แรงงาน คือ ความสามารถในการทางานเพ่ือ ประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ กจิ การท่คี นทางานในการผลิตเศรษฐ ทรพั ย์ ผใู้ ชแ้ รงงาน (จาปาเงนิ , 2547, น. 94)
ประวตั วิ นั แรงงานสากล เ ม่ื อ 1 3 0 ก ว่ า ปี ก่ อ น ข ณ ะ ท่ี โ ล ก เ ข้ า สู่ ยุ ค อุ ต ส า ห ก ร ร ม ผู้ประกอบการใช้เครื่องจักรควบคู่กับแรงงานมนุษย์โดยไม่มีสวัสดิการหรือ ข้อตกลงที่ชัดเจนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง จนกระทั่งราวปี พ.ศ. 2432 แรงงานในสหรัฐอเมริกาได้เรียกร้องให้กาหนดชั่วโมงการทางานสูงสุดวันละ 8 ชั่วโมง รวมถึงให้ทบทวนสิทธิของแรงงานด้านอื่นตามความเหมาะสม กลายเป็นการชุมนุมท่ีจัตุรัสเฮย์มาเก็ต การปะทะระหว่างแรงงานและตารวจ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตท้ังสองฝ่าย ทั่วโลกยกย่องความกล้าหาญ ของการต่อรองครั้งนั้นระหว่างขบวนการแรงงานและรัฐ ด้วยการกาหนดให้ วันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันแรงงานสากล หรือท่ีเรียกว่า เมย์เดย์ (May Day)
การปะทะกันระหว่างแรงงานกับรัฐเกิดข้ึนในหลาย ๆ ประเทศ เพ่ือเจรจาต่อรองให้เกิดการจ้างงานอย่างเป็นธรรม รวมถึงจัดสวัสดิการที่เหมาะสมด้านความปลอดภัยต่อสุขภาพ ของแรงงานขณะทางาน ตัวอย่างประเทศท่ีหยุดงานในวันท่ี 1 พฤษภาคม เพื่อฉลองวันเมย์เดย์ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, จีน เยอรมนี, เดนมาร์ก, บัลแกเรีย, ฝร่ังเศส, เนเธอร์แลนด์, อิตาลี, กรีซ, อินเดีย, ศรีลังกา, เวียดนาม, ลาว, ไทย เป็นต้น ชาวยุโรป ถือว่าวันเมย์เดย์ เป็นวันเร่ิมต้นฤดูกาลเกษตรกรรม ทาพิธี บวงสรวงตามความเช่ือเพ่ือขอให้ปลูกพืชผลได้มีผลผลิตที่ดี ส่วน ประเทศไทยเราก็มีวันพืชมงคล เป็นวันฤกษ์ดีด้านการเพาะปลูก เกษตรกรรมเช่นกัน
ประวตั ิวนั แรงงานแหง่ ชาตไิ ทย ในประเทศไทยเมื่ออุตสาหกรรมไดข้ ยายตัวขึ้น ผู้ใช้ แรงงานก็มีปัญหามากขึ้น รวมท้ังปัญหาแรงงานก็มีความ สลับซับซ้อนยิ่งข้ึน จนทำให้ในปี พ.ศ. 2475 ประเทศไทยก็ ได้เริ่มมีกำรจัดกำรบริหำรแรงงำนซ่ึงเป็นกำรจัดสรรและ พัฒนำแรงงำนรวมถึงคุ้มครองดูแลสภำพกำรทำงำน เพ่ือ สร้างรากฐานและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับ ลูกจา้ ง
โดยในวันท่ี 20 เมษายน พ.ศ. 2499 คณะกรรมการ การจัดงานท่ีระลึกแรงงาน ได้จัดประชุมขึ้นพร้อมทั้งมี ความเห็นตรงกันว่าควรกาหนดให้วันที่ 1 พฤษภาคม เป็นวัน ระลึกถึงแรงงานไทย จึงได้มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีขอให้ รบั รองวันที่ 1 พฤษภาคม จนเป็นที่มาของวันกรรมกรแห่งชาติ และต่อมาก็ได้เปล่ียนเป็นวันแรงงานแห่งชาติ และในปี พ.ศ. 2500 ก็ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกาหนดวิธีระงับข้อ พิพาทแรงงาน ซ่ึงได้กาหนดให้ลูกจ้างมีสิทธ์ิหยุดงานในวัน แรงงานแหง่ ชาติดว้ ย แต่พระราชบัญญัติฉบับดงั กล่าวก็มีอายุ เพียงแค่ 18 เดอื นกถ็ กู ยกเลิกไป
ดยมีประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 19 มาแทนที่ และมีการ ให้อานาจกระทรวงมหาดไทยออกประกาศกาหนดเรื่องการ คุ้มครองแรงงานและกาหนดวันกรรมกรให้เป็นวันหยุดตาม ประเพณี แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ในขณะน้ันมีการผันแปร จึงมีคาช้ีแจงออกมาในแต่ละปี เพื่อเตือนนายจ้างให้ลูกจ้าง หยุดงานในวันท่ี 1 พฤษภาคม แต่ก็มีการขอร้องไม่ให้มีการ เ ฉ ลิ ม ฉ ล อ ง เ พื่ อ ค ว า ม ส ง บ เ รี ย บ ร้ อ ย ข อ ง บ้ า น เ มื อ ง จนกระท่ังปี พ.ศ. 2517 ได้เปิดให้มีการฉลองตาม ส ม ค ว ร จึ ง ม อ บ ใ ห้ ก ร ม แ ร ง ง า น ท่ี ข ณ ะ น้ั น สั ง กั ด กระทรวงมหาดไทยจัดงานฉลองวันแรงงานแห่งชาติขึ้นที่ สวนลุมพินี โดยมีการทาบุญตักบาตร มีนิทรรศการแสดง ความรู้ และกจิ กรรมอนื่ ๆ อีกมากมาย
โดยแต่เดมิ นนั้ การบรหิ ารแรงงานอยใู่ นความรับผิดชอบ ของกระทรวงมหาดไทย แต่รัฐบาลไดเ้ ล็งเหน็ ว่าควรจะมีการ ยกระดับหนว่ ยงานเพอ่ื ให้มีงบประมาณและเจา้ หนา้ ทส่ี าหรับการ ดูแลผูใ้ ชแ้ รงงานอย่างพอเพียง ในวันท่ี 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2536 จึงได้มกี ารประกาศในราชกจิ จานุเบกษา ใหจ้ ดั ตง้ั กระทรวง แรงงานและสวัสดกิ ารสงั คมขึน้ เพ่ือให้การบริหารงานมี ความกา้ วหนา้ ทดั เทียมนานาประเทศ และมหี น้าทีด่ ังตอ่ ไปน้ี 1. กำรจดั หำงำน 2. งำนแนะแนวอำชีพ 3. กำรพัฒนำแรงงำน 4. งำนคุ้มครองแรงงำน 5. งำนแรงงำนสมั พนั ธ์
1. กำรจัดหำงำน ด้วยการช่วยเหลือคนว่างงานให้มี งานทา ช่วยเหลือนายจ้างให้ได้คนมีคุณภาพดีไปทางาน รวบรวมเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับการทางาน แหล่งงาน ภาวะ ตลาดแรงงาน 2. งำนแนะแนวอำชพี ให้คาปรึกษาแก่เยาวชนและผู้ ประสงค์จะทางาน เพื่อให้สามารถเลือกแนวทางประกอบ อาชีพท่ีเหมาะสมตามความถนัด ความสามารถทาง ร่างกาย คุณสมบัติ บุคลิกภาพ และความเหมาะสมแก่ความต้องการ ทางเศรษฐกจิ 3. กำรพัฒนำแรงงำน ส่งเสริมพฒั นาฝีมือแก่คนงาน และเยาวชนท่ีไม่มีโอกาสศกึ ษาต่อโดยการฝกึ แบบเรง่ รดั 4. งำนคุ้มครองแรงงำน วางหลักการและวิธีการ เก่ียวกับชั่วโมงทางาน วันหยุดงาน ตลอดจนการจัดให้มี สวสั ดิการต่าง ๆ 5. งำนแรงงำนสัมพันธ์ ทาการส่งเสริมและสร้าง สัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างให้ท้ังสองฝ่าย เข้าใจ ถึงลักษณะและสภาพของปัญหา ตลอดจนวิธกี ารท่ีเหมาะสมที่ จะชว่ ยขจัดความเขา้ ใจผดิ และข้อขัดแยง้ อ่นื ๆ
ความสาคัญของแรงงานไทยในปจั จบุ ัน แรงงานท้ังกลุ่มที่เป็นลูกจ้าง พนักงานต่าง ๆ เป็นกาลังในการดาเนินกิจการ และช่วยสร้างรายได้ ถือ เป็นปัจจัยสาคัญในการผลิตสินค้าและการบริการ โดยมี ข้อมลู จานวนแรงงานในธรุ กิจต่าง ๆ ดังน้ี - ธุรกจิ การศกึ ษา - ธุรกจิ โรงแรมและรา้ นอาหาร - ธุรกิจการเงิน การลงทุน และท่ีเกี่ยวข้องกับ อสังหารมิ ทรพั ย์ - ธรุ กจิ ค้าปลกี - ธรุ กิจการผลติ - เกษตรกรรม ประมง - ธรุ กจิ ยานยนต์ - ธรุ กจิ การขนส่ง - ธรุ กิจการก่อสรา้ ง - บริการอ่นื ๆ
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: