ขอ้ สอบปลายภาคเรียน พว11001 วิทยาศาสตร์ *************** บทที่ 1 กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 1. กระบวนการทางวิทยาศาสตรข์ ั้นตอนใดทจี่ ะนาไปสู่การสรปุ ผลและการศึกษาต่อไป ก. การรวบรวมข้อมูล ข. การต้งั สมมตฐิ านและการออกแบบการทดลอง ค. การสงั เกต ง. การหาความสมั พนั ธข์ องข้อเท็จจริง 2. ในกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ถา้ หากผลการทดลองที่ได้จากการทดสอบสมมตฐิ าน ไมส่ อดคลอ้ งกับสมมตฐิ าน จะตอ้ งทาอย่างไร ก. สงั เกตใหม่ ข. ออกแบบการทดลองใหม่ ค. ตัง้ ปญั หาใหม่ ง. เปลีย่ นสมมตฐิ าน บทท่ี 2 โครงงานวิทยาศาสตร์ 3. เครือ่ งควบคุมระบบน้าหยดจากแหลง่ นา้ ธรรมชาติ จัดเป็นโครงงานประเภทใด ก.โครงงานสารวจข้อมลู ข.โครงงานทดลอง ค.โครงงานสิ่งประดิษฐ์ ง.โครงงานทฤษฎี บทที่ 3 ส่ิงมชี ีวิตและสิ่งแวดล้อม 4. สิ่งมีชวี ิตชนิดเดียวกนั อาศัยอยใู่ นแหลง่ ที่อย่เู ดียวกนั ในช่วงเวลาใดเวลาหนงึ่ เรียกว่าอะไร ก. สิ่งมีชวี ิต ข. ประชากร ค. ระบบนเิ วศ ง. ชุมชมุ ส่งิ มีชีวติ 5. ลกั ษณะใดไม่ใชก่ ารปรับตวั ของสัตวใ์ หเ้ ข้ากบั สภาพแวดลอ้ ม ก. อฐู มีโหนกเพ่ือสะสมอาหาร ข. สุนขั ท่เี ลยี้ งมไี ขมนั สะสมมาก ค. หมขี าวมขี นหนาปกคลมุ ลาตวั ง. ต๊กั แตนใบไม้มีลาตวั คลา้ ยใบไม้ 6. อากาศบริสุทธิ์ท่เี หมาะสมต่อการอาศยั ของสง่ิ มชี ีวิต ควรมีลักษณะใด ก. ไม่มสี ่ิงท่เี ป็นพิษเจอื ปน ข. มีฝุ่นละอองขนาดเล็กจานวนมาก ค. มเี ขมา่ และข้เี ถา้ เปน็ ส่วนประกอบ ง. มีแก๊สคารบ์ อนไดออกไซดใ์ นปรมิ าณสูง
7. สตั ว์ใดปรับตัวใหอ้ ยู่ในบริเวณท่ีเป็นข้วั โลก ซ่ึงมีอากาศหนาวจดั ได้ ก. งู ข. หนู ค. เต่า ง. หมีขาว 8. สถานทีใ่ ดพบพืชสเี ขียวเจริญเตบิ โตมากท่สี ดุ ก. ตึกรา้ ง ข. กอ้ นหิน ค. บึงน้าจดื ง. รางรถไฟ บทท่ี 4 ระบบนเิ วศ 9. ทรัพยากรธรรมชาตเิ ปน็ ปัจจยั สาคัญตอ่ ความเจริญก้าวหนา้ ของประเทศ ข้อใดจัดเปน็ ทรัพยากรหมุนเวยี น ก. คน สตั ว์ ตน้ ไม้ ข. ดิน นา้ ต้นไม้ ค. ดิน ปนู ซเี มนต์ กระดาษ ง. อากาศ น้า แรธ่ าตุ 10. โซอ่ าหารทีซ่ ับซ้อนหลาย ๆ โซอ่ าหาร เรียกว่าอะไร ก. ระบบนเิ วศ ข. กลมุ่ ส่งิ มีชีวติ ค. สายใยอาหาร ง. พลังงานกบั โซ่อาหาร 11. ข้อใดกลา่ วถูกต้องเก่ยี วกับทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม ก. ทรพั ยากรธรรมชาตเิ ปน็ สง่ิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ เองตามธรรมชาติแต่ส่ิงแวดลอ้ มคือส่ิงท่ีมนษุ ยส์ ร้างข้ึนโดยอาศยั ทรพั ยากรธรรมชาติ ข. ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมตา่ งเปน็ ส่ิงท่ใี ห้ประโยชนต์ ่อมนุษยเ์ ชน่ กัน ค. ทรพั ยากรธรรมชาติเป็นส่วนหน่งึ ของสง่ิ แวดลอ้ ม ง. ถูกทกุ ขอ้ บทท่ี 5 ทรัพยากรธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อมและการอนรุ กั ษ์ 12. ทรพั ยากรใดต่อไปนที้ ่ีเป็นสง่ิ ท่มี นุษยส์ รา้ งขน้ึ ก. ถ่านหนิ ข. ยาแก้ปวด ค. ปา่ ไม้ ง. นา้ ตก 13. นโยบายในข้อใดท่ถี ือเปน็ นโยบายทมี่ ขี ้ึนเพ่ือสงวนและคมุ้ ครองสัตวป์ ่า ก. หา้ มจบั ปลาในฤดูวางไข่ ข. กาหนดพืน้ ที่ห้ามลา่ สตั ว์ปา่ ค. กาหนดประเภทสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ปา่ คมุ้ ครอง ง. ถูกทกุ ขอ้
14. ข้อใดต่อไปนท้ี ี่ถือเป็นการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติท่เี กดิ ประโยชนใ์ นวงกวา้ งที่สุด ก. ไมล่ า่ สตั วป์ ่า ข. ชว่ ยกันปลกู ปา่ ชายเลน ค. ไม่จบั ปลาในฤดูวางไข่ ง. ไม่ทง้ิ ขยะในทห่ี ้ามท้ิง บทที่ 6 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ 15. การปล่อยก๊าซใดสบู่ รรยากาศท่ีเป็นสาเหตทุ ีท่ าใหเ้ กดิ ภาวะเรอื นกระจกอนั เป็นสาเหตทุ ี่ทาใหโ้ ลกร้อน ก. กา๊ ซออกซิเจน ข. ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ ค. ก๊าซไฮโดรเจน ง. ก๊าซไนโตรเจน 16. พายุหรือลมชนิดใดมีความเร็วลมสงู ที่สุด ก.พายุดเี ปรสชั่น ข.พายโุ ซนร้อน ค.พายทุ อร์นาโด ง.ลมตะเภา บทที่ 7 สารและสมบัติของสาร 17. สารในขอ้ ใดทีร่ ะเหิดได้ ก. ยาหม่อง ข. ลกู เหม็น ค. ชอล์ก ง. เทียนไข 18. กระดาษ --> เผาไหม้ --> A อยากทราบวา่ สาร A ท่ีเกิดข้นึ คืออะไร ก. ถ่าน ข. ข้ีเถา้ ค. เศษผง ง. ควนั 19. การจาแนกสารในขอ้ ใด มสี ารทง้ั 3 สถานะ ก. ชอลก์ นา้ เกลอื ไอน้า ข. น้ามนั พืช นา้ ตาลทราย นา้ เช่อื ม ค. นา้ เกลอื ยางลบ นา้ แขง็ ง. กอ้ นหนิ ทราย น้าปลา บทท่ี 8 การแยกสาร 20. แมเ่ ตรียมแป้งเพ่ือทาขนมเคก้ ควรแยกสารผสมแป้งดว้ ยวิธใี ด ก. การรอ่ น ข. การกรอง ค. การระเหย ง. การระเหดิ
21. การแยกสารที่มสี ถานะเป็นของแข็งกับของเหลวอยา่ งง่าย คอื ข้อใด ก. การกลน่ั ข. การกรอง ค. การร่อน ง. การตกผลึก 22. การระเหยแห้งใชใ้ นการแยกสารประเภทใด ก. สารเน้อื เดยี ว ข. สารเนอ้ื ผสม ค. สารละลาย ง. สารนาไฟฟา้ บทท่ี 9 สารในชีวติ ประจาวัน 23. ผงชรู ส เปน็ สารปรงุ แตง่ รสอาหาร มีชอื่ ทางเคมีว่าอย่างไร ก. โซเดยี มกลตู าเมท ข. มโนโซเดยี มกลูตาเมท ค. โซเดียมคลอไรด์ ง. โซเดียมไฮดรอกไซค์ 24. โดยปกตคิ นท่มี นี ้าหนักตัว 50 ก.ก. จะรับประทานผงชูรสได้ไม่เกนิ วันละประมาณเท่าใด ก. คร่ึงช้อนชา ข. หน่งึ ชอ้ นชา ค. ชอ้ นชาครง่ึ ง. หนงึ่ ช้อนโตะ๊ 25. นา้ ส้มสายชทู ี่ไดจ้ ากการนากรดอะซิติกผสมน้าให้เข้มข้น 4-5% เรียกอย่างไร ก. น้าส้มสายชหู มัก ข. นา้ ส้มสายชกู ลั่น ค. น้าสม้ สายชเู ทยี ม ง. นา้ ส้มสายชู 26. ทาไมเมื่อลา้ งล้างมอื ท่เี ป้ือนนา้ มันดว้ ยมือเปล่า จงึ ล้างน้ามันออกไมห่ มด แตเ่ ม่ือล้างด้วยสบ่นู า้ มนั ท่ีเปื้อนมอื จะถูก ขจัดหมด เหตใุ ดจึงเปน็ เช่นน้ัน ก. สบู่ทาให้น้ามันละลาย ข. สบลู่ ะลายในนา้ มนั ค. สบูท่ าปฏิกริ ยิ ากบั น้ามนั เปน็ สารใหมท่ ล่ี ะลายน้า ง. สบู่ทาให้น้ามนั ลืน่ และหลดุ ออ 27. สารใดมีฤทธิเ์ ป็นกรด ก. แอมโมเนีย ข. ด่างคลี ค. โซดาไฟ ง. นา้ โซดา
บทท่ี 10 แรงและการเคลื่อนทีข่ องแรง 28. ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้องเก่ยี วกับแรงลพั ธ์ ก. ผลของแรงทุกแรงทกี่ ระทาต่อวตั ถุ ข. ผลของแรงนามาบวกกนั ค. ผลรวมของแรงท่ีมีคา่ เปน็ ศูนย์ ง. ไมม่ ีข้อถูก 29. ข้อใดไม่มีแรงเข้ามาเก่ยี วข้อง ก. การเตะฟตุ บอล ข. แกว้ นา้ บางอยบู่ นโต๊ะ ค. การผลกั ประตู ง. การเปดิ ประตูหนา้ ต่าง บทที่ 11 พลงั งานในชีวิตประจาวันและการอนรุ กั ษ์ 30. ข้อใดคอื พลังงานหมุนเวียน ก. นา้ , กา๊ ซธรรมชาติ, นวิ เคลียร์ ข. ไฮโดรเจน, กา๊ ซธรรมชาติ, หินนา้ มัน ค. ถา่ นหนิ , กา๊ ซธรรมชาติ, นวิ เคลียร์ ง. แสงอาทิตย์, ลม, ชวี มวล 31. การเช่อื มต่อระบบโซล่าเซล ตวั เกบ็ ประจไุ ฟฟ้า คืออปุ กรณใ์ ด ก. อินเวอรเ์ ตอร์ ข. สายไฟ ค. ดวงอาทิตย์ ง. แบตเตอร์รี 32. ถา้ ต้องการให้แสงรวมกันที่จดุ โฟกัสแตเ่ ป็นการรวมแสงกบั อีกด้านจะตอ้ งใช้อุปกรณ์ในข้อใด ก. กระจกเว้า ข. เลนสน์ ูน ค. เลนส์เว้า ง. กระจกนูน 33. การเกดิ เสียงดัง เสียงค่อยขนึ้ อยกู่ ับอะไร ก. ความถ่ีของเสยี ง ข. ตวั กลางของเสียง ค. ชนดิ ของแหลง่ กาเนิดเสยี ง ง. พลงั งานทท่ี าใหเ้ กิดเสยี ง 34. ขอ้ ใดเปน็ แหล่งพลงั งานทดแทนทใ่ี หญ่ทสี่ ดุ และมีปรมิ าณมากทส่ี ดุ ก. ไฮโดรเจน ข. น้า ค. แสงอาทติ ย์ ง. นวิ เคลยี ร์
บทท่ี 12 ความสัมพันธ์ระหว่างดวงอาทิตย์ โลกและดวงจนั ทร์ 35. การโคจรท่มี แี นวตรงกนั ในข้อใดทาใหเ้ กดิ จนั ทรุปราคา ก. โลก ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ข. โลก ดวงจันทร์ ดวงอาทติ ย์ ค. ดวงอาทิตย์ ดวงจนั ทร์ โลก ง. ดวงอาทติ ย์ โลก ดวงจนั ทร์ 36. ดาวพธุ ใชเ้ วลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ 88 วนั ดาวศกุ ร์ใช้เวลา 225 วัน สว่ นโลกใชเ้ วลา 365 วนั จากขอ้ มลู ดังกล่าวสามารถสรุปได้ว่าอย่างไร ก. โลกอยไู่ กลจากดวงอาทติ ย์มากที่สุด ข. ดาวพุธอยู่ใกลโ้ ลกมากที่สดุ ค. ดาวศุกร์อยู่ใกลด้ วงอาทติ ย์มากที่สุด ง. โลกอยใู่ กลด้ วงอาทติ ย์มากทสี่ ุด 37. การหมนุ รอบตวั เองของโลกไม่ทาให้เกิดปรากฏการณใ์ นขอ้ ใด ก. นา้ ข้นึ - นา้ ลง ข. ประเทศญ่ีปุ่นสว่างเร็วกว่าประเทศไทย ค. ทศิ ง. กลางวันกลางคนื บทท่ี 13 อาชีพช่างไฟฟา้ 38. ทศิ ทางการไหลของกระแสไฟฟา้ เป็นอย่างไร ก. ออกจากขว้ั -ไปยังขวั้ + ข. ออกจากข้ัว + ไปยงั ข้วั – ค. ออกจากข้วั + และข้วั – สลบั กนั ง. ไหลไปในทศิ ทางเดียวกนั 39. การตอ่ หลอดไฟแบบอนกุ รม มีผลอยา่ งไรเม่ือหลอดไฟฟา้ ดวงหนงึ่ ดับ ก. ทุกดวงจะดบั หมด ข. ทกุ ดวงไม่ดบั หมด ค. บางดวงสวา่ งบางดวงดบั ง. สว่างสลับเวน้ ดวง 40. ต้องใชว้ ตั ถใุ ดเช่ือมต่อกับวงจรไฟฟ้าจึงจะทาให้หลอดไฟสวา่ ง ก. คลปิ ข. หนงั ยาง ค. ดินสอ ง. เชือก
เฉลย 1.ข 2.ค 3.ค 4.ข 5.ข 6.ก 7. ง 8. ค 9. ข 11. ง 12. ข 14. ข 15. ก 16. ค 17. ข 18. ข 19. ข 20. ก 21. ข 22. ข 23. ข 24. ข 25. ค 26. ข 27. ง 28. ก 30. ง 31.ง 32. ก 33. ง 34. ค 35. ง 36. ข 37. ก 38. ข 39. ก 40. ก
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: