เจ้าของ คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏอตุ รดติ ถ์ 27 ถนนอนิ ใจมี ตาบลท่าอฐิ อาเภอเมือง จังหวดั อุตรดติ ถ์ 53000 โทรศพั ท์ 05541 6601-20 ตอ่ 1428 กาหนดการพมิ พ์ : วารสารราย 6 เดอื น (2 ฉบับ/ป)ี ฉบบั ท่ี 1 (มกราคม – มิถนุ ายน) ฉบบั ท่ี 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม) สาขาและขอบเขต วารสารวิชาการมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื จดั ทาวารสารสนบั สนุนการเผยแพรผ่ ลงานวิชาการ บทความวิชาการ และบทความวิจยั 2. เพือ่ พัฒนาบคุ ลากรให้มศี กั ยภาพในการทาผลงานวิชาการ 3. เพอ่ื ใช้เปน็ แหล่งตพี ิมพผ์ ลงานทางวิชาการเผยแพรส่ สู่ าธารณชน 4. เพอื่ ใชเ้ ปน็ แหลง่ รวบรวม แลกเปล่ียนองคค์ วามรู้ทางวชิ าการ และสรา้ งเครือขา่ ยวิชาการรว่ มกนั ทป่ี รึกษา อธิการบดีมหาวิทยาลยั ราชภัฏอตุ รดิตถ์ ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.เรืองเดช วงศ์หลา้ บรรณาธิการ คณบดีคณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ อาจารย์ ดร.สรุ ยิ า คากนุ ะ ผ้ชู ่วยบรรณาธกิ าร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อุตรดติ ถ์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อตุ รดิตถ์ รองคณบดคี ณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ผ้ชู ว่ ยคณบดคี ณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ กองบรรณาธกิ าร มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั 1. ศาสตราจารยเ์ กียรตคิ ณุ ดร.อนรุ ักษ์ ปัญญานวุ ฒั น์ มหาวิทยาลยั นเรศวร 2. ศาสตราจารย์กติ ตคิ ณุ ดร.สมบตั ิ กาญจนกจิ มหาวิทยาลยั พะเยา 3. ศาสตราจารย์ ดร.จริ วัฒน์ พิระสนั ต์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครสวรรค์ 4. รองศาสตราจารย์ ดร.เปรมวทิ ย์ วิวฒั นเศรษฐ์ มหาวทิ ยาลยั แม่โจ้ 5. รองศาสตราจารย์ ดร.สชุ าติ แสงทอง มหาวิทยาลยั ราชภฏั อตุ รดติ ถ์ 6. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.วันชาติ นภาศรี มหาวิทยาลยั ราชภฏั อตุ รดิตถ์ 7. ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สมบตั ิ เวชกามา มหาวิทยาลยั ราชภฏั อตุ รดติ ถ์ 8. ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ไสยเพญ็ เฉิดเจมิ มหาวิทยาลยั ราชภฏั อุตรดิตถ์ 9. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภีรวัฒน์ นนทะโชติ 10. ผู้ช่วยศาสตราจารยเ์ อกฤทยั ฉตั รชัยเดช
ผู้ทรงคณุ วฒุ ิประเมินบทความ มหาวทิ ยาลยั พะเยา มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พิบลู สงคราม 1. รองศาสตราจารย์ ดร.เปรมวิทย์ วิวัฒนเศรษฐ์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั บรุ รี มั ย์ 2. รองศาสตราจารย์ ดร.โชติ บดรี ฐั มหาวิทยาลยั นเรศวร 3. รองศาสตราจารย์ ดร.บณุ ยเสนอ ตรวี ิเศษ มหาวิทยาลยั ศรปี ทุม 4. รองศาสตราจารย์ ดร.ครรชิต ทะกอง มหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนคร 5. รองศาสตราจารย์ ดร.สุระทนิ ชยั ทองคา มหาวิทยาลยั ราชภฏั กาแพงเพชร 6. รองศาสตราจารย์ ดร.ประจักษ์ ไมเ้ จรญิ มหาวิทยาลยั ราชภฏั อตุ รดิตถ์ 7. รองศาสตราจารยก์ วี ครองแกว้ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อตุ รดติ ถ์ 8. รองศาสตราจารยก์ ง่ิ แกว้ เพช็ รราช มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั นครสวรรค์ 9. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมบตั ิ เวชกามา มหาวิทยาลยั นเรศวร 10. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ภิญโญ ภ่เู ทศ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั เชียงราย 11. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.มนตรี กรรพุมมาลย์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั พบิ ูลสงคราม 12. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรชัย มงุ่ ไธสง มหาวทิ ยาลยั พะเยา 13. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. อรรถพล รอดแกว้ มหาวทิ ยาลยั พะเยา 14. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรวรรธน์ ศรียาภยั 15. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์เกยี รติศกั ด์ิ ตนั ตจิ รยิ าพนั ธ์ ออกแบบและจดั พิมพ์ โรงพิมพม์ หาวิทยาลยั ราชภฏั อตุ รดิตถ์ 27 ถนนอินใจมี ตาบลท่าอิฐ อาเภอเมอื ง จังหวัดอตุ รดิตถ์ 53000 รปู ปกวารสาร ทม่ี า : สญั ลักษณ์คณะ, บทความวิชาการ, กิจกรรมคณะ หมายเหตุ 1. บทความทกุ เรอ่ื งทต่ี ีพมิ พไ์ ด้ผ่านการพจิ ารณากลนั่ กรองประเมินจากผทู้ รงคณุ วฒุ อิ ยา่ งน้อย 2 ทา่ น 2. เนอื้ หา ขอ้ ความ ข้อคิดเหน็ ต่างๆ ในบทความวารสารฉบบั นเ้ี ป็นความรบั ผดิ ชอบของผเู้ ขียนบทความเองทงั้ น้ีไม่ถอื เปน็ ทรรศนะและความรับผดิ ชอบของกองบรรณาธกิ าร
Owner Faculty of Humanities and Social Sciences, Uttaradit Rajabhat University 27 Injaime Rd. Tha-it Subdistrict, Muang District, Uttaradit Province, 53000 Telephone 05541 6601-20 Ext. 1428 Publishing Schedule: Six monthly (2 issues/year) 1st Issues January – June 2nd Issues July – December Scope : Journal of Humanities and Social Sciences humanities and social sciences. Objectives 1. To prepare the journal for promotions in publication of academic performance, articles and research reports. 2. To develop the potentials of individuals of person for more academic performance. 3. To be the center and source of journal publication and dissemination to public. 4. To be the source of collecting and sharing knowledge and build co-operative networks. Advisors President of Uttaradit Rajabhat University Dean of the Faculty of Humanities and Social Sciences Assist. Prof. Dr.Ruangdet Wongla Editor Dr.Suriya khamguna Assistant editor Deputy Dean of the Faculty of Humanities and Social Sciences, Uttaradit Rajabhat University Assistant Dean of Faculty of Humanities and Social Sciences, Uttaradit Rajabhat University Editorial Staff Chiang Mai University Chulalongkorn University 1. Prof. Emeritus Dr.Anurak Panyanuwat Naresuan University 2. Prof. Emeritus Dr.Sombat Karnjanakit University of Phayao 3. Prof. Dr.Jirawat Phirasant Nakhon Sawan Rajabhat University 4. Assoc. Prof. Dr.Premvit Vivattanaseth Maejo University 5. Assoc. Prof. Dr.Suchat Saengthong Uttaradit Rajabhat University 6. Assist. Prof. Dr.Wunchart Napasri Uttaradit Rajabhat University 7. Assist. Prof. Dr.Sombat Watchkama Uttaradit Rajabhat University 8. Assist. Prof. Dr.Saipen Cherdjerm Uttaradit Rajabhat University 9. Assist. Prof. Dr.Perawat Nonthachot 10. Assist. Prof. Eakruthai Chutchaidej
Peer Reviewers University of Phayao Pibulsongkram Rajabhat University 1. Assoc. Prof. Dr.Premvit Vivattanaseth Buriram Rajabhat University 2. Assoc. Prof. Dr.Chot Bodeerat Naresuan University 3. Assoc. Prof. Dr.Bunsanoe Triwiset Sripatum University 4. Assoc. Prof. Dr.Kanchit Tagong Phranakhon Rajabhat University 5. Assoc. Prof. Dr.Surathin Chaithongkam Kamphaeng Phet Rajabhat University 6. Assoc. Prof. Dr.Prajhak Maicharoen Uttaradit Rajabhat University 7. Assoc. Prof. Kawee Krongkaew Uttaradit Rajabhat University 8. Assoc. Prof. Kingkeow Petcharaj Nakhon Sawan Rajabhat University 9. Assist. Prof. Dr.Sombat Watchkama Naresuan University 10. Assist. Prof. Dr.Pinyo Puthed Chiang Rai Rajabhat University 11. Assist. Prof. Dr.Montri Kunphoommarl Pibulsongkram Rajabhat University 12. Assist. Prof. Dr.Sornchai Mungthaisong University of Phayao 13. Assist. Prof. Dr.Atthaphol Rodkaew University of Phayao 14. Assist. Prof. Dr.Warawat Sriyabhaya 15. Assist. Prof. Kiattisak Tantijariyapan Designer and Print URU. Publisher 27 Injaime Rd. Tha-it Subdistrict, Muang District, Uttaradit Province, 53000 Cover photo sources: the faculty logo, academic articles, and activities Note 1. All articles apparent in the journal are under publication consideration of double blind eminent peers. 2. The contents, passages, and viewpoints in the articles are under the responsibility of the writers. It is not the responsibility of the editors.
วารสารฉบับนี้เป็นวารสารปีท่ี 7 ฉบับท่ี 2 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราช ภัฏอุตรดิตถ์ซ่ึงเป็นวารสารวิชาการที่มีการพัฒนารูปแบบการเผยแพร่ถ่ายทอดองค์ความร้ดู ้านมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ สู่สาธารณชนมาอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษามีมากขึ้น การศึกษาและการค้นคว้าด้านต่างๆ ของงานวิชาการก็มีช่องทางในการสืบค้นที่หลากหลา ย ดังนั้น วารสารวิชาการคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จึงเป็นแหล่งเรียนรู้อีกช่องทางหน่ึงให้กับท่านที่สนใจ ได้สืบค้นและนาไปใช้ประโยชน์ทางวิชาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ คณะกองบรรณาธิการได้จัดทาวารสาร ทางวิชาการฉบับน้ีโดยมีผู้ทรงคุณวุฒิได้พิจารณากลั่นกรองและคัดเลือ กบทความเพื่อนามาตีพิมพ์เผยแพร่ จึงมีบทความวิชาการและบทความวิจัยท่ีมีคุณภาพน่าสนใจหลายเร่อื งที่มีองค์ความร้แู ละคุณค่าทางวิชาการ ด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ทาให้เกดิ ประโยชน์ต่อการพัฒนาทางด้านการศึกษาและท้องถ่ินควรค่า แก่การศึกษาและเผยแพร่สู่สาธารณชนอย่างย่ิง ขอขอบพระคุณ ผู้ทรงคุณวุฒิในการพิจารณาบทความ คณะกรรมการกองบรรณาธิการ และ เจ้าของบทความวิชาการทุกๆท่าน ตลอดจนท่านที่สนใจ ติดตามวารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และ สังคมศาสตร์มาโดยตลอด จึงขอขอบคุณทุกท่าน มา ณ โอกาสนี้ หากมีข้อเสนอแนะใดคณะกรรมการขอ น้อมรับนาไปปรับปรุงให้สมบูรณ์ยิ่งๆ ข้ึนต่อไป อาจารย์ ดร.สรุ ยิ า คากุนะ บรรณาธกิ าร
บทบาทหนา้ ทที่ างสังคมและกระบวนการถ่ายทอดความรู้ของแตรวงคณะพลงั หนมุ่ คลองเขือ่ น 1 อาเภอคลองเข่ือน จงั หวัดฉะเชงิ เทรา 18 32 ฆอ้ ง มงคล, วิรนิ ทรญ์ า กติ ต,ิ คณุ นพวชั ร์ จรญั ยนิ ยอม...................................................... 48 การสารวจความต้องการในการอนรุ กั ษ์คัมภรี ์ใบลานของวัดในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวดั ลาปาง 64 ตลุ าภรณ์ แสนปรน……………….…...……….……………………………...……................................. 80 สตู รสาเร็จในนวนยิ ายรกั แนวปลอมตัว-สลบั ตัว ทัตพิชา สกุลสืบ, ประภาษ เพ็งพุ่ม, วนดิ า บารุงไทย.......................................................... การอนุรกั ษ์ภูมปิ ญั ญาพน้ื บา้ น ฟ้อนซอปนั่ ฝ้าย อาเภอลับแล จังหวดั อุตรดิตถ์ พสิษฐส์ ุธา มหายศนนั ท,์ บัญชา ศรชยั .................................................................................. การประเมินองค์ความรเู้ พ่ือการพฒั นาจังหวดั อตุ รดิตถ์ กรณี : อาเภอน้าปาด วจี ปญั ญาใส, พิมผกา ธรรมสทิ ธิ, วานิสสา จนั ทรานุสรณ์, ฐิติมา หริ ญั รักษ์, คฑาวธุ ชาติศกั ด์ิยุทธ์......................................................................................................... หลักการทางกฎหมายในการป้องกันอุทกภัยของประเทศไทย วราภรณ์ อศั วลาภสกุล………………………...................................................................
การพัฒนารูปแบบการดาเนินกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคมที่มีต่อการพัฒนาชุมชน : 93 กรณีศึกษาฝ่ายชะลอนา้ ตามแนวพระราชดาริ ตาบลนาอิน อาเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ วราภรณ์ อัศวลาภสกุล, ชยั ภูมิ ชนะภยั , ปาริชาติ บญุ เรอื ง, วราภรณ์ อู่ทรัพย์ , วิชัย เชอื้ พสิ ทุ ธก์ิ ลุ ……………………………………………………………………………………….…......... ความสามารถทางภาษาเพ่ือการสื่อสาร ด้านคุณภาพการเขียนความเรียงภาษาอังกฤษ 110 ตามกรอบอ้างอิงความสามารถทางภาษาของสหภาพยุโรปของนักศึกษาเข้าใหม่ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ สาเริง ถึงคณุ , สุรพล สงิ ห์เนตร, ชาริสร์ เสนาป่า, อบุ ลรตั น์ พลู ทรัพย,์ ลลติ า สมั ฤทธติ านนท์ , ปาณธรี ์ สัตยาภรณ…์ …………………………………………………………………………………….…......... คาแนะนาสาหรับผู้ส่งบทความวารสารวิชาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ 129
การสารวจความต้องการในการอนรุ กั ษ์คมั ภีรใ์ บลานของวัดในเขตอาเภอแมท่ ะ จงั หวัดลาปาง A Need Survey for Preserving the Palm Leaf Manuscripts of Temples in Mae Ta District, Lampang Province ตลุ าภรณ์ แสนปรน* Tulaporn Saenpron* (Received : September 14, 2020 / Revised : November 21, 2020 / Accepted : December 2, 2020) บทคัดยอ่ งานวจิ ัยนม้ี ีวตั ถุประสงค์เพ่ือสารวจคัมภรี ์ใบลานวัดในเขตอาเภอแม่ทะ จงั หวัดลาปาง และจดั ทาแผน ท่ีข้อมลู คัมภีรใ์ บลานวดั ในเขตอาเภอแม่ทะ จงั หวัดลาปาง ผลการวิจัย พบว่า วัดในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวัด ลาปาง มีจานวนทง้ั สิน้ 68 วัด มีวดั ที่ตอ้ งการสารวจ จานวน 25 วดั และวดั ทไี่ ม่ต้องการให้สารวจ จานวน 43 วัด จากการสัมภาษณ์ สัมภาษณ์พระสงฆ์ ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้รู้ในท้องถิ่น ผู้สูงอายุ เรื่องการอนุรักษ์เอกสาร โบราณ พบว่าควรตระหนักถึงคุณค่าและความสาคัญ โดยเฉพาะคุณค่าทางองค์ความรู้ท่ีเป็นประ โยชน์ต่อ ตนเองและสังคม โดยการ ศึกษาค้นคว้า การทารายงาน การทาวิจัย ตลอดจนการสารวจ ดูแล การจัดเก็บ รกั ษา เพื่อคงไวเ้ ป็นมรดกของชาติสบื ไป นอกจากน้ี ควรมีการการใช้ประโยชน์ในการแสดงพระธรรมเทศนา เทศมหาชาติ ประเพณี พธิ ีกรรม อนง่ึ การจัดทาแผนท่ีขอ้ มูลคัมภรี ใ์ บลานวัดในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวดั ลาปาง ผ้วู ิจัยได้จาแนกเป็น 2 ประเภท คือ 1) แผนทแี่ สดงความตอ้ งการสารวจใบลานวัดในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวัด ลาปาง 2) แผนที่แสดงข้อมลู คมั ภีร์ใบลานวัดในเขตอาเภอแม่ทะ จงั หวัดลาปาง คาสาคญั : คัมภรี ์ใบลาน, แผนทีข่ ้อมูลคมั ภีร์ใบลาน, อาเภอแม่ทะ จังหวัดลาปาง .................................................................................................................................................................................................... อาจารยค์ ณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ลาปาง *Lecturer of Faculty of Humanities and Social Sciences, Lampang Rajabhat University *Corresponding author e-mail: [email protected]
Abstract This research is to survey the palm leaf manuscripts of temples in Mae Ta district, Lampang province. The result found that the temples in Mae Ta district has 68 temples. There are 25 temples want to survey and 43 temples do not want to survey. From the interview among monks, local wisdoms, community intellectuals, and elders about ancient documentary found that it should realize the values and importance especially values of knowledge that was useful to them and society by study, report, research, including survey, care, preservation for being national heritage. In addition, it should be used for Buddhist sermon, Mahajati sermon, tradition, and ritual. However, the map of palm leaf manuscripts information of Mae Ta district, Lampang province. The information was divided into 2 types were 1) map of need for survey palm leaf manuscripts in Mae Ta district, Lampang province. and 2) map of palm leaf manuscripts in Mae Ta district, Lampang province. Keywords: Palm leaf manuscript, Map of palm leaf manuscript information, Mae Ta district, Lampang Province ความสาคญั ของปญั หา คมั ภีรใ์ บลาน จัดเป็นเอกสารโบราณประเภทหน่งึ ทมี่ ีค่าและความสาคัญยงิ่ เป็นหลักฐานที่เป็นภาษา และตัวหนังสือแต่เก่าก่อนโดยใช้วิธีการจาร เป็นเอกสารที่บันทึกองค์ความรู้ของบรรพชนไทยด้าน ประวัติศาสตร์ของชาติ อารยธรรมของสังคมกลุ่มต่างๆ ในประเทศไทย รวมถึงวรรณกรรม วัฒนธรรม จริยธรรม และคุณธรรม ถอื เปน็ เอกสารชัน้ ตน้ ท่ีสาคัญในวงวิชาการท่ีใช้บันทึกเร่ืองราวหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอดีต มกี ารเขยี นหรือจารดว้ ยพระภกิ ษสุ งฆ์หรือผู้ท่ีเคยบวชเรียน คัมภีร์ใบลาน แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ใบลานยาว เรียกวา่ หนงั สือผูก สว่ นใบลานสัน้ เรยี กว่า หนังสือกอ้ ม ด้วยความเชือ่ และความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวล้านนา ทาให้มีการจารและคัดลอกคัมภีร์ ใบลานถวายไวต้ ามวัดตา่ งๆ เป็นจานวนมาก ชาวล้านนามีความเชื่อว่า การจารคัมภีร์ใบลานด้วยตนเองหรือ แม้แตจ่ า้ งวานใหผ้ อู้ น่ื จารแล้วนาไปถวายไว้กับวัดเป็นการสร้างบุญกุศลท่ียิ่งใหญ่เหมือนกับสร้างพระพุทธรูป และในการถวายแตล่ ะครั้ง ผูจ้ ารหรือผถู้ วายจะจารกึ ชอ่ื ของตน พร้อมคาอธิษฐานให้ตนเองได้เข้าสู่นิพพานใน ภายภาคหน้าไว้ด้วย (พระดิเรก วชิรญาโณ, 2545 : 2) นอกจากนี้ จากการศึกษาวิจัยของ ตลุ าภรณ์ แสนปรน (2555) เรื่อง การศึกษาวรรณกรรมคัมภีร์ใบ ลานล้านนา จากชมุ ชนวัดพิชัย หมู่ 1 ตาบลพชิ ัย อาเภอเมือง จงั หวัดลาปาง เป็นการศกึ ษาเพ่ือปรวิ รรตเน้อื หา ในคัมภีร์ใบลานเป็นภาษาไทยปัจจุบัน ซ่ึงเป็นงานวิจัยที่ต่อยอดมาจากการจัดโครงการอนุรักษ์ ฟ้ืนฟู และ ปที ่ี 7 ฉบับท่ี 2 กรกฎาคม-ธันวาคม 2563 19
ปริวรรตคัมภีร์ใบลานล้านนา เพื่อการศึกษาเรียนรู้บูรณาการกับการเรียนการสอนรายวิชาวิวัฒนาการ อักษรไทย ผลการวิจัยพบว่าวรรณกรรมคัมภีร์ใบลานชุมชนวัดพิชัย หมู่ 1 ตาบลพิชัย อาเภอเมือง จังหวัด ลาปาง จาแนกได้เปน็ 2 ลักษณะ ลกั ษณะแรก จาแนกตามวสั ดุทีใ่ ชร้ องเขียน ไดแ้ ก่ ใบลาน ท่ีสมบูรณ์ท้ังหมด จานวน 71 ผูก นอกจากน้ันเป็นคัมภีร์ใบลานที่ไม่สมบูรณ์ ลักษณะที่สอง จาแนกตามเนื้อหาที่ปรากฏใน เอกสาร จาแนกได้ 3 หมวด ได้แก่ หมวดพระพุทธศาสนา หมวดจริยศาสตร์ และหมวดภาษาศาสตร์ นอกจากน้ี ผู้วิจัยได้แบ่งวรรณกรรมในขอบเขตที่ศึกษา โดยอาศัยการปริวรรตและพิมพ์เผยแพร่ โดยมี วัตถปุ ระสงคเ์ พอ่ื เผยแพร่ ให้นกั วิชาการ ผู้สนใจนาไปใช้ประโยชน์ได้สะดวก เหมาะสมกบั ยุคสมัย วรรณกรรม ในขอบเขตที่ศึกษามีทั้งหมด 71 ผูก ในแต่ละเร่ืองมีเน้ือหาเฉพาะแตกต่างกันออกไป โดยสามารถแบ่ง วรรณกรรมท้ัง 71 ผูกได้ โดยอาศยั เนื้อหาและแกน่ เรอ่ื งท่คี ลา้ ยกัน และวรรณกรรมหลายเรื่องมีช่ือซ้ากันและ คาดวา่ เปน็ เร่อื งเดยี วกัน โดยสรปุ แล้วมีท้ังหมดจานวน 37 เรื่อง และวรรณกรรมตานานจากคัมภีร์ใบลานใน ขอบเขตท่ีศึกษา โดยใช้วิธีการปริวรรต ซ่ึงมีวิธีการคัดเลือกฉบับที่สมบูรณ์ด้านเนื้อหามากท่ีสุด มีจานวน 2 เรื่อง คือ ตานานมหาเจา้ ทะโคง้ และปทุมมกมุ มารชาดก นอกจากน้ี ยังมโี ครงการกระบวนการจัดการเรียนรูค้ ัมภีรใ์ บลานเพื่อนาไปสกู่ ารอนรุ กั ษ์ ฟ้ืนฟูเอกสาร โบราณล้านนา วัดสันฐาน ตาบลปุาตัน อาเภอแม่ทะ จังหวัดลาปาง (2557) การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ ประการทหี่ น่งึ เพอื่ ศึกษาแนวทางการอนุรักษ์ ฟ้ืนฟู คัมภรี ์ใบลานวดั สนั ฐาน ตาบลปุาตัน อาเภอ แม่ทะ จงั หวดั ลาปาง ประการท่สี อง เพ่อื ถา่ ยทอดองคค์ วามรู้ดา้ นการอนรุ กั ษ์ ฟน้ื ฟู คมั ภรี ใ์ บลานแก่พระภิกษุ สามเณร โรงเรยี นแมท่ ะปรยิ ัตศิ กึ ษา วดั สันฐาน ตาบลปาุ ตัน อาเภอแม่ทะ จังหวัดลาปาง และประการท่ีสาม เพ่ือสารวจและจัดทาฐานข้อมูลคัมภีร์ใบลาน ของวัดสันฐาน ตาบลปุาตัน อาเภอแม่ทะ จังหวัดลาปาง ผลการวิจัย สามารถสรปุ ได้ 3 ประการ ดงั นี้ ประการที่ 1 ผลการสารวจขอ้ มลู บริบทชุมชนเกยี่ วกบั การอนรุ ักษ์ เอกสารโบราณวัดสนั ฐาน พบว่า ชาวบ้าน พระสงฆ์ โรงเรียน ควรมีบทบาทเกี่ยวกับการอนุรักษ์ ตระหนักถึง คุณค่าและความสาคัญดา้ นองค์ความรทู้ เ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ ตนเองและสังคม ตลอดจนสารวจ ดแู ล จัดเก็บรักษา นอกจากน้ี ควรมีการฟ้ืนฟู ศึกษาตัวอักษร ฝึกอ่าน เขียน ปริวรรต ศึกษาวิจัยและถ่ายทอดต้นฉบับ การใช้ ประโยชน์ในการแสดงพระธรรมเทศนา เทศน์มหาชาติ ประเพณี พิธีกรรม ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยี สารสนเทศ หลกั สูตรการเรียนการสอนที่เก่ยี วข้องกับคมั ภรี ใ์ บลาน ประการท่ีสอง ผลการประชมุ เชิงปฏิบตั กิ าร แบบมสี ว่ นร่วม พบวา่ การถ่ายทอดคัมภีร์ใบลานสามารถนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์จากการมีส่วนร่วมของวัด ชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน เพือ่ ใหเ้ กิดการอนุรกั ษอ์ ย่างเปน็ รปู ธรรม มกี จิ กรรมโครงการที่วัดและ ชุมชนต้องการดาเนนิ การร่วมกนั โดยองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ินพร้อมใหก้ ารส่งเสริมสนบั สนุน ประการทส่ี าม ผลการศึกษา สารวจ รวบรวม เอกสารโบราณล้านนาวัดสันฐาน พบเอกสารโบราณ รวมทั้งสิ้น 394 ช่ือเร่ือง รวมจานวนผูก 972 ผูก เน้ือเร่ืองของคัมภีร์ใบลานที่ปรากฏในเอกสาร สามารถจาแนกได้ 8 หมวด ได้แก่ 20 ปที ่ี 7 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม-ธันวาคม 2563
หมวด A พระไตรปฎิ ก, หมวด C ตานาน , หมวด D อานิสงส์ , หมวด E จริยศาสตร์ , หมวด K ภาษาศาสตร์, หมวด P กวีนิพนธ์, หมวด Q บทสวด, คาไหวต้ ่างๆ และหมวด R ปกณิ กะ งานวิจัยเรื่อง การสารวจความต้องการในการอนุรักษ์คัมภีร์ใบลานวัดในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวัด ลาปาง มีวัตถุประสงค์เพื่อ สารวจ ระบุวัดที่มีการจัดเก็บคัมภีร์ใบลาน และการสารวจความต้องการในการ อนรุ ักษ์คัมภีร์ใบลาน โดยนาข้อมลู มาจัดทาในรปู ของแผนทีแ่ สดงความตอ้ งการสารวจใบลาน และ แผนท่แี สดง ข้อมลู คัมภีร์ใบลานของวัดในเขตอาเภอแมท่ ะ จงั หวดั ลาปาง วัตถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ สารวจคมั ภีร์ใบลานวัดในเขตอาเภอแมท่ ะ จงั หวดั ลาปาง 2. เพอ่ื จัดทาแผนที่ข้อมลู คัมภรี ์ใบลานวดั ในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวดั ลาปาง วิธดี าเนนิ งานวิจัย การศกึ ษาวิจยั ครั้งนี้ใช้ระเบยี บวิธีวิจัยเชงิ คุณภาพ รวบรวมขอ้ มูลจากการสารวจ สัมภาษณ์ นาขอ้ มลู ที่ ไดม้ าวเิ คราะห์ และนาเสนอผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ด้วยวิธกี ารพรรณนาวิเคราะหใ์ หส้ อดคล้องกบั วตั ถปุ ระสงค์ที่ วางไว้ โดยดาเนินการตามขัน้ ตอนดังตอ่ ไปนี้ 1. ทบทวนองค์ความร้เู กี่ยวกบั การสารวจ การอนรุ ักษ์ฟน้ื ฟู คัมภรี ใ์ บลาน ทผ่ี า่ นมา โดยการศกึ ษาจาก เอกสาร งานวิจยั ที่เกย่ี วข้อง เพ่ือท่จี ะใช้เปน็ ขอ้ มูลพ้นื ฐานในการศึกษาและการวเิ คราะหเ์ ปรียบเทียบกบั ขอ้ มูล ที่ได้จากการศึกษาภาคสนาม 2. การสารวจและเก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนาม โดยการศึกษาในส่วนนี้ผู้วิจัยได้ดาเนินการเก็ บ รวบรวมข้อมูลพื้นฐาน โดยมีขัน้ ตอน คือ 1) สารวจวัดในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวัดลาปาง โดยใช้แบบสารวจความต้องการการสารวจ อนรุ ักษฟ์ ื้นฟู คมั ภรี ์ใบลานล้านนา 2) การสัมภาษณ์ สัมภาษณ์พระสงฆ์ ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้รู้ในท้องถ่ิน ผู้สูงอายุ เพื่อทราบบริบท ชมุ ชนเร่ืองการอนรุ ักษ์คัมภรี ใ์ บลาน 3) รวบรวมผลการสารวจและจดั ทาแผนท่ีข้อมลู คมั ภีร์ใบลานวัดในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวดั ลาปาง 3. จดั ทารายงานและนาเสนอผลการวิจยั ขอบเขตของการวิจัย วดั ในเขตอาเภอแมท่ ะ จังหวัดลาปาง จานวน 68 วัด ปีที่ 7 ฉบับท่ี 2 กรกฎาคม-ธันวาคม 2563 21
ผลการวจิ ัย จากผลการดาเนนิ งาน การสารวจความต้องการในการอนุรกั ษค์ มั ภรี ์ใบลานของวัดในเขตอาเภอแมท่ ะ จังหวัดลาปาง โดยผลการวิเคราะหข์ ้อมูล ตามแผนการดาเนินงานสามารถแสดงผลการวิจัยได้ดงั ต่อไปน้ี จากการสารวจรายช่ือวัดในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวัดลาปาง พบว่ามีจานวนวัดทั้งส้ิน 68 วัด แบ่ง ออกเป็นตาบลได้ดังต่อไปนี้ 1. ตาบลดอนไฟ จานวน 6 วัด ไดแ้ ก่ วัดดอนไฟ, วัดนากวาง, วดั นาบง, วดั นาฟาน, วัดบ้านใหม่, วัด บ้านเอยี ก 2. ตาบลนาครวั จานวน 9 วดั ได้แก่ วดั นา้ โทง้ , วดั บ้านหลวง, วัดบ้านหลุก,วัดบ้านเหม้ียง, วัดบ้าน ฮ่อม, วัดพรหมพิราม, วดั ศรีถ้อย, วดั ศรีอ้วน, วัดหลา่ ยทงุ่ 3. ตาบลน้าโจ้ จานวน 8 วัด ได้แก่ วัดต๋อแก้ว, วัดน้าโจ้, วัดบ้านหนอง, วัดปุาจ้า, วัดปุาม่วง, วัด ม่อนแสนศรี, วดั แมป่ ุง, วดั ฮอ่ งห้า 4. ตาบลบา้ นกิว่ จานวน 5 วดั ไดแ้ ก่ วดั กิว่ หลวง, วัดนาต๋ม, วัดแม่อิบ, วัดสันดอยน้อย, วัดสันนา รินทร์ 5. ตาบลบา้ นบอม จานวน 6 วดั ไดแ้ ก่ วัดบอมธาตุ, วดั บอมหลวง, วัดบ้านด่าน, วัดโปุงแน่, วัด พระบาทแม่ไทย, วัดสนั ปาุ เปา 6. ตาบลปา่ ตนั จานวน 6 วัด ได้แก่ วดั นากวา้ ว, วัดนาคตหลวง, วัดปงหอศาล, วัดปุาตันหลวง, วัดสบทะ, วดั สณั ฐาน 7. ตาบลแมท่ ะ จานวน 4 วดั ไดแ้ ก่ วดั ทา่ แหน, วดั บ้านจวา๊ ก, วดั แมท่ ะ, วดั แม่ทะหลวง 8. ตาบลวงั เงนิ จานวน 5 วัด ได้แก่ วดั ทุง่ ตอน, วดั นาดง, วัดนาดู่หลวง, วัดบ้านพิมาย, วัดพระธาตุ สนั ดอน 9. ตาบลดอนแกว้ จานวน 6 วัด ได้แก่ วดั บ้านเด่น, วัดบ้านออ้ , วดั แมท่ าน, วดั แม่วะ, วดั สบแมน่ าง, วัดสันดอนแก้ว 10. ตาบลหัวเสอื จานวน 9 วัด ได้แก่ วัดดอนมูล, วัดนายาบ, วัดบ้านก้อม, วัดบ้านทุ่ง, วัดผาแมว, วดั สบไร่, วัดสามขา, วดั ห้วยมะเกลือ, วดั หวั เสอื 11. วดั สาคญั จานวน 3 วัด ไดแ้ ก่ วดั ถา้ พระสบาย, วดั ปุาเพม่ิ พูน, วดั เวียงสวรรค์ ผลการสารวจความต้องการในการสารวจ อนุรักษ์ ฟ้ืนฟู คมั ภีร์ใบลานล้านนา ผู้วจิ ัยดาเนินการสารวจ อยู่ 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนท่ี 1 จัดทาแบบสารวจความต้องการในการสารวจ อนุรักษ์ ฟื้นฟู คัมภีร์ใบลาน ล้านนา ไปตามวัดต่างๆ ในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวัดลาปาง ข้ันตอนที่ 2 มอบหมายนักศึกษาในรายวิชา ววิ ัฒนาการอักษรและอักขรวิธีไทย ลงพืน้ ท่ีสมั ภาษณพ์ ระสงฆ์ ผนู้ าชมุ ชน ปราชญ์ชาวบา้ น ในเขตอาเภอแมท่ ะ จังหวัดลาปาง นาผลทไ่ี ด้มาจดั ประชุมเชิงปฏบิ ัติการเพ่อื หาขอ้ สรุปต่อไป 22 ปที ี่ 7 ฉบับท่ี 2 กรกฎาคม-ธนั วาคม 2563
ผลการศึกษา พบว่า มีวัดในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวัดลาปาง จานวนท้ังส้ิน 68 วัด มีวัดท่ีต้องการ สารวจ จานวน 25 วดั และวดั ทไี่ มต่ อ้ งการให้สารวจ จานวน 43 วัด โดยมีเหตุผล คือ ได้มีการสารวจและจัด หมวดหมไู่ วแ้ ล้ว และบางวดั เป็นวัดทสี่ ร้างขน้ึ ใหม่ ไมม่ คี ัมภรี ์ใบลาน และมีบางวัดคัมภีร์ใบลานถูกไฟไหม้ ส่วน เหตุผลที่วัดต้องการสารวจ อนุรักษ์ ฟื้นฟู คัมภีร์ใบลานล้านนา เพราะเห็นว่า คัมภีร์ใบลานล้านนามี ความสาคัญเนอื่ งจาก เรอ่ื งราวที่เป็นประวัติศาสตร์ในอดีตได้ถูกบันทึกด้วยอักษรล้านนาซึ่งมีคุณค่าทางด้าน จิตใจ อีกทั้งคัมภีร์ใบลานยังเป็นของคู่บ้านคู่เมืองท่ีได้จารึกหลักธรรมคาสอน คาบอกเล่าประวัติหมู่บ้าน ประวตั บิ คุ คล ตารายา สมุนไพรพ้ืนบา้ น รวมถึงโบราณสถาน โบราณวตั ถุ ทีถ่ ือเปน็ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการตกทอดมาจากบรรพบุรุษ จึงเห็นควรที่จะให้มีการอนุรักษ์ไว้ให้ ลกู หลานไดศ้ กึ ษาในอนาคต สามารถสรปุ เป็นตารางดังตอ่ ไปน้ี ตารางท่ี 1 แสดงผลการสารวจความต้องการ การสารวจ อนรุ ักษ์ ฟื้นฟู คมั ภีร์ใบลานลา้ นนา ลาดับ ตาบล วดั ตอ้ งการ ไมต่ ้องการ หมายเหตุ 1 ตาบลดอนไฟ วดั ดอนไฟ / วดั นากวาง / วดั นาบง / วดั นาฟาน / วัดบ้านใหม่ / วดั บา้ นเอยี ก / 2 ตาบลนาครัว วัดน้าโท้ง ⁄ วัดบา้ นหลวง ⁄ วัดบา้ นหลุก ⁄ วัดบ้างเหม้ยี ง ⁄ วดั บ้านฮอ่ ม ⁄ วัดพรหมพิราม ⁄ วัดศรีถอ้ ย ⁄ วดั ศรอี ว้ น ⁄ สารวจและจดั หมวดหมู่แลว้ วัดหล่ายทุง่ ⁄ 3 ตาบลนา้ โจ้ วัดตอ๋ แก้ว ⁄ วดั นา้ โจ้ ⁄ วดั บ้านหนอง ⁄ วัดปุาจา้ ⁄ ปที ี่ 7 ฉบับท่ี 2 กรกฎาคม-ธันวาคม 2563 23
ลาดบั ตาบล วดั ตอ้ งการ ไมต่ ้องการ หมายเหตุ 4 ตาบลบา้ นกิ่ว วดั ปาุ มว่ ง ⁄ ⁄ 5 ตาบลบ้านบอม วดั ม่อนแสนศรี / 6 ตาบลปา่ ตัน วัดแม่ปงุ ⁄ ⁄ 7 ตาบลแม่ทะ วัดฮ่องห้า ⁄ ถูกไฟไหม้ 8 ตาบลวงั เงนิ วัดก่ิวหลวง วัดนาตม๋ / ⁄ ไมม่ ีใบลานแล้ว วดั แม่อบิ / วดั สันดอยน้อย / / วดั สนั นารนิ ทร์ / วัดบอมธาตุ ⁄ วัดบอมหลวง / / วัดบา้ นดา่ น ⁄ / วัดโปงุ แน่น ⁄ วัดพระบาทแมไ่ ทย ⁄ / วัดสันปุาเปา ⁄ ⁄ วัดนากวา้ ว / / สารวจและจดั หมวดหมแู่ ล้ว วัดนาคตหลวง / วัดปงหอศาล / สารวจและจัดหมวดหมูแ่ ลว้ วัดปุาตนั หลวง วดั สบทะ ⁄ สารวจและจัดหมวดหมแู่ ล้ว วดั สนั ฐาน วัดทา่ แหน สารวจและจัดหมวดหมแู่ ลว้ วัดบา้ นจว้าก / วัดแม่ทะ วดั แม่ทะหลวง วัดบ้านกิ่ว วัดทงุ่ ตอน วัดนาดง 24 ปที ่ี 7 ฉบับท่ี 2 กรกฎาคม-ธันวาคม 2563
ลาดับ ตาบล วัด ต้องการ ไมต่ อ้ งการ หมายเหตุ / วัดนาด่หู ลวง / วัดบ้านพมิ าย 25 / / ไมม่ ใี บลาน วัดพระธาตสุ ันดอน / / 9 ตาบลดอนแกว้ วดั บา้ นเดน่ / / ใบลานสูญหาย วดั บา้ นอ้อ / ไมม่ ใี บลาน / วดั แม่ทาน / / วดั แมว่ ะ / / วัดสบแม่นาง / / วัดสร้างใหม่ วัดสันดอนแกว้ / 10 ตาบลหวั เสือ วัดดอนมลู วัดนายาบ วัดบา้ นกอ้ ม วัดบ้านทุ่ง วดั ผาแมว วดั สบไร่ วดั สามขา วัดหว้ ยมะเกลอื วัดหวั เสือ / จัดหมวดหมู่แลว้ / 11 วัดสาคัญ วัดถ้าพระสบาย / / วัดปุาเพ่ิมพูน 43 วัดเวยี งสวรรค์ รวมท้งั ส้นิ ปีท่ี 7 ฉบบั ที่ 2 กรกฎาคม-ธันวาคม 2563 25
รูปภาพ 1-3 แสดงการจัดเกบ็ คมั ภรี ใ์ บลานวัดในเขตอาเภอแมท่ ะ จังหวัดลาปาง ทม่ี า : นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ชั้นปีที่ 3 (2557) ผลจากการสัมภาษณ์ พระสงฆ์ ผูน้ าชมุ ชน ปราชญช์ าวบ้าน ในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวัดลาปาง เร่ือง การอนรุ กั ษ์คัมภีรใ์ บลาน โดยการนาขอ้ มูลมาจดั ประชมุ เชิงปฏบิ ตั ิการ ณ วัดสนั ฐาน ตาบลปุาตัน อาเภอแมท่ ะ จังหวัดลาปาง ซ่งึ ถือเป็นวดั ต้นแบบในการจดั การอนุรกั ษ์คัมภรี ใ์ บลาน สามารถสรปุ ผลไดด้ ังนี้ 1. ท่านพระครูปรยิ ตั ิสนุ ทร เจ้าอาวาสวัดสันฐานได้เล็งเห็นความสาคัญของอักษรธรรมล้านนา จาก การสังเกตของทา่ นพระครู พบว่า ชาวบา้ นมีความนิยมฟังตวั ธรรมเพราะหนังสือธรรมมีความศักดิ์สิทธ์ิ อีกท้ัง ทา่ นพระครูยังมีองค์ความรูเ้ กยี่ วกับอกั ษรลา้ นนาในแบบโบราณจงึ ทาใหส้ ามารถเปรียบเทยี บสาเนยี งภาษาจาก อดีตจนถึงปัจจุบันได้เป็นอย่างดี จากความสนใจและมีความต้องการที่จะอนุรักษ์คัมภีร์ใบลาน ท่านพระครู ปริยัติสุนทร จงึ ไดเ้ ก็บรวบรวมคัมภรี ์ใบลานล้านนา รวมท้ังส้ินจานวน 394 เรื่อง ดังน้ันวัดสันฐาน ถือเป็นวัด ต้นแบบของการอนุรักษ์คัมภีร์ใบลานล้านนา นอกจากนี้ พระสงฆ์และสามเณรวัดสัณฐานมีส่วนร่วมใน กระบวนการอนุรักษ์คัมภีร์ใบลานตั้งแต่กระบวนสารวจคัมภีร์ใบลานเพื่อนาผลจากการสารวจมาจัดเป็น หมวดหมู่ 2. ปราชญ์ชาวบา้ น ผู้ทรงความรู้ด้านคัมภีร์ใบลาน เข้ามามีส่วนร่วมในการอ่านคัมภีร์ใบลานและให้ ความรรู้ วมถงึ ขอ้ มลู ท่เี ป็นข้อเทจ็ จริงเพมิ่ เตมิ ในขั้นตอนของการสารวจ 3. เทศบาลตาบลปาุ ตันนาครัว ใหค้ วามสาคญั เกีย่ วกับการอนุรักษ์คัมภีร์ใบลานโดยเข้ามามีส่วนร่วม ในกระบวนการดาเนินงานโดยมคี วามต้องการทจี่ ะสง่ เสรมิ วิธีการต้มใบลานใหก้ ับวัดและชุมชนเพื่อให้เกิดการ อนุรักษ์คมั ภรี ใ์ บลานโดยชุมชนอยา่ งแทจ้ รงิ ดา้ นการอนรุ กั ษ์อักษรลา้ นนาและคัมภีร์ใบลานนน้ั ชุมชนยงั มีความ ต้องการทจ่ี ะเขา้ ร่วมอนรุ ักษ์คัมภีร์ใบลานล้านนาด้วยการสารวจผู้ที่มีความรู้ด้านอักษรล้านนามาเป็นผู้สร้าง ความรู้ความเข้าใจอักษรล้านนาให้แก่เยาวชนและคนในชุมชนที่สนใจ อีกท้ังยังต้องการให้สถานศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยราชภฏั ลาปางได้นาบคุ ลากรทม่ี คี วามรู้ความชานาญด้านอักษรล้านนาเข้าไปให้ความรู้และเป็นผู้ ถา่ ยทอดอกั ษรลา้ นนาท่ีถกู ตอ้ งให้แก่ชมุ ชน อีกทงั้ ชุมชนควรหาแนวทางในการสรา้ งเครอื ขา่ ยอักษรลา้ นนาและ 26 ปที ี่ 7 ฉบบั ท่ี 2 กรกฎาคม-ธนั วาคม 2563
คมั ภรี ์ใบลานในพน้ื ทตี่ าบลปาุ ตนั และตาบลนาครัว รวมถงึ ควรมีการติดตามประเมนิ ผลการดาเนินงานด้านการ อนรุ ักษ์คมั ภรี ใ์ บลานอยา่ งต่อเน่ือง อน่ึง นายกเทศมนตรีเทศบาลตาบลปุาตันนาครัว ได้เล็งเห็นความสาคัญ ของการอนรุ กั ษ์อักษรล้านนา จึงส่งเสริมให้มกี ารนาอักษรลา้ นนามาเป็นหลกั สตู รเสรมิ ใหก้ ับทุกโรงเรยี นในเขต เทศบาลตาบลปุาตันนาครัว หรือกาหนดใหเ้ ป็นหลักสตู รภาษาลา้ นนาสาหรบั ภาคฤดรู ้อน นอกจากนี้ วดั สันฐานจะเปน็ ตน้ แบบการอนุรกั ษ์คมั ภรี ใ์ บลานล้านนาในเขตอาเภอแม่ทะ รวมถึงการ เป็นสถานทใี่ นการหล่อหลอมและปลกู ฝงั ใหช้ มุ ชนได้เห็นความสาคญั ของอักษรลา้ นนาหรอื ภาษาเมอื ง และเปน็ แหล่งเรียนรู้ด้านอกั ษรลา้ นนาทีใ่ หเ้ ยาวชนไดม้ ีโอกาสเข้ามาเรยี นรู้รากเหงา้ ของตน ดงั นน้ั ผลการศึกษาการถา่ ยทอดคัมภีร์ใบลานลา้ นนาภายใตโ้ ครงการกระบวนการจัดการเรยี นรู้คมั ภรี ์ ใบลานเพอ่ื นาไปสู่การอนรุ กั ษ์ ฟ้นื ฟูเอกสารโบราณลา้ นนา วัดสนั ฐาน ตาบลปุาตนั อาเภอแม่ทะ จังหวดั ลาปาง (2557) จงึ สามารถนาไปใช้ให้เกิดประโยชนจ์ ากการมสี ่วนรว่ มของวัด ชมุ ชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพอื่ ใหเ้ กดิ การอนรุ กั ษอ์ ยา่ งเป็นรูปธรรม จึงเกิดกิจกรรมโครงการท่ีวัดและชุมชนต้องการดาเนินการร่วมกัน โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ พร้อมให้การสง่ เสริมสนับสนุน เชน่ โครงการต้มใบลาน โครงการหลักสูตรฤดู รอ้ นภาษาลา้ นนา เป็นต้น รูปภาพท่ี 4-5 การสัมภาษณ์ผ้ใู หญบ่ า้ นบ้านหล่ายทงุ่ นายทองหลอ่ เถาว์ยศ ท่ีมา : นกั ศึกษาสาขาวชิ าภาษาไทย ชั้นปที ี่ 3 (2557) ปที ่ี 7 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม-ธนั วาคม 2563 27
รูปภาพที่ 6 สมั ภาษณ์ คณะกรรมการวดั นาคตหลวง ท่มี า : นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย ชน้ั ปที ่ี 3 (2557) การจัดทาแผนที่ทางวฒั นธรรมคัมภรี ์ใบลาน แสดงให้เห็นถึงข้อมูลของวัดท่มี ีคัมภรี ์ใบลานและจานวน วดั ทตี่ ้องการสารวจใบลาน กลา่ วคือ 4.1 แผนท่ีแสดงความต้องการสารวจใบลานวดั ในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวัดลาปาง รปู ภาพท่ี 4 แผนที่แสดงความตอ้ งการสารวจใบลานวดั ในเขตอาเภอแม่ทะ จงั หวัดลาปาง ท่ีมา : อ.วารินทร์ วงศว์ รรณ อาจารยป์ ระจาสาขาวิชาสงั คมศกึ ษา คณะมนษุ ยศาสตร์และ สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลาปาง (2557) 28 ปที ี่ 7 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม-ธันวาคม 2563
4.2 แผนที่แสดงข้อมูลคัมภีรใ์ บลานวัดในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวัดลาปาง รูปภาพท่ี 5 แผนทแ่ี สดงขอ้ มลู คมั ภรี ใ์ บลานวดั ในเขตอาเภอแมท่ ะ จงั หวดั ลาปาง ท่มี า : อ.วารินทร์ วงศว์ รรณ อาจารยป์ ระจาสาขาวิชาสงั คมศึกษา คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏลาปาง (2557) สรุปผลการวิจัย การสารวจความตอ้ งการในการอนุรกั ษ์คัมภีรใ์ บลานของวดั ในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวัดลาปาง พบว่า มวี ัดในเขตอาเภอแมท่ ะ จงั หวัดลาปาง จานวนท้งั ส้ิน 68 วัด มวี ัดที่ต้องการสารวจ จานวน 25 วัด และวัดที่ไม่ ตอ้ งการใหส้ ารวจ จานวน 43 วดั โดยมีเหตผุ ล คือ ไดม้ กี ารสารวจและจัดหมวดหมู่ไว้แลว้ และบางวดั เปน็ วดั ท่ี สร้างข้นึ ใหม่ ไม่มคี มั ภีร์ใบลาน และใบลานถูกไฟไหม้ ผลการสมั ภาษณ์ สมั ภาษณพ์ ระสงฆ์ ปราชญ์ชาวบ้าน ผูร้ ูใ้ นทอ้ งถ่ิน ผู้สงู อายุ เรอ่ื งการอนรุ ักษเ์ อกสาร โบราณ พบว่าควรตระหนักถึงคุณค่าและความสาคัญ โดยเฉพาะคุณค่าทางองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อ ตนเองและสังคม โดยการ ศึกษาค้นคว้า การทารายงาน การทาวิจัย ตลอดจนการสารวจ ดูแล การจัดเก็บ รกั ษา เพอื่ คงไวเ้ ป็นมรดกของชาตสิ ืบไป นอกจากนี้ ควรมีการการใช้ประโยชน์ในการแสดงพระธรรมเทศนา เทศมหาชาติ ประเพณี พธิ กี รรม ปที ่ี 7 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม-ธันวาคม 2563 29
การจัดทาแผนที่ข้อมูลคัมภีร์ใบลานวัดในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวัดลาปาง ผู้วิจัยได้จาแนกเป็น 2 ประเภท คอื 1) แผนท่ีแสดงความตอ้ งการสารวจใบลานวดั ในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวัดลาปาง 2) แผนท่ีแสดง ข้อมลู คมั ภรี ์ใบลานวดั ในเขตอาเภอแมท่ ะ จงั หวัดลาปาง อภปิ รายผล จากการวิจัยเรื่อง การสารวจความต้องการในการอนุรักษ์คัมภีร์ใบลานของวัดในเขตอาเภอแม่ทะ จังหวดั ลาปาง มีประเด็นที่ควรนามาอภิปรายผล คือ ผลจากการสารวจการอนุรักษ์คัมภีร์ลานของวัดในเขต อาเภอแมท่ ะ จงั หวดั ลาปาง สามารถนาไปพัฒนาต่อยอดการศึกษา รวบรวม การอนุรักษ์คัมภีร์ใบลานเพ่ือให้ เกิดแนวทางการอนุรกั ษค์ มั ภรี ใ์ บลานในจงั หวัดลาปางอย่างเป็นรปู ธรรม นอกจากนี้ การนาไปใชป้ ระโยชน์ คอื องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ และหน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้องสามารถนาข้อมลู จากการศึกษาไปใช้ในการวางแผนงาน ให้สอดคล้องกบั วัฒนธรรมท้องถนิ่ สามารถเปน็ แนวทางในการจัดเก็บคมั ภรี ใ์ บลานด้วยระบบดิจิทัล ของวัดใน เขตอาเภอแม่ทะ จังหวดั ลาปาง และผลการศึกษาสามารถนาไปใชข้ ยายผลเพอื่ สง่ เสรมิ ใหม้ หาวิทยาลยั ราชภัฏ ลาปาง เปน็ ศนู ยก์ ลางของฐานข้อมลู คัมภีร์ใบลานของจังหวดั ลาปาง ขอ้ เสนอแนะในการวจิ ัยครงั้ ตอ่ ไป 1. ควรมกี ารปรวิ รรตคมั ภีร์ใบลานใหค้ รบทุกวดั ในเขตอาเภอแมท่ ะ จังหวัดลาปาง 2. ควรมกี ารศกึ ษากระบวนการมีส่วนรว่ มของชุมชนในการอนรุ ักษ์ฟนื้ ฟูคมั ภีรใ์ บลานล้านนา 3. ควรมีการศกึ ษาวิเคราะหภ์ มู ปิ ญั ญาทป่ี รากฏในคมั ภรี ์ใบลานของแต่ละวดั เอกสารอ้างอิง ดเิ รก วชิรญาโณ, พระ. (2545). ค่มู ือการสารวจคัมภรี ใ์ บลาน. เชียงใหม่ : สานกั งานกองทุนเพ่อื สังคม โฮงเฮียนสืบสานภูมิปญั ญาลา้ นนา. ตลุ าภรณ์ แสนปรน . (2555). รายงานการวิจยั การศกึ ษาวรรณกรรมจากคัมภีรใ์ บลานล้านนา เขตชุมชน วดั พชิ ยั หมู่ 1 ตาบลพิชัย อาเภอเมอื ง จังหวดั ลาปาง. ลาปาง: สาขาวชิ าภาษาไทย คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏลาปาง ตุลาภรณ์ แสนปรน. (2557). รายงานการวิจัยกระบวนการจัดการเรียนรู้คัมภีร์ใบลานเพ่ือนาไปสู่การ อนุรักษ์ ฟ้นื ฟูเอกสารโบราณล้านนา วดั สนั ฐาน ตาบลป่าตัน อาเภอแม่ทะ จังหวดั ลาปาง. ลาปาง : สาขาวชิ าภาษาไทย คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏลาปาง วิชัย กุลษาบาล. (2543). การศึกษาวิเคราะห์คัมภีร์ใบลานในชลบุรี. ชลบุรี: ภาควิชาภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. 30 ปีที่ 7 ฉบับท่ี 2 กรกฎาคม-ธันวาคม 2563
สถาบนั วจิ ยั สังคม. (มปป.). รายชื่อหนงั สือโบราณล้านนา เอกสารไมโครฟิล์ม. โครงการ การศึกษาวิจัยคัมภีร์ใบลานภาคเหนือ :สถาบนั วจิ ยั สังคม มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่. สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคเหนอื . (2542) . กรุงเทพฯ : มูลนิธิสารานุกรมวฒั นธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย.์ อดุ ม ร่งุ เรอื งศรี. (2545). วรรณกรรมลา้ นนา. (ปรับปรุงครั้งที่ 4) เชียงใหม่ : ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ . ------------. (2547) .พจนานุกรม-ไทย ฉบบั แมฟ่ า้ หลวง.ปรบั ปรุงครง้ั ท่ี 1. เชยี งใหม่ : ภาควชิ าภาษาไทย คณะมนษุ ยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ . เอกสารรายงานสมั มนา สินีนาฏ สมบรู ณอ์ เนก. 2555. “การอนุรกั ษ์คัมภีร์ใบลาน”, ในรายงานการสมั มนาทางวิชาการ การจดั การมรดก ทางวฒั นธรรมและความร่วมมือในการจัดการมรดกวฒั นธรรมประเภทขอ้ มลู เอกสารโบราณ. เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยราชภฏั เชยี งใหม่ เวบ็ ไซต์ วีณา วีสเพ็ญ “การอบรมเชิงปฏิบัติการ อักษรโบราณอีสาน” ณ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราช วทิ ยาลัย วิทยาเขตอบุ ลราชธานี วนั ที่ 18 มกราคม 2554 สืบคน้ เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2563 จาก http://202.28.32.22/msuact/index.php?mode=viewrecord&mid=20110126102700_4314#.Urvw LF0y9Ms) ปีที่ 7 ฉบับท่ี 2 กรกฎาคม-ธันวาคม 2563 31
วารสารวชิ าการคณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ ปีท่ี 7 ฉบบั ท่ี 2 กรกฎาคม-ธนั วาคม 2563 ปีที่ 7 ฉบับท่ี 2 กรกฎาคม-ธันวาคม 2563 147
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: