การศึกษาค้นคว้าองค์ความรเู้ รอ่ื ง กาแฟจากถ่ัวเหลอื ง Soy Coffee คณะผจู้ ัดทา นางสาว จิณณพัต ศริ ริ ัตน์ ชั้น ม.๕/๓ เลขท่ี ๒๑ นางสาว เมธาวี มูลคา ชนั้ ม.๕/๓ เลขท่ี ๒๖ นางสาว รวนี ภิ า สุทธหลวง ม.๕/๓ เลขที่ ๒๗ นางสาว วรรณิดา อิทธริ งค์ เลขที่ ๒๘ นางสาว สรนิ ธร ชาวงวิ้ เลขท่ี ๒๙ ครูทีป่ รึกษา ครูดารงค์ คนั ธะเรศย์ เอกสารฉบับนีเ้ ปน็ ส่วนหนึ่งของการศกึ ษาค้นควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ (IS1) โรงเรียนปัว อาเภอปวั จงั หวดั นา่ น สานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 37 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563
2
3 การศึกษาคน้ คว้าองคค์ วามรูเ้ ร่ือง กาแฟจากถ่วั เหลือง Soy Coffee คณะผจู้ ดั ทา นางสาว จิณณพตั ศิรริ ตั น์ ชนั้ ม.๕/๓ เลขที่ ๒๑ นางสาว เมธาวี มูลคา ชน้ั ม.๕/๓ เลขที่ ๒๖ นางสาว รวีนิภา สุทธหลวง ม.๕/๓ เลขที่ ๒๗ นางสาว วรรณดิ า อทิ ธริ งค์ เลขที่ ๒๘ นางสาว สรินธร ชาวง้ิว เลขที่ ๒๙ ครทู ปี่ รกึ ษา ครูดารงค์ คันธะเรศย์ เอกสารฉบับนีเ้ ป็นส่วนหนงึ่ ของการศึกษาค้นควา้ และสร้างองค์ความรู้ (IS1) โรงเรียนปวั อาเภอปัว จงั หวดั นา่ น สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 37 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563
4 บทคัดยอ่ ชอ่ื เรื่อง : ......................................... ผูจ้ ดั ทำ : นำย................................. นำย................................ นำย................................ ที่ปรกึ ษำ :................ ปกี ำรศกึ ษำ : 2563 บทคัดยอ่ เร่อื ง กาแฟจากถั่วเหลือง มจี ดุ ประสงค์จัดทาขนึ้ เพ่อื ใหผ้ ทู้ ่บี ริโภคมคี วามปลอดภัยจากการ ดม่ื กาแฟ เพราะคนสว่ นมากด่ืมกาแฟเพื่อเป็นยาชกู าลัง ทาให้ไมง่ ว่ งนอน เมือ่ พดู ถึงกาแฟ อาจไมม่ ีใคร ไม่รจู้ กั เรามกั เขา้ ใจว่า ดม่ื กาแฟแลว้ จะทาใหส้ มองสดใสขน้ึ ไมง่ ่วงนอน แต่ถ้าตดิ กาแฟและดมื่ มากจะไม่ดี ความจรงิ กาแฟนอกจากมสี รรพคณุ ทาใหก้ ระตนุ้ ประสาทส่วนกลางและกลา้ มเนอ้ื ทาให้ผดู้ ่ืมรสู้ กึ สมองสด ช่ืน ตืน่ เตน้ และชว่ ยแก้ความออ่ นเพลยี ของกล้ามเนือ้ เพิม่ ประสิทธภิ าพการทางานใหส้ ูงขึ้น แตท่ ุกคน กลบั หารไู้ ม่ว่ากาแฟน้ันมีโทษมากมาย อาทิเช่น ทาใหค้ วามดันโลหติ สูงขนึ้ ผลการวิจัยปรากฏว่า ด่ืมกาแฟ แกว้ หน่งึ แล้ว ความดันโลหติ จะสูงข้นึ นานถงึ 12 ชวั่ โมง ดงั นนั้ กลุ่มคนทเี่ ปน็ ความดนั โลหติ สูง ไม่ควรดมื่ กาแฟขณะรู้สกึ เครยี ด หรือมแี รงกดดนั มากจากการทางานกาแฟจะส่งผลกระทบต่อการดูดซมึ แรธ่ าตุ คาเฟอีนจะส่งผลกระทบตอ่ การดูดซมึ แร่ธาตุของลาไส้ เช่นแคลเซียม เหล็กและสงั กะสี ดงั นัน้ เด็กไม่ควร ด่มื กาแฟ กาแฟจะทาให้ผปู้ ่วยโรคกระเพาะอาหารเป็นแผลร้ายแรงข้ึน เนอื่ งจากกาแฟจะทาให้กระเพาะ อาหารมนี า้ ย่อยออกมามากขึ้น จนทาใหเ้ ปน็ แผลมากข้ึน ดังน้ัน ผ้ปู ว่ ยโรคกระเพาะอาหารท่ีเป็นแผลใน กระเพาะไม่ควรดืม่ กาแฟมาก โดยเฉพาะในช่วงท้องวา่ ง กาแฟจะทาใหก้ ระดูกพรนุ เนอ่ื งจากคาเฟอีนมี คุณประโยชน์ทาใหข้ บั ปสั สาวะมากขึน้ ถา้ ดื่มกาแฟเป็นเวลานาน จะทาให้สูญเสียแคลเซยี มไปกับปสั สาวะ มาก จนกระดกู พรุน โดยเฉพาะสาหรบั ผ้หู ญิงหลังวัยทอง ไม่ควรดม่ื กาแฟมากเกนิ ควร หญงิ ตง้ั ครรภถ์ า้ ด่ืม กาแฟมาก จะทาให้ทารกท่ีอย่ใู นครรภ์เติบโตไมเ่ ปน็ ปกติ หรอื อาจแทง้ ได้กาแฟจะทาลายวิตามิน B1 ซง่ึ เป็นวติ ามนิ ทร่ี ักษาความสมดุลและความมั่นคงของระบบประสาท ดังน้ัน ผู้ท่ขี าดวิตามนิ B1 ไมค่ วรด่ืม กาแฟ ซ่ึงกาแฟท่ีดม่ื หรือจบิ เข้าไปน้ันมนั มคี าเฟอีนหากว่าบริโภคเข้าไปมากๆ และระยะยาวมันสะสมใน ร่างกายก็ทาให้เกิดโทษ โดยเฉพาะกาแฟยง่ิ เขม้ ขน้ มากเท่าไหร่ ปรมิ าณคาเฟอีนกย็ ิ่งมากขึ้นโดยทาง ผู้จดั ทาเลง็ เห็นวา่ สุขภาพเป็นเรื่องสาคัญ โดยการคิดค้นกาแฟจากธัญพืช เพอื่ ใหผ้ ู้ทบ่ี รโิ ภคเขา้ ไปไม่เปน็ อันตรายต่อสุขภาพโดยถัว่ เหลืองมปี ระโยชน์หลายอยา่ ง ดังนี้ ถ่วั เหลืองมีสารท่มี ีประโยชน์ต่อรา่ งกาย มากมาย ตัวหนึง่ ทีโ่ ดดเดน่ และน่าสนใจคอื กลุ่ม ไอโซฟลาโวนส์ Isoflavones ตัวอย่างเชน่ geistein ,daidzeinซึง่ ทาหน้าท่คี ล้ายฮอร์โมน เอสโตรเจนในร่างกาย ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑจ์ ากถวั่ เหลอื งจึงมี
5 ประโยชนอ์ ยา่ งมากสาหรบั คณุ สุภาพสตรี โดยเฉพาะท่ีมภี าวะหมดประจาเดือนเนื่องจากฮอรโ์ มนเอสโตร เจนเปน็ ฮอร์โมนหลกั ที่ควบคมุ การเสรมิ สรา้ งกระดกู ของร่างกาย และยังชว่ ยรักษาความชุ่มช้นื ยืดหยุน่ ของผิวหนงั การทานนา้ นมถ่วั เหลอื ง หรือ เตา้ หู้ก็เป็นอีกหนทางท่ดี ีท่จี ะชว่ ยคณุ สภุ าพสตรลี ดหรือบรรเทา อาการข้างเคยี งจากภาวะหมดประจาเดือนคุณประโยชนอ์ ่ืนๆท่ีนา่ สนใจยงั มอี กี เพราะถั่วเหลืองไมไ่ ดม้ ี คุณประโยชนเ์ พียงแคผ่ หู้ ญิง แตผ่ ชู้ าย จนถงึ เดก็ ๆต่างกไ็ ด้รบั ประโยชน์จากถว่ั เหลอื งไดด้ ังข้อมูลทีจ่ ะกล่าว ต่อไปวา่ มกี ารวิจยั พบวา่ ผลิตภัณฑจ์ ากถ่ัวเหลือง ชว่ ยลดและป้องกันโรคมะเรง็ เตา้ นม และ บรรเทา อาการ ข้างเคียงจาก ภาวะหมดประจาเดอื น พบวา่ ช่วยปอ้ งกันและแกไ้ ข โรคหวั ใจ เนอื่ งจากเปน็ อาหาร ท่ไี ม่มคี อเรสเตอรอล มไี ฟเบอร์สูง นอกจากนีย้ ังมี โอเมกา 3 และวิตามนิ อี พบว่าช่วยปอ้ งกนั และยับย้ัง โรคมะเร็งต่อมลกู หมาก แมว้ ่ากลไกในการทางานของมันเรายงั ไม่ทราบ แต่นักวจิ ัยพบว่า ผชู้ ายที่ รบั ประทาน ผลติ ภัณฑ์จากถั่วเหลืองยิง่ มากเท่าไร การเปน็ โรคมะเร็งตอ่ มลกู หมากยงิ่ พบนอ้ ยลง ช่วย ปอ้ งกนั โรคระบบทางเดนิ อาหาร เนือ่ งจากถวั่ เหลืองมไี ฟเบอร์สงู ไฟเบอร์เหลา่ นจ้ี ะชว่ ยทาความ สะอาดระบบทางเดินอาหาร และจากการวิจัยยงั พบว่าผลติ ภณั ฑ์จากถ่วั เหลืองชว่ ยลดความเส่ยี งตอ่ การ เป็นมะเรง็ ลาไส้ได้ เป็นแหล่งโปรตนี สาคญั สาหรับนักมังสวิรัต เพราะถั่วเหลอื งมีสารอะมโิ น เอซดิ ที่ จาเป็นต่อร่างกาย ใช้แทนน้านมววั ในเดก็ ทแี่ พน้ มววั และ แพแ้ ลคโตสในนม เราสามารถใช้นา้ นมถว่ั เหลืองชดเชยได้ ใชเ้ ป็นอาหารสาหรบั ผปู้ ่วยโรคเบาหวาน เพราะถ่วั เหลืองมนี ้าตาลเป็นส่วนประกอบน้อย และยังไมม่ ีคอเลสเตอรอล
6 กิตติกรรมประกำศ คาขอบคุณผู้ใหค้ วามช่วยเหลอื ตา่ ง ๆ กิตติกรรมประกาศ โครงงานน้ีสาเร็จลลุ ว่ งไดด้ ้วยดว้ ยความกรณุ าจาก คณุ ครดู ารงค์ คนั ธะเรศย์ อาจารย์ทปี่ รกึ ษาโครงงานที่ได้ใหค้ าเสนอแนะแนวคิดตลอดจนแก้ไขขอ้ บกพร่องตา่ ง ๆ มาโดย ตลอดจนโครงงานเล่มนี้เสรจ็ สมบูรณ์ผูศ้ กึ ษาจึงขอกราบขอบพระคุณเปน็ อยา่ งสงู ขอกราบขอบพระคุณพ่อคณุ แมแ่ ละ ผ้ปู กครองทีใ่ ห้คาปรกึ ษาในเรอ่ื งตา่ งๆ รวมท้งั เป็นกาลังใจทด่ี ีเสมอมา ขอบคุณเพ่ือนๆ ท่ชี ว่ ยให้คาแนะนาดๆี เก่ียวกับการ เลือกคาและเกี่ยวกับโครงงานชิน้ น้ี นางสาว จิณณพัต ศริ ิรัตน์ นางสาว เมธาวี มลู คา นางสาว รวีนภิ า สทุ ธหลวง นางสาว วรรณิดา อิทธิรงค์ นางสาว สรินธร ชาวงิว้
สำรบัญ 7 เรอ่ื ง หนา้ 4 บทคดั ยอ่ 6 กิตตกิ รรมประกาศ 7 สารบัญ 9 สารบญั ตาราง สารบัญภาพ 10 บทท่ี 1 บทนา 10 1.1 ความเป็ นมา 11 1.2 วัตถุประสงค์ 11 1.3 ขอบเขต 11 1.4 ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ ับ 12 บทท่ี 2 ทฤษฎที เี่ กยี่ วข้อง 12 2.1 เรอื่ งท่ี 1 13 บทที่ 3 วิธีดาเนินงาน 15 บทที่ 4 ผลการศกึ ษาคน้ ควา้ 18 บทท่ี 5 สรุปผล อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ 18 5.1 สรุปผล 18 5.2 ปัญหาและอุปสรรคในการศึกษาคน้ คว้า 18 5.3 ขอ้ เสนอแนะและแนวทางในการพัฒนา 20 บรรณานุกรม 21 ภาคผนวก ก. 24 ภาคผนวก ข. 25 ประวัตผิ ู้ศึกษา
8 สำรบญั ตำรำง หน้า ตารางที่ 2.1 ..............................................................................
9 บทที่1 บทนำ 1. ความเป็นมา
10 เนื่องจากการบรโิ ภคกาแฟอย่างแพร่หลายในหมกู่ ลุ่มคนทางานและบุคคลทั่วไป เพ่อื ความสดชื่นกระปรก้ี ระเปร่า คนส่วนมากดืม่ กาแฟเพื่อเปน็ ยาชกู าลงั ทาใหไ้ ม่ง่วงนอน แตท่ ุกคน กลับหารู้ไม่ว่ากาแฟน้นั มีโทษมากมาย ซง่ึ กาแฟที่ดื่มหรอื จบิ เข้าไปนนั้ มนั มี “ คาเฟอีน ” หากว่า บรโิ ภคเข้าไปมากๆ และระยะยาวมนั สะสมในร่างกายกท็ าใหเ้ กิดโทษ ในการบรโิ ภคคาเฟอีน ส่วนมากเกิดจากการด่มื เคร่อื งดมื่ หรือรับประทานอาหารทม่ี ีคาเฟอีน ซงึ่ สว่ นใหญ่ จะเปน็ กาแฟ ชา ชอ็ คโกแลต โกโก้ นา้ อดั ลมประเภทโคลา่ รวมท้ังเครื่องดืม่ ประเภทชูกาลังคาเฟอีนจะเปน็ สารท่ีกระตุน้ สมอง ทาให้ผูบ้ ริโภค มีความตนื่ ตวั ความคดิ ฉบั ไว ไม่งว่ งนอน กระปรีก้ ระเปร่า รสู้ กึ มพี ลัง ทางานไดน้ าน ขนาดของคาเฟอนี ท่เี ร่ิมมฤี ทธ์ิ ในการกระตนุ้ สมอง คอื 40 มลิ ลกิ รมั ข้ึน ไป ปจั จุบันในวงการธุรกจิ มักจะเรียกเคร่ืองด่มื ผสมคาเฟอีน ว่าเคร่อื งดมื่ ชกู าลงั แสดงให้เห็นภาพ ของการ เสริมสรา้ งพละกาลงั ดื่มแล้วไมง่ ่วง มีเร่ียวแรง สามารถทางานไดม้ ากแมว้ ่าจะรสู้ ึก อ่อนเพลยี เหนอื่ ยลา้ และง่วงนอนเพยี งใด กาแฟนอกจากมีสรรพคณุ ทาใหก้ ระตุ้นประสาท สว่ นกลางและกลา้ มเนอ้ื ทาให้ผ้ดู ืม่ ร้สู กึ สมองสดช่นื ตนื่ เต้น และชว่ ยแกค้ วามออ่ นเพลียของ กลา้ มเน้อื เพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการทางานให้สงู ขน้ึ แตท่ ุกคนกลบั หารูไ้ มว่ ่ากาแฟนนั้ มโี ทษมากมาย อาทเิ ชน่ ทาให้ความดันโลหติ สงู ขนึ้ การดื่มเครอ่ื งด่ืมท่ีมีคาเฟอนี มีความสัมพันธ์กบั การเกดิ มะเรง็ หลายชนดิ ในงานวจิ ัยที่ชว้ี ่ามคี วามสัมพันธ์ระหวา่ งการดื่มเคร่อื งด่ืมที่มีคาเฟอนี กบั การเกิด มะเรง็ นน้ั ส่วนใหญผ่ ลทเ่ี กิดขนึ้ ไม่สัมพันธ์กบั ปริมาณการดื่ม เคร่ืองดม่ื เหลา่ นจ้ี ึงทาให้ไม่สามารถ ระบไุ ดว้ ่าคาเฟอนี เป็นสาเหตใุ นการเพ่มิ อัตราเสี่ยงของการเกดิ มะเร็งและงานวิจยั ในจานวนมาก โดยจะเหน็ ได้ว่าคาเฟอีนมีผลตอ่ รา่ งกายเรามากมายซึง่ ใหท้ ง้ั ประโยชน์และโทษกับรา่ งกายถา้ หาก เราดม่ื ในปริมาณทเ่ี หมาะสมก็กอ่ ให้ประโยชน์กบั ร่ากายไดแ้ ต่ในทางตรงกันขา้ มหากดมื่ ในปริมาณ ทมี่ ากเกนิ ไปก็ก่อใหเ้ กิดโทษมหนั ต์ไดเ้ ช่นกัน กาแฟจากถวั่ เหลอื งเป็นอีกทางเลอื กหน่งึ สาหรับผทู้ ่ี รักสขุ ภาพและผทู้ ี่ชอบดม่ื กาแฟทาใหม้ สี ขุ ภาพที่ดีปราศจากสารคาเฟอนี และเพ่ือลดการสะสม ของสารตา่ งๆในรา่ งกาย ซึง่ กาแฟเปน็ ตน้ เหตุของโรคต่างๆอาทิเชน่ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคกระดูกพรนุ เป็นตน้ ถึงแมว้ า่ กาแฟโดยทว่ั ไปที่นยิ มบริโภคกนั แลว้ จะมกี ารกระตนุ้ ระบบประสาทสว่ นกลางทาใหไ้ มง่ ว่ ง เพ่อื ทีม่ สี มาธิในการทางาน แต่อยา่ งไรแล้วก็ตามรา่ งกายก็ ยังคงต้องสะสมคาเฟอีน ซง่ึ ส่งผลใหส้ ขุ ภาพไมด่ ีตามไปอีกดว้ ย 2. วตั ถปุ ระสงค์ 2.1.เพื่อลดการสะสมของกาเฟอนี ในรา่ งกาย 2.2.เพอ่ื ใหผ้ ้ทู ี่รกั สขุ ภาพได้บริโภคกาแฟซึง่ ปราศจากสารคาเฟอีนในรา่ งกาย 2.3.เพือ่ ลดการเกิดโรคจากสารคาเฟอีน 2.4.เพื่อทาใหผ้ ู้ทีบ่ รโิ ภคกาแฟจากถัว่ เหลอื งมสี ขุ ภาพที่ดี 2.5.เพ่อื ลดความดันโลหติ ของบุคคลท่ีเปน็ โรคประจาตัว 2.6.เพอ่ื ให้คนวตั ถุประสงคข์ องการทาโครงงาน หันมารักสุขภาพกนั มากขน้ึ 2.7.เพือ่ ใหต้ ระหนกั ถงึ โทษของสารคาเฟอนี
11 2.8.เพ่ือศึกษาธัญพชื ทดแทน 2.9.เพอ่ื ทดลองและค้นคว้าเกีย่ วกบั เคร่อื งดม่ื ทน่ี ิยมบริโภคอยา่ งเช่นกาแฟ ทที่ ามาจาก ธญั พชื 2.10.เพื่อให้ผูท้ ีท่ ดลองและศึกษาคน้ ควา้ มคี วามรู้ เพม่ิ มากขึ้นและสามารถนามาปรับใช้ใน ชีวิตประจาวนั ได้ 3. ขอบเขต 3.1 สถานที่ โรงเรียนปวั อาเภอปวั จงั หวดั น่าน 55120 บา้ นหนาด ม.4 ตาบล ไชยวฒั นา อาเภอปวั จังหวดั น่าน 55120 3.2 ระยะเวลำ 18สงิ หาคม-1กนั ยายน 2563 3.3 ตวั แปรหรอื ประชำกรและกลุม่ ตวั อยำ่ ง 3.1 ตวั แปรต้น คือ เมล็ดถัว่ เหลอื ง 3.2 ตัวแปรตำม คอื รสชาตแิ ละประโยชนท์ ่ีไดร้ ับของกาแฟที่ได้จากถ่วั เหลืองถา้ สาร คาเฟอีนมีโทษตอ่ รา่ งกาย ดังน้ันเราควรจะต้องศึกษาธญั พืชตา่ งๆทเ่ี หมาะตอ่ สุขภาพ 3.3 ตวั แปรควบคมุ คือ ปริมำณผงถว่ั เหลืองทใ่ี ชใ้ นกำรชง ปริมำณนมขน้ หวำนและนมข้นจืดที่ใชใ้ นกำรชง 3.1 ประชำกร คือ - 3.2 กลุ่มตัวอยำ่ ง คอื - 4.ประโยชนท์ ี่ไดร้ บั - ใช้เวลาว่างใหเ้ กดิ ประโยชน์ - เกดิ การคน้ คว้าและความคิดสรา้ งสรรค์ - สามารถนาไปตอ่ ยอดเพ่ือเป็นผลติ ภณั ฑ์ในทอ้ งถน่ิ ได้ บทท่ี2
12 ทฤษฎที เี่ กี่ยวข้อง ในการศึกษาเรื่อง กาแฟจากถั่วเหลือง ผู้จัดทาได้รวบรวมแนวคิดทฤษฎีและหลักการต่างๆจาก เอกสารทเี่ ก่ยี วข้องดังต่อไปน้ี 2.1 เรอื่ งท่ี 1 โครงการวิจยั มีวัตถุประสงคเ์ พื่อศกึ ษาพฤตกรรมการเขา้ ใช้บรกิ ารรา้ นกาแฟสด ของผบู้ ริโภคใน เขตอาเภอจอมทอง จังหวดั เชยี งใหม่ โดยได้ทาการแจกแบบสอบถามจานวน 250 ชดุ ซ่งึ ทาการเก็บ ตวั อยา่ งข้อมูลจากผู้บริโภคท่ีเข้ามาใช้บรกิ ารร้านกาแฟสด ในเขตอาเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้ วิธกี ารสุ่มตัวอย่างตามความสะดวก(Convenience Sampling) ผลการวจิ ยั เป็นดังน้ีจากการศกึ ษาพบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามสว่ นใหญเ่ ปน็ เพศหญงิ สถานภาพโสด อายรุ ะหวา่ ง 21 – 30 ปี อาชีพ ธุรกิจ สว่ นตัว จากการศึกษาพฤตกิ รรมการเขา้ ใชบ้ รกิ ารร้านกาแฟสด ของผู้บริโภคในเขตอาเภอจอมทอง จงั หวัดเชียงใหม่ พบวา่ ผบู้ ริโภคใหค้ วามสาคัญในการตดั สนิ ใจเลอื กซอ้ื กาแฟสดทางดา้ น ผลติ ภัณฑ์ คอื ความหลากหลายของผลติ ภณั ฑ,์ ทางด้านราคา คือ มรี าคาเหมาะสมกบั รสชาติ ถ่ัวเหลืองมชี ื่อทางวิทยาศาสตร์วา่ Glycin max (L) Merr เปน็ พืชทอี่ ยูใ่ นตระกลู Leguminosae มีชอื่ ภาษาองั กฤษว่า Soja Bean หรือ Soybean เป็นพชื ตระกูลถ่วั เน่อื งจากในตัวถ่ัวเหลืองมีสารอาหาร ตา่ งๆซึ่งประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน แคลเซยี ม ฟอสฟอรสั และวิตามิน จงึ ทาใหถ้ ว่ั เหลอื งมี สรรพคุณทางยาและคณุ ค่าทางอาหาร เช่น ใชใ้ ยอาหารท่มี ีในเมล็ดถวั่ เหลอื งเป็นอาหารของคนท่ีเป็น โรคเบาหวานแทนการฉีดอินซลู นิ นอกจากนใ้ี นเมลด็ ถั่วเหลอื งยงั มเี ลซทิ ินซ่ึงเป็นสารบารุงสมองชว่ ยเพิ่ม ความทรงจา และลดคลอเลสเตอรอลในรา่ งกายอีกด้วย ในการทีน่ ้าถวั่ เหลอื งมาใช้ประโยชนน์ ัน้ ส่วนใหญ่ มักแปรรูปถ่ัวเหลอื งเป็นนมถว่ั เหลอื ง เต้าหู้ เตา้ เจ้ยี ว และขนมหวานจาพวกเต้าสว่ นซึง่ ลว้ นแตเ่ ปน็ อาหาร หรอื ส่วนประกอบในอาหารท่ีคนส่วนใหญ่รู้จกั เป็นอยา่ งดี แตป่ ัจจุบันไดม้ กี ารพฒั นาการแปรรูปถว่ั เหลอื ง ใหเ้ ป็นผลิตภณั ฑท์ ่มี คี วามแปลกใหม่มากย่งิ ขึ้น เพอ่ื เปน็ อีกหนง่ึ ทางเลอื กใหแ้ กผ่ ูบ้ ริโภค และจากการ สบื คน้ งานวจิ ยั ของคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ได้พบงานวิจัยทเี่ กย่ี วกับการพฒั นา ผลติ ภัณฑ์จากถ่ัวเหลอื งจานวนมากทเี่ ปน็ ประโยชนใ์ นการพัฒนาผลติ ภัณฑจ์ ากถัว่ เหลือง
13 บทที่ 3 วธิ ีศึกษำคน้ คว้ำ กำรดำเนินกำรโดยละเอียด 3.1 วิธกี ำรดำเนนิ งำน ที่ กจิ กรรม ระยะเวลำ สถำนที่ ผู้รับผิดชอบ โรงเรียนปัว สมำชิกในกลมุ่ 1 ประชุมวำงแผน เลือกหวั ขอ้ งำน 18 สิงหำคม 2563 โรงเรียนปัว สมำชกิ ในกลมุ่ โรงเรยี นปวั สมำชกิ ในกลมุ่ 2 ศกึ ษำหำข้อมูล 18-21สงิ หำคม 2563 โรงเรยี นปัว สมำชิกในกลมุ่ 3 นำข้อมลู ที่ไดท้ ั้งหมดมำเรียบเรียง 24-25สงิ หำคม 2563 4 นำเสนอขอ้ มูลท้งั หมดในรปู แบบท่ีวำงแผนไว้ 1 กนั ยำยน 2563 3.2 ประชำกร/กลุ่มตวั อย่ำง ไดแ้ ก่ สมาชกิ ในครอบครัวจานวน6คน 3.3 เครอ่ื งมอื 1.เมลด็ ถว่ั เหลือง 2.เครื่องมือการคว่ั -กระทะ -เตาแก๊ส -ไมพ้ าย -ตะแกรง -เคร่ืองมือจบั เวลา 3.เครื่องชงกาแฟ 3.4 วธิ ีกำรทดลอง กรรมวธิ ีคลา้ ยกบั การคัว่ กาแฟ คือให้เมล็ดถวั่ เหลอื งกลิ้งอยูต่ ลอดเวลา คอื ตอ้ งคนด้วยไม้พาย ตลอดเวลา ลองคั่วโดยใช้เมลด็ ถ่วั เหลืองผ่าซีก 400 กรมั หรือ 4 ขีด 1. เรม่ิ จับเวลา อุ่นกระทะเปล่าด้วยไฟแรง 5 นาที
14 2. ใสเ่ มล็ดกาแฟลงในกระทะ ลดไฟลงค่ัวด้วยไฟกลาง ใชไ้ มพ้ ายคนเมลด็ ถ่วั เหลืองใหก้ ลิ้งอยู่ ตลอดเวลา 3. ในนาทที ี่ 7 เปลอื กถั่วเหลอื งจะรอ่ นออกมา เป่าออกจากกระทะเพอ่ื ความสะอาด ยังใชไ้ ม้พายคน ตลอดเวลา เมอ่ื ยก็เปลยี่ นมอื คน 4. นาทีที่ 10 เมล็ดถั่วเรมิ่ ซดี มกี ลนิ่ หอมของถั่วค่วั คนไปเรอื่ ยๆ 5. นาทที ี่ 15 เมล็ดถ่วั เริม่ เปลีย่ นสจี ากเหลอื งเปน็ ้าตาลอ่อน ผิวเร่มิ เปน็ มัน มคี วันเลก็ น้อย 6. นาทที ี่ 20 สขี องเมลด็ ถั่วเหลอื งเปน็ สีนา้ ตาล ผิวมนั เรม่ิ เทเมลด็ ถ่ัวใสต่ ะแกรงระบายความร้อน ดว้ ยพดั ลมโดยเรว็ คนใหเ้ ย็นท่ัวๆเพราะเมลด็ ถัว่ ยงั อมความร้อนไวม้ าก 7. ลองคั่วกระทะที่ สอง โดยเร่งไฟแรงตลอดเวลา ใชเ้ วลา 20 นาท่เี ท่าเดมิ เมลด็ ถว่ั คั่วสนี ้าตาลเขม้ ขึ้น เทยี บสีกบั ตารางสนี า้ ตาลมาตรฐาน ตรงน้ีจะยากกวา่ การคัว่ กาแฟนิดหน่ีงทเี่ มล็ดถ่ัวเหลือไมม่ ี แกนกลางใหเ้ ปรียบเทียบ 8.เค่ร่ืองควั่ กาแฟราคาหลายแสนบาทไม่สามารถทาได้
15 บทที่ 4 ผลกำรศึกษำค้นคว้ำ การศกึ ษาความคิดเหน็ ของ สมาชิกในครอบครวั จานวน6คน ผศู้ กึ ษาไดท้ าการเก็บรวบรวมขอ้ มลู ดว้ ยแบบสอบถาม จากกล่มุ ตวั อย่าง ซ่งึ สามารถเก็บขอ้ มลู ได้ 100 % จานวน 6 คน โดยจะนาเสนอผลการวิเคราะหใ์ นรูปแบบของการ บรรยายประกอบตารางเป็น 3 สว่ น ดงั นี้ 4.1 การวิเคราะหข์ อ้ มลู พืน้ ฐานของผตู้ อบแบบสอบถาม 4.2 การวิเคราะหเ์ ก่ียวกบั ความคิดเหน็ ของประชาชนตอ่ กาแฟจากถ่วั เหลือง 4.1 กำรวเิ ครำะหข์ ้อมูลพ้นื ฐำนของผูต้ อบแบบสอบถำม การวิเคราะหข์ อ้ มลู พืน้ ฐานของผตู้ อบแบบสอบถาม สามารถอธิบายผลการศกึ ษาของแต่ละปัจจยั ไดด้ งั นี้ เพศ พบวา่ กลมุ่ ตวั อย่าง สว่ นใหญ่เป็นเพศชาย จานวน 3 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 50 สว่ นเพศหญิง จานวน 3 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 50 ตารางที่ 4.1 แสดงข้อมูลพนื้ ฐานของผู้ตอบแบบสอบถาม ข้อมูลท่ัวไป จานวน ร้อยละ เพศ 50 50 ชาย 3 33.33 หญิง 3 50 16.67 อำชพี เกษตรกร 2 รบั จ้าง-ลูกจา้ ง 3 นกั เรยี น-นักศกึ ษา 1
16 ศำสนำ พุทธ 6 100 อิสลาม - - คริสต์ - - อื่นๆ - - ทต่ี ง้ั บำ้ นเรือน อยูต่ ิดถนนใหญ่ 6 100 อยูใ่ นซอย -- รวม 24 400 4.2 กำรวเิ ครำะหเ์ กยี่ วกับควำมคดิ เห็นของประชำชนต่อ กาแฟจากถัว่ เหลอื ง ระดบั ความคิดเห็นของประชากรตอ่ กาแฟจากถวั่ เหลือง พบว่า กาแฟจากถ่วั เหลืองมรี สชาติกลมกล่อม มคี วามหวานหอมและมันกลมกล่อมลงตวั ทดี่ ี มีกล่ินหอมคลา้ ยกาแฟท่เี กดิ จากการคั่วเมลด็ ถว่ั เหลือง ตำรำงที่ 4.2 แสดงควำมคิดเห็นของประชำชนต่อ กาแฟจากถั่วเหลอื ง ข้อที่ ประเดน็ มำกทส่ี ดุ มำก ปำนกลำง นอ้ ย น้อยทสี่ ุด น้อย น้อยทีส่ ุด กลิ่นหอมจากเมลด็ ถั่ว / 1 เหลอื ง รสชาตกิ ลมกลอ่ ม หวาน / 2 มนั ข้อที่ ประเดน็ มำกท่ีสดุ มำก ปำนกลำง สีของนา้ กาแฟจากถวั่ / เหลอื ง 3 (สนี ้าตาลออ่ น)
ความสะอาดของ / 17 - เครื่องดมื่ กาแฟจากถั่ว 4 เหลือง ความประหยดั และ / งบประมาณในการทา 5 เครอ่ื งดมื่ ทักษะความคดิ / 6 สรา้ งสรรค์ ความสามัคคีและความ / 7 ร่วมมอื ของสมาชกิ ภายในกลุ่ม 8 ประโยชน์ของเครอ่ื งดืม่ / ความเหมาะสมของ / 9 สถานท่ี 10 ความพงึ พอใจของผู้ดืม่ / รวม 4 4 2 -
18 บทท่ี 5 สรุป อภิปรำยผลและขอ้ เสนอแนะ 5.1 สรปุ ผลกำรทดลอง จากการศึกษานัน้ พบว่าเมลด็ ถัว้ เหลอื งนั้นมีประโยชน์หลายๆ อยา่ ง ทง้ั ในการรกั ษาโรคเชน่ ใช้เปน็ ยาบารงุ โลหิตช่วยลดความเส่ียงของการเกิดโรคมะเรง็ และมีบางการศึกษาระบุวา่ การบริโภคถว่ั เหลือง เป็นประจา อาจช่วยลดโอกาสการเกิดโรคมะเรง็ ตอ่ มลกู หมากในเพศชาย และมะเรง็ เต้านมในเพศหญิงวยั ทีย่ งั มีประจาเดือน แต่อาจเพ่ิมโอกาสของการเกิดโรคมะเรง็ เต้านมในเพศหญิงวัยทีห่ มดประจาเดือนแล้ว ได้ ซึง่ เป็นผลมาจากสารไฟโตเอสโตรเจน แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม ยังไม่มีการศึกษาท่สี ามารถยนื ยันไดอ้ ยา่ ง ชดั เจน และยงั ไม่สามารถระบุได้วา่ ถว่ั เหลืองสามารถชว่ ยป้องกนั โรคมะเรง็ ได้ ช่วยป้องกนั โรคมะเรง็ ของ เนือ้ เยอ่ื ระบบสืบพันธุ์ (สารไฟโตเอสโตรเจน) ชว่ ยลดความเส่ียงของการเกดิ มะเรง็ ลาไสใ้ หญ่ ปอ้ งกนั การเกดิ โรคมะเรง็ มดลกู มะเร็งเตา้ นม มะเรง็ ชอ่ งคลอด มะเร็งตอ่ มลูกหมาก 5.2 ปญั หำและอปุ สรรคในกำรศึกษำค้นควำ้ สอดคล้องหรอื ขดั แย้งในทำงทฤษฎอี ยำ่ งไร ปญั หาและอุปสรรคคือ การควั่ เมลด็ ถ่วั เหลืองและการตาเมล็ดถ่ัวเหลืองที่คว่ั แลว้ ให้มีความละเอยี ด ซงึ่ สอดคลอ้ งในทางทฤษฎเี นอื่ งจากเราได้นาเมลด็ ถ่ัวเหลอื งมาควั่ ทาให้มกี ลิน่ และรสชาติทคี่ ลา้ ยกับกาแฟโดย ที่ไม่มสี ารคาเฟอนี ผสมอยู่ 5.3 ขอ้ เสนอแนะและแนวทำงในกำรพัฒนำ 1. จะศึกษาโครงงานกาแฟจากเมลด็ ถ่ัวเหลอื งเกย่ี วกบั การใช้ถว่ั เหลืองแทนกาแฟเพื่อนลดคาเฟอีน 2. จะศึกษาเพม่ิ เตมิ เกีย่ วกับผลประโยชน์ของเมลด็ ถว่ั เหลอื ง
19
20 บรรณำนกุ รม สาล.ี //2552.//กาแฟจากถว่ั เหลือง.//สบื คน้ เมอื่ 18 สิงหาคม 2563,/จาก/ http://www.oknation.net/blog/boatgagaza/2009/07/17/entry-1 ตาณ คอทองดา.//2555.//กาแฟถ่วั เหลือง.//สืบคน้ เมื่อ18 สิงหาคม 2563,/จาก/ http://cafe-de- tan.blogspot.com/p/blog-page_17.html ผศ.ดร.พมิ พ์เพญ็ พรเฉลิมพงศ.์ //2563.//ถว่ั เหลือง(Soybean).//สืบคน้ เมอื่ 18 สิงหาคม 2563,/จาก/ http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/1359/soybean ททั ยา อนสุ สร. ถ่วั และธญั พืช เมล็ดพนั ธแ์ุ หง่ สุขภำพ.กรงุ เทพฯ : มติชน,2555 ศ.ดร.อภิพรรณ พกุ ภักดี. ถวั่ เหลอื ง พืชทองของไทย. กรงุ เทพฯ : สานกั พิมพ์มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ,2560
21
22 ภำคผนวก วัสดอุ ปุ กรณ์ ต้งั กระทะรอกระทะร้อน ใส่เมลด็ ถั่วเหลืองลงใน กระทะ
23 ค่ัวเมลด็ ถวั่ เหลอื ง ฃ เมอื่ ควั่ เสร็จนามาพกั ให้เยน็ นาเมล็ดถั่วเหลอื งมาเป่าใหเ้ ปลือกออก นาเมลด็ ถ่วั เหลอื งทีไ่ ม่มีเปลืกมาตาใหล้ ะเอียด ตาให้ละเอยี ด ตาไดล้ ะเอียดแล้วจะได้ผงของถัว่ เหลอื ง นาผงของเมล็ดถ่ัวเหลืองมาร่อน
24 รอ่ นจนได้ผงของถวั่ เหลอื งท่ีละเอยี ด นาผงของถั่วเหลืองมาใสเ่ คร่อื งทากาแฟ นาผงถว่ั เหลอื งมาใสใ่ รเครอื่ งทากาแฟให้ไดเ้ ปน็ น้าถว่ั เหลอื ง
25 น้าถวั่ เหลอื งจากเครอื่ งทากาแฟ ใสน่ มข้นจดื ลงในน้าถั่วเหลอื ง ใส่นมข้นหวานลงในนา้ ถ่วั เหลือง ชงใหเ้ ขา้ กันแล้วเทลงแก้ว ไดเ้ คร่ืองดม่ื กาแฟจากถวั่ เหลือง ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
26 ประวตั ิผ้จู ัดทำ ชอื่ เรอ่ื ง (ชอ่ื กำรศกึ ษำคน้ ควำ้ ) 1. นางสาว จิณณพตั ศริ ิรัตน์ ประวัตสิ ่วนตวั วัน 5 เดือน ธนั าคม ปี 2546 ทีเ่ กิด อายุ 17 ทอ่ี ยู่ 95 หมู่ 4 ตาบลไชยวฒั นา อาเภอปวั จงั หวดั นา่ น ประวัตกิ ารศึกษา ปี พ.ศ. 2558 ชน้ั ป.6 ร.ร. บ้านร้อง ปี พ.ศ. 2561 ช้ัน ม.3 ร.ร.ปวั ปี พ.ศ. 2563 ชั้น ม.5/ 3 เลขท2่ี 1 2.นางสาว เมธาวี มลู คา ประวตั ิส่วนตวั วัน 29 เดือน กรกฎาคม ปี 2546 ทเ่ี กดิ อายุ 17 ท่ีอยู่ 53 หมู่ 7 ตาบลวรนคร อาเภอปัว จงั หวัดนา่ น ประวตั กิ ารศกึ ษา ปี พ.ศ. 2558 ชั้น ป.6 ร.ร. วรนคร ปี พ.ศ. 2561 ช้นั ม.3 ร.ร. ปวั ปี พ.ศ. 2563 ชนั้ ม.5/ 3 เลขท่ี 26 3. นางสาว รวนี ภิ า สุทธหลวง ประวัติสว่ นตัว วนั 11 เดือน ธนั วาคม ปี 2545 ที่เกดิ อายุ 17
27 ทอ่ี ยู่ 86 หมู่4 ตาบลวรนคร อาเภอปัว จงั หวดั น่าน ประวตั ิการศึกษา ปี พ.ศ. 2558 ชน้ั ป.6 ร.ร.วรนคร ปี พ.ศ. 2561 ชั้น ม.3 ร.ร. ปัว ปี พ.ศ. 2563 ช้นั ม.5/3 เลขที่ 27 4. นางสาว วรรณิดา อิทธิรงค์ ประวัติส่วนตวั วนั 11 เดอื น มิถุนายน ปี 2546 ทเ่ี กดิ อายุ 17 ท่ีอยู่ 1 หมู่ 5 ตาบลอวน อาเภอปัว จังหวัดนา่ น ประวัตกิ ารศึกษา ปี พ.ศ.2558 ชัน้ ป.6 ร.ร.บ้านปรางค์ ปี พ.ศ.2561 ชนั้ ม.3 ร.ร. ปัว ปี พ.ศ.2563 ชน้ั ม.5/3 เลขที่ 27 5. นางสาว สรินธร ชาวง้ิว ประวัตสิ ่วนตวั วนั 31 เดือน มนี าคมปี 2546 ทเ่ี กดิ อายุ 17 ท่ีอยู่ 174 หม5ู่ ตาบลสถาน อาเภอปวั จงั หวัดน่าน ประวัตกิ ารศกึ ษา ปี พ.ศ. 2558 ชั้น ป.6 ร.ร.บ้านร้อง ปี พ.ศ. 2561 ชั้น ม.3 ร.ร. ปัว ปี พ.ศ. 2563 ชนั้ ม.5/3 เลขที่ 29
28
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: