Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือความปลอดภัยในการทำงาน Rev.01

คู่มือความปลอดภัยในการทำงาน Rev.01

Published by kamonchanok Promsri, 2022-05-27 01:55:31

Description: คู่มือความปลอดภัยในการทำงาน Rev.01

Search

Read the Text Version

บรษิ ัท ไบนาร่ี เพาเวอร์ เอน็ จเิ นียร่ิง จากดั คู่มือ ความ ป ล อ ด ภั ย ในการทางาน



บัญญัติ 10 ประการ สารบัญ นโยบายความปลอดภัย เกีย่ วกับความปลอดภัย 2 คาศพั ท์เกยี่ วกับเรอ่ื งความปลอดภัย สาเหตุของการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ 3 และการเจบ็ ป่วยจากการทางาน 6 การสญู เสยี เนือ่ งจากการเกดิ อุบตั เิ หตุ 7 กฎกระทรวง 8 หมวด 1 ความรอ้ น 9 หมวด 2 แสงสว่าง 10 หมวด 3 เสยี ง 10 หมวด 4 อปุ กรณค์ มุ้ ครอง 11 การป้องและระงบั เหตกุ ารเกดิ อคั คีภยั ความปลอดภัยส่วนบุคคล 12 13 ความปลอดภัยในสานักงาน ความปลอดภัยในการ 15 เคล่อื นย้ายของหนักดว้ ยมอื 16 ความปลอดภัยในการทางาน 17 เกย่ี วกับไฟฟา้ ความปลอดภยั ในการ 19 ความปลอดภยั ในการใช้ ทางานเกี่ยวกบั สารเคมี 21 งานนั่งรา้ น 23 ความปลอดภัยในการทางานสาหรบั ความปลอดภยั 25 ผู้รบั เหมา ในการทางานบนทีส่ งู 27 29 ความปลอดภยั ในการใช้ งาน Personnel Lift แนวทางการใช้ Hand Lift อยา่ งปลอดภยั การปฐมพยาบาล

ค คำนำ คำนำ

2

“”



บัญญัติเกี่ยวกับ 10 “ความปลอดภัย” ปฏบิ ัตติ ามกฎ ข้อบงั คับ เคร่ืองหมาย และคาสอน โดยเครง่ ครดั อย่าเสยี่ ง ถ้าไม่รู้จงถามผรู้ ู้ ข้อที่ 1 แจ้งหรอื รายงานสภาพทไี่ ม่ปลอดภัย ข้อที่ 2 ในบริษัททนั ทที พี่ บ ช่วยกนั ระวงั รกั ษาทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ งให้สะอาด เรียบรอ้ ยและปลอดภัย ข้อที่ 3 ใช้เครอื่ งมอื ทถี่ กู ตอ้ งในวธิ ที ปี่ ลอดภยั ข้อที่ 4 รายงานความบาดเจบ็ ทงั้ หมดทเี่ กดิ ขน้ึ และมีการรกั ษาพยาบาลทเี่ หมาะสมทนั ที ข้อที่ 5

ข้อที่ 6 สวมอุปกรณ์ PPE และรกั ษาให้อยใู่ นสภาพทใี่ ชไ้ ดเ้ สมอ ข้อที่ 7 ดูแลรกั ษาเครอื่ งมือ เครื่องจกั รใหอ้ ยใู่ นสภาพเรยี บรอ้ ย ข้อที่ 8 การยกของหนกั ต้องมีคนช่วย และยกให้ถกู วธิ ี ข้อที่ 9 ห้ามหยอกลอ้ หรือกวนใจผอู้ นื่ ขณะปฏบิ ตั งิ าน ข้อที่ 10 เช่ือฟงั กฎ ข้อบงั คับ เคร่ืองหมาย และคาแนะนา เกี่ยวกบั ความปลอดภยั ในบรษิ ทั



12 หนา้ ท่ี จป.วชิ าชพี ทต่ี ้องรู้....?



คำศพั ท ์ เกยี่ วกบั เรอื่ ง ควำมปลอดภยั Incident อบุ ตั กิ ารณ์ เหตุการณ์ท่ีไม่พึงประสงค์ เ กิดข้ึนแ ล้ว มีผลให้เ กิ ด อุบัติเหตุหรืออาจหมายถึง เหตุการณ์เกอื บเกดิ อุบตั เิ หตุ Accident อุบัตเิ หตุ เหตุการณ์ทไ่ี มพ่ งึ ประสงค์ทอ่ี าจ เกิดจากการท่ีไม่ได้คาดคิดไว้ ล่วงหน้า แต่เม่ือเกิดข้ึนแล้วมี ผลใหเ้ กดิ การบาดเจบ็ หรอื การ เสียชีวิต หรือความสูญเสียต่อ ทรพั ยส์ นิ

สาเหตขุ องการเกดิ อุบัตเิ หตแุ ละการเจบ็ ปว่ ย จากการทางาน 1 ผปู้ ฏบิ ตั งิ านขาดความตระหนกั ในเรอ่ื งความปลอดภยั มพี ฤตกิ รรมในการทางาน 2 ไมเ่ หมาะสม เชน่ หยอกลอ้ กนั ใชเ้ ครอ่ื งมอื ในการทางานไมถ่ ูกตอ้ ง เครอ่ื งมอื เครอ่ื งจกั รทใ่ี ชช้ ารดุ การใชเ้ ครอ่ื งมอื ไมเ่ หมาะสมกบั ประเภทของงานหรอื ปราศจาก 3อปุ กรณ์ป้องกนั อนั ตราย รวมถงึ ไมม่ กี ารบารงุ รกั ษาเครอ่ื งมอื ตามระยะเวลาทก่ี าหนด มกั เกดิ กบั บคุ คลทเ่ี ขา้ มาทางานใหมข่ าดความรคู้ วามเขา้ ใจในกระบวนการ ปฏบิ ตั งิ านและการทางานของเครอ่ื งมอื เครอ่ื งจกั ร 4 สภาพจติ ใจของผปู้ ฏบิ ตั งิ านไมอ่ ยใู่ นสภาวะปกติ ขาดความตงั้ ใจในการทางาน ไมส่ ามารถควบคมุ อารมณ์ในขณะทางานได้ เชน่ ตน่ื เตน้ งา่ ย ตกใจงา่ ย เป็นตน้ 5 สภาพรา่ งกายของผปู้ ฏบิ ตั งิ านขาดความพรอ้ มในการทางาน เชน่ ออ่ นเพลยี เมอ่ื ยลา้ ขาดการพกั ผอ่ นทเ่ี พยี งพอ หรอื มโี รคประจาตวั 6 สภาพแวดลอ้ มในฏบิ ตั งิ านทไ่ี มเ่ หมาะสมไมป่ ลอดภยั เชน่ แสงสวา่ งไม่เพยี งพอ หรอื สงิ่ ของกดี ขวางทางเดนิ

1.การสญู เสยี ทางตรง เป็นผลกระทบทเ่ี กดิ กบั ร่างกายและทรพั ทยส์ นิ ทเ่ี กย่ี วกบั ผู้ได้รับบาดเจบ็ โดยตรง ไดร้ บั บาดเจบ็ พกิ าร หรอื เสยี ชวี ติ อปุ กรณ์ เคร่อื งมอื เคร่อื งจกั ร หรอื ทรพั ยส์ นิ เสยี หาย ไดค้ า่ รกั ษาพยาบาล คา่ ทาขวญั คา่ ทาศพ 2.การสญู เสยี ทางออ้ ม เปน็ ผลกระทบดา้ นอน่ื ๆ สญู เสยี เวลาการทางานของผบู้ าดเจบ็ สญู เสยี ขวญั กาลงั ใจในการทางาน สญู เสยี เวลาในการจดั หาบุคลากรมาทางาน คา่ ใชจ้ า่ ยในการซ่อมแซมเคร่อื งจกั ร สนิ คา้ ไดร้ บั ความเสยี หาย กระบวนการผลติ ขดั ขอ้ ง

กฎกระทรวง กำหนดมำตรฐำนในกำรบริหำร จัดกำร และดำเนินกำรด้ำนควำม ปลอดภัย อำชีวอนำมัยและสภำพแวดล้อมในกำรทำงำนเก่ียวกับควำม รอ้ น แสงสว่ำง และเสยี ง พ.ศ. 2559 ลกั ษณะการทางาน “งานเบา” คอื ลกั ษณะงานทใ่ี ชแ้ รงน้อยหรอื ใชก้ าลงั งานทท่ี าใหเ้ กดิ การเผาผลาญอาหาร ในร่างกายไม่เกนิ 200กโิ ลแคลอรตี ่อชวั่ โมง เชน่ งานเขยี นหนงั สอื “งานปานกลาง” คือ ลกั ษณะงานท่ใี ช้แรง ปานกลางหรอื ใชก้ าลงั งานทท่ี าใหเ้ กดิ การเผา ผลาญอาหารในร่างกายเกนิ 200 กโิ ลแคลอรี ต่อชวั่ โมง ถงึ 350 กโิ ลแคลอรตี ่อชวั่ โมง เช่น งานยก ลาก ดนั “งานหนัก” คอื ลกั ษณะงานท่ใี ช้แรงมากหรอื ใช้ กาลังงานท่ีทาให้เกิดการเผาผลาญอาหารใน ร่างกายเกนิ ๓๕๐ กโิ ลแคลอรตี ่อชวั่ โมง เช่นงาน ยก หรอื เคลอ่ื นยา้ ยของหนกั ขน้ึ ทส่ี งู หรอื ทล่ี าดชนั

หมวด 1 ความรอ้ น ลักษณะงำน กำรเผำผลำญอำหำร ในรำ่ งกำย ระดบั ควำมรอ้ น (WBGT) งำนเบำ กโิ ลแคลอร่ี/ชัว่ โมง ไมเ่ กนิ ค่ำเฉล่ีย องศำเซลเซียส งำนปำนกลำง น้อยกว่ำ 200 งำนหนกั 34 200 – 350 32 มำกกว่ำ 350 30 • นำยจำ้ งต้องจัดใหส้ ถำนประกอบกิจกำรมีควำมเข้ม ของแสงสว่ำงให้เพียงพอต่อกำรทำงำนไม่ต่ำกว่ำ มำตรฐำนตำมกระทรวงตลอดระยะเวลำกำรทำงำน • ในกรณีที่ลูกจ้ำงต้องทำงำนในสถำนที่มืด ทึบ และ คับแคบ เช่น ในถ้ำ อุโมงค์ นำยจ้ำงต้องจัดให้มี อุปกรณ์ส่องแสงสว่ำงติดอยู่ในพื้นท่ีทำงำนหรือ ติดทีต่ ัวบุคคลได้

หมวด 3 เสยี ง ➢นายจ้างต้องควบคุมระดบั เสยี งท่ลี ูกจา้ งได้รบั เฉลย่ี ตลอดเวลา การทางานในแต่ละวนั มใิ หเ้ กนิ มาตรฐานตามท่อี ธบิ ดปี ระกาศ กาหนด ➢ในบรเิ วณทม่ี รี ะดบั เสยี งเกนิ มาตรฐานทก่ี าหนดนายจ้างต้อง จดั ใหม้ เี คร่อื งหมายเตอื นใหใ้ ชอ้ ุปกรณ์คุม้ ครองความปลอดภยั ส่วน บคุ คลตดิ ไวใ้ หล้ กู จา้ งเหน็ ไดโ้ ดยชดั เจน ➢ในกรณที ส่ี ภาวะการทางานในสถานประกอบกจิ การมรี ะดบั เสียง ท่ีลูกจ้างได้รบั เฉล่ีย ตลอดระยะเวลาการทางานแปดชัว่ โมง ตงั้ แต่ 85 dB(A) ขน้ึ ไป นายจา้ งต้องจดั ใหม้ มี าตรการอนุรกั ษ์ การไดย้ นิ

หมวกนริ ภยั ถุงมอื นริ ภยั (Safety Helmet) (Safety Gloves) ใชส้ าหรบั ป้องกนั ศรี ษะทเ่ี กดิ จาก ใชส้ าหรบั ป้องกนั มอื จากของมคี ม การกระแทก ความรอ้ น การสมั ผสั สารเคมที ่ี อาจระคายเคอื งหรอื บาดเจบ็ ได้ ปลกั๊ ลดเสยี ง (Ear Plugs) ใชส้ าหรบั ป้องกนั หจู ากการรบั สมั ผสั เสยี งทด่ี งั มากกวา่ ปกติ แวน่ ตานริ ภยั รองเทา้ นริ ภยั (Safety Glasses) (Safety Shoes) ใชส้ าหรบั ป้องดวงตาจากเศษฝ่นุ ใชส้ าหรบั ป้องกนั อนั ตรายจาก สารเคมที อ่ี าจโดนดวงตา การทางานในพน้ื ทเ่ี สย่ี งต่อการ ขณะปฏบิ ตั งิ านได้ กระแทกหรอื สงิ่ ของทม่ี นี ้าหนกั ตกใสเ่ ทา้ เข็มขดั นริ ภยั ชนดิ เตม็ ตวั หมวด 4 (Full body Harness) อุปกรณ์คุ้มครอง ใชส้ าหรบั การทางานบนทส่ี ูง ความปลอดภัย เพอ่ื ป้องกนั ไมใ่ หผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ าน ส่วนบุคคล ตกลงมาดา้ นล่าง

การป้อง และระงบั เหตกุ ารเกดิ อคั คภี ยั

องคป์ ระกอบของไฟ ประเภทของถงั ดบั เพลิง ไฟ คือ ปฏิ กิริ ยำทำงเคมีระหว่ำง 1. ชนิดผงเคมีแหง้ (Dry Chemical) เช้ือเพลิง ควำมร้อน และออกซิเจน ไฟจะ ขอ้ เสยี คอื เมอ่ื ฉดี ออกมำจะฟ้ ุงกระจำย และเม่ือเรำทำ เกิดข้ึนเมื่อมี 3 อย่ำงน้ีพรอ้ มๆ กัน ถำ้ ขำด กำรฉดี แลว้ แรงดนั จะตก ไมส่ ำมำรถใชง้ ำนไดอ้ กี อย่ำงใดอยำ่ งหนงึ่ ไฟจะเกิดขนึ้ ไมไ่ ด้ 2. ชนิดน้ำยำเหลวระเหย (Halotron) ไฟ แบง่ ออกเป็ น 4 ประเภท คอื ไม่มีกล่ิน ไม่ติดไฟ ไมเ่ ป็ นส่ือนำไฟฟ้ ำ เม่ือฉีดออกจะ 1.ไฟประเภท A เป็ นไอระเหยสขี ำว และจะระเหยไปเอง เป็ นไฟท่ีเกิดจำกเชื้อเพลิง เช่น ไม้ กระดำษ ผ้ำ ยำง และพลำสตกิ 3. ชนิดเคมีสตู รน้ำ (Water Mist) 2.ไฟประเภท B สำรเคมีจะเป็ นนำ้ ยำช่อื ว่ำ “ABFFC” ท่ีใชส้ ำหรับกำร เป็ นไฟที่เกิดจำกเชอื้ เพลงิ เหลวตดิ ไฟ เชน่ นำ้ มนั เบนซิน ดบั ไฟไดด้ ี ไมเ่ ป็ นสอื่ นำไฟฟ้ ำ นำ้ มนั ดเี ซล, ส,ี สำรละลำย 3.ไฟประเภท C 4. ชนิดกำ๊ ซคำรบ์ อนไดออกไซด์ (CO2) เป็ นไฟท่ีเกดิ จำกเชอื้ เพลงิ ที่มกี ระแสไฟฟ้ ำ บรรจกุ ๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ ฉีดออกมำจะเป็ นไอเย็น 4.ไฟประเภท D จดั คลำ้ ยนำ้ แขง็ แหง้ ลดควำมรอ้ นของไฟได้ เป็ นไฟที่เกิดจำกเชอื้ เพลงิ ท่ีเป็ น โลหะลกุ ตดิ ไฟ 5.ไฟประเภท K 5. ชนิดโฟม เป็ นไฟท่ีเกดิ จำกเชอ้ื เพลงิ นำ้ มนั ทำอำหำร นำ้ มนั พืช ฉีดออกมำจะเป็ นฟองโฟมคลมุ ผวิ เชอ้ื เพลงิ ที่ลกุ ไหม้ นำ้ มนั จำกสตั ว์ 6. ชนิดน้ำผสมแรงดนั (Water gas) ใชน้ ำ้ อัดใส่ถังดับเพลิงสะสมแรงดนั เพื่อให้ฉีดออกมำ ไดแ้ รงดนั ที่เพิม่ ขนึ้ “จำกประเภทของเครื่องดบั เพลิงทก่ี ลำ่ วมำขำ้ งตน้ สำมำรถสรปุ ” ประเภทของเพลงิ ที่เคร่ืองดบั เพลงิ ประเภทตำ่ งๆ สำมำรถดบั ได้ ดงั แสดงในตำรำง ประเภทเครอื่ งดบั เพลงิ ประเภทของเพลงิ ประเภท A ประเภท B ประเภท C ประเภท D ประเภท E ชนดิ ผงเคมแี หง้ ชนิดนำ้ ยำเหลวระเหย ชนดิ เคมสี ตู รนำ้ ชนิดกำ๊ ซคำรบ์ อนไดออกไซด์ ชนิดโฟม ชนดิ นำ้ ผสมแรงดัน

ความปลอดภัยในการ เคลื่อนยา้ ยของหนกั ดว้ ยมือ กำรขนย้ำยวัสดุท่ีดีที่สุดคือ ไม่ต้องมีกำรขนย้ำยวัสดุ ใดๆเลยหำกงำนขนย้ำยยังจำเป็นต้องมีอยู่ ให้พิ จำรณำ ออกแบบระบบกำรผลิตให้มีขั้นตอนกำรเคล่ือนย้ำยวัสดุให้น้อย ที่ สุ ด เ ลื อ ก ใ ช้ เ ค ร่ื อ ง ทุ่ น แ ร ง ท่ี เ ห ม ำ ะ ส ม แ ล ะ ท ำ ก ำ ร ย ก เคลอื่ นย้ำย อย่ำงถูกวิธี กฎท่ีต้องปฏิบัติ ข้อแนะนา ▪ ต้องสวมถุงมือขณะทำกำรยก 1. ถ้ำของหนักเกินกว่ำจะยกได้ ควรเรียกคนมำ ▪ ตอ้ งสวมรองเทำ้ นิรภยั ช่วย 2. ควรมีกำลังขำและกำรทรงตัวท่ีดี 3. ควรวำงเทำ้ ขำ้ งหนึ่งอยู่ข้ำงๆ ของที่จะทำกำร ยกและอีกขำ้ งหนึง่ อยขู่ ้ำงหลงั 4. งอเข่ำและคู้ลงต่ำใกลข้ อง 5. ใหล้ ำตวั เขำ้ ชดิ ของ 6. ตอ้ งจับของให้กระชบั แน่น 7. หลงั ตรงเกอื บเป็นแนวดง่ิ แล้วยึดขำทงั้ สองขึ้น 8. ควรหลกี เล่ียงกำรขดลำตัวใช้ขยบั ขำแทน 9. ควรมองเหน็ ทำงข้ำงหน้ำได้ชัดเจนขณะยก ของเดนิ ไป 10. เม่ือจะวำงของลงใหท้ ำยอ้ นกลบั ตำมวิธี ข้ำงลำ่ ง

กฎท่ีต้องปฏิบัติ 1) เม่ือขึ้นหรือลงบันไดบันได ให้เดินด้วยควำมระมัด อย่ำว่ิง และจบั รำวบนั ไดไวเ้ พ่ือช่วยใหป้ ลอดภัยยิ่งขน้ึ 2) เมอ่ื นงั่ เกำ้ อี้อยำ่ เอนหลังจนเสียกำรทรงตัวเพรำะจะทำให้ล้ม และไดร้ บั บำดเจ็บ หรอื เป็นอนั ตรำยถึงแกช่ ีวติ ได้ 3) เม่ือน้ำหรือของเหลวอื่น ๆ หกเรี่ยรำดบนพื้นต้องรีบเช็ดถู ทันที เพื่อปอ้ งกันกำรล่ืนหกล้ม 4) สำยไฟ สำยโทรศัพท์ จะต้องวำงให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อปอ้ งกนั กำรสะดุด ซ่ึงอำจทำให้หกล้มได้ง่ำย 5) ในกรณีที่ไม่สำมำรถจะเคล่ือนย้ำย หรือยกของท่ีหนักเกิน กำลงั ใหข้ อควำมช่วยเหลือจำกเพ่ือนรว่ มงำน 6) มือและน้ิวมือ เป็นส่วนที่ได้รับบำดเจ็บง่ำยที่สุดไม่ควรใช้มือ หรอื นิว้ มือแทนเครื่องมอื ต่ำง ๆ เช่น อย่ำใช้มือถอนเข็มเย็บ กระดำษ 7) เ ค รื่ อ ง มื อ เ ค ร่ื อ ง ใ ช้ ภ ำ ย ใ น ส ำ นั ก ง ำ น โ ด ย เ ฉ พ ำ ะ เครื่องใชไ้ ฟฟำ้ ตอ้ งได้รับกำรตรวจสอบให้อยู่ในสภำพดีอยู่ เสมอ 8) อัคคีภัยเกิดขึ้นเพรำะควำมประมำท ดังนั้นต้องระมัดระวัง เป็นพิเศษ เชน่ จัดใหม้ ีถังขยะรองรบั ขยะตำ่ ง ๆ ฯลฯ 9) มีแผนผังหนีภัยในกรณีฉุกเฉิน และมีอุปกรณ์ดับเพลิงซ่ึง ควรจะตดิ ไว้ในสถำนท่ที ี่สำมำรถหยิบฉวยไดง้ ำ่ ย ความปลอดภยั ในสานกั งาน

ความปลอดภยั ในการทางาน เกยี่ วกบั สารเคมี

• • • • • • • • •

ความปลอดภยั กฎระเบยี บความปลอดภยั ในงานไฟฟ้า ในการทางาน เก่ยี วกบั ไฟฟา้ 1. เม่อื เกิดไฟฟ้าลดั วงจรต้องทาการตัดกระแสด้วย สวติ ซต์ ดั ตอน (ยกคทั เอาท)์ 2. ถา้ พบอุปกรณ์ไฟฟ้าชารดุ ตอ้ งเลกิ ใช้ รบี แก้ไข หรอื ซ่อมแซมโดยเรว็ 3. รอยต่อสายไฟฟ้าทุกแห่ง ตอ้ งใชเ้ ทปพนั สายไฟฟ้า พนั หุม้ ลวดทองแดงใหม้ ดิ ชดิ และแน่นหนาจนแน่ใจว่าจะไมห่ ลุด เพ่อื ไม่ให้ลวดทองแดงท่มี กี ระแสไฟฟ้าโผล่ออกมา ซ่ึงอาจจะ เป็นอนั ตราย 4. ทุกครงั้ ท่ที าการต่อสายไฟฟ้าหรอื เดินสายไฟฟ้า ตอ้ งตดั ไฟฟ้าดว้ ยสวติ ชเ์ สยี ก่อนเพอ่ื ป้องกนั ไมใ่ ห้มกี ระแสไฟฟ้า ในสายไฟฟ้าเสน้ นนั้ 5. หลอดไฟฟ้าและเคร่อื งใช้ไฟฟ้าทุกชนิดท่จี ะทาให้ เกดิ ความรอ้ นได้ ไม่ควรให้ติดอยู่กบั ผ้าหรอื เช้อื เพลงิ อ่นื ๆ ท่ี อาจทาใหเ้ กดิ การลุกไหมไ้ ดง้ า่ ย 6. หา้ มใชต้ วั นาอ่นื ๆ แทนฟิวส์

ระบบ Log out และป้าย Tag out คือ เป็นระบบท่นี ามาใช้ในการ “ควบคุมอนั ตราย” ท่อี าจเกดิ ข้นึ จากการซ่อมบารงุ เคร่อื งจกั ร หรือ อปุ กรณต์ ่าง ๆ ท่มี แี หล่งจ่ายพลังงาน เช่น พลงั งานกล พลงั งานไฟฟ้ า เป็นต้น 1. ระบบลอ็ กเอ้าท์ (Lock Out) เป็ นระบบท่ใี ช้ในการตัดแยกอุปกรณ์ท่ีเป็ นแหล่งกาเนิด พลังงาน โดยการใช้อุปกรณ์ท่ีออกแบบมาสาหรับใช้เป็ นเคร่ืองมือในการลอ็ ก นาไปล็อกท่ีแหล่งกาเนิด พลงั งาน 2. ระบบป้ ายแทกเอ้าท์ (Tag Out) คอื การควบคุมอนั ตรายท่อี าจเกดิ ข้ึนกบั ผู้ปฏบิ ัตงิ าน โดยมี ลักษณะเป็นแผ่นป้ ายแสดงข้อความเตอื นอนั ตราย หลังจากทาการลอ็ กท่แี หล่งกาเนิดพลงั งานกจ็ ะต้องทาการ แขวนแทกเอ้าทไ์ ว้ท่อี ปุ กรณน์ ้นั ด้วย ข้อห้ามท่ีไม่ควรทาเมื่อช่วยเหลือผู้ท่ีได้รับอันตรายจากไฟฟ้า 1. ห้ามเข้าไปช่วยผู้ถูกไฟฟ้ าชอ็ ต จนกว่าจะแน่ใจได้ว่าผู้บาดเจบ็ มไิ ด้มีการสมั ผัสสายไฟหรือตัวนา ไฟฟ้ าใดๆ ถ้าจาเป็นต้องหาวัสดทุ ่เี ป็นฉนวนไม่นากระแสไฟฟ้ า เช่น ไม้หรือผ้าเข่ยี สายไฟออกจากผ้บู าดเจบ็ 2. ถ้าผวิ หนังผ้ทู ่ชี ่วยน้นั เปี ยกช้ืน ห้ามเข้าไปช่วยเพราะอาจเป็นตวั นากระแสไฟฟ้ าดูดได้ 3. ถ้าไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัย เน่ืองจากไม่มีความรู้ในการตัดกระแสวงจรไฟฟ้ าหรือวิธีการช่วยท่ี ถกู ต้อง ให้รับตามคนมาช่วย การป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด 1. หม่นั ตรวจเชค็ อปุ กรณแ์ ละสายไฟอยู่เสมอ และควรซ่อมแซม สว่ นท่ชี ารดุ ให้เรียบร้อย 2. บริเวณท่วี างสายไฟ ไม่ควรวางของท่มี นี า้ หนกั มาทบั ลงไป และวางให้พ้นทางเดนิ 3. ห้ามซ่อมเคร่อื งใช้ไฟฟ้ าเองโดยไม่มคี วามรู้ 4. ไม่ควรใช้ไฟฟ้ าหลายอย่างกบั ปล๊กั ไฟตวั เดยี ว 5. ต่อสายดนิ เพ่ือป้ องกนั อนั ตรายเม่อื ไฟฟ้ าร่วั

ความปลอดภัย ในการทางานบนทสี่ งู 1 พ้ืนท่ีปฏิบตั ิงานท่ีสูงตงั้ แต่ 2 เมตรข้ึนไปและเป็นท่ีเปิดมี อนั ตรายต่อการพลดั ตก ผูค้ วบคุมงานตอ้ งออกแบบและจดั เตรียม วสั ดุ อปุ กรณป์ ้องกนั การพลดั ตกของผูป้ ฏบิ ตั งิ านก่อนเรม่ิ งาน 1.2 จดั ทา Platform หรือนงั่ รา้ นสาหรบั พ้ืนท่ีปฏิบตั ิงาน หา้ มปีนป่าย ยนื หรอื เดนิ ในทท่ี ไ่ี มไ่ ดจ้ ดั ไวใ้ ห้ 1.1 จดั ทาราวกนั ตกความสูงประมาณ 90-110 ซม. ป้องกนั การพลดั ตกในบรเิ วณทม่ี ผี ูป้ ฏบิ ตั งิ านเขา้ ใชพ้ ้นื ท่ี 2 พ้ืนท่ีปฏิบตั ิงานท่ีสูงตงั้ แต่ 4 เมตรข้นึ ไป และเป็นท่ีเปิด อนั ตรายต่อการพลดั ตกควรปฏบิ ตั เิ พม่ิ เตมิ ดงั น้ี 2.1 ผูป้ ฏบิ ตั งิ านตอ้ งใชเ้ขม็ ขดั นิรภยั ร่วมกบั สายช่วยชวี ติ หรอื จดุ เก่ยี วทม่ี นั่ คงแขง็ แรงในขณะปฏบิ ตั งิ าน 2.2 ตรวจสอบใหม้ กี ารใชอ้ ปุ กรณป์ ้องกนั การพลดั ตกจากทส่ี ูง และจดั ทาทย่ี ดึ ตรงึ ไวก้ บั สว่ นหน่ึงของโครงสรา้ ง 2.3 จดั ทามาตรการป้องกนั การกระเดน็ ตกหลน่ ของวสั ดุ หรอื พลดั ตกของผูป้ ฏบิ ตั งิ านโดยใชแ้ ผงกน้ั โดยวศิ วกรควบคุมงาน เป็นผูก้ าหนดวธิ กี ารจดั ทา 3 พ้นื ทป่ี ฏบิ ตั งิ านบนทส่ี ูง ถา้ มชี ่องเปิด(Block Out) ตอ้ งจดั ทา ฝาปิดหรอื รวั้ กน้ั และตดิ ป้ายเตอื นใหเ้หน็ ชดั เจนโดยท่ี 4.1 ช่องเปิดขนาดไมเ่ กนิ 0.80 x 0.80 เมตร ตอ้ งจดั ทาฝา ปิดทแ่ี ขง็ แรงรบั นา้ หนกั ผูป้ ฏบิ ตั งิ านได้ 4.2 ช่องเปิดขนาดใหญ่กวา่ 0.80 x 0.80 เมตร ตอ้ งจดั ทา ราวกนั ตกทแ่ี ขง็ แรง และทาสขี าว-แดง

4. พ้ืนท่ีปฏิบัติงานท่ีเป็ นบ่อ ถังท่ีอาจทาให้ 10. การตัด การเช่ือมบนท่ีสูง ใหต้ รวจสอบและ ผูป้ ฏิบตั ิงานพลดั ตกลงไปได้ ผูค้ วบคุมงานตอ้ ง เคลอ่ื นยา้ ยเช้อื เพลงิ และสารไวไฟทกุ ชนิดในพ้ืนท่เี บ้อื ง จดั ทารวั่ กนั้ ทม่ี คี วมสูงประมาณ 90-110 เซนตเิ มตร ล่างก่อน รวมถึงขณะตดั หรือเช่ือม ใหท้ าดว้ ยความ ระมดั ระวงั 5. พ้ืนท่ีปฏิบตั ิงานท่ีต่างระดบั กนั อาจมีวสั ดุตก 11. การข้นึ และลงบนั ไดในแนวตงั้ ใหท้ าการข้ึนและลงที หล่น ตอ้ งปิดกนั้ เขตพ้ืนท่ีดา้ นล่างดว้ ยธงราวขาว- ละคนหนั หนา้ เขา้ หาบนั ได สมั ผสั จบั ยึดบนั ไดขณะปีน แดง หรืออุกปรณ์ปอดกน้ั ชวั่ คราว โดยแสดงคา ส่วนของร่างกายสมั ผสั 3 จุดตลอดเวลาและหา้ มข้ึนไป เตอื นหรอื หา้ มไมใ่ หผ้ ูท้ ไ่ี มเ่ กย่ี วขอ้ งผา่ นเขา้ -ออ เหยยี บสองขนั้ สุดทา้ ย 6. พ้นื ทป่ี ฏบิ ตั งิ านชวั่ คราว เช่น นงั่ รา้ น หา้ มนาวสั ดุ 12. การปีนบนั ได ตอ้ งใชบ้ นั ไดท่แี ขง็ แรง การใชบ้ นั ได อปุ กรณม์ าจดั เกบ็ หรอื วาง เน่ืองจากไมไ่ ดอ้ อกแบบ แบบเคล่อื นยา้ ยได้ มุมบนั ไดท่อี ยู่ตรงขา้ มกบั ผนงั ท่พี ิง เพอ่ื รองรบั นา้ หนกั ของวสั ดุอปุ กรณน์ นั้ ๆ จะตอ้ งวางางบนั ไดบนฐานทม่ี นั่ คง ไมล่ น่ื ทามมุ 75 7. หากตอ้ งการพกเครอ่ื งมอื ข้นึ ไปดว้ ย ใหใ้ ส่ 13. ไมว่ างบนั ไดพาดสายไฟฟ้า หรอื ผนงั ท่อี ่อนนุ่มหา้ ม อปุ กรณท์ จ่ี าเป็นในกระเป๋าพกพาท่ตี ิดเขม็ ขดั เท่านน้ั ใชบ้ นั ไดโลหะกบั งานไฟฟ้า และยดึ ขาบนั ได, ช่วงกลาง และจดุ พาดหรอื ใชค้ นช่วยจบั 8. ผูท้ ค่ี วบคุมงานตอ้ งตรวจสอบใหจ้ ดั เก็บทาความ สะอาดในพ้นื ทท่ี างานบนทส่ี ูงอยูเ่ สมอ 14. ในกรณีท่มี ีการทางานบนท่ีลาดชนั ท่ที ามมุ ลาดชนั เกิน 15 องศาองศาแต่ไมเ่ กิน 30 องศาตอ้ งมกี ารติดตง้ั 9. หา้ มดดั แปลงนาบนั ไดไปใชง้ านอย่างอ่นื เช่น พาดทา นงั่ รา้ นหรือเข็มขดั นิรภยั พรอ้ มอุปกรณ์หรือมาตรการ เป็นทางเดนิ ระหว่างตกึ และหา้ มนงั่ ทางานบนบนั ได ป้องกนั การพลดั ตกอ่ืนใดท่ีเหมาะสมกบั สภาพของการ ทางาน

ความปลอดภยั ในการใช้ งานน่ังร้าน 1. ในพ้นื ทป่ี ฏบิ ตั งิ านท่มี คี วามสูงตง้ั แต่ 2 เมตรข้นึ ไป ควรจดั ทาอุปกรณ์ ยดึ โย่ง เพอ่ื เก่ยี วคลอ้ งเขม็ ขดั นิรภยั ใหแ้ ก่ผูป้ ฏบิ ตั งิ านได้ 2. นงั่ รา้ นเสาเรียงเด่ียวท่ีสูงเกิน 7 เมตรข้นึ ไป หรือนงั่ รา้ นท่ีสูงไม่เกิน 21.00 เมตร ผูท้ อ่ี อกแบบและกาหนดรายละเอยี ดนงั่ รา้ นจะตอ้ งเป็นผู้ ท่ีไดร้ บั ใบอนุญาตเป็นผูป้ ระกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามท่ี (กว.) ตามกาหนด 3. พ้นื นงั่ รา้ นตอ้ งมคี วามกวา้ งไมน่ อ้ ยกวา่ 35 เซนตเิ มตร 4. พ้นื รองรบั ขาตง้ั และขอ้ ต่อของนงั่ รา้ น ตอ้ งมคี วามแข็งแรงพอท่จี ะรบั นา้ หนกั ของนงั่ รา้ นชนิดนนั้ ๆ ได้ และอยู่ในสภาพท่ดี มี คี วามมนั่ คง ไม่ สนั่ คลอนขณะปฏิบตั ิงานและควรผ่านการตรวจสอบจากวศิ วกรท่ีมี ความชานาญอยู่เสมอ

5. ผูป้ ฏิบตั ิงานตอ้ งผ่านการอบรมการปฏิบตั ิงานบน นงั่ รา้ นและก่อนการปฏบิ ตั ิงานกบั นงั่ รา้ นตอ้ งมกี าร ตรวจสุขภาพว่ามโี รคประจาตวั หรอื ไม่ 5. ตอ้ งตรวจสอบอุปกรณ์นงั่ รา้ นทุกครงั้ ก่อนเร่มิ ใชง้ าน หากอปุ กรณช์ ารุด หา้ มนามาใชเ้ดด็ ขาด 7. พ้ืนท่ีทางเดินตอ้ งวางและยึดอย่างมัน่ ค งกับ โครงสรา้ งของนงั่ รา้ นเสาคา้ ยนั นงั่ รา้ นตอ้ งตง้ั ใหไ้ ด้ ฉากกบั แนวระดบั 8. นงั่ รา้ นท่ีสูงกว่า 2 เมตรตอ้ งมีราวกนั ตก โดย ความสูงจากพ้ืนนัง่ รา้ นแต่ละชน้ั ไม่ตา่ กว่า 90 เซนตเิ มตร และสูงไมเ่ กนิ 110 เซนตเิ มตร 9. ตอ้ งจดั ใหม้ ีบนั ไดภายในของนงั่ รา้ นและมคี วาม ลาดเอยี งไมเ่ กนิ 45 องศา ยกเวน้ นงั่ รา้ นเสาเดย่ี ว 10. ผูป้ ฏิบัติงานจะตอ้ งสวมใส่อุปกรณ์ป้ อ งกัน อนั ตรายต่างๆ เช่น เขม็ ขดั นิรภยั หมวกนิรภยั ถงุ มอื รองเทา้ ตลอดเวลาปฏบิ ตั งิ าน 11. กรณีติดตง้ั นงั่ รา้ นใกลส้ ายไฟท่ไี ม่มีฉนวนหุม้ หรือ อปุ กรณไ์ ฟฟ้าตอ้ งดาเนินการจดั ใหม้ กี ารหุม้ ฉนวนท่ี เหมาะสม 12. หา้ มทางานบนนงั่ รา้ นแขวนหรอื นงั่ รา้ นแบบกระเชา้ ขณะฝนตกหรือลมแรงอนั อาจเป็นอนั ตราย และ ในกรณีท่ีมีเหตุการณ์ดงั กล่าวใหร้ ีบนานัง่ รา้ น ดงั กลา่ วลงสูพ่ ้นื ดนิ





ความปลอดภยั ใน ลฟิ ตก์ ระเชำ้ สว่ นบคุ คล การใชง้ าน (Personnel Lift) Personnel Lift 1. ผู้ปฎิบัติงำนจะต้องได้รับกำรอบรมกำรใช้เคร่ือง ก่อนท่ีจะปฎิบัติหรือได้รับมอบหมำยให้สำมำรถ ปฎิบตั ิงำนเครือ่ งดังกล่ำวได้ 2. ต้องปฏิบตั ิตำมคำแนะนำในหนังสอื ค่มู อื กำรใช้ 3. กำรซ่อมหรือกำรปรับแต่งต้องเป็นผู้ท่ีมีควำม ชำนำญและได้รบั กำรอบรม 4. ต้องไม่ มีกำ ร ปรับเ ปลี่ยน แ ก้ไข ลิฟ ต์ก ระ เ ช้ ำ ดังกล่ำวโดยไม่ได้รับอนุมัติจำกผู้ผลิตต้องมีกำร ตรวจสอบลิฟตก์ ระเชำ้ กอ่ นใชง้ ำนทุกคร้งั 5. ต้องมีกำรตรวจสอบสถำนที่ที่จะนำลิฟต์กระเช้ำ ไปใช้งำน ถ้ำสถำนที่ดังกล่ำวไม่ปลอดภัย ห้ำม ใช้ลฟิ ต์ กระเช้ำโดยเด็ดขำด • หลกี เล่ียงสถำนกำรณท์ ่ีเสี่ยงต่ออนั ตรำย เชน่ ใกล้ แนวสำยไฟฟำ้ • ควรตรวจเช็คเคร่ืองก่อนกำรใช้งำนทุกครัง้ • ทดสอบปมุ่ และสวทิ ช์ต่ำงๆ ของเคร่อื งกอ่ นกำรใช้งำน ทกุ คร้งั • สำรวจพื้นท่ที ่ีจะใช้ลฟิ ตก์ ระเช้ำกอ่ นกำรใชง้ ำนทุกครงั้ • โปรดอ่ำนข้อแนะนำควำมปลอดภัยของผู้ผลิตจำกคู่มือ กำรใชง้ ำนและปำ้ ยเตอื นต่ำงๆ ท่ตี ิดไว้ที่เครอื่ งให้ละเอียด • ปฎิบตั ิตำมกฎควำมปลอดภัยของสถำนประกอบกำรน้นั ๆ • ปฎิบัติตำ มมำตรกำรควำ มปลอดภัยของกระทรว ง อำ้ งอิง ปจ.ใหม่

กำรใช้ Hand Lift อยำ่ งปลอดภัยสำคญั อยำ่ งไร? อยำ่ งทเ่ี รำทรำบกันดีว่ำ ควำมปลอดภัยของคนสำคัญมำก ถ้ำใช้เครื่องมือ Hand Lift อย่ำงประมำท อำจ เกิดควำมเสียหำยข้นึ อย่ำงไม่คำดคดิ ดว้ ยควำมทแี่ ฮนดล์ ิฟท์เป็นเครอื่ งมือทมี่ ีน้ำหนกั มำก และยังต้องขนของที่ มีน้ำหนักหลำย ๆ ตันไปด้วยอีก โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งรถลำกท่ีเป็น Hand Pallet แบบ Manual ที่ต้องใช้ แรงงำนคนในกำรควบคมุ มันอำจจะต้องใช้ทักษะและควำมระมัดระวังมำกเป็นพิเศษเพรำะหำกใช้งำนอย่ำงไม่ ระมัดระวงั เชน่ กำรลำกแฮนด์พำเลทลงในทำงลำดชันทผี่ ดิ วิธี จึงทำให้กล่องลังต่ำง ๆ หล่นลงจำกพำเลท ซึ่งมนั อำจทำใหม้ ีกำรบำดเจบ็ เกิดขึน้ ได้ 1. ตรวจเชค็ ทกุ อย่ำงกอ่ นปฏบิ ตั ิงำน 5. ควรใช้กำรดงึ หรือลำกมำกกวำ่ กำรเขน็ ก่อนจะใช้งำน Hand Lift ต้องตรวจสอบทุกอย่ำงให้ เม่ือคุณใช้กำรดึงหรือลำกเข้ำหำตัว จะทำให้คุณสำมำรถ เรยี บร้อยก่อนกำรปฏบิ ัติงำนจรงิ ควบคุมตัวรถแฮนดพ์ ำเลทได้ดกี ว่ำ เพรำะกำรเข็นหรือกำรดัน ออกไปเพ่ือให้รถเคลื่อนท่ี มีโอกำสท่ีจะทำให้ล้อเปล่ียนทิศทำง 2. ระวงั เร่อื งน้ำหนักสนิ คำ้ และเสยี กำรทรงตวั ได้ง่ำย ซง่ึ อำจจะทำให้เกดิ กำรพลกิ คว่ำได้ ดวู ่ำแฮนด์ลิฟทห์ รอื แฮนดพ์ ำเลทของคุณสำมำรถรองรับ น้ำหนักได้มำกที่สุดเท่ำไหร่ และอย่ำบรรทุกสินค้ำท่ีมี 7. อยู่ตำแหน่งทเ่ี หมำะสม น้ำหนักเกนิ กวำ่ นนั้ ก่อนอ่ืนคุณอำจจะต้องกำหนด ทิศทำงกำรเคล่ือนท่ีกับ พนักงำนทุกคนท่ีใช้งำนตั้งแต่แรกว่ำ ควรเดินทำงซ้ำยหรือ 3. ไม่ควรวิง่ ขณะกำลังเคลอ่ื นที่ ขวำ เพ่ือให้เข้ำใจตรงกันในโรงงำน ซึ่งก็จะเป็นระเบียบและ จำไว้เสมอว่ำรถลำกพำเลทน้ันไม่มีเบรก ฉะน้ันจึงควร เกดิ อันตรำยได้น้อยทส่ี ดุ ควบคุมควำมเร็วของกำรเคล่ือนท่ีด้วยกำรเดิน ไม่ควร วง่ิ เวลำเลยี้ วควรเล้ียวไปในทิศทำงทีช่ ัดเจน 6.ห้ำมขน้ึ ไปบนรถลำกเดด็ ขำด ห้ำมข้ึนไปบนรถลำกพำเลทไม่ว่ำจะในกรณีจำเป็นหรือนำไปข่ี 4. ควบคมุ ควำมเร็วในทำงลำดชัน เล่นก็ตำม เพรำะอำจส่งผลให้รถเส่ือมสภำพกำรใช้งำน และ แม้ว่ำเรำจะไม่ควรลำกแฮนด์ลิฟท์และแฮนด์พำเลทไป ยังเป็นอนั ตรำยตอ่ คนทขี่ ้นึ ไปข่อี กี ด้วย ในทำงลำดชัน แต่ในบำงครั้ง เรำอำจไม่สำมำรถ หลกี เลย่ี งท่ีจะเดินผ่ำนมนั ได้

ความปลอดภยั ในการทางานสาหรับผ้รู ับเหมา

กฎความปลอดภยั ในการทางาน

กำรปฐมพยำบำล FIRST AID ขอ้ แนะนำ กำรปฐมพยำบำล กำรปฐมพยำบำล เบอ้ื งตน้ วิธกี ำรหำ้ มเลอื ด - หำกร้สู ึกว่ำปว่ ยจนไม่สำมำรถทำงำนได้ให้แจง้ หวั หน้ำ 1. ใช้ผ้ำสะอำดๆกดทับลงไปบนบำดแผลพันแผลให้ งำนทรำบทนั ที แน่นพอดที บั ลงบนผำ้ ท่ีกดทบั แผลไว้ - ถำ้ หำกไดร้ บั บำดเจบ็ ในกำรทำงำนต้องแจ้งใหห้ วั หน้ำ งำนทรำบทันทไี มว่ ำ่ มำกหรือน้อย 2. ถ้ำบำดแผลเกิดที่ปลำยเท้ำ ปลำยแขน หรือส่วน - กำรปฐมพยำบำลจะทำได้เฉพำะรำยท่ีบำดเจ็บเพียง อ่ืนๆ ท่ีต่ำ ควรทำกำรยกขึ้นให้อยู่ในระดับสูง เล็กน้อย ส่วนที่บำดเจ็บมำกควรให้แพทย์เป็นผู้ดูแล โดยใชห้ มอนรองหรอื วสั ดุอื่นๆก็ได้ พึงระลึกไว้เสมอว่ำในรำยที่บำดเจ็บมำก ๆ กำรปฐม พ ย ำ บ ำ ล จ ะ ท ำ เ พี ย ง เ บ้ื อ ง ต้ น ก่ อ น ถึ ง มื อ แ พ ท ย์ 3. ถ้ำคนเ จ็บเกิ ด กระ ห ำยน้ ำ ให้ ด่ืมได้ แต่น้อ ย กำรช่วยเหลืออย่ำงฉับพลันทันทีหลังเกิดอุบัติเหตุอำจ (ประมำณคร่ึงแก้วต่อทุกๆ 30 นำที) และคน เป็นกำรชว่ ยชวี ติ ไวไ้ ด้ เจ็บ จะต้องไม่เป็นผู้มีบำดแผลในช่องท้องหรือ หน้ำอกส่วนล่ำง ห้ำมมิให้คนเจ็บด่ืมเครื่องด่ืมท่ี ผสมแอลกอฮอล์อยำ่ งเดด็ ขำด 4. นำคนเจ็บส่งโรงพยำบำลโดยด่วน หรือขอควำม ช่วยเหลือจำกหนว่ ยแพทย์

กำรปฐมพยำบำลเบ้ืองต้น คือ กำรช่วยเหลือเบ้ืองต้นโดยรีบด่วนแก่ ผู้ได้รับบำดเจ็บหรือเจ็บปว่ ยอย่ำงกะทันหัน เพื่อช่วยบรรเทำควำม เจ็บปวด และทำให้ได้รบั อนั ตรำยน้อยทีส่ ุด กอ่ นทจ่ี ะนำส่งโรงพยำบำล ใหแ้ พทยร์ ักษำตอ่ ไป สำหรับผู้ให้กำรช่วยเหลือ จะต้องมีควำมรู้ในกำร ปฐมพยำบำลชว่ ยเหลอื อย่ำงรวดเรว็ และถกู วธิ ี กำรปฐมพยำบำล กำรปฐมพยำบำล เบ้อื งตน้ กรณถี ูกไฟฟำ้ ดูด เบอ้ื งต้นภำวะฮที สโตรค 1. ควรแยกผู้ประสบเหตุออกจำกวงจรไฟฟำ้ โดย โรคลมแดด มักเกิดในช่วงหน้ำร้อน เน่ืองจำก ปลดสวิตช์ที่จ่ำยไฟ เช่น คัทเอำท์ เต้ำเสียบออก สภำพอำกำศที่ร้อนจัดทำให้อุณหภูมิในร่ำงกำย ห รื อ ใ ช้ ไ ม้ แ ห้ ง เ ชื อ ก แ ย ก ผู้ ป่ว ย อ อ ก จ ำ ก สงู ข้ึนอยำ่ งรวดเร็ว เบ้ืองตน้ อำจแสดงอำกำรเป็น วงจรไฟฟำ้ ตะคริวแดด หรืออำกำรอ่อนเพลียแดด เมื่อยล้ำ ออ่ นเพลีย หน้ำมดื ปวดศรษี ะ เป็นลม 2. ประเมินผู้ปว่ ยว่ำยังรู้สึกตัวอยู่หรือไม่ หำกไม่มีสติ วิธีกำรช่วยคนภำวะฮที สโตรค ค ล ำ ห ำ ชี พ จ ร ห ำ ก ไ ม่ พ บ ค ว ร เ รี ย ก ข อ ค ว ำ ม ช่วยเหลือหรือเรียกบริกำรกำรแพทย์ฉุกเฉินจำก 1. หลักสำคัญที่สุด คือ กำรลดระดับควำม หน่วยงำนต่ำงๆทันที ร้อนจำกร่ำงกำยลงให้เร็วที่สุดก่อนนำส่ง โรงพยำบำลเช่น ใช้ผ้ำชุบน้ำเย็น หรือถุง 3. ทำกำรกดหน้ำอกอย่ำงถูกต้องและทันท่วงที ให้ ใส่น้ำแข็ง หมุนเวียนประคบตำมคอ ลำตัว ทำ CPR ไปจนกว่ำก้ชู พี จะมำถึงหรือจนกว่ำผู้ปว่ ย แขนขำ ข้อพับตำ่ ง ๆ จะรู้สกึ ตวั 2. จดั ทำงใหผ้ ้ปู ว่ ยนอนหงำย ยกเท้ำให้สูงข้ึน เพ่ือช่วยเพิ่มปริมำณเลือดท่ีไหลเวียนกลับ สหู่ วั ใจได้มำกขึน้ 3. เม่ือผู้ปว่ ยรู้สึกตัวดีข้ึนสำมำรถด่ืมน้ำเพ่ือ ชดเชยภำวะขำดน้ำของรำ่ งกำยได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook