วิชาศิลปะ 2 ศ31102 ม.4/9 นาฏศลิ ป์และการละคร ครโู ชติกา หนูสวัสดิ์
สมาชกิ ในกลุ่ม ร นางสาวบุญยานชุ รตั นมณี(ขวญั ข้าว) GROUP WORK เลขที 26 กลุ่ม : พจชรดลญา E-mail : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 099-0415006 Facebook : Kwankhaw Bunyanuch Line : bunyanuch26
รองหวั หน้ากลุ่ม เลขานกุ าร นางสาวทักษิณา พลอาชา (แก้ม) เลขที 25 ชอื -สกุล : นางสาวฟาใส มุ่งชยั (เบยี ร)์ E-mail : [email protected] เลขที 29 เบอรโ์ ทรศัพท์ : 095-5402803 E-mail : [email protected] Facebook : Thaksina Polacha เบอรโ์ ทรศัพท์ :093-5838171 Line : gamthaksina Facebook :Fasai Mungchai Line : 5107403124832330 หวั หน้ากลุ่ม ชอื -สกุล : นายภัทรพล ปาลรงั ษี (โลตัส) เลขที 17 E-mail : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0886470572 Facebook : Lotus Pattarapon Line : 0886470572
ใหค้ วามรูพ้ ืนฐานในด้านการแสดงนาฏศิลปทุกประเภทนับตังแต่ป การจัดกิจกรรมต่างๆ ระวตั ิความเปนมาลักษณะการแสดง ขนบนิยมในการแสดง เพอื เปนการอนรุ กั ษ์นาฏศิลปไทย รูปแบบลีลาท่าราํ การ ตีบท กลุ่มผู้สรา้ งงานนาฏศิลปในระบบการเรยี นการส ความเปนเอกลักษณ์ของการแสดงทีละชุดต้องใหค็ วามรูแ้ ก่ผู้ชมทั อน งในด้านทฤฎีและปฏิบตั ิ ผูส้ อนควรสรา้ งโอกาศในการเรยี นรูน้ าฏศิลปไท ย เปดโอกาสใหป้ ระชาชนได้ชมการแสดงนาฏศิลปไทยทุกประเภท ทังในรูปแบบเดิมและรูปแบบทีปรบั ปรุงขึนใหม่ กลุ่มผู้สรา้ งงานนาฏศิลปแนวอนรุ กั ษ์ ควรมีความรู้ ความเชยี วชาญ เพือจุดประกายใหเ้ กิดความคิด ในการวเิ คราะห์ วพิ ากษ์ หรอื มีรสนิยมทีจะสรา้ งผลงานด้านนาฏศิลป วจิ ารณ์เปรยี บเทียบผลงานการแสดง การสรา้ งค่านิยมใหม่ ในองค์กรทังทีเปนของรฐั กลุ่มผูช้ ม หรอื เอกชน ต้องมีส่วนรว่ มในการกําหนดนโยบายเพือสนับสนนุ งานนาฏศิลปแนวอนรุ กั ษ์ เพอื ดูดความสนใจของผูช้ มผูส้ รา้ งงานอาจพฒั นา ดิมใหม้ ีความทันสมัย กระชบั มากขึน กลุ่มผูค้ นสรา้ งงาน แนวทางการอนรุ กั ษ์นา ชว่ ย ฏศิลป ชว่ ยใ นางสาวบุญยานชุ รตั นมณี เลขที 26 มีค ประพนั ธบ์ ทโขนละคร ประโยชน์ในการเรยี นน ป ในการแสดงโขน ละคร การละเล่นพืนเมือง ระบําราํ ฟอน เผยแพรศ่ ิลปวฒั นธรรมไทยเปนผูฝ้ กสอน และอาํ นวยการฝกซ้อม นางสาวทักษิณา พลอาชา เ ผูค้ ัดเลือกการแสดง จัดทําบทและเปนผูฝ้ กสอน ฝกซ้อม อาํ นวยการแสดงถวายทอดพระเนตรหน้าพระทีนัง ตังคณะสายเมธี ท่าราํ ของตัวพระ นาง ยกั ษ์ ลิง มีความสามารถในการราํ เพ เปนนาฏศิลปสูงสุ แสดงนิยายและบรรเลงในแบบดนตรสี ากลแ และตัวประกอบ ลงหน้าพาทยอ์ งค์พระพิรา ด ละดนตรไี ทย ท่านผูห้ ญงิ แผ้ว สนิทวงศ์เสนี พ แสดงเปนพระถังซําจังและเป แสดงเปนพระเอกภาพยนตรเ์ รอื ง ครูอาคม สายาคม นผู้กํากับการแสดง อมตาเทวี เรอื งไซอวิ ประดิษฐ์ท่าราํ ได้แก่ ครูสอนนาฏศิลปโขน เพลงหน้าพาทยต์ ระนาฏราช เพลงหน้าพาทยโ์ ปรยข้าวตอก เพลงเชดิ จีน ครูรงภักดี (เจียร จารุจรณ) เชน่ ราํ แม่บทใหญ่ ประดิษฐ์ท่าราํ ใหก้ รมศิลปากรใ ครูลมุล ยมะคุปต์ บุคคลสําคัญ พืนฐานนาฏศิลปไท ราํ ซัดชาตรี นฐานะผู้เชยี วชาญ นางสาวบุญยานชุ รตั นมณี เลขที 26 นายภัทรพล ปาลรงั ษี เลขท ราํ วงมาตรฐาน รา่ งหลักสูตรใหแ้ ก่วทิ ยาลัยนาฏ ศิลป คุณสมบัติของผู้เรมิ เรยี นนาฏศ ทําใหก้ ารเรยี นนาฏศิลปมีระบบ มีขนั ตอนในการฝกหดั ต้องมีความสนใจและตังใจจ หมายถึง นายภัทรพล ปาลรงั ษี เลขที 17 หมายถึง ต้องมีสมาธแิ น่วแน่ในขณะป การแสดงท่าทางการเคลือนไหวร่ รูปเเบบของนาฏศิลป ศิลปะการรา่ ยราํ ทีแสดงพรอ้ มกันเปนหมู่ างกายประกอบจังกวะเพลงรอ้ งหรื ต้องเปนผูท้ ีชา่ งสังเกต อเพลงบรรเลงจะเปนศิลปะการราํ ราํ ละคร ระบํา ไม่ดําเนินเรอื งราว ใชเ้ พลงบรรเลง ต้องเปนผู้ทีไม่ท้อถอยต่อความย อาจมีเนือรอ้ งหรอื ไม่มีเนือรอ้ งก็ได้ เดียว ราํ คู่ ราํ ประกอบเพลง ตัวอยา่ ง ตัวอยา่ ง เน้นการแปรแถวในลักษณะต่าง ๆ ทเรยี น หรอื ความเมือยล ราํ อาวธุ ราํ ทําบทหรอื ราํ ใชบ้ ท อยา่ งมีระเบยี บงดงามและเน้นความพรอ้ มเพียง ต้องเปนผูท้ ีขยนั ในการทบทวนฝกซ โดยเน้นท่วงท่าลีลาการรา่ ยราํ ทีง เปนหลัก ยูส่ มาเสมอ ดงาม ระบาํ ชุมนมุ เผา่ ไทย ราํ ฉุยฉาย ระบาํ สุโขทัย ราํ สีนวล ระบําโบราณคดี หมายถึง ระบําทีมีนักแสดงพรอ้ มกันเปนหมู่ ฟอน หมายถึง เปนศิลปะการรา่ ยราํ ทีมีลีลาเฉพาะ การรอ้ งราํ ทําเพลงแบบพืนเมืองอสี าน หมายถึง ลีลาและจังหวะการรา่ ยราํ จะรวดเรว็ กระ ในท้องถินล้านนา การแสดงเปนเรอื งราว ฉับกระเฉงส่วนใหญ่การเซิงจะใชส้ ําหรบั ทีเปนการเคลือนไหวแขน ขา โดยนําภาพจากประสบการณ์แ เซิง นํากระบวนแหต่ ่าง ๆ ละจิตนาการของมนษุ ยม์ าผูกเ ยดื ยุบเข่าตามจังหวะ เซิงสวงิ เพือความออ่ นชอ้ ยสวยงาม ปนเรอื ง ตัวอยา่ ง มีจุดมุ่งหมายเพอื แสดงอารม ฟอนเมือง ตัวอยา่ ง ณ์ความรูส้ ึกก่อใหเ้ กิดความบนั เซิงกระติบข้าว ฟอนเงยี ว เทิง และความสนกุ สนาน โขน เพลิดเพลินโดยมีนักแสดงเปน ผูส้ ือความหมาย และเรอื งราวต่อผู้ชม หมายถึง ศิลปะการแสดงนาฏศิลปของไทยรูปแบบหนึง อากัปกิรยิ าของตัวละครจะมีทังการราํ และการเต้นทีออกท่าทางเขา้ กับดนตรี นักแสดงจะถูกสมมติใหเ้ ปนตัวยกั ษ์ ตัวลิง มนษุ ย์ เทวดา โดยการสวมหน้ากากหรอื เรยี กวา่ “หวั โขน” ส่วนนักแสดงเปนมนษุ ย์ และเทวดาจะไม่สวมหวั โขน การแต่งกายแต่งยนื เครอื งครบถ้วนตามลักษณะของยกั ษ์ ลิง มนษุ ย์ นักแสดงไม่ต้องรอ้ งหรอื เจรจาเอง เพราะจะมีผู้พากยเ์ จรจาขับรอ้ งแทน
ส ท นผู้สรา้ ง ารูปแบบเ สามารถยดึ เปนอาชพี ไ เกิดจากการเล่นเลียนแบบของมนษุ ย์ ด้ จะเหน็ วา่ มนษุ ยน์ ิยมเลียนแบบสิงต่าง ๆ ได้รบั ความรูน้ าฏศิลปจนเกิดความชาํ นาญ ทังจากมนษุ ยเ์ องสังเกตจากเด็ก ๆ สามารถปฏิบัติได้ดีมีชอื เสียง ชอบแสดงบทบาทสมมุติเปนพอ่ เปนแม่ในเวลาเล่นกันห รอื เลียนแบบจากธรรมชาติและสิงแวดล้อมต่าง ๆ ยในการออกกําลังกายได้เปนอยา่ งดี จนทําใหเ้ กิดการเล่นต่างๆ เชน่ การเล่นงูกินหาง การแสดงระบํานกยูง เปนต้น ใหเ้ ปนคนทีมีบุคลิกท่าทางเคลือนไหวสงา่ งาม การทีมนษุ ยต์ ้องการเอาชนะธรรมชาติด้วยวธิ ตี ่างๆ ความสามัคคีในหมู่คณะ ทีนําไปสู่การราํ เพือบูชาสิงทีตนเคารพตามลัทธศิ าสนา ของตน ต่อมาจึงเกิดเปนความเชอื ในเรอื งเทพเจ้า การทีมนษุ ยค์ ิดประดิษฐ์หาเครอื งบันเทิงใจ เรมิ แรกอาจเปนการเล่านิทาน นิยาย มีการนําเอาดนตรี และการแสดงท่าทางต่าง ๆ ประกอบเปนการรา่ ยราํ จนถึงขันแสดงเปนเรอื งราว นาฏศิล เกิดจากทีมนษุ ยต์ ้องการแสดงอารมณ์ทีเกิ มนษุ ยแ์ สดงอารมณ์ตามธรรมชาติออกมาตรง ๆ ดขึนตามธรรมชาติ เลขที 25 เพือเปนการฝกใหร้ ูจ้ ักกล้าแสดงออก เพือเปนการปลูกฝงและส่งเสรมิ นิสัยทาง วฒั นธรรมอนิ เดียเกียวกับวฒั นกรรมทีเปนเรอื งของเทพเจ้า ความมุ่งหมายในการเรยี ศิลปะแก่ผูเ้ รยี น และตํานานการฟอนราํ โดยผ่านเข้าสู่ประเทศไทย นนาฏศิลป เพือใหค้ วามรูค้ วามเขา้ ใจยงิ ขึน ทังทางตรงและทางออ้ ม คือ ผ่านชนชาติชวาและเขมร นางสาวทักษิณา พลอาชา เลขที 25 ก่อนทีจะนํามาปรบั ปรุงใหเ้ ปนรูปแบบตามเอกลักษณ์ของไทย เชน่ เพือเปนการส่งเสรมิ และอนรุ กั ษ์วฒั นธร ตัวอยา่ งของเทวรูปศิวะปางนาฏราช ทีสรา้ งเปนท่าการรา่ ยราํ ของ รมของชาติใหค้ งอยูส่ ืบไป พระอศิ วร ซึงมีทังหมด 108 ท่า หรอื 108 กรณะ กําเนิดของนาฏศิลป การรบั วฒั นธรรมมาจากอนิ เดี โดยทรงฟอนราํ ครงั แรกในโลก ณ ตําบลจิทรมั พรมั เมืองมัทราส ย อนิ เดียใต้ ปจจุบันอยูใ่ นรฐั ทมิฬนาดู นับเปนคัมภีรส์ ําหรบั การฟอนราํ แต่งโดยพระภรตมุนี เรยี กวา่ คัมภีรภ์ รตนาฏยศาสตร์ ถือเปนอทิ ธพิ ลสําคัญต่อแบบแผนการสืบสาน และการถ่ายทอดนาฏศิลปของไทย จนเกิดขนึ เปนเอกลักษณ์ของตนเองทีมีรูปแบบ นางสาวทักษิณา พลอาชา เลขที 25 สรุปได้วา่ “นาฏศิลป” คือ ศิลปะการรอ้ งราํ ทําเพลงทีมนษุ ยเ์ ปน ผูส้ รา้ งสรรค์โดยประดิษฐ์ขนึ อยา่ งประณีตและมีแบบแผน ใหค้ วามรูค้ วามบนั เทิง นางสาวฟาใส มุ่งชยั เลขที 29 นาฏศิลป มาจากคําวา่ “นาฏ” กับคําวา่ ซึงเปนพืนฐานสําคัญทียงั คงใหเ้ หน็ ถึงวฒั นธรรมความรุง่ เรอื งของชาติได้เปนอยา่ งดี ทย ความหมายของนาฏ “ศิลปะ” นาฏศิลป คือ ศิลป ศิลปะ คือ ศิลปะแหง่ การละครหรอื การฟอนราํ การแสดงออกมาใหป้ รากฏขนึ อยา่ งงดงาม น่าพึงชมก่อใหเ้ กิดอารมณ์สะเทือนใจ นาฏศิลป คือ การฟอนราํ นาฏศิลป คือ ความชาชองในการฟอนราํ เมือนําทังสองคํามารวมกันมีผู้ใหค้ วามหมายต่าง ๆ นาฏศิลป คือ การรอ้ งราํ ทําเพลง ใหค้ วามบนั เทิงใจ กัน ดังนี อนั ประกอบด้วยความโน้มเอยี งแหง่ อารมณ์และความรูส้ ึก ที 17 ศิลป จรงิ นางสาวฟาใส มุ่งชยั เลขที 29 ความหมาย “สุนทรยี ะทางนาฏศิลป” หมายถึง ความวจิ ิตรงดงามของการแสดงนาฏศิลปสากล ปฏิบัติ ความหมายสุนทรยี ะทางนาฏศิลป ซึงประกอบไปด้วยระบาํ ราํ ฟอน ละคร อนั มีลีลาท่าราํ และการเคลือนไหว ทีประกอบด้วยดนตรี บทรอ้ งตามลักษณะและชนิดของการ แสดงแต่ละประเภท ยากของบ 1. สุนทรยี ะทางวรรณกรรม วนั ที 25/11/64 ล้า หมายถึงความงามทางตัวอกั ษรโดยเฉพาะคํา ประพันธป์ ระเภทรอ้ ยกรอง อา้ งองิ ซ้อมท่าราํ อ ทีมีความงามทางตัวอกั ษรของกวหี รอื ผู้ประพันธท์ ีมีศิลปะใ นการใชถ้ ้อยคําซึงก่อใหเ้ กิดการโน้มน้าว \"ประเภทของนาฏศิลปของไทย” [ออนไลน์] 2561 เขา้ ถึงได้จาก ความรูส้ ึกในแงข่ องคติสอนใจ ; ทีมีคุณประโยชน์ในการเสรมิ สรา้ งปญญา โดยความงามของวรรณคดีประเภทรอ้ ยกรองนันประกอบ สืบค้น 25 พฤศจิกายน 2564 ด้วย ความงามของเนือหาสาระและศิลปะการใชถ้ ้อยคํา การเล่นคํา เล่นอกั ษร เล่นสระ และเล่นเสียง \"พืนฐานของนาฎศิลปไทย\" [ออนไลน์] 2555 เข้าถึงได้จาก ; สืบค้น 25 2. สุนทรยี ะทางดนรแี ละการขบั รอ้ ง ความงามทีได้จากดนตรแี ละการขบั รอ้ งนันต้องอาศัยทังผู้ พฤศจิกายน 2564 บรรเลง ผูร้ อ้ ง และผู้ฟง เนืองจากในเพลงไทยมักจะมีทังการบรรเลงดนตรแี ละการ “บุคคลสําคัญในวงการนาฏศิลปของไทย” [ออนไลน์] 2559 ขบั รอ้ งไวด้ ้วยกัน เขา้ ถึงได้จาก ; › bth-thi2-kar- ตลอดจนมีผูฟ้ งเพลงทีมาชว่ ยกันสรา้ งสุนทรยี ะทางดนตรี และการขับรอ้ งรว่ มกัน saedng-natsilp-thiy สืบค้น 25 พฤศจิกายน 2564 \"ประโยชน์และคุณสมบตั ิของผู้เรยี นนาฎศิลป\" [ออนไลน์] 2560 เขา้ ถึงได้จาก ; 2564 สืบค้น 23 ธนั วาคม \"6แนวทางการอนรุ กั ษ์นาฏศิลป\" [ออนไลน์] 2556 เข้าถึงได้จาก ; สืบค้น 23 ธนั วาคม 2564
“ตง้ั ในอา่ นหนงั สอื นะคะเดก็ ๆ เกรดส่ีอย่ไู มไ่ กลแลว้ ครูเปน็ กาลังใจให้นะคะ” วชิ าศลิ ปะ 2 ศ31102 นาฏศลิ ปแ์ ละการละคร ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ครูโชติกา หนสู วสั ดิ์
สมาชกิ ในกลุ่ม กลุ่ม : นางสาวพิชญากร บุญฤทธิ (จิบ) เลขที 28 E-mail : [email protected] Phone number : 099-3633691 Facebook : พิชญากร บุญฤทธิ Line : 0937423398_123_123_3 สมาชกิ ในกลุ่ม นางสาวกรกฎ ดวงใหญ่ (ปูม) เลขที 23 E-mail : [email protected] Phone number : 099-3102646 Facebook : กรกฎ ดวงใหญ่ Line : Poom Korakod 23 เลขานกุ าร เลขที 32 นางสาวอสั รยี า ยามาเจรญิ (ซายา่ ) E-mail : [email protected] Phone number : 062-9797805 Facebook : Aussareeya Yamacharoen Line : saya_2549
สมาชกิ ในกลุ่ม นางสาวณัฐณิชา เปยฉิม (ทราย) เลขที 24 E-mail : [email protected] Phone number : 080-2631787 Facebook : Natnicha Piachim Line : 080-2631787 Group Work รองหวั หน้ากลุ่ม : นาฏศิลปไทยในอดีตกาล นางสาวปญญดา ปติ (เฟรส์ ) เลขที 27 E-mail : [email protected] Phone number : 099-2717783 Facebook : ปญญดา ปติ Line : first14349 หวั หน้ากลุ่ม นางสาวพิมพ์พิชชา มณีอนิ ทร(์ ไอซ์) เลขที 31 E-mail : [email protected] Phone number : 093-6067733 Facebook : Pimpitcha Maneein Line : 0936067733
โด ทห ม บุค ซึงแ ด้านการราํ ไทย มีกล่าวถึงตังแต่ครงั กรุงสุโขทัยจากศิลาจารึ กหลักที 8 แต่ไม่มีการอา้ งถึงเปนรายบุคคล ไม่ปรากฏรายชอื ศิลปนทรงคุณค่า สมัยสุโขท สมัยน่านเจ้า น่านเจ้าอยูบ่ รเิ วณตะวนั ตกเฉียงใต้ของ อา้ งองิ เรอื งของ “ มโนหร์ า” ประเทศจีนทางตอนเหนือของไทย นางสาวณัฐณิชา เปยฉิม ครูศรณั ย์ สาครเสถียร (2021). ระบาํ หมวก, สบื ค้นเมอื 23 พฤศจกิ ายน 2564. จาก ดูรูปกินรมี โนหร์ าจะเหน็ ได้วา่ เปนอมนษุ ยช์ นิดหนึงอยูก่ ึง สมัยนันยงั มีการติดต่อค้าขายอยู่ รบั ผดิ ชอบ ศิลปนทรงค https://artandcom.wordpress.com . (2021). มารจู้ กั องค์ประกอบนาฏศิลปจนี มอี ะไรบา้ ง และน่าสนใจอบา่ งไร, สบื ค้นเมอื 23 พฤศจกิ ายน มนษุ ยก์ ึงสวรรค์ มีตัวเปนคน มโนหร์ า สันนิษฐาวา่ ชนทีอาศัยอยูใ่ นสมัยนันคือ 2564. จาก https://americanidiotonbroadway.com มีหางและปกเปนนก ตามปกติจะดูภาพกินรไี ด้ใน ชาวไต madmee987654321. (2021). ๑๓ บทที ๒ ประวตั ิละครไทยก่อนสมยั กรงุ ศรอี ยุธยา, สบื ค้นเมอื 23 พระอุโบสถ ดังเชน่ ทีอุโบสถวดั สุทัศน์เทพวราราม ระบาํ หมวก พฤศจกิ ายน 2564. จาก https://madmee987654321.files.wordpress.com ระบํานกยูง การศึกษาเรอื งการละครไทย sittipanareerat422. (2021). ววิ ฒั นาการละครไทย, สบื ค้นเมอื 23 พฤศจกิ ายน 2564. เรอื งกินรมี โนหร์ านี เราได้ความคิดมาจากชาดก เรอื ง “ และนาฏศิลปไทยในสมยั นี พบวา่ จาก https://sites.google.com/site/sittipanareerat422/bth-thi3-lakhr- พระสุธนชาดก” ไทยมนี ิยายเรอื งหนึง คือ เรอื ง “มโนหร์ า” thiy/k ซงึ ปจจุบนั นกี ็ยงั มอี ยูใ่ นประเทศจนี ตอนใต้ในอาณาจั สุธนนันเปนชอื ของพระเอกแต่ทางจีนตอนใต้เรยี กเพียน กรนา่ นเจา้ เดมิ นนั เอง นยิ ายเรอื งนนั คือ เปน เจ้าชูตน ส่วนนางเอกนันชอื วา่ มโนหร์ า “นามาโนหร์ า (Namanora) เปนนิยายของพวกไต พวกไตคือไทยเรานีเอง ระบําหมวกเวยี ดนามหมวกรูปทรงกรวยทีเรยี กวา่ \"นอนล้า\" แต่เปนพวกทีไมอ่ พยพลงมาจากดินแดนเดิม สมัยน่านเจ้า พ ศ ๑๑๖๑ – ๑๑๙๔ และชุดแต่งกายทีเรยี กวา่ \"อาวหยาย\" (áo dài) เรอื งนามาโนหร์ านีจะนาํ มาเล่นเปนละครหรอื ไมน่ นั ยงั ไ เปนสิงของและการแต่งกายทีใชใ้ นชวี ติ ประจําวนั มม่ หี ลักฐานปรากฎเดน่ ชดั นางสาวปญญดา ปติ เลขที 27 รบั ผดิ ชอบ สมัยน่านเจ้า การแสดงปจจุบันระบําหมวกจึงแสดงเอกลักษณ์ทีโดดเด่นของช การละเล่นของไทยสมยั น่านเจา้ นันมพี วกระบาํ อยูแ่ ล้ว าวเวยี ดนามอยา่ งชดั เจน คือ ระบาํ หมวก และระบาํ นกยูง คนไทยสมยั นนั เรมิ มี ความเจรญิ รุง่ เรอื ง และทราบนามของ ระบํานกยูงนีเปนทีโด่งดังอยา่ งมากในแถบเอเชยี กษัตรยิ อ์ งค์แรก ( แหง่ ราชวงศ์ ”ตีมง” ) วา่ มันมีความหมายสือถึง สวรรค์ ความสงบ ความสงา่ งาม ”พระเจา้ สโิ ลน”ุ และความโชคดี สมัยน่านเจ้าไม่มีปรากฏบุคคลสําคัญแต่อยา่ งใดแ รูปแบบการเคลือนไหวจะเปนการเลียนแบบนกยูง ต่มีปรากฏวรรณกรรมเรอื ง มโนราห์ ซึงจะเรมิ ตังแต่การตืน การออกหาอาหาร การละเล่นในสมัยน่านเจ้า ระบําหมวก และ การอาบนาในแม่นํา ในตอนท้ายทีสุดก็จะบนิ ออกไป ระบํานกยูง ระบําสุโขทัย ระบาํ ราํ นางสาวอสั รยี า ยามาเจรญิ เลขที 32 เปนระบําทีได้สรา้ งขึนตามความรูส้ ึกของถ้อยคําไทยใน ศิลปะรา่ ยราํ ทีแสดงพรอ้ มกันเปนหมู่เปนชุด การแสดงทีมุ่งเน้นความงามของการรา่ ยราํ รบั ผิดชอบ สมัยสุโขทัย ศิลาจารกึ ไม่มีการดําเนินเรอื งราว เปนการแสดงท่าทางลีลาของผูร้ าํ สมัยสุโขทัย ประกอบด้วยลีลาท่าเยอื งกรายอนั นิมนวลออ่ นชอ้ ยของ มุ่งถึงความพรอ้ มเพรยี งความสวยงามในการใชล้ ีลาท่า โดยใชม้ ือและแขนเปนหลัก 2. รามเกียรติคําพากย์ : หอสมุดแหง่ ชาติ กรมศิล รูปภาพปูนปนหล่อในสมัยสุโขทัย ราํ และความสวยงามของเครอื งแต่งกาย เปนการแสดงประเภทระบํา ราํ ฟอน มีววิ ฒั นาการมาจากการ ได้แบ่งตีพิมพ์ไวเ้ ปนภาค โดยมีเนือเรอื งติดต่อ การแสดงระบําสุโขทัย ละเล่นของชาวบ้าน เปนการพกั ผ่อนหยอ่ นใจหลังจากเสรจ็ งาน 2 ตอน “สีดาหาย” ไปจนถึงภาค 9 ตอน ”กุมภก ฟอน เข้าใจวา่ คําพากยเ์ หล่านีแต่เดิมใชเ้ ล่นหนัง จะราํ ตามจังหวะดนตรไี ม่มีเนือรอ้ ง ศิลปะการแสดงทีเปนประเพณีของทางภาคเหนื หรอื แสดงในงานบุญ งานรนื เรงิ ประจําป ต่อมาภายหลังได้มีผู้นํามาใชเ้ ล่นโขนด้วย ปรากฏในหนังสือไตรภูมิพระรว่ งฉบับ ระบําศรสี ัชนาลัย อ จะใชผ้ ู้แสดงเปนจํานวนมาก 3. รามเกีย ลักษณะท่ารา่ ยราํ ของระบํา มีลีลาการฟอนพรอ้ มเพรยี งกันด้วยจังหวะทีค่อ พระมหาราชาลิไทวา่ “บ้างเต้น บ้างราํ บ้างฟอน ระบําบันลือ” “องคตส จะโน้มเอยี งไปทางศิลปะการรา่ ยราํ แบบเขมรหรอื แสดงใหเ้ หน็ รูปแบบของนาฏศิลปทีปรากฏในสมัยนี คือ เต้น ราํ ฟอน เมือนําม ขอม เพราะตามหลักฐานทางโบราณคดีนันพบวา่ นข้างชา้ จะเหน็ ว ศิลปะสมัยศรสี ัชนาลัยเปนศิลปะทีนิยมแบบเขมร และระบํา และยงั พบหลักฐาน การละครทีปรากฏอยูใ่ นศิลาจารกึ จึงเข้าใ ของพ่อขุนรามคําแหง ระบําเทววารศี รเี มืองบางขลัง อา้ งองิ ลักษณะท่าราํ ได้จินตนาการมาจากเหล่าอปั สรเทวดานางฟาทัง การแสดงละครทีสันนิษฐานวา่ มีในสมัยสุโข 1. รกั ษ์ศิลปไทย [ออนไลน์]. 2016, แหล่งทีมา ทัยคือ มโนราห์ และละครแก้บน ๗ วนั (จึงใชผ้ ูแ้ สดง ๗ คน) องิ แอบกับความสําคัญของลํานา [21 พฤษจิกาย แนวคิดของท่าราํ เน้นถึงสิงศักดิสิทธทิ ีมีบทบาทต่อความรูส้ ึกนึก 2. ละครชาตร[ี ออนไลน์].2556, แหล่งทีมา: คิดในโลกของความจรงิ ทีต้องการใหเ้ ทวดานางฟามา [21 พฤษ ปกปอง คุ้มครองสิงอนั เปนทีบูชา 2564] มโนราห์ ละครแก้บน เปนชอื ศิลปะการแสดงพืนเมืองอยา่ งหนึงของภาคใ เปนสือกลางในเรอื งการชว่ ยเหลือและการตอบแทนระหวา่ ง ต้ การราํ โนราจะราํ ใหเ้ สมือนกับท่ารา่ ยราํ ของเทวดา ผูบ้ นกับองค์หลวงพอ่ พุทธโสธร อา้ งองิ และเปนสือสะท้อนใหเ้ หน็ ถึงความเชอื แบบไทยๆ คือเรอื งบุญคุณ ความกตัญ ู 1.ผู้ชว่ ยศาสตราจารยอ์ รวรรณ ขมวฒั นา,นาวาอากาศตรหี ญิงวรี ส์ ุดา บุนนาค นาฏศิลป [ออนไลน์]. 2008, แหล่งทีมา : [ 24 พฤศจิกายน 2564] 2.ธญั ญ์พัฒน์ ขานสันเทียะ,นางสาวจารุวรรณ มนตรี และนางสาวณัฐฐินันท์ วงค์ชาชม ววิ ฒั นาการนาฏศิลปไทย [ออนไลน์]. ม ป ป , แหล่งทีมา : [ 24 พฤศจิกายน 2564] 3.ละครแก้บน [ออนไลน์]. ม ป ป , แหล่งทีมา : [ 24 พฤศจิกายน 2564] 4.อาภัสรา ศรจี ันทร,์ วริ ตี บัวผิว การแสดงแหง่ สุโขทัย [ออนไลน์]. ม ป ป , แหล่งทีมา : [ 24 พฤศจิกายน 2564]
. (2021). นาฏศิลป ชนั มธั ยมศึกษาปที 4, สบื ค้นเมอื 24 พฤศจกิ ายน 2564. จาก http://academic.obec.go.th บุญรตั น์ แจม่ กระจา่ ง (2021). บุคอคา้ งลอสงิ าํ คัญและววิ ฒั นาการของนาฏศิลปและการละครไทย, สบื ค้นเมอื 24 พฤศจกิ ายน 2564. จาก https://sites.google.com/site/natasintk/course-outline ดยใชต้ ํารวจแสดงเปนฝายอสูร 100 คน บุคคลสําคัญในวงการนาฏศิลปสมัยธนบุรี ประวตั ิ ครูอมิ อเิ หนา หารมหาดเล็กเปนฝายเทพยดา 100 คน ได้แก่ ครูอมิ อเิ หนา ท้าววรจันทร์ (เจ้าจอมมารดาอมิ ) หรอื เปนพาลี สุครพี ซึงต่อมาได้เปนครูละครหลวง อมิ อเิ หนา มหาชมพูและบรวิ ารวานรอกี 103 คน และได้เปนเจ้าจอมในรชั กาลที ๑ เปนพระสนมในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอ การแสดงชกั นาคดึกดําบรรพ์ แหง่ กรุงรตั นโกสินทร์ ดฟาจุฬาโลกมหาราช ฝายอสูรชกั ส่วนหวั นับวา่ เปนผู้สืบทอดศิลปะการฟอนราํ การละครจากสมัยธนบุรถี ึงสมัยรตั นโกสินท เปนธดิ าเจ้าพระยารตั นาธเิ บศร์ (กุน รตั นกุล) ฝายเทพยดาชกั ส่วนหาง สมุหนายกในรชั กาลที 2 และบรวิ ารอยูส่ ่วนปลายหาง ร์ รวมผูเ้ ล่นโขนประมาณ 300 กวา่ คน เดิมเปนครูละครหลวงสมัยกรุงธนบุรี แล้วได้เปน ครูละครหลวงรุน่ ใหญ่ในรชั กาลที 1 เมือประมาณ แต่ไม่กล่าวถึงชอื ผู้แสดง พ ศ 2333 ได้รบั ราชการเปนเจ้าจอมในรชั กาลที 1 คคลสําคัญในวงการนาฏศิลปสมัยอยุธยา มีพระราชธดิ า 1 พระองค์ ได้แก่ ตํารวจ ทหารมหาดเล็ก พระราชธดิ า คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ แสดงโขนกลางสนามปรากฏอยูใ่ นตํารา พระองค์เจ้าจักรจัน พระราชพิธอี นิ ทราภิเษก สมัยอยุธยา สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระองค์ทรงพระราชนิพนธบ์ ทละครเรอื งรา 1.ตอนหนมุ านเกียวนางวานริ ทัย มเกียรติขึนอกี 5 ตอน น ในสมัยนีเปนชว่ งต่อเนืองจากสงครามในสมัยอ และมีคณะละครหลวง สมัยธนบุรี ยุธยา ทําใหศ้ ิลปนกระจายไปในทีต่าง ๆ 2.ตอนท้าวมาลีวราชวา่ ความ คณะละครเอกชนเกิดขึนหลายโรง เชน่ เมือพระเจ้ากรุงธนบุรไี ด้ปราบดาภิเษกกรุงธนบุ ละครหลวงวชิ ติ ณรงค์ รี ละครไทยหมืนเสนาะภูบาล จึงมีการฟนฟูละครใหม่และรวบรวมศิลปนต่าง ๆ ใหม้ าอยูร่ วมกัน รามเกียรติ 5 ตอน มีดังนี ศิลปนทรงคุณค่าของนาฏศิลปแล ๑ หนมุ านเข้าหอ้ งนางวานรนิ ะการละครไทย ๒ ท้าวมาลีวราชวา่ ความ ๓ ทศกัณฑ์ตังพิธเี ผารูปเทวดา ม เลขที 24 และ นางสาวพิชญากร บุญฤทธิ เลขที 28 ๔ พระลักษณ์ถูกหอกกบลิ พัท และปล่อยม้าอุปการ คุณค่าของนาฏศิลปและการละครไทย และเปนพิธกี ร ๕ ปล่อยม้าอุปการ ววิ ฒั นาการของนาฏศิลปและการละครไทย สมัยธนบุรพี ศ 2310-พ ศ 2325 สมัยนีเปนชว่ งต่อเนืองหลังจากทีกรุงศรอี ยุธยาเสียแก่พม่าทําให้ ทรงพระราชนิพนธบ์ ทละคร เรอื ง 3.ตอนทศกันฐ์ตังพธิ ที รายกร น่านเจ้า สุโขทัย ธนบุรี กรุงศรอี ยุธยา เหล่าศิลปนได้กระจัดกระจายไปในทีต่างๆ เพราะผลจากสงคราม รามเกียรติ ด กลุ่ม นาฏศิลปไทยในอดีตกาล นางสาวพิมพ์พิชชา มณีอนิ ทร์ เลขที 31 รบั ผดิ ชอบ สมัยธนบุรี ครนั พระเจ้ากรุงธนบุรไี ด้ปราบดาภิเษกในปพ ศ 2311 อกี 5 ตอนได้แก่ 4.ตอนพระลักษมณ์ถูกหอกกบลิ พทั พระองค์ทรงส่งเสรมิ ฟนฟูการละครขนึ ใหม่ มีคณะละครหลวง และเอกชนเกิดขึนหลายโรง 5.ตอนปล่อยม้าอุปการ และรวบรวมศิลปนตลอดทังบทละครเก่าๆทีกระจัดกระจายไปใหเ้ ขา้ เชน่ ละครหลวงวชิ ติ ณรงค์ มาอยูร่ วมกัน ทังนีพระองค์ ละครไทยหมืนเสนาะภูบาล หมืนโวหารภิรมย์ ได้ทรงพระราชนิพนธบ์ ทละครเรอื งรามเกียรติขนึ อกี 5 ตอน นอกจากละครไทยแล้วยงั มี การเเสดงครงั สําคัญ ละครเขมรของหลวงพิพิธวาทีอกี ด้วย สมัยธนบุรี นาฏศิลปและการละเล่นสมัยกรุงธนบุรี มีการเล่นประชนั กันหลายคณะหลายโรงทังของหลวง เท่าทีปรากฏหลักฐานในจดหมายเหตุ จากบนั ทึกความของกรมหลวงนรนิ ทรเทวี ของเจ้านคร และของเอกชน สมโภชพระแก้วมรกต พ ศ 2323 ทําใหร้ ูว้ า่ มีการฝกซ้อมใหฝ้ กหดั ละครผูห้ ญิงเ มีมหรสพนานาชนิดเล่นเรยี งรายกัน โขน ปนเครอื งประดับในสมัยธนบุรี รวมหลายสิบโรงด้วยกัน นางสาวกรกฎ ดวงใหญ่ เลขที 23 ตัวอยา่ งของเทวรูปศิวะปางนาฏราช คณะละครหลวงเเละเอกชน รบั ผิดชอบ : สมัยกรุงศรอี ยุธยา ทีสรา้ งเปนท่าการรา่ ยราํ ของ พระอศิ วร ซึงมีทังหมด 108 ท่า ก็คือเมือคราวงานต้อนรบั และ สมัยอยุธยายงั มีความสัมพันธก์ ับประเทศอนิ เดียจาก หรอื 108 กรณะ โดยทรงฟอนราํ ครงั แรก ณ เมืองมัทราส สมโภชพระแก้วมรกตนับเปนงานสนกุ สนานมโหฬารที หลักฐานทีพบวา่ มีการแต่งบทละครรามเกียรติสําหรบั สมัยกรุงศรอี ยุธยา อนิ เดียใต้ ปจจุบันอยูใ่ นรฐั ทมิฬนาดู สุดของคนไทยในครงั นัน เล่นโขนไวส้ มัยกรุงศรอี ยุธยา ดังนี นับเปนคัมภีรส์ ําหรบั การฟอนราํ แต่งโดยพระภรตมุนี เรยี กวา่ นับตังแต่เสียกรุงศรอี ยุธยามาได้ 12 ปเต็มพอดี คัมภีรภ์ รตนาฏยศาสตร์ สมโภชพระเเก้วมรกต ถือเปนอทิ ธพิ ลสําคัญต่อแบบแผนการสืบสาน หุน่ ละคร 1. รามเกียรติคําฉันท์ : ละครไทยเรมิ จัดระเบยี บแบบแผนใหร้ ดั กุมยงิ ขนึ อยา่ งไรก็ตาม อา้ งองิ ละครหลวงวชิ ติ ณรงค์ มีกล่าวไวใ้ นหนังสือจินดามณีของพระโหราธบิ ดี เข้าใจวา่ มีการตังชอื ละครทีเคยเล่นกันอยูใ่ หเ้ ปนไปตาม บรรดาผู้เชยี วชาญทีศึกษาทางด้านนาฏศิลปไทยได้สันนิษฐานวา่ ละครไทยหมืนเสนาะภูบาล พระโหราธบิ ดีคงจะหยบิ ยกมาจากคําพากยข์ องเก่าทีแต่งไวส้ ําหรั ตามประวตั ิการสรา้ งเทวาลัยศิวะนาฎราชทีสรา้ งขึนในป พ ศ 1800 ภิสชา มะลิวลั ย์ ๒๕๖๒ ววิ ฒั นาการละครไทย บเล่นโขนหรอื เล่นหนัง หลักวชิ านาฏศิลปขึน (ออนไลน์).เเหล่งทีมา: หมืนโวหารภิรมย์ มีการแสดงเกิดขึนในสมัยนีหลายอยา่ ง ซึงเปนระยะทีไทยเรมิ ก่อตังกรุงสุโขทัย ลปากร การแสดงบางอยา่ งก็รบั วฒั นธรรมเพอื นบา้ น ดังนันราํ ไทยทีดัดแปลงมาจากอนิ เดียในครงั แรกจึงเปนความคิดของนักปราช พฤศจิกายน ๒๕๖๔ อกันไปตังแต่ภาค พรมรนิ ทร์ ทุยหล่อน ๒๕๖๔ บุคคลสําคัญในสมัยกรุงธนบุรี (ออนไลน์). กรรณล้ม” และวฒั นธรรมต่างชาติเข้ามาผสม ญใ์ นสมัยกรุงศรอี ยุธยา และมีการแก้ไข ปรบั ปรุงมาจนถึงปจจุบัน เเหล่งทีมา: บทละครหลักในสมัยอยุธยามี 4 เรอื ง คือ อเิ หนา พฤศจิกายน ๒๕๖๔ รามเกียรติ อุณรุท ดาหลัง ภณ ณ นคร ๒๕๖๐ เชอื วงศ์ธนบุรี ผู้ภักดีแหง่ กรุงสยาม ยรติบทละครครงั กรุงเก่า : กล่าวความตังแต่ตอน “พระรามประชุมพล” จนถึง ละครนอก ละครใน ตํานานเจ้าเมืองนครศรธี รรมราชสมัยรตั นโกสินทร์ สือสาร” บทละครนีไม่เคยตีพมิ พ์ออกเผยแพร่ มาเปรยี บเทียบกับรามเกียรติบทละครในรชั กาลที 1 อเิ หนา (ออนไลน์).เเหล่งทีมา: วา่ มีเนือความไม่ตรงกันในบางตอน และถ้อยคําในบทละครก็ดูไม่เหมาะสม พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ใจวา่ น่าจะเปนบทละครรามเกียรติฉบับเชลยศักดิทีถูกคัดลอกไว้ ธนิต อยูโ่ พธิ ๒๕๓๑ ศิลปละครราํ หรอื คู่มือนาฏศิลปะไทย (ออนไลน์). รามเกียรติ อุณรุท ดาหลัง เเหล่งทีมา: พฤศจิกายน ๒๕๖๔ า: สมัยนีมีการแสดงมากมาย เชน่ ละครชาตรี ละครนอก ละครใน ละครนอก : มีมาตังแต่ครงั กรุงศรอี ยุธยา ยน 2564] โขน เปนละครทีแสดงกันนอกราชธานี แต่เดิมคงตัวละครเพียง ๓-๔ ตัว ษจิกายน นาฏศิลปไทยได้รบั อทิ ธพิ ลแบบแผนตามแนวคิดจากวฒั นธรรมอนิ เ ต่อมามีการแสดงละครกันอยา่ งแพรห่ ลายทัวไปในหมู่ราษฎร ดียเกียวกับในเรอื งของเทพเจ้า และตํานานการฟอนราํ ผู้แสดงยงั คงเปนชายล้วน ก่อนทีจะนํามาปรบั ปรุงใหเ้ ปนรูปแบบตามเอกลักษณ์ของไทย แต่มีการเปลียนแปลงใหป้ ระณีตงามขึนในสมัยกรุงศรอี ยุธยา นิยมเล่นกันหลายเรอื ง เชน่ คาวี ไชยทัต พิกุลทอง สังข์ทอง ละครใน : มีหลายชอื เชน่ ละครใน ละครข้างใน ละครนางใน และละครในพระราชฐาน เปนต้น สันนิษฐานวา่ มีมาตังแต่สมัยอยุธยา และรุง่ เรอื งมากทีสุดในสมัยพระเจ้าอยูห่ วั บรมโกศ แต่หลังสมัยรชั กาลที ๖ มิได้มีละครในในเมืองหลวงอกี เนืองจากมีละครสมัยใหม่เข้ามามาก
คำถำมกล่มุ นำฏศิลป์ ไทยในอดตี กำล เร่ืองววิ ฒั นำกำรของนำฏศิลป์ และกำรละครไทย น่ำนเจ้ำ สุโขทยั ธนบุรี กรุงศรีอยุธยำ ผ้รู ับผดิ ชอบ : นางสาวปัญญดา ปิ ติ เลขที่ 27 ผู้รับผดิ ชอบ : นางสาวพิชญากร บุญฤทธ์ิ เลขท่ี 28 คำถำม : 1.เร่ืองกินรีมโนราห์ไดค้ วามคิดมาจากเรื่องใด คำถำม : 5.บุคคลสาคญั ของวงการนาฏศิลป์ และการละครไทยในสมยั อยธุ ยาคือใคร ก. รามเกียรต์ิ ข. พระสุธนชาดก ก. ขา้ ราชการ ขนุ นาง ค. ดาหลงั ข. เจา้ พระยาธรรมศกั ด์ิมนตรี ง. โขน ค. ตารวจ ทหารมหาดเลก็ ผู้รับผดิ ชอบ : นางสาวอสั รียา ยามาเจริญ เลขที่ 32 ง. ครูสอนนาฏศิลป์ ในวงั คำถำม : 2.การแสดงประเภทระบา รา ฟ้อน ในสมยั สุโขทยั น้นั มีวิวฒั นาการมาจากส่ิงใด ผ้รู ับผดิ ชอบ : นางสาวณฐั ณิชา เปี ยฉิม เลขที่ 24 ก. โขน คำถำม : 6.หลงั จากสมเด็จพระเจา้ กรุงธนบุรีปราบดาภิเษกกรุง ธนบุรีข้ึนไดพ้ ระราชนิพนธ์บทละครเร่ืองใดเพิ่มข้ึนอีก ข. ละครนอก ละครใน ก. อิเหนา ค. การละเลน่ ของชาวบา้ น ข. ดาหลงั ค. อณุ รุท ง. ละครไทย ง. รามเกียรต์ิ ผ้รู ับผดิ ชอบ : นางสาวพมิ พพ์ ิชชา มณีอินทร์ เลขที่ 31 เฉลย คำถำม : 3.พระเจา้ กรุงธนบุรีทรงพระราชนิพนธ์บทละคร เร่ืองใดเพ่มิ เติมจากเดิม เพิม่ ท้งั หมดก่ีตอน 123456 ขคขคคง ก. เร่ืองอิเหนา 3 ตอน ข. เร่ืองรามเกียรต์ิ 5 ตอน ค. เรื่องอุณรุท 4 ตอน ง. เร่ืองรามเกียรต์ิ 3 ตอน ผ้รู ับผดิ ชอบ : นางสาวกรกฎ ดวงใหญ่ เลขที่ 23 คำถำม : 4.รามเกียรต์ิเป็นหลกั ฐานของความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งไทยกบั ประเทศใดและแบ่งออกไดก้ ี่ประเภท ก. เขมร แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ข. อินเดีย แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ค. อินเดีย แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ง. เขมร แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
“ตง้ั ในอา่ นหนงั สอื นะคะเดก็ ๆ เกรดส่ีอย่ไู มไ่ กลแลว้ ครูเปน็ กาลังใจให้นะคะ” วชิ าศลิ ปะ 2 ศ31102 นาฏศลิ ปแ์ ละการละคร ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ครูโชติกา หนสู วสั ดิ์
หวั หน้ากลุ่ม เลขที18 เ นางสาวฐิติรตั น์ ไชยศรี (เบล) E-mail : [email protected] G เบอรโ์ ทรศัพท์ : 095-4415719 ก Facebook : ฐิติรตั น์ ไชยศรี Line : BelleThitirat49 สมาชกิ ในกลุ่ม นางสาวกณิกนันต์ รตั นทวเี ขต (ใบเตย) E-mail : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0987213396 Facebook : Kaniknan Rattanathawikhet Line : kaniknan
เลขที19 รองหวั หน้ากลุ่ม นางสาวธนั ยพร ขุนดํา (นัทมี) E-mail : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0615499407 Facebook : Thanyaphon Khundam Line : .nutmee. GROUP WORK เลขที30 เลขานกุ าร กลุ่ม : สีพระหตั ถ์ นางสาวสิรยากร จันทฤทธิ (แบม) E-mail : [email protected] เบอรโื ทรศัพท์ : 0980583454 Facebook : สิรยากร จันทฤทธิ Line : bamsirayakon เลขที21
3.นางเฉลย ศุขะวณิช ผลงานด้านการประดิษฐ์ท่าราํ : เชน่ ราํ แม่บทสลับคํา ราํ พดั รตั นโกสินทร์ ชุดศุภลักษณ์อุม้ สม เปนต้น 4.นายกรี วรศะรนิ ศิลปนผู้ทรงคุณค่า มีความสามารถรอบรูก้ ระบวนการงานนาฏศิลป 1.ครูลมุล ยมะคุปต์ ผลงานด้านการแสดง : และการแสดงโขนทุกประเภท ท่านแสดงเปนตัวเอกเกือบทุกเรอื ง เพราะมีฝมือเปนเยยี ม บทบาททีท่าน เคยแสดง เปนหลักและแม่แบบโดยเฉพาะโขนตัวลิง เชน่ พระสังข์ เขยเล็ก เจ้าเงาะ ฮเนา เปนต้น ทังยงั สรา้ งสรรค์และประดิษฐ์ผลงานด้านการแส ดงโขน - ละครหลายชุด รชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอด 2.ท่านผู้หญงิ แผว้ สนิทวงศ์เสนี พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูม ฟาจุฬาโลก (รชั กาลที1) ผลงาน : ยเดชมหาราช(รชั กาลที9) สมัยนีได้ฟนฟูและรวบรวม ผลงานเกียวกับการแสดงศิลปะนาฏกรรม เชน่ ในสมัยนีพระองค์โปรดเกล้าฯ สิงทีสูญหายใหม้ ีความสมบูรณ์มากขึน ใหบ้ นั ทึกภาพยนตรส์ ีส่วนพระอ และรวบรวม ตําราการฟอนราํ ท่าราํ ของตัวพระ นาง ยกั ษ์ ลิง และตัวประกอบ บันทึกท่าราํ เพลงหน้าพาทยอ์ งค์พระ ท่าราํ เพลงหน้าพาทยข์ องพระ นาง ย ไวเ้ ปนหลักฐานทีสําคัญทีสุดในประวตั ื การแสดงโขน ละครชาตรี ละครนอก ละครใน และโปรดเกล้าฯ ใหจ้ ัดพธิ ไี หวค้ ศาสตร์ พระองค์ทรงพัฒนาโขน อกี ทังยงั มีการปลูกฝงจิตสํานึกในการ ละครพันทาง และระบาํ ฟอนต่างๆ เปนต้น โดยใหผ้ ูแ้ สดงเปดหน้าและสวมมงกุฎ นรุ กั ษ์ สืบสาน สืบทอด หรอื ชฏา และพฒั นาศิลปะการแสดงของชาติผ ทรงพระราชนิพนธบ์ ทละครเรอื งรามเ รยี นการสอนในระดับการศึกษาทุก กียรติ ตอนนารายณ์ปราบนนทก มีสถาบนั ทีเปดสอนวชิ าการละครเพิม ทังของรฐั และเอกชน มีรูปแบบในการแสดงละครไทยทีหลา หเ้ ลือกชม เชน่ ละครเวที ละครพูด ล เจ้าฟากรมหลวงพิทักษ์มนตรี ศิลปนผู้ทรงคุณค่า นายบุญยงั 5.นางสุวรรณี ชลานเุ คราะห์ ละครราํ เปนต้น มีความชาํ นาญในการชา่ งและศิล เปนนายโรงละครนอกครงั รชั กาลที ๑ นายทองอยู่ ต่อมาเล่นละครจนสรา้ งวดั ได้วดั ๑ เรยี กชอื วา่ เคยแสดงเปนตัวเอกในละครแบบต่างๆ นา ปะหลายสาขา เปนตัวอเิ หนาละครเจ้าฟากรมหลวงเทพหรริ ั ใหก้ รมศิลปากรมาแล้วมากมาย “ตัวพระ” เชน่ งานฝพระหตั ถ์อยา่ งหนึงทีทรงได้ วดั ละครทํา อยูข่ ้างหลังบ้านขมิน กษ์ จังหวดั ธนบุรี อเิ หนา สังขท์ อง พระไวย ไกรทอง สัตยวาน รบั ความยกยอ่ งอยา่ งมาก ต่อมาได้เปนทีปรกึ ษาและเปนผู้นําแบบอยา่ ง บางครงั ก็แสดงเปน “นางเอก” เชน่ ละเวงวลั ลา นายบุญยงั ได้เปนครูฝกหดั ละครนอกทีเล่นกัน วธิ รี าํ ของเจ้าฟากรมหลวงพิทักษมนตรี ชนั หลังต่อมา เปนต้น อา้ งองิ รชั สมัยสมเดจ็ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รชั กาลที2) ววิ ฒั นาการของการละครไทยตังแต่อดีตถึงปจจุบัน [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก สมัยนีวรรณคดี และละครเจรญิ ถึงขดี สุด : พระองค์ทรงเปลียนแปลงการแต่งกาย (วนั ทีค้นข้อมูล : 26 ใหเ้ ปนการแต่งยนื เครอื ง แบบในละครใน พฤศจิกายน 2564) ทรงพระราชนิพนธบ์ ทละครเรอื งอเิ หนา หนังสือรายวชิ าพืนฐานนาฏศิลปไทย ม4[ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก ซึงเปนละครทีได้รบั การยกยอ่ งจาก วรรณคดีสโมสร วา่ เปนยอดของบทละครราํ คือแสดงได้ครบองค์ 5 : (วนั ทีค้นข้อมูล : 26 พฤศจิกายน คือ ตัวละครงาม ราํ งาม รอ้ งเพราะ 2564) พิณพาทยเ์ พราะ และกลอนเพราะ เมือป นางสาวสิรยากร จันทฤทธิ ม 4/9 เลขที 30 หวั ข้อร 1-ร 3 พ ศ 2511 ยูเนสโก ได้ถวายพระเกียรติคุณแด่พระองค์ ใหใ้ นฐานะบุคคลสําคัญ ทีมีผลงานดีเด่นทางวฒั นธรรม ระดับโลก ววิ ฒั นาการของนาฏศิล ะครไทย รตั นโกสินท เจ้าจอมมารดาแยม้ ศิลปนผู้ทรงคุณค่า นายภู่ เปนนางละครผู้มีชอื ในรชั กาลที 2 เปนกวที ีมีความชาํ นาญทางด้านกลอน ด้วยความทีเธอเปนนางละครผู้มีชอื เ ได้สรา้ งขนบการประพันธก์ ลอนนิทานแ ละกลอนนิราศขึนใหม่จนกลายเปนทีนิย สียง หลังรชั กาลที 2 สวรรคต มอยา่ งกวา้ งขวางสืบเนืองมาจนกระทัง จึงหวนมาเปนครูละครและถ่ายทอด วชิ าแก่ศิษยจ์ นเปนนางละครทีมีชอื เ ถึงปจจุบัน สียง พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย นางสาวธนั ยพร ขุนดํา ม 4/9 เล ทรงเปนยอดกวดี ้านการแต่งบทละครทังละครในและล หวั ขอ้ ร 4 และร 5 ะครนอก มีหลายเรอื งทีมีอยูเ่ ดิมและทรงนํามาแต่งใหม่เพือใหใ้ ช้ ในการแสดงได้ เชน่ รามเกียรติ อุณรุท และอเิ หนา รชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้า อยูห่ วั (รชั กาลที4) โปรดใหม้ ีละครราํ ผูห้ ญิงในราชสํานักตามเดิ มและในเอกชนมีการแสดงละครผูห้ ญิงแล ะผู้ชาย ในสมัยนีมีบรมครูทางนาฏศิลป ได้ชาํ ระพิธโี ขนละคร ทูลเกล้าถวายตราไวเ้ ปนฉบับหลวง และมีการดัดแปลงการาํ เบิกโรงชุดประเรงิ มาเปน ราํ ดอกไม้เงนิ ทอง รชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระนังเกล้าเจ้าอยูห่ วั ศิลปนผู้ทรงคุณค่า (รชั กาลที3) กรมหมืนมเหศวรศิววลิ าส มีคณะละครโรงใหญ่ เจ้าจอมมารดาวาด แสดงเปนอเิ หนา ในสมัยนีทรงใหม้ ีการยกเลิกละครหลวง จึงทําให้ เปนนางละครและพระสนมเอกในพระ การแสดงนาฏศิลปไทยมีมากขึนในประชาชนทัวไ บาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั ป ทําใหเ้ กิดการแสดง ของเอกชนขนึ มากมายอกี ทังก่อใหเ้ กิดศิลปนทีมี ความสามารถและ เปนผูส้ ืบทอดการแสดงใหเ้ ปนแบบแผนต่อมา คณะละครของเจ้าจอมมารดาจันทร์ ทําการฝกซ้อม และจัดแสดงจนเปนทีรูจ้ ัก ต่อมาได้เปนครูหดั ละครใหโ้ รงละครอื นๆ นายเกษ เปนตัวพระราม โขนข้าหลวงเดิมในพระบาทสมเด็จฯ ศิลปนผู้ทรงคุณค่า กรมหลวงรกั ษ์รณเรศ พระนังเกล้าเจ้าอยูห่ วั ได้เปนครูละครพระองค์เจ้าลักขณานคุ ุณ ทรงมีคณะละครผู้ชายจัด ในรชั กาลที ๓ แล้วเปนครูครอบโขนละครต่อมาในรชั กาลที ๔ แสดงเรอื งอเิ หนา พระองค์เจ้าทินกร มีผลงานในการเขียนบทละครไวห้ ลายเรอื ง เชน่ อา้ งองิ เรอื งแก้วหน้าม้า สุวรรณหงษ์ นอกจากนันยงั ทรงเปนนักเพลงยาว โรงเรยี นกัลยาณวตั ร จังหวดั ขอนแก่น ววิ ฒั นาการข และสักวาชนั เยยี ม และการละครไทย รตั นโกสินทร์ ร 1-ร 9. [ออนไลน์]. (วนั ทีค้นขอ้ มูล : 25 พฤศจิกายน 2564). กลุ่มสาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ โรงเรยี นธรรมศาสตรค์ ลอง บุคคลสําคัญในวงการนาฏศิลปไทย ร 1-ร 9. [ออนไลน (วนั ทีค้นข้อมูล : 2
มิพลอดุล พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอา ศิลปนผู้ทรงคุณค่า 1.คณะโขนละครของพระองค์เจ้าวชั รวี งศ์(เจ้าขาว) นันทมหดิ ล(รชั กาลที8) ฯ 2.คณะละครโขนของครูหมัน คงประภัศร์ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวชั รวี งศ์ทรงเปนเจ้าของ องค์ ในสมัยนีการแสดงนาฎศิลป โขน ซึงครูหมัน คงประภัศร์ มีผลงานทีน่าชนื ชม คือ คณะเจ้าขาวใชช้ อื คณะตามพระนามเดิมวา่ “ ะพิราพ ละคร หม่อมเจ้าขาว” ยกั ษ์ ลิง สามารถเล่นละครได้ทุกบทบาทตัวละคร ครู จัดอยูใ่ นการกํากับดูแลของกรมศิลปา เคยแสดงละครชาตรมี าแล้วเกือบทุกเรอื ง ได้จัดการแสดงโขนและละครราํ ทังละครในละครน รรว่ มกันอ กร หลวงวจิ ิตรวาทการ เคยแสดงโขน อก และละครพันทาง ผ่านการเ อธบิ ดีคนแรกของกรมศิลปากรได้ฟนฟู โดยเล่นเปนตัวละครทีเปนผู้ชายทีสามารถเล่นได้ กระดับ เปลียนแปลงการแสดงโขน มีชอื เสียงมากคณะหนึงในรชั สมัยของพระบาทสมเ มมากขึน ละครในรูปแบบใหม่ เคยเดินทางไปแสดงละคร ณ ประเทศญปี ุน ในนามของรฐั บาลไทย ประสบความสําเรจ็ ด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั ากหลายใ โดยจัดตังโรงเรยี นนาฏดุรยิ างคศาสตร์ ละครรอ้ ง ขึน สรา้ งชอื เสียงใหป้ ระเทศมาแล้ว เพอื ใหก้ ารศึกษาทังด้านศิลปะและสามั ญ และเพือยกระดับศิลปนใหท้ ัดเทียมกับ นานาประเทศ ในสมัยนีได้เกิดละครรูปแบบใหม่ ทีเรยี กวา่ ละครหลวงวจิ ิตรวาทการ เปนละครทีมีแนวคิดปลุกใจใหร้ กั ชาติ บางเรอื งเปนละครพูด เชน่ เรอื งราชมนู เรอื งศึกถลาง เรอื งพระเจ้ากรุงธนบุรี เปนต้น างสาวกณิกนันต์ รตั นทวเี ขต ม 4/9 เลขที21 หวั ข้อร 8-ร 9 + แชรห์ น้าจอ อา้ งองิ . พระบาทสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอยูห่ วั นาฏศิลปไทย ม 6. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : (รชั กาลที7) (วนั ทีค้นข้อมูล : 26 พฤศจิกายน 2564). สมัยนีประสบภาวะเศรษฐกิจตกตา การเมืองเกิดการคับขัน อาทิมา พรหมพงษ์ บุคคลสําคัญในวงการนาฏศิลปไทย [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : จึงได้มีการปรบั ปรุงระบบบรหิ าร ราชการกระทรวงวงั ครงั ใหญ่ . (วนั ทีค้นข้อมูล : 26 พฤศจิกายน 2564). ใหโ้ อนงานชา่ งกองวงั นอก ลปและการล นางสาวฐิติรตั น์ ไชยศรี และกองมหรสพไปอยูใ่ นสังกัดของกรม ทร์ ร 1-ร 9 ม4/9 เลขที18 หวั ข้อร6-ร7 ศิลปากร และการชา่ งจึงยา้ ยมาอยูใ่ นสังกัดของก รมศิลปากร ตังแต่เดือนกรกฎาคม พ ศ 2478 โขนกรมมหรสพ กระทรวงวงั จึงกลายเปน โขนกรมศิลปากร มาแต่ครงั นัน ในสมัยนีมีละครแนวใหม่เกิดขึน ทีเรยี กวา่ ละครเพลง หรอื ทีรูจ้ ักกันวา่ ละครจันทโรภาส ศิลปนผู้ทรงคุณค่า คุณหญิงเทศ นัฏกานรุ กั ษ์ แสดงโขนรบั บทเปนรามสูรแสดงละครดึ ลขที 19 กดําบรรพ์รบั บทเปน เจ้าเงาะ ระตูจรกา เปนต้น และเปนครูสอนโขน – ละครหลวงในกรมมหรสพ ในปพ ศ ๒๔๗๗ เข้ารบั ราชการกรมศิลปากร ในโรงเรยี นนาฏดุรยิ างคศาสตร์ พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั (รชั กาลที ครูอาคม สายาคม ครูรงภักดี (เจียร จารุจรณ) 6) พาทยแ์ ละโขนหลวง กระทรวงวงั ศิลปนในกรมมหรสพเข้ารบั รา ผลงานด้านการประดิษฐ์ท่าราํ ได้แก่ ในสมัยนีเปนสมัยทีโขน ละคร ดนตรี ชการเปนตํารวจหลวง ปพาทยเ์ จรญิ ถึงขีดสุด เพลงหน้าพาทยต์ ระนาฏราช รอ้ ยเอกและมีหน้าทีเปนครูสอ เพลงหน้าพาทยโ์ ปรยข้าวตอก พระองค์ทรงเปนราชาแหง่ ศิลปน เพลงเชดิ จีน ลีลาประกอบท่า นโขน ฝายยกั ษ์ แม้วา่ จะมีประสมการณ์ด้านละครพูดแบบตะวนั ตก รชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเก แต่ก็ทรงมีพระราชปณิธานอนั แรงกล้า ทีจะทรงไวซ้ ึง ล้าเจ้าอยูห่ วั (รชั กาลที5) “ความเปนไทย “ และดนตรปี พาทย์ ในสมัยนีมีทังอนรุ กั ษ์และพัฒนานาฏศิ ทังยงั ทรงพระราชทานบรรดาศักดิใหแ้ ก่ศิลปนโขนที ลปไทยเพือความทันสมัย เชน่ มีฝมือใหเ้ ปนขุนนาง เชน่ พระยานัฏกานรุ กั ษ์ มีการพัฒนาละครในละครดึกดําบรรพ์ พัฒนาละครราํ ทีมีอยูเ่ ดิมมาเปนละครพั พระยาพรหมาภิบาล เปนต้น นทางและละครเสภา พระยาพรหมาภิบาล (ทองใบ ศิลปนผูท้ รงคุณค่า พระยานัฏกานรุ กั ษ์ (ทองดี สุวรรณภารต) อา้ งองิ และได้กําหนดนาฎศิลปเปนบทระบําแท สุวรรณภารต)ศิลปนในกรมมหรสพเปนผู้แส ครูและผูบ้ รหิ ารการมหรสพไทย พลเอก เจ้าพระยารามราฆพ ววิ ฒั นาการของการละครไทยตังแต่อดีตถึงปจจุบัน [ออนไลน์]. รกอยูใ่ นละครเรอื งต่างๆ เชน่ ดงท่าราํ ทศกัณฐ์และเปนครูโขนยกั ษ์ เปนนักแสดงบทตัวเอก เชน่ เข้าถึงได้จาก : ราํ บําเทวดา- นางฟา พระราม พระลักษณ์ ฯ (วนั ทีค้นข้อมูล : 26 พฤศจิกายน 2564) ในเรอื งกรุงพาณชมทวปี ในบทละครพระราชนิพนธแ์ ท ราํ บําตอนนางบุษบากับนางกํานันชมสา บุคคลสําคัญของวงการนาฏศิลปไทย [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก บทุกเรอื ง : รในเรอื งอเิ หนา ระยาํ ไก่ เปนต้น (วนั ทีค้นข้อมูล : 26 พฤศจิกายน 2564) ศิลปนผู้ทรงคุณค่า คณะละครดึกดําบรรพข์ อง พระราชชายา เจ้าดารารศั มี เจ้าพระยาเทเวศรว์ งศ์ววิ ฒั น์ นาฏศิลปล้านนา สรา้ งเครอื งแต่งกาย และอุปกรณ์การแสดง ผู้มีบทบาทสําคัญต่อการรวมล้านนาเข้ากับส ยาม เจ้าพระยามหนิ ทรศักดิธาํ รง ผู้รเิ รมิ ละครพันทาง ซึงเรอื งทีนํามาแสดงมักเปนเรอื งแต่งจากพงศาวด ารชาติต่างๆ มีการแต่งกาย ท่าราํ สําเนียงเจรจา และทํานองเพลงตามชาตินัน ๆ ของนาฏศิลป เข้าถึงได้จาก : . งหลวงวทิ ยาคม น์]. เขา้ ถึงได้จาก : 25 พฤศจิกายน 2564).
คำถำม 1.ในสมยั พระบำทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหำอำนนั ทมหิดล(รัชกำลที่8) กำรแสดงนำฎศิลป์ โขน ละคร จดั อยใู่ นกำรกำกบั ดูแลของใคร? ก.นำยธนิต อยโู่ พธ์ิ ข.หลวงวจิ ิตรวำทกำร ค.ครูหมนั คงประภศั ร์ ง.พระองคเ์ จำ้ วชั รีวงศ(์ เจำ้ ขำว) 2.สมยั รัชกำลใดที่โขน ละคร ดนตรี ป่ี พำทย์ เจริญถึงขีดสุด? ก.รัชกำลที่1 ข.รัชกำลท่ี2 ค.รชั กำลท่ี3 ง.รัชกำลที่6 3.ละครพนั ทำงคืออะไร ใครเป็ นผรู้ ิเริ่ม? ก. ละครแบบหน่ึง ดำเนินเร่ืองรวดเร็ว มกี ำรตกแต่งฉำกทคี่ ลำ้ ยของจริง ไม่มบี ทบรรยำยฉำก ผูร้ ิเร่ิมเจำ้ พระยำมหินทรศกั ด์ิธำรง ข. ละครรำแบบหน่ึง ปรับปรุงใหด้ ีข้นึ จำกละครชำตรี ผรู้ ิเริ่มเจำ้ พระยำเทเวศร์วงศว์ วิ ฒั น์ ค. ละครแบบหน่ึง ปรับปรุงข้ึนจำกละครรำ เรื่องทน่ี ำมำแสดงมกั เป็นเรื่องแต่งจำกพงศำวดำรชำติตำ่ งๆ ผรู้ ิเร่ิมเจำ้ พระยำมหินทรศกั ด์ิธำรง ง. ละครรำแบบหน่ึง เดิมมเี ฉพำะของพระมหำกษตั ริย์ ผูร้ ิเร่ิมพระบำทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ำจุฬำโลก
4.ยอดบทละครรำแสดงครบองค์ 5 มีอะไรบำ้ ง? ก.ตวั ละครงำม, รำงำม, ร้องเพรำะ, กลอนเพรำะ, เคร่ืองแตง่ กำยงดงำม ข.ตวั ละครงำม, รำงำม, ร้องเพรำะ, พณิ พำทยเ์ พรำะ, กลอนเพรำะ ค.ตวั ละครงำม, รำงำม, ร้องเพรำะ, พิณพำทยเ์ พรำะ , ฉำกมคี วำมสอดคลอ้ งกบั กำรแสดง ง.รำงำม, ร้องเพรำะ, พณิ พำทยเ์ พรำะ, กลอนเพรำะ, ดนตรีไพเรำะ เฉลย 1.ข 2.ง 3.ค 4.ข
เลขานกุ าร Group Work : นาฎศิลป นายภูติณัฐ ประกอบ Email:[email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์:097-3614846 Facebook: Phutinut Poom Prakob Line: 0973614846 สมาชกิ ในกลุ่ม นายปณณวชิ ญ์ นัครา Email:[email protected] : เบอรโ์ ทรศัพ์:095-0931439 Facebook: Punnawit Nakkara Line: 0950931439
รองหวั หน้ากลุ่ม หวั หน้ากลุ่ม นายนวตั กิมเฉียง นายจักรวฒั น์ ชูเกิด Email : [email protected] Email : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 064-0480055 เบอรโ์ ทรศัพท์ : 061-8839022 Facebook : Nawat Kimchiang Facebook :Jakrawat Chukerd Line : whitecrystal002 : Line : 0618839022 ป กลุ่ม Super idol สมาชกิ ในกลุ่ม นายธนวฒั น์ ชูแก้ว Email : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 063-0788530 Facebook : นายธนวฒั น์ ชูแก้ว Line : baszaza009
บุคคลทรงคุณค่า 1.ละครดึกดําบรรพ์ เกิดขึนในสมัยรชั กาลที 5 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ นําแบบอยา่ งมาจากละครโอเปรา่ (Opera) ของยุโรป เจ้าพระยานรศิ รานวุ ดั ติวงศ์เปนผู้ใหก้ ําเนิดละครดึกดําบรรพเ์ กิดขนึ ใ นสมัยรชั กาลที 5 กําเนิดขึน ณ ลักษณะการแสดงละครดึกดําบรรพ์ คือ ผู้แสดงรอ้ งและราํ เอง บา้ นเจ้าพระยาเทเวศรล์ งศ์ววิ ฒั น์(ม ร ว หลาน กุญชร) โดยแสดง ณ โรงละครทีตังชอื วา่ “โรงละครดึกดําบรรพ์” ไม่มีการบรรยายเนือรอ้ ง นอกจากท่านจะเปนผูน้ สรา้ งโครงละครดึกดําบรรพ์ สรา้ งเครอื งแต่งกาย และอุปกรณ์การแสดงแล้ว ผูช้ มต้องติดตามฟงจากการรอ้ งและบทเจรจาของผูแ้ สดง ท่านยงั ได้รบั ความรว่ มมือจากผูร้ ว่ มงานทีสําคัญ ความ ลักษณะการเเต่งกาย การแต่งกายแบบยนื เครอื ง มีวงดนตรที ีมีลักษณะเฉพาะทีเรยี กวา่ วงปพาทยด์ ึกดําบรรพ์ ดําเนินเรอื งรวดเรว็ มีการตกแต่งฉากทีคล้ายของจรงิ ละครทีนิยมเเสดง ได้แก่ เรอื งอเิ หนา รามเกียรติ อุณรุท สังขท์ อง คาวี สังข์ศิลปชยั มณีพชิ ยั เปนต้น ผู้แสดง ใชผ้ ูห้ ญงิ ล้วน ผู้ทีจะได้รบั คัดเลือกใหแ้ สดงละครดึกดําบรรพ์จะต้อง มีความสามารถพิเศษด้วยคุณสมบัติ 2 ประการคือ 1.เปนผู้ทีมีเสียงดีขับรอ้ งเพลงไทยได้ไพเราะ 2.เปนผูท้ ีมีรูปรา่ งงาม ราํ สวย ยงิ ผูท้ ีจะแสดงเปนตัวเอกของเรอื งด้วยแล้ว ต้องใชค้ วามพนิ ิจพเิ คราะหอ์ ยา่ งมาก บุคคลทรงคุณค่า คลิปตัวอยา่ งละครไทยป เจ้าพระยามหนิ ทรศักดิธาํ รง (เพง็ เพญ็ กุล) https://www.youtube.com/watch?v=X ท่านเปนเจ้าของคณะละครมาตังแต่สมัยรชั กาลที 4 ละครราํ แบบปรบั ปรุง นายปณณวชิ ญ์ นัครา เล แต่เพิงมาเปนหลักฐานมันคงในรชั กาลที 5 นายภูติณัฐ ประกอบ เลขที8 ซึงแต่เดิมก็แสดงละครนอก ละครใน ต่อมาในสมัยรชั กาลที 5 ยนื เครอื ง 2.ละครพนั ทาง เกิดหลังละครดึกดําบรรพ์ เปนการแต่งกายหลักทีใชใ้ นการแสดงโขน และละครราํ ท่านไปยุโรป เปนละครราํ แบบละครนอกผสมละครใน มีศิลปะของชาติต่าง ๆ จึงนําแบบละครยุโรปมาปรบั ปรุงละครนอกของท่านใหม้ ีแนวแปลกอ มีทีมาจากพวกละครนอก ในสมัยอยุธยาตอนต้น เขา้ มาปะปนตามท้องเรอื ง ทังศิลปะการรอ้ ง การราํ ทีมักเล่นเรอื งราวเกียวกับเทวดาหรอื กษัตรยิ ์ อกไป ละครของท่านได้รบั ความนิยมมากในปลายรชั กาลที 5 และการแต่งกาย ผสมกับศิลปะไทย โดยยดึ ท่าราํ ไทยเปนหลัก และสิงทีท่านได้สรา้ งใหเ้ กิดในวงการละครของไทยคือ นิยมแสดงเรอื งทีเกียวกับต่างชาติ เชน่ พระอภัยมณี ขุนชา้ งขุนแผน ผา้ หยกั รงั การน่งุ ผ้าถุงหรอื ผา้ โสรง่ รงั ผ้าทางด้านขา้ งมาเหน็บเอวทัง ๒ 1.ตังชอื โรงละครแบบฝรงั เปนครงั แรก เรยี กวา่ “ปรนิ ซ์เธยี เตอร”์ พระลอ ราชาธริ าช สามก๊ก พญาน้อย ฯลฯ 2.รเิ รมิ แสดงละครเก็บเงนิ (ตีตัว) ทีโรงละครเปนครงั แรก จึงมีลีลาของต่างภาษาตามท้องเรอื ง ข้างใหช้ ายผา้ รน่ สูงขนึ 3.การแสดงของท่านก่อใหเ้ กิดคําขนึ คําหนึง คือ “วกิ ” เหตุทีเกิดคํานีคือ ละครของท่านแสดงสัปดาหล์ ะครงั เจียระบาด ผา้ คาดเอวชนิดหนึง มีชายหอ้ ยลงทีหน้าขา คนทีไปดูก็ไปกันทุกๆ สัปดาห์ คือ ไปดูทุกๆ วกิ มักจะพูดกันวา่ ไปวกิ คือ ไปสุดสัปดาหด์ ้วยการไปดูละครของท่านเจ้าพระยา สังวาล หรอื สรอ้ ยสังวาลเปนเครอื งประดับทีมีลักษณะเหมือนสรอ้ ยเส้นยาวทีคล้ ลักษณะการเเต่งกาย ไม่แต่งกายตามแบบละครราํ ทัวไป องลงมาจากบ่าทังสองข้างเมือต้องการใส่เปนเครอื งประดับ แต่จะแต่งกายตามลักษณะเชอื ชาติ เชน่ แสดงเกียวกับเรอื งมอญ มีทังสําหรบั ผู้หญงิ ผูช้ าย ก็จะแต่งแบบมอญ แสดงเกียวกับเรอื งพม่า และสําหรบั การแต่งองค์ทรงเครอื งของนักแสดงศิลปะการละครในสมัยโบ ก็จะแต่งแบบพม่าเปนต้น ราณ ละครทีนิยมเเสดง ปนจุเหรจ็ ส่วนมากดัดแปลงมาจากบทละครนอก เรอื งทีแต่งขึนในระยะหลังก็มี กรอบเครอื งประดับรดั รูปหน้า บงั เชงิ ผมตรงเหนือหน้าผาก เปนองค์ประกอบหนึงของเครอื งแต่งกายยนื เครอื งหรอื การกําหนดเครอื ง เชน่ พระอภัยมณี เรอื งทีแต่งขึนจากพงศาวดารของไทยเอง และของชาติต่างๆ เชน่ จีน แขก มอญ ลาว ได้แก่ เรอื งหอ้ งสิน แต่งกายทีใชใ้ นการแสดงโขนหรอื ละคร ตังฮนั สามก๊ก ซุยถัง ราชาธริ าช เปนต้น ผูแ้ สดง มักนิยมใชผ้ ูแ้ สดงชาย และหญงิ แสดงตามบทบาทตัวละครทีปรกกฎในเรอื ง ลักษณะการเเต่งกาย การแต่งกาย แต่งตามท้องเรอื ง ละครทีนิยมเเสดง 3.ละครเสภา ละครเสภาทีนิยมเล่นกันมาก คือ ขุนชา้ งขุนแผน ตอนพลายเพชรพลายบัวออกศึก ,พระวยั แตกทัพ เปนละครทีดําเนินเรอื งด้วยการราํ ประกอบกับบทรอ้ งและบทขับเสภ า มีเครอื งประกอบจังหวะพิเศษคือ “ กรบั เสภา ” เรอื งทีนิยมแสดง ,ขุนแผนเข้าหอ้ งนางแก้วกิรยิ า เปนต้น มักจะนํามาจากนิทานพืนบา้ น เชน่ เรอื งขุนชา้ งขุนแผน ไกรทอง หรอื เรอื งจากบทพระราชนิพนธใ์ นรชั กาลที ๖ เชน่ เรอื งพญาราชวงั สัน สามัคคีเสวก ผู้แสดง นิยมใชผ้ ูแ้ สดงชายและหญิง ตามบทเสภาของเรอื ง การแต่งกาย แต่งกายตามท้องเรอื งคล้ายกับละครพันทาง บุคคลทรงคุณค่า พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธปิ ประพนั ธพ์ งศ์เกิด วนั ที 20 พฤศจิกายน พ ศ 2404 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธปิ ประพันธพ์ งศ์ได้ทรงปรบั ปรุงละครเสภาขึนให ม่ โดยทรงนําเอาเสภาราํ มาผสมกับละครพนั ทาง และยดึ รูปแบบของการแสดงละครพนั ทางเปนหลัก
อา้ งองิ บุคคลผู้ทรงคุณค่าสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าพระยานรศิ รานวุ ดั ติวงศ์ สืบค้นวนั ที 14/12/256 ละคร สิบค้นวนั ที 7/12/2564 บุคคลทรงคุณค่า บุคคลทรงคุณค่า ทองใบ เรอื งนนท์ บุคคลทรงคุณค่า ทองใบ เรอื งนนท์ ผู้ได้รบั การยกยอ่ งเชดิ ชูเกียรติใหเ้ ปนศิลปนแหง่ ชาติ สืบค้นวนั ที 14/12/256 สาขาศิลปะการแสดง (ละครชาตร)ี คือ รูปแบบการแสดงทีดําเนินเรอื งราว ความสามารถในการแสดงลิเกเกียรติยศสูงสุด ทีนายทองใบ เปนศิลปะทีอาจเกิดจากการนําภาพจินตนาการ เรอื งนนท์ ได้รบั คือการทีได้รบั พระราชทานโล่ และเขม็ เชดิ ชูเกียรติ จากประสบการณ์หรอื เรอื งราวต่าง ๆ มาผูกเปนเรอื ง ยกยอ่ งใหเ้ ปนศิลปนแหง่ ชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ละครชาตร)ี จากสมเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ มีเหตุการณ์เชอื มโยงเปนตอนๆ ตามลําดับ สยามบรมราชกุมารี เมือ ป พ ศ 2540 โดยดําเนินเรอื งราวจากผู้แสดงเปนผู้สือความ หมายต่อผู้ชม โดยเเบ่งออกเปน2 ประเภทคือ ลักษณะการเเต่งกาย ละครราํ แบบปรบั ปรุง และละครราํ แบบดังเดิม สมัยโบราณผูแ้ สดงเปนชายล้วน แต่งกายไม่สวมเสือ น่งุ สนับเพลา มหมายของละคร นายจักรวฒั น์ ชูเกิด เลขที 10 เชงิ กรอมข้อเท้า น่งุ ผา้ หยกั รงั จีบโจงไวห้ างหงส์ มีหอ้ ยหน้า เจียระบาด รดั สะเอว สวมสังวาล กรองคอ ทับทรวง 1.ละครชาตรี ถือวา่ เปนต้นแบบของละครราํ เรอื งทีเล่นคือ “ ศีรษะสวมเทรดิ (เซิด) มโนหร์ า ” ตอน จับนางมโนหร์ ามาถวายพระสุธน ละครทีนิยมเเสดง การแสดงเรมิ ด้วยการบูชาครูเบกิ โรง ผู้แสดงออกมาราํ ซัดไหวค้ รู มโนหร์ า ตอน จับนางมโนหร์ ามาถวายพระสุธน โดยรอ้ งเอง ราํ เอง ผู้แสดง แต่เดิมผู้แสดงเปนชายล้วนมีเพียง 3 คนเท่านัน ได้แก่ นายโรง ตัวตลกทีนังอยูเ่ ปนลูกคู่เมือรอ้ งจบจะมีบทเจรจาต่อ ซึงแสดงเปนตัวพระ อกี 2 คน คือ ตัวนาง และตัวจําอวด ซึงแสดงตลก และเปนตัวเบด็ เตล็ดต่าง ๆ เชน่ ฤาษี พราน สัตว์ ประเภทละครราํ XuH1eD3DrYk ลขที15 บุคคลทรงคุณค่า พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงภูวเนตรนรนิ ทรฤทธิ พระนามเดิม ละครราํ แบบดังเดิม นายธนวฒั น์ ชูแก้ว เลขที12 2. ละครนอก ดัดแปลง มาจากละคร ชาตรี เปนละครทีเกิดขนึ นอกพระราชฐาน พระองค์เจ้าทินกร ได้พระนิพนธล์ ะครนอก ละครไทยประเภทละครราํ เปนละครทีคนธรรมดาสามัญชนเล่นกัน นิยมเล่นกันตามชนบท หลายเรอื งเปนเพยี งต้นฉบับตัวเขยี นอยูใ่ นหอ้ งเอกสารโบราณของหอ กลุ่ม Super idol เรอื งทีใชแ้ สดงละครนอกนันปนเรอื งจักร ๆ วงศ์ ๆ การแสดงดําเนินเรอื งรวดเรว็ โลดโผน สมุดแหง่ ชาติ ด้วยเหตุนีจึงไม่ทราบจํานวนพระนิพนธท์ ีแน่ชดั โดยในบางครงั จะพูดหยาบโลน มุ่งแสดงตลก ใชภ้ าษาตลาดล่าง แต่ทีมีจํานวนมากทีสุดคือพระนิพนธบ์ ทละครนอก และไม่คํานึงถึงขนบธรรมเนียมประเพณี พระองค์เจ้าทินกรสินพระชนม์ในรชั กาลที 4 เมือวนั ที 28 พฤศจิกายน พ ศ 2399 พระชนมายุได้ 56 ป ทรงเปนต้นราชสกุลทินกร ผลงาน / งานประพันธ์ 1. บทละครเรอื งแก้วหน้าม้า 2. บทละครเรอื งไกรทอง ตอนต้น 3. บทละครเรอื งมณีพชิ ยั ตอนต้น 4. บทละครเรอื งสุวรรณหงส์ บางตอน 5. บทละครเรอื งเทวญั นางคุลา บางตอน ลักษณะการเเต่งกาย เปนการแต่งอยา่ งชาวบา้ นธรรมดา เพราะเปนละครชาวบ้าน เพียงแต่ใหต้ ้องเเต่งรดั กุมสะดวกในการทําบท และใชผ้ ้าโพกหรอื หม่ พอใหร้ ูว้ า่ เปนหญงิ หรอื ชาย ต่อมา มีผูป้ ระดิษฐ์ใหง้ ดงาม ปกดินเลือมแพรวพราว ศีรษะสวมชฎาและรดั เกล้า ทังรดั เกล้ายอด รดั เกล้าเปลว ตลอดจนปนจุเหรจ็ กระบงั หน้ารูปต่างๆ ละครทีนิยมเเสดง สังขท์ อง มณีพชิ ยั ไกรทอง สังข์ศิลปชยั โม่งปา พกิ ุลทอง การะเกด เงาะปา ฯลฯ ผูแ้ สดง เรมิ มีผูห้ ญิงแสดงละครนอก ในสมัยรชั กาลที ๒ แต่เปนละครหลวง ผู้แสดงต้องเปนคนคล่องแคล่ววอ่ งไว มีไหวพรบิ ปฏิภาณชาํ นาญทังราํ และรอ้ ง มีลูกคู่รบั หากเปนบทเล่าหรอื บรรยาย ลูกคู่จะรอ้ ง และผูแ้ สดงต้องพูดเอง เล่นตลกเอง มีคนบอกบทรอ้ งให้ 3 ละครใน เปนละครไทย บุคคลทรงคุณค่า ทีพระมหากษัตรยิ ท์ รงดัดแปลงมาจากละครนอก ครูลมุล ยมะคุปต์ เกิดเมือวนั ที 2 มิถุนายน พ ศ 2448 ใชผ้ ูห้ ญงิ แสดงล้วน และแสดงในพระราชฐานเท่านัน การแสดงละครใน มีความประณีตวจิ ิตรงดงาม เปนชาวจังหวดั น่าน ผลงานด้านการแสดง ท่าราํ ต้องพิถีพิถันใหม้ ีความออ่ นชอ้ ย เครอื งแต่งกายสวยงาม ท่านแสดงเปนตัวเอกเกือบทุกเรอื ง เพราะมีฝมือเปนเยยี ม บทกลอนไพเราะ สํานวนสละสลวยเหมาะสมกับท่าราํ บทบาททีท่านเคยแสดง เชน่ พระสังข์ เขยเล็ก เจ้าเงาะ ฮเนา เพลงทีใชข้ ับรอ้ งและบรรเลงต้องไพเราะ ชา้ ไม่ลุกลน เปนต้น ผลงานด้านการประดิษฐ์ท่าราํ ทีประดิษฐ์ใหก้ รมศิลปากรในฐานะผู้เชยี วชาญ เชน่ ราํ แม่บทใหญ่ ราํ ซัดชาตรี ราํ วงมาตรฐาน ราํ เถิดเทิง ราํ กิงไม้เงนิ ทอง ระบํากลอง เปนต้น นอกจากนี ท่านยงั เปนผูร้ า่ งหลักสูตรใหแ้ ก่วทิ ยาลัยนาฏศิลป ทําใหก้ ารเรยี นนาฏศิลปมีระบบ มีขนั ตอนในการฝกหดั นับเปนมรดกทางวฒั นธรรมอนั ลาค่าทีท่านฝากไวแ้ ก่แผน่ ดิน ลักษณะการเเต่งกาย เครอื งแต่งกายประณีตงดงาม ตามแบบของกษัตรยิ ์ เชน่ มีมงกุฎ สังวาล ทับทรวง เจียระบาด หอ้ ยหน้า สนับเพลา พระภูษา ฉลองพระองค์ ฯลฯ ละครทีนิยมเเสดง เรอื งทีใชแ้ สดงมี 3 เรอื ง คือ อเิ หนา รามเกียรติ และอุณรุท ผูแ้ สดง เดิมเปนหญิงล้วน ต่อมาสมัยรชั กาลที ๑ มี ละครในผู้ชายแสดง เชน่ นายทองอยูเ่ ปนอเิ หนา
1 .ละครนอกดดั แปลงมาจากละครใด ก.ละครดึกดึกดำบรรพ์ ข.ละครพนั ทาง ค.ละครชาตรี ง.ละครใน 2.ละครที่นิยมเเสดงของละครนอกขอ้ ไหนไม่ถกู ตอ้ ง ก.สงั ขท์ อง ข.มณีพิชยั ค.พิกลุ ทอง ง.พระอภยั มณี 3.บุคคลทรงคุณค่าท่านใดที่มีความสำคญั ในละครไทยประเภทละครรำในละครเสภา ก.พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระนราธิปประพนั ธ์พงศ์ ข. เจา้ พระยามหินทรศกั ด์ิธำรง ค. พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงภวู เนตรนรินทรฤทธ์ิ ง.ทองใบ เรืองนนท์ 4.ละครอะไรถือเป็นตน้ แบบของละครรำ ก.ละครนอก ข.ละครชาตรี ค.ละครใน ง.ละครเสภา 5.ตน้ แบบของละครรำคือละครชนิดใด ก. ละครพนั ทาง ข.ละครเสภา ค.ละครใน ง.ละครชาตรี
1 .ละครนอกดดั แปลงมาจากละครใด ตอบ ค.ละครชาตรี 2.ละครท่ีนิยมเเสดงของละครนอกขอ้ ไหนไม่ถกู ตอ้ ง ตอบ ง.พระอภยั มณี 3.บุคคลทรงคุณค่าท่านใดท่ีมีความสำคญั ในละครไทยประเภทละครรำในละครเสภา ตอบ ก.พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระนราธิปประพนั ธ์พงศ์ 4.ละครอะไรถือเป็นตน้ แบบของละครรำ ตอบ ข.ละครชาตรี 5.ตน้ แบบของละครรำคือละครชนิดใด ตอบ ง.ละครชาตรี
เลขานกุ าร Group Work กลุ่ม : พฤกษาแหง่ นายสานสิน สันหลี Email : เบอรโ์ ทรศัพท์ :0650654209 Facebook : NIcky Sunlee LIne : thepastisneverdead เลขที 9 สมาชกิ ในกลุ่ม นายปภังกร อนรุ าธา Email : เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0973455553 Facebook : Papangkorn Guy LIne : guypapangkorn เลขที 14
หวั หน้ากลุ่ม รองหวั หน้ากลุ่ม นายพริ ยิ พงศ์ คงชู นายณัฐภัทร สุวรรณรตั น์ Email : Email : เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0640750008 เบอรโ์ ทรศัพท์ :0640722251 Facebook : พิรยิ พงศ์ คงชู Facebook :ณัฐภัทร สุวรรณรตั น์ LIne :0640722251 Line : phemsmart เลขที 16 เลขที 6 งบทละคร สมาชกิ ในกลุ่ม นายธติ ิพัฒน์ สุขขัง สมาชกิ ในกลุ่ม Email : นายทรงวุฒิ สรงวารี Email : เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0896570969 เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0924284281 Facebook : Thitiphat Ice Facebook : Songwut Songwaree Line : Ice170149 LIne : iden234zzz เลขที 7 เลขที 11
การแสดงจะดําเนินเรอื งด้วยวธิ พี ูดทีเปนคําประพันธช์ นิด วธิ กี ารแสดง การแสดงจะดําเนินเรอื งด้วยวธิ พี ูดใชท้ ่าทางแบบสามัญชนประกอบ เพลงรอ้ งไม่มี ผู้แสดงดําเนินเรอื งโดยการพูด คํากลอน คําฉันท์ คําโคลง เพลงรอ้ ง การพูดทีเปนธรรมชาติ ลักษณะพิเศษของละครชนิดนีคือ ดนตรี เพลงรอ้ งไม่มี ในขณะทีตัวละครคิดอะไรอยูใ่ นใจ มักจะใชว้ ธิ ปี องปากพูดกับผู้ดุ ผู้แสดงดําเนินเรอื งโดยการพูดเปนคําประพันธช์ นิดนันๆ เรอื งทีแสดง ถึงแม้จะมีตัวละครอนื ๆ อยูใ่ กล้ๆ ก็สมมติวา่ ไม่ได้ยนิ บรรเลงดนตรคี ล้ายกับละครพูดล้วนๆ การแต่งกาย เพลงรอ้ ง ดนตรี บรรเลงโดยวงดนตรสี กลหรอื วงปพาทยไ์ ม้นวม ผู้ทีแสดง เรอื งทีแสดง แต่จะบรรเลงประกอบเฉพาะเวลาปดฉากเท่านัน ละครพูดคํากลอน เชน่ เรอื งเวนิสวาณิช ละครพูดคําฉันท์ วธิ กี ารแสดง ได้แก่ เรอื งมัทนะพาธา ละครพูดคําโคลง ได้แก่ เรอื งทีแสดงเรอื งแรก คือ เรอื ง\"โพงพาง\" เมือ พ ศ 2463 เรอื งต่อมาคือ \"เจ้าข้าสารวดั \" ทังสองเรอื ง เรอื งสีนา ิกา ของอจั ฉราพรรณ(อาจารยม์ นตรี ตราโมท) ประพันธเ์ มือป พ ศ 2469 เปนพระราชนิพนธใ์ นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอ ยูห่ วั แต่งใหเ้ หมาะสมถูกต้องตามบุคคลิกของตัวละคร และยุคสมัยทีบ่งบอกไวใ้ นบทละคร ละคนพูดแบบรอ้ ยกรอง ละครพูดล้วนๆ ใชผ้ ู้แสดงทังชายและหญงิ มีบุคคลิกและการแสดงเหมาะสมตามลักษณะทีบ่งไวใ้ นบท ละคร นาเสียงแจ่มใสชดั เจนดี เสียงกังวาน พูดฉะฉาน ไหวพรบิ ดี munoka001. ละครเพลง สืบค้นเมือ 26 พฤศจิกายน 2564 จาก ผู้ทีแสดง ในสมัยโบราณใชผ้ ู้ชายแสดงล้วน การแต่งกาย ต่อมานิยมใชผ้ ู้แสดงเปนชายล้วน เปนละครของเอกชนทีเกิดขึนภายหลังการเปลียนแปลง ต่อมานิยมใชผ้ ู้แสดงชายจรงิ หญิงแท้ การปกครอง พ ศ ๒๔๗๕ ละครทีมีชอื เสียงนี คือ ละครพูดสลับลํา ละครจันทโรภาส เปนละครของนายจวงจันทน์ แต่งกายตามสมัยนิยม จันทรค์ ณา (พรานบูรณ์) ตามเนือเรอื งโดยคํานึงถึงสภาพความเปนจรงิ ของตัวละคร สิงหนึงทีพรานบูรณ์ทําเปนหลัก คือ การแสดงจะดําเนินเรอื งด้วยบทเพลงทีปรบั ปรุงขึนใหม่จาก วธิ กี ารแสดง ปรบั ปรุงจากเพลงไทยเดิมทีมีทํานองเออื น วธิ กี ารแสดง ยดึ ถือบทพูดมีความสําคัญในการดําเนินเรอื งแต่เพียงอยา่ ง เพลงไทยเดิมเปนเพลงไทยสากล เพลงรอ้ ง มาเปนเพลงไทยสากลทีไม่มีทํานองเออื น เพลงรอ้ ง เดียว บทรอ้ งเปนเพียงสอดแทรกเพือเสรมิ ความ ยาความ ใชท้ ่าทางทีเปนธรรมชาติประกอบบทรอ้ ง ดนตรี นับเปนหวั เลียวหวั ต่อของการเปลียนแปลงเพลงไทยเดิ ดนตรี มีเพลงรอ้ งเปนบางส่วน มมากทีเดียว โดยทํานองเพลงขึนอยูก่ ับผู้ประพันธท์ ีจะแต่งเสรมิ เข้ามาใ จะเปนเพลงทีประพันธข์ ึนใหม่ เรอื งทีแสดง โดยประยุกต์จากเพลงไทยเดิมมาเปนเพลงไทยสากลตามจั ผู้ทีแสดง นเรอื ง การแต่งกาย บรรเลงดนตรคี ล้ายกับละครพูดล้วนๆ งหวะและทํานอง แต่บางครงั ในชว่ งดําเนินเรอื ง ถ้ามีบทรอ้ ง ทีผู้ประพันธก์ ําหนดขึนใหก้ ับผู้แสดงได้ขับรอ้ งในระหวา่ งแส ดนตรกี ็จะบรรเลงรว่ มไปด้วย ดง เรอื งชงิ นาง และปล่อยแก่ ซึงเปนของนายบัว ทองอนิ นิยมบรรเลงด้วยวงดนตรสี ากล พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั ทรงพระราชนิพนธบ์ ทรอ้ งแทรก โดยใชพ้ ระนามแฝงวา่ \"ศรอี ยุธยา\" และทรงแสดงเปนหลวงเกียรติคุณ เมือ พ ศ ละครเพลง 2449 ใชผ้ ู้แสดงทังชายและหญงิ เหมือนละครพูดแบบรอ้ ยกรอง การแต่งกายเหมือนละครพูดล้วนๆ หรอื แต่งกายตามเนือเรอื ง จันทรเ์ จ้าขา โจ๊ะโจ้ซัง ฝนสังฟา คืนหนึงยงั จําได้ เรอื งทีแสดง แต่งกายตามสภาพความเปนจรงิ ของเนือเรอื ง การแต่งกาย ละครพูดเรมิ ขึนในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอ ผู้แสดง ยูห่ วั ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จะใชผ้ ู้แสดงทีเปนทังผู้ชายและผู้หญิง แสดงจรงิ ตามบทบาทในเรอื ง ใหม้ ีการแสดงละครพูดสมัครเล่นเปนครงั แรก เนือเรอื งละครพูดทีแสดงในสมัยนี โดยผู้แสดงจะต้องเปนผู้ทีมีความสามารถในการรอ้ งเพลงเ ปนอยา่ งดี ดัดแปลงมาจากบทละครราํ ทีรูจ้ ักกันอยา่ งแพรห่ ลาย วชั รพี ร ลีลานันทกิจ ละครพูด สืบค้นเมือ 26 พฤศจิกายน 2564 จาก จัดทําโดย นายทรงวฒุ ิ สรงวารี เลขที11 ละคร หมายถึงการแสดงราํ ทีเปนเรอื งเปนราว จัดทําโดย นายสานสิน สันหลี เลขที 9 ละครพูด จัดทําโดย นายทรงวุฒิ สรงวารี เลขที 11 ละครสังคีตหมายถึง ละครสังคีตเปนละครทีพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอ ดําเนินเรอื งไปโดยลําดับ มีตัวเอกของเรอื ง ความหมายของละคร ละครทีมีทังบทพูดและบทรอ้ งเปนส่วนสําคัญเสมอ ยูห่ วั ทรงรเิ รมิ ขึน โดยมีววิ ฒั นาการจากละครพูดสลับลํา ละครสังคีต ต่างกันทีละครสังคีตมีบทสําหรบั พูด ฝายชายเรยี กวา่ ตัวพระ จัดทําโดย นายณัฐภัทร สุวรรณรตั น์ ม 4/9 เลขที 6 จะตัดอยา่ งใดอยา่ งหนึงออกไม่ได้ และบทสําหรบั ตัวละครรอ้ งในการดําเนินเรอื งเท่าๆ กัน เพราะสมัยโบราณแสดงแต่เรอื งจักร ๆ วงศ์ ๆ เปนเรอื งของกษัตรยิ ์ มีชอื วา่ พระต่าง ๆ เชน่ พระอนิรุทธิ ผู้เเสดง ใชผ้ ู้ชายและผู้หญงิ แสดงจรงิ ตามเนือเรอื ง พระไชยเชษฐ์ พระอภัยมณี ฝายหญิงเรยี กวา่ ตัวนาง เพราะในเรอื งทีแสดงมักชอื วา่ นางต่าง ๆ เชน่ นางสีดา นางบุษบา นางทิพยเ์ กสร ยงั ไม่มีการแบ่งเปนนางสาวและนางทีมีสามีแล้ว และตัวประกอบอนื ๆ การเเต่งกาย แต่งตามสมัยนิยม แล้วแต่ในเรอื งจะมีละครมีหลายแบบ เรอื งทีเเสดง คํานึงถึงสภาพความเปนจรงิ ของฐานะตัวละครตามเนือเรอื แต่ละละครมีการแสดงและความมุ่งหมายแตกต่างกัน การเเสดง ง และความงดงามของเครอื งแต่งกาย ดนตรี เชน่ ละครโนรา ละครนอก ละครใน ละครถาม นิยมแสดงบทพระราชนิพนธใ์ น และละครดึกดําบรรพ์ เพลงรอ้ ง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั มี 4 เรอื ง เชน่ เรอื งหนามยอกเอาหนามบง่ ทรงเรยี กวา่ \"ละครสลับลํา\" Wikipedia. สืบค้นเมือวนั ที 25 พฤษจิกายน 2564 วรรคที 1 จาก มุ่งหมายทีความไพเราะของเพลง ตัวละครจะต้องรอ้ งเองคล้ายกับละครรอ้ ง อาจารย์ สมภพ จันทรประภา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั แต่ต่างกันทีละครรอ้ งดําเนินเรอื งด้วยบทรอ้ ง เปนผู้แต่งบทประพันธล์ ะครเวทีองิ ประวตั ิศาสตรเ์ รอื ง เปนผู้แต่งบทละครพระราชนิพนธม์ ี 4 เรอื งคือ มิกาโด รชั กาลที6ทรงพระราชนิพนธบ์ ทละครพูดเปนจํานวนมาก การพูดเปนเจรจาทวนบท “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” วงั ต่ ี หนามยอกเอาหนามบง่ และววิ าหพระสมุท ทังบทละครทีทรงพระราชนิพนธข์ ึนมาใหม่ ส่วนละครสังคีตมุ่งบทรอ้ งและบทพูดเปนหลักสําคัญในการ สองเรอื งแรกคือมิกาโดและวงั ตี และบทพระราชนิพนธท์ ีทรงแปลหรอื แปลงงานจากต้นฉบั ดําเนินเรอื ง ทรงแปลงมาจากบทละครเรอื งมิกาโดของ เซอร์ กิลเบิรต์ บภาษาต่างประเทศ หลังจากทีทรงพระราชนิพนธแ์ ล้วไม่มีประวตั ิการจัดแสดง งานนิพนธป์ ระเภทละครของพระองค์ได้รบั อทิ ธพิ ลจากงาน บรรเลงด้วยวงปพาทยไ์ ม้นวม ส่วนหนามยอกเอาหนามบ่งและววิ าหพระสมุท ประพันธข์ องกวตี ่างชาติหลายคน ใชเ้ พลงชนั เดียวหรอื เพลง 2 ชนั มีลํานําทีไพเราะ ทรงคิดเรอื งและพระราชนิพนธด์ ้วยพระองค์เอง วตั ถุประสงค์ในการพระราชนิพน์บทละครพูด ละครองิ ประวตั ิศาสตร์ นอกจากจะใชส้ ําหรบั เล่นละครและใชอ้ า่ นเพือความเพลิดเ วชั รพี ร ลีลานันทกิจ ละครรอ้ ง สืบค้นเมือ 25 พฤศจิกายน 2564 จาก ละครรอ้ งสลับลํา มีการจัดแสดงหลายครงั โดยเฉพาะอยา่ งยงิ ววิ าหพระสมุท มีการจัดแสดงเสมอจนสินรชั กาล พลินแล้ว หน้าทีสําคัญของงานบทละครพูดทีทรงพระราชนิพนธค์ ือ ละครสังคีต การถ่ายทอดแนวพระราชดํารขิ องพระองค์ผ่านตัวละคร พระบรมวงค์เธอ กรมพระนราธปิ ประพันธพ์ งศ์ ละครพูด เพือสือสารต่อผู้อา่ นหรอื ผู้ชม เปนผู้พระนิพนธบ์ ท และกํากับการแสดง บทละครพูดทีแต่งขึนสามารถใหว้ าทกรรมเสียดสี วพิ ากษ์สังคมขณะนัน, โน้มน้าวใจประชาชนใหค้ ล้อยตาม เรอื งทีแสดงได้แก่ ตุ๊กตายอดรกั ขวดแก้วเจียระไน รวมถึงการสรา้ งภาพลักษณ์ตามพระราชประสงค์ เครอื ณรงค์ กากี ละครรอ้ งล้วน ๆ เรอื งทีแสดง คือ เรอื งสาวติ รี ละครรอ้ ง ศิลปนผู้ทรงคุณค่า จัดทําโดย นายธติ ิพัฒน์ สุขขัง ม 4/9 เลขที7 ละครรอ้ งล้วนๆ สมเด็จพระบรมโอรสาธริ าชเจ้าฟามหาวชริ าวธุ ละครรอ้ งกําเนิดขึนในตอนปลายรชั สมัยพระบาทสมเด็จพระจุ สยามมกุฎราชกุมาร ลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั ละครรอ้ ง ทรงดัดแปลงละครของชาวตะวนั ตกจากละครอุปรากรทีเรยี ได้ปรบั ปรุงขึนดดยได้รบั อทิ ธพิ ลจากละครต่างประเทศ กวา่ \"โอเปอเรติก ลิเบรตโต\" มาเปนละครในภาษาไทย ละครรอ้ งนันต้นกําเนิด มาจากจากแสดงของชาวมลายู และได้รบั ความนิยมอกี แบบหนึง เรยี กวา่ “บงั สาวนั ” (Malay Opera) ได้เคยเล่นถวายรชั กาลที 5 ทอดพระเนตรครงั แรกทีเมืองไทรบุรี นายจวงจันทน์ จันทรค์ ณา (พรานบูรณ์)นักแต่งเพลงไทย ละครวทิ ยุ และ ละครโทรทัศน์ The Tree ละครรอ้ งสลับพูด ใชผ้ ู้หญิงแสดงล้วน เปนคนแรกผู้ปฏิรูปรูปแบบเพลงไทยประกอบละครรอ้ ง ยกเวน้ ตัวตลกหรอื จําอวดทีเรยี กวา่ \"ตลกตามพระ\" จากท่วงทํานองเพลงไทยเดิมทีมีลูกเออื นใหม้ ีลักษณะสาก ละครเพลง และ ละครเวที วชั รพี ร ลีลานันทกิจ ละครพูด สืบค้นเมือ 27 พฤศจิกายน ละครทีพฒั นาขึนใหม่ 1.ละครรอ้ งสลับพูด 2564 จาก 2.ละครรอ้ งล้วนๆ ซึงใชผ้ ู้ชายแสดง ลยงิ ขึน อาจกล่าววา่ เเบ่งเปนสองประเภท มีบทเปนผู้ชว่ ยพระเอกแสดงบทตลกขบขันจรงิ ๆ พรานบูรพ์คือผู้รเิ รมิ เพลงไทยสากลก็ได้ munoka001. ละครเพลง สืบค้นเมือ 27 พฤศจิกายน มีผลงานสรา้ งชอื เสียงคือ ละครรอ้ งเรอื ง \"จันทรเ์ จ้าขา\" คุณสมสุข กัลยจ์ าฤก 2564จาก เพือใหเ้ กิดความสนกุ สนาน และ \"โรสิตา\" สําหรบั ละครเพลงในประเทศไทยในยุคแรก เปนผู้ทีมีความสามารถในการประพันธบ์ ทละครวทิ ยุและล ละครองิ ประวตั ิศาสตร์ สืบค้นเมือ 27 พฤศจิกายน 2564 จาก ใชผ้ ู้ชาย และผู้หญิงแสดงจรงิ ตามเนือเรอื ง เปนละครทีถูกจัดโดยภาคเอกชน ะครโทรทัศน์ มีผลงานกวา่ 300 เรอื ง ซึงเกิดขึนภายหลังจากการเปลียนแปลงการปกครอง และถูกนําไปสรา้ งเปนละครโทรทัศน์และภาพยนตรท์ ีมีชอื เ ละครรอ้ ง การเเสดง ละครรอ้ งสลับพูด มีทังบทรอ้ ง และบทพูด พ ศ 2475 โดยละครเพลงทีมีชอื เสียงในยุคนัน คือ สียงมากมาย อาทิ เพชรตาแมว, ตุ๊กตาผี, ผู้หญิงคนหนึง, จัดทําโดย นายณัฐภัทร สุวรรณรตั น์ ม 4/9 เลขที 6 เรอื งทีเเสดง เชน่ ยดึ ถือการรอ้ งเปนส่วนสําคัญ เงนิ ปากผี,หญิงก็มีหวั ใจ, หอ้ งหนุ่ เมือวนั ที 21 กุมภาพันธ์ ‘คณะจันทโรภาส’ อนั เปนละครของนายจวงจันทน์ บทพูดเจรจาสอดแทรกเข้ามาเพือทวนบททีตัวละครรอ้ งออ จันทรค์ ณา 2561 กมาส่วนละครรอ้ งล้วนๆ ตัวละครขับรอ้ งโต้ตอบกัน และเล่าเรอื งเปนทํานองแทนการพูด ซึงสิงหนึงทีพรานบูรณ์นํามาใชใ้ นละครของเขาจนเกิดควา ได้มีแถลงผลการคัดเลือกศิลปนแหง่ ชาติซึงคุณสมสุข ดําเนินเรอื งด้วยการรอ้ งเพลงล้วนๆ มเปนเอกลักษณ์ขึนมา คือ กัลยจ์ าฤก ศิลปนแหง่ ชาติ ตุ๊กตายอดรกั ขวดแก้วเจียระไน เครอื ณรงค์ กากี ภารตะ ปรบั ปรุงเพลงไทยเดิมซึงมีทํานองลูกเออื น ในสาขาศิลปะการแสดงประเภทภาพยนตรแ์ ละละคร สาวติ รี เข้ามาเปนเพลงไทยสากลอนั ปราศจากทํานองเออื น จัดเปนเรอื งหนึงทีมีความสําคัญ และเปนอกี หนึงเส้นทางทีก่อใหเ้ กิดการเปลียนแปลงเพลงไ ทยเดิมเปนอยา่ งมาก นายพิรยพงศ์ คงชู ม 4/9 เลขที 16 ดนตรี ละครรอ้ งสลับพูด เพลงรอ้ ง บรรเลงด้วยวงปพาทยไ์ ม้นวมหรอื อาจใชว้ งมโหรปี ระกอบ Wikipedia. ละครอา้ งองิ ประวตั ิศาสตร์ สืบค้นเมือ 27 พฤศจิกายน 2564 จาก ละครรอ้ งล้วนๆ บรรเลงด้วยวงปพาทยไ์ ม้นวม ละครองิ ประวติศาสตร์ ละครรอ้ งสลับพูด ใชเ้ พลงชนั เดียวหรอื เพลง ๒ ชนั ในขณะทีตัวละครรอ้ งใชซ้ ออูค้ ลอตามเบาๆ เรยี กวา่ \"รอ้ งคลอ\" ละครองิ ประวตั ิศาสตร์ เปนละครทีมีเนือหาเกียวข้องกับบุคคลจรงิ ในประวตั ิศาสตร์ ดําเนินเรอื งในชว่ งหนึงของประวตั ิศาสตร์ ละครรอ้ งล้วนๆ ใชเ้ พลงชนั เดียวหรอื เพลง ๒ ชนั ทีมีลํานําทํานองไพเราะ ใหค้ วามรูท้ างด้านประวตั ิศาสตร์ ละครเรอื ง บุพเพสันนิวาส มีเนือหาละครในชว่ งยุคสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เปนละครทีได้รบั ความนิยมสูงสุดนับตังแตประเทศไทยเข้าสู่ยุคทีวดี ิจิตอลเมือป 2558 ละครทีมีเรอื งราวในชว่ งปลายกรุงศรอี ยุธยา ชว่ งการเสียกรุงศรอี ยุธยาครงั ทีสอง ได้แก่ละครเรอื ง สายโลหติ และ ฟาใหม่ ละครเรอื ง รตั นโกสินทร์ ยอ้ นยุคไปในสมัยรชั กาลที 1 ถึงรชั กาลที 3 เรอื ง ขา้ บดินทร์ มีเนือเรอื งเกิดขนึ สมัยรชั สมัยพระบาทสมเด็จพระนังเกล้าเจ้าอยูห่ วั ละครทีเล่าเรอื งราวในชว่ งรชั กาลที 5 ยุคทีประเทศชาติบ้านเมืองมีการเปลียนแปลง และประวตั ิศาสตรท์ ีน่าจดจําหลายอยา่ ง เชน่ บว่ งบาป, นางทาส, ลูกทาส, สีแผน่ ดิน, รม่ ฉัตร และ ทวภิ พ จัดทําโดย นายปภังกร อนรุ าธา ม 4/9 เลขที 14 วชั รพี ร ลีลานันทกิจ ละครรอ้ ง สืบค้นเมือ 25 พฤศจิกายน 2564 จาก รูปแบบรายการโทรทัศน์ประเภทบนั เทิงของไทย นายพริ ยิ พงศ์ คงชู ม 4/9 เลชที 16 ละครวทิ ยุ เปนการแสดงละครโดยใชเ้ สียงอยา่ งเดียว ละครวทิ ยุ เมือไม่มีภาพ จึงต้องขึนอยูก่ ับบทสนทนาโต้ตอบ ละครโทรทัศน์ไทยเรอื งแรกคือ สุรยิ านีไม่ยอมแต่งงาน ละครโทรทัศน์ ออกอากาศทางชอ่ ง 4 บางขุนพรหม ดนตรแี ละเอฟเฟกซ์เสียงเพือชว่ ยใหผ้ ู้ฟงจินตนาการถึงตัว ละครและนิยายออก ยุคบุกเบิก Romeo and Juliet ละครวทิ ยุอาจเปนละครทีเขียนขึนเพือออกอากาศทางวทิ ยุ โดยเฉพาะ ละครสารคดี งานบนั เทิงคดีทีสรา้ งเปนละคร ละครเวที เรอื งทีเเสดง เชน่ จัดทําโดย นายปภังกร อนรุ าธา ม 4/9 เลขที 14 เรมิ ได้รบั ความนิยม ความเปนมา หรอื ละครทีเดิมเขียนขึนเปนละครเวที เข้าสู่ธุรกิจละครเต็มรูปแบบ เปนการนําการแสดงทีมีอยูม่ าออกอากาศทางวทิ ยุกระจาย ละครวทิ ยุกําเนิดหลังละครเวที คาดกันวา่ ละครเวทีมีมาตังแต่สมัยกรกี เสียง อรสิ โตเติลบันทึกไวว้ า่ ละครของกรกี เล่นในวาระโอกาสพิเศษต่าง ๆ เชน่ วนั แม่ วนั ทีระลึกของหน่วยงานต่าง ๆ ละครการกุศล มีลักษณะตอนเดียวจบ ละครประเภทพเิ ศษ นักเขียนบทละครชาวโรมัน \" มักใชเ้ วลาประมาณ 1-2 ชวั โมง ละครสันแบบTV series ดังนันลักษณะของบทละครวทิ ยุจึงแตกต่างจากบทละครทั เซเนกาถูกอา้ งวา่ เปนผู้บุกเบกิ ละครวทิ ยุเพราะบทละครขอ เรมิ ต้นขึนจากการกล่าวคําบูชาเทพเจ้าไดโอนีซุส ละครเรอื งยาว วไป ผู้ประพันธจ์ ะต้องหาวธิ สี รา้ งจินตนาการใหแ้ ก่ผู้ฟง งเขาแสดงโดยผู้อา่ นเปนบทละครไม่ใชน่ ักแสดงเปนละครเ เทพเจ้าแหง่ ไวน์และความอุดมสมบูรณ์ มีความยาวระหวา่ ง 30-60 นาที ออกอากาศเปนประจํา ละครสันแบบMini series ใหส้ ามารถเข้าใจและนึกถึงภาพความเปนไปของเรอื งได้ นับตังแต่บุคลิกลักษณะ กิรยิ าท่าทาง วที องค์ประกอบของละครเวที คือ การแสดงสดบนเวที ละครเรอื งยาวทีเล่นหลายตอนจบ ประมาณ 20-30 ตอน ละครจบในตอน อุปนิสัยใจคอของตัวละคร อารมณ์และความรูส้ ึกต่างๆ แต่ในแงน่ ีเซเนกาไม่มีผู้สืบทอดทีสําคัญจนกระทังเทคโนโ ทีมีฉาก แสง เสียง ประกอบ และบทละคร คือ เนือเรอื งต่อเนืองกัน ออกอากาศเปนประจํา ซิตคอม จะต้องแสดงออกทางคําพูดของตัวละคร ส่วนทีสําคัญทีสุดในการทําละครทุกชนิด ใส่ความรูส้ ึกทางคําพูด ลยใี นศตวรรษที 20 ทําใหแ้ พรห่ ลาย โดยเฉพาะอยา่ งยงิ ละครเวที เพราะมันคือ ปนละครทีผลิตเปนเรอื งยาว มีความยาวตังแต่ต้นจนจบมากกวา่ 3 การเจรจาบทต้องใส่อารมณ์เปนพิเศษ การเผยแพรล่ ะครเสียง” ชวั โมง จึงจําเปนต้องแบง่ ออกอากาศมากกวา่ 1 ครงั มักมีความยาว เพราะผู้ฟงมองไม่เหน็ ภาพตัวละคร ตัวกําหนดองค์ประกอบอนื ๆ ทุกอยา่ งในละคร ไม่วา่ จะเปน ละครวทิ ยุ สืบค้นเมือ 26 พฤศจิกายน 2564 จาก โครงของเรอื งของนักแสดงด้วย 2-8 ตอน จึงไม่สามารถสังเกตกิรยิ าท่าทางและสีหน้าของตัวละครได้ ประเภท ผู้แสดงไม่ใชช่ ุดเดียวกัน และเรอื งราวแต่ละตอนไม่เกียวขอ้ งกัน ตัวละครสําหรบั บทละครวทิ ยุต้องมีตัวสําคัญประมาณ 3-4 ตัวและต้องเลือกผู้แสดงทีมีเสียงแตกต่างกันมากๆ เเบ่งเปน ละครเพลง (Musical) ละครแนวสนกุ สนานมีลักษณะล้อเลียนสถานการณ์จรงิ ทีเกิดขนึ ละครโศกนาฎกรรม (Tragedy) จบในตอน มิฉะนันผู้ฟงจะแยกเสียงไม่ออกวา่ เปนบทของตัวละครตัวไ หน เสียงประกอบ ได้แก่ ดนตรี เสียงสัตว์ เสียงคลืนลมตามธรรมชาติ เสียงประกอบบทอนื ๆ เชน่ เสียงชกต่อย ทะเลาะววิ าทกัน เสียงฟนดาบ ม้าวงิ เสียงปน ฯลฯ การแต่งกาย ผู้แสดงละครวทิ ยุแต่งกายแบบใดก็ได้ ละครเวที สืบค้นเมือ 26 พฤศจิกายน 2564 จาก ละครสุขนาฏกรรม (Comedy) เพราะออกอากาศแต่เสียง ผู้ฟงไม่เหน็ ตัว จุดเด่นของละครเวทีคือ การสือสารระหวา่ งผู้ชมกับนักแสดงพรอ้ ม ๆ กัน Wikipedia. ละครโทรทัศน์ สืบค้นเมือ 27 พฤศจิกายน 2564 จาก ละครนาเน่า ละครผี แนวเรอื ง ละครสะท้อนสังคม ละครสําหรบั เด็ก ละครเกียวกับกลุ่มบุคคลทีมีความหลากหลายทางเพศ ละครองิ ประวตั ิศาสตร์ ละครวยั รุน่ ละครจักร ๆ วงศ์ ๆ ละครซูเปอรฮ์ โี รและจินตนิมิต ละครแนวข้ามเวลา ละครโลดโผน
คำถำมนำฎศลิ ป์ 1.เวลำเรยี กช่ือตวั ละครหลกั (ชำย) และ ตวั ละครหลกั (หญิง)จะใชค้ ำนำหนำ้ วำ่ อะไร ก. พระเอก นำงเอก ช. ตวั เอก ตวั รอง ค. ตวั พระ ตวั นำง ง. พ่เี อก นอ้ งเอก 2.ละครรอ้ งมีตน้ กำเนดิ มำจำกกำรเเสดงของชำวมลำยทู ่ีเรียกวำ่ อะไร ก. มะโย่ง ข.บงั สำวนั ค.โนรำ ง.รองเง็งตนั หยง 3.ละครวทิ ยเุ ป็นละครเเบบใด ก. เป็นละครท่ีตอ้ งใชเ้ เสง สี เสยี ง ใหเ้ หมำะสม ข. เป็นละครท่ใี ชน้ กั เเสดงเป็นจำนวนมำก ค. เป็นกำรแสดงละครโดยใชเ้ สยี งอย่ำงเดียว ง. เป็นละครท่ใี ชเ้ ครื่องเเต่งกำยสวยงำม 4.ขอ้ ใดคือละครสะทอ้ นสงั คม ก.รษิ ยำ ข.บพุ เพสนั นิวำส ค.ระยำ้ ง.สงครำมนำงฟ้ำ 5.บคุ คลใดตอ่ ไปท่ีเป็นศิลปินดงั ของละครวทิ ยแุ ละละครโทรทศั น์ ก.คณุ สมสขุ กลั ยจ์ ำฤก ข.นำยจวงจนั ทน์ จนั ทรค์ ณำ ค.พระบำทสมเด็จพระมงกฏุ เกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั ง.พระเจำ้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระนรำธิปพระประพนั ธพ์ งค์ 6.ละครเร่อื งใดคือละครพดู แบบรอ้ ยกรอง ก.ปลอ่ ยแก่ ข.เวนิสวำณิช ค.โจ๊ะโจซ้ งั ง.เจำ้ ขำสำรวดั เฉลย ค ข ค ง ก ข
“ตง้ั ในอา่ นหนงั สอื นะคะเดก็ ๆ เกรดส่ีอย่ไู มไ่ กลแลว้ ครูเปน็ กาลังใจให้นะคะ” วชิ าศลิ ปะ 2 ศ31102 นาฏศลิ ปแ์ ละการละคร ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ครูโชติกา หนสู วสั ดิ์
1. 2. . 3.
4. 5.
1. 2. . 3.
4. 5.
เลขานกุ าร GROUP WOR กลุ่ม : อาเซียนร นายพิชาภพ ซุ้นซิม (โดม) เลขที 5 E-mail : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0949739332 Facebook : Dome Pichapop Line : 2462548 สมาชกิ ในกลุ่ม นายณฐพงศ์ หวงั จิ (บูม) เลขที 2 E-mail : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0653903692 Facebook : natapong wangji Line : 0653903692
หวั หน้ากลุ่ม รองหวั หน้ากลุ่ม นายพชิ ุตม์ พิพัฒน์วรสกุล (พมี ) เลขที 4 นายฐานานศุ ักดิ จันทรร์ งค์ (ต้นเงนิ ) เลขที1 E-mail : [email protected] E-mail : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0960297518 เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0872853465 Facebook : Peam Pipatworasakul Facebook : (บัญชที ี 1) : ฐานานศุ ักดิ จันทรร์ งค์ , Line : 0960297518 (บัญชที ี 2) : Tonngern Tananusak Line : tonngern0872853465 RK รว่ มใจ สมาชกิ ในกลุ่ม นายณัฐชนน ตลับทอง (สตางค์) เลขที3 E-mail : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0807091626 Facebook : Natchanon Talabthong Line : stakugtv
โนรา ฟอนเลบ็ เปนการรา่ ยราํ ตามแบบฉบับของชาวปกษ์ใต้ มีการขับรอ้ งประกอบดนตรี อนั ได้แก่ กลอง ทับ โหม่ง ฉิง ป และแตระ ซึงเปนต้นฉบับในการเล่นละครชาตรมี าแต่สมัยอยุธ ยาจนถึงสมัยรตั นโกสินทร์ มีผูร้ ูบ้ างคนกล่าววา่ การราํ โนราน่าจะเปนวฒั นธรรม ของอนิ เดียมาแต่เดิม แล้วแพรห่ ลายเข้าสู่ชวา มลายู ในชว่ งทีอาณาจักรศรวี ชิ ยั กําลังรุง่ เรอื ง เปนศิลปะการแสดงทีเปนเอกลักษณ์ทางภาคเหนื การเเสดงพนื บ้านทีเปนเอกลักษณ์ข อโดยเฉพาะรูปแบบการฟอนมีอยู่ 2 แบบ องประเทศไทย คือแบบพนื เมืองหรอื ฟอนเมือง และแบบคุ้มเจ้าหลวง กระบวนท่าราํ เปนลีลาท่าฟอนทีมีความงดงามเช่ นเดียวกับฟอนเทียน เพลงแต่ไม่ถือเทียน นิยมฟอนในเวลากลางวนั สําหรบั ชอื ชุดการแสดงจะมีความหมายตามลักษ ณะของผู้แสดงทีจะสวมเล็บยาวสีทองทุกนิว ยกเวน้ นิวหวั แม่มือ เต้นกําราํ เคียว เปนการแสดงพนื เมืองทีเก่าแก่ของชาวชนบทในภาคกล าง แถบจังหวดั นครสวรรค์ ซึงชาวชนบทส่วนมากมีอาชพี การทํานาเปนหลัก และด้วยนิสัยรกั สนกุ กับการเปนเจ้าบทเจ้ากลอน จึงได้เกิดการเต้นกําราํ เคียวขนึ ในเนือเพลงจะสะท้อนใหเ้ หน็ สภาพความเปนอยูข่ องชาว บ้าน ลักษณะการราํ จะเน้นความสนกุ เปนใหญ่ มีทังเต้นและราํ ควบคู่กันไป ประเทศไทย อา้ งองิ นายณรงภักดี (เจียร จารุจรณ) สาขาศิลปะการแสดง-นาฏศิลป พ ศ 2529 ศิลปนเเหง่ ชาติของประเทศไทย นางเฉลย ศุขะวณิช สาขาศิลปะการแสดง-นาฏศิลป พ ศ 2530 นายฐานานศุ ักดิ จันทรร์ งค์ ม 4/9 เลขที 1 พิว พิว จ่อ เต็ง อา้ งองิ Phyu Phyu Kyaw Thein เปนนักรอ้ งเพลงปอปชาวพม่า ซึงเปนทีรูจ้ ักจากการแสดงบน เวทีและเครอื งแต่งกายของเธ อซึงได้เปรยี บเทียบกับเลดีกาก้ า เธอเปนทูตคนดังของยูนิเซฟตั งแต่ป 2551 จายทีแสง Sai Htee Saing ศิลปนผู้ทรงคุณค่าของเมียนมาร์ อะเญย่ เปนนักรอ้ งและนักแต่งเพลงชาวพม่าเชอื สา ประเทศเมียนมาร์ ย Shan โยว่ เต ทีมีชอื เสียงซึงโดดเด่นอยา่ งมากในอาชพี นัก ดนตรขี องเขา ตลอดอาชพี ของเขาเขาบันทึกสองถึงสามอลั บัมภาษาฉานและ 30 ถึง 40 อลั บมั ภาษาพม่า เขาเปนทีรูจ้ ักโดยเฉพาะอยา่ งยงิ สําหรบั การ แต่งเพลงคันทรี นักแต่งเพลงสําคัญของเพลง Sai Htee Saing คือ Sai Kham Leik หมายถึงการแสดงตลกแบบพม่า การเเสดงพืนบ้านทีเปนเอกลักษณ์ขอ หนุ่ ชกั พม่าเปนศิลปะทีนิยมในราชสํานักพม่า การแสดงชนิดนีผู้แสดงส่วนใหญ่เปนผูช้ ายแต่งตัวด้วยเสือผ้า งเมียนมาร์ เปนการแสดงทีสือถึงนัยยะสําคัญทางการเมือง สีฉูดฉาดสะดุดตา น่งุ โสรง่ ลายตารางโตๆ เมือมีงานบุญทีไหนก็จะต้องได้ดูลิเกพม่าทีนัน เรอื งราวต่างๆ สวมเสือปายอกและมีผ้าโพกศรษี ะ ควบคู่ไปกับการแสดงหุน่ ชกั ในราชสํานักทีไม่สามารถพูดถึงอยา่ งตรงไปตรงมาได้ ส่วนนักแสดงหญิงมักแต่งตัวด้วยเสือผ้าทีสวยงามสีนวลตา เนือเรอื งส่วนหนึงทีซะปแวนํามาแสดงไม่ต่างไ ในอดีตผูช้ กั หุน่ ต้องเปนชายเท่านัน สวมเสือเกาะอกแล้วสวมด้วยเสือทีมีชายงอน ปจากหนุ่ ชกั คือมาจากนิทานชาดก นักเล่นหนุ่ ชกั หลายคนได้รบั การยกยอ่ งใหเ้ ปนถึงขุนน าง เชน่ อูปุ ผูม้ ีสิทธกิ ินส่วยจาก 12 หวั เมือง เปนต้น น่งุ ผ้าซินลูนตยา โดยต่อเชงิ ผา้ สีขาวใหย้ าวออกไป ทีต่างกันอยูต่ รงผู้แสดงระหวา่ งคนกับหุน่ ชกั แต่ต่อมาในภายหลังเรมิ มีการถ่ายทอดความรูห้ นุ่ ชกั เมือได้เวลาแสดงก็จะเรมิ ด้วยการแสดงฟอนราํ เดียวของมีนต อนั ทีจรงิ ชาวไทใหญ่ก็มีการแสดงทีเหมือนซะป พม่าใหแ้ ก่ผู้หญิง อาทิเชน่ คณะแสดงหุน่ มัณฑะเลย์ ะมีทีออกมารา่ ยราํ ในท่วงท่าต่างๆ แว ซึงเรยี กวา่ จ้าดไต โดยเรยี ก ซะปแววา่ ด้วยทํานองเพลงสนกุ สนานจากวงษ์ปพาทยท์ ีอยูด่ ้านหน้า จ้าดพม่า ซึงคําวา่ ซะ หรอื จ้าด มาจากคําวา่ ชาตก หรอื ชาดก ในภาษาไทย ซะปแว หุน่ กระบอกนา เหงวยี นเตียนหยุง เหงวยี นหวึ เหวิ การเชดิ หนุ่ กระบอกนาของเวยี ดนามเปนเอกลักษณ์เฉ เหงวยี นเตียนหยุงเปนศิลปนทีมีความหลงใหลในก เหงวยี นหวึ เหวิ พาะตัวทีโดดเด่นผู้เชดิ หุน่ จะยนื อยูห่ ลังฉากในนาทีสูงถึ ารเชดิ หนุ่ กระบอกนาเขาได้มีการผสมผสานระหวา่ หวั หน้าวชิ าเครอื งดนตรพี ืนเมืองของวทิ ยาลั งการเชดิ หุน่ กระบอกและดนตรพี นื เมืองและมีการเ งระดับเอว ชอื มโยงระหวา่ งศิลปะพืนเมืองกับการแสดงรว่ มส ยศิลปะฮานอย และควบคุมการเคลือนไหวของหุน่ กระบอกด้วยไม่ไผ่ล เขามีประสบการณ์เล่นพิณสายเดียวในระดั มัยอยา่ งมีความคิดสรา้ งสรรค์ บสูงและเปนหนึงในศิลปนเล่นพิณสายเดียว าํ ยาว โดยมีวงดนตรพี ืนบา้ นบรรเลงประกอบ เนือเรอื งส่วนใหญบ่ อกเล่าถึงขนบธรรมเนียม ประเพณี ทีมีชอื เสียงของเวยี ดนาม วถิ ีชวี ติ พืนบา้ นตามชนบทของชาวเวยี ดนามทีผูกพันอ กวานโฮ ยูก่ ับสายนา เปนการรอ้ งเพลงพืนเมืองของเวยี ดนาม การแสดงพืนบ้านประเท ศเวยี ดนาม มีการรอ้ งประชนั โต้ไปมาโดยใชป้ ฏิ ภาณไหวพรบิ ของผู้รอ้ ง ศิลปนทรงคุณค่า คล้ายกับการรอ้ งลําตัดของไทย ระบําหมวก ประเทศเวยี ดนาม การแสดงพ โซน เอเชยี เปนการแสดงพนื บ้านทางภาคเหนือขอ อา้ งองิ : นายพชิ ุ งเวยี ดนาม อา้ งองิ ศิลปน: ม 4/ มีลักษณะท่าทางการราํ ทีออ่ นชอ้ ยสวยง าม โดยจะมี นอนล่า(Non La)หมวกทรงกรวยของเวยี ดนามประก อบการแสดง ลําลาว นายพชิ าภพ ซุ้นซิม ม 4/9 เปนการแสดงดนตรพี ืนบ้านของลาวมีนักรอ้ งหรอื เลขที5 ฟอนตังหวายฟเปอนนฟตอังนหเพวอืาบยวงสรวงบูชา ผู้เล่าเรอื งและแคนเปนองค์ประกอบ ประเทศลาว เปนการโต้ตอบกันผา่ นโคลงกลอน โดยเฉพาะชนชาติลาวทีอาศัยอยู่ หรอื การรอ้ งทีระหวา่ งนักรอ้ งชายและหญิง อา้ งองิ ตามแถบลุ่มแม่นาโขงมีความเชอื การแสดงดําเนินไปด้วยท่าราํ ทีหลากหลายมุกตลก อา้ งองิ ศิลปน: และยดึ มันในการ นับถือเทวดาฟาดิน ต่างๆ อนั เกิดจากปฏิภาณไหวพรบิ ของผูร้ อ้ ง ภูติผีวญิ ญาณ ต้นไม้ใหญ่ จอมปลวก ศิลปนทรงคุณค่า งูและเข้าใจวา่ สิงทีตนใหค้ วามนับถือนันสามารถ การแสดงพืนบ้านประเ ทศลาว จะบนั ดาลใหเ้ กิดผลสําเรจ็ หรอื เมือเกิดอะไรทีผิดจากธรรมดาขึนมาก็เข้าใจวา่ สิงทีตนนับถือโกรธจึงบนั ดาลใหเ้ ปนไปอยา่ งนัน จึงจัดใหม้ ีการบวงสรวงบูชาฟอนตังหวาย ลําสาละวนั ดาวเวยี ง บุตรนาโค ไซพอน สินทะลาด เปนวฒั นธรรมของชนชาติลาว ดาวเวยี ง บุตรนาโค เปนนักเขียน กวี เขา เกิดทีบ้านถินเพีย เมืองหาดทรายฟอง การลําสาละวนั ทีเก่าแก่กําเนิดมาจากการทรงผไี ท้ผแี และนักแต่งเพลงลูกทุ่งลาวอนั โด่งดัง กําแพงนครเวยี งจันทน์ ซึงมีหลายผลงานทีเขาได้มีส่วนรว่ มกับผ ถน ตามความเชอื ดังเดิมแล้วกลายมา เขาเปนนักรอ้ งและนักแต่งเพลง เปนมหรสพของชุมชน ลงานเพลงอสี านในไทย ผู้มากความสามารถ และยงั เปนศิลปนแหง่ ชาติของสาธารณ แล้วได้ประยุกต์เพมิ กลอนลําใหเ้ กิดความสนกุ สนาน ซึงถูกยกใหเ้ ปนราชาเพลงบ้านนาลาว ประกอบท่าทางการเคลือนไหวของรา่ งกายโดยอสิ ระต รฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว ามธรรมชาติ เนือความของลําสาละวนั นอกจากจะสะท้อนใหเ้ หน็ แนวทางการเกียวพาราสีระ หวา่ งชายหญิงแล้ว โวหารเปรยี บเทียบทีใชใ้ นกลอนลํา ได้สะท้อนใหเ้ หน็ ถึงความงามของการใชภ้ าษา นอกจากนัน ท่วงทํานองของการลํา ยงั มีการเออื นทีเปนลักษณะเฉพาะตัว ดิดิก นินี โทวอก อา้ งองิ Didik Hadiprayitno เกิดเมือ 13 พฤศจิกายน 1954 กําเนิดโดย Kwee ประเทศอนิ โดนีเซีย Tjoenเปนทีรูจ้ ักดีของเขาชอื บนเวที Didik Nini Thowokเปนชวานักเต้นทีมักจะแอบอา้ งเปนผูห้ ญงิ ในระหวา่ งการแสดงของเขาในแบบดังเดิมเต้นร ําชวาและการเต้นราํ แบบบาหลี ขณะทีเขาศึกษานาฏศิลปในหลายประเทศ รวมทังอนิ โดนีเซีย อนิ เดีย ญปี ุน และสเปน เขามักจะผสมผสานสไตล์จากหลากหลายวฒั นธรรมในการเต้นของเขา เขามีเชอื สายจีน-ชวา ศิลปนผูท้ รงคุณค่า กรซิ ดายนั ตี การเเสดงพืนบา้ นประเทศอนิ โดนีเซีย เกิด 24 มีนาคม พ ศ 2518 เปนนักรอ้ งและนักแสดงชาวอนิ โดนีเซีย ทีได้รบั รางวลั Asia Bagus Grand Champion เปนคนแรกของอนิ โดนีเซีย กรซิ ดายนั ตี บนั ทึกเสียงครงั แรกเมืออายุ 9 ขวบ โดยได้รบั รางวลั 15,000 รูปยะฮจ์ ากซาวนด์แทรก็ \"เมกาโลมัน\" (Megaloman) และออกอลั บัมต่อมาคือ \"บูรุง- บูรุงมาลัม\" (Burung-Burung Malam) เมืออายุ 12 ขวบ เลกอง ระบําคะชกั หรอื ระบําลิง เปนการแสดงของชาวบาหลีมีลักษณะการรา่ ยราํ งดงาม เชอื งชา้ เนิบนาบ เปนการแสดงของชาวบาหลี ตัดตอนมาจากรามเกียรติ โดยใชเ้ ด็กหญิงหน้าตาสวยงามทีผ่านกานฝกฝนมาเปนอยา่ งดี 3 คนเปนตัวแสดง ในสมัยทียงั ไม่มีประจําเดือนเท่านี เล่าเรอื งราวของพระรามกับเหล่าพลวานนรทีตามไปชว่ ยนางสีดา จากทศกัณฐ์ ผูท้ ีแสดงเปนลิงจะน่งุ ผา้ ตาหมากรุก เปลือยท่อนบน ทัดดอกชบาแดงขา้ งหู นังล้อมวงกัน 4 – 5 ชนั โบกมือขึนลงพรอ้ มทังโยกตัวไปมาและรอ้ งวา่ “คะชกั คะชกั ” เปนเสียงสูงตาคล้ายทํานองดนตรี โดยตัวเอกต่างๆ จะเดินรา่ ยราํ ไปมาตรงกลางวง ระบําบารอ็ ง เปนการแสดงทีรูจ้ ักกันในหมู่นักท่องเทียว เรอื งราวเกียวกับการต่อสู้ระหวา่ งฝายธรรมะกับอธรรม บารอ็ งคือตัวแทนฝายดี เปนคนครงึ สัตว์ ส่วนรงั ดาเปนพ่อมดหมอผีฝายอธรรม ซึงจะต่อสู้กันจนฝายธรรมะได้รบั ชยั ชนะในทีสุด
โยเกต็ ศิลปะการรา่ ยราํ แบบดังเดิมทีได้รบั ความนิยมมาก ทีสุดของมาเลเซีย มีจังหวะทีสนกุ สนาน นักแสดงหลายคู่ เคลือนไหวอยา่ งรวดเรว็ สวยงาม เน้นอารมณ์ขัน ต้นกําเนิดมาจากการเต้นราํ ของชาวโปรตุเกส แพรห่ ลายในมะละกา ยุคทีมีการค้าเครอื งเทศ การแสดงพืนบ้านประเทศมาเลเซีย บังกรา การเต้นราํ และการแสดงดนตรพี ืนเมืองทีสนกุ สนา นของชาวซิกข์ ต้นกําเนิดมาจากการเต้นราํ ในฤดูเก็บเกียว ปจจุบนั แสดงในงานเฉลิมฉลองต่างๆ เชน่ งานแต่งงาน หรอื งานวนั ขึนปใหม่ เปนต้น เรอื งทีใชใ้ นการแสดงส่วนใหญ่เกียวกับความรกั ใชจ้ ังหวะหนักของกลองดอลเปนกลองคู่ ใหจ้ ังหวะในการขับรอ้ งและรา่ ยราํ ซาปน รบั ความนิยมในรฐั ยะโฮร์ กล่าวได้วา่ เปนการรา่ ยราํ ดังเดิมของมาเลเซียทีสะ ท้อนใหเ้ หน็ อทิ ธพิ ลของศาสนาอสิ ลามได้เด่นชดั ทีสุ ด เข้ามาในประเทศมาเลเซียเมือมิสชนั นารมี ุสลิมจาก ตะวนั ออกกลางเข้ามาเผยแผ่ศาสนา จุดประสงค์คือการสวดมนต์และเผยแพรค่ วามรูเ้ กี ยวกับประวตั ิศาสตรข์ องอารธรรมอสิ ลาม ประเทศมาเลเซีย อา้ งองิ ศิลปนผู้ทรงคุณค่า ซีตี นรู ฮ์ าลีซา เปนนักรอ้ งชาวมาเลเซีย ตังแต่เธอเปนนักรอ้ ง นายณฐพงศ์ หวงั จิ เธอได้รบั รางวลั การแข่งขันประกวดรอ้ งเพลงระดับ ม 4/9 เลขที2 นานาชาติหลายครงั เธอได้รบั ฉายาวา่ เปนเสียงแหง่ เอเชยี หลังจากชนะตําแหน่งกรงั ปรแี ชมเปยนจากเทศกา ล Voice of Asia สุดีรม์ าน อารช์ ดั เปนทังนักรอ้ ง นักแต่งเพลง นักแสดง คอลัมนิสต์ และผู้ประกอบการ ไม่วา่ บทบาทใดเขามีวญิ ญาณเอนเตอรเ์ ทนเนอรท์ ีย ากจะหาใครเทียบ ต่างประเทศรูจ้ ักเขาในฐานะนักรอ้ งชนั นํามาเลเซีย ทีชนะการประกวด Asia Music Awards 1989 ลิน ชนิ ชนิ เปนนักประดิษฐ์ศิลปนกวแี ละนักแต่งเพลงจากประ เทศสิงคโปรซ์ ึงมีรากฐานมาจากคณิตศาสตรแ์ ละเ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ศิลปนผู้ทรงคุณค่า เฉิน ชง สวี เปนนักวาดภาพสีนาชาวสิงคโปรซ์ ึงเปนศิลปนรุน่ บุ กเบิกทีสรา้ งภาพวาดสไตล์นันยางทีเปนเอกลักษณ์ ของสิงคโปรใ์ นชว่ งเปลียนศตวรรษที 20 ประเทศสิงคโปร์ อา้ งองิ การแสดงพืนบ้านสิงคโปร์ บงั สาละวนั หุน่ สิงคโปร์ เปนการแสดงละครรอ้ งเหมือนกับการแสดงโอเปร่ การแสดงหุน่ สิงคโปรไ์ ด้รบั อทิ ธพิ ลจากหลายชาติ าของทางยุโรป ทังตะวนั ออกและตะวนั ตก นิยมเล่นเพือความบันเทิง เปนการแสดงทีได้รบั ความนิยมเปนอยา่ งมากในปร ะเทศสิงคโปร์ รวมถึงมีการแสดงละครรว่ มกันระหวา่ งคนและหุน่ โดยมีจะการแสดงประกอบกับการรอ้ งบทละครออก มาเปนเพลงด้วยตัวของนักแสดงเอง พรอ้ มกับการการเต้นประกอบเสียงดนตรี ในท่าทางและอารมณ์ต่าง ๆตามบทบาททีได้รบั เชดิ สิงโต ก็มีทีมาจากเทศกาลตรุษจีนของชาว สิงคโปรเ์ ชอื สายจีน การเชดิ สิงโตจะมีการเล่นกันครกึ ครนื ด้วยเสียงกล องและประกอบด้วยเสียงจุดประทัดดังสนันไปด้วย คณะเชดิ สิงโตจํานวน 10 กวา่ คนขึนไป จะพากันแบกหวั สิงโตและกลองตระเวนไปตามหา้ ง รา้ นค้าต่างๆ ทีเปนชุมชนชาวจีนอยูห่ นาแน่น ศิลปนผู้ทรงคุณค่า คอง เนย์ เปนนักดนตรชี าวกัมพูชาจากจังหวดั ชมิ โสธี Kampot กัมพูชา ทางตะวนั ตกเฉียงใต้ของกัมพูชาทีเล่น พิณแบบคอยาวทีเรยี กวา่ chapei dang veng เขาเปนหนึงในปรมาจารยท์ ียงิ ใหญ่เพี ยงไม่กีคนทีรอดชวี ติ จากยุคเขมรแดง และเปนทีรูจ้ ักในนาม \"เรย์ ชารล์ ส์แหง่ กัมพูชา\" Chhim Sothy เปนจิตรกรและประติมากรชาวกัมพูชา ทีมีชอื เสียงโด่งดังจากความสามารถขอ งเขาในเทคนิคและสือศิลปะทีหลากหลา ย พืนบ้านของอาเซียนใน 1. ระบําท่วงท่าขแมรโ์ บราณ หรอื ยตะวนั ออกเฉียงใต้ ระบําพระราชทรพั ย์ คือ ระบําทีมีในราชสํานัก เชน่ ตม์ พพิ ฒั น์วรสกุล /9 เลขที4 ระบําเทพมโนรมย์ ระบําจูนโปร์ ระบํามุนีเมขลา ระบําสุวรรณมัจฉา เปนต้น การแสดงพนื บ้านกัมพูชา 2. ระบําประเพณีขแมร์ คือ ระบําทีจัดแสดงคู่กับงานประเพณีต่า อา้ งองิ งๆ เชน่ ระบํากัวะองั เร ระบําเนสาท ระบําตรุษ ระบําเนียงเมว ระบําเบ๊ะกรอวาน ระบํากะงอกไพลิน ระบํากันแตแร เปนต้น 3. ระบําประชาปรยิ ขแมร์ คือ ระบําพนื บ้านเขมร เชน่ การราํ วงภูมิทะเม็ย เปนต้น นายณัฐชนน ตลับทอง ม 4/9 เลขที3 การแสดงพนื บ้านฟลิปปนส์ ตินิกลิง (Tinikling) ระบําประจําชาติของฟลิปปนส์ เปนระบําของชนเผ่าพืนเมืองทีใชไ้ ม่ไผส่ องล าํ ตี – แตะกระทบกัน ผู้เต้นจะก้าวขาเต้นเปนจังหวะระหวา่ งไม่ไผ่ สองลํานัน ตินิกลิงเปนระบําทีต้องอาศัยความเชยี วชา ญและการฝกฝน ผูเ้ ต้นต้องมีความรวดเรว็ และความคล่องตัว เปนการแสดงพืนบ้านของเมืองเลยเ์ ต (Leyte) และเมืองอนื ๆ ในหมู่เกาะวซี ายสั คารโิ นซา (Carinosa) เปนระบําพืนเมืองทีได้อทิ ธพิ ลมาจากสเปน คารโิ นซา แปลวา่ คู่รกั หรอื ทีรกั เวลาเต้นจะจับคู่หญิง – ชาย ผู้หญิงจะใส่ชุด Maria Clara และถือพัด หรอื ผา้ เชด็ หน้า รา่ ยราํ แสดงท่าทางเขินอาย บทเพลงมีเนือหาชมความงามของหญิงสาว ฟลิปปนส์ อา้ งองิ วคิ ตอรโิ อ เอเดดส์ Victorio Edades ศิลปนผู้ทรงคุณค่า เปนจิตรกรชาวฟลิปปนส์ เขาเปนผู้นําการปฏิวตั ิสิบสามสมัยใหม่ซึง มีส่วนรว่ มกับเพือนรว่ มชาติคลาสสิกของ พวกเขาในการถกเถียงกันอยา่ งดุเดือดเกี ยวกับธรรมชาติและหน้าทีของศิลปะ เขาได้รบั การเสนอชอื ใหเ้ ปนศิลปนแหง่ ชา ติในป 2519 ลีไว เซเลรโิ อ Levi Celerio เปนนักแต่งเพลงและนักเขียนเพลงชาวฟลิปปนส์ที ได้รบั เครดิตจากการเขียนเพลงมากกวา่ 4,000 เพลง Celerio ได้รบั การยอมรบั วา่ เปนศิลปนแหง่ ชาติของฟลิปปน ส์ด้านดนตรแี ละวรรณกรรมในป 1997 อา้ งองิ เมเรยี ไอเรส ประเทศบรูไน เมเรยี ไอเรส เปนศิลปนทีประสบความสําเรจ็ วงดนตรี ผลงานเพลง ของประเทศบรูไน เธอได้รบั รางวลั การประกวดไอดอล เมเรยี ไอเรส วยั 24 ป เธอเปนเจ้าของรางวลั มากมาย รวมถึงนักรอ้ งหญิงยอดเยยี ม Pelangi Awards เปนเจ้าของหลายเพลงดังรวมถึง Bisik Hati ซึงติดอนั ดับหนึงในหลายชารต์ ศิลปนผูท้ รงคุณค่า อาลุส ูวา ดินดัง การเเสดงพืนบา้ นประเทศบรูไน มูฮมั มัด ไซยาฟก อบั ดิลลา บิน ซอนนี คือการแสดงฟอนราํ ของชาวบรูไน เกิดเมือวนั ที 11 เมษายน 1999 เปนผู้แข่งขันทีอายุน้อยทีสุดใน เปนประเพณีทีสืบต่อกันมาจากสมัยโบราณ ซาปน \"ASEAN+3 Singing\" 2019 ผู้ทีหลงใหลในการรอ้ งเพลงตังแต่วยั เด็ก มักมีแสดงในงานแต่งาน มีนักเต้นทังผูช้ ายและผู้หญิง ระบําพืนบ้านของชาวมาลายู ทําการฟอนราํ และรอ้ งเพลงประกอบ ประกอบด้วยดนตรหี ลากหลายเลือกใชต้ ามแต่วาระ ไซยาฟก ฝกฝนและเปดตัวอยา่ งเปนทางการอยา่ งต่อเนือง โดยมากมักเล่นด้วยเรบานา (Rebana) ด็อมบาค สายตาของผู้ชมในป 2015 เขาก็เรมิ หดั เล่นกีตารต์ ังแต่นันเปนต้นมา (Dombak) กัมบุล(gambud) และไวโอลิน อะได- อะได ในอดีตเปนเพลงทีรอ้ งจากชาวประมงเวลาหาปลา ทีชว่ ยกันลากอวน ปจจุบันนีแสดงสวมชุดแต่งกายแบบชาวเล นํามาบรรเลงประกอบฟอนราํ บนเวที ซึงบรรเลงอะได-อะได สลับกับการท่องโลกโคลงแบบมาเลย์ เรยี กวา่ “ปนตุน” เครอื งดนตรขี นึ หลักได้แก่ ไวโอลินและกลอง
ม.4/9 กลุ่ม 7 1. เตน้ กาํ ราํ เคียว เป็นการเเสดงพ้นื เมืองท่ีเก่าเเก่ของชาวชนบทในภาคกลาง ในแถบจงั หวดั อะไร ก. กรุงเทพมหานครฯ ข. ปทุมธานี ค. ราชบุรี ง. นครสวรรค์ นายฐานานุศกั ด์ิ จนั ทร์รงค์ ม.4/9 เลขที่ 1 2. ซาปิ นเป็นการร่ายรําด้งั เดิมของมาเลเซียท่ีสะทอ้ นใหอ้ ิทธิพลของศาสนาใดไดช้ ดั เจนที่สุด ก. ศาสนาพทุ ธ ข. ศาสนาศริสต์ ค. ศาสนาอิสลาม ง. ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู นายณฐพงศ์ หวงั จิ ม.4/9 เลขที่ 2 3. คาริโนซาการแสดงพ้นื บา้ นของประเทศฟิ ลิปปิ นส์ บทเพลงมีเน้ือหาในเรื่องใด ก. ชมความงามของหญิงสาว ข. ความรักของชายหญิง ค. ชมความงามของธรรมชาติ ง. ความอาลยั อาวรณ์ นายณฐั ชนน ตลบั ทอง ม.4/9 เลขท่ี 3 4. ซาปิ น ระบาํ พ้นื บา้ นของชาวมาลายู ประกอบดว้ ยเครื่องดนตรีชนิดใดบา้ ง ก. เรบานา ข. ดอ็ มบาค ค. กมั บุล ง. ถกู ทุกขอ้ นายพิช�ุตม์ พพิ ฒั นว์ รสกลุ ม.4/9 เลขที่ 4 5. การลาํ สาละวนั เป็นการแสดงพ้นื บา้ นของประเทศลาว ซ่ึงกาํ เนิดมาจากพิธีกรรมความเช่ือเรื่องใด ก. ความเช่ือในเรื่องพญานาค ข. การทรงผไี ทผ้ แี ถน ค. ความเช่ือในเรื่องโชคลาง ง. งานบุญประจาํ หม่บู า้ น นายพชิ าภพ ซุน้ ซิ่ม ม.4/9 เลขท่ี 5 เฉลย 1. ง 2. ค 3. ก 4. ง 5. ข
“ตง้ั ในอา่ นหนงั สอื นะคะเดก็ ๆ เกรดส่ีอย่ไู มไ่ กลแลว้ ครูเปน็ กาลังใจให้นะคะ” วชิ าศลิ ปะ 2 ศ31102 นาฏศลิ ปแ์ ละการละคร ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ครูโชติกา หนสู วสั ดิ์
สมาชกิ ในกลุ่ม Work กล่มุ : นายอทิ ธกิ ร เสนาวลั ย์ (อานัส) เลขที 5 E-mail [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0805579769 Facebook : Rnus Ittigorn Line :0805579769 เลขานกุ าร นายกชพล ชูประพันธ์ (ลัคกี) เลขที 1 E-mail : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0617358688 Facebook : กชพล ชูประพันธ์ Line : กชพล ชูประพนั ธ์
หวั หน้ากลุ่ม: นายภูรพิ ฒั น์ ทองคงเเก้ว (ภู) เลขที 8 E-mail [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ 0807107123 Facebook ภูรพิ ฒั น์ ทองคงเเก้ว Line poo710485 Group รองหวั หน้ากลุ่ม :นาฏศิลปสรา้ งสรรค์ นายนพดล ชูสวา่ ง (ที) เลขที 2 E-mail : [email protected] เบอรโ์ ทรศัพท์ : 0948818543 Facebook : นพดล ชูสวา่ ง Line : teeza254999
อา้ งองิ https://livejap สืบค้นเมือวนั ท การเเสดงพืนบ้านประเทศญีปุน ผู้แสดงต้องได้รบั การฝกฝนอยา่ งมีแบบแผน นักแสดง ดนตรที ีใชป้ ระกอบ ดนตรี ทีใชป้ ระกอบการแสดง นายนพดล ชูสวา่ ด้วยระยะเวลายาวนานจนมีฝมือยอดเยยี ม ในวงดนตรจี ะมีผู้ขับรอ้ ง 2 คน การเเสดงพืนบ้านอาเซียน คนหนึงจะตีฉิง คอยใหจ้ ังหวะแก่ผู้เต้น สามารถเครอื งไหวรา่ งกายได้สอดคล้องกับจังหวะดนตรี อกี คนจะเปนผู้ขับรอ้ งและตีกลองเปนหวั ใจส นายภูรพิ ัฒน์ ทองคงเเก้ว ม 4/1 เลขที 8 เนือหาสาระของการแสดง ําคัญของการแสดงภารตะนาฏยมั ส่วนเครอื งดีด และเครอื งเปา การเเสดงพืนบา้ นเกาหลี สะท้อนสัจธรรมทีปลูกฝงยดึ มันในคําสอนของศาสนา เปนเพียงส่วนประกอบใหเ้ กิดความไพเราะเท่ แสดงได้ทุกสถานที ไม่เน้นเวที ฉาก านัน ประวตั ิความเปนมา เพราะความโดดเด่นทีเปนเอกลักษณ์ของภารตะนาฏยมั คือลีลาการเต้น และการา่ ยราํ ประวตั ิความเปนมาของภารตนาฏยมั การเเสดงพืนบ้านประเทศอนิ เดีย นายกชพล ชูประพันธ์ ม 4/1 เลขที 1 ภารตนาฏยมั ภารตนาฏยมั เปนนาฏศิลปทีเก่าแก่ทีสุดในอนิ เดีย https://www.gotoknow.org/posts/408293 มีส่วนสําคัญในพิธขี องศาสนาฮนิ ดูสมัยโบราณ สืบค้นเมือวนั ที 26 พฤษจิกายน พ ศ 2564 สตรฮี นิ ดูจะถวายตัวรบั ใชศ้ าสนาเปน “เทวทาสี” รา่ ยราํ ขับรอ้ ง บูชาเทพในเทวาลัย ซึงจะเรมิ ฝกตังแต่อายุ 5 ขวบ ศึกษาพระเวท วรรณกรรม ดนตรี การขับรอ้ งของเทวทาสีเปรยี บประดุจนางอปั สรทีทําหน้าทีรา่ ยราํ บน สวรรค์ อา้ งองิ บุคคลสําคัญ สาวติ า สัสตรี เปนนักเต้นราํ และนักออกแบบท่าเต้ นชาวอนิ เดียทีรูจ้ ักกันดีคือภารตนาฏ ยมั เธอเปนทีรูจ้ ักในการแสดงภารตนาฏ ยมั แบบดังเดิม ตัวอยา่ งการแสดงพนื บ้านอาเซียนhttps://yout u.be/a6OCwIbOhCo ชงั กูชุม หรอื ชงั โกชุม ชุดทีใชป้ ระกอบการเเสดงช ลักษณะกลองทีใชป้ ระกอบการเเสดง อา้ งองิ https:// 321e1o สืบค้นเม
ประวตั ิความเปนมาของละครโน ต้นกําเนิดของละครโนมาจากละคร \"Sarugaku”ทีมาจากประเทศจีน ซึงตรงกับสมัยนารา หรอื ราวปค ศ 700โดยละคร Sarugaku ทีมีการเลียนแบบท่าทางพรอ้ มกับการแสดง และการแสดงบทเพลงทีฟงดูเปนตลกขบขันนัน ได้รบั ความนิยมในฐานะการแสดงมหรสพทีจัดขึนตามวดั และศาลเจ้า และแพรห่ ลายไปยงั หมู่คนทัวไปในเวลาต่อมา ในปจจุบัน ละครโนสามารถรบั ชมได้ในหลายพืนทีในญีปุนในฐานะการแสดงพืนบ้านและพิธกี รรมศักดิสิทธิ และยงั เปนทียอมรบั ในต่างประเทศเปนอยา่ งมาก pan.com/th/article-a0000298/ การแสดงของนักดนตรที ีเล่นเพลงใหเ้ ขา้ กับแต่ละฉาก ที 26 พฤษจิกายน พ ศ 2564 เปนสิงทีขาดไม่ได้สําหรบั เวทีละครโน เครอื งดนตรที ีใชล้ ้วนเปนองค์ประกอบสําคัญของละครโน โดยเครอื งดนตรที ีใชน้ ันมีขลุ่ย (ทีเวลาเปาจะขนานกับพนื ) เรยี กวา่ \"Noukan” กลองเล็กทีสะพายไหล่ กลองใหญท่ ีคาดไวท้ ีเอว กลองใหญท่ ีใชไ้ ม้ตีใหญ่ โดยนักดนตรจี ะออกเสียง เสียงยะ (Ya-goe) และเสียงฮะ (Ha-goe) เพือเพมิ ความสนกุ สนานครนื เครง Nougaku (ละครโน) เพลงในละครโน าง ม 4/1 เลขที2 นักแสดงละครโน นักแสดงหลักของละครโนจะเรยี กวา่ \"Shi-te\" ๑ โดยไม่ใชเ่ พียงแค่มนษุ ยเ์ ท่านัน แต่ยงั มีบทครอบคลุมหลากหลายบทบาท การแสดงหนุ่ เกิดจากจินตนาการของประติมากรในสมัยโบราณศิ บุคคลสําคัญ ไม่วา่ จะเปนเทพเจ้า นักรบ วญิ ญาณ วญิ ญาณหญิงสาว ปศาจสาว เท็นงู ลปะประติมากรรมยงั นิยม สรา้ งเปนรูปเหมือนแบบ เชน่ รูปปน Zeami Motokiyo (วญิ ญาณบนภูเขา มีจมูกยาวและผิวสีแดง) หรอื เทพเจ้ามังกร คน สัตว์ และผู้ทีแสดงรว่ มกับ Shi-te จะเรยี กวา่ \"Waki\" และสิงของรูปเหล่านีในขั้นแรกเปนรูปนิงเคลือนไหวไม่ได้ มีบทบาทสําคัญทีขาดไม่ได้เลยในแทบทุกบทแสดง ประติมากรอาจมีจินตนาการไปไกลวา่ เมือปนเปนรูปเหมือนแล้วก็ควรใหเ้ คลือนไหวเหมือนคนจรงิ ด้วย ประวตั ิความเปนมาการเเสดงหุน่ จีน ด้วยเหตุนีจึงคิดประดิษฐ์กลไกในตัวหนุ่ ใหเ้ คลือนไหวตามต้องการ ความคิดและการสรา้ งหนุ่ ให้ เคลือนไหวของประติมากร การเเสดงพนื บ้านประเทศจีน* หุน่ จีน ๒ การแสดงหน่ ุ ลักษณะหุน่ จีน เปนพัฒนาการของการแสดงคนจรงิ หุน่ จีนมีรูปรา่ งลักษณะใหญ่เท่ากับตัวคน นายอทิ ธกิ ร เสนาวลั ย์ ม 4/1 เลขที 5 การมหรสพทีใชค้ นจรงิ ๆนั้นเปนมหรสพที ส่วนประกอบของหนุ่ จีนก็มีส่วนศีรษะและมือทั้ง ๒ ข้าง เก่าแก่อาจจะเปนทีซาซากจําเจแก่คนดู ส่วนลําตัวใชก้ ระบอกไม้ไผ่ทั้งปล้องสวมตั้งแต่คอลงมา อาจจะมีคณะมหรสพใชค้ นจรงิ แสดงหลายคณะจนเกิ ส่วนศีรษะและลําตัวถอดออกจากกันได้ ดการ แข่งขัน การสรา้ งศีรษะหนุ่ จีนนั้นจะต้องหาไม้เนื้อดีไม่มีตาไม้เพราะจะทําใ และเพือประหยดั และได้ผลประโยชน์สูง หย้ ากแก่การแกะสลัก และไม้นั้น จะต้องเปนไม้เนือออ่ น เมือหาไม้มาได้แล้วจะต้องขัดเกลาเสียก่อนจนกวา่ ชา่ งแกะสลักจ ลักษณะหุน่ จีน ะพอใจ เมือชา่ ง พอใจแล้วก็จะนํามาสลักใหเ้ ปนรูปศีรษะ รูปหน้าตา และลําคอ ส่วนลําคอนีชา่ งจะต้องทําใหล้ ําคอยาว เพือจะสอดลงไปกับแก่นลําตัวของหุน่ ได้ เมือได้รูปศีรษะเรยี บรอ้ ยแล้วขั้นต่อไปจึงหาด้ายรดั ใหเ้ กลียง เกลา ประเภทของหุน่ จีน ๑ การแสดงหนุ่ ด้วยสายโยงใยบังคับจากเบืองบน ๒ การแสดงหนุ่ ด้วยมือ บุคลสําคัญ หลักฐานลายลักษณ์อกั ษรทีระบุไวอ้ ยา่ งชดั เจน นันคือ หนังสือสาส์นสมเด็จ ลายพระหตั ถ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานภุ าพ และสมเด็จฯ เจ้าฟากรมพระยานรศิ รานวุ ดั ติวงศ์ ซึงทังสองพระองค์ใชเ้ วลาทีวา่ งโต้ตอบวจิ ารณ์ ประทานคําอธบิ ายเกียวกับวทิ ยาการต่างๆ เชน่ ประวตั ิศาสตร์ โบราณคดี วรรณคดี และศิลปะ ฯลฯ โดยเรมิ ตังแต่ป พ ศ 2475 ซึงเปนปทีสมเด็จพระเจ้าบราวงศ์เธอกรมพระยาดํา รงราชานภุ าพ เสด็จออกไปประทับอยู่ ณ บ้านชนิ นามอน เกาะปนัง อา้ งองิ http://culture.mcru.ac.th/8-th/85-th/5.pdf สืบค้นเมือวนั ที 26 พฤษจิกายน พ ศ 2564 นาฏศิลปของเกาหลี การแสดงระบําชงั กูเปนการแสดงทีถูกรอื ฟนขึนมาใหม่ ซึงก่อนหน้านีมันได้ถูกกวาดล้างไปพรอ้ ม ๆกับวฒั นธรรมของเกาหลีในยุคสมัยทีถูกญปี ุนยดึ ครอง การแสดงชุดนีจะใชน้ ักแสดงผู้หญงิ เท่านัน จะใชค้ นเดียวหรอื เปนกลุ่มก็ได้ งั กูชุม ชงั กูชุม” ถือวา่ เปนการรา่ ยราํ ทีไม่ได้แต่งองค์ทรงเครอื งซับซ้อนอะไรมา ก มีเพียงแค่ชุดฮนั บก กลองจังโก และสายคาดกลองก็ราํ ได้แล้ว ด้วยความงา่ ยในการเตรยี มตัวนีเอง ทําใหช้ าวเกาหลีนิยมแสดง “ชงั กูชุม” ในงานเทศกาลหรอื งานฉลอง ใชก้ ลองจังโกประกอบการเเสดง จังโกเปนกลองพืนบ้านรูปนา ิกาทราย ทีนิยมใชก้ ันในดนตรแี ละนาฏศิลปเกาหลี ไม่วา่ จะเปนในดนตรรี าชสํานัก ดนตรชี าวบา้ น ดนตรชี าวนา บุคคลสําคัญ พระเจ้าเซจงมหาราช เปนพระมหากษัตรยิ เ์ กาหลีรชั กาลที 4 แหง่ ราชวงศ์โชซ็อน ครองราชยร์ ะหวา่ ง พ ศ 1961 ถึง พ ศ 1993 ทรงเปนทีรูจ้ ักในการทีทรงประดิษฐ์อกั ษรเกาหลี ฮนั กึล และทรงเปนหนึงในสองกษัตรยิ เ์ กาหลีทีได้รบั สมั ญญาวา่ เปนมหาราช /th49.ilovetranslation.com/yYGCXeH5E4hOKr o5W==d/ : มือวนั ที 26 พฤษจิกายน พ ศ 2564
Search