Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตำบลนิคมพัฒนา

ตำบลนิคมพัฒนา

Published by เจียวเฟย Khonsue, 2022-01-27 15:27:45

Description: ตำบลนิคมพัฒนา

Search

Read the Text Version

1 รายงานการจดั การการทอ่ งเทย่ี วเชงิ สรา้ งสรรค์โดยชมุ ชน ภายใตโ้ ครงการยกระดับเศรษฐกจิ และสังคมรายตำบล (มหาวิทยาลัยส่ตู ำบล สร้างรากแกว้ ใหป้ ระเทศ) ตำบลนคิ มพฒั นา อำเภอเมือง จังหวดั ลำปาง จัดทำโดย วทิ ยาลัยสหวทิ ยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง

2 สารบญั 1. บรบิ ทพื้นทีแ่ ละทรพั ยากรทอ่ งเทย่ี วในชมุ ชน หน้า 2. ประสบการณเ์ ดมิ ของชุมชนในการจัดการการทอ่ งเทีย่ ว 1 3. ความเป็นมาและความสำคัญของทรพั ยากรท่องเท่ียวในชมุ ชน 7 4. การออกแบบเส้นทางท่องเทยี่ วเชงิ สร้างสรรคข์ องชุมชน 10 5. โครงการกจิ กรรมทดลองเสน้ ทางทอ่ งเทีย่ วเชงิ สรา้ งสรรค์ของชุมชน 18 6. ผลการจัดกิจกรรมทดลองเส้นทางทอ่ งเที่ยวเชงิ สร้างสรรคข์ องชุมชน 20 24 7. ปัญหา และข้อจำกัดของกิจกรรมทดลองเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของ 28 ชุมชน 8. แนวทางการพัฒนาปรับปรงุ กจิ กรรมเส้นทางท่องเที่ยวเชงิ สรา้ งสรรคข์ องชมุ ชน 29 ภาคผนวก 31

1 1.บริบทพน้ื ทแี่ ละทรพั ยากรทอ่ งเทย่ี วในชุมชน บริบทดา้ นพ้นื ที่ ตำบลนิคมพัฒนาตั้งอยู่ทางทิศเหนือของอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ออกไปเป็นระยะทาง ประมาณ 15.05 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 60.75 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณร้อยละ 5.25 ของ พืน้ ทอ่ี ำเภอเมอื งลำปาง ลกั ษณะพน้ื ทเ่ี ปน็ ท่ีราบสูงและลาดเขาประมาณ 20-40 % พน้ื ท่สี ว่ นใหญ่เป็น ป่าสงวนแห่งชาติ บางแห่งเป็นป่าเสื่อมโทรมที่ถูกบุกรุก เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยและการเกษตร พื้นท่ี การเกษตรถนนเส้นหลกั คือ เส้นทางหลวงแผ่นดนิ หมายเลข 1035 สายลำปาง - แจ้ห่ม – วงั เหนอื ทิศเหนอื ตดิ ตอ่ กับ ตำบลบา้ นสา อำเภอแจ้หม่ จงั หวัดลำปาง ทศิ ใต้ ติดตอ่ กับ ตำบลทุง่ ฝาย อำเภอเมือง จงั หวดั ลำปาง ทศิ ตะวันออก ตดิ ต่อกับ ตำบลบุญนาคพฒั นา อำเภอเมอื ง จังหวัดลำปาง ทิศตะวนั ตก ติดต่อกับ ตำบลต้นธงชัย ตำบลบ้านเอื้อม และตำบลบ้านค่า อำเภอเมือง จังหวดั ลำปาง ภาพท่ี 1 ตำบลนิคมพฒั นา อำเภอเมอื ง จงั หวดั ลำปาง วสิ ัยทศั น์ จัดบริการสาธารณะโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้บริการประชาชน พัฒนาและบริหารจัดการ แหล่งนำ้ อนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม

2 ประวัตศิ าสตร์ของตำบลนิคมพัฒนา ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2511 - 2512 ได้มีราษฎรอพยพมาจากตำบลบ้านสา และตำบลสบมาย อำเภอแจ้ห่ม เนื่องจาก 2 ตำบลนี้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนกิ่วลม ทางราชการจึงได้จัดสรร ที่ดินให้ โดยแบ่งให้ครอบครัวละ 15 ไร่ อาศัย 2 ไร่ เป็นที่ทำกิน 13 ไร่ โดยขึ้นอยู่กับกรม ประชาสงเคราะห์ สาเหตทุ ่เี รียกว่าตำบลนิคมพฒั นาเพราะนคิ มสรา้ งตนเองกิ่วลมเปน็ ผู้จดั สรรท่ีดนิ จึง ใหช้ อื่ “ตำบลนิคมพัฒนา” ตำบลนิคมพัฒนาพื้นเพเดิมเป็นหมู่บ้านที่อยู่อำเภอแจ้ห่มทั้งตำบล อพยพเข้ามาอยู่ ณ นิคม สร้างตนเองกิ่วลมแห่งน้ี เมื่อปี พ.ศ.2512 สาเหตุการอพยพเพราะหมู่บ้านเดิมถูกน้ำเอ่อท้วมจากการ สร้างเขื่อนกั้นน้ำแม่นำ้ วังช่ือวา่ “เขอื่ นกว่ิ ลม” พืน้ ท่ที ่อี ยปู่ จั จุบนั แต่เดิมเป็นป่าไมเ้ บญจพรรณ เป็นป่า ทอ่ี ุดมสมบรู ณ์ มตี ้นไมข้ นาดใหญ่ มสี ตั ว์ป่าอาศัยอยู่มาก และมที โี่ ลง่ อยกู่ ลางปา่ อยู่ ณ ทุง่ หนึง่ มีเน้ือที่ ประมาณเกอื บ 50 ไร่ บริเวณพืน้ ทดี่ งั กลา่ วไม่มีต้นไม้ขน้ึ มีวชั พืชเล็ก ๆ คล้ายท่งุ หญา้ บรเิ วณดังกล่าว ไม่มีสัตว์หรือคนลงไปเยียบย้ำเพราะบริเวณตรงนั้นถ้าคนหรือสัตว์ลงไปเหยียบย่ำ จะเกิดการ สั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ เมื่อก้าวเหยียบลงในดินจะเกิดการทรุดตัวลงไปจะไม่สามารถที่จะขยับตัว ออกได้ ชาวบา้ นเรียกว่า “ดอนแมม่ า่ ย หนองหลม่ ” คำขวญั ประจำตำบลนิคมพัฒนา เจ้าแมเ่ กย๋ี งคำเป็นศรี พระธาตเุ จดยี ์ศรีไตรภูมิสง่า ลำ้ ค่าอโุ บสถ์ไมส้ กั ทองกลางน้ำ เลศิ ลำ้ พญานาคให้นำ้ ชุม่ ฉำ่ นอ้ มนำวฒั นธรรมล้านนา จากตำนานเล่ากันวา่ เมื่อนานมาแล้ว มีชาวบ้านจากหมู่บ้าน “ป่าดำยาว” ได้ไปจับงูใหญ่ตวั หนึ่ง พบอยู่ในบริเวณถ้ำอยู่ในลักษณะหางโผล่ออกมาครึ่งตัว ได้นำไปมอบให้แก่พ่อเมืองชือ่ ว่า \"พญา เถอ่ื น\" ทีบ่ า้ น “ทงุ่ เถอ่ื น” (ปจั จบุ นั เปน็ ทีต่ ้ังของหมู่บ้าน “ทา่ ส้มปอ่ ย” ) เมอื่ พอ่ เมืองเห็นงูตัวน้ันก็เกิด ลางสังหรณ์ว่า \"อาจจะเป็นพญานาค\" จึงบอกให้ชาวบ้าวนำงูไปปล่อย แต่ชาวบ้านกลับนำงูตัวนั้นไป ฆ่าทิ้งที่บริเวณทุ่งฮี หรือเรียกว่า “ทุ่งคาว” (โดยปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ “บ้านนิคมเขต 4” โดยมีสิ่งที่ แปลกประหลาด คือ หากมีฝนตกในฤดูฝน จะมีกลิ่นคาวคุ้งไปทั่ว จึงมีความเชื่อว่าเป็นกลิ่นคาวเลือด ของงยู ักษ์ตัวน้ัน) หลงั จากนนั้ จงึ ได้จัดการแบ่งเนื้องูออกแจกจ่ายไปท่วั หมบู่ ้านดำยาว ยกเว้นบ้านหลัง เดียวของหญิงแม่ม่ายมีชื่อว่า “นางเกี๋ยงคำ” สาเหตุเกิดจากนางเกี๋ยงคำเป็นคนขยัน มีข้าวของ มากกว่าคนในหมู่บ้าน แต่เมื่อได้รับการปฏิเสธไม่ให้ยืมข้าวของชาวบ้านจึงพากันเกลียดชัง เม่ือ ชาวบ้านได้เนื้องูจึงนำมาปรุงอาหารและจัดงานเลี้ยงกันอย่างสนุกสนาน หลังจากเสร็จงานจึงนำ อาหารไปเททิ้งบริเวณบ้านของนางเกี๋ยงคำเพื่อเป็นแก้แค้น ตกดึกคืนนั้นได้เกิดเหตุการณ์ฝนตกหนัก ราวกับฟ้ารั่วถึง 3 วัน 3 คืน ติดต่อกัน และเกิดแผ่นดินได้ถล่มกลืนหมู่บ้านป่าดำยาวหายไปทั้งหมด ยกเว้นบ้านของนางเกี๋ยงคำหลังเดียวที่ไม่กินเนื้องู สันนิษฐานว่า หนองหล่มเกิดจากนำเหลืออาหาร

3 จากเนื้องูมาราดทิ้งบริเวณบ้าน “แม่ม่ายเกีย๋ งคำ” ในวันทีแ่ ผ่นดินถล่มน้ันลูกชายของ “พญาก๋าเมือง ลือ” หรือเจ้าพ่อพญาลือ เป็นคนรักของลูกสาวนางเกี๋ยงคำ ช่ือว่า “นางต่อมคำไหว” ได้ขี่ม้าพากัน หลบหนีเพื่อจะไปหมู่บ้านวังกวาง ซึ่งเป็นบ้านของชายหนุ่ม แต่ด้วยท่ามกลางฝนตกหนักและบรรทุก ของมากเกินไปจึงทำให้ม้าเดินช้าและติดหล่ม ทั้งสองจึงถอดผ้าโพกหัวสีแดงของทิ้งไว้บริเวณป่าแพะ เหนือหมู่บ้าน (ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า “แพะหนองแดง” ตั้งอยู่หมู่บ้านวังเงิน) และออกเดินทางต่อไปอีก จนมา้ ตัวน้ันเกดิ อาการเหน่ือยอ่อน ไมส่ ามารถเดนิ ข้ามขอนไม้ไปได้ “นางตอ่ มคำไหว” จึงได้ถอดตุ้มหู ของนางทิ้งบริเวณหนองข้างทาง (ปัจจุบันบริเวณนี้เรียกกันว่า “หนองขอน” ) พอเดินทางไปอีกระยะ หนึ่งนางก็เอาฝ้ายที่เตรียมมาทอเป็นเสื้อผ้าทิ้งไป (ปัจจุบันที่ตรงนั้นเรียกว่า “หนองฝ้าย”) การ เดินทางเป็นไปอย่างเชื่องช้าเพราะม้าเกิดอ่อนล้ามากนางจึงเกิดสงสารม้ามากขึ้น จึงตัดสินใจถอด ทองคำที่มีอยู่ทั้งหมดทิ้งไปบริเวณข้างห้วย (ปัจจุบันนี้เรียกห้วยนั้นว่า “ห้วยปันคำ” ซึ่งเป็นที่ทำการ ของบ้านวังกวาง) ในที่สุดทั้งสองก็เดินทางถึงหมู่บ้านวังกวางและทั้งคู่ก็ได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ปล่อยให้ “นางเกี๋ยงคำ” อยู่บ้านป่าดำยาวซึ่งเป็นหม้ายและเสียชีวิตลงเพียงคนเดียว ในปัจจุบัน บรเิ วณบา้ นนางแมม่ ่ายเกย๋ี งคำ เรียกวา่ “ดอนแมม่ า่ ย” จากเหตุการณ์ดังกล่าวสันนิษฐานว่างูตัวที่ชาวบ้านนำมาปรุงเป็นอาหารนัน้ ไม่ใช่งู คงจะเป็น พญานาคที่แสดงให้เห็นถึงอิทธิฤทธิ์ของพญานาค ทำให้เกิดแผ่นดินถล่มทีเ่ หลือเสาบ้านให้เห็นคือเสา บ้านของแม่ม่ายเกี๋ยงคำอยู่หลังเดียวที่ไม่ยอมทานเนื้องู ปัจจุบันชาวบ้านในตำบลนิคมพัฒนาจัดสร้าง พญานาคจำรองไว้บริเวณดอนหนองหล่มและทำการบวงสรวงสักการะเป็นประจำทุกปี และจัด กิจกรรมคารวะผู้สูงอายุ และก่อสร้างศาลเจ้าหลายศาลรอบบริเวณจนทำให้น้ำท่าของตำบลอุดม สมบูรณต์ ลอดปี สมควรทจี่ ะอนรุ ักษ์เพื่อเปน็ แหลง่ ศกึ ษา และพัฒนาใหเ้ ป็นแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วของจังหวัด ลำปางตอ่ ไป เมื่อประมาณ พ.ศ. 2504 ทางกรมชลประทานทำการก่อสร้างเขื่อน ชื่อว่า “เขื่อนกิ่วลม” เก็บนำ้ เพื่อใชใ้ นการเพาะปลูก ซง่ึ ขณะนน้ั บ้านวังกวางอยตู่ ิดกับแม่น้ำวัง อย่ทู างทิศเหนือของบริเวณ ทสี่ ร้างเขอ่ื น ทำใหน้ ้ำเออ่ ล้นท่วมหมบู่ า้ นวังกวาง กรมประชาสงเคราะห์จงึ ได้อพยพยา้ ยพวกชาวบ้าน “วังกวาง” กลับมาอยู่บริเวณหนองหล่ม หรือบ้านป่าดำยาวเดิม เมื่อปี พ.ศ. 2512 ในปัจจุบันใช้ชื่อ หมู่บ้านว่า “นิคมเขต 1, 2 และ บ้านนิคมเขต 3 บางส่วน” ปัจจบุ ันสัญลักษณ์รปู กวางจงึ กลายเปน็ สัญลักษณป์ ระจำตำบลนิคมพัฒนาเพ่ือให้ลูกหลานได้ ทราบถงึ ความเป็นมาและการอพยพมาจากบ้านวังกวาง

4 ตารางท่ี 1 ลำดับเหตุการณ์การตงั้ ตำบลนิคมพัฒนา ปี พ.ศ. สถานการณ์ กจิ กรรมท่ีตอบสนอง 2511-2512 2525 - ทางราชการไดม้ โี ครงการสรา้ งเขื่อนเพือ่ การเกษตร - ทางราชการไดห้ าทีอ่ ยอู่ าศยั และ 2544 ใหแ้ กป่ ระชาชนได้ใช้ประโยชน์ ซงึ่ พื้นทใี่ นการสร้าง จดั หาทด่ี ินทำกิน โดยให้สำนักงาน 2548 2553 เข่ือนอย่ใู นเขตอำเภอแจ้หม่ ต.เมอื งมาย โดย ปฏิรปู เพอื่ การเกษตรจดั สรรให้แก่ 2558 ดำเนินการอพยพชาวบา้ นออกจากพ้นื ทส่ี รา้ งเขอื่ น ชาวบ้าน แต่ละครัวเรือน ครัวเรอื น ละ 15 ไร่เทา่ กนั - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั พระราชทาน - ดำเนินการก่อสรา้ งอา่ งเกบ็ นำ้ พระราชดำริ ก่อสรา้ งอ่างเกบ็ น้ำหว้ ยหลวงวงั วัว ความกว้าง 6.00 ม. ความยาว 370.00 ม. ความสูง 18.00 ม. ความจทุ เ่ี กบ็ กกั น้ำ 1,500.800.00 ลบ.ม. พื้นที่รบั น้ำ 18.00 ตร.กม. ปริมาณนำ้ ถา้ เฉลย่ี รายปี 4,899,600.00 ลบ.ม. - ทางภาครัฐมนี โยบายสนับสนนุ ใหป้ ระชาชน - ยกระดบั คณุ ภาพชีวิตของ ประกอบอาชีพ ลดภาระปญั หาความยากจน ประชาชนในตำบล - ประชาชนมีเงินทนุ ในการ ประกอบอาชพี - ตำบลนิคมพฒั นามเี กษตรกรท่ปี ลกู ลำไยจำนวนมาก - มกี ารรวมกลุ่มกันเพอ่ื ปรบั ปรงุ เกษตรกรตำบลนคิ มพัฒนาจึงไดจ้ ดั อบรมเกย่ี วกบั การ พัฒนาพนั ธล์ุ ำไย ผลติ ลำไยให้มีคณุ ภาพให้กบั เกษตรกรผ้ปู ลกู ลำไย - แนะนำวธิ ีการตอนกงิ่ การดูแล วธิ ีการใส่ปยุ๋ ให้กบั บุคคลท่ีสนใจ - กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถิน่ ไดเ้ ล็งเหน็ ถึง - กรมสง่ เสรมิ การปกครองท้องถนิ่ ความสำคญั ของการพัฒนาเด็กเลก็ ดา้ นร่างกาย ไดจ้ ดั สรรงบประมาณในการ อารมณ์ จติ ใจ สงั คมและสติปญั ญาทง้ั ยังเปน็ การ ก่อสรา้ งอาคารศนู ย์พฒั นาเดก็ บรรเทาภาระของผู้ปกครอง แก้ไขบรรเทาความ องคก์ ารบริหารส่วนตำบลนิคม ยากจนของประชาชนในพ้ืนที่ใหเ้ ด็กได้รบั การพฒั นา พฒั นา จำนวน 1 หลงั เตรยี มความพรอ้ มอยา่ งท่วั ถึง - องค์การบรหิ ารสว่ นตำบลนิคมพฒั นาใหก้ าร - องคก์ ารบริหารส่วนตำบลนคิ ม สนบั สนนุ นายบญุ สม แตม้ ไว ในการรวมกล่มุ ผู้สงู อายุ พฒั นาจัดอบรมให้ความรเู้ กย่ี วกับ ในการเพาะเหด็ นางฟา้ การเพาะเห็ดนางฟา้ ตามแนวคดิ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งให้แก่กลมุ่ ผ้สู งู อายุ - ผสู้ ูงอายุมรี ายได้เพ่มิ ขนึ้ - นำเหด็ ที่ไดม้ าบรโิ ภคในครัวเรือน ชว่ ยลดรายจา่ ย

ทรพั ยากรการท่องเที่ยวในชุมชน ตารางท่ี 1 ทรัพยากรและกจิ กรรมการทอ่ งเท่ียวของชมุ ชน ลำดบั แหล่ง สถานที่สำคญั ส่ิงยดึ เหนยี่ ว ประเพณี / วถิ ีชวี ิต อ ธรรมชาติ มนษุ ย์สรา้ งข้นึ / จิตใจเชงิ วตั ถุ / / กจิ กรรมชุมชนใน ขนม โบราณสถาน โบราณวัตถุ รอบปฏิทนิ 1. นำ้ ตกพระ วัดนคิ มสามคั คี รปู ปนั้ งานเทศกาล ทอง เสด็จ พญานาคที่ ประจำปี หนองหลม่ บวงสรวง พญานาคท่ีหนอง 2. ถำ้ งู วดั ใหมน่ ิคมศรี ศาลเจา้ แม่ หล่ม ธรรมาราม เกีย๋ งคำ รดน้ำดำหวั (ปี๋ นำ้ พ ใหมเ่ มือง) 3. อ่างเก็บน้ำ วัดลำปางธรรมา ศาลเจ้าพ่อ ตานก๋วยสลาก ลาบ ห้วยแม่ ราม หรอื วดั ปา่ แคว่น ทรายคำ หนองหลม่ 4. อา่ งเก็บนำ้ วดั ชัยมงคล พระพุทธรปู ไม้ เข้าพรรษา แกง วงั ววั สกั

5 อาหาร / ผลติ ภณั ฑ์งาน กจิ กรรมทใ่ี ห้ ทีพ่ กั / โฮมสเตย์ พาหนะที่ใช้ ม ทอ้ งถนิ่ ฝมี อื นักทอ่ งเทย่ี วมีสว่ น (ระบุจำนวน บริการ ร่วมลงมอื ทำ หลงั ) นกั ท่องเท่ียว (ระบปุ ระเภทรถ และจำนวนคนั ) งมว้ น ผ้าทอลายตาตงั้ ทำตงุ ไสห้ มู บ้านพักหนา้ รถตู้ (1คนั ) อบต.นิคม พฒั นา (จำนวน 4 หอ้ ง) พริกลาบ สานแห ไหวพ้ ระขอพรที่ รถสองแถว (2 วดั สำคญั ใน คนั ) ตำบลนิคมพัฒนา บเมอื ง สานไม้ไผ่ แคมป้งิ รถยนต์ (2 (กลอ่ งข้าว เล้า คนั ) ไก่ ตะกรา้ ) งขนนุ ดอกไม้ประดิษฐ์ รบั ขวัญ รถอีแตน๋ (2 นักท่องเทีย่ วโดย คัน) ผูส้ งู อายุ

ลำดับ แหล่ง สถานทีส่ ำคญั ส่ิงยดึ เหนย่ี ว ประเพณี / วิถีชีวิต อ ธรรมชาติ มนษุ ย์สรา้ งขึ้น / โบราณสถาน จติ ใจเชงิ วตั ถุ / / กิจกรรมชมุ ชนใน ขนม โบราณวตั ถุ รอบปฏทิ นิ 5. ดอนแม่ วดั ศรีไตรภมู ิ หีบธรรม ออกพรรษา แกง หมา้ ย โบราณ หนองหลม่ ตานเปตพลี ขนม ประเพณีย่ีเป็ง ขนม 6. วัดสาหลวง (งานลอยกระทง) (ขน 7. วดั วงั เงิน การแข่งขันทำตุง ขนม ไส้หมู 8. มลู นิธณิ ัฐภมู ิ การแข่งขันป๋ัน แหน ปอนของผสู้ งู อายุ เน่า 9. โรงทอผ้า (ให้พร) งานกฬี าสปี ระจำ 10. อโุ บสถไมส้ ัก ตำบล ทองกลางน้ำ

6 อาหาร / ผลิตภณั ฑ์งาน กจิ กรรมทใ่ี ห้ ที่พกั / โฮมสเตย์ พาหนะท่ใี ช้ นกั ทอ่ งเที่ยวมสี ่วน (ระบุจำนวน บริการ ม ท้องถน่ิ ฝมี ือ หลงั ) ร่วมลงมอื ทำ นักทอ่ งเที่ยว (ระบุประเภทรถ และจำนวนคนั ) งแค ตุงไส้หมู มเกลือ เครือ่ งป้นั ดนิ เผา มจ็อก นมเทียน) มปาด นบถ่ัว า

7 2. ประสบการณ์เดมิ ของชุมชนในการจดั การการท่องเทยี่ ว ตำบลนิคมพัฒนายังไม่มีการจัดการท่องเที่ยวโดยการบริหารจัดการของชุมชนอย่าง เป็นรูปธรรมท่ีชดั เจนมาก่อน แต่มีการสนับสนุนโดยองค์การบรหิ ารส่วนตำบลนิคมพัฒนาให้ พัฒนาและสร้างพญานาคไว้ที่ดอนหนองหล่มเพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้และแหล่ง ท่องเท่ียวในอนาคต และภายในตำบลนิคมพฒั นายังมีแหล่งท่องเทยี่ วที่เปิดให้ทุกคนสามารถ เข้ามาเท่ยี วและร่วมงานได้ ไดแ้ ก่ หนองหล่ม ตง้ั อยทู่ ี่ ดอนหนองหล่ม หมูท่ ่ี 1 บา้ นวงั ศรภี มู ิ เป็นจุดเร่ิมต้นตำนานของ ตำบลนิคมพัฒนาจังหวัดลำปาง ชาวบ้านมีความเชื่อว่าในอดีตชาวบ้านนำงูยักษ์มาทำเป็น อาหารกินกันทั้งหมู่บ้านหลังจากนั้นฝนตกลงมาทั้งวันทั้งคืนจนทำให้แผ่นดินยุบตัวลงทั้ง หมู่บ้าน มีบ้านหลังเดียวที่รอดเพราะไม่ได้กิน ปัจจุบันชาวบ้านในตำบลนิคมพัฒนาจัดสร้าง รูปปั้นพญานาคจำรองไว้บริเวณดอนหนองหล่ม เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนเคารพบูชาและทำ การบวงสรวงสักการะเป็นประจำทุกปี และพื้นดินบริเวณนั้นจะลักษณะพิเศษคือเมื่อเหยียบ บนพนื้ ดนิ จะยวบตวั ลงไป วัดนิคมสามัคคี ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 9 บ้านร่มไตรรัตน์ เป็นวัดสำคัญและเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวที่โดดเดน่ ของตำบลนิคมพัฒนา เปน็ วัดประเภทนกิ าย มหานิกาย ภายในวดั มี 1. อุโบสถกลางนำ้ สร้างด้วยไมส้ ักทง้ั หลัง สถาปัตยกรรมล้านนา 2. พระพทุ ธรปู ไมส้ กั ศกั ดิ์สทิ ธ์มิ งคล 9 3. พระอรหนั ตส์ าวก 80 รูป สรา้ งด้วยไมส้ กั ทองทัง้ องค์ 4. พระธาตุเจดยี ศ์ รีไตรรัตน์ วัดใหม่นิคมศรีธรรมาราม ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 1 บ้านวังศรีภมู ิ ซึ่งเป็นวดั เก่าแก่ สามารถ เยี่ยมชมหอเก็บพระไตรปฎิ ก มหามงคลเจดีย์ยิงดว้ ยเลเซอรห์ นึ่งเดียวในประเทศไทย วัดลำปางธรรมาราม หรือวัดป่าหนองหล่ม ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 1 บ้านวังศรีภูมิ เป็นวัด ป่าสายปฏิบัติธรรม มีธรรมชาติที่ร่มรื่น ภายในวัดมีพระวิหารปริยัติธรรมพระไตรปิฎก เอนกประสงค์ ขา้ งบนวัดมรี ปู ปน้ั พญานาคซงึ่ ทางเดินขน้ึ ไปจะเป็นหนองหล่ม วดั ชยั มงคล ตง้ั อยทู่ ี่ หมู่ที่ 2 บ้านชยั มงคล มีสถาปตั ยกรรมทสี่ วยงาม หลวงพ่อโสธร พระพทุ ธรตั นชยั มงคลและพระบรมธาตุเจดียศ์ รีชัยมงคล วัดศรีไตรภูมิ ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 12 บ้านศรีไตรภูมิ เนื่องจากมีการสร้างเขื่อนกิ่วลมข้ึน เมื่อปี พ.ศ. 2511 ทางกรมประชาสงเคราะห์จัดสรรท่ีดนิ ให้ครอบครัวละ 15 ไร่ จึงได้ย้ายมา สร้างทอ่ี ยู่ทำกินท้งั หมด 17 เขต ได้มาอยู่ เขต 13 - 14 ต่อมาได้ตง้ั ช่อื หมบู่ ้านศรไี ตรภูมิ และ บ้านเวยี งทอง ชาวบา้ นจึงพร้อมใจกันจดั สร้างวัดขึ้นท่หี มนู่ ิคมฯ เขต 13 และเปลี่ยนเป็นบ้าน

8 ศรีไตรภูมิ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางศาสนาในการประกอบพิธีทางศาสนา ชาวบ้านศรีไตรภูมิจะ ไปปฏิบัติศาสนกิจ หรือ ประกอบพิธีทางศาสนาในวันสำคัญทางศาสนาและขนบธรรมเนียม ประเพณีทป่ี ฏิบตั ิสืบทอดกันมา วัดสาหลวง ชาวบ้านเรยี กว่าวัดนิคมฯ ก่วิ ลมเขต 6 สรา้ งเมื่อ พ.ศ. 2277 ต่อมาทาง ราชการสร้างเขื่อนกิ่วลม จึงย้ายวัดมาตั้ง ณ ที่ตั้งปัจจุบัน กระทรวงศึกษาธิการประกาศย้าย วัดวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2517 ปูชนียวัตถุมี พระพุทธรูปไม้แกะสลัก ประทับยืนและ พระพุทธรูปทองเหลืองปางสมาธิ วัดวังเงิน ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 14 บ้านวังเงิน แต่ก่อนเป็นสำนักสงฆบ์ า้ นวงั เงิน ภายในวดั มพี ื้นท่กี ว้างขวาง สงบและรม่ รน่ื เหมาะกับการมาปฏบิ ัตธิ รรมและชมศาลาไม้ที่สวยงาม อ่างเก็บน้ำแม่ทรายคำ และ อ่างเก็บน้ำวังวัว อ่างเก็บน้ำทั้ง 2 แห่ง มีความสำคัญ ต่อการดำรงชวี ิตของทุกคนในชุมชน เนือ่ งจากเปน็ แหล่งเก็บน้ำที่หลอ่ เล้ยี งคนในชุมชน ท่ใี ดมี น้ำ ที่นั้นอุดมสมบูรณ์ เพราะสามารถหาปลามารับประทานได้ อีกทั้งยังเป็นที่รวมใจของคน ในท้องที่ ปลูกจิตสำนึกให้ช่วยกันรักษา อนุรักษ์น้ำ และป่า เพื่อใช้ดำรงชีพต่อไป และยัง สามารถไปตัง้ แคมปช์ ่นื ชมธรรมชาตไิ ด้ โรงทอผ้า ตั้งอยู่ที่ 2 บ้านชัยมงคล ตำบลนิคมพัฒนามีการสืบทอดภูมิปัญญามา ตั้งแต่บรรพบุรุษ หนึ่งในนั้นคือการทอผ้าด้วยกี่กระตุกโดยมีการจัดตั้งกลุ่มทอผ้าและตัดเย็บ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ซึ่งการทอผ้าของตำบลนิคมพัฒนาเกิดจากเมื่อกลุ่มสตรีในชุมชนบ้านชัย มงคลในตำบลนิคมพัฒนาว่างงานหลังจากเสร็จจากการทำนาซึ่งเป็นอาชีพหลัก จึงมีแนวคิด รวมกล่มุ กันเพือ่ จัดต้งั การทอผ้าพืน้ เมืองข้ึนมา เป็นการทอผ้าด้วยกี่กระตกุ จึงถอื ว่าการทอผ้า เป็นวฒั นธรรมพ้ืนฐานในการตอบสนองความต้องการของมนษุ ย์ ด้านปัจจัยเครอ่ื งนุ่งห่ม และ เกิดจากการสั่งสมประสบการณข์ องบรรพบุรุษที่ใช้ทกั ษะในการทอผ้าสืบทอดใหแ้ ก่รุ่นลูกรุน่ หลาน จึงเริ่มมีการทอผ้าตั้งแต่เมื่อ ปี พ.ศ.2541 เป็นต้นมา ซึ่งปัจจุบันสินค้าที่ได้รับความ นิยมของท่นี ่คี อื “ผ้าทอลายตาตง้ั ” กระเป๋าเย็บมอื เบาะรองน่ังทำมือ และเสอ้ื ผ้าสำเรจ็ รปู นำ้ ตกพระเสด็จ ตง้ั อยทู่ ่ี หมทู่ ่ี 14 บ้านวงั เงนิ เดมิ ชอ่ื น้ำตกวังเงิน เมื่อ เดอื น มีนาคม พ.ศ. 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชินีนาถ สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดา ได้เสร็จประพาสสวนป่าแม่ทรายคำ ทรงประทับเสวยพระกระยาหาร กลางวันและพักผ่อนสำราญพระราชอิริยาบถ และได้ทรงประทานชื่อน้ำตกว่า น้ำตกพระ เสดจ็ เพือ่ เปน็ พระราชอนสุ รณใ์ นการเสรจ็ เยีย่ มของพระองค์ มูลนิธณิ ัฐภมู ิ ตั้งอยทู่ ่ี หมู่ที่ 10 บ้านรวมชยั เป็นองคก์ รการกุศล มวี ัตถุประสงค์เพ่ือ พัฒนาชุมชนให้เกิดความยั่งยืน และ มีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงมีความมุ่งมั่นและตั้งมั่นในการ

9 ช่วยเหลือชาวชุมชนในพื้นที่ของชุมชนตำบลนิคมพัฒนา อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง เพื่อพัฒนาชาวชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ตาม หลักเศรษฐกจิ พอเพยี ง งานเทศกาลประจำปีบวงสรวงพญานาคที่หนองหล่ม เป็นงานบวงทรวงพญานาค ที่ดอนหนองหล่ม ซึ่งมีรูปปั้นพญานาคตั้งอยู่ ณ ที่นั้นเพื่อให้ชาวบ้านสการะบูชา ภายในงาน ประจำปีมีการแข่งขันปั๋นปอน (ให้พร) เป็นการจัดกิจกรรมร่วมกับพิธีบวงสรวงประจำปีของ ตำบลนิคมพัฒนา เชื่อกันว่าการไดร้ บั การปั๋นปอนจากผเู้ ฒ่าผผู้ แู้ กจ่ ะเปน็ สิริมงคลแก่ลูกหลาน ซึ่งมีแรงบันดาลใจและประยุกต์มาจากการจ้อยซอ เมื่อมีลูกหลานมาเยี่ยมก็จะยินดีและ เมตตาให้พรตอบกลับ มีการแข่งขันตัดตุงไส้หมูซึ่งเป็นวัฒนธรรมของชาวล้านนา จัดขึ้นเพ่ือ หาผ้ทู ่ที ำตงุ ไสห้ มทู ี่สวยท่สี ุดประจำปเี พือ่ สืบทอดภูมปิ ัญญาและวฒั นธรรมนี้ส่รู ุ่นต่อร่นุ

3. ความเปน็ มาและความสำคัญของทรพั ยากรทอ่ งเทีย่ วในชมุ ชน 3.1 สถานที่ / วตั ถุ ลำดบั สถานท่ี / วัตถุ เรอื่ งราวท่ีมาของสถา 1. หนองหลม่ เป็นจุดเริ่มต้นตำนานของตำบลนิคม 2. วดั นิคมสามคั คี ชาวบา้ นมีความเชอ่ื วา่ ในอดีตชาวบ้า อาหารกนิ กนั ทั้งหมบู่ ้านหลงั จากน้นั จนทำใหแ้ ผ่นดินยบุ ตัวลงทง้ั หมู่บ้าน เพราะไม่ได้กิน ปัจจุบันชาวบ้านในต รปู ป้ันพญานาคจำรองไวบ้ รเิ วณดอน ศกั ด์สิ ิทธ์ทิ ท่ี ุกคนเคารพบชู าและทำ เปน็ ประจำทุกปี และพนื้ ดนิ บริเวณน เมอื่ เหยยี บบนพนื้ ดินจะยวบตัวลงไป เป็นวดั สำคญั และเปน็ สถานท่ีท่องเท นิคมพัฒนา เปน็ วัดประเภทนิกาย ม 1. อโุ บสถกลางนำ้ สรา้ งด้วยไม้สกั ทัง้ ลา้ นนา 2. พระพุทธรปู ไม้สัก ศักดิส์ ิทธิม์ งคล 3. พระอรหนั ตส์ าวก 80 รูป สรา้ งด 4. พระธาตุเจดียศ์ รีไตรรตั น์

10 านท่ี / วัตถุ ความสำคัญของสถานท่ี / วตั ถุ ทม่ี ีต่อชมุ ชน เปน็ ทีย่ ดึ เหนยี่ วจติ ใจของคนในชุมชนและเป็นท่ีใหค้ นใน มพัฒนาจงั หวัดลำปาง ชุมชนเคารพสักการะ านนำงูยักษม์ าทำเป็น นฝนตกลงมาทง้ั วันท้ังคืน เปน็ ที่ยดึ เหนย่ี วจิตใจของคนในชมุ ชนและเป็นทใ่ี หค้ นใน น มบี ้านหลังเดียวทีร่ อด ชุมชนเคารพสกั การะ ตำบลนคิ มพฒั นาจดั สรา้ ง นหนองหลม่ เป็นสิง่ ำการบวงสรวงสกั การะ นน้ั จะลักษณะพเิ ศษคือ ป ที่ยวท่ีโดดเด่นของตำบล มหานกิ าย ภายในวัดมี งหลงั สถาปตั ยกรรม ล9 ด้วยไมส้ กั ทองทั้งองค์

ลำดับ สถานท่ี / วัตถุ เรื่องราวทีม่ าของสถา 3. มูลนธิ ิณัฐภูมิ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุมชนให คุณภาพชีวิตที่ดี จึงมีความมุ่งมั่นแล ชาวชุมชนในพื้นที่ของชุมชนตำบล ลำปาง จังหวัดลำปาง เพื่อพัฒนาชา ที่ดีขึ้น โดยสามารถพึ่งพาตนเองไ เศรษฐกิจพอเพียง 4. อา่ งเก็บน้ำแม่ทรายคำ มคี วามสำคญั ตอ่ การดำรงชวี ติ ของท และ อ่างเกบ็ นำ้ วังวัว เปน็ แหลง่ เก็บน้ำทหี่ ล่อเลี้ยงคนในชมุ สมบูรณ์ เพราะสามารถหาปลามารับ เป็นที่รวมใจของคนในทอ้ งท่ี ปลูกจิต อนุรกั ษน์ ้ำ และปา่ เพ่ือใช้ดำรงชีพต ตั้งแคมปช์ ่ืนชมธรรมชาติได้

11 านที่ / วัตถุ ความสำคญั ของสถานที่ / วัตถุ ทีม่ ีต่อชุมชน ห้เกิดความยั่งยืน และ มี เปน็ แหล่งเรยี นรูเ้ กีย่ วกับการเกษตรแนวคิดเศรษฐกจิ ละตั้งมั่นในการช่วยเหลือ พอเพยี ง ลนิคมพัฒนา อำเภอเมือง าวชมุ ชนให้มคี ุณภาพชีวติ ได้อย่างยั่งยืน ตามหลัก ทุกคนในชมุ ชน เนอ่ื งจาก เหมาะสำหรับการพักผอ่ นหย่อนใจ และแคมป้ิง มชน ที่ใดมีน้ำ ที่นัน้ อดุ ม บประทานได้ อีกทงั้ ยัง ตสำนกึ ให้ช่วยกันรักษา ต่อไป และยังสามารถไป

ลำดบั สถานที่ / วตั ถุ เรือ่ งราวที่มาของสถา 5. วดั ลำปางธรรมมาราม เปน็ วดั ปา่ สายปฏิบตั ิธรรม มีธรรมชา (วดั หนองหล่ม) พระวหิ ารปริยตั ธิ รรมพระไตรปิฎกเอ รปู ปนั้ พญานาคซึง่ ทางเดินขน้ึ ไปจะเ

12 านท่ี / วัตถุ ความสำคัญของสถานที่ / วตั ถุ ทมี่ ตี ่อชุมชน าติทรี่ ม่ รืน่ ภายในวัดมี เป็นทยี่ ึดเหนย่ี วจิตใจของคนในชมุ ชนและเป็นที่ใหค้ นใน อนกประสงค์ ข้างบนวดั มี ชุมชนเคารพสกั การะ เปน็ หนองหลม่

3.2 ประเพณี / วถิ ีชีวติ / กิจกรรมชุมชนในรอบปฏิทิน ลำดับ ประเพณี / วถิ ชี วี ติ / เร่ืองราวทมี่ าของ กจิ กรรมชุมชนในรอบปฏิทนิ กิจกรรมชมุ (ระบุชว่ งวันทจ่ี ัดกจิ กรรม) เปน็ งานบวงทรวงพญ 1. บวงสรวงพญานาคทห่ี นองหล่ม ซ่ึงมรี ูปปน้ั พญานาคต ชาวบ้านสการะบูชา 2. รดนำ้ ดำหัวผู้สงู อายุ (ปใี๋ หม่เมือง) การแขง่ ขนั ปั๋นปอน กิจกรรมร่วมกับพธิ บี ตำบลนคิ มพัฒนา เช ปอนจากผู้เฒา่ ผู้ผแู้ ก ลูกหลาน ซึ่งมีแรงบัน จากการจ้อยซอ เมอ่ื ยนิ ดีและเมตตาใหพ้ ร ตดั ตุงไสห้ มซู ่ึงเปน็ วฒั จัดขนึ้ เพื่อหาผู้ทท่ี ำต ประจำปีเพ่ือสืบทอด นีส้ ูร่ ่นุ ตอ่ รุ่น เปน็ กิจกรรมทที่ ำปร ใหม่เมือง (สงกรานต

13 งประเพณี / วถิ ีชวี ิต / ความสำคญั ของประเพณี / วถิ ีชวี ติ / มชนในรอบปฏิทนิ กจิ กรรมชุมชนในรอบปฏทิ ิน ทมี่ ีตอ่ ชุมชน ญานาคท่ีดอนหนองหล่ม เป็นศูนยร์ วมจติ ใจของคนในชุมชน มกี ารเรยี นรู้สืบทอด ต้ังอยู่ ณ ที่น้นั เพ่ือให้ ต่อ ๆ กันมา มลี ักษณะทแ่ี สดงออกถึงความงอกงาม ภายในงานประจำปมี ี ทางดา้ นวัฒนธรรม การดำรงชวี ิตของคนในชุมชน การ (ให้พร) เปน็ การจดั สง่ เสริมทำนบุ ำรงุ พุทธศาสนาใหร้ งุ่ เรอื ง ความเป็น บวงสรวงประจำปีของ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย ความกลมเกลยี ว และส่งเสรมิ การ ช่ือกนั ว่าการได้รบั การปัน๋ ทอ่ งเท่ียว ตลอดจนการเป็นการอนรุ กั ษส์ ิง่ แวดลอ้ มและ ก่จะเป็นสิรมิ งคลแก่ ปา่ ไม้ นดาลใจและประยุกต์มา อมีลูกหลานมาเยีย่ มก็จะ รตอบกลบั มกี ารแข่งขัน ฒนธรรมของชาวล้านนา ตุงไสห้ มูท่ีสวยทสี่ ุด ดภมู ปิ ัญญาและวัฒนธรรม ะจำทุกปีในช่วงเทศกาลปี๋ เปน็ การขอพรจากญาตผิ ้ใู หญ่เพ่อื ใหเ้ ป็นสริ มิ งคลกบั ต)์ เปน็ การรับพรจากญาติ ตัวเอง

ลำดบั ประเพณี / วถิ ีชีวติ / เร่ืองราวทมี่ าของ กจิ กรรมชมุ ชนในรอบปฏิทิน กิจกรรมชุม (ระบุช่วงวันทีจ่ ัดกิจกรรม) ผใู้ หญ่ เพื่อใหเ้ ป็นสิร 3. จักรสาน (วถิ ชี วี ิต) การกา้ วเขา้ สปู่ ีใหม่ เปน็ วถิ ีชีวติ ของคนใน 4. ทำตุงไสห้ มู (วิถีชวี ติ ) ไผจ่ ำนวนมาก จงึ นำ ในชวี ติ ประจำวนั ตุงไส้หมถู ือวา่ เป็นทนุ ชมุ ชนตำบลนคิ มพัฒ ศลิ ปะหตั ถกรรม เนื่อ สญั ลกั ษณ์ของความเ พระพุทธศาสนา โดย บรุ ุษและชีวิตหลงั คว ไส้หมใู ห้เป็นทานให้แ ไปแลว้ อนั สง่ ผลให้ไป

14 งประเพณี / วิถีชวี ติ / ความสำคญั ของประเพณี / วิถชี วี ติ / มชนในรอบปฏิทนิ กิจกรรมชุมชนในรอบปฏิทนิ ทีม่ ตี ่อชุมชน ริมงคลในชีวติ แก่ตนเองใน นชมุ ชน ในสมัยกอ่ นมีไม้ เปน็ วิถชี ีวติ ดน้ หัตถกรรมของกล่มุ ผ้สู ูงอายแุ ละกลุ่ม ำมาจกั สานเปน็ ภชนะทใ่ี ช้ อาชพี ในตำบล นทางวัฒนธรรมของ เป็นวถิ ชี ีวติ ของชาวล้านนาตำบลนิคมพฒั นาและยัง ฒนาในดา้ น สามารถเป็นอาชพี เสริมของชาวบา้ นได้ องจากว่าตงุ ไสห้ มูเปน็ เชือ่ พ้ืนเมืองในด้าน ยเฉพาะวิญญาณบรรพ วามตาย ด้วยการถวายตงุ แก่ผีบรรพบรุ ุษทีล่ ่วงลับ ปเกดิ ในภพภูมิท่ดี ขี น้ึ

3.3 อาหาร/ขนมท้องถ่ิน ผลิตภณั ฑ์งานฝมี ือ เร่อื งราวทม่ี าของอา ลำดับ อาหาร/ขนมทอ้ งถิ่น ในตำบลนคิ มพฒั นาม ผลิตภณั ฑง์ านฝมี ือ ทักษะในการทำขนม 1. ทองมว้ น หวาน ในตำบลนคิ มพัฒนาม 2. นำ้ พริกลาบ การขน้ึ ทะเบียนอาหา ของกลุ่มเปน็ ผลติ ภัณ 3. ลาบเมอื ง มีการคว่ั จนแห้ง ทำใ 4. นำ้ พรกิ ภาคเหนอื (มะแขวน่ ) 7. ขนมจอ็ ก (ขนมเทียน) ยังสามารถเป็นไว้ใช้ไ เปน็ อาหารของคนเห เทศกาลสำคญั เป็นอาหารของคนเห ประจำ เปน็ ขนมท่ีชาวเหนือม เทศกาลสำคญั ทางศา

15 าหาร/ขนมท้องถิน่ ผลติ ภัณฑ์ ความสำคญั ของอาหาร/ขนมท้องถน่ิ งานฝมี ือ ผลิตภัณฑง์ านฝมี ือ ทม่ี ตี ่อชมุ ชน มีชาวบ้านท่ีมีความรแู้ ละ การทำทองมว้ นทำใหเ้ กิดกลุ่มอาชพี ขน้ึ และสามารถ มทองม้วนทอ่ี รอ่ ย หอม เสรมิ สร้างรายได้ให้คนในชมุ ชน มีผลติ ภณั ฑ์นำ้ พริกลาบได้รบั การทำนำ้ พริกลาบทำให้เกิดกลมุ่ อาชีพและ ารและยา (อย.) นำ้ พริกลาบ เสรมิ สร้างรายได้ใหแ้ ก่คนในชมุ ชน ณฑ์ที่ทำจากวตั ถดุ บิ ในชุมชน ใหม้ ีกลนิ่ หอมเคร่ืองเทศของ )ทโ่ี ดดเด่น รสชาตอิ รอ่ ยและ ได้เป็นเวลานาน หนอื ที่มกั จะทำรับประทานใน ลาบเมืองมกั จะทำกนิ กันในเทศกาล เช่น งานขึ้น บ้านใหม่ งานแต่ง งานศพ หนอื ท่ีมกั จะทำรบั ประทาน เปน็ อาหารท่ีทกุ บา้ นทำกินในทุกบา้ นและมี ประโยชน์ มกั จะทำเพือ่ ไปทำบุญใน เปน็ กิจกรรมท่ที ุกบ้านทำรว่ มกัน ซึ่งนิยมทำก่อนวัน าสนา เทศกาลสำคัญทางศาสนา

ลำดับ อาหาร/ขนมท้องถิน่ เรอื่ งราวท่ีมาของอา ผลติ ภณั ฑ์งานฝีมือ แกงขนุนนิยมทำรับป 8. แกงขนุน วนั สำคัญในเทศกาลป ของปีของคนล้านนา 9. แหนบถัว่ เน่า ในอดตี ตำบลนิคมพฒั ใหม้ ีการนำถั่วเหลอื ม เป็นเครื่องปรุงในอาห

16 าหาร/ขนมทอ้ งถน่ิ ผลติ ภณั ฑ์ ความสำคญั ของอาหาร/ขนมทอ้ งถนิ่ งานฝีมือ ผลิตภัณฑง์ านฝมี ือ ท่มี ตี ่อชมุ ชน ประทานในวันปากปีซ่งึ เปน็ ชาวล้านนามีความเช่อื ว่ากนิ แกงขนนุ ในวันปากปจี ะ ปีใหมเ่ มือง ถือเปน็ วนั แรก มแี ตส่ ่งิ ดีคลำ้ ชอู ุดหนนุ ใหเ้ จริญรุง่ เรอื ง า ฒนาปลกู ถั่วเหลือเยอะ จึงทำ เป็นการถนอมอาหารของชาวล้านนาตำบลนิคม มาแปรรปู เป็นถว่ั เนา่ และให้ พฒั นา และให้เครื่องปรงุ อาหารพน้ื บา้ น เช่นแกง หารพน้ื เมือง ผกั กาด

3.4 กิจกรรมทใ่ี หน้ ักท่องเทีย่ วมสี ่วนรว่ มลงมอื ทำ ลำดับ กจิ กรรมท่ีให้นักท่องเทย่ี ว ความสำคัญ การส่ือค มีส่วนร่วมลงมือทำ ใหน้ กั ท่องเท่ยี วมีสว่ 1. ทำตงุ ไส้หมู การทำตุงไสห้ มเู ป็นว พืน้ บา้ นของคนในชุม และฝมี ือของแต่ละบ วัฒนธรรมทจ่ี ับตอ้ งไ ตุงไสห้ มูของชาวนคิ ม มีความละเอยี ดของล พอเหมาะของชัน้ ตุง นคิ มพัฒนายังมกี ารท ของชาวเหนอื เช่น เ เมือง) งานเทศกาลป รวมไปถึงมีการจดั แข งานเทศกาลประจำป หนองหล่ม เพ่ือหาผู้ท ประจำปีเพ่ือสืบทอด น้ีสู่รุน่ ต่อรนุ่

17 ความหมายของกิจกรรมท่ี ขน้ั ตอน รปู แบบกจิ กรรม วนร่วมลงมือทำต่อชุมชน วฒั นธรรมภูมปิ ัญญา 1.เตรยี มอุปกรณ์ เช่น กระดาษวา่ ว กรรไกร กาว มชนซึ่งจะต้องใช้ทัง้ ทักษะ กระดาษแข็ง เข็ม ด้าย บคุ คล ตงุ ไสห้ มูจึงเป็น 2.ตดั กระดาษให้เปน็ ส่ีเหลย่ี มและนำมาพับทบครึ่งให้ ไม่ได้ เป็นสามเหลย่ี มหลังจากน่นั ตัดสลบั ฟันปลาใหเ้ กดิ มพัฒนามีสีสันทส่ี วยงาม ลวดลาย ตกแตง่ ปลายตุงใหส้ วยงาม ลวดลาย มคี วาม 3.คลก่ี ระดาษออกและตดั กระดาษแข็งให้เปน็ รปู วงกลม เน่อื งจากชาวบา้ นตำบล เพอื่ ติดสว่ นของหวั ตงุ ทำตุงไส้หมทู กุ เทศกาล 4.นำเส้นดา้ ยมารอ้ ยตรงกลางของตุงเป็นอนั เสร็จ เทศกาลสงกานต์(ปี๋ใหม่ ประจำปี งานบุญต่าง ๆ ขง่ ขันการทำตุงไส้หมูใน ปีบวงสรวงพญานาคที่ ทท่ี ำตุงไส้หมูที่สวยท่สี ดุ ดภูมปิ ญั ญาและวัฒนธรรม

ลำดบั กิจกรรมที่ให้นักท่องเทยี่ ว ความสำคัญ การสื่อค มีสว่ นรว่ มลงมอื ทำ ใหน้ กั ท่องเทย่ี วมีส่ว 2. ไหวพ้ ระขอพรทว่ี ดั สำคัญในตำบลนิคม การไหวพ้ รขอพรเพ่ือ พฒั นา เนื่องจากวดั ในตำบล เกา่ แก่และศักด์ิสิทธ์ิ

18 ความหมายของกจิ กรรมที่ ข้นั ตอน รปู แบบกิจกรรม วนร่วมลงมือทำต่อชุมชน อให้เปน็ สิรมิ งคลในชวี ติ ผจู้ ัดกจิ กรรมจะจัดเตรียมดอกไมธ้ ปู เทยี นเพื่อให้นกั ลนคิ มพฒั นามีความ เที่ยวนำไปสักการะบชู า

4. การออกแบบเสน้ ทางทอ่ งเทย่ี วเชิงสรา้ งสรรค์ของชมุ ชน แสดงเสน้ ทางการทอ่ งเทย่ี วของชุมชน ( 1 วัน ) โดยเขยี นเป็นแผนท่เี สน้ ท เฉพาะทน่ี า่ สนใจและสามารถจัดการระยะทาง/กิจกรรม/เวลาไดใ้ น 1 วัน

19 ทาง พร้อมจุดแหลง่ ท่องเท่ียวที่ได้อ้างอิงในตารางขอ้ ที่ 1 โดยคัดสรรมา น

กำหนดการแผนนำเที่ยวของชมุ ชน ( 1 วนั ) เขียนเปน็ ตารางกำหนดการ เส้นทางทอ่ งเที่ยวในข้อท่ี 2 โดยกำหนดการแผนนำเทยี่ วต้องเรม่ิ ต้นและส วนั ท่ี / เวลา กิจกรรม 09.00 น. แวะไหว้พระขอพรวดั นิคมสามัคคี และเยยี่ 10.00 น. ไมส้ กั ทองกลางนำ้ หนง่ึ เดียวในตำบลน 11.00 น. 12.00 น. เยีย่ มชมศูนย์การเรียนรเู้ ศรษฐกิจพอเพยี ง เลือกซ้ือสนิ คา้ ทางการเกษตรจากคนในชมุ ณัฐภมู ิ แวะเซ็กอนิ ถา่ ยรูป ด่ืมด่ำกับบรรยากาศธ เงียบสงบทีอ่ ่างเกบ็ นำ้ แมท่ รายคำ เหมาะส ผ่อนหยอ่ นใจ และกจิ กรรมแคม รบั ประทานอาหารกลางวนั 13.00 น. เขา้ ร่วมทำกจิ กรรม ตดั แต่ง แปง๋ ตุง ทว่ี ัด 15.00 น. ศกึ ษาตำนาน ณ หนองหลม่ ดินแดนอนั จดุ เริม่ ต้นตำบลนคิ มพฒั นา

20 ร พร้อมระบุช่วงเวลาและจุดแหลง่ ท่องเทย่ี ว กิจกรรมท่ีได้อ้างองิ ในแผนที่ สน้ิ สุดภายใน 1 วนั ยมชมอุโบสถ สถานท่ี อปุ กรณ์ / การแต่งกาย ท่ี นคิ มพฒั นา วดั นิคมสามัคคี นักท่องเทยี่ วต้องเตรียม มูลนธิ ิณัฐภมู ิ แต่งชุดสภุ าพเรยี บรอ้ ย และสามารถ มชน ณ มูลนิธิ แตง่ ตวั ตามอัธยาศัย ธรรมชาติอัน อา่ งเก็บนำ้ แม่ทรายคำ แตง่ ตวั ตามอัธยาศยั สำหรบั การผกั มป้งิ ร้านอาหารภายใน แตง่ ตวั ตามอธั ยาศัย หม่บู า้ น แต่งชุดสุภาพเรยี บร้อย ดปา่ หนองหล่ม แต่งชดุ สภุ าพเรยี บรอ้ ย วัดลำปางธรรมมาราม นศักดิส์ ทิ ธิ์ (วดั หนองหลม่ ) วัดลำปางธรรมมาราม (วัดหนองหล่ม)

21 5. โครงการกิจกรรมทดลองเส้นทางทอ่ งเทย่ี วเชงิ สร้างสรรค์ของชุมชน แบบรายงานการดำเนนิ งานรายกิจกรรม/โครงการ ตำบลนิคมพฒั นา อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง 1.ช่อื กิจกรรม การทอ่ งเทีย่ วเชงิ สรา้ งสรรค์ “แอ่วดด๊ี ี วถิ ีนคิ ม” 2. วันที่ทำกิจกรรม 13 ธนั วาคม 2564 3. สถานท่จี ดั กจิ กรรม ณ ตำบลนิคมพัฒนา อำเภอเมอื งลำปาง จังหวัดลำปาง 4. ผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรม กลุม่ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมประกอบดว้ ย 1) นักท่องเท่ยี ว จำนวน 10 คน -ตวั แทนนกั ท่องเท่ียวU2T ตำบลดใู่ ต้ จำนวน 5 คน -ตัวแทนนักท่องเที่ยวU2T ตำบลบา้ นบอม จำนวน 5 คน 2) อาจารยป์ ระจำตำบล ผู้ช่วยศาสตราจารย์โอฬาร รัตนภักดี จำนวน 1 ทา่ น 3) ผู้ประสานงานโครงการ นางสาวสุนิษา ฝึกฝน จำนวน 1 ทา่ น 4) ลูกจา้ งโครงการยกระดับเศรษฐกจิ และสงั คมรายตำบลแบบบรู ณาการ ตำบลนิคมพัฒนา จำนวน 25 คน รวมทั้งหมด 37 คน 5.หลักการและเหตุผล ปัจจุบันการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) ซึ่งถือเป็นการท่องเที่ยว ในรูปแบบใหมท่ ่ีคำนงึ ถงึ ความย่งั ยืน โดยมุ่งเน้นการสรา้ งคณุ คา่ บนพนื้ ฐาน วถิ ีชีวติ ภมู ิปัญญา ท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ในพื้นที่ โดยเป็นการเน้นประสบการณ์ของ นักท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ จาก การลงมือทำร่วมกับชุมชน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ วัฒนธรรม ประเพณี และ

22 เอกลักษณ์ของท้องถิ่น การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์จึงเป็นการมุ่งเน้นการสร้างความผูกพัน ระหว่างนักท่องเที่ยวกับเจ้าบ้าน โดยเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมในการทำ กิจกรรมการท่องเที่ยวของชุมชน ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าด้านประสบการณ์การท่องเที่ยว ให้กับนักท่องเที่ยวโดยเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ผ่านการบริหารจัดการทรัพยากร ท่องเที่ยวร่วมกับท้องถิ่นจนกอ่ ใหเ้ กิดการสรา้ งรายได้ให้กบั ชุมชน อนั จะนำไปสู่เป้าหมายของ การเป็นการทอ่ งเทีย่ วอย่างย่ังยืนตอ่ ไป ตำบลนิคมพัฒนาได้มีการอพยพมาจากการสร้างเขื่อนกิ่วลม ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็น คนแจ้ห่ม บ้านวังกวาง นิคมพัฒนา ผู้คนทั้ง 14 หมู่บ้านในชุมชนแห่งน้ี มีความผูกพันฉันท์พ่ี น้อง มีการนับถือผีปู่ย่า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตลอดไปจนถึงความเชื่อและความศรัทธาในเรื่อง ของพญานาคที่ชาวบ้านได้มีการนับถือสืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษ ความงอกเงยทาง วัฒนธรรมที่ได้มีการส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นนี้นับเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่ยึดโยงชาวบ้านใน ชุมชนแห่งนี้เข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งชาวบ้านในชุมชนยังได้มีการสืบทอดอาชีพและการทำ เกษตรกรรม การหาของป่า ล่าสัตว์ และปลูกพืชไร่ อันเป็นวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนแห่งน้ี จากความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่แสดงให้เห็นอัตลักษณ์ของชุมชนที่ชัดเจน จึงส่งผลให้ตำบล นิคมพฒั นานนั้ มีความหลากหลายใน วิถีชีวติ ประเพณี วฒั นธรรม อนั เปน็ ทรพั ยากรทางการ ท่องเที่ยวที่สำคัญ ท้ังธรรมชาติ วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรมประกอบกับการที่ชุมชนแห่งนี้ยังคง รักษาอัตลักษณ์ของชุมชนไว้ได้อย่างดี จากศักยภาพและความพร้อมของชุมชนและเพื่อเป็น การส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์วัฒนธรรมของชุมชน และเพื่อก่อให้เกิดการท่องเที่ยวเชิง สร้างสรรคข์ องชุมชน ทางคณะผู้ปฏิบัติงานที่ได้ดำเนินงานภายใต้โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคม รายตำบลแบบบูรณาการ จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก ให้แก่ชุมชน เพื่อเป็นการยกระดับการท่องเที่ยวของตำบลและเพื่อให้คนในชุมชนผู้เป็น เจ้าของทรัพยากรได้มีการบริหารจัดการทรัพยากรด้วยตนเอง และเพื่อเป็นการสร้างรายได้ ให้แก่คนในชุมชนได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ทางคณะผู้ปฏิบัติงานจึงได้มีการถอดบทเรียนจากการ จัดทำเวทีเสวนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ร่วมกับผู้นำชุมชน เพื่อค้นหาเส้นทางการ ทอ่ งเที่ยวชมุ ชนอันนำไปสู่การจดั ทำโครงการการท่องเที่ยวเชงิ สร้างสรรค์ “แอว่ ด๊ีดี วิถีนิคม” ตำบลนคิ มพฒั นา

23 6. วัตถุประสงคข์ องโครงการ/กิจกรรม 1) เพื่อเป็นส่งเสริมเศรษฐกจิ ทางการท่องเทีย่ วและยกระดับการท่องเทยี่ วให้กับ ชมุ ชน 2) เพื่อก่อใหเ้ กิดการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ขอ้ มูลระหวา่ งนกั ท่องเท่ยี วและเจ้าบา้ นใน ฐานะผเู้ ปน็ เจ้าของทรัพยากร 3) เพื่อประชาสัมพันธ์แหลง่ ท่องเทย่ี วของตำบลนิคมพฒั นาให้เป็นที่รจู้ กั ในวงกวา้ ง มากยิง่ ข้นึ 7. ตัวชี้วัด กล่มุ เป้าหมาย ตัวช้ีวดั ความสำเร็จ เชิงปริมาณ -จำนวนผูเ้ ข้าร่วมโครงการ -นักท่องเทย่ี ว จำนวน 10 คน เชิงคณุ ภาพ -เกดิ แผนเส้นทางการทอ่ งเที่ยวและสถานี -มีแผนเส้นทางการทอ่ งเท่ยี วและสถานกี าร การทอ่ งเทีย่ วเชงิ สรา้ งสรรคอ์ ย่างนอ้ ย 1 ทอ่ งเที่ยวเชิงสรา้ งสรรค์อยา่ งน้อย 1 สถานี สถานีในชมุ ชน ในชุมชน -กลุม่ ลกู จ้างโครงการยกระดับเศรษฐกจิ -ผ้เู ข้าร่วมโครงการเกิดความรู้ความเข้าใจ และสงั คมรายตำบลแบบบรู ณาการ ตำบล เกีย่ วกบั รปู แบบการท่องเทย่ี วเชงิ นคิ มพัฒนา เกดิ ความรู้และความเขา้ ใจ สร้างสรรค์ เกยี่ วกบั รูปแบบการจัดกิจกรรมการ ทอ่ งเที่ยวเชงิ สร้างสรรค์ -นักทอ่ งเท่ยี วทีไ่ ดเ้ ขา้ ร่วมโครงการมสี ่วน -นักทอ่ งเที่ยวทไ่ี ด้เขา้ ร่วมโครงการ เกดิ ร่วมในกิจกรรมการท่องเท่ยี ว และเกดิ ความ ความพึงพอใจในรูปแบบการท่องเทย่ี วเชงิ พึงพอใจในรปู แบบการท่องเที่ยวเชงิ สรา้ งสรรค์ของชมุ ชนตำบลนิคมพัฒนา สรา้ งสรรคข์ องชมุ ชนตำบลนิคมพฒั นา 8. กระบวนการดำเนินงาน ลูกจ้างโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการตำบลนิคม พัฒนาได้ดำเนินโครงการ โดยมีกระบวนการดำเนินงานและข้นั ตอนดงั ตอ่ ไปน้ี 8.1 จัดทำเวทีเสวนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ร่วมกับผู้นำชุมชน เพื่อค้นหา เสน้ ทางการทอ่ งเท่ียวชมุ ชน

24 8.2 ผู้ปฏิบัติงานประชุมและวางแผนเพื่อถอดบทเรียนจากการจัดทำเวทีเสวนา นำไปสู่การจัดทำโครงการท่องเทีย่ วเชิงสรา้ งสรรค์ 8.3 จดั ทำรา่ งโครงการ เพือ่ ขอความเหน็ ชอบและขออนุมัตโิ ครงการ 8.4 ผูป้ ฏบิ ัตงิ านประชมุ และวางแผนการดำเนนิ กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ร่วมกบั นกั สอ่ื ความหมายในท้องถน่ิ ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่นกั ทอ่ งเทย่ี ว 8.5 จดั เตรียมสถานท่ีสำหรับการดำเนนิ กจิ กรรมการท่องเที่ยวเชงิ สรา้ งสรรค์ 8.6 ผ้ปู ฏบิ ัติงานดำเนนิ การเผยแพร่และประชาสัมพนั ธ์ข้อมลู สำหรบั การจัดกิจกรรม การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ตำบลนิคมพัฒนาผ่านช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊คแฟนเพจ U2T ตำบลนิคมพฒั นา เมอื งลำปาง 8.7 ดำเนินการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ “แอ่วดี๊ดี วิถีนิคม” ในวันท่ี 13 ธนั วาคม 2564 ณ ตำบลนคิ มพฒั นา อำเภอเมอื งลำปาง จังหวัดลำปาง 8.8 สรปุ โครงการและรายงานผลการดำเนินงาน

25 6. ผลการจัดกจิ กรรมทดลองเส้นทางทอ่ งเทีย่ วเชงิ สรา้ งสรรค์ของชุมชน จากการดำเนินกิจกรรมการทอ่ งเท่ียวเชงิ สร้างสรรค์ “แอ่วดี๊ดี วิถีนิคม” ของลูกจ้าง โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ ในวันที่ 13 ธันวาคม 2564 ในพื้นที่ตำบลนคิ มพัฒนา อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง มีผู้เข้ารว่ มโครงการรวมทั้งหมด จำนวน 37 คน ในการดำเนินกิจกรรมการท่องเท่ียวเชงิ สรา้ งสรรค์ส่งผลให้ผูเ้ ข้ารว่ มกิจกรรม ได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ร่วมชุนชน จึงสามารถสรุปผลเสียงสะท้อนจาก ผ้เู ข้ารว่ มกจิ กรรมได้ดงั ต่อไปน้ี 6.1 ผลสะทอ้ นจากนักทอ่ งเท่ยี ว จากผู้เข้ารว่ มกิจกรรมประกอบไปด้วย ตวั แทนนักท่องเท่ียวU2T ตำบลดู่ใต้ จำนวน 5 คน และตัวแทนนักท่องเที่ยวU2T ตำบลบ้านบอม จำนวน 5 คน อาจารย์ประจำ ตำบล จำนวน 1 ท่าน ผู้ประสานงานโครงการ จำนวน 1 ท่าน ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมการ ท่องเท่ยี วเชงิ สร้างสรรค์ “แอว่ ดด๊ี ี วถิ นี คิ ม” จากการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวทางผู้ปฏิบัติงาน จงึ ไดร้ บั คำตชิ มและข้อเสนอแนะจากนกั ท่องเท่ยี วทไี่ ดม้ าเข้ารว่ มกิจกรรม ดังนี้ 1) สถานที่ท่องเที่ยวตามเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนยังคงไม่หลากหลายส่วน ใหญ่จะเป็นวัดค่อนข้างมากส่งผลให้การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ มีความซ้ำกัน เช่น การไหว้ พระ/การถวายสังฆทาน 2) ในการดำเนินการจัดกิจกรรมการท่องเท่ยี วเชิงสร้างสรรค์ในคร้ังนี้ การมี สว่ นรว่ มของคนในชุมชนท่ีน้อยจนเกินไปจนทำให้นักท่องเทยี่ วยังไม่ได้แลกเปล่ียนเรียนรู้และ ไดร้ บั ประสบการณ์ตรงจากคนในชมุ ชนเท่าท่ีควร 3) การดึงอัตลักษณ์และจุดเด่นของชุมชนออกมาน้อยเกินไปส่งผลให้การ สร้างสรรค์กิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามามีส่วนร่วมยังไม่หลากหลายและยังไม่เป็ นจุด สนใจ จึงควรท่ีจะมีการดงึ อัตลักษณ์ของชมุ ชนออกมา เช่น ตำบลนิคมพัฒนามคี วามโดดเดน่ ในเรื่องของน้ำพริกลาบ ควรที่จะมีการนำเสนอเรื่องราวของน้ำพริกลาบออกไปให้แก่ นกั ทอ่ งเท่ียว 4) การถ่ายทอดองค์ความรู้โดยนักสื่อความหมายให้แก่นักท่องเที่ยวนั้นมี จำนวนที่น้อยเกินไป ในอนาคตจึงอยากให้มีการพัฒนานักสื่อความหมายในชุมชนเพื่อมา ถา่ ยทอดองค์ความรใู้ ห้แก่นกั ท่องเทีย่ วเพ่มิ อีกในแตล่ ะจดุ ท่องเทีย่ ว 5) สำหรบั สถานทีท่ อ่ งเท่ียวท่เี ป็นวดั เช่นวดั นิคมสามัคคี วัดลำปางธรรมมา ราม วัดชัยมงคล ซึ่งเป็นศาสนสถานท่ีสำคัญและเก่าแก่ของตำบลนิคมพัฒนา ควรที่จะมีการ ส่อื ถึงเรอ่ื งราวของสถานที่ เช่น เร่ืองราวประวัติความเป็นมา และประวตั ศิ าสตร์เชิงพื้นที่ว่ามี

26 ความเปน็ มาเช่นไรนอกจากนีผ้ ูป้ ฏิบตั งิ านในโครงการทุกคนจะต้องเป็นผบู้ อกเลา่ เร่อื งราวของ สถานทีต่ ่าง ๆ ได้ 6) ควรที่จะมีการจัดทำและจัดเก็บข้อมูลที่เป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มจาก การบอกเล่าจากปราชญ์ชุมชน เช่น ประวัติศาสตร์ของโบสถ์กลางน้ำที่วัดนิคมสามัคคี เรื่อง เล่าตำนานของเจ้าแม่เกี๋ยงคำนำมาสู่การสร้างรูปปั้นพญานาคที่เป็นที่เคารพบูชาของคนใน ชุมชนในปัจจุบัน ให้ออกมาในรูปแบบของพ็อกเก็คบุ๊คของชุมชนเพื่อสำหรับให้นักท่องเที่ยว ไดเ้ ขา้ มาศึกษาในอนาคต 7) สถานที่ท่องเที่ยวบริเวณหนองหล่มที่ให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไป สักการะบูชาพญานาคนั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เป็นเนินและบริเวณทางขึน้ ไปนั้นมีการยุบตวั ลงดินเมื่อเดินลงไป ซึ่งอาจจะส่งผลในเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ควรที่จะมีการ ส่อื สารกบั นกั ท่องเทีย่ วให้เข้าใจพ้ืนทดี่ ังกล่าววา่ เป็นเช่นไร โดยเร่มิ ตั้งแต่ เสอ้ื ผ้า รองเทา้ ครีม กันแดด ยาดมและยารักษาโรคต่าง ๆ เป็นต้น เพื่อที่จะให้นักท่องเท่ียวได้เตรียมตวั มาก่อนที่ จะมาทอ่ งเที่ยว 8) สถานกี ารทอ่ งเท่ียวเชิงสร้างสรรค์ท่ีให้นกั ท่องเทยี่ วได้ร่วมกันทำตุงไส้หมู ควรที่จะมีการบอกเล่าเรื่องราวของชุมชนก่อนเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักและเข้าถึงชุมชนที่ มากขึ้น ไม่ใช่แค่การเข้ามาทำกิจกรรมที่เราจัดไว้ให้เฉย ๆ และกลับไปโดยที่นักท่องเที่ยว ไม่ได้รู้จักชุมชนก่อนเลย ซึ่งในครั้งนี้ยังไม่เห็นถึงการเปิดตัวชุมชน ซึ่งควรที่จะมีการปรับปรุง และแก้ไขในจุดนี้เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวได้รู้สึกว่ารู้จักชุมชนตำบลนิคมพัฒนาผ่าน การทำ กิจกรรมการทำตุงไส้หมู อีกทั้งสิ่งที่จะต้องคิดเพิม่ เติมคือหากนักท่องเที่ยวต้องการที่จะนำตงุ กลับบ้านควรที่จะคิดในเร่ืองของแพ็จเกจที่ใส่ให้นักท่องเทีย่ วรวมไปถึงในเรื่องของการขนส่ง อาจปรับเปลยี่ นเปน็ ในรปู แบบทใี่ ห้นกั ท่องเท่ียวสามารถนำกลับไปทำเองทบ่ี ้านได้ 9) สำหรับสถานท่ีท่องเทย่ี วควรที่จะมกี ารแนะนำสถานที่ท่องเท่ยี วอื่น ๆ ท่ี อยู่นอกเหนือจากเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนทีได้คัดสรรมา เช่น อ่างเก็บน้ำ น้ำตก ถ้ำ เป็นต้น เพ่อื ให้นักท่องเที่ยวไดเ้ ห็นภาพและรูจ้ กั ชมุ ชนมากยิง่ ขน้ึ 10) การจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในครั้งนี้ยังขาดการมีส่วนร่วม ของผู้นำชุมชนและชาวบ้าน ควรที่จะมีการเชิญผู้นำชุมชนเพื่อที่จะได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสามารถท่ีจะนำไปต่อยอดเปน็ การท่องเทีย่ วของชมุ ชนในอนาคตต่อไปได้ อาทิ การจัดตั้ง กล่มุ ทอ่ งเทย่ี วตำบลนคิ มพฒั นาใหเ้ กดิ ขน้ึ จรงิ ได้ในอนาคต 11) การรักษาความปลอดภัยสำหรับการเดินทางไปในแต่ละจุดท่องเที่ยว ควรทีจ่ ะมกี ารนำทางและเปิดเสน้ ทางเพือ่ ไปในแต่ละจดุ ใหแ้ ก่นกั ท่องเทย่ี ว

27 12) กาบอกเล่าเรื่องราวของชุมชนหรือการสื่อความหมายต่าง ๆ ยังไม่ ตอ่ เน่อื งและยังขาดความเชอื่ มโยงกันจึงทำใหน้ ักท่องเท่ยี วเกดิ ความสบั สน ควรทีจ่ ะมีการเร่ิม จากการแนะนำชุมชนตำบลนิคมพัฒนาให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักก่อนและจึงค่อยเชื่อมโยงเข้า กับสถานท่ีต่าง ๆ 13) การดำเนินกิจกรรมสำหรับให้นักท่องเท่ียวไดท้ ำยาดม และสปาแช่เท้า ควรที่จะมีการดึงกลุ่มผู้สูงอายุของชุมชนให้เข้ามาดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้ เพราะจะทำให้ นักท่องเที่ยวและกลุ่มได้แลกเปลี่ยน เรียนรู้ข้อมูลซึ่งกันและกัน เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางใน การต่อยอดการท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นในชุมชน เนื่องจากในครั้งนี้พนักงาน อว. เป็น ผูร้ บั ผดิ ชอบทั้งหมดจงึ ทำใหน้ กั ท่องเทย่ี วยังไม่ได้รับประสบการณโ์ ดยตรงรว่ มกับชาวบ้าน 14) การนำเสนอผลิตภัณฑ์ของตำบลยังไม่เป็นที่น่าสนใจ ควรที่จะมีการ บอกเล่าเรื่องราวหรอื นำเสนอความเป็นนิคมพัฒนาให้ได้มากกว่านี้ เพื่อเป็นการสร้างจุดขาย ให้แกผ่ ลิตภณั ฑข์ องชุมชน เชน่ การสรา้ งจุดเดน่ ให้แก่ผลติ ภัณฑ์ยาดมและสเปรย์ว่าสินค้าของ เราแตกตา่ งจากทอ่ี ่นื อยา่ งไร 6.2 ผลสะทอ้ นจากผู้นำชมุ ชน/ปราชญช์ ุมชน -นางอรัญญา จันทรวิทุร ผู้นำชุมชน บ้านชัยมงคลหมู่ที่ 2 ตำบลนิคม พัฒนา อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง ได้เข้ามามีบทบาทในการทำหน้าที่เป็นนักส่ือ ความหมายในการเล่าถึงประวัติความเป็นมาของชุมชน รวมถึงบรรยายในแต่ละจุดต่าง ๆ ตามเส้นทางการท่องเที่ยว ทั้งนี้ได้ติชมและให้ข้อเสนอแนะต่อการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยว เชิงสร้างสรรค์ในครั้งนี้ว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ทางคณะผู้ปฏิบัติงานภายใต้โครงการ ยกระดบั เศรษฐกิจรายตำบลแบบบรู ณาการได้เข้ามาปฏิบัติงานในพืน้ ท่ีตำบลนิคมพัฒนา จน ก่อให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ขึ้นในชุมชน เนื่องจากแต่เดิมตำบลนิคมพัฒนาไม่ได้ เกิดขึ้นจากตำบลท่เี ปน็ สถานที่สำหรับให้นักทอ่ งเท่ียวได้เข้ามาเท่ียวเหมือนเราเริ่มจากศูนย์ใน การเข้ามาทำโครงการในครั้งนี้ก็เหมือนเป็นการเริ่มต้นและจุดประกายให้ชาวบ้านในชุมชนผู้ เป็นเจ้าของทรัพยากร เจ้าของวัฒนธรรม ได้หันกลับมามองเห็นคุณค่าที่ชุมชนมีและร่วมกัน บริหารจัดการต่อยอดจากโครงการให้เกิดเป็นการท่องเที่ยวในตำบลนิคมพัฒนาในอนาคต ทงั้ น้ียงั ไดใ้ ห้ข้อเสนอแนะวา่ อยากใหม้ ีการแนะนำสถานที่ทอ่ งเท่ยี วอืน่ ๆในตำบลนิคมพัฒนา เช่นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศหรือการท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ เนื่องจากตำบลนิคมพัฒนามี ทรัพยากรทางการท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็น อ่างเก็บน้ำ น้ำตก เพื่อให้นักทอ่ งเท่ียวได้รู้สึกอยากเข้ามาสัมผัสและรูจ้ ักตำบลนิคมพฒั นามากขึ้น ทั้งนี้อยากให้ มีการจัดทริปท่องเที่ยวโดยเริ่มจากเขื่อนกิ่วลมซึ่งสามารถบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาและ

28 ตน้ กำเนนิ ของตำบลนิคมพฒั นาได้ จากนนั้ จึงค่อยพานักท่องเทยี่ วเข้ามาสัมผัสกบั วิถีชุมชนใน ตำบลนิคมพัฒนา เนื่องจากไม่อยากให้ตำบลนิคมพัฒนาเป็นแค่ทางผ่านไปยังสถานที่ ท่องเที่ยวหลัก ๆ จึงอยากให้มีการพัฒนาให้การท่องเที่ยวของตำบลนิคมพัฒนาเป็นที่รู้จัก อย่างแพร่หลายและเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น โดยทางชุมชนชนจะเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วย บรหิ ารจัดการในครั้งนดี้ ้วย - นายเขียน ปราชญ์ชุมชน ได้เข้ามามีบทบาทในการเป็นนักสื่อความหมายในการ จัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในครั้งนี้ ได้บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของชุมชน และให้ความรู้ในจุดที่ 1 วัดนคิ มสามัคคี ไม่ว่าจะเป็นโบสถไ์ มส้ ักกลางน้ำ พระพทุ ธรูปท่ีสำคัญ ของตำบลนิคมพัฒนา ทั้งนี้ยัง ได้ให้ข้อคิดเห็นถึงการดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้ว่า ในปัจจุบัน นกั ท่องเท่ียวท่ีเขา้ มาท่องเท่ียวในตำบลนิคมพฒั นามีจำนวนที่ลดน้อยลง อาจเกิดจากสถานที่ ท่องเที่ยวของชุมชนไม่ได้รับการพัฒนาหรืออาจไม่เป็นจุดสนใจให้แก่นักท่องเที่ยวเท่าที่ควร นักท่องเที่ยวที่เข้ามาแล้วก็ไม่ได้กลับมาซ้ำหรือไม่ได้เกิดการบอกต่อ จึงอยากให้มีการ ประชาสัมพันธ์และบอกเล่าเรื่องราวความเป็นชุมชนตำบลนิคมพัฒนาออกไปเพื่อดึงให้ นักท่องเที่ยวได้เข้ามาท่องเที่ยว ทั้งนี้สำหรับการจัดกิจกรรมอยากให้มีการพาไปดูและชมวิถี ชีวติ ของชาวบา้ นในชุมชนวา่ เขาทำอะไรกนั มวี ิถชี ีวติ เปน็ เชน่ ไร เน่ืองจากชาวบา้ นในชุมชนมี อาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก เช่น เมื่อถึงฤดูการทำนา ควรที่จะพานักท่องเที่ยวไปเรียนรู้ถึง การดำนา การหว่านขา้ ว การเกี่ยวข้าว เพื่อให้นักทอ่ งเทีย่ วได้สัมผัสถึงวิถีชวี ิตในชมุ ชนท่ีเพิม่ มากกว่าขึ้นกว่าการมาท่องเที่ยวแต่ละสถานทีแ่ ละกลับไปโดยที่ไม่ได้สัมผสั กับวิถีชุมชนอย่าง แทจ้ ริง นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้เสนอจุดบกพร่องและปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อเป็น แนวทางในการจัดการและพัฒนาการท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นจริงในอนาคตในครั้งต่อไป ซึ่งจะ ขอชแ้ี จงในหัวข้อปัญหา/อุปสรรค/ข้อจำกดั ท่เี กิดขนึ้ ในลำดับถัดไป ท้งั น้เี ม่ือผปู้ ฏิบตั ิงานได้รับ เสียงสะท้อนเหล่านี้จากผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่งผลให้ผู้ปฏิบัติสามารถที่จะนำไปปรับปรุงแก้ไข และพฒั นาต่อยอด ซง่ึ จะขอชี้แจ้งในหัวข้อแนวทางในการพัฒนาปรับปรุงในการทำกิจกรรม/ โครงการในครงั้ ตอ่ ไป หรอื แผนการทำงานในครงั้ ตอ่ ไป

29 7. ผลการจดั กิจกรรมทดลองเส้นทางทอ่ งเทีย่ วเชิงสร้างสรรค์ของชุมชน 7.1 ปัญหาในเรื่องของการบริหารจัดการเวลาและการคำนวณเวลาที่ผิดพลาดไป ซ่ึง ในบางจุดมีการใช้ระยะเวลาที่ล่วงเลยไปจึงส่งผลทำให้ไปกระทบต่อระยะเวลาในการจัด กิจกรรมอน่ื ๆ 7.2 ความพร้อมของสถานที่ท่องเที่ยวในบางจุดยังไม่พร้อมสำหรับการให้บริการ นกั ทอ่ งเที่ยว 7.3 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) จึงทำให้เกิด ขอ้ จำกดั ในเรอื่ งของจำนวนคน การจัดกิจรรมตา่ ง ๆ ท่ไี มส่ ามารถดำเนินกิจกรรมได้ตามแผน 7.4 ข้อกำจัดในเรื่องของระยะเวลาและงบประมาณในการจัดกิจกรรม เนื่องจาก ระยะเวลาและงบประมาณในการดำเนินโครงการที่มีจำกัด จึงทำให้การดำเนินกิจกรรมไม่ เป็นไปตามแผนที่วางไว้จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนแผนกิจกรรมเพื่อให้ตอบโจทย์ ต่องบประมาณและระยะเวลาท่ีมีจำกัด 7.5 ความปลอดภัยของเส้นทางท่องเที่ยวยังไม่ได้รับการอำนวยความสะดวก จึง จำเป็นที่จะต้องมีรถนำทางเพื่อเปิดทางให้แก่นักท่องเที่ยวเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุระหว่าง การเดินทาง 7.6 ขาดความพร้อมของนักสื่อความหมายในแต่ละจุดของสถานที่ท่องเที่ยว เนื่องจากในชุมชนยังไม่มีนักสื่อความหมายที่มากพอสำหรับในแต่ละสถานที่และจำนวน นักท่องเที่ยว ส่งผลให้การบรรยายเรื่องราวของชุมชนในแต่ละจุดไม่ติดต่อกันส่งผลให้ นักท่องเท่ียวเกดิ ความสับสนและยังไม่ไดร้ ับความน่าสนใจ 7.7 การดึงอัตลักษณ์ของชุมชนและการนำเสนอเรื่องราวของสถานที่ต่าง ๆ รวมไป ถึงการดำเนินกิจกรรมยังไม่เป็นที่สนใจ ไม่หลากหลายและไม่แปลกใหม่ส่งผลทำให้ นักท่องเที่ยวไดท้ ำกจิ กรรมท่ซี ำ้ ๆ กัน

30 8. แนวทางการพัฒนาปรับปรุงกิจกรรมเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของ ชมุ ชน 8.1 พัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวและกระจายเส้นทางท่องเที่ยวให้มีความ หลากหลาย เช่น อ่างเก็บน้ำ น้ำตก ถ้ำ เป็นต้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีทางเลือกในการ ท่องเที่ยวที่หลากหลาย รวมไปถึงพัฒนากิจกรรมการท่องเทีย่ วให้น่าสนใจเพื่อเป็นการดึงดูด นกั ทอ่ งเทยี่ วในอนาคต 8.2 ประสานกับชาวบ้านในชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมในคร้ัง ตอ่ ไปให้ไดม้ ากทสี่ ุด เพ่อื ใหน้ ักท่องเที่ยวได้แลกเปล่ยี นเรียนรู้และไดร้ ับประสบการณ์ร่วมจาก คนในชุมชน 8.3 ดึงอัตลักษณ์ของความเป็นชุมชนตำบลนิคมพัฒนาออกมาให้ได้ เช่น การ นำเสนอเรื่องราวของน้ำพริกลาบ ควรที่จะมีการบอกเล่าเรื่องราวและสื่อสารความเป็น น้ำพริกลาบของตำบลนิคมพัฒนาออกไป รวมไปถึงการสร้างจุดขายของผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ใน ชมุ ชนเพ่อื ให้เปน็ ทด่ี ึงดูดและเปน็ จุดสนใจแก่นกั ท่องเทยี่ ว 8.4 พัฒนานักสื่อความหมายในชุมชนเพื่อมาถ่ายทอดองคค์ วามรู้ให้แก่นักท่องเท่ยี ว สำหรับการจัดการท่องเที่ยวในอนาคต รวมไปถึงการบอกเล่าเรื่องราวของชุมชนหรือการส่ือ ความหมายต่าง ๆ ให้มีความต่อเนื่องและมีความเชื่อมโยงกัน ควรที่จะมีการเริ่มจากการ แนะนำชุมชนตำบลนคิ มพัฒนาให้นักท่องเทย่ี วได้รู้จักกอ่ นและจงึ ค่อยเช่ือมโยงเข้ากับสถานท่ี ตา่ ง ๆ 8.5 พัฒนาในเรื่องการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ อาทิ การจัดเก็บข้อมูลที่เป็นลาย ลักษณ์อักษรเพิ่มจากการบอกเล่าจากปราชญ์ชุมชน เช่น ประวัติศาสตร์ของโบสถ์กลางน้ำท่ี วัดนิคมสามัคคี เรื่องเล่าตำนานของเจ้าแม่เกี๋ยงคำนำมาสู่การสร้างรูปปั้นพญานาคที่เป็นที่ เคารพบูชาของคนในชุมชนในปัจจุบัน ให้ออกมาในรูปแบบของพ็อกเก็คบุ๊คของชุมชนเพื่อ สำหรบั ใหน้ กั ทอ่ งเท่ยี วได้เข้ามาศึกษาในอนาคต 8.6 การสอื่ สารกบั นักท่องเท่ยี วให้ไดเ้ ข้าใจถึงสถานทีท่ ่องเท่ียวในแต่ละจุดท่องเท่ียว โดยเรม่ิ ต้งั แต่ เสือ้ ผา้ รองเทา้ ครมี กนั แดด ยาดมและยารักษาโรคตา่ ง ๆ เป็นต้น เพื่อท่ีจะให้ นักทอ่ งเท่ยี วไดเ้ ตรยี มตัวมาก่อนท่จี ะมาท่องเที่ยว ควรทจี่ ะมกี ารทำใสใ่ ว้ในคูม่ ือการท่องเท่ียว และสอ่ื ประชาสัมพนั ธก์ ารทอ่ งเที่ยวของชมุ ชน 8.7 ผลักดันก่อให้เกิดกลุ่มท่องเที่ยวของชุมชนขึ้นในอนาคต เพื่อที่จะทำให้การ บริหารจดั การ การท่องเทีย่ วเชิงสร้างสรรคท์ ี่จะเกดิ ขึ้นในชมุ ชนเกิดความยง่ั ยนื

31 8.8 พัฒนาสถานีกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ การทำตุงไส้หมู จำเป็นที่ จะต้องมีการบอกเล่าเรื่องราวของชุมชนก่อนเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักและเข้าถึงชุมชนที่ มากขึ้น ไม่ใช่แค่การเข้ามาทำกิจกรรมที่เราจัดไว้ให้เฉย ๆ และกลับไปโดยที่นักท่องเที่ยว ไม่ได้รูจ้ ักชุมชนก่อนเลย ซงึ่ ควรที่จะมกี ารปรับปรุงและแก้ไขในจดุ นี้เพ่ือทำให้นักท่องเที่ยวได้ รู้สึกวา่ รูจ้ กั ชมุ ชนตำบลนิคมพัฒนาผา่ นการทำกจิ กรรมการทำตงุ ไสห้ มู 8.9 พัฒนาในเรื่องของแผนการท่องเที่ยวรวมไปถงึ สถานทีท่ ่องเทีย่ วในแตล่ ะจุดให้มี ความพร้อมต่อการรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคต 8.10 พัฒนาและจัดต้ังศูนย์การจำหนา่ ยผลิตภัณฑ์ขึ้นอยา่ งเปน็ รูปธรรมในชุมชนเพื่อ เตรยี มความพร้อมสำหรับการรองรบั นกั ทอ่ งเท่ยี วในอนาคต

32 ภาคผนวก

33 กิจกรรมท่องเท่ียวเชิงสร้างสรรค์ (1 day trip) 12.1 ช่ือเส้นทาง “แอ่ว ดีด๊ ี วถิ ีนิคม” 12.2 เรอ่ื งราวของเส้นทาง “ท่องหนองหล่ม แดนตำนาน/เที่ยววัดทำบุญ ไหว้พระ/รับประทน อาหารท้องถิ่น/สปา แช่เท้าสมุนไพรบ้านชัยมงคล/ชมวิวสัมผัสบรรยากาศวิถีชุมชน” นิคมพัฒนาชุมชนที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตพื้นบ้าน วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นอัน ทรงคุณคา่ ของบรรพบรุ ุษได้อยา่ งสมบูรณ์ นิคมพฒั นาชุมชนท่ีอพยพมาจากการสร้างเขื่อนกิ่ว ลม ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นคนแจ้ห่ม บ้านวังกวาง นิคมพัฒนา ผู้คนทั้ง 14 หมู่บ้านในชุมชน แหง่ น้ี มีความผกู พนั ฉนั ทพ์ ี่น้อง มีการนับถอื ผปี ู่ย่า หรอื ส่ิงศักดสิ์ ทิ ธิ์ ตลอดไปจนถึงความเช่ือ และความศรัทธาในเรื่องของพญานาคที่ชาวบ้านได้มีการนับถือสืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษ ความงอกเงยทางวฒั นธรรมทีไ่ ดม้ ีการสง่ ต่อกนั มาจากร่นุ ส่รู ุ่นน้ีนบั เป็นสง่ิ ยึดเหนี่ยวจิตใจท่ียึด โยงชาวบ้านในชุมชนแห่งนี้เข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งชาวบ้านในชุมชนยังได้มีการสืบทอดอาชีพ และการทำเกษตรกรรม การหาของป่า ล่าสัตว์ และปลูกพืชไร่ อันเป็นวิถีชีวิตของผู้คนใน ชุมชนแห่งนี้ จากความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่แสดงให้เห็นอัตลักษณ์ของชุมชนที่ชัดเจน จึง ส่งผลให้ตำบลนิคมพัฒนานั้นมีความหลากหลายใน วิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรม อันเป็น ทรัพยากรทางการท่องเที่ยวที่สำคัญ ทั้งธรรมชาติ วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม ประกอบกับผู้คน ในชุมชนยังคงวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาสัมผัสกับ ธรรมชาติ ร่วมกันเรียนรู้และชื่นชมความงดงามทางวัฒนธรรมผ่านสถานที่ท่องเที่ยวและจุด เช็คอนิ ทสี่ ำคัญของชุมชนนคิ มพฒั นา ชมุ ชนท่เี ตม็ เปยี่ มไปด้วย รอยย้ิม ศิลปะ และวฒั นธรรม 12.3 สถานทท่ี ่องเทีย่ ว -จุดท่ี 1 วดั นิคมสามคั คี เร่อื งราวสถานท่ี : วัดนิคมสามคั คีนบั เป็นศาสนสถานทสี่ ำคัญแห่งหนึ่งของ ตำบลนิคมพัฒนา อีกทั้งยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจติ ใจของผู้คนในชุมชนเป็นอย่างมาก โดยจุดเด่น ของวัดนิคมสามัคคีแห่งนี้จัดเป็นวัดประเภท นิกายและมหานิกาย โดยภายในวัดจะ ประกอบด้วย อุโบสถกลางน้ำสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง / สถาปัตยกรรมล้านนา / พระพุทธรูป ไม้สัก ศักดิ์สิทธิ์มงคล 9 / พระอรหันต์สาวก 80 รูป สร้างด้วยไม้สักทองทั้งองค์ / พระธาตุ เจดยี ์ศรีไตรรตั น์

34 กิจกรรม : เยยี่ มชมวดั /เรยี นรู้ประวัตศิ าสตร์ของพนื้ ที่

35 -จดุ ที่ 2 วดั ลำปางธรรมมาราม เร่อื งราวสถานท่ี : วดั ลำปางธรรมมารามนบั เปน็ สถานปฏิบตั ิธรรมแห่งแรก ของตำบลนิคมพัฒนา หลังจากที่ชาวบ้านได้อพยพมาจากบ้านวังกวางและมาตั้งถิ่นฐานใหม่ ที่นี่จึงได้รว่ มใจกันสร้างศรัทธาเพื่อให้ในการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา โดยจุดเด่นของ วัดป่าหนองหล่มแห่งนี้คือ “หีบธรรมโบราณ” ซึ่งใช้ในขบวนแห่ครัวตานงานไหว้สาอริยสงฆ์ เจา้ หลวงพ่อเกษม เขมโก ประจำทุกปี และเม่ือเดินข้นึ ไปบรเิ วณด้านบนวดั จะเป็นทต่ี งั้ ของรูป ปั้นพญานาค (หนองหล่ม) ไว้สำหรับใหน้ ักท่องเทย่ี วได้มาสักการะเคารพบูชา กจิ กรรม : ตดั แตง่ แปง๋ ตุง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook