ใบงาน เรอื่ ง การสรปุ ความรแู้ ละข้อคดิ จากเรื่องพระอภัยมณี รายวิชา ท๒๓๑๐๒ ภาษาไทยพน้ื ฐาน ๖ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๓ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนวงั วเิ ศษ อ.วงั วิเศษ จ.ตรงั ชอื่ ……………………………………………………………………………………ช้นั …........................…..เลขท…่ี ..………… คาชแี้ จงตอนท่ี ๑ : ใหน้ ักเรยี นสรปุ ความรแู้ ละข้อคิดจากการอา่ นวรรณคดีเรื่องนี้ ๑. ความรู้ ............................................................................................................................. ................................................... ................................................................................................................................................... ............................. ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................... ................................................................................................................................... ............................................. ๒. ข้อคดิ ท่ีสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตจริง ............................................................................................................................................................... ................. ................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................... ............................................................................................................................................... ................................. ................................................................................................................................................................................ คาชี้แจงตอนที่ ๒ : ให้นกั เรียนเขยี นเครื่องหมายหนา้ ขอ้ ที่ถูก และเขยี นเครื่องหมาย หน้าข้อทีผ่ ดิ ..................๑. วนั ท่ี ๒๖ มถิ นุ ายน ของทกุ ปี เปน็ วันสนุ ทรภู่ ..................๒. เรอ่ื งพระอภัยมณีแต่งด้วยคาประพันธ์ประเภทกลอนเสภา ..................๓. พระอภัยมณีเรยี นวชิ าเปา่ ปี่ ส่วนศรสี ุวรรณเรียนกระบ่กี ระบอง ..................๔. เฉโก หมายถงึ ปลาทะเลชนิดหนงึ่ หน้าแหลม ..................๕. สนิ สมุทรเปน็ บุตรชายของพระอภัยมณกี ับนางเงอื ก ..................๖. พระอภัยมณเี ป็นผู้ออกอบุ ายใหน้ างผเี สอื้ สมทุ รไปจาศีล ..................๗. โยคี เป็นผถู้ อื ศลี มีมนต์คาถามาก อาศยั อยู่ทเ่ี กาะแกว้ ๗ ประการ ..................๘. แนวคดิ สาคญั ของเร่ืองพระอภัยมณี คือ ความสาคญั ของปญั ญา ..................๙. “เราลงเลขเสกทาไว้สาเร็จ ดงั เขือ่ นเพชรภตู ผปี ศี าจไม่อาจใกล้” เปน็ การใชภ้ าพพจน์แบบอุปมา ..................๑๐. นางผีเสือ้ สมุทรรกั ลูก มากกว่ารักสามี
คาชี้แจงตอนท่ี ๓ : จงเลอื กตวั อักษรหน้าข้อความด้านขวามือใส่ในช่องว่างหน้าข้อความด้ายซ้ายมือให้ถูกต้อง และสมั พนั ธก์ นั ................๑. เกียน ก ฉลาดแกมโกง ไม่ตรงไปตรงมา ................๒. ขุนไศล ข เกาะ ................๓. เฉโก ค ลมพายุที่มกี าลังแรงจดั ................๔. ซกึ ง ภูเขาใหญ่ ................๕. ตรีชา จ แทรกอยู่ ลกึ เข้าไป ................๖. ถอื เพทไสย ฉ ตาหนิ กล่าวโทษ ................๗. ผนดิ ช เช่ียวชาญเรอ่ื งเวทมนต์ ................๘. โพยม ซ ปดิ ใหแ้ นน่ ................๙. โยคี ฌ ฤาษพี วกหนง่ึ ................๑๐. สลาตนั ญ อยา่ แล้งนา้ ใจ ฎ ทอ้ งฟา้
เฉลยใบงาน เรือ่ ง การสรปุ ความรแู้ ละข้อคดิ จากเรอื่ งพระอภัยมณี รายวชิ า ท๒๓๑๐๒ ภาษาไทยพน้ื ฐาน ๖ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย โรงเรยี นวังวเิ ศษ อ.วังวเิ ศษ จ. ตรงั ชอ่ื ……………………………………………………………………………………ชัน้ …........................…..เลขท…่ี ..………… คาช้แี จงตอนท่ี ๑ : ให้นักเรยี นสรปุ ความรู้และข้อคิดจากการอา่ นวรรณคดีเร่ืองนี้ ๑. ความรู้ ..........๑. ได้รบั ความรเู้ กย่ี วกับการแต่งกลอนสภุ าพ ................................................................................................ ..........๒. ไดร้ ับความรเู้ กย่ี วกับคุณธรรม ความเมตตา ความรกั และการช่วยเหลอื ซงึ่ กนั และกนั ............................ ..........๓. ได้รับความรเู้ กีย่ วกับความเชอื่ ของคนไทย ในเรือ่ งยักษ์ สงิ่ ศักด์สิ ิทธิ์ และเวทมนตรค์ าถา ....................... ๒. ขอ้ คดิ ที่สามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง ..........๑. การเป็นคนเมตตา กรุณา รู้จักช่วยเหลอื ผู้ที่กาลังเดอื ดร้อน ..................................................................... ..........๒. ไมค่ วรฆา่ สตั วแ์ ละทาลายชวี ติ ผ้อู นื่ ........................................................................................................... ..........๓. ควรใชส้ ติปญั ญา และเหตผุ ลในการดาเนินชวี ิตมากกวา่ การใช้อารมณ์ .................................................... ..........๔. ไมค่ วรใชอ้ านาจหรือใช้คาพดู ขู่บงั คับใคร แตค่ วรเปิดใจ และยอมรับความคดิ เห็นของผู้อน่ื ....................
คาช้แี จงตอนที่ ๒ : ใหน้ กั เรียนเขยี นเคร่อื งหมายหน้าขอ้ ท่ถี กู และเขียนเคร่ืองหมาย หนา้ ข้อท่ผี ิด ...... ....๑. วนั ท่ี ๒๖ มิถนุ ายน ของทุกปี เปน็ วนั สุนทรภู่ ...... .....๒. เร่ืองพระอภัยมณีแต่งดว้ ยคาประพนั ธป์ ระเภทกลอนเสภา ..... .....๓. พระอภัยมณเี รยี นวิชาเป่าป่ี ส่วนศรีสวุ รรณเรยี นกระบก่ี ระบอง ..... ......๔. เฉโก หมายถงึ ปลาทะเลชนดิ หนงึ่ หนา้ แหลม ..... .......๕. สินสมทุ รเป็นบตุ รชายของพระอภัยมณกี บั นางเงอื ก ..... .......๖. พระอภยั มณีเปน็ ผู้ออกอุบายใหน้ างผีเส้ือสมุทรไปจาศีล ..... ........๗. โยคี เป็นผ้ถู อื ศลี มีมนต์คาถามาก อาศยั อยู่ที่เกาะแก้ว ๗ ประการ ..... .......๘. แนวคดิ สาคญั ของเร่ืองพระอภยั มณี คือ ความสาคญั ของปัญญา ..... ......๙. “เราลงเลขเสกทาไว้สาเร็จ ดังเข่ือนเพชรภตู ผีปีศาจไม่อาจใกล้” เป็นการใช้ภาพพจนแ์ บบอปุ มา ..... .......๑๐. นางผีเสือ้ สมทุ รรักลูก มากกว่ารกั สามี คาช้ีแจงตอนท่ี ๓ : จงเลอื กตวั อักษรหน้าข้อความด้านขวามือใสใ่ นช่องว่างหน้าข้อความด้ายซ้ายมือให้ถูกต้อง และสัมพนั ธก์ นั ........ข........๑. เกยี น ก ฉลาดแกมโกง ไมต่ รงไปตรงมา ........ง........๒. ขุนไศล ข เกาะ ........ก........๓. เฉโก ค ลมพายุทม่ี ีกาลังแรงจัด ........จ........๔. ซกึ ง ภูเขาใหญ่ .........ฉ......๕. ตรชี า จ แทรกอยู่ ลึกเขา้ ไป .........ช.......๖. ถือเพทไสย ฉ ตาหนิ กลา่ วโทษ .........ซ.......๗. ผนิด ช เช่ียวชาญเร่ืองเวทมนต์ .........ฎ.......๘. โพยม ซ ปดิ ใหแ้ น่น .........ฌ.......๙. โยคี ฌ ฤาษพี วกหนึ่ง ..........ค......๑๐. สลาตัน ญ อยา่ แล้งน้าใจ ฎ ทอ้ งฟ้า
แบบทดสอบหลังเรียน เรอ่ื ง พระอภัยมณี รายวิชา ท๒๓๑๐๒ ภาษาไทยพนื้ ฐาน ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรียนวงั วิเศษ อ.วังวเิ ศษ จ.ตรงั คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบท่ีถูกท่ีสุดเพยี งคาตอบเดียว ๑. เรื่องพระอภัยมณีแต่งดว้ ยคาประพนั ธป์ ระเภทใด ก. กลอนเสภา ข. กลอนนิราศ ค. กลอนสุภาพ ง. กลอนสี่ ๒. ขอ้ ใดไม่ใช่ตัวละครในเรื่องพระอภยั มณี ก. อภัยนรุ าช ข. สินสมทุ ร ค. ศรีสุวรรณ ง. จนั ทรส์ ุดา ๓. องค์พระอภัยมณีศรีโสภา ตกยากอยู่คหู ามาชา้ นาน กบั ด้วยนางอสรุ ีนีรมิต เป็นคชู่ ดิ เชยชมสมสถาน ต้องรักใคร่ไปตามยามกนั ดาร จนนางมารมบี ตุ รบรุ ุษชาย คาว่า “บตุ รบรุ ษุ ชาย” หมายถงึ ใคร ก. ศรสี ุวรรณ ข. สดุ สาคร ค. มงั คลา ง. สินสมุทร ๔. จึงกล่าวแกล้งแสรง้ เสเพทบุ าย เจ้าฝันรา้ ยนกั นอ้ งต้องตารา อันเทวญั น้นั คือมจั จุราช จะหมายมาดเอาชวี ิตรษิ ยา คาว่า “นอ้ ง” หมายถงึ ใคร ก. ศรสี ุวรรณ ข. นางผเี สอื้ สมทุ ร ค. นางเงอื ก ง. สุดสาคร ๕. ข้อใดแสดงใหเ้ หน็ ความรักของสินสมทุ รที่มีต่อมารดา ก. ให้หว่ งหลังกงั วลด้วยชนนี เจ้าโศกกี ราบกม้ บังคมคัล ข. ให้ลูกรกั ผลกั แผ่นศิลาล้ม สมอารมณ์รีบออกนอกคหู า ค. พระเพลนิ พิศคดิ หมายเสยี ดายดวง แลว้ หนักหน่วงนึกท่ีจะหนีไป ง. ดว้ ยกลน่ิ อายคล้ายท่านผมู้ ารดา เม่ือจับข้าข้าจงึ ออ่ นหย่อนกาลงั ๖. เหตุใดนางผีเส้ือสมทุ รจงึ เขา้ ใกลเ้ กาะแกว้ พิสดารไม่ได้ ก. เราลงเลขเสกทาไวส้ าเร็จ ดงั เขื่อนเพชรภตู ปศี าจไม่อาจใกล้ ข. อยา่ ฆ่าสัตวต์ ัดชวี ิตพิษฐาน หมายวมิ านเมืองแมนแดนสวรรค์ ค. พลางเข่นเขี้ยวเคี้ยวกรามคารามรอ้ ง เสยี งกึกก้องโกลาลูกตาโพลง ง. ทง้ั นี้เพราะเคราะห์กรรมทาใหว้ ุ่น จึงส้ินบุญวาสนาสกี าเอย๋
๗. ข้อใดบรรยายภาพนางผเี สื้อสมุทร ก. ฉุดกระชากลากหางข้นึ กลางหาด แลประหลาดลกั ษณามีตาหู ข. ทรงกาลงั ดงั พระยาคชาพลาย มีเขย้ี วคล้ายชนนีมีศักดา ค. นมสองขา้ งอย่างกระโปรงดูโตงเตง ผวั ของเอ็งเขาระอาไม่น่าชม ง. ขนงเนตรเกศกรอ่อนสะอาด ดงั สุรางคน์ างนาฏในวังหลวง ๘. “พระรปู หล่อพ่อคุณของเมยี อา ควรหรือมาทิ้งขว้างหมองหมางเมีย” คาวา่ “พระรูปหลอ่ ” และ “เมยี ” หมายถงึ ใคร ก. ศรสี ุวรรณ นางเกศรา ข. พระอภัยมณี นางผีเสื้อสมทุ ร ค. พระอภยั มณี นางเงือก ง. พระอภัยมณี นางละเวงวัณฬา ๙. “พงศก์ ษัตรยิ ์ทศั นานางเงือกน้อย ดูแชม่ ช้อยโฉมเฉลาทั้งเผา้ ผม ประไพพักตรล์ กั ษณ์ลา้ ล้วนขาคม ทงั้ เนอื้ นมนวลเปลง่ ออกเตง่ ทรวง ขนงเนตรเกศกรอ่อนสะอาด ดงั สรุ างค์นางนาฏในวงั หลวง” คาประพันธข์ ้างต้นนี้ เป็นรสในวรรณคดี รสใด ข. นารปี ราโมทย์ ก. เสาวรจนี ง. สัลลาปังคพิสัย ค. พโิ รธวาทงั แค้นโอรสราวกบั ไฟไหมม้ ังสา แมน้ จะวา่ โดยดีเหน็ มิฟัง ๑๐. “อสรุ ีผีเสอื้ เหลือจะอด แลว้ หกั คอเสยี ให้ตายเม่ือภายหลงั ชา่ งหลอกหลอนผ่อนผนั จานรรจา น้อยหรือยงั โหยกเหยกเด็กเกเร” จะจับไวใ้ ห้พาไปหาพ่อ โกรธตวาดผาดเสยี งสาเนียงดงั ข. นารีปราโมทย์ ง. สัลลาปังคพิสัย คาประพนั ธ์ขา้ งต้นนี้ เปน็ รสในวรรณคดี รสใด เสยี งโฮโฮดงั ก้องห้องคูหา ก. เสาวรจนี ควรหรอื มาทิ้งขวา้ งหมองหมางเมีย ค. พโิ รธวาทงั เหมอื นควักเอาดวงใจน้องไปเสีย ทูนผัวเมยี ช่างไม่ไว้อาลยั เลย” ๑๑. “ลงกล้งิ เกลือกเสือกกายร้องไหโ้ ร่ พระรปู หล่อพ่อคุณของเมียอา ข. นารีปราโมทย์ ทั้งลูกนอ้ ยกลอยใจไปดว้ ยเลา่ ง. สัลลาปงั คพสิ ัย นอ้ งรอ้ นรุ่มกลุ้มใจดงั ไฟเลีย คาประพันธ์ขา้ งต้นน้ี เปน็ รสในวรรณคดี รสใด ก. เสาวรจนี ค. พิโรธวาทัง
๑๒. “อยี ักษาตาโตโมโหมาก รูปกก็ ากปากกเ็ ปราะไมเ่ หมาะเหม็ง นมสองขา้ งอยา่ งกระโปรงดูโตงเตง ผัวของเอ็งเขาระอาไมน่ า่ ชม” “รปู กก็ าก” มีความหมายว่าอย่างไร ก. รูปรา่ งนา่ กลวั ข. รปู ร่างอว้ นท้วน ค. รปู ร่างผอมโซ ง. รปู รา่ งไมเ่ หลอื ส่งิ ดีไว้เลย ๑๓. คาประพันธใ์ นข้อ ๑๒ ใชถ้ ้อยคาทาให้ผู้อ่านเกดิ อารมณ์อยา่ งไร ก. สะใจ ข. ฮกึ เหิม ค. ตลกขบขนั ง. เวทนา ๑๔. “เสียแรงรกั หนักหนาอุตสา่ ห์ถนอม สอู้ ดออมสารพดั ไมข่ ดั สน” ผู้กล่าวความรสู้ กึ อย่างไร ก. โกรธแคน้ ข. ตดั พ้อ ค. สะใจ ง. เบอื่ หน่าย ๑๕. สินสมทุ รรสู้ ึกอยา่ งไรตอนเห็นหนา้ แม่จริงๆ และเพราะเหตุใด ก. สงสาร เพราะรา่ งกายของแม่ซูบผอมมาก ข. ดใี จ เพราะไดเ้ หน็ รปู ร่างหนา้ ตาที่แท้จรงิ ของแม่ ค. ตกใจและผดิ หวัง เพราะไมเ่ คยคดิ วา่ แม่ของตนจะอปั ลักษณเ์ ชน่ นี้ ง. โกรธ เพราะไมเ่ คยคิดว่าแมข่ องตัวเองจะเปน็ ยกั ษ์ ๑๖. คาว่า “ตรชี า” หมายความว่าอยา่ งไร ก. นางรา ข. สนิ้ ชีวติ ค. เดือดรอ้ น ทุกขใ์ จ ง. ตาหนิ กล่าวโทษ ๑๗. ขอ้ ใดกลา่ วถึงพระโยคีไดถ้ ูกต้องทส่ี ุด ก. อายุหา้ ร้อยปีเศษ ข. มเี วทมนตร์ปราบส่งิ ชว่ั ร้ายทัง้ หลายและทาคุณไสยได้ ค. รบั ประทานผลไม้และเผอื กมันเปน็ อาหาร ง. มพี ละกาลงั เหมือนชา้ งพวกเรอื แตกมาขออาศยั อย่ดู ้วย ๑๘. ความเชอ่ื ในเร่อื งใดมอี ิทธพิ ลตอ่ นางผีเสอ้ื มากทสี่ ดุ ก. ความเชือ่ เรอื่ งความฝนั ข. ความเชือ่ เร่ืองลางสังหรณ์ ค. ความเช่อื ในกฎแหง่ กรรม ง. ความเชื่อเรอื่ งเวทมนตรค์ าถา ๑๙. “ค่อยเขยอ้ื นเล่ือนลกุ ขึน้ ทั้งเจ็บ ยังมนึ เหน็บน้อมประณตบทศรี พระผ่านเกล้าเจ้าฟา้ ในธาตรี ขา้ ขอชวี ติ ไว้อย่าให้ตาย” คาประพันธ์ขา้ งต้นนี้ กลา่ วถงึ ตวั ละครใด ก. พระอภยั มณี ข. ผีเสอื้ สมทุ ร ค. สินสมทุ ร ง. เงอื กชราผูพ้ ่อ
๒๐. เร่อื ง พระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณหี นีนางผเี ส้ือเป็นตัวอยา่ งท่ดี ใี นเร่อื งใด ก. การใหอ้ ภยั ข. การร้จู ักควบคุมอารมณ์ ค. การมีความซ่ือสตั ย์สุจริต ง. การคิดวางแผนด้วยความรอบคอบ ***********************
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี นเรยี น เรื่อง พระอภัยมณี รายวิชา ท๒๓๑๐๒ ภาษาไทยพื้นฐาน ๖ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรียนวังวิเศษ อ.วังวเิ ศษ จ.ตรงั ๑. ค ๒. ก ๓. ข ๔. ข ๕. ก ๖. ก ๗. ค ๘. ข ๙. ก ๑๐. ค ๑๑. ง ๑๒. ง ๑๓. ค ๑๔. ข ๑๕. ค ๑๖. ง ๑๗. ค ๑๘. ก ๑๙. ง ๒๐. ง เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนน ๖๐ % ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตวั ชี้วัด/พฤตกิ รรมบ่งชี้ คะแนน ๓ ๒ ๑๐ ๑. ซอื่ สตั ยส์ ุจริต ๑.๑ ตั้งใจทางานทีร่ ับมอบหมายดว้ ยความคิดของตัวเองไม่ลอกผู้อ่ืน ๑.๒ ตัง้ ใจทาแบบทดสอบด้วยตัวเองไม่พยายามทจุ ริตลอกผู้อนื่ รวมคะแนน ระดับคณุ ภาพ ลงช่ือ ....................................... ผปู้ ระเมิน (.................................................) วนั ท.่ี ................................................... เกณฑก์ ารประเมิน = ระดบั ๓ ดเี ย่ยี ม คะแนน ๕ - ๖ = ระดบั ๒ ดี คะแนน ๓ - ๔ = ระดบั ๑ พอใช้ คะแนน ๒ = ระดบั ๐ ปรับปรงุ คะแนนต่ากวา่ ๒ ระดับ ๑ ขนึ้ ไป ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
แผนการจดั การเรียนรู้ Active Learning กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนวงั วเิ ศษ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ รหัสวชิ า ท๒๓๑๐๒ รายวิชา ภาษาไทยพืน้ ฐาน ๖ ภาคเรียนที่ ๒ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ พนิ ิจพระอภัยมณี จานวน ๙ ชว่ั โมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๔ เรือ่ ง การเขยี นคตพิ จน์ เวลา ๒ ช่ัวโมง สอนวนั ที่..................................................................................................................................................... ๑. มาตรฐาน (Standards) ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขยี นส่ือสาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอย่างมีประสทิ ธิภาพ ๒. ตัวชว้ี ัด (ตวั ชี้วัดของแผน) (Indicators) ท ๒.๑ ม. ๓/๒ เขยี นขอ้ ความโดยใชถ้ ้อยคาไดถ้ กู ต้องตามระดับภาษา ๓. สาระสาคญั (Learning Concepts) คตพิ จน์ หมายถงึ ถอ้ ยคาที่เปน็ แบบอย่างเป็นแนวทางให้ปฏบิ ัติ ให้ขอ้ คดิ ให้คติ มีทั้งรอ้ ยแก้วและร้อย กรอง การเขียนคติพจน์จงึ จาเปน็ ตอ้ งรหู้ ลักการเขียนที่ถูกตอ้ ง ๔. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Learning Objectives) ๔.๑ อธิบายลักษณะและแนวทางการเขียนคติพจน์ได้ (K) ๔.๒ เขยี นคตพิ จน์ได้ (P) ๕. สาระการเรียนรู้ (Learning Contents) ๕.๑ ความรู้ (Knowledge) ๕.๑.๑ สาระการเรยี นรปู้ ระจาแผนการจดั การเรียนรู้ - การเขยี นข้อความตามสถานการณ์และโอกาสต่าง ๆ ๕.๑.๒ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น - ไม่มี ๕.๒ ทกั ษะกระบวนการ (Skills during the process) - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาฟัง พูด อ่าน เขยี น เพื่อฝึกทักษะเขียนคติพจน์
๕.๓ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attributes) - ๕.๔ สมรรถนะผเู้ รยี น (Competency) - ๖. หลกั ฐานการเรยี นรู้ ชิน้ /ภาระงาน (work) ๖.๑ ช้นิ งาน - ทาแบบทดสอบ เร่ือง แนวทางการเขียนคติพจน์ - ทาใบงาน เรื่อง การเขยี นคติพจน์ ๖.๒ ภาระงาน - ๗. การวดั และการประเมิน (Evaluation) จุดประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวดั ผล เครื่องมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมินผล ด้านความรู้ (K) ๑. อธิบายลกั ษณะและแนว - ตรวจ - แบบทดสอบ - ผา่ น ตอบคาถามตรง ทางการเขียนคติพจน์ได้ แบบทดสอบ เรอ่ื ง แนวทางการ ประเด็นใหเ้ หตผุ ลประกอบ เขียนคติพจน์ ถกู ต้อง ไมผ่ ่าน ตอบไม่ตรง ประเด็น ไม่เข้าใจ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) ๑. เขียนคตพิ จน์ - ตรวจใบงาน - ใบงาน เรื่อง การ - ผ่านเกณฑ์ ๖๐ % เขยี นคติพจน์ ด้านคุณลักษณะ (A) - -- - ด้านสมรรถนะ (C) - -- - ๘. กระบวนการจัดกิจกรรม/รูปแบบการจดั กิจกรรม - สอนโดยใช้วธิ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ๙. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ข้นั ท่ี ๑ กระตุ้นความสนใจ ๑. นกั เรียนบริหารสมอง (Brain Gym เบรนยิม) ด้วยท่าจีบ L
มือข้างหน่งึ ทาทา่ จีบ มืออีกข้างให้ทาทา่ แอล แล้วสลับกนั ไปมา ๑๐ครงั้ ๒. นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คาถาม ดงั น้ี * คตพิ จน์คืออะไร ใช้ในโอกาสไหนบา้ ง (พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้อยูใ่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผู้สอน)) ขั้นท่ี ๒ สารวจคน้ หา ๑. นักเรียนร่วมกันค้นหาความรู้เรื่อง การเขียนคติพจน์ จากใบความรู้และจากหนังสือเรียน พร้อม ทั้งครูอธิบายเพม่ิ เตมิ เสรมิ ความเขา้ ใจให้กับนกั เรยี น ขั้นที่ ๓ อธบิ ายความรู้ ๑. นกั เรียนอธิบายความรู้เรอ่ื งการเขียนคตพิ จน์ ขัน้ ที่ ๔ ขยายความเข้าใจ ๑. นกั เรียนทาแบบทดสอบ เร่อื ง แนวทางการเขยี นคติพจน์ ขั้นที่ ๕ ตรวจสอบผล ๑. นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เก่ียวกับหลักการเขียนคติพจน์ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ และ นาไปปฏิบตั ิไดอ้ ย่างถูกต้อง ชั่วโมงที่ ๒ ขนั้ ท่ี ๑ กระตนุ้ ความสนใจ ๑. นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี * คติพจนแ์ ตกต่างจากคาคมคาขวัญอยา่ งไร (พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให้อยู่ในดุลยพินจิ ของครผู ้สู อน)) ขั้นที่ ๒ สารวจค้นหา ๑. นักเรียนร่วมกันค้นหาความรู้เร่ือง การเขียนคติพจน์ จากใบความรู้และจากหนังสือเรียน พร้อม ทงั้ ครอู ธบิ ายเพ่มิ เตมิ เสริมความเขา้ ใจให้กบั นักเรยี น ขนั้ ที่ ๓ อธบิ ายความรู้ ๑. นกั เรยี นอธบิ ายความรู้เรอ่ื งการเขยี นคตพิ จน์ ขั้นที่ ๔ ขยายความเข้าใจ ๑. นักเรียนฝึกเขียนคตพิ จน์ในใบงาน เร่ือง การเขยี นคติพจน์ ขน้ั ท่ี ๕ ตรวจสอบผล ๑. ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของการเขียนคติพจน์ พร้อมทั้งแนะนาข้อบกพร่อง ให้นักเรียนทราบ
๑๐. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ (Learning medias) ๑๐.๑ ส่อื การเรยี นรู้ ๑๐.๑.๑ หนงั สือเรียน รายวชิ าพื้นฐานภาษาไทย หลักภาษาและการใช้ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ ๑๐.๑.๒ ใบความรู้ เรือ่ ง การเขียนคติพจน์ ๑๐.๑.๓ ใบงาน เร่อื ง การเขียนคตพิ จน์ ๑๐.๑.๔ แบบทดสอบ เรอื่ ง แนวทางการเขียนคติพจน์ ๑๐.๒ แหลง่ การเรียนรู้ - ๑๑. การบูรณาการสศู่ ตวรรษท่ี ๒๑ ๓R R๑ Reading การอ่านออก R๒ Writing การเขยี นได้ R๓ Rithmethich การคิดเลขเปน็ ๗C C๑ Critical thinking & problem solving (ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ และทกั ษะในการแก้ปญั หา) C๒ Creativity & innovation (ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม) C๓ Cross-cultural understanding (ทกั ษะดา้ นความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์) C๔ Collaboration, teamwork & leadership (ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทีมและภาวะ ผนู้ า) C๕ Communications, information & media literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และรู้เท่าทันส่ือ) C๖ Computing & ICT literacy (ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร) C๗ Career & learning skill (ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู)้
๑๒. ความคดิ เห็น (ผู้บริหาร/หรือผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย) ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรียนของ นางพร้มิ เพรา ทองสขุ แล้วมคี วามเห็นดังน้ี ๑๒.๑ เป็นแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ดมี าก ดี พอใช้ ต้องปรับปรงุ ๑๒.๒ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ไดน้ าเอากระบวนการเรยี นรู้ ที่เนน้ ผู้เรียนเป็นสาคัญ ใช้กระบวนการสอนได้เหมาะสม ท่ียงั ไม่เน้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป ๑๒.๓ เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ นาไปใช้สอนได้ ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ ๑๒.๔ ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ………………………………………………………………………………...……………………………………………………………………… …..…….……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……...………………............................................................................................................................. .................… ลงช่อื ..................................................... (นายวรากร บวั กิ่ง) หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย วนั ท่ี..................................................... ลงชอื่ ..................................................... ( นางสาวจรี ภา บวั ดา ) รองผู้อานวยการฝา่ ยบริหารงานวชิ าการ วนั ที่..................................................... ลงช่ือ…………...........…………………………. ( นายปราโมทย์ สุทธิรักษ)์ ผูอ้ านวยการโรงเรยี นวังวเิ ศษ วนั ท.่ี ....................................................
๑๓. บนั ทึกผลหลังแผนการจดั การเรยี นรู้ ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ ดา้ นความรู้ (K) ...................................................................................................................................................... ........................ ……………………………………………………………..................................................................................…………………... ………………………………………………………………………………………………………...……………………………………………… …………………………………............................................................................................................................. .......... .................................................................................................................................................................. ............ ……………………………….......................................................................................................................................... ๑.๒ ด้านด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) ............................................................................................................................. ................................................. ……………………………………………………………..................................................................................…………………... ………………………………………………………………………………………………………...……………………………………………… …………………………………....................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ……………………………….......................................................................................................................................... ๑.๓ ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) .............................................................................................................................................................................. …………………………………………………………….................................................................................. …………………... ………………………………………………………………………………………………………...……………………………………………… …………………………………....................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ………………………………......................................................................................................................... ................. .............................................................................................................................................................................. ๑.๔ ดา้ นสมรรถนะสาคัญผเู้ รียน (C) .......................................................................................................................................................... .................... ……………………………………………………………..................................................................................…………………... ………………………………………………………………………………………………………...……………………………………………… ………………………………….................................................................................................................. ..................... ...................................................................................................................................................................... ........ ……………………………….......................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .……………………………….........................................................................................................................................
๒. ปญั หาอุปสรรค/ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ …………………………………………………………….................................................................................. …………………... ………………………………………………………………………………………………………...……………………………………………… …………………………………....................................................................................................................................... ๓. แนวทางการแกไ้ ข …………………………………………………………….................................................................................. …………………... ………………………………………………………………………………………………………...……………………………………………… …………………………………............................................................................................................................. .......... . ลงช่ือ…………….........……………………… ( นางพร้ิมเพรา ทองสขุ ) ครผู ูส้ อน ความคิดเหน็ หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ……………………………………………………………..................................................................................…………………... ………………………………………………………………………………………………………...……………………………………………… …………………………………....................................................................................................................................... ลงชื่อ..................................................... ( นายวรากร บวั ก่ิง ) วนั ท.่ี ....................................................... ความคดิ เห็นรองผู้อานวยการฝ่ายวิชาการ ……………………………………………………………..................................................................................…………………... ………………………………………………………………………………………………………...……………………………………………… …………………………………....................................................................................................................................... ลงชอื่ …………...........…………………………. ( นาสาวจีรภา บวั ดา) วนั ท่ี....................................................... ความคดิ เหน็ ผ้อู านวยการโรงเรยี นวงั วิเศษ ……………………………………………………………..................................................................................…………………... ………………………………………………………………………………………………………...……………………………………………… …………………………………............................................................................................................................ ........... ลงช่อื …………...........…………………………. ( นายปราโมทย์ สุทธิรักษ)์ วันท.ี่ .....................................................
ใบความรู้ เรื่อง การเขียนคติพจน์ รายวชิ า ท๒๓๑๐๒ ภาษาไทยพน้ื ฐาน ๖ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย โรงเรยี นวังวิเศษ อ.วังวเิ ศษ จ. ตรัง การเขยี นคติพจน์ คติพจน์ คือ ถ้อยคาทเี่ ปน็ แบบอย่าง มีคติชวนคดิ ม่งุ ใหเ้ กดิ ผลดีตอ่ ตนเองและสงั คม หลกั การเขยี นคตพิ จน์ ๑. ใชถ้ ้อยคานอ้ ยมีความหมายลึกซึ้ง ๒. ใชค้ าคล้องจอง สละสลวย ๓. มงุ่ ให้เกดิ ผลในด้านดีเท่านนั้ ตัวอยา่ งคตพิ จน์ ๑. ถึงบรรลัยไว้ช่ือให้ลือชา หมายความว่า จงเป็นคนกล้าหาญยอมสละชีพ เพ่ือให้ชื่อเสียงยังคง ปรากฏ อยใู่ นแผ่นดิน ๒. ศรทั ธาในธรรม นาทางชีวติ พชิ ติ กิเลส หมายความว่า ให้ยึดถือหลกั ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธ เจ้า เปน็ แนวทาง ในการดาเนนิ ชวี ติ เพ่อื ความสงบสุขโดยปราศจากกเิ ลสใดๆ มาแผ้วพาน ๓. ทาดไี ดด้ ี ทาช่ัวไดช้ วั่ ๔. ถงึ บางพดู พดู ดีเปน็ ศรศี ักด์ิ มคี นรกั รสถอ้ ยอรอ่ ยจติ แม้นพูดชั่วตัวตายทาลายมิตร จะชอบผดิ ในมนษุ ยเ์ พราะพูดจา *********************
แบบทดสอบ เรื่อง แนวทางการเขียนคติพจน์ รายวิชา ท๒๓๑๐๒ ภาษาไทยพ้นื ฐาน ๖ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรยี นวังวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรงั ชอ่ื ……………………………………………………………………………………ชัน้ …........................…..เลขท…ี่ ..………… คาชีแ้ จง: ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปนใ้ี ห้ถกู ต้อง ๑. คติพจน์ หมายถงึ ...................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................... ....................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................ .................................................................. ๒. แนวทางการเขยี นคติพจน์ ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................... .................................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................... ............................................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ..............................................................................................................................................................................
ใบงาน เร่อื ง การเขยี นคติพจน์ รายวชิ า ท๒๓๑๐๒ ภาษาไทยพืน้ ฐาน ๖ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย โรงเรียนวังวิเศษ อ.วังวเิ ศษ จ. ตรงั ชอื่ ……………………………………………………………………………………ช้นั …........................…..เลขท…ี่ ..………… คาช้แี จง: ใหน้ กั เรยี นเขยี นคติพจน์ ตามหวั ข้อตอ่ ไปน้ี ๑. คติพจน์ เก่ยี วกับ การเรียน ...................................................................................................................................................................... ........ ................................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................... ................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ๒. คติพจน์ เก่ยี วกบั หอ้ งเรียนสขี าว ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................ ...................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................. ................................................................. ๓. คตพิ จน์ เก่ยี วกับ การใช้ชีวิตอย่างพอเพยี ง ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ..............................................................................................................................................................................
Search