หนว่ ยท่ี 4 หน่วยท่ี 4 ความยดื หยนุ่ ของ อปุ สงค์ และอุปทาน Aporn On-nual
บทที่ 4 ความยืดหยุ่นของอุปสงค์และอุปทาน ความยืดหยุ่นของอปุ สงค์ (Elasticity of Demand) ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ (Elasticity of Demand) หมายถงึ อตั ราการเปล่ยี นแปลงความ ต้องการซื้อสินค้าต่ออตั ราการเปลยี่ นแปลงปัจจัยต่างๆ ทกี่ าหนดอปุ สงค์ เช่น ราคา รายได้ ราคา สินค้าชนิดอ่ืนทเ่ี กีย่ วข้อง เป็ นต้น ความยืดหยุ่นของอุปสงค์มี 3 ชนิด ดังนี้ 1. ความยืดหยุ่นของอปุ สงค์ต่อราคา ความยืดหยุ่นของอปุ สงค์ต่อราคา (Price Elasticity of Demand) เป็ นการวดั การเปลยี่ นแปลง ปริมาณความต้องการซื้อสินค้าเม่ือราคาสินค้าเปลยี่ นแปลง โดยวดั ออกมาในรูปของร้อยละ ความยืดหย่นุ ของอุปสงค์ต่อราคา (Ed) = % การเปลยี่ นแปลงของปริมาณความต้องการซื้อ % การเปลยี่ นแปลงของราคา โดยสูตรทใี่ ช้คานวณหาค่าความหยือหย่นุ น้ันมี 2 ลกั ษณะ คือ ก. สูตรความยืดหยุ่นของอุปงค์แบบจุด (Point elasticity of Demand) Ed = Q P หรือ Q2 Q1 P1 P2 P1 Q1 P Q โดยท่ี : Ed = ค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อราคา Q1 = ปริมาณความต้องการซื้อสินค้า ณ ระดับราคาเดิม Q2 P1 = ปริมาณความต้องการซื้อสินค้า ณ ระดบั ราคาใหม่ P2 = ราคาสินค้าเดิมก่อนมีการเปล่ียนแปลง = ราคาสินค้าหลงั การเปลยี่ นแปลง ตัวอย่าง สินค้าราคา 20 บาท มคี นซื้อ 10 ชิ้น แต่ราคาลดลงเป็ น 18 บาท คนจะซื้อเพม่ิ เป็ น 15 ชิ้น คึ ความหยือหยุ่นที่ A คือ
-2- Ed = 15 10 20 18 20 10 P = 5 A 20 B 18 10 15 D Q ค่าความยืดหย่นุ ที่ A = -5 หมายถึงว่า ถ้าราคาเปลยี่ นไป 1% ปริมาณซื้อจะเปลย่ี นไป 5% ส่วน เครื่องหมายเป็ นลบเนื่องจากความสัมพนั ธ์ระหว่างราคาและปริมาณความต้องการซื้อมที ศิ ทางตรงกนั ข้าม ค่าความยืดหยุ่นจะพจิ ารณาเฉพาะตวั เลขเท่าน้ัน สาหรับค่าความหยือหยุ่นทจี่ ุด B คือ Ed = 10 15 18 = 3 20 18 15 จะเห็นว่าค่าความยืดหยุ่นท่ีจุด A = -5 ท่ี B = -3 ได้ค่าไม่เท่ากนั ท้งั ๆทก่ี ารเปลย่ี นแปลงของ ปริมาณการซื้อ และราคาทม่ี ีค่าเท่ากนั เพยี งแต่การใช้ราคาปริมาณเร่ิมแรกท่ีแตกต่างกนั ดงั น้ันเพื่อ แก้ปัญหาว่าจะใช้ค่าใดเป็ นเริ่มแรก การคานวณค่าความยืดหยุ่นจึงมอี กี สูตรหนึ่ง คือ ข ค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์บนช่วงใดช่วงหนึ่งบนเส้นอปุ สงค์ (Arc elasticity of demand) คือ ช่วง AB =Ed Q2 Q1 P1 P2 P2 P1 Q1 Q2 = 15 10 20 18 = 3.8 18 20 10 15 ซึ่งค่า -3.8 นีไ้ ม่ว่าจะใช้ราคาและปริมาณใดเป็ นตัวเริ่มต้นกต็ ามจะได้ค่าเท่ากบั -3.8 เสมอ
-3- ลกั ษณะความยืดหยุ่นของอปุ สงค์ สามารถแบ่งลกั ษณะของอุปสงค์ตามระดับความยืดหย่นุ ของอปุ สงค์ได้ดังรูปที่ 3.1 ปัจจัยทก่ี าหนดค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์ ความยืดหย่นุ น้อย(Inelastic) ความยืดหยุ่นมาก (Elastic) - สินค้าทม่ี ีของทดแทนได้น้อย - สินค้าทม่ี ีของทดแทนได้มาก - สินค้าจาเป็ น - สินค้าฟ่ ุมเฟื อย - สินค้าทมี่ รี าคาเพยี งเลก็ น้อย - สินค้าคงทนถาวร ความสัมพนั ธ์ระหว่างค่าความยืดหย่นุ ของอุปสงค์กบั รายรับรวมจากการขายสินค้า รายรับรวม (Total Revenue) คานวณได้มาจากการคูณราคาด้วยปริมาณ หรือ รายรับรวาม = ราคา x ปริมาณ TR = P x Q
-4- ท้งั นี้ รายรับรวม อาจจะเพม่ิ ขนึ้ หรือลดลงหรือคงที่ ขึน้ อยู่กบั การเปลีย่ นแปลงปัจจัยทก่ี าหนด ปริมาณซื้อทม่ี ตี ่อการเปล่ยี นแปลงปริมาณมากน้อยเพยี งใด หรือขึน้ อย่กู บั ความยืดหยุ่นของอปุ สงค์ อย่างไรกด็ ี ในเชิงทฤษฏอี าจสร้างตารางความสัมพนั ธ์ระหว่างความหยืดหย่นุ กบั รายได้และราคาสินค้า ดงั ตารางต่อไปนี้ ตารางท่ี 1 ตารางความยืดหยุ่นและรายรับรวมในกรณลี ด - เพม่ิ ราคาสินค้า ความยืดหย่นุ มาก (Elastic) ความยืดหยุ่นคงที่(Unitary) ความยืดหย่นุ น้อย(Inelastic) P x Q TR P x Q TR P x Q TR ก. ราคาสินค้าลดลง 10 x 1,000 10,000 10 x1,000 10,000 10 x 1,000 10,000 9 x 2,000 18,000 9 x 1,111 10,000 9 x 1,050 9,450 8 x 3,000 24,000 8 x 1,250 10,000 8 x 1,100 8,800 ข. ราคาสินค้าเพม่ิ ขนึ้ 8 x 3,000 24,000 8 x 1,250 10,000 8 x 1,100 8,800 9 x 2,000 18,000 9 x 1,111 10,000 9 x 1,050 9,450 10 x 1,000 10,000 10 x 1,000 10,000 10 x 1,000 10,000 จากตารางแสดงความสัมพนั ธ์ของความยืดหย่นุ รายรับรวมและราคาจะสังเกตเห็นว่าถ้าราคา เปลย่ี นแปลงจะมผี ลต่อ (1) ปริมาณซื้อและ (2) รายรับท้งั หมด จากความสัมพนั ธ์นีเ้ ราจะนาไปใช้ในการ วางแผนการตลาดของสินค้าทจ่ี ะนาออกขายในท้องตลาด ทฤษฏีอุปสงค์ท้งั หมดทศี่ ึกษากเ็ พ่ือจะขจัด ปัญหาความไม่แน่นอนในธุรกจิ อกี นัยหน่ึง เพ่ือให้ได้กาไรสูงสุดผ้ขู ายทกุ คนควรทจ่ี ะต้องทราบ ลกั ษณะของความยืดหย่นุ ของอปุ สงค์ เพ่ือกาหนดนโยบายราคาและพยากรณ์รายได้ของผู้ขาย อนั เป็ น การนามาซึ่งกาไรสูงสุดของผ้ปู ระกอบการ จากหลกั ทฤษฏีเศรษฐศาสตร์ จึงอาจสรุปความสัมพนั ธ์ ระหว่างความยืดหยุ่นของราคากบั รายรับได้ดงั ต่อไปนี้ ความสัมพนั ธ์ระหว่างความหยืดหย่นุ ของอปุ สงค์กบั รายได้จากการขาย ราคาสินค้า Ed > 1 Ed = 1 Ed < 1 เพมิ่ TR ลด TR คงเดิม TR เพมิ่ ลด TR เพม่ิ TR คงเดมิ TR ลด
-5- 2. ความยืดหย่นุ ของอปุ สงค์ต่อรายได้ (Income Elasticity of Demand) อุปสงค์ต่อรายได้ หมายถึง จานวนต่างๆ ของสินค้าทผี่ ้บู ริโภคต้องการเสนอซื้อ ณ ระดบั รายได้ ต่างๆ ภายในระยะเวลาหน่ึง โดยกาหนดให้ปัจจัยอื่นๆ คงที่ ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ต่อรายได้ (Income Elasticity of demand) หมายถึง การวดั อตั ราการ เปลย่ี นแปลงปริมาณความต้องการซื้อสินค้าเมื่อรายได้เปลยี่ นแปลง ความยืดหยุ่นของอปุ สงค์ต่อรายได้ (Ey) = % การเปลย่ี นแปลงของปริมาณความต้องการซื้อ % การเปลย่ี นแปลงของรายได้ ก. สูตรความยืดหยุ่นอุปสงค์ต่อรายได้แบบจุด Ey = Q Y1 หรือ Q2 Q1 Y1 Y Q1 Y2 Y1 Q1 โดยที่ : Ey = ค่าความยืดหย่นุ ของอุปสงค์ต่อรายได้ Q1 = ปริมาณความต้องการซื้อสินค้า ณ ระดับรายได้เดมิ Q2 = ปริมาณความต้องการซื้อสินค้า ณ ระดับรายได้ใหม่ Y1 = ระดับรายได้เดมิ ก่อนการเปลี่ยนแปลง Y2 = ระดบั รายได้หลงั การเปลยี่ นแปลง ข. สูตรความยืดหยุ่นอปุ สงค์ต่อรายได้แบบช่วง =EY Q2 Q1 Y2 Y1 Y2 Y1 Q2 Q1 ถ้าค่าความยืดหย่นุ ของอปุ สงค์ต่อรายได้มีเคร่ืองหมายเป็ นบวกแสดงว่าเป็ นสินค้าปกติ (Normal Goods) หรือสินค้าฟ่ ุมเฟื อย (Superior Goods) และถ้ามเี คร่ืองหมายเป็ นลบแสดงว่าเป็ นสินค้าด้อย คุณภาพ (Inferior Goods) เพราะเมื่อผ้บู ริโภคมีรายได้เพม่ิ ขนึ้ จะซื้อสินค้าชนิดน้ันลดลง
-6- 3. ความยืดหยุ่นของอปุ สงค์ไขว้ (Cross - Price Elasticity of Demand) อุปสงค์ไขว้ หมายถงึ ปริมาณความต้องการซื้อสินค้าชนิดหนึ่ง ณ ระดับราคาต่างๆ พจิ ารณาต่อ สินค้าอกี ชนิดหน่ึงทเี่ กยี่ วข้องภายในระยะเวลาหน่ึง โดยกาหนดให้ปัจจัยอื่นๆ คงท่ี ความยืดหย่นุ ของอปุ สงค์ไขว้ (Cross - Price Elasticity of Demand) หมายถึง การวดั อตั ราการ เปลย่ี นแปลงปริมาณความต้องการซื้อสินค้าเม่ือราคาสินค้าชนิดอื่นทเี่ กยี่ วข้องเปลี่ยนแปลง สินค้าทเ่ี กยี่ วข้องกนั แบ่งได้ 2 ชนิด ดังนี้ สินค้าทใ่ี ช้ประกอบกัน (Complementary Goods) เป็ นสินค้าทใี่ นการอปุ โภคบริโภคต้องใช้ ร่วมกนั ถ้าขาดสิ่งใดส่ิงหนึ่งจะไม่สามารถบริโภคได้ เช่น รถยนต์และนา้ มัน เป็ นต้น ความสัมพนั ธ์ของ สินค้าทต่ี ้องใช้ประกอบกนั จะมที ศิ ทางตรงกนั ข้ามหรือเป็ น - สินค้าทดแทนกนั (Substitute Goods) เป็ นสินค้าทใ่ี นการอุปโภคบริโภค ถ้าหาสินค้าชนิดหน่ึง ไม่ได้สามารถใช้สินค้าอกี ชนิดหนึ่งทดแทนได้ เช่น เนื้อหมูกบั เนื้อไก่ เป็ นต้น ความสัมพนั ธ์ของสินค้าที่ ใช้ทดแทนกนั ได้จะมที ศิ ทางเดยี วกนั หรือเป็ น + ความยืดหยุ่นของอปุ สงค์ไขว้ (Ec) = %การเปลยี่ นแปลงของปริมาณความต้องการซื้อสินค้า A % การเปลยี่ นแปลงของราคาสินค้า B ก. สูตรความยืดหยุ่นอุปสงค์ไขว้แบบจุด QA PB QA2 QA1 P1 PB QA PB2 PB1 QA1 = หรือEy โดยท่ี : Ec = ค่าความยืดหย่นุ ของอปุ สงค์ไขว้ QA1 = ปริมาณความต้องการซื้อสินค้า A ณ ระดบั ราคาสินค้า B ก่อนการเปล่ยี นแปลง QA2 PB1 = ปริมาณความต้องการซื้อสินค้า A ณ ระดบั ราคาสินค้า B หลงั การเปลยี่ นแปลง PB2 = ราคาสินค้า B ก่อนการเปลยี่ นแปลง = ราคาสินค้า B หลงั การเปลยี่ นแปลง
-7- ข. สูตรความยืดหยุ่นอปุ สงค์ไขว้แบบช่วง =EY QA2 QA1 PB2 PB1 PB2 PB1 QA2 QA1 ถ้าคานวณได้ค่าเป็ นบวก ( + ) แสดงถงึ เป็ นสินค้าทใ่ี ช้ทดแทนกนั และถ้าคานวณได้ค่าเป็ นลบ ( - )แสดงถึง เป็ นสินค้าทใ่ี ช้ประกอบกนั ความยืดหย่นุ ของอุปทาน (Elasticity of Supply) ความยืดหย่นุ ของอุปทาน (Elasticity of Supply) หมายถึง เปอร์เซ็นต์การเปลยี่ นแปลงปริมาณ ความต้องการขายสินค้าต่อเปอร์เซ็นต์การเปลยี่ นแปลงราคาสินค้า ค่าความยืดหยุ่นทคี่ านวณได้จะมี เครื่องหมายเป็ นบวกเนื่องจากราคาและปริมาณความต้องการขายมคี วามสัมพนั ธ์ในทิศทางเดียวกนั การ คานวณค่าความยืดหย่นุ ของอปุ ทานทาได้ดงั นี้ ความยืดหย่นุ ของอปุ ทานต่อราคา (Es) = % การเปลยี่ นแปลงของปริมาณความต้องการขาย % การเปลย่ี นแปลงของราคา ก. สูตรความยืดหยุ่นของอุปทานแบบจุด (Point elasticity of Demand) Es = Qs P หรือ Q2 Q1 P1 P P2 P1 Q1 Q โดยท่ี : Es = ค่าความยืดหยุ่นของอุปทานต่อราคา Q1 = ปริมาณความต้องการขาย ณ ระดบั ราคาเดมิ Q2 P1 = ปริมาณความต้องการขาย ณ ระดบั ราคาใหม่ P2 = ราคาสินค้าเดิมก่อนการเปลย่ี นแปลง = ราคาสินค้าหลงั การเปลยี่ นแปลง
-8- ข ค่าความยืดหยุ่นของอปุ ทานแบบช่วง =E s Q2 Q1 P1 P2 P2 P1 Q1 Q2 ลกั ษณะความยืดหยุ่นของอุปทาน สามารถแบ่งลกั ษณะของอุปทานตามระดับความยืดหยุ่นของอปุ ทานได้ดงั รูปที่ 3.2 ปัจจัยทกี่ าหนดค่าความยืดหย่นุ ของอุปทาน ความยากง่ายและเวลาทใ่ี ช้ในการผลติ สินค้าทส่ี ามารถผลติ ได้ง่ายและใช้เวลาในการผลติ ส้ัน อุปทานของสินค้ามคี ่าความยืดหยุ่นสูง ปริมาณสินค้าคงคลงั สินค้าทมี่ สี ินค้าคงคลงั สารองมาก อปุ ทานของสินค้าจะมีความยืดหย่นุ สูง ความหายากของปัจจัยการผลติ ถ้าปัจจัยทใี่ ช้ในการผลติ สินค้ามจี านวนจากดั และหายาก ต้องใช้ เวลาในการหาปัจจัยการผลติ นาน อุปทานของสินค้าชนิดน้ันจะมีความยืดหย่นุ ต่า
-9- ระยะเวลา ถ้าระยะเวลานานความยืดหยุ่นของอุปทานจะมากเพราะผู้ผลติ สามารถเปลย่ี นแปลง การใช้ปัจจัยการผลติ ได้ทุกชนิด แม้แต่เทคโนโลยแี ละเครื่องมือเครื่องจักรต่างๆ ประโยชน์ของค่าความหยืดหยุ่นของอุปสงค์ ในการวางนโยบายหรือมาตรการของรัฐ เช่น การจัดเกบ็ ภาษีจากสินค้า รัฐจะต้องรู้ว่าสินค้าน้ันมคี วาม หยืดหย่นุ เท่าไร เพื่อจะได้ทราบว่าภาระภาษจี ะตกไปบุคคลกลุ่มใด ช่วยให้หน่วยุรกจิ สามารถดาเนินกลยุทธทางด้านราคาได้อย่างถูกต้องว่าสินค้าชนิดใดควรต้ังราคาสินค้า ไว้สูงหรือต่าเพยี งใด ควรเพ่ิมหรือลดราคาสินค้า จึงจะทาให้รายได้รวมกาไรของธุรกจิ จะเพมิ่ ขนึ้ นามาใช้ประกอบการพยากรณ์แนวโน้มกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ********************
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: