Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ศศ หน่วยที่ 6

ศศ หน่วยที่ 6

Published by aporn_onn11, 2021-05-11 04:21:55

Description: ศศ หน่วยที่ 6

Search

Read the Text Version

บทท่ี 5 ทฤษฎีการผลิต (Production Theory) 1

ความสาคญั ของทฤษฎีการผลิต Demand = พฤตกิ รรมผบู้ รโิ ภค ดลุ ยภาพ Supply = พฤตกิ รรมผผู้ ลติ Maximize Profit ราคาขาย - ตน้ ทนุ 2

ความหมายการผลิตและผผู้ ลิต การผลิต การดาเนิ นกิจกรรมต่างๆ สินค้า ท่ีมนุษย์ ไม่จาเป็ นต้องมีโรงงานหรือสิ นค้าเกิดใหม่ ต้องการ ผผู้ ลิต = ผขู้ าย = หน่วยธรุ กิจ หมายถงึ ผทู้ ก่ี ่อใหเ้ กดิ มสี นิ คา้ หรอื บรกิ ารทส่ี ามารถนามาบาบดั ความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภคได้ สาหรบั หน่วย ธรุ กจิ ทงั้ หมดทผ่ี ลติ สนิ คา้ ชนิดเดยี วกนั เรยี กวา่ อตุ สาหกรรม (industry) ตวั อยา่ ง อุตสาหกรรมสง่ิ ทอ อุตสาหกรรมอาหาร 3

ทฤษฎีการผลิตและฟังกช์ นั การผลิต  เป็นการศกึ ษาความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งปัจจยั การผลติ (input) และ ผลผลติ ทไ่ี ดร้ บั (output)  สามารถเขยี นความสมั พนั ธใ์ นรปู แบบฟังกช์ นั ไดด้ งั น้ี Q = f (x, y, z,…) เมอ่ื Q = จานวนผลผลติ x, y, z = ปัจจยั การผลติ ชนิดตา่ งๆ 4

ปัจจยั การผลิตทางเศรษฐศาสตร์ (Factor of Production) ประเภท ผลตอบแทน ของปัจจยั การผลิต ที่ดิน (Land) ค่าเช่า (Rent) แรงงาน (Labor) ค่าจ้าง (Wage) ทนุ (Capital) ดอกเบยี้ (Interest) ผปู้ ระกอบการ กาไร (Profit) (Entrepreneur) 5

ระยะเวลาในการผลิต ➢ ปัจจยั คงท่ี ➢ ปัจจยั ผนั แปร การผลติ ระยะสนั้ (short-run period) Q = f (K,L) ปัจจยั ผนั แปร ปัจจยั คงท่ี

ระยะเวลาในการผลิต (ต่อ) ➢ ปัจจยั คงท่ี ➢ ปัจจยั ผนั แปร การผลติ ระยะยาว (long-run period) Q = f (L) ปัจจยั ผนั แปร

ระยะเวลาในการผลิต ➢ การผลิตระยะสนั้ (short-run period) หมายถงึ ระยะเวลาท่ี ปัจจยั การ ผลิตบางตัวไม่สามารถเปล่ียนแปลงได้ จึงถือว่าเป็ นปั จจัยคงท่ี การเปล่ยี นแปลงของขนาดผลผลติ ทาได้โดยการเปลย่ี นแปลงขนาดของ การใชป้ ัจจยั ผนั แปรเทา่ นนั้ ปัจจยั การผลติ บางชนิดเปลย่ี นแปลงได้ เราเรยี กวา่ ปัจจยั ผนั แปร ปัจจยั การผลติ บางชนิดเปลย่ี นแปลงไมไ่ ด้ เราเรยี กวา่ ปัจจยั คงท่ี ➢ การผลิตระยะยาว (long-run period) หมายถงึ ระยะเวลาท่ปี ัจจยั การ ผลติ ทุกตวั สามารถเปล่ยี นแปลงได้ เม่อื หน่วยผลติ ต้องการเปล่ียนแปลง ขนาดของการผลติ มเี ฉพาะปัจจยั ผนั แปรเทา่ นนั้ 9

การวิเคราะหก์ ารผลิตระยะสนั้ 10

ผลผลิตต่างๆ 1. ผลผลิตทงั้ หมด (Total Product : TP) ◼ หมายถงึ ผลผลติ ทงั้ หมดทไ่ี ดร้ บั จากการใชป้ ัจจยั ผนั แปรผนั จานวนตา่ งๆ รว่ มกบั ปัจจยั คงทท่ี ม่ี อี ยู่ ◼ คา่ ผลผลติ ทงั้ หมดจะเพมิ่ ขน้ึ ในอตั ราทเ่ี พม่ิ ขน้ึ ในตอนแรก และเพมิ่ ขน้ึ ใน อตั ราทล่ี ดลงในระยะตอ่ มา และในทส่ี ดุ จะลดลง 2. ผลผลิตเฉล่ีย (Average Product : AP) ◼ หมายถงึ ผลผลติ เฉลย่ี ต่อหน่ึงหน่วยของปัจจยั ผนั แปรทใ่ี ชใ้ นการผลติ ◼ คา่ ผลผลติ เฉลย่ี จะเพม่ิ ขน้ึ ในตอนแรก เมอ่ื เพม่ิ การใชป้ ัจจยั ผนั แปรไป จนถงึ ระดบั หน่ึงคา่ ผลผลติ เฉลย่ี จะลดลง 11

ผลผลิตต่างๆ (ต่อ) 3. ผลผลิตหน่วยสดุ ท้าย (Marginal Product : MPL) ◼ หมายถงึ ผลผลติ ทเ่ี กดิ จากปัจจยั ผนั แปรหน่วยสดุ ทา้ ยทใ่ี ชอ้ ยใู่ นขณะนนั้ ◼ คา่ ผลผลติ หน่วยสดุ ทา้ ย จะเพม่ิ สงู ขน้ึ ในระยะแรก และลดลงในชว่ งตอ่ มา จนมคี า่ เป็นศนู ย์ และอาจตดิ ลบไดใ้ นทส่ี ดุ  ความสมั พนั ธ์ ระหว่าง TP & AP & MPL ◼ TP = SMPL TPL/L ◼ APL = TPL – TPL-1 ◼ MPL = ΔTP/ ΔL = 12

ตารางผลผลิต เคร่อื งจกั ร แรงงาน (คน) TPL 1 0 0 1 1 10 1 2 24 1 3 39 1 4 52 1 5 61 1 6 66 1 7 66 1 8 64 13

ตารางผลผลิต เคร่อื งจกั ร แรงงาน (คน) TPL APL 0 1 0 0 10 1 1 10 12 1 2 24 13 1 3 39 13 1 4 52 12.2 1 5 61 11 1 6 66 9.4 1 7 66 8 1 8 64 14

ตารางผลผลิต เคร่อื งจกั ร แรงงาน (คน) TPL APL MPL 10000 1 1 10 10 10 1 1 2 24 12 14 1 3 39 13 15 1 4 52 13 13 1 5 61 12.2 9 2 1 6 66 11 5 1 7 66 9.4 0 1 8 64 8 -2 3 15

กฎการลดลงของผลได้ (Law of Diminishing Returns) เมอ่ื ผผู้ ลิตเพ่ิมการใช้ปัจจยั การผลิตชนิดใดชนิดหน่ึงแต่เพียง ชนิดเดียวมากขึน้ เรอ่ื ยๆ (จากขอ้ มลู ในตารางคอื คน) เพื่อใช้ร่วมกบั ปัจจยั การผลิตชนิดอื่นที่มีจานวนคงท่ี (จากขอ้ มลู ในตารางคอื เครอ่ื งจกั ร) ผลผลิตหน่วยสดุ ท้ายของแรงงาน (MPL) จะเพ่ิมขึน้ ในตอน แรกในระยะที่ 1 (Increasing Returns) แต่ในระยะต่อมาจะลดลง (Diminishing Returns) จนกระทงั่ มีค่าเป็นศนู ย์ และติดลบได้ในท่ีสดุ (Decreasing Returns) 16

1 23 17

สรปุ ความสมั พนั ธร์ ะหว่าง TP & MPL  ช่วงท่ี MPL เพ่ิมขึน้ TP จะเพิ่มขึน้ ในอตั ราที่เพิ่มขึน้ (Increasing Returns)  ช่วงท่ี MPL ลดลง (MPL >0) TP จะเพิ่มขึน้ ในอตั ราท่ีลดลง (Diminishing Returns)  เม่อื MPL มีค่าติดลบ TP จะลดลง (Decreasing Returns)  ดงั นัน้ TP จะมีค่าสงู สดุ เม่อื MPL มีค่าเท่ากบั 0 18

สรปุ ความสมั พนั ธร์ ะหว่าง MPL & APL  ช่วง APL เพ่ิมขึน้ MPL จะเพ่ิมหรอื ลดกไ็ ด้ แต่จะต้องมีค่ามากกว่า APL  ช่วง APL ลดลง MPL จะต้องมีค่าน้อยกว่า APL  ดงั นัน้ MPL จะตดั กบั APL ณ จดุ ที่ APL มีค่าสงู สดุ 19

การวิเคราะหก์ ารผลิตระยะยาว 21

ประเดน็ ที่ศึกษา  เส้นผลผลิตเท่ากนั (Isoquant Curve)  เส้นต้นทุนเท่ากนั (Isocost Curve)  ส่วนประกอบของปัจจยั การผลิตที่ให้ต้นทนุ ตา่ สดุ  เส้นแนวทางการผลิต  กฎผลได้ต่อขนาด 22

เส้นผลผลิตเท่ากนั (Isoquant Curve)  หมายถึง เส้นที่แสดงส่วนประกอบต่างๆ ของปัจจยั การผลิต สองชนิด (K,L) ที่ให้ผลผลิต (Q) จานวนเท่ากนั นัน่ คือ ทุกๆ จดุ บน เส้นผลผลิตเท่ากนั จะให้ได้ผลผลิตในจานวนเดียวกนั  ลกั ษณะของเส้นผลผลิตเท่ากนั ◼ เป็นเสน้ ทม่ี ลี กั ษณะตอ่ เน่ืองลาดลงจากซา้ ยไปขวา อนั เป็นผลมาจาก การทดแทนกนั ของปัจจยั การผลติ 2 ชนดิ ◼ เสน้ ผลผลติ เทา่ กนั จะเป็นเสน้ โคง้ เวา้ เขา้ หาจุดกาเนิด ◼ เสน้ ผลผลติ เท่ากนั จะไมต่ ดั กนั ◼ เสน้ ทอ่ี ยสู่ งู กวา่ จะแสดงผลผลติ จานวนมากกวา่ 23

อตั ราการทดแทนทางเทคนิคหน่วยสดุ ท้าย Marginal Rate of technical Substitution: MRTS  ในการผลิตระยะยาว ปัจจยั การผลิตทุกชนิ ดเป็ นปัจจยั ผนั แปร ดงั นัน้ การ เปล่ียนแปลงผลผลิต (Q) ย่อมมาจากการเปล่ียนแปลงในปริมาณของ ปัจจยั การผลิตทกุ ชนิด (ทงั้ K และ L)  MPK , MPL  เม่ือ MPK เปลี่ยนแปลงไป 1 หน่วยแล้ว MPL จะต้องเปล่ียนแปลงไปเท่าใด เพ่ือทาให้ระดบั ผลผลิตไม่เปล่ียนแปลง (ได้ Q จานวนเท่าเดิม)  MRTSLK = -2 หมายถึง ถ้าจะลดเคร่ืองจกั ร (K) ลง 2 เคร่ือง จะต้องใช้ แรงงาน (L) เพ่ิมขึน้ 1 คน เพ่ือรกั ษาระดบั ผลผลิต (Q) ให้เท่าเดิม 24

ลกั ษณะของเส้น Isoquant เป็นเส้นโค้งเว้า เข้าหาจดุ กาเนิด และมีความชนั เป็นลบ K • L  K และ L  K 50 A • จากจดุ A มายงั จดุ B 30 B • Δ K = 30 – 50 = -20 22 CD • Δ L = 20 – 10 = 10 15 Iq • Δ K / Δ L = -20/10 = -2 10 20 30 40 L • MPK = Δ TP/ Δ K • MPL = Δ TP/ Δ L ทุกจดุ บนเสน้ Iq เดยี วกนั ปรมิ าณ ผลผลติ จะเทา่ กนั ดงั นนั้ MPK * ΔK = -MPL * ΔL 25

ลกั ษณะของเส้น Isoquant เป็นเส้นโค้งเว้า เข้าหาจดุ กาเนิด และมีความชนั เป็นลบ (ต่อ) MRTSK L = -L K 26

เส้น Iq จะไม่ตดั กนั  ทุกจดุ ทอ่ี ยบู่ นเสน้ Iq เดยี วกนั จะ K ไดร้ บั ความพงึ พอใจเท่ากนั ◼A=B A ◼A=C B Iq1 ◼ B > C เป็นไปไมไ่ ด้ C Iq0 L 27

เส้น Iq มีได้หลายเส้น  Iq3 > Iq2 > Iq1 K Iq3=90 Iq2=75 Iq1=55 L 28

เส้นต้นทนุ เท่ากนั (Isocost Curve)  หมายถงึ เสน้ ทแ่ี สดงสว่ นประกอบ จานวน K จานวน L ตา่ งๆ ของปัจจยั การผลติ สองชนิด 5 0 (K,L) ทผ่ี ผู้ ลติ สามารถซอ้ื ไดด้ ว้ ยเงนิ 4 2 จานวนเทา่ กนั 3 4 2 6  ยกตวั อยา่ งเชน่ 1 8 0 10 ◼ มงี บประมาณ 1,000 บาท 29 ◼ K ราคาหน่วยละ 200 บาท ◼ L ราคาหน่วยละ 100 บาท

เส้นต้นทนุ เท่ากนั (Isocost Curve) สมการตน้ ทุน PL  L + PK  K = C K K = C − PL L C/PK PK PK  Slope = − PL ISOCOST L C/PL PK 30 ความชนั ของเส้นต้นทุน Slope = - (C/PK) / (C/ PL) ความชนั = -(w/r)

การเปล่ียนแปลงของเส้นต้นทนุ เท่ากนั  การเปล่ียนแปลงของเงินทนุ  การเปล่ียนแปลงของต้นทุนอนั เงนิ ทนุ เพมิ่ ขน้ึ เน่ืองมาจากราคาของปัจจยั การ ผลิตเปล่ียนแปลง K K ราคาตน้ ทุนปัจจยั L ลดลง C*/PK C/PK 0 L0 IC1 IC2 C/PL C*/PL C/PL* 31

ส่วนประกอบของปัจจยั การผลิตที่ให้ต้นทนุ ตา่ สดุ หรือจดุ ดลุ ยภาพของการผลิต K  จุด A : ไดร้ บั ผลผลติ เทา่ กบั Iq1 B  จุด B : ไดร้ บั ผลผลติ เทา่ กบั Iq1  จุด C : ไดร้ บั ผลผลติ เทา่ กบั Iq1 A จดุ A ใชต้ น้ ทนุ ต่าทส่ี ดุ C Iq1 Isocost1 Isocost2 Isocost3 L 32

ส่วนประกอบของปัจจยั การผลิตท่ีให้ต้นทนุ ตา่ สดุ (ต่อ) K  ดลุ ยภาพของผผู้ ลิต คือ จดุ E  ณ จดุ E C/PK KE slope Isoquant = slope Isocost 0 MPL = PL MPK PK MPL = MPK E Wr Iq LE C/PL L 33

เส้นแนวทางการผลิต (expansion path)  การเปลี่ยนแปลงของเป้าหมายการผลิต K เส้นแนวทางการผลิตระยะยาว K Iq1Iq2 (ตน้ ทุนต่อหน่วยสงู กวา่ ) 0L C1 C2 34

การเปล่ียนแปลงของราคาปัจจยั การผลิต K ราคาของแรงงานแพงขนึ้ เม่ือผผู้ ลิตไม่ *การข้ึนค่าแรงโดยไม่สมเหตุสมผลจะ สามารถขยาย C*/PK B นาไปสู่การวา่ งงานท่ีมากข้ึน เงินทุนไดใ้ นระยะ ส้ันจาเป็นตอ้ งลด ปริมาณการผลิต C/PK ไม่สมั ผสั กนั สื่อถึง K ZA Iq1 ไม่ใช่จุด ประสิทธิภาพทาง Iq3 C/PL L เศรษฐกิจ C/PL* C*/PL* 35

กฎผลได้ต่อขนาด (Law of Returns to Scale) จะเปรยี บเทยี บระหวา่ ง: 36

กฎผลได้ต่อขนาด (Law of Returns to Scale)  ผลได้ต่อขนาดเพ่ิมขึน้ (increasing return to scale) อตั ราการเพม่ิ ขน้ึ ของผลผลติ มากกวา่ อตั ราการเพม่ิ ของปัจจยั การผลติ มกั เกดิ ขน้ึ ในระยะแรก ๆ ของการขยายการผลติ  ผลได้ต่อขนาดคงที่ (constant return to scale) อตั ราการเพม่ิ ขน้ึ ของ ผลผลติ เทา่ กบั อตั ราการเพมิ่ ของปัจจยั การผลติ มกั เกดิ ขน้ึ ในระยะกลาง ๆ ของ การขยายการผลติ  ผลได้ต่อขนาดลดลง (decreasing return to scale) อตั ราการเพม่ิ ขน้ึ ของผลผลติ น้อยกวา่ อตั ราการเพม่ิ ของปัจจยั การผลติ มกั เกดิ ขน้ึ ในระยะหลงั ๆ ของการขยายการผลติ 37

ผลได้ต่อขนาด (Returns to Scale) K 10 8 6 Iq = 35 4 Iq =30 Iq = 25 Iq =20 Iq = 26 2 Iq = 10 Iq = 15 5 10 15 20 25 L 38

โดยสรปุ ➢ วตั ถุประสงคข์ องการศกึ ษาบทน้ีคอื ตอ้ งการทราบปรมิ าณการผลติ ท่ี เหมาะสม:  หากปรมิ าณการผลตเิ ทา่ กนั ตอ้ งเลอื กทางเลอื กทใ่ี หต้ น้ ทนุ ต่าสดุ  หากตน้ ทุนเทา่ กนั ตอ้ งเลอื กทางเลอื กทใ่ี หผ้ ลผลติ มากกวา่ ➢ ความหมายของการผลติ ➢ ฟังกช์ นั การผลติ , ประสทิ ธภิ าพของการผลติ ทงั้ ทางเทคนิคและทาง เศรษฐกจิ ➢ การผลติ ระยะสนั้  TP, MP, AP 44  ลกั ษณะผลผลติ ทไ่ี ดร้ บั ในแตล่ ะชว่ งการผลติ

โดยสรปุ (ต่อ) ➢ การผลติ ระยะยาว  เสน้ ผลผลติ เทา่ กนั : MRTSLK  เสน้ ตน้ ทนุ เท่ากนั  จดุ การผลติ ทเ่ี หมาะสม 45


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook