โครงการสอนและกาหนดการสอน รายวิชา พระพุทธศาสนา 1 (ส 21102) ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 ของ พระครปู รชี าปริยัตยาทร,ดร. ตาแหนง่ ครูพิเศษ กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรยี นวัดพระแก้วดอนเต้าสุขาดาราม สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาเขต 1 ลาปาง รหัสวิชำ ส2๑๑๐๒ คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน ภำคเรยี นท่ี ๑ รำยวชิ ำ พระพุทธศำสนำ ๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สังคม ศำสนำ และวัฒนธรรม
ชนั้ มธั ยมศึกษำปีที่ ๑ เวลำ 6๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.5 หนว่ ยกิต ................................................................................................ ศึกษาความสําคัญของหลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนาในเร่อื ง ธรรมมีอปุ การะมาก 2 ธรรม เป็นโลกบาล 2 ธรรมอันทําให้งาม 2 บุคคลหาได้ยาก 2 รตนะ 3 คุณของรตนะ 3 อาการท่ี พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน 3 โอวาทของ พระพุทธเจ้า 3 ทุจริต 3 สุจริต 3 อกุศลมูล 3 กุศลมูล 3 สัปปุริสบัญญัติ3 อปัณณกปฏิปทา 3 บุญกิริยาวัตถุ3 สามญั ลักษณะ 3 วุฑฒิ4 จักร 4 อคต4ิ อันตรายของพระภิกษุสามเณรผู้บวชใหม่ 4 ปธาน 4 อธิษฐานธรรม 4 อิทธิ บาท 4 ควรทําความไม่ ประมาทในที่ 4 สถาน ควรทําความไมป่ ระมาทในท่ี 4 สถาน (อกี อย่างหนึ่ง) ปารสิ ุทธิศลี 4 อารกั ขกมั มัฏฐาน 4 พรหมวิหาร 4 สติปัฏฐาน 4 ธาตุกัมมฏั ฐาน 4 อรยิ สจั 4 ศึกษาความสาํ คญั ของพุทธประวตั ิในเร่ือง อาณาจักรต่างๆ วรรณะ 4 ความคดิ เห็น ลทั ธิ พื้นเมือง สรุปชื่อ แคว้นและชื่อเมืองหลวงในคร้ังพุทธกาล วิธีการปกครอง ศากยวงศ์ เหตุที่ประสูติที่ ลุมพินีวัน อภินิหารของพระ มหาบุรุษ อสิตดาบสเข้าเฝ้า ขนานพระนาม พระมารดาทิวงคต ได้ปฐมฌานในวันแรกนาขวัญ ศึกษาศิลปวิทยา อภิเษกสมรส พระประยูรญาติ ศึกษาความสําคัญของ เหตุเกิดศาสนพิธี ประเภทของศาสนพิธี พิธีแสดงตนเป็น พุทธมามกะ เหตุผลและโอกาสในการแสดง ตนเป็นพุทธมามกะ ระเบียบพิธีในการแสดงตนเป็นพุทธมามกะ พิธี รกั ษาอุโบสถศลี พิธเี วยี นเทียนใน วันสําคญั ทางพระพทุ ธศาสนา ศึกษาความสําคัญของปฐมเหตุพระวินัยบัญญัติในเร่ือง วิธีอุปสมบท วิธีการอุปสมบทด้วย ญัตติจตุตถ กรรม อนุศาสน์ 8 อย่าง สิกขา 3 สงฆ์มี 2 ประเภท อัฏฐวาจิกาอุปสัมปทา (การบวช ภิกษุณี), การบัญญัติพระ วินัย อาบัติ ประเภทของอาบัติ สมุฏฐานแห่งอาบัติ อาบัติเพ่งโดยเจตนา 2 อย่าง โทษของอาบัติ อาการที่ต้อง อาบัติ 6 อย่าง หลักการปฏิบัติในการออกจากอาบัติ อาการท่ีทรง บัญญัติพระวินัย อานิสงส์แห่งการปฏิบัติตาม พระวินัยจุดมุ่งหมายของการ ญญัติพระวินัย 8 อย่าง ประโยชน์ของการบัญญัติพระวินัย มังสะ (เน้ือ) 10 อย่าง ท่ี ห้ามภกิ ษฉุ นั วินยั 2 ประเภท โดยใช้กระบวนการสอนพุทธวิธีการปฏิบัติงานกลุ่ม การสรา้ งความคิดรวบยอด การฝึก กระบวนการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนส่ือความหมายอยา่ งมวี ิจารณญาณ การแก้ปัญหา การเรียนรู้เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ความคิด และสามารถนําความรทู้ ี่ได้ไปเป็นแนวทางใน การแก้ปัญหาการดําเนนิ ชวี ิต ตระหนักและเห็นคุณค่าพระพุทธศาสนา มีศัรทธาที่ถูกต้อง ปฏิบัติตามหลักธรรมทาง พระพุทธศาสนา และนาํ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาํ วนั มีคณุ ธรรม จริยธรรม มคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์และ ค่านิยมทเ่ี หมาะสม ตามสมณสารูป ผลการเรยี นรู้ 1 1. ร้แู ละเข้าใจหลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนาในธรรมวภิ าค ทุกะ หมวด 2 2. ร้แู ละเข้าใจหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในธรรมวิภาค ตกิ ะ หมวด 3
3. รแู้ ละเข้าใจหลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนาในธรรมวิภาค จตกุ กะ หมวด 4 รวมท้งั หมด 3 ผลการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ 2. 1.ร้แู ละเข้าใจพุทธประวัติบทที่ 1 ชมพูทวปี และประชาชน 2. รู้และเขา้ ใจพทุ ธประวัตบิ ทท่ี 2 สักกชนบทและศากยวงศ์ 3. รแู้ ละเขา้ ใจพุทธประวตั บิ ทที่ 3 พระศาสดาประสตู ิ รวมทง้ั หมด 3 ผลการเรยี นรู้ ผลการเรียนรู้ 3 1. ร้แู ละเขา้ ใจเหตเุ กิดและประเภทศาสนพธิ ี 2. รแู้ ละเข้าใจศาสนพธิ หี มวดท่ี 1 กุศลพิธี รวมทง้ั หมด 2 ผลการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ 4 1.รู้และเขา้ ใจปฐมเหตพุ ระวินัยบญั ญตั ิกณั ฑท์ ี่ 1 อุปสัมปทา 2. รูแ้ ละเข้าใจปฐมเหตุพระวนิ ัยบัญญตั กิ ณั ฑท์ ี่ 2 พระวนิ ยั รวมทั้งหมด 2 ผลการเรยี นรู้ โครงสร้างหน่วยการเรยี นรู้ รายวิชาพระพุทธศาสนา 1 รหัสวิชา ส 21102 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลา 60 ชวั่ โมง หน่วยท่ี ชอื่ หน่วย มาตรฐาน/ ตัวช้ีวดั สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้าหนกั
1 ศึกษา ส 1.1 ม. 2/3 ช่วั โมง คะแนน ความสาคญั ของ ส 1.1 ม. 2/4 ศกึ ษาความสําคญั ของหลักธรรม 21 20 หลักธรรมทาง ส 1.1 ม. 2/5 ทางพระพุทธศาสนาในเรื่อง ธรรมมี พระพทุ ธศาสนา อปุ การะมาก 2 ธรรม เปน็ โลกบาล 2 ธรรมอันทาํ ใหง้ าม 2 บคุ คลหาไดย้ าก 2 2 ศึกษา ส 1.2 ม. 2/9 รตนะ 3 คุณของรตนะ 3 อาการท่ี ความสาคญั พระพทุ ธเจ้าทรงสัง่ สอน 3 โอวาทของ พระพุทธเจ้า 3 ทจุ ริต 3 สุจริต 3 อกศุ ล ของพทุ ธประวตั ิ มูล 3 กุศลมลู 3 สัปปุรสิ บัญญัติ3 อปัณณกปฏิปทา 3 บุญกริ ยิ าวตั ถุ3 สามัญ 3 ศึกษา ส 1.2 ม. 2/5 ลักษณะ 3 วฑุ ฒิ4 จกั ร 4 อคติ4 อันตราย ความสาคญั ส 1.2 ม. 2/6 ของพระภิกษุสามเณรผู้บวชใหม่ 4 ปธาน ของศาสนพิธี 4 อธิษฐานธรรม 4 อทิ ธบิ าท 4 ควรทํา ส 1.2 ม. 2/7 ความไม่ ประมาทในที่ 4 สถาน ควรทาํ ความไมป่ ระมาทในที่ 4 สถาน (อกี อยา่ ง หนง่ึ ) ปารสิ ทุ ธิศลี 4 อารกั ขกัมมัฏฐาน 4 พรหมวิหาร 4 สตปิ ฏั ฐาน 4 ธาตุ กมั มฏั ฐาน 4 อรยิ สัจ 4 ศกึ ษาความสาํ คัญของพุทธประวัตใิ นเรอ่ื ง 12 20 อาณาจักรต่างๆ วรรณะ 4 ความคดิ เห็น ลัทธิ พื้นเมือง สรุปช่ือแคว้นและชอ่ื เมือง หลวงในครั้งพุทธกาล วิธกี ารปกครอง ศาก ยวงศ์ เหตุท่ปี ระสูตทิ ี่ ลมุ พนิ ีวัน อภนิ ิหาร ของพระมหาบรุ ษุ อสติ ดาบสเขา้ เฝ้า ขนานพระนาม พระมารดาทิวงคต ได้ ปฐมฌานในวนั แรกนาขวญั ศึกษา ศลิ ปวิทยา อภิเษกสมรส พระประยรู ญาติ เหตุเกิดศาสนพิธี ประเภทของศาสน 6 10 พธิ ี พธิ แี สดงตนเป็นพทุ ธมามกะ เหตผุ ล และโอกาสในการแสดง ตนเป็นพุทธมาม กะ ระเบยี บพิธใี นการแสดงตนเป็นพุทธ มามกะ พธิ ีรักษาอโุ บสถศีล พิธเี วยี นเทียน ใน วนั สาํ คัญทางพระพุทธศาสนา
4 ศกึ ษา ส 1.3 ม. 2/3 ศึกษาความสําคัญของปฐมเหตุ 19 20 ความสาคญั ของ ส 1.3 ม. 2/4 พระวินัยบญั ญตั ิในเรื่อง วธิ ีอุปสมบท ปฐมเหตพุ ระ ส 1.3 ม. 2/5 วธิ กี ารอุปสมบทดว้ ย ญัตติจตุตถกรรม 1 10 วินัยบญั ญัติ อนศุ าสน์ 8 อย่าง สกิ ขา 3 สงฆ์มี 2 1 20 ประเภท อัฏฐวาจิกาอุปสมั ปทา (การบวช 60 100 ภกิ ษุณี), การบัญญตั ิพระวนิ ยั อาบัติ ประเภทของอาบัติ สมฏุ ฐานแหง่ อาบตั ิ อาบตั เิ พ่งโดยเจตนา 2 อยา่ ง โทษของ อาบัติ อาการทต่ี ้องอาบัติ 6 อย่าง หลักการปฏิบัตใิ นการออกจากอาบตั ิ อาการท่ที รง บญั ญัติพระวนิ ัย อานิสงส์ แหง่ การปฏบิ ตั ติ ามพระวนิ ยั จดุ ม่งุ หมาย ของการ ญญัติพระวนิ ยั 8 อย่าง ประโยชน์ ของการบัญญตั ิพระวินยั มังสะ (เนอื้ ) 10 อยา่ ง ท่หี ้ามภิกษุฉนั วินัย 2 ประเภท สอบกลางภาค/คะแนนกลางภาค สอบปลายภาค/คะแนนปลายภาค รวมตลอดภาคเรยี น กำหนดกำรเรียนร้รู ำยช่วั โมง กล่มุ สำระกำรเรยี นร้สู งั คมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม รำยวชิ ำพระพุทธศำสนำ 1 รหสั วชิ ำ ส 21102 ช้ันมัธยมศึกษำปที ่ี 1 หน่วยกำรเรยี นรู้ ช่ัวโมง ว/ด/ป แหล่งอำ้ งอิง มำตรฐำน/ สำระสำคญั ส่ือกำรเรียนรทู้ ี่ ตัวชวี้ ดั สำคญั หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 21 16 พ.ค.66 -แผนการเรยี นรู้ท่ี1 ส 1.1 ศึกษาหลักธรรม คอื ธรรมมอี ุปการะมาก 2 ธรรมมีอปุ การะมาก 1)หนังสือเรยี น หลักธรรมที่สาํ คญั ธรรมเปน็ โลกบาล 2 ม. 2/1 2 ธรรม เปน็ ประกอบการเรยี น ทางพระพทุ ธศาสนา โลกบาล 2 ธรรมอัน นวโกวาท/นักธรรม 17 พ.ค.66 -แผนการเรยี นร้ทู ี่ 2 ม. 2/2 ทําใหง้ าม 2 บคุ คล ชัน้ ตรี 2)ตวั อย่างการปฏิบตั ิ
ธรรมอนั ทาํ ใหง้ าม 2 หาไดย้ าก 2 รตนะ จริง บุคคลหาไดย้ าก 2 3 คณุ ของรตนะ 3 3)อนิ เตอร์เนต อาการท่ี 20 พ.ค.66 แผนการเรียนรทู้ ่ี 3 พระพทุ ธเจา้ ทรงสง่ั 4)ผังมโนทศั น์ รตนะ 3 สอน 3 โอวาทของ คณุ ของรตนะ 3 พระพุทธเจา้ 3 อาการที่ พระพทุ ธเจ้าทรงส่ัง ทจุ ริต 3 สุจรติ 3 สอน 3 อกศุ ลมลู 3 กศุ ลมูล 3 สปั ปุริสบญั ญตั ิ3 23 พ.ค.66 -แผนการเรียนร้ทู ่ี 4 อปณั ณกปฏิปทา 3 โอวาทของพระพุทธเจ้า 3 บญุ กริ ยิ าวตั ถุ3 ทุจริต 3 สุจริต 3 สามัญลกั ษณะ 3 อกศุ ลมูล 3 กศุ ลมลู 3 วฑุ ฒ4ิ จกั ร 4 อคต4ิ อนั ตรายของ 24 พ.ค.66 -แผนการเรยี นรทู้ ี่ 5 พระภกิ ษุสามเณรผู้ 27 พ.ค.66 สัปปรุ สิ บัญญัติ3 บวชใหม่ 4 ปธาน 4 อปณั ณกปฏิปทา 3 อธิษฐานธรรม 4 บญุ กิรยิ าวตั ถุ3 อทิ ธิบาท 4 ควรทํา สามญั ลกั ษณะ 3 ความไม่ ประมาทใน ที่ 4 สถาน ควรทาํ 30 พ.ค.66 -แผนการเรียนรทู้ ่ี 6 ความไม่ประมาทใน 31 พ.ค.66 วฑุ ฒ4ิ จกั ร 4 อคติ 4 ท่ี 4 สถาน (อีกอยา่ ง อนั ตรายของพระภิกษสุ ามเณร หนึ่ง) ปารสิ ทุ ธศิ ลี 4 ผ้บู วชใหม่ 4 อารักขกัมมฏั ฐาน 4 พรหมวหิ าร 4 สติ -แผนการเรียนร้ทู ี่ 7 ปฏั ฐาน 4 ธาตุ ปธาน 4 กัมมฏั ฐาน 4 อธษิ ฐานธรรม 4 อรยิ สัจ 4 อทิ ธบิ าท 4 3 มิ.ย.66 6 มิ.ย.66 7 มิ.ย.66 -แผนการเรยี นรู้ท่ี 8 10 มิ.ย.66 ควรทาํ ความไม่ ประมาทในที่ 4 สถาน ควรทาํ ความไมป่ ระมาทในที่ 4 สถาน (อกี อยา่ งหนง่ึ )
13 มิ.ย.66 -แผนการเรยี นรู้ท่ี 9 14 มิ.ย.66 ทิฏฐธมั มิกัตถประโยชน์ ๔ สัมปรายกิ ตั ถประโยชน์ ๔ 17 มิ.ย.66 -แผนการเรียนรทู้ ี่ 10 20 มิ.ย.66 ปารสิ ุทธิศลี 4 อารกั ขกัมมัฏฐาน 4 21 มิ.ย.66 -แผนการเรียนรทู้ ่ี 11 24 มิ.ย.66 พรหมวหิ าร 4 สติปฏั ฐาน 4 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 12 27 มิ.ย.66 -แผนการเรยี นรทู้ ่ี 12 ส 1.1 ศกึ ษาความสําคญั 1)หนงั สือเรียน 28 มิ.ย.66 ธาตุกัมมัฏฐาน 4 ม. 2/1 ของพทุ ธประวัตใิ น ประกอบการเรยี น ความสาํ คญั ม. 2/3 เรอ่ื ง อาณาจกั ร พุทธประวัตนิ ักธรรม ของพุทธประวัติ อรยิ สจั 4 ตา่ งๆ วรรณะ 4 ชัน้ ตรี ความคิดเหน็ ลัทธิ 2)อนิ เตอร์เนต 1 ก.ค.66 -แผนการเรียนรทู้ ่ี1 พืน้ เมือง สรปุ ชอ่ื 3)ผงั มโนทศั น์ 4 ก.ค.66 อาณาจักรต่างๆ วรรณะ 4 แควน้ และช่ือเมอื ง หลวงในครั้ง 5 ก.ค.66 แผนการเรยี นรทู้ ่ี 2 พุทธกาล วธิ ีการ 8 ก.ค.66 ความคิดเห็น ลทั ธิ พ้นื เมอื ง ปกครอง ศากยวงศ์ สรปุ ชอ่ื แควน้ และชอ่ื เมอื ง เหตุท่ีประสูติที่ หลวงในครง้ั พทุ ธกาล ลมุ พินีวนั อภินิหาร ของพระมหาบรุ ุษ 11 ก.ค.66 -แผนการเรยี นร้ทู ี่ 3 อสติ ดาบสเขา้ เฝ้า 12 ก.ค.66 วิธกี ารปกครองศากยวงศ์ ขนานพระนาม พระ มารดาทิวงคต ได้ เหตทุ ่ีประสตู ทิ ี่ ลุมพนิ ีวัน ปฐมฌานในวนั แรก 15 ก.ค.66 -แผนการเรยี นรู้ท่ี 4 18 ก.ค.66 อภินหิ ารของพระมหาบรุ ุษ อสิตดาบสเขา้ เฝา้ ขนานพระ นาม
19 ก.ค.66 -แผนการเรียนรทู้ ี่ 5 นาขวัญ ศึกษา 22 ก.ค.66 พระมารดาทิวงคต ได้ ศิลปวทิ ยา อภิเษก สมรส พระประยรู ปฐมฌานในวันแรกนาขวัญ ญาติ 25 ก.ค.66 -แผนการเรียนรทู้ ่ี 6 26 ก.ค.66 ศึกษาศิลปวิทยา อภเิ ษกสมรส พระประยรู ญาติ 29 ก.ค.66 สอบกลางภาคเรียนท่ี 1/2566 ตามปฏิทิน ปฏิบัตงิ าน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 6 29 ก.ค.66 -แผนการเรยี นรู้ที่1 ส 1.1 เหตเุ กดิ ศาสนพิธี 1)หนังสือเรียน ประเภทของศาสนพธิ ี ประเภทของศาสน ประกอบการเรยี น ความสาํ คญั พธิ ี พิธแี สดงตนเป็น ศาสนพธิ ีเลม่ 1 ของศาสนพิธี -แผนการเรียนรู้ที่ 2 ม. 2/6 พทุ ธมามกะ เหตผุ ล 2)หนงั สือคน้ ควา้ พธิ แี สดงตนเปน็ พุทธมามกะ ม. 2/7 และโอกาสในการ เพ่มิ เตมิ เช่น หนงั สอื 1 ส.ค.66 เหตุผลและโอกาสในการแสดง ม. 2/8 แสดง ตนเป็นพทุ ธ ศาสนพธิ ขี อง ตนเปน็ พุทธมามกะ มามกะ ระเบยี บพธิ ี สํานกั พมิ พอ์ ืน่ ๆ ในการแสดงตนเปน็ 3)อนิ เตอร์เนต 2 ส.ค.66 -แผนการเรียนรู้ท่ี 3 พุทธมามกะ พิธี 4)ผังมโนทศั น์ เหตุผลและโอกาสในการแสดง รักษาอุโบสถศลี พิธี ตนเป็นพทุ ธมามกะ เวียนเทยี นใน วัน สาํ คญั ทาง พระพุทธศาสนา 5 ส.ค.66 -แผนการเรียนรู้ที่ 4 ระเบียบพิธีในการแสดงตน เป็นพุทธมามกะ 8 ส.ค.66 -แผนการเรยี นรู้ท่ี 5 พธิ รี ักษาอุโบสถศลี 9 ส.ค.66 -แผนการเรียนรู้ที่ 6 พิธเี วียนเทียนใน วันสําคัญทาง พระพทุ ธศาสนา
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 19 12 ส.ค.66 -แผนการเรยี นร้ทู ่ี1 ศึกษา 1)หนังสือเรยี น 15 ส.ค.66 ปฐมเหตพุ ระวินัยบญั ญัติ ความสําคญั ของปฐม ประกอบการเรียน ค ว า ม สํ า คั ญ ข อ ง เหตุพระวนิ ยั บัญญตั ิ นวโกวาท/นกั ธรรม ปฐมเหตุพระวินัย 16 ส.ค.66 -แผนการเรยี นรทู้ ี่ 2 ในเรื่อง วธิ อี ปุ สมบท ชัน้ ตรี บญั ญัติ 19 ส.ค.66 วิธอี ุปสมบท วธิ ีการอุปสมบท วธิ กี ารอุปสมบทดว้ ย 2)ตัวอย่างการปฏบิ ัติ ญตั ติจตุตถกรรม จริง ด้วย ญัตตจิ ตุตถกรรม อนศุ าสน์ 8 อยา่ ง 3)อนิ เตอรเ์ นต สิกขา 3 สงฆ์มี 2 4)ผงั มโนทศั น์ 22 ส.ค.66 -แผนการเรยี นรู้ท่ี 3 ประเภท อัฏฐวาจิกา 23 ส.ค.66 อนศุ าสน์ 8 อยา่ ง สกิ ขา 3 อุปสัมปทา (การ บวช ภิกษุณี), การ 26 ส.ค.66 -แผนการเรยี นรู้ท่ี 4 บญั ญัติพระวนิ ยั 29 ส.ค.66 สงฆม์ ี 2 ประเภท อาบตั ิ ประเภทของ อาบตั ิ สมฏุ ฐานแหง่ 30 ส.ค.66 -แผนการเรยี นรทู้ ี่ 5 อาบัติ อาบัตเิ พ่งโดย 2 ก.ย.66 อัฏฐวาจกิ าอุปสมั ปทา (การ เจตนา 2 อย่าง โทษ ของอาบตั ิ อาการที่ บวช ภกิ ษณุ ี) ตอ้ งอาบัติ 6 อย่าง หลกั การปฏบิ ัตใิ น 5 ก.ย.66 -แผนการเรยี นรู้ท่ี 6 การออกจากอาบัติ 6 ก.ย.66 การบญั ญตั ิพระวนิ ยั อาการท่ีทรง บัญญัติ พระวนิ ยั อานสิ งส์ 9 ก.ย.66 -แผนการเรยี นรทู้ ี่ 7 แห่งการปฏิบตั ติ าม 12 ก.ย.66 อาบตั ิ ประเภทของอาบตั ิ พระวินยั จุดมุ่งหมาย สมฏุ ฐานแหง่ อาบตั ิ อาบตั ิเพ่ง ของการ ญญัติพระ โดยเจตนา 2 อยา่ ง วินยั 8 อยา่ ง ประโยชน์ของการ บญั ญตั พิ ระวินัย มงั สะ (เนือ้ ) 10 อยา่ ง ที่ห้ามภิกษุฉัน วนิ ยั 2 ประเภท
13 ก.ย.66 -แผนการเรยี นรทู้ ี่ 8 16 ก.ย.66 โทษของอาบัติ อาการท่ตี อ้ ง อาบัติ 6 อยา่ ง หลักการ 19 ก.ย.66 ปฏิบัติในการออกจากอาบตั ิ 20 ก.ย.66 อาการที่ทรง บัญญตั ิพระวินัย อานิสงส์แห่งการปฏบิ ัตติ าม พระวินยั -แผนการเรยี นรทู้ ี่ 9 จุดมุ่งหมายของการ ญญตั ิพระ วินัย 8 อย่าง ประโยชนข์ อง การบญั ญตั ิพระวนิ ยั 23 ก.ย.66 -แผนการเรยี นรทู้ ่ี 10 มังสะ (เน้ือ) 10 อยา่ ง ทีห่ ้าม ภกิ ษุฉัน วินยั 2 ประเภท 24 ก.ย.66 สอบปลายภาคเรียนที่ ตามปฏทิ นิ 1/2566 ปฏิบตั งิ าน กำรวัดและประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ โดยการประเมินสภาพจริง พจิ ารณาจากพัฒนาการของผเู้ รียน ความประพฤติ การสงั เกตพฤติกรรมการเรียน การรว่ มกจิ กรรม และการทดสอบ 1. กอ่ นสอบกลางภาค 30 คะแนน ผลการเรียนร้ทู ค่ี าดหวัง - งานท่ีมอบหมาย 20 คะแนน - ทดสอบระหว่างเรยี น 10 คะแนน 2. สอบกลางภาค 10 คะแนน ผลการเรยี นร้ทู คี่ าดหวงั - ปรนยั 5 คะแนน - อตั นัย 5 คะแนน
3. หลงั กลางภาค 40 คะแนน ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั - งานทมี่ อบหมาย 20 คะแนน - ทดสอบระหวา่ งเรียน 20 คะแนน 4. สอบปลายภาค 20 คะแนน ผลการเรียนรู้ทค่ี าดหวัง - ปรนยั 10 คะแนน - อตั นัย 10 คะแนน รำยกำรงำนท่ีมอบหมำย (ไม่ทำส่งได้ “ร”) *นักเรียนต้องทาํ ตามเงื่อนไขท่ีครกู ําหนดให้มฉิ ะน้นั จะใหผ้ ลการเรียน เปน็ ร กำหนดกำรวัดผล ภำคเรยี นท่ี 1 ตน้ เดือนกรกฎาคม 2566 1. ทดสอบกอ่ นสอบกลางภาค ปลายเดือนกรกฎาคม 2566 2. ทดสอบกลางภาค ตน้ เดือนกันยายน 2566 3. ทดสอบหลังกลางภาค ปลายเดือนกันยายน 2566 4. ทดสอบปลายภาค ข้อกำหนดอื่นๆ 1. นักเรียนต้องปฏิบัติตามงานท่ีได้รับมอบหมายจากครูผู้สอนท้ังในรูปแบบของการทําใบงาน แบบทดสอบ ช้ินงานเดีย่ ว และการทําชิ้นงานกลุ่ม 2. นกั เรียนตอ้ งมคี วามรับผดิ ชอบต่อตนเองและช่วยเหลืองานเพ่ือนในกลุ่มอยูเ่ สมอ 3. ในการตอบคําถามผ่านแบบทดสอบ หรือการทําแบบฝึกหัดทุกรูปแบบ นักเรียนจะต้องทําด้วยตนเอง ห้ามลอกงานมาสง่ อย่างเดด็ ขาดมิฉะนั้นนักเรยี นจะไม่ไดค้ ะแนนเด็ดขาด 4. นกั เรียนต้องเก็บใบงานทกุ ชิน้ ที่ทาํ เพอ่ื รวบรวมเข้าเล่มสง่ ในท้ายเทอม คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ อั น พึ งป ระ ส งค์ ข อ งผู้ เรีย น ๘ ข้ อ ต าม ห ลั ก สู ต รแ ก น ก ล างก ารศึ ก ษ าข้ั น พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ท่นี กั เรยี นควรทราบ ควรระลึก และตอ้ งหมั่นปฏบิ ัติอยูเ่ สมอมดี ังน้ี ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ตวั ชว้ี ัด
๑.๑ เปน็ ผลเมืองทด่ี ีของชาติ ๑.๒ ธาํ รงไวซ้ งึ่ ความเป็นไทย ๑.๓ ศรัทธา ยดึ ม่นั และปฏบิ ัติตนตามหลักศาสนา ๑.๔ เคารพเทิดทูนสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ ๒. ซอ่ื สัตยส์ ุจริต ตวั ช้ีวดั ๒.๑ ประพฤติตรงตามความเปน็ จริงตอ่ คนเองทั้งกาย และวาจา ใจ ๒.๒ ประพฤตติ รงตามเปน็ จริงต่อผ้อู ื่นท้ัง กาย วาจา ใจ ๓. มีวนิ ัย ตัวชี้วัด ๓.๑ ประพฤติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรียน และสังคม ๔. ใฝ่เรยี นรู้ ตวั ชว้ี ดั ๔.๑ ตั้งใจเพยี รพยายามในการเรยี น และเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๒ แสวงหาความร้รู จู้ ากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนด้วยการเลือกใช้สื่อ อยา่ งเหมาะสม สรุปเปน็ องค์ความรู้ และสามารถนาํ ไปใช้ในชวี ติ ประจําวนั ได้ ๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง ตัวชี้วดั ๕.๑ ดาํ เนนิ ชวี ิตอยา่ งพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม ๕.๒ มภี มู ิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี ปรับตัวเพ่ืออยู่ในสังคมได้อยา่ งมีความสุข ๖. มงุ่ ม่นั ในการทํางาน ตัวชว้ี ดั ๖.๑ ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในหน้าทีก่ ารงาน ๖.๒ ทํางานดว้ ยเพยี รพยายามและอดทนเพ่อื ให้สําเร็จตามเปา้ หมาย ๗. รกั ความเป็นไทย ตัวช้วี ัด ๗.๑ ภาคภมู ใิ จในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทยและมีความกตัญญูกตเวที ๗.๒ เหน็ คุณค่าและใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ๗.๓ อนรุ ักษแ์ ละสบื ทอดภูมิปัญญาไทย ๘. มีจติ สาธารณะ ตัวช้ีวัด ๘.๑ ชว่ ยเหลือผ้อู น่ื ดว้ ยด้วยความเต็มใจโดยไมห่ วังผลตอบแทน ๘.๒ เขา้ รว่ มกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรียน ชมุ ชน และสังคม
แบบประเมินกำรปฏิบตั ิจริง ลำดบั ที่ รำยกำรประเมนิ คณุ ภำพกำรปฏบิ ตั ิ 4321 1 ปฏิบัตไิ ดถ้ กู ต้อง 2 ปฏบิ ัติดว้ ยความสนใจ 3 ปฏิบตั ิเหมาะสมกับเวลา 4 ความอดทนต่อการปฏิบตั ิ
5 บคุ ลิกภาพ ในขณะปฏบิ ตั ิ รวม ลงชอ่ื ..............................................................................ผ้ปู ระเมิน ......................./.........................../........................ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน การนําเสนอผลงานสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 3 คะแนน การนาํ เสนอผลงานยังมีขอ้ บกพร่องเลก็ น้อย ให้ 2 คะแนน การนาํ เสนอผลงานยงั มีข้อบกพร่องเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน การนําเสนอผลงานมีขอ้ บกพร่องมาก เกณฑก์ ำรตดั สนิ คุณภำพ ระดบั คณุ ภำพ ดีมาก ช่วงคะแนน ดี 18-20 พอใช้ 14-17 ปรบั ปรุง 10-13 พฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม ตํ่ากว่า 10 แบบสังเกต ลำดบั ชอ่ื – สกุล ควำมรว่ มมือ กำรแสดง กำรรบั ฟงั กำรตง้ั ใจ กำรรว่ ม รวม ท่ี ของผรู้ ับกำร ควำมคิดเห็น ควำมคิดเห็น ทำงำน ปรับปรงุ 20 ผลงำนกล่มุ คะแนน ประเมนิ 43214321432143214321
เกณฑ์การใหค้ ะแนน = ลงชือ่ ...................................................ผ้ปู ระเมิน ดีมาก = 4 ............../.................../................ ดี = 3 พอใช้ = 2 ปรับปรงุ 1 เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั หมายเหตุ ครูอาจใช้วธิ กี ารมอบหมายให้หัวหน้า คณุ ภาพ กลุ่มเป็นผู้ประเมนิ หรอื ให้ตัวแทนกลุ่มผลดั กัน 14-16 ประเมนิ หรอื ให้มีการประเมนิ โดยเพ่อื น โดยตวั นักเรยี น 11-13 ดีมาก 8-10 ดี เอง ตามความเหมาะสมกไ็ ด้ ต่ากวา่ 8 พอใช้ ปรบั ปรงุ กำรออกแบบหนว่ ยกำรเรียนรสู้ ำระกำรเรยี นรพู้ ระพุทธศำสนำ ๑ ชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี ๑ มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ส ๑.๑ เขา้ ใจตระหนักและปฏบิ ัติตนเปน็ พุทธศาสนิกชนทด่ี แี ละธํารงรกั ษาพระพทุ ธศาสนา ตวั ชีว้ ดั /ผลกำรเรียนรู้ ม ๒/๑ ปฏิบตั ิตนอย่างเหมาะสมต่อบคุ คลตา่ งๆตามหลกั พระพุทธศาสนา ตามทก่ี ําหนด ตัวชวี้ ัด/ผลกำรเรยี นรู้ ม ๒/๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏบิ ตั ิตนเปน็ ศาสนิกชนท่ดี ี และธาํ รงรกั ษาพระพุทธศาสนา หรือศาสนาทต่ี นนับถือ สำระกำรเรียนรู้ สำระสำคญั ชน้ิ งำน/ภำระงำน ประเด็นและเกณฑป์ ระเมนิ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ ชือ่ หนว่ ย/เวลำ ศึ ก ษ า - ศกึ ษาหลักธรรม วธิ ีการวัด กระบวนการสอนพทุ ธวธิ ีดว้ ยวธิ ีคิดแบบโยนโิ ส หลกั ธรรม/๒๑ ห ลักธรรม คือ ธรรมมี - ใบความรูใ้ บงาน - ตรวจใบงาน มนสิการ แบบคณุ ค่าแท้ คณุ คา่ เทยี ม
อุปการะมาก 2 ธรรม เป็น -ผงั มโนทศั น์ การตรวจผลงาน - ครูเกรน่ิ นําเรอ่ื ง“หลักธรรม” โลกบาล 2 ธรรมอันทําให้ - ใบงานเรอ่ื ง“หลักธรรมท่ีศึกษา” - ครูให้นักเรียนศึกษาเอกสารประกอบการเรียน งาม 2 บุคคลหาได้ยาก 2 เครื่องมอื การสอนเก่ียวกบั ความหมายของหลักธรรมท่ี รตนะ 3 คุณของรตนะ 3 - แบบประเมินใบงาน ศกึ ษา ตามหนว่ ยเรียนรู้ อาการที่ พระพุทธเจา้ ทรง เกณฑป์ ระเมนิ ขัน้ ฝกึ (การฝกึ ทักษะ) สั่งสอ น 3 โอ วาท ข อ ง - เกณฑ์ประเมินพฤติกรรม - ครใู หน้ กั เรียนทาํ ใบงานเรอื่ ง“หลักธรรมท่ี พระพุทธเจ้า 3 ทุจริต 3 - เกณฑ์ประเมนิ ใบงาน ศกึ ษา” สุจริต 3 อกุศลมูล 3 กุศล -ผวั มโนทัศน์ ขั้นประยกุ ต์ (การประเมนิ ) มูล 3 สัปปุริสบัญ ญั ติ3 - นักเรียนและครรู ว่ มกนั ตรวจใบงาน อปัณณกปฏิปทา 3 บุญ - นักเรียนและครรู ว่ มกันอภิปรายถงึ สาระสําคญั กิ ริ ย า วั ต ถุ 3 ส า มั ญ ของความหมายของหลกั ธรรม ลักษณะ 3 วุฑฒิ4 จักร 4 - การนําไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจาํ วนั ได้อย่าง อ ค ติ 4 อั น ต ร า ย ข อ ง ถกู ต้องเหมาะสม พระภิกษุสามเณรผู้บวช ใหม่ 4 ปธาน 4 อธิษฐาน ธรรม 4 อิทธิบาท 4 ควร ทําความไม่ ประมาทในท่ี 4 สถาน ควรทําความไม่ ป ระมาทในที่ 4 สถาน (อีกอย่างหน่ึง) ปาริสุทธิ ศีล 4 อารักขกัมมัฏฐาน 4 พรหมวิหาร 4 สติปัฏฐาน 4 ธ า ตุ กั ม มั ฏ ฐ า น 4 อริยสัจ 4 กำรออกแบบหนว่ ยกำรเรยี นรู้สำระกำรเรียนรพู้ ระพุทธศำสนำ ๑ ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ ๑ มำตรฐำนกำรเรยี นร้สู ๑.๑เขา้ ใจตระหนักและปฏบิ ตั ิตนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีตามหลักศาสนพิธี และธาํ รงรักษาพระพุทธศาสนา ตัวชี้วดั /ผลกำรเรียนรู้ม.๒/๓ วิเคราะหค์ วามสําคญั ของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทีต่ นนบั ถือในฐานะทเ่ี ปน็ รากฐานของวัฒนธรรม เอกลักษณ์ของชาติ และมรดกของชาติ สำระกำรเรยี นรู้ สำระสำคัญ ชนิ้ งำน/ภำระงำน ประเดน็ และเกณฑ์ประเมนิ กิจกรรมกำรเรียนรู้ ช่อื หน่วย/เวลำ เหตุเกดิ ศาสนพิธี - ศกึ ษาหลกั ศาสนพธิ ี วธิ ีการวัด กระบวนการสอนพทุ ธวธิ ีแบบคณุ คา่ แท้ คณุ ค่า การสรา้ งองค์ ประเภทของศาสนพิธี - ศกึ ษาผงั มโนทศั น์ - ตรวจใบงาน เทยี ม ความรู้ใหมข่ อง พธิ แี สดงตนเป็นพทุ ธ - ใบความรูใ้ บงาน การตรวจผลงาน ขนั้ สบื ค้น–เชอ่ื มโยง (การสร้างศรัทธา) หลักธรรมด้วย
มามกะ เหตุผลและ - ใบงานที่๑เรื่อง“ศาสนพธิ ี” - ครเู กรนิ่ นาํ เร่อื งเก่ียวกบั หลกั ปฏบิ ัติ หลักโยนโิ ส โอกาสในการแสดง เครือ่ งมอื ข้นั ฝกึ (การฝึกทกั ษะ) มนสิการ ตนเป็นพุทธมามกะ - แบบประเมนิ ใบงาน - ครใู ห้นักเรยี นทําใบงาน“การแสดงตนเปน็ พทุ ธ /๖ ระเบยี บพธิ ใี นการ เกณฑ์ประเมิน มามกะ” แสดงตนเป็นพุทธมาม - เกณฑ์ประเมนิ พฤติกรรม - ครสู มุ่ นกั เรียน๓–๕รูปนาํ เสนอใบงานหนา้ ชนั้ กะ พิธีรักษาอโุ บสถศลี - เกณฑป์ ระเมนิ ใบงาน เรียน พธิ ีเวียนเทยี นใน วัน ขัน้ ประยกุ ต์ (การประเมนิ ) สาํ คญั ทาง - นกั เรียนและครรู ว่ มกันตรวจใบงาน พระพุทธศาสนา - นักเรยี นและครรู ่วมกนั อภปิ รายสรปุ สาระสาํ คัญ เกย่ี วกบั หลกั ธรรมทศี่ กึ ษา กำรออกแบบหนว่ ยกำรเรยี นรสู้ ำระกำรเรียนรูพ้ ระพทุ ธศำสนำ ๑ ช้นั มัธยมศกึ ษำปีท่ี ๑ มำตรฐำนกำรเรยี นร้สู ๑.๑เขา้ ใจตระหนักและปฏบิ ตั ิตนเป็นพทุ ธศาสนกิ ชนที่ดี และธํารงรักษาพระพุทธศาสนา ตวั ชวี้ ัด/ผลกำรเรยี นรู้ อธบิ ายธรรมคุณและข้อธรรมสําคญั ในกรอบของการบัญญตั ิวนิ ยั ในศาสนาที่ตน นบั ถือตามทีก่ ําหนด เห็นคุณค่าและนําไปพัฒนาแก้ปัญหาของชุมชนและสงั คม (ส 1.1 ม. 2/8) ตัวช้ีวัด/ผลกำรเรยี นรู้ เหน็ คณุ ค่าของการพัฒนาจิตเพ่อื การเรียนรู้และการดําเนินชีวติ ด้วยวิธีคดิ แบบ โยนิโสมนสกิ าร หรือการพัฒนาจติ ตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถอื (ส 1.1 ม. 2/9) ตัวช้วี ดั /ผลกำรเรยี นรู้ วิเคราะหก์ ารปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ธรรมวนิ ยั ทางศาสนาที่ตนนับถือ เพ่อื การดํารง ตนอยา่ งเหมาะสมในกระแสความเปล่ยี นแปลงของโลกและการอยรู่ ว่ มกนั อย่างสนั ตสิ ุข (ส 1.1 ม. 2/11)
สำระกำรเรียนรู้ สำระสำคัญ ชนิ้ งำน/ภำระงำน ประเดน็ และเกณฑป์ ระเมนิ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ชื่อหน่วย/เวลำ พัฒนาการ พฒั นาการ - อธิบายความหมาย วธิ ีการวัด กระบวนการสอนพุทธวธิ ีแบบคุณค่าแท้ คุณค่า ประเดน็ สาํ คญั ประเด็นสําคญั ของ ของหลักวินยั ด้วยผัง - ตรวจใบงาน เทียม ของหลักธรรม ปฐมเหตุพระวินัย มโนทศั น์ การตรวจผลงาน ขั้นสบื คน้ –เช่ือมโยง (การสรา้ งศรทั ธา) บัญญตั ิในเรื่อง วิธี - อธิบายการปฏบิ ัตติ น - ใบงานเร่ือง“แบบรายงานการ - ครูเกรน่ิ นําเรอ่ื ง“ศรทั ธาทางพระพุทธศาสนา” /๑๙ อุปสมบท วธิ กี าร ตามหลักวนิ ยั เช่น เข้ารว่ มทําวัตรสวดมนต์ การบริหาร - ครูใหน้ กั เรียนศึกษาเอกสารประกอบการเรียน อปุ สมบทดว้ ย ญตั ติ : การทําวตั รสวดมนต์ จิตเจริญปัญญา” การสอนเกีย่ วกบั ความหมายประเภทของการ จตุตถกรรม อนุศาสน์ : การทาํ สมาธิ เคร่ืองมือ ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั การเจรญิ ภาวนาทาง 8 อย่าง สิกขา 3 สงฆ์ : การเจริญปัญญา - แบบประเมินใบงาน พระพุทธศาสนา มี 2 ประเภท อัฏฐวาจิ : การควบคุมอารมณ์ เกณฑป์ ระเมิน ขน้ั ฝกึ (การฝึกทักษะ) กาอุปสัมปทา (การ : การอยอู่ ยา่ งพอเพียง - เกณฑป์ ระเมินพฤติกรรม - ครใู ห้นกั เรียนทาํ ใบงานเรอื่ ง“แบบรายงานการ บวช ภกิ ษณุ ี), การ - อธิบายวิเคราะหห์ ลัก - เกณฑป์ ระเมนิ ใบงาน เข้ารว่ มการบริหารจิตเจรญิ ปญั ญา” บญั ญตั ิพระวินยั วินยั ทศี่ ึกษา ขน้ั ประยุกต์ (การประเมิน) - ใบความรูใ้ บงาน - นกั เรียนและครูร่วมกนั ตรวจใบงาน - นักเรยี นและครรู ่วมกันอภิปรายถงึ สาระสาํ คญั อาบัติ ประเภทของ ของความหมายการบริหารจติ เจรญิ ปัญญาในทาง พระพทุ ธศาสนา อาบัติ สมฏุ ฐานแห่ง อาบัติ อาบัติเพง่ โดย เจตนา 2 อยา่ ง โทษ ของอาบตั ิ อาการท่ี ตอ้ งอาบัติ 6 อยา่ ง หลักการปฏบิ ัตใิ นการ ออกจากอาบตั ิ อาการ ท่ีทรง บญั ญัตพิ ระวนิ ัย อานิสงสแ์ ห่งการ ปฏิบตั ติ ามพระวนิ ยั จดุ มงุ่ หมายของการ ญญัติพระวนิ ยั 8 อยา่ ง ประโยชนข์ อง การบญั ญตั พิ ระวนิ ยั มงั สะ (เน้ือ) 10 อยา่ ง ทห่ี า้ มภกิ ษฉุ นั วนิ ัย 2 ประเภท
แผนปฐมนิเทศ ปฐมนิเทศและขอ้ ตกลงในการเรียนรายวิชาพื้นฐาน พระพทุ ธศาสนา 1 ม. 1 สาระท่ี 1 หลักธรรม พระพุทธศาสนา 1 ปฐมนิเทศและข้อตกลงในการเรียน ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 1. มาตรฐานการเรียนรู้ เวลา 1 ช่วั โมง
มาตรฐาน ส 1.1 รู้และเขา้ ใจประวัติ ความสาํ คญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาท่ีตน นบั ถอื และศาสนาอ่นื มีศรัทธาทถ่ี กู ต้อง ยึดมนั่ และปฏบิ ตั ิตามหลักธรรมเพื่ออย่รู ่วมกันอยา่ งสนั ติสุข มาตรฐาน ส 1.2 เขา้ ใจ ตระหนกั และปฏบิ ตั ิตนเป็นศาสนกิ ชนท่ีดี และธาํ รงรกั ษาพระพุทธศาสนา หรือ ศาสนาท่ีตนนับถือ 2. ตวั ชีว้ ดั ช้ันปี 1. วเิ คราะหค์ วามสําคัญของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาทีต่ นนับถอื ในฐานะท่เี ปน็ รากฐานของวฒั นธรรม เอกลกั ษณ์ของชาติ และมรดกของชาติ (ส 1.1 ม. 2/3) 2. อภปิ รายความสําคัญของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาที่ตนนับถือกบั การพัฒนาชุมชนและการจัด ระเบยี บสังคม (ส 1.1 ม. 2/4) 3. วเิ คราะหพ์ ทุ ธประวตั ิหรือประวตั ิศาสดาของศาสนาที่ตนนับถือตามทก่ี ําหนด (ส 1.1 ม. 2/5) 4. วเิ คราะหแ์ ละประพฤติตนตามแบบอยา่ งการดําเนนิ ชวี ติ และข้อคิดจากพุทธประวตั ิ ชาดก เรอ่ื งเล่า และศาสนกิ ชนตัวอยา่ งตามท่ีกําหนด (ส 1.1 ม. 2/6) 7. อธบิ ายโครงสรา้ งและสาระโดยสังเขปของพระวนิ ยั ปิฎก หรือคมั ภีรข์ องศาสนาที่ตนนับถือ (ส 1.1 ม. 2/7) 8. อธิบายธรรมคุณและข้อธรรมสําคัญในกรอบอรยิ สัจ 4 หรือหลักธรรมของศาสนาทตี่ นนับถือตามที่กําหนด เหน็ คุณค่าและนําไปพัฒนาแก้ปัญหาของชมุ ชนและสงั คม (ส 1.1 ม. 2/8) 9. เห็นคุณค่าของการพฒั นาจิตเพอ่ื การเรียนรู้และการดําเนินชวี ิตด้วยวิธีคดิ แบบโยนโิ สมนสกิ าร หรอื การ พัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือ (ส 1.1 ม. 2/9) 10. สวดมนต์ แผเ่ มตตา บริหารจติ และเจริญปญั ญาดว้ ยอานาปานสติ หรอื ตามแนวทางของศาสนาทตี่ น นบั ถือ (ส 1.1 ม. 2/10) 11. วเิ คราะห์การปฏิบตั ติ นตามหลักธรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ เพ่อื การดํารงตนอยา่ งเหมาะสมใน กระแสความเปลย่ี นแปลงของโลกและการอยรู่ ว่ มกนั อย่างสันติสขุ (ส 1.1 ม. 2/11) 12. ปฏบิ ัตติ นอยา่ งเหมาะสมต่อบคุ คลต่าง ๆ ตามหลักศาสนาท่ีตนนับถือตามที่กาํ หนด (ส 1.2 ม. 2/1) 13. มมี ารยาทของความเปน็ ศาสนิกชนทด่ี ตี ามท่ีกําหนด (ส 1.2 ม. 2/2) 14. วิเคราะห์คุณคา่ ของศาสนพิธีและปฏิบตั ติ นได้ถูกต้อง (ส 1.2 ม. 2/3) 15. อธบิ ายคาํ สอนท่เี กย่ี วเนื่องกบั วนั สาํ คัญทางศาสนาและปฏิบตั ิตนได้ถูกตอ้ ง (ส 1.2 ม. 2/4)
16. อธิบายความแตกต่างของศาสนพิธี พิธีกรรมตามแนวปฏิบัติของศาสนาอ่นื ๆ เพือ่ นาํ ไปสู่ การ ยอมรับและความเข้าใจซึง่ กันและกัน (ส 1.2 ม. 2/5) 3. สาระสาํ คญั /ความคิดรวบยอด การจดั การเรียนรู้รายวิชาพื้นฐาน พระพุทธศาสนา ม. 1 เป็นไปตามนโยบายของสํานักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (สพฐ.) ท่ีได้ให้สถานศึกษาจัดการเรียนรู้อีกรายวิชาหน่ึงในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โดยได้กําหนดสาระและมาตรฐานการเรียนรขู้ องรายวิชาพ้ืนฐาน พระพุทธศาสนา ม.1เป็น 2 มาตรฐาน และยังได้กําหนดตัวช้ีวัดชั้นปีและสารการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ รวมทั้งยังได้ จัดทําคําอธิบายรายวิชา เพ่ือให้สถานศึกษานําไปกําหนดเป็นหลักสูตรสถานศึกษาของตนให้เป็นไปในทิศทาง เดียวกัน 4. สาระการเรยี นรู้ 1. เทคนิคและวธิ ีการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาพื้นฐาน พระพุทธศาสนา 2. แนวทางการวัดและประเมินผลการเรียนรรู้ ายวชิ าพื้นฐาน พระพุทธศาสนา 3. ตารางวิเคราะห์ มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชี้วัดชน้ั ปกี ับสาระในหน่วยการเรยี นรู้ 4. คาํ อธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 5. โครงสรา้ งรายวิชาพื้นฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 6. โครงสรา้ งเวลาเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน พระพุทธศาสนา ม. 1 5. สมรรถนะของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
2. ซ่ือสัตย์สุจริต 3. มีวนิ ยั 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 6. มุ่งมัน่ ในการทาํ งาน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มีจติ สาธารณะ 7. ชิน้ งาน/ภาระงาน ภาระงานรวบยอด – การตอบคาํ ถามเกย่ี วกับการจดั การเรียนรรู้ ายวิชาพน้ื ฐาน พระพุทธศาสนา – การสรา้ งผังมโนทศั น์เกี่ยวกับการจัดการเรยี นร้รู ายวชิ าพ้ืนฐาน พระพุทธศาสนา – การอภปิ รายแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั การจดั การเรียนรู้รายวชิ าพืน้ ฐาน พระพุทธศาสนา 8. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) และคา่ นยิ ม (A) 1.ซักถามความรู้เรื่อง ปฐมนิเทศ ประเมินพฤติกรรมในการ ประเมนิ พฤติกรรมในการ และข้อตกลงในการเรียน ทาํ งานเปน็ รายบุคคลในด้าน ทํางานเป็นรายบุคคลหรอื เป็น รายวิชาพื้นฐาน ความมวี ินยั ความใฝ่เรียนรู้ฯลฯ กลุ่มในด้านการสื่อสาร การ พระพุทธศาสนา ม. 2 คดิ การแก้ปญั หา ฯลฯ 2.ตรวจผลงาน/กิจกรรม เปน็ รายบุคคลและเปน็ กล่มุ 9. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ข้นั ที่ 1 นําเขา้ ส่บู ทเรียน ชวั่ โมงท่ี 1
1. ครสู ร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมในการเรียนรูท้ ี่เหมาะสมเพ่ือกระตุ้นให้นักเรยี นอยากเรยี นรู้ เชน่ จัดน่งั เรียนแบบรปู ตัว U นั่งเรียนเปน็ กลุม่ นาํ นกั เรยี นไปเรียนท่หี ้องประชุม ห้องจริยธรรม สนามหญา้ ใตร้ ่มไม้ ก่อนเรียนใหน้ ักเรียนสวดมนต์ไหวพ้ ระ น่งั สมาธิ และแผ่เมตตา 2. ครแู นะนาํ ตนเอง แล้วใหน้ ักเรียนแนะนาํ ตนเองตามลาํ ดับตัวอกั ษร หรือตามลาํ ดบั หมายเลขประจาํ ตวั หรือตามแถวทนี่ ่งั ตามความเหมาะสม 3. ครใู ห้ความร้ทู วั่ ๆ ไปเกย่ี วกับการจัดการเรียนรู้ รายวิชาพ้นื ฐาน พระพุทธศาสนา พร้อมซักถาม นกั เรียนในประเดน็ ต่าง ๆ เช่น 1) ทําไมเราจึงต้องเรยี นสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 2) รายวชิ าพื้นฐาน พระพุทธศาสนามีความสาํ คัญและจําเป็นตอ่ เราหรือไม่ เพราะอะไร 4. ครสู รปุ ความรู้แล้วเชื่อมโยงไปสเู่ น้อื หาท่จี ะเรียน ขั้นท่ี 2 กจิ กรรมการเรยี นรู้ 5. ครรู ะบุสง่ิ ที่ต้องเรยี นในรายวชิ าพน้ื ฐาน พระพุทธศาสนา 1 โดยใช้ขอ้ มูลจากหน้าสารบัญในหนงั สือ เรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน พระพุทธศาสนา ม. 1 หนงั สอื ประกอบการเรยี นการสอน จากนนั้ อธิบายเพื่อทาํ ความเข้าใจ กบั นกั เรยี นในเร่ืองต่อไปนี้ 1) คาํ อธิบายรายวชิ าพื้นฐาน พระพทุ ธศาสนา 1 2) โครงสร้างรายวิชาพ้นื ฐาน พระพุทธศาสนา 1 3) โครงสร้างเวลาเรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน พระพุทธศาสนา 1 6. ครูบอกเทคนิคและวิธีการจัดการเรียนรู้รายวิชาพ้ืนฐาน พระพุทธศาสนา 1 โดยสรุปว่ามีเทคนิคและ วิธีการเรียนรู้อะไรบา้ ง 7. ครูสนทนาและซักถามนักเรียนเพ่ือทาํ ความเขา้ ใจถึงแนวทางการวัดและประเมินผลการเรียนรู้รายวิชา พืน้ ฐาน พระพทุ ธศาสนา 3 (โดยใช้ข้อมลู จากตอนท่ี 1) รวมท้ังเกณฑ์ตดั สนิ ผลการเรยี นรู้ ในประเด็นตา่ ง ๆ เชน่ 1) รายวชิ าพืน้ ฐาน พระพทุ ธศาสนา 1 มีเวลาเรียนเท่าไร 2) รายวิชานี้จะสอบและเกบ็ คะแนนอย่างไร และเทา่ ไร 3) รายวิชานี้จะตดั สนิ ผลการเรียนอย่างไร 8. ครูแนะนําสื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ที่จะใช้ประกอบการเรียนรู้รายวิชาพ้ืนฐาน พระพุทธศาสนา ม.1 โดยใช้ข้อมูลจากหน้าบรรณานุกรมในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน พระพุทธศาสนา ม.1
แนะนําแหล่งสืบค้นความรู้ข้อมูลเพ่ิมเติมเก่ียวกับเรื่องต่าง ๆ ท่ีได้ระบุไว้ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน พระพทุ ธศาสนา ม.1 เพ่อื ทาํ ความเข้าใจถึงแหลง่ สบื คน้ ความรู้แต่ละอย่าง 9. ครูสนทนากับนักเรียนและร่วมกันทําข้อตกลงในการเรียน รายวิชาพื้นฐาน พระพุทธศาสนา 1 ใน ประเดน็ ต่าง ๆ ดังนี้ 1) เวลาเรียน ตอ้ งเข้าเรียนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80 ของเวลาเรยี นในรายวชิ านี้ หรอื ไมข่ าดเรียนเกิน 3 ครัง้ กรณปี ว่ ยตอ้ งสง่ ใบลาโดยผู้ปกครองลงชอื่ รบั รองการลา 2) ควรเข้าห้องเรียนตรงเวลาและรักษามารยาทในการเรยี น 3) เมื่อเร่ิมเรียนแต่ละหนว่ ยการเรียนรจู้ ะมีการทดสอบกอ่ นเรยี น และหลงั จากเรยี นจบแต่ละหนว่ ยการ เรียนรู้แล้วจะมกี ารทดสอบหลังเรยี น 4) ในชั่วโมงที่มีการฝึกปฏิบัติงาน ควรเตรยี มวสั ดุ อุปกรณ์ และเคร่อื งมือใหพ้ ร้อม โดยจัดหาไว้ลว่ งหน้า 5) รับผิดชอบการเรียน การสร้างชนิ้ งาน และการส่งงานตามเวลาทกี่ ําหนด 6) รักษาความสะอาดบริเวณท่ปี ฏบิ ัตกิ ิจกรรม วัสดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือท่ีใชท้ าํ งานทุกครั้ง ขั้นที่ 3 ฝึกฝนผูเ้ รียน 10. ครูให้นักเรียนรว่ มกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับแหล่งการเรียนรู้และแหล่งสืบค้นความรู้อ่ืน ๆ ที่จะนํามาใช้ในการจดั การเรียนรู้รายวิชาพ้ืนฐาน พระพุทธศาสนา ม. 1 จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันสรุปและ บนั ทึกผล ข้นั ท่ี 4 นาํ ไปใช้ 11. ครูให้นักเรียนพิจารณาว่า จากหัวข้อท่ีเรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรมมีเรื่องอะไรบ้างที่ยังไม่เข้าใจ หรอื มขี ้อสงสยั ถา้ มคี รชู ว่ ยอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ให้นักเรยี นเข้าใจ 12. นักเรยี นร่วมกนั ประเมนิ การปฏบิ ัติกิจกรรมว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มกี ารแกไ้ ขอย่างไรบ้าง 13. ครูใหน้ ักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับประโยชน์ทไ่ี ด้รับจากการเรียนหัวข้อนี้และการปฏบิ ัติ กิจกรรม 14. ครทู ดสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยการใหต้ อบคําถาม เชน่ 1) รายวิชานีม้ ีเกณฑต์ ดั สินผลการเรยี นรู้อยา่ งไร 2) ข้อตกลงในการเรยี นมีอะไรบ้าง 15. ครใู ห้นักเรียนนาํ ประโยชนจ์ ากการเรียนร้เู รื่อง ปฐมนิเทศและขอ้ ตกลงในการเรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน พระพทุ ธศาสนา 1 ไปประพฤตปิ ฏบิ ัตใิ หถ้ ูกต้องเหมาะสมและสอดคล้องกับการจดั การเรียนรู้ ขั้นที่ 5 สรุป
16. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เร่ือง ปฐมนิเทศและข้อตกลงในการเรียนรายวิชาพื้นฐาน พระพุทธศาสนา ม.1 โดยให้นักเรียนบันทึกข้อสรุปลงในแบบบันทึกความรู้ หรือสรุปเป็นแผนที่ความคิดหรือผังมโน ทศั นล์ งในสมดุ พรอ้ มทงั้ ตกแต่งใหส้ วยงาม 17. ครูให้นักเรียนอ่านเน้ือหาเรื่อง หลักธรรมเร่ือง ธรรมอันทําให้งาม 2 เป็นการบ้านเพื่อเตรียมจัดการ เรยี นร้ใู นคร้งั ตอ่ ไป 10. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี น รายวิชาพนื้ ฐาน พระพุทธศาสนา ม. 1 2. คู่มือการสอน พระพทุ ธศาสนา 1 3. ส่ือการเรียนรู PowerPoint รายวิชาพื้นฐาน พระพทุ ธศาสนา ม. 1 4. หนังสือเรียน นกั ธรรมชน้ั ตรี 11. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพัฒนา 2. ปญั หา/อุปสรรคในการจัดการเรยี นรู้ แนวทางแกไ้ ข 3. ส่งิ ทไ่ี ม่ได้ปฏิบัติตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนผกังามรโจนัดทกศัารนเเ์รปีย้ำนหรู้มำยกำรเรียนรแู้ ละขอบข่ำยภำระงำน/ช้นิ งำน วลิชงำชพอื่ ระพทุ ธศำสนำ ๑ ผสู้ อน / / ความรู้ 1. หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา 2. ความสาคัญของหลักธรรม 3. สาระสาคัญ 4. การนาไปใช้ ทักษะ/กระบวนการ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ ม 1. การสือ่ สาร 2. การคดิ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรียนรู้
หลักธรรม ภาระงาน/ชิ้นงาน 1. การทาแบบทดสอบ 2. การอภิปรายเก่ยี วกบั การหลกั ธรรมตามทเี่ รียน 3. การอภิปรายเกี่ยวกับความสาคัญของหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาต่อ สังคมไทย และความสาคัญของพระพทุ ธศาสนากบั การพฒั นาชุมชนและการ จดั ระเบียบสังคม 4. การนาเสนอวิธีการส่ังสอนธรรม 5. การวิเคราะหห์ ลกั ธรรมดว้ ยวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ 6. การนาเสนอผลงาน ผังการออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 หลักธรรม ขนั้ ที่ 1 ผลลัพธป์ ลายทางท่ีต้องการให้เกดิ ข้ึนกบั นักเรียน ตวั ชี้วัดชนั้ ปี 1. วเิ คราะหค์ วามสําคัญของหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาทตี่ นนับถือในฐานะที่เปน็ รากฐานของวัฒนธรรม เอกลักษณ์ของชาติ และมรดกของชาติ (ส 1.1 ม. 2/3) 2. อภิปรายความสาํ คญั ของหลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนาทตี่ นนบั ถือกบั การพัฒนาชมุ ชนและการจัดระเบยี บสังคม (ส 1.1 ม. 2/4)
ความเขา้ ใจทค่ี งทนของนักเรียน คําถามสําคัญที่ทาํ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจที่คงทน นักเรยี นจะเข้าใจว่า... 1. หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนา 1. หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา ธรรมเป็นโลกบาล 2 ธรรมเป็นโลกบาล 2 ธรรมอนั ทาํ ให้งาม 2 ธรรมอนั ทาํ ใหง้ าม 2 บุคคลหาไดย้ าก 2 บุคคลหาได้ยาก 2 รตนะ 3 รตนะ 3 คุณของรตนะ 3 คุณของรตนะ 3 อาการที่ พระพุทธเจา้ ทรงส่ังสอน 3 อาการท่ี พระพุทธเจา้ ทรงสงั่ สอน 3 โอวาทของพระพุทธเจา้ 3 โอวาทของพระพุทธเจา้ 3 ทุจริต 3 ทจุ รติ 3 สุจรติ 3 สจุ ริต 3 อกุศลมลู 3 อกศุ ลมูล 3 กุศลมูล 3 กศุ ลมูล 3 สัปปรุ สิ บัญญตั ิ 3 สัปปรุ ิสบญั ญตั ิ 3 อปัณณกปฏิปทา 3 อปัณณกปฏปิ ทา 3 บุญกริ ยิ าวตั ถุ 3 บญุ กิรยิ าวัตถุ 3 สามญั ลกั ษณะ 3 สามัญลกั ษณะ 3 วฑุ ฒิ 4 วุฑฒิ 4 จกั ร 4 จักร 4 อคติ 4 อคติ 4 อันตรายของพระภิกษุสามเณรผู้บวชใหม่ 4 อันตรายของพระภิกษสุ ามเณรผู้บวชใหม่ 4 ปธาน 4 ปธาน 4 อธษิ ฐานธรรม 4 อธิษฐานธรรม 4 อิทธิบาท 4 อทิ ธบิ าท 4 ควรทาํ ความไม่ ประมาทในที่ 4 สถาน ควรทาํ ความไม่ ประมาทในที่ 4 สถาน ควรทําความไม่ประมาทในที่ 4 สถาน(อกี อย่างหนึ่ง) ควรทาํ ความไมป่ ระมาทในท่ี 4 สถาน(อกี อย่างหน่งึ ) ปาริสุทธศิ ีล 4 ปาริสุทธศิ ีล 4
อารักขกมั มฏั ฐาน 4 อารักขกมั มัฏฐาน 4 พรหมวิหาร 4 พรหมวิหาร 4 สตปิ ัฏฐาน 4 สติปฏั ฐาน 4 ธาตกุ มั มัฏฐาน 4 ธาตุกมั มฏั ฐาน 4 อริยสัจ 4 อรยิ สัจ 4 มีผลดีอย่างไร เป็นหลกั ปฏิบัตใิ นชุมชนและมรดกของชาติ 2. หลักธรรมนมี้ ีความสําคัญต่อสงั คมไทยอย่างไร แล้ว ยังมคี วามสาํ คญั ต่อสังคมไทยในการพฒั นา 3. การศกึ ษาหลกั ธรรมน้มี ปี ระโยชน์ต่อผ้ทู ศ่ี ึกษาอยา่ งไร ชมุ ชนและการจดั ระเบยี บสงั คมอกี ดว้ ย และได้ แบบอยา่ งในการดําเนนิ ชวี ติ ท่ีถูกต้อง ทาํ ให้ได้ ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนทีจ่ ะนาํ ไปสู่ ขอ้ คดิ ทีส่ ามารถนําไปประยกุ ต์ใช้หรอื เป็น ความเขา้ ใจที่คงทน นักเรียนจะสามารถ... แบบอย่างในการดําเนนิ ชวี ิตได้ 1. อภิปรายความสําคัญของหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาคือ ธรรม ความรู้ของนักเรยี นทน่ี ําไปสคู่ วามเข้าใจที่คงทน เปน็ โลกบาล 2 นักเรียนจะรวู้ ่า... ธรรมอนั ทําให้งาม 2 1. หลกั ธรรมท่สี าํ คัญ ได้แก่ ธรรมเปน็ โลกบาล 2 บุคคลหาไดย้ าก 2 ธรรมอันทาํ ใหง้ าม 2 รตนะ 3 บคุ คลหาได้ยาก 2 คุณของรตนะ 3 รตนะ 3 อาการท่ี พระพุทธเจ้าทรงส่งั สอน 3 คณุ ของรตนะ 3 โอวาทของพระพทุ ธเจ้า 3 อาการท่ี พระพุทธเจา้ ทรงสงั่ สอน 3 ทจุ รติ 3 โอวาทของพระพุทธเจ้า 3 สจุ ริต 3 ทจุ ริต 3 อกุศลมลู 3 สุจรติ 3 กศุ ลมูล 3 อกุศลมลู 3 สปั ปรุ สิ บญั ญตั ิ 3 กุศลมูล 3 อปัณณกปฏิปทา 3 สัปปรุ สิ บญั ญัติ 3 บุญกิริยาวตั ถุ 3 อปัณณกปฏิปทา 3 บุญกริ ิยาวตั ถุ 3 สามัญลกั ษณะ 3
วฑุ ฒิ 4 สามัญลักษณะ 3 จกั ร 4 วุฑฒิ 4 อคติ 4 จกั ร 4 อันตรายของพระภกิ ษสุ ามเณรผ้บู วชใหม่ 4 อคติ 4 ปธาน 4 อันตรายของพระภกิ ษสุ ามเณรผู้บวชใหม่ 4 อธิษฐานธรรม 4 ปธาน 4 อิทธบิ าท 4 อธษิ ฐานธรรม 4 ควรทําความไม่ ประมาทในที่ 4 สถาน อทิ ธิบาท 4 ควรทําความไมป่ ระมาทในท่ี 4 สถาน(อกี อยา่ งหนง่ึ ) ควรทําความไม่ ประมาทในท่ี 4 สถาน ปารสิ ทุ ธศิ ลี 4 ควรทําความไม่ประมาทในที่ 4 สถาน(อกี อยา่ งหน่งึ ) อารกั ขกัมมัฏฐาน 4 ปาริสทุ ธิศลี 4 พรหมวหิ าร 4 อารักขกัมมัฏฐาน 4 สตปิ ฏั ฐาน 4 พรหมวหิ าร 4 ธาตุกัมมฏั ฐาน 4 สตปิ ฏั ฐาน 4 อริยสัจ 4 ธาตกุ ัมมัฏฐาน 4 อรยิ สัจ 4 แลว้ นําไปประพฤติปฏิบตั ิในประจาํ วัน ขน้ั ท่ี 2 ภาระงานและการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ซง่ึ เป็นหลักฐานทีแ่ สดงว่านักเรียนมผี ลการเรียนรู้ ตามทีก่ ําหนดไว้อย่างแทจ้ ริง 1. ภาระงานที่นกั เรยี นตอ้ งปฏบิ ัติ 1.1 อภปิ รายหลกั ธรรมท่ศี ึกษา 1.2 อภปิ รายเกย่ี วกับความสาํ คญั ของหลกั ธรรมที่ศึกษาทางพระพทุ ธศาสนา 1.3 นาํ เสนอหลักธรรมด้วยผงั มโนทศั น์ 1.4 วิเคราะห์ข้อคิดจากหลกั ธรรมทศี่ ึกษา 2. วธิ กี ารและเคร่อื งมือประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2.1 วิธีการประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2.2 เคร่อื งมอื ประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1) การทดสอบ 1) แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรยี น 2) การประเมินผลงาน/กจิ กรรม 2) แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรม เปน็ รายบุคคลหรือรายกลุ่ม เปน็ รายบคุ คลหรือเป็นกลุ่ม 3) การประเมินด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และ 3) แบบประเมนิ ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และค่านยิ ม 4) การประเมินด้านทกั ษะ/กระบวนการ 4) แบบประเมินด้านทกั ษะ/กระบวนการ 3. ส่ิงที่ม่งุ ประเมนิ 3.1 ความเขา้ ใจ 6 ด้าน ไดแ้ ก่ การอธบิ าย ช้แี จง การแปลความและตีความ การประยุกต์ ดดั แปลง และนําไปใช้ การมมี ุมมองท่ีหลากหลาย การให้ความสําคัญและใส่ใจในความรูส้ ึกของผู้อืน่ และการรู้จกั ตนเอง 3.2 สมรรถนะสาํ คญั ได้แก่ ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการ แกป้ ัญหา ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ และความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 3.3 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ได้แก่ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพียง มงุ่ มนั่ ในการทาํ งาน รกั ความเปน็ ไทย และมจี ติ สาธารณะ ขนั้ ท่ี 3 แผนการจดั การเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 ศกึ ษาหลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา เวลา 21 ชวั่ โมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ศึกษาพุทธประวตั ิ เวลา 12 ชัว่ โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 ศกึ ษาศาสนพธิ ี เวลา 6 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 ศึกษาวนิ ัยบญั ญตั ิ เวลา 19 ชั่วโมง แผนการจดั การเรียนรู้ สอบกลางภาค/ปลายภาคเรยี น เวลา 2 ชวั่ โมง รวม 60 ชัว่ โมง
Search
Read the Text Version
- 1 - 30
Pages: