โครงการสอนและกำหนดการสอน รายวชิ า ประวัตศิ าสตร์ (ส23103) ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 ของ พระครูปรีชาปริยตั ยาทร,ดร. ตำแหนง่ ครพู เิ ศษ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรยี นวัดพระแก้วดอนเตา้ สุขาดาราม สำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเขต 1 ลำปาง
คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน รหสั วชิ า ส23103 รายวชิ า ประวตั ศิ าสตร์สมัยรตั นโกสนิ ทร์ กลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษาฯ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ................................................................................................................................................................... ศึกษา วิเคราะห์ เร่ืองราวเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ได้อย่างมีเหตุผลตามวิธีการทาง ประวัติศาสตร์ ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาเรื่องราวต่างๆท่ีตนสนใจ พัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของภูมิภาคต่าง ๆ ในโลกโดยสังเขป วิเคราะห์พัฒนาการของไทยสมัยรัตนโกสนิ ทร์ใน ดา้ นต่าง ๆ วิเคราะห์ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความมน่ั คงและความเจริญรงุ่ เรอื งของไทยในสมัยรตั นโกสินทร์ วิเคราะห์ บทบาทของไทยในสมยั รตั นโกสนิ ทร์ โดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์และการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม เพ่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในการนำวิธีการทางประวัติศาสตร์มาใช้ศึกษาเร่ืองราวที่เก่ียวข้องกับพัฒนาการในภูมิภาคต่างๆ ของโลก ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกและผลกระทบท่ีเกิดข้ึนจาก ความเปลยี่ นแปลงดงั กล่าว มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่าง พอเพียง ม่งุ ม่นั ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มจี ิตสาธารณะ สามารถดำรงชีวติ อยูร่ ่วมกนั ไดอ้ ย่างสนั ติสขุ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั ส4.1 ม.3/1 ส4.1 ม.3/2 ส4.3 ม.3/1 ส4.3 ม.3/2 รวม 2 มาตรฐาน 4 ตัวช้ีวดั
ชอื่ รายวชิ า ส 23103 ประวตั ิศาสตร์สมยั กรุงรัตนโกสินทร์ ภาคเรยี นที่ 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลา 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต หนว่ ยท่ี ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ ตวั ช้ีวดั สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั คะแนน ชว่ั โมง 10 1 วธิ ีการทาง ส 4.1 ม. 1/1 วเิ คราะห์เร่ืองราวเหตกุ ารณส์ ำคญั ทาง 2 ประวตั ศิ าสตร์ได้อยา่ งมเี หตุผลตามวธิ ีการ ประวตั ิศาสตร์ ทางประวตั ศิ าสตร์ 2 พฒั นาการของไทย ส 4.3 ม. 3/1 วเิ คราะห์พัฒนาการสมยั รตั นโกสินทร์ในดา้ น 8 30 ต่าง ๆ ในสมยั ส 4.3 ม. 3/2 รตั นโกสินทร์ 3 ภมู ปิ ัญญาและ ส 4.3 ม. 2/1 สังคมและเศรษฐกจิ ทีม่ ผี ลต่อวฒั นธรรมและภมู ิ 4 15 ปัญญาของกรงุ รตั นโกสนิ ทรเ์ ปน็ ความภาคภมู ใิ จ วัฒนธรรมไทยใน ของประเทศไทยจนถึงปัจจบุ ัน สมยั รัตนโกสินทร์ 4 ความสัมพันธ์ ส 4.3 ม. 2/1 กรุงรตั นโกสนิ ทร์มีความสมั พนั ธร์ ะหว่าง 4 15 ตา่ งประเทศทงั้ ในดา้ นการเมอื ง การค้า และ ระหว่างประเทศใน การทตู 1 10 1 20 สมยั รตั นโกสินทร์ สอบกลางภาค/คะแนนระหว่างภาค 20 100 สอบปลายภาค/คะแนนปลายภาค รวมตลอดภาคเรียน
กำหนดการเรียนรู้รายช่ัวโมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา ประวตั ศิ าสตร์สมยั กรงุ รตั นโกสนิ ทร์ รหสั วิชา ส23103 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ ช่วั โมง ว/ด/ป แหล่งอา้ งองิ มาตรฐาน สาระสำคัญ สือ่ การเรียนรู้ท่ี /ตัวชวี้ ดั สำคญั หน่วยที่ 1 4 21 พ.ค.65 -แผนการเรยี นรทู้ ่ี1 ส 3.1 การกำหนดเวลา ยุค วิธีการทาง หลกั ฐานทาง ม. 3/1 สมัย การนบั และ 1)หนังสือเรยี น ประวตั ิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เทยี บศักราชใน ประวัตศิ าสตร์ม.3 (2 แผน) ประวัติศาสตร์ไทย 2)ตวั อย่าง 28 พ.ค.65 ทำให้สามารถศึกษา หลกั ฐานทาง หน่วยการเรียนรู้ แผนการเรียนรทู้ ี่ 2 และเรยี งลำดับ ประวตั ิศาสตร์ ที่ 2 เหตุการณต์ า่ งๆ ใน 3)อินเตอร์เนต 4 มิ.ย.65 วธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ได้ 4)DLtv. การสร้างองค์ รวมทงั้ มี ความรู้ใหม่ทาง 11 มิ.ย.65 แผนการเรยี นรู้ท่ี 3 ความสมั พนั ธ์ ประวัตศิ าสตร์ ตัวอย่างการวเิ คราะห์ เชื่อมโยงจากอดีตสู่ ไทย เหตกุ ารณ์สำคัญในสมยั ปัจจบุ นั และ รตั นโกสินทร์ คาดการณ์ในอนาคต ตัวอยา่ งการใชว้ ิธีการทาง เขา้ ด้วยกนั ได้ ประวตั ิศาสตร์ ส 3.1 การสร้างองค์ 1)หนงั สอื เรยี น 8 18 ม.ิ ย.65 -แผนการเรยี นรู้ที่1 ม. 3/2 ความรใู้ หมท่ าง ประวัตศิ าสตร์ม.3 การสถาปนากรุง รตั นโกสินทร์ ประวตั ิศาสตร์ 2)หนงั สอื ค้นคว้า ไทย โดยใช้วธิ ีการ เพ่มิ เติม 25 ม.ิ ย.65 -แผนการเรยี นรทู้ ่ี 2 ทาง 3)อินเตอร์เนต การสถาปนากรงุ ประวตั ศิ าสตร์ 4)ผังมโนทศั น์ รัตนโกสินทร์(ต่อ) อย่างเปน็ ระบบ ย่อมทำใหผ้ ล 2 ก.ค.65 -แผนการเรียนรู้ท่ี3 การศึกษาน้ันมี พฒั นาการดา้ นการเมอื ง คณุ ค่าและเปน็ ท่ี การปกครอง ยอมรบั ในวง วชิ าการ 9 ก.ค.65 -แผนการเรยี นรู้ท่ี 4 พัฒนาการด้านการเมอื ง การปกครอง(ต่อ)
16 ก.ค.65 -แผนการเรยี นรู้ที่ 5 พฒั นาการด้านสังคม 23 ก.ค.65 -แผนการเรยี นรูท้ ่ี 6 พฒั นาการด้านเศรษฐกิจ -แผนการเรยี นรู้ที่ 7 30 ก.ค.65 พฒั นาการด้าน ความสมั พันธร์ ะหวา่ ง ประเทศ 6 ส.ค.65 -แผนการเรียนรู้ที่ 8 พฒั นาการดา้ น ความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศ(ต่อ) 23 ก.ค.65 สอบกลางภาคเรยี น 1/2565 หนว่ ยการเรยี นรู้ ชั่วโมง ว/ด/ป แหลง่ อ้างอิง มาตรฐาน สาระสำคญั ส่ือการเรียนรทู้ ่ี /ตัวชีว้ ดั สำคัญ หนว่ ยการเรยี นรู้ 6 13 ส.ค.65 -แผนการเรียนรูท้ ี่ 1 ส 3.3 การศึกษา 1)หนังสอื เรยี น ท่ี 3 การเขา้ ร่วมและบทบาท ม. 3/1 ประเด็นทาง ประวัตศิ าสตรม์ .3 ม. 3/2 ประวัติศาสตร์ 2)หนังสอื คน้ ควา้ พัฒนาการของไทย ของไทยในสงครามโลก ไทยนอกจากฝึก เพม่ิ เติม ในสมัยรตั นโกสนิ ทร์ ครง้ั ที่ 1 และสงครามโลก กระบวนการ 3)อินเตอร์เนต ครั้งที่ 2 1. การเข้าร่วมสงครามโลก วเิ คราะห์แลว้ ยัง 4)ผงั มโนทัศน์ ครง้ั ที่ 1 ทำให้เกิดองค์ 20 ส.ค.65 2. บทบาทของไทยใน ความรใู้ หม่ทาง สงครามโลกครง้ั ที่ 2 ประวตั ศิ าสตร์ -แผนการเรยี นรทู้ ี่ 2 และตระหนักถงึ การเขา้ ร่วมและบทบาท ความสำคญั ของ ของไทยในสงครามโลก ภมู ิปัญญาไทยใน ครั้งที่ 1 และสงครามโลก สมัยรัตนโกสนิ ทร์ ครงั้ ที่ 2
1. การเขา้ ร่วมสงครามโลก คร้งั ที่ 1 2. บทบาทของไทยใน สงครามโลกครั้งท่ี 2(ตอ่ ) 27 ส.ค.65 -แผนการเรยี นรทู้ ่ี 3 3 ก.ย.65 บทบาทของไทยใน สงครามเย็น -แผนการเรียนรทู้ ่ี 4 ความรว่ มมือของไทยกบั ประเทศในเอเชีย ตะวนั ออกเฉียงใต้ หน่วยการเรยี นรู้ 10 ก.ย.65 -แผนการเรียนรู้ท่ี 1 ส 3.3 วิเคราะห์ปัจจัยท่ี 1)หนังสอื เรยี น ที่ 4 บทบาทของไทยในสังคม ม. 3/1 ส่ งผ ล ต่ อ ค ว าม ประวตั ศิ าสตร์ม.3 โลกปจั จบุ ัน ม. 3/2 ม่ันคงและความ 2)หนังสือคน้ ควา้ ภูมปิ ัญญาและ วฒั นธรรมไทยใน 17 ก.ย.65 -แผนการเรียนรทู้ ี่ 2 เจริญรุ่งเรืองของ เพมิ่ เติม สมัยรัตนโกสินทร์ ภูมปิ ัญญาไทย ไ ท ย ใ น ส มั ย 3)อินเตอรเ์ นต รั ต น โ ก สิ น ท ร์ 4)ผงั มโนทศั น์ 24 ก.ย.65 -แผนการเรียนรทู้ ่ี 3 วิเคราะห์บทบาท ภูมิปัญญาไทย(ต่อ) ข อ ง ไ ท ย ใ น ส มั ย รัตนโกสินทร์ 1 ต.ค.65 -แผนการเรียนรทู้ ี่ 4 วัฒนธรรมไทย 1 ต.ค.65 สอบปลายภาคเรียน 1/2565 การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ โดยการประเมนิ สภาพจริง พิจารณาจากพฒั นาการของผู้เรียน ความประพฤติ การสงั เกตพฤติกรรมการเรยี น การรว่ มกจิ กรรม และการทดสอบ 1. กอ่ นสอบกลางภาค 30 คะแนน ผลการเรียนรู้ทีค่ าดหวัง - งานที่มอบหมาย 20 คะแนน - ทดสอบระหว่างเรยี น 10 คะแนน
2. สอบกลางภาค 10 คะแนน ผลการเรยี นร้ทู ่คี าดหวงั - ปรนัย 5 คะแนน - อัตนยั 5 คะแนน 3. หลงั กลางภาค 40 คะแนน ผลการเรียนรทู้ คี่ าดหวงั - งานทีม่ อบหมาย 20 คะแนน - ทดสอบระหวา่ งเรยี น 20 คะแนน 4. สอบปลายภาค 20 คะแนน ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวัง - ปรนยั 10 คะแนน - อตั นยั 10 คะแนน *นักเรียนตอ้ งทำตามเง่ือนไขที่ครกู ำหนดให้มฉิ ะนัน้ จะให้ผลการเรยี น เป็น ร กำหนดการวดั ผล ภาคเรียนที่ 1 ตน้ เดอื นกรกฏาคม 2565 1. ทดสอบก่อนสอบกลางภาค ปลายเดอื นกรกฏาคม 2565 2. ทดสอบกลางภาค ตน้ เดือนกันยายน 2565 3. ทดสอบหลงั กลางภาค ปลายเดอื นกนั ยายน 2565 4. ทดสอบปลายภาค ข้อกำหนดอืน่ ๆ 1. นักเรียนต้องปฏิบัติตามงานที่ได้รับมอบหมายจากครูผู้สอนทั้งในรูปแบบของการทำใบงาน แบบทดสอบ ช้นิ งานเดย่ี ว และการทำชน้ิ งานกล่มุ 2. นกั เรยี นตอ้ งมีความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเองและช่วยเหลืองานเพ่ือนในกลุ่มอยู่เสมอ 3. ในการตอบคำถามผ่านแบบทดสอบ หรือการทำแบบฝึกหัดทุกรูปแบบ นักเรียนจะต้องทำด้วย ตนเอง หา้ มลอกงานมาสง่ อย่างเดด็ ขาดมิฉะน้นั นักเรียนจะไมไ่ ด้คะแนนเดด็ ขาด 4. นักเรยี นต้องเก็บใบงานทุกช้ินทีท่ ำเพ่อื รวบรวมเข้าเล่มสง่ ในท้ายเทอม คุณ ลักษ ณ ะอันพึ งป ระสงค์ของผู้เรียน ๘ ข้อ ตามห ลักสูตรแกน กลางการศึกษ าขั้น พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ทน่ี กั เรียนควรทราบ ควรระลกึ และตอ้ งหมั่นปฏบิ ตั ิอยเู่ สมอมีดังน้ี ๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ตัวช้วี ดั
๑.๑ เป็นผลเมอื งที่ดีของชาติ ๑.๒ ธำรงไวซ้ ่ึงความเป็นไทย ๑.๓ ศรัทธา ยึดมนั่ และปฏิบัตติ นตามหลักศาสนา ๑.๔ เคารพเทดิ ทนู สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ ๒. ซ่อื สัตยส์ ุจริต ตวั ชีว้ ดั ๒.๑ ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ คนเองทัง้ กาย และวาจา ใจ ๒.๒ ประพฤตติ รงตามเปน็ จริงตอ่ ผอู้ น่ื ทงั้ กาย วาจา ใจ ๓. มีวนิ ยั ตวั ช้วี ัด ๓.๑ ประพฤติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บขอ้ บงั คบั ของครอบครัว โรงเรียน และสังคม ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ตวั ชว้ี ดั ๔.๑ ตั้งใจเพยี รพยายามในการเรียน และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๒ แสวงหาความรรู้ ู้จากแหลง่ เรียนรตู้ ่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี นดว้ ยการ เลือกใช้ส่ืออยา่ งเหมาะสม สรุปเป็นองค์ความรู้ และสามารถนำไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้ ๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง ตวั ชี้วดั ๕.๑ ดำเนินชีวติ อยา่ งพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม ๕.๒ มภี ูมิค้มุ กันในตัวทีด่ ี ปรับตัวเพ่ืออยูใ่ นสงั คมได้อย่างมีความสุข ๖. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน ตวั ชว้ี ดั ๖.๑ ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบในหน้าท่ีการงาน ๖.๒ ทำงานด้วยเพียรพยายามและอดทนเพ่ือให้สำเรจ็ ตามเปา้ หมาย ๗. รักความเปน็ ไทย ตัวชว้ี ัด ๗.๑ ภาคภมู ใิ จในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทยและมีความกตัญญูกตเวที ๗.๒ เห็นคุณค่าและใช้ภาษาไทยในการส่ือสารได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม ๗.๓ อนรุ กั ษ์และสบื ทอดภมู ิปัญญาไทย ๘. มจี ิตสาธารณะ ตัวช้วี ดั ๘.๑ ชว่ ยเหลือผู้อ่ืนด้วยดว้ ยความเตม็ ใจโดยไม่หวังผลตอบแทน ๘.๒ เข้าร่วมกิจกรรมที่เปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชุมชน และสงั คม
แบบประเมินการนำเสนอ ลำดั รายการประเมนิ คุณภาพการปฏบิ ตั ิ บท่ี 4321 1 นำเสนอเน้อื หาในผลงานได้ถูกต้อง 2 การนำเสนอมีความนา่ สนใจ 3 ความเหมาะสมกบั เวลา 4 ความกล้าแสดงออก 5 บคุ ลิกภาพ นำ้ เสยี งเหมาะสม รวม ลงชื่อ..............................................................................ผปู้ ระเมิน ......................./.........................../........................ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน การนำเสนอผลงานสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน การนำเสนอผลงานยงั มีข้อบกพร่องเล็กน้อย ให้ 2 คะแนน การนำเสนอผลงานยังมีขอ้ บกพร่องเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน การนำเสนอผลงานมีขอ้ บกพรอ่ งมาก เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ ดีมาก ชว่ งคะแนน ดี 18-20 พอใช้ 14-17 ปรับปรุง 10-13 ต่ำกว่า 10
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ลำดบั ชอ่ื – สกลุ ความร่วมมือ การแสดง การรบั ฟงั การตั้งใจ การร่วม รวม ท่ี ของผู้รบั 4321 ความคดิ เหน็ ความคิดเห็น ทำงาน ปรับปรุง 20 การประเมนิ ผลงานกล่มุ คะแนน 4321 4321 4321 4321 เกณฑ์การให้คะแนน = ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ ดีมาก = 4 ............../.................../................ ดี = 3 พอใช้ = 2 ปรบั ปรุง 1 เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั หมายเหตุ ครอู าจใช้วิธีการมอบหมายใหห้ ัวหน้า คุณภาพ กลุม่ เป็นผปู้ ระเมนิ หรือใหต้ ัวแทนกลุ่มผลดั กัน 14-16 ดมี าก ประเมนิ หรอื ใหม้ กี ารประเมนิ โดยเพอ่ื น โดยตวั นกั เรียน 11-13 8-10 ดี เอง ตามความเหมาะสมกไ็ ด้ ตำ่ กวา่ 8 พอใช้ ปรับปรงุ
8. โครงสร้างเวลาเรยี น รายวชิ าพนื้ ฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ช่ัวโมงท่ี หมายเหตุ แผนปฐมนเิ ทศ ชวั่ โมงท่ี 1 ปฐมนเิ ทศและขอ้ ตกลงในการเรียน หนว่ ยท่ี 1 แผนที่ 1 หลักฐานทาง ชว่ั โมงท่ี 2-3 หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ วิธกี ารทางประวตั ศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ 1. หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ (2 แผน) (2 ชว่ั โมง) แผนที่ 2 วธิ ีการทาง ชั่วโมงที่ 4 วธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ ประวัติศาสตร์ 2. วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ (2 ชัว่ โมง) ชั่วโมงท่ี 5 วิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์ (ตอ่ ) 3. ตวั อย่างการวิเคราะหเ์ หตุการณส์ ำคญั ในสมยั รตั นโกสินทร์ 4. ตัวอย่างการใช้วิธีการทางประวัตศิ าสตร์ หน่วยท่ี 2 แผนท่ี 3 การสถาปนา ชั่วโมงท่ี 6-7 การสถาปนากรุงรตั นโกสนิ ทร์ พฒั นาการของไทยใน กรุงรตั นโกสนิ ทร์ 1. การสถาปนากรุงรตั นโกสนิ ทร์ สมัยรัตนโกสนิ ทร์ (2 ชว่ั โมง) (4 แผน) แผนท่ี 4 พัฒนาการดา้ น ชว่ั โมงท่ี 8-9 พฒั นาการด้านการเมอื งการปกครอง การเมอื งการปกครอง 2. พฒั นาการดา้ นการเมืองการปกครอง (2 ชว่ั โมง) แผนที่ 5 พัฒนาการด้านสังคม ชว่ั โมงท่ี 10 พฒั นาการดา้ นสังคม และเศรษฐกจิ 3. พัฒนาการดา้ นสังคม (2 ชวั่ โมง) ชว่ั โมงท่ี 11 พฒั นาการดา้ นเศรษฐกจิ 4. พฒั นาการดา้ นเศรษฐกิจ แผนที่ 6 พฒั นาการดา้ น ชว่ั โมงที่ 12-13 พฒั นาการดา้ นความสมั พันธ์ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งประเทศ ระหว่างประเทศ (2 ชว่ั โมง) 5. พฒั นาการดา้ นความสัมพนั ธร์ ะหว่างประเทศ หนว่ ยท่ี 3 แผนท่ี 7 การเขา้ รว่ มและ ชัว่ โมงที่ 14 การเขา้ ร่วมและบทบาทของไทยใน บทบาทของไทยในสงั คม บทบาทของไทยใน สงครามโลกคร้ังที่ 1 และสงครามโลกครัง้ ที่ 2 โลก สงครามโลกคร้งั ที่ 1 1. การเขา้ ร่วมสงครามโลกคร้งั ที่ 1 (2 แผน) สงครามโลกครั้งท่ี 2 และ 2. บทบาทของไทยในสงครามโลกคร้ังที่ 2 สงครามเย็น ชั่วโมงที่ 15 บทบาทของไทยในสงครามเย็น
หน่วยการเรยี นรู้ที่ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ช่วั โมงท่ี หมายเหตุ (2 ชว่ั โมง) 3. บทบาทของไทยในสงครามเย็น แผนท่ี 8 ความร่วมมือของ ชั่วโมงท่ี 16 ความรว่ มมือของไทยกบั ประเทศใน ไทยกบั ประเทศในเอเชีย เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวนั ออกเฉียงใต้และบทบาท 4. ความร่วมมอื ของไทยกับประเทศในเอเชยี ของไทยในสังคมโลกปัจจบุ ัน ตะวนั ออกเฉียงใต้ (2 ชัว่ โมง) ช่วั โมงท่ี 17 บทบาทของไทยในสังคมโลกปจั จุบนั 5. บทบาทของไทยในสังคมโลกปจั จุบนั หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 แผนท่ี 9 ภูมิปญั ญาไทย ชั่วโมงที่ 18-19 ภูมิปญั ญาไทย ภมู ปิ ญั ญาและวฒั นธรรม (2 ชว่ั โมง) 1. ภมู ปิ ัญญาไทย ไทยสมยั รัตนโกสนิ ทร์ แผนที่ 10 วฒั นธรรมไทย ช่ัวโมงท่ี 20-21 วฒั นธรรมไทย (2 แผน) (2 ชว่ั โมง) 2. วฒั นธรรมไทย ปรับเปลย่ี นชัว่ โมง ชัว่ โมงท่ี 22 การทดสอบกลางภาค ทดสอบตามความ เหมาะสม หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 แผนท่ี 11 พฒั นาการของ ชั่วโมงท่ี 23-24 พฒั นาการของทวปี ออสเตรเลยี และ พัฒนาการของภูมิภาค ทวีปออสเตรเลยี และโอเชีย โอเชยี เนยี ต่าง ๆ ของโลก เนีย 1. พัฒนาการของทวปี ออสเตรเลียและโอเชยี เนยี (6 แผน) (2 ช่วั โมง) แผนที่ 12 พฒั นาการของ ชว่ั โมงที่ 25-26 พัฒนาการของทวีปแอฟรกิ า ทวีปแอฟรกิ า 2. พฒั นาการของทวปี แอฟรกิ า (2 ชว่ั โมง) แผนที่ 13 พัฒนาการของ ชว่ั โมงที่ 27-28 พัฒนาการของทวีปยโุ รป ทวีปยโุ รป 3. พัฒนาการของทวปี ยโุ รป (2 ชว่ั โมง) แผนที่ 14 พัฒนาการของ ชว่ั โมงท่ี 29-30 พัฒนาการของทวปี อเมริกาเหนอื ทวีปอเมรกิ าเหนอื 4. พัฒนาการของทวปี อเมริกาเหนือ (2 ชั่วโมง)
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ชวั่ โมงท่ี หมายเหตุ แผนที่ 15 พฒั นาการของ ชั่วโมงท่ี 31-32 พัฒนาการของทวปี อเมรกิ าใต้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 ทวีปอเมริกาใต้ 5. พฒั นาการของทวปี อเมรกิ าใต้ ความขัดแย้งและความ (2 ชั่วโมง) ร่วมมอื ในครสิ ต์ศตวรรษ แผนท่ี 16 อทิ ธพิ ลของอารย ชว่ั โมงท่ี 33-34 อทิ ธพิ ลของอารยธรรมตะวันตก ที่ 20 ธรรมตะวนั ตก 6. อิทธิพลของอารยธรรมตะวันตก (2 แผน) (2 ช่ัวโมง) แผนท่ี 17 สงครามโลกครัง้ ท่ี ชั่วโมงท่ี 35 สงครามโลกครั้งท่ี 1 สงครามโลกคร้ังที่ 1 สงครามโลกครัง้ ที่ 2 และ 2 สงครามเย็น 1. สงครามโลกครง้ั ท่ี 1 (2 ชว่ั โมง) 2. สงครามโลกครั้งท่ี 2 ช่วั โมงท่ี 36 สงครามเย็น แผนท่ี 18 องค์การความ 3. สงครามเยน็ ร่วมมือระหว่างประเทศ ช่วั โมงท่ี 37-38 องคก์ ารความรว่ มมือระหวา่ ง (2 ช่วั โมง) ประเทศ 4. องคก์ ารความร่วมมือระหว่างประเทศ ช่วั โมงที่ 39-40 การทดสอบปลายภาค
สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ปฐมนเิ ทศและข้อตกลงในการเรยี น เวลา 1 ชว่ั โมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 4.1 เข้าใจความหมาย ความสำคญั ของเวลาและยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตร์ สามารถ ใชว้ ธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์มาวเิ คราะห์เหตกุ ารณต์ ่าง ๆ อยา่ งเป็นระบบ มาตรฐาน ส 4.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบันในด้านความสัมพันธแ์ ละการ เปลยี่ นแปลงของเหตกุ ารณ์อย่างตอ่ เนื่อง ตระหนักถงึ ความสำคญั และสามารถวิเคราะหผ์ ลกระทบทเ่ี กิดขนึ้ มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเปน็ มาของชนชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรกั ความ ภูมใิ จ และธำรงความเปน็ ไทย 2. ตัวชวี้ ดั ชัน้ ปี 1. วเิ คราะหเ์ รื่องราวเหตกุ ารณ์สำคญั ทางประวตั ิศาสตร์ได้อยา่ งมเี หตผุ ลตามวิธกี ารทาง ประวัตศิ าสตร์ (ส 4.1 ม. 3/1) 2. ใชว้ ธิ ีการทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาเร่ืองราวตา่ ง ๆ ทต่ี นสนใจ (ส 4.1 ม. 3/2) 3. อธบิ ายพฒั นาการทางสงั คม เศรษฐกิจ และการเมอื งของภมู ิภาคตา่ ง ๆ ในโลกโดยสงั เขป (ส 4.2 ม. 3/1) 4. วเิ คราะห์ผลของการเปล่ียนแปลงที่นำไปสู่ความร่วมมือและความขดั แย้งในคริสตศ์ ตวรรษ ที่ 20 ตลอดจนความพยายามในการขจัดปัญหาความขดั แยง้ (ส 4.2 ม. 3/2) 5. วเิ คราะหพ์ ฒั นาการของไทยสมยั รัตนโกสนิ ทรใ์ นด้านต่าง ๆ (ส 4.3 ม. 3/1) 6. วเิ คราะห์ปจั จยั ที่ส่งผลต่อความมั่นคงและความเจรญิ รงุ่ เรอื งของไทยในสมยั รตั นโกสินทร์ (ส 4.3 ม. 3/2) 7. วิเคราะหภ์ มู ิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมยั รตั นโกสินทร์ และอิทธิพลตอ่ การพัฒนาชาติไทย (ส 4.3 ม. 3/3) 8. วเิ คราะห์บทบาทของไทยในสมยั ประชาธิปไตย (ส 4.3 ม. 3/4) 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การจัดการเรียนรู้รายวิชาพ้ืนฐาน ประวัติศาสตร์ ม. 3 เป็นไปตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษา โดยได้กำหนดมาตรฐานการเรยี นร้ขู องรายวชิ า พ้ืนฐาน ประวัติศาสตร์ ม. 3 เป็น 3 มาตรฐาน และยังได้กำหนดตัวช้ีวัดช้ันปีท่ีสอดคล้องกับมาตรฐานการ เรยี นรู้ เพอื่ พฒั นานกั เรยี นใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้วี ัดทีห่ ลกั สตู รกำหนด
4. สาระการเรียนรู้ 1. เทคนคิ และวธิ กี ารจดั การเรียนรู้รายวชิ าพื้นฐาน ประวัตศิ าสตร์ 2. แนวทางการวัดและประเมินผลการเรียนรรู้ ายวิชาพืน้ ฐาน ประวตั ศิ าสตร์ 3. ตารางวิเคราะหม์ าตรฐานการเรยี นรู้และตวั ช้วี ัดชว่ งชน้ั กับสาระในหนว่ ยการเรยี นรู้ 4. คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ม. 3 5. โครงสร้างรายวิชาพืน้ ฐาน ประวัติศาสตร์ ม. 3 6. โครงสรา้ งเวลาเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ประวัติศาสตร์ ม. 3 5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ซ่อื สตั ย์สุจริต 3. มีวนิ ยั 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง 6. มุง่ มัน่ ในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย 8. มีจติ สาธารณะ 7. ภาระงาน/ชนิ้ งาน ภาระงานรวบยอด – การตอบคำถามเก่ยี วกับการจดั การเรยี นรูร้ ายวชิ าพืน้ ฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 3 – การอภปิ รายแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั การจดั การเรียนรู้รายวิชาพื้นฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 3
8. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) และคา่ นิยม (A) ประเมินพฤติกรรมในการ 1. ซักถามความร้เู ร่ือง ประเมินพฤติกรรมในการ ทำงานเป็นรายบคุ คลหรือ เป็นกลมุ่ ในด้านการส่ือสาร ปฐมนิเทศและข้อตกลง ทำงานเป็นรายบุคคลในด้าน การคดิ การแก้ปัญหา ฯลฯ ในการเรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน ความมวี นิ ัย ความใฝ่เรยี นรู้ ประวัติศาสตร์ ม. 3 ฯลฯ 2. ตรวจผลงาน/กิจกรรม เป็นรายบุคคลหรือเป็นกลมุ่ 9. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ชัว่ โมงท่ี 1 ขน้ั ที่ 1 นำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูสรา้ งบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมในการเรยี นร้ทู เี่ หมาะสมเพ่ือกระตุ้นใหน้ ักเรยี นอยากเรียนรู้ เช่น จดั นัง่ เรยี นแบบรูปตวั U นั่งเรยี นเป็นกลุ่ม นำนกั เรียนศึกษานอกห้องเรยี น เชน่ ห้องประชมุ หอ้ งโสตทัศน ศึกษา สนามหญ้าใตร้ ม่ ไม้ 2. ครแู นะนำตนเอง แลว้ ให้นักเรียนแนะนำตนเองตามลำดับตัวอักษร หรือตามลำดบั หมายเลข ประจำตัว หรือตามแถวที่นัง่ ตามความเหมาะสม 3. ครูให้ความรูท้ ว่ั ๆ ไปเกี่ยวกบั การจัดการเรียนรรู้ ายวชิ าพนื้ ฐาน ประวตั ิศาสตร์ พร้อมซกั ถาม นกั เรียนในประเด็นตา่ ง ๆ เช่น 1) ทำไมเราจึงตอ้ งเรียนวชิ าสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 2) วิชาประวตั ศิ าสตรม์ คี วามสำคัญและจำเปน็ ต่อเราหรือไม่ เพราะอะไร 4. ครสู รุปความรแู้ ล้วเชอ่ื มโยงไปสเู่ น้อื หาท่ีจะเรียน ข้ันที่ 2 กจิ กรรมการเรยี นรู้ 5. ครศู กึ ษาข้อมลู เร่ือง การจัดการเรยี นร้รู ายวิชาพน้ื ฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 3 โดยใช้ขอ้ มลู จากหนา้ สารบญั ในหนังสอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ประวัติศาสตร์ ม. 3 ของบริษัท สำนักพิมพว์ ัฒนาพานิช จำกดั จากนัน้ อธิบายเพ่ือทำความเข้าใจกบั นกั เรยี นในเร่อื งต่อไปนี้ (โดยใช้ข้อมูลจากตอนที่ 1 ) 1) คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 3 2) โครงสรา้ งรายวชิ าพ้ืนฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 3 3) โครงสร้างเวลาเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ม. 3 6. ครูบอกเทคนคิ และวธิ ีการจดั การเรยี นรรู้ ายวชิ าพ้นื ฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 3 โดยสรุปว่ามเี ทคนคิ และวิธกี ารเรียนรูอ้ ะไรบา้ ง (โดยใช้ขอ้ มูลจากตอนท่ี 1)
7. ครสู นทนาและซกั ถามนักเรียนเพือ่ ทำความเขา้ ใจถึงแนวทางการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ รายวชิ าพ้ืนฐาน ประวัติศาสตร์ ม. 3 (โดยใช้ขอ้ มูลจากตอนที่ 1) รวมทั้งเกณฑ์ตดั สินผลการเรยี นรู้ ในประเดน็ ตา่ ง ๆ เช่น 1) รายวิชาพ้นื ฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 3 มเี วลาเรียนเทา่ ไร 2) รายวชิ านีจ้ ะสอบและเก็บคะแนนอย่างไร เท่าไร 3) รายวิชาน้ีจะตัดสินผลการเรียนอย่างไร 8. ครูแนะนำการเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรียนรู้ทีจ่ ะใชป้ ระกอบการเรยี นรู้ รายวชิ าพน้ื ฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 3โดยใช้ขอ้ มูลจากหน้าบรรณานุกรมในหนงั สอื เรยี น รายวิชาพื้นฐาน ประวัติศาสตร์ ม. 3 ของบริษัท สำนักพมิ พ์วฒั นาพานิช จำกัด นอกจากน้ีครูแนะนำแหลง่ สบื ค้นความรขู้ ้อมูลเพม่ิ เติมเกย่ี วกับเร่ือง ตา่ ง ๆ ท่ไี ด้ระบไุ วใ้ นแตล่ ะหน่วยการเรียนรู้ในหนงั สอื เรยี น รายวิชาพืน้ ฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 3 ของบริษัท สำนกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จำกัด เพ่อื ทำความเข้าใจถึงแหล่งสืบคน้ ความรแู้ ตล่ ะอย่าง 9. ครูสนทนาและซักถามนักเรยี นและรว่ มกันทำข้อตกลงในการเรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ม. 3 1) เวลาเรยี น ตอ้ งเข้าเรยี นไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80 ของเวลาเรียนในรายวิชาน้ี หรอื ไมข่ าด เรยี นเกิน 3 ครงั้ กรณีป่วยต้องส่งใบลาโดยผ้ปู กครองลงช่อื รับรองการลา 2) ควรเขา้ ห้องเรยี นตรงเวลาและรักษามารยาทในการเรียน 3) เม่อื เร่มิ เรียนแต่ละหนว่ ยการเรียนรู้จะมีการทดสอบก่อนเรียน และหลงั จากเรียนจบแตล่ ะ หนว่ ยการเรยี นรู้แล้วจะมีการทดสอบหลงั เรียน 4) ในชัว่ โมงทม่ี ีการฝึกปฏิบัติงาน ควรเตรยี มวัสดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือให้พรอ้ ม โดยจดั หา ไวล้ ่วงหน้า 5) รบั ผิดชอบการเรยี น การสรา้ งชน้ิ งาน และการส่งงานตามเวลาท่กี ำหนด 6) รักษาความสะอาดบรเิ วณทปี่ ฏบิ ตั กิ จิ กรรม วสั ดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือให้พรอ้ ม โดย จัดหาไวล้ ว่ งหนา้ ข้นั ที่ 3 ฝึกฝนผเู้ รยี น 10. ครูให้นกั เรียนรว่ มกันอภิปรายแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั แหลง่ การเรียนรู้และแหลง่ สบื คน้ ความรู้ อ่ืน ๆ ทจี่ ะนำมาใช้ในการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาพนื้ ฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ม. 3 จากนนั้ ครูและนักเรียนร่วมกัน สรปุ และบนั ทึกผล ขัน้ ที่ 4 นำไปใช้ 11. ครูให้นักเรียนพจิ ารณาว่า จากหวั ข้อที่เรยี นมาและการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมมีเร่ืองอะไรบา้ งท่ียังไมเ่ ข้าใจ หรอื มีข้อสงสัย ถ้ามีครูช่วยอธบิ ายเพ่ิมเติมให้นักเรียนเข้าใจ 12. ครูให้นักเรียนรว่ มกันประเมินการปฏบิ ตั ิกิจกรรมวา่ มปี ัญหาหรอื อปุ สรรคใด และได้แกไ้ ขอยา่ งไร บ้าง
13. ครูใหน้ กั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับประโยชนท์ ไ่ี ด้รับจากการเรยี นหัวข้อน้ีและการ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 14. ครูใหน้ ักเรยี นนำประโยชนจ์ ากการเรียนรเู้ ร่ือง ปฐมนเิ ทศและข้อตกลงในการเรยี นรายวิชา พน้ื ฐาน ประวัติศาสตร์ ม. 3 ไปประพฤติปฏิบัติใหถ้ กู ตอ้ งเหมาะสมและสอดคล้องกับการจัดการเรยี นรู้ ขัน้ ท่ี 5 สรุป 15. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้เรือ่ ง ปฐมนิเทศและข้อตกลงในการเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ม. 3 โดยใหน้ ักเรียนบันทึกข้อสรุปลงในแบบบันทึกความรู้ หรือสรปุ เปน็ แผนทค่ี วามคิดหรือผัง มโนทัศน์ลงในสมุด พร้อมทัง้ ตกแต่งให้สวยงาม 16. ครมู อบหมายให้นักเรยี นอ่านเน้ือหาเกี่ยวกับวธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์เร่ือง หลักฐานทาง ประวตั ศิ าสตร์ เปน็ การบ้านเพ่ือเตรยี มจดั การเรียนรู้ในครง้ั ตอ่ ไป 10. สอื่ การเรียนรู/้ แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 3 บรษิ ัท สำนกั พมิ พ์วัฒนาพานชิ จำกัด 2. คู่มือการสอน ประวตั ศิ าสตร์ ม. 3 บรษิ ัท สำนกั พิมพ์วฒั นาพานชิ จำกัด 3. สอื่ การเรยี นรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้ืนฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 3 บริษัท สำนกั พิมพ์วฒั นาพานิช จำกัด 11. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ความสำเรจ็ ในการจดั การเรยี นรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปญั หา/อุปสรรคในการจัดการเรยี นรู้ แนวทางแกไ้ ข 3. สิ่งทีไ่ มไ่ ด้ปฏบิ ัติตามแผน เหตผุ ล 4. การปรบั ปรุงแผนการจดั การเรยี นรู้ ลงชอ่ื ผ้สู อน //
ผงั มโนทศั น์เป้าหมายการเรยี นรแู้ ละขอบขา่ ยภาระงาน/ชิน้ งาน ด้านความรู้ 1. หลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ 2. วธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์ 3. ตัวอย่างการวิเคราะห์เหตกุ ารณ์สำคญั ในสมยั รตั นโกสนิ ทร์ 4. ตัวอยา่ งการใชว้ ิธีการทางประวัตศิ าสตร์ ด้านทักษะ/กระบวนการ วิธีการ ด้านคุณธรรม จริยธรรม 1. การสอ่ื สาร ทางประวตั ิศาสตร์ และค่านิยม 2.1การคิด 3. การแกป้ ัญหา 1. ซ่ือสัตย์สุจรติ 4. การใชเ้ ทคโนโลยี 2. มวี นิ ัย 5. กระบวนการกลุม่ 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มีความรบั ผดิ ชอบ ภาระงาน/ชน้ิ งาน 1. การทำแบบทดสอบ 2. การอภปิ รายเร่อื ง หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ 3. การสืบคน้ กรณีตัวอยา่ งโดยใช้วธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ และ วิเคราะหเ์ หตกุ ารณส์ ำคญั สมัยรัตนโกสนิ ทร์ 4. การทำใบงาน 5. การนำเสนอผลงาน
ผงั การออกแบบการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 วิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ ข้นั ท่ี 1 ผลลัพธป์ ลายทางทต่ี ้องการใหเ้ กิดขึ้นกับนักเรยี น ตัวชี้วัดชนั้ ปี 1. วเิ คราะหเ์ รือ่ งราวเหตุการณส์ ำคญั ทางประวัติศาสตร์ได้อยา่ งมเี หตุผลตามวธิ กี ารทางประวัติศาสตร์ (ส 4.1 ม. 3/1) 2. ใช้วธิ กี ารทางประวตั ิศาสตรใ์ นการศึกษาเร่ืองราวตา่ ง ๆ ท่ตี นสนใจ (ส 4.1 ม. 3/2) ความเขา้ ใจทค่ี งทนของนกั เรียน คำถามสำคญั ที่ทำให้เกดิ ความเขา้ ใจที่คงทน นักเรยี นจะเข้าใจวา่ ... 1. หลักฐานทางประวัตศิ าสตรเ์ ป็นเครอื่ งมือท่ีชว่ ย 1. หลักฐานทางประวัติศาสตรม์ ปี ระโยชนต์ ่อ ในการอธิบายเหตุการณ์ในประวตั ศิ าสตร์ การศึกษาประวัติศาสตรอ์ ย่างไร 2. การศึกษาประวัติศาสตรต์ ้องใช้วธิ ีการทาง 2. วิธกี ารทางประวัติศาสตรม์ ีความสำคญั ต่อ ประวัตศิ าสตร์ ซ่งึ วิธีการน้ีตอ้ งอาศัยหลักฐาน การศกึ ษาประวตั ศิ าสตร์อย่างไร ทาง ประวตั ศิ าสตร์เพ่ือค้นหาข้อมลู ต่าง ๆ อนั จะ นำไปส่กู ารสรปุ ขอ้ เทจ็ จรงิ ทางประวัติศาสตร์ ความรู้ของนกั เรยี นทน่ี ำไปส่คู วามเขา้ ใจท่ีคงทน ทกั ษะ/ความสามารถของนักเรียนทนี่ ำไปสคู่ วาม นกั เรยี นจะรู้ว่า... เขา้ ใจที่คงทน นกั เรียนจะสามารถ... 1. คำสำคญั ได้แก่ หอจดหมายเหตุ อทุ ยาน- 1. อภิปรายหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ 2. วิเคราะหว์ ิธีการทางประวัติศาสตร์และ 2. หลักฐานทางประวตั ิศาสตร์เป็นร่องรอยการ นำมาใชศ้ กึ ษาเรื่องราวทางประวัตศิ าสตร์ กระทำของมนุษย์ในอดีตท่ียงั คงหลงเหลืออยู่ ใน 3. ยกตวั อยา่ งเหตุการณ์สำคัญสมัยรตั นโกสินทร์ ปจั จบุ นั การแบง่ ประเภทของหลกั ฐานทาง และใชว้ ธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์ศกึ ษาเร่อื งราวที่ ประวัติศาสตร์มี 2 วธิ ี ไดแ้ ก่ แบ่งตามความสำคญั ตนสนใจ ของหลักฐาน มี 2 ประเภท ไดแ้ ก่ หลักฐานช้ันต้น หรือช้นั ปฐมภมู ิและหลกั ฐานชนั้ รองหรือหลกั ฐานช้นั ทตุ ยิ ภูมิ และแบง่ ตามรปู ลักษณะของหลักฐาน มี 2 ประเภท ไดแ้ ก่ หลักฐานท่เี ป็นลายลกั ษณอ์ กั ษรและ หลักฐานท่ไี ม่เป็นลายลักษณ์อักษร 3. วิธีการทางประวัตศิ าสตร์เปน็ กระบวนการ ในการแสวงหาข้อเท็จจริงจากหลักฐานซง่ึ เปน็ ร่องรอยจากอดีตท่หี ลงเหลอื อยู่ วธิ ีการทาง ประวัตศิ าสตร์ที่สำคญั มี 5 ขั้นตอน ไดแ้ ก่ การ
กำหนดปญั หาหรือเรอื่ งท่จี ะศึกษา การรวบรวม หลกั ฐาน การตรวจสอบและประเมนิ คุณคา่ ของ หลกั ฐาน การตคี วามหลักฐาน และการเรียบเรียง และการนำเสนอ 4. การวเิ คราะห์ตัวอยา่ งเหตุการณส์ ำคัญในสมัย รัตนโกสนิ ทร์ เราสามารถนำวธิ กี ารทาง ประวัติศาสตรม์ าใชใ้ นการวิเคราะหไ์ ด้ 5. เราสามารถนำวิธีการทางประวตั ิศาสตร์มา ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการศกึ ษาเร่ืองราวของตนเอง และ ครอบครัวได้ ขน้ั ท่ี 2 ภาระงานและการประเมินผลการเรยี นรซู้ ่ึงเป็นหลกั ฐานทแี่ สดงว่านักเรียนมีผลการเรยี นรู้ ตามทก่ี ำหนดไวอ้ ย่างแทจ้ ริง 1. ภาระงานทน่ี กั เรยี นต้องปฏบิ ัติ 1.1 อภิปรายเรือ่ ง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ 1.2 สืบคน้ กรณตี ัวอยา่ งโดยใชว้ ธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์และวิเคราะหเ์ หตกุ ารณส์ ำคญั สมัยรัตนโกสนิ ทร์ 2. วิธีการและเคร่อื งมือประเมินผลการเรยี นรู้ 2.1 วธิ กี ารประเมินผลการเรียนรู้ 2.2 เครือ่ งมอื ประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1) การทดสอบ 1) แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 2) การประเมินผลงาน/กจิ กรรม 2) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรม เปน็ รายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม เป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม 3) การประเมินดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม 3) แบบประเมินดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ ม และค่านยิ ม 4) การประเมนิ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 4) แบบประเมินดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 3. สงิ่ ที่ม่งุ ประเมิน 3.1 ความเขา้ ใจ 6 ด้าน ไดแ้ ก่ การอธบิ าย ชีแ้ จง การแปลความและตีความ การประยุกต์ ดดั แปลง และนำไปใช้ การมีมุมมองท่ีหลากหลาย การให้ความสำคญั ใส่ใจในความรสู้ กึ ของผอู้ ่ืน และการรูจ้ กั ตนเอง 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ เชน่ การสื่อสาร การใชเ้ ทคโนโลยี การคดิ การแก้ปญั หา กระบวนการกลุม่ 3.3 คณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นยิ ม เชน่ มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ อยูอ่ ย่างพอเพียง รักความเป็นไทย รัก ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ มจี ิตสาธารณะ ซ่ือสัตย์สุจริต มีความรบั ผิดชอบ ข้นั ท่ี 3 แผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 หลักฐานทางประวัติศาสตร์ เวลา 2 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 วิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ เวลา 2 ชว่ั โมง
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เวลา 2 ชั่วโมง หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 สาระท่ี 4 ประวตั ศิ าสตร์ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 วิธีการทางประวัตศิ าสตร์ 1. สาระสำคญั หลักฐานทางประวัติศาสตร์เป็นร่องรอยการกระทำของมนุษย์ในอดีตที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน การแบ่งประเภทของหลักฐานทางประวัติศาสตร์มี 2 วิธี ได้แก่ แบ่งตามความสำคัญของหลักฐาน มี 2 ประเภท ได้แก่ หลักฐานชั้นต้นหรือช้ันปฐมภูมิและหลักฐานช้ันรองหรือหลักฐานชั้นทุติยภูมิ และแบ่งตาม รูปลกั ษณะของหลกั ฐาน มี 2 ประเภท ไดแ้ ก่ หลกั ฐานที่เปน็ ลายลักษณ์อกั ษรและหลกั ฐานทีไ่ ม่เป็นลายลกั ษณ์ อกั ษร 2. ตวั ชว้ี ัดช้นั ปี 1. วเิ คราะห์เร่ืองราวเหตกุ ารณส์ ำคญั ทางประวัตศิ าสตร์ได้อย่างมเี หตผุ ลตามวธิ กี ารทางประวตั ิศาสตร์ (ส 4.1 ม. 3/1) 2. ใชว้ ิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์ในการศึกษาเร่ืองราวตา่ ง ๆ ทีต่ นสนใจ (ส 4.1 ม. 3/2) 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมาย ความสำคัญ และประเภทของหลักฐานทางประวตั ิศาสตรไ์ ด้ (K) 2. เหน็ คณุ คา่ และตระหนักในความสำคญั ของหลักฐานทางประวัตศิ าสตร์ (A) 3. รว่ มกนั อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตรไ์ ด้ (P) 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม และ ดา้ นความรู้ (K) ค่านยิ ม (A) ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) • ประเมินพฤติกรรมในการ 1. ทดสอบกอ่ นเรยี น • ประเมินพฤติกรรมในการ ทำงานเป็นรายบุคคลหรือ 2. ซักถามความรู้เร่ือง ทำงานเปน็ รายบคุ คลในด้าน เปน็ กลุ่มในด้านการสื่อสาร การคิด การแก้ปญั หา ฯลฯ หลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ ความมีวินยั ความใฝ่เรียนรู้ 3. ตรวจผลงาน/กิจกรรม ฯลฯ เป็นรายบุคคลหรอื เป็นกลุ่ม
5. สาระการเรียนรู้ • หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ 1. แบ่งตามความสำคัญของหลักฐาน 2. แบ่งตามรปู ลักษณะของหลักฐาน 6. แนวทางการบูรณาการ ฟัง พดู อา่ น และเขยี นข้อมูลเกย่ี วกับหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ ภาษาไทย สบื ค้นขอ้ มลู เก่ียวกับหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรจ์ ากอนิ เทอร์เนต็ การงานอาชีพฯ 7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขน้ั ที่ 1 นำเขา้ สู่บทเรยี น ช่ัวโมงที่ 2–3 1. ครูแจง้ ตวั ชี้วดั ชัน้ ปีและจุดประสงคก์ ารเรยี นร้ใู ห้นักเรยี นทราบ 2. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 3. ครูให้นักเรยี นดูภาพอนสุ าวรีย์ประชาธิปไตย แล้วซกั ถามว่าเป็นหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ได้ หรือไม่ ให้นักเรียนชว่ ยกนั ตอบ โดยใช้ขอ้ มลู จากเรื่องท่ีได้รบั มอบหมายใหไ้ ปอ่านมา จากนนั้ ครอู ธบิ ายสรุป เพือ่ เชื่อมโยงเข้าสู่เนื้อหาทีจ่ ะเรียน ขน้ั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 4. ครสู นทนากับนักเรียนเก่ยี วกบั หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ 5. ครจู ัดการเรยี นรู้แบบอภปิ ราย โดยปฏบิ ัติตามข้นั ตอน ดังน้ี ขน้ั ดำเนินการอภิปราย 1) ครแู จง้ หัวขอ้ วัตถปุ ระสงค์ และรปู แบบการอภปิ รายให้นักเรยี นทราบ 2) ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6–8 คน โดยแตล่ ะกลุ่มเลือกประธาน 1 คน เลขานุการ กลุ่ม 1 คน เป็นผ้จู ดบันทกึ ความคดิ เห็นของกลุ่ม 3) ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มดำเนินการอภปิ รายตามหัวข้อท่ีครูกำหนด ในขณะทก่ี ลุ่มดำเนนิ การ อภิปราย ครูคอยสังเกตและกระตุ้นใหท้ ุกคนได้แสดงความคิดเห็นกนั อยา่ งเต็มท่ี (1) หลักฐานทางประวตั ิศาสตร์มคี วามสำคญั อยา่ งไร (2) หลักฐานทางประวัตศิ าสตรแ์ บ่งออกเป็นกป่ี ระเภท อะไรบ้าง (3) หลักฐานชนั้ รองหมายถงึ อะไร (4) จดหมายเหตเุ ป็นหลกั ฐานชน้ั ต้นหรอื หลักฐานชัน้ รอง เพราะอะไร (5) หลักฐานท่เี ป็นลายลักษณ์อักษรมอี ะไรบ้าง
ขนั้ สรปุ การอภิปราย 1) ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มบันทึกผลการอภปิ ราย 2) ตัวแทนกลมุ่ นำเสนอผลการอภปิ รายหนา้ ช้นั เรียน 3) เปิดโอกาสให้ผู้ฟังซกั ถามข้อสงสัย ผอู้ ภิปรายตอบคำถาม ครูคอยช่วยเหลอื ให้คำแนะนำ ข้ันสรุปผล ครูสรุปผลการอภปิ รายของนักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม 6. ในขณะปฏิบัตกิ จิ กรรมของนกั เรยี น ให้ครูสังเกตพฤติกรรมในการทำงานและการนำเสนอผลงาน ของนักเรยี นตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเปน็ รายบคุ คลหรือเป็นกลุ่ม 7. ครูให้นกั เรยี นสืบค้นข้อมลู เกี่ยวกับหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ทเ่ี ป็นลายลักษณ์อักษรของประเทศ สมาชกิ อาเซียน บันทกึ ผลวา่ มีหลกั ฐานอะไรบา้ ง แลว้ นำมาแลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ ันในชั้นเรียน ขัน้ ท่ี 3 ฝึกฝนผ้เู รียน 8. ครูใหน้ ักเรียนทำใบงานท่ี 1 เรือ่ ง หลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ แล้วชว่ ยกันเฉลยคำตอบท่ีถูกต้อง 9. ครใู หน้ ักเรยี นทำกิจกรรมทเ่ี กยี่ วกบั หลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ แลว้ ชว่ ยกนั เฉลยคำตอบท่ีถูกต้อง 10. ครูใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมท่ีเก่ยี วกบั หลักฐานทางประวัตศิ าสตร์ ในแบบฝึกทักษะ รายวชิ าพนื้ ฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ม. 3 ของบริษัท สำนกั พิมพ์วฒั นาพานิช จำกัด แลว้ ชว่ ยกนั เฉลยคำตอบที่ถูกต้อง ขน้ั ท่ี 4 นำไปใช้ 11. ครแู นะนำให้นกั เรียนนำความรูเ้ รือ่ ง หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวัน และ เผยแพรใ่ หบ้ คุ คลอ่ืนรแู้ ละเขา้ ใจ ขัน้ ที่ 5 สรุป 12. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปความรูเ้ รื่อง หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ โดยให้นักเรียนสรุปลงใน สมดุ 13. ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นอ่านเน้ือหาเรือ่ ง วธิ กี ารทางประวัติศาสตรแ์ ละสืบค้นข้อมูลเพ่ือตอบ คำถามวา่ เราใช้วธิ ีการใดในการศึกษาประวตั ิศาสตร์ เป็นการบ้านเพ่ือเตรยี มจดั การเรียนร้ใู นครั้งต่อไป 8. กิจกรรมเสนอแนะ ë ครูใหน้ กั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 4–6 คน แตล่ ะกลมุ่ หาข่าวเก่ียวกบั การค้นพบหลกั ฐานทาง ประวตั ศิ าสตร์ แลว้ ร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ 9. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น 2. ภาพอนุสาวรยี ์ประชาธิปไตย 3. ใบงานที่ 1 เรือ่ ง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ 4. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทำงานเป็นรายบคุ คลหรือเป็นกลุ่ม
5. หนงั สอื เรียน รายวิชาพนื้ ฐาน ประวัติศาสตร์ ม. 3 บริษทั สำนกั พิมพ์วฒั นาพานชิ จำกดั 6. แบบฝกึ ทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ม. 3 บรษิ ทั สำนกั พมิ พว์ ัฒนาพานชิ จำกดั 7. คู่มอื การสอน ประวตั ศิ าสตร์ ม. 3 บริษทั สำนกั พมิ พ์วฒั นาพานชิ จำกดั 8. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพืน้ ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ม. 3 บริษทั สำนกั พมิ พ์วฒั นาพานชิ จำกัด 10. บันทึกหลังการจดั การเรียนรู้ 1. ความสำเรจ็ ในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปญั หา/อุปสรรคในการจดั การเรยี นรู้ แนวทางแก้ไข 3. สิง่ ทีไ่ ม่ไดป้ ฏบิ ัติตามแผน เหตุผล 4. การปรบั ปรงุ แผนการจดั การเรียนรู้ ลงชื่อ ผสู้ อน //
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2 เวลา 2 ชว่ั โมง วิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 สาระท่ี 4 ประวัตศิ าสตร์ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 วิธีการทางประวัตศิ าสตร์ 1. สาระสำคัญ วธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์เปน็ กระบวนการในการแสวงหาข้อเทจ็ จริงจากหลักฐานซ่ึงเป็นร่องรอยจาก อดตี ที่หลงเหลืออยู่ วิธีการทางประวัตศิ าสตร์มี 5 ขั้นตอน ได้แก่ การกำหนดปัญหาหรือเร่ืองท่ีจะศกึ ษา การ รวบรวมหลกั ฐาน การตรวจสอบและประเมนิ คณุ ค่าของหลักฐาน การตีความหลักฐาน และการเรยี บเรียงและ การนำเสนอ การวิเคราะหต์ ัวอยา่ งเหตุการณส์ ำคัญในสมยั รัตนโกสนิ ทร์ เราสามารถนำวิธีการทางประวัตศิ าสตรม์ า ใช้ในการวิเคราะหไ์ ด้ นอกจากน้ีเรายังสามารถนำวธิ ีการทางประวัติศาสตรม์ าประยุกตใ์ ช้ในการศึกษาเรื่องราว ของตนเองและครอบครัวได้ 2. ตวั ชวี้ ดั ช้ันปี 1. วิเคราะหเ์ รื่องราวเหตุการณส์ ำคัญทางประวัตศิ าสตร์ได้อยา่ งมีเหตุผลตามวธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์ (ส 4.1 ม. 3/1) 2. ใช้วิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ในการศึกษาเรื่องราวตา่ ง ๆ ที่ตนสนใจ (ส 4.1 ม. 3/2) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมาย ความสำคญั และขน้ั ตอนของวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ได้ (K) 2. เห็นความสำคญั ของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ (A) 3. ยกตัวอย่างและวิเคราะหเ์ รอ่ื งราวเหตกุ ารณส์ ำคญั ทางประวัตศิ าสตร์โดยใชว้ ิธีการทาง ประวตั ศิ าสตรไ์ ด้ (P) 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และ ด้านความรู้ (K) คา่ นิยม (A) ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) • ประเมนิ พฤติกรรมในการ 1. ทดสอบหลังเรยี น • ประเมินพฤติกรรมในการ ทำงานเปน็ รายบคุ คลหรือ 2. ซกั ถามความรเู้ รื่อง ทำงานเป็นรายบุคคลในดา้ น เป็นกลุม่ ในด้านการส่ือสาร การคดิ การแก้ปัญหา ฯลฯ วิธีการทางประวตั ิศาสตร์ ความมวี ินัย ความใฝ่เรียนรู้ 3. ตรวจผลงาน/กจิ กรรม ฯลฯ
เปน็ รายบคุ คลหรือเป็นกลุ่ม 5. สาระการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์ 2. ตวั อย่างการวเิ คราะห์เหตุการณส์ ำคญั ในสมัยรตั นโกสนิ ทร์ 3. ตวั อย่างการใช้วธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์ 6. แนวทางการบูรณาการ ฟัง พดู อา่ น และเขยี นข้อมลู เก่ียวกับวธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์ ภาษาไทย สืบค้นข้อมลู เกยี่ วกับวธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตรจ์ ากอนิ เทอรเ์ นต็ การงานอาชพี 7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ 4 ข้ันที่ 1 นำเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครแู จง้ ตวั ชีว้ ัดช้ันปแี ละจุดประสงค์การเรยี นรูใ้ หน้ ักเรยี นทราบ 2. ครตู ง้ั ประเด็นคำถาม แล้วซักถามนักเรียนวา่ เราใชว้ ธิ กี ารใดในการศกึ ษาประวัติศาสตร์ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั ตอบ โดยใชข้ อ้ มลู จากเร่ืองที่ได้รบั มอบหมายให้ไปอา่ นมา จากน้ันครูสรปุ เพอื่ เช่ือมโยงเขา้ สู่ เน้ือหาทจี่ ะเรยี น ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ วธิ กี ารทางประวตั ิศาสตร์ 3. ครอู ธิบายเรอ่ื ง วธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ จากนั้นซักถามนักเรียนในประเดน็ ต่าง ๆ เช่น 1) วิธกี ารทางประวตั ศิ าสตรห์ มายถงึ อะไร 2) วิธกี ารทางประวตั ศิ าสตร์สำคัญต่อการศึกษาประวัตศิ าสตร์อยา่ งไร 3) ข้นั ตอนวธิ ีการทางประวตั ิศาสตรม์ ีอะไรบ้าง 4) เราสามารถศึกษาประวตั ศิ าสตร์โดยไมใ่ ชว้ ิธกี ารทางประวัติศาสตรไ์ ด้ หรอื ไม่ อย่างไร 4. ครใู ห้นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ ดังกล่าว จากนั้นสรปุ สาระสำคญั ลงใน แบบบนั ทกึ ความรู้ 5. ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับตวั อย่างการวิเคราะห์เหตกุ ารณส์ ำคัญในสมัย รตั นโกสินทร์และตัวอย่างการใช้วิธีการทางประวตั ิศาสตร์เป็นการบา้ นเพ่ือเตรยี มจัดการเรียนรใู้ นครง้ั ต่อไป ชั่วโมงท่ี 5
ตวั อย่างการวิเคราะห์เหตุการณส์ ำคัญในสมยั รตั นโกสินทรแ์ ละตวั อย่างการใช้วิธกี ารทาง ประวัตศิ าสตร์ 6. ครูทบทวนเก่ียวกบั วิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ จากนน้ั เปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นซกั ถามข้อ สงสยั จากเรือ่ งท่ีไดร้ ับมอบหมายให้ไปอา่ นมา 7. ครใู ห้ความรแู้ ก่นักเรียนเกี่ยวกบั ตวั อย่างการวิเคราะห์เหตุการณส์ ำคัญในสมัย รตั นโกสนิ ทร์และตัวอย่างการใชว้ ธิ ีการทางประวัติศาสตร์ศึกษาเร่ืองราวของตนเองและครอบครวั 8. ครสู ุ่มเลือกนกั เรียน 2-3 คน ออกมาสรุปเน้ือเน้ือหาเก่ียวกบั ตัวอยา่ งการวเคราะห์ เหตกุ ารณส์ ำคัญในสมัยรัตนโกสนิ ทรแ์ ละตัวอยา่ งการใชว้ ธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ จากน้ันเพ่ือน ๆ รว่ มกัน แสดงความคิดเหน็ 9. ครูให้นกั เรยี นเลอื กเร่ืองราวเก่ียวกับประเทศสมาชิกอาเซียนหรือเรอื่ งราวเกี่ยวกบั ASEAN ที่สนใจ แล้วใช้วิธีการทางประวตั ศิ าสตร์ในการศึกษาเร่อื งราว เก็บไว้เปน็ ความรเู้ สริม ขั้นที่ 3 ฝึกฝนผูเ้ รยี น 10. ครูให้นกั เรียนทำใบงานที่ 2 เรอื่ ง วิธีการทางประวัติศาสตร์ แล้วช่วยกนั เฉลยคำตอบทถี่ กู ต้อง 11. ครูให้นักเรยี นทำกิจกรรมเรือ่ ง วธิ กี ารทางประวัติศาสตร์ ในแบบฝึกทักษะ รายวิชาพ้ืนฐาน ประวัติศาสตร์ ม. 3 ของบริษัท สำนักพมิ พ์วัฒนาพานชิ จำกดั แล้วชว่ ยกนั เฉลยคำตอบที่ถูกต้อง ขั้นท่ี 4 นำไปใช้ 12. ครูใหน้ ักเรยี นนำวธิ ีการทางประวัติศาสตร์มาใชใ้ นการศึกษาเร่ืองราวของตนเองและครอบครัว 13. ครูแนะนำใหน้ กั เรยี นนำความรูเ้ ร่ือง วิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์ ไปปฏบิ ัตแิ ละเผยแพรค่ วามรใู้ ห้ ผอู้ ่นื ไดร้ ู้และเข้าใจ ขั้นท่ี 5 สรุป 14. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรุปความร้เู ร่อื ง วธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ โดยให้นกั เรียนสรุปลงในสมุด หรือเขียนเป็นแผนที่ความคิด พรอ้ มตกแต่งใหส้ วยงาม 15. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น แล้วชว่ ยกนั เฉลยคำตอบท่ีถกู ต้อง 16. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ประจำหนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 ใน แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ม. 3 ของบริษัท สำนักพิมพว์ ฒั นาพานชิ จำกดั เพ่ือประเมินผล การเรียนรู้ด้านความรู้ ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม และดา้ นทักษะ/กระบวนการของนักเรยี น 17. ครูมอบหมายให้นักเรียนอ่านเนอ้ื หาในหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 พัฒนาการของไทยในสมัย รตั นโกสนิ ทรเ์ ร่อื ง การสถาปนากรงุ รัตนโกสนิ ทร์ เป็นการบ้านเพอื่ เตรยี มจัดการเรยี นรูใ้ นครง้ั ต่อไป 8. กิจกรรมเสนอแนะ ë ครใู ห้นกั เรียนสบื ค้นข้อมลู เพิม่ เติมเกีย่ วกับวิธีการทางประวัติศาสตร์ แล้วนำมาอภปิ รายแสดงความ คดิ เห็นร่วมกันในชนั้ เรยี น
9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบหลังเรยี น 2. แบบบนั ทกึ ความรู้ 3. ใบงานท่ี 2 เร่อื ง วธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์ 4. หนังสือเรยี น รายวชิ าพื้นฐาน ประวตั ิศาสตร์ ม. 3 บริษทั สำนกั พิมพ์วัฒนาพานิช จำกดั 5. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน ประวัติศาสตร์ ม. 3 บรษิ ัท สำนักพิมพว์ ัฒนาพานชิ จำกัด 6. คู่มือการสอน ประวตั ศิ าสตร์ ม. 3 บริษทั สำนักพมิ พ์วฒั นาพานชิ จำกดั 7. ส่อื การเรยี นรู้ PowerPoint รายวิชาพื้นฐาน ประวัติศาสตร์ ม. 3 บรษิ ัท สำนกั พิมพ์วัฒนาพานชิ จำกัด 10. บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้ 1. ความสำเร็จในการจัดการเรยี นรู้ แนวทางการพัฒนา 2. ปัญหา/อปุ สรรคในการจัดการเรยี นรู้ แนวทางแกไ้ ข 3. สง่ิ ทไ่ี มไ่ ด้ปฏิบัตติ ามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจัดการเรยี นรู้ ลงช่อื ผูส้ อน / /
Search
Read the Text Version
- 1 - 30
Pages: