เทคนิคการจดั กิจกรรมหลกั กิจกรรมจดุ เทียนปัญญา ************** วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพ่อื ใหน้ กั เรยี นมที ศั นคตทิ ด่ี ตี อ่ พระพุทธศาสนา เกดิ ความศรทั ธาในพระรตั นตรยั ๒. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจชวี ติ มกี าลงั ใจในการทาความดี โดยมพี ระพุทธเจา้ เป็น แบบอยา่ ง ๓. เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสานกึ ตระหนกั ถงึ ความเสยี สละของพระพทุ ธเจา้ พระอาจารย์ และครอู าจารย์ ขอบขา่ ยเนื้อหา ๑. ความสวา่ ง(ปัญญา) กาจดั ความมดื คอื อวชิ ชา ๒. พระพุทธเจา้ ทรงจดุ แสงธรรมใหก้ บั โลก ๓. ความประสงคข์ องครู-อาจารย์ เพอ่ื ช่วยใหศ้ ษิ ยพ์ น้ จากความมดื คอื อวชิ ชา ๔. คากล่าวอธษิ ฐานจติ ๕. คามนั ่ สญั ญาสคู่ วามเป็นธรรมทายาท:ผสู้ บื ทอดมรดกธรรมของพระสมั มาสมั พุทธเจา้ วิธีการดาเนิ นการ ๑. ขนั้ เตรยี มการ ฝ่ายพธิ กี ร ดาเนินรายการดงั น้ี - เตรยี มตวั แทนนกั เรยี น ๒ คน (ชาย ๑ หญงิ ๑) - เตรยี มสถานทใ่ี นหอ้ งประชุม จดั หากระบะทรายไวก้ ลางหอ้ งประชุม - จดั เกา้ อ้เี รยี งกนั ด้านบนเท่าจานวนพระอาจารย์ สาหรบั ครูอาจารย์ ให้จดั เกา้ อไ้ี วด้ า้ นหนา้ เวที เป็นแถวหนา้ กระดาน - เตรยี มเทยี นหนกั ๑ บาท พรอ้ มกระดาษรองน้าตาเทยี น เทา่ จานวน ผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรม - พิธกี ร นิมนต์คณะพระอาจารย์นัง่ บนเก้าอ้ี และเชิญคณะครู-อาจารย์และ นกั เรยี นเขา้ สหู่ อ้ งประชุมและนงั่ ตามแผนผงั ทจ่ี ดั ไว้ - แจกเทยี นให้กบั ผู้เขา้ ร่วมพธิ ที ุกคน พร้อมสาธติ วธิ กี ารถือเทยี น วธิ เี ดนิ ไป ปักเทยี น วธิ กี ารเดนิ ไปและเดนิ กลบั - ชแ้ี จงขนั้ ตอนของพธิ กี ารและขอความร่วมมอื ใหท้ กุ คนรว่ มมอื ปฏบิ ตั ติ ามอยา่ ง สารวม - กราบนมิ นตพ์ ระอาจารย์ ผบู้ รรยาย ดาเนนิ การพธิ จี ดุ เทยี นปัญญา
๒. ขนั้ ดาเนินการ - พระอาจารยผ์ บู้ รรยาย กลา่ วนา บอกใหห้ ลบั ตา นงั่ สมาธิ เป็นตน้ - สงั่ ใหป้ ิดไฟและเปิดเพลงประกอบตามขนั้ ตอนตา่ ง ๆ ของการบรรยาย - พระอาจารยผ์ บู้ รรยาย ใหน้ กั เรยี นพนมมอื ขน้ึ แลว้ นิมนตพ์ ระอาจารยใ์ นพธิ ี จุดเทยี นทโ่ี ต๊ะหมบู่ ูชา และพระอาจารยน์ าเทยี นทจ่ี ุดแลว้ มาจดุ ตอ่ ใหค้ รู - พระอาจารย์ผูบ้ รรยาย ใหน้ ักเรยี นหยบิ เทยี นของตนมาประคองไวข้ า้ งหน้า และเชญิ ครูไดต้ ่อประทีปธรรมจากพระพุทธเจา้ ใหก้ ับนักเรยี นและบรรยายต่อไป หรอื อาจเปิด เพลง แสงพระธรรม หรอื เพลงพระรตั นตรยั กไ็ ด้ และบรรยายต่อไปอกี - พระอาจารยผ์ ู้บรรยาย บอกใหต้ วั แทนนักเรยี นอ่านคาอธษิ ฐาน(ชาย) และ คามนั่ สญั ญา(หญิง) จบแลว้ ให้ลดมอื วางไว้ท่หี น้าตกั ยืดตัวตรง หลบั ตา ระลกึ ถึงภาพท่เี ห็น เทยี นทป่ี ัก นามาไวใ้ นจติ ใจ - นิมนตพ์ ระอาจารย์ และคณะครอู าจารย์ เดนิ ไปปักเทยี นเป็นแถวดว้ ยความ เคารพ ตอ่ ดว้ ยนักเรยี น -เม่อื ปักเทยี นเสรจ็ แลว้ พดู สรุป นกั เรยี นนงั่ สมาธิ สอื่ / อปุ กรณ์ ๑. กะบะทราย ๒. เทยี นไขหนกั ๑ บาท พรอ้ มกระดาษรองน้าตาเทยี น เทา่ จานวนผเู้ ขา้ พธิ ี ๓. เทปเพลง ซดี ี คอมพวิ เตอรโ์ น้ตบคุ๊ เพลงอาราธนาธรรม ดนตรบี รรเลง เนรญั - ชรา เขมรโอมตกึ เพลงแสงพระธรรม เพลงใหก้ าลงั ใจตา่ ง ๆ เป็นตน้ ๔. คาบรรยาย จุดเทยี นปัญญา คณุ ธรรมที่ไดร้ บั ๑. ศรทั ธาในการตรสั รูข้ องพระพุทธเจา้ (ตถาคตโพธสิ ทั ธา) ๒. สานึกในความเสยี สละของพระพทุ ธเจา้ และครู-อาจารย์ ๓. ความอดทน(ขนั ต)ิ
เอกสารประกอบการจดั กิจกรรมจุดเทียนปัญญา ************ ๑. คาปฏิญาณตน ในพิธีจดุ เทียนปัญญา กราบนมสั การ คณะพระอาจารย์ คณะครอู าจารย์ ที่เคารพอย่างสงู ทา่ มกลางความเงยี บสงบน้ี, ขา้ พเจา้ ทงั้ หลาย,นกั เรยี นโรงเรยี น……………………….., กาลงั สารวมกาย วาจา ใจ, เพอ่ื ทาพธิ จี ดุ เทยี นแหง่ ปัญญา, เพ่อื เป็นการทบทวนและเรม่ิ ชวี ติ ใหม่, ในการนาความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการอบรมไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั , เป็นการเพม่ิ พนู สตปิ ัญญาของ พวกขา้ พเจา้ , พวกขา้ พเจา้ สานกึ อยู่เสมอว่า, ดว้ ยเจตนาดแี ละมองการณไ์ กลของคณะพระอาจารย์, คณะครู-อาจารย,์ พอ่ แม่, ทต่ี อ้ งการใหพ้ วกเราเป็นคนด,ี มคี วามรู,้ ท่านจงึ ร่วมกนั จดั ฝึกอบรม เขา้ คา่ ยอบรมคุณธรรมในครงั้ น้ี, ทา่ นยอมเหนด็ เหน่อื ย, เพ่อื พฒั นาใหพ้ วกขา้ พเจา้ มคี ณุ ธรรม, พวกขา้ พเจา้ อายยุ งั น้อย, เตบิ โตดว้ ยการเลย้ี งดูของพอ่ แม่,ไดร้ บั การอบรมวชิ าความรูจ้ ากครู อาจารย,์ ไดร้ บั การอบรมกลอ่ มเกลาจติ ใจ, ใหม้ ศี ลี ธรรมจากคณะพระอาจารย,์ พวกขา้ พเจา้ เปรยี บเสมอื นผตู้ กอยู่ในความมดื ของความไม่รู,้ จะเดนิ ทางไปสจู่ ุดหมายปลายทาง, เพอ่ื ความ เจรญิ กา้ วหนา้ , จงึ ตอ้ งแสวงหาแสงสว่างเพ่อื นาทาง, ทจ่ี ะเดนิ ไปสจู่ ดุ หมายปลายทางใหจ้ งได,้ การจดุ เทยี นปัญญาในครงั้ น้ี, จงึ ทาใหข้ า้ พเจา้ ทงั้ หลายไดเ้ ขา้ ใจวา่ , นับแต่น้ไี ป, เทยี น แหง่ ปัญญาทจ่ี ดุ ขน้ึ น้ี, ดว้ ยความเมตตากรุณาของคณะพระอาจารย์, ขา้ พเจา้ ทงั้ หลายจะตงั้ ใจ รบั เอาความรู,้ แลว้ นาไปปฏบิ ตั ใิ หส้ มเจตนาดขี องทา่ น, บดั น้ี, ขา้ พเจา้ ทงั้ หลายพรอ้ มแลว้ ทจ่ี ะ กระทาในสง่ิ ทเ่ี ป็นประโยชน์ตอ่ ชาตบิ า้ นเมอื ง, ต่อสงั คมสว่ นรวม, ต่อตนเองและครอบครวั , พวกขา้ พเจา้ สญั ญาวา่ , จะนาความรทู้ ไ่ี ดร้ บั , ไปประพฤตปิ ฏบิ ตั ใิ หเ้ กดิ ประโยชน์ตอ่ ตนเองและสงั คมใหม้ ากทส่ี ุด, หากพวกขา้ พเจา้ ทงั้ หลาย, ยงั บกพรอ่ ง ผดิ พลาดอยู่, กรุณา ตกั เตอื นชโ้ี ทษ, ทาโทษ, พวกขา้ พเจา้ ทงั้ หลายขอน้อมรบั , และขอกราบขอบพระคณุ ไว้ ณ โอกาสน้ี ต่อไปน้ใี หเ้ พอ่ื น ๆ ว่าตามขา้ พเจา้ ดงั น้ี ขอ้ ท่ี ๑, ขา้ พเจา้ ขอเป็นบุตรทด่ี ขี องพ่อแม่, รกั คุณพ่อคณุ แม่, ทาใหค้ ณุ พอ่ คณุ แม่ สบายใจ ช่นื ใจ ขอ้ ท่ี ๒, ขา้ พเจา้ , ขอเป็นศษิ ยท์ ด่ี ขี องครูอาจารย์,โดยจะเคารพเชอ่ื ฟังและนอ้ มนาเอา ความรตู้ ามทา่ น ขอ้ ท่ี ๓, ขา้ พเจา้ ขอเป็นเพ่อื นทด่ี ขี องเพอ่ื น, โดยทางานรว่ มกนั อย่างมคี วามสขุ
ขอ้ ท่ี ๔, ขา้ พเจา้ ขอเป็นพลเมอื งทด่ี ขี องประเทศชาติ, จะดารงไวซ้ งึ่ สถาบนั ชาติ, สถาบนั ศาสนา, และสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ ขอ้ ท่ี ๕, ขา้ พเจา้ ขอเป็นศาสนกิ ชนทด่ี ,ี ของพระพทุ ธศาสนา, เจรญิ รอยตามรอยบาท พระศาสดา, รกั ษาศลี , ปฏบิ ตั ธิ รรม, ดว้ ยอานสิ งสแ์ ห่งการปณธิ านน้ี, ขอใหข้ า้ พเจา้ จงมี ความสขุ กาย สบายใจ, ตลอดไป เทอญฯ สาธุ, สาธุ, สาธุ, ***************************
๒. คาตงั้ จิตปณิธานสู่ความเป็นธรรมทายาท ขอตงั้ จติ ปณิธาน อยา่ งหาญกลา้ ดวงจติ ขา้ จะคงมนั ่ ไม่หวนั่ ไหว จะนบั ถอื สกั การะ พระรตั นตรยั ทงั้ กายใจ แน่วแน่ ไม่แปรปรวน จะปฏบิ ตั ิ ตามหลกั ธรรม คาสอนสงั ่ เพ่อื เหน่ยี วรงั้ ดวงใจ ไมผ่ นั ผวน แมจ้ ะมี ผใู้ ด มุ่งใฝ่ ชวน จะไม่ด่วน เปลย่ี นใจ ไปศรทั ธา “ธรรมทายาท” ต่อไปน้ี มชี ่อื วา่ ใฝ่ ฝึกฝน จะองอาจ ตงั้ ใจ ความดตี น จะรกั เกยี รติ รกั ศกั ดศิ์ รี ในทางดี เพ่อื ทุกคน เอาอยา่ ง พทุ ธบาท จะเดนิ ตาม รอยองค์ ถงึ ศกั ดศิ์ รี ธรรมทายาท ยอ่ มตระหนกั ความอปั รยี ์ ไม่กระทา สงิ่ ต่าทราม วาจา ใจ จะทาดี ดว้ ยกาย ใหพ้ น้ ทกุ ข์ จะช่วยเหลอื ผอู้ ่นื จติ แจม่ ใส เป็นความสขุ ของชวี ติ ผลจากใคร ทาความดี โดยไมห่ วงั ใหถ้ งึ ธรรม แตท่ าเพ่อื ยกจติ ใจ ในคามนั ่ ศษิ ยข์ อยา้ ไม่ถลา สดุ ทา้ ยน้ี อยา่ งมนั่ ใจ ไม่ทง้ิ ธรรม ตามปณิธาน ปางตาย แมม้ ที ุกข์ เป็น“ชาวพทุ ธ” สุดชพี เอย ฯ รกั ษาความ ************
๓. ตวั อย่างคาบรรยายจดุ เทียนปัญญา (เปิดเพลงอาราธนาธรรม) กราบพระพุทธผสู้ งู ลา้ กราบพระธรรมผสู้ งู เลศิ กราบพระสงฆผ์ ปู้ ระเสรฐิ รวมก่อเกดิ เป็นพระรตั นตรยั (ดนตรนี า-เขมรโอมตกึ )......ขอความนอบนอ้ ม จงมแี ดพ่ ระรตั นตรยั กราบคารวะคณะพระ อาจารยท์ ุกรูป และขอความสขุ สขุ สวสั ดี จงมแี ดค่ ณะครอู าจารย์ และนกั เรยี นทร่ี กั ทกุ ทา่ น ในโอกาสท่ามกลางแห่งความเงียบสงบน้ี เราจะได้ประกอบพิธอี ันเป็นมงคลซึ่งจะมี ความหมายต่อชีวติ จติ ใจของเรา แต่จะมผี ลมากน้อยเพียงใดขน้ึ อยู่กบั เราผู้เกีย่ วข้องท่จี ะให้ คุณค่าและความหมายต่อรายการน้ี ตงั้ ใจนะลูกนะ อย่าคุยกัน เล่นกนั แต่ถ้าใครทนไม่ได้ ทาไมไ่ ด้ (เชญิ ทางดา้ นนอกได้ โดยมคี วามผดิ ) กจิ กรรมน้ีพระอาจารยข์ อความตงั้ ใจและอดทน ของนกั เรยี นทกุ คน ใครทท่ี าได้ ขอใหย้ ดื ตวั ตรง นงั่ สมาธิ ตงั้ ใจฟัง ไมค่ ยุ กนั ครบั อกี สกั ครู่ไฟทกุ ดวงจะปิด เธออย่าตกใจ นีเ่ ป็นการทดสอบตวั ของเธอเอง วา่ เธอจะทา ดที งั้ ต่อหน้าและลบั หลงั ไดห้ รอื ไม่ ขอทกุ คนอยใู่ นอาการทส่ี งบ สารวมกาย วาจา ใจ (ไฟปิด- เปิดเนรญั ชรา จง้ี หรดี ) ยามเม่อื โลก ขาดแสง แห่งอาทติ ย์ ย่อมมดื มดิ มองอะไร กไ็ มเ่ หน็ ยามเมอ่ื จติ ขาดปัญญา พาลาเคญ็ ยอ่ มไม่เหน็ ดชี วั่ ทต่ี วั ทา บดั น้ีพวกเราทงั้ หลาย ได้มานัง่ อยใู่ นท่ามกลางของความมดื มดิ ความมดื ย่อมทาให้ พวกเรามองอะไรกไ็ ม่เห็นและในความมดื น้ี ย่อมแฝงไปด้วยอนั ตรายต่าง ๆ นี่คอื ความมดื ท่มี าจากภายนอก แต่ยงั มีความมดื ท่เี ป็นภยั ซ่อนเรน้ แอบแฝงอยู่ภายในจติ ใจของเรา เป็น ความมดื ทส่ี รา้ งความทุกข์ ความเดอื ดร้อน นามาซง่ึ ความหายนะแก่ชวี ติ นนั้ คอื ความมดื ทาง จติ ใจ มดื จนไม่รวู้ ่าเกดิ มาทาไม มชี วี ติ อย่เู พอ่ื อะไร ประโยชน์สงู สดุ ทช่ี วี ติ น้คี วรจะไดค้ อื อะไร วชิ าโลก เรยี นเทา่ ไหร่ ไมร่ จู้ บ ทงั้ พภิ พ กวา้ งใหญ่ ลกึ ไพศาล วชิ าธรรม เรยี นและทา จนชานาญ คงพบพาน สงบสขุ หมดทุกขเ์ อย.. (พดู ถึงความเหน็ แก่ตวั ) นี่แหละธรรมของพระพุทธเจา้ ถา้ ใครได้ประพฤติปฏบิ ตั ิย่อมเอิบอิม่ และเป็นสุข
เธอทงั้ หลายคงมคี วามภูมใิ จท่ไี ด้เป็นลูกพระพุทธเจา้ อย่าว่าแต่พวกเราเลย ใครก็ ตามท่ีมีโอกาสได้เป็นลูกของพระพุทธเจ้า ก็จะมีความรู้สึกเป็นเช่นนัน้ เหมือนกัน เพราะ พระพุทธเจา้ เสดจ็ พ่อของเรา ทรงเป็นบุคคลทว่ี เิ ศษ เป็นบุคคลผูเ้ ลศิ ทส่ี ุดในโลก และอกี ไม่ นานเกินรอ พวกเราก็จะได้มโี อกาสแสดงตนเป็นลูกของพระองค์อย่างแท้จรงิ เราจะรู้สึก ภาคภูมใิ จ ยงิ่ หากเราได้ศกึ ษาประวตั ขิ องพระพุทธเจา้ แล้วละก็ จะยงิ่ มคี วามภาคภูมใิ จ ท่ี เสดจ็ พ่อของเราเป็นผเู้ สยี สละไมม่ ใี ครยงิ่ กว่าอกี แลว้ นักเรยี นทงั้ หลาย พวกเราคงเคยไดย้ นิ ได้ฟังมาแลว้ ใช่ไหมว่า....พระพุทธเจ้าของเรา ทรงสละราชสมบตั ิ ทรงละทง้ิ มเหสแี ละลกู น้อยสุดท่รี กั จะมใี ครสกั ก่คี นท่ที าได้ พมิ พา..อายุ เพยี ง ๑9 ยงั สาวยงั สวย ราหุลกเ็ พง่ิ เกิดในวนั นนั้ จะมสี ามคี นใดท่ไี มร่ กั ภรรยาทอ่ี ยใู่ นวยั สาว ยงั สวย จะมพี ่อคนใดบา้ งท่ไี มห่ ่วงใยและลกู ทเ่ี พงิ่ เกิดในวนั นนั้ แต่ดว้ ยความรกั อนั ยง่ิ ใหญ่ใน สตั วโ์ ลก เจา้ ชายสทิ ธตั ถะจงึ ยอมสละราชสมบตั ิ สละภรรยาและลูกนอ้ ย ถา้ พระอาจารยเ์ ดาไม่ ผดิ คดิ ว่า.. ก่อนท่พี ระองคจ์ ะออกบวช พระองค์ได้ไปยงั หอ้ งบรรทมของพมิ พาและราหุลลูก น้อย คงจะกล่าวความรสู้ กึ ในใจวา่ .... “รกั เธอกร็ กั นะ แตอ่ สิ ระย่อมสงู ส่ง นกน้อยในกรอบกรง ฤารวู้ ่าฟ้าเสรี คดิ ถงึ นะ คดิ ถงึ และทราบซง้ึ คุณความดี แต่งานยงั มากมี มอิ าจทง้ิ อดุ มการณ์” พระองคม์ อี ุดมการณ์ในการทจ่ี ะพาเวไนยสตั วท์ งั้ หลาย ใหพ้ น้ จากความทกุ ข์ทงั้ ปวง แมจ้ ะมคี นประณามว่า “คนใจจดื ใจดา ทง้ิ ไดแ้ มก้ ระทงั่ ลกู เมยี ตน” บางคนกห็ าว่าพระองคเ์ อา ตวั รอด ไม่รบั ผดิ ชอบลกู เมยี แต่พวกเราลองมาคดิ ตรติ รอง ใครค่ รวญดูใหด้ เี ถดิ วา่ พระองค์ เป็นคนเหน็ แก่ตวั หรอื ว่าพระองคท์ รงเสยี สละเพอ่ื มวลมนุษยท์ งั้ โลก พระสทิ ธตั ถะไดไ้ ปเล่าเรยี นศกึ ษาตามสานักต่าง ๆ ทโ่ี ด่งดงั และในสมยั นัน้ พระองคไ์ ด้ เขา้ ไปมอบตวั เป็นศษิ ยใ์ นสานักของ อารฬดาบสและอุทกดาบส ไดศ้ กึ ษาจนครบทงั้ หมด ทุก วชิ าความรขู้ องอาจารยท์ งั้ สอง ไดถ้ งึ ฌานสมาบตั ิ 7-8 แต่กย็ งั ไมพ่ อพระทยั จงึ ไดต้ ดั สนิ ใจลา จากอาจารยท์ งั้ สองไปบาเพญ็ เพยี รดว้ ยตนเอง ทรงทรมานร่างกายตนตา่ ง ๆ นานา ตามวธิ ที ่ี เขานิยมปฏบิ ตั กิ นั สมยั นนั้ เพ่อื ดบั ทกุ ข์ เกิดความสุข พระองคก์ ท็ รงทดลองแลว้ ๆ เลา่ ๆ จน แทบจะเอาชวี ติ ไปท้งิ เสยี กลางดงกลางป่า แต่เดชะบุญของเราทย่ี งั ไม่สูญเสยี บุคคลสาคญั ของ โลก ในวนั ก่อนวนั วสิ าขะนนั่ เอง มหี ญงิ ชาวบา้ นคนหน่ึงช่อื ว่า สชุ าดา ไดน้ าขา้ วมธุปายาส มาเพอ่ื จะบวงสรวงเทวดา เม่อื เหน็ พระสทิ ธตั ถะ ผู้มรี ูปงามกน็ ึกว่าเป็นเทวดา กเ็ ลยน้อมขา้ ว มธุปายาสไปถวาย หลงั จากไดเ้ สวยขา้ วมธปุ ายาส ตกเยน็ วนั นนั้ พระองคก์ ล็ งสรงน้าในแม่น้า เนรญั ชรา หลงั จากนัน้ ก็มุ่งหน้าตรงสู่ต้นศรมี หาโพธิ์ รบั หญ้าจากโสตถิยพราหมณ์มารอ้ ง เป็นปัลลงั ก์นัง่ แล้วตงั้ จติ อธษิ ฐานอย่างแน่วแน่ว่า “แมเ้ น้ือและเลือดจะเหือดแห้งไปจนไม่มี
อะไรเหลอื อยู่ เหลอื แต่หนัง เอน็ กระดูก ก็ตามที หากไม่บรรลุ....เราจกั ไมย่ อมลุกจากทน่ี ัง่ น้ี เป็นอนั ขาด...” พระองคท์ รงตอ่ สกู้ บั พญามาร ซงึ่ มาในรปู ลกั ษณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะมารทงั้ ๕ เชน่ ขนั ธมาร กเิ ลสมาร มจั จุมาร เทวปตุ ตมาร ในทส่ี ดุ พระองคก์ ท็ รงเอาชนะไดด้ ว้ ยบารมตี ่าง ๆ เชน่ ทาน ศลี เนกขมั มะบารมเี ป็นตน้ พระองคท์ รงเอาชนะมารไดแ้ ลว้ ในปฐมยามแห่งราตรีนัน่ เอง การบาเพ็ญเพียรของพระสิทธัตถะได้มีญาณเกิดข้ึน เรยี กว่า ปุพเพนิวาสานุสตญิ าณ ญาณอนั น้ีทาใหพ้ ระองค์ระลกึ อดตี ชาตไิ ดว้ ่า พระองคไ์ ดเ้ คย เกดิ เป็นอะไร บา้ ง ในมชั ฌมิ ยามแหง่ ราตรนี งั่ เอง พระองคไ์ ดบ้ รรลุญาณพเิ ศษอยา่ งหน่ึง เรยี กว่า จุตูปปาตญาณ ไดห้ ยงั่ รวู้ ่า สตั วท์ งั้ หลายมกี รรมเป็นของตวั ผทู้ ากรรมดยี อ่ มไดร้ บั ผลดี ผทู้ า กรรมชวั่ ยอ่ มไดร้ บั ผลชวั่ เราจะหนีจากผลของการกระทาของเราไปไมพ่ น้ ในปัจฉิมยาม พระองคไ์ ดท้ รงบรรลุ อาสาวกั ขยญาณ ในญาณสดุ ทา้ ยน้เี อง เป็นเหตุ ใหพ้ ระองคไ์ ดร้ สู้ จั จะความจรงิ ในชวี ติ ความจรงิ กค็ อื ความทกุ ข์ พระองคร์ วู้ ่าทุกขเ์ ป็นอย่างน้ี ๆ รเู้ หตุใหเ้ กิดทุกข์คอื อะไร รูว้ ่าความดบั ทุกขเ์ ป็นอย่างไร และรู้หนทางท่จี ะดาเนินไปส่คู วาม ดบั ส้นิ ทุกข์ “ทกุ ข์เกดิ ขน้ึ ไดก้ เ็ พราะมเี หตปุ ัจจยั ทุกขน์ ัน้ ก็ดบั ไดเ้ พราะเหตุปัจจยั เช่นกนั ” จน ทาให้จติ ใจของพระองค์นัน้ ส้นิ กเิ ลสอาสวะท่ี สะสม หมกั ดองอยู่ในจติ ใจเป็นเวลายาวนาน พรอ้ มกนั นนั่ เอง แสงสวา่ งกไ็ ดบ้ งั เกดิ ขน้ึ ในโลก ณ บดั นนั้ (เปิ ดเพลงตรสั ร้)ู พระพทุ ธเจา้ ของเราทงั้ หลาย ไดบ้ งั เกดิ ขน้ึ ณ ภายใตต้ น้ ศรมี หาโพธิ์ ในวนั วสิ าขบชู า วนั เพ็ญเดอื น ๖ เม่ือ ๑๕๐๐ กว่าปีมาแล้ว การเกิดครงั้ น้ี เป็นการเกิดใหม่ของเจ้าชาย สทิ ธัตถะ เทวดาทงั้ หลายต่างสรรเสรญิ ทวั่ ปฐพี พร้อมทงั้ เทวโลก มนุษยโลก และมารโลก แสงแหง่ ธรรมไดเ้ กดิ ขน้ึ แลว้ พระพุทธเจา้ ของเราไดเ้ กดิ ขน้ึ แลว้ ในโลก เพอ่ื เป็นแสงสว่างใหก้ บั โลก ใหม้ นุษยไ์ ดห้ ายจากความมดื บอด ชวี ติ ของเรานัน้ ถ้าไม่มพี ระพุทธเจา้ เกดิ ขน้ึ กค็ งจะสบั สนวนุ่ วาย คงจะมแี ต่แก่งแย่ง กดขี่ ขม่ เหงซง่ึ กนั และกนั ไมม่ ที ส่ี น้ิ สุด หลงั จากตรสั รู้อนุตตรสมั มาสมั โพธญิ าณแลว้ พระองค์ไดน้ าธรรมะไปสงั่ สอนสตั ว์โลก ในครงั้ แรก ไปโปรดปัญจวคั คยี ท์ งั้ ๕ ทป่ี ่าอสิ ปิ ตนมฤคทายวนั แขวงเมอื งพาราณสี เป็นเหตุ ใหโ้ กณทญั ญะพราหมณ์ ไดด้ วงตาเหน็ ธรรม ขอให้เธอทงั้ หลายจงพนมมือข้นึ และอุปมาแสงสว่างขณะน้ีว่าเป็นการอุบตั ิข้นึ ของ พระพุทธเจ้าท่ที าลายอาสวะกิเลสได้ส้นิ เชงิ นัน่ เอง (พระในพิธจี ุดเทยี นทแ่ี ท่นบูชา และเปิด เพลง เขมรโอมตกึ ฯ) เทยี นท่เี ราจุดน้ี ย่อมให้แสงสว่างให้พลงั งานความร้อนละลายแท่งเทียนฉันใด พระธรรมท่ี เกิดขน้ึ ก็เปรยี บเหมอื นประทปี ส่องสว่างภายในจติ ใจ ย่อมทาลายอาสวะมดื บอดให้หมดส้นิ ไป จากพระทยั ของพระพทุ ธเจา้
เพ่อื ใหพ้ วกเธอทงั้ หลายไดป้ ระจกั ษใ์ นคณุ ค่าแหง่ กระแสธรรมทเ่ี กดิ ขน้ึ ในจติ ใจของใครก็ ตาม ย่อมทาใหม้ คี วามสุข สงบ รูจ้ กั เสยี สละและความรบั ผดิ ชอบเป็นบรรทดั ฐาน แต่ยงั มบี าง คนพยายามกลา่ วหาพระพทุ ธเจา้ ของเราว่า พระองคไ์ มร่ บั ผดิ ชอบ ทง้ิ ภรรยาใหเ้ ป็นหมา้ ย ทง้ิ ราหุลให้กาพรา้ พ่อ แต่ทงั้ หมดนนั้ เราสามารถสบื คน้ ไปหาคาตอบแทจ้ รงิ ถงึ คุณธรรมแห่งความ รกั นนั้ ได้ โดยใชป้ ัญญาคดิ ไตรต่ รองดูใหด้ ี เชน่ เดยี วกบั ครอู าจารยข์ องพวกเธอทน่ี งั่ อยู่ตรงหนา้ น้ี ทไ่ี ดน้ าพวกเธอมารว่ มประพฤตปิ ฏบิ ตั คิ ณุ งามความดที พ่ี ุทธมณฑลแห่งน้ี ท่านเหล่าน้ถี า้ ว่า โดยหน้าทแ่ี ลว้ มเี พยี งอย่างเดยี วคอื สอนหนงั สอื และรบั ผดิ ชอบในชนั้ เรยี น ตงั้ แต่ 8 โมงเชา้ ถึง ๔ โมงเยน็ แลว้ กลบั บ้านเพยี งเท่าน้ีกค็ รบถ้วนแลว้ และคงไม่มใี ครกล้าตาหนิว่าครูไม่ รบั ผดิ ชอบ แตม่ าวนั น้ี ท่านไดม้ านัง่ อยู่ค่าย พกั แรมกบั พวกเธอ ร่วมสขุ ร่วมทุกขก์ บั พวกเธอ ท่านเลอื กทจ่ี ะใชช้ วี ติ ร่วมปฏบิ ตั ิเคยี งขา้ งเธอ กนิ อยู่หลบั นอน แม้จะมคี วามลาบากบา้ ง กไ็ ม่ อาทรรอ้ นใจต่อสง่ิ นัน้ ท่านทาเช่นน้ีเพ่อื อะไร เพ่อื เงนิ เดอื นของท่านเพมิ่ หรอื เพ่อื เกยี รติยศ ชอ่ื เสยี งทจ่ี ะได้จากการจดั กิจกรรมน้หี รอื ทงั้ หมดน้ีไม่มผี ลกบั ครูอาจารยเ์ ลย นอกจากน้ที ่าน ยงั ตอ้ งทง้ิ ลกู ทง้ิ เมยี ท้งิ สามี ทง้ิ ทรพั ยส์ มบตั ิอนั มคี า่ ทห่ี วงแหนหามาดว้ ยน้ามอื ของตนเองไว้ เบ้ืองหลัง เพราะความรกั ศิษย์ท่ีมีอยู่ในในหวั ใจของครู น้ีคือหัวใจของผู้มีธรรม รักเธอ ปรารถนาท่จี ะหยบิ ย่นื สง่ิ ท่ใี ห้คุณค่า และคุ้มกับการท่จี ะทาให้พวกเธอไม่เสยี คน เป็นค วาม รบั ผดิ ชอบท่สี ูงยิ่ง ยอมเปลอื งตวั ให้ลูกศิษย์ แม้จะถูกเกลยี ดชงั นินทาลบั หลงั เพียงขอให้ ชวี ติ ได้มโี อกาสทาในสง่ิ ทค่ี นในโลกทาได้ยาก ได้พดู กบั ศษิ ยใ์ นสง่ิ ทค่ี นในโลกพูดไดย้ าก และ ไดค้ ดิ ในสงิ่ ทค่ี นในโลกคดิ ไดย้ าก ครูอาจารยเ์ หน็ ว่าความมดื ท่เี กดิ ข้นึ กบั ลูกศิษย์ จะทาให้เกิดความลาบากทุกข์ยากใน อนาคต เช่น มืดเพราะไม่รู้ แต่ครูสามารถให้แสงสว่างแก่พวกเธอได้ในระดบั หนึ่ง หรอื มืด เพราะไม่มีอาชพี ครูกเ็ ช่อื ว่าเม่อื เธอมคี วามรู้แล้วก็สามารถประกอบอาชพี ได้ แต่ไม่เคยลมื เลือนคาโบราณท่กี ล่าวเตือนไว้ว่า “ความรู้ท่วมหวั เอาตวั ไม่รอด” ครูได้เห็นประจกั ษ์แก่ สายตา หลายคนเอาชวี ติ ไม่รอด มชี วี ติ ตกต่าเพราะขาดประทปี ธรรมนาทางชวี ติ ครูจงึ นาพวก เธอมาพง่ึ พระพทุ ธเจา้ แค่น้คี รูกม็ แี ตค่ วามปีตปิ ราโมทย์ แมจ้ ะเหน่อื ยยากลาบางเพยี งใด ครูก็ ทนได้ นกั เรยี นทงั้ หลาย ขอใหเ้ ธอได้หยบิ เทยี นของเธอขน้ึ มาประคองไว้ และขอนิมนต์พระ อาจารยท์ ุกรปู ไดเ้ ขา้ ไปรบั ประทปี ธรรมจากพระพุทธเจา้ และขอใหพ้ ระอาจารยไ์ ดส้ ง่ กระแสจติ แห่งประทปี ธรรมนัน้ มอบแก่คณะครอู าจารย์ และขอเชญิ ครูอาจารยท์ ุกท่าน ได้ส่งส่อื กระแส ธรรมน้ไี ปยงั ศษิ ย์ เมตตามวลศษิ ย์ และส่งต่อประทปี ธรรมนนั้ ใหส้ ว่างขน้ึ ในมอื ศษิ ยโ์ ดยทวั่ กนั ศษิ ยท์ ร่ี กั ทกุ คน จงนาเทยี นขน้ึ มาประนมไว้ ขอไดม้ โี อกาสทาหน้าทข่ี องตนดว้ ยการ ประคองประทปี นนั้ ไว้ และตงั้ จติ อธษิ ฐานว่าตามพระอาจารย์ ดงั ตอ่ ไปน้ี ยตฺถ ชาโต ภเว ภเว ทุก ๆ ภพท่ีเราเกิด อชุ จุ ิตตฺ สติปญฺญา ขอให้มจี ิตมนั ่ ตรง ดว้ ยสติปัญญาอนั ประเสริฐ
เทยี นทเ่ี ธอทุกคนประคองอย่นู ้ี เป็นประทปี แหง่ ธรรม ขอใหค้ ดิ ว่าเป็นเสมอื นชวี ติ ของ ลูก ประคองให้ดี อย่าใหเ้ ทียนดบั เพ่งสายตาไปท่เี ทยี น ทาใจให้สงบ ยกมอื ไวร้ ะหว่างอก ครบั หายใจเขา้ (พุท) หายใจออก (โธ) บดั น้ี เธอได้แสงสว่างคนละดวง จากประทีปธรรมท่คี ณะครูอาจารย์ไดจ้ ุดให้กบั พวก เรา เธอจงประคองไวใ้ หด้ ี สแี หง่ ประทปี จากเปลวเทยี นน้ี กเ็ หมอื นแสงแหง่ ปัญญา คนเรานัน้ จะพน้ ทุกขไ์ ด้ ตอ้ งอาศยั ปัญญา โดยเฉพาะปัญญาของพระพุทธเจา้ พระองคไ์ ดเ้ กดิ ขน้ึ มาเพ่อื ประทานดวงประทปี ธรรม ใหเ้ ราได้รบั แสงสว่างและสามารถดาเนนิ ชวี ติ ไปในทางทถ่ี กู ตอ้ ง ชวี ติ ของเราทร่ี อดมาได้ กเ็ พราะอาศยั ธรรมของพระพทุ ธเจา้ ทพ่ี ระองคถ์ า่ ยทอดใหก้ บั คุณพ่อคุณแม่ของเรา แท้จรงิ แลว้ ท่านทงั้ สองก็ดาเนินชีวติ ไปตามครรลองของธรรมนัน้ เอง ชวี ติ ของเราจงึ รอดมาไดจ้ นปัจจบุ นั น้ี ในบดั น้ี ขอใหล้ ูก ๆ ทงั้ หลาย มาสวดบทสรรเสรญิ คุณของพระพทุ ธเจา้ พรอ้ มกนั ทุก คน และดงั ทส่ี ดุ เลยนะครบั (เพลงองคใ์ ดพระสมั พุทธ (หญงิ ) บดั น้เี ราไดถ้ วายเทยี นเป็นพทุ ธบชู า และไดร้ บั ประทปี ธรรม เพ่อื ความสว่างไสวรุ่งเรอื ง แกช่ วี ติ ตน ความปรารถนาและคณุ ธรรมทม่ี อี ยู่ในตวั เธอ จงกลายเป็นฐานแห่งชวี ติ เพอ่ื ความ ร่มเยน็ เป็นสขุ ของชวี ติ ทเ่ี หลอื อยู่น้ี ใหเ้ กดิ คุณคา่ ทแ่ี ทจ้ รงิ สวา่ งใด ในหลา้ วา่ สว่าง จะหาอยา่ ง ปัญญา จะหาไหน ถงึ ตะวนั จนั ทรส์ อ่ ง ผ่องอาไพ ไมส่ อ่ งใจ ใหส้ ว่าง อยา่ งปัญญา ลูก ๆ ทงั้ หลาย เราได้มีจติ ใจเป็นอนั หน่ึงอนั เดยี วว่า พระพุทธเจา้ มพี ระคุณอย่างไร ทรงมคี วามดอี ย่างไร ถา้ ชวี ติ ของเราขาดพระพทุ ธเจา้ ถา้ คุณพ่อคุณแมเ่ ราไมไ่ ด้ยดึ หลกั ธรรม เป็นแนวทางในการดาเนินชวี ติ ชวี ติ ของเราเกดิ มาคงไม่สมบูรณ์ บางครงั้ เราอาจจะไม่ได้มานัง่ อย่ตู รงน้กี ไ็ ด้ ชวี ติ ของเราอาจจะถูกทาลายตงั้ แต่ปฏสิ นธิ หรอื ว่าเกดิ มาแลว้ คุณพ่อคณุ แม่ไม่มี คณุ ธรรม เรากค็ งไม่โอกาสไดม้ านงั่ อยู่ตรงน้ี คงจะมชี วี ติ ทเ่ี ป็นพษิ เป็นภยั ต่อสงั คมดงั ทเ่ี ราเคย เหน็ อยู่ตามสอ่ื โทรทศั น์ หนังสอื พมิ พ์ ปัจจุบนั น้ี ฉะนนั้ ขอใหล้ กู ไดม้ อบกายถวายชวี ติ น้ี เป็นลกู ของพระพุทธเจ้าอย่างสมบูรณแ์ บบ เพ่อื ใหช้ วี ติ ของลูก ๆ นนั้ เจรญิ งอกงามกา้ วหนา้ สบื ไป ขอใหเ้ ธอทกุ คนวา่ ตามพระอาจารย.์ .. นตถฺ ิ เม สรณ อญญฺ พทุ ฺโธ เม สรณ วร ทพ่ี ง่ึ อยา่ งอน่ื ของขา้ พเจา้ ไมม่ ี พระพทุ ธเจา้ เป็นทพ่ี ง่ึ อนั ประเสรฐิ ของขา้ พเจา้ พทุ ธสฺสาห นิยฺยาเทมิ สรีรญชฺ ีวตญฺจิท ขา้ พเจา้ ของมอบกายถวายชวี ติ น้ี แด่พระพุทธเจา้ เอเตน สจจฺ วชฺเชน วทฺเทยฺย สตฺถุ สาสเน ดว้ ยการกลา่ วความจรงิ น้ี ขอใหข้ า้ พเจา้ พงึ เจรญิ ในพระพุทธศาสนา ขององคส์ มเดจ็ พระบรมศาสดาสมั มาสมั พทุ ธเจา้
นักเรยี นทงั้ หลาย บัดน้ีเธอได้แสดงตนเป็ นลูกของพระพุทธเจ้าแล้ว แต่ว่าลูกของ พระพุทธเจา้ จะตอ้ งไม่ทาสง่ิ ท่ตี ่าทราม จะไม่ทาชวั่ พูดชวั่ คดิ ชวั่ ลูกของพระพุทธเจา้ จะทา แต่สงิ่ ท่ดี ีงาม พูดดี คดิ ดี ทาดี ลูกของพระพุทธเจา้ จะต้องช่วยเหลือผู้อ่นื ให้พ้นทุกข์ นี่คอื ความสุขของพวกเรา ทเ่ี ป็นลูกของพระพุทธเจา้ ตอ่ จากน้ไี ปเราจะไดก้ ลา่ วคาตงั้ สจั จอธษิ ฐานและคามนั่ สญั ญาดว้ ยกนั ขอใหล้ กู ตงั้ จติ อธษิ ฐาน ร่วมกนั วา่ (ตวั แทนนากลา่ วคาอธษิ ฐานจติ และคามนั่ สญั ญา) ลูกธรรมทายาททร่ี กั ทุกคน ขอใหล้ กู ทกุ คนไดท้ าตามปณิธาน ตามทไ่ี ดใ้ หส้ จั จะวาจาน้ี ดว้ ยความจรงิ ใจ เพ่อื พระพทุ ธเจา้ จะไดร้ บั รู้ ขอใหล้ กู ธรรมทายาทไดเ้ ตรยี มตวั ลกุ ขน้ึ เพ่อื จะไดน้ าเทยี นไปถวายเป็นพทุ ธบชู า และปักบนแทน่ บชู าทเ่ี ตรยี มไวข้ า้ งหน้าน้ี (ทกุ คนปักเทยี น แลว้ กลบั มานงั่ ทเ่ี ดมิ ) พระองคท์ รงทาหนา้ ทข่ี องพระองค์ แมว้ า่ ระสุดท้าย ยงั ทรงประทานโอวาทให้กบั พวก เราวา่ “ดูกอ่ นภกิ ษทุ งั้ หลาย สงั ขารทงั้ หลายมคี วามเสอ่ื มไปเป็นธรรมดา เธอทงั้ หลายจงยงั ตน ใหถ้ งึ พรอ้ มดว้ ยความไม่ประมาทเถดิ ” ของบางอยา่ ง ซ้อื ไมไ่ ด้ ดว้ ยเงนิ ทอง เพราะเป็นของ ไมม่ ี ราคาขาย เช่นความรกั ความปราณี มนี ้าใจ ปลกู ฝังให้ คดิ ชอบ ประกอบกนั สง่ิ เหลา่ น้ี มคี ่า แกช่ วี ติ แตว่ ่าเงนิ ไม่มสี ทิ ธิ์ มาจดั สรร เพยี งแตเ่ รา มอบใหแ้ ก่ กนั และกนั ส่วนผใู้ ห้ ไดร้ างวลั คอื อมิ่ ใจ ดว้ ยความรกั เมตตา ปราณี ยนิ ดเี อน็ ดูแกก่ นั เรามาชว่ ยกนั ตอ่ สกู้ บั ความแก่ - ความเจบ็ - และความตาย อยา่ มวั แต่มาตอ่ สกู้ นั เอง ทะเลาะเบาะแวง้ กนั เอง ขอใหค้ ดิ เสยี ว่า แพเ้ ป็นพระ ชนะเป็นมาร เวรยอ่ มระงบั ดว้ ยการไมจ่ องเวร ตน้ ไมใ้ ห้ ความร่มรน่ื แก่ชวี ติ นกตวั นดิ ใหเ้ สยี งเพลง แก่โลกหลา้ ดอกไมน้ อ้ ย ยงั ใหค้ วาม ช่นื บานตา แมต้ น้ หญา้ กย็ งั ให้ ออกซเิ จน แลว้ ตวั เรา เกดิ มา ในโลกน้ี ทาสง่ิ ดี อะไร ใหโ้ ลกเหน็ กนิ -นอน-เล่น เท่านนั้ หรอื ทท่ี าเป็น ไม่ดเี ด่น กวา่ บรรดา ตน้ หญา้ เอย..ฯ ***************
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: