Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-Book-ความรู้พื้นฐานการอ่านและการพูด

E-Book-ความรู้พื้นฐานการอ่านและการพูด

Description: E-Book-ความรู้พื้นฐานการอ่านและการพูด

Search

Read the Text Version

หนงั สือเรยี นอเิ ล็กทรอนิกส์ (E-Book) ความรูพ้ น้ื ฐานของการอา่ นร้อยแก้วและการพดู สาหรบั นักเรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ทรัพย์ศุกลภัทร รม่ สบาย นพรัตน์ ภกั ดศี ิรวิ งษ์ สุดารตั น์ สวุ รรณวงษ์ สพุ ัตรา แสงนอ้ ย ญาณิศา ประจา สิตาภา ภพู วก

หนังสือเรยี นอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (E-Book) ความรู้พ้นื ฐานของการอ่านรอ้ ยแก้วและการพูด สาหรบั นักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ทรัพย์ศุกลภัทร ร่มสบาย นพรัตน์ ภกั ดีศิรวิ งษ์ สุดารัตน์ สุวรรณวงษ์ สพุ ตั รา แสงนอ้ ย ญาณศิ า ประจา สิตาภา ภูพวก นักศกึ ษาช้นั ปที ี่ ๒ สาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สวนสนุ นั ทา

คานา หนังสือเรยี นอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (E-Book) เล่มนจี้ ดั ทำขน้ึ เพื่อพัฒนำทักษะกำรพูดและ กำรอ่ำนของนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษำปที ่ี ๒ รำยวิชำภำษำไทย กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ทักษะกำรพูดเปน็ กำรสื่อสำรของมนษุ ยท์ ม่ี ีกำรใชภ้ ำษำเปน็ สอ่ื กลำงในกำรถ่ำยทอด ควำมรสู้ กึ นึกคดิ ของตนเองใหผ้ อู้ ่นื ไดร้ บั รู้ กำรพดู เป็นทัง้ ศำสตรแ์ ละศลิ ป์ ผู้พูดจำเปน็ ตอ้ ง มีหลักเกณฑ์และวิธีกำรต่ำง ๆ ท่ใี ชใ้ นกำรพดู นอกจำกนี้ยังตอ้ งใช้ควำมสำมำรถพิเศษเฉพำะ บุคคลในกำรเรียนรู้ และลงมอื ปฏบิ ัติ กำรพุดน้นั มีหลำยประเภท และมีลกั ำณะตำ่ งกนั ตำม วิธกี ำรนำเสนอ กำรพฒั นำทักษะกำรพดู จึงมีควำมสำคญั ตอ่ กำรเรียนร้แู ละกำรดำรงชีวิต ของมนษุ ย์ ซ่ึงทกั ษะกำรพูดเป็นกำรฝกึ มำรยำททำงสงั คมอยำ่ งหนงึ่ ท่ีบุคคลผ้อู ยู่รวมสงั คม เดยี วกนั จะพึงมตี อ่ กัน ชว่ ยเช่อื มควำมสัมพนั ธ์อนั ดีระหวำ่ งบคุ คลเพ่ือนรว่ มงำน เพ่อื นตำ่ ง องค์กรหรืออำจเปน็ บุคคลอื่น ให้มีควำมรูส้ กึ ที่ดตี ่อกัน กำรอ่ำนออกเสยี งเปน็ วิธีกำรสือ่ สำรอีกประเภทหน่งึ ท่ีช่วยให้ผ้ฟู ังและผู้อ่ำนไดร้ ับ ควำมรปู้ ระสบกำรณแ์ ละควำมเพลดิ เพลนิ เมอ่ื เรำจะอำ่ นใหผ้ ูฟ้ งั เรำก็ควรอ่ำนน่ำฟงั หมำยถงึ ทำให้ผู้ฟงั ไดร้ บั สำรจำกบททอี่ ่ำนนั้นครบถว้ น เข้ำใจบทอ่ำนได้อย่ำงซำบซ้ึงไม่วำ่ บท อ่ำนนัน้ จะเปน็ ร้อยแกว้ หรอื ร้อยกรอง กำรอำ่ นแบง่ วรรคตอนตำมฉนั ทลกั ษณ์ตำ่ ง ๆ และ อ่ำนสอดแทรกอำรมณต์ ำมลกั ษณะงำนเขียนได้ จะทำให้กำรอ่ำนออกเสียงมคี วำมไพเรำะ นำ่ ฟงั และเกิดอำรมณต์ ำมลักษณะงำนเขยี น เน้อื หำมีสอดคลอ้ งตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำ พุทธศกั รำช ๒๕๕๑ กลุ่มสำระเรยี นรูภ้ ำษำไทย สำระท่ี ๑ กำรอำ่ น และสำรที่ ๓ กำรฟงั ดู และพดู ทรพั ยศ์ กุ ลภทั ร ร่มสบาย และคณะ

สารบญั ความรู้พน้ื ฐานของการอา่ น......................................................๑ ความหมายของการอ่าน...........................................................๒ ความสาคญั ของการอา่ น...........................................................๓ มารยาทในการอา่ น...................................................................๔ การอ่านออกเสยี งร้อยแก้ว………………………………………………….๔ หลักเกณฑใ์ นการอา่ น………………………………………………………๕ ตวั อย่างรปู แบบวรรณกรรมประเภทร้อยแกว้ ..............................๙ ฝึกอา่ นงานร้อยแก้ว...................................................................๑๐ แหล่งข้อมลู อา้ งองิ ………………………………………………………………๑๑

การอา่ น ความรพู้ นื้ ฐานของการอ่าน กำรอ่ำนออกเสียงเปน็ วิธกี ำรสอ่ื สำรอีกประเภทหนงึ่ ท่ชี ว่ ยให้ผฟู้ งั และผู้อ่ำน ได้รบั ควำมรูป้ ระสบกำรณ์และควำมเพลดิ เพลิน เมอื่ เรำจะอำ่ นใหผ้ ูฟ้ งั เรำก็ควรอ่ำนน่ำ ฟงั หมำยถงึ ทำให้ผู้ฟงั ได้รับสำรจำกบทท่อี ำ่ นนัน้ ครบถ้วน เขำ้ ใจบทอำ่ นไดอ้ ยำ่ ง ซำบซง้ึ ไม่ว่ำบทอ่ำนนั้นจะเป็นรอ้ ยแกว้ หรือร้อยกรอง กำรอำ่ นแบง่ วรรคตอนตำมฉันทลักษณต์ ่ำง ๆ และอำ่ นสอดแทรกอำรมณต์ ำม ลกั ษณะงำนเขียนได้ จะทำใหก้ ำรอำ่ นออกเสียงมคี วำมไพเรำะ น่ำฟงั และเกิดอำรมณต์ ำม ลกั ษณะงำนเขยี น การอา่ นออกเสยี ง เปน็ กำรเปลง่ เสยี งตำมตัวอกั ษรและสญั ลักษณ์ตำ่ ง ๆ เพือ่ ใหผ้ ฟู้ งั เขำ้ ใจ ควำมหมำยซึ่งอำจมีจุดตำ่ งกนั เช่น อ่ำนเพื่อให้ควำมรู้ อำ่ นเพอื่ ถำ่ ยทอดข้อมูลขำ่ วสำร อ่ำนเพื่อควำมสนกุ สนำน บนั เทงิ ใจ อ่ำนเพอื่ เรำ้ ให้เกดิ อำรมณค์ วำมรสู้ ึกสะเทอื นใจตำม ผู้ทส่ี ง่ สำรตอ้ งกำร หรืออ่ำนเพอื่ จุดมงุ่ หมำยเฉพำะ เช่น อำ่ นประกำศ อ่ำนแถลงกำรณ์ องค์ประกอบพ้นื ฐานในการฝึกการอา่ น องค์ประกอบพืน้ ฐำนในกำรฝกึ อ่ำน ประสิทธิภำพในกำรอ่ำนออกเสยี ง ขึน้ อยู่ กับปจั จัยพืน้ ฐำนท่ีสำคัญหลำยประกำร ดังน้ี ๑. ฝึกใชส้ ายตา ใช้สำยตำกวำดตำมขอ้ ควำมแต่ละชว่ งจำกจดุ หน่งึ ไปยงั อีกจุดหน่งึ เพื่อรบั ทรำบ ข้อมูลทีจ่ ะอำ่ นอย่ำงมีสมำธิ กำรกวำดสำยตำจะช่วยใหอ้ ำ่ นหนงั สือไดเ้ รว็ ขน้ึ ๑

องค์ประกอบพ้นื ฐานในการฝกึ การอ่าน (ตอ่ ) ๒. ฝกึ การเสยี ง ใชเ้ สยี งตอ้ งมพี ลงั ในกำรอำ่ น มีนำ้ หนัก มเี สียงดงั พอประมำณให้ไดย้ นิ ทว่ั ถงึ ใช้เสียงหนักเบำเพือ่ เน้นควำมสำคญั ของขอ้ ควำมให้สอดคล้องกับเนื้อ เรอ่ื ง ๓. ฝกึ การใชอ้ ารมณ์ ต้องสอดแทรกอำรมณใ์ หเ้ หมำะสมกบั เน้ือเรือ่ งและเจตนำของผเู้ ขยี นผู้อำ่ น จงึ ควรศกึ ษำบทอำ่ นล่วงหนำ้ ให้เข้ำใจ ตรวจสอบควำมถกู ตอ้ งของอกั ขระกำร เว้นวรรคตอน ๔. ฝึกอา่ นใหค้ ลอ่ งและถกู ต้องตามอักขระวิธี โดยเฉพำะ ร ล คำควบกลำ้ ตอ้ งออกเสยี งให้ชดั เจน เนน้ เสียงและถ้อยคำ ตำมน้ำหนกั ควำมสำคัญของใจควำม ใช้เสียงและจงั หวะใหเ้ ป็นไปตำมเน้ือเร่ือง ๕. ฝกึ ใช้อวยั วะ ปาก คอ ในการออกเสยี ง เสยี งเกดิ จำกอวยั วะในช่องปำกและลำคอ กำรฝึกฝนอวยั วะตำ่ งๆ ให้ทำงำน ไดถ้ กู ต้องในกำรออกเสียงจะทำใหเ้ สียงท่เี ปลง่ ออกมำชัดเจนและถูกตอ้ งตำม อักขระ ๖. ฝึกการวางบุคลกิ ภาพ ยนื นั่ง กำรยนื และกำรน่ังอำ่ น ควรวำงท่ำทำงให้สง่ำงำม ผึง่ ผำยเปน็ ปกติ จับหนงั สอื ใหถ้ ูกต้องหำ่ งจำกสำยตำประมำณ ๑ ฟุต ไมย่ กหนังสือบงั ๒

ความสาคัญของการอ่าน กำรอำ่ นหนังสือทำให้ผอู้ ่ำนได้รับสำระควำมรู้ต่ำง ๆ ซงึ่ จะทำให้ผูอ้ ำ่ น เป็นผ้ทู ่ที นั ตอ่ เหตกุ ำรณ์ ทนั ควำมคิด หนงั สอื เป็นส่ือทดี่ ที ่ีสดุ ใชง้ ่ำยและมี รำคำถกู บคุ คลทวั่ ไปสำมำรถใชเ้ พื่อกำรศึกษำหำควำมรู้และควำม เพลดิ เพลินได้ กำรอ่ำนหนังสือเปน็ กำรฝกึ กระบวนควำมคิดผ่ำนทำงสมอง ทำใหเ้ กิด สมำธิ หำกมกี ำรฝึกฝนอย่ำงสม่ำเสมอ จะทำใหเ้ กดิ กำรพัฒนำและ สัมฤทธิผลตอ่ ผู้ท่อี ่ำนหนังสอื จะได้ทง้ั ควำมคิดและจินตนำกำร มารยาทในการอ่าน กำรอ่ำนเปน็ ทักษะกำรสอ่ื สำรทส่ี ำคญั และจำเป็นในชีวิตประจำวนั เปน็ เครอ่ื งมอื ในกำรแสวงหำควำมรู้เพื่อให้เป็นคนทันโลกทนั เหตกุ ำรณ์ ผ้อู ำ่ นจึงตอ้ งมมี ำรยำทในกำรอำ่ น ผูอ้ ่านจึงต้องมมี ารยาทในการอ่าน ๑. ไมอ่ ำ่ นเสยี งดังสรำ้ งควำมรำคำญใหค้ นอ่นื ๒. ไมใ่ ชอ้ ปุ กรณ์ส่อื สำรภำยในห้องสมดุ ๓. ไมน่ ำอำหำร ขนม นำ้ เข้ำไปรบั ประทำนในหอ้ งสมุด ๔. เมอ่ื อำ่ นหนังสอื เสรจ็ แล้วใหน้ ำไปวำงไว้ในจดุ ทบ่ี รรณำรักษ์กำหนด ๕. ไมฉ่ ีกหนังสอื พบั มุม ทำให้หนงั สอื ยับ ชำรดุ สกปรก ๖. หนงั สอื ทม่ี ีผอู้ ื่นอ่ำนอยู่ก่อน ควรใหผ้ ู้อืน่ อ่ำนจบกอ่ นแล้วคอ่ ยอำ่ นต่อ ๗. ไมอ่ ่ำนจดหมำย หนงั สือ หรอื สมุดบันทึกสว่ นตวั (อนทุ ิน) ของผูอ้ ่นื ๓

หลักเกณฑ์ในการอ่านออกเสยี งรอ้ ยแกว้ ๑. กอ่ นอ่ำนควรศึกษำเรื่องท่ีอ่ำนใหเ้ ขำ้ ใจ เพือ่ เเบ่งวรรคตอน ๒. อำ่ นให้คล่อง และเสยี งดังพอเหมำะกับสถำนที่และจำนวนผู้ฟัง ๓. อำ่ นให้คลอ่ งและถกู ต้องตำมอักขรวิธี โดยเฉพำะ ร ล คำควบกลำ้ ตอ้ งออกเสียงใหช้ ดั เจน ๔. เน้นเสียงและถอ้ ยคำ ตำมน้ำหนกั ควำมสำคญั ของใจควำม ใชเ้ สียง และจงั หวะใหเ้ ปน็ ไปตำมเน้อื เรอ่ื ง เช่น ดุ อ้อนวอน จริงจัง ฯลฯ ๕. อ่ำนออกเสยี งให้เหมำะสมกับประเภทของเรอื่ ง เชน่ ถำ้ อ่ำนเรือ่ งที่ให้ ข้อเท็จจรงิ ท่ัวไป จะอำ่ นออกเสยี งธรรมดำใหช้ ัดเจน ๖. ในระหวำ่ งที่อ่ำน ควรกวำดสำยตำมองตัวอักษร สลับกับกำรเงยหนำ้ ขนึ้ มำสบตำผฟู้ ัง ในลักษณะท่เี หมำะสม และดูเปน็ ธรรมชำติ ๗. ถำ้ อ่ำนในทีป่ ระชมุ ตอ้ งยนื ทรงตวั ในท่ำทำงทสี่ ง่ำ มอื ทีจ่ บั กระดำษ อยู่ในท่ำทำงทีเหมำะ ไมเ่ กร็ง ไม่ยกกระดำษ หรือเอกสำรบงั หนำ้ หรอื ไม่ถอื ไว้ตำ่ เกนิ ไปจนตอ้ งกม้ ลง (มลชญา หนิ ศรีสวุ รรณ, ออนไลน์, ๒๕๕๕) ฝกึ อา่ น…งานวรรณกรรม “รอ้ ยแกว้ ” ขา้ งหลังภาพ : ศรบี รู พา หมอ่ มรำชวงศก์ รี ติถงึ แก่กรรม ขำ้ พเจ้ำอยู่ตอ่ หนำ้ เธอ พร้อมด้วยบรรดำญำติ ของเธอในระหวำ่ งช่ัวโมงอันมดื ครม้ึ นั้น กอ่ นหน้ำจะสิน้ ใจ เธอขอดนิ สอกบั กระดำษ เธอต้องกำรจะพูดประโยคสุดท้ำยกบั ข้ำพเจ้ำ แตห่ มดเสียง หมดเรย่ี วแรง เธอจึงเขยี น ลงบนกระดำษวำ่ : “ฉนั ตายโดยปราศจากคนทฉี่ นั รัก แต่ฉันกอ็ มิ่ ใจว่า ฉนั มีคนท่ฉี นั รัก” (ศรีบรู พา, ๒๕๕๑, หน้า ๑๕๘) ๔

ความสาคญั ของการพดู กำรพดู มีควำมสำคัญต่อกำรดำเนนิ ชีวิตเหน็ ไดว้ ่ำในกำรส่ือสำรทำกจิ กรรมตำ่ ง ๆ มนษุ ย์อำศยั กำรพดู ในกำรสือ่ สำรเพอ่ื กำรอยูร่ ว่ มกันในสังคมและใชม้ ำกพอๆกับกำรฟงั เพรำะกำรพูดและกำรฟงั ตอ้ งอำศัยซึ่งกนั และกนั เพรำะกำรพูดเป็นกำรถำ่ ยทอดควำมร้ใู ห้ ผฟู้ ังบรรลุผลตำมควำมมุง่ หมำยปัจจุบันมีเทคโนโลยที ชี่ ว่ ยในกำรสื่อสำรหลำยรปู แบบ เช่นวิทยโุ ทรทัศนโ์ ทรศพั ท์คอมพิวเตอรส์ ื่อสงั คมออนไลน์ และอกี มำกมำย กำรพดู จึง เป็นเคร่ืองมอื สำคญั ในกำรตดิ ตอ่ สอ่ื สำรเพ่อื ประโยชนส์ ่วนตวั และทำงธรุ กจิ มำกขึน้ ผู้พูด ตอ้ งให้ควำมสำคญั ต่อภำษำที่สอ่ื สำรออกไปถกู ตอ้ งตรงจดุ ประสงคแ์ ละกำลเทศะ ในอดีตคำกลำ่ วสอนใจเกีย่ วกับควำมสำคญั ของกำรพดู กลำ่ วว่ำ “พูดดีเป็นศรีแกต่ วั พดู ช่ัวอปั รำชัย”และบำงสำนวนกลำ่ วถึงกำรพูดไมด่ ีท่สี ง่ ผลเสียต่อตนเองเชน่ “ปลำหมอ ตำยเพรำะปำก” นอกจำกนส้ี ุนทรภ่ไู ด้กล่ำวเตือนใจให้เรำได้เหน็ ควำมสำคญั ของกำรพูดวำ่ “เปน็ มนษุ ย์สดุ นยิ มเพยี งลมปำก จะไดย้ ำกโหยหิวเพรำะชวิ หำ แม้นพดู ดีมคี นเขำเมตตำ จะพูดจำจงพเิ ครำะหใ์ หเ้ หมำะควำม” (สนุ ทรภู่) องคป์ ระกอบของการพดู กำรพูดทีบ่ รรลจุ ุดมงุ่ หมำยในกำรพดู ยอ่ มประกอบด้วยองคป์ ระกอบทสี่ ำคญั ทที่ ำให้ กำรพูดครั้งนีป้ ระสบควำมสำเรจ็ โดยมีองค์ประกอบดงั น้ี (จุไรรตั น์ ลักษณะศริ ิ และ บำหยัน อิ่มสำรำญ.๒๕๕๑) ๑) ผพู้ ดู เปน็ ผทู้ ่ตี ้องแสดงควำมสำมำรถในกำรถ่ำยทอดควำมรู้ควำมคดิ ไปสูผ่ ฟู้ ังให้ดี ท่ีสดุ ผู้พดู ตอ้ งรจู้ ักใช้ภำษำน้ำเสยี งสีหน้ำท่ำทำงอยำ่ งเหมำะสมตลอดจนใช้อุปกรณต์ ่ำงๆ ประกอบเพือ่ ให้กำรพูดบรรลจุ ดุ มุ่งหมำย ๑๐

องค์ประกอบของการพูด (ต่อ) ๒) สำระหรอื เน้อื เร่ืองทพี่ ูด เนือ้ เรอ่ื งตอ้ งมคี วำมถกู ตอ้ งชัดเจนมปี ระโยชนเ์ ป็นไป ในทำงสรำ้ งสรรค์ผพู้ ูดควรเลือกเรือ่ งทตี่ นถนัดและมคี วำมรู้จรงิ ๆ ๓) ผูฟ้ ัง เป็นผู้รบั สำรทผ่ี ู้พดู ถ่ำยทอดมำให้ผฟู้ งั ต้องสำมำรถฟังถอ้ ยคำตำ่ งๆไดเ้ ข้ำใจ มีสมำธิและยอมรับฟังควำมคิดเหน็ ของผูพ้ ูดซึ่งอำจแตกต่ำงจำกควำมคดิ ของตนผ้ฟู ัง อำจแสดงปฏกิ ริ ิยำให้ผพู้ ูดทรำบด้วยกำรพยกั หนำ้ ปรบมอื ย้ิมหัวเรำะก้มหนำ้ ขมวดคว้ิ และอกี มำกมำยผู้พูดกจ็ ะทรำบไดว้ ่ำผลของกำรพดู ตรงกบั จุดม่งุ หมำย จากการศกึ ษาองค์ประกอบของการพดู ของ พิมพาพรณ์ บุญเสรฐิ สำมำรถสรุปประเดน็ องคป์ ระกอบของกำรพูดได้ ดังน้ี ๑. เน้อื หำ หมำยถึง สำระสำคญั ทผ่ี ู้จะต้องมคี วำมสอดคล้องกับหวั ข้อวัตถปุ ระสงค์มี ควำมคดิ หลักทนี่ ำเสนอชัดเจนมีควำมนำ่ สนใจและพลควำมท่นี ำมำประกอบเร่อื งพดู เหมำะสมสร้ำงสรรค์และเปน็ ประโยชนต์ อ่ ผฟู้ ังมีกำรลำดับเน้อื หำสำระสำคญั ของเร่อื งท่ี จะพูดใหเ้ ป็นระบบมคี วำมต่อเนื่องกนั ไปประกอบด้วยคำนำเน้ือเรอื่ งสรปุ ทำให้ผู้ฟงั เขำ้ ใจ สำระสำคัญทั้งหมดได้ดีขน้ึ โดยไมเ่ กิดควำมสับสน ๒. ภำษำ หมำยถึง ถอ้ ยคำที่ใชภ้ ำษำในกำรพูดแสดงควำมรสู้ กึ นกึ คดิ ต่ำง ๆ ของผู้พูด ไดด้ ผี พู้ ูดตอ้ งใช้ถอ้ ยคำกะทดั รัดเข้ำใจงำ่ ยใชค้ ำและประโยคถูกตอ้ งตำมหลักไวยำกรณ์ ใชภ้ ำษำอย่ำงเหมำะสมกบั สถำนภำพผ้ฟู งั โอกำสพูดจำให้แกผ่ ู้ฟงั ไมพ่ ำดพิงเรื่องส่วนตัว ๓. ลีลำน้ำเสยี ง หมำยถงึ กำรใชน้ ้ำเสียงเปน็ สอ่ื ทีจ่ ะนำสำรหรือเรื่องรำวควำมรู้ ควำมคดิ ควำมรูส้ กึ จำกผู้พดู ไปถึงผ้ฟู งั กำรใชน้ ้ำเสยี งควรมีกำรพดู ให้เสียงดงั ฟังชดั น้ำเสียงน่ำฟังมลี ีลำในกำรพดู ทีน่ ่ำสนใจ ๑๐

จากการศกึ ษาองคป์ ระกอบของการพูด ของ พมิ พาพรณ์ บญุ เสรฐิ (ตอ่ ) ๔. อำกปั กริ ยิ ำท่ำทำงประกอบ หมำยถงึ อำกปั กิรยิ ำตำ่ ง ๆ ประกอบกำรพดู ทช่ี ว่ ย เสรมิ ใหก้ ำรพูดมีควำมน่ำสนใจและมีควำมน่ำเชือ่ ถอื เชน่ สีหน้ำดวงตำกำรเดินกำรยืนกำร ใชม้ อื และมบี คุ ลิกภำพทีเ่ หมำะสมทำให้กำรพูดมคี วำมน่ำเชอื่ ถอื สรุปไดว้ ำ่ องค์ประกอบของกำรพูดทีท่ ำให้กำรสอ่ื สำรประสบควำมสำเรจ็ ผพู้ ูดต้อง ให้ควำมสำคญั กบั องค์ประกอบกำรพูด ดงั น้ี ๑. ผู้พูดผทู้ ำหนำ้ ทีส่ ง่ สำรผ่ำนสอื่ ไปให้ผู้ฟังดังนนั้ ผู้พูดจะต้องมีควำมสำมำรถใช้ทง้ั ศำสตรแ์ ละศิลปะของตนเองถำ่ ยทอดควำมร้สู กึ นกึ คดิ ไปสู่ผูฟ้ ังใหไ้ ด้อยำ่ งสมบรู ณ์ ครบถว้ นควำมสำมำรถของผูพ้ ูดจะทำใหผ้ ู้ฟังเข้ำใจขึน้ อยกู่ บั ควำมสำมำรถ ในกำรใช้ ภำษำเสยี งและกิรยิ ำท่ำทำงของผพู้ ดู เจตคติตอ่ เรอื่ งที่จะพดู ระดบั ควำมรู้ในเรื่องทพ่ี ูด และผู้พดู มีฐำนะทำงสงั คมพน้ื ฐำนทำงจริยธรรมและวัฒนธรรมอยใู่ นระดบั ใด ๒. สำระหรอื เน้ือหำท่พี ูดเนอ้ื หำที่ผู้พูด ตอ้ งกำรสือ่ ออกไปจะตอ้ งมีคุณค่ำชัดเจนมี ประโยชนแ์ ละคุณค่ำแกก่ ำรเสยี เวลำของผฟู้ ังสำรที่ผ้พู ูดส่งไปนน้ั จะตอ้ งเตรยี มมำแล้ว อยำ่ งดเี ชน่ กำรคัดเลอื กข้อมูลท่ีมคี วำมน่ำเช่อื ถอื กำรจัดลำดับเนื้อหำที่พูดไมว่ กวนและ กำรฝึกฝนตนเองของผพู้ ดู ๓. ผฟู้ ังผฟู้ ังอย่ใู นฐำนะทจี่ ะต้องรบั สำรของผพู้ ดู โดยอำศัยสอื่ เป็นเครอ่ื งนำพำผฟู้ ังจะ สำมำรถรับสำรไดต้ รงกบั เจตนำของผพู้ ูดไดม้ ำกนอ้ ยหรือไมน่ ั้นขึ้นอยกู่ ับทกั ษะในกำร ฟงั ควำมพรอ้ มควำมสนใจพนื้ ควำมรูว้ ฒั นธรรมและเจตคติของผู้ฟัง (ทศั นีย์ เศรษฐพงษ์ และคณะ, ๒๕๖๒, หนา้ ๕๕-๘๐) ๑๐

แหล่งขอ้ มูลอ้างองิ ทศั นีย์ เศรษฐพงษ์ และคณะ. (๒๕๖๒). กำรพฒั นำทกั ษะกำรพูดสำหรบั ครู ใน ภาษาเพื่อการสือ่ สารสาหรบั ครู. ๕๕-๘๐. : สำนักพมิ พ์แหง่ มหำวิทยำลัย รำชภัฏสวนสุนนั ทำ. บรษิ ทั อกั ษรเจริญทัศน์ อจท. จำกดั . (๒๕๕๙). กำรอำ่ นออกเสียง. ใน หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.๒. ๒-๑๑. : บริษัทไทยร่มเกลำ้ จำกัด. มลชญำ หินศรสี ุวรรณ. (ม.ป.ป.). การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรอง. สืบค้นเมื่อ ๑๐ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๔. จำก : https://sites.google.com/site/ hxngreiynkhruml/home/kar-xan/kar-xan-xxk-seiyng- bth-rxy-krxng. ที่มาของรปู ภาพในการทาหนงั สอื เรียนอเิ ล็กทรอนิกส์ ภำพจำก https://www.pinterest.com ๑๑

\"The more that you read, the more things you will know. The more that you learn, the more places you'll go.\" \"ย่งิ เราอา่ นมากเทา่ ไหร่ เราก็ยง่ิ รเู้ ยอะมากขน้ึ เทา่ นน้ั ย่ิงเราเรียนรมู้ ากขน้ึ เท่าไหร่ กย็ ิง่ มีสถานท่ีท่เี ราจะไปมากขนึ้ เท่าน้ัน\" ดร.ซูสส์ นกั สรา้ งสรรคห์ นงั สือเด็ก จากหนงั สอื I Can Read With My Eyes Shut!