ดา้ นท่ี 1 ด้านการจดั การเรียนการสอน ด้านการจัดการเรียนการสอน หมายถึง การจัดทาหลักสูตรหรือพัฒนาหลักสูตรเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้ เป็นคนดี คนเก่ง มีปัญญามีศักยภาพ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัด สมรรถนะสาคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตรสถานศึกษา โดยจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการ รปู แบบ ทห่ี ลากหลาย และเหมาะสมเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั ใหผ้ ูเ้ รียนเกิด การเรยี นรูด้ ว้ ยวิธกี ารปฏบิ ัติ 1.2 การจัดการเรียนรู้ หมายถึง การจัดกิจกรรมเพ่ือพัฒนาผเู้ รียนให้มีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะตาม มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชว้ี ดั สมรรถนะสาคญั และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์โดยจดั การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็น สาคัญ ให้เรียนรู้ด้วยวิธีการปฏิบัติ ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองตามธรรมชติและเต็มศักยภาพ โดย คานงึ ถึงความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล 1.2.2 จดั ทาแผนการจดั การเรยี นร/ู้ แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคลIEP)/แผนการสอน รายบคุ คล(IIP)/แผนการจัดประสบการณ์ จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ หมายถึง การกาหนดแนวทางการจัดการเรียนรู้ตามหน่วยการ เรียนรู้ เป็นการเตรียมการสอนหรือการกาหนดกิจกรรมการเรียนรู้ล่วงงหน้าอย่างเป็นระบบ และเป็นลาย ลกั ษณ์อกี ษร จดั ทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบคุ คล (IEP) หมายถงึ การวเิ คราะห์ความต้องการจาเป็น พิเศษทางการศึกษาหรือการบาบัดฟื้นฟูของแต่ละบุคคล โดยอาศัยความร่วมมือจากผู้ปกครอง ครู ผู้บริหาร และสหวิชาชีพ เพ่ือกาหนดแนวทางการจัดการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับความต้องการจาเป็นพิเศษของแต่ละ บุคคล ตลอดจนกาหดสื่อ ส่ืงอานวยความสะดวก บริการและความช่วยเหลืออ่ืนใดทางการศึกษาให้เฉพาะ บคุ คลอยา่ งเปน็ ระบบ และเป็นลายลกั ษณอ์ กั ษร จัดทาแผนการสอนรายบคุ คล (IIP) หมายถงึ การกาหนดแนวทางการจัดการเรียนรู้หรือการ บาบดั ฟน้ื ฟู เป็นการเตรยี มการสอนหรือการกาหนดกิจกรรมการเรียนรู้หรือการบาบัดฟ้ืนฟูไว้ล่วงหน้าอ่างเป็น ระบบ และเป็นล่ลกั ษณ์อักษร ตามแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคล (IEP) จัดทาแผนการจัดประสบการณ์ หมายถึง การกาหนดแนวทางการจัดประสบการณ์ เพื่อ สง่ เสริมพฒั นาการท่ีสมดุลทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา ผ่านกิจกรรมการ เล่นท่ีเหมาะสมกบั วยั และความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ ระดบั 5 1.วิเคราะห์ผู้เรยี นเป็นรายบคุ คล 2.จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องกับการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ธรรมชาติของผู้เรียนและ บรบิ ทของสถานศกึ ษาและทอ้ งถ่นิ ท่ีมีองคป์ ระกอบครบถ้วนตามรูปแบบทหี่ น่วยงานการศึกษาหรือส่วนราชการ ต้นสังกัดกาหนดและสามารถนาไปฏบิ ตั ิไดจ้ รงิ 3.มีกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการปฏิบัติที่สร้างสรรค์อย่างหลากหลายสอดคล้องกับธรรมชาติของ สาระการเรียนรแู้ ละผเู้ รียน 4.มีบันทึกหลังสอนที่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้และนาผลมาปรับประยุกต์แผนการจัดการ เรียนรใู้ ห้มคี ุณภาพสูงขนึ้ 5.เปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี เป็นผนู้ า เปน็ พเ่ี ลย้ี งและเป็นท่ปี รึกษาด้านการจดั ทาแผนการจดั การเรยี นรู้
ระดบั 4 1.วิเคราะห์ผเู้ รียนเปน็ รายบุคคล 2.จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องกับการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ธรรมชาติของผู้เรียนและ บริบทของสถานศึกษาและท้องถิ่นทมี่ อี งคป์ ระกอบครบถว้ นตามรูปแบบทีห่ นว่ ยงานการศึกษาหรือส่วนราชการ ต้นสงั กัดกาหนดและสามารถนาไปฏิบัตไิ ด้จริง 3.มีกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการปฏิบัติท่ีสร้างสรรค์อย่างหลากหลายสอดคล้องกับธรรมชาติ ของ สาระการเรยี นรู้และผู้เรยี น 4.มีบันทึกหลังสอนที่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้และนาผลมาปรับประยุกต์แผนการจัดการ เรียนร้ใู หม้ คี ณุ ภาพสงู ขึ้น 5.เปน็ แบบอยา่ งทีด่ ี เปน็ พเี่ ลยี้ งและหรอื เปน็ ทีป่ รกึ ษาดา้ นการจดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั 3 1.วเิ คราะหผ์ ูเ้ รียนเป็นรายบุคคล 2.จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องกับการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ธรรมชาติของผู้เรียนและ บรบิ ทของสถานศกึ ษาและทอ้ งถน่ิ ทีม่ อี งค์ประกอบครบถว้ นตามรูปแบบที่หน่วยงานการศึกษาหรือส่วนราชการ ตน้ สังกดั กาหนดและสามารถนาไปฏบิ ตั ไิ ด้จรงิ 3.มกี ิจกรรมการเรียนรู้ด้วยวิธีการปฏิบัติท่ีสร้างสรรค์สอดคล้องกับธรรมชาติของสาระการเรียนรู้และ ผเู้ รียน 4.มีบันทึกหลังสอนที่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้และนาผลมาปรับประยุกต์แผนการจัดการ เรียนรใู้ หม้ คี ุณภาพสงู ขึน้ 5.เป็นแบบอย่างท่ดี ีและใหค้ าแนะนาดา้ นการจดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั 2 1.วเิ คราะหผ์ ู้เรียนเปน็ รายบุคคล 2.จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องกับการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ธรรมชาติของผู้เรียนและ บริบทของสถานศกึ ษาและทอ้ งถ่ินท่ีมอี งค์ประกอบครบถว้ นตามรปู แบบที่หนว่ ยงานการศึกษาหรือส่วนราชการ ต้นสงั กดั กาหนดและสามารถนาไปฏิบตั ไิ ด้จริง 3.มีกจิ กรรมการเรียนรู้สอดคลอ้ งกับธรรมชาตขิ องสาระการเรียนรู้และผูเ้ รยี น 4.มีบันทึกหลังสอนทีส่ อดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรียนรู้และนาผลมาพฒั นาแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั 1 1.วิเคราะหผ์ ู้เรียนเป็นรายบุคคล 2.จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้สอดคล้องกับการออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ธรรมชาติของผู้เรียนและ บริบทของสถานศกึ ษาและท้องถน่ิ ทม่ี ีองค์ประกอบครบถ้วนตามรูปแบบทห่ี นว่ ยงานการศึกษาหรือส่วนราชการ ตน้ สงั กดั กาหนดและสามารถนาไปฏิบัติไดจ้ รงิ 3.มกี ิจกรรมการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกบั ธรรมชาติของสาระการเรยี นรแู้ ละผู้เรียน 4.มบี นั ทกึ หลงั สอนท่ีสอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
หลักฐาน/ร่องรอย ประกอบการประเมนิ ปีการศึกษา 2563
แบบสรปุ ผลการวเิ คราะหผ์ ู้เรยี นรายบคุ คล วชิ า พ23101สขุ ศกึ ษา 5 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 จานวนนกั เรียน 325 คน รายการวิเคราะห์ผเู้ รียนรายบคุ คล ดี ปานกลาง ปรบั ปรงุ หมายเหตุ จานวน รอ้ ยละ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ 1. ดา้ นความรคู้ วามสามารถและประสบการณ์ ความรู้พื้นฐาน 300 92.31 25 7.69 0 0.00 ความสามารถในการแกป้ ญั หา 175 53.85 150 46.15 0 0.00 ความสนใจและการมีสมาธิในการเรียนรู้ 170 52.31 155 47.69 0 0.00 รวม 215 66.15 110 33.85 0 0.00 2. ความพร้อมดา้ นสติปญั ญา ความคิดริเร่มิ สรา้ งสรรค์ 180 55.38 145 44.62 0 0.00 ความมเี หตุมผี ล 190 58.46 135 41.54 0 0.00 ความสามารถในการเรียนรู้ 250 76.92 125 38.46 0 0.00 รวม 206.67 63.59 135 41.54 0 0.00 3. ความพร้อมด้านพฤติกรรม การแสดงออก 250 76.92 75 23.08 0 0.00 การควบคมุ อารมณ์ 220 67.69 105 32.31 0 0.00 ความมงุ่ ม่ันขยันหมน่ั เพยี ร 165 50.77 160 49.23 0 0.00 ความรบั ผิดชอบ 180 55.38 145 44.62 0 0.00 รวม 203.75 62.69 121.25 37.31 0 0.00 4. ความพร้อมด้านร่างกายและจติ ใจ สขุ ภาพร่างกายแขง็ แรง 315 96.92 10 3.08 0 0.00 การเจริญเติบโตสมวยั 250 76.92 75 23.08 0 0.00
ความสมบูรณท์ างด้านสขุ ภาพจิต 220 67.69 105 32.31 0 0.00 รวม 261.67 80.51 63.33 19.49 0 0.00 5. ความพร้อมดา้ นสังคม การปรับตัวเขา้ กับผู้อนื่ 270 83.08 55 16.92 0 0.00 การเสยี สละไมเ่ หน็ แกต่ ัว 190 58.46 135 41.54 0 0.00 มรี ะเบียบวินัยเคารพกฎกตกิ า 230 70.77 95 29.23 0 0.00 รวม 230 70.77 95 29.23 0 0.00 สรุปผลการวิเคราะห์ผ้เู รียนรายบุคคล จากตารางสรุปผลการวเิ คราะห์ผู้เรยี นรายบุคคลชน้ั มธั มศึกษาปที ี่ 3 จานวน 325 คน ผลปรากฏว่า นกั เรียนมี ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ อยู่ในระดบั ดี คดิ เป็นรอ้ ยละ 66.15 อย่ใู นระดับปานกลาง คดิ เปน็ ร้อย ละ 33.85 มีความพร้อมดา้ นสติปัญญา อยใู่ นระดับดี คิดเป็นรอ้ ยละ 63.59อยู่ในระดบั ปานกลาง คิดเปน็ รอ้ ย ละ 41.54มคี วามพร้อมด้านพฤติกรรม อยใู่ นระดบั ดี คิดเป็นร้อยละ 62.69อยใู่ นระดับปานกลาง คดิ เปน็ ร้อย ละ 37.31มีความพร้อมดา้ นรา่ งกายและจติ ใจ อยู่ในระดบั ดี คดิ เปน็ รอ้ ยละ 80.51อยู่ในระดบั ปานกลาง คิดเป็น ร้อยละ 19.49และมีความพร้อมดา้ นสังคม อยู่ในระดับดี คดิ เปน็ รอ้ ยละ 70.77 อยู่ในระดบั ปานกลาง คดิ เป็น รอ้ ยละ 29.23
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชา พ23101 กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 นางสาววรรณนิสา หนูวงศ์ ตาแหน่ง ครผู ้ชู ว่ ย โรงเรียนพระโขนงพทิ ยาลัย ลงชอ่ื ...................................... หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ลงชือ่ ...................................... ผ้ชู ว่ ยผูอ้ านวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ ลงชื่อ ...................................... ผ้อู านวยการ
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7 หน่วยการเรยี นที่ 3 เรอื่ ง อิทธิพลของสื่อโฆษณา กลุ่มสาระการเรียนรู้ สขุ ศึกษาและพลศึกษา รายวชิ า พ 23101 ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 1 ชัว่ โมง ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563 ครูผสู้ อน ครวู รรณนิสา หนูวงศ์ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ัด มาตรฐาน มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ ตวั ช้วี ดั ม .3 /3 วเิ คราะห์ส่อื โฆษณาทม่ี อี ิทธพิ ลต่อการเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของวยั รุน่ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นอธิบายวิเคราะหส์ ่ือโฆษณาท่ีมีอทิ ธพิ ลต่อการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของวัยรนุ่ ได้ 2. นกั เรยี นสือ่ สารและนาเสนอองคค์ วามรู้ท่ไี ดจ้ ากการเรยี นรู้ 3. นักเรียนสนใจใฝเ่ รยี นรูใ้ นเร่ืองส่ือโฆษณาท่ีมอี ิทธิพลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาของตนเอง 3. สาระสาคญั (จากตัวช้ีวัด) ส่ือโฆษณามคี วามสาคญั และมีอิทธิพลต่อการดารงชีวิตเป็นอย่างมาก วัยร่นุ เปน็ วัยทีต่ ัดสนิ ใจรวดเร็วการ เลือกซ้อื สินคา้ จงึ ควรวิเคราะห์สอ่ื โฆษณาให้ดี เพราะจะสง่ ผลกระทบตอ่ การเจรญิ เติบโตและพฒั นาการการเรียนรู้ เรอ่ื ง อิทธิพลของส่อื โฆษณาที่มผี ลตอ่ สุขภาพ จะช่วยให้ผูเ้ รียนมีองคค์ วามรแู้ ละมีวจิ ารณญาณ ในการรับรขู้ ้อมูลจาก สื่อต่างๆอยา่ งถูกต้อง 4. สาระการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge จากสาระการเรยี นรู้แกนกลาง/ท้องถ่ิน) 1. ความหมายและความมุ่งหวังของสือ่ โฆษณา 2. สือ่ โฆษณาท่มี ีอิทธพิ ลต่อการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของวยั รนุ่ 3. อทิ ธพิ ลของสื่อโฆษณาที่มีผลตอ่ สขุ ภาพ ทกั ษะ/กระบวนการ (Process คากรยิ าจากตวั ช้ีวัด) 1. หลกั การพจิ ารณาสอื่ โฆษณาในการเลอื กบรโิ ภค คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซ่อื สตั ยส์ ุจริต 3. มีวนิ ยั 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง 6. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มีจติ สาธารณะ 5. ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น/ทักษะทจ่ี าเป็นในศตวรรษที่ 21 (3R × 8C) ความสามารถในการสื่อสาร/อา่ นออก เขยี นได้ ทักษะในการสือ่ สาร และการรูเ้ ทา่ ทันส่ือ ความสามารถในการคิด/คดิ เลขเปน็ คดิ วเิ คราะห์ คดิ อย่างมวี ิจารณญาณ คดิ สร้างสรรค์ คิดเชิงนวตั กรรม ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต/ความร่วมมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผู้นา เขา้ ใจ ความแตกตา่ งทางวฒั นธรรม กระบวนการคดิ ขา้ มวัฒนธรรม ทักษะทางอาชพี และการเรียนรู้ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี/ทักษะการใชค้ อมพิวเตอร์ และการเท่าทนั เทคโนโลยี 6. ด้านคณุ ลกั ษณะของผเู้ รียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล เป็นเลศิ วชิ าการ ส่อื สารสองภาษา ล้าหน้าทางความคดิ ผลติ งานอยา่ งสร้างสรรค์ ร่วมกนั รบั ผิดชอบตอ่ สงั คมโลก 7. บรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 1. หลกั ความพอประมาณ : 2. หลักความมีเหตผุ ล : นกั เรยี นได้รบั เน้ือหาตามความเหมาะสมกับช่วงวยั เพ่ือให้เกิดกระบวนการ เรยี นรูอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 3. หลักภมู คิ ุม้ กนั : 4. เง่ือนไขความรู้ : 5. เงอ่ื นไขคุณธรรม : 8. ชิ้นงาน/ภาระงาน - ใบงาน อิทธิพลของส่ือโฆษณากบั วยั รนุ่ 9. การวัดผลและประเมินผล
น้าหนกั คะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑ์ รปู แบบของใบงาน/ชนิ้ งาน ดีมาก ดี ปานกลาง ปรบั ปรงุ นาเสนอเกยี่ วกบั สื่อโฆษณาท่ีมผี ล 4 3 21 ต่อสขุ ภาพ (16-20 คะแนน) (12-15 คะแนน) (6-10 คะแนน) (1-5 คะแนน) คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ทางานเสรจ็ ได้ตรงเวลาด้วย รูปแบบของงาน รปู แบบของงาน รูปแบบของงาน รูปแบบของงาน ตนเอง ถูกต้องตามกาหนด มี ถูกต้องตามกาหนด ถูกต้องตามกาหนด ถกู ต้องตาม 2. ต้งั ใจทางานอย่างเต็ม ความเปน็ ระเบียบ มคี วามเปน็ ระเบยี บ มคี วามเปน็ กาหนดบางสว่ น ความสามารถ เรียบรอ้ ย ตกแต่ง เรียบรอ้ ย แสดงถงึ ระเบยี บเรียบรอ้ ย 3. ใหค้ วามร่วมมอื กับกจิ กรรม อย่างสวยงาม แสดง ความคดิ ริเรม่ิ ถงึ ความคดิ ริเริม่ สรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรค์ การนาเสนอนา่ สนใจ การนาเสนอ การนาเสนอขาด การนาเสนอ วิธกี ารศึกษามี นา่ สนใจ วิธี ความนา่ สนใจ วิธี ขาดความ ขั้นตอนที่ถกู ต้องและ การศกึ ษามีขนั้ ตอน การศึกษามี นา่ สนใจ วธิ ี เหมาะสม ทถี่ กู ต้องเหมาะสม ข้ันตอนที่ถกู ต้อง การศกึ ษายงั ผลการศกึ ษายงั ขาด ผลการศึกษา ไมถ่ ูกต้อง ผลการศึกษามีข้อมลู ความนา่ เช่ือถือมี ขอ้ มลู ยงั ขาดความ เหมาะสม ผล น่าเชื่อถือ หลกั ฐานอ้างองิ น่าเช่อื ถือ การ การศึกษาข้อมูล การสรปุ ผลมี พอสมควร สรุปผลมีหลักฐาน ยังขาดความ หลกั ฐานอ้างองิ อ้างองิ น่าเชื่อถือการ สรุปผลยังไม่ นา่ เช่อื ถือ ปฏิบัตไิ ด้ตามเกณฑ์ที่ ปฏิบตั ิได้ตามเกณฑ์ ปฏิบตั ิไดต้ าม ไมส่ ามารถ กาหนด 3 ข้อ ท่กี าหนด 2 ขอ้ เกณฑ์ทีก่ าหนด 1 ปฏบิ ัตไิ ดต้ าม ข้อ เกณฑ์ทีก่ าหนด 10. กิจกรรมการเรยี นรู้
กจิ กรรมนาเขา้ สู่บทเรยี น 1. นักเรยี นชมภาพ การเกิดอาการแพค้ รีมรุนแรง 2. นักเรียนรว่ มกนั สนทนาเกยี่ วกับครีมตามโซเชียลมีเดีย ดังน้ี นกั เรียนคนใดสง่ั ครมี มาใช้เองบ้าง / ผล เปน็ อย่างไร แนวคาตอบ ขึน้ อยู่กับประสบการณผ์ ้เู รียน (ครูพูดถงึ ความสาคัญของการใช้ครมี ปจั จุบนั ครีมตามท้องตลาดมีอยู่มากมาย ผลิตภัณฑแ์ ตล่ ะชนดิ ใชก้ ารโฆษณาผ่านส่ือต่างๆมากข้นึ ทาให้ ผ้บู ริโภคทเี่ ข้าถงึ สือ่ ได้งา่ ยหลงเชื่อตามคาบอก สรรพคุณตา่ งๆ รวมถึงการแต่งภาพเพอื่ ให้เกดิ ความ นา่ เช่ือถือ ดังนั้นก่อนตัดสนิ ใจควรศึกษาข้อมูลผลิตภณั ฑ์ให้ถี่ถ้วนไม่ว่าจะเป็นการตรวจเลขทะเบียน อย. ส่วนประกอบ ฯลฯ ในวยั รุ่นนกั เรียนควรใช้ครมี บารงุ โลช่ันธรรมดา และครีมกนั แดด เพียงเท่านี้ก็ เพียงพอสาหรับการเสรมิ สรา้ งประสิทธิภาพการทางานของระบบผิวหนงั และช่วยทาให้ผวิ พรรณของ นกั เรยี นเปล่งปลั่งอยา่ งเปน็ ธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้ครีมหรือเพอื่ กระตุน้ ใหเ้ กิดความขาว กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน 1. นักเรยี นรว่ มกนั สนทนาเก่ยี วกับอทิ ธิพลของส่ือโฆษณาทีม่ ผี ลต่อสุขภาพ ดงั นี้ นักเรียนคิดวา่ โฆษณา ใดบ้างท่ที าใหส้ ขุ ภาพเราเปน็ ไปในทางท่ีเสื่อมลงโดยทีเ่ ราไม่รู้ตวั แนวคาตอบ (ข้นึ อยกู่ ับประสบการณ์ ของผเู้ รยี น) 2. อธบิ ายเพ่มิ เติม โฆษณาอาหารประเภท Fast food มักจะสร้างขนึ้ มาเพอ่ื ให้นักเรียนเกิดความอยาก ทาน จงึ ทาให้สสี ัน รปู ร่างหน้าตาอาหาร รวมถึงปลูกฝังค่านยิ มที่ผิดว่า การรับประทานอาหาร Fast food จะเป็นคนท่ีทันสมัย จงึ ส่งผลใหน้ กั เรียนหรอื ประชาชนส่วนใหญร่ บั ประทานอาหารชนิดดังกล่าว มากข้นึ โดยที่ไม่รู้ตวั 3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม 6 กลุม่ และร่วมกนั สืบคน้ โฆษณา แลว้ ทาการวเิ คราะห์โฆษณาน้ันในประเด็นต่างๆ ดังนี้ - ผลกระทบของโฆษณาต่อด้านร่างกาย - ผลกระทบของโฆษณาต่อด้านจติ ใจ - ผลกระทบของโฆษณาต่อดา้ นสังคม - ผลกระทบของโฆษณาต่อดา้ นสติปัญญา - แนวทางการเลือกส่ือโฆษณา 4. นัดหมายการนาเสนอในสัปดาห์หนา้ กิจกรรมรวบยอด
1. นักเรียนและครูรว่ มกันสรปุ ความร้ทู ไี่ ด้จากการทากจิ กรรมในวันนี้ โดยการกลา่ วเน้นยา้ ถึงความสาคัญของการ ไม่หลงกลโฆษณา โดยการนาหลกั คิดของเศรษฐกจิ พอเพียง ด้านเงื่อนไข ความรู้มาประยุกต์ใช้ซึง่ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการตา่ งๆ ที่เกย่ี วข้องอยา่ งรอบด้าน ความรอบคอบทีจ่ ะนาความรู้ เหลา่ น้ันมาพิจารณาให้เช่อื มโยง เพอ่ื ประกอบการวางแผน และความระมัดระวังในการปฏิบัติตน 11. สอ่ื / อุปกรณ์ / แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียนวิชาพนื้ ฐานสขุ ศึกษา 3 ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 สานกั พมิ พ์เอมพนั ธ์ จากัด หนา้ 34 ถงึ หนา้ 40 2. ส่อื การสอน Power Point เรื่อง ความคาดหวงั ของสงั คมต่อวัยรนุ่ 12. กจิ กรรมเสนอแนะ -
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ า พ 23103 กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 นางสาววรรณนิสา หนวู งศ์ ตาแหนง่ ครู โรงเรยี นพระโขนงพทิ ยาลยั ลงชื่อ ...................................... หัวหน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้ ลงช่อื ...................................... ผูช้ ว่ ยผู้อานวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ ลงช่ือ ...................................... ผ้อู านวยการ
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 หน่วยการเรยี นที่ 1 เรอื่ ง ปัญหาสขุ ภาพในชุมชน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศึกษา รายวชิ า พ 23103 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 1 ชว่ั โมง ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563 ครูผู้สอน วรรณนิสา หนูวงศ์ ********************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด/(รายวิชาเพ่ิมเตมิ ใช้ ผลการเรยี นรู้) มาตรฐาน มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณค่าและมที ักษะในการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ การดารงสขุ ภาพ การป้องกนั โรคและการ สรา้ งเสรมิ สมรรถภาพเพ่อื สุขภาพ ตัวช้วี ดั ม.3/3 รวบรวมขอ้ มูลและเสนอแนวทาง แกไ้ ขปญั หาสุขภาพในชุมชน 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรียนอธิบายความสาคัญชองข้อมลู ปัญหาสุขภาพในชมุ ชน 2. นกั เรียนออกแบบเก็บข้อมูลปญั หาสขุ ภาพในชมุ ชนอยา่ งเหมาะสม 3. นกั เรยี นแสดงพฤติกรรมการมีจติ สาธารณะทางานเป็นทีม 3. สาระสาคญั (จากตัวชี้วัด) การมีข้อมลู สขุ ภาพในชมุ ชนเป็นพื้นฐานที่ทาใหม้ ีแนวทางในการแก้ไขปญั หาสุขภาพและสมารถ วางแผนจัดกจิ กรรมสรา้ งเสริมสุขภาพไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ 4. สาระการเรียนรู้ ความรู้ (Knowledge จากสาระการเรียนรู้แกนกลาง/ท้องถน่ิ ) 1. ปัญหาดา้ นสุขภาพของชมุ ชน ทกั ษะ/กระบวนการ (Process คากริยาจากตัวชว้ี ดั ) 1. แนวทางแก้ไขปัญหาสขุ ภาพในชุมชน
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude ส่วนท้ายในตัวช้วี ัดหรือพจิ ารณาจากคณุ ลักษณะที่ เก่ยี วข้องกับธรรมชาตขิ องรายวิชา) 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 2. ซ่อื สัตย์สจุ ริต 3. มวี ินยั 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อยู่อยา่ งพอเพยี ง 6. มุง่ มน่ั ในการทางาน 7. รักความเป็นไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 5. ด้านสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน/ทักษะท่จี าเป็นในศตวรรษที่ 21 (3R × 8C) ความสามารถในการส่อื สาร/อ่านออก เขยี นได้ ทักษะในการสื่อสาร และการรู้เทา่ ทันสอื่ ความสามารถในการคิด/คดิ เลขเป็น คิดวิเคราะห์ คดิ อย่างมวี ิจารณญาณ คดิ สร้างสรรค์ คิดเชงิ นวตั กรรม ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต/ความร่วมมือ การทางานเปน็ ทีมและภาวะผู้นา เข้าใจ ความแตกต่างทางวัฒนธรรม กระบวนการคดิ ข้ามวัฒนธรรม ทักษะทางอาชพี และการเรียนรู้ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี/ทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ และการเทา่ ทันเทคโนโลยี 6. ด้านคุณลักษณะของผูเ้ รียนตามหลักสูตรมาตรฐานสากล เป็นเลศิ วิชาการ ส่อื สารสองภาษา ล้าหนา้ ทางความคิด ผลติ งานอย่างสรา้ งสรรค์ ร่วมกันรับผิดชอบตอ่ สงั คมโลก 7. บูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 1. หลกั ความพอประมาณ : 2. หลกั ความมีเหตผุ ล : 3. หลกั ภูมิคุ้มกัน : การทางานทมี่ ีการวางแผนปฏิบัติตามแผนทว่ี างไว้ 4. เงื่อนไขความรู้ : 5. เงอ่ื นไขคณุ ธรรม : 8. ช้นิ งาน/ภาระงาน - แบบเก็บข้อมลู สุขภาพ
9. การวดั ผลและประเมินผล น้าหนกั คะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์ 1. รูปแบบช้ินงาน ดีมาก ดี ปานกลาง ปรับปรุง 4 32 1 (16-20คะแนน) (12-15 คะแนน) (6-10 คะแนน) (1-5 คะแนน) - รูปแบบช้นิ งานถกู ต้องตามที่ - รปู แบบแปลกใหมน่ า่ สนใจ - มีขนาดเหมาะสม - รูปภาพสมั พันธ์กับ กาหนด - มีขนาดเหมาะสม - รูปภาพสมั พนั ธก์ บั เนื้อหา - รปู ภาพสมั พนั ธ์กับเนื้อหา - รูปแบบแปลกใหม่ - รูปภาพมสี ีสันสวยงาม เนอื้ หา - รูปภาพมสี สี ัน - รูปภาพมสี สี ัน สวยงาม น่าสนใจ สวยงาม - รปู ภาพสมั พนั ธ์กับเนื้อหา - รปู ภาพมสี สี ันสวยงาม 2. ภาษา - มีการใช้ภาษาอยา่ งถูกต้อง - ประโยคสอดคล้องกบั - สะกดคาถูกตอ้ ง - มีการเวน้ วรรคโดย 3. เนือ้ หา - ประโยคสอดคล้องกบั เน้ือหา - มกี ารเว้นวรรคโดย ไมฉ่ กี คา 4. เวลา เนือ้ หา - สะกดคาถูกตอ้ ง ไมฉ่ กี คา - มีการใชภ้ าษา - สะกดคาถูกตอ้ ง - มีการเวน้ วรรคโดยไม่ฉกี คา - มีการใชภ้ าษาอยา่ ง อยา่ งสรา้ งสรรค์ - มกี ารเว้นวรรคโดยไม่ฉกี คา - มกี ารใชภ้ าษาอยา่ ง - มกี ารใชภ้ าษาอย่าง สร้างสรรค์ - รายละเอยี ด สร้างสรรค์ ครอบคลมุ สร้างสรรค์ - เน้อื หาเป็นไปตามท่ี - เนือ้ หาตรงตามหัวขอ้ เร่อื ง กาหนด - เนอ้ื หาสอดคล้อง - เนอ้ื หาถกู ต้อง - เนอื้ หาเปน็ ไปตามทีก่ าหนด - เนื้อหาตรงตามหัวข้อเรอื่ ง - รายละเอยี ดครอบคลุม - รายละเอียด - ส่งชิน้ งานช้ากวา่ - เนอ้ื หาเป็นไปตามท่ีกาหนด - เนื้อหาสอดคล้อง ครอบคลมุ กาหนด เกินกวา่ - รายละเอียดครอบคลมุ 3 วนั ข้นึ ไป - เน้อื หาสอดคล้อง - ส่งชิน้ งานช้ากวา่ กาหนด 1 - เนอื้ หาสอดคลอ้ ง วัน - ส่งชน้ิ งานชา้ กวา่ - ส่งช้ินงานภายในเวลาที่ กาหนด กาหนด 2 วัน 10. กจิ กรรมการเรียนรู้ กิจกรรมนาเขา้ ส่บู ทเรียน 1. นักเรียนร่วมกันตอบคาถาม “ในชุมชนของนักเรียนมีปัญหาใดบ้างที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและควร ได้รับการแกป้ ัญหาอย่างเร่งดว่ น” 2. นกั เรียนรบั ฟงั จดุ ประสงค์การเรยี นรูใ้ หน้ ักเรียนทราบถงึ ความจาเป็นของขอ้ มลู
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น 1. นกั เรียนแบง่ กลุ่มๆละ 4-5 คน ทาการศึกษาจากใบความรู้ที่ 1 เป็นแนวทางในการวิเคราะห์ เกี่ยวกับ ความสาคัญของข้อมูล เพื่อนามาสร้างแบบเก็บข้อมูลที่มีคุณภาพเพื่อรวบรวมข้อมูล โดยให้นักเรียน สืบค้นและรวบรวมข้อมูลเพ่ิมเติมจากส่ือออนไลน์ เก่ียวกับสุขภาพทุกช่วงวัยตามวิธีการท่ีนักเรียน สนใจ 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมมือกันออกแบบเก็บข้อมูลปัญหาของชุมชน โดยมีประเด็นครอบคลุมข้อมูล พื้นฐาน สภาพปญั หา วธิ กี ารเก็บขอ้ มูล กาหนดระยะเวลา กลุ่มเป้าหมาย ฯลฯ 3. นักเรียนนาเสนอร่างแบบเก็บข้อมูล ขอบข่ายของข้อมูลรูปแบบการเก็บ ระยะเวลาในการดาเนินการ โดยกาหนดกรอบการดาเนินงานร่วมกันเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มตัวอย่างในการเก็บข้อมูลให้ครบทั้ง 6 วัย ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 วัยทารก กลุ่มท่ี 2 วัยก่อนเรียน กลุ่มที่ 3 วัยเรียน กลุ่มท่ี 4 วัยรุ่น กลมุ่ ที่ 5 วัยผใู้ หญ่ กลุ่มท่ี 6 วัยสูงอายุ 4. นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบความเป็นไปได้ และร่วมกันตัดสินรูปแบบท่ีนักเรียนทาการเลือก วิธีการเก็บข้อมูลพ้ืนที่ จานวนตัวอย่างข้อมูลท่ีจะจัดเก็บพร้อมทั้งกาหนดระยะเวลาในการเก็บข้อมูล ระยะเวลา 1 สัปดาห์ โดยนักเรียนแต่ละกลุ่มดาเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล ตามรูปแบบท่ีนักเรียนได้ เลอื ก กิจกรรมรวบยอด 1. นักเรียนสรุปถึงความสาคัญของระบบข้อมูลและการใช้ข้อมูลในการวางแผนให้สอดคล้องกับข้อมูลที่ แต่ละกลุ่มทาการเก็บรวบรวมและกาหนดระยะเวลาในการเก็บข้อมูล 1 สัปดาห์ นัดหมายการนา ข้อมูลมาร่วมวิเคราะห์และหาแนวทางแก้ไขปัญหา ตลอดจนวางแผนในการสร้างเสริมสุขภาพใน ช่ัวโมงต่อไป 11. สอ่ื / อุปกรณ์ / แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นรายวชิ าพ้นื ฐาน สขุ ศึกษา ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 2. ใบความรู้ท่ี 1 สขุ ภาพชมุ ชน 3. โรงพยาบาล/ศูนยส์ ุขภาพชมุ ชน/โรงพยาบาลชมุ ชน ฯลฯ 4. สือ่ การสอน PowerPoint 12. กจิ กรรมเสนอแนะ -
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: