ชุดกจิ กรรมการเรียนรชู้ ุดที่ 2 เร่ืององคป์ ระกอบของระบบนเิ วศก ชุดกจิ กรรมการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เรือ่ ง ระบบนเิ วศ โดยใชว้ ัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขัน้ คํานสาํ ําหรบั นักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เร่ือง ระบบนเิ วศโดยใช้วฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขน้ั สาํ หรบั นกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี3น้ี เปน็ นวัตกรรมการเรยี นรู้ ที่จัดทําขึน้ เพ่อื ใช้เปน็ ส่ือประกอบการจัด การเรยี นรู้ เร่อื ง ระบบนเิ วศรายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ สําหรับนกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3ซงึ่ ชดุ กจิ กรรมการ เรียนรนู้ ้ีมีเนอ้ื หาสาระและกิจกรรมท่ีสอดคล้องกับ สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ของหลักสูตรแกนกลาง การศกึ ษาขนั้ พื้นฐานพุทธศักราช 2551เป็นเคร่ืองมือในการแสวงหาความรขู้ องนักเรยี นทเี่ น้นนักเรยี นเป็น สาํ คญั โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสาํ รวจตรวจสอบ การสบื คน้ ข้อมลู และการอภปิ ราย เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่งิ ท่ีเรยี นรู้ มีความสามารถใน การตดั สนิ ใจและมีจติ วิทยาศาสตร์ ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เร่ือง ระบบนิเวศ โดยใช้วัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ขั้น สาํ หรับ นักเรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่3น้ี ประกอบด้วยชดุ กจิ กรรมการเรียนรทู้ ง้ั หมด8 ชุด ดงั นี้ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง ความสมั พนั ธข์ องส่ิงมชี ีวิตกบั สิง่ แวดล้อม จํานวน2ช่ัวโมง ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง องค์ประกอบของระบบนิเวศ จํานวน2ชว่ั โมง ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง การถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศ จาํ นวน 2 ชั่วโมง ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง ความสัมพันธร์ ะหวา่ งส่งิ มีชีวติ ในระบบนิเวศ จํานวน 2 ช่วั โมง จํานวน 2 ชว่ั โมง จํานวน 1 ช่วั โมง ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ที่ 5 เร่ือง วฏั จักรของสารในระบบนิเวศ ชุดท่ี 2 เรื่อง องคป์ ระกอบของระบบนิเวศชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ี 6 เร่ือง ดลุ ยภาพของระบบนเิ วศ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ที่ 7 เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ จํานวน 2 ช่วั โมง ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ท่ี 8 เรื่อง ประชากร จํานวน 2 ชัว่ โมง ธนาวัฒน์ คงนาค โรงเรียนลานทรายพิทยาคม อําเภอทา่ ตมู จงั หวดั สุรนิ ทร์ สํานกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 33 กระทรวงศึกษาธิการ
ชุดกจิ กรรมการเรียนรชู้ ดุ ที่ 2 เรือ่ งองค์ประกอบของระบบนเิ วศข ผู้จดั ทําขอขอบพระคุณทกุ ท่านท่ีไดใ้ ห้การสนบั สนนุ ใหค้ ําแนะนาํ ชแ้ี นะในการจัดทาํ ชดุ กิจกรรม การเรยี นร้ใู นคร้งั นี้ หวังเปน็ อยา่ งยิ่งว่าชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้น้ีจะเป็นประโยชนส์ ําหรับนกั เรียน ครผู ู้สอน และผทู้ ีส่ นใจ รวมทั้งสามารถนาํ ไปพฒั นาการเรยี นการสอนตอ่ ไป ธนาวฒั น์ คงนาค สารบัญ เรอื่ ง หน้า คํานาํ ………………………………………………………………………………………………………………… ก สารบญั ……………………………………………………………………………………………………………… ข มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชว้ี ดั ……..…………..…………………………………………………………. 1 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นร…ู้ ………………………………………..………….…………………………………... 2 ข้ันตอนการใชช้ ดุ กิจกรรมการเรยี นร…ู้ ………………………………………………………………….. 3 คาํ ช้แี จงในการใช้ชดุ กิจกรรมการเรยี นร…ู้ ……………………………………….................................... 4 กิจกรรมการเรียนร…ู้ ……………………….………………………………………………………………… 7 ขั้นท่ี 1 ขนั้ ตรวจสอบความรเู้ ดมิ .…………………………………………………………………........... 8 ขนั้ ท่ี 2 ขั้นสรา้ งความสนใจ…………………………………………………………………………........... 12 ขนั้ ที่ 3 ขนั้ สาํ รวจและคน้ หา…….…………………………………………………………………........... 14 ข้ันที่ 4 ขน้ั อธบิ าย…………………..…………………………………………………………………........... 19 ขนั้ ท่ี 5 ขน้ั ขยายความคิด……………………………………………………………………………............ 20 ขั้นที่ 6 ขั้นประเมนิ ผล……………..…………………………………………………………………........... 27 ขน้ั ท่ี 7 ขนั้ นาํ ความรไู้ ปใช…้ ……..…………………………………………………………………........... 35 บรรณานุกรม……………………………………………………………………………………………………….. 36 ประวัตผิ ู้จดั ทํา………………………………………………………………………………………………..... 37
ชดุ กิจกรรมการเรียนรชู้ ดุ ที่ 2 เรื่ององค์ประกอบของระบบนิเวศ1 มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวช้ีวัด สาระที่ 2 ชวี ิตกับส่ิงแวดลอ้ ม มาตรฐานว 2.1 เขา้ ใจสิ่งแวดล้อมในทอ้ งถ่นิ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งส่งิ แวดล้อมกับส่งิ มชี วี ติ ความสัมพันธ์ระหว่างสิง่ มชี ีวติ ต่างๆในระบบนิเวศมีกระบวนการสบื เสาะหาความรแู้ ละจิตวทิ ยาศาสตร์ ส่ือสารสงิ่ ท่ีเรียนร้แู ละนาํ ความรไู้ ปใช้ประโยชน์ สาระที่ 8 ธรรมชาตขิ องวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มาตรฐานว8.1ใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจิตวิทยาศาสตรใ์ นการสบื เสาะหาความรู้ การ แก้ปัญหา ร้วู ่าปรากฏการณ์ทางธรรมชาติท่ีเกดิ ข้ึนสว่ นใหญ่มีรปู แบบที่แน่นอน สามารถอธิบายและ ตรวจสอบได้ ภายใต้ข้อมูลและเครื่องมือทมี่ ีอยู่ในช่วงเวลาน้นั ๆ เข้าใจว่าวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมและ สง่ิ แวดล้อมมีความเกี่ยวข้องสัมพันธก์ นั ตวั ช้ีวดั สํารวจระบบนเิ วศตา่ งๆในท้องถิ่นและอธบิ ายความสมั พันธ์ขององค์ประกอบภายในระบบนิเวศ
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรชู้ ดุ ท่ี 2 เรื่ององค์ประกอบของระบบนเิ วศ2 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ชุดท่ี 2เรือ่ ง องคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ ดา้ นความรู้ 1. อธบิ าย และจําแนกองค์ประกอบของระบบนเิ วศได้ 2. จาํ แนกกลุ่มของผู้บริโภคโดยใชท้ ม่ี าของอาหารท่ีกนิ เปน็ เกณฑ์ได้ ด้านทักษะ/กระบวนการ 1. ทาํ ปฏิบตั ิการเก่ียวกับการสํารวจอาหารสัตวไ์ ด้ 2. นกั เรียนมีความสามารถในการร่วมปฏบิ ตั กิ ิจกรรมกลมุ่ ในการสบื ค้นข้อมูล อภปิ ราย อธบิ ายเกีย่ วกบั เรื่อง องค์ประกอบของระบบนเิ วศได้ ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3.มีความซ่ือสตั ย์ 4.มุ่งมัน่ ในการทาํ งาน 5. มจี ิตสาธารณะ สมรรถนะสาํ คัญ 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการส่ือสาร 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ชดุ กิจกรรมการเรียนรชู้ ุดท่ี 2 เรือ่ งองค์ประกอบของระบบนเิ วศ3 ข้นั ตอนการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ ศึกษาคําชี้แจงการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ ศกึ ษาชดุ กิจกรรมการเรยี นรูแ้ ละปฏบิ ัตติ ามข้ันตอน ดงั น้ี - ขั้นที่ 1 ขั้นตรวจสอบความรู้เดมิ - ขน้ั ท่ี 2 ขน้ั สรา้ งความสนใจ -ขั้นที่ 3 ขัน้ สํารวจและค้นหา - ขัน้ ท่ี 4 ขน้ั อธบิ าย - ขัน้ ที่ 5 ขั้นขยายความคิด - ขน้ั ที่ 6 ขั้นประเมินผล ไมผ่ า่ น ผ่าน - ขนั้ ท่ี 7 ขั้นนําความรไู้ ปใช้ ศกึ ษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดตอ่ ไป
ชดุ กิจกรรมการเรียนรชู้ ดุ ที่ 2 เร่อื งองค์ประกอบของระบบนเิ วศ4 คําช้แี จงในการใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เพอื่ ใหก้ ารใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้นม้ี ีประสิทธภิ าพ และบรรลตุ ามจดุ ประสงค์ทตี่ ั้งไว้ ครผู สู้ อน และนักเรยี นควรปฏบิ ัติตามคําช้ีแจงดังน้ี คาํ ชแ้ี จงสาํ หรบั ครูผสู้ อน 1. บทบาทของครูผูส้ อน มีดังน้ี 1. ศกึ ษาแผนการจดั การเรยี นรู้มาตรฐานการเรียนรู้ตวั ชี้วัดจุดประสงคก์ ารเรยี นร้กู ารวดั และ ประเมนิ ผลและกระบวนการจัดการเรียนรใู้ ห้เข้าใจอยา่ งชัดเจน 2. เตรยี มชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้และวสั ดอุ ปุ กรณ์ประจาํ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ให้พร้อมและ เพยี งพอกับจาํ นวนนักเรียน 3. แนะนาํ ขัน้ ตอนการใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรยี นรแู้ นวปฏิบตั ิใหน้ ักเรียนรบั ทราบโดยละเอียด ตลอดจนกาํ หนดขอ้ ตกลงรว่ มกนั 4. ก่อนการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนรูใ้ หน้ กั เรยี นทาํ แบบทดสอบกอ่ นเรียนเพอื่ วัดความรู้พนื้ ฐาน กอ่ นเรียน 5. กระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นศึกษา ปฏิบตั กิ ิจกรรม เปน็ ทปี่ รกึ ษาและคอยให้กาํ ลงั ใจ ให้ความชว่ ยเหลอื ขณะนักเรียนปฏิบัติกิจกรรม 6. จดั กิจกรรมการเรียนการสอนโดยปฏิบตั ติ ามบตั รคําสง่ั ในชุดกจิ กรรมการเรียนรอู้ ยา่ ง เครง่ ครดั โดยครตู ้องกาํ กบั ดูแลนักเรยี นอย่างใกลช้ ิดขณะจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน 7. การสรุปบทเรยี น ควรเปดิ โอกาสให้นักเรยี นมสี ว่ นร่วมในการสรปุ เนอื้ หาใหม้ ากหรือชว่ ยกัน สรุป 8. หลงั จากทาํ กิจกรรมการเรียนการสอนเสร็จเรยี บร้อยแล้วให้นักเรียนเกบ็ วัสดอุ ปุ กรณ์ และองคป์ ระกอบของชดุ กิจกรรมการเรยี นรใู้ หเ้ รยี บร้อย 9. เม่ือเรียนจบทั้ง 8ชดุ ครผู ้สู อนจะต้องสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียน และใหน้ กั เรียนทําแบบวดั ความพงึ พอใจ
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรชู้ ุดท่ี 2 เร่ืององคป์ ระกอบของระบบนิเวศ5 2. สิง่ ท่ีครตู อ้ งเตรียม มดี งั นี้ ครตู อ้ งเตรยี มสอ่ื การเรียนให้ครบตามขั้นตอนการจดั ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้ 2.1 แบบทดสอบก่อน 2.2ใบความรู้ 2.3 ใบกิจกรรม 2.4 ใบงาน 2.5 แบบทดสอบหลังเรียน 2.6 เฉลยใบกจิ กรรม 2.7 เฉลยใบงาน 2.8เฉลยแบบทดสอบก่อนและหลังเรยี น 2.9แบบประเมนิ การปฏิบัตงิ านกลมุ่ 2.10แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 2.11 แบบประเมนิ สมรรถนะสําคัญ 3. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 3.1ด้านความรู้ ประเมินจากการทาํ ใบกิจกรรม ใบงาน และแบบทดสอบหลงั เรยี น 3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ประเมินจากแบบประเมินการปฏบิ ตั ิงานกลมุ่ 3.3 ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ประเมนิ จากแบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 3.4 สมรรถนะสําคญั ประเมินจากแบบประเมินสมรรถนะสาํ คญั 4. เกณฑ์ผ่านการประเมนิ 4.1 ด้านความรู้ คะแนนผลงานรายบุคคลจากการทาํ ใบกจิ กรรม ใบงาน และแบบทดสอบหลัง เรียน ถกู ตอ้ งร้อยละ80ข้ึนไปถือว่าผา่ นเกณฑ์ 4.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ คะแนนพฤตกิ รรมการทาํ งานเป็นกลุ่มเกณฑ์ผ่านร้อยละ80ของ คะแนนเต็ม 4.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนรายบคุ คลจากการประเมินคุณลักษณะอันพึง- ประสงค์ เกณฑผ์ า่ นร้อยละ80ของคะแนนเต็ม 4.4 สมรรถนะสําคัญ คะแนนรายบคุ คลจากการประเมนิ สมรรถนะสาํ คัญ เกณฑผ์ ่านรอ้ ยละ80 ของคะแนนเต็ม
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรชู้ ดุ ที่ 2 เรอ่ื งองค์ประกอบของระบบนิเวศ6 คาํ ชแ้ี จงสําหรบั นกั เรียน 1. ศึกษาคาํ แนะนําในการใชช้ ุดกิจกรรมการเรยี นรู้ใหเ้ ขา้ ใจกอ่ นจะลงมอื ปฏิบตั ิกิจกรรมและ ปฏิบัติตามข้นั ตอนตามเวลาท่ีกําหนด 2. ทาํ แบบทดสอบก่อนเรยี นจํานวน 10 ขอ้ ในเวลา 10 นาที เพื่อวดั ความรูพ้ ื้นฐานของ นักเรยี น 3. ปรกึ ษาครูผู้สอน เมื่อมปี ัญหาหรือไม่เขา้ ในการใชช้ ุดกิจกรรมการเรยี นรู้หรือในการปฏิบัติ กิจกรรม 4. ศึกษาเน้ือหาและลงมือปฏิบัตกิ จิ กรรมตามลําดบั ข้ันตอนก่อน-หลัง 5. เลอื กตัวแทนนาํ เสนอผลงานกลุ่มหน้าช้นั เรียน 6. ทําแบบทดสอบหลงั เรียนทกุ ครง้ั เมือ่ เรียนจบในแตล่ ะชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 7. เกณฑ์ผ่านการประเมิน 7.1 ดา้ นความรู้ คะแนนผลงานรายบคุ คลจากการทาํ ใบกิจกรรม ใบงาน และ แบบทดสอบหลงั เรียน ถูกต้องร้อยละ80ขึ้นไปถือว่าผา่ นเกณฑ์ 7.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ คะแนนพฤติกรรมการทาํ งานเป็นกลุ่มเกณฑ์ผ่านร้อยละ 80ของคะแนนเต็ม 7.3 ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนรายบุคคลจากการประเมนิ คุณลักษณะอัน พึงประสงค์ เกณฑผ์ า่ นร้อยละ80ของคะแนนเต็ม 7.4 สมรรถนะสําคัญ คะแนนรายบคุ คลจากการประเมินสมรรถนะสําคญั เกณฑ์ผา่ นร้อยละ80ของคะแนนเต็ม
ชุดกจิ กรรมการเรียนรชู้ ดุ ที่ 2 เรือ่ งองค์ประกอบของระบบนิเวศ7 กิจกรรมการเรยี นรู้ วฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขน้ั ข้ันท่ี 1 ขนั้ ตรวจสอบความรเู้ ดิม (Elicitation Phase) ขั้นท่ี 2 ขนั้ สรา้ งความสนใจ (Engagement Phase) ขน้ั ท่ี 3 ขั้นสํารวจและค้นหา (Exploration Phase) ขั้นที่ 4 ขั้นอธิบาย (Explanation Phase) ขัน้ ท่ี 5 ขน้ั ขยายความคิด(Expansion Phase) ขน้ั ที่ 6 ขั้นประเมินผล (Evaluation Phase) ขน้ั ที่ 7 ขน้ั นําความรไู้ ปใช้ (Extension Phase)
ชุดกจิ กรรมการเรียนรชู้ ุดที่ 2 เร่ืององคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ8 ข้ันที่ 1 ข้ันตรวจสอบความรเู้ ดมิ (Elicitation Phase) นักเรยี นปฏบิ ตั ิดงั น้ี 1.ตอบคาํ ถามเกีย่ วกบั ความสมั พนั ธ์ของสง่ิ มชี ีวิตกบั ส่ิงแวดล้อมดังน้ี - จากกจิ กรรมการสํารวจส่ิงแวดลอ้ มในท้องถ่ินที่เรยี นผา่ นมา ชนิดและปริมาณของ สงิ่ มชี วี ิตที่พบในแต่ละบริเวณที่สํารวจเหมอื นหรอื ตา่ งกนั อยา่ งไรเพราะเหตใุ ดจึงเป็น เช่นน้ัน - สิ่งแวดล้อมแบง่ ออกเปน็ ก่ีประเภท อะไรบ้าง - ระบบนิเวศ มคี วามหมายวา่ อย่างไร - ระบบนเิ วศ แบง่ ออกเป็นก่ีประเภทอะไรบา้ ง - โครงสร้างของระบบนเิ วศ ประกอบไปดว้ ยอะไรบ้าง 2. ทาํ แบบทดสอบกอ่ นเรียนชุดที่ 2 จาํ นวน 10 ขอ้
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรชู้ ุดที่ 2 เร่ืององค์ประกอบของระบบนเิ วศ9 แบบทดสอบก่อนเรยี น ชุดที่ 2 เร่อื ง องคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ วชิ า วทิ ยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 จาํ นวน 10 ข้อเวลา 10 นาที คําสงั่ :1.แบบทดสอบนเ้ี ป็นแบบปรนยั เลือกตอบมีทัง้ หมด 10 ขอ้ 2.ใหน้ ักเรยี นเลือกคําตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสดุ เพยี งคําตอบเดียวแล้วทาํ เคร่อื งหมายกากบาท(X) ลง ในกระดาษคาํ ตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. องคป์ ระกอบของระบบนเิ วศในขอ้ ใดจดั เป็นองค์ประกอบที่ไม่มีชีวติ ก. พชื สตั ว์ มนุษย์ นํา้ ข. ดนิ น้าํ อากาศ แสงจากดวงอาทติ ย์ ค. ปา่ ไม้ อากาศ แมลงวัน แบคทเี รีย ง. ต้นหญา้ จ้ิงหรดี แบคทีเรยี ผเี ส้ือ 2. ตารางแสดงแหลง่ ท่ีอยู่บทบาทหน้าท่ีอาหารท่บี รโิ ภคการขยายพันธ์ุของสิง่ มชี ีวิต ชนดิ ต่างๆดงั นี้ ชนดิ แหลง่ ที่อยู่ บทบาทหน้าท่ี อาหารทบี่ รโิ ภค การขยายพันธ์ุ A บนบก ผูย้ อ่ ยสลาย ซากพืชซากสตั ว์ ไม่อาศัยเพศ B บนบก ผ้ยู ่อยสลาย สรา้ งอาหารได้เอง ไมอ่ าศัยเพศ C บนบก ผ้บู รโิ ภค พืชและสัตว์ อาศัยเพศ D ในนาํ้ ผ้บู รโิ ภค พชื และสตั ว์ อาศัยเพศ E ในนาํ้ ผู้ผลิต สร้างอาหารได้เอง อาศัยเพศ F บนบก ผูย้ อ่ ยสลาย ซากพชื ซากสตั ว์ ไม่อาศยั เพศ ถา้ ตอ้ งการแบ่งสง่ิ มีชวี ติ ออกเปน็ 3 ประเภทเกณฑท์ ี่ใชแ้ บง่ คือข้อใด ก. ชนิด ข. แหลง่ ทอ่ี ยู่ ค. บทบาทหนา้ ที่ ง. การขยายพนั ธุ์
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรชู้ ุดที่ 2 เร่อื งองคป์ ระกอบของระบบนิเวศ10 3. โดยปกติสดั สว่ นของปริมาณสง่ิ มีชวี ติ ในธรรมชาติเปน็ อย่างไร ก. ผผู้ ลิตมีปรมิ าณนอ้ ยกว่าผู้บริโภค ข. ผผู้ ลติ มปี ริมาณมากกวา่ ผู้บรโิ ภค ค. ผู้ผลิตมปี รมิ าณเทา่ กับผู้บรโิ ภค ง. ไม่แน่นอนข้นึ อยู่กบั ชนดิ ของสงิ่ มชี ีวติ ที่เป็นองค์ประกอบ 4. ในระบบนิเวศท่ัวๆไปประกอบดว้ ยส่ิงมีชวี ิต 3 กล่มุ คือ ....1.... มหี นา้ ทีส่ ังเคราะห์อาหารซ่งึ เป็นอนนิ ทรยี สารโดยใช้วตั ถดุ ิบที่ไร้ชีวติ กับพลงั งาน ....2..... ต้องการพลังงานและสารอาหารทไี่ ด้จากการย่อยอินทรยี สารจากส่ิงมชี ีวติ .....3..... เป็นกลุ่มสิง่ มีชีวิตทีเ่ ปลย่ี นสารอนิ ทรียจ์ ากส่ิงมชี วี ติ ทีต่ ายแลว้ หรือจากของเสียของสงิ่ มีชีวิตให้ เป็นสารอนินทรยี ์ท้ังน้ี1, 2, 3 คอื ข้อใดตามลาํ ดับ ก. ผู้ยอ่ ยสลายผผู้ ลติ ผู้บรโิ ภค ข. ผู้ย่อยสลายผู้บรโิ ภคผผู้ ลติ ค. ผผู้ ลิตผู้ย่อยสลายผู้บรโิ ภค ง. ผู้ผลติ ผ้บู ริโภคผู้ยอ่ ยสลาย 5. ส่ิงมชี วี ติ ชนิดใดที่สามารถเปลย่ี นอินทรียสารใหเ้ ปน็ อนินทรียสารได้ ก. สาหร่าย ข. นก ค. เหด็ รา ง. เฟิน 6. จากภาพด้านลา่ งแสดงเส้นทาง 4 เสน้ ทางของนกทบี่ ินไปกนิ ไสเ้ ดอื นที่บริเวณเรือนไทย นักเรยี นคิดว่าเส้นทางใดมรี ะยะทางใกลท้ ่ีสุด ก. เส้นทางท่ี 1 ข. เสน้ ทางที่ 2 ค. เสน้ ทางที่ 3 ง. เสน้ ทางที่ 4 7. ต้นหมอ้ ขา้ วหม้อแกงลงิ สามารถกินสัตวพ์ วกแมลงต่างๆทตี่ กลงไปได้ พืชชนิดนจี้ ดั เป็น ก. ผผู้ ลิต ข. ผบู้ ริโภคพืช ค. ผบู้ รโิ ภคสัตว์ ง. ผูบ้ ริโภคท้ังพชื และสตั ว์ 8. ขอ้ ใดเปน็ ความสาํ คัญของผยู้ ่อยสลาย ก. ทําให้เกิดการหมุนเวียนสารตา่ งๆ ข. ทาํ ใหเ้ กิดการถา่ ยทอดพลังงานโดยตรง ค. ย่อยสลายอาหารพวกเกลือแรใ่ นดินใหเ้ ปน็ คารบ์ อนไดออกไซด์ ง. ทําใหด้ นิ กรดกลายเปน็ ดนิ ดีเพราะสามารถสรา้ งด่างได้
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรชู้ ดุ ที่ 2 เรอ่ื งองคป์ ระกอบของระบบนิเวศ11 9. ส่งิ มชี ีวติ ในข้อใดเป็นผบู้ ริโภคสัตว์ (Carnivore) ทั้งหมด ก. เสือสนุ ขั จ้ิงจอก วัว ข. แมว ช้าง หมู ค. งูเสอื สิงโต ง. งูลิง กระตา่ ย 10. การแบ่งประเภทของสง่ิ มีชีวิตจากตารางขา้ งลา่ งผ้แู บง่ ยึดเกณฑต์ ามข้อใด กลุ่มที่ 1 ต้นคะนา้ กลว้ ยไม้หญา้ ชบา กลมุ่ ท่ี 2 เห็ดรายสี ต์แบคทีเรีย ก. ประเภทของระบบนิเวศ ข. บทบาทของสิง่ มีชีวติ ในระบบนิเวศ ค. ความสมั พันธ์ของสง่ิ มชี วี ิตตา่ งชนดิ ง. สิ่งแวดล้อมทางกายภาพและส่ิงแวดลอ้ มทางชวี ภาพ
ชุดกิจกรรมการเรยี นรชู้ ดุ ที่ 2 เร่อื งองคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ12 ขั้นที่ 2 ข้ันสร้างความสนใจ (Engagement Phase) นักเรียนปฏิบัตดิ ังน้ี 1. นักเรยี นดภู าพสงิ่ มีชีวติ และส่งิ ไมม่ ีชวี ิต จากภาพประกอบการศึกษา เช่น เห็ดบนขอนไม้ แสงแหล่งกําเนดิ พลังงานสําหรับพชื 2. ตอบคาํ ถามเกย่ี วกับองค์ประกอบของระบบนิเวศ ดงั นี้ -จากภาพท่คี รูใหด้ ู และจากกิจกรรมการสาํ รวจส่งิ แวดล้อมในทอ้ งถน่ิ ท่ีเรยี น ผา่ นมา นกั เรียนสามารถแบ่งองค์ประกอบของระบบนเิ วศออกเป็นกีส่ ่วน อะไรบา้ ง - จากภาพทค่ี รใู ห้ดู และจากกจิ กรรมการสาํ รวจสิ่งแวดลอ้ มในทอ้ งถ่ินที่เรียน ผ่านมาสิ่งใดบ้างจดั เปน็ องค์ประกอบทีม่ ีชวี ติ และองค์ประกอบที่ไม่มชี ีวติ - องค์ประกอบทีม่ ชี วี ติ และองคป์ ระกอบท่ีไม่มชี ีวิตของระบบนิเวศดังกล่าว มีความสมั พนั ธก์ นั หรอื ไม่ อย่างไร 3. นกั เรยี นจดั กล่มุ กลุม่ ละประมาณ 5-6 คน แบบคละความสามารถ คือมที ง้ั คนเกง่ ปานกลางและออ่ น แลว้ แต่ละกล่มุ ร่วมกนั ตง้ั ช่อื กลุ่ม เลือกตั้งประธาน รองประธาน และเลขานุการ (โดยบทบาทต่างๆนจ้ี ะหมุนเวียนไปเร่อื ยๆ เพ่ือใหน้ ักเรียนทกุ คนมี ส่วนร่วมและรับผิดชอบหน้าทภี่ ายในกลมุ่ )
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรชู้ ดุ ท่ี 2 เร่อื งองคป์ ระกอบของระบบนิเวศ13 ภาพประกอบการศึกษา ภาพ 2-1 เหด็ บนขอนไม้ ทมี่ า : สถาบันส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (2556 : 1) ภาพ 2-2 แสงแหลง่ กําเนิดพลังงานสาํ หรับพืช ท่ีมา : สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2556 : 38)
ชดุ กิจกรรมการเรียนรชู้ ุดท่ี 2 เร่อื งองคป์ ระกอบของระบบนิเวศ14 ขั้นท่ี 3ขัน้ สํารวจและคน้ หา (Exploration Phase) นักเรยี นปฏิบัตดิ ังนี้ 1. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนรับใบกจิ กรรมท่ี 2 เรอื่ ง สํารวจอาหารสัตว์ แลว้ นักเรยี น ร่วมกนั ศึกษาพรอ้ มทั้งศึกษาเพิม่ เติมจากหนงั สือเรียนและหนังสือคู่มือ 2. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ศึกษาใบกิจกรรมร่วมกันต้ังปัญหา ตั้งสมมติฐานระดมความคดิ ใน การทํากจิ กรรม ทําการศึกษาและสาํ รวจตามใบกิจกรรมทีไ่ ด้รับมอบหมายมี ปฏิสัมพนั ธก์ นั ภายในกลุ่มและระหวา่ งกลุ่มเมือ่ มขี ้อสงสัยสามารถถามเพอ่ื นหรอื ครูได้ 3. นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายถึงผลการทํากจิ กรรมสาํ รวจอาหารสตั ว์วา่ เปน็ อย่างไร 4. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ รว่ มกันอภปิ รายและเขยี นรายงานผลการทําใบกิจกรรม
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรชู้ ดุ ท่ี 2 เรื่ององค์ประกอบของระบบนิเวศ15 ใบกจิ กรรมท่ี 2 เร่อื ง สาํ รวจอาหารสัตว์ วชิ า วิทยาศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 คาํ ชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มออกแบบตารางเพ่ือบนั ทึกอาหารของสตั วช์ นดิ ต่างๆ ที่กําหนดให้โดยเขียน ช่อื ของอาหารสตั ว์ พร้อมทั้งจาํ แนกว่าอาหารน้นั มาจากพืชหรอื สตั ว์ จดุ ประสงค์ 1. ระบุแหลง่ ที่มาของอาหารสัตวไ์ ด้ว่ามาจากพชื หรอื สัตว์ 2. จําแนกกลุ่มของผ้บู รโิ ภคโดยใช้ท่ีมาของอาหารท่ีสัตว์กินเป็นเกณฑ์ ข้อแนะนาํ ในการทาํ กิจกรรม 1. สตั ว์ชนดิ หนง่ึ กินอาหารหลายอยา่ ง ใหใ้ ส่ลงในตารางด้วย แล้วพจิ ารณาว่าอาหารแต่ละชนดิ มาจากพชื หรอื สัตว์ 2. ในกรณที ไ่ี มท่ ราบว่าสัตวช์ นดิ นน้ั กินอะไรเป็นอาหาร ใหค้ ้นควา้ ข้อมูลเพิ่มเตมิ จากแหลง่ เรียนรู้หรือ สอบถามจากผูร้ ู้ วธิ ีทาํ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกแบบตารางเพ่ือบันทึกอาหารของสัตวช์ นิดต่างๆ ท่กี าํ หนดใหโ้ ดยเขียน ชอ่ื ของอาหารสัตว์ พร้อมท้งั จําแนกวา่ อาหารนัน้ มาจากพืชหรือสตั ว์ซง่ึ ชนิดของสัตว์ตา่ งๆ ที่กําหนดให้ ได้แก่ เตา่ นา หอยทาก กวาง แมว กง้ิ กือ ชา้ ง กบ เสือ นกกระจอก ไส้เดอื นดนิ กระต่าย ไก่ จระเข้ ปลวก คน สุนขั งูเหลือม แมลงปอ แมงมุม
ชดุ กิจกรรมการเรียนรชู้ ุดท่ี 2 เรือ่ งองคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ16 คาํ ถามท้ายกิจกรรม 1. สัตวช์ นิดใดกนิ พชื อย่างเดียว 2. สัตว์ชนิดใดกินสัตวอ์ ยา่ งเดยี ว 3. สตั ว์ชนดิ ใดกินทงั้ พชื และสตั ว์ 4. นกั เรียนจะจําแนกสัตวต์ ามชนดิ อาหารท่ีกินไดเ้ ป็นกี่กลุ่ม อะไรบา้ ง 5. จงเขยี นแผนภาพเวนนเ์ พ่ือสรุปเก่ียวกบั การจัดกลมุ่ สตั ว์
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรชู้ ุดท่ี 2 เรอื่ งองคป์ ระกอบของระบบนิเวศ17 ใบบนั ทึกกจิ กรรมท่ี 2 เรอื่ ง สาํ รวจอาหารสัตว์ วิชา วทิ ยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 รายชอื่ สมาชิกในกล่มุ 1)……………………………………………………….เลขท่ี….. 2)…………………………………………………..เลขที่……. 3)……………………………………………………….เลขท่ี….. 4)…………………………………………………..เลขที่……. 5)……………………………………………………….เลขที่….. 6)…………………………………………………..เลขท่ี……. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 1. ปญั หาของการทํากจิ กรรมนค้ี ืออะไร (1 คะแนน) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. นักเรียนคิดว่าสัตว์แต่ละชนิดกนิ อาหารเหมอื นกันหรือไม่ อยา่ งไร (1 คะแนน) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ออกแบบตารางบนั ทึกผลการศึกษาและสาํ รวจอาหารสัตว์ (3คะแนน) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรชู้ ุดท่ี 2 เร่ืององค์ประกอบของระบบนิเวศ18 4.สรปุ ผลการทํากจิ กรรม (1คะแนน) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 5. คาํ ถามทา้ ยกิจกรรม(4คะแนน) 5.1สตั ว์ชนิดใดกนิ พืชอยา่ งเดียว(1คะแนน) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 5.2สัตวช์ นดิ ใดกินสัตวอ์ ยา่ งเดียว(1คะแนน) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 5.3สตั วช์ นดิ ใดกนิ ท้ังพชื และสัตว์(1คะแนน) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 5.4นกั เรยี นจะจําแนกสัตวต์ ามทีม่ าของอาหารที่กนิ ไดเ้ ปน็ กก่ี ลมุ่ อะไรบ้าง(1คะแนน) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ชดุ กิจกรรมการเรียนรชู้ ดุ ที่ 2 เรอื่ งองค์ประกอบของระบบนเิ วศ19 ข้นั ท่ี 4ข้นั อธิบาย (Explanation Phase) นกั เรยี นปฏิบตั ดิ งั นี้ 1. นักเรียนแต่ละกลุม่ สง่ ตัวแทนกลมุ่ นาํ เสนอผลการปฏิบัตกิ ิจกรรมหน้าชน้ั เรียน 2. นกั เรียนและครูรว่ มกันอภปิ รายผลการทําใบกจิ กรรมและสรปุ ผลการทําใบกิจกรรม
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรชู้ ดุ ท่ี 2 เร่ืององคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ20 ขั้นที่ 5ขัน้ ขยายความคดิ (Expansion Phase) นกั เรียนปฏิบัตดิ ังนี้ 1. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ สง่ ตัวแทนรบั ใบความรู้ท่ี 2เรอื่ ง องค์ประกอบของระบบนิเวศ และรว่ มกันศึกษาเนอ้ื หาจากใบความรู้ 2. นกั เรียนทําใบงานที่ 2 เร่ือง องค์ประกอบของระบบนิเวศ 3. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศึกษาอภิปรายและทําใบงาน
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรชู้ ุดท่ี 2 เร่ืององค์ประกอบของระบบนิเวศ21 ใบความรู้ท่ี 2 เรื่อง องคป์ ระกอบของระบบนิเวศ วชิ า วิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบาย และจําแนกองค์ประกอบของระบบนเิ วศได้ 2.จาํ แนกกลุ่มของผู้บรโิ ภคโดยใช้ทีม่ าของอาหารท่ีกนิ เป็นเกณฑ์ได้ ระบบนิเวศทุกระบบไมว่ ่าจะเลก็ หรือใหญ่ ประกอบด้วยองค์ประกอบ 2 ส่วน คือ 1. องคป์ ระกอบทไี่ ม่มชี ีวิต(abiotic component)ประกอบด้วยสง่ิ ไมม่ ชี ีวิต แบ่งได้เป็น 3 ประเภทคือ - สารอนนิ ทรยี ์ประกอบดว้ ยแรธ่ าตแุ ละสารอนนิ ทรยี ์ซง่ึ เป็นองค์ประกอบสาํ คัญในเซลล์สงิ่ มีชีวิต เชน่ คาร์บอน ออกซเิ จน คาร์บอนไดออกไซด์ และนํ้าเปน็ ต้น - สารอินทรีย์ ไดแ้ กส่ ารอนิ ทรยี ท์ ี่จาํ เปน็ ตอ่ ชีวิต เชน่ โปรตีน คารโ์ บไฮเดรตไขมัน และซาก สงิ่ มชี ีวติ เน่าเป่อื ยทับถมกันในดนิ (humus) เปน็ ต้น - ปจั จยั ทางกายภาพท่ีมีอทิ ธิพลต่อส่งิ แวดล้อม เช่น อณุ หภูมิ แสง ความช้นื อากาศ และ พนื้ ผิวท่อี ยู่อาศยั
ชุดกิจกรรมการเรียนรชู้ ุดที่ 2 เรอ่ื งองคป์ ระกอบของระบบนิเวศ22 2. องค์ประกอบที่มชี ีวิต (bioticcomponent) ไดแ้ ก่ 2.1 ผูผ้ ลิต (producer or autotrophic) ไดแ้ ก่ส่ิงมีชีวิตทสี่ ร้างอาหารเองได้จาก กระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสง ซง่ึ เป็นวธิ กี ารสรา้ งสารอนิ ทรยี จ์ ากสารอนินทรยี ์ เรียกว่า ออโตโทรพ (autotroph) ไดแ้ ก่ สาหร่าย แพลงก์ตอนพชื แบคทเี รียบางชนิด และพชื ชนดิ ตา่ งๆ ภาพ 2-3 พืชผู้ผลติ ในระบบนิเวศ ทม่ี า : https://www.wannaphong.com/2014/10/eco-system.html ความรูเ้ พิม่ เติม หม้อข้าวหม้อแกงลิง เป็นพืชทมี่ บี ทบาท เป็นผูผ้ ลิตเหมอื พืชทั่วไป พืชชนิดน้มี สี ว่ นปลาย ของใบเปลย่ี นแปลงไปเป็นกับดักแมลง เม่ือมี แมลงหรือสตั วเ์ ล็กๆ ตกลงไปจะถกู เอนไซม์ของ พืชยอ่ ยสลาย เพื่อเป็นแรธ่ าตุบางอย่างที่ จาํ เป็นกบั พชื ภาพ 2-4หม้อข้าวหม้อแกงลิง ท่ีมา : สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2557 : 84)
ชุดกิจกรรมการเรียนรชู้ ุดที่ 2 เร่อื งองค์ประกอบของระบบนเิ วศ23 2.2ผู้บริโ ภ ค (consumer) ได้แ ก่ส่ิงมี ชีวิตที่ ไม่ส าม ารถส ร้างอ าห าร เองไ ด้ (heterotroph)ต้องกินส่ิงมีชีวิตอ่ืนเป็นอาหารเราจึงสามารถจําแนกผู้บริโภคเป็นประเภทต่างๆ ได้ตาม ทมี่ าของอาหารท่ีกิน ดงั น้ี ก. ส่ิงมีชีวติ กินพืช (herbivore)คือ ผู้บริโภคท่ีกนิ เฉพาะพืชเปน็ อาหาร เชน่ วัว ควาย ชา้ ง ม้า กระต่าย แพะ แกะ แพลงก์ตอนสตั ว์ เป็นตน้ ความรูเ้ พิ่มเติม แพลงก์ตอน หมายถงึ สง่ิ มีชวี ิตท่ลี อยไปตามกระแสนาํ้ ควบคุมการเคลือ่ นท่ี ดว้ ยตนเองไม่ได้ มีขนาดเล็ก มี 2 พวก คอื พวกทีส่ ร้างอาหารเองได้ เรยี กว่า แพลงก์ตอนพชื สว่ นพวกที่สร้างอาหารเองไมไ่ ด้ เรียกว่า แพลงก์ตอนสัตว์ ข. ส่ิงมชี วี ติ กนิ สัตว์ (carnivore)คือ ผบู้ ริโภคท่ีกนิ เฉพาะเนอ้ื สัตว์เทา่ น้นั เปน็ อาหาร จัดเปน็ ผู้ลา่ ในระบบนเิ วศ เชน่ เสอื สิงโต งู สุนขั จิ้งจอก เป็นตน้ ค. ส่ิงมชี ีวิตกินพืชและสัตว์ (omnivore) คอื ผบู้ รโิ ภคท่กี ินทัง้ พชื และสัตวเ์ ป็นอาหาร เชน่ คน เปด็ ไก่ สนุ ขั แมว หนู เป็นตน้ ก. ข. ค. ภาพ 2-5ตวั อย่างผบู้ รโิ ภค ก. สงิ่ มีชีวติ กนิ พืช ข. ส่งิ มีชวี ิตกินสัตว์ ค. สง่ิ มีชวี ติ กนิ พืชและสตั ว์ ทม่ี า : สถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (2557 : 86)
ชุดกิจกรรมการเรยี นรชู้ ดุ ที่ 2 เรอื่ งองคป์ ระกอบของระบบนิเวศ24 ง. ส่ิงมีชีวติ กินซาก (scavenger)คอื สัตว์ท่ีกินซากพืชและซากสตั วท์ ่ตี ายเปน็ อาหารเช่น นกแร้ง ไสเ้ ดือนดิน ปูมด ปลวก กง้ิ กือ หนอน แมลงวัน เป็นตน้ ภาพ 2-6กิง้ กอื เปน็ สตั ว์กินซาก ทม่ี า : สถาบันสง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (2557 : 86) ผู้บริโภคอาจแบง่ ตามลําดบั การกินอาหาร ได้ดังน้ี - ผู้บรโิ ภคปฐมภูมิ (Primary consumer)ได้แก่ สัตว์กนิ พืช (herbivore)เช่น ต๊ักแตน กระตา่ ย กวาง วัว เป็นตน้ รวมทั้งผู้บริโภคเศษอนิ ทรยี ์ เช่น ก้งิ กือ ไสเ้ ดือนดิน และหอย - ผู้บริโภคทตุ ยิ ภมู ิ (Secondary consumer)ได้แก่ สตั ว์กินสัตว์ (carnivore) หมายถงึ สัตว์ที่ กินสตั วก์ ินพชื หรอื ผบู้ รโิ ภคขั้นปฐมภมู ิเป็นอาหาร เปน็ สัตว์ท่มี ีบทบาทเปน็ ผู้ลา่ เชน่ กบ นก งู หมา ปา่ เปน็ ต้น - ผู้บริโภคตติยภมู ิ (Tertiary consumer)เปน็ ผบู้ รโิ ภคลาํ ดับสงู สดุ เป็นสิง่ มชี วี ติ ทกี่ ินทั้งสตั วก์ ิน พืชและสัตวก์ ินสตั ว์ หรือพวกทีก่ นิ ท้ังพืชและสัตวเ์ ป็นอาหาร (omnivore)เช่น เต่า เสือ คน เหยยี่ ว เป็น ตน้ 2.3 ผู้ยอ่ ยสลายสารอินทรยี ์ (decomposer) ไดแ้ ก่ส่ิงมีชวี ติ ขนาดเล็กทสี่ รา้ งอาหาร เองไม่ได้ เชน่ จุลนิ ทรียต์ ่างๆ เหด็ รา ทาํ หนา้ ท่ีย่อยสลายอินทรียสารให้เป็นอนนิ ทรยี สารกลับคืนสู่ สงิ่ แวดล้อม ท่พี ืชสามารถนําไปใช้ประโยชนไ์ ด้ ผู้ย่อยสลายสารอนิ ทรยี ท์ าํ ให้มกี ารหมนุ เวียนสารต่างๆ จากส่งิ มีชวี ติ กลบั คืนสู่สง่ิ แวดล้อม ไดแ้ ก่ เหด็ รา แบคทเี รีย ราเมือก เป็นต้น ซึ่งแตกต่างจากผู้บรโิ ภค ซากที่ไม่ได้เปลย่ี นอินทรยี สารเป็นอนินทรียสาร
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรชู้ ุดที่ 2 เร่อื งองค์ประกอบของระบบนิเวศ25 ขอ้ แตกตา่ งระหว่างสัตว์กินซากกบั สิ่งมีชีวิตกนิ พืชและสิ่งมีชวี ติ กนิ สัตว์ คือ - สัตวก์ ินซากจะกินซากสตั วท์ ี่ตายแลว้ เช่น แรง้ กินซากสุนัข ไส้เดือนดินกนิ ซากพชื และซากสตั วท์ ่เี น่าเป่ือย - ส่ิงมชี วี ิตกินพชื จะกนิ พืชที่ยังสดอยทู่ ี่ไม่ใช่ซากเน่าเป่ือย - สตั วก์ ินสตั ว์ จะฆ่าสิง่ มีชวี ติ ที่เปน็ อาหารให้ตายแลว้ กนิ ทันที ความรเู้ พ่ิมเตมิ สตั ว์บางชนดิ เชน่ แมว สุนัข เสือ จัดอยใู่ นกล่มุ ของสตั ว์กินเน้อื ซึ่งบรโิ ภคเน้ือสตั ว์เปน็ อาหาร แต่บางครั้งสตั วก์ นิ เน้ือยงั บรโิ ภคพืชได้ด้วย เนอื่ งจากมีววิ ัฒนาการเพ่ือการอยรู่ อดของสัตว์ ซึ่งมีการ เปลีย่ นแปลงโดยปรบั สภาพการทํางานในกระเพาะอาหารท่ีสามารถยอ่ ยแตเ่ นอ้ื สัตว์แต่เพียงอย่างเดียวให้ ย่อยพชื ไดด้ ้วย สัตว์กินเนือ้ มีเขย้ี ว (canine) ยาว แหลมคม และฟันหน้า (incisor) คมเพอ่ื กัด ชาํ แหละ เน้ือและกระดูกออกเปน็ ชนิ้ ๆ ทําให้เหยอ่ื ตายลงอย่างรวดเร็ว มีฟันท่ีมลี กั ษณะคลา้ ยใบมดี (carnassial teeth) ช่วยในการตดั ฉกี เน้ือใหข้ าดจากกนั โดยไม่ต้องใช้ฟันกราม (molar) ในการบดเคี้ยว ภาพ 2-7ลกั ษณะฟนั ของสตั ว์ทกี่ นิ ทง้ั พชื และสตั ว์ ที่มา : สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (2556 : 93)
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรชู้ ดุ ที่ 2 เรือ่ งองคป์ ระกอบของระบบนิเวศ26 ใบงานที่ 2 เรื่อง องค์ประกอบของระบบนเิ วศ คาํ ช้แี จง วิชา วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ให้นกั เรียนตอบคาํ ถามต่อไปนี้ 1.ระบบนเิ วศทกุ ระบบไม่วา่ เล็กหรอื ใหญ่ ประกอบดว้ ยองค์ประกอบกีส่ ว่ น อะไรบา้ ง(1 คะแนน) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. องค์ประกอบท่ีไม่มีชวี ติ ในระบบนเิ วศแบง่ ออกเป็นกป่ี ระเภท อะไรบา้ ง (1 คะแนน) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3. องค์ประกอบที่มีชวี ติ ในระบบนิเวศ ไดแ้ ก่อะไรบ้าง (1 คะแนน) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 4. จงยกตัวอย่างส่ิงมชี ีวิตทเ่ี ปน็ ผ้ผู ลติ ในระบบนเิ วศ (1 คะแนน) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 5. จงบอกข้อแตกต่างของสตั วก์ ินซาก สง่ิ มชี ีวติ กินพชื และสิง่ มีชวี ติ กินสัตว์ (2 คะแนน) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 6. สตั วก์ นิ ซากมีประโยชน์อย่างไร (1 คะแนน) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 7. ผู้ยอ่ ยสลายสารอนิ ทรีย์ มีความสาํ คัญต่อส่งิ มีชวี ิตอืน่ อยา่ งไร (1คะแนน) ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 8. มนุษยน์ าํ ความรู้จากสมบัติของผู้ย่อยสลายสารอนิ ทรีย์มาใช้ประโยชน์อย่างไร (2 คะแนน) …………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ชุดกิจกรรมการเรยี นรชู้ ุดที่ 2 เรอ่ื งองคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ27 ข้นั ที่ 6ขั้นประเมนิ ผล (Evaluation Phase) นักเรียนปฏิบัติดงั นี้ 1. นกั เรยี นทําแบบทดสอบหลังเรยี นชุดท่ี 2 จาํ นวน 10 ขอ้ เป็นรายบุคคล เพอ่ื ประเมนิ ความรูค้ วามสามารถของตนเอง 2. นักเรียนและครรู ว่ มกนั เฉลยใบกิจกรรม ใบงาน และแบบทดสอบก่อน-หลังเรียน
ชุดกิจกรรมการเรียนรชู้ ดุ ท่ี 2 เร่ืององคป์ ระกอบของระบบนิเวศ28 แบบทดสอบหลังเรยี น ชุดท่ี 2 เร่อื ง องค์ประกอบของระบบนิเวศ วชิ า วิทยาศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 จํานวน 10 ขอ้ เวลา 10 นาที คาํ สง่ั :1.แบบทดสอบน้เี ป็นแบบปรนัยเลือกตอบมีทั้งหมด 10 ข้อ 2.ให้นักเรียนเลือกคาํ ตอบทถี่ ูกตอ้ งท่ีสดุ เพยี งคําตอบเดยี วแล้วทําเครอื่ งหมายกากบาท(X) ลง ในกระดาษคําตอบ …………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. ตารางแสดงแหลง่ ท่ีอยู่บทบาทหนา้ ที่อาหารทบ่ี ริโภคการขยายพันธข์ุ องส่งิ มีชีวิต ชนิดต่างๆดงั นี้ ชนดิ แหล่งที่อยู่ บทบาทหนา้ ท่ี อาหารทบี่ ริโภค การขยายพันธุ์ A บนบก ผยู้ อ่ ยสลาย ซากพชื ซากสัตว์ ไมอ่ าศัยเพศ B บนบก ผูย้ ่อยสลาย สร้างอาหารได้เอง ไมอ่ าศัยเพศ C บนบก ผ้บู รโิ ภค พืชและสัตว์ อาศัยเพศ D ในนํ้า ผู้บริโภค พชื และสตั ว์ อาศัยเพศ E ในน้ํา ผผู้ ลติ สรา้ งอาหารได้เอง อาศยั เพศ F บนบก ผู้ยอ่ ยสลาย ซากพืชซากสตั ว์ ไมอ่ าศยั เพศ ถ้าต้องการแบ่งส่งิ มชี ีวติ ออกเป็น 3 ประเภทเกณฑท์ ี่ใช้แบ่งคือข้อใด ก. ชนดิ ข. แหลง่ ที่อยู่ ค. บทบาทหน้าท่ี ง. การขยายพนั ธ์ุ 2. องค์ประกอบของระบบนิเวศในข้อใดจัดเปน็ องคป์ ระกอบท่ีไม่มีชีวติ ก. พืช สตั ว์ มนษุ ย์ นาํ้ ข. ดิน น้ํา อากาศ แสงจากดวงอาทิตย์ ค. ปา่ ไม้ อากาศ แมลงวนั แบคทีเรยี ง. ต้นหญ้า จง้ิ หรีด แบคทเี รีย ผเี ส้อื
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรชู้ ดุ ท่ี 2 เรื่ององค์ประกอบของระบบนเิ วศ29 3. ในระบบนิเวศท่วั ๆไปประกอบดว้ ยสงิ่ มีชีวติ 3 กลุ่มคอื ....1.... มหี น้าที่สังเคราะหอ์ าหารซึ่งเปน็ อนินทรยี สารโดยใชว้ ตั ถุดบิ ท่ไี รช้ ีวติ กบั พลังงาน ....2..... ต้องการพลังงานและสารอาหารท่ีได้จากการย่อยอินทรยี สารจากส่งิ มชี ีวติ .....3..... เป็นกล่มุ สงิ่ มชี ีวิตทเ่ี ปลยี่ นสารอนิ ทรยี ์จากสิ่งมีชีวติ ทต่ี ายแลว้ หรอื จากของเสียของสงิ่ มีชวี ิตให้ เป็นสารอนินทรียท์ ้งั นี้1, 2, 3 คอื ข้อใดตามลําดบั ก. ผยู้ ่อยสลายผูผ้ ลิตผูบ้ รโิ ภค ข. ผ้ยู ่อยสลายผบู้ รโิ ภคผ้ผู ลติ ค. ผผู้ ลติ ผู้ย่อยสลายผบู้ รโิ ภค ง. ผู้ผลติ ผบู้ รโิ ภคผ้ยู อ่ ยสลาย 4. สิ่งมชี ีวิตชนดิ ใดทสี่ ามารถเปลี่ยนอินทรียสารใหเ้ ป็นอนินทรยี สารได้ ก. สาหรา่ ย ข. นก ค. เหด็ รา ง. เฟนิ 5. ขอ้ ใดเป็นความสําคัญของผูย้ ่อยสลาย ก. ทําให้เกิดการหมุนเวียนสารตา่ งๆ ข. ทาํ ให้เกิดการถ่ายทอดพลงั งานโดยตรง ค. ยอ่ ยสลายอาหารพวกเกลือแร่ในดนิ ใหเ้ ปน็ คาร์บอนไดออกไซด์ ง. ทําใหด้ นิ กรดกลายเปน็ ดนิ ดีเพราะสามารถสร้างด่างได้ 6. สิง่ มชี วี ิตในข้อใดเป็นผู้บริโภคสัตว์ (Carnivore) ทั้งหมด ก. เสือสุนัขจ้ิงจอก วัว ข. แมว ช้าง หมู ค. งูเสือสิงโต ง. งูลิง กระต่าย 7. โดยปกติสดั สว่ นของปรมิ าณสิง่ มีชวี ิตในธรรมชาตเิ ปน็ อย่างไร ก. ผู้ผลติ มีปรมิ าณนอ้ ยกว่าผบู้ รโิ ภค ข. ผ้ผู ลิตมปี ริมาณมากกวา่ ผบู้ รโิ ภค ค. ผ้ผู ลิตมีปรมิ าณเทา่ กับผ้บู ริโภค ง. ไมแ่ นน่ อนขึน้ อยู่กบั ชนดิ ของสงิ่ มีชีวติ ท่ีเปน็ องคป์ ระกอบ
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรชู้ ุดที่ 2 เรอื่ งองค์ประกอบของระบบนเิ วศ30 8. จากภาพดา้ นล่างแสดงเส้นทาง 4 เส้นทางของนกท่ีบินไปกินไส้เดอื นทีบ่ ริเวณเรอื นไทย นักเรยี นคดิ ว่าเส้นทางใดมีระยะทางใกล้ทส่ี ดุ ก. เสน้ ทางท่ี 1 ข. เสน้ ทางที่ 2 ค. เส้นทางท่ี 3 ง. เสน้ ทางท่ี 4 9. การแบ่งประเภทของสงิ่ มีชีวิตจากตารางข้างลา่ งผู้แบ่งยึดเกณฑต์ ามขอ้ ใด กลุม่ ที่ 1 ตน้ คะน้ากล้วยไมห้ ญา้ ชบา กลมุ่ ท่ี 2 เห็ดรายีสต์แบคทีเรีย ก. ประเภทของระบบนิเวศ ข. บทบาทของสงิ่ มีชีวติ ในระบบนเิ วศ ค. ความสัมพนั ธข์ องส่งิ มีชีวติ ตา่ งชนิด ง. ส่งิ แวดล้อมทางกายภาพและส่ิงแวดลอ้ มทางชีวภาพ 10. ตน้ หมอ้ ข้าวหม้อแกงลิงสามารถกินสัตว์พวกแมลงต่างๆที่ตกลงไปได้ พืชชนดิ นีจ้ ัดเปน็ ก. ผู้ผลติ ข. ผู้บรโิ ภคพืช ค. ผบู้ ริโภคสตั ว์ ง. ผู้บริโภคทั้งพชื และสตั ว์
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรชู้ ุดท่ี 2 เร่ืององคป์ ระกอบของระบบนิเวศ31 เฉลยใบบันทึกกิจกรรมที่ 2 เร่ือง สํารวจอาหารสตั ว์ วชิ า วิทยาศาสตร์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 1. ปญั หาของการทํากจิ กรรมนค้ี ืออะไร (1 คะแนน) ตอบ สัตวแ์ ต่ละชนิดมีอาหารและแหลง่ ที่มาของอาหารอย่างไร 2. นกั เรียนคดิ วา่ สัตว์แต่ละชนิดกินอาหารเหมอื นกันหรอื ไม่ อย่างไร (1 คะแนน) ตอบ สัตว์แต่ละชนดิ กนิ อาหารไม่เหมือนกัน และสตั วช์ นิดเดียวกันไม่ไดก้ นิ อาหารเพยี งอย่างเดยี ว 3. ออกแบบตารางบนั ทึกผลการศกึ ษาและสํารวจอาหารสัตว์ (3คะแนน) ชอื่ สตั ว์ ทีม่ าของอาหารสัตว์ พืช สัตว์ ซากพชื ซากสตั ว์ เตา่ นา / หอยทาก / กวาง / แมว / กง้ิ กือ / ช้าง / กบ / เสอื / นกกระจอก / / ไสเ้ ดือนดนิ / กระตา่ ย / ไก่ / / จระเข้ / ปลวก / คน / / สุนขั / งูเหลือม / แมลงปอ / แมงมุม /
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรชู้ ุดที่ 2 เรอ่ื งองค์ประกอบของระบบนเิ วศ32 4.สรุปผลการทาํ กจิ กรรม (1คะแนน) ตอบ อาหารของสัตว์แต่ละชนดิ จะแตกต่างกันไปและสามารถจาํ แนกสัตว์ได้เป็น4กลุ่ม โดยใช้ท่มี าของอาหารที่กินเป็นเกณฑ์ ได้แก่ สัตว์กินพชื สัตว์กินสตั ว์ สตั ว์กินทง้ั พืชและสัตว์ และสัตว์กินซาก สตั ว์กนิ พชื ไดแ้ ก่ กวาง ช้าง กระตา่ ย สัตวก์ ินสัตว์ ได้แก่ แมว กบ จระเข้ สุนขั งูเหลอื ม แมลงปอ แมงมมุ เสอื เต่านา สตั ว์กินทั้งพืชและสัตว์ ได้แก่ ไก่ คน นกกระจอก สัตวก์ นิ ซาก ได้แก่ หอยทาก กงิ้ กอื ไส้เดือนดิน ปลวก 5. คําถามท้ายกจิ กรรม(4คะแนน) 5.1สตั วช์ นดิ ใดกินพชื อย่างเดียว(1คะแนน) ตอบ กวาง ชา้ ง กระต่าย 5.2สตั วช์ นดิ ใดกนิ สตั วอ์ ย่างเดียว(1คะแนน) ตอบ แมว กบ จระเข้ สนุ ขั งูเหลือม แมลงปอ แมงมุม เสอื เต่านา 5.3สัตวช์ นิดใดกินทงั้ พืชและสัตว์(1คะแนน) ตอบ ไก่ คน นกกระจอก 5.4สัตวช์ นิดใดกินซาก(1คะแนน) ตอบ หอยทาก ก้งิ กอื ไส้เดือนดิน ปลวก
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรชู้ ุดที่ 2 เร่ืององคป์ ระกอบของระบบนเิ วศ33 เฉลยใบงานท่ี 2 เรื่อง องค์ประกอบของระบบนิเวศ วชิ า วิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 คําชี้แจง ใหน้ ักเรียนตอบคาํ ถามต่อไปนี้ 1.ระบบนิเวศทุกระบบไมว่ ่าเล็กหรือใหญ่ ประกอบด้วยองค์ประกอบก่สี ว่ น อะไรบ้าง(1 คะแนน) ตอบ 2 ส่วน ไดแ้ ก่ องคป์ ระกอบที่ไม่มีชีวิต และองคป์ ระกอบที่มีชวี ติ 2. องค์ประกอบท่ีไม่มีชวี ิตแบ่งออกเปน็ ก่ีประเภท อะไรบา้ ง (1 คะแนน) ตอบ 3 ประเภท ได้แก่ สารอนินทรีย์ สารอินทรยี ์ และปัจจัยทางกายภาพ 3. องค์ประกอบท่ีมีชีวิตในระบบนเิ วศ ไดแ้ ก่อะไรบ้าง (1 คะแนน) ตอบ ได้แก่ ผผู้ ลิต ผ้บู รโิ ภค และผ้ยู อ่ ยสลายสารอนิ ทรยี ์ 4. จงยกตัวอย่างสิ่งมีชีวติ ทีเ่ ป็นผู้ผลติ ในระบบนเิ วศ (1 คะแนน) ตอบ ส่ิงมีชีวิตทเ่ี ปน็ ผผู้ ลติ ในระบบนเิ วศ เชน่ จอก แหน บัวสาย หญา้ ต้นดาวเรือง ต้นมะม่วง ตน้ มะขาม ข้าว เฟิน มอส เป็นต้น 5. จงบอกข้อแตกตา่ งของสตั ว์กนิ ซาก สิ่งมีชีวิตกนิ พืช และส่งิ มชี วี ติ กินสตั ว์ (2 คะแนน) ตอบ สัตวก์ ินซากจะกนิ ซากสัตวท์ ีต่ ายแลว้ เช่น แร้งกินซากสุนขั ไส้เดือนดนิ กินซากพืชและซาก สตั ว์ที่เน่าเปือ่ ย สิ่งมชี วี ิตกินพืช จะกนิ พืชที่ยังสดอยู่ที่ไมใ่ ช่ซากเน่าเป่ือยเป็นอาหาร สัตว์กินสตั ว์ จะฆ่าสิ่งมีชีวิตท่ีเปน็ อาหารให้ตายแล้วกนิ ทนั ที 6. สตั ว์กนิ ซากมีประโยชน์อย่างไร (1 คะแนน) ตอบ ทําให้จาํ นวนสิ่งมีชีวิตในระบบนเิ วศลดลง สัตวก์ นิ ซากบางชนดิ จะทาํ ให้ซากสิ่งมชี ีวติ มีขนาดเลก็ ลง เพื่อใหผ้ ยู้ อ่ ยสลายสารอนิ ทรยี ์ย่อยสลายตอ่ ไป 7. ผยู้ ่อยสลายสารอินทรีย์ มคี วามสําคัญตอ่ สง่ิ มีชีวิตอ่ืนอย่างไร (1คะแนน) ตอบ ทาํ ใหส้ ง่ิ มชี วี ติ ทตี่ ายลงมีการเนา่ เป่ือย และผลจากการยอ่ ยสลายทําให้สารอนิ ทรยี ์มีขนาดเล็กลง และปลดปลอ่ ยสารอนินทรยี ก์ ลบั คนื สู่สภาพแวดลอ้ มให้พชื นําไปใชไ้ ด้อกี 8. มนษุ ยน์ าํ ความรู้จากสมบัติของผ้ยู ่อยสลายสารอินทรีย์มาใช้ประโยชนอ์ ยา่ งไร (2 คะแนน) ตอบ ใช้ในการทําปุย๋ หมกั โดยหมกั ขยะทเี่ ปน็ สารอินทรยี ์ เชน่ เศษอาหาร เศษใบไม้ มูลสตั ว์ เป็นตน้ ซ่ึงแบคทีเรียจะย่อยสลายสารอินทรยี ์ให้กลายเปน็ ปุย๋ มนุษยน์ าํ ป๋ยุ ที่ได้มาผสมกบั ดิน เพ่อื ไปปลกู พืชตอ่ ไป
ชุดกิจกรรมการเรียนรชู้ ุดที่ 2 เรอื่ งองค์ประกอบของระบบนเิ วศ34 เฉลยแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน ชุดที่ 2 เรือ่ ง องค์ประกอบของระบบนเิ วศ วชิ า วิทยาศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 จาํ นวน 10 ขอ้ กอ่ นเรียน หลงั เรียน ขอ้ คําตอบ ขอ้ คําตอบ 1ข 1ค 2ค 2ข 3ข 3ง 4ง 4ค 5ค 5ก 6ข 6ค 7ก 7ข 8ก 8ข 9ค 9ข 10 ข 10 ก
ชดุ กิจกรรมการเรียนรชู้ ดุ ท่ี 2 เรือ่ งองค์ประกอบของระบบนเิ วศ35 ข้ันที่ 7ขัน้ นาํ ความรไู้ ปใช้ (Extension Phase) นักเรียนปฏบิ ตั ดิ ังน้ี 1.นกั เรยี นนําส่งิ ท่ีได้จากการเรียนรู้ ไปประยกุ ตใ์ ช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ในชีวิตประจาํ วนั และนําความรทู้ ีไ่ ด้รบั ไปเขียนสรุปแลว้ นาํ ไปตดิ ที่ป้ายนเิ ทศหน้าหอ้ งเรียน เพอ่ื เปน็ การถา่ ยโอนการเรียนรู้ 2. นักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายซกั ถามเกี่ยวกับเรื่อง องคป์ ระกอบของระบบนิเวศ จนเกดิ ความเขา้ ใจที่ถูกต้องและสมบูรณ์
ชุดกิจกรรมการเรียนรชู้ ดุ ที่ 2 เรอ่ื งองค์ประกอบของระบบนิเวศ36 บรรณานุกรม กรมวิชาการ. (2551ก). หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551.กรุงเทพฯ : โรง พิมพ์ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. . (2551ข).ตัวช้ีวดั และสาระแกนกลาง กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ตามหลักสตู ร แกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพช์ มุ นมุ สหกรณ์ การเกษตรแหง่ ประเทศไทย. นงลักษณ์ สุวรรณพนิ จิ และคณะ. (2556). คู่มือเตรียมสอบ วิชาวทิ ยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 2.กรุงเทพฯ : ฐานบณั ฑิต วรรณพงษ์ ภัททยิ ไพบูลย์. (2557). ระบบนเิ วศ. [Online]. Available : https://www.wannaphong.com/2014/10/eco-system.html.[2560, ตลุ าคม 16] สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี. (2556). คมู่ ือครู รายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ 6 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 เล่ม 2. พมิ พค์ ร้ังท่ี 2. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพรา้ ว. . (2557).หนังสอื เรยี น รายวชิ าพื้นฐานวิทยาศาสตร์วทิ ยาศาสตร์ 6 ชั้น มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 เลม่ 2. พิมพค์ รงั้ ท่ี 2. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ครุ ุสภาลาดพรา้ ว.
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรชู้ ดุ ที่ 2 เรือ่ งองค์ประกอบของระบบนิเวศ37 ประวตั ยิ อ่ ผู้สร้างนวัตกรรม ช่ือ –สกลุ นายธนาวัฒน์ คงนาค วัน เดอื น ปี เกิด 31 ธันวาคม พ.ศ. 2517 ท่ีอยู่ปจั จุบัน บา้ นเลขท่ี 45 หมู่ 3 ตําบล หนองเมธี อําเภอทา่ ตูม จังหวัดสรุ ินทร์ ท่ีทาํ งานปจั จุบัน โรงเรยี นลานทรายพทิ ยาคม อาํ เภอทา่ ตมู จังหวดั สรุ ินทร์ รหสั ไปรษณีย์ 32120 โทรศัพท์มอื ถอื 081-0634371 ตําแหนง่ หนา้ ที่ ตําแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู าํ นาญการ ประวัติการศึกษา ประถมศึกษาปที ี่ 6 โรงเรยี นบ้านแตล ตาํ บลแตล อําเภอศขี รภูมิ จงั หวัดสุรินทร์ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 โรงเรียนแตลศริ วิ ิทยา ตาํ บลแตล อาํ เภอศีขรภมู ิ จงั หวัดสุรินทร์ มธั ยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรยี นศีขรภูมพิ ิสัย ตําบลระแงง อาํ เภอศขี รภูมิ จังหวดั สุรนิ ทร์ ปริญญาตรี (ครศุ าสตรบณั ฑิต)วิชาเอก วิทยาศาสตรท์ ่ัวไป มหาวิทยาลัยราชภฏั อุตรดติ ถ์ จงั หวัดอุตรดติ ถ์
Search
Read the Text Version
- 1 - 39
Pages: