฏิบตั กิ ารทจ่ี ัดทำไว้ - มกี ารกำหนดผู้รับผิดชอบและวธิ ีการควบคมุ ดูแลการปฏิบัตงิ านให้สามารถทำได้ตามแผน หรอื สามารถปรบั แผนตามสถานการณ์ได้ - มีการคาดการณ์ความสำเร็จของแผน โดยคาดการณ์จากการวเิ คราะห์ข้อมลู และแผนปฏิบัติ งาน การผลิตสินค้าและบริการ - มีการกำหนดขั้นตอน กระบวนการผลิตสินค้า/บริการ ที่ชัดเจนก่อให้เกิดสินค้า/บริการที่มี คณุ ภาพดี มีความสมำ่ เสมอ - มีวิธีการควบคุมกระบวนการผลิตเพื่อป้องกันความผิดพลาดหรือมีการวางแนวทางในการ ปรบั ปรุงพัฒนา - ทกุ ข้ันตอนขบวนการผลติ ต้องอยู่ในความควบคุมดูแลของประธานและคณะกรรมการ การบริหารตลาด การตลาดไดแ้ ก่ การกำหนดลกู ค้าและแหล่งจำหนา่ ย การสนองความตอ้ งการของลกู คา้ - มกี ารกำหนด และใชข้ อ้ มลู มาพิจารณาในการกำหนด กอ่ นผลิต - มีการรวบรวมและตดิ ตามข้อมูล อย่างต่อเน่ืองและนำขอ้ มูลไปใช้ประโยชน์ จากหลักการคิดข้างต้น กศน.ตำบลบ้านกาด ได้มีการส่งเสริมการเรียนรู้ในแหล่งเรียนรู้เกษตร ธรรมชาติ “สวนผกั ลุงรัง อาจารยร์ งั สรรค์ กนั ธิยะ” โดยนำนกั ศึกษาเข้าศกึ ษาเรยี นร้ทู กุ ภาคเรียน ที่ลงทะเบยี น เรียนรายวิชา เกษตรธรรมชาติ MOA ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ได้จัดกิจกรรมสร้างการรับรู้ และเข้าใจการนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้ในการดำเนนิ ชวี ิต ให้กับนกั ศกึ ษา กศน. ภายใต้กจิ กรรมพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน โครงการ ฝึกอบรมด้านการเรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อสร้างแกนนำนักศึกษา โดยให้นักศึกษาเขา้ รับการอบรมจำนวน 15 คน และคดั เลือกให้เป็นแกนนำ จำนวน 4 คน เป็นวิทยากรในแหล่งเรียนรู้ เพื่อขยาย ผลให้กับเพื่อนนักศึกษา จำนวน 20 คน ตามโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านอาชีพตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ร่วมกับวิทยากรแหล่งเรียนรู้ คือ อาจารย์รังสรรค์ กันธิยะ เป็นวิทยากรในการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ในฐานการเรียนรู้ โดยการบูรณาการการเรียนรู้กับแนวทางของศูนย์การเรยี นรู้ตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา (ศรร.) ในรูปแบบการถอดองค์ความรู้ของแหล่งเรียนรู้ตามหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง ดังนี้ 2 เงอื่ นไข ความรู้ คุณธรรม - ร้เู รื่องของดนิ การปรุงดนิ การปรบั โครงสรา้ งดนิ - รูก้ ารดูแลรักษาผัก - มีความขยัน - มีความอดทน - รเู้ รอื่ งของพื้นทใ่ี นการปลูก - รู้ศตั รพู ชื และการกำจัดศตั รูพืช - การตรงต่อเวลา - มคี วามซ่ือสัตย์ - รกู้ ารทำแปลงผัก - ร้เู ร่ืองวัชพืชและการกำจดั - ใฝเ่ รยี นรู้ - ประหยัด วชั พืช - มีวนิ ยั - รเู้ รอื่ งปุย๋ - ร้กู ารตลาด - ร้ปู ฏิทินการปลูกและฤดูกาลปลกู - รู้ต้นทุนการผลิต - รู้เรือ่ งผกั แตล่ ะชนดิ - รู้การทำบญั ชีรายรับจ่าย - รู้การคัดเลือกเมล็ดพันธ์ุ - รกู้ ารทำบัญชีฟาร์ม - รู้ประโยชน์ของผัก - รู้การออม - รู้เรื่องอปุ กรณ์ - รเู้ รือ่ งการบรหิ ารจดั การกลุ่ม - รู้การแต่งกาย – ร้กู ลุม่ เป้าหมายผ้บู ริโภค - รกู้ ารปลกู ผักปลอดสารพิษ - รู้เครือข่าย - รขู้ นั้ ตอนการปลูกผกั - รรู้ ะยะเวลาเก็บเกี่ยว - รเู้ รอ่ื งการเก็บและบรรจุผัก พอประมาณ 3 หลกั การ มภี มู คิ ุ้มกนั - การใชอ้ ปุ กรณ์ มเี หตุผล - วางแผนเตรยี มดิน เหมาะสมกบั การปลูก - แตง่ ต้ังคณะกรรมการตรวจสอบบัญชี - เพ่อื ใหม้ ผี กั ปลอด ผัก สารพษิ บริโภค รายรบั -รายจา่ ย - การปลกู ผกั สอดคลอ้ ง - การวางแผนการตลาดอยา่ งเป็นระบบ - เพื่อเพิ่มรายได้ กบั ฤดกู าล - เพอ่ื สขุ ภาพตนเองและ ชดั เจน - การปลูกผกั เหมาะสม - วางแผนการนำวสั ดอุ ุปกรณไ์ ปใชใ้ นการ ผู้บริโภค กับพ้นื ท่ี - เกดิ แหลง่ อาหาร ทำกิจกรรม - การปลูกผักสอดคลอ้ ง ธรรมชาติทป่ี ลอดภัย - วางแผนการปลูกผกั ตามฤดูกาลและมี กับความต้องการของ ปฏทิ ินตารางการปลูกพืชผักท่ีชดั เจน ตลาด - หาตลาดสำรอง - การดแู ลรักษา เหมาะสมกับผักแต่ละ ชนดิ สมดุล 4 มิติ(ดา้ น)
ดา้ นวัตถุ/เศรษฐกิจ ดา้ นสงั คม ดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม ดา้ นวัฒนธรรม - ประหยดั - ลดรายจา่ ย - มกี ารช่วยเหลือซงึ่ - ไมใ่ ช้สารเคมีในการปลูกผัก - นำไปประกอบ - เพม่ิ รายได้ - เกดิ การออม กันและกัน - ไม่เกิดผลกระทบกับสงิ่ แวดลอ้ ม เปน็ อาหารพน้ื บา้ น ศาสตร์ภูมิปญั ญา - สร้างเครือข่าย - รกั ษาสภาพดนิ เชน่ จอผักกาด - ภูมิปัญญาเรอ่ื งการปลกู ผกั ปลอดสารพิษ - มคี วามสามัคคีใน - เกิดความสมดลุ ในระบบนิเวศน์ - การใช้ภมู ิปญั ญา กล่มุ - มีแหลง่ อาหารธรรมชาติที่ ปลกู ผกั ปลอด - การเอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่ ปลอดภัย สารพิษ และทำนำ้ - มีการแบ่งปนั ซ่งึ กัน หมกั ชีวภาพไล่ และกัน แมลง - อนรุ ักษ์วถิ ชี ีวติ การปลูกปลูกพืช แบบดั้งเดิม สอดคลอ้ งกบั หลกั 3 ศาสตร์ ศาสตรส์ ากล ศาสตร์พระราชา - หลักการปลกู ผกั ปลอดสารพิษ - ระเบดิ จากขา้ งใน (2) - หลกั การตลาด - ภูมิสงั คม (5) - การบริหารจัดการกล่มุ - ไม่ติดตำรา (7) - ประหยัด เรียบงา่ ย ไดป้ ระโยชนส์ ูงสุด (8) - ทรงใชธ้ รรมชาติ ชว่ ยธรรมชาติ (13) - พ่งึ พาตนเอง (17) - พออยู่พอกิน (18) - เศรษฐกจิ พอเพียง (19) สอดคลอ้ งกบั พระบรมราโชบายดา้ นการศึกษา 4 ด้าน ของในหลวงรัชกาลท่ี 10 มีทัศนคติท่ีถูกต้องตอ่ มพี ้นื ฐานชีวิตท่ีมน่ั คง มีอาชีพ - มีงานทำ มีความเปน็ บ้านเมือง มีคณุ ธรรม พลเมอื งท่ดี ี - มีความเอ้อื อาทรต่อ - ปฏบิ ัติแต่ส่ิงที่ชอบ ส่ิงทด่ี ี - การเลีย้ งดูลูกหลานใน - ครอบครวั ครอบครวั และชุมชนของ งาม (2) ครอบครัวหรอื การฝึกฝนอบรมใน -สถานศึกษาและ ตนเอง (4) สถานศึกษาต้องมงุ่ ใหเ้ ดก็ และ สถานประกอบการ เยาวชน รกั งาน สูง้ าน ทำจนงาน ต้องสง่ เสรมิ ให้ทกุ สำเรจ็ (1) คนมโี อกาสทำ - การฝกึ อบรมทั้งในหลักสตู ร หนา้ ที่เป็นพลเมือง และนอกหลกั สตู รต้องมี ดี(2) จุดมุ่งหมายให้ผู้เรยี นทำงานเป็น และมงี านทำในท่ีสุด(2)
3. เป้าหมาย 3.1 เปา้ หมายเชิงปรมิ าณ - นกั ศึกษา กศน.ตำบลบ้านกาด จำนวน 45 คน - ประชาชนทว่ั ไปในพื้นท่ีตำบลบา้ นกาด จำนวน 9 หมู่บ้าน 3.2 เปา้ หมายเชงิ คณุ ภาพ นักศึกษา กศน.และประชาชนทั่วไปในพื้นที่ตำบลบ้านกาด ได้รับการส่งเสริมการเรียนรู้จาก แหลง่ เรยี นรใู้ นชุมชน เกิดทักษะอาชีพดา้ นการเกษตรธรรมชาติ MOA ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. ผลการดำเนนิ งาน จากการดำเนินงาน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 กศน.ตำบลบ้านกาด ร่วมกับครู กศน.ตำบลทุกตำบล จำนวน 5 ตำบล และครู ศศช. จำนวน 6 คน มีการสำรวจข้อมูลแหล่งเรียนในตำบล จัดทำแผนการส่งเสริมการเรียนรู้ในแหล่งเรียนรู้ พัฒนาแหล่งเรียนรู้ จัดกิจกรรมในแหล่งเรียนรู้ ในกิจกรรม พฒั นาคณุ ภาพผ้เู รียน สรุปผลการดำเนนิ งานความสำเร็จตามเปา้ หมายไดด้ งั นี้ 1. สำรวจข้อมูลแหลง่ เรียนรู้ 2. คัดเลอื กแหลง่ เรียนรู้ 3. ประสานเจา้ ของแหล่งเรียนรู้ 4. ดำเนินการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงในใช้ในการดำเนินชีวิต ให้กับเจ้าของแหล่งเรียนรู้ วิทยากรแหล่งเรียนรู้ และนักศึกษา กศน.ตำบลบา้ นกาด ภาคเรยี นที่ 2/2564 5. จัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โครงการฝึกอบรมด้านการเรียนรู้ตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อสร้างแกนนำนักศึกษา โดยให้นักศึกษาเข้ารับการอบรม จำนวน 15 คน และคัดเลอื กใหเ้ ปน็ แกนนำ จำนวน 4 คน 6. จัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านอาชีพ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยแกนนำนกั ศึกษา จำนวน 4 คน เปน็ วทิ ยากรในแหล่ง เรียนรู้ ให้กับเพื่อนนักศึกษา จำนวน 20 คน ตาม ร่วมกับวิทยากรแหล่งเรียนรู้ คือ อาจารย์ รังสรรค์ กันธิยะ เป็นวิทยากรในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในฐานการเรียนรู้ โดยการบูรณาการ การเรียนรู้กับแนวทางของศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา (ศรร.) ในรูปแบบการถอดองค์ความร้ขู องแหลง่ เรยี นรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 7. มกี ารประเมนิ ผลความพงึ พอใจของผู้เรยี นต่อการเข้าร่วมกิจกรรม 8. มกี ารตดิ ตามผลผ้เู รียนหลงั จากเสร็จสิ้นการอบรม 9. จัดทำรายงานผลการดำเนนิ งาน
5. ปัจจัยความสำเร็จ 1) ผู้บรหิ ารให้การสนับสนนุ ให้คำแนะนำ เปน็ ทีป่ รกึ ษาในการปฏิบัติงานของครู กศน.ตำบล 2) มีเจ้าของแหล่งเรียนรู้ ที่ทุ่มเท เสียสละ และมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์กิจกรรมของแหล่ง เรียนรู้ให้มกี ารพัฒนาและทันสมัยอยู่ตลอดเวลา และมกี ารพฒั นาตนเองอย่เู สมอ 3) มีเป้าหมายชัดเจนและมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนถือเปน็ การกำหนดทิศทางการทำงานที่สร้างความเข้าใจร่วมกันในหมู่คณะกรรมการหรือแกนนำ จะเป็นพลังที่เข้มแข็ง ในการร่วมทำงาน และการจดั กจิ กรรมอยา่ งต่อเนือ่ งเปน็ ประจำ ในการขับเคล่อื นกิจกรรมของแหล่งเรยี นรู้ 4) มีส่วนร่วมทำให้เกิดความผูกพันและความรูส้ ึกเป็นเจ้าของร่วมกันกลไกที่ทำให้สมาชิกมีสว่ น ร่วมทั้งที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ เช่น การประชุมประจำเดือน การสร้างเวทีในการพูดคุยแลกเปลี่ยน ความคิดเหน็ การร่วมกันดำเนินงาน 5) มีเครือข่ายทางสงั คมท่เี ข้มแขง็ ในการผสานพลังในการทำงานร่วมกนั 6) มสี ร้างขอ้ ตกลงร่วมกบั ระหวา่ งสมาชิกของแหล่งเรยี นรู้ 7) มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้การสนับสนุน ในด้านงบประมาณ บุคลากร การประสาน เครอื ข่าย 6. บทเรยี นทไี่ ดร้ ับ 1. แหล่งเรียนรู้เกษตรธรรมชาติ “สวนผักลุงรัง อาจารย์รังสรรค์ กันธิยะ เป็น แหล่งเรียนรู้ต้นแบบของการศกึ ษาดูงาน ในฐานะแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรธรรมชาติ มีกิจกรรมท่ี โดดเด่น คอื การผลติ พชื ผักปลอดภัยจากสารพษิ ตามแนวทางเกษตรธรรมชาติ 2. แหล่งเรียนรู้ ได้รับการส่งเสริม สนับสนุน กำกับติดตามการจัดกิจกรรม พัฒนาคุณภาพชีวิตสำหรับผู้สูงอายุ ผ่านโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลทุ่งรวงทองเดือนละครั้ง อย่าง ต่อเนือ่ ง ส่งผลใหง้ านบรรลผุ ลสำเร็จตามเปา้ หมายทก่ี ำหนดไว้ในแผนการเรยี นรู้ 3. สถานศึกษา จัดและส่งเสริมกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้กับนักศึกษา กศน.ตำบล บา้ นกาด 7. การเผยแพร่ 1.กศน.ตำบลบา้ นกาดมกี ารเผยแพร่ Best Practice เรื่องการส่งเสรมิ การเรยี นรใู้ นแหล่งเรียนรชู้ มุ ชน เพอ่ื สรา้ งอาชีพตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดว้ ยการทำรูปเลม่
รูปเลม่ Best Practice การสง่ เสริมการเรียนร้ใู นแหล่งเรยี นรู้ ชุมชน เพอื่ สรา้ งอาชพี ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง รูปแบบ PDF รูปเลม่ Best Practice การส่งเสรมิ การเรยี นร้ใู นแหลง่ เรยี นรู้ ชมุ ชน เพอ่ื สรา้ งอาชีพตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง รปู แบบ E-Book 2.กศน.ตำบลบา้ นกาดมีการเผยแพร่ Best Practice เรือ่ งการสง่ เสริมการเรียนร้ใู นแหล่งเรียนรู้ชุมชน เพอื่ สร้างอาชพี ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ทางหนา้ Facebook กศน.ตำบลบา้ นกาด
ภาพกจิ กรรมในแหลง่ เรียนรู้
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: