คำนำ การเรียนรู้รายวชิ า คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพื่องานงานอาชีพ รหัสวิชา 20000-2001 ชน้ั ประกาศนยี บัตร วชิ าชีพ ปโี ดยพยายามเขยี นนกั เรียนเขา้ ใจง่าย นักเรียนสามารถไดต้ นเอง ความพ้ืนฐานก่อนศึกษาเนอ้ื หานัน้ จริงและยงั เพมิ่ เติมเนอ้ื หา บางตอนเพื่อช่วยเสรมิ ความความเขา้ ใจนกั เรียน นอกจากยงั เพม่ิ ใบกจิ กรรมเสริมนักเรียนประสบการณ์กว้างขวาง ขึ้น การ แนะนำสมาชิกในครอบครวั ภายในบทเรยี นมอตูลเลม่ นปี้ ระกอบด้วย แนะนำการเรียนมอตลู จุดประสงค์เรยี นรู้ แบบทดสอบ ภาคความรู้ก่อนเรยี น เนือ้ หา ใบกิจกรรม แบบทดสอบภาคความเรียน รวมเฉลยกจิ กรรมและแบบทดสอบ บทเรยี นมอดูลน้ี เรียน สามารถศึกษาค้นควา้ ดว้ ยตนเองและเรยี นรู้กนั กลุม่ ๆ ผจู้ ดั ทำหวงั เปน็ อยา่ งวา่ บทเรยี นมอตลู ชุดนีจ้ ะคำศัพทค์ รอบครัวมากยิ่งข้นึ และสง่ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของนกั เรียน สงู ข้ึน อย่างตามบทเรยี นเลม่ อาจมบี างจุดมีขอ้ บกพร่องผิดพลาด ขอให้ทา่ นอา่ นโปรดแจง้ ใหข้ ้าพเจ้า ทราบด้วยขอบพระคณุ เป็น อย่างย่งิ ข้าพเจา้ ยินดีความคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะจากท่าน และ พรอ้ มจะนำมาแกไ้ ขปรบั ปรงุ บทเรียนมอดูลเล่มนใ้ี ห้มคี วาม สมบูรณแ์ ละถกู ต้อง
สารบญั ชี้แจงในการใช้มอมูลสำหรับนักเรียน หน้า สมรรถนะการเรยี นรู้ 1 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2 การประเมนิ ผลกอ่ นเรยี น 2 เฉลยแบบทดสอบภาคความรู้กอ่ นเรยี น 3 ใบความรู้ 1 4 กจิ กรรมยอ่ ยระหวา่ งเนอื้ หา ครง้ั ท่ี 1 5 ใบความรู้ 2 กิจกรรมยอ่ ยระหว่างเนอ้ื หา ครงั้ ท่ี 2 12 แบบประเมนิ ผลหลังเรยี น 13 เฉลยแบบทดสอบภาคความรูห้ ลงั เรยี น 17 18 19
1 คำชีแ้ จงในการใช้มอดูลสำหรบั นักเรยี น การใช้บทเรียนมอตูลใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพตอ่ การจัดกรรมการเรยี นการสอนไดอ้ ย่างสูงสดุ นักเรียนควรปฏิบตั ิ ดงั น้ี 1. การเตรยี มตัวของนกั เรยี น 1.1 ศึกษาบทเรียนมอลลว่ งหน้ากอ่ นท่จี ะปฏบิ ัตกิ ิจกรรมต่าง ๆ เพอ่ื ให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ จุดประสงค์ ขอ้ ควรปฏิบตั ิ 1.2 วางแผน และจัดเตรียมอปุ กรณท์ ใ่ี ช้ประกอบการเรยี นรขู้ องตนเองใหพ้ ร้อมสำหรบั การปฏิบตั กิ ิจกรรมตามที่ได้รับมอบหมาย 2. ดำเนนิ การจัดกิจกรรมในแตล่ ะคร้งั นกั เรียนควรปฏิบัติ ดังนี้ 2.1 ศกึ ษาแนวทางในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมให้มีความเขา้ ใจอย่างถ่องแท้ หากพบปญั หาหรอื ไมเ่ ขา้ ใจให้สอบถาม ขอ้ มลู เพ่มิ เตมิ จากครู 2.2 ปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ ตามลำดับขั้นตอนทีก่ ำหนด ดงั น้ี 2.2.1 นักเรยี นทำแบบทดสอบภาคความรกู้ ่อนเรยี น 2.2.2 นกั เรียนศึกษาและปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามแนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามลำดบั ขน้ั ตอนที่กำหนด 2.2.3 นกั เรียนส่งผลงานหรือชนิ้ งานในการปฏิบัตกิ จิ กรรม มสี ่วนร่วมในการนำเสนอผลงานหรอื อภปิ รายความรู้ 2.2.4 นักเรยี นทำแบบทดสอบภาคความรหู้ ลงั เรียน
2 สมรรถนะการเรยี นรู้ 1. ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ 2. ลกั ษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ 3. องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ 4. ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 5. จริยธรรมและความรบั ผิดชอบในการใช้คอมพิวเตอรก์ ับระบบสารสนเทศ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. ด้านความรู้ 1.1 บอกความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศได้ 1.2 บอกลกั ษณะสำคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศได้ 1.3 อธบิ ายองคป์ ระกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศได้ 2. ด้านทักษะ 2.1 บอกผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้ 3. ด้านคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ 3.1 บอกจรยิ ธรรมและความรับผิดชอบในการใช้คอมพวิ เตอร์กบั ระบบสารสนเทศได้
3 แบบทดสอบก่อนเรียน จงเลือกคำตอบท่ถี ูกท่ีสดุ 1. ข้อใดหมายถึงสารสนเทศ 6. อุปกรณ์ใดท่ใี ช้ในการนำเขา้ ข้อมูล ก. จรัสทำข้อสอบได้ 39 คะแนน ก. Speaker ข. ดารณีสูง 170 ซม. ข. CPU ค. ถูกทุกข้อ ค. Printer ง. ประทีปได้เกรดเฉลี่ยสะสม ง. Monitor จ. สมชายอายุ 20 ปี จ. Scanner 2. การนำโปรแกรมตารางงานมาใช้ในงานการคำนวณค่า 7. การพิมพ์รายงานเปน็ กระบวนการใดของระบบคอมพิวเตอร์ นายหน้า เก่ยี วขอ้ งกับระบบสารสนเทศอย่างไร ก. แสดงผลข้อมูล ก. การป้อนข้อมลู ข. ป้อนข้อมูล ข. การนำเสนอข้อมลู ค. ประมวลผลข้อมูล ค. การแยกประเภทข้อมลู ง. จัดเก็บข้อมูล ง. การประมวลผลข้อมลู จ. เผยแพร่ข้อมูล จ. การเก็บข้อมูล 8. การเก็บขอ้ มลู สามารถเก็บในอุปกรณ์ใด 3. ข้อใดเป็นประโยชนใ์ นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ใน ก. Projector งานอาชีพ ข. Mouse ก. แชร์ข้อมลู ส่วนตัวผ่าน Facebook ค. Flash Drive ข. มีเวลาเปน็ ส่วนตัวมากขึ้น ง. RAM ค. คุยกับเพ่ือนผ่านโปรแกรม Line จ. UPS ง. นำเสนอโครงการด้วยโปรแกรม PowerPoint 9. ข้อใดเปน็ การเขา้ ถึงสารสนเทศไดร้ วดเร็วและกว้างขวางท่ีสุด จ. สินคา้ ราคาถูกทางอนิ เตอร์เน็ต ก. Google 4. Operating System หมายถึงข้อใด ข. Wifi ก. Social Cam ค. Internet ข. Mac OS X ง. Website ค. Sony Vegus จ. Smartphone ง. Photoshop 10. ผลกระทบของเทคโนโลยีท่ีดีคือข้อใด จ. Microsoft Office ก. ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น 5. ข้อใด ไม่ใช่ องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ ข. ช่วยใหอ้ าชญากรรมลดลง ก. Tablet PC ค. อุปกรณ์เทคโนโลยีมีมากขึ้น ข. RFID ง. มีแหล่งความรู้ให้ตน้ ควา้ มากข้ึน ค. พนกั งานขาย จ. ราคาสินค้าถูกลง ง. นักวิเคราะห์ระบบ จ. คู่มือการใช้งานโปรแกรมบัญชี
4 ข้อ 1 ง เฉลย ขอ้ 2 ข ขอ้ 3 ค ขอ้ 6 ค ข้อ 4 ก ขอ้ 7 ก ขอ้ 5 ข ข้อ 8 ข ข้อ 9 ค ขอ้ 10 ง
5 เน้ือหา เทคโนโลยีสารสนเทศ คอื การประยกุ ตค์ วามรูท้ างวิทยาศาสตรม์ าใช้ในระบบสารสนเทศ ตัง้ แต่ กระบวนการจดั เกบ็ ประมวลผล และการเผยแพร่สารสนเทศ เพือ่ ช่วยให้ได้สารสนเทศทม่ี ีประสิทธิภาพและ รวดเรว็ ทันต่อเหตกุ ารณ์ โดยเทคโนโลยสี ารสนเทศอาจประกอบดว้ ย 1. เครือ่ งมือและอุปกรณต์ า่ งๆ เชน่ เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ เคร่ืองใช้สำนกั งาน อุปกรณส์ ื่อสาร โทรคมนาคมต่างๆ รวมท้งั ซอฟทแ์ วร์ทัง้ แบบสำเร็จรปู และแบบพัฒนาข้นึ เพื่อใชใ้ นงานเฉพาะดา้ น ซึง่ เคร่ืองมือ เหล่านี้จัดเปน็ เคร่อื งมอื ทนั สมยั และใช้เทคโนโลยีระดับสูง (High Technology) 2. กระบวนการในการนำอุปกรณเ์ ครือ่ งมอื ตา่ งๆ ข้างตน้ มาใช้งาน เพือ่ รวบรวม จดั เก็บ ประมวลผล และแสดงผลลัพธเ์ ปน็ สารสนเทศในรูปแบบตา่ งๆ ท่ีสามารถนำไปใช้ประโยชนไ์ ดต้ ่อไป สารสนเทศ หมายถึง ข้อมลู ที่ผา่ นการประมวลผลด้วยวิธีการท่เี หมาะสมและถกู ตอ้ ง เพอื่ ให้ไดผ้ ลลัพธต์ รง ตามความตอ้ งการของผใู้ ช้ อยใู่ นรูปแบบทใ่ี ชง้ านได้ และจะตอ้ งอยใู่ นชว่ งเวลาที่ต้องการขอ้ มูล ซงึ่ สามารถนำไปใช้ ประโยชน์ตามต้องการ เชน่ สรุปยอดขายเพอ่ื นำไปใช้ในการวิเคราะห์ วางแผนและตดั สนิ ใจในการกำหนด เป้าหมายตอ่ ไป องค์ประกอบของสารสนเทศ ขอ้ มูล คอื ขอ้ เท็จจรงิ ทเี่ ปน็ ตวั เลข ขอ้ ความ หรอื รายละเอยี ดซงึ่ อาจอยู่ในรูปแบบต่างๆ เช่น ภาพ เสียง วิดีโอ หรอื ข้อมูล ขอ้ เท็จจรงิ ของสิ่งท่ีสนใจ ไมว่ ่าจะเปน็ คน สตั ว์ สงิ่ ของ หรือ เหตกุ ารณต์ ่างๆ ดงั นนั้ ขอ้ มลู จึงเปน็ การเกบ็ รวบรวมเกย่ี วกับข้อเทจ็ จริงของสงิ่ ที่สนใจเพ่ือทจ่ี ะนำไปใชป้ ระโยชน์ตอ่ ไป การประมวลผลข้อมูล คือ กระบวนการย่อยหลายกระบวนการ ตั้งแต่การรวบรวมขอ้ มลู การแยกแยะ การตรวจสอบความถูกตอ้ ง การคำนวณ การจัดลำดับ การรายงานผล รวมถึงการสง่ ข้อมูลหรอื การแจกจา่ ยขอ้ มูล นนั้ สารสนเทศ คือ ส่ิงท่ไี ดจ้ ากการนำข้อมูลทเ่ี ก็บรวบรวมไว้มาประมวลผล เพอ่ื นำมาใชป้ ระโยชน์ตาม จดุ ประสงค์ ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยสี ารสนเทศ โดยพื้นฐานของเทคโนโลยี มีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติใหเ้ จริญกา้ วหน้า สำหรบั เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเร่อื งที่เกี่ยวขอ้ งกบั วิถคี วามเปน็ อยู่ของสังคมสมัยใหม่ ลักษณะเด่นท่ีสำคัญของเทคโนโลยี สารสนเทศ มดี ังน้ี 1.เทคโนโลยสี ารสนเทศช่วยใหก้ ารทำงานรวดเร็ว ถูกต้อง และแมน่ ยำ ในระบบการจัดการของ องคก์ รทุกแห่งต้องใชข้ อ้ มลู เพือ่ การดำเนนิ การและตดั สินใจ ระบบธุรกิจจงึ ใช้เทคโนโลยีคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยี การสือ่ สารเปน็ เครื่องมอื ช่วยในการดำเนนิ การเพอื่ ให้การทำงานมคี วามรวดเรว็ ถกู ตอ้ ง และแมน่ ยำ
6 2.เทคโนโลยสี ารสนเทศชว่ ยทำให้การบรกิ ารกว้างขวางขึน้ เมื่อมีการพฒั นาระบบเก็บและใช้ ข้อมลู ทำให้การบริการต่างๆ อยู่ในรปู แบบการบริการแบบกระจาย ผู้ใช้สามารถสง่ั ซ้อื สนิ ค้าจากที่บา้ นสามารถ ถามขอ้ มลู ผา่ นทางโทรศพั ท์ 3.เทคโนโลยสี ารสนเทศชว่ ยดำเนินการในหนว่ ยงานตา่ งๆ ปจั จุบันทกุ หนว่ ยงานตา่ งพัฒนาระบบ จัดเกบ็ ขอ้ มูลและรวบรวมขอ้ มูลเพือ่ ใช้ในองค์กร ประเทศไทยมีระบบทะเบยี นราษฎรที่จัดทำดว้ ยระบบ คอมพวิ เตอร์ ระบบเวชระเบียนในโรงพยาบาล ระบบการจัดเกบ็ ข้อมูลภาษี ในปจั จบุ ันองคก์ รทุกระดบั เหน็ ความสำคญั ทจ่ี ะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ ระบบสารสนเทศมกี ารนำเทคโนโลยีหลายด้านมาใช้ประโยชน์ในการนำขอ้ มลู มาประมวลผลและส่ือสาร สารสนเทศไปยงั ผทู้ ่เี กย่ี วข้องได้อย่างรวดเรว็ องคป์ ระกอบทสี่ ำคญั คอื ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ซอฟต์แวร์ (Software) บคุ ลากรทางคอมพิวเตอร์ (Peopleware) ขอ้ มูล (Data) ข้นั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน (Procedure) และ ระบบการสอ่ื สารขอ้ มูล (Data Communication System) ฮารด์ แวร์ Hardware ฮาร์ดแวรเ์ ปน็ องคป์ ระกอบสำคัญของระบบสารสนเทศ หมายถึง เคร่อื งคอมพิวเตอร์ อปุ กรณร์ อบข้าง รวมทั้งอปุ กรณส์ ่อื สารสำหรบั เชอ่ื มโยงคอมพิวเตอรเ์ ข้าเป็นเครอื ข่าย ซ่งึ ถือว่าเปน็ องค์ประกอบท่สี ำคัญของระบบ สารสนเทศ Microcomputer หรอื Personal Computer (PC) คอมพวิ เตอร์ขนาดเลก็ แบบตั้งโตะ๊ (Desktop Computer) ใช้กันแพร่หลายทง้ั ในบา้ น โรงเรียน และสำนกั งาน Macintosh (Macintosh) หรอื ที่รจู้ ักในชอื่ ย่อว่า แมค (Mac) เป็นชือ่ ของผลิตภณั ฑ์ เครือ่ งคอมพิวเตอรท์ ่ี พัฒนา ออกแบบ และจำหนา่ ยโดยบรษิ ัทแอปเปิล แมคอนิ ทอชเป็นระบบคอมพวิ เตอรส์ ่วนบุคคลท่ีส่วนใหญใ่ ช้ใน สำนักพิมพ์ นติ ยสาร โรงพมิ พ์ บรษิ ทั ออกแบบ และบริษัทโฆษณา Laptop หรือ Notebook โนต้ บุ๊ก คือ คอมพวิ เตอร์ที่มีขนาดเลก็ กวา่ ไมโครคอมพิวเตอร์ ถกู ออกแบบไว้ เพอื่ พกพาไปใชต้ ามท่ตี ่างๆ มีขนาดเล็ก และน้ําหนักเบา ความสามารถ ในการทำงานเทยี บเท่ากับเครอื่ งพีซีท่ัวไป ในปจั จุบันมีหลายขนาดให้เลอื กตามความต้องการใชง้ าน Ultrabook เป็นการนำเอา Notebook และ Tablet ผนวกรวมเข้าด้วยกัน มีความบางและน้ําหนกั เบา ใกล้เคียงกบั Tablet ทำงานไดใ้ กลเ้ คียงกบั Notebook มีคยี บ์ อรด์ Hard Diskจะใช้เปน็ SSD (Solid-State Drive) หนา้ จอสมั ผัสแบบ Multi Touch ไดเ้ หมือน Tablet Tablet PC คอื เคร่ืองคอมพวิ เตอรท์ ่ีใชง้ านโดยใช้นว้ิ สัมผัสหรอื ปากกาเขยี นลงบนจอภาพไดโ้ ดยตรงแทน การใชเ้ มาส์และคีย์บอร์ด ซึง่ มีซอฟตแ์ วรท์ พี่ ัฒนาขนึ้ มาเป็นพเิ ศษเพอื่ ใชก้ ับเคร่ือง ในปัจจุบันมีการใชง้ านกันอยา่ ง แพรห่ ลาย และมกี ารพัฒนากนั มากเพราะมผี ูใ้ ช้งานเพ่มิ ขนึ้ อย่างรวดเรว็ นิยมใชใ้ นการเลน่ อินเทอร์เน็ต ตดิ ต่อสอื่ สารผ่านระบบเครอื ขา่ ย การศกึ ษาและความบนั เทิง
7 ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ 1.หน่วยรับขอ้ มูล (Input Unit) 2.หน่วยประมวลผลข้อมลู (Central Processing Unit : CPU) 3.หนว่ ยเกบ็ ขอ้ มูล (Memory Unit) 4.หนว่ ยติดตอ่ ส่อื สาร (Communication Unit) 5.หน่วยแสดงผล (Output Unit) ส่วนประกอบภายนอกทีส่ ำคัญของคอมพิวเตอร์คือ อุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ท่ีนำมาประกอบกันแล้วจะได้ คอมพิวเตอรช์ นิดตง้ั โตะ๊ ที่สมบรู ณ์ 1 เครอ่ื ง ควรประกอบด้วยองค์ประกอบท่ีสำคญั หลายอยา่ ง เชน่ กลอ่ งซีพยี ู แป้นพมิ พ์ เมาส์ จอภาพ ลำโพง 1. กลอ่ งซีพยี ู (Case) เปน็ องค์ประกอบคอมพวิ เตอร์ที่ภายในบรรจแุ ผงเมนบอร์ด แหล่งจา่ ยไฟและ หนว่ ยความจำตา่ งๆ เชน่ รอม (ROM) แรม (RAM) ฮาร์ดดสิ ก์ ดสิ กไ์ ดรฟ์ และซีดรี อม เปน็ ต้น ทเี่ รยี กว่า กล่องซีพียู เพราะภายในเครอ่ื งบริเวณแผงวงจรหลกั (Main board) เป็นทต่ี ดิ ตงั้ ซพี ียู (CPU) ซึ่งถอื วา่ เปน็ มันสมอง ของเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ ส่วนรายละเอียดจะกล่าวถึงต่อไปในเน้ือหาของบทเรยี นในหน่วยน้ี 2. แปน้ พมิ พ์ (Keyboard) คอื อุปกรณ์ทีใ่ ช้ในการพมิ พข์ ้อมูลเขา้ ส่เู ครื่องคอมพิวเตอร์ เพอ่ื ใหห้ น่วย ประมวลผลขอ้ มูลกลาง (CPU) ทำการประมวล แป้นพมิ พ์จดั เป็นอุปกรณด์ ้านหน่วยป้อนข้อมลู (Input Unit) ท่ีทำ หน้าท่ใี นการป้อนขอ้ มลู เข้าสู่เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ 3. เมาส์ (Mouse) คอื อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการเลอื กและเล่อื นตำแหน่งลูกศรเพื่อส่ังงาน ใหค้ อมพวิ เตอร์ ทำงาน เมาส์จดั เป็นอปุ กรณ์ด้านหน่วยปอ้ นข้อมูลเช่นเดยี วกบั แปน้ พมิ พ์ แตใ่ ช้งานในลักษณะทแี่ ตกต่างกนั เมาส์ ในปัจจุบันมีทง้ั แบบมีสายและแบบไร้สาย 4. จอภาพ (Monitor) คือ อปุ กรณท์ ่ีใช้ในการแสดงผลขอ้ มูลทีผ่ า่ นการประมวลผลจากซีพียูมาแลว้ เพือ่ ทำให้ผใู้ ช้มองเหน็ ผลลัพธ์ของขอ้ มูลและสามารถติดต่อกับเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ได้ จอภาพจดั เป็นอปุ กรณ์ ดา้ นหนว่ ยแสดงผล (Output Unit) 5. ลำโพง (Speaker) คือ อุปกรณ์ท่ใี ช้ในการแปลงสัญญาณไฟฟ้าเปน็ สัญญาณเสยี งและแสดง เสยี ง ออกทางลำโพงทำให้ผู้ใชไ้ ดย้ นิ สัญญาณเสียงในรูปแบบต่างๆ เช่น เสยี งเพลง และเสียงพดู ตา่ งๆ ลำโพงจดั เปน็ อปุ กรณ์ ด้านหน่วยแสดงผล (Output Unit) 6. หน่วยความจำสำรอง (Secondary memory unit) หน่วยความจำสำรองเปน็ ส่วนเพิ่ม หน่วยความจำใหม้ ีขนาดใหญ่ มีความจุมาก มรี าคาถกู ในระบบคอมพวิ เตอร์จึงมักติดตง้ั หนว่ ยความจำสำรองเพ่อื นำมาใชเ้ กบ็ ขอ้ มลู จำนวนมาก เปน็ การเพมิ่ ขีดความสามารถด้านการจดจำของคอมพิวเตอร์ใหม้ ากยิ่งขน้ึ หน่วยความจำสำรองมหี ลายชนิดดงั ต่อไปน้ี
8 ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) เปน็ ที่สำหรบั เกบ็ ข้อมูลขนาดใหญ่ Hard Disk จะประกอบไปดว้ ยจาน Disk หรอื ที่เรยี กว่า Platters หลายๆ แผ่นมารวมกัน Hard Disk สว่ นมากจะอยูภ่ ายในเครื่องคอมพวิ เตอร์ ซง่ึ ไม่สะดวกในการเคลอื่ นยา้ ย บางที ถูกเรยี กวา่ Fixed Disk ในปัจจุบนั ได้มกี ารนำฮารด์ ดิสกข์ องคอมพิวเตอร์ใสใ่ นเคสเลก็ ๆ ใช้สาย USB ในการเชื่อมต่อเข้ากบั คอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้สามารถจัดเก็บขอ้ มูลไดม้ ากและพกพาสะดวกเปน็ ทน่ี ิยมกันมากในปัจจุบนั เรียกว่า External Hard Disk แผน่ ข้อมลู แบบบนั ทกึ ดว้ ยแสง (Optical Disc) แบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกันคือ 1. CD ROM ซดี ี (Compact Disk) เปน็ สือ่ บนั ทกึ ขอ้ มลู ท่มี ีความจสุ ูง โครงสรา้ งเป็นแผน่ พลาสตกิ ทรงกลมบาง ท่ฉี าบดว้ ยโลหะ metallic หลักการทำงานจะใชแ้ สงเลเซอร์ (Laser) ฉายลงไปบนพนื้ ผิวของแผน่ ทำ ใหเ้ กดิ หลมุ รหสั เป็น 0 และ 1 การอ่านขอ้ มูลกใ็ ช้แสงเลเซอร์กวาดไปบนพน้ื ผิวของแผ่นแล้วใช้แสงสะทอ้ นกลับ แปลงไปเปน็ ขอ้ มลู ที่คอมพิวเตอรส์ ามารถอา่ นเข้าใจได้ มคี วามจปุ ระมาณ 600 - 700 MB มีการเขา้ ถึงขอ้ มลู แบบ Random Access มีการพฒั นาใหเ้ ขยี นอา่ นไดห้ ลายๆ ครั้งเรยี กว่า Erasable Optical Disks การใชง้ านตอ้ งใช้ รว่ มกบั CD-Writer มรี าคาถูก และใช้งานแทนซดี ีรอมทัว่ ไปได้ หน่วยความจำแฟลชประเภทการ์ด (Memory Card) หน่วยความจำชนิดนีน้ ยิ มใช้ในปจั จุบันอยา่ ง แพรห่ ลายเพราะสามารถนำไปใช้กับอุปกรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ สอ์ ่นื ๆ เพอื่ เก็บสำรองข้อมลู ตา่ งๆ เช่น กล้องดิจิทลั , โทรศัพท์ประเภท Smartphone, เครอ่ื งเลน่ MP3 แบบพกพา หรือกล้องวิดีโอรุ่นใหมๆ่ ชนดิ หนว่ ยความจำ ประเภทน้ี เชน่ - PC Card - Compact Flash - Smart Media - Multimedia Memory Card (MMC) - Secure Digital (SD) - Memory Stick 2. เครอ่ื งพิมพ์แบบพน่ หมกึ (InkJet Printer) เปน็ เคร่ืองพิมพท์ ี่อาศยั หลักการพ่นหมกึ ออกมาบน กระดาษพิมพโ์ ดยมหี ัวพมิ พ์เคลือ่ นที่บนแกนโลหะ การทำงานของหวั พมิ พ์ใชว้ ิธีการฉีดพ่นนํ้าหมกึ เป็นจุดขนาดเล็ก ๆ จากกลักนา้ํ หมึกให้เปน็ ตัวอักษรหรอื รปู ภาพ แทนลงบนกระดาษ ความละเอยี ดของการพิมพว์ ัดเปน็ จำนวนจุด ต่อตารางนิ้ว ขนาดกระดาษท่ใี ชม้ ักเปน็ ขนาด A4 หรือขนาดทเ่ี ล็กกว่า ความเร็วในการพมิ พน์ ับเป็นจำนวนหน้าตอ่ นาที การพมิ พส์ จี ะใช้หลกั การพน่ หมึก 3 สคี ือ นํา้ เงิน แดง และเหลอื งผสมกนั
9 3. เครอ่ื งพมิ พเ์ ลเซอร์ (Laser Printer) มีหลักการทำงานคลา้ ยกับเคร่อื งถ่ายเอกสาร โดยจะทำการ แปลงขอ้ มูลจากคอมพิวเตอรใ์ ห้เปน็ รหสั แล้วใชล้ ำแสงเลเซอรย์ ิงเปน็ รปู ภาพตน้ แบบลงบนแทน่ พมิ พ์ทเ่ี ป็นล้อยาง (Drum) แลว้ ทำการใชค้ วามร้อนดูดผงหมึกจากกลกั (Toner) เข้ามาติดกบั ล้อยางตามแบบพมิ พ์ จากน้นั กระดาษ จะถูกรีดด้วยลอ้ ยาง ผ่านแม่พมิ พท์ ีม่ ีผงหมกึ ติดอยู่ทำใหเ้ กิดเปน็ ตวั อกั ษรหรอื ภาพบนกระดาษ ความละเอยี ดของ การพิมพว์ ัดเป็นจำนวนจุดตอ่ ตารางนิว้ (Dot Per Inch : DPI) ขนาดกระดาษทใ่ี ช้มกั เป็นกระดาษขนาด A4 หรอื ขนาดอนื่ ก็ได้ ข้นึ อยู่กบั คุณสมบัติของเครอ่ื งพิมพ์ ความเรว็ ในการพมิ พ์นบั เปน็ จำนวนหนา้ ตอ่ นาที คุณภาพในการ พมิ พม์ ีความคมชดั สูงกว่าเครื่องพิมพ์ Inkjet ซอฟแวร์ Sofeware ซอฟต์แวร์ หมายถงึ โปรแกรมหรือชุดคำสง่ั ที่สัง่ ใหค้ อมพิวเตอร์ทำงาน เปน็ ตวั สัง่ การใหอ้ ุปกรณ์ เชือ่ มต่อทำงานได้ โดยโปรแกรมจะเขียนให้ทำงานเปน็ ข้ันตอนโดยจะครอบคลุมการดำเนินการทัง้ หมดว่าจะให้ ผลลพั ธอ์ อกมาในลักษณะใด โดยผ้เู ขยี นโปรแกรมหรอื โปรแกรมเมอร์จะเป็นผู้เขยี นโปรแกรมกำหนดให้โปรแกรม รบั อะไรมาประมวลผล แล้วให้ผลลัพธ์แสดงออกมาในรูปแบบใดแบ่งเปน็ 2 ประเภทคือ ซอฟตแ์ วร์ระบบ และ ซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์ ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ (System Software) คือ ชดุ คำสัง่ หรอื โปรแกรมทถี่ กู เขียนข้ึนทำงานกับฮารด์ แวร์ เพอื่ ส่งั การควบคุมการทำงาน อำนวยความสะดวกให้ผู้ใชส้ ามารถติดตอ่ กับเคร่อื งคอมพวิ เตอร์และคอมพวิ เตอร์ ทกุ เครอ่ื งจะตอ้ งมรี ะบบปฏบิ ัติการ (Operating System : OS) ระบบปฏิบัติการท่ีใชก้ ันทั่วไป เชน่ Windows XP, Windows 7, Windows 8 สำหรับเคร่อื ง Macintosh เชน่ ระบบปฏิบัตกิ าร Snow Leopard, Lion Mountain, Lion และยังมีระบบปฏบิ ัตกิ ารเปดิ เชน่ Linux Ubuntu เปน็ ตน้ ซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์ (Application Software) คือ ชดุ คำส่ัง หรอื โปรแกรมท่ีถูกสรา้ งขน้ึ ใหใ้ ช้งานด้าน ต่าง ๆ ให้ไดป้ ระโยชน์สูงสุดตามความตอ้ งการของผู้ใชง้ านโดยแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คอื ซอฟต์แวรส์ ำเร็จรปู (Package Program) หรือ ซอฟตแ์ วร์ใช้งานท่ัวไป (General Purpose Software) เปน็ โปรแกรมทสี่ ามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานไดห้ ลายๆ แบบ ทัง้ งานส่วนตัวและงานแบบองค์กร ในปจั จบุ ันมผี ู้ที่จดั ทำซอฟตแ์ วรส์ ำเร็จรปู ขึ้นมามากมายทัง้ โปรแกรมที่สร้างโดยบริษัทใหญ่ๆ ที่สรา้ งข้นึ สำหรบั จำหนา่ ย ไปจนถึงผู้ท่ีหัดสร้างโปรแกรมสำเรจ็ รปู ข้ึนใช้งานแลว้ เปดิ ให้ใชง้ านได้ฟรี ทัง้ หมดนีถ้ อื เปน็ ซอฟตแ์ วร์ สำเรจ็ รูปได้ ซึ่งสามารถจำแนกออกเปน็ กลุ่มต่าง ๆ ได้ 10 ประเภท 1. ซอฟตแ์ วร์ประมวลผลคำ (Word Processing Software) ใช้สำหรบั สรา้ งเอกสารข้อความ ตวั อักษร ภาพ จัดการรปู แบบไดง้ า่ ยและสะดวกต่อการทำงาน เช่น Microsoft Word, OpenOffice Writer, WordPad เป็นตน้
10 2. ซอฟตแ์ วร์ด้านการคำนวณ วเิ คราะห์แบบตารางการทำงาน (Spreadsheet Software) ใช้ สำหรับงานด้านการคำนวณ วเิ คราะหห์ าผลลพั ธ์ งานลกั ษณะท่ีต้องสร้างตาราง เช่น Microsoft Excel, OpenOffice Calc, Lotus 1-2-3 เปน็ ตน้ 3. ซอฟต์แวร์ด้านการนำเสนอขอ้ มลู (Presentation Software) ใชส้ ำหรบั การนำเสนอขอ้ มูลใน รูปแบบตา่ งๆ ในการประชุม สมั มนา เช่น Microsoft PowerPoint, OpenOffice Impress เป็นตน้ 4. ซอฟต์แวร์ดา้ นการจัดการฐานข้อมลู (Database Management Software) ใชส้ ำหรับจดั เก็บ ข้อมูลจำนวนมาก สามารถเรียกใชง้ านได้ สร้างตวั ตดิ ต่อกบั ฐานข้อมูลเพือ่ เรียกใช้ทำงานได้ เชน่ Microsoft Access, OpenOffice Base เปน็ ต้น 5. ซอฟตแ์ วรด์ า้ นงานพิมพ์ (Publishing Software) ใช้สำหรับสรา้ งเอกสารสำหรบั งานพมิ พแ์ ผน่ พบั หนงั สอื นามบัตร สือ่ ประชาสมั พันธ์ต่าง ๆ เช่น Microsoft Publisher, Adobe InDesign เปน็ ตน้ 6. ซอฟต์แวร์ดา้ นสื่อรปู ภาพ (Graphic Software) ใช้สำหรบั ออกแบบตกแตง่ ภาพ สามารถแบง่ ออกเป็นประเภทต่างๆ เชน่ Adobe Photoshop, Adobe Illustrator, Paint, CorelDraw, SketchUp Pro เป็น ตน้ ซอฟตแ์ วรส์ ำหรับออกแบบ เขยี นแบบ 2D, 3D เช่น AutoCAD และประเภทออกแบบภาพ Diagram ต่างๆ เชน่ Microsoft Visio 7. ซอฟตแ์ วร์ด้านส่ือผสม (Multimedia Software) เป็นโปรแกรมทีร่ วบรวมทง้ั ข้อความ รปู ภาพ เสียงวิดโี อ ภาพเคลอื่ นไหว ใหส้ ามารถทำงานร่วมกันไดแ้ สดงออก เพม่ิ ความนา่ สนใจของผลงาน เช่น Windows Movie Maker, Proshow, Corel VideoStudio Pro X5, Adobe Premiere Pro เป็นตน้ 8. ซอฟตแ์ วรด์ ้านการตดิ ต่อสอื่ สาร (Telecommunication Software) เป็นโปรแกรมทีใ่ ช้ในการ ติดต่อ พดู คยุ แลกเปลยี่ นสือ่ ต่างๆ ผา่ นสงั คมออนไลน์ เช่น facebook, Line, Skype เปน็ ต้น 9. ซอฟตแ์ วร์เกย่ี วกบั เบราว์เซอร์ (Web Browser Software) ใชแ้ สดงขอ้ มลู ที่แสดงผ่านเครือข่าย ตา่ งๆ ท่ัวโลก เช่น Internet Explorer, Google Chrome, Mozilla Firefox, Safari เป็นตน้ 10. ซอฟตแ์ วรอ์ รรถประโยชนใ์ นการใชง้ าน (Utility Software) เป็นโปรแกรมทส่ี รา้ งขึน้ เพื่อเพมิ่ ความสะดวก รวมไปถงึ ความบนั เทงิ ให้กบั ผู้ใชง้ าน เชน่ WinRAR, Nero, Anti-Virus เปน็ ต้น ซอฟต์แวรเ์ ฉพาะดา้ น (Special Purpose Software) ถงึ แมว้ า่ ซอฟต์แวร์ทวั่ ไปนน้ั จะสามารถใชง้ านได้หลากหลายรปู แบบ แตห่ น่วยงานธุรกจิ หลายๆ ประเภทน้ันมีข้อมูลรับเข้านำออกมากเกินกวา่ ท่ีจะใช้งานซอฟต์แวรท์ ่วั ไปในการจัดการบริหารงาน และเพือ่ ใหง้ าน ออกมาเป็นระบบมีแบบแผนมากย่งิ ขึ้นหน่วยงานกจ็ ำเปน็ ต้องสร้างงานซอฟตแ์ วรเ์ ฉพาะธุรกิจหรอื หนว่ ยงานข้ึนเพื่อ ใช้งานเอง เชน่ งานรับจองตัว๋ เครื่องบนิ งานโรงแรม งานธนาคาร งานบญั ชีบรษิ ทั เปน็ ต้น
11 บคุ ลากรทางคอมพวิ เตอร์ (Peopleware) องค์ประกอบสำคัญ ในความสำเรจ็ ของระบบสารสนเทศ บคุ ลากรมคี วามรู้ความสามารถทางคอมพิวเตอร์ มากเท่าใด โอกาสทจ่ี ะใชง้ านระบบสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์ได้เตม็ ศกั ยภาพและคุ้มค่ายิ่งมากขน้ึ เท่านั้น ผูใ้ ช้มโี อกาสพัฒนาความสามารถของตนเองและพัฒนาระบบงานได้เองตามต้องการ บุคลากรทางคอมพวิ เตอร์ เช่น - นักวิเคราะหร์ ะบบ (System Analysis) - โปรแกรมเมอร์ (Programmer) - วิศวกรระบบ (System Engineer) - ผบู้ รหิ ารระบบงาน (Administrator) - พนกั งานปฏบิ ตั ิการ (Operator) - ผู้ใช้ (End-User) ข้อมลู (Data) เปน็ องคป์ ระกอบที่สำคญั อกี ประการหนงึ่ ของระบบสารสนเทศ การเกบ็ ขอ้ มูลจากแหล่งกำเนดิ ขอ้ มูล จะตอ้ ง มีความถูกตอ้ ง มกี ารตรวจสอบแลว้ เทา่ น้ันจึงจะมปี ระโยชน์ ข้อมลู จำเปน็ จะต้องมีมาตรฐานเม่อื ใชง้ านใน ระดบั กล่มุ หรือระดบั องค์การขอ้ มูลตอ้ งมีโครงสรา้ งในการจดั เกบ็ ท่เี ป็นระบบระเบียบเพือ่ การสืบคน้ ทร่ี วดเรว็ มี ประสทิ ธิภาพ ข้นั ตอนการปฏบิ ัตงิ าน (Procedure) ขัน้ ตอนการปฏิบัตงิ านของผใู้ ชห้ รือของบุคลากรที่เก่ียวขอ้ งเปน็ เรอื่ งสำคัญ เม่ือได้พฒั นาระบบงาน แลว้ ขณะท่ีใชง้ านก็จำเป็นตอ้ ง คำนงึ ถึงลำดับข้ันตอนของคนและความสัมพนั ธ์กับเครื่อง ทั้งในกรณีปกติและกรณี ฉุกเฉนิ เชน่ การบันทึกข้อมูล การประมวลผล การปฏบิ ตั งิ านเมื่อเคร่ืองชำรุดหรอื ข้อมูลสูญหาย และการทำสำเนา ข้อมูลสำรองเพื่อความปลอดภยั และการทำเอกสารค่มู ือการใชง้ านทชี่ ัดเจน ระบบการส่ือสารขอ้ มูล (Data Communication System) ระบบสอื่ สารขอ้ มูลเป็นปัจจัยสำคัญในการเชอื่ มต่อสารสนเทศ ทำใหม้ กี ารใช้งานสารสนเทศได้มี ประสทิ ธภิ าพ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านนท้ี ำให้ทุกภาคส่วนต้องมีการปรับตวั เพ่อื รองรบั กบั ความ เปลย่ี นแปลงอย่างรวดเร็ว และนำมาใช้ประโยชนก์ ับองคก์ ร ระบบเครอื ขา่ ยและระบบโทรคมนาคมช่วยทำใหก้ าร ติดตอ่ ส่ือสาร การแลกเปลี่ยนข้อมูลงา่ ย สะดวก รวดเรว็ คา่ ใช้จ่ายน้อยลง เช่น มีการใช้สัญญาน Wifi ระบบ 4G ซ่งึ กำลงั จะเปล่ียนเป็น 5G ในไม่ช้า อินเทอร์เนต็ ก็เปน็ ชอ่ งทางหน่งึ ทม่ี คี วามสำคญั ในการใช้ระบบสารสนเทศ
12 กจิ กรรม(ยอ่ ย)ระหวา่ งเนื้อหา
13 เน้ือหา ผลกระทบของการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ปจั จบุ ันคอมพิวเตอร์และระบบสอื่ สารไดส้ รา้ งประโยชนอ์ ยา่ งมากตอ่ วงการธุรกิจ ทำใหท้ ุกธุรกจิ มกี าร ลงทนุ ขยายขอบเขตการให้บริการโดยใช้ระบบสารสนเทศกนั มาก กลไกเหล่าน้ที ำให้โอกาสในการขยายตัวของ เทคโนโลยีสารสนเทศกวา้ งขวางเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การเช่ือมโยงเครือขา่ ยคอมพิวเตอรท์ ำให้สังคมโลกเป็นสงั คม แบบไร้พรมแดน การใช้งานเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ เชน่ อินเทอร์เนต็ มอี ตั ราการขยายตัวสงู มาก ผคู้ นบนโลก สามารถติดต่อสอ่ื สารกนั ผา่ นทางเครอื ข่ายอินเทอรเ์ นต็ ได้หมด ผลกระทบในทางบวก ปัจจบุ ันกำลังกา้ วเข้าสู่การปฏิวัติเพอื่ เข้าสยู่ คุ สารสนเทศ การสื่อสารท่ีใหข้ า่ วสารไดอ้ ย่างรวดเรว็ จน ทำให้โลกมลี ักษณะไรพ้ รมแดน สิ่งเหลา่ นจ้ี ะมีผลกระทบในทางท่ีดหี รอื ทางบวกต่อสงั คมโดยตรง เช่น 1. ชว่ ยส่งเสริมความสะดวกสบายของมนุษย์ เทคโนโลยสี ารสนเทศชว่ ยทำใหม้ นษุ ยม์ ีความเปน็ อยู่ดี ขน้ึ ช่วยสง่ เสรมิ ให้มีประสิทธภิ าพในการทำงาน มีเครอื่ งมอื ส่อื สารโทรคมนาคมสมยั ใหม่ ทำใหต้ ิดต่อถึงกนั ได้ สะดวก มรี ะบบคมนาคมขนส่งทร่ี วดเรว็ สามารถใชโ้ ทรศพั ท์ในขณะเดินทางไปมายงั ที่ตา่ งๆ มีอปุ กรณอ์ ำนวยความ สะดวกทคี่ วบคุมดว้ ยคอมพิวเตอร์ เชน่ ลฟิ ต์ เครอ่ื งซกั ผ้า เครื่องปรับอากาศ มีเครื่องช่วยใหเ้ กดิ การพักผ่อนหยอ่ น ใจ เช่น วทิ ยุ โทรทัศน์ มกี ารแพรก่ ระจายสัญญาณ โทรทศั นผ์ า่ นดาวเทียม สามารถรับรู้ข่าวสารต่างๆ จากทั่วทุก มุมโลก ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 2. ชว่ ยทำใหก้ ารผลิตในอุตสาหกรรมดขี ้นึ ระบบการผลติ สนิ คา้ ในปัจจบุ ันเป็นระบบทีต่ ้องการผลติ สนิ ค้าจำนวนมาก มคี ุณภาพมาตรฐาน การผลิตในสมยั ปจั จุบันใช้เครอ่ื งจักรทำงานอย่างอัตโนมตั ิ สามารถทำงาน ได้ตลอดยีส่ ิบสี่ชวั่ โมง ปัจจบุ นั มีการนำหุ่นยนต์เข้ามาชว่ ยในอตุ สาหกรรมการผลิตเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงมีผลต่อการผลิตมาก 3. ชว่ ยส่งเสริมการค้นคว้าวจิ ยั สิ่งใหม่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และระบบส่อื สาร เชน่ เครอื ขา่ ย คอมพิวเตอร์ ชว่ ยใหง้ านค้นคว้าวจิ ยั ในหอ้ งปฏบิ ัติการวิจยั ต่างๆ มคี วามกา้ วหนา้ ยง่ิ ขึน้ ปจั จุบันงานคน้ คว้าวิจยั ทกุ แขนงจำเป็นตอ้ งใชค้ อมพิวเตอร์ช่วยในการคำนวณต่างๆ นักวจิ ัย นักวทิ ยาศาสตร์ ใชป้ ระโยชน์จากคอมพวิ เตอร์ ในการจำลองรปู แบบของสง่ิ ที่มองไม่เห็นตัว ใช้ในการคน้ หาข้อมลู ที่มีจำนวนมากและแพร่กระจายอย่ทู ่ัวโลก สามารถค้นหารายงานวิจัยที่มผี เู้ คยทำไว้แล้วและทเ่ี กบ็ ไวใ้ นห้องสมดุ ตา่ งๆ ได้อยา่ งรวดเร็ว 4. ชว่ ยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยใู่ หด้ ีขึน้ คอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณท์ ี่เก่ียวกับเทคโนโลยี สารสนเทศ ทำให้กจิ การทางด้านแพทย์เจรญิ ก้าวหนา้ ข้นึ อกี มาก ปจั จุบันเคร่ืองมือเคร่ืองใชท้ างการแพทย์ล้วน แล้วแต่ใช้คอมพวิ เตอร์ชว่ ยในการดำเนนิ การ
14 5. ช่วยส่งเสริมสติปัญญาของมนุษย์ คอมพิวเตอร์เปน็ เครือ่ งมอื ท่ชี ่วยในการเรยี นรูข้ องมนษุ ยไ์ ดด้ ี ปจั จุบนั มกี ารนำบทเรียนมาไว้ในคอมพวิ เตอรเ์ รียกวา่ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) คอมพิวเตอรย์ งั เปน็ เครือ่ งมือท่ีใหน้ ักเรยี น นิสิต นักศึกษาเชือ่ มโยงติดตอ่ กันทางอนิ เทอรเ์ นต็ สามารถศึกษา คน้ คว้าข้อมูลข่าวสารผ่านทางเครือข่าย สามารถเรยี นรกู้ ารใช้คอมพวิ เตอร์หรอื เรียนจากทหี่ า่ งไกลได้ 6. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้เศรษฐกิจเจรญิ ร่งุ เรอื ง การใช้เทคโนโลยีเป็นเรอ่ื งทจี่ ำเปน็ ตอ่ อตุ สาหกรรม กิจการค้า ธรุ กิจต่างๆ กิจการทางด้านธนาคาร ช่วยสง่ เสรมิ งานทางด้านเศรษฐกจิ ทำใหก้ ระแสเงนิ หมนุ เวยี นได้อยา่ งกว้างขวาง ผ้ผู ลิตในสายอุตสาหกรรมจะผลิตสนิ คา้ ไดม้ าก ลดตน้ ทุน ธุรกจิ โดยรวมจำเปน็ ต้อง อาศยั การแลกเปล่ียนข้อมูลระหว่างกัน มีการสือ่ สารเกยี่ วข้องกนั เกดิ ระบบการแลกเปล่ยี นข้อมลู ทางอเิ ล็กทรอนิกส์ 7. ช่วยใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจอันดีระหว่างกัน การส่ือสารโทรคมนาคมสมัยใหมช่ ว่ ยย่นยอ่ โลกให้เลก็ ลง โลกมสี ภาพไร้พรมแดน มีการเรียนรวู้ ฒั นธรรมซึ่งกนั และกนั มากขน้ึ เกดิ ความเขา้ ใจซึ่งกันและกนั ไดด้ ี ทำให้ลด ปญั หาในเรื่องความขดั แย้ง สังคมไรพ้ รมแดนทำใหม้ ีความเป็นอย่แู บบรวมกลุ่มประเทศมากข้ึน 8. ช่วยส่งเสริมประชาธิปไตย ในการเลือกต้งั สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรทกุ คร้งั มกี ารใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศเพือ่ กระจายขา่ วสาร เพอ่ื ใหป้ ระชาชนไดเ้ หน็ ความสำคญั ของระบบประชาธปิ ไตย แมแ้ ตก่ ารเลอื กตัง้ ก็มี การใชค้ อมพิวเตอร์รวมผลคะแนน ใชส้ ื่อโทรทศั น์ วทิ ยุ แจง้ ผลการนับคะแนนท่ีทำให้ทราบผลได้อย่างรวดเรว็ ผลกระทบในทางลบ ตัง้ แตเ่ ทคโนโลยีสารสนเทศไดเ้ ข้ามามบี ทบาทในชีวติ ประจำวนั มากข้นึ การใช้เทคโนโลยีเปน็ ไปอยา่ ง กว้างขวาง การใช้เทคโนโลยไี ปในด้านตา่ งๆ ซึ่งแนน่ อนย่อมตอ้ งมที ัง้ คณุ และโทษ ภาพยนตร์หลายเร่ืองไดส้ ะท้อน ความคดิ ของการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในทางลบ ผลกระทบในทางลบเหล่าน้ีบางอย่างเป็นเพยี งการ คาดคะเนเท่าน้ันอาจไม่ไดเ้ กิดขนึ้ จริง แตอ่ ย่างไรกต็ ามย่อมมโี อกาสเกดิ ขึ้นได้ เช่น 1. ทำใหเ้ กิดอาชญากรรม เทคโนโลยสี ารสนเทศสามารถนำมาใช้ในการก่อใหเ้ กิดอาชญากรรมได้ มี การลักลอบใช้ข้อมลู ข่าวสาร มกี ารโจรกรรมหรือแกไ้ ขตวั เลขบญั ชี การแกไ้ ขระดับคะแนนผเู้ รยี น การแกไ้ ขข้อมลู ในโรงพยาบาลเพือ่ ให้การรักษาพยาบาลคนไข้ผดิ ซึ่งเปน็ การทำรา้ ยหรือฆาตกรรม 2. ทำใหเ้ กิดความสมั พนั ธข์ องมนุษย์เส่ือมถอย การใชค้ อมพิวเตอร์และอปุ กรณ์สอ่ื สารทำให้สามารถ ติดตอ่ สอ่ื สารกันไดโ้ ดยไมต่ ้องเห็นตัว การใช้งานคอมพวิ เตอรห์ รือแม้แต่การเลน่ เกม มีลักษณะการใชง้ านเพียงคน เดยี ว ทำให้ความสัมพันธ์กบั ผู้อนื่ ลดนอ้ ยลง ผลกระทบนท้ี ำให้มคี วามเชือ่ วา่ มนษุ ยสัมพนั ธข์ อบุคคลจะลดนอ้ ยลง สังคมใหม่จะเป็นสงั คมที่ไม่ต้องพึง่ พากันมาก 3. ทำให้เกิดความวิตกกงั วล ผลกระทบน้เี ปน็ ผลกระทบทางดา้ นจิตใจของกลุม่ บคุ คลบางกลมุ่ ทีม่ ี ความวิตกกังวลว่าคอมพิวเตอรอ์ าจทำใหเ้ กิดการว่าจา้ งงานนอ้ ยลง มกี ารนำเอาห่นุ ยนตม์ าใชง้ านมากขึ้น มีระบบ การผลติ ท่ีอตั โนมตั ิมากข้ึน ทำให้ผู้ใช้แรงงานอาจตกงาน หรอื หน่วยงานอาจเลิกวา่ จา้ งได้
15 4. ทำใหเ้ กิดการเสี่ยงภยั ทางด้านธุรกิจ ธรุ กิจในปจั จุบนั จำเป็นต้องพึง่ พาอาศยั เทคโนโลยีสารสนเทศ มากข้นึ ขอ้ มูลข่าวสารทั้งหมดของธรุ กิจฝากไว้ในศูนยข์ อ้ มลู เชน่ ขอ้ มูลลูกหนก้ี ารค้า ขอ้ มูลสินค้าและบรกิ ารต่างๆ หากเกิดการสูญหายของขอ้ มูล อนั เนือ่ งมาจากเหตอุ บุ ัตภิ ัย เช่น ไฟไหม้ นํา้ ทว่ ม หรือดว้ ยสาเหตุใดก็ตามท่ที ำให้ ข้อมูลสูญหายหมด ยอ่ มทำให้เกดิ ผลกระทบตอ่ ธรุ กจิ ได้ 5. ทำให้การพฒั นาอาวธุ มอี ำนาจทำลายสูงมากขนึ้ ประเทศท่เี ปน็ ต้นตำรับของเทคโนโลยี สามารถ นำเอาเทคโนโลยีไปใช้ในการสร้างอาวุธทม่ี อี านภุ าพการทำลายสงู อาจมีผลต่อสงครามทมี่ กี ารทำลายลา้ งสงู เกิดขึน้ ได้ 6. ทำใหเ้ กิดการแพร่วัฒนธรรมและกระจายขา่ วสารทีไ่ มเ่ หมาะสมอย่างรวดเรว็ คอมพวิ เตอรเ์ ปน็ อปุ กรณท์ ท่ี ำงานตามคำสงั่ การนำมาใชใ้ นทางใดจึงขึ้นอยกู่ บั ผ้ใู ช้ จรยิ ธรรมการใช้คอมพวิ เตอร์ซ่งึ เปน็ เรือ่ งสำคัญ ผสู้ ร้างเวบ็ ไซตห์ รือสรา้ งขอ้ มูลข่าวสารในเร่อื งภาพทไี่ มเ่ หมาะสม เช่น ภาพอนาจาร หรือภาพที่ทำให้ผู้อ่นื เสียหาย การดำเนินการเชน่ น้ยี ่อมขน้ึ อย่กู บั จริยธรรมของผดู้ ำเนินการ นอกจากนี้ยงั มีการปลอมแปลงระบบจดหมาย เพื่อสง่ จดหมายถงึ ผู้อืน่ โดยมเี จตนากระจายข่าวที่เป็นเท็จ จริยธรรมและความรบั ผดิ ชอบในการใช้คอมพวิ เตอรก์ ับระบบสารสนเทศ จรยิ ธรรม หมายถงึ หลกั ศีลธรรมจรรยาท่ีกำหนดขนึ้ เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบตั ิ หรือควบคุมการใช้ ระบบคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ ซงึ่ เมอ่ื พิจารณาจรยิ ธรรมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ แล้วสามารถสรปุ ได้ 4 ประเดน็ ไดแ้ ก่ 1. ความเป็นส่วนตวั (Information Privacy) ความเปน็ สว่ นตวั ของขอ้ มลู และสารสนเทศ โดยทั่วไปหมายถึงสทิ ธิทีจ่ ะอยูต่ ามลำพงั และเปน็ สิทธทิ ่ี เจา้ ของสามารถทีจ่ ะควบคมุ ข้อมูลของตนเองในการเปดิ เผยใหก้ ับผูอ้ ืน่ ปจั จุบนั มปี ระเดน็ เกย่ี วกบั การละเมดิ ความ เป็นสว่ นตัวทเ่ี ป็นขอ้ น่าสงั เกตดงั น้ี » การเข้าไปดูขอ้ ความในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์และการบันทึกขอ้ มลู ในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ รวมทั้ง การบนั ทกึ -แลกเปลี่ยนขอ้ มูลที่บคุ คลเขา้ ไปใช้บริการเว็บไซต์และกล่มุ ขา่ วสาร » การใชเ้ ทคโนโลยีในการติดตามความเคลื่อนไหวหรือพฤตกิ รรมของบคุ คล เช่น บรษิ ทั ใช้ คอมพิวเตอรใ์ นการตรวจจบั หรือเฝ้าดูการปฏิบัตงิ าน/การให้บริการของพนกั งาน » การใชข้ ้อมูลของลูกคา้ จากแหลง่ ต่างๆ เพ่ือผลประโยชนใ์ นการขยายตลาด » การรวบรวมหมายเลขโทรศัพท์ ทอี่ ยอู่ เี มล์ หมายเลขบัตรเครดิต และข้อมูลส่วนตัวอืน่ ๆ เพ่ือ นำไปสร้างฐานข้อมลู ประวัติลกู คา้ ใหมข่ ึ้นมาแลว้ นำไปขายให้กบั บรษิ ัทอน่ื 2. ความถกู ตอ้ ง (Information Accuracy) ในการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการรวบรวม จัดเก็บ และเรียกใชข้ อ้ มูลนน้ั คณุ ลักษณะท่ีสำคญั ประการ หนงึ่ คือความนา่ เชอ่ื ถอื ไดข้ องข้อมูล ท้ังนขี้ ้อมูลจะมคี วามน่าเช่ือถือมากน้อยเพียงใดยอ่ มขึน้ อยกู่ บั ความถูกตอ้ ง
16 ในการบนั ทึกขอ้ มูลดว้ ย ประเด็นด้านจริยธรรมทีเ่ ก่ียวกับความถกู ต้องของขอ้ มลู โดยทัว่ ไปจะพิจารณาว่าใคร จะเป็นผรู้ บั ผดิ ชอบต่อความถูกตอ้ งของข้อมูลที่จดั เกบ็ และเผยแพร่ 3. ความเปน็ เจ้าของ (Information Property) ในสงั คมของเทคโนโลยีสารสนเทศมักจะกล่าวถึงการละเมดิ ลขิ สิทธซ์ิ อฟตแ์ วร์ เมอื่ ท่านซอื้ โปรแกรม คอมพิวเตอร์ทม่ี ีการจดลขิ สิทธ์ิ น่นั หมายความว่าทา่ นจ่ายค่าลิขสิทธใิ์ นการใชซ้ อฟตแ์ วรน์ ั้น ซ่ึงลิขสิทธิ์ในการใช้จะ แตกตา่ งกนั ไปในแตล่ ะสนิ ค้าและบริษัท บางโปรแกรมอนุญาตให้ติดตั้งไดเ้ พยี งเคร่ืองเดียว ในขณะที่บางโปรแกรม อนญุ าตใหใ้ ชไ้ ดห้ ลายเครอื่ ง ตราบใดท่ีทา่ นยังเปน็ บุคคลที่มีสิทธิในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ซอ้ื มา การคัดลอก โปรแกรมให้กบั บุคคลอนื่ เป็นการกระทำท่ตี ้องพจิ ารณาใหร้ อบคอบกอ่ นว่าทา่ นมีสิทธิในโปรแกรมน้นั ในระดับใด 4. การเขา้ ถึงข้อมูล (Data Accessibility) คือ การปอ้ งกนั การเข้าไปดำเนนิ การกบั ขอ้ มลู ของผูใ้ ช้ท่ไี มม่ ีส่วนเก่ียวข้อง และเปน็ การรักษาความลับ ของข้อมูล ตัวอย่างสทิ ธิในการใช้งานระบบ เชน่ การบนั ทึก การแกไ้ ข/ปรับปรุง และการลบ เป็นต้น ดงั น้นั ในการ พัฒนาระบบคอมพิวเตอรจ์ งึ ได้มกี ารออกแบบระบบรกั ษาความปลอดภยั ในการเข้าถงึ ข้อมลู ของผ้ใู ช้ และการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ของผูอ้ ื่นโดยไม่ไดร้ บั ความยินยอมนนั้ ถือวา่ เปน็ การผิดจริยธรรมเช่นเดยี วกับการละเมดิ ข้อมลู ส่วนตวั ในการ ใช้งานคอมพวิ เตอรแ์ ละเครอื ข่ายรว่ มกนั หากผูใ้ ช้รว่ มใจกนั ปฏบิ ัตติ ามระเบียบและขอ้ บงั คับของแต่ละหน่วยงาน อย่างเครง่ ครัดแล้ว การผิดจริยธรรมตามประเดน็ ท่ีกลา่ วมาข้างตน้ กค็ งจะไมเ่ กิดขน้ึ จรรยาบรรณการใช้เครอื ข่ายสงั คมออนไลน์ 1. ให้ระมัดระวงั การละเมดิ หรือสรา้ งความเสียหายใหผ้ ู้อ่นื 2. ใหแ้ หล่งทีม่ าของข้อความ ควรอา้ งองิ แหล่งข่าวได้ 3. ไมก่ ระทำการรบกวนผ้อู ื่นดว้ ยการโฆษณาเกินความจำเป็น 4. ดูแลและแก้ไขหากตกเป็นเหยื่อจากโปรแกรมอันไม่พงึ ประสงค์ เพือ่ ปอ้ งกนั มใิ หค้ นอืน่ เปน็ เหยือ่
17 กจิ กรรม(ยอ่ ย)ระหวา่ งเนื้อหา
18 แบบทดสอบหลงั เรยี น จงเลอื กคำตอบท่ีถูกท่ีสุด 1. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ที่ได้จากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ 5. Microsoft Office เป็นซอฟต์แวร์ประเภทใด กับการลงทะเบียนเรียนของผู้เรียน ก. ซอฟต์แวร์อรรถประโยชน์ ก. เป็นท่ีนิยมใช้กับการลงทะเบียนของผ้เู รียนเพ่อื ให้ผ้เู รียนได้ ข. ซอฟต์แวร์เพ่ือการประมวลผล ทำการลงทะเบียนเอง ค. ระบบปฏิบัติการ ข. ทำให้เป็นคนทันสมัย ง. ซอฟต์แวร์สำเรจ็ รูปเฉพาะด้าน ค. สามารถตรวจสอบผลการลงทะเบียนได้ทันที จ. ซอฟต์แวร์ประยกุ ต์ ง. เป็นการประมวลผลข้อมูลแบบเช่ือมตรง 6. ข้อใด ไม่ใช่ Output Unit ของระบบคอมพิวเตอร์ จ. ไม่มีข้อใดถูก ก. Touch Pad 2. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ ข. Printer ก. มีรูปแบบและขั้นตอน ค. Speaker ข. มีความถูกต้อง ง. Monitor ค. มีความน่าสนใจ จ. Head Phone ง. มีความน่าเช่ือถือ 7. งบกำไรขาดทนุ เปน็ ส่วนใดของระบบสารสนเทศ จ. รวดเร็วและตรงเวลา ก. เผยแพร่ข้อมูล 3. ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศต่อมนุษย์ในดา้ นลบคอื ข้อ ข. จัดเก็บข้อมูล ใด ค. ข้อมูล ก. การทำงานเปลี่ยนไป ง. สารสนเทศ ข. การติดต่อส่อื สาร จ. ประมวลผลข้อมูล ค. การจ้างงาน 8. การอบรมการใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์ถือเป็นส่วนใดของ ง. ความเสอื่ มถอยของจริยธรรม ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ จ. การบรโิ ภคเปล่ยี นไป ก. Hardware 4. องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศใดท่มี ีการพัฒนาอย่าง ข. Peopleware รวดเร็ว ค. Procedure ก. ระบบสาธารณูปโภค ง. Software ข. ระบบ NFC จ. Data ค. ระบบการจัดเก็บข้อมลู ง. ระบบส่ือสารโทรคมนาคม จ. ระบบการศึกษา
19 9. นายเฉลิมไปอ่าน E-mail ของแพรวาเปน็ การผิดจริยธรรมดา้ น ใด ก. การเข้าถงึ ข้อมลู ข. ความเปน็ เจ้าของ ค. ความถูกต้อง ง. ทำผิดจริยธรรมทุกข้อ จ. ความเป็นส่วนตัว 10. สิ่งท่ไี ม่ควรทำในการใช้คอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ ก. แก้ไขข้อมูลของผู้อน่ื โดยไม่บอกด้วยความหวังดี ข. ระมัดระวังในการสร้างความเสียหายให้ผู้อ่นื ค. ต้องไม่ใช้คอมพวิ เตอร์เพ่อื การโจรกรรมข้อมลู ข่าวสาร ง. ต้องไม่ใช้คอมพวิ เตอร์รบกวนคนอื่น จ. ให้ระมัดระวังในการละเมิดความเสียหายให้ผ้อู น่ื
20 ข้อ 1 ข เฉลย ขอ้ 2 ง ขอ้ 3 ค ขอ้ 6 ก ข้อ 4 ง ขอ้ 7 ง ขอ้ 5 จ ข้อ 8 ค ข้อ 9 จ ขอ้ 10 ก
แนวทางในการวดั ผลและประเมนิ ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ในรายวิชา คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ ระดับ ปวช. 2 ได้ กำหนดกรอบการวดั และ ประเมินผลผูเ้ รยี น 3 ด้านดงั น้ี รายการประเมนิ วธิ กี ารวัด เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ ดา้ นความรู้ (K) - การทดสอบ แบบประเมนิ ผล นักเรยี นได้คะแนนร้อยละ 60 ขึน้ ไป ถือว่า “ผ่าน” การประเมินดา้ นทกั ษะ - ขน้ั ตอนการทำ ลำดับข้นั ตอน กระบวนการ (P) การประเมินด้าน - การสังเกต คุณลักษณะ (A)
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: