โครงงานไทย

โครงงาน เรอื่ งคาราชาศพั ท์ จดั ทาโดย นางสาวชฎาพร วงคค์ าไชย์ เลขที่ ๒๒ นางสาว ธารวมิ ล ไผธ่ นโชต เลขที่ ๒๓ นางสาว พราภรณ์ วงสาลี เลขท่ี ๒๕ นางสาว พมิ พช์ นก ทองแกว้ เลขที่ ๒๗ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔/๕ เสนอ คณครปู ระวตั ศิ รี อกุ อาจ โครงงานนเี้ ปน็ สว่ นหนงึ่ ของวชิ าภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ โรงเรยี นประสาวทิ ยาคาร อาเภอปราสาท จงั หวดั สรุ นิ ทร์ สานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาสรุ นิ ทร์ เขต๓๓

ชอื่ นางสาวชฎาพร วงศ์คาไชย์ นางสาว ธารวมิ ล ไผธ่ นโชต นางสาว พราภรณ์ วงสาลี นางสาว พมิ พ์ชนก ทองแกว้ ช่ือเรอ่ื ง คาราชาศัพท์ รายวิชา ภาษาไทย ครทู ีป่ รึกษา คุรครปู ระวัติศรี ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ บทคดั ยอ่ การจัดทาโครงงานนีม้ วี ัตถุประสงค์เพื่อ ๑.เพื่อได้เรียนรูเ้ ก่ียวกบั ความหมายของคาราชาศัพท์ ๒.เพื่อใหไ้ ดค้ วามรู้ ๓.เพอ่ื ใช้อย่างถูกต้อง

คานา โครงงานนส้ี าเรจ็ ลลุ ่วงได้ด้วยความกรุณาของคณุ ครู ประวัตศิ รี อาจารยท์ ่ีปรกึ ษาโครงงานที่ให้คาเสนอแนะ แนวคิด ตลอดจนแกไ้ ขข้ อ้ บกพรอ่ งตา่ งๆของเน้อื หามาโดยตลอด จน โครงงานเล่มนีเ่ สร็จสมบูรณ์ ผู้ศกึ ษาจงึ ขอกราบขอบพระคณุ อยา่ งสงู ณ โอกาสน้ี ขอขอบคุณ นางสาวมยรุ ี ทรงวาจา นางสพุ นิ ทองแก้ว (ผปู้ กครองของท้ังสองในคณะผู้จดั ทา) ทช่ี ่วยเหลือท้ังด้านกาลัง ทรพั ย์ และอุปกรณ์ในการทาโครงงานดว้ ยดมี าลอด ขอขอบคุณสมาชิกในกลุ่มท่ีให้ความร่วมมอื และคาแนะนา ในการทาโครงงานมาด้วยดี จงึ สามารถใหโ้ ครงงานสาเรจ็ ลลุ ว่ ง ได้ นอกจากนยี้ ังมที ีใ่ หค้ วามร่วมมอื เหลอื อีกหลายท่าน ซ่งึ ผเู้ ขยี นไม่สามารถกลา่ วนามในทน่ี ไี้ ด้หมด จงึ ขอขอบคณุ ท่าน เหลา่ น้ันไว้ ณ โอกาสนดี้ ้วย คณะผจู้ ดั ทา ๒๙ สงิ หาคม ๒๕๖๒

สารบัญ ก เรอ่ื ง หนา้ บทคดั ยอ่ กติ ติกรรมประกาศ ข สารบัญ ค บทที่ ๑ บทนา ๑ ๑.๑. แนวคดิ ทมี่ าของโครงงาน ๑.๒. วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน ๑.๓. ขอบเขตของโครงงาน ๑.๔. วิธีการดาเนนิ การ ๑.๕ ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะได้รบั บทท่ี ๒ เอกสารทเ่ี กย่ี วข้อง ๒ ๒.๑ คาราชาศัพท์ ๒.๒ ท่ีมาของคาราชาศพั ท์

บทท่ี๓ วิธกี ารดาเนนิ งานโครงาน ๓ ๓.๑ วัสดอุ ปุ กรณ์ ๓.๒ ขนั้ ตอนการดาเนนิ โครงงาน บทท๔ี่ ผลการดาเนนิ งาน ๔ บทท๕ี่ สรปุ ผล อภปิ รายและขอ้ เสนอแนะ ๕ ๕.๑ วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงงาน ๕.๒ สรปุ ผลการดาเนนิ โครงงาน บรรณานุกรม ๖ ภาคผนวก ๗

บทที่ ๑ บทนา ๑.แนวคดิ ทม่ี าของโครงงาน ภาษาเปน็ สงิ่ สาคญั ในชวี ติ ของทกุ คน แตต่ าราชาศพั ทใ์ ช้กบั ราชวงค์ที่ เปน็ สงิ่ สาคญั อยางยงิ่ การใชค้ าราชาศพั ท์ ๒.วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงงาน ๒.๑ เพอ่ื ได้เรียนรเู้ กี่ยวกับความหมายของคาราชาศัพท์ ๒.๒เพอื่ ให้ได้ความรู้ ๒.๒เพื่อใช้อยา่ งถกู ต้อง ๓.ขอบเขตของโครงงาน

๓.๑.จดั ทาบตั รคา ๒๐ บตั รคา ๓.๒. ระยะเวลาในการทาโครงงาน ๑-๓๐ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ๔. วธิ กี ารดาเนนิ การ ๔.๑. ศกึ ษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู ของคารชาศพั ท์ ๔.๒. คัดแยกหมวดหมขู่ องคาราชาศพั ท์ ๔.๓. นาเสนอขอ้ มลู ทห่ี ามาได้ ๔.๔. จัดทารปู เลม่ เมอ่ื ผา่ นการอนุฒตั แิ ลว้ ๔.๕. นาเสนองาน ๕. ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั ๕.๑ ไดท้ ราบความหมายของคาราชาศพั ท์



บทท่ี ๒ เอกสารทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ในการศกึ ษาโครงงานเรอื่ ง คาราชาศพั ท์ ผจู้ ดั ทาไดร้ วบรวม แนวคดิ จากเอกสารทเี่ กย่ี วของตอ่ น้ี ๒.๑คาราชาศพั ท์ คาราชาศพั ทห์ มายถงึ คาศพั ท์สาหรับพระราชา เป็นภาษาท่ีกาหนด และ ตกแต่งข้นึ ให้สภุ าพ และเหมาะสม เพ่อื ใชพ้ ูดถึง หรือพดู กับ พระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศป์ ัจจบุ นั น้หี มายถึง คาสภุ าพที่ ใชก้ ับบคุ คลท่ีควรเคารพ การรู้เรอื่ งคาราชาศพั ท์เปน็ การเรียนรูใ้ นการ ใช้ภาษาให้ถูกตอ้ งตามกาลเทศะ และฐานะของบุคคล ภาษาไทยได้ กาหนดคาราชาศัพทข์ น้ึ ใช้ และมีวธิ ีการใชต้ ามระเบยี บแบบแผนของ ภาษาซึง่ นบั ว่า เปน็ วัฒนธรรมอยา่ งหน่งึ ท่ีแสดงออกทางด้านภาษาตาม รูปศพั ท์แลว้ คาราชาศัพท์ หมายถึงคาศพั ทท์ ่ีใชก้ ับราชา แตใ่ นยุคสมัย ที่เปลยี่ นไปน้นั มีการใชค้ าราชาศัพทใ์ นวงท่กี ว้างขึ้น จงึ ตีความหมาย ของคาราชาศพั ทร์ ุน่ ใหม่ ทมี่ าของคาราชาศพั ท์ ลักษณะของสงั คมไทยเป็นสถานที่มคี วามผกู พนั ฉันพน่ี ้องนบั ถือกันด้วย วัยวุฒิ คุณวุฒิ และชาติวุฒิ ลักษณะดงั กลา่ วจึงสะท้อนออกมา และ ปรากฏในภาษาไทย เชน่ การใชภ้ าษาทีส่ ุภาพกบั ผทู้ ี่มีวัยสูงกว่า การใช้ ภาษากนั เองกบั ผทู้ ี่สนิทสนมกนั หรอื การใชค้ าราชาศัพท์ กับ พระมหากษตั รยิ ์และพระราชวงศ์ เป็นตน้ และในสังคมไทยสมัยก่อนเปน็ สังคมท่ยี กยอ่ งผ้นู า ผูท้ ีม่ ีบุญญาธกิ ารผู้ท่ีประพฤติดี และผทู้ ี่ชว่ ยเหลือให้ ความสขุ แก่ราษฎร จงึ ได้มีการใชค้ าเพือ่ ยกย่องเทดิ ทนู พระมหากษัตรยิ ์ นอกจากนีไ้ ทยได้รับอทิ ธิพลของการนับถือพระมหากษตั ริยว์ ่า เป็น เทวราชาจากเขมร มีการใช้คา เพอื่ แสดงสถานะของพระมหากษัตรยิ ์ คาเหลา่ นนั้ จึงไดพ้ ัฒนามาเป็นคาราชาศพั ทท์ ่ใี ชอ้ ยู่ในปัจจุบนั ท่ีมาของ คาราชาศพั ท์ นอกจากจะมาจากลักษณะของสังคมไทย และความ เกีย่ วข้องกันทางประวัตศิ าสตรก์ ับประเทศเขมร แล้วยงั ได้มกี ารกาหนด

ตกแต่งภาษาขน้ึ มาเฉพาะ เป็นคาราชาศัพท์จากคาไทยท่มี ีอยแู่ ล้ว หรือ สร้างคาขึน้ ใหม่หรืออาจยมื มาจากภาษาอน่ื บทที่ ๓ วธิ กี ารดาเนนิ งานโครงาน ๓.๑ วัสดอุ ปุ กรณ์  กรรไกร สาหรบั ตดั บัตรคา  พลาสตกิ เคลอื บบตั ร จานวน ๖ แผ่น ๓.๒ ขนั้ ตอนการดาเนนิ โครงงาน  คดิ หัวข้อโครงงานเพ่อื นาเสนอครูทป่ี รึกษาโครงงาน  ศึกษาและคน้ คว้าข้อมูลทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เรือ่ งทส่ี นใจ คือเรื่อง คา ราชาศัพท์ ว่ามีเนือ้ หามากนอ้ ยเพียงใด และตอ้ งศึกษาค้นควา้ เพิม่ เตมิ เพียงใดจากเว็บไซส์ต่างๆและเกบ็ ข้อมลู ไว้เพื่อจดั ทา เนอ้ื หาตอ่ ไป  ปฏบิ ตั กิ ารจัดทาโครงงาน เรอ่ื ง คาราชาศพั ท์ นาเสนอรายงาน ความก้าวหน้าของงานเป็นระยะๆซง่ึ ครูท่ปี รึกษาจะให้ข้อเสนอแนะ ต่างๆ เพ่ือให้จัดทาเนือ้ หาและนาเสนอท่ีนา่ สนใจต่อไป ทั้งนเ้ี มอื่ ไดร้ ับคาแนะนากจ็ ะนามาปรับปรงุ แกไ้ ขใหด้ ยี ่ิงขึน้  จดั ทาบตั รคาราชาศัพท์

บทที่ ๔ ผลการดาเนนิ งาน จากการศึกษาคาราชาศพั ท์ ไดด้ าเนนิ การยกตวั อยา่ งการใช้กบั พระ มหากษตั รยแ์ ละความหมายของคา ดงั ตอ่ ไปน้ี พระอรุ ะ พระทรวง แปลวา่ อก พระหทัย พระกมล แปลวา่ หวั ใจ พระอทุ ร แปลวา่ ทอ้ ง พระนาภี แปลวา่ สะดอื พระกฤษฎี บน้ั พระองค์ พระกฏิ แปลวา่ เอว พระปรศั ว์ แปลวา่ สขี า้ งพระผาสุกะ แปลวา่ ซโ่ี ครง พระเศียร แปลว่า หวั ศรี ษะ

พระสริ ัฐิ ( สิ – รัด – ถิ ) พระสีสกฏาหะ แปลวา่ กะโหลกศรี ษะ พระนลาฏ แปลวา่ หนา้ ผาก พ ระขนง พระภมู แปลวา่ ควิ้ พระเนตร พระนยั นะ พระจักษุ แปลวา่ ดวงตา พระกนนี กิ า พระเนตรดารา แปลวา่ แกว้ ตา มา่ นพระเนตร แปลวา่ มา่ นตา ตอ่ มพระเนตร แปลวา่ ตอ่ มนา้ ตา พระนาสกิ พระนาสา แปลวา่ จมกู พระปราง แปลวา่ แกม้ พระทนต์ แปลวา่ ฟนั พระปีฬกะ แปลวา่ ปาน, ไฝ พระมัสสุ แปลวา่ หนวด

บทท๕่ี สรปุ ผล อภิปรายและข้อเสนอแนะ ๕.๑ วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงงาน  เพอื่ ศึกษาเก่ียวกบั คาราชาศพั ท์  ไดเ้ รียนรู้เก่ยี วกับความหมายของราชาศพั ท์  เพือ่ ใหร้ ู้จัดประสงค์ของการใช้ ๕.๒ สรปุ ผลการดาเนนิ โครงงาน การดาเนินโครงงานน้ีบรรลุวัตถปุ ระสงคท์ ี่ไดก้ าหนดไว้ คือเพื่อให้ ความรูแ้ ก่ผูท้ สี่ นใจเก่ียวกบั คาราชาศัพท์ จดั ทาเพ่ือเผยแพร่ ความหมาย ของคาราชาศัพทเ์ พ่อื ท่ีจะได้รบั รู้ ว่าใชใ้ นสถานการณใ์ ด และควรใช้ พร่าเพรอ่ หรือไม่ ๕.๓ ขอ้ เนอแนะ  ควรมีการจดั ทาเนอ้ื หาของโครงงานใหห้ ลากหลาย ไม่ใช่แค่เพยี ง เพราะบตั รคา ควรมสี ่อื หลายๆสื่อ

บรรณานกุ รม yuwadee.(2562).คาราชาศพั ท์.[ออนลน์]เขา้ ถึงจาก; https://teen.mthai.com/education/172016.html สบื คนเมอื่ 31 สงิ หาคม 2563.

ภาคผนวก