วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เล่ม 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 Slide PowerPoint_สอ่ื ประกอบการสอน บริษทั อักษรเจริญทัศน์ อจท. จากดั : 142 ถนนตะนาว เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand โทร./แฟกซ์ : 0 2622 2999 (อัตโนมตั ิ 20 คู่สาย) [email protected] / www.aksorn.com
4หน่วยการเรียนรทู้ ่ี แรงและการเปล่ียนแปลงการเคล่ือนท่ขี องวตั ถุ ตัวชว้ี ดั • ระบุผลของแรงท่มี ีต่อการเปลย่ี นแปลงการเคลื่อนท่ีของวตั ถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์ • เปรยี บเทียบและยกตัวอยา่ งแรงสัมผสั และแรงไมส่ ัมผสั ทม่ี ผี ลตอ่ การเคลอื่ นทข่ี องวัตถุ โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ • จาแนกวตั ถโุ ดยใชก้ ารดึงดูดกบั แม่เหล็กเป็นเกณฑ์จากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ • ระบขุ ว้ั แมเ่ หล็กและพยากรณผ์ ลทเ่ี กดิ ข้นึ ระหว่างขัว้ แมเ่ หลก็ เมื่อนามาเขา้ ใกล้กันจากหลักฐานเชิงประจักษ์
นักเรยี นคดิ วา่ • การใช้มอื ออกแรงเขน็ รถเข็นให้เคลอ่ื นที่เป็นการออกแรงชนดิ ใด • เม่ือออกแรงเข็นรถเข็น รถเข็นมกี ารเคลื่อนทอี่ ยา่ งไร? ? • การเขน็ รถเขน็ เป็นแรงสมั ผสั หรือไม่ อย่างไร?
แรงและผลของการออกแรงที่กระทาตอ่ วตั ถุ แรง คือ สิ่งที่กระทาต่อวตั ถุ แล้วทาใหว้ ัตถุ ชนิดของการออกแรง มีดังนี้ เกิด แรงดึง เป็นการออกแรงกระทาตอ่ วัตถุ การเปลี่ยนแปลงไป เชน่ ทาให้วัตถุ แล้วทาให้วตั ถุเคลือ่ นที่เข้าหาตัวเรา เคลือ่ นที่ วัตถุหยุดการเคลือ่ นที่ วตั ถุ แรงผลัก เป็นการออกแรงกระทาตอ่ วตั ถุ เปลีย่ นทิศทาง วตั ถเุ ปลี่ยนรปู ร่าง แล้วทาให้วตั ถเุ คลือ่ นที่ออกจากตวั เรา แรง มีหนว่ ยเปน็ นิวตนั ท(ศิ Nท)างการเคล่ือนที่ แรงที่กระทาต่อวตั ถุ ของวตั ถุ แรงผลัก แรงดึง พ้ืน
ผลของการออกแรงกระทาตอ่ วตั ถุมีผล ทาใหว้ ัตถเุ คลือ่ นทีใ่ นลกั ษณะตา่ งๆ ดังนี้ วัตถทุ ีห่ ยุดน่งิ วัตถทุ ี่กาลงั เคลือ่ นที่ วัตถุทีก่ าลงั เคลือ่ นที่ มี วัตถทุ ี่กาลังเคลือ่ นที่ มีการเคลื่อนทีเ่ รว็ ขึ้น การเคลื่อนที่ชา้ ลงหรือ มีการเปลี่ยนทิศทาง เกดิ การเคล่ือนท่ี หยุดนิ่ง เชน่ การออกแรงแตะลกู ฟตุ บอล โดยออกแรงกระทากบั วัตถุ โดยออกแรงกระทากบั วตั ถุ ทีก่ าลงั เคลื่อนทีใ่ นทิศทาง โดยออกแรงกระทากับวตั ถุ ที่กาลงั เคล่อื นทใ่ี นทิศทางอน่ื ที่วางอยไู่ ปขา้ งหน้า เดียวกับที่วตั ถุกาลงั เคล่อื นท่ี ทีก่ าลงั เคลือ่ นทีใ่ นทิศทาง ที่ไมใ่ ช่ทิศทางเดียวกบั ที่วตั ถุ เชน่ การออกแรงแตะลูก ตรงกันข้ามกบั ที่วัตถุกาลัง กาลงั เคลอ่ื นที่ เช่น การออก ฟุตบอลทีก่ าลงั เคลอ่ื นทีอ่ ย่ไู ป เคลือ่ นที่ เชน่ การออกแรงหยดุ แรงเตะลูกฟตุ บอลหลบผตู้ ่อสู้ ขา้ งหน้า ลูกฟุตบอล
แรงสัมผัสและแรงไมส่ มั ผสั แรงไม่สัมผสั แรงสัมผสั คือ การออกแรงของวตั ถุหนึ่งกระทา ต่ออีกวัตถุหนึ่ง โดยวัตถุท้งั สอง คือ การออกแรงของวตั ถุหนึง่ กระทา ต่ออีกวตั ถุหนึ่ง โดยวัตถุท้งั สอง ไมม่ ีการสมั ผัสกัน เชน่ ใบไมร้ ่วงจาก มีการสมั ผสั กนั ต้นไมล้ งสู่พืน้ โดยเกิดจากแรงโน้ม ถ่วงของโลกที่ดึงดูดวัตถุบนโลกให้เข้า เช่น การดึงเชือกจูงม้า การผลักเปิด ประตู ส่ศู ูนย์กลางโลก
1 การใช้มือออกแรงเข็นรถเขน็ ใหเ้ คลอ่ื นที่เปน็ การออกแรง ชนดิ ใด ? - แรงผลัก 2 เมื่อออกแรงเข็นรถเขน็ รถเข็นมกี ารเคลือ่ นทอี่ ย่างไร ? - รถเข็นมกี ารเคลอ่ื นท่ตี ามทิศทางในการออกแรงเขน็ โดยรถเข็นเคล่ือนที่ไปข้างหนา้ 3 การเขน็ รถเข็นเป็นแรงสัมผัสหรอื ไม่ อย่างไร ? - การเข็นรถเข็นเป็นแรงสมั ผสั เพราะเราใช้มือจับรถเข็น แล้วออกแรงผลกั รถเขน็ เพ่อื ใหร้ ถเข็นเคล่ือนทีไ่ ปข้างหนา้
นักเรยี นคดิ วา่ เหลก็ ทีใ่ ชท้ าประตรู วั้ หรือทีใ่ ชท้ าโครงสรา้ ง บา้ นจดั ว่าเปน็ แมเ่ หลก็ หรือไม่ เพราะอะไร ? ?
แมเ่ หล็ก คอื วัตถชุ นิดหนง่ึ ทีม่ สี มบัติดงึ ดดู สารแม่เหล็กได้ แม่เหล็กแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1 แมเ่ หลก็ ธรรมชาติ หรือเรยี กว่า แมกนีไทต์ แหลง่ ท่พี บแรแ่ ม่เหลก็ ในประเทศไทย ไดแ้ ก่ จังหวัดลพบุรี นครสวรรค์ เลย ชลบุรี ระยอง กระบี่ และนครศรีธรรมราช 2 แมเ่ หล็กประดิษฐ์ มีรปู รา่ งหลากหลายรูปแบบ เช่น แมเ่ หล็กรปู ตัวยู แมเ่ หลก็ แบบแท่ง แมเ่ หล็กรูปวงแหวน แม่เหล็กรปู เกือกมา้
สารแมเ่ หลก็ คือ วัตถุทแ่ี มเ่ หล็กสามารถดึงดดู ได้ วตั ถุทเ่ี ปน็ สารแม่เหล็ก ได้แก่ วตั ถุทไี่ มใ่ ช่สารแม่เหลก็ เช่น ไม้ แก้ว ยาง โลหะบางชนดิ เช่น เหลก็ นกิ เกิล และโคบอลต์ กระดาษ และโลหะบางชนดิ ไดแ้ ก่ ทองแดง นอต ตะปู สังกะสี เงิน อลูมเิ นยี ม ไม้ ยาง พลาสตกิ คลิปหนบี กระดาษ ลูกกญุ แจ ผ้า แก้ว
แรงแม่เหลก็ แม่เหลก็ มขี ้วั 2 ข้ัว คือ 1. ขว้ั เหนือ (North) ใช้สัญลกั ษณ์ N 2. ขว้ั ใต้ (South) ใช้สญั ลักษณ์ S แม่เหล็กจะมีแรงแมเ่ หลก็ อยู่โดยรอบแทง่ แม่เหลก็ ซึง่ ตาแหนง่ ปลายแท่งแมเ่ หลก็ จะมีอานาจ แม่เหล็กสูงสุด และจะลดน้อยลงเม่ือเข้ามาตรงกึ่งกลางแม่เหล็ก โดยแรงแม่เหล็กจะว่ิงออกจาก ขัว้ เหนอื ไปขวั้ ใต้ แรงแมเ่ หล็กรปู แทง่ แรงแมเ่ หลก็ รูปตัวยู
แรงระหว่างแม่เหลก็ แมเ่ หล็กแต่ละแทง่ จะมีแรงกระทาต่อกันและกัน โดยอาจเกิดแรงดึงดดู หรือแรงผลักกนั ดังนี้ เมื่อวางแมเ่ หล็กขั้วเหมือนกันไวใ้ กลก้ ัน เมื่อวางแมเ่ หล็กขั้วต่างกนั ไวใ้ กล้กนั แรงดงึ ดดู แรงผลกั แรงดึงดูด แรงผลกั
ประโยชน์ของแมเ่ หล็ก มนุษย์นาประโยชน์จากสมบตั ิของแม่เหลก็ มา ประดิษฐ์เปน็ ของเล่นของใช้ต่าง ๆ เช่น ใชแ้ มเ่ หลก็ ติดทีป่ ระตูตู้เยน็ เพื่อทาให้ ติดแผ่นแม่เหล็กไว้ที่ผนังของห้องครวั แล้ว ประตูตู้เย็นปิดสนิทและป้องกนั ไม่ให้ นาเครื่องครัวที่เป็นสารแม่เหลก็ มาดูดติดกบั ความเยน็ ออกจากตูเ้ ยน็ แม่เหล็ก เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน นาแม่เหลก็ มาทาของเล่น ใช้แม่เหล็กทาเข็มที่อย่ใู นเขม็ ทิศ โดยติดแม่เหลก็ ไว้ที่ปลายคันเบ็ด เพื่อใช้หาทิศทาง เพื่อให้ดึงดดู กบั ตวั ปลาที่มีแผ่นเหล็กติดอยู่
? เหล็กทีใ่ ช้ทาประตูร้วั หรือทีใ่ ช้ทาโครงสร้าง บ้านจดั ว่าเปน็ แม่เหล็กใช่หรือไม่ เพราะอะไร ?- เหล็กที่ใช้ทาประตูร้วั หรือใช้ทาโครงสร้าง บ้านไม่ใช่แม่เหลก็ แต่เปน็ สารแม่เหล็ก เพราะแม่เหล็กสามารถดึงดูดเหล็กทีใ่ ช้ทา ประตูร้วั หรือใช้ทาโครงสร้างบ้านได้ ซึ่งวัตถ ทีแ่ ม่เหลก็ สามารถดึงดดู ได้ เราเรียกว่า สารแมเ่ หล็ก
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: