Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มารยาทต่างๆในการอ่านคัมภีร์อัล-กุรอ่าน

มารยาทต่างๆในการอ่านคัมภีร์อัล-กุรอ่าน

Published by thaiislamlib.com, 2022-06-19 06:09:48

Description: มารยาทต่างๆในการอ่านคัมภีร์อัลกุรอ่าน

Search

Read the Text Version

สว นหน่งึ จากบรรดาคาํ ถามท่ี อบั ดลุ ลอฮ บิน สลาม ไดถามทานศาสดามุฮมั มดั (ศ็อลฯ) กค็ อื “(โอมฮุ ัมมดั ) จงบอกแกฉ ันเถิดวา อะไรคอื การเริม่ ตน และการสน้ิ สุดของคัมภรี อัล กุรอาน!” ทานศาสนทูตกลาววา “โออบิ นิ สลาม เอย! การเร่มิ ตนของอัล กรุ อานคอื ( ) (ดว ยพระนามแหงอัลลอฮผ ทู รงกรณุ าย่งิ ผทู รงเมตตายิง่ ) และการสิน้ สุดของมนั คือ ( ) (อลั ลอฮผูทรงสูงสง ผูท รงยิ่งใหญ ทรงตรัสจริงแลว ) ทา นอัลลามะฮม ัจญลซิ ี (รฎ.) ไดอา งรวิ ายะฮบ ทนี้ไวใ นหลายที่ บางคร้ังใชส ํานวนประโยค ( ) แทนทป่ี ระโยค ( ) ดังนั้นการกลา วท้ังสองสํานวนในขณะสนิ้ สดุ การ อานคมั ภีรอลั กุรอานนั้นถอื วา ใชได แตส าํ นวนประโยคทอ่ี า งองิ ไวแ ตแ รกน้นั ถือวาดีกวา รวิ ายะฮทีส่ อง : มนั คอื ริวายะฮท ีเ่ ก่ียวกบั อะมลั้ ของ ‘อมุ มุ ดาวูด’ อะม้ลั ดังกลา วน้ีคอื การอิบาดะฮจาํ นวนหน่ึง ทีอ่ ิมามซอดกิ (อ.) ไดส่งั เสยี ใหกระทาํ ในวันที่สบิ หา ของเดอื นรอญับ สวนหนงึ่ จากอิบาดะฮเหลา นั้นคือ การอานคมั ภีรอ ลั กุรอานบางซเู ราะฮ อมิ ามซอดกิ (อ.) ไดกลา วแก อมุ มุ ดาวดู วา “ภายหลงั จากการอานซเู ราะฮต างๆ แลวให กลา วประโยคตอ ไปน้ี ขณะท่เี จา ไดหันหนาไปทางกบิ ลัตวา ( ) (2) ความจรงิ แลวคาํ พูดของอมิ าม (อ.) น้ันยังดําเนินตอ ไปอีกแตเราขอกลาวอา งไวเพยี งเทา น้ี เพราะวา ไมเ กีย่ วกับเนอ้ื เร่ืองทเ่ี ราพดู คุยกัน จากรวิ ายะฮบทน้ี เราสามารถสรปุ ไดเ ชน กันวา เปนสิง่ ท่ีดีท่ีเราจะยุตกิ ารอา นคัมภรี อ ลั กุรอาน ดว ยการกลา ววา ( ). มารยาทประการท่ี 19 ดอุ าอภ ายหลงั จากการอานคมั ภรี อ ัล กุรอาน ความจาํ เปน ของการอานดอุ าอภายหลังการอานคัมภรี อัล กรุ อาน ในมารยาทประการท่ี 3 เราไดรับรูไ ปแลววา การวอนขอดุอาอกอ นการอานนน้ั เปนมารยาท ประการหน่ึงของการอา นคมั ภรี อลั กรุ อาน และอกี ประการหนึง่ เกย่ี วกับมารยาทของการอา นคัมภรี อ ัล กุ รอาน และเปนชว งโอกาสทด่ี อุ าอจ ะถูกตอบรับไดโ ดยเร็วและงายดายทสี่ ุด นัน่ คอื ชว งเวลาภายหลงั จาก การอา นคมั ภีรอ ัล กรุ อาน 50

ผูทอ่ี านคมั ภีรอ ลั กุรอานในที่วางเปลา จากผคู น ดว ยกับการระวังรกั ษามารยาทตางๆ ของการ อา นนัน้ ยอมเปน ทม่ี งุ หวงั ไดม ากวาเงอื่ นไขตา งๆ ของการถูกตอบรับดอุ าอจ ะถกู เตรียมไวส ําหรับเขา เนอ่ื งจากวารัศมีของคัมภรี อัล กุรอาน จะกอ ใหเกดิ ความสวางไสวแกเ วลาและสถานที่ และเปนไปไดม าก ทเี ดียวท่ีผอู านคมั ภีรอลั กรุ อานภายใตร ัศมแี หง คัมภรี อลั กรุ อานนน้ั จะทาํ ใหเ ขาไดร บั การเปลย่ี นแปลง ทางดา นจติ ใจและจิตวญิ ญาณ ซ่งึ จะสง ผลทาํ ใหสภาวะของดุอาอแ ละการถกู ตอบรับของมันน้นั ถูก จดั เตรียมไวสําหรับเขา การระมดั ระวงั และการรักษามารยาทดงั กลาวนี้ ในสถานทีช่ มุ นมุ เกี่ยวกบั การอา นคมั ภรี อ ลั กุ รอาน เปน ส่งิ ที่สมควรอยางยิ่งดวยเหตผุ ลสองประการคือ 1. การชุมนุมในลักษณะเชน นโ้ี ดยสวนใหญแลวจะถูกจดั ใหม ีข้ึนในมัสยดิ ตา งๆ ในบรรดาสสุ าน ทมี่ คี วามจําเรญิ ความจําเริญและความบริสทุ ธ์ขิ องสถานท่ชี ุมนุมนั้นจะถูกเพิม่ ทวขี น้ึ และเกียรตขิ อง สถานท่นี เี่ องท่ีจะมผี ลอยา งสูงในการตอบรบั ดุอาอ 2. สถานท่ที ่ีมีการชมุ นุมกนั เกย่ี วกับคัมภรี อลั กุรอานนน้ั เปนสถานที่รวมของบรรดาบคุ คลที่มี คณุ ธรรม (ซอและห) และเปน ผูเ ครง ครัดในศาสนา โดยเฉพาะอยา งยิ่งบรรดาเยาวชนคนหนุมซงึ่ ยงั คง บริสทุ ธิจ์ ากความแปดเปอ นดวยความผดิ บาปและการละเมดิ ฝา ฝน โอกาสทีจ่ ะถกู ตอบรบั ของมนั กย็ อ ม มีมากกวา ดวยเหตผุ ลดงั กลาวนีเ้ องโดยท่วั ไปแลว การสิน้ สุดของการชุมนมุ เก่ยี วกับคมั ภีรอ ัล กรุ อาน คอื การสนิ้ สดุ ลงดวยการวิงวอนของดุอาอ ดุอาอไ มว า จะเปน ภาษาใด! และไมวา จะวอนขออยา งไร! ลว นเปน สิง่ ท่ีดที ั้งส้นิ แตสิง่ ทีถ่ ูกสง่ั เสยี เอาไวน ั้นคือ เมื่อเราจะวอนขอดอุ าอใ หเ ราใชประโยชนจากบรรดาบทดอุ าอซง่ึ ไดรบั รายงานมาจาก บรรดาผูนาํ ผูบรสิ ทุ ธิ์ (อ.) ดวยเหตผุ ลดังกลาวน้เี อง คําแนะนําของเราทมี่ ีตอบรรดาผมู คี วามรกั และ ผกู พันตอคมั ภรี อ ัล กรุ อานกค็ อื ของใหใชด ุอาอต า งๆ ท่ีถกู รายงานมาจากบรรดาผูนาํ ทางศาสนา เพอ่ื เปน การยุตหิ รอื ปดการชมุ นมุ เก่ียวกับคมั ภรี อลั กุรอาน ในสว นนเี้ ราจะขอแนะนําดุอาอส องบททีเ่ กี่ยวของ โดยเฉพาะสาํ หรับการสนิ้ สดุ และการยตุ กิ ารอา นคัมภีรอ ลั กรุ อาน ดอุ าอบ ทที่ 1 มีปรากฏในหนังสอื ฮะดีษวา อมิ ามซอดกิ (อ.) เมือ่ สิ้นสุดจากการอา นคมั ภีรอลั กรุ อาน ทาน จะอา นดอุ าอบ ทนี้ 51

“โออ ัลลอฮ! แทจริงขาพระองคไ ดอา นส่งิ ที่พระองคไ ดทรงกําหนดจากคมั ภรี ข องพระองค ซ่ึงได ทรงประทานลงมายงั ศาสดาผูสจั จริงของพระองค ดังน้นั มวลการสรรเสริญพงึ มีแดพ ระองค โออ งคพระผู อภบิ าลของพวกเรา โออ ลั ลอฮ! ไดโ ปรดบนั ดาลใหข า พระองคเ ปนผูหนึ่งท่ีไดย ึดถอื ส่ิงอนุมัติ (ฮะลาล) ของคัมภรี  อัล กุรอาน เปนสิ่งอนุมตั ิ และยดึ ถอื สงิ่ ตอ งหาม (ฮะรอม) ของมัน เปนส่งิ ตองหา ม และเปนผูศรทั ธาม่ัน ทงั้ ตอส่งิ ที่ชดั แจง (มหุ ก มั ) ของมนั และส่งิ ที่คลุมเครือ (มตุ ะชาบฮิ ) ของมนั และขอพระองคไดท รง บันดาลใหค ัมภรี อลั กรุ อานนน้ั เปนผใู กลชดิ ตอ ขา พระองคในหลุมฝง ศพของขา พระองค และเปนผรู ว ม เคียงในยามเดียวดายของขา พระองค และโปรดบนั ดาลใหขาพระองคเ ปน ผหู นงึ่ ทพี่ ระองคไดเ ลือ่ น ตําแหนงแกเขาดวยกบั ทกุ ๆ โองการทเ่ี ขาไดอ านมนั โดยมอบฐานันดรหนึง่ ในสวนสวรรคอ ันสงู สดุ ดว ย เถดิ ขอพระองคท รงตอบรบั ดุอาอของขา พระองคดวยเถิด โอองคพ ระผอู ภบิ าลแหง สากลโลก” (1) ดุอาอบ ทท่ี 2 หุซัยฟะฮ ผเู ปน สาวกคนหน่งึ ของทานศาสดามุฮมั มัด(ศอ็ ลฯ) ไดก ลาววา พวกเราไดรว มนมาซ กบั ทา นศาสนทตู แหงอลั ลอฮ( ศอ็ ลฯ) ตอ จากนนั้ ทานไดเ รมิ่ ตน อานซเู ราะฮอ ลั บากอเราะฮ เม่ือทา นไดย ุติ การอาน ทา นไดอานดอุ าอซ ึ่งทา นใชอ า นเสมอเม่อื ส้ินสุดการอานคัมภีรอัล กุรอาน ตัวบทของดุอาอม ี ดังนคี้ อื “โอพ ระผูเปนเจา ! ไดโปรดเมตตาตอขาพระองคด ว ยสอื่ จากคัมภีรอัล กุรอาน และโปรดบันดาล มันใหเ ปนผูช น้ี าํ เปนแสงสวา ง เปนทางนํา และเปนความเมตตาหน่งึ สําหรบั ขา พระองค โอพ ระผูเปน เจา! ไดโปรดทําใหขา พระองคราํ ลึกถงึ ส่งิ ท่ีขา พระองคไ ดหลงลืมจากมนั และโปรดสอนขา พระองคใ หรู ส่งิ ท่ีขาพระองคไมม คี วามรูใ นมนั และไดโ ปรดประทานโชคผลแกขาพระองคใ นการอานมันทัง้ ในยามคาํ่ คืนและยามกลางวนั และโปรดบันดาลใหมันเปนขอ พิสูจนห นึง่ สําหรับขาพระองค โอพระผูอภิบาลแหง สากลโลก” (2) มารยาทประการที่ 20 ดอุ าอเ ม่อื จบคัมภีรอ ัล กรุ อาน การจบคัมภีรอ ลั กรุ อาน (คอ็ ตมุล กุรอาน) เปน ซนุ นะฮ (แบบฉบบั ) อยางหนงึ่ ท่ีถกู กระทํา อยางแพรหลายในหมชู าวมสุ ลมิ และบรรดาผูน ําทางศาสนาไดส ั่งเสียในเรอ่ื งนีไ้ วอยา งมากทีเดยี ว ซง่ึ เรา ไดกลา วถึงไปแลวในเรอ่ื งนี้ ในมารยาทประการท่ี 15 ของหนงั สอื เลม น้ี 52

การอานคมั ภรี อ ลั กุรอานจนจบนนั้ ถือเปนเตาฟก (ความสาํ เรจ็ ) ประการหนึ่งทพ่ี ระผูเปนเจา ได ทรงมอบใหเ ปน โชคผลแกปวงบา วผเู ครง ครัดของพระองค ดวยเหตนุ ้ีเองผทู อ่ี า นคัมภรี อลั กุรอานจนจบ น้ัน ควรจะตองรถู ึงคุณคา ของเนี๊ยะอมตั (ความโปรดปราน) อนั ยงิ่ ใหญน้ี โดยสอ่ื การอานคมั ภีรอลั กุ รอานจนจบนี้ ยังทําใหป ระตแู หง เตาฟก (การประทานความสาํ เร็จ) ตางๆ อีกมากมายจากพระผูเปน เจา ถกู เปด สําหรบั มนุษย ซ่ึงจําเปน ทีเ่ ขาจะตองฉกฉวยโอกาสดงั กลาวนี้ และโดยส่อื ของดอุ าอ จงวอนขอตอ พระองคใหเตาฟก เหลานดี้ าํ เนินตอ ไปสําหรบั ตนเอง และจงวิงวอนของความสาํ เร็จใหม ากยิ่งข้ึนในการ แสวงหาความรูและความเขา ใจจากคมั ภีรอ ลั กรุ อาน ดุอาอเ มือ่ จบคัมภีรอัล กรุ อาน คอื ซนุ นะฮอ ยา งหนง่ึ ในขณะที่เราอานคัมภรี อ ัล กรุ อานจนจบเลมแลวน้นั สามารถอานดุอาอใ ดๆ ก็ได แตเ ปนสิง่ ที่ ดีกวา ทีเ่ ราจะเรยี นรูว ิธกี ารขอดอุ าอแ ละการวงิ วอนขอตอพระผูเปนเจา จากบรรดาผูนาํ ทางศาสนา ใน เร่อื งนี้เราขอนาํ เสนอดอุ าอส ามบทจากบรรดาดอุ าอเ ก่ียวกบั การจบคัมภีรอ ลั กุรอาน เพ่อื เปน ประโยชน สําหรับผูม คี วามรักและความผกู พนั ตอ คมั ภรี อ ัล กุรอานท้งั หลาย ดอุ าอบ ทที่ 1 ทา น ‘อาซมิ ’ หนง่ึ จากบรรดานกั อา นทัง้ เจด็ ทา นไดรายงานจาก ‘ซรั บนิ ฮเุ บช’ วา : ฉันไดอา น คัมภรี อ ลั กรุ อานในมัสยดิ กฟู ะฮจากตน จนจบใหก ับทานอมรี ลุ มุอมนิ ีน อะลี บิน อบฏี อลบิ (อ.) รับฟง ภายหลังจากทค่ี ัมภรี อลั กรุ อานไดจ บสน้ิ ลง ทา นไดก ลาวกับฉนั วา “โอ ซรั เอย! เม่อื เจา อานอัล กรุ อานจนจบแลว เจา กจ็ งอานดุอาอบทนเี้ ถดิ เพราะผเู ปนทีร่ ักย่ิง ของฉนั คอื ทา นศาสดามฮุ ัมมดั (ศ็อลฯ) ไดสัง่ ใหฉนั วงิ วอนของตอ อลั ลอฮแบบนีเ้ มอื่ อา นคมั ภีรอ ัล กุรอาน จนจบ “โอขาแตพระผเู ปนเจา ! แทจริงขาพระองควอนขอตอพระองคในความนบนอบของปวงผูนบ นอบทงั้ หลาย และความบรสิ ทุ ธ์ใิ จ (อิคลาส) ของปวงผมู คี วามเชอื่ ม่นั ทั้งหลาย และการเปน มติ รสนิท ตอ ปวงผทู รงคณุ ธรรม และการไดรับมาซง่ึ ขอเท็จจริงตา งๆ อันเปนเนือ้ แทข องการศรทั ธา และโชคผล จากทุกๆ สิ่งท่เี ปน คณุ ธรรมความดี และความปลอดพน (สลามะฮ) จากทุกๆ ความผิดบาป และเปน เหตนุ าํ มาซง่ึ ความเมตตาของพระองค และการอภัยโทษอยา งแนนอนของพระองค และชยั ชนะดวย (การเขา สู) สรวงสวรรค และความรอดพน จากไฟนรก” (1) 53

ดุอาอบ ทที่ 2 ทานมรั ฮมู อลั ลามะฮม จั ญล ซิ ี ไดอา งรายงานไวในหนงั สอื ‘บฮิ ารลุ อันวาร’ วา อิมามอะลี (อ.) มกั จะอานดุอาอต อไปน้เี ม่ือจบคมั ภรี อ ลั กรุ อาน “โอ ขา แตพระผเู ปนเจา ! ไดโ ปรดทรงเปดหัวอกของขา พระองค และโปรดทําใหรางกายของขา พระองคไ ดป ฏบิ ัตติ ามคัมภรี อ ลั กรุ อาน และโปรดบนั ดาลใหส ายตาของขาพระองคส วางไสวดว ยกับ คมั ภีรอ ัล กรุ อาน และโปรดบันดาลใหล ิ้นของขา พระองคห มกมุนอยูกบั คัมภรี อลั กรุ อาน และโปรดให การชว ยเหลอื ขาพระองคบนหนทางน้ี ตราบเทาทข่ี า พระองคย งั คง (มชี วี ิต) อยู เพราะแทจริงไมมี อานภุ าพและพลงั ใดๆ นอกจากโดยสือ่ จากพระองค” (2) ดุอาอบ ทที่ 3 สว นหนึง่ จากบรรดาดุอาอท ีม่ ีเน้อื หาสมบูรณแ ละครอบคลุมในการจบอัล กรุ อาน คือดุอาอบ ท หนึง่ ซงึ่ อิมามซยั นุลอาบดิ นี (อ.) ไดอ าน เนื่องจากความยาวของดุอาอบ ทนี้ จึงไมข อนาํ มาเสนอไวใน หนงั สอื เลม นี้ แตห ากผใู ดประสงคก็สามารถหาอา นไดจากหนังสอื ‘อัซ ซอฮีฟะฮ อซั ซจั ญาดียะฮ’ ดอุ าอ อนั ดับท่ี 42. (1) มุสตัดร็อก-อลั วะซาอลิ , เลม 4, หนา 236. (2) อศุ ลู ลุ กาฟ, เลม 2, หนา 444. (3) วะซาอลิ ุชชีอะฮ, เลม 4, หนา 842. (4) วะซาอลิ ุชชอี ะฮ, เลม 4, หนา 826. (1) ตะหรีรลุ วะซีละฮ, อิมามโคมยั น,ี เลม 1, หนา 27, 28. (2) มีซานุลฮกิ มะฮ, เลม 8, หนา 85, 86. (1) บิฮารุลอนั วาร, เลม 70, หนา 210. (2) วะซาอลิ ุชชีอะฮ, เลม 4, หนา 838. (3) ซุนะนนุ นะบี, อลั ลามะฮ ฏอบาฏอบาอี, หนา 353. (1) บิฮารุลอลั วาร, เลม 89, หนา 207. (2) อุศลู ุลกาฟย , เลม 2, หนา 417, 418. (1) อนั นัชรุ ฟลกิรออาติลอชั ร, อิบนิ ญะซะรี, เลม 1, หนา 243. (2) มจั ญมะอุลบะยาน, เลม 1, หนา 243. (3) ซะฟน ะตุลบิฮาร, เลม 2, หนา 417. 54

(4) อาดาบุซซอลาฮ, อมิ ามโคมัยน,ี หนา 221. (1) อศุ ูลุลกาฟ, เลม 2, หนา 446. (2) วะซาอลิ ชุ ชอี ะฮ, เลม 3, หนา 493. (3) มสุ ตดั รอ็ ก วะซาอลิ , เลม 3, หนา 355. (1)“แทจริงเราไดลง (คัมภรี ) เตาเราะฮมาให ซงึ่ ในน้ันคือทางนาํ และรัศมี” (อลั มาอิดะฮ : 44) “และเราไดม อบ (คัมภรี ) อิลญีลแกเขา (อซี า) ซ่ึงในนั้นคอื ทางนาํ และรัศมี (นูร)” (อลั มาอดิ ะฮ : 46) (2) อุศูลลุ กาฟ, เลม 2, หนา 449. (3) บฮิ ารลุ อันวาร, เลม 89, หนา 199. (4) อัล มะฮจั ญะตุลบยั ฎออ, เลม 2, หนา 321. (5) อศุ ูลลุ กาฟ, เลม 2, หนา 449. (6) มสิ บาฮ- อัลกฟั อะมี, เลม 1, หนา 531. (1) วะซาอิลุชชีอะฮ, เลม 4, หนา 858. (2) จากเลมเดียวกัน (3) ตฟั ซรี -นะมูเนฮ, เลม 23, หนา 344-346. (1) อศุ ูลุลกาฟ, เลม 2, หนา 450. (2) อศุ ลู ลุ กาฟ, เลม 2, หนา 450-451. (3) บฮิ ารลุ อันวาร, เลม 18, หนา 168. (4) บิฮารลุ อันวาร, เลม 89, หนา 190. (5) นบุ วู ะฮ, ชะฮีดมเุ ฏาะฮฮารี, หนา 235-236. (6) บิฮารลุ อันวาร, เลม 89, หนา 195. (1) อศุ ูลลุ กาฟ, เลม 2, หนา 450. (2) นะฮุลบะลาเฆาะฮ, ฮิกมะฮท่ี 47. (3) อศุ ลู ลุ กาฟ, เลม 2, หนา 450. (4) นุบูวะฮ, ชะฮีดมเุ ฏาะฮฮารี, หนา 226-229. (1) วะซาอิลชุ ชอี ะฮ, เลม 4, หนา 839. (2) พอเบฮ พอเย ออฟตอบ, อมรี รฎิ อ ซุตเู ดฮ, หนา 181. (3) เลม เดิม, หนา 285. (4) อศุ ลู ุลกาฟ, เลม 2, หนา 448. (5) เลม เดมิ , 55

(6) อุศูลุลกาฟ, เลม 2, หนา 446. (7) ษะวาบุลอะฮมาล, หนา 127. (1) “ดงั นั้นพวกเจาจงอานปริมาณท่ีสะดวกจากอัล กุรอาน” (อัล มุซซมั มิล : 20) (2) บิฮารลุ อนั วาร, เลม 89, หนา 211. (3) กันซลุ อมุ มาล, เลม 2, หนา 205. (1) อุศูลลุ กาฟ, เลม 2, หนา 448. (1) “อัล อะซาอิม” เปนพหพู จนของคําวา “อัล อะซมี ะฮ” ในทางภาษาหมายถงึ “ความประสงค” หรือความต้ังใจท่ี มน่ั คง บรรดาซูเราะฮท ีม่ โี องการ “ซะญะดะฮ วาญิบ” เมอ่ื อานหรือไดยินโองการเหลาน้ี จําเปน ตองทาํ การสุหูด ดวยเจตนาและความต้งั ใจ สว นเหตผุ ลและความสอดคลองในการตั้งช่ือโองการเหลา น้ีวา “อลั อะซาอมิ ” น้นั เน่ืองจากพระผูเปนเจา ทรงวางขอกําหนดทแ่ี นน อนและเปนการบังคบั ในการทาํ สหุ ูดนน่ั เอง. (2) สาเหตขุ องการสหุ ูด คือการอา นหรือไดยินจนจบโองการ ฉะนั้นหากอา นหรือไดยนิ เพยี งบางสวนของโองการ ไมเปนวาญบิ ตองสุหดู (3) คําฟต วาของบรรดามรั เญ๊ยี ะอสวนใหญในยคุ ปจจุบันเปน เชนน้ี ก.รซิ าละฮ เตาฎีฮลุ มะซาอิล, อมิ ามโคมยั นี, มสั อะละฮท ี่ 1096 ข.ริซาละฮ “อัจญว ะบะฮ อัล อสิ ติฟตาอาต” อายะตลุ ลอฮ คอเมนาอ,ี เลม แรก, หนา 105, คาํ ถามท่ี 509. (4) อัล อรุ วะตลุ วุษกอ, เลม 1. (5) ตะหรีรุล วะซีละฮ, อิมามโคมยั นี, เลม 2, หนา 161. (6) เลม เดิม. (1) บคุ คลท่ีไมม แี ผนการเชน นี้ ดังนนั้ จงพยายามจัดสรรเวลาสว นหนึ่งของตนในตลอดวันของเขาสําหรับอะม้ลั อัน ทรงคณุ คานี้ (แมจะเพียงไมก่ีนาทีกน็ ับวาเปนสิง่ ท่ีดีย่ิง) (2) ยกเวน ในบางกรณีทีเ่ ราเลอื กอานเปน บางซเู ราะฮหรือบางโองการจากคมั ภีรอ ัล กุรอานในวันทีถ่ ูกกาํ หนดเปน เฉพาะ หรอื ตามโอกาสอันเหมาะสมทบี่ รรดาผูนําผูบริสุทธ์ิของอิสลามไดสงั่ เสียเอาไว (3) บิฮารุล อนั วาร, เลม 89, หนา 204. (4) บฮิ ารุล อนั วาร, เลม 89, หนา 205. (5) บิฮารลุ อันวาร, เลม 89, หนา 205. (6) บิฮารุล อนั วาร, เลม 95, หนา 5. (1) อุศลู ลุ กาฟ, เลม 2, หนา 418. (2) วะซาอิลชุ ชอี ะฮ, เลม 4, หนา 825. (3) มุสตดั ร็อก-อลั วะซาอิล, เลม 4, หนา 269. (4) อุศลู ุลกาฟ, เลม 2, หนา 441. 56

(5) บิฮารลุ อันวาร, เลม 89, หนา 22. (6) อศุ ลู ลุ กาฟ, เลม 2, หนา 443-444. (7) อศุ ูลลุ กาฟ, เลม 2, หนา 420. (1) อลั มะฮัจญะตุล บัยฎออ, เลม 2, หนา 219. (2) วะซาอลิ ุชชีอะฮ, เลม 4, หนา 855. (3) อุศูลลุ กาฟ, เลม 2, หนา 449 (4) วะซาอลิ ุชชีอะฮ, เลม 4, หนา 885. (5) อลั อรุ วะตุลวุษกอ, เลม 1, หนา 204 (1) ภายหลังจากท่ีเขาไดเ ขารบั อสิ ลาม ทานศาสนทูตแหง อัลลอฮ (ศอ็ ลฯ) ไดต ้ังชื่อเขาวา ‘อบั ดลุ ลอฮ บนิ สลาม’ (2) บิฮารุล อนั วาร, เลม 95, หนา 400. (1) บฮิ ารลุ อนั วาร, เลม 89, หนา 207. (2) อัล มะฮัจญะตุลบยั ฎออ, เลม 2, หนา 227. (1) บิฮารุล อนั วาร, เลม 89, หนา 206-207. (2) บฮิ ารลุ อันวาร, เลม 89, หนา 209. 57


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook