Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนสังคม ป.4-หน่วยที่ 1 ประวัติและความสำคัญของศาสนา

แผนการสอนสังคม ป.4-หน่วยที่ 1 ประวัติและความสำคัญของศาสนา

Description: แผนการสอนสังคม ป.4-หน่วยที่ 1 ประวัติและความสำคัญของศาสนา

Search

Read the Text Version

บันทกึ ขอ้ ความ ส่วนราชการ โรงเรียนวดั พชื นิมิต (คำสวัสดิ์ราษฎร์บำรุง) ท่ี……………………วนั ท่ี ………………………………… เรื่อง ขออนุญาตใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ เรยี น ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวดั พืชนิมิต (คำสวสั ดริ์ าษฎร์บำรุง) ด้วยข้าพเจ้า นางสาวอญั ชลี อนุ่ ทะยา ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย โรงเรยี นวดั พืชนมิ ิต (คำสวัสดร์ิ าษฎรบ์ ำรงุ ) ไดร้ ับ มอบหมายใหป้ ฏิบัติหนา้ ทกี่ ารสอน รายวิชาสงั คมศึกษา รหัสวิชา ส14101 กลุม่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและ วัฒนธรรม ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 บัดนี้ ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมการสอน และจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ข้าพเจ้าจึงขออนุญาตดำเนินการสอน ตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งแนบเอกสารหน่วยการเรียนที่ 1 ชื่อหน่วย ประวัติและความสำคัญของ ศาสนา เวลาเรียน 4 ช่วั โมง มาพร้อมกบั เอกสารนี้ จึงเรยี นมาเพอื่ โปรดทราบ ลงชื่อ.............................................................. (นางสาวอัญชลี อุน่ ทะยา) ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย ลงชอ่ื .............................................................. (นางสาวจรี วรรณ ปฏวิ งศ์) หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษาฯ ความเห็นผอู้ ำนวยการโรงเรยี น อนญุ าต ไมอ่ นญุ าต เพราะ ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ .............................................................. (นางสาวกนั ยาภทั ร ภัทรโสตถ)ิ ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั พชื นมิ ิต (คำสวสั ดิร์ าษฎร์บำรงุ ) ............./................../.............

ส๑๔๑๐๑ สงั คมศึกษา ฯ คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔ กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๘๐ ช่ัวโมง ศึกษาความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา สรุปพุทธศาสนา (ทบทวน) พุทธสาวก พุทธสาวิกา ชาดก ศาสนิกชน ตัวอย่าง พระรัตนตรัย ไตรสิกขา โอวาท ๓ พุทธศาสนสุภาษิตตัวอย่าง การกระทำความดีของตนเองและบุคคลใน ครอบครัว โรงเรยี นและชมุ ชน สวดมนต์ไหวพ้ ระ สรรเสริญคุณพระรตั นตรัยและแผ่เมตตา หลักธรรมเพือ่ การอยู่ร่วมกัน อย่างสมานฉันท์ ประวัติศาสดา ความรู้เบือ้ งต้นและความสำคัญของศาสนสถาน การแสดงความเคารพต่อศาสนสถาน การบำรุง ศาสนสถาน มรรยาทของศาสนิกชน การปฏิบัติตนในศาสนพิธีการเข้าร่วมกิจกรรมประชาธิปไตยของชุมชน แนวทางการปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ดี ีของชุมชน การเป็นผูน้ ำและผู้ตามท่ดี ี สทิ ธิพ้นื ฐานของเด็ก วัฒนธรรมในภาคต่าง ๆ ของไทยที่แตกต่างกัน ปัญหาและสาเหตุของการเกิดความขดั แย้งในชีวิตประจำวัน แนวทางการแก้ปัญหาความขัดแยง้ ด้วยสันติวิธี อำนาจอธิปไตย ความสำคัญของการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย บทบาทหน้าที่ของพลเมืองใน กระบวนการเลือกตั้ง สถาบันพระมหากษัตรยิ ใ์ นสังคมไทย ความสำคัญ ของสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ในสังคมไทย สินค้า และบริการที่มีอยู่หลากหลายในตลาดที่มีความแตกต่างด้านราคาและคุณภาพ ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อสินค้าและ บริการที่มีมากมาย ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ซื้อ ผู้ขาย และตัวสินค้า สิทธิพื้นฐานของผู้บริโภค สินค้าและบริการที่มีเครื่องหมาย รับรองคุณภาพ หลักการและวิธีการเลือกบริโภค หลักการของเศรษฐกิจพอเพียง การประยุกต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการดำรงชีวิต อาชีพ สินค้าและบริการต่าง ๆ ที่ผลิตในชุมชน การพึ่งพาอาศัยกันภายในชุมชนทางด้าน เศรษฐกิจ การสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนด้วยการใช้สิ่งของที่ผลิตในชุมชน ความหมายและประเภทของเงิน หน้าที่ เบื้องต้นของเงินในระบบเศรษฐกิจ สกุลเงินสำคัญทีใ่ ช้ในการซือ้ ขายแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ การใช้แผนที่ ภาพถ่าย ลักษณะทางกายภาพของจังหวัดปทุมธานี แหล่งทรัพยากรและสิ่งต่าง ๆในจังหวัดปทุมธานี การใช้แผนที่แสดง ความสมั พนั ธข์ องสิง่ ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในจังหวดั ปทุมธานี ลักษณะทางกายภาพ(ภมู ิลกั ษณ์หรือภูมปิ ระเทศและภูมอิ ากาศ) ท่ี มีผลต่อสภาพสังคมของจังหวัดปทุมธานี สภาพแวดล้อมทางกายภาพของชุมชน ที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของคนใน จังหวัดปทุมธานี การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในจังหวัดปทุมธานีและผลที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลง การอนุรักษ์ ส่ิงแวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาติในจงั หวดั ปทุมธานี โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบคน้ ข้อมูล การอธิบาย การวเิ คราะห์และการ อภิปราย กระบวนการกลุ่ม เกมสร้างทักษะ เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสาร สง่ิ ท่ีเรียนรู้ มคี วามสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต การคิด วิเคราะห์ การตัดสินใจและการแก้ปัญหา เห็นคุณค่าของการนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน สามารถปรับตัวเองกับ บรบิ ทสภาพแวดล้อม เป็นพลเมอื งดี มีความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สัตยส์ จุ ริต มวี นิ ยั รักความเป็นไทย ใฝเ่ รียนรู้ มีจติ สาธารณะ และมีคณุ ธรรมและค่านยิ มทเ่ี หมาะสม

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด ส ๑.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕ , ป.๔/๖ , ป.๔/๗, ป.๔/๘ ส ๑.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ส ๒.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕ ส ๒.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ส ๓.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ส ๓.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ ส ๕.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ส ๕.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ รวม ๘ มาตรฐาน ๓๐ ตวั ชี้วดั

แผนผงั มโนทัศน์เป้าหมายการเรียนร/ู้ หลกั ฐานการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge : K) ทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสำคญั ของศาสนา 1. การสบื คน้ ข้อมูล 1. ซื่อสัตยส์ ุจรติ 2. พระพทุ ธศาสนา 2. การสังเกต 2. มีวินยั 3. ศาสนาคริสต์ 3. การอธบิ าย 3. ใฝเ่ รยี นรู้ 4. ศาสนาอิสลาม 4. การนำความรไู้ ปใชใ้ นชีวติ 4. มงุ่ มั่นในการทำงาน ประจำวนั 5. มจี ิตสาธารณะ เป้าหมายการเรยี น เรื่อง ประวตั แิ ละความสำคัญของศาสนา หลกั ฐานการเรียนรู้ 1. จดบันทึกความรู้ลงสมุด 2. แผนผงั ความคิด เรื่อง องคป์ ระกอบของศาสนาตา่ ง ๆ 3. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - หลงั เรียน

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม วิชาสงั คมศึกษา ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 4 ช่ัวโมง เร่อื ง ประวัติและความสำคัญของศาสนา 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวัด มาตรฐานการเรียนรู้ : ส ๑.๑ รู้ และเข้าใจประวตั ิ ความสำคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือ ศาสนาที่ตนนบั ถอื และศาสนาอ่ืน มศี รัทธาทถี่ ูกต้อง ยดึ มน่ั และปฏบิ ัติตามหลักธรรม เพอื่ อยู่รว่ มกันอย่างสนั ติสุข ตวั ชีว้ ัด : ป.4/1 อธบิ ายความสำคัญของพระพทุ ธศาสนา หรอื ศาสนาที่ตนนบั ถือในฐานะเปน็ ศนู ยร์ วมจิตใจ ของศาสนกิ ชน 2. สาระสำคญั ศาสนาแตล่ ะศาสนามคี วามสำคญั ในฐานะเป็นเครือ่ งยดึ เหนีย่ วจติ ใจ เป็นศนู ยร์ วมการทำความดี และเป็นแหล่ง ทำกิจกรรมทางสงั คม การศกึ ษาประวตั ิของศาสนา ศาสดาของแตล่ ะศาสนานนั้ จะทำให้เรามีความเข้าใจศาสนาต่าง ๆ มากขึน้ และสามารถอย่รู ่วมกันไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ความสำคญั ของศาสนา 3.2 พระพุทธศาสนา 3.3 พระพุทธศาสนา 3.4 ศาสนาครสิ ต์ และศาสนาอิสลาม 4. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในใช้ทกั ษะชวี ิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 4. มีจิตสาธารณะ 6. ชนิ้ งาน/ภาระงาน 1. จดบนั ทึกความรู้ลงสมุด 2. แผนผังความคดิ เรือ่ ง องค์ประกอบของศาสนาต่าง ๆ 3. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - หลงั เรยี น 7. บูรณาการ ภาษาไทย ฟงั พูด อ่าน และเขยี น ศลิ ปะ วาดภาพระบายสี

8. การวัดและประเมินผล เครือ่ งมือ เกณฑ์ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น/หลังเรียน วธิ กี าร หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน/หลงั เรียน แผนผงั ความคิด เรอ่ื ง องค์ประกอบของ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 ศาสนาตา่ ง ๆ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแผนผังความคดิ เร่ือง องค์ประกอบของ ศาสนาต่าง ๆ แบบประเมนิ การจดบนั ทกึ ความรู้ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมนิ การจดบนั ทกึ ความรู้ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตความมีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มัน่ ในการทำงาน และมจี ติ สาธารณะ 9. กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมท่ี 1 เรือ่ ง ความสำคัญของศาสนา นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนเพอ่ื เปน็ การทดสอบความรู้ ครูนำภาพเก่ียวกับกิจกรรมของศาสนาตา่ ง ๆ สัญลกั ษณ์ของศาสนาตา่ ง ๆ มาใหน้ กั เรียนดู แลว้ ถามนกั เรียนว่า ภาพท่ีเหน็ เป็นภาพอะไร เกี่ยวขอ้ งกบั ศาสนาใดบ้าง และสงั เกตเห็นไดจ้ ากอะไร ครใู หน้ กั เรียนศึกษาความรเู้ รื่อง ความสำคญั ของศาสนา จากหนงั สอื เรียนสงั คมศึกษา แลว้ บนั ทกึ ความรทู้ ่ีได้ลงในสมดุ พร้อมอธบิ ายเพิม่ เติม จากน้ันนักเรียนร่วมกนั สนทนาจนมคี วามคิดเห็นทีต่ รงกันวา่ ทุกศาสนา มีความสำคัญตอ่ ผ้ทู ่นี บั ถือ ดังนน้ั เราจงึ ควรศึกษาเรือ่ งราวประวตั คิ วามเป็นมาของศาสนาที่ตนนับถือ และครูขออาสา สมคั รนกั เรยี น 3 คน ออกมาแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั ความสำคัญของศาสนาให้เพือ่ น ๆ ฟัง โดยครสู รปุ ความคิดเห็น ของนักเรียนและให้คำแนะนำหรอื ความรู้เพิ่มเติม กจิ กรรมที่ 2 เรื่อง พระพทุ ธศาสนา ครูนำภาพความสำคญั ของพระพุทธศาสนามาให้นักเรยี นดูอกี คร้ัง แลว้ สอบถามวา่ ภาพนี้สอดคลอ้ งกบั ความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะศาสนาประจำชาติในประเด็นใด และนักเรียนมแี นวทางในการปฏิบัติตน เหมาะสมในการแสดงออกถงึ การเหน็ คุณคา่ และความสำคญั ในฐานะศาสนาประจำชาตไิ ด้อย่างไร ครสู ังเกตการตอบ คำถามของนักเรยี น แลว้ อธบิ ายเพิม่ เตมิ เพอื่ ใหน้ กั เรยี นเหน็ ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนาในฐานะศาสนาประจำชาติใน ด้านตา่ ง ๆ และครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นซกั ถามขอ้ สงสยั ต่าง ๆ เกี่ยวความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนาจากเรอื่ งที่ไดร้ บั มอบหมายใหไ้ ปอา่ นมาโดยครูตอบขอ้ สงสัย และอธบิ ายเพ่มิ เตมิ จากนั้นให้นักเรยี นดูภาพการดำเนินชวี ิตของคนไทยที่ เก่ยี วข้องผกู พนั กบั พระพทุ ธศาสนาตัง้ แตเ่ กดิ จนตาย เชน่ ภาพการทำบญุ วันเกิด การข้ึนบ้านใหม่ การบวชนาค การ แต่งงาน งานศพ แล้วซักถามนกั เรียนในประเดน็ ตอ่ ไปนี้  เป็นภาพพธิ ีกรรมเกีย่ วกับอะไร  นกั เรยี นเคยเขา้ รว่ มพิธีกรรมเหล่านีห้ รอื ไม่ ถา้ เคย มีความรู้สึกอย่างไร  ทำไมการดำเนนิ ชวี ิตของคนไทยสว่ นใหญจ่ ึงเกย่ี วข้องผกู พนั กับพระพุทธศาสนา กิจกรรมที่ 3 เรอ่ื ง พระพทุ ธศาสนา ครนู ำภาพพทุ ธประวัตหิ รอื ภาพปญั จวัคคยี ท์ งั้ 5 ให้นักเรียนดูแลว้ สนทนาซักถามนกั เรยี นว่าบุคคลในภาพคอื ใคร เก่ียวข้องกบั พทุ ธประวัตติ อนใด ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั ตอบ และครูสังเกตการตอบคำถามของนกั เรียน แลว้ อธบิ ายเพิ่มเติม เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นเหน็ ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาในฐานะศาสนาประจำชาตใิ นด้านต่าง ๆ และใหน้ ักเรียนแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม แต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทน 1 คน ออกมาจับฉลากเลือกหวั ข้อเกยี่ วกบั เหตุการณ์หลงั พระพุทธเจา้ ทรงตรสั รู้และ ประกาศธรรม กลมุ่ ละ 1 หวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ี

 โปรดปญั จวัคคยี ์ทง้ั 5  โปรดชฎิล 3 พ่นี อ้ ง และบริวาร  โปรดพระเจ้าพมิ พสิ าร  แสดงโอวาทปาตโิ มกข์ และใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอหน้าชัน้ เรียน และรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ กจิ กรรมท่ี 4 เรอื่ ง ศาสนาครสิ ต์ และศาสนาอิสลาม ครซู ักถามนกั เรียนว่าใครนับถือศาสนาอน่ื นอกเหนอื จากศาสนาพุทธ หรอื รูจ้ ัก หรอื เคยเหน็ ผู้ทนี่ ับถอื ศาสนาอื่นที่ นอกเหนอื จากศาสนาพทุ ธหรอื ไม่ และศาสนาน้ันคือศาสนาอะไร มีใครเปน็ ศาสดาของศาสนาน้นั ให้นักเรียนช่วยกันตอบ และครสู นทนากบั นกั เรยี นวา่ นอกจากพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาครสิ ตท์ นี่ ักเรยี นนับถอื แล้ว นกั เรยี นรู้จักศาสนาอิสลาม หรอื ไม่ และศาสนาอิสลามมีความสำคัญและความเปน็ มาอยา่ งไร และครเู ลา่ ประวัตขิ องพระเยซู และนบมี ุฮัมมดั ให้ นกั เรยี นฟงั และเปิดโอกาสให้นักเรยี นซกั ถามข้อสงสยั แล้วขออาสาสมัครนักเรยี น 1 คน ให้ออกมาเล่าประวัติของพระ เยซู และนบมี ุฮมั มดั ให้เพอ่ื น ๆ ฟงั หน้าช้นั เรียน เพือ่ เป็นการทบทวน โดยครคู อยเสรมิ ความรู้ในสว่ นทน่ี กั เรียนขาดหรือไม่ เขา้ ใจ จากนัน้ ครูใหน้ ักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั การศกึ ษาประวัตขิ องพระเยซู และนบมี ุฮมั มดั ว่ามี ประโยชนอ์ ยา่ งไร จากนน้ั รว่ มกันสรุปความรู้เป็นแผนผงั ความคดิ เรอ่ื ง องค์ประกอบของศาสนาต่าง ๆ โดยมีครอู ธิบาย เพ่มิ เติม และนกั เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน 10. สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ 1. ส่ือการเรียนรู้  รูปภาพวดั  รูปภาพสัญลกั ษณ์ศาสนาต่าง ๆ  รปู ภาพพุทธประวัติตอนต่าง ๆ  รปู ภาพพระประจำวันเกิด  รปู ภาพสญั ลกั ษณ์ศาสนาตา่ ง ๆ  รปู ภาพคริสตจกั ร  รปู ภาพมัสยิด 2. แหลง่ การเรยี นรู้  ห้องเรียน  อินเทอรเ์ นต็  ปราชญช์ าวบ้าน

แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-Test) หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรือ่ ง ประวัตแิ ละความสำคญั ของศาสนา กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม วิชาสงั คมศกึ ษา ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4 คำชแี้ จง ให้นักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนาไม่เกีย่ วข้องกับขอ้ ใด ก. เปน็ แหล่งจัดงานรน่ื เรงิ ข. เป็นท่ีประกอบศาสนพธิ ี ค. เปน็ เครือ่ งยึดเหนย่ี วจติ ใจ ง. เป็นศูนยร์ วมการทำความดี 2. ขอ้ ใดต่อไปนกี้ ล่าวถึงพระพทุ ธศาสนาไดถ้ กู ต้องยกเวน้ ข้อใด ก. พระพทุ ธศาสนาถอื กำเนดิ ในประเทศเนปาล ข. พระพุทธเจา้ เป็นศาสดาของพระพทุ ธศาสนา ค. วนั สำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ วันครสิ ต์มาส ง. พระพทุ ธศาสนากำเนิดมาแล้วประมาณ 3,500 ปี 3. “ปัญจวคั คีย”์ ไมเ่ ก่ยี วข้องกบั เหตุการณ์ใดในพระพทุ ธศาสนา ก. พระรัตนตรยั ครบองค์สาม ข. เคยปรนนิบัติรับใชพ้ ระพุทธเจ้า ค. ทำใหเ้ กดิ วันสำคญั ทางพระพุทธศาสนา ง. มพี ระสงฆอ์ งคแ์ รกเกดิ ข้นึ ในพระพทุ ธศาสนา 4. เหตกุ ารณใ์ นขอ้ ใดเก่ยี วข้องกบั พระเจา้ พมิ พสิ ารตามประวัตพิ ระพุทธศาสนาที่ถูกตอ้ งท่ีสุด ก. มพี ระรัตนตรัยครบสาม ข. เคยปรนนบิ ัติรับใช้พระพุทธเจา้ ค. ทำให้เกดิ วันสำคัญทางพระพทุ ธศาสนา คอื วนั อาสาฬหบชู า ง. ทรงถวายวัดเวฬุวัน ซึง่ เปน็ วดั แห่งแรกในพระพุทธศาสนา 5. วนั ใดเปน็ วนั สำคัญของศาสนาครสิ ต์ ก. วันท่ี 1 มกราคม ของทกุ ๆ ปี ข. วนั ที่ 25 มกราคม ของทกุ ๆ ปี ค. วนั ท่ี 10 ธันวาคม ของทุกๆ ปี ง. วันที่ 25 ธนั วาคม ของทกุ ๆ ปี 6. ผู้สบื ทอดของศาสนาคริสต์ คอื ใคร ก. พระ ข. แม่ชี ค. บาทหลวง ง. โต๊ะอหิ ม่าม

7. ข้อใดกลา่ วถงึ ศาสนาอสิ ลามไม่ถกู ตอ้ ง ก. ผูน้ บั ถือศาสนาอิสลาม เรียกว่า มุสลมิ ข. นบมี ุฮัมมัด เป็นศาสดาของศาสนาอิสลาม ค. ศาสนาอสิ ลามกำเนิดข้นึ ท่ีประเทศซาอุดีอาระเบยี ง. ชาวไทยในภาคตะวันออกเฉียงเหนอื นับถือศาสนาอสิ ลามมากกว่าพระพุทธศาสนา 8. จุดมุง่ หมายสำคัญของทกุ ศาสนา คอื อะไร ก. เนน้ การทรมานรา่ งกาย ข. เนน้ พธิ กี รรมทางศาสนา ค. สอนให้ทุกคนทำความดี ง. ใหย้ ึดมัน่ ในองค์พระศาสดา 9. ศาสนามีประโยชน์อยา่ งไร ก. เปน็ ทพ่ี ่งึ ทางใจ ข. แสดงถึงวัฒนธรรมอนั ดงี าม ค. สร้างความกลมเกลียวในครอบครัว ง. เพอื่ ตอบสนองความต้องการทางด้านรา่ งกายของมนุษย์ 10. เพราะเหตุใด คนเราต้องนบั ถือศาสนา ก. กฎหมายบงั คับ ข. เพื่อใหส้ งั คมยอมรบั ค. นับถือตามบดิ า มารดา ง. เพือ่ ใหเ้ ป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) 1. ก 2. ข 3. ข 4. ค 5. ง 6. ค 7. ง 8. ค 9. ก 10. ง

แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-Test) หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 เร่อื ง ประวัตแิ ละความสำคญั ของศาสนา กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม วชิ าสงั คมศึกษา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. ความสำคัญของพระพุทธศาสนาไม่เก่ียวข้องกับขอ้ ใด ก. เป็นแหลง่ จดั งานรน่ื เริง ข. เปน็ ทปี่ ระกอบศาสนพิธี ค. เปน็ เครือ่ งยึดเหน่ยี วจิตใจ ง. เป็นศนู ยร์ วมการทำความดี 2. ข้อใดตอ่ ไปนก้ี ล่าวถงึ พระพทุ ธศาสนาได้ถกู ต้องยกเว้นข้อใด ก. พระพทุ ธศาสนาถือกำเนิดในประเทศเนปาล ข. พระพทุ ธเจา้ เป็นศาสดาของพระพุทธศาสนา ค. วนั สำคัญทางพระพทุ ธศาสนา คือ วนั ครสิ ตม์ าส ง. พระพุทธศาสนากำเนิดมาแล้วประมาณ 3,500 ปี 3. “ปญั จวคั คยี ์” ไมเ่ กี่ยวข้องกับเหตกุ ารณ์ใดในพระพทุ ธศาสนา ก. พระรตั นตรัยครบองค์สาม ข. เคยปรนนบิ ัติรับใช้พระพุทธเจา้ ค. ทำให้เกิดวนั สำคัญทางพระพุทธศาสนา ง. มพี ระสงฆ์องค์แรกเกิดขน้ึ ในพระพุทธศาสนา 4. เหตกุ ารณใ์ นข้อใดเกยี่ วขอ้ งกบั พระเจ้าพิมพิสารตามประวตั พิ ระพทุ ธศาสนาที่ถกู ตอ้ งที่สดุ ก. มีพระรัตนตรยั ครบสาม ข. เคยปรนนบิ ัตริ ับใชพ้ ระพุทธเจา้ ค. ทำใหเ้ กดิ วนั สำคญั ทางพระพทุ ธศาสนา คอื วนั อาสาฬหบูชา ง. ทรงถวายวัดเวฬุวัน ซึ่งเปน็ วัดแหง่ แรกในพระพุทธศาสนา 5. วันใดเป็นวันสำคญั ของศาสนาคริสต์ ก. วนั ที่ 1 มกราคม ของทกุ ๆ ปี ข. วนั ท่ี 25 มกราคม ของทกุ ๆ ปี ค. วันท่ี 10 ธนั วาคม ของทุกๆ ปี ง. วนั ท่ี 25 ธนั วาคม ของทกุ ๆ ปี 6. ผู้สืบทอดของศาสนาคริสต์ คือใคร ก. พระ ข. แมช่ ี ค. บาทหลวง ง. โตะ๊ อิหม่าม

7. ขอ้ ใดกลา่ วถึงศาสนาอิสลามไม่ถูกตอ้ ง ก. ผ้นู ับถอื ศาสนาอิสลาม เรียกว่า มุสลมิ ข. นบมี ฮุ ัมมัด เป็นศาสดาของศาสนาอิสลาม ค. ศาสนาอิสลามกำเนิดขึน้ ที่ประเทศซาอดุ ีอาระเบีย ง. ชาวไทยในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื นบั ถือศาสนาอิสลามมากกว่าพระพทุ ธศาสนา 8. จุดมุ่งหมายสำคญั ของทุกศาสนา คืออะไร ก. เน้นการทรมานรา่ งกาย ข. เนน้ พธิ ีกรรมทางศาสนา ค. สอนให้ทกุ คนทำความดี ง. ใหย้ ึดมนั่ ในองคพ์ ระศาสดา 9. ศาสนามีประโยชน์อย่างไร ก. เปน็ ที่พ่ึงทางใจ ข. แสดงถึงวัฒนธรรมอนั ดงี าม ค. สร้างความกลมเกลียวในครอบครวั ง. เพอ่ื ตอบสนองความต้องการทางด้านรา่ งกายของมนุษย์ 10. เพราะเหตใุ ด คนเราตอ้ งนับถอื ศาสนา ก. กฎหมายบงั คับ ข. เพื่อให้สังคมยอมรบั ค. นับถอื ตามบิดา มารดา ง. เพอ่ื ให้เป็นแนวทางในการดำเนินชวี ติ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น (Post-Test) 1. ก 2. ข 3. ข 4. ค 5. ง 6. ค 7. ง 8. ค 9. ก 10. ง

บนั ทึกผลหลังการจัดการเรยี นรู้ สรุปผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนจำนวน..................คน ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู.้ .....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................. ไมผ่ า่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนร.ู้ .................คน คิดเป็นร้อยละ.................. 2. แนวทางแก้ไขนกั เรยี นท่ไี ม่ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ......................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................ 3. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ไม่ผ่าน............ คน ผ่าน.............คน ดี..................คน ดีเยย่ี ม................คน ระดบั ดีข้ึนไป รอ้ ยละ..................... 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ไมผ่ ่าน............ คน ผา่ น.............คน ด.ี .................คน ดีเยย่ี ม................คน ระดับดขี ึน้ ไป ร้อยละ..................... 5. นักเรียนเกิดทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 ใดบา้ ง ทำเครอ่ื งหมาย  ในช่องวา่ งที่ตรงกบั ทกั ษะท่เี กิด 3R  อ่านออก  เขยี นได้  มที กั ษะในการคดิ คำนวณ 8C  การคิดอย่างมวี ิจารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปญั หา  การสรา้ งสรรค์  ความเข้าใจความตา่ งวฒั นธรรม ต่างกระบวนทศั น์  การส่ือสาร  ดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเปน็ ทีมและภาวะผู้นำ  ทักษะการเปลย่ี นแปลง  การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร  ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ ผลการจดั การเรยี นการสอน/ปัญหา/ อปุ สรรค และแนวทางแกไ้ ข • แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 1 เรือ่ ง ความสำคัญของศาสนา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…. .................................................................................................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………. • แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง พระพุทธศาสนา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..………. .................................................................................................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..………. • แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 เรือ่ ง พระพุทธศาสนา ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………. .................................................................................................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…….

• แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่อื ง ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………. .................................................................................................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ลงช่อื .................................................. (นางสาวอัญชลี อนุ่ ทะยา) ครูผ้สู อน ความคิดเห็นหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นร/ู้ ผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง ............................................................................................................................................................................... ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ............................................................................................................................................................................... ลงชอื่ …………………………………………………… (นางสาวจรี วรรณ ปฏิวงศ์) หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ...................../......................./......................... ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศกึ ษา ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ลงช่อื …………………………………………………… (นางสาวกันยาภทั ร ภัทรโสตถ)ิ ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั พืชนมิ ติ (คำสวสั ดิร์ าษฎรบ์ ำรงุ ) ...................../......................./.........................

โรงเรียนวดั พืชนมิ ิต(คำสวสั ดิร์ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมนิ การจดบันทึกความรู้ เลขที่ ผลการประเมนิ บันทึกตรงตามเน้ือหาสาระ ีมความ ้ัตงใจในการทำงานช่อื - สกลุ ีมความ ัรบผิดชอบ ความสะอาดเ ีรยบ ้รอย ผลสำเ ็รจของงาน รวมคะแนน 1 ด.ช. ทศธรรม ทวลี าภ 3 3 3 3 3 15 ผา่ น ไม่ผ่าน 3 2 2 2 3 12  2 ด.ช. ณัฐพงษ์ เอยี่ มต้นเค้า 3 2 2 2 2 11  3 ด.ช. ทินภทั ร สุวรรณประจักษ์ 3 3 3 2 3 14  4 ด.ช. ธารา เพง็ แจม่ 3 2 2 2 2 11  5 ด.ช. ธรี พรรณ เชยี งคำ 2 2 3 2 3 12  6 ด.ช. ปัณณทัต นิวาตพนั ธ์ 3 2 3 2 3 13  7 ด.ช. พิชาภพ ประจิตร 3 3 3 2 3 14  8 ด.ช. ภเู บศ เจรญิ สุข 3 3 3 3 3 15  9 ด.ช. รุง่ อรณ มีไทย 3 3 3 2 3 14  10 ด.ช. ชนะพล ทองประเทือง 3 3 3 2 3 14  11 ด.ญ. กุลภรณ์ บิดาทมุ 3 3 3 3 3 15  12 ด.ญ. จิตราพร จิตโกศล 3 3 3 3 3 15  13 ด.ญ. เอมณิชา บญุ นาค 3 3 3 3 3 15  14 ด.ญ. สุภัสสรา วงษป์ ระจนั ต์ 3 3 3 2 3 14  15 ด.ญ. สาวิตรี อดุ มศรี 3 3 3 3 3 15  16 ด.ญ. ทิวาพร ยามงคล 3 3 3 3 3 15  17 ด.ช. ดิษยธ์ นชั สงกูล 3 3 3 2 3 14  18 ด.ช. ธนาธปิ พิทักษ์ศร 3 3 3 3 3 15  19 ด.ช. สาโรจน์ ศริ มิ งคล 3 3 3 3 3 15  20 ด.ญ. กชพรรณ ชชู ่นื 3 3 3 3 3 15  21 ด.ญ. อัญญารนิ ทร์ ครุ ภุ ัณฑ์ 3 3 3 3 3 15  22 ด.ญ. ชลธิชา ชีตาลกั ษณ์ 3 3 3 3 3 15  23 ด.ญ. อรรมั ภา บญุ อินทร์ 3 3 3 3 3 15  24 ด.ญ. พิมพ์นภิ า มูลหา 3 3 3 3 3 15 

เลขที่ ผลการประเมนิ บันทึกตรงตามเน้ือหาสาระ ีมความ ้ัตงใจในการทำงานช่อื - สกลุ ีมความ ัรบผิดชอบ ความสะอาดเ ีรยบ ้รอย ผลสำเ ็รจของงาน รวมคะแนน 25 ด.ญ. ศภุ นดิ า แก้วคำแสน 3 3 3 3 3 15 ผ่าน ไมผ่ า่ น 26 ด.ญ. บาบ้ี เตง็ เตมิ วงศ์ 3 3 3 3 3 15  27 ด.ช. วัฒนากูล บรบุตร 3 3 3 3 3 15  28 ด.ช. ตะวัน แซ่จนั 3 2 3 2 3 13  29 ด.ช. จิตตพิ ฒั น์ ชชู ่วย 3 3 3 2 3 14  30 ด.ช. วฏญิ พงษ์ ขนั ธ์ลอ้ ม 3 3 3 3 3 15  31 ด.ช. มอส - 3 3 3 3 3 15  32 ด.ช.พชรพล กางทอง 3 2 2 2 2 11  33 ด.ช. กฤษดา ดลภัย 3 3 3 2 3 14  34 ด.ญ. สงกรานต์ เอกตาแสง 3 3 3 3 3 15  35 ด.ช. กฤตกร ยวงโพธิ์ 3 3 3 3 3 15  36 ด.ญ. ธญั รดา เณรกลู 3 2 2 2 2 11  37 ด.ญ. ชานิสรา แก้วเงิน 3 3 3 3 3 15  38 ด.ญ. ศริ ีรัตน์ เปลีย่ นแสง 3 3 3 3 3 15  39 ด.ช. โชคศริ ิ บญุ มา 3 3 3 3 3 15  40 ด.ญ. เกวลี ว้นุ เนยี ม 3 2 3 2 3 13  41 ด.ช. จริ เมธ ไพรีรณ 3 3 3 3 3 15  42 ด.ช. ศุกลวัฒน์ พนั ศรี 3 2 2 2 2 11  43 ด.ญ. โศธดิ า เทียนสะอาด 3 3 3 3 3 15  3 2 3 2 3 13  เกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คุณภาพ เกณฑ์ทผี่ ่าน ตง้ั แต่ 10 คะแนนขึ้นไป 3 : ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ : ดี 11 – 15 คะแนน : ดี 2 : ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้งั : พอใช้ 6 – 10 คะแนน : พอใช้ 1 : ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครัง้ : ปรบั ปรุง 1 – 5 คะแนน : ปรับปรงุ

โรงเรียนวดั พืชนิมติ (คำสวสั ด์ริ าษฎร์บำรุง) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมกลุม่ เลขท่ี ผลการประเมนิ การแบ่งหน้าที่ในการทำงาน อย่างเหมาะสมชื่อ - สกุล ความ ่รวม ืมอในการทำงาน ีม ัข้นตอนในการทำงานอย่าง เป็นระบบ ีมความ ัรบผิดชอบในการ ทำงาน ผลสำเ ็รจของ ิ้ชนงาน รวมคะแนน 1 ด.ช. ทศธรรม ทวีลาภ 3 3 3 3 3 15 ผา่ น ไมผ่ ่าน 3 3 3 3 3 15  2 ด.ช. ณัฐพงษ์ เอ่ยี มตน้ เคา้ 2 3 3 2 3 13  3 ด.ช. ทนิ ภทั ร สวุ รรณประจักษ์ 3 3 3 3 3 15  4 ด.ช. ธารา เพง็ แจ่ม 2 3 3 2 3 13  5 ด.ช. ธรี พรรณ เชียงคำ 2 3 3 2 3 13  6 ด.ช. ปัณณทัต นวิ าตพนั ธ์ 3 3 3 3 3 15  7 ด.ช. พิชาภพ ประจติ ร 3 3 3 3 3 15  8 ด.ช. ภูเบศ เจริญสขุ 3 3 3 3 3 15  9 ด.ช. รุง่ อรณ มไี ทย 3 3 3 3 3 15  10 ด.ช. ชนะพล ทองประเทอื ง 3 3 3 3 3 15  11 ด.ญ. กลุ ภรณ์ บิดาทมุ 3 3 3 3 3 15  12 ด.ญ. จติ ราพร จิตโกศล 3 3 3 3 3 15  13 ด.ญ. เอมณิชา บญุ นาค 3 3 3 3 3 15  14 ด.ญ. สภุ ัสสรา วงษป์ ระจันต์ 3 3 3 3 3 15  15 ด.ญ. สาวติ รี อุดมศรี 3 3 3 3 3 15  16 ด.ญ. ทวิ าพร ยามงคล 3 3 3 3 3 15  17 ด.ช. ดษิ ย์ธนชั สงกลู 3 3 3 3 3 15  18 ด.ช. ธนาธิป พิทักษ์ศร 3 3 3 3 3 15  19 ด.ช. สาโรจน์ ศริ มิ งคล 3 3 3 3 3 15  20 ด.ญ. กชพรรณ ชชู น่ื 3 3 3 3 3 15  21 ด.ญ. อญั ญารินทร์ ครุ ุภัณฑ์ 3 3 3 3 3 15  22 ด.ญ. ชลธิชา ชตี าลกั ษณ์ 3 3 3 3 3 15  23 ด.ญ. อรรัมภา บุญอินทร์ 3 3 3 3 3 15  24 ด.ญ. พมิ พ์นิภา มูลหา 3 3 3 3 3 15 

เลขท่ี ผลการประเมิน การแบ่งหน้าที่ในการทำงาน อย่างเหมาะสมชื่อ - สกุล ความ ่รวม ืมอในการทำงาน ีม ัข้นตอนในการทำงานอย่าง เป็นระบบ ีมความ ัรบผิดชอบในการ ทำงาน ผลสำเ ็รจของ ิ้ชนงาน รวมคะแนน 333 3 3 15 ผ่าน ไมผ่ า่ น 25 ด.ญ. ศุภนิดา แก้วคำแสน 3 3 3 3 3 15  3 3 15  26 ด.ญ. บาบ้ี เตง็ เตมิ วงศ์ 3 3 3 2 3 13  3 3 15  27 ด.ช. วัฒนากลู บรบุตร 233 3 3 15  3 3 15  28 ด.ช. ตะวัน แซ่จนั 333 2 3 12  3 3 15  29 ด.ช. จิตตพิ ฒั น์ ชชู ่วย 333 3 3 15  3 3 15  30 ด.ช. วฏญิ พงษ์ ขันธล์ ้อม 333 2 3 12  3 3 15  31 ด.ช. มอส - 223 3 3 15  3 3 15  32 ด.ช.พชรพล กางทอง 333 3 3 15  3 3 15  33 ด.ช. กฤษดา ดลภัย 333 2 3 12  3 3 15  34 ด.ญ. สงกรานต์ เอกตาแสง 3 3 3 3 3 15  35 ด.ช. กฤตกร ยวงโพธ์ิ 223 36 ด.ญ. ธญั รดา เณรกลู 333 37 ด.ญ. ชานิสรา แกว้ เงิน 333 38 ด.ญ. ศิรรี ตั น์ เปล่ยี นแสง 3 3 3 39 ด.ช. โชคศริ ิ บญุ มา 333 40 ด.ญ. เกวลี วนุ้ เนียม 333 41 ด.ช. จริ เมธ ไพรีรณ 223 42 ด.ช. ศุกลวฒั น์ พนั ศรี 333 43 ด.ญ. โศธดิ า เทยี นสะอาด 3 3 3 เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คุณภาพ เกณฑ์ท่ีผา่ น ต้งั แต่ 10 คะแนนข้ึนไป 3 : ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ : ดี 11 – 15 คะแนน : ดี 2 : ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั : พอใช้ 6 – 10 คะแนน : พอใช้ 1 : ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั : ปรับปรุง 1 – 5 คะแนน : ปรบั ปรุง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 กลุม่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม วิชาสงั คมศึกษา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลา 4 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 : ประวัติและความสำคญั ของศาสนา เวลา 1 ชัว่ โมง เรื่อง ความสำคญั ของศาสนา 1. สาระสำคัญ ศาสนาแต่ละศาสนามคี วามสำคัญในฐานะเป็นเคร่อื งยึดเหนย่ี วจติ ใจ เปน็ ศูนย์รวมการทำความดี และเป็นแหล่ง ทำกิจกรรมทางสังคม ซึง่ ส่งผลใหอ้ ยูร่ ่วมกนั ในสงั คมไดอ้ ย่างมคี วามสุข ศาสนานน้ั เปน็ ส่ิงท่สี ำคญั มาก ไม่วา่ ศาสนาใด ๆ ก็ ตาม ล้วนแตม่ ีลกั ษณะรว่ มสำคญั คอื สอนคนให้เปน็ คนดี มีศีลธรรมประจำใจ อยใู่ นสังคมได้อย่างสันตสิ ขุ อกี ทั้งยังเปน็ ท่ี ยดึ เหนยี่ วทางจติ ใจ และมีหลกั ในการดำเนนิ ชวี ติ ท่ถี ูกตอ้ งและปลอดภัย ดงั นน้ั ศาสนาจงึ เป็นเรือ่ งที่เก่ยี วข้องกับชีวติ ของ มนุษยท์ ุกรปู ทกุ นาม 2. ตัวช้ีวดั ส 1.1 ป.4/1 อธิบายความสำคัญของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนับถอื ในฐานะเปน็ ศูนย์รวมจติ ใจของ ศาสนิกชน 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความสำคัญของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาท่ีตนนบั ถอื ได้ (K) 2. บอกแนวทางในการปฏิบัติตนท่ีเหมาะสมในการแสดงออกถงึ การเห็นคุณคา่ และความสำคัญต่อพระพทุ ธศาสนาใน ฐานะเปน็ ศาสนาประจำชาตไิ ด้ (P) 4. สาระการเรียนรู้  ความสำคญั ของศาสนา 5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน 7. บูรณาการ ภาษาไทย ฟัง พูด อ่าน และเขยี นขอ้ มูลเก่ียวกบั ความสำคัญของศาสนา 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำเขา้ ส่บู ทเรียน 1. นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี นเพ่ือเป็นการทดสอบความรู้ และครนู ำภาพเกี่ยวกับกจิ กรรมของศาสนา ต่าง ๆ สัญลักษณ์ของศาสนาต่าง ๆ มาใหน้ ักเรียนดู แล้วถามนักเรยี นวา่ ภาพทเ่ี หน็ เปน็ ภาพอะไร เกยี่ วข้องกบั ศาสนา ใดบ้าง และสังเกตเห็นได้จากอะไร 2. นักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด  เพราะเหตใุ ด จงึ ตอ้ งมีการนบั ถือศาสนา พร้อมอธบิ ายเหตผุ ล  ศาสนาแต่ละศาสนามีความสำคญั ตอ่ ผนู้ ับถอื อย่างไรบ้าง พร้อมอธบิ ายเหตุผล

ขั้นสอน 1. ครใู ห้นกั เรยี นศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง ความสำคัญของศาสนา จากหนงั สือเรยี นสังคมศกึ ษา แลว้ บันทึกความรทู้ ี่ได้ ลงในสมดุ พรอ้ มอธิบายเพม่ิ เตมิ 2. นกั เรียนรว่ มกนั สนทนาจนมีความคดิ เห็นทตี่ รงกนั วา่ ทุกศาสนามคี วามสำคัญตอ่ ผู้ทีน่ บั ถือ ดงั น้ันเราจึงควร ศกึ ษาเร่อื งราวประวัตคิ วามเปน็ มาของศาสนาที่ตนนับถือ 3. ครูขออาสาสมคั รนกั เรียน 3 คน ออกมาแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับความสำคัญของศาสนาให้เพ่อื น ๆ ฟัง โดยครูสรปุ ความคิดเหน็ ของนกั เรียนและใหค้ ำแนะนำหรือความรเู้ พมิ่ เตมิ 4. ครูอธบิ ายให้นกั เรยี นเข้าใจวา่ นอกจากพระพุทธศาสนาที่เป็นศนู ย์รวมจิตใจของชาวพทุ ธแล้ว ในประเทศ ไทยยังมีศาสนาอื่น ๆ อีก เช่น ศาสนาครสิ ต์ ศาสนาอิสลาม เปน็ ตน้ ซ่ึงล้วนแล้วแต่เป็นศาสนาที่สอนให้ศาสนกิ ชนของตน เปน็ คนดี 5. นกั เรยี นและครรู ่วมกันสนทนาและหาขอ้ สรุปเก่ียวกบั ความสำคญั ของศาสนาทลี ะประเดน็ ให้ชัดเจน 6. ครใู หน้ กั เรียนนำความรู้ท่ไี ดจ้ ากการศกึ ษามาวิเคราะห์ความสำคัญของศาสนา 7. นกั เรียนจะสามารถนำความรู้เก่ยี วกบั ความสำคญั ของศาสนาไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตด้านใด พร้อมอธิบาย เหตผุ ล และแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ กนั ระหวา่ งนกั เรียนและครู 8. ครูแนะนำให้นักเรียนนำความรู้เกีย่ วกบั ความสำคญั ของศาสนาไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชวี ิต ประจำวันรวมทงั้ นำไปเผยแพรใ่ หบ้ ุคคลอืน่ เชน่ คนในครอบครัว เพื่อนบา้ น คนในชมุ ชน ไดร้ แู้ ละเข้าใจ ข้นั สรปุ 1. ครใู หน้ กั เรียนชว่ ยกันสรุปความรเู้ รือ่ ง ความสำคัญของศาสนา 2. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรู้เกย่ี วกบั ความสำคัญของศาสนา แลว้ บันทกึ ข้อสรุปลงในสมดุ และครู อธบิ ายเพ่มิ เตมิ เก่ียวกบั ความสำคัญของศาสนาเพื่อใหน้ กั เรยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจมากยง่ิ ขึ้น สามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ใน การดำเนนิ ชีวติ ประจำวนั ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 9. การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 - ประเมินการจดบันทกึ ความรู้ แบบประเมินการจดบันทึกความรู้ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั่ ในการ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ทำงาน ผา่ นเกณฑ์ 10. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1. สื่อการเรยี นรู้  หนงั สอื เรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน สังคมศกึ ษา ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4  รปู ภาพวัด  รูปภาพสัญลกั ษณ์ศาสนาต่าง ๆ 2. แหล่งการเรียนรู้  หอ้ งเรียน  อินเทอร์เนต็  วดั พืชนิมิต

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 กลุม่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม วชิ าสงั คมศึกษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลา 4 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 : ประวัติและความสำคัญของศาสนา เวลา 2 ชั่วโมง เร่ือง พระพุทธศาสนา 1. สาระสำคัญ พระพุทธศาสนามีความสำคัญตอ่ ชาตไิ ทยในฐานะศาสนาประจำชาติ เปน็ เอกลกั ษณข์ องชาติ เป็นรากฐาน และมรดกทางวัฒนธรรม เปน็ ศนู ยร์ วมจิตใจ และเป็นหลกั ในการพฒั นาชาตไิ ทย การศึกษาความสำคญั ของพระพุทธ- ศาสนาในฐานะศาสนาประจำชาติ จะทำใหเ้ หน็ คุณค่า ตะหนักถึงความสำคัญ และแสดงความเคารพได้อย่างเหมาะสม พทุ ธประวตั ิคอื ประวตั ิของพระพทุ ธเจาเริ่มต้ังแต่ประสูติตรัสรจู้ นถงึ ปรนิ ิพพาน การศกึ ษาพุทธประวตั จิ ะทำให้ผู้ ศึกษาเกดิ ความศรทั ธาในคณุ งามความดีของพระพุทธเจา้และสามารถนาพระจรยิ วัตรของพระองคมาเปน็ แบบอยางในการ ดำเนินชีวิตได้ 2. ตวั ช้ีวัด ส 1.1 ป.4/2 สรปุ พทุ ธประวัตติ ง้ั แตบ่ รรลุธรรมจนถงึ ประกาศธรรม หรอื ประวตั ิศาสดาทต่ี นนับถอื ตามท่ีกำหนด ส 1.1 ป.4/8 อธิบายประวัตศิ าสดาของศาสนาอ่ืน ๆ โดยสงั เขป 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเปน็ ศูนยร์ วมจติ ใจของพุทธศาสนิกชนได้ (K) 2. สืบคน้ ข้อมูลเกย่ี วกับพุทธประวตั แิ ละเลา่ พุทธประวัตใิ หค้ นอน่ื ฟงั ได้ (P) 3. เหน็ ความสำคญั และมีความสนใจอยากศกึ ษาพุทธประวัติ (A) 4. สาระการเรียนรู้  สรุปพุทธประวตั ิ - ประวัตพิ ระพุทธเจา้ - ตรัสรู้ - ประกาศธรรม ได้แก่ โปรดชฎิล โปรดพระเจา้ พิมพิสาร พระอัครสาวก แสดงโอวาทปาฏิโมกข์ 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. รกั ความเป็นไทย 7. บูรณาการ ภาษาไทย ฟงั พดู อ่าน และเขยี นข้อมูลเกีย่ วกบั พุทธประวตั ิ

8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำเข้าสู่บทเรียน 1. นักเรยี นและครูร่วมกันสนทนาความรเู้ ดิมจากช่วั โมงท่แี ลว้ เพือ่ เปน็ การทบทวนความรู้ 2. ครอู ธิบายเช่อื มโยงคำตอบของนกั เรยี นเพ่ือนำไปสคู่ วามสำคัญของพระพุทธศาสนาท่ีมตี ่อการดำเนนิ ชีวิตของคนไทย เพอ่ื ทบทวนความรเู้ ดมิ ของนกั เรยี นก่อนทจี่ ะเรม่ิ เรยี น ขนั้ สอน 1. ครูนำภาพความสำคญั ของพระพุทธศาสนามาให้นักเรยี นดอู กี ครง้ั แลว้ สอบถามว่า ภาพนีส้ อดคล้องกบั ความสำคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะศาสนาประจำชาตใิ นประเด็นใด และนักเรียนมแี นวทางในการปฏิบัตติ น เหมาะสมในการแสดงออกถงึ การเห็นคณุ ค่าและความสำคญั ในฐานะศาสนาประจำชาตไิ ดอ้ ย่างไร 2. ครูสังเกตการตอบคำถามของนกั เรียน แล้วอธบิ ายเพม่ิ เติมเพ่ือให้นกั เรียนเห็นความสำคัญของ พระพุทธศาสนาในฐานะศาสนาประจำชาติในด้านตา่ ง ๆ 3. ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรียนซกั ถามขอ้ สงสัยต่าง ๆ เกีย่ วกับความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาจากเรอ่ื งทีไ่ ดร้ ับ มอบหมายใหไ้ ปอ่านมาโดยครตู อบข้อสงสยั และอธิบายเพม่ิ เติม จากนนั้ ใหน้ ักเรียนดูภาพการดำเนินชีวิตของคนไทยท่ี เก่ียวข้องผูกพนั กับพระพทุ ธศาสนาต้งั แตเ่ กิดจนตาย เชน่ ภาพการทำบุญวนั เกดิ การขน้ึ บ้านใหม่ การบวชนาค การ แต่งงาน งานศพ แล้วซักถามนักเรียนในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี  เปน็ ภาพพธิ กี รรมเกี่ยวกบั อะไร  นกั เรยี นเคยเขา้ ร่วมพธิ ีกรรมเหล่านห้ี รือไม่ ถา้ เคย มคี วามรู้สึกอย่างไร  ทำไมการดำเนินชวี ิตของคนไทยสว่ นใหญจ่ ึงเก่ียวข้องผกู พนั กับพระพุทธศาสนา 4. ครูนำภาพพุทธประวัติหรือภาพพระนางสริ มิ หามายาประสตู เิ จ้าชายสิทธตั ถะทล่ี มุ พนิ ีวนั ใหน้ ักเรยี นดแู ลว้ สนทนา ซกั ถามนักเรยี นวา่ บคุ คลในภาพคอื ใคร เก่ยี วขอ้ งกับพุทธประวตั ติ อนใด ใหน้ ักเรียนช่วยกันตอบ 5. ครูสรปุ คำตอบของนกั เรยี นแลว้ ใหค้ วามรู้แก่นกั เรยี นเกย่ี วกับพุทธประวตั ิ จากนน้ั เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถาม ข้อสงสยั ต่าง ๆ เพ่ือใหไ้ ด้ขอ้ สรุป 6. ครเู สรมิ ความรใู้ นส่วนที่นกั เรยี นขาดหรือยังไม่เขา้ ใจใหก้ บั นกั เรียน แล้วใหน้ กั เรยี นบนั ทกึ ความรูล้ งในสมุด 7. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นไปหาความรเู้ พิม่ เติมจากอนิ เทอรเ์ นต็ และไปอ่านเนอื้ หาเก่ยี วกบั พุทธประวตั ิ เรอ่ื งการ ตรสั รู้ การประกาศธรรม การแสดงธรรม เป็นการบ้านเพ่อื เปน็ การเตรียมความพรอ้ มในการเรียนการสอนในครั้งตอ่ ไป ช่ัวโมงที่ 2 ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรยี น 1. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สนทนาความรู้เดิมจากชั่วโมงท่ีแลว้ เพอ่ื เปน็ การทบทวนความรู้ ขัน้ สอน 1. ครนู ำภาพพทุ ธประวตั ิหรือภาพปญั จวัคคยี ท์ ้งั 5 ให้นกั เรียนดแู ล้วสนทนาซกั ถามนักเรียนวา่ บคุ คลในภาพคอื ใคร เก่ยี วข้องกบั พุทธประวตั ิตอนใด ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ตอบ 2. ครูสังเกตการตอบคำถามของนกั เรียน แลว้ อธิบายเพม่ิ เตมิ เพื่อให้นกั เรยี นเหน็ ความสำคัญของ พระพทุ ธศาสนาในฐานะศาสนาประจำชาติในดา้ นต่าง ๆ 3. ครใู ห้นกั เรียนแบง่ ออกเป็น 4 กล่มุ แต่ละกลุ่มส่งตวั แทน 1 คน ออกมาจับฉลากเลือกหัวขอ้ เก่ียวกับ เหตกุ ารณห์ ลงั พระพทุ ธเจา้ ทรงตรัสรู้และประกาศธรรม กลุม่ ละ 1 หวั ข้อต่อไปนี้  โปรดปญั จวัคคีย์ทัง้ 5  โปรดชฎิล 3 พี่นอ้ ง และบรวิ าร  โปรดพระเจ้าพิมพิสาร  แสดงโอวาทปาติโมกข์

4. ครใู หน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรยี น และร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ 5. ครกู ลา่ วชมเชยนักเรียนแตล่ ะกลุ่ม และในขณะปฏบิ ัตกิ ิจกรรมของนกั เรยี นให้ครูสงั เกตพฤตกิ รรมในการทำงาน และการนำเสนอของนักเรยี นตามแบบประเมินพฤติกรรมในการทำงานเปน็ รายบคุ คลหรอื เปน็ กลุม่ 6. ครูสรปุ คำตอบของนกั เรียนแลว้ ใหค้ วามรู้แกน่ ักเรยี นเกีย่ วกับพุทธประวตั ิ จากนัน้ เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถาม ขอ้ สงสยั ตา่ ง ๆ เพ่อื ใหไ้ ดข้ อ้ สรปุ 7. ครูเสริมความรใู้ นส่วนท่ีนักเรียนขาดหรือยงั ไม่เขา้ ใจให้กบั นักเรียน แลว้ ใหน้ ักเรียนบันทึกความรลู้ งในสมดุ ขน้ั สรปุ 1. ครใู ห้นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นวา่ การท่ีพระพทุ ธเจ้าทรงใชห้ ลักมัชฌิมาปฏิปทา (ข้อปฏิบตั ิทางสาย กลาง) ทพ่ี ระพุทธเจ้าทรงใช้ในการบำเพญ็ เพียรจนได้ตรสั รเู้ ปน็ พระพุทธเจา้ กับหลักเศรษฐกิจพอเพียงมีความสัมพันธก์ นั อยา่ งไร และนักเรียนจะนำหลกั การดังกลา่ วมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอยา่ งไร 2. ครแู นะนำนกั เรยี นให้นำแบบอยา่ ง และขอ้ คิดหรือคุณธรรมที่ได้จากการเรยี นพุทธประวตั ไิ ปปฏิบตั หิ รอื ประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวัน รวมทั้งนำไปเผนแพร่ใหบ้ ุคคลอนื่ เชน่ คนในครอบครัว เพ่อื นบา้ น คนในชุมชนได้รูแ้ ละเข้าใจ 9. การวัดและประเมินผล วิธีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์ แบบประเมนิ การจดบันทกึ ความรู้ ประเมินการจดบันทกึ ความรู้ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่นั ในการ ทำงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 10. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ 1. ส่ือการเรียนรู้  หนงั สอื เรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน สงั คมศึกษา ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4  รปู ภาพพุทธประวัตติ อนต่าง ๆ  รูปภาพพระประจำวันเกดิ 2. แหล่งการเรียนรู้  หอ้ งเรยี น  อนิ เทอรเ์ น็ต  วัดพชื นมิ ิต

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม วิชาสงั คมศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เวลา 4 ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 : ประวัตแิ ละความสำคญั ของศาสนา เวลา 1 ชัว่ โมง เรือ่ ง ศาสนาคริสต์ และศาสนาอสิ ลาม 1. สาระสำคญั ศาสนาครสิ ตเ์ กิดขึ้นในประเทศอสิ ราเอล มีพระยะโฮวาเป็นพระเจ้า และมีพระเยซูเปน็ ศาสดา เกิดข้ึนมาเป็น ระยะเวลายาวนานและเป็นศาสนาทีม่ คี นนับถือมากทส่ี ดุ ในโลก ศาสนาอิสลามเปน็ ศาสนาท่สี ำคัญศาสนาหน่ึงของโลก เกดิ ขน้ึ ท่นี ครเมกกะ ประเทศซาอดุ อี าระเบีย มีพระอลั - เลาะห์เป็นพระเจา้ และมีนบมี ฮุ มั มดั เป็นศาสดาของศาสนา 2. ตัวช้ีวดั ส 1.1 ป.4/8 อธบิ ายประวตั ศิ าสดาของศาสนาอื่น ๆ โดยสงั เขป 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายประวัตขิ องนบมี ฮุ มั มัดและพระเยซคู รสิ ตโ์ ดยสงั เขปได้ (K) 2. สื่อสารและนำความรู้เกี่ยวกบั ประวตั ขิ องนบีมุฮมั มดั และพระเยซคู รสิ ต์ไปเผยแผไ่ ด้ (P) 4. สาระการเรยี นรู้  ประวตั ิศาสดาของศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม - พระเยซู - นบมี ุฮัมมัด 5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุง่ มน่ั ในการทำงาน 4. มจี ติ สาธารณะ 7. บรู ณาการ ภาษาไทย ฟัง พูด อ่าน และเขียนข้อมูลเก่ยี วกบั ประวตั ิศาสดาของศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม ศิลปะ วาดภาพระบายสีและทำแผนผงั ความคิดเกยี่ วกบั องค์ประกอบของศาสนาต่าง ๆ

8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรียน 1. ครูใหน้ ักเรียนดภู าพเกยี่ วกับศาสนาครสิ ต์ แล้วให้นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ ว่ามคี วามเก่ียวข้องกับ ศาสนาคริสตอ์ ย่างไร 2. ครูอธบิ ายเชอ่ื มโยงให้นกั เรยี นเขา้ ใจว่านอกเหนอื จากพุทธประวตั ทิ ่ีนักเรียนเคยศกึ ษามาแลว้ ประวตั ิศาสนา ครสิ ต์และพระศาสดากเ็ ป็นสงิ่ ทนี่ า่ สนใจและสมควรทจ่ี ะศกึ ษา 3. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ  เพราะเหตุใด สญั ลกั ษณ์ของศาสนาคริสตจ์ งึ เป็นไมก้ างเขน  ชาวมสุ ลมิ จะแสดงความศรัทธาต่อพระเจา้ ด้วยวธิ ีใด ข้นั สอน 1. ครูซกั ถามนกั เรยี นวา่ ใครนบั ถือศาสนาอ่นื นอกเหนือจากศาสนาพทุ ธ หรอื รู้จกั หรือเคยเหน็ ผู้ทนี่ ับถอื ศาสนาอ่นื ที่ นอกเหนือจากศาสนาพุทธหรอื ไม่ และศาสนาน้นั คือศาสนาอะไร มใี ครเป็นศาสดาของศาสนาน้นั ใหน้ ักเรยี นช่วยกันตอบ 2. ครสู นทนากบั นกั เรยี นว่า นอกจากพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาคริสต์ทีน่ ักเรียนนบั ถือแล้ว นกั เรยี นร้จู ักศาสนา อิสลามหรือไม่ และศาสนาอิสลามมีความสำคญั และความเปน็ มาอย่างไร 3. ครเู ล่าประวตั ขิ องพระเยซู และนบีมุฮัมมดั ใหน้ กั เรียนฟัง 4. ครูเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นซกั ถามข้อสงสยั แลว้ ขออาสาสมคั รนักเรยี น 1 คน ใหอ้ อกมาเลา่ ประวัตขิ องพระเยซู และนบมี ุฮัมมัดให้เพ่ือน ๆ ฟงั หนา้ ชนั้ เรยี น เพอ่ื เป็นการทบทวน โดยครูคอยเสริมความรใู้ นส่วนทน่ี กั เรยี นขาดหรอื ไม่ เข้าใจ 5. ครใู ห้นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกับการศกึ ษาประวัติของพระเยซู และนบมี ุฮัมมดั ว่ามปี ระโยชน์ อยา่ งไร จากน้ันร่วมกนั สรุปความรู้ 6. นกั เรียนรว่ มกนั สรุปความร้เู ก่ียวกบั การศกึ ษาประวตั ขิ องพระเยซู และนบีมุฮัมมัดเปน็ แผนผงั ความคิด เรือ่ ง องคป์ ระกอบของศาสนาต่าง ๆ โดยมีครูอธบิ ายเพิ่มเติม ข้นั สรปุ 1. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความรเู้ ร่อื ง ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม 2. นักเรียนและครูรว่ มแสดงคดิ เหน็ เก่ยี วกับกล่มุ คนทีน่ บั ถือศาสนาต่างกนั จะมกี ารดำเนนิ ชวี ติ ที่ตา่ งกันดว้ ย หรือไม่ พร้อมอธบิ ายเหตุผล 3. นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น 4. ครูแนะนำนักเรยี นให้นำแบบอยา่ ง และขอ้ คิดทีไ่ ดจ้ ากการเรยี นประวตั ขิ องพระเยซู และนบีมฮุ มั มัดไปปฏบิ ตั ิ หรือประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวัน รวมท้งั นำไปเผยแพร่ให้บุคคลอื่น เช่น คนในครอบครัว เพ่อื นบ้าน คนในชมุ ชนได้รูแ้ ละ เข้าใจ 9. การวัดและประเมนิ ผล วิธกี าร เครือ่ งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 ตรวจแผนผงั ความคดิ เรื่อง องคป์ ระกอบของ แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ศาสนาต่าง ๆ แผนผังความคิด เร่อื ง องค์ประกอบของ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ ศาสนาต่าง ๆ สังเกตความมีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มุง่ มัน่ ในการทำงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ ระดบั คุณภาพ 2 และมีจติ สาธารณะ ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

10. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. สอื่ การเรยี นรู้  หนังสือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน สงั คมศึกษา ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 4  รปู ภาพสัญลักษณศ์ าสนาต่าง ๆ  รปู ภาพคริสตจกั ร  รูปภาพมัสยิด 2. แหล่งการเรยี นรู้  หอ้ งเรยี น  อินเทอรเ์ นต็

พ.น./วก. 02 โรงเรยี นวดั พชื นิมติ (คำสวัสด์ริ าษฎรบ์ ำรงุ ) แบบประเมินหน่วยการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เร่ือง ประวตั แิ ละความสำคัญของศาสนา เวลาทใี่ ช้ 4 ชั่วโมง รหัสวชิ า ส 14101 รายวิชา สงั คมศกึ ษา ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 ครูผ้สู อน นางสาวอญั ชลี อ่นุ ทะยา กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมนิ มีความสอดคลอ้ ง/เชือ่ มโยง/เหมาะสม 5 หมายถึง มากสุดท่ีสดุ 4 หมายถึง มาก 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถึง นอ้ ย 1 หมายถึง นอ้ ยท่สี ุด ขอ้ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ท่ี 54321 1 ชอ่ื หน่วยการเรียนร้นู า่ สนใจ กะทัดรัด ชัดเจน ครอบคลุมเน้อื หาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรียนร/ู้ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน และคณุ ลักษณะอันพึงประสงคม์ คี วามเช่อื มโยงกันอยา่ งเหมาะสม 3 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดกับมาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด/ผล การเรยี นรู้ 4 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคิดรวบยอดกับสาระการเรียนรู้ 5 ความเช่อื มโยงสัมพันธ์กันระหว่างชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ดั / ผลการเรียนร้สู าระสำคัญ/ความคิดรวบยอดสาระการเรยี นรูแ้ ละกจิ กรรมการเรียนรู้ 6 กิจกรรมการเรียนร้สู อดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นรแู้ ละสาระการ เรียนรู้ 7 กจิ กรรมการเรยี นรมู้ ีความครอบคลมุ ในการพฒั นาผ้เู รยี นใหม้ คี วามรู้ทักษะ/กระบวนการ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 8 กจิ กรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสมสามารถนำผู้เรยี นไปสกู่ ารสร้างช้นิ งาน/ภาระงาน 9 มกี ารประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ และสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วัด/กิจกรรม การเรยี นรู้ 10 ประเดน็ และเกณฑ์การประเมนิ สามารถสะทอ้ นคุณภาพผเู้ รียนตามมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ 11 สือ่ การเรียนรใู้ นแต่ละกิจกรรม มคี วามเหมาะสมกบั เวลาและการนำไปประยกุ ตใ์ ช้ได้จริง 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกับกิจกรรม และสามารถนำไปปฏบิ ัตจิ ริงได้ ข้อเสนอแนะ .................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................. ลงช่ือ.................................................................. (.................................................................) ผู้ประเมิน

พ.น./วก. 03 โรงเรียนวัดพืชนมิ ิต (คำสวสั ดร์ิ าษฎร์บำรงุ ) สรปุ ผลการประเมินหน่วยการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง ประวตั แิ ละความสำคัญของศาสนา เวลาท่ใี ช้ 4 ชว่ั โมง รหสั วิชา ส 14101 รายวิชา สงั คมศึกษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ครผู สู้ อน นางสาวอัญชลี อนุ่ ทะยา กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- แบบประเมนิ หนว่ ยการเรียนรู้ ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 12 ขอ้ มรี ะดับการประเมิน 5 ระดบั คือ 5 หมายถงึ มีความสอดคล้อง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม มากทสี่ ดุ 4 หมายถึง มีความสอดคลอ้ ง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม มาก 3 หมายถึง มีความสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม ปานกลาง 2 หมายถึง มีความสอดคล้อง/เชอ่ื มโยง/เหมาะสม น้อย 1 หมายถงึ มีความสอดคล้อง/เชอื่ มโยง/เหมาะสม น้อยท่ีสุด ซ่ึงถอื เกณฑ์ในการแปลความหมายของคา่ เฉลี่ย ดังนี้ 4.50 – 5.00 หมายความวา่ มคี วามสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสม มากทสี่ ุด 3.50 – 4.49 หมายความว่า มคี วามสอดคล้อง/เช่อื มโยง/เหมาะสม มาก 2.50 – 3.49 หมายความว่า มคี วามสอดคลอ้ ง/เชื่อมโยง/เหมาะสม ปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายความวา่ มีความสอดคลอ้ ง/เช่ือมโยง/เหมาะสม นอ้ ย 1.00 – 1.49 หมายความวา่ มคี วามสอดคล้อง/เชอื่ มโยง/เหมาะสม น้อยทีส่ ุด คะแนนของผู้ประเมิน ค่า การแปล ขอ้ ที่ รายการประเมิน คนท่ี คนท่ี คนที่ เฉลี่ย ความหมาย 123 1 ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้นา่ สนใจ กะทัดรัด ชัดเจน ครอบคลมุ เน้อื หาสาระ 2 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้/สมรรถนะสำคัญของ ผู้เรียน และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์มคี วามเชื่อมโยงกนั อยา่ ง เหมาะสม 3 ความสอดคล้องของสาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดกับมาตรฐานการ เรียนรู้/ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ 4 ความสอดคลอ้ งของสาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดกับสาระการเรยี นรู้ 5 ความเชื่อมโยงสมั พนั ธก์ นั ระหวา่ งช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ เรียนร/ู้ ตัวชี้วดั /ผลการเรียนรูส้ าระสำคญั /ความคดิ รวบยอดสาระการ เรยี นรู้และกจิ กรรมการเรียนรู้ 6 กจิ กรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั /ผลการ เรียนรู้และสาระการเรยี นรู้ 7 กิจกรรมการเรยี นรู้มคี วามครอบคลมุ ในการพัฒนาผ้เู รยี นใหม้ คี วามรู้ ทกั ษะ/กระบวนการ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน และคุณลกั ษณะอัน พงึ ประสงค์ 8 กิจกรรมการเรยี นรู้มคี วามเหมาะสมสามารถนำผู้เรยี นไปสกู่ ารสร้าง ช้ินงาน/ภาระงาน

คะแนนของผปู้ ระเมนิ ค่า การแปล ข้อที่ รายการประเมนิ คนที่ คนที่ คนท่ี เฉลี่ย ความหมาย 123 9 มีการประเมนิ ผลตามสภาพจรงิ และสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั /กจิ กรรมการเรยี นรู้ 10 ประเดน็ และเกณฑ์การประเมินสามารถสะทอ้ นคุณภาพผู้เรยี นตาม มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั /ผลการเรยี นรู้ 11 สื่อการเรียนรู้ในแตล่ ะกิจกรรม มีความเหมาะสมกับเวลาและการนำไป ประยุกตใ์ ชไ้ ด้จรงิ 12 กำหนดเวลาไดเ้ หมาะสมกบั กจิ กรรม และสามารถนำไปปฏิบตั ิจริงได้ ภาพรวม สรปุ ผลการประเมิน  ผา่ น (ความสอดคล้อง/เช่อื มโยง/เหมาะสมตั้งแต่ระดบั ปานกลางขึ้นไป)  ผา่ น (ความสอดคล้อง/เชื่อมโยง/เหมาะสมต่ำกว่าระดบั ปานกลาง) ลงชื่อ.................................................. (...................................................) ประธานกรรมการ ลงชือ่ .................................................. ลงชอ่ื .................................................. (...................................................) (...................................................) กรรมการ กรรมการ

พ.น./วก. 04 โรงเรียนวดั พชื นมิ ิต (คำสวัสดิร์ าษฎร์บำรุง) แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง ประวตั แิ ละความสำคัญของศาสนา เวลาท่ใี ช้ 4 ชัว่ โมง รหสั วิชา ส 14101 รายวิชา สงั คมศกึ ษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 ครผู ้สู อน นางสาวอญั ชลี อุ่นทะยา กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดบั การประเมิน 5 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ ดีมาก 4 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับ ดี 3 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถึง มีความเหมาะสมในระดับ พอใช้ 1 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั ปรับปรุง ข้อท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน 54321 1 แผนการจดั การเรยี นรูส้ อดคล้องสมั พนั ธก์ ับหน่วยการเรยี นรทู้ กี่ ำหนดไว้ 2 แผนการจัดการเรียนรมู้ ีองค์ประกอบสำคัญครบถ้วนสมั พันธก์ ัน 3 การเขียนสาระสำคัญในแผนถูกต้อง 4 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรูม้ ีความชัดเจนครอบคลมุ เนอ้ื หาสาระ 5 กำหนดเน้อื หาสาระเหมาะสมกบั เวลา 6 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคล้องกบั จุดประสงค์และเน้อื หาสาระ 7 กจิ กรรมการเรยี นรู้สอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์และระดับชน้ั ของนกั เรยี น 8 กจิ กรรมการเรียนรู้มีความหลากหลายและสามารถปฏิบตั ไิ ดจ้ ริง 9 กิจกรรมการเรยี นรูเ้ ปน็ กิจกรรมที่ส่งเสริมกระบวนการคิดของนกั เรยี น 10 กิจกรรมการเรียนรสู้ อดคล้องแทรกคณุ ธรรมและค่านยิ มทีด่ ีงาม 11 กิจกรรมการเรยี นรู้เนน้ ใหผ้ เู้ รียนมสี ว่ นรว่ มในช้ันเรียน 12 วสั ดอุ ุปกรณ์ สื่อ นวตั กรรมและเทคโนโลยมี ีความหลากหลาย 13 วัสดุอปุ กรณ์ สอ่ื และแหล่งเรียนรูเ้ หมาะสมกบั เน้ือหาสาระ 14 ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นค้นควา้ หาความรู้ จากแหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ 15 มกี ารวัดและประเมินผลท่ีสอดคลอ้ งกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ข้อเสนอแนะ ดา้ นเนอื้ หาสาระ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ดา้ นกจิ กรรมการเรียนการสอน................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านการวดั และประเมนิ ผล...................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านอนื่ ๆ (โปรดระบ)ุ ............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... (ลงชอื่ )..................................................ผู้ประเมิน (.................................................) ............./.................../............. สิ่งท่ไี ด้ดำเนินการแก้ไข ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... (ลงช่อื )..................................................ผู้สอน (นางสาวอญั ชลี อุ่นทะยา) ............./.................../............

พ.น./วก. 05 โรงเรยี นวดั พชื นิมติ (คำสวสั ด์ิราษฎรบ์ ำรงุ ) สรปุ ผลการประเมนิ แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง ประวัติและความสำคญั ของศาสนา เวลาท่ใี ช้ 4 ชั่วโมง รหสั วชิ า ส 14101 รายวิชา สังคมศึกษา ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 ครูผู้สอน นางสาวอญั ชลี อนุ่ ทะยา กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ระดับการประเมิน 5 หมายถึง มคี วามเหมาะสมในระดบั ดมี าก 4 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดับ ดี 3 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดบั ปานกลาง 2 หมายถงึ มีความเหมาะสมในระดบั นอ้ ย 1 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับ นอ้ ยมาก ซง่ึ ถือเกณฑใ์ นการแปลความหมายของคา่ เฉลี่ยดงั น้ี (ธานนิ ทร์ ศลิ ปะจารุ. 2555:112) 4.50 – 5.00 หมายความวา่ มีความเหมาะสมในระดบั ดมี าก 3.50 – 4.49 หมายถงึ หมายความวา่ มีความเหมาะสมในระดบั ดี 2.50 – 3.49 หมายถึง หมายความว่า มคี วามเหมาะสมในระดับ ปานกลาง 1.50 – 2.49 หมายถงึ หมายความว่า มีความเหมาะสมในระดบั น้อย 1.00 – 1.49 หมายถึง หมายความวา่ มีความเหมาะสมในระดบั นอ้ ยมาก ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ คะแนนของผู้ประเมนิ ค่า การแปล คนท่ี 1 คนที่ 2 คนที่ 3 เฉลย่ี ความหมาย 1 แผนการจดั การเรยี นร้สู อดคลอ้ งสัมพันธ์กบั หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี กำหนดไว้ 2 แผนการจดั การเรยี นรมู้ ีองคป์ ระกอบสำคญั ครบถ้วนสมั พนั ธ์กนั 3 การเขยี นสาระสำคัญในแผนถูกตอ้ ง 4 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้มีความชัดเจนครอบคลุมเนอื้ หาสาระ 5 กำหนดเนื้อหาสาระเหมาะสมกับเวลา 6 กจิ กรรมการเรียนรูส้ อดคล้องกบั จุดประสงคแ์ ละเนอื้ หาสาระ 7 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคล้องกับจุดประสงค์และระดบั ช้นั ของ นกั เรียน 8 กจิ กรรมการเรยี นร้มู ีความหลากหลายและสามารถปฏบิ ัตไิ ด้จรงิ 9 กจิ กรรมการเรียนรเู้ ปน็ กจิ กรรมทส่ี ่งเสรมิ กระบวนการคดิ ของ นกั เรียน 10 กิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคล้องแทรกคณุ ธรรมและคา่ นยิ มท่ดี งี าม 11 กจิ กรรมการเรยี นรูเ้ นน้ ใหผ้ เู้ รยี นมีสว่ นร่วมในช้ันเรียน 12 วสั ดุอปุ กรณ์ สอ่ื นวัตกรรมและเทคโนโลยมี คี วามหลากหลาย 13 วสั ดอุ ปุ กรณ์ สอ่ื และแหลง่ เรยี นรู้เหมาะสมกับเนื้อหาสาระ 14 ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรียนคน้ คว้าหาความรู้ จากแหลง่ เรยี นร้ตู ่าง ๆ 15 มีการวดั และประเมนิ ผลทส่ี อดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ขอ้ เสนอแนะ ดา้ นเน้ือหาสาระ....................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ด้านกจิ กรรมการเรยี นการสอน................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... . ด้านการวดั และประเมินผล....................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................... สรปุ ผลการประเมนิ  ผา่ น (มีความเหมาะสมต้ังแตร่ ะดบั ปานกลางข้ึนไป)  ผ่าน (ความเหมาะสมตำ่ กว่าระดบั ปานกลาง) ลงชอ่ื .................................................. (...................................................) ประธานกรรมการ ลงชื่อ.................................................. ลงช่ือ.................................................. (...................................................) (...................................................) กรรมการ กรรมการ

ภาคผนวก

รปู ภาพกจิ กรรมการเรยี นการสอน

รปู ภาพกจิ กรรมการเรยี นการสอน

รปู ภาพกจิ กรรมการเรยี นการสอน