ก ชือ่ โครงงาน โครงงาน ร้อยเรยี งกาพย์ลานา สกู่ ารจดั ทานทิ านสอนใจ หา่ งไกลไวรสั โคโรนา ผู้จดั ทา เด็กหญงิ ธมลวรรณ ศรีพฒั น์ เด็กหญงิ อรพรรณ จนั ทะสอน ครูทปี่ รกึ ษา เดก็ หญิงญาณศิ า สมจติ ต์ ระดับชน้ั นางสาวชตุ ิมา ใจปลื้ม ปกี ารศึกษา มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑-๓ ๒๕๖๕ บทคดั ยอ่ โครงงานภาษาไทย เรือ่ ง ร้อยเรยี งกาพยล์ านา สู่การจัดทานทิ านสอนใจ หา่ งไกลไวรสั โคโรนา มีวัตถุประสงค์ (๑) เพ่ือศึกษาและเผยแพร่ความรู้เก่ียวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID- ๑๙) (๒) เพ่ือจัดทานิทานกาพย์ยานี ๑๑ เผยแพร่ความรู้เก่ียวกับโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) แก่ผู้ที่สนใจ (๓) เพ่ือสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อโครงงาน ร้อยเรียงกาพย์ลานา สู่การจัดทานิทานสอนใจ ห่างไกลไวรัสโคโรนา โดยคณะผู้จัดทาได้ดาเนินการศึกษาข้อมูลเก่ียวกับ นิทาน โรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) และกาพย์ยานี ๑๑ โดยวธิ ีการสืบค้น ข้อมูลจาก หนังสือและแหล่งข้อมูลความรู้ต่าง ๆ ทั้งรูปแบบเอกสาร สัมภาษณ์และออนไลน์ จากนั้นนาความรู้ ที่ได้มาแต่งเรียบเรียงเป็นนิทานด้วยคาประพันธ์ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ ท่ีมีเน้ือหาสอดคล้องกับ ความหมาย การแพรร่ ะบาด วธิ ีการปอ้ งกนั วัคซนี ลักษณะอาการ และวธิ ีอย่รู ่วมกบั ผปู้ ว่ ยตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) จากน้ันเผยแพร่โครงงานแก่ผู้ท่ีสนใจและสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อ โครงงาน โดยกาหนดกลุ่มเป้าหมาย ๑๐๐ คน ไดแ้ ก่ นักเรียน ๔๐ คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ๔๐ คน และผู้ปกครอง ๔๐ คน เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการเก็บข้อมูลคือ แบบสอบถามความพึงพอใจท่ีมีต่อ โครงงาน รูปแบบมาตรประมาณค่า (Rating Scale) ๕ ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถาม โดยใช้ค่าร้อยละ และค่าเฉลี่ย ( ) ผลการศึกษาทาให้ได้รับความรู้เก่ียวกับนิทาน โรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) กาพย์ยานี ๑๑ และได้นิทานกาพย์ยานี ๑๑ จานวน ๖ เล่ม ซ่ึงมีเนื้อ เรื่องเก่ียวกับ ความหมาย การแพร่ระบาด วธิ ีป้องกัน วัคซีนปอ้ งกัน การติดเชื้อ วิธีอยู่ร่วมกับผู้ติดเช้ือ โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-๑๙) ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจ พบว่า กลุ่มเป้าหมายมี ความพึงพอใจต่อโครงงานในภาพรวม ค่าเฉลี่ย ๔.๕๗ อยู่ในระดับมากท่ีสุด เมื่อพิจารณาเป็นด้าน พบว่า กลุ่มเป้าหมายมีความพึงพอใจด้านความรู้มากท่ีสุด ค่าเฉลี่ย ๔.๕๗ อยู่ในระดับมากท่ีสุด รองลงมาคอื ดา้ นการสร้างความพึงพอใจ คา่ เฉลย่ี ๔.๕๕ อยู่ในระดบั มากท่สี ุด และดา้ นการสร้างความ ตระหนัก ค่าเฉลี่ย ๔.๖๐ อยู่ในระดับมากท่ีสุด ตามลาดับ ซ่ึงการเผยแพร่นี้จะช่วยกระตุ้นให้เกิด ความตระหนกั และปฏบิ ัติตนได้ถกู ต้องเม่อื ติดเชือ้ และป้องกนั ตนเองจากโรคได้
Search
Read the Text Version
- 1 - 1
Pages: