R to R ดร. นภชา สิงห์วรี ธรรม Routine คณะสาธารณสุขศาสตร์และสหเวชศาสตร์ to สถาบันพระบรมราชชนก Research
Research is an Organized and Systematic way to Finding answers to Questions.
ความหมาย : งานวจิ ัย (Research) มวี ตั ถุประสงค์การค้นคว้าทแี่ น่ชัด (Focused and limited to a specific scope) ดาเนินการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็ นระบบ (Systematic procedures) การศึกษาค้นคว้าหาความรู้ใหม่ (Finding answer to questions)
กระบวนการในการทางานวจิ ยั
Routine situation : การทางานใน ปัจจุบัน
Keys to adding value Save time Make Improve
Eligibility criteria in PICOS components Reference : Preferred Reporting Items for Systematic reviews and Meta-Analysed (PRISMA), provides guidelines for conducting systematic reviews
“วกิ ฤตคร้ังนี้ ทาให้เราเรียนรู้ว่า เดนิ อย่างเดย่ี วไม่พอ วง่ิ กไ็ ม่ทนั เราต้องกระโดดเข้าไปเรียนรู้ และพฒั นาไปพร้อมกนั ” กานตมิ า เลอเลศิ ยุตธิ รรม 11
12
13
14
ทา่ นคดิ อยา่ งไรกบั การวจิ ยั เชงิ คณุ ภาพ?
Reviews or narrative reviews Systematic reviews Meta-analysis Network Meta-analysis
Systematic reviews and Meta- analysis Systematic Meta- reviews analys is All reviews
Systematic reviews and Meta- analysis Systematic Meta- reviews analys is All Optional part reviews of a systematic
What is a systematic review? REVIEW: A critical appraisal of a book, play or other work SYSTEMATIC: Done or acting according to a fixed plan or system: methodical
AN INTERVENTION WORKS AND NOBODY USED IT…… DOES IT STILL MAKE AN IMPACT?
Knowledge Management
1. Knowledge is Power : ความรู้คือพลงั 2. Successful knowledge transfer involves neither computers nor documents but rather in interactions between people. (Thomas H Davenport) : ความสาเร็จของการถ่ายทอดความรู้ไม่ใช่อยทู่ ่ีคอมพวิ เตอร์หรือเอกสาร แต่อยทู่ ่ีการมี ปฏิสัมพนั ธ์ ระหวา่ งคนดว้ ยกนั 3. The great end of knowledge is not knowledge but action : จุดหมายปลายทางสาคญั ของความรู้มิใช่ท่ีตวั ความรู้ แต่อยทู่ ่ีการนาไปปฏิบตั ิ 4. Now the definition of a manager is somebody who makes knowledge productive 29
30
31
32
Routine = ประจาวนั To Research = งานวจิ ยั
องค์ประกอบในการทา R to R โจทย์วิจัย R2R : ตอ้ งมาจากปัญหาหนา้ งาน มาจากงาน ประจาท่ีทากนั อยู่และตอ้ งการพัฒนาใหด้ ีขนึ้ ผู้วิจยั : ต้องเปน็ ผู้ทางานประจาน้นั เอง และตอ้ งทา หน้าที่ หลักในการวิจัยด้วย ผลลัพธข์ องงานวจิ ยั : ตอ้ งแก้ปญั หาภาระงานที่ทาอยู่ ได้ การนาผลการวิจยั ไปใช้ : สามารถนาไปปรับปรุงการ ทางาน (โกมาตร จึงเสถยี รทรัพย์, 2559)
โจทย์ RtoRให้คดิ ถึงงานประจาท่ตี นเองทาอยู่ก่อน มองและหยุดคดิ ถอยออกมามองตนเองแบบสายตาคนนอก มองเข้าไปดู เพื่อให้รู้ว่า ระบบหรืองานทท่ี าอยู่ มปี ัญหาหรือจุดบกพร่องอะไร? อย่างไร? เราควรปรับหรือไม่? ถ้าดแี ล้วจะทาให้ดขี นึ้ อกี ได้ ไหม? ทีส่ ำคัญเวลำคิดอย่ำคดิ คนเดยี ว ลองคิดดัง ๆ ไม่ ต้องกลวั วำ่ ควำมคิดของตนเองจะไมไ่ ดเ้ ร่ือง พูดให้ คนอนื่ ฟงั ดว้ ย จะไดม้ ีคนชว่ ยคิด
โจทย์วจิ ัยได้ 1. ควจามากไม่พอใจในสิ่งทป่ี ฏิบัตอิ ยู่ในปัจจุบัน เอากเิ ลส ของตนเป็ นทตี่ ้งั โจทย์ - สารวจว่างานทที่ าอยู่ในปัจจุบนั มอี ะไรทเ่ี ป็ นปัญหา - ถ้าไม่มีปัญหาแล้ว การปฏิบตั ิแบบเดมิ ๆ ทีท่ าปรับให้ดขี ึน้ ได้ หรือไม่ - ถ้ารู้สึกว่าดแี ล้ว ทาให้ดกี ว่านีไ้ ด้หรือไม่
โจทย์วจิ ัยได้ 2.ควาจมาพกอใจหรือเป้าหมายขององค์กร ซึ่งรวมถงึ ผู้ป่ วยและครอบครัว เอากเิ ลสของคนอ่ืนมาเป็ นทต่ี ้ัง - วจิ ยั ท่ดี ี ต้องมีคนต้องการ - วจิ ยั ท่ดี ี ต้องแก้ปัญหาให้คนทีเ่ กี่ยวข้องได้ - การวเิ คราะห์ความต้องการของผู้เกยี่ วข้อง จะทาให้ได้รับ support ทด่ี ี (เงนิ เวลา นโยบายในการเปลย่ี นแปลง)
โจทย์วจิ ัยได้ 3.การจอ่านกวารสาร งานวจิ ยั ที่ตีพมิ พ์ ศึกษางานของ คนอ่ืนๆบ้าง เพราะปัจจุบัน เราไม่ได้เริ่มต้นจาก ศูนย์ แล้ว ใครทาอะไร ? ทาไปถึงไหน ? ช่องว่างอยู่ตรงไหน ?
การได้ของกรอบแนวคดิ ในการวจิ ยั ทฤษฎี ผลงานวจิ ั ต่างๆ ที่ ยที่ เก่ียวขอ้ ง เก่ียวขอ้ ง ตอ้ งมีพ้ืนฐานความรู้เก่ียวกบั แนวคิดของผวู้ จิ ยั เร่ืองท่ีจะศึกษาวจิ ยั จากแหล่ง นามาบูรณต่าางกๆารเปข็น้ึนอเปยา่็นงดเพี ่ือใช้
ผู้วจิ ยั Researcher ต้องเป็ นผู้ทางานประจาน้ันเอง และต้อง ทาหน้าที่ หลกั ในการวจิ ยั ด้วย
รูปแบบการศึกษา (Classification of study design) ประเภทของการศึกษา การกระทาหรือ intervention ? การสังเกต ไมม่ ี มี การทดลอง กลุ่มเปรยี บเทยี บ ? มี Analytical ไมม่ ี Descriptive Case reports or case series Cross-sectional Ecological Cohort Cross-sectional survey Case-control of individual
วจิ ยั เชิงปริมาณ วจิ ยั เชิงคุณภาพ http://www.brookgraham.com/WhatWeDo/Iceberg.aspx
ผลของการวจิ ยั : Research results ต้องแก้ปัญหาภาระงานทท่ี าอยู่ได้ Policy Practices Publication สู่การกาหนดนโยบาย สู่การปรับเปลยี่ นวธิ ี การตพี มิ พ์หรือขยายสู่ ของหน่วยงาน ปฏิบัติ หน่วยงานอ่ืน
การนาผลการวจิ ยั ไปใช้ :Result implementation Implement Yes R to Yes, but R Recommendation Conditions No Do not implement
Routin R to P e Research process กระบวนการวจิ ัย Policy Practice Publicatio n
ปัจจยั ความสาเร็จ R to R ผบู้ รหิ ารเขา้ ใจ ผู้ปฏบิ ัตงิ านเข้าถึง ผลงานวจิ ยั ใชป้ ระโยชนจ์ รงิ กลายเป็นวัฒนธรรมองคก์ ร เปน็ เคร่ืองมอื ขององคก์ รแห่งการเรียนรู้องคก์ ร
บทบาทของผู้บริหารในการสนับสนุน R to R การสร้างแรงจูงใจ การจัดสรรเวลา เช่น ทุกวันศกุ ร์ สนบั สนนุ ทรัพยากร เชน่ Internet ฐานขอ้ มลู ในการสืบคน้ Thai journal online การทาวจิ ยั เปน็ ทมี
Problems Results ผบู้ รหิ ารไมใ่ ห้ความสาคญั การสนับสนุนเชิงนโยบาย ไมม่ ีเวลา ขาดความต่อเนื่อง ขาดท่ปี รึกษา ไมม่ ่นั ใจ ไม่รู้จะเริ่มต้นอยา่ งไร ไมเ่ รมิ่ งานวจิ ยั สกั ที ขาดทักษะการสบื คน้ ข้อมูล ไม่ร้แู หล่งค้นควา้ ข้อมูล ไม่ร้เู รอื่ งวา่ จะอ้างองิ อยา่ งไร ขาดทกั ษะการเขยี นทางวชิ าการ ไมม่ ีขอ้ มูลสนบั สนนุ ขาดทกั ษะการใชค้ อมพิวเตอร์ ขาดขวัญและกาลังใจ เขยี นงานไมเ่ ปน็ วชิ าการ ปญั หาการขอจริยธรรมวจิ ยั ทาให้เกดิ ความลาบากในการพิมพ์ หมดกาลงั ใจทางาน ยุง่ ยาก
Search
