Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงาน-AI

รายงาน-AI

Published by pratthana.kay, 2022-06-25 16:15:46

Description: รายงาน-AI

Search

Read the Text Version

1 รายงาน ปญั ญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) จัดทำโดย นางสาวปรารถนา ปันมา้ รหัสนกั ศึกษา 6590051014 นางสาวกมลวรรณ กลน่ิ ประทุม รหสั นักศึกษา 6590051017 นางสาวพชั รพี ร พลดงเขยี ว รหัสนกั ศึกษา 6590051019 สาขาวชิ าวิจัยและเทคโนโลยกี ารจดั การเรียนรู้ คณะศึกษาศาสตร์ เสนอ อาจารย์ ดร.สรุ พล ศรศี ิลป์ รายงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่งึ ของรายวชิ า เทคโนโลยดี ิจิทัลเพ่ือการเรียนรู้ TLR202 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 มหาวิทยาลัยฟารอ์ สี เทอรน์

2 รายงาน ปญั ญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) จัดทำโดย นางสาวปรารถนา ปนั ม้า รหัสนักศกึ ษา 6590051014 นางสาวกมลวรรณ กล่นิ ประทุม รหัสนกั ศกึ ษา 6590051017 นางสาวพชั รีพร พลดงเขยี ว รหสั นกั ศึกษา 6590051019 สาขาวิชาวจิ ยั และเทคโนโลยกี ารจัดการเรียนรู้ คณะศึกษาศาสตร์ เสนอ อาจารย์ ดร.สุรพล ศรีศลิ ป์ รายงานฉบับนี้เป็นสว่ นหนึ่งของรายวิชา เทคโนโลยีดจิ ทิ ัลเพอื่ การเรียนรู้ TLR202 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น

ก คำนำ รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนง่ึ ของรายวชิ า เทคโนโลยีดิจิทัลเพอ่ื การเรยี นรู้ TLR202 มีวัตถุประสงค์ เพื่อใหไ้ ด้ศึกษาหาความรู้เก่ียวกับความหมาย แนวคดิ ประเด็นสำคญั ตา่ งๆเก่ียวกับ ปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) โดยได้ศึกษาผ่านแหล่งเวบ็ ไซต์ต่างๆ คณะผู้จดั ทำหวังเป็นอยา่ งยงิ่ ว่าการจัดทำรายงานฉบบั นี้จะมีขอ้ มลู ท่ีเปน็ ประโยชน์ตอ่ ผู้ท่ีสนใจศกึ ษา หาความรู้เกี่ยวกับปัญญาประดษิ ฐ์ (AI : Artificial Intelligence) เปน็ อยา่ งดี คณะผูจ้ ดั ทำ

ข สารบญั เนอื้ หา คำนำ .............................................................................................................................................................. ก สารบัญ ........................................................................................................................................................... ข บทนำ.............................................................................................................................................................. 1 ปัญญาประดิษฐ์(Artificial Intelligence) ................................................................................................... 1 ประวตั คิ วามเปน็ มาของปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) ...................................................... 3 วัตถปุ ระสงค์ของปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence)................................................................. 4 ประโยชนข์ องปัญญาประดิษฐ์..................................................................................................................... 6 ความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) ............................................................... 6 กระบวนการเรียนรู้ของปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence)....................................................... 8 กลไกการทำงานของปญั ญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) ........................................................... 8 ความสำคญั ของปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) ในโลกปจั จุบนั ........................................... 9 การพฒั นาปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) ในประเทศไทย................................................ 10 การนำปัญญาประดิษฐ์ไปใช้งาน................................................................................................................ 11 ขอ้ ดีและข้อจำกัดของปัญญาประดษิ ฐ์....................................................................................................... 14 พฤติกรรมท่แี สดงความฉลาด .................................................................................................................... 14 ขอ้ เปรียบเทียบและขอ้ จำกดั ของปัญญาประดิษฐ์...................................................................................... 15 ข้อเปรยี บเทียบระหวา่ งคอมพิวเตอร์AI และ คอมพวิ เตอรท์ ั่วไป................................................................ 16 AI ในชีวติ ประจำวนั .................................................................................................................................. 17 ส่วนประกอบใหญ่ท่ีสำคัญทาง AI.............................................................................................................. 17 ปัญหาทางเทคนิคของ AI .......................................................................................................................... 22 สรปุ ได้ว่า .................................................................................................................................................. 22 บรรณานุกรม ................................................................................................................................................ 24

1 ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) บทนำ ณ เวลานี้ เทคโนโลยีทางคอมพวิ เตอร์ ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ไม่วา่ จะเปน็ ทางดา้ นฮาร์ดแวร์ หรอื ซอฟต์แวร์ ผลพวงจากการพฒั นานีไ้ ด้กอ่ กำเนิดศาสตร์หน่ึงขน้ึ มา ซ่งึ ถอื เปน็ ความทา้ ทายของ นกั วทิ ยาศาสตร์ และวศิ วกรทางด้านคอมพิวเตอรท์ ุกคน เนื่องจาก เปน็ ศาสตรท์ ่ีพฒั นาให้ระบบคอมพิวเตอรม์ ี ความเฉลยี วฉลาด ซงึ่ สามารถนำมาใช้เพื่อชว่ ยมนุษยใ์ นการทำงาน การชว่ ยตัดสินใจในด้าน ต่างๆ หรือใชใ้ น การแก้ไขปัญหาสำคัญตา่ งๆ ที่พบ โดยเราเรยี กศาสตร์นว้ี า่ “ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)” ภาพท่ี 1: ภาพอธบิ ายแนวคิดของปญั ญาประดิษฐ์ในการเลยี นแบบ พฤติกรรมของมนุษย์ ซง่ึ ตอ้ งใชศ้ าสตร์ หลายแขนง ในการพัฒนาเพอื่ ให้เครอื่ งจักรมคี วามใกลเ้ คียงกบั มนษุ ย์ ทีม่ า:http://bangkokian.maxincube.com/index.php/2009/04/27/knowledge-base-marketing-03/ ปญั ญาประดิษฐ์(Artificial Intelligence) • เปน็ วชิ าทีว่ ่าดว้ ยการศึกษาเพ่ือใหเ้ ขา้ ใจถึงความฉลาดและสรา้ งระบบคอมพิวเตอร์ทชี าญฉลาด และ นำมาทำงานแทนหรือช่วยมนษุ ย์ทำงานทต่ี อ้ งใช้ความฉลาดน้นั ๆ • การทำให้คอมพวิ เตอรส์ ามารถคดิ หาเหตุผลได้ เรยี นรู้ได้ ทำงานไดเ้ หมือนสมองมนุษย์ หรอื การพฒั นา ให้ระบบคอมพวิ เตอรต์ อบสนองการทำงานตา่ งๆ ในสภาพแวดลอ้ มต่างๆ เพ่ือใหค้ อมพิวเตอรส์ ามารถ ปฏบิ ัตงิ านไดแ้ ทนคน เชน่ Robot

2 ความพยามในการพฒั นาระบบคอมพิวเตอร์ให้มีพฤติกรรมเรยี นแบบคน ระบบต่างๆ จะต้องมี ความสามารถเขา้ ใจภาษามนุษย์ • รูปแบบการคำนวณท่วั ๆไป เช่น การคำนวณโดยใช้คอมพิวเตอร์ไมถ่ ือเป็น AI เพราะ AI จะสามารถ คน้ พบวิธใี นการแก้ปัญหาน้นั ดว้ ยตนเอง • วตั ถปุ ระสงค์ คือให้สามารถทำงานไดเ้ ทียบเท่ากบั ระดับสติปญั ญาของคน โดยสามารถแก้ปญั หาได้ดี หรอื ใกล้เคยี งกนั กับคน สมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย (2561) กล่าวว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) คอื เคร่ืองจักร (machine) ที่มีฟังกช์ นั ทีมคี วามสามารถในการทำความเขา้ ใจ เรียนร้อู งค์ความรตู้ า่ งๆ อาทิเช่น การรบั รู้ การ เรียนรู้ การให้เหตผุ ล และการแก้ปัญหาตา่ งๆ AI ถูกแบ่งออกเปน็ หลายระดบั ตามความสามารถหรอื ความ ฉลาด โดยจะวัดจากความสามารถในการ ใหเ้ หตผุ ล การพูด และทศั นคติของ AI ตัวน้นั ๆ เมอื่ เปรียบเทยี บกบั มนุษย์ AI ถูกจำแนกเปน็ 3 ระดับตามความสามารถหรอื ความฉลาด ดงั น้ี 1) ปญั ญาประดษิ ฐ์เชิงแคบ (Narrow AI) หรือ ปัญญาประดษิ ฐ์แบบอ่อน (Weak AI) คอื AI ทม่ี ี ความสามารถเฉพาะทางได้ดีกว่ามนษุ ย์ เชน่ AI ที่ชว่ ยในการผา่ ตัด (AI-assisted robotic surgery) ท่ีอาจจะ เช่ียวชาญเรื่องการผ่าตดั กวา่ คุณหมอยุคปัจจุบัน แต่ AI ตัวนี้ไมส่ ามารถทจี่ ะทำอาหาร รอ้ งเพลง หรอื ทำส่งิ อื่น ท่นี อกเหนือจากการผ่าตัดได้ ซง่ึ ผลงานวิจยั ด้าน AI ณ ปจั จุบนั ยังอยู่ท่ีระดับน้ี 2) ปัญญาประดษิ ฐ์ทัว่ ไป (General AI) คือ AI ทีม่ ีความสามารถระดับเดียวกับมนุษย์ สามารถทำทุกๆ อยา่ งท่ีมนษุ ยท์ ำได้ และไดป้ ระสิทธิภาพที่ใกลเ้ คยี งกับมนุษย์ 3) ปัญญาประดิษฐแ์ บบเขม้ (Strong AI) คือ AI ที่มีความสามารถเหนือมนุษย์ในหลายๆดา้ น อภิชาต หัตถนิรนั ต์ (2555) กล่าวว่า ปญั ญาประดิษฐ์ คือ อุปกรณ์ท่ตี ้องรับคำสง่ั เพื่อสามารถทางาน ให้ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ภายใตห้ นว่ ยความจำที่มีขนาดใหญ่ หรือหมายถึง การทำใหค้ อมพิวเตอรส์ ามารถคดิ หา เหตผุ ลได้ เรียนรูไ้ ด้ ทำงานได้เหมือนสมองมนุษย์ ซ่ึงการทำงานมีลกั ษณะเช่นเดียวกันกับการ ประมวลผลของ สมองมนุษย์ ดังน้นั ความสามารถของคอมพิวเตอร์ทางดา้ นสติปัญญาและด้าน พฤติกรรมจึงมีลกั ษณะคล้ายกับ มนษุ ย์ สำนกั งานพฒั นารฐั บาลดิจิทลั องค์การมหาชน (2562) กลา่ ววา่ เทคโนโลยปี ัญญาประดิษฐ์จำแนก ตามความฉลาดและความสามารถไว้ 3 ประเภท ดังนี้ 1) ปัญญาประดิษฐ์แบบเบา (Weak AI) หรือ Artificial Narrow Intelligence (ANI) เปน็ ปญั ญาประดิษฐ์ทีส่ ร้างขึ้นมาเพือ่ ใช้งานเฉพาะทาง เช่น SIRI และ Alexa เป็น ปัญญาประดษิ ฐ์ท่สี ามารถให้

3 ความชว่ ยเหลือ แนะนำและใหค้ ำปรกึ ษา (เท่าทีส่ ามารถทำได้) รวมถึงหา ขอ้ มลู ต่าง ๆ ทั้งการจองทริปและ แสดงราคาสนิ คา้ เป็นต้น 2) ปัญญาประดิษฐแ์ บบเขม้ (Strong AI) หรอื Artificial General Intelligence (AGI) เปน็ ปญั ญาประดิษฐท์ ี่มีความสามารถใกลเ้ คียงกับมนษุ ย์ (Human-Level AI) ตวั อย่างเช่น รถยนต์ขบั เคล่ือนไดเ้ อง ของ Uber และระบบขบั รถอัตโนมตั ิ Autonomous Car ของ Tesla เปน็ ต้น 3) ปัญญาประดิษฐแ์ บบทรงปัญญา หรอื Artificial Super Intelligence (ASI) ซง่ึ Nick Bostrom นักคดิ ชน้ั นำดา้ นปญั ญาประดิษฐ์จาก Harvard University กลา่ ววา่ ปญั ญาประดิษฐ์ ประเภทน้ีเทียบเคยี งได้ กับ “Superintelligence” หรอื เครื่องจักรทรงภมู ปิ ญั ญา (Machine Superintelligence) ท่สี ามารถบรู ณา การความรู้ในทกุ ศาสตรแ์ ล้วนำมาประมวลผลดว้ ยความเรว็ สูง และมคี วามเปน็ ไปไดว้ า่ ปญั ญาประดิษฐ์ ประเภทน้จี ะมศี กั ยภาพในเชิงสติปัญญาเหนือมนษุ ย์ ประวัติความเป็นมาของปญั ญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) สมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย (2561) กล่าววา่ ในปี 1956 กลุ่มของผเู้ ชีย่ วชาญแนวหนา้ จากหลายๆ วงการได้รว่ มกันทำงานวิจัยเกี่ยวกับ AI มีผนู้ ำทมี ไดแ้ ก่ John McCarthy (Dartmouth College), Marvin Minsky (Harvard University), Nathaniel Rochester (IBM) และ Claude Shannon (Bell Telephone Laboratories) โดยมีจดุ ประสงคห์ ลกั ของงานวจิ ยั คือ การคน้ หามมุ มองและหลกั การต่างๆท่ใี ช้การเรียนรู้ อยา่ งครอบคลุมเพ่ือท่จี ะนำมาประยกุ ต์ใชใ้ ห้เครื่องจกั รสามารถเรียนรไู้ ดเ้ ช่นกนั โดยมเี นื้อหาของโครงการมี ดังน้ี 1) คอมพวิ เตอรอ์ ัตโนมตั ิ (Automatic Computers) 2) จะสามารถเขียนโปรเเกรมคอมพวิ เตอรโ์ ดยใชภ้ าษาคอมพวิ เตอร์ไดอ้ ยา่ งไร (How Can a Computer Be Programmed to Use a Language?) 3) โครงข่ายประสาทเทียม (Neural Nets) 4) การพัฒนาด้วยตนเอง (Self-improvement) องค์ความรู้เหลา่ นี้เป็นองคค์ วามรู้พ้นื ฐานที่ทำให้คอมพิวเตอรม์ คี วามฉลาดมากขึ้น และยังทำใหค้ วามคิดทจ่ี ะ การสร้าง AI มคี วามเป็นไปได้มากยิ่งขนึ้ ชนดิ ของ AI (Type of Artificial Intelligence) AI ถูกแบ่งออกเป็น 3 sub field ได้แก่ 1) ปัญญาประดษิ ฐ์ (Artificial Intelligence)

4 2) การเรียนร้ขู องเครอ่ื ง (Machine learning) 3) การเรียนรู้เชิงลกึ (Deep Learning) - ยคุ กอ่ นกำเนิดปัญญาประดษิ ฐ์ (คศ. 1943-1955) เปน็ ยคุ ก่อนท่ีจะเกิดคำวา่ AI - ยคุ กำเนดิ ปญั ญาประดษิ ฐ์ (คศ. 1956) เป็นยุคทเ่ี ร่ิมกำหนดชอ่ื ของ “ปญั ญาประดิษฐ์” - ยคุ ตนื่ ตวั (คศ. 1952-1969) ไดส้ ร้างโปรแกรมภาษา Lisp ซึ่งเปน็ โปรแกรมทีใ่ ชใ้ นวงการปัญญาประดิษฐ์ - ยุคเผชิญปัญหาจรงิ (คศ. 1966-1973) เปน็ ยคุ ท่ไี มม่ ีโปรแกรมใดที่เก็บองค์ความรใู้ นรูปประโยคตา่ งๆ ได้อย่างชดั เจน ไม่มีเคร่ืองจกั รที่ แปลภาษาทาง AI ได้ ขอ้ จำกัดด้านพ้ืนฐานทาง Hardware ทำให้เกิดปญั หาในการพัฒนา AI - ยคุ ระบบฐานความรู้ (คศ. 1969-1979) จากยุคที่แลว้ วิธีการแก้ปญั หายงั ไม่สมบูรณ์เพียงพอท่ีจะนำไปใช้งาน จงึ หนั มาหาความรู้เฉพาะดา้ นซง่ึ นำไปสขู่ ้ันตอนท่สี มเหตสุ มผล และนำไปสกู่ ารแก้ปัญหา - ยคุ ปัญญาประดิษฐเ์ ข้าสู่อุตสากรรม (คศ. 1980-ปัจจุบัน) เป็นยุคท่ีนำเอา AI ไปใชใ้ นงานอตุ สากรรมต่างๆ วัตถุประสงคข์ องปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) • เพ่ือจำลองปัญญาของมนุษย์และทำงานแทนมนุษย์ • เพื่อแก้ปัญหาท่ีต้องใชค้ วามรู้จำนวนมาก • เพอื่ สร้างสื่อสารระหว่างคอมพวิ เตอร์กับมนษุ ย์ใหเ้ ข้าใจกนั

5 แนวคิดดา้ นปญั ญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) กฤติยา รัตแพทย์ (2561) กล่าววา่ ปัญญาประดษิ ฐ์ (Artificial Intelligence) เป็นศาสตรแ์ ขนงหนง่ึ ดา้ นวิทยาศาสตร์ คอมพวิ เตอรท์ ่ีเกยี่ วข้องกบั วธิ กี ารทำใหค้ อมพิวเตอรม์ ีความสามารถคล้ายมนุษยห์ รือ เลยี นแบบ พฤติกรรมมนุษย์ คือ โปรแกรม Software (ซอฟแวร์) ต่าง ๆ ท่ใี ช้กับคอมพวิ เตอร์ โดยเฉพาะ ความสามารถในการคดิ เองได้ หรือมีปญั ญานัน่ เอง ปญั ญาทม่ี นุษยส์ ร้างให้คอมพวิ เตอร์ จึงเรียกว่า “ปัญญาประดษิ ฐ์” Maggaan (2020) พบวา่ การใชช้ ีวติ ของมนุษย์มคี วามเกย่ี วขอ้ งกับปัญญาประดิษฐ์ในหลายๆดา้ น แนวโน้มท่ีมนุษย์จะใช้ปัญญาประดิษฐช์ ่วยทัง้ ในดา้ นการทำงาน และอำนวยความสะดวกในการใช้ ชวี ิตประจำวนั องคก์ ร AI for K-12 ได้นำเสนอแนวคิดการจัดการเรียนรปู้ ัญญาประดิษฐ์ในระดบั ข้ันพ้นื ฐานที่ เรยี กวา่ แนวคดิ สำคัญ 5 ประการ สำหรับปัญญาประดษิ ฐ์ (Five Big Ideas in AI) ในงานประชมุ วิชาการของ สมาคมครดู ้านวิทยากรคอมพิวเตอร์ ที่ประเทศสหรฐั อเมริกา ในปี พ.ศ.2562 ดังนี้ 1) การรับรู้ (perception) ปญั ญาประดิษฐจ์ ะรบั รดู้ ้วยการมองเห็นและการไดย้ ินผา่ นอุปกรณท์ ่ีทำหนา้ ท่ีเปน็ เซนเซอร์ เชน่ กล้อง ไมโครโฟน หรอื อปุ กรณ์นำเข้าขอ้ มูลอ่ืน ๆ โดยนำเขา้ ไปเพ่ือประมวลผล และเขา้ ใจส่งิ ทรี่ ับรูไ้ ดด้ ้วย 2) การแทนความรู้และการให้เหตุผล (representation and reasoning) ปัญญาประดิษฐส์ าสมารถเกบ็ องค์ความรใู้ นรปู แบบของตวั แทนความรู้ (knowledge representation) เชน่ กฎการตัดสนิ ใจที่สร้างมาจากองค์ความรขู้ องผเู้ ช่ียวชาญ และใชต้ ัวแทนความรูน้ ีใ้ นการ ใหเ้ หตุผลโดยการอนมุ าน (inference) เปน็ กระบวนการหาขอ้ สรุปจากองค์ความรู้ที่มอี ยู่ ตวั อย่างเช่น ปญั ญาประดษิ ฐ์มตี วั แทนความรู้ของการข้ามถนน (ค่มู ือการข้ามถนน) เม่ือมีการรบั ข้อมูลนำเข้า มา ปัญญาประดษิ ฐ์ จะไปตรวจสอบว่าขอ้ มลู นำเขา้ ตรงกบั ตัวแทนความรใู้ ด (สถานการณ์ตรงกับกฎการข้าม ถนนข้อใดในคู่มอื ) จากนัน้ จึงตัดสนิ ใจวา่ จะขา้ มถนนหรือไม่ขา้ มถนน 3) การเรียนรู้ (learning) ปญั ญาประดิษฐท์ ีใ่ ชอ้ ัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) จะเรียนรูจ้ ากขอ้ มูลขนาด ใหญ่ (big data) โดยสรา้ งโมเดล (model) จากข้อมูลฝกึ สอน (training data) ทมี่ นุษย์นำเข้าไป หรือเปน็ ขอ้ มูลจากเครื่องจักรที่สร้างข้อมลู ฝึกสอนเองได้ ตัวอย่างเชน่ การพฒั นาตวั แบบปัญญาประดิษฐเ์ พ่ือใช้จำแนกเพศจากรปู ภาพใบหนา้ คน โดยอาศยั ข้อมลู ฝกึ สอนที่เป็นรูปใบหนา้ คนเพศชาย-หญงิ จำนวนมาก ๆ

6 4) การปฏิสัมพนั ธ์อยา่ งเปน็ ธรรมชาติ (natural interaction) ปญั ญาประดิษฐ์จะต้องเข้าใจปฏิสัมพนั ธ์ระหว่างมนุษย์กบั มนุษยก์ ่อน ตวั อย่างเช่น การพูดคุยกนั ระหวา่ งมนุษย์ จึงจะทำให้ปญั ญาประดิษฐส์ ามารถเลียนแบบมนษุ ย์ได้อย่างเป็น ธรรมชาติ 5) ผลกระทบทางสงั คม (social impact) การใชง้ านปัญญาประดิษฐ์จะตอ้ งคำนึงถงึ จรยิ ธรรม (ethics) และความปลอดภยั (security) และ ความเป็นส่วนตวั (privacy) เนอื่ งจากปัญญาประดิษฐส์ ามารถตดั สนิ ใจหรอื กระทำสิง่ อาจส่งผลกระทบต่อ มนุษย์ได้ ประโยชน์ของปัญญาประดิษฐ์ 1) ข้อมูลจะถูกเกบ็ ในลักษณะที่เป็นฐานความรขู้ ององคก์ ร พนักงาน สามารถเข้าไป สบื คน้ และหา คำตอบหรือหาคำปรึกษาได้ทุกเวลา 2) เพิม่ ความสามารถใหก้ ับฐานความรู้ขององค์กรดว้ ยการเสนอวิธีการ แกป้ ญั หาสำหรบั งานเฉพาะดา้ น ซ่งึ มีปรมิ าณมากและมคี วามซับซอ้ นมากเกินไปสำหรับมนุษย์ 3) ชว่ ยทำงานในส่วนทเ่ี ป็นงานประจำหรืองานท่ีเบ่ือหน่ายของมนษุ ย์ 4) ช่วยสร้างกลไกท่ีไมน่ ำความรู้สกึ ส่วนตวั ของมนุษย์มาเปน็ องคป์ ระกอบในการตัดสินใจ 5) ชว่ ยให้การใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นเรอื่ งที่ง่ายขนึ้ และช่วยใหม้ ีการใชอ้ งคค์ วามรกู้ นั มากขน้ึ 6) ชว่ ยให้กระบวนการในการแก้ไขปญั หามคี วามรวดเรว็ และมีความสอดคล้องกนั มากขน้ึ 7) ช่วยแกป้ ญั หาทไี่ ม่สามารถแก้ไขเองได้ หรือยากต่อการแก้ไขดว้ ยการใชร้ ะบบสนบั สนนุ การตัดสินใจได้ 8) ชว่ ยคน้ หา วเิ คราะห์ สรุปความหรอื แปลผลสารสนเทศท่ีมีจำนวนมากได้ 9) ชว่ ยเพิม่ ผลติ ผลในการทำงานให้มากขึ้น 10) ช่วยทำงานแทนมนุษยใ์ นสถานการณท์ ่เี สี่ยงภัย ความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) SAS (n.d.) พบวา่ AI ทำงานโดยรวบรวมขอ้ มลู ปริมาณมหาศาลดว้ ยความเร็ว ประมวลผลซ้ำๆผา่ น ขน้ั ตอนการประมวลผลทช่ี าญฉลาด อันชว่ ยให้ซอฟตแ์ วร์สามารถเรียนรจู้ ากรูปแบบและลักษณะของข้อมูลได้ อยา่ งอตั โนมัติ AI เป็นแขนงของการศึกษาที่กว้างขวาง อันประกอบไปดว้ ย ทฤษฎีมากมาย วิธีการและ เทคโนโลยี รวมถงึ แขนงย่อยหลักๆ ได้แก่

7 1) การเรียนรู้ของเครือ่ ง (Machine learning) ในการสรา้ งแบบจำลองการวเิ คราะห์แบบอตั โนมัติ โดยใช้วิธีการจากโครงข่ายประสาทเทียม สถติ ิ การวจิ ัยดำเนนิ การ (operations research) และหลกั ฟสิ ิกสใ์ น การค้นหาข้อมูลเชิงลกึ ทีซ่ ่อนอยใู่ นข้อมลู โดยไมจ่ ำเปน็ ต้องเขียนโปรแกรมในการคน้ หา 2) โครงขา่ ยประสาทเทียม คือหนง่ึ ในระบบการเรยี นรู้ของเครื่อง โดยใชก้ ารเชื่อมโยงระหวา่ งยนู ิต (เหมือนกับเซลล์ประสาท) ทำหน้าที่ประมวลผลขอ้ มลู โดยการตอบสนองต่อข้อมูลภายนอก ถ่ายทอดข้อมลู ซงึ่ กนั และกนั ระหวา่ งแตล่ ะยนู ิต การประมวลผลจำเป็นตอ้ งใชท้ างผา่ นข้อมลู หลายทาง เพือ่ ค้นหาความเชื่อมโยง และถ่ายทอดความหมายจากข้อมลู ที่ไม่ชัดเจนเหล่าน้นั 3) การเรียนรูเ้ ชงิ ลกึ (Deep learning) ใชโ้ ครงข่ายประสาทเทยี มขนาดใหญ่ที่มีหน่วยประมวลผล หลายชัน้ โดยอาศัยประโยชน์จากความกา้ วหนา้ ในศักยภาพของคอมพิวเตอรแ์ ละเทคนิคในการเรยี นรู้รปู แบบ ของข้อมูลปรมิ าณมหาศาลที่มคี วามซับซ้อนที่ได้รับการพฒั นาใหด้ ยี ิง่ ขน้ึ แลว้ แอปพลิเคชันแบบท่ัวไปน้นั หมายถงึ การจดจำภาพและคำพดู 4) ระบบการประมวลผลข้อมูลทม่ี กี ารเรยี นรู้ (Cognitive computing) เปน็ แขนงย่อยหน่งึ ของ AI ท่ี พยายามแสดงปฏสิ ัมพันธใ์ หเ้ สมือนมนุษยผ์ ่านเครอื่ งจักรกล การใช้ AI และการประมวลผลหนว่ ยความจำ มี เปา้ หมายสูงสดุ คือ การใช้เครื่องจกั รกลในการเลียนแบบกระบวนการของมนุษยผ์ า่ นความสามารถในการ ตคี วามภาพและคำพูด และตอบสนองโดยทันที 5) การประมวลผลภาพ (computer vision) ใช้การจดจำรปู แบบและการเรยี นรู้เชิงลกึ ในการจดจำส่งิ ทอ่ี ยใู่ นภาพหรือวิดีโอ เม่ือเครื่องจักรกลสามารถประมวลผล วเิ คราะหแ์ ละเขา้ ใจรปู ภาพ มนั จะสามารถจบั ภาพหรือวิดีโอได้แบบเรยี ลไทมแ์ ละตีความสภาพแวดลอ้ มได้ 6) การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (natural language processing หรอื NLP) คือ ความสามารถ ของคอมพวิ เตอร์ในการวเิ คราะห์ ทำความเข้าใจและสรา้ งภาษามนษุ ย์ ซ่ึงรวมถึงคำพดู ด้วย ข้ันถัดไปของ NLP คือ การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ ซ่ึงช่วยใหม้ นษุ ย์สามารถสื่อสารกับคอมพิวเตอรไ์ ดโ้ ดยใชภ้ าษาเพื่อ ดำเนนิ การงานต่าง ๆ ส่วนเทคโนโลยีที่ช่วยและส่งเสริมประสิทธิภาพของ AI ได้แก่ 1) หน่วยประมวลผลกราฟฟิก เป็นกุญแจสำคญั ของ AI เน่ืองจากหนว่ ยประมวลผลจะช่วยเพ่มิ พลังใน การคำนวณอนั จำเป็นต่อกระบวนการประมวลผลซำ้ ไปมา การฝกึ อบรมโครงขา่ ยประสาทจำเป็นต้องใช้ข้อมลู บกิ๊ ดาต้าและพลงั งานในการคิดคำนวณ 2) Internet of Things กอ่ ให้เกดิ ปริมาณขอ้ มลู มหาศาลจากอปุ กรณท์ ีเ่ ช่ือมโยงอยู่ ซ่ึงข้อมลู ส่วนใหญ่ มกั ไม่ผ่านการวเิ คราะห์ แบบจำลองอัตโนมตั ิทใี่ ช้ AI จะช่วยให้เราใช้ประโยชนจ์ ากแบบจำลองได้อยา่ งเต็มท่ี

8 3) อัลกอรธิ มึ ข้ันสูง กำลังได้รับการพฒั นาและผนวกรวมเป็นวธิ ีใหม่เพ่อื ทำการวิเคราะห์ขอ้ มูลที่ รวดเรว็ กว่าและไดห้ ลายระดับขอ้ มูล กระบวนการอนั ชาญฉลาดนีค้ อื กญุ แจสำคัญในการระบแุ ละพยากรณ์ เหตุการณ์ท่เี กดิ ข้ึนไดย้ าก ทำความเขา้ ใจระบบที่ซับซ้อนและปรบั เพ่ือใหไ้ ด้มาซ่ึงสถานการณท์ ่ีเหมาะสมที่สุด 4) APIs หรือแอปพลเิ คชนั ประมวลผลอินเตอร์เฟส เป็นแพคเกจของโค้ดคำสง่ั ทส่ี ามารถพกพาไดช้ ว่ ย ใหก้ ารเพ่ิมเตมิ ฟงั ก์ชันการทำงานของ AI ไปยงั ผลติ ภณั ฑ์ที่มอี ยู่แลว้ และแพคเกจซอฟต์แวรส์ ามารถเป็นไปได้ โดยมันสามารถเพ่ิมความสามารถในการจดจำภาพ เพ่ือจัดทำระบบความปลอดภัยและการตอบคำถาม Q&A ซึง่ สามารถอธิบายข้อมูล สรา้ งแคปชัน่ และหวั เรื่อง หรอื ค้นหารปู แบบข้อมูลและเนื้อหาท่ีนา่ สนใจได้ กระบวนการเรยี นร้ขู องปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) สำนกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (2564) พบว่า กระบวนการเรยี นรู้ของ AI ไม่ต่างจากการ เรียนรขู้ องมนุษย์ เป็นกระบวนการจดจำ ทำความเข้าใจ ตอบสนองต่อภาษา ตัดสินใจ และแก้ไขปญั หา โดย อาศยั ขอ้ มลู จำนวนมากท่ีมีลักษณะซ้ำ ๆ เหมือนกัน ท้งั น้ี การใช้ AI ทถ่ี กู ต้อง เหมาะสม และก่อให้เกิด ประโยชนส์ งู สุด จำเปน็ ตอ้ งมีการวเิ คราะห์และเลือกสรรให้สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์ของการใชง้ าน คำนึงถึง ข้อมลู ท่ีใชเ้ ปน็ ฐานในการทำนาย และมีการบำรุงรกั ษา AI โดยการติดตามและตรวจสอบกลไกการทำงานของ AI ใหม้ ปี ระสิทธภิ าพอยเู่ สมอ รวมถึงจำเป็นต้องมีข้อมูลใหม่ ๆ ทร่ี วบรวมเข้าส่ฐู านข้อมูลขนาดใหญส่ ำหรับการ วเิ คราะห์และประมวลผลอยา่ งตอ่ เน่ือง เพื่อทจี่ ะพัฒนาให้ AI ฉลาดขึ้น และสามารถทำนายพฤติการณ์ต่างๆ ท่ี จะนำไปใช้ในกระบวนการตัดสินใจเชิงนโยบายไดอ้ ยา่ งแมน่ ยำ กลไกการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) สำนกั งานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส์ (2564) พบวา่ กลไกการทำงานของ AI จะต้องอาศยั Machine Learning ที่ประกอบดว้ ย อลั กอรทิ มึ (Algorithm) หรอื ชดุ คำสง่ั หรอื เง่อื นไขแบบทลี ะขั้นตอน ที่ จะทำให้คอมพวิ เตอร์ หุน่ ยนต์ เครอ่ื งจกั ร หรืออุปกรณ์อิเลก็ ทรอนกิ สต์ า่ ง ๆ ทำการเรยี นรูด้ ้วยตนเอง โดยการ ใช้ขอ้ มลู ขนาดใหญ่ (Big Data) ทีม่ ีอยู่แลว้ ประมวลผลออกมาเปน็ ชุดขอ้ มลู ต่างๆ ซึ่งการเรียนร้ขู องเครือ่ ง แบ่ง ออกได้ 2 รูปแบบคือ 1) การเรยี นรทู้ ่ีมคี นควบคุม โดยเครอ่ื งจะเรยี นรู้และทำนายผลได้ ดว้ ยการชว่ ยเหลอื ของ นกั วิทยาศาสตร์ข้อมลู เช่น การจำแนกหรือจัดลำดับกิจกรรมในหนว่ ยงานทีก่ ำหนดเงอ่ื นไขตามความเรง่ ดว่ น ความสำคัญ หรอื ตามภารกจิ เป็นตน้ และ

9 2) การเรียนรู้ที่ไม่มีคนควบคุม โดยเครือ่ งจะเรยี นรู้และทำนายผลไดด้ ว้ ยการจำแนก แยกแยะ และ สรา้ งรปู แบบจากข้อมูลทีไ่ ด้รับอย่างอัตโนมัติ เม่ือเครื่องสามารถทำนายผลไดม้ ากขน้ึ เท่าไร ยงิ่ ทำให้มสี มรรถนะ ใน การเรยี นร้เู ชิงลกึ (Deep Learning) มากข้ึนเทา่ นั้น เนื่องจากการเรยี นร้เู ชงิ ลกึ ประกอบด้วยอัลกอลิทมึ ท่มี ี ลกั ษณะเปน็ โครงข่ายใยประสาทเสมอื น เฉกเชน่ การทำงานของระบบประสาทสมองของมนษุ ย์ ซงึ่ โครงข่าย เหล่านมี้ ีเซลลป์ ระสาททเี่ ชื่อมตอ่ กนั จนกลายเป็นระบบประสาทท่ีส่ือสารซงึ่ กนั และกนั ดังนน้ั จงึ สามารถเรยี นรู้ และเขา้ ใจขอ้ มลู ขนาดใหญท่ ี่มีความสลบั ซับซ้อนและหลากหลายได้อย่างตอ่ เน่ือง เช่น การวินิจฉัยโรคจาก ข้อมลู ส่วนตวั ของผู้ป่วย ไมว่ ่าจะเปน็ นำ้ หนัก ส่วนสูง ค่านำ้ ตาลในเลือดหรือค่าไขมันในเลือด ภาพอัลตราซา วนด์ หรอื ภาพเอ็กซ์เรย์ แล้วทำการประมวลผลขอ้ มลู ของผู้ป่วยโดยเปรียบเทยี บกบั ฐานข้อมูลเพ่อื ค้นหาความ ผดิ ปกติตา่ ง ๆ ได้ ความสำคัญของปัญญาประดษิ ฐ์ (AI : Artificial Intelligence) ในโลกปจั จบุ นั สำนกั งานพฒั นาธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส์ (2564) กลา่ วว่า ปัจจบุ ัน AI และ Machine Learning ไดม้ ีการนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายในทุกวงการ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจทีน่ ำ AI มาใชไ้ ด้อยา่ งแพรห่ ลายและ โดดเดน่ เนอื่ งจาก AI สามารถตอบโจทยท์ ้ังฝัง่ ธรุ กิจและฝัง่ ผ้บู ริโภค โดยสามารถใชง้ านไดอ้ ย่างง่ายดายมากขึน้ เรอื่ ยๆ ตวั อยา่ งของการใช้ AI ในภาคธุรกจิ ได้แก่ 1) Search Engine การใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหนา้ การจดจำเสียง และการประมวลผล ภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing: NLP) ซึง่ เปน็ เทคนิคการทำความเข้าใจภาษามนุษย์ เพ่ือ นำมาชว่ ยให้ผลลัพธใ์ นการค้นหาสิ่งตา่ ง ๆ มปี ระสิทธิภาพและตอบโจทย์พฤติกรรมสว่ นบคุ คลมากข้ึน 2) Smart Home การควบคุมอปุ กรณ์ภายในบา้ นดว้ ยคำส่ังเสยี ง 3) Health Care การใช้ระบบประมวลหรอื ชุดข้อมลู ซงึ่ เรียกวา่ Deep Learning ท่ี Machine Learning ใชใ้ นการทำงาน ทำให้สามารถสนทนาโต้ตอบกับผู้ปว่ ยและชว่ ยวินจิ ฉัยโรคได้เทยี บเทา่ แพทย์ และ ยงั สามารถทำหน้าทีเ่ ป็นผชู้ ่วยและใหค้ ำปรึกษาทางการแพทยไ์ ด้ 4) ความบนั เทิง Netflix นำมาใช้สนบั สนุนด้านการแนะนำภาพยนตร์หรอื ซีรีส์ตา่ ง ๆ โดยขน้ึ อยูก่ ับ ขอ้ มลู ในการเข้าชมของผใู้ ช้ที่ผ่านมา 5) การทำการตลาด โดยใช้การเขา้ ถงึ ข้อมลู ขนาดใหญ่ แล้วทำการวิเคราะหแ์ ละประเมินมูลคา่ ของ ลกู ค้าแตล่ ะคน เพ่อื ประสทิ ธิภาพในการหาความสมั พันธ์ของลกู ค้าหรอื การโฆษณา 6) การตรวจจับการฉ้อโกง โดยการวเิ คราะห์รปู แบบของข้อมูลพฤติการณ์ที่เข้าขา่ ยการฉ้อโกง เพ่ือให้ สามารถปอ้ งกันปญั หาดังกล่าวทีอ่ าจจะเกิดขึ้นได้

10 7) สถาบันการเงินสามารถตรวจสอบงบการเงินและความเสย่ี งด้านการชำระเงนิ ของสถาน ประกอบการทยี่ ่ืนขอสินเช่ือได้ 8) การทำงานอัตโนมัตอิ ื่นๆ เชน่ รถยนต์ไร้คนขบั การพัฒนาปญั ญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) ในประเทศไทย Security Systems Magazine (2020) กลา่ ววา่ การพัฒนาเทคโนโลยี AI ในประเทศไทย พบวา่ มี การพฒั นาเทคโนโลยี AI ในบริษทั เอกชนชัน้ นำหลายบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุม่ อตุ สาหกรรมการเงนิ ซ่ึง ธนาคารหลายแห่งได้มีการนำเอาระบบ AI มาวิเคราะห์พฤตกิ รรมของลูกคา้ ซ่งึ จะเปน็ ประโยชนต์ ่อการ วางแผนการตลาดยคุ ใหม่ เชน่ กลมุ่ บริษทั SCB Abacus ไดใ้ ชร้ ะบบ AI ในการสร้างแอพพลิเคช่นั SCB Easy รวมถงึ ได้ใช้ AI พัฒนาสินเชื่อแม่มณีศรีออนไลน์ ซงึ่ ถอื เป็นผใู้ หบ้ ริการสินเชื่อออนไลนเ์ จ้าแรกของประเทศไทย เพือ่ ให้บริการกลุ่มลูกค้า SME ทีอ่ ยใู่ น LAZADA บริษทั เอกชนหลายแหง่ ได้มีการใช้ Chatbot ซ่งึ เป็นระบบ AI ทจี่ ะทำหน้าที่ในการตอบคำถามและ คน้ หาสนิ ค้าทีล่ กู ค้าต้องการ ธุรกจิ โลจสิ ตกิ ได้มกี ารนำเอาระบบ AI มาใช้ในการบริหารจัดการระบบโลจสิ ติกไดอ้ ยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ ไมว่ ่าจะเป็นการหาแหลง่ ทรัพยากรสำหรบั ผลติ สินค้า, การจัดเตรยี มสต๊อกสินค้า, การส่งสินคา้ ถึงมือลูกค้า ตลอดจนการวิเคราะหพ์ ฤตกิ รรมการซ้ือขายสินคา้ ตา่ งๆ ดา้ นการศึกษา ก็ได้มกี ารนำเอา AI มาใช้ประโยชนใ์ นการแบ่งเบาภาระงานของครูผสู้ อน ซึ่งจะเห็นได้ จากการนำเอา AI มาชว่ ยตรวจการบ้าน มาชว่ ยประเมนิ ผลคะแนน และมาช่วยในการแนะแนวความถนัดของ นักเรยี นแต่ละคน ดา้ นภาครัฐเองก็ได้มีการใช้ AI ในการบรหิ ารจดั การระบบงานให้มีประสิทธิภาพมากย่ิงขนึ้ เชน่ กรมสรรพากรได้มีการนำเอา AI มาวเิ คราะหเ์ ก่ยี วกับงานด้านภาษี หรอื แม้แตใ่ นวงการแพทย์ โรงพยาบาล บำรงุ ราษฎร์ ก็ได้มกี ารนำเอาระบบ AI มาช่วยในการวินจิ ฉัยโรค

11 การนำปัญญาประดษิ ฐ์ไปใช้งาน 1) ดา้ นการผลติ (Production) สามารถนำไปใชใ้ นการวิเคราะห์การกำหนดตารางการผลติ และการ กำหนดตารางการใช้ทรัพยากรให้เหมาะสม ตลอดจนการกำหนดโอกาสในการนำเอากากวัสดไุ ปผลิตอกี คร้งั 2) การตรวจสอบ (Inspection) ผผู้ ลิตสามารถใช้ระบบผู้เชี่ยวชาญ (ES) ทเี่ ป็นระบบจับภาพ ซ่ึงจะ สามารถฉายภาพความเสยี หายของวัตถุด้วยการใช้ลำแสง เพอ่ื ป้องกนั ในการแพร่กระจายความเสยี หาย ไปท่ี ต่าง ๆ นอกจากนร้ี ะบบนย้ี ังสามารถช่วยทำรายงานดา้ นการรบั ประกันคุณภาพ ท่ีเกี่ยวกับชน้ิ สว่ น ของวตั ถใุ น เร่ืองความชำรดุ เสยี หาย และวธิ กี ารในการแก้ไขด้วย 3) การประกอบช้นิ ส่วน (Assembly) ระบบผู้เชย่ี วชาญ XCON สามารถชว่ ยผูผ้ ลิตในการสร้างโครง รา่ งคำ ส่ังซื้อของลูกค้าไปเป็นแผนผังภาพ ซ่ึงจะแสดงใหเ้ ห็นสว่ นประกอบท่จี ำเปน็ ในการผลติ ตามคำส่งั ซื้อ ของลกู ค้า และยังแสดงใหเ้ ห็นถึงความสมั พนั ธ์ระหว่างชิน้ ส่วนตา่ งๆ 4) ดา้ นบริการ (Field service) ระบบผเู้ ช่ียวชาญ (ES) เป็นประโยชน์อยา่ งมากต่อผจู้ ัดการดา้ นการ บริการและพนกั งานซอ่ มแซมทว่ั ไป (ช่าง) ระบบผู้เชี่ยวชาญ (ES) ช่วยใหช้ ่างเข้าใจถงึ ลำดับขัน้ ตอนใน การ วเิ คราะห์ เช่น เคร่ืองจักรกำลังเดินเครือ่ งหรอื ไม่ ความเสยี หายเกิดข้นึ กบั ระบบอิเลก็ ทรอนิกส์หรือ เกิดกับสว่ น ใด ซง่ึ เปน็ การช่วยในการวิเคราะห์ตามลำดบั ขนั้ ตอนอย่างรวดเร็ว ทำให้ประหยัดเวลาใน การทำงาน 5) ดา้ นการซ่อมแซมโทรศัพท์ (Telephone repair) - ช่วยรกั ษาความรู้ท่ีอาจสูญเสียไป เมือ่ เกิดการลาออกของพนักงาน ทมี่ ีความเชย่ี วชาญ - ช่วยทำใหข้ ้อมูลมีคุณภาพ และมศี ักยภาพในการนำมาใช้งานได้ อยา่ งทนั ท่วงทเี ม่อื ต้องการ - ชว่ ยทำใหเ้ กิดความคดิ สรา้ งสรรค์แปลกใหม่ - ช่วยป้องกันไม่ใหเ้ กิดภาวะที่อาจเกิดกับมนุษย์ เชน่ ความเมื่อยลา้ ความสับสนวุ่นวายหรอื ปัญหา อารมณ์ - ใชเ้ ปน็ เครื่องมอื เชิงกลยทุ ธ์ ด้านการตลาด การลดต้นทนุ และ การปรบั ปรุงพฒั นาสินค้า 6) การสอบบัญชี (Auditing) ระบบผู้เชี่ยวชาญ (ES) ช่วยผตู้ รวจสอบบัญชีในเรื่องกระบวนการ ตรวจสอบบัญชเี พื่อความถูกต้อง เช่น สำหรับบัญชีลกู หนี้ (Account receivable) จะมีการปอ้ น ข้อมลู ลูกหนี้ เข้าไปในระบบผเู้ ชยี่ วชาญ สิ่งท่ไี ดจ้ ากระบบคอื การเสนอแนะกระบวนการในการ ตรวจสอบน่นั เอง 7) การคิดภาษี (Tax accounting) เป็นการน าหลกั เกณฑ์ทางบัญชี มาตรฐานการบัญชี มาปรับให้ เขา้ กับ ประมวลรษั ฎากรและกฎหมายภาษอี ากรต่าง ๆ ให้สอดคลอ้ งกัน เพื่อให้ถกู ต้องตามหลักการบัญชแี ละ กฎหมายภาษีอากรไมว่ ่าจะเป็นเรอื่ งการคำนวณกำไรขาดทุนสทุ ธิ เงอื่ นไขการรบั รู้รายได้และรายจา่ ย ของ กิจการ ภาษมี ูลค่าเพิ่ม ภาษธี รุ กิจเฉพาะ ภาษเี งินได้บคุ คลธรรมดา ภาษีเงนิ ได้นิติบุคคล ภาษีหัก ณ ทจี่ ่าย

12 หรืออากรแสตมป์ สืบเนื่องมาจากหลกั การบัญชี หลายประการทีข่ ดั แย้งไมเ่ ป็นไปตาม กฎหมายภาษอี ากร น่นั เอง มกั จะพบเหน็ กันเมื่อมีการจัดทำบัญชขี องธุรกิจในแต่ละรายการค้าแตล่ ะ งวดบญั ชมี ักจะปรากฏอยู่ เสมอว่า หลกั ในการจัดทำบัญชไี ม่เปน็ ไปตามกฎหมายภาษีอากร ซ่ึงผู้จดั ทำบญั ชจี ะต้องมีการปรบั ปรงุ แกไ้ ข รายการค้าที่เกดิ ขึ้นใหเ้ ปน็ ไปตามเงื่อนไขทางภาษีอากรท่ไี ด้กำหนด เอาไว 8) การวางแผนดา้ นการเงนิ (Financial planning) เพ่ือให้สามารถวางแผนการเงินเบอื้ งต้นไดอ้ ย่างมี ประสิทธภิ าพโดย อาศยั ข้อมูลตา่ ง ๆ เชน่ ขอ้ มลู พ้ืนฐานสว่ นบุคคล ภาษเี งนิ ได้บคุ คลธรรมดา รวมถงึ ลักษณะเฉพาะของ แต่ละบุคคล เพ่ือเปน็ พืน้ ฐานของการพัฒนาแผนการเงินให้กับแตล่ ะบคุ คลได้อยา่ ง เหมาะสม 9) ดา้ นการลงทุน (Investments) เพือ่ ใหเ้ ข้าใจถงึ หลักการและแนวคดิ เก่ียวกับการลงทุน เช่น ตรา สาร เพอื่ การลงทนุ การวเิ คราะห์การลงทุน กลยุทธก์ ารลงทุน รวมถงึ การบริหารกลุ่มหลักทรพั ย์ เพ่ือให้ สามารถเป็นผู้ปฏิบัตหิ น้าทใี่ ห้คำปรกึ ษาเร่ืองการวางแผนทางการเงินท่ีมีความรอบรู้ในเร่ืองของการ วาง แผนการลงทุนไดอ้ ยา่ งแท้จริง 10) ดา้ นบคุ คล (Personnel) ระบบผเู้ ช่ยี วชาญ (ES) ชว่ ยแผนกบุคคลในการเตือนผูใ้ ช้ในเรอ่ื งท่ี สำคัญตา่ ง ๆ ทีเ่ กยี่ วกบั นโยบายของบริษทั และยงั ช่วยในการสรา้ งคมู่ ือให้แก่พนักงาน 11) ด้านการตลาด และการขาย (Marketing and sales) ระบบผเู้ ชย่ี วชาญ (ES) สามารถทำงาน 6 งานพร้อมกันภายใน ไม่กวี่ ินาที ในขณะท่ีพนกั งาน 1คน ใช้เวลา 20-30 นาทีในการทำงาน 1 งาน 12) การอนุมัตสิ ินเชือ่ (Credit authorization) จะชว่ ยใหผ้ ูท้ ีย่ ่นื ขอสนิ เช่อื สามารถนำเงินสดทไี่ ดร้ บั ไปใชจ้ ่าย ตามเง่ือนที่ได้ระบไุ วใ้ นการขอสนิ เช่ือ เชน่ สินเชื่อซื้อบ้าน โดยท่ไี ม่ตอ้ งใช้เงนิ สดแบบก้อนในการซื้อ แต่ผู้ขอสนิ เช่อื ซ้ือบ้านกม็ หี น้าท่ีท่ีจะต้องชำระค่างวดรายเดือนทุก ๆ เดือน เป็นระยะเวลาหลายปี นอกจาก สนิ เชอื่ ประเภทบ้าน กย็ ังรวมถึงสินเช่อื เพ่ือธุรกิจ ที่ได้รบั ความนยิ มอย่างมากสำหรับ ผปู้ ระกอบทีม่ องหา เงนิ ทุนเพื่อขยายธุรกจิ ของตนเอง และสถาบันการเงินกย็ ินดีทจ่ี ะใหค้ วามชว่ ยเหลอื ต่อผปู้ ระกอบการที่ยน่ื กู้ เพราะเน่ืองจากวา่ เงนิ กนู้ น้ั สงู และมีอัตราดอกเบย้ี ทส่ี ูงกว่าสินเชอื่ อนื่ ๆ แต่การขอสินเช่ือเพื่อธุรกิจก็ไม่ได้ งา่ ยดายนกั เพราะต้องมีการประกอบธรุ กิจตามทส่ี ถาบนั การเงิน กำหนด และมีกำไรต่อมีตามทส่ี ถาบนั การเงนิ กำหนดด้วย อกี ท้งั ต้องไม่มีประวัตทิ ่กี ารเงินทีไ่ ม่ดี จึงจะ สามารถทำการยนื่ ขอสินเช่ือได้ สามารถผอ่ นชำระได้ เปน็ งวด ๆ โดยสถาบนั การเงินจะเปน็ ผู้กำหนด ระยะเวลาการผ่อน โดยขึ้นอยกู่ บั ราคาของสินคา้ นั้น ๆ และ จำนวนชำระในแต่ละงวด สามารถควบคุม ค่าใชจ้ า่ ยได้ในแต่ละเดอื นได้ เน่อื งจากคา่ ชำระในแตล่ ะเดอื นจะ เท่ากันทุกเดือน

13 13) หนว่ ยงานด้านบรกิ ารของรฐั (Human services agency) การบริหารงานภาครัฐแนว (New Public Management) คือ การปรับเปล่ยี นการบรหิ ารจดั การภาครัฐโดยนำหลักการเพ่ิมประสิทธภิ าพของ ระบบราชการ และการแสวงหาประสทิ ธิภาพในการปฏิบตั ิราชการที่ม่งุ สคู่ วามเปน็ เลศิ โดยการนำเอาแนวทาง หรอื วิธกี ารบริหารงานของภาคเอกชนมาปรบั ใชก้ ับการบริหารงานภาครฐั เชน่ การบรหิ ารงานแบบม่งุ เนน้ ผลสัมฤทธ์ิ การบริหารงานแบบมืออาชีพ การคำนงึ ถึงหลกั ความคุ้มค่า การจัดการโครงสรา้ งท่ี กะทดั รดั และ แนวราบ การเปิดโอกาสใหเ้ อกชนเข้ามาแขง่ ขัน การใหบ้ ริการสาธารณะ การให้ ความสำคญั ตอ่ คา่ นยิ ม จรรยาบรรณวิชาชีพ คุณธรรมและจริยธรรม ตลอดทัง้ การมงุ่ เนน้ การใหบ้ ริการ แก่ประชาชนโดยคำนงึ ถงึ คณุ ภาพเปน็ สำคญั 14) การทำนายทางการแพทย์ (Medical prognosis) ระบบผูเ้ ชี่ยวชาญ เปน็ ระบบทใี่ ช้คอมพิวเตอร์ วนิ จิ ฉัยโรค ระบบ ทมี่ ชี ่ือเสียงเมื่อสิบปีเศษมานี้ คือ ระบบ Mycin ของมหาวิทยาลยั สแตนฟอร์ด และเร่ิมมีผู้ นำมา ประยุกตใ์ ช้ในดา้ นอ่ืน ๆ มากขนึ้ เลยไปถงึ โรคพืชและสตั ว์ หลักการที่ใชค้ ือ เกบ็ ข้อมูลต่าง ๆ ไวใ้ ห้ ละเอยี ด แลว้ ใชห้ ลักปัญญาประดษิ ฐห์ รือ Artificial Intelligence-AI มาชว่ ยวเิ คราะห์เป็นแนวคิดใน การทำให้ คอมพิวเตอร์ทำงาน และคดิ ไดเ้ หมือนคน ระบบนีน้ ่าจะชว่ ยอนามยั ตำบล ในการวินิจฉยั โรคยากๆ ได้ ใหค้ นที่ มคี วามรปู้ านกลางพอสมควร สามารถท่จี ะวนิ จิ ฉยั โรคได้ เป็นอีกหนทางหนง่ึ ท่ี เพ่มิ จาก tele-medicine ท่ี ผเู้ ช่ยี วชาญตัวจรงิ ตอ้ งมาใหค้ ำปรึกษาแนะนำ 15) ระบบสารสนเทศภมู ศิ าสตร์ (Geographic Information Systems: GIS) เปน็ ระบบทีเ่ กี่ยวข้อง กบั ข้อมูลพ้นื ท่ี (Spatial Data) และข้อมลู แสดงคุณลักษณะเชิงตวั เลข (Attribute Data) ต้ังแต่การจัดเก็บ ขอ้ มูล ถ่ายทอดข้อมลู วิเคราะห์ข้อมลู ตลอดจนการเรียกใช้ข้อมลู ซ่ึงสามารถอ้างองิ ตำแหน่งบนพน้ื ดินไดร้ ะบบ สารสนเทศภูมศิ าสตร์ ประกอบดว้ ยฐานข้อมลู ฮาร์ดแวร์ และซอฟทแ์ วร์ของคอมพิวเตอรท์ ี่จะแสดงในรูป เชงิ ซอ้ น (Multiple Layers) ของข้อมลู ท่ีได้รับจาก แหลง่ ต่าง ๆ ขอ้ มูลเมอื่ นำเขา้ สู่ระบบสารสนเทศภูมศิ าสตร์ แลว้ สามารถปญั หานนั้ ๆ เนื่องจากระบบน้ีก็คือ การจำลองความรู้ของผเู้ ช่ียวชาญจริง ๆ มาน่ันเอง โดย ผู้เชีย่ วชาญในทีน่ ้อี าจเป็นผูเ้ ชี่ยวชาญในดา้ นตา่ ง ๆ อาทิ ด้านการบริหาร เศรษฐกจิ สขุ ภาพ และ ดา้ น โภชนาการ เป็นตน้ (สุกัญญา สุรยิ ะแกว้ , 2559)

14 ขอ้ ดแี ละข้อจำกัดของปัญญาประดิษฐ์ ปัญญาประดิษฐ์ ความสามารถทใ่ี ช้เปรยี บเทียบ มนษุ ย์ ความคงทนถาวรขององคค์ วามรู้ อาจสญู หายไปตามกาลเวลาหรือการ จดั เก็บเปน็ องค์ความรู้ได้คงทนถาวร ตายของผ้เู ป็นเจ้าขององค์ความรู้ การคดั ลอกและการเผยแพร่องค์ ทำได้ยาก ตอ้ งเสียคา่ ใชจ้ า่ ยให้กับ ทำไดง้ ่าย รวดเร็วและเสยี คา่ ใชจ้ า่ ยนอ้ ย ความรู้ ผเู้ ชย่ี วชาญสงู และใชเ้ วลานาน การจัดทำเปน็ เอกสารขององค์ ย่งุ ยาก คา่ ใชจ้ ่ายสงู ค่อนข้างง่ายและค่าใชจ้ า่ ยไม่สงู นกั ความรู้ ความคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์ มคี วามคดิ ริเริ่มสรา้ งสรรค์ ไมม่ ี ตน้ ทนุ ขององค์ความรู้ สูงมากเม่ือคดิ เป็นชว่ งเวลานาน คา่ ใช้จ่ายตำ่ กวา่ เนื่องจากตอ้ งจา่ ยใหก้ ับผเู้ ชย่ี วชาญเปน็ ประจำ ความละเอยี ดอ่อนและยุติธรรม อาจมคี วามลำเอยี งได้เน่ืองจากเหตุผล มีความละเอียด รอบคอบและยุตธิ รรม ทางอารมณ์และบางเวลาอาจเกดิ ความ เสมอตามท่ถี ูกโปรแกรมไว้ ไม่รอบคอบได้ พฤตกิ รรมทแ่ี สดงความฉลาด • การเรียนรูแ้ ละเขา้ ใจจากประสบการณ์ • การตอบสนองต่อข้อความท่ีคลุมเครือหรือขดั แย้งกัน • ความสามารถในการท่ีจะตอบสนองตอ่ สถานการณใ์ หม่ๆ ได้อยา่ งรวดเร็วและประสบผลสำเรจ็ • ความสามารถในการจัดการและแก้ไขปญั หาที่ซับซ้อนได้ • ความสามารถท่จี ะเขา้ ใจและทำงานได้ในทศิ ทางทถี่ ูกตอ้ ง

15 • ความสามารถที่จะใช้ความร้เู พ่ือจดั การกับสภาพแวดล้อมได้ • ความสามารถที่จะหาความรแู้ ละใชค้ วามรูน้ ้ันได้ • ความสามารถท่ีจะคดิ และใช้เหตผุ ล ขอ้ เปรียบเทยี บและข้อจำกัดของปัญญาประดิษฐ์ • ระบบการคำนวณ การคำนวณที่เกยี่ วข้องกับตวั เลขจำนวนมาก จะซับซ้อนเกนิ กวา่ ทสี่ มองของคนจะคำนวณได้ แต่ AI สามารถคำนวณได้อย่างรวดเร็ว • ระบบการจัดเก็บข้อมูล เม่ือระบบมีข้อมลู มากขึน้ การจดจำด้วยสมองคนจะไม่ใชท่ างเลือกที่ดเี น่ืองจากสมองคนจะมกี ารลมื แต่เครื่องจักรกลสามารถเกบ็ ขอ้ มูลได้จำนวนมากและนำไปใชไ้ ด้โดยง่าย • ระบบการทำงานแบบวนซ้ำ การทำงานซ้ำในการคำนวณ อาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจของมนุษย์ เนื่องจากคนมีข้อจำกัดทาง รา่ งกาย เมื่อทำงานเดมิ ๆ แต่สำหรับเครื่องคอมพิวเตอรท์ ีม่ ี AI จะสามารถทำงานแบบวนซำ้ ได้อย่างไม่มีปัญหา

ขอ้ เปรยี บเทียบระหว่างคอมพิวเตอร์AI และ คอมพิวเตอรท์ ่วั ไป 16 ขอ้ เปรียบเทียบ AI Computer Computer ทั่วไป การประมวลผล ประมวลผลด้วยการวิเคราะรูปแบบ ประมวลผลตาม Algorithm ท่สี รา้ ง สัญลกั ษณ์ ไว้ ขอ้ มูลนำเข้าต้องมีความสมบรู ณ์ ขอ้ มลู นำเข้า ขอ้ มลู นำเขา้ ไม่จำเป็นต้องสมบรู ณ์ ใชว้ กิ ารตามรูปแบบ Algorithm การได้มาซึ่งข้อมูลและสารสนเทศ วธิ กี ารค้นหา ใช้วธิ ที ่ไี มอ่ าศยั กฏเกณฑ์ตายตัว ไม่สามารถให้เหตุผลได้ ตอ้ งใหม้ นุษยช์ ่วย หากอยู่นอกวิธี จดุ มุง่ หมาย การได้มาซง่ึ องค์ความรู้ วเิ คราะหต์ าม Algorithm ไมส่ ามารถเรยี นรู้ด้วยตนเอง การให้เหตุผล สามารถใหเ้ หตุผลได้ การตัดสินใจ ตดั สินใจไดด้ ว้ ยตนเอง การวเิ คราะห์ขอ้ มลู วเิ คราะห์ข้อมูลอยา่ งสมเหตุผล การเรียนรู้ สามารถเรียนรู้ได้ดว้ ยตนเอง

17 AI ในชีวิตประจำวนั ปจั จุบนั AI ซ่อนอยใู่ นส่ิงของหรือบรกิ ารทใี่ ชก้ นั โดยทั่วไป และอยรู่ ่วมกบั ชวี ติ ประจำวนั ของคนเราได้ อย่างกลมกลืน ไมว่ า่ จะเปน็ การท่ีเราคน้ หาข้อมลู ระบบ AI ก็จะจดจำข้อมูลของเราไว้ ทำใหใ้ นครัง้ ต่อ ๆ ไป เราแค่พิมพต์ ัวอักษร 1-2 ตัว เราจะเจอประโยคทเี่ ราเคยเสิร์ชทนั ที และ AI ในชวี ติ ประจำวนั ยังมีอกี มากมาย ยกตวั อยา่ ง ท่ีมำและแหลง่ อำ้ งอิง https://intelligence.businesseventsthailand.com/en/blog/chatbot 1. ระบบชว่ ยเหลือลูกค้าออนไลน์ เวบ็ ไซตป์ ัจจุบันมักมรี ะบบแชทท่คี อยตอบปัญหาหรือชว่ ยเหลือลกู คา้ ไดแ้ บบออนไลน์ ซง่ึ ผูท้ ี่คอยตอบนั้น ก็ ล้วนมีทั้งพนกั งานทเี่ ป็นมนษุ ย์ หรอื วา่ เปน็ “Chatbot” ซ่งึ เปน็ AI ท่ีจะคอยชว่ ยเหลอื ลูกคา้ ได้ 24 ชว่ั โมง เหมาะสำหรบั การตอบคำถามทถ่ี ูกถามบ่อย ไดป้ ระโยชนท์ ้ังลดปรมิ าณงานของพนักงาน Call Center หรอื เจ้าของธุรกิจทีจ่ ะต้องคอยตอบคำถามเหลา่ นัน้ และ ลูกค้าก็ไดร้ ับคำตอบท่ตี ้องการอย่างรวดเรว็ เชน่ กนั

18 ท่มี าและแหลง่ อา้ งองิ https://tohklom.com/ai-in-daily-life/ 2. ผ้ชู ่วยเสมือนจริง ผใู้ ชส้ มำร์ทโฟนคงคนุ้ เคยกนั ดีกบั “Siri” ที่เป็นระบบผชู้ ่วยเสมือนจริงแบบส่ังงำนดว้ ยเสียงในอุปกรณ์ของ Apple หรือ Google Assistant ซ่ึงแน่นอนวำ่ ผชู้ ่วยไฮเทคน้ีกเ็ ป็น AI เช่นกนั ขบั เคลื่อนดว้ ยระบบประมวล ภำษำธรรมชำติ ที่จะวิเครำะหค์ ำส่งั หรือควำมตอ้ งกำรของผใู้ ชผ้ ำ่ นภำษำที่พูดกนั โดยปกติ ให้ AI สำมำรถ เขำ้ ใจและสร้ำงประโยคเพ่ือตอบคำถำมหรือทำในส่ิงท่ีผใู้ ชต้ อ้ งกำรไดอ้ ยำ่ งรวดเร็วและมีประสิทธิภำพ ที่มำและแหล่งอำ้ งอิง https://techsauce.co/tech-and-biz/peoples-photos-are-taken-from-websites-to- develop-ai-face-recognition-without-consent 3. ระบตุ วั ตนดว้ ย AI กำรระบตุ วั ตนดว้ ยไบโอเมทริกซ์ ยกตวั อยำ่ ง ม่ำนตำ เสียง ลำยนิ้วมือ หนำ้ ภำษำกำย ถือเป็นส่วนหน่ึงของ กำรนำเทคโนโลยี AI ท่ีใชไ้ บโอเมทริกซใ์ นกำรจดจำรูปแบบและแยกแยะ มำใชเ้ พอื่ ยนื ยนั ตวั ตนหรือระบุ

19 ตวั ตนได้ ซ่ึงหลำย ๆ อยำ่ งกอ็ ยใู่ นชีวิตประจำวนั ของเรำอยูแ่ ลว้ อยำ่ งกำรสแกนลำยนิ้วมือเพ่ือบนั ทึกเวลำ แทนกำรตอกบตั ร กำรสแกนม่ำนตำเพื่อเขำ้ ใชง้ ำนสมำร์ทโฟน เป็นตน้ ท่มี าและแหล่งอา้ งองิ https://www.techtrendai.com/voice-to-text-toshiba/ 4. ตอบโตด้ ว้ ยเสียง จำกระบบรู้จำและสงั เครำะห์เสียงพดู (Speech Recognition and Synthesis) เรียกไดว้ ำ่ เป็นอีกระบบท่ีสำมำรถทำงำนร่วมกบั ระบบ NLP เพ่อื ใหเ้ รำสำมำรถตอบโตก้ บั คอมพิวเตอร์ได้ อยำ่ งสะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรมชำติยงิ่ ข้ึน ท่ีมำและแหลง่ อำ้ งอิง http://thewindustry.com/automation/detail/a484x263 5. ระบบอตั โนมตั ิดว้ ยเทคโนโลยหี ุ่นยนต์ (Robotic Process Automation) เทคโนโลยหี ุ่นยนตถ์ ูกนำมำใชใ้ นวงกำรอุตสำหกรรมมำอยำ่ งยำวนำน แตก่ ำรนำเทคโนโลยหี ุ่นยนตม์ ำ ประยกุ ตใ์ ชก้ บั ภำคธุรกิจ หรือเป็นส่วนหน่ึงของชีวติ ประจำวนั ยงั คงอยใู่ นวงจำกดั ที่สำมำรถนำมำใช้ แกป้ ัญหำเฉพำะดำ้ นตำ่ ง ๆ เช่น หุ่นยนตท์ ำควำมสะอำด หุ่นยนตพ์ นกั งำนตอ้ นรับ หรือรถท่ีสำมำรถ ขบั เคลื่อนไดด้ ว้ ยตวั เอง

20 ที่มำและแหล่งอำ้ งอิง https://tohklom.com/ai-in-daily-life/ 6. เขำ้ ถึงทกุ บริกำร ดว้ ยผชู้ ่วยเสมือนจริง (Virtual Agents) คอื เทคโนโลยที ี่ทำใหเ้ รำสำมำรถเขำ้ ถึงคลงั ควำมรู้หรือบริกำรต่ำง ๆ ไดอ้ ยำ่ งไม่รู้จบ เช่น Siri สำมำรถเขำ้ ถึง และเขำ้ ใจตำรำงงำน อีเมล ปฏิทิน นำฬิกำ ใน Smart Phone ของเรำ หรือ Alexa สำมำรถเขำ้ ถึงบริกำรของ Amazon หรือ Smart Home Device ของเรำได้ ที่มำและแหล่งอำ้ งอิง https://tohklom.com/ai-in-daily-life/ 7. รู้จกั ภำษำที่มนุษยใ์ ช้ ดว้ ยระบบประมวลภำษำธรรมชำติ (NLP) NLP คอื เทคโนโลยที ี่จะช่วยทำใหเ้ รำสำมำรถปฏิสมั พนั ธ์กบั คอมพวิ เตอร์ไดอ้ ยำ่ งเป็นธรรมชำติ เทคโนโลยี NLP จะทำกำรวเิ ครำะหค์ ำส่ังหรือควำมตอ้ งกำรของผใู้ ชผ้ ำ่ นภำษำธรรมชำติ อำทิ Google นำ NLP มำช่วย ใหก้ ำรคน้ หำเอกสำรใน Google Drive และทำเรื่องยำก ๆ ใหเ้ ป็นเร่ืองงำ่ ย (Decision Management) กำร โปรแกรมคอมพิวเตอร์ใหท้ ำงำนตำมกฎที่เรำต้งั ไว้ นน่ั ก็คือควำมสำมำรถพ้นื ฐำนของคอมพวิ เตอร์ แต่ เทคโนโลยี AI สำมำรถนำมำใชช้ ่วยในกำรตดั สินใจเพ่อื หำทำงเลือกที่คุม้ ค่ำที่สุด มีควำมเสี่ยงนอ้ ยท่ีสุดหรือ ใชเ้ วลำนอ้ ยท่ีสุดได้

21 สว่ นประกอบใหญท่ ่ีสำคัญทาง AI 1) การรบั รู้ การนำข้อมลู เข้า (Perception = Input) ส่งิ มชี ีวติ ในระบบชวี วิทยา มกี ารรับรู้ สภาพโดยรอบ ผ่านหู ตา จมูก ปาก (senses) รถยนต์ทขี่ บั เคลอื่ นดว้ ยตนเอง มกี ารรับข้อมลู ผา่ นทางกล้อง camera images และขอ้ มูลเกี่ยวกบั เสน้ ทาง ระบบวิเคราะห์หาสมมตฐิ านของโรค มกี ารรับขอ้ มลู จากอาการของคนไข้ และผลการตรวจร่างกาย ➢ การรับรูจ้ ากรูปภาพ ➢ การประมวลผลคำพูด ➢ การประมวลผลภาษา ➢ การประมวลผลจากสัญญานต่าง ๆ เช่น เสยี ง แสง ความร้อน ความเย็น ลม 2) หลกั การใชเ้ หตุและผล (Reasoning = Computation) การใช้หลักการและเหตุผลเป็นหัวใจของปัญญาประดิษฐ์ เพราะการกระทำทกุ อยา่ งท่ีมีความฉลาดต้องมีการ วิเคราะห์ก่อน การดำเนินการ ตัวอยา่ งเชน่ การสรุปจากเหตุ (inference), การตัดสินใจ (decision-making), การจัดหมวดหมแู่ ละประเภท (classification) ซงึ่ การกระทำตอ้ งได้มาจากการรบั รู้ และสถานะในปจั จุบนั ของ ระบบนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น ➢ การใช้เคร่ืองขา่ ยประสาท ➢ การหาคำตอบโดยการเลือกทางทด่ี เู หมาะท่สี ดุ ➢ ระบบการจำแนกกลุม่ ของข้อมูล ➢ ขนั้ ตอนวิธที างพันธกุ รรม 3) การแสดงการกระทำ (Action = Output) ส่งิ มีชีวิตโตต้ อบกบั สภาพรอบตัวโดย การเคลื่อนไหว เสียง ➢ รถยนตท์ ข่ี ับเคลื่อนดว้ ยตนเอง มกี ารแสดงการกระทำคอื การหมนุ พวงมาลัย การปรับระดับ เครือ่ งยนต์ ➢ ระบบวิเคราะหห์ าสมมติฐานของโรค มกี ารแสดงตวั ยาทีส่ ามารถช่วยบรรเทาอาการ หรือแนะนำ การ ทดสอบเพมิ่ เติมในกรณีทจ่ี ำเปน็ ➢ การเคลอ่ื นไหวของหุ่นยนต์

22 ➢ การสง่ ภาษา ➢ การแสดงรูปภาพ ➢ อปุ กรณส์ ังเคราะหเ์ สียง ปญั หาทางเทคนคิ ของ AI • ปญั หาการจัดตาราง (Scheduling Problem) เทคนิคทาง AI ทีใ่ ชใ้ นการจัดการตารางงาน ตารางเวลาต่างๆ เช่น การจดั ตารางสอนของอาจารย์ใน มหาวทิ ยาลัยโดยใชเ้ ทคโนโลยีทางปญั ญาประดษิ ฐ์ การจัดตารางเวลาในสายการผลิตใหไ้ ดป้ ระสทิ ธภิ าพสงู สุด หรอื การจดั ตารางขนึ้ ลงของเครอ่ื งบิน • ปญั หาทางมโนทรรศน์ (Perception Problem) เทคนิคทาง AI ที่นำไปใช้ในการมองเหน็ การฟงั การได้ยนิ เช่น เมอื่ หุ่นยนตม์ องจะทราบได้อย่างไรวา่ อนั นเ้ี ป็นคนหรือเปน็ สตั ว์ สรปุ ไดว้ ่า แม้ A.I. จะทำอะไรได้มากมายแต่หากเทยี บกับจุดมุ่งหมายเดิมทตี่ ้องการสรา้ งสิ่งประดษิ ฐ์ที่มคี วามรู้ ความคดิ เท่าทนั มนุษยแ์ ล้วนบั ไดว้ า่ A.I. ในปจั จบุ นั ยังห่างไกลกับความซบั ซ้อนของระบบความคิดของมนุษย์ พอสมควร แต่ใชว่ ่าจะเปน็ ไปไมไ่ ด้เอาเสียเลย สงิ่ ท่ี A.I. ยังขาดไปคือ จนิ ตนาการ และแรงบันดานใจ ทม่ี ีอยูใ่ น ตวั ของมนุษยเ์ ราทุกคนแล้วแต่จะมากน้อยแตกตา่ งกนั ไปตามวยั และประสบการณ์ รวมท้ังความรู้จักคิดรจู้ กั ตั้ง คำถาม หรอื การพัฒนาองค์ความรู้จากประสบการณ์ กเ็ ปน็ อีกหนึง่ อยา่ งที่ A.I. ยงั ไม่สามารถมไี ด้ทดั เทียมกับ มนษุ ย์เรา แต่หากเปรียบเทียบกันในเร่อื ง ความว่องไวแม่นยำในการคดิ การประมวลผลแลว้ แน่นอนว่า มนษุ ย์ เราไม่สามารถทำได้เร็วเทา่ ความวอ่ งไวแม่นยำเป็นซึ่งเปน็ จุดเดน่ ของ สมองกลอยู่แล้ว แถมซำ้ มนุษย์เราย่งิ แก่ก็ ยิง่ หลงๆลืมๆ ไปตามวยั ดงั น้ันพอจะอนมุ านได้วา่ A.I. เป็นตวั เสริมความรขู้ องมนุษยเ์ ราในด้านท่บี กพร้องต่างๆ เปน็ การเติมเตม็ ในบา้ งส่งิ ท่มี นุษย์เราขาดหายไป หรอื หลงลมื ไปในบางรายละเอยี ด ทั้งการพฒั นาปัญญาประดิษฐ์ยงั เปน็ การ พสิ ูจน์ศักยภาพของมนุษยว์ า่ จะสามารถพัฒนาส่ิงไม่มีชีวติ ใหก้ ลบั มา เปน็ ส่งิ ซง่ึ มีความรู้สึกนกึ คิดอย่างมนุษย์ หรือเข้าใกล้มนุษย์ได้มากน้อย เพยี งใด ล้วนเปน็ คำถามทนี่ ่าสงสยั และรอการไขสู่คำตอบอยู่ทกุ เม่ือ

23 ซึง่ แนวโน้มของการพัฒนา ปัญญาประดิษฐท์ ีเ่ ปน็ รปู ธรรมมเี พ่ิมมากข้ึนเร่ือยๆ ในระยะเวลาอนั ใกลเ้ รา อาจจะเห็นปญั ญาประดษิ ฐ์รปู แบบใหมๆ่ ท่ี คล้ายมนษุ ย์มากข้นึ ทกุ วัน เพราะนับจากการปฎวิ ัตอิ ตุ สาหกรรม วิทยาศาสตร์ก็พัฒนาแบบก้าวกระโดดเร่อื ยมา แตใ่ นขณะเดียวกนั หากเราใชว้ ถิ ชี ีวติ ทย่ี ดึ ติดกบั เทคโนโลยมี าก เกินไป มนุษย์เราก็อาจจะถกู ลดทอนความสำคญั ลงเพราะคนไม่ต้องสนใจในผ้คู นรอบขา้ งมากนักไม่ต้องกงั วล ว่าจะกลายเป็นคนไม่มีเพื่อนเมือ่ เหงาก็สามารถพูดคุยกับ หุ่นยนตไ์ ด้ เหมือนอย่างเช่นเทคโนโลยีหลายๆอย่างท่ี ทำใหค้ นห่างไกลกัน แตถ่ งึ กระนนั้ หากมนุษยร์ ้จู ักใชป้ ระโยชนจ์ ากเทคโนโลยีท่ีตัวเองสร้าง อย่างเทา่ ทันก็คง ไมใ่ ช่เรือ่ งแปลกท่ี เราจะมสี ่ิงประดษิ ฐ์ท่ีมีความคลา้ ยคลงึ กับมนุษยแ์ ละมคี วามฉลาดทีเ่ กือบจะทัดเทยี มกัน ปญั ญาประดิษฐน์ ับไดว้ า่ ศาสตร์แหง่ ชีวติ

24 บรรณานุกรม ท่มี าและแหล่งอา้ งองิ https://tohklom.com/ai-in-daily-life/ ขวัญชนก พุทธจันทร.์ (2563). ปัญญาประดิษฐ์ (AI: Artificial Intelligence). ค้นจาก https://www.lib.ku.ac.th/2019/index.php/covid-19/1045-artificialintelligence ณฏั ฐ์ อรุณ. (2553). ปัญญาประดษิ ฐก์ ับการประยกุ ต์ใชง้ าน. วารสารนกั บรหิ าร, 30(4), 167-170. ณฐั พล นนั ทาววิ ฒั น.์ (2562). การพฒั นาคนให้ทัน AI. ค้นจาก http://www.dsd.go.th›Region ธนารกั ษ์ ธีระมั่นคง. (2563). ทักษะมนุษยใ์ นโลก AI กบั “การศึกษา” ที่ต้อง transform. ค้นจาก https://tu.ac.th/thammasat-siit-expert-talk-ai-transform-education บรษิ ัท จเี อเบิล จำกัด. (ม.ป.ป.). Artificial Intelligence. คน้ จาก https://www.g-able.com/thinking/artifact-intelligence/ มะลิวัลย์ ฉนุ หอม. (ม.ป.ป.). ระบบปญั ญาประดิษฐ.์ ค้นจาก https://sites.google.com/site/pattyloveloveit53/ngan-ni- hxngreiyn/artificialintelligemce-ai วิสตู ร พัดพิน. (ม.ป.ป.). ปัญญาประดษิ ฐ์และระบบผู้เชย่ี วชาญ. คน้ จาก http://www.sirikitdam.egat.com/WEB_MIS/115/index.htm สำนกั งานพฒั นาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส.์ (2564). ปญั ญาประดิษฐใ์ นการให้บริการของภาครฐั . ค้นจาก https://www.etda.or.th/th/Useful-Resource/Knowledge-Sharing/Articles/AI-in- Government-Services.aspx สมาคมโปรแกรมเมอรไ์ ทย. (2561). ปัญญาประดษิ ฐ์ (AI : Artificial Intelligence) คืออะไร. คน้ จาก https://www.thaiprogrammer.org/2018/12/whatisai/ หอสมดุ แห่งชาติ. (2563). ปัญญาประดิษฐ์. ค้นจาก https://th.wikipedia.org/wiki Maggaan. (2020). แนวคิดด้านปญั ญาประดษิ ฐ์. คน้ จาก https://scar.maggang.com/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%84%E0% B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9B

25 %E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0% B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B9%8C SAS. (n.d.). ปญั ญาประดษิ ฐ์คอื อะไร และสำคัญอยา่ งไร. ค้นจาก https://www.sas.com/th_th/insights/analytics/what-is-artificial- intelligence.html#history Security Systems Magazine. (2020). การพัฒนา AI กับอนาคตไทยแลนด์ 5.0. คน้ จาก https://www.securitysystems.in.th/2020/10/ai-development-with-thailand-5-0/


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook