ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอบอ่ พลอย จงั หวดั กาญจนบรุ ี
การขยายพนั ธพ์ุ ชื การขยายพันธ์พุ ชื หมายถงึ การเพมิ่ ปรมิ าณต้นพืชจากต้นท่ีมี อยู่ด้วยวิธีการต่าง ๆ เพ่ือให้พืชดารงสายพันธุ์นั้นไว้ไม่ให้สูญพันธุ์ และ รักษาลักษณะประจาพันธุ์ที่มีอยู่ในพืชน้ัน ๆ ให้คงอยู่ หากลักษณะประจา พันธ์ุของพืชนั้น ๆ หายไปแสดงว่าการขยายพันธุ์พืชไม่ประสบผลสาเร็จ ดงั นนั้ การขยายพันธ์ุพชื จึงเปน็ สิง่ จาเปน็ และเป็นปัจจัยสาคัญในการพัฒนา งาน ด้านการเกษตร โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท ซึ่งแต่ละประเกทจะมีวิธีการ และเทคนคิ ทีแ่ ตกต่าง กันตามแตล่ ะชนดิ ของพืชและวัตถุประสงค์ ซ่ึงมีทั้งข้อดี และขอ้ เสยี ที่แตกต่างกนั ออกไป การขยายพันธ์ุพชื มี 2 ประเภท คือ 1. การขยายพันธ์พุ ชื แบบอาศัยเพศ 2. การขยายพนั ธุ์พชื แบบไม่อาศัยเพศ
การขยายพนั ธพุ์ ชื การขยายพนั ธพ์ุ ชื การขยายพนั ธพุ์ ชื แบบอาศยั เพศ แบบไมอ่ าศยั เพศ การผสมเกสร การเพาะเมลด็ การตอนกง่ิ การทาบกง่ิ การตดิ ตา การเสยี บยอด การปกั ชา
การขยายพนั ธพุ์ ชื การผสมเกสร การผส มเกส ร คือ การนาเกสรตัวผู้ของต้นไ ม้ไ ปหาเกส ร ตัวเมีย ทาใหเ้ กิดการสืบพนั ธุแ์ ละกลายเปน็ เมลด็ ต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่มักมี แมลงหรอื ลมเป็นผู้กระทา ตัวช่วยในการผสมเกสรมักเป็นสัตว์ประเภท แมลง นกและค้างคาว ทั้งยังมีน้า ลม หรือกระทั่งต้นพืชเองอีกด้วยใน กรณี การผสมเกสรเองของดอกไมท้ อี่ ยูต่ ดิ กัน เกสรตวั เมยี เกสรตวั ผู้ การผสมเกสรเองของดอกไมท้ อ่ี ยูต่ ดิ กนั
การขยายพนั ธพ์ุ ชื การเพาะเมลด็ การเพาะเมล็ด เปน็ การขยายพนั ธุพ์ ชื โดยวิธกี ารใช้เพศ ซ่ึงการขยายพันธ์ุไม้ ผลบางชนดิ กจ็ าเปน็ ต้องใช้วิธกี ารขยายพันธ์ุโดยเมล็ด เช่น มังคุด น้อยหน่า พุทรา เป็นต้น ข้อดีของการสืบพันธ์ุแบบอาศัยเพศของพืช คือ เหมาะ สาหรบั ใช้ในการขยายพนั ธุพ์ ืชล้มลุกและพืชท่ีมีอายุสั้น เช่น ข้าว ผัก และ ไม้ดอกต่าง ๆ ขอ้ ดี ขอ้ เสยี 1. ทาไดง้ า่ ย รวดเรว็ 1. ใหผ้ ลผลิตชา้ 2. ระบบรากแข็งแรง 2. อาจกลายพนั ธุ์ 3. ลงทนุ น้อย แต่ไดจ้ านวนตน้ ทีม่ าก
การขยายพนั ธพ์ุ ชื การเพาะเมลด็ การเพาะเมล็ด จะมีประเภทของเมลด็ ท่แี ตกต่างกันคือ เมลด็ แบบไมเ่ คลอื บ และเมลด็ แบบเคลอื บ เมล็ดแบบไมเ่ คลอื บ เมลด็ แบบไม่เคลือบ จะผา่ นการลดความช้นื มาแล้ว สามารถเก็บรักษาได้ใน ภาชนะปดิ สนิทในตู้เย็นท่อี ุณหภมู ิ 4-10 องศา นาน 1 ปี มีราคาถูก หา ซอ้ื งา่ ย ประสทิ ธิภาพในการงอกต่า เพราะเมลด็ มีขนาดเลก็ เมลด็ แบบเคลอื บ เมล็ดแบบเคลือบ จะผ่านการเคลือบสารป้องกันเช้ือราและสารกระตุ้นการ งอก มีการเคลือบผิวและผสมวัสดุห่อหุ้มเพ่ือลดความช้ืน และรักษาสภาพ ของเมล็ดเอาไว้ จึงทาให้มีประสทิ ธิภาพในการงอกสูง
การขยายพนั ธพุ์ ชื การเพาะเมลด็ ปัจจยั ในการงอกของเมลด็ ปัจจยั ในการงอกของเมล็ดจะข้ึนอยู่กับ น้า ความช้ืน อุณหภูมิ แสงแดด อาหารในเมลด็ โรค เชือ้ รา และการกดั กนิ เมล็ดของแมลงบางสว่ น วิธกี ารทาให้เมลด็ งอกเรว็ 1. กะเทาะเปลอื กหมุ้ เมลด็ ออก 2. ลวกดว้ ยน้าร้อน 5 นาที (80-100 องศาเซลเซียส) หลังจากน้ันแช่น้า เยน็ 12-24 ช่ัวโมง 3. แชน่ า้ ธรรมดาหรือนา้ ร้อน เพือ่ ให้เปลือกอ่อนตัว เพ่ือลดสารยับย้ังการ งอกที่เปลือก และเพ่อื ยน่ ระยะเวลาในการงอก 4. ใชส้ ารเคมี กรดซลั ฟูรคิ คารบ์ อนซลิ กิ หรือคลอรีน
การขยายพนั ธพุ์ ชื การขยายพันธ์ุพืชแบบไม่อาศยั เพศ คือ การใชส้ ่วนตา่ ง ๆ ของพืชมาทาให้ เกิดราก ยอด เจริญเติบโตเป็นพืชต้นใหม่ โดยจะมีวิธีการขยายพันธุ์ท่ี แตกต่างกันออกไป คือ การตอนก่ิง การทาบก่ิง การติดตา การเสียบ ยอด และการปกั ชา ขอ้ ดี ข้อเสยี 1. อาศยั ความรู้ความชานาญมาก 1. ขยายพนั ธ์ไุ ด้รวดเรว็ ประหยัด คา่ ใช้จา่ ย 2. ไม่มโี อกาสเกิดพนั ธุ์ใหม่ 3. โรคอาจติดจากต้นเดมิ ไดง้ า่ ย 2. ให้ผลผลติ เรว็ กว่าการเพาะเมล็ด 3. ไมก่ ลายพนั ธุ์
การขยายพนั ธพุ์ ชื การตอนกง่ิ การตอนก่ิง เป็นวิธกี ารทาให้ก่ิงพืชออกรากในขณะอยู่ติดกับต้นแม่ เมื่อก่ิง นั้นออกรากดแี ล้ว จงึ สามารถตดั แลว้ นาไปปลกู ต่อได้
การขยายพนั ธพุ์ ชื การทาบกง่ิ การทาบกิ่ง เป็นการนาพชื สองต้นมาทาการต่อเชื่อมให้เป็นต้นเดียวกัน โดย มีเซลลเ์ นอื้ เย้ือเป็นตัวเชื่อมติดกัน โดยการทาบก่ิงจะประกอบส่วนท่ีเป็นต้น ตอ่ ทาหน้าทเ่ี ป็นระบบรากของต้นพชื ใหม่ และส่วนของกิ่งพันธ์ุดี ท่ีอยู่เหนือ รอยตอ่ ทาหน้าทเี่ ปน็ สว่ นยอดหรอื ก่งิ กา้ นลาตน้ ของพืชต้นใหม่
การขยายพนั ธพุ์ ชื การตดิ ตา การติดตา เป็นวิธีการเช่ือมประสานส่วนของพืชเข้าด้วยกัน เพื่อให้ เจรญิ เติบโตเป็นพืชตน้ เดยี วกัน โดยการนาแผ่นตาจากก่ิงพันธุ์ดี ไปติดบน ตน้ ตอทจี่ ะทาการติดตา กิ่งพนั ธด์ุ ี คือ ตน้ พนั ธ์ทุ ่ีมคี ณุ ภาพและมคี วามโดดเด่นในสายพันธุ์ของตนเอง ทาหนา้ ทเี่ ป็นสว่ นยอด หรือกิง่ ก้านลาตน้ ของพชื ตน้ ใหม่ ตน้ ตอ คือ ต้นไม้ท่จี ะนากง่ิ พนั ธุ์ไปปลูกต่อ เพ่ือให้ได้ต้นท่ีแข็งแรง ต้นตอ จะตอ้ งเปน็ ตน้ ตอทสี่ มบรู ณ์
การขยายพนั ธพุ์ ชื การเสยี บยอด การเสยี บยอด เป็นวธิ กี ารเช่ือมประสานเนอ้ื เยื้อของต้นพชื 2ตน้ เข้าด้วยกัน เพ่อื ใหเ้ จริญเตบิ โตเปน็ ต้นเดียวกนั
การขยายพนั ธพ์ุ ชื การปกั ชาหรอื ตดั ชา การปักชาหรือตัดชา เป็นวิธีการตัดส่วนใดส่วนหนึ่งของพืช เช่น ใบ กิ่ง ลาต้น ราก ออกจากต้นเดิม ไปเก็บไว้ในที่ที่มีสภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสม ทาให้สว่ นต่าง ๆ ดงั กลา่ วของพืชงอกรากและแตกยอด เจริญเติบโตเป็นพืช ต้นใหม่ต่อไปได้ โดยการปกั ชามดี ว้ ยกนั ถงึ 4 วธิ ี ดงั นี้ การปกั ชากง่ิ การปกั ชากงิ่ แก่ เปน็ วิธีท่ีใช้กบั ไมพ้ ลดั ใบมากที่สดุ โดยใชก้ ่งิ แกท่ ่ีไม่มีใบหรอื ตาที่ กาลงั แตกใหม่ กิ่งมลี ักษณะสมบรู ณ์ ไม่เหีย่ วแห้ง การปกั ชากง่ิ ปานกลางหรอื กง่ิ ก่งึ แก่กง่ึ ออ่ น เปน็ วิธีทใี่ ช้กับไมเ้ นื้อแข็งทไ่ี ม่พลดั ใบหรอื ไมผ้ ลัดใบ ด้วยการตัดกง่ิ ท่ไี มแ่ ก่เตม็ ท่กี งิ่ มลี กั ษณะอวบสขี อง กิง่ มสี ีไม่เข้มมากก่ิงมคี วามสมบูรณไ์ มเ่ ห่ยี วไมเ่ ป็นโรค การปกั ชากงิ่ ออ่ น เปน็ วิธีที่นิยมใชส้ าหรับการขยายพันธไ์ุ มด้ อกไมป้ ระดบั เปน็ ส่วน ใหญ่ ดว้ ยการตัดกิง่ ออ่ น ก่ิงมีลกั ษณะสมบรู ณ์ อาจมียอด และใบติดหรอื ไม่มีก็ได้ ยอดท่ีติดควรเจริญเตบิ โตดี ไมเ่ ปน็ โรค การปกั ชากง่ิ ไมเ้ นอื้ ออ่ น เป็นวิธีทใี่ ช้สาหรบั พืชบางชนิด ส่วนมากเป็นพืชใบเลีย้ ง เดย่ี ว ที่มีลักษณะกง่ิ หรือลาตน้ เป็นไม้เนอ้ื ออ่ น
การขยายพนั ธพ์ุ ชื การปกั ชาหรอื ตดั ชา การปกั ชาราก การปักชาราก เปน็ วธิ ีที่ไม่ค่อยนิยม มักใช้กับพืชบางชนิดที่แตกหน่อตาม กิ่งรากหรือมีตาเกิดตามรากพบมากในพืชน้าหรือพืชท่ีเป็นเครือ เช่น บัว มนั บางชนิด เป็นตน้ ซง่ึ ควรเลือกรากทม่ี ตี าหรอื หน่อติดมาดว้ ย การปกั ชาใบทม่ี ตี า การปกั ชาใบที่มีตา เป็นวธิ ที ่ีใช้กับพืชพืชเน้ือออ่ นพวกไม้ประดบั และพชื เน้ือ แขง็ บางชนิด เช่น โกศล ยางอินเดีย เปน็ ต้น ด้วยการตัดก่ิงด้านล่าง และ ด้านบนของตา และยอดที่มีใบตดิ มาด้วย
การขยายพนั ธพุ์ ชื การปกั ชาหรอื ตดั ชา การปกั ชาใบ การปักชาใบ เป็นวิธีที่ใช้กับไม้ที่มีใบลักษณะหนาหรืออวบน้า มักใช้มาก สาหรับไม้ดอกไม้ประดับ โดยราก และยอดจะแตกออกบริเวณโคนก้านใบเหนือ ฐานรอยตดั โดยเฉพาะบริเวณของเสน้ ใบ แบ่งเปน็ 2 ลกั ษณะ คือ การปกั ชาแผ่นใบ ท้งั ใบทม่ี ีตายอด และใบที่ไมม่ กี ารแตกตายอด ด้วยการตัด ใบเปน็ แผน่ ๆ และนามาปักชา เช่น ตน้ คว่าตายหงายเปน็ เปน็ ต้น การปักชากา้ นใบ โดยใช้ใบที่มีก้านใบติดอยู่นามาปักชา โดยให้ส่วนก้านใบชา ลงดนิ เช่น ใบเพปเพอโรเมีย ใบมะนาว เป็นต้นการตัดจะใช้วิธีตัดให้ชิดโคน ก้านใบมากทส่ี ดุ
การขยายพนั ธพ์ุ ชื วธิ กี ารปกั ชาหรอื ตดั ชา กอ่ นทาการปกั ชากิ่งทกุ ชนดิ ใหก้ รดี บริเวณโคนก่ิงยาว 1-2 ซม. ตามแนวยาว 1-2 ด้าน และแช่ฮอร์โมนเรง่ ราก และยาป้องกนั เช้อื ราเสยี ก่อนด้วยการจุ่มโคน กง่ิ ปกั ชาตามระยะโคนก่งิ ทีป่ ักชาในดนิ นาน 10-30 นาที การปกั ชากงิ่ จะใช้วิธีการเสียบกิงลึกประมาณ 5-10 ซม. ขึ้นอยู่กับความยาว ของก่งิ และชนดิ พืช การปักชาราก จะใช้วิธกี ารชาในลักษณะการปกั ชากิ่งหรอื การชาโดยการกลบท้ัง ราก การปกั ชาใบ จะใชว้ ิธปี ักชาใบบางสว่ นหรือการชาก้านใบลงดินโดยมีใบบางส่วน อยูพ่ ้ืนเหนอื ดนิ การปักชาใบท่มี ีตา จะใชว้ ิธีการปกั ชาเฉพาะส่วนที่เป็นโคนก่ิงท่ีมีตาให้ฝังลงดิน โดยส่วนใบหรอื ตาจะพ้นเหนือดินดา้ นบน การดูแลรกั ษา การให้น้าจาเป็นต้องให้น้าทุกวัน วันละ 1-2 คร้ัง เช้า-เย็น อย่างสม่าเสมอ เพ่ือรักษาความชุ่มช้ืน โดยระวังไม่ให้น้ามากเกินไปจนน้าท่วมขังหรือดินเปียก มาก เพราะอาจทาให้ก่งิ เน่าได้ง่าย ส่วนการใส่ปุ๋ยไม่จาเปน็ ในระยะแรก แต่อาจ ใสป่ ุ๋ยก่อนระยะย้ายกล้าออกปลกู ประมาณ 1-2 อาทิตย์ ดว้ ยการละลายปุ๋ยหรือ ใชป้ ๋ยุ น้า
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอบอ่ พลอย จงั หวดั กาญจนบรุ ี
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: