Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 14อ่านจับใจความชุดที่4

14อ่านจับใจความชุดที่4

Published by awwsuay33, 2020-03-27 05:06:29

Description: 14อ่านจับใจความชุดที่4

Search

Read the Text Version

๔แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ ชุดท่ี “อา นจบั ใจความ ตอบคาํ ถามได” ของ ชัน้ เลขที่ ครูผสู อน โรงเรยี น

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เรอื่ ๑งท่ี “อา นจบั ใจความ ตอบคําถามได” คาํ ช้แี จง : อานเรื่องตอ ไปน้ีและตอบคําถามใหถ กู ตอ ง แมงมมุ แมม า ยดาํ แมงมุมแมมายดํา แมงมุมชนิดนี้เปนแมงมุมมีพิษซ่ึงรายแรงมากถึงแกชีวิต ช่ือใน ภาษาอังกฤษของมันคือ black widow spider ขยายพันธุสวนมากในภาคตะวันตกของทวีปอเมริกา และ ทางตะวันตกเฉียงใตของออสเตรเลีย ลกั ษณะของแมงมุมมายดําระหวางตวั ผกู บั ตัวเมียจะมีลักษณะแตกตางกัน คอื ตวั ผจู ะมขี นาดเล็กกวา ราวครึ่งหนงึ่ ของตวั เมีย หรือเลก็ กวา ประมาณ ๒๐ เทา มลี าํ ตัวสีออนกวาตวั เมียหรือ เปนสีนําตาล ตัวเมียมีความยาวประมาณ ๑ - ๒ เซนติเมตร มีลําตัวสีดํา ตัวกลม กลางลําตัวมีเคร่ืองหมาย เปนรูปนาฬิกาทรายน้ีมีไดท้ังสีแดงหรือสีเหลืองแมงมุมแมมายดําท่ีกัดคนจึงเปนตัวเมียเทาน้ัน ช่ือแมงมุม แมม า ยดาํ น้ันมาจากตัวเมยี จะกนิ ตวั ผูหลังจากการผสมพันธุเสร็จ แมงมมุ แมม ายดาํ ชอบอยใู นที่มดื แหงไมม ลี ม ออกหากินตอนกลางคืน พิษของแมงมุมแมมายดํา เปนพิษท่ีมีผลตอระบบประสาทเม่ือพิษเขาสูรางกายจะ ทําใหเกิดกลามเน้อื เกร็งจนเปน อัมพาต สาเหตุการเสียชวี ติ สวนใหญมาจากกลา มเนอ้ื กระบังลมและกลามเนื้อ หวั ใจหยดุ ทํางาน อาการในระยะแรกคือจะมผี ืน่ แดงๆเกดิ ขึน้ บรเิ วณผวิ หนังท่ีถกู กดั และรสู ึกปวด ตอมาเวลา 30 นาที ผิวหนงั รอบแผลท่ีถูกกดั จะแดงขึ้นอยางเหน็ ไดชัดเหง่อื ออกพรอ มท้งั รสู ึกชาและปวดแผล ๑. แมงมมุ แมมา ยดําขยายพันธส ว นมากในทวีปใดบา ง ๒. ตอบ แมงมมุ เพศใดท่กี ัดคน ๓. ตอบ หลงั จากผสมพนั ธุเสรจ็ แมงมุมตวั เมยี ทาํ อยา งไร ตอบ ๔. หากพิษแมงมุมแมมายดําเขาสูรางกาย จะเกิดอะไรขนึ้ ๕. ตอบ หากถกู แมงมมุ แมมายดํากัด อาการในระยะแรกเปนอยา งไร ตอบ ชือ่ ………….………….…………………ชนั้ ……….เลขท่ี……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เรอื่๒งที่ “อา นจบั ใจความ ตอบคําถามได” คําช้แี จง : อา นเรื่องตอ ไปน้แี ละตอบคาํ ถามใหถ ูกตอ ง มันมว ง “มนั มวง” เปน มนั เทศท่นี ยิ มปลกู กันมากในเมอื งโอกนิ าวา ประเทศญ่ปี นุ เพราะมคี ณุ คาทางอาหาร มากมาย และที่สาํ คัญมันมว งมปี ริมาณไฟเบอรท ีส่ งู กวาและมดี ชั นีนา้ํ ตาลที่ตํา่ กวา ซึง่ เมือ่ รบั ประทาน เขา ไปแลวจะถกู ยอยอยา งชา ๆ จงึ ทาํ ใหก ลโู คสถกู ปลอ ยเขาไปในกระแสเลอื ดไดชา สง ผลใหร ะดบั นาํ้ ตาลในเลือดขนึ้ ชาไปดว ย มันมวงจึงดตี อ ผปู ว ยทเ่ี ปนโรคเบาหวาน นอกจากนีม้ ันมวงอดุ มไปดว ย สารตา นอนมุ ลู อสิ ระโดยมปี รมิ าณสารตานอนุมลู อสิ ระสงู กวาบลูเบอรรีประมาณ ๔ เทา การรบั ประทานมันมว งจึงมีประโยชนต อ รา งกายในการปอ งกนั และลดอาการโรคหัวใจหลอดเลอื ด ควบคุมระดับความดนั เลือดและปอ งกันการเกิดโรคมะเร็งไดเปนอยางดี ชว ยชะลอความแกและความ รวงโรย ชว ยลดอาการทอ งรว ง ชว ยลดเซลลม ะเร็ง ชวยลดอัตราการเส่ยี งของโรคหวั ใจ ท้งั น้ีมันมวง ญ่ีปุนมีราคาถูกจงึ เปน ทางเลอื กทดี่ เี พือ่ เปน อาหารคณุ ภาพเลศิ เพ่ือการมอี ายุยนื ของชาวโอกินาวะ ทม่ี า https://www.honestdocs.co/benefits-of-purple-sweet-potato ๑. มันมวงนิยมปลูกกันมากในประเทศใด เมืองใด ๒. ตอบ มนั มวงมีสารอาหารชนดิ ใดสูง ๓. ตอบ ผูปวยโรคใดควรรบั ประทานมันมว ง ตอบ ๔. มันมว งมสี ารตา นอนมุ ูลอิสระมากกวาผลไมชนิดใด ๕. ตอบ จงบอกประโยชนข องมนั มว งมา ๒ ขอ ตอบ ชอื่ ………….………….…………………ชั้น……….เลขท่ี……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร่ือ๓งที่ “อา นจบั ใจความ ตอบคาํ ถามได” คําชแี้ จง : อา นเรอื่ งตอ ไปนี้และตอบคาํ ถามใหถ ูกตอง ผตี าโขน ป ร ะ เ พ ณี แ ห ผี ต า โ ข น จั ด เ ป น ส ว น ห น่ึ ง ใ น ง า น บุ ญ ป ร ะ เ พ ณี ใ ห ญ ห รื อ ที่ เ รี ย ก ว า \"งานบุญหลวง\" หรือ \"บุญผะเหวด\" ซ่ึงตรงกับเดือน 7 มีขึ้นที่อําเภอดานซาย จังหวัดเลย และจัดเปน การละเลนท่ีถือเปนประเพณที กุ ป เกย่ี วโยงกับงานบญุ พระเวสหรอื เทศน มหาชาติ ประจําปกับพระธาตุศรี สองรัก ปูชนียสถานสําคัญของชาวดานซาย เปนอีกหน่ึงประเพณีท่ีมีช่ือเสียงและขึ้นช่ือของจังหวัดเลย โดยมกี ระบวนแหผ ีตาโขนโดยแตง กายคลายผแี ละปศาจใสห นา กากขนาดใหญทเี่ ปนเอกลกั ษณมีลวดลายที่ งดงามแตกตางกนั ไป แสดงการละเลน เตน รํากนั อยา งสนกุ สนานในขบวนแหงทีแ่ หย าวไปตามทอ งถนน ผีตาโขน ในขบวนแหจะแยกเปน ๒ ชนิดคือ ผีตาโขนใหญแ ละผตี าโขนเลก็ - ผตี าโขนใหญ ทาํ เปน หนุ รูปผีทําจากไมไ ผส านมีขนาดใหญกวาคนธรรมดาประมาณ ๒ เทา ประดบั ตกแตง รปู รา ง - ผตี าโขนเลก็ ผตี าโขนเลก็ เปนการละเลน ของเด็ก ไมวา เดก็ เลก็ เดก็ วัยรุนหรือผูใหญ ทัง้ ผูหญงิ ชาย มีสทิ ธ์ิ ทาํ และเขารวมสนุก ไดทกุ คน แตผหู ญิงไมค อยเขา รวมเพราะเปนการเลนคอนขา ง ผาดโผนและซุกซน ๑. ประเพณผี ีตาโขนเปนสวนหน่ึงของประเพณีใด ๒. ตอบ ประเพณีผตี าโขนจัดข้นึ ทีใ่ ด ๓. ตอบ จงอธิบายลักษณะของผตี าโขน ตอบ ๔. ผีตาโขนใหญมีลักษณะอยา งไร ๕. ตอบ เพราะเหตุใดผูห ญงิ จึงไมคอ ยเขา รว มการเลน ผีตาโขน ตอบ ชอื่ ………….………….…………………ชน้ั ……….เลขท่ี……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร่ือ๔งท่ี “อานจบั ใจความ ตอบคาํ ถามได” คาํ ชแี้ จง : อานเร่อื งตอ ไปนแ้ี ละตอบคําถามใหถูกตอ ง ยาธาตนุ า้ํ ขาวตรากระตา ยบนิ สรรพคณุ คาํ เตอื น เปน ยาท่ีใชร ับประทานเพือ่ ทาํ ลาย ยานี้มีแอลกอฮอลผสมอยู ๐.๙๕% w/v เชื้อโรคในลาํ ไส ควรใชดวยความระมัดระวัง หามใชใ นผูที่ แกปวดทอ ง แกท อ งอดื ทอ งเฟอ แพย าน้ี จุกเสยี ด ชวยขบั ลม แกท องเสยี ขอ ควรระวงั กล่ินรสหอมหวาน 1. เก็บยาใหพน มือเด็ก รบั ประทานงาย ขนาดรบั ประทาน 2. ไมค วรใชยาเกนิ กวา ที่ระบุไวบนฉลาก เดก็ : ๑-๒ ชอนชา วนั ละ ๓ ครัง้ ไมต องเกบ็ ในตเู ยน็ / เขยา ขวดกอนใช ผใู หญ: ๑ ชอนโตะ วนั ละ ๓ ครง้ั ขนาดบรรจุ : ๕๐ ml , ๒๐๐ ml ๑. ยาขา งตน มชี ่ือวาอะไร ๒. ตอบ ยาขางตนมสี รรพคณุ อยางไรบาง ๓. ตอบ หากเปนผูใ หญต อ งรบั ประทานยาขา งตน อยางไร ตอบ ๔. ยาขา งตนมีกขี่ นาด ขนาดใดบาง ๕. ตอบ จงบอกขอ ควรระวังของยาขางตน มา ๒ ขอ ตอบ ชือ่ ………….………….…………………ชั้น……….เลขท่ี……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร่ือ๕งที่ “อานจบั ใจความ ตอบคาํ ถามได” คาํ ชีแ้ จง : อา นเรื่องตอไปน้แี ละตอบคําถามใหถกู ตอ ง โรคไบโพลาร โรคไบโพลาร หรือ โรคอารมณส องข้ัว เปนโรคทผ่ี ปู ว ยมอี ารมณแปรปรวน ผิดปกติ โดยมอี ารมณดมี ากจนผิดปกติหรืออยูในภาวะอารมณด ีตืน่ ตัวผิดปกติ สลับกบั มภี าวะ ซึมเศราอยา งหนกั ทําใหเ กดิ ความยากลําบากตอการทํางาน การเขาสงั คม และการใชชีวติ อาการ ของโรคไบโพลาร ผูปวยโรคไบโพลารมี 2 ลกั ษณะเดนสลบั กัน คือ มภี าวะอารมณด ีผดิ ปกติและ ภาวะซมึ เศรา สลับกันในชวงระยะเวลาหนึง่ โดยมอี าการสงั เกตที่เดนชดั ดังนี้ ภาวะอารมณดผี ดิ ปกติ ภาวะซมึ เศรา •รสู ึกต่นื ตวั อยตู ลอดเวลา มีพลังงานสงู มากจนผดิ ปกติ •สึกไรเรี่ยวแรง ออนเพลยี หมดพลงั งาน ไมส ดช่นื •ซมึ เศรา เกบ็ ตวั เสียใจงาย รอ งไหง าย •อารมณด ี ราเรงิ เกนิ ไปอยางไมส มเหตสุ มผล อยูไมน งิ่ •เหน่ือยหนา ย เบือ่ ทอ แท สิ้นหวงั •โตต อบตอส่ิงเรา อยา งรวดเรว็ และรุนแรง หงุดหงิดงา ย •ครุนคดิ วติ กกงั วลตอสงิ่ ตา ง ๆ ฟงุ ซาน มองโลกในแงร าย โกรธงาย อารมณไมคงที่ ไมม เี หตุผล •ไมม ีความสขุ ในชวี ติ ไมม ีอารมณขัน ไมต อบสนองตอสิง่ •หนุ หันพลันแลน คิดเร็ว พูดมาก พูดเรว็ ทาํ สง่ิ ตาง ๆ เรา ที่ทําใหร ูสึกดีหรอื ผอนคลาย อยางรวดเร็ว ๑. โรคไบโพลารเ รยี กอกี อยา งวา โรคอะไร ๒. ตอบ ผปู ว ยไบโพลารใ ชชวี ิตยากลําบากอยา งไร ๓. ตอบ ผปู วยโรคไบโพลารมอี าการอยา งไร ตอบ ๔. ยกตัวอยา งภาวะอารมณณด ผี ิดปกตมิ า ๑ ขอ ๕. ตอบ ยกตัวอยางภาวะซมึ เศรามา ๑ขอ ตอบ ชือ่ ………….………….…………………ช้ัน……….เลขที่……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เรอื่ ๖งท่ี “อานจบั ใจความ ตอบคาํ ถามได” คําชแี้ จง : อา นเร่อื งตอ ไปน้แี ละตอบคําถามใหถ กู ตอ ง หัวลา น หัวลา นกเ็ ปน อีกสง่ิ หนง่ึ ที่ตดิ ตอ ไดท างพนั ธุกรรมเชน กนั โดยจะถา ยทอด ไปสูร ุน ลกู รุน หลานแบบเปนทอดๆ แตก็ไมใชทกุ คนที่จะหัวลานเสมอไป ซ่ึงหัวลานท่ีเกิดจากกรรมพันธ นนั้ เปนเพราะรา งกายไดรบั ฮอรโมน DHT มากเกนิ ไป โดยฮอรโมนตัวน้ีถามีในปริมาณท่ีพอเหมาะก็ จะเปนผลดี แตห ากมใี นปรมิ าณท่มี ากเกินไปก็จะกอใหเ กดิ ผลเสยี ตามมาได ซึ่งจะทําใหรากผมฝอเลก็ ลง และคอยๆหลดุ รวงออกมามากขึ้น จนผมบางและหัวลานในที่สุด นอกจากน้ีก็อาจไปรบกวนการทํางาน ของตอมไขมันบนหนังศีรษะ จนทําใหผมมันมากกวาปกติและเกิดการอุดตันของรูขุมขนไดอีกดวย เมื่อ พบวาเสนผมรวงผิดปกติ ถือวามีความรุนแรงในระดับหนึ่งที่ไมควรมองขาม เพราะนอกจากจะนําไปสู หัวลานเปนหยอมๆ ไดแลว ก็อาจเปนสัญญาณเตือนของโรครายบางอยางไดอีกดวย เชน โรคตับ โรค โลหิตจางและโรคไต เปน ตน สมุนไพรรกั ษาผมรวง ปอ งกนั หวั ลาน เชน นํ้ามันพราว มีสวนชวยในการ บํารุงเสนผมและหนังศีรษะใหมีความแข็งแรง พรอมชวยลดการหลุดรวงของเสนผมไดดี รวมถึงชวย กระตุนการงอกใหมของเสนผม ใบฝร่ัง มีสวนชวยในการกระตุนใหเสนผมเจริญเติบโตและลดการหลุด รวง รวมถงึ ชวยเพม่ิ ความแขง็ แรงใหกบั เสน ผมไดอ ยา งดเี ย่ียม ๑. หวั ลา นทเี่ กดิ จากกรรมพนั ธ เพราะรางกายไดรบั สารชนิดใด ๒. ตอบ ฮอรโมนดงั กลาวสงผลอยา งไรตอ เสน ผม ๓. ตอบ ผมรวงผดิ ปกติเปน สัญญาณเตอื นของโรคใดบาง ตอบ ๔. จงบอกชอ่ื สมุนไพรท่รี กั ษาผมรว งมา ๒ ชนดิ ๕. ตอบ หากอยากใหผมงอกใหมไ ดเร็ว ควรใชอ ะไรบํารงุ ศีรษะ ตอบ ช่อื ………….………….…………………ชั้น……….เลขท่ี……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เรอ่ื ๗งท่ี “อานจบั ใจความ ตอบคําถามได” คําช้แี จง : อานเรือ่ งตอ ไปน้ีและตอบคาํ ถามใหถูกตอง กระตา ยขาเดยี ว กาลครัง้ หนึ่งนานมาแลว มีญาตโิ ยมนํากระตา ยยา งมาถวายหลวงพอ ทว่ี ดั หลวงพอ ก็ใหเดก็ วดั นําไปเกบ็ ไวสาํ หรบั เปนอาหารเพล แตก ล่นิ ของกระตายยา งน้ันชางหอมย่ัวยวน ใจยง่ิ นกั ทําใหเ ดก็ วัดอดใจไวไมไ หว เดก็ วดั จึงฉกี ขากระตายยา งออกมากนิ ไปหน่ึงขา เม่อื นํากระตาย ยา งไปถวายหลวงพอ หลวงพอเหน็ กระตายเหลือเพียงสามขาจงึ เกดิ ความสงสัย เลยถามเด็กวัดวา ใครแอบกนิ กระตายยางไป ๑ ขา เด็กวดั ตอบวากระตายตัวน้มี ี ๓ ขาตั้งแตแรกแลว แมวาหลวงพอ จะซกั ถามเพียงใด เด็กวดั ก็ยนื ยันวา กระตายตวั นี้มีสามขา ไมไดแอบกนิ กระตา ยจริงๆ จึงกลายมา เปน สํานวน ” ยืนกระตายสามขา ” หรือ” ยนื กระตายขาเดียว ” น่ันเอง สํานวน ยนื กระตา ยขาเดียว หมายถงึ พูดยนื ยนั อยคู ําเดยี ว โดยไมเ ปลี่ยนความคิดเดิม ๑. ญาติโยมนําอะไรมาถวายหลวงพอ ๒. ตอบ เดก็ วัดทําอะไรผดิ ๓. ตอบ เหตุการณน ีเ้ กดิ ข้ึนสถานท่ีใด ตอบ ๔. ความจรงิ แลวกระตายมที งั้ หมดกีข่ า ๕. ตอบ สํานวน “ยนื กระตายขาเดียว” หมายถงึ ตอบ ชอ่ื ………….………….…………………ชัน้ ……….เลขท่ี……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร่ือ๘งท่ี “อานจบั ใจความ ตอบคําถามได” คําชีแ้ จง : อานเร่ืองตอ ไปนีแ้ ละตอบคําถามใหถูกตอ ง มดงา มกบั จกั จน่ั แสงแดดแผดจา ทองฟา โปรง ใส หนา หนาวยาวไกล กายใจหนาวนาน มดงา มเตรยี มพรอ ม ถนอมอาหาร ผง่ึ แดดมดงาน เก้อื การเก็บกิน จักจัน่ เผโผ ผอมโซพลดั ถ่ิน ทองรอ งเหงอื่ รนิ ถวิลเวา วอน สหายมดงาม ฟง ความเรากอน เราจนคนจร ขอกอนของกนิ เจาใยไมหา ใชข าดูหมนิ่ ของเลย้ี งชีวนิ เกบ็ สนิ ออมทรพั ย ขาตอ งรองเพลง บรรเลงขานขับ รองเพลงเน่ินนบั ถงึ กับผอมโซ สมนํ้าสมเนอื้ ขาดเหยื่อตาโหล ชอบรองเพลงโชว เชญิ โกตอไป เสียงปงคลงั ปด หมดสิทธอิ์ าศัย จักจ่ันตรอมใจ มดไมเมตตา เกียจครานการกจิ ชีวิตอนาถา ทกุ ขเข็ญเห็นมา จนกวา ชีพวาย ๑. อปุ นิสยั ของมดงามเปนอยา งไร ๒. ตอบ อปุ นสิ ยั ของจกั จน่ั เปนอยา งไร ๓. ตอบ ในเรอ่ื งมตี วั ละครก่ีตวั ตวั อะไรบา ง ตอบ ๔. มดงา มแบง อาหารใหจักจนั่ หรอื ไม ๕. ตอบ นักเรียนจะเลอื กปฏบิ ัตติ ามสัตวใ ดในเร่ือง เพราะเหตใุ ด ตอบ ชอ่ื ………….………….…………………ชัน้ ……….เลขท่ี……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เรื่อ๙งท่ี “อานจบั ใจความ ตอบคาํ ถามได” คาํ ชีแ้ จง : อานเร่อื งตอไปนแ้ี ละตอบคาํ ถามใหถ ูกตอ ง ๑. ประกาศขา งตน คอื ประกาศอะไร ๒. ตอบ ประกาศขางตนเปดรับสมคั รต้ังแตว นั ที่เทาไร ๓. ตอบ ประกาศขา งตนรับสมคั รตาํ แหนง ใดบาง จํานวนกคี่ น ตอบ ๔. จงยกตวั อยางคุณสมบตั ขิ องผสู มัครงานมา ๒ ขอ ๕. ตอบ วธิ กี ารสมัครมกี ี่วิธกี าร อะไรบาง ตอบ ช่อื ………….………….…………………ชัน้ ……….เลขที่……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร๑ือ่ ๐งท่ี “อานจบั ใจความ ตอบคาํ ถามได” คําชแ้ี จง : อา นเร่ืองตอไปน้แี ละตอบคาํ ถามใหถ กู ตอ ง การทาํ บตั รประชาชน ผูมีสัญชาติไทยทุกคนท่ีมีอายุครบ ๗ ปบริบูรณ ตองแจงตอนาย ทะเบียนทองถิ่นเพ่ือขอมีบัตรประชาชน ผูท่ีมีอายุครบทําบัตรตองไปย่ืนขอ ทําบัตรภายใน ๖๐ วนั นับต้ังแตอายุครบ ๗ ปบริบูรณ ผูใดฝาฝนไมทําบัตร ประชาชน มีโทษปรบั ไมเ กิน ๑๐๐ บาท บัตรประชาชนใชได ๘ ป และกรณี บัตรหมดอายุ เปลี่ยนช่ือตัว ชื่อสกุล บัตรหาย ถูกทําลาย หรือชํารุด ตองขอ ทําบตั รใหม ภายใน ๖๐ วนั ผใู ดฝา ฝนจะมีโทษปรับไมเ กนิ ๑๐๐ บาท ๑. คนไทยตอ งทําบตั รประชาชนเมือ่ อายุครบกป่ี  ๒. ตอบ บตั รประชาชนมอี ายกุ ป่ี  ๓. ตอบ ถา บัตรประชาชนหมดอายุ ตองขอทําบัตรใหมภ ายในกว่ี นั ตอบ ๔. ถาเราฝา ฝน ไมไ ปทําบตั รประชาชน จะโดนปรับเปน เงนิ เทา ไร ๕. ตอบ จิราทาํ บัตรประชาชนหาย ตอ งขอทําบัตรใหมภ ายในกว่ี ัน ตอบ ชอื่ ………….………….…………………ชนั้ ……….เลขท่ี……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร๑่อื ง๑ท่ี “อา นจบั ใจความ ตอบคาํ ถามได” คาํ ชแี้ จง : อานเร่อื งตอไปน้ีและตอบคําถามใหถ กู ตอ ง ประเพณลี อยกระทง วันลอยกระทง เปน วนั สาํ คญั วันหนึง่ ของชาวไทย ตรงกบั วันข้นึ ๑๕ คา่ํ เดอื น ๑๒ ตามปฏิทินจันทรคตไิ ทย ตามปฏิทินจันทรคตลิ า นนา มักจะตกอยูในราวเดือนพฤศจิกายน ประเพณนี ี้ กําหนดขน้ึ เพอ่ื เปน การสะเดาะเคราะหแ ละขอขมาตอ พระแมค งคา บางหลกั ฐานเชื่อวา เปน การบูชารอย พระพทุ ธบาททร่ี มิ ฝงแมน้ํานมั ทามหานที และบางหลกั ฐานกว็ า เปน การบูชาพระอุปคุตอรหนั ตหรอื พระ มหาสาวก สาํ หรบั ประเทศไทยประเพณลี อยกระทงไดก าํ หนดจดั ในทุกพื้นทท่ี ่ัวประเทศ โดยเฉพาะ อยา งย่ิงบรเิ วณทตี่ ิดกบั แมน้าํ ลาํ คลอง หรือ แหลง นาํ้ ตาง ๆ ซ่ึงแตละพน้ื ท่ีกจ็ ะมเี อกลกั ษณท ีน่ า สนใจ แตกตา งกันไป ในวันลอยกระทง ผคู นจะพากนั ทาํ “กระทง” จากวสั ดุอุปกรณต าง ๆ ตกแตง เปนรูป คลา ยดอกบวั บาน ปกธปู เทียน และนยิ มตดั เล็บ เสนผม หรอื ใสเหรยี ญกษาปณลงไปในกระทง แลว นาํ ไปลอยในสายนา้ํ (ในพื้นทต่ี ดิ ทะเล ก็นิยมลอยกระทงรมิ ฝง ทะเล) เชื่อวาเปน การลอยเคราะหไ ป นอกจากนยี้ ังเชื่อวาการลอยกระทง เปนการบูชาและขอขมาพระแมคงคาดว ย ๑. วนั ลอยกระทงตรงกบั วนั ขนึ้ กค่ี ํ่า เดือนอะไร ๒. ตอบ ประเพณลี อยกระทงกําหนดขึ้นเพือ่ อะไร ๓. ตอบ บางหลกั ฐานเชื่อวาการลอยกระทงเปนการบชู ารอยพระพทุ ธบาททไ่ี หน ตอบ ๔. กระทงมลี กั ษณะอยา งไร ๕. ตอบ นักเรยี นจะใชว ัสดใุ ดทํากระทงเพอื่ รักษาแมน ้าํ ลาํ คลอง ตอบ ชื่อ………….………….…………………ชน้ั ……….เลขท่ี……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร๑อ่ื ง๒ที่ “อานจบั ใจความ ตอบคาํ ถามได” คาํ ชแ้ี จง : อานเร่อื งตอไปนแี้ ละตอบคําถามใหถกู ตอง ความลบั ใน “กระเปา หนา ทอ ง” ของจงิ โจ จุดเดนของ “จิงโจ” นอกจากมันจะเปนสัตวกระโดดเกงแลว อีกส่ิงหน่ึงท่ีเปนภาพจําก็คือ การมกี ระเปา หนา ทองเอาไวใสล กู ของมนั ซงึ่ มสี ัตวไ มก ีช่ นดิ ทีจ่ ะมีความพเิ ศษแบบนี้ท่ีธรรมชาติไดมอบไว ให ถา อยา งนัน้ กระเปา หนา ทองของเจาจิงโจมีประโยชนทมี่ ากกวาการเปน ที่อาศัยของลูกจิงโจ จิงโจ เปน สัตวเล้ียงลูกดวยนมท่ีมีกระเปาหนาทองที่ใหญที่สุดในโลก จิงโจตัวเมียจะมีกระเปาหนาทองไวสําหรับ เลยี้ งลกู ๆ ของมัน ซ่งึ ภายในกระเปา หนา ทอ งของเจาจิงโจนน้ั จะมลี ักษณะเปน ผิวหนงั มจี ุดขาวๆ ดําๆ อยู เต็มไปหมด ท่ีสําคัญในน้ันยังมีเตานม 4 เตา ไวสําหรับใหนมลูกๆ ของมันอีกดวยตามธรรมชาติแลว ลูกจิงโจจะอยูในกระเปาหนาทองตั้งแตแรกเกิด มันจะควานหาถุงหนาทองของแมตามสัญชาตญาณ แลวเขาไปซุกตัวอยูในนั้นจนกวารางกายจะเติบโต ซึ่งจะใชเวลาประมาณ ๕ เดือน ลูกจิงโจก็จะสามารถ ออกจากกระเปา หนา ทองของแมไดเปน บางคร้งั และเม่ือเติบโตและแข็งแรงมากพอ ลูกจิงโจก็จะสามารถ ออกมาใชช วี ิตขางนอกได แตถ า มีอนั ตรายมนั กจ็ ะกลบั เขาไปอยใู นกระเปา หนา ทอ งของแมท ันที ๑. จดุ เดนของจิงโจค ืออะไร ๒. ตอบ จิงโจเพศใดท่ีมีกระเปา หนาทอง ๓. ตอบ ภายในกระเปา หนาทอ งของจิงโจมลี กั ษณะอยา งไร ตอบ ๔. ลูกจงิ โจอ ยใู นกระเปา หนา ทองแมจงิ โจต ั้งแตเม่อื ใด ๕. ตอบ ลูกจงิ โจอยใู นกระเปาหนา ทองของแมจ ิงโจจ นถงึ อายเุ ทาใด ตอบ ช่อื ………….………….…………………ชัน้ ……….เลขท่ี……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร๑อื่ ง๓ท่ี “อานจบั ใจความ ตอบคําถามได” คําชี้แจง : อานเรอื่ งตอไปน้ีและตอบคาํ ถามใหถูกตอง ลาโงก บั จงิ้ หรดี ลาโงยนื กินหญา ทีช่ ายปา ใตตนยาง จ้งิ หรีดมาตามทาง กรดี เสยี งพลางเพราะจบั ใจ ลาโงเหน็ จงิ้ หรีด ฟงมนั กรีดรองเสยี งใส มันจึงเอย ถามไป กินอะไรเสียงเพราะจงั จ้งิ หรีดรองตอบวา นาํ้ คางฟาที่ไหลหล่ัง ฉันด่มื เสยี งจงึ ดัง ไพเราะฟง ตอ งหลงใหล ลาโงไ ดฟ ง คาํ จึงจดจําทาํ เรว็ ไว เสาะหานาํ้ คา งไพร เลยี บนใบยอดหญา กิน ไมช า ลาซูบผอม อกตรมตรอมแรงหมดสิ้น แผห ลาท่กี ลางดนิ จบชีวินเพราะโงเ อย ๑. ลายืนกินหญา อยูที่ไหน ๒. ตอบ ในกลอนนทิ านนม้ี ตี วั ละครกีต่ ัว อะไรบาง ตอบ ๓. จ้ิงหรดี กินอะไรจงึ มีเสยี งไพเราะ ตอบ ๔. เม่ือลาไดฟงจง้ิ หรีด ลาทาํ อยา งไร ๕. ตอบ นักเรยี นไดขอคิดอะไร จากการอา นกลอนนทิ านเรอ่ื งน้ี ตอบ ช่อื ………….………….…………………ช้ัน……….เลขท่ี……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร๑่อื ๔งท่ี “อานจบั ใจความ ตอบคําถามได” คําชแ้ี จง : อานเรือ่ งตอ ไปนแี้ ละตอบคาํ ถามใหถ กู ตอ ง วันอสี เตอร วนั อีสเตอร หรอื วันปสกา เปน วนั เฉลิมฉลองพระเยซูครสิ ตท รงคืนพระชนมช พี จาก ความตาย และเปน วนั สดุ ทายของเทศกาลมหาพรต ท่ชี าวครสิ ตตองระลกึ ถงึ พระมหาทรมานของพระเยซูกอ นท่ี จะสนิ้ พระชนมบ นไมก างเขน โดยตลอด 40 วันของเทศกาลนี้ เรมิ่ ตั้งแตว ันแรก (วนั ปาลมซันเดย ) ชาวคริสต จะตองตง้ั จิตอธิษฐานรําลึกเหตุการณอนั ทรมานของพระเยซตู ามพระคัมภีร รวมไปถงึ สวดภาวนา บริจาค สิ่งของ อดอาหาร และไมฟ มุ เฟอ ย ดําเนินชวี ิตอยา งสมถะที่สุด ชาวครสิ ตแตละครอบครัวจะแตงตัวสวยงาม มารว มพธิ ีกรรมในโบสถ พรอ มรอ งเพลง สรรเสริญพระเจา นอกจากนี้ บางครอบครัวกม็ กั จะตกแตง ไขเปนลวดลายสสี นั ตาง ๆ เพื่อนํามามอบใหแ กก ัน และกนั สวนบางโบสถกจ็ ัดกจิ กรรม รว มรับประทานอาหารเพื่อเฉลมิ ฉลองอยา งยิ่งใหญ รวมไปถงึ จัดเกม สนกุ ๆ ใหแตล ะครอบครวั หาไขอ สี เตอร ท่ีถกู ซอนเอาไวใ นพุมไมห รอื กอหญาตา ง ๆ เพือ่ ใหผเู ฉลิมฉลองได ชวยกนั คนหา และไดใ ชเ วลาแหงความสขุ ในวนั อสี เตอรรวมกนั ๑. วันอสี เตอรม คี วามสําคัญอยา งไร ๒. ตอบ วนั อีสเตอรเ รียกอกี อยา งวา วนั อะไร ตอบ ๓. ในวันอสี เตอรช าวครสิ ตจ ะตอ งตัง้ จิตอธิษฐานรําลึกเหตกุ ารณใ ด ตอบ ๔. ชาวครสิ ตทํากจิ กรรมใดบางในวันอีสเตอร ๕. ตอบ ไขอสี เตอรม ักถูกซอนไวท ไ่ี หนบาง ตอบ ช่อื ………….………….…………………ชัน้ ……….เลขที่……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร๑ื่อง๕ท่ี “อา นจบั ใจความ ตอบคําถามได” คาํ ช้แี จง : อานเรื่องตอไปนแี้ ละตอบคําถามใหถกู ตอ ง เลือดกาํ เดาไหล เลือดกําเดาไหล เปนอาการที่มีเลือดไหลออกจากรูจมูกเพียงขางเดียวหรือท้ัง สองขาง เน่ืองมาจากเสนเลือดภายในโพรงจมูกแตก เลือดกําเดาที่ไหลสวนใหญไมใชสัญญาณ อันตรายของโรครายแรง เพราะเสนเลือดภายในโพรงจมูกคอนขางเปราะบางและแตกไดงาย แตใน บางกรณีที่มีเลือดกําเดาไหลอาจเกิดจากความผิดปกติภายในโพรงจมูก หรืออาการปวยที่รุนแรงได เชนกัน การรกั ษาเลอื ดกาํ เดาไหลดวยตนเอง  นั่งอยูกับท่ีน่ิง ๆ เอนตัวไปขางหนาเล็กนอย ใชนิ้วโปงและนิ้วชี้บีบรูจมูก แลวหายใจทางปาก ประมาณ ๑๐ นาที หากผานไป ๑๐ นาทีแลวใหเลิกบีบจมูก หากเลือดกําเดายังไมหยุดไหล ให ทาํ ตามขนั้ ตอนเดมิ ซา้ํ อกี ครง้ั  หากมีเลือดที่ไหลลงในปากหรือลําคอ ใหคายเลือดออกมา อยากลืนเลือดลงไป รวมถึงตองไม นอนราบ และไมเงยหนาขึ้นในขณะที่เลือดกําเดาไหล เพราะอาจกลืนเลือดลงไปในกระเพาะ แลว ทาํ ใหเกิดการระคายเคอื งท่ีอาจทาํ ใหเกดิ อาการปว ยอื่น ๆ ตามมา เชน การอาเจยี น  อาจใชผ า ชุบน้ําเย็นหรือผา หอนํา้ แขง็ วางไวบ ริเวณสนั จมูก (ดงั้ จมกู ) ๑. เลือดกําเดาไหลเกดิ จากอะไร ๒. ตอบ เสน เลอื ดในโพรงจมกู มลี กั ษณะอยา งไร ๓. ตอบ หากนักเรยี นเลอื ดกําเดาไหลใหบีบจมกู ไวป ระมาณกีน่ าที ตอบ ๔. หากมเี ลือดไหลลงปากหรือลําคอตอ งทําอยางไร ๕. ตอบ หากมีเลอื ดกาํ เดาไหล ควรใชผ าชบุ นาํ้ เย็นหรือผา หอ น้าํ แข็งวางไวบ ริเวณไหน ตอบ ชอื่ ………….………….…………………ช้นั ……….เลขท่ี……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร๑อ่ื ง๖ที่ “อานจบั ใจความ ตอบคาํ ถามได” คําช้แี จง : อานเร่อื งตอ ไปนแ้ี ละตอบคําถามใหถกู ตอง โดราเอมอน โดราเอมอน หรือ โดเรมอน เปน ตวั ละครจากการตนู เร่ืองโดราเอมอน เปนหุนยนตแมว จากโลกอนาคต ในยุคคริสตศตวรรษที่ ๒๒เกิดวันท่ี ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๖๕๕ (ค.ศ. ๒๑๑๒) ลักษณะตัว อว นกลมสฟี า (เมอ่ื แรกเกิดมามีสีเหลือง) ไมมใี บหู เนื่องจากถูกหนแู ทะ มีหนาท่ีเปนหนุ ยนตพ่ีเล้ียงซึ่งคน ท่ีซ้ือโดราเอมอน มาคือเซวาชิ เหลนชาย ของโนบิตะ วันหน่ึงเซวาชิเกิดอยากรูสาเหตุที่ฐานะทางบาน ยากจน จงึ ไดก ลบั ไปในอดีตดวยไทมแมชชีน จึงไดรูวาโนบิตะ (ผูเปนปูทวด) เปนตัวตนเหตุ เซวาชิจึงได ตดั สนิ ใจใหโ ดราเอมอนยอ นเวลาไปคอยชว ยเหลือดูแลเวลาโนบิตะโดน แกลงโดยใชของวิเศษท่ีหยิบจาก กระเปา สีม่ ติ ิ โดราเอมอนเคยไดร ับเลือกจากนิตยสารไทมเ อเชีย ใหเปนหน่ึงในวีรบุรุษของทวีปเอเชีย และในวันท่ี 19 มีนาคม พ.ศ. 2551 มาซาฮิโกะ คามูระ รัฐมนตรีวาการกระทรวงการตางประเทศของ ญ่ีปุน ไดแตงตั้งใหโดราเอมอนเปนทูตสันถวไมตรีอยางเปนทางการ เพ่ือชวยในการประชาสัมพันธ วฒั นธรรมของประเทศ โดยนบั เปน \"ทตู แอนิเมชนั \" ตวั แรกของประเทศญป่ี ุน ๑. โดราเอมอนเกดิ วนั ที่เทาไร เดือนอะไร พทุ ธศกั ราชท่ีเทา ไร ๒. ตอบ โดราเอมอนมลี กั ษณะอยา งไร ๓. ตอบ เพราะเหตุใดโดราเอมอนจงึ ไมม หี ู ตอบ ๔. ใครเปน คนซ้ือโดราเอมอนมา ๕. ตอบ โดราเอมอนไดรบั ยกยอ งใหเ ปน หน่งึ ในวีรบรุ ษุ ของทวีปใด ตอบ ช่อื ………….………….…………………ช้นั ……….เลขท่ี……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร๑ือ่ ๗งที่ “อานจบั ใจความ ตอบคาํ ถามได” คาํ ชีแ้ จง : อา นเร่อื งตอ ไปน้ีและตอบคาํ ถามใหถ ูกตอ ง ยาดมตราโปย เซียน เปน ยาดมทนี่ ยิ มและผลิตในประเทศไทย เปนยาใชภายนอกซง่ึ ประกอบไปดวย เมนทอล การบูร นํ้ามนั ยคู าลิปตัส พิมเสนและอ่ืนๆ สามารถใชบ รรเทาอาการคัดจมกู วงิ เวยี นศีรษะ หนา มดื คลา ย จะเปนลมหรือคลืน่ ไส เมอ่ื ใชด มแลว ชว ยใหร สู กึ โลงและสดชื่น อีกทงั้ พกสะดวกใชงาย ทกุ ทที่ ุกเวลา สวนผสมหลกั : นํ้ามันยคู าลิปตัส ๘.๕% เมนทอล ๔๒% การบรู ๑๖.๔% พิมเสน ๖.๑% นํ้ามนั ยคู าลปิ ตัส มปี ระโยชนท ง้ั ในการแพทยแผนโบราณ เปน เหมอื นยาสามญั ประจําบานและยังสามารถปอ งกนั แมลงกดั ตอ ยไดอกี ดว ย นอกจากนีย้ งั ชวยในเร่อื งของระบบทางเดิน หายใจ มีกลน่ิ หอมเย็นสดชนื่ ในทางการแพทยแผนโบราณนิยมใชเ พ่อื บรรเทาอาการปวดเมอื่ ย และ ระบบทางเดินหายใจ ๑. ขอ ความขางตนเปนขอ มูลของยาดมตราอะไร ๒. ตอบ ยาดมดงั กลาวมีสรรพคุณอะไรบา ง ๓. ตอบ ยาดมดังกลาวมีสวนผสมใดมากที่สุด ตอบ ๔. ยาดมดังกลาวมสี วนผสมใดนอ ยที่สดุ ๕. ตอบ จงบอกสรรพคณุ ของนา้ํ มันยคู าลปิ ตัสมา ๒ ขอ ฝฝใ ตอบ ชอื่ ………….………….…………………ชั้น……….เลขที่……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร๑อ่ื ๘งที่ “อานจบั ใจความ ตอบคาํ ถามได” คําชแี้ จง : อานเรื่องตอไปนแ้ี ละตอบคาํ ถามใหถกู ตอง เฮลโล คติ ต้ี การตูน เฮลโล คิตต้ี ( Hello Kitty ) ” เปนตัวการตูนลักษณะคลายแมวพันธุบอบเทล เพศเมียสีขาว มีลักษณะเดน คือ ผูกโบแดงท่ีหูซายและไมมีปาก ผลิตโดยบริษัทซานริโอ ของประเทศ ญีป่ นุ ออกแบบโดย ยโู กะ ชมิ ิซุ คติ ต้ี มีช่ือจรงิ วา “คติ ต้ี ไวท” เกิดเมื่อวนั ที่ ๑ พ.ย. ๒๕๑๗ ในแถบชาน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ อาศัยอยูในบานหลังเล็กซ่ึงมีหลังคาสีแดงกับครอบครัว คิตต้ีมีสวนสูง เทากับแอปเปล ๕ ผล และนํ้าหนักเทากับแอปเปล ๓ ผล เลือดกรุปเอ ชอบสีชมพู มีอุปนิสัยราเริง อบอุนและใจดี ดานงานอดิเรก ชอบสะสมของเล็กของนอย และทําขนมหวานเกง โดยมีเมนูโปรดเปน ของหวานอยา ง พายแอปเปล ฝมือแม ฮอตเคก และพดุ ดิง้ นอกจากนั้น วิชาที่คิตต้ีชอบเรียนในโรงเรียน คือ ภาษาอังกฤษ ดนตรีและศิลปะ จึงมี ความใฝฝนจะเปนนักเปยโนหรือกวี คิตต้ีมีสัตวเล้ียงเปนแมวพันธุเปอรเซียช่ือ ชารมมี่ คิตตี้, หนูแฮม สเตอรชื่อ ชูการ คิตตี้มีฝาแฝดดวย น่ันคือ มิมมี่ ไวท หรือก็คือตัวการตูนที่รูปรางหนาตาเหมือนเธอ แตผ กู โบสีเหลือง ๑. ลกั ษณะเดน ของคิตตคี้ อื อะไร ๒. ตอบ ใครเปน ผูออกแบบตวั การต นู คิตต้ี ๓. ตอบ คิตต้ีมสี วนสงู เทาใด นา้ํ หนักเทา ใด ตอบ ๔. คิตตชี้ อบเรียนวชิ าดนตรเี พราะอะไร ๕. ตอบ ตัวการตนู ที่มีลกั ษณะคลายคิตต้แี ตผ ูกโบสเี หลอื งคอื ใคร มีชื่อวา อะไร ตอบ ช่ือ………….………….…………………ชน้ั ……….เลขท่ี……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เ๑รือ่ ๙งที่ “อานจบั ใจความ ตอบคําถามได” คาํ ชี้แจง : อานเรื่องตอ ไปนีแ้ ละตอบคาํ ถามใหถ ูกตอง นาํ้ แขง็ ไส เกิดข้ึนหลังจากที่มีการนํานํ้าแข็งเขามาในสยามคร้ังแรก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระจอมเกลาเจาอยูหัว โดยเรือกลไฟช่ือ “เจาพระยา” ขนน้ําแข็งใสหีบไมฉําฉากลบขี้เลื่อยมาจากสิงคโปร โดยผูส่ังเขามาคือเจาพระยาพิสนธสมบัติบริบูรณ (ย้ิม พิศลยบุตร) คร้ังยังมีบรรดาศักดิ์เปนพระภาษีสมบัติ บริบูรณ ซึ่งถือเปนสิ่งแปลกใหมของสังคมไทยในเวลานั้น ตอมาป พ.ศ.2448 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว พระยาภัคดีนรเศรษฐ (เลิศ เศรษฐบุตร) ไดเปดโรงนํ้าแข็งแหงแรกใน ประเทศไทยขึ้นท่ีสะพานเหล็กลาง ถนนเจริญกรุง ชื่อวา”โรงน้ําแข็งสยาม” หรือเปนท่ีรูจักกวางขวางในช่ือ “โรงนํา้ แข็งนายเลศิ ” และตอมาจงึ แพรหลายไปสูห วั เมืองใหญๆ รอบนอกกรุงเทพฯ เมือ่ มกี ารบรโิ ภคนา้ํ แขง็ กันมากข้ึน ก็เริ่มมีการดัดแปลงนํานํ้าแข็งมาผสมกับขนมหลายชนิดกลายเปนขนมน้ําแข็งไส เชน ลอดชอง แตงไทย เผือก ลูกชิด ซาหริ่ม ทับทิมกรอบ ฯลฯ โดยนิยมโรยดอกมะลิในนํ้ากะทิ และช้ินขนุนในนํ้าเชื่อม เพือ่ ใหค วามหอมหวาน อรอยและชืน่ ใจไปพรอมๆ กนั ๑. น้ําแข็งเขามาในประเทศไทยคร้ังแรกในสมยั ใด ๒. ตอบ โรงนํ้าแข็งแหง แรกในประเทศไทยมีชื่อวาอะไร ๓. ตอบ โรงนาํ้ แข็งแหง แรกในประเทศไทย อยทู ีไ่ หน ตอบ ๔. พระยาภคั ดนี รเศรษฐ มีชอื่ เดิมวา อะไร ๕. ตอบ นา้ํ แข็งไสสามารถใสข นมอะไรลงไปไดบ า ง ตอบ ชือ่ ………….………….…………………ชนั้ ……….เลขที่……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร๒ื่อง๐ที่ “อานจบั ใจความ ตอบคาํ ถามได” คาํ ชแี้ จง : อา นเร่อื งตอ ไปนแ้ี ละตอบคาํ ถามใหถ กู ตอ ง ๑. ภาพส่อื ขา งตน นม้ี ีเน้อื หาเกย่ี วกับอะไร ๒. ตอบ ขา วกลอ งมปี ระโยชนอ ยางไร ตอบ ๓. ปลามีประโยชนอ ยา งไร ตอบ ๔. การฉันอาหารของพระสงฆค วรลดรสชาติใดบา ง ๕. ตอบ ภาพสือ่ ขา งตนน้เี ปนกจิ กรรมของโครงการท่ชี ่ืออะไร ตอบ ช่อื ………….………….…………………ชนั้ ……….เลขที่……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร๒่อื ง๑ท่ี “อานจบั ใจความ ตอบคําถามได” คาํ ชีแ้ จง : อา นเร่ืองตอ ไปนีแ้ ละตอบคาํ ถามใหถกู ตอ ง การนอนหลบั ของมด นักวิทยาศาสตรพบวา รูปแบบการนอนของมดไมไดเปนไปตามวัฏจักรของกลางวันและ กลางคนื เพราะมนั อาศัยอยใู ตดนิ เปนหลกั โดยการงีบหลับของมดงานท่ีมีความถ่ีสูงมาก โดยเฉล่ียน้ัน พบวามดงานงีบหลับ 250 คร้ังตอวัน แตละครั้งนานเพียงนาที และเม่ือรวมกันแลวในวันนึงมดงาน นอน 4 ชวั่ โมง 48 นาทีเทา น้ัน สวนมดราชินีจะนอนมากกวา มดงาน โดยแตล ะคร้ังกินเวลาประมาณ 6 นาที และนอนถ่ีประมาณ 90 ครั้งตอวัน หรือโดยรวมแลวประมาณ 9 ช่ัวโมงตอวัน มดราชินีจะมีการ ปรับชวงเวลานอนใหตรงกัน โดยพบวาพวกมันจะนอนกองรวมกันในที่หน่ึง ตัวหน่ึงจะนอนทับอีกตัว หน่ึง และจะแยกจากกันเมื่อมันตื่น ในบางคร้ังมดราชินีก็งีบหลับบาง แตอาจถูกปลุกใหตื่นไดเม่ือมี กจิ กรรมตา งๆ มาสมั ผัสรอบตัวเธอ นักวทิ ยาศาสตรส ังเกตพฤติกรรมการหลบั จากตาํ แหนงของหนวดท่ไี มไ ดยกขน้ึ เต็มทีแ่ ละการอา ปากคาง ถาอยูๆ มันเกิดการหลับลึกขึ้นมา หนวดจะตกลงมากข้ึน ปากจะเริ่มปด แลวหนวดจะเริ่มมวน ตัว ตัวไหวส่ัน อาจเกิดจากการเคล่ือนของหนวดอยางรวดเร็ว คลายกับการเคลื่อนลูกตาอยางรวดเร็ว เวลาทส่ี ตั วม ีกระดกู สนั หลังเกดิ การหลบั ลึกดว ยเหมือนกัน ๑. เราจะรูไดอยางไรวา มดหลับ ๒. ตอบ มดงานนอนหลับในแตล ะวนั นานเพียงใด ตอบ ๓. แตล ะครั้งหลบั นานแคไหน ตอบ ๔. มดกับคนหลับเหมอื นหรือตา งกันอยา งไร ๕. ตอบ ทาํ ไมมดนอนไมเปนเวลา ตอบ ช่อื ………….………….…………………ชน้ั ……….เลขที่……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร๒อ่ื ง๒ท่ี “อานจบั ใจความ ตอบคาํ ถามได” คาํ ชแ้ี จง : อา นเร่อื งตอ ไปนี้และตอบคําถามใหถูกตอ ง ทกั ษะการอา น การอานหนังสอื ใหไ ดดี เราจะตอ งตัง้ ใจและมสี มาธิ ไมใชแ คอานเพ่อื รับรูขอมูล แตตองเขา ใจคนเขยี น ตองวเิ คราะห รจู กั สงสัย เพราะจะทาํ ใหเราเขา ใจเนอ้ื หาไดมากขน้ึ โดยมที กั ษะดงั น้ี การอา นข้ันพืน้ ฐานจาํ และรูความหมายของคาํ เขาใจโครงสรางประโยค และเขา ใจความหมายท่ี เปล่ียนไปของคําทอ่ี ยูใ นแตละสภาพแวดลอ มหรือเงอื่ นไขที่ตา งกัน การอานเพอ่ื ตรวจสอบ ชวยใหเรารวู า หนังสอื เลม นเี้ ก่ียวกบั อะไร เปน หนงั สือประเภทอะไร ทาํ ให เราซมึ ซบั พื้นฐานเบื้องตนไดในเวลาท่จี าํ กัด การอา นเพอ่ื วิเคราะหคน หาโครงสรางและการเรยี บเรียงเนื้อหาของหนงั สอื อา นเพื่อใหเ ขาใจอยา ง ถอ งแท และจาํ เปนตองเพ่ิมความต้งั ใจใหม ากข้ึน การอาน เพ่ือเปรียบเทยี บเปรียบเทยี บโดยการอานหนังสอื ที่คลายกัน หลายๆ เลม เวลาทเี่ ราตอง เขยี นรายงานหรือบทความ เราจะไมเ ขียนมนั จากหนังสือเลมเดียว แตเ ราจะเลอื กหลายๆ เลม จากหลายๆ ตนทาง ๑. ทักษะการอานมีอะไรบา ง ๒. ตอบ การทาํ รายงานเรอื่ งวรรณคดีไทยตอ งใชทักษะการอา นแบบใด ตอบ ๓. การอานคํากลอนตอ งใชทักษะการอานใด ตอบ ๔. การตอบคําถามจากโจทยท่กี าํ หนดใหต อ งใชท ักษะใด ๕. ตอบ การอานหนงั สอื ใหไ ดดตี อ งทําอยางไร ตอบ ช่ือ………….………….…………………ช้นั ……….เลขที่……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร๒่อื ง๓ท่ี “อานจบั ใจความ ตอบคําถามได” คาํ ชี้แจง : อานเรอื่ งตอ ไปน้แี ละตอบคําถามใหถูกตอ ง ผลดั วนั ประกนั พรงุ ในสมองมนษุ ยเรามีสว นทตี่ ัดสินใจดว ยเหตุและผล ทําใหเรามองไปไกลมากกวา ส่ิงทีจ่ ะเกดิ ข้ึน ในวนั นี้ ทําใหเ ราสามารถวางแผนเตรียมพรอ มสําหรบั อนาคต และทาํ ใหเ ราสละเวลาและใชพลังงาน ทาํ สงิ่ ที่มนั จาํ เปน แตมนั จะมลี งิ ที่อยใู นหัวเรา ลงิ ซุกซนตวั ทค่ี ิดไดแตผ ลลพั ธในระยะสั้น ไมส นใจส่ิงทผี่ านมา ไม สนใจสิ่งที่จะเกิดในอนาคต ไมสนใจเหตุและผล ลิงตัวน้ีแหละท่ีคอยลอลวงใหเราสนใจแตความพึง พอใจระยะส้ันและความสนุกในขณะน้ัน ทําใหเราเลนโซเชียลแอพไดท้ังวัน น่ังดูรูป ดูวิดีโอ อานขาว ไมยอมทํางานใหเสร็จสักที และก็จะมีลิงอีกตัวท่ีต่ืนตระหนก เปนตัวที่จะกระโดดเขามาชวยเตือนเรา ทาํ ใหเราตอ งทํางานใหเสร็จ ไมส นวาจะตอ งอดหลับอดนอนก่ีคืน ตองใหทันกําหนดสง ลิงตัวนี้แหละท่ี จะไลล งิ ทีช่ อบแตความสนุกใหห นีไป ทาํ ใหเรากลับมาคิดและใชเหตผุ ลไดตามปกติ การผลัดวันประกันพรุงในระยะยาวเปนสาเหตุของความผิดหวังในชีวิต เราตางก็เคย ผลดั วันประกันพรุงกันท้ังน้ัน ลองสังเกตุตัวเอง ลองนึกถึงส่ิงที่เราตั้งใจไววาจะทําแตก็ยังไมไดทําสักที แลวไลลงิ ตวั ท่เี อาแตมักงา ยและความสนุกไปไกลๆ ๑. ในบทความเปรยี บวาในความคิดเรามลี ิงก่ตี วั ๒. ตอบ ลิงซกุ ซนจะทาํ ใหเ ราเปน อยางไร ๓. ตอบ ลงิ ตวั ใดท่ีทาํ ใหเรามีสติ ตอบ ๔. การผลดั วนั ประกันพรุงมขี อ เสียอยา งไร ๕. ตอบ จะแกป ญ หาการผลดั วันประกันพรุง ไดอ ยางไร ตอบ ชือ่ ………….………….…………………ชั้น……….เลขท่ี……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร๒่ือง๔ท่ี “อา นจบั ใจความ ตอบคาํ ถามได” คาํ ชแ้ี จง : อา นเรื่องตอ ไปนแ้ี ละตอบคําถามใหถูกตอง ทําไมอา นหนงั สอื แลว จงึ งว งนอน เม่ืออานหนังสือแลวเกิดอาการงวงนอน เช่ือกันวาปญหาน้ีเปนปญหาใหญของใครหลายคน ผูเช่ียวชาญ มีการศึกษาเกี่ยวกับเร่ืองน้ีแลวแสดงใหเห็นวา ดวงตาของเราจะเคลื่อนไหวไปมาในขณะที่กําลังอานหนังสือ และในขณะเดียวกันน้นั สมองกต็ อ งทาํ งานไปดวย โดยการแปลตวั อกั ษรตามท่ีเรามองเห็นและแปลความหาย ออกมา ทําใหกลามเนื้อดวงตาทํางานหนักและนั้นก็เปนสาเหตุที่ทําใหรางกายของเราสงสัญญาณเตือนวา รางกายควรไดร บั การพักผอ น ทาํ ใหตาของเราคอยๆ ปดลงและเขาสสู ภาวะของการนอนหลบั ในที่สุดและยงั มี ปจจัยอน่ื รวมดว ยไมวาจะเปนสถานที่ในการอา นหนงั สือทีส่ บายจนเกินไปเชน เตียงนมุ ๆ โซฟา หรอื อานในท่ี ท่ีมีแสงสลัว หรือแสงไมเพียงพอเพราะการอานหนังสือในท่ีท่ีมีแสงไมเพียงพอจะทําใหดวงตาของเรานั้น ทํางานหนักมา นอกจากน้ีเร่ืองของบรรยากาศโดยรอบของเราก็เปนอีกปจจัยหน่ึงที่ทําใหเราเผลอหลับขณะ อานหนังสือได ฉะน้ันวิธีที่จะชวยทําใหเราสามารถอานหนังสือใหนานข้ึนโดยเร่ิมจากสถานที่ในการน่ังอาน เราควรเลือกสถานที่ท่ีไมสบายจนเกินไป และมีแสงเพียงพอตอการอาน บรรยายกาศโดยรอบตองไมหนาว หรอื รอนจนเกนิ ไป นอกจากน้ีสําหรับใครตองการอานหนังสือสอบก็ควรที่จะทําการจดบันทึกไปดวยเพื่อเปน การกระตนุ รา งกายอกี ทางหนงึ่ เพียงเทาน้ีเราก็จะสามารถอา นหนงั สอื ไดน านขึ้น ๑. การทาํ งานของรางกายขณะอานหนังสอื เปนอยางไร ๒. ตอบ แสงแบบใดท่ีทาํ ใหอา นหนงั สือแลวงว ง ๓. ตอบ การอา นหนังสือควรน่งั บนเกา อ้แี บบใด ตอบ ๔. บรรยากาศแบบไหนท่ีจะทําใหอ า นหนังสอื แลวไมงว ง ๕. ตอบ กิจกรรมใดท่คี วรทํารวมกบั การอา นหนงั สอื เพือ่ ไมใ หง วง ตอบ ชอ่ื ………….………….…………………ชน้ั ……….เลขท่ี……

แบบฝก เสรมิ ทกั ษะ เร๒ื่อง๕ท่ี “อานจบั ใจความ ตอบคาํ ถามได” คาํ ชีแ้ จง : อา นเรอื่ งตอ ไปนแ้ี ละตอบคาํ ถามใหถ ูกตอง อาหารของสุนขั ในอดีตสนุ ัขเปน สตั วท ่มี สี ายเลือดแยกออกมาจากสุนัขปาซ่ึงมันจะหาอาหารกินเอง แตวาในปจจุบัน สนุ ัขไดมีการพัฒนาใหอ ยรู ว มกบั คนได และในอดตี ท่คี นนาํ สุนขั มาเลี้ยงก็จะใหอาหารมันโดยเปนอาหาร ท่ีเหลือจากเรากินหรืออาจจะแบงไว ตอมาในป ค.ศ.1850 ก็มีผูคิดคนอาหารสุนัขซึ่งก็คือ เจมส สแปรทท และเคาเปนผูคิดคนบิลกิตสําหรับสุนัขคนแรก ในเวลาตอมาบิลกิตสําหรับสุนัขก็เปนที่ นิยมกันอยางแพรหลาย ซึ่งในบิลกิตน้ันจะมีสวนผสมของขาวสาลี บีทรูท หรือผักตางๆ รวมไปถึง เน้ือสัตวตางๆ ท่ีเหมาะสมกับสภาพรางกายของสุนัข แตอยางไรก็ตามก็มีหลายคนท่ียังไมมั่นใจวา อาหารสุนขั นนั้ จะมปี ระโยชนเ พียงพอตอ สุนัข ฉะน้ันนกั วิจยั จึงไดมีการวิจัยอาหารสุนัขและพบวาอาหาร สุนัขนั้นมีขอดีมากกวาอาหารท่ีเราใหสุนัขกินเสียอีกไมวาจะดวย เร่ืองของสารอาหารที่ครบถวนและ ปลอดภยั ตอรางกายสนุ ขั อาหารสนุ ัขทถ่ี ูกคดิ คน ออกมาน้ันมหี ลากหลายรปู แบบไมวาจะเปนรูปแบบของ อาหารเม็ด รูปแบบเปยก และหลากหลายรสชาติมีท้ัง เนื้อไก เน้ือวัว ตับ เปนตนแตก็ไมใชวาอาหาร ของคนนั้นสนุ ัขจะไมส ามารถกินได อาหารของคนเราสนุ ขั กส็ ามารถกินไดเชนกันแตต อ งระวังในเรอ่ื งของ โภชนการตามที่รางกายของสุนขั สามารถรับไดเพียงพอ ไมน อยหรือมากจนเกินไป รสชาติกเ็ ชนกนั ๑. ใครคือผคู ิดคนอาหารสนุ ัขคนแรก ๒. ตอบ อาหารของสขุ เรยี กวาอะไร ตอบ ๓. ในสวนผสมอาหารสุนขั มีอะไรบาง ตอบ ๔. อาหารของคนเหมาะกับสนุ ัขหรอื ไม เพราะอะไร ๕. ตอบ เราควรใหอาหารแบบใดกบั สุนขั ตอบ ช่อื ………….………….…………………ชนั้ ……….เลขท่ี……


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook