พฤติกรรมการบริโภคอาหารเพ่ือสขุ ภาพรปู แบบอาหารคลีน(CleanFood)กล่มุ วยั ทางานในเขต กรงุ เทพมหานคร ชนัญญา พรศกั ด์ิวิวฒั น์ การศึกษาค้นควา้ อิสระเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาหลกั สตู รเศรษฐศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาเศรษฐศาสตรธ์ รุ กิจ บณั ฑิตวิทยาลยั มหาวิทยาลยั หอการค้าไทย ปี การศึกษา2560 ลิขสิทธ์ิของมหาวิทยาลยั หอการค้าไทย
พฤติกรรมการบริโภคอาหารเพอ่ื สขุ ภาพรปู แบบอาหารคลีน(CleanFood)กล่มุ วยั ทางานใน เขตกรงุ เทพมหานคร นางสาวชนัญญา พรศกั ด์ิวิวฒั น์ การศึกษาค้นควา้ อิสระเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาหลกั สตู รเศรษฐศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาเศรษฐศาสตรธ์ รุ กิจ บณั ฑิตวิทยาลยั มหาวิทยาลยั หอการค้าไทย ปี การศึกษา2560 ลิขสิทธ์ิของมหาวิทยาลยั หอการค้าไทย
หวั ข้อการศึกษาค้นควา้ พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี (Clean Food)กลุม่ วยั ทางานในเขตกรงุ เทพมหานคร ช่ือผศู้ ึกษา ชนญั ญา พรศกั ดวิ ์ วิ ฒั น์ ปริญญา เศรษฐศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวิชา เศรษฐศาสตรธ์ ุรกจิ อาจารยท์ ี่ปรึกษา ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.จริ าภรณ์ ชาวงษ์ ปี การศึกษา 2560 บทคดั ย่อ การวจิ ยั ครงั้ น้มี งุ่ ศกึ ษาพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สขุ ภาพรปู แบบอาหารคลนี (Clean Food) ของกลุ่มวยั ทางานในเขตกรงุ เทพมหานคร ลกั ษณะสว่ นบคุ คลและรปู แบบการดาเนินชวี ติ ประกอบดว้ ยดา้ นกจิ กรรม ความสนใจและความคดิ เหน็ ทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภค อาหารเพ่อื สขุ ภาพรปู แบบอาหารคลนี ของกลุ่มวยั ทางานในเขตกรงุ เทพมหานคร กลุ่มตวั อยา่ งทใ่ี ช้ ในการวจิ ยั คอื กลุ่มวยั ทางานทอ่ี าศยั อยใู่ นเขตกรงุ เทพมหานคร จานวนทงั้ สน้ิ 200 คน โดยใช้ แบบสอบถามเป็นเครอ่ื งมอื ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และสถติ ทิ ใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู คอื ค่าเฉลย่ี ค่ารอ้ ยละและการทดสอบสมมตุ ฐิ านโดยใชส้ ถติ ทิ ดสอบ Chi – square พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบส่วน ใหญ่เป็นเพศหญงิ อายรุ ะหว่าง 21-25 ปี ลกั ษณะการอยอู่ าศยั เป็นบา้ น โดยสว่ นมากสถานภาพโสด มกี ารศกึ ษาในระดบั ปรญิ ญาตรี มอี าชพี ลกู จา้ งเอกชนหรอื พนกั งานบรษิ ทั และรายไดเ้ ฉลย่ี ต่อเดอื น 10,001 – 20,000 บาท ผตู้ อบแบบสอบถามแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ไดแ้ ก่ 1.กล่มุ ทไ่ี มเ่ คยรบั ประทาน 2.กลุม่ ทเ่ี คยรบั ประทานและไมร่ บั ประทานต่อ 3.กลมุ่ ทเ่ี คยรบั ประทานและรบั ประทานต่อ ซง่ึ โดยส่วนใหญ่ ผตู้ อบแบบสอบถามจะอยใู่ นกลมุ่ ผทู้ เ่ี คยรบั ประทานและไมร่ บั ประทานต่อ โดย มสี าเหตุว่าไมน่ ิยม อาหารประเภทน้ี รองลงมาเป็นเคยและรบั ระทานต่อซง่ึ แบง่ ไดเ้ ป็น 3 กลุ่ม คอื 1)ปรงุ ทานเองทบ่ี า้ น 2)ซอ้ื แบบพรอ้ มรบั ประทาน 3)ปรงุ ทานเองทบ่ี า้ นและซอ้ื แบบพรอ้ มรบั ประทานซง่ึ โดยส่วนใหญ่ เลอื กทจ่ี ะซอ้ื แบบพรอ้ มรบั ประทาน ตามมาดว้ ยปรงุ ทานเองทบ่ี า้ นและซอ้ื แบบพรอ้ มรบั ประทานและ สดุ ทา้ ย คอื ปรงุ ทานเองทบ่ี า้ นในสว่ นกลมุ่ ผทู้ ไ่ี มเ่ คยรบั ประทานมสี าเหตุว่าไม่นยิ มอาหารประเภทน้ี
จ และเหตุผลทไ่ี มส่ นใจเพราะคดิ ว่าไมอ่ ร่อย สาหรบั กลุ่มทเ่ี ลอื กปรุงทานเองทบ่ี า้ นรวมทงั้ กลุ่มทเ่ี ลอื ก ปรุงทานเองทบ่ี า้ นและซอ้ื แบบพรอ้ มรบั ประทานดว้ ยนนั้ เน่ืองจาก เน้นความสะอาดในกระบวนการ ผลติ มนั่ ใจในความสด สะอาดกว่าแบบพรอ้ มรับประทาน ในการเลอื กซ้อื วตั ถุดบิ ต่อคนต่อครงั้ มี ค่าใชจ้ า่ ยประมาณ 101 – 200 บาท โดยส่วนใหญ่และเม่อื เทยี บกบั อาหาร 1มอ้ื มคี วามเตม็ ใจจ่าย เพ่อื ทานอาหารคลนี เพม่ิ ขน้ึ 50-100 บาท ความถ่ใี นการปรุงอาหารรวมถงึ ความถ่ใี นการเลอื กซ้อื วตั ถุดบิ 2-3 วนั ต่อสปั ดาห์ สถานท่ที ่ซี ้ือวตั ถุดบิ คอื ห้างสรรพสนิ ค้า สาหรบั กลุ่มท่เี ลอื กซ้อื แบบ พร้อมรบั ประทานรวมถึงกลุ่มท่ีเลือกปรุงทานเองท่ีบ้านและซ้ือแบบพร้อมรบั ประทานด้วยนัน้ เน่ืองจาก มกี ารระบุปรมิ าณแคลลอร่แี ละคุณค่าทางโภชนาการสาหรบั อาหารแต่ละกล่องหรอื ถุง อย่างละเอียดและเช่อื ถือได้และเน้นความสะอาดในกระบวนการผลติ มคี ่าใช้จ่ายต่อคนต่อครงั้ ประมาณ 200-300บาท ความถ่ใี นการเลอื กซอ้ื อาหาร 2-3 วนั ต่อสปั ดาห์ ในดา้ นทศั นคติ กจิ กรรม ของกลุ่มผู้ท่เี คยรบั ประทานและรบั ประทานอาหารเพ่อื สุขภาพต่อนัน้ มคี วามห่วงใยในสุขภาพ ตนเองมาก และโดยส่วนใหญ่จดั อยใู่ นกลุ่มคนทอ่ี อกกาลงั กายและเลอื กทานอาหารเพ่อื สุขภาพเป็น หลกั มกี ารรบั ประทานอาหารตามรา้ นอาหารเพยี ง 1-2 ครงั้ ต่อเดอื น และสาเหตุทเ่ี ลอื กรบั ประทาน อาหารเพ่อื สุขภาพนนั้ เน่ืองจากตอ้ งการมสี ุขภาพทแ่ี ขง็ แรงเป็นอนั ดบั แรกและตามมาดว้ ยต้องการ ลดน้าหนักความสนใจ ความคดิ เหน็ ของผู้ทเ่ี ลอื กรบั ประทานอาหารเพ่อื สุขภาพอย่างต่อเน่ืองนัน้ จากเหตุผลแรกท่วี ่า เป้าหมายในชวี ติ คอื การมสี ุขภาพกายและจติ ท่ดี จี ากการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพท่ชี ่วยให้รปู ร่างดี ผลการทดสอบสมมุตฐิ านท่รี ะดบั นัยสาคญั 0.05 พบว่า เพศ อายุ อาชพี ลกั ษณะท่อี ยู่อาศยั สถานภาพ รายได้เฉล่ยี ต่อเดอื น ไม่มคี วามสมั พนั ธ์กบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภค อาหารเพ่อื สุขภาพรูปแบบอาหารคลีนของกลุ่มวยั ทางานในเขตกรุงเทพมหานค ร โดยเฉพาะ ลกั ษณะข้อมูลส่วนบุคคลด้านสถานภาพและอาชพี ไม่มคี วามสมั พนั ธ์กับพฤติกรรมการบริโภค อาหารเพอ่ื สขุ ภาพรปู แบบอาหารคลนี ของกลุ่มวยั ทางานในเขตกรุงเทพมหานครในระดบั สูง รปู แบบ การดาเนินชวี ติ ดา้ นกจิ กรรม ความสนใจ ทศั นคตแิ ละความคดิ เหน็ มคี วามสมั พนั ธก์ นั กบั พฤตกิ รรม การบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี ของกลุ่มวยั ทางานในเขตกรงุ เทพมหานคร
กิตติกรรมประกาศ สารนิพนธฉ์ บบั น้ไี ดเ้ สรจ็ ลุลว่ งดว้ ยความอนุเคราะหจ์ าก ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.จริ าภรณ์ ชาวงษ์ อาจารยท์ ป่ี รกึ ษาการศกึ ษาคน้ ควา้ อสิ ระ ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.จริ าภรณ์ ชาวงษ์ รวมถงึ ผเู้ ขา้ รว่ มการนาเสนอการศกึ ษาคน้ ควา้ อสิ ระ อาจารย์ ดร.ลลติ า จนั ทรวงศไ์ พศาล ทไ่ี ดเ้ สยี สละเวลา ใหค้ าปรกึ ษาดา้ นวชิ าการตรวจคุณภาพเครอ่ื งมอื วจิ ยั ตลอดจนการใหค้ าแนะนาแก้ไขขอ้ บกพร่องทา ใหก้ ารศกึ ษาคน้ ควา้ อสิ ระฉบบั น้เี สรจ็ สมบรู ณ์ ผวู้ จิ ยั ขอ้ กราบขอบพระคณุ คณาจารยด์ ว้ ยความเคารพ อยา่ งสงู ขอขอบคุณ เจา้ หน้าทบ่ี ณั ฑติ วทิ ยาลยั คณะเศรษฐศาสตร์ ทุกท่านทอ่ี านวยความสะดวก และใหค้ าแนะนาทด่ี ตี ลอดมา รวมถงึ เพ่อื นๆทงั้ ในและนอกหลกั สูตรรวมทงั้ ญาตมิ ติ ร ซง่ึ ไดใ้ หค้ วาม ช่วยเหลอื ในการเกบ็ ขอ้ มลู และคาแนะนาเกย่ี วกบั ธรุ กจิ อาหารเพ่อื สุขภาพและความรใู้ นการวจิ ยั อนั ทาใหก้ ารวจิ ยั ครงั้ น้สี าเรจ็ ลลุ ่วงไปไดด้ ว้ ยดี ทา้ ยสุดน้ี คุณงามความดอี นั เกดิ จากสารนิพนธฉ์ บบั น้ี ผวู้ จิ ยั ขอน้อมบูชาคุณบดิ ามารดา และบูรพคณาจารยท์ ุกท่านท่ไี ด้ประสทิ ธปิ ์ ระสาทวชิ า อบรม สงั่ สอน ขา้ พเจา้ จนกระทงั่ ประสบ ผลสาเรจ็ ในวนั น้ี
สารบญั หน้า บทคดั ยอ่ …………….………………………………..…………………………………………... ง กติ ตกิ รรมประกาศ …………………………….………………..…………………………......…... ฉ สารบญั ………………………………..…………………………………..………………….……. ช บทท่ี 1.บทนา 1.1 ความสาคญั และทม่ี าของปัญหาการวจิ ยั ………………….……………………..…. 1 1.2 คาถามในกาวจิ ยั …………………………………………....……………………….. 4 1.3 วตั ถุประสงคข์ องการศกึ ษา ……………………….……..……..…………………… 5 1.4 ประโยชน์ทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา …………………..………………………….………….. 5 1.5 ขอบเขตการศกึ ษา …………………………………………..……………………..... 6 1.6 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู …………………………………….……………………..….. 8 1.7 กรอบแนวคดิ การวจิ ยั ………………………………………………….……………... 9 1.8 นิยามศพั ท์ …………………………………………..…….…………………………... 9 1.9 สมมตุ ฐิ าน ………………………………………………………….…………..……. 11 2. แนวคดิ ทฤษฎี และงานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 2.1 แนวคดิ และงานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ……………….………..…………………………... 13 3. ระเบยี บวธิ กี ารศกึ ษา 3.1 การกาหนดประชากรและการเลอื กกลุ่มตวั อยา่ งประชากร ..…………………………….…... 18 3.2 การสรา้ งเครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นงานวจิ ยั ………………………………………..………………..… 19 3.2.1 ขนั้ ตอนการสรา้ งเครอ่ื งมอื ในการวจิ ยั ……..……………………..…..….. 19 3.2.2 เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั …………………………………….………..…. 20 3.3 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ……………..……………………………………..….…….... 22 3.4 การจดั ทาและการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ……..…………..………………………….......... 22 3.5. สถติ ทิ ใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู …..…………………………….……..………..….. 23
ซ สารบญั (ต่อ) หน้า 4. ผลการศกึ ษา 4.1 สญั ลกั ษณ์ทใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหแ์ ละแปรผลขอ้ มลู …………….…..……………. 24 4.2 การนาเสนอผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ……………………...……………………… 24 สว่ นท่ี 1 ลกั ษณะสว่ นบคุ คลของผตู้ อบแบบสอบถาม ………...…………... 25 ส่วนท่ี 2 เกย่ี วกบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพ ………..…….. 29 ส่วนท่ี 3 เกย่ี วกบั รปู แบบการดาเนนิ ชวี ติ และพฤตกิ รรมการบรโิ ภค อาหารเพอ่ื สขุ ภาพ ……………………………………………………..…… 30 สว่ นท่ี 4 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เพ่อื ทดสอบสมมตุ ฐิ านความสมั พนั ธร์ ะหว่าง ลกั ษณะส่วนบุคคลกบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ .………… 32 5 สรปุ ผล อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ 5.1 สงั เขปความมงุ่ หมายสมมตฐิ าน และวธิ ดี าเนินการวจิ ยั …..….. 41 5.2 สรปุ ผลการศกึ ษาคน้ ควา้ ………………………………………. 42 5.3 ผลการทดลองสมมตฐิ าน………………………………………. 42 5.4 อภปิ รายผลการศกึ ษาคน้ ควา้ ……………………………..…… 47 5.5 ขอ้ เสนอแนะในการทาวจิ ยั ครงั้ ต่อไป……..………………….... 49 บรรณนานุกรม………………………………………………..…………………….. 50 ภาคผนวก…………………………………………………………………..……….. 52 ก.แบบสอบถาม……………………………………………………………..... 53 ประวตั ผิ ศู้ กึ ษา……………………………………..………………………………... 63
บทที่ 1 บทนา 1.1 ความสาคญั และท่ีมาของปัญหาการวิจยั การบรโิ ภคอาหารนนั้ เพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพการดาเนินชวี ติ ยคุ ปัจจุบนั โดยเฉพาะผู้ ทม่ี อี ายสุ ูงขน้ึ เร่อื ยๆนนั้ จะใหค้ วามสาคญั กบั เร่อื งการบรโิ ภคอาหารมากทส่ี ุดเป็นหลกั อาหารท่ี ผบู้ รโิ ภคทุกกลมุ่ วยั รบั ประทานเขา้ ไปนนั้ จะตอ้ งมคี ณุ ภาพและไมเ่ ป็นอนั ตรายต่อสุขภาพ และยงั ตอ้ งมคี ุณค่าทางโภชนาการครบถว้ นสมบูรณ์ ทงั้ น้ีเน่ืองจากปัจจุบนั ผบู้ รโิ ภคใหค้ วามสาคญั กบั อาหารและสุขภาพมากขน้ึ โดยทวั่ โลกหนั มาให้ความสาคญั กบั สุขภาพกนั มากข้นึ เน่ืองจาก สุขภาพทด่ี ี ส่งผลต่อการพฒั นาในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะด้านความคดิ สตปิ ัญญา การศกึ ษาหรอื การทางาน การรกั ษาสุขภาพทาได้หลายทาง เช่น การออกกาลงั กาย การตรวจสุขภาพอย่าง สม่าเสมอ รวมถงึ การ บรโิ ภคอาหารตามหลกั โภชนาการ ซง่ึ ในปัจจุบนั ผลติ ภณั ฑอ์ าหารต่างๆ ได้รบั การวจิ ยั และพฒั นา ให้มคี วามหลากหลายและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บรโิ ภค มากขน้ึ ในรายงานสุขภาพคนไทย ปี 2557 ระบุว่า โรคอว้ นทาใหเ้ ป็นสาเหตุเจบ็ ป่วยไดง้ ่ายทา ใหโ้ รคภยั ต่างๆตามมา ความอว้ นสามารถทาใหเ้ กดิ โรคไม่ตดิ ต่อเรอ้ื รงั เขา้ มาไดห้ ลายโรคพรอ้ ม กนั ไดแ้ ก่ ไขมนั ภายในเลอื ดมปี รมิ าณมาก โรคความดนั โลหติ สงู เบาหวาน อมั พาตอมั พฤกษ์ โรคหวั ใจ และยงั เป็นต้นเหตุของโรคมะเรง็ โดยกองทุนวจิ ยั มะเรง็ โลกโดยคนอ้วนมโี อกาสเป็น โรคเหล่าน้ีมากกว่าปกติ 2-3 เท่า สาเหตุของโรคมะเร็งร้อยละ 24 เกิดมาจากความอ้วน นอกจากน้ี ความอ้วนยงั ส่งผลระยะยาวต่อขอ้ เข่า ทาใหข้ อ้ เข่าเส่อื มเรว็ เน่ืองจากเข่ารบั น้าหนัก ตวั ไม่ไหว เกดิ อุบตั เิ หตุไดง้ ่าย โดยองคก์ รอนามยั โลก (WHO) คาดการณ์ว่า ในปี 2558 ทวั่ โลกจะมคี นท่มี นี ้าหนักเกินมาตรฐานถงึ 2,300 ล้านคน ก่อให้เกิดการเสยี ชวี ติ จากโรคเร้อื รงั ต่างๆกว่า 2.8 ล้านคน ประเทศไทยในยุคปัจจุบนั ภาวะน้าหนักเกนิ และโรคอ้วนเกดิ ข้นึ มาก โดยเฉพาะการไมอ่ อกกาลงั กายอยา่ งสม่าเสมอและการรบั ประทานอาหารทส่ี ง่ ผลเสยี ต่อสขุ ภาพ
2 เช่น เคร่อื งด่มื แอลกอฮอร์ อาหารท่ไี ม่มปี ระโยชน์หรอื อาหารขยะ น้าอดั ลมต่างๆและอาหารท่ี ขาดโภชนาการ รวมถงึ การเคล่อื นไหวรา่ งกายในระหว่างวนั ทน่ี ้อยจนเกนิ ไป เช่น นงั่ อยกู่ บั โต๊ะ ทางานเป็นส่วนมาก ทาให้มสี ุขภาพท่ไี ม่แขง็ แรงสมบูรณ์เพราะพฤตกิ รรมการบรโิ ภคนัน้ เป็น ส่วนสาคญั อย่างมาก ดงั นนั้ การดแู ลร่างกายใหแ้ ขง็ แรงไม่มโี รคภยั ไขเ้ จบ็ เป็นสงิ่ สาคญั มากและ ผู้บรโิ ภคเรม่ิ ให้ตระหนักถึงความสาคญั เพม่ิ ข้นึ ในการดูแลตนเองให้ร่างกายแขง็ แรงอยู่เสมอ (สานกั งานกองทุนสนบั สนุนการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ สสส, 2557) เน่อื งจากการรบั ประทานอาหาร ของคนไทยนนั้ ยงั คงเน้นเรอ่ื งรสชาตมิ ากกว่าเป็นหลกั จงึ อยากใหท้ ราบประโยชน์หรอื คุณค่าทาง สารอาหารเพ่อื สุขภาพว่ามปี ระโยชน์อย่างไร อาหารท่สี ่งผลประโยชน์ต่อร่างกายและช่วยลด อตั ราการเป็นโรคต่างๆ เป็นประโยชน์ท่กี ่อให้เกดิ วสิ ยั ทศั น์ของผู้บรโิ ภค คุณประโยชน์ต่างๆ จากอาหารเพ่อื สุขภาพ การรบั ประทานอาหารเพ่อื สุขภาพเป็นวธิ รี บั ประทานอย่างหน่ึงซ่งึ ยดึ หลกั ใหค้ ล้ายคลงึ กบั ธรรมชาติ ซง่ึ เป็นวถิ ที ม่ี าจากฝัง่ ตะวนั ตก อาหารเพ่อื สุขภาพเป็นวถิ ีการ บรโิ ภคอาหารท่เี น้นความสดใหม่อย่เู สมอซง่ึ ก็มหี ลายรูปแบบด้วยกนั โดยนิยมแบบไม่แปรรูป ทงั้ น้ที งั้ นนั้ จะตอ้ งเป็นวตั ถุดบิ โดยตรงจากธรรมชาตใิ หม้ ากทส่ี ุดทไ่ี มผ่ ่านการแปรรปู หรอื ปรงุ แต่ง น้อย ใส่สี ใสก่ ลน่ิ มากจนเกนิ ไป การกนิ แบบเพอ่ื สุขภาพจะเน้นการหุงตม้ ใหน้ ้อยทส่ี ุด เช่น ผกั ท่ี รบั ประทานสดได้ ผลไม้ เป็นต้น จาพวกเน้ือสตั ว์จะเน้นแบบไม่ผ่านความรอ้ นสูงอย่างการนา อาหารมาน่ึง การยา่ งอาหารต่างๆหรอื การนาวตั ถุดบิ เหล่านัน้ มาผดั แต่ทจ่ี ะไม่นิยมคอื การทอด ในน้ามนั ปรุงสุกใหม่และปรุงแต่งน้อยจะสมั พนั ธ์กบั หลกั การโภชนาการเป็นส่วนใหญ่ มคี น หลายประเภทเช่อื ว่าการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพนัน้ ต้องทานอาหารจาพวกผกั มากแต่การ บรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพเป็นการทานใหค้ รบ 5 หมตู่ ามสดั ส่วนใหพ้ อเหมาะต่อความตอ้ งการ พลงั งานในแต่ละวนั รา่ งกายของตนเอง (อาณดี นิตธิ รรมยง, 2558) ทงั้ น้ีเพ่อื นาไปส่กู ารบรโิ ภค อาหารและภาวะโภชนาการทด่ี ี การมที ศั นคตเิ ก่ยี วกบั อาหารคลนี ฟู้ด ส่งผลทาใหก้ ารตดั สนิ ใจ บรโิ ภคอาหารคลนี ฟู้ดมากข้นึ เพ่อื สุขภาพของตนเอง รวมถงึ จากรายงานตลาดอาหารโลกปี 2558 ระบุว่า ผบู้ รโิ ภคหนั มาใหค้ วามสนใจการบรโิ ภคอาหารเพ่อื รกั ษาสดั ส่วนใหอ้ ยใู่ นระดบั ท่ี เหมาะสมกนั มากขน้ึ ดว้ ยอทิ ธพิ ลจากรายการอาหารเพอ่ื สุขภาพทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การสารวจอาหาร และการชิมอาหารจากทัว่ โลกหรือกระตุ้นให้ผู้บริโภคทดลองบริโภคหรือปรุงแต่งอาหา รบั ประทานดว้ ยตนเองทบ่ี า้ น โดยเน้นวตั ถุดบิ ทเ่ี กดิ มาจากธรรมชาติ เน้นอาหารทใ่ี หโ้ ปรตนี สูง และคารโ์ บไฮเดรตเชงิ ซอ้ น ลดปรมิ าณความหวานและความเคม็ ท่นี ามาปรงุ แต่งภายในอาหาร ทานอาหารท่อี ุดมไปด้วยไขมนั ดี และต้องมสี ่วนช่วยในระบบทางเดนิ อาหาร แนวโน้มทส่ี าคญั ของอาหารและสุขภาพปี 2558 1.เน้นการควบคุมน้าหนัก 2.มปี ระโยชน์จากธรรมชาติ 3.มี โปรตนี สูง 4.มคี ารโ์ บไฮเดรตเชงิ ซอ้ น 5.น้ าตาลน้อย 6.มสี ่วนช่วยในระบบขบั ถ่าย ขอ้ มูลจาก
3 สมาคมคน้ คว้าในสหรฐั อเมรกิ าระบุว่าในปี 2557 ชาวอเมรกิ นั กว่า 60% ส่วนใหญ่ ซง่ึ เป็นกลุ่ม ผบู้ รโิ ภคอายุ 15-30 ปีและผบู้ รโิ ภคอายตุ งั้ แต่ 55 ปีขน้ึ ไป ส่วนใหญ่จะเป็นผบู้ รโิ ภคทม่ี กี าลงั ซอ้ื หนั มานยิ มรบั ประทานอาหารประเภทสเปเชย่ี ลต้ี ฟ๊ ูด (Specialty Food) หรอื อาหารเพ่อื สขุ ภาพ รูปแบบคลนี ฟ๊ ูด (Clean Food) นัน้ คอื อาหารท่มี ปี รมิ าณการผลติ โดยตระหนักถึงวตั ถุดบิ และ เครอ่ื งปรงุ ทม่ี คี ุณภาพสูงมากและเป็นอาหารทใ่ี หป้ ระโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าอาหารทวั่ ไป ทา ใหม้ ลู ค่าตลาดอาหารท่ตี ระหนักถงึ วตั ถุดบิ ทม่ี คี ุณภาพสูงมมี ลู ค่าสูงถึง 88, 300 ลา้ นบาทและ คาดว่า จะเตบิ โตขน้ึ อกี เม่อื มองในส่วนของประชาชนไทยส่วนใหญ่เป็นคนรกั สุขภาพและมวี ธิ ี ดูแลตนเอง การเลอื กบรโิ ภคอาหารทม่ี ปี ระโยชน์ทางดา้ นร่างกาย โภชนาการทางด้านสุขภาพ อาหารท่พี บว่ามไี ขมนั ต่าเพ่อื สุขภาพทด่ี ตี ่อร่างกายหลกี เลย่ี งโรคต่างๆและมีมุมมองว่าอาหาร เพ่อื สขุ ภาพสามารถทาใหน้ ้าหนกั คงท่ี แลว้ ยงั สง่ ผลใหร้ า่ งกายแขง็ แรงและหา่ งจากโรคต่างๆ ซง่ึ คนไทยถือว่าการไม่มีโรคนัน้ เป็นลาภอันประเสริฐ การเลือกบริโภคอาหารเพ่ือสุขภาพท่ี ประชาชนนิยมเช่น อาหารเจ อาหารมงั สวริ ตั ิ อาหารชวี จติ อาหารคลนี ฟ๊ ูด และสมนุ ไพรต่ างๆ นับเป็นโภชนาการท่สี ่งเสรมิ สุขภาพให้ดขี น้ึ และเป็นท่นี ิยมของผูบ้ รโิ ภคในขณะน้ี อกี ทงั้ ธุรกจิ ร้านท่จี าหน่ายอาหารเพ่อื สุขภาพยงั คงขยายตัวต่อเน่ืองมากข้นึ (สุขหบิ , 2554) เป็นผลให้ รปู แบบการดาเนินชวี ติ เปลย่ี นแปลงจากอดตี จงึ สง่ ผลต่อการตดั สนิ ใจบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพ เพมิ่ ข้นึ ทาให้การขายอาหารเพ่อื สุขภาพเป็นธุรกิจท่ีมแี นวโน้มการเติบโตค่อนข้างดีความ ต้องการทางตลาดกเ็ พมิ่ มาก ขน้ึ ทาใหห้ ลกั ในการเลอื กอาหารกเ็ พมิ่ มากขน้ึ จงึ เป็นการนาส่วน ประสมทางการตลาดเขา้ มา จดั การธุรกจิ ดงั นนั้ ผบู้ รโิ ภคควรปรบั เปลย่ี นการบรโิ ภคอาหารจาก เดมิ มาบรโิ ภคคลนี ฟ๊ ูด ควรใหข้ อ้ มลู ความรแู้ ก่ผูบ้ รโิ ภคและทราบถงึ ส่วนประสมทางการตลาด คอื ทราบถงึ ช่องทางการจดั จาหน่ายการเข้าถึงในการซ้อื ผลติ ภณั ฑห์ รอื สนิ ค้าได้สะดวก การ ทราบถงึ วตั ถุดบิ ทม่ี คี ุณภาพ ราคาเหมาะสม และการจดั โปรโมชนั่ สาหรบั ชกั จงู ผบู้ รโิ ภคใหห้ นั มา บรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี ตลอดจนนาไปสู่การตดั สนิ ใจบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรูปแบบอาหารคลนี ทงั้ น้ีแนวโน้มในประเทศไทยท่เี ป็นความสาคญั หลกั คอื ความ สวยงามในการมผี วิ พรรณและมรี ปู ร่างท่ดี แี ละยงั คงมคี วามสาคญั อย่างต่อเน่ือง แต่ผู้บรโิ ภคก็ มกั จะมพี ฤติกรรมท่ีตรงข้ามมักจะบริโภคอาหารท่ีไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพหรอื ตามใจปาก วตั ถุดบิ ผลติ ภณั ฑข์ องอาหารเพ่อื สุขภาพ จงึ ต้องมรี สชาตทิ ่ดี ไี ม่จดื และต้องไม่ทาลายสุขภาพ และมปี ระโยชน์ทด่ี ตี ่อผวิ พรรณ และช่วยใหร้ ปู ร่างดจี ะเป็นวตั ถุดบิ และผลติ ภณั ฑท์ ผ่ี ู้บรโิ ภคมี ความสนใจมากขน้ึ อยเู่ สมอ (กรมส่งเสรมิ อุตสาหกรรม, 2557) จากขอ้ มลู ดงั กล่าวการลดความ เส่ยี งจากโรค เป็นอีกทางเลอื กของกลุ่มผู้บรโิ ภคท่จี ะทาให้มสี ุขภาพท่ดี ขี ้นึ ซ่งึ สมั พนั ธ์กบั ใน ปัจจบุ นั ทผ่ี ูบ้ รโิ ภคหนั มาดูแลเอาใจใส่ในสุขภาพของตนเองมากขน้ึ โดยมกี ารใหท้ ศั นคตทิ ่ดี ตี ่อ
4 ผู้บรโิ ภคให้ทราบถึงประโยชน์ของการรบั ประทานอาหารเพ่อื สุขภาพ รวมถึงการสนองความ ตอ้ งการของผบู้ รโิ ภคใหเ้ กดิ ประโยชน์มากทส่ี ุดในส่วนของส่วนประสมการตลาดโดยมกี ารขยาย ช่องทางการจดั จาหน่าย การใหโ้ ปรโมชนั่ ความคุม้ ค่าหรอื เหมาะสมดา้ นราคาและตวั ผลติ ภณั ฑ์ ของอาหารเพ่อื สุขภาพเพ่อื เป็นการขยายกลุ่มผูบ้ รโิ ภค และปัจจุบนั อาหารเพ่อื สุขภาพรูปแบบ อาหารคลนี กม็ กี ารพฒั นา คอื การเพมิ่ รปู แบบ รายการอาหารและมรี สชาตทิ ถ่ี ูกใจผบู้ รโิ ภค เพ่อื สนองใหส้ อดคลอ้ งกบั ความต้องการของผบู้ รโิ ภคมากทส่ี ุดและยงั มกี ารผลติ อาหารเพ่อื สุขภาพ เพม่ิ ขน้ึ จากเดมิ ซง่ึ กต็ อบสนองผบู้ รโิ ภคทงั้ ดา้ นความทนั สมยั ความสะดวกสบาย ซง่ึ เหมาะแก่ สงั คมไทยในปัจจุบนั เป็นทางเลอื กใหม่และตอบสนองรปู แบบการดาเนินชวี ติ ของผบู้ รโิ ภคทไ่ี มม่ ี เวลาดูแลสุขภาพตนเองแบบธรรมชาติ การใช้จ่ายบรโิ ภคเพ่อื แลกกบั สุขภาพท่ดี ดี ้วยอาหาร สง่ ผลใหก้ ารตดั สนิ ใจบรโิ ภคอาหารคลนี ฟู้ดเกดิ ขน้ึ อย่างมาก ทงั้ น้ี กรมอนามยั จงึ เชญิ ชวนใหด้ ูแลสุขภาพ เพราะในกลุ่มโรคท่เี ป็นสาเหตุการตายท่ี สาคญั ของประเทศไทย 5 อนั ดบั แรก ไดแ้ ก่ โรคหวั ใจ อุบตั เิ หตุ และการเป็นพษิ มะเรง็ ทุกชนิด ความดนั เลอื ดสูง และโรคหลอดเลอื ดสมอง และการบาดเจบ็ จากการฆ่าตวั ตาย ถูกฆ่าตายฯ ตามลาดบั จานวนผูต้ ายดว้ ยสาเหตุดงั กล่าว ทงั้ ประเทศ มจี านวนเพม่ิ ขน้ึ มาตลอดโดยกลุ่มวยั ทางานเป็นกลุ่มประชากรทอ่ี ย่ใู นช่วงวยั 15-60 ปี ในปี พ.ศ.2540 ประเทศไทยมปี ระชากรในวยั น้ถี งึ 38.97 ลา้ นคน จานวนการตายของประชากรในกลุ่มน้ี จะสงู มากในช่วงอายุ 25-29 ปี (รอ้ ย ละ 6.7) รองลงมาอย่ใู นช่วงอายุ 30-34 ปี (รอ้ ยละ 6.5) และในวยั 55-59 ปี (รอ้ ยละ 6.2) โดยท่ี เพศชายเสยี ชวี ติ มากกว่าเพศหญงิ ประมาณ 3 เท่า ขณะน้ีมแี นวโน้มการเสยี ชวี ติ เพม่ิ ขน้ึ ทุกปี เพ่อื กระตุน้ ใหป้ ระชาชนตระหนกั และป้องกนั ปัจจยั เสย่ี งต่อการป่วยดว้ ยโรคต่างๆ ซง่ึ เป็นสาเหตุ ของภาวะ การเจ็บป่ วยและการตายได้ ดงั นัน้ ผู้ทาวจิ ยั จงึ ทาการศึกษาเร่อื งพฤติกรรมการ บรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี ของคนกลุ่มวยั ทางานในกรงุ เทพมหานคร เพ่อื ให้ ฝ่ ายท่เี ก่ยี วขอ้ งทงั้ ด้านผู้บรโิ ภค ธุรกิจ เป็นต้น นาผลไปประยุกต์ใช้กบั ธุรกจิ ให้ตรงกบั ความ ต้องการของผู้บริโภคอาหารในยุคปัจจุบนั รวมถึงการรกั ษาสุขภาพของผู้บรโิ ภคในกระแส ปัจจบุ นั 1.2 คาถามในการวิจยั 1. กลุ่มวยั ทางานในกรงุ เทพมหานครมพี ฤตกิ รรมการบรโิ ภคคลนี ฟู้ดอยา่ งไร 2. ลกั ษณะของแต่ละบุคคลในกลุ่มวยั ทางานในกรุงเทพมหานครมผี ลต่อพฤตกิ รรมบรโิ ภค อาหารคลนี ฟู้ดหรอื ไม่
5 3. รปู แบบการดาเนินชวี ติ ของกลุ่มวยั ทางานในกรุงเทพมหานคร มอี ทิ ธพิ ลต่อพฤตกิ รรมการ บรโิ ภคอาหารคลนี ฟู้ดหรอื ไม่ 1.3 วตั ถปุ ระสงคข์ องการศึกษา 1. เพอ่ื ศกึ ษาพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี ของกลุ่มวยั ทางานใน เขตกรงุ เทพมหานคร 2. เพ่อื ศกึ ษารูปแบบการดาเนินชวี ติ ท่มี อี ทิ ธพิ ลต่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ รปู แบบคลนี ในกลุม่ วยั ทางานในเขตกรงุ เทพมหานคร 3. เพ่อื ศกึ ษาลกั ษณะส่วนบุคคลกลุ่มวยั ทางานในเขตกรุงเทพมหานคร ทม่ี ผี ลต่อพฤติกรรม การบรโิ ภคอาหารเพ่อื สขุ ภาพรปู แบบอาหารคลนี 1.4 ประโยชน์ที่ใช้ในการศึกษา ผลจากการศกึ ษามปี ระโยชน์ต่อฝ่ายทเ่ี กย่ี วขอ้ งดงั น้ี คอื 1. ทราบถงึ พฤติกรรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ เพ่อื เป็นแนวทางในการเพ่มิ ความพึง พอใจในการปรบั เปล่ียนพฤติกรรมของผู้บรโิ ภคในการรบั ประทานอาหารเพ่ือสุขภาพ รปู แบบอาหารคลนี ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพยงิ่ ขน้ึ 2. เพ่อื เป็นขอ้ มลู ใหผ้ ปู้ ระกอบการทางดา้ นโภชนาการนาไปพจิ ารณาเป็นแนวทางพฒั นา ต่อ ยอดต่อธรุ กจิ อาหารเพอ่ื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี 3. ส่งเสรมิ ใหผ้ บู้ รโิ ภคดูแลสุขภาพรวมถงึ การเลอื กทานอาหารทม่ี ปี ระโยชน์ต่อรา่ งกายเพ่อื ลด อตั ราการเกดิ โรคเรอ้ื รงั ต่างๆ อยา่ งโรคอว้ นทจ่ี ะนามาซง่ึ โรคอ่นื ๆทจ่ี ะแทรกซอ้ นตามมา 4. สามารถนาขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาน้ี ไปใชเ้ ป็นขอ้ มลู พน้ื ฐานในการวางแผนดา้ นการตลาด ของผลติ ภณั ฑอ์ าหารเพ่อื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี รวมถงึ เป็ นประโยชน์ในการค้นคว้า และวจิ ยั เชงิ วชิ าการในโอกาสต่อไป 1.5 ขอบเขตการศึกษา ผู้วจิ ยั ใช้การวจิ ยั เชงิ ปรมิ าณสาหรบั การศกึ ษาในครงั้ น้ี โดยเลอื กใชว้ ธิ กี ารสารวจด้วย แบบสอบถามทส่ี รา้ งขน้ึ และไดก้ าหนดขอบเขตของการวจิ ยั ไวด้ งั น้ี 1. ประชากรทใ่ี ชศ้ กึ ษาเป็นคนอายุ 15-60 ปี กลุ่มคนวยั ทางานในกรงุ เทพมหานคร
6 2. กลุ่มตวั อย่างท่ใี ช้ศกึ ษาเลอื กจากประชากร โดยวธิ กี ารสุ่มตวั อย่างแบบแบบง่าย (Simple Random Sampling) ใช้การกาหนดขนาดท่ีระดับความเช่ือมนั่ ร้อยละ 95 และระดับความ คลาดเคลอ่ื น ± 5% สตู ร n=N/(1+〖Ne〗^2 ) เมอ่ื n แทน ขนาดของกลมุ่ ตวั อยา่ ง N แทน ขนาดของประชากร e แทน ความคลาดเคล่อื นของการสุม่ ตวั อยา่ ง ดงั นนั้ จงึ ใชก้ ลุ่มตวั อยา่ งจานวน 400 คนซง่ึ จานวนน้ีไดจ้ ากการใชต้ ารางสาเรจ็ รปู ของYamane (1967) 3. ตวั แปรทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การศกึ ษา ประกอบดว้ ย ตวั แปรอสิ ระ คอื 3.1 ลกั ษณะสว่ นบุคคล ประกอบดว้ ย 3.1.1 เพศ 3.1.2 อายุ 3.1.3 ลกั ษณะทอ่ี ยอู่ าศยั 3.1.4 ระดบั การศกึ ษา 3.1.5 อาชพี 3.1.6 รายไดเ้ ฉลย่ี ต่อเดอื น 3.2 รปู แบบการดาเนนิ ชวี ติ ประกอบดว้ ย 3.2.1 กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั อาหารเพ่อื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี 3.2.2 ความสนใจทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั อาหารเพ่อื สขุ ภาพรปู แบบอาหารคลนี 3.2.3 ความคดิ เหน็ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั อาหารเพ่อื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี
7 ตวั แปรตาม คอื พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี ของกลุ่ม คนวยั ทางานในกรงุ เทพมหานคร 4. สถานทศ่ี กึ ษาทผ่ี วู้ จิ ยั ใชเ้ กบ็ รวบรวมขอ้ มลู คอื บรษิ ทั เอกชน หน่วยงานรฐั บาล สถานศกึ ษา ศนู ยก์ ารคา้ 5. ระยะเวลาในการศกึ ษา เรม่ิ ตงั้ แต่เดอื นมกราคม 2561 ถงึ เดอื นเมษายน 2561 6. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู การวิเคราะห์ข้อมูล โดยการนาข้อมูลท่ีได้จากแบบสอบถาม จานวน 400 ชุด มา ตรวจสอบความสมบูรณ์และคามถูกต้อง จากนนั้ นาขอ้ มลู ทงั้ หมดมาทาการวเิ คราะหข์ อ้ มลู และ ประมวลผลโดยในการศกึ ษาครงั้ น้ีใชโ้ ปรแกรมสาเรจ็ รปู SPSS ซ่งึ การแบ่งส่วนแบบสอบถาม ดงั น้ี ส่วนท่ี 1 เกย่ี วกบั ลกั ษณะส่วนบุคคล เป็นลกั ษณะแบบสอบถามปลายปิด ส่วนที่ 2 เก่ยี วกบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรูปแบบอาหารคลนี เป็นลกั ษณะ แบบสอบถามปลายปิด ส่วนที่ 3 เกย่ี วกบั รปู แบบการดาเนนิ ชวี ติ เป็นลกั ษณะแบบสอบถามปลายปิด สถติ ทิ ใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู 6.1 สถติ เิ ชงิ พรรณนา (Descriptive Statistics) ไดแ้ ก่ 6.1.1 ค่าความถ่ี (Frequency) ค่ารอ้ ยละ(Percentage) ใชว้ เิ คราะหส์ าหรบั ขอ้ มลู บุคคล และพฤตกิ รรมของกลมุ่ คนวยั ทางานในกรงุ เทพมหานคร 6.1.2 ค่าเฉล่ยี (Mean)และค่าส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)ใช้สาหรบั วเิ คราะหร์ ปู แบบการดาเนินชวี ติ (ความสนใจ กจิ กรรม ความคดิ เหน็ )ทส่ี นใจเกย่ี วกบั อาหารเพอ่ื สุขภาพรูปแบบอาหารคลนี และการดูแลสุขภาพนามาซ่ึงพฤติกรรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี 6.2 สถติ ทิ ใ่ี ชท้ ดสอบสมมตุ ฐิ าน ใช้ค่าไค-สแควร์ วเิ คราะห์ความสมั พนั ธ์ระหว่างปัจจยั ส่วนบุคคลกับพฤติกรรมการ บรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี ของกลุม่ คนวยั ทางานในกรงุ เทพมหานคร
8 1.6 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู การเก็บรวบรวมข้อมูลผู้วิจยั ใช้วธิ กี ารเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลท่สี าคญั 2 แหล่ง คอื 1.แหล่งข้อมูลปฐมภูมิ(Primary Data)โดยผู้วิจยั ใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลจากกลุ่ม ตวั อย่าง400 คน โดยการส่งแบบสอบถามพร้อมทงั้ ช้แี จงข้อมูลและรอเก็บแบบสอบถามดว้ ย ตนเอง 2.แหล่งขอ้ มลู ทุตยิ ภมู ิ (Secondary Data) เป็นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากงานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งใน อดตี วารสาร หนงั สอื สงิ่ พมิ พ์ เอกสารทางวชิ าการและขอ้ มลู ทเ่ี ผยแพรท่ างอนิ เตอรเ์ น็ต
9 1.7 กรอบแนวคิดการวิจยั ลกั ษณะสว่ นบคุ คล (ตวั แปรอสิ ระ) (ตวั แปรตาม) - เพศ - ลกั ษณะการอย่อู าศยั พฤตกิ รรมการบริโภคอาหารเพื่อ - อายุ - ระดบั การศกึ ษา สขุ ภาพรูปแบบอาหารคลีน - อาชีพ - รายได้เฉลี่ยตอ่ เดือน รูปแบบการดาเนินชีวติ (ตวั แปรอสิ ระ) 1. กิจกรรมท่ีเก่ียวข้องกบั อาหารเพื่อสขุ ภาพ รูปแบบอาหารคลีนและการดแู ลสขุ ภาพ 2. ความสนใจท่ีเกี่ยวข้องกบั อาหารอาหาร เพ่ือสขุ ภาพรูปแบบอาหารคลีนและการดแู ล สขุ ภาพ 3. ความคิดเหน็ ที่เก่ียวข้องกบั อาหารอาหาร เพ่ือสขุ ภาพรูปแบบอาหารคลีนและการดแู ล ภาพประกอบ 1 กสรขุ อภบาแพนวคดิ ในการวจิ ยั 1.8 นิยามศพั ท์ 1. พฤติกรรมการบรโิ ภคอาหารเพ่ือสุขภาพรูปแบบอาหารคลีน หมายถึงการกระทาของ ผู้บรโิ ภคท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั การเลอื กสรร การตดั สนิ ใจและการเลอื กบรโิ ภคผลติ ภณั ฑอ์ าหาร คลนี ประกอบดว้ ยจุดประสงคใ์ นการบรโิ ภคอาหารคลนี ฟู้ด โอกาสในการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรูปแบบอาหารคลนี ความถ่ีในการบรโิ ภคอาหาเพ่อื สุขภาพรูปแบบอาหารคลีน ระยะเวลาในการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรูปแบบอาหารคลนี มอ้ื อาหารในการบรโิ ภค
10 อาหารเพ่อื สุขภาพรูปแบบอาหารคลีน ค่าใช้จ่ายต่อม้อื ในการบรโิ ภคอาหาเพ่อื สุขภาพ รปู แบบอาหารคลนี สถานทใ่ี นการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี และบุคคล ทม่ี อี ทิ ธพิ ลต่อการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี 2. รปู แบบการดาเนินชวี ติ หมายถงึ ปัจจยั ดา้ นตวั บุคคลท่มี ผี ลต่อพฤตกิ รรมของบุคคลนัน้ ๆ ประกอบดว้ ย 1).กจิ กรรม 2).ความสนใจ 3).ความเหน็ 3. อาหารคลนี (Clean Food) มคี วามหมายอยู่ 2 นัยยะ คอื “อาหารท่ไี ม่ปนเป้ือน” หมายถงึ กนิ เขา้ ไปแลว้ มปี ระโยชน์และไม่เป็นพษิ ต่อร่างกาย ซง่ึ การปนเป้ือนก็มอี ยู่ 3 ทางดว้ ยกนั คอื “ปนเป้ือนเช้อื โรค” มเี ช้อื จุลนิ ทรยี ์เข้าไปปะปนในอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารท่ไี ม่สุก อาหารทค่ี า้ งคนื มแี มลงวนั ตอม ปรงุ ไมส่ ะอาด กน็ ามาซง่ึ อาการทอ้ งเดนิ ได้ ต่อมา “ปนเป้ือน จากพยาธ”ิ เช่น การกนิ อาหารทส่ี กุ ๆ ดบิ ๆ การกนิ อาหารทไ่ี มร่ ะมดั ระวงั เรอ่ื งความสะอาดก็ มกี ารปนเป้ือนพยาธไิ ด้ และสุดท้าย “ปนเป้ือนสารเคม”ี เช่น กนิ ผกั ท่ไี ม่ได้ลา้ งหรอื ล้างไม่ สะอาด มยี าฆ่าแมลงปะปนอยู่ อาหารท่ใี ส่สแี ต่ไม่ใช่สผี สมอาหาร อาหารทม่ี พี ษิ เช่น เหด็ พิษ น้ามนั ทอดซ้า ถัว่ ลิสงท่ีมอี ะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) เป็นต้น ส่วนนัยยะท่ีสอง คอื \"อาหารทถ่ี ูกหลกั โภชนาการ\" อาจารยจ์ งึ อยากจะยกตวั อย่างง่ายๆ ว่า การตงั้ คาถามว่าเรา จะกนิ อาหารอย่างไรใหค้ รบ 5 หมู่ และต้องกนิ ใหไ้ ดส้ ดั ส่วน ปรมิ าณทเ่ี พยี งพอไม่มากน้อย จนเกนิ ไป รวมถงึ มคี วามหลากหลาย เลย่ี งอาหารหวานจดั เคม็ จดั มนั จดั สุดท้ายกินผกั ผลไมใ้ หม้ ากซง่ึ ทงั้ หมดทงั้ ปวงคอื การกนิ อาหารใหถ้ ูกหลกั โภชนาการในแบบทต่ี รงกบั คาว่า คลนี ฟู้ด เพราะฉะนนั้ คาว่าคลนี ฟู้ดกค็ อื คาว่า อาหารปลอดภยั ไม่ปนเป้ือน อาหารถูกหลกั โภชนาการนนั่ เอง” 4. กจิ กรรม กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั อาหารเพ่อื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี และการดูแลสุขภาพ ไดแ้ ก่ การมสี ุขภาพอนามยั ในการขบั ถ่ายเป็นปกตทิ ุกวนั รบั ประทานอาหารครบวนั ละ3มอ้ื รบั ประทานผกั และผลไมเ้ ป็นประจา เป็นตน้ 5. ความสนใจ ความสนใจท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั อาหารเพ่อื สุขภาพรูปแบบอาหารคลนี และการดูแล สุขภาพท่ผี ู้บรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรูปแบบอาหารคลนี สนใจ ได้แก่ เป้าหมายในการ ดารงชวี ติ โดยการมสี ุขภาพกายและใจท่ดี ี ต้องการมอี ายุยนื ยาวและสนใจในสุขภาพของ สมาชกิ ในครอบครวั เป็นตน้ 6. ความคดิ เหน็ ความคดิ เหน็ เก่ยี วขอ้ งกบั อาหารเพ่อื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี และการดแู ล สุขภาพท่ผี ู้บรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรูปแบบอาหารคลีนสนใจ ได้แก่ เป้าหมายในการ
11 ดารงชวี ติ โดยการมสี ุขภาพกายและใจท่ดี โี ดยคดิ ว่าการบรโิ ภคอาหารคลีนมสี ่วนช่วยให้ รูปร่างดี ควบคุมน้าหนักได้หรอื คดิ ว่าการรบั ประทานอาหารคลนี สามารถช่วยล้างพษิ ใน รา่ งกายได้ เป็นตน้ 7. กจิ กรรมท่สี ่งเสรมิ สุขภาพ ปฏกิ ริ ยิ าท่แี สดงออกถงึ การส่งเสรมิ สุขภาพ ได้แก่ การตรวจ สุขภาพประจาปี การออกกาลงั กายอย่างสม่าเสมอ การททานอาหารทถ่ี ูกหลกั โภชนาการ เป็นตน้ 8. ความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เรอ่ื งสุขภาพ ทศั นะในการมองตนเองและสงิ่ แวดลอ้ มรอบตวั ของบุคคล ต่อสงิ่ เรา้ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ อนั ส่งผลต่อสุขภาพทงั้ ในดา้ นบวกและดา้ นลบ ไดแ้ ก่ การมอง วา่ สุขภาพจะดหี รอื ไมด่ ขี น้ึ อยกู่ บั สภาพแวดลอ้ มและสง่ิ ทเ่ี รารบั ประทาน เป็นตน้ 9. กลุ่มวัยทางาน กลุ่มวัยทางานเป็นกลุ่มประชากรท่ีอยู่ในช่วงวยั 15-60 ปี สาหรบั กลุ่ม ประชากรสตรใี นช่วงวยั น้ี ยงั ไดแ้ บ่งออกเป็น กลุ่มวยั เจรญิ พนั ธุ์ อายุ 15-44 ปี และกลุ่มวยั หลังเจริญพันธุ์ อายุ 45-59 ปี ซ่ึงจะต้องมีการดูแลส่งเสริมสุขภาพท่ีแตกต่างกัน ใน รายละเอยี ด อนั เน่ืองจากการเปลย่ี นแปลงของสรรี ะรา่ งกาย ตามวยั โดยเฉพาะการส่งเสรมิ สุขภาพประชากรกลุ่มน้ี ก็เพ่อื ให้ประชากรวยั ทางานมคี วามรู้ และพฤติกรรมอนามยั ท่ี ถูกต้อง ทงั้ ในครอบครวั ชุมชน และในสถานประกอบการ มสี ุขภาพดตี ามมาตรฐาน และมี พฤตกิ รรมด้านอนามยั การเจรญิ พนั ธุ์ทถ่ี ูกต้อง สตรมี บี ตั รเม่อื อายุไม่ต่ากว่า 20 ปี การรบั บรกิ ารวางแผนครอบครวั ตามความเหมาะสม ไดแ้ ก่ ห่วงอนามยั ยาเมด็ คุมกาเนิด การทา หมนั ชาย / หญงิ ยาฉีดคุมกาเนิด ยาฝังคุมกาเนิด และถุงยางอนามยั เป็นต้น รวมทงั้ การ ส่งเสรมิ สุขภาพดา้ นอ่นื ไดแ้ ก่ ภาวะโภชนาการ การออกกาลงั กาย และการดแู ลสุขภาพฟัน เป็นตน้ 1.9 สมมตุ ิฐาน 1. เพศมคี วามสมั พนั ธ์ต่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรปู แบบอาหารคลนี ของ กลมุ่ วยั ทางานในกรงุ เทพมหานคร 2. อายุมคี วามสมั พนั ธต์ ่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรูปแบบอาหารคลนี ของ กล่มุ วยั ทางานในกรงุ เทพมหานคร 3. ลกั ษณะการอย่อู าศยั มคี วามสมั พนั ธต์ ่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรปู แบบ อาหารคลนี ของกลุ่มวยั ทางานในกรงุ เทพมหานคร
12 4. ระดบั การศกึ ษามคี วามสมั พนั ธต์ ่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรปู แบบอาหาร คลนี ของกลุม่ วยั ทางานในกรงุ เทพมหานคร 5. อาชพี มคี วามสมั พนั ธต์ ่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สขุ ภาพรปู แบบอาหารคลนี ของ กลมุ่ วยั ทางานในกรงุ เทพมหานคร 6. รายไดเ้ ฉล่ยี ต่อเดอื นมคี วามสมั พนั ธต์ ่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรูปแบบ อาหารคลนี ของกลมุ่ วยั ทางานในกรงุ เทพมหานคร 7. รูปแบบการดาเนินชีวิตมคี วามสมั พนั ธ์ต่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารท่เี พ่อื สุขภาพ รปู แบบอาหารคลนี ของกลุ่มวยั ทางานในกรงุ เทพมหานคร
บทที่ 2 การทบทวนวรรณกรรมและงานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง 2.1 แนวคิดและงานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง แนวคดิ ดา้ นการตลาด Kotler (2009, p. 24) แบ่งระดับแนวความคิดและทฤษฎี คือ การตลาดแบบดงั้ เดิม (Traditional Marketing) โดยจะมวี ตั ถุประสงค์ คอื การสร้างความนึกคดิ ในแบรนด์ของสนิ ค้า การตลาดแบบดงั้ เดมิ จะใหค้ วามสาคญั อยา่ งมากกบั สว่ นประสมการตลาด อดุลย์ จาตุรงคกุล (2543, หน้า 26) กล่าวว่า ส่วนสาคัญของของส่วนประสมทาง การตลาดแบบ 4P’s ว่าเป็นตวั กระตุน้ หรอื แรงจงู ใจในตลาดทม่ี ผี ลกระทบต่อการตดั สนิ ใจซอ้ื ศริ วิ รรณ เสรรี ตั น์ (2552, หน้า 80-81) กล่าวว่า ส่วนประสมการตลาด หมายถงึ มตี วั แปรทค่ี วบคุมทางการตลาดได้ ทางบรษิ ัทจะใชก้ ารประสมกนั เพ่อื ตอบโจทยค์ วามตอ้ งการของ กล่มุ ลกู คา้ เป้าหมายโดยการใชเ้ ครอ่ื งมอื ต่างๆ แนวคดิ ดา้ นรปู แบบการดาเนินชวี ติ ศิรวิ รรณ เสรรี ตั น (2541, หน้า135) รูปแบบการดาเนินชวี ติ (Lifestyles) หมายถงึ การ ดาเนินชวี ติ ในโลกโดยการแสดงออกในรูปของกิจกรรม(Activities)ความสนใจ(Interests)และ ความคิดเห็น(Opinion)Hawkins, Best &Coney( 2001, p. 435)รูปแบบการดารงชีวิตข้ึนกับ วฒั นธรรมชนั้ ของสงั คมและกลุ่มอาชพี ของแต่ละบคุ คล นกั การตลาดเชอ่ื ว่าการเลอื กสง่ิ ของวตั ถุ อยู่กบั ค่านิยมและรูปแบบการดารงชวี ติ ของมนุษย์โดยรูปแบบการดารงชวี ติ เป็นการกาหนด ขน้ึ มาโดยเกดิ จากประสบการณ์ในอดตี ลกั ษณะของในตวั บุคคลโดยมาแต่กาเนิดและสถานการณ์ ทเ่ี กดิ ขน้ึ จะส่งผลกบั พฤตกิ รรมผู้บรโิ ภค กล่าวได้ดงั น้ีคอื รปู แบบการดาเนินชวี ติ จะขน้ึ อยู่กบั ปัจจยั ต่างๆ เชน่ วฒั นธรรมค่านิยม สง่ิ แวดลอ้ ม สภาพแวดลอ้ มรวมถึงวฒั นธรรมยอ่ ย ชนชนั้ ใน สงั คม กลุ่มอา้ งองิ ครอบครวั อารมณ์และบคุ ลกิ ภาพ
14 แนวคดิ ดา้ นการตดั สนิ ใจ Barnard (2007) กล่าวว่า การตดั สนิ ใจเป็นการลดทางเลอื กจากหลายๆ ขนั้ ตอนให้ลง มาเหลอื เพยี งทางเดยี ว Simon (1960, p.1) กล่าว่า เป็นกระบวนการหาแนวทางในการตดั สนิ ใจ หาทางเลือกท่ี เหมาะและเกดิ ขน้ึ ได้ Kotler (1999 อ้างใน ศริ วิ รรณ เสรรี ตั น์, 2541, หน้า 124 – 125) พฤตกิ รรมผู้บรโิ ภค หมายถงึ การจดั หาทางตรงถงึ การใช้ผลติ ภณั ฑห์ รอื บรกิ าร รวมทงั้ กระบวนการตดั สนิ ใจ และ เกย่ี วกบั การตดั สนิ ใจซอ้ื งานวิจยั ท่ีเก่ียวข้อง Krutulyte, Grunert, Scholderer, Lähteenmäki, Hagemann, Elgaard, et al. (2011)ศกึ ษาในเรอ่ื งการรบั รแู้ บบของสว่ นประสมแตกต่างกนั ของผใู้ หบ้ รกิ ารและส่วนประสมการ ทางานและผลกระทบต่อการตดั สนิ ใจซอ้ื มวี ตั ถุประสงคใ์ นการแยกวา่ สง่ิ ใดคอื อาหารเพ่อื สุขภาพ ในการตอบสนองและยอมรบั ในยุคปัจจุบนั ของผู้บริโภค เช่นผลติ ภณั ฑ์อย่าง ธญั พชื สลดั แซลมอน อาหารเชา้ สาหรบั เดก็ แรกเกดิ ขา้ วกลอ้ ง และขา้ วไรซเ์ บอร่ี ความต้องการซอ้ื อาหารท่ี ประกอบดว้ ยวตั ถุเจอื ปนต่างๆไดม้ กี ารขยายความเหมาะสมในการรบั รถู้ งึ วตั ถุเจอื ปนแต่ละชนิด เช่นเดยี วกบั การนึกถงึ สุขภาพท่ดี ขี องผู้บรโิ ภคการตอบสนองท่สี ่งผลในอาหารเพ่อื สุขภาพซ่งึ อ้างองิ จากแบบสอบถามผู้บรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพในประเทศเดนมารก์ พบว่ารบั รู้ถงึ ความ เหมาะสมของสงิ่ ท่ผี สมสนานอย่ใู นอาหารเก่ยี วขอ้ งกนั อย่างยง่ิ กบั การตดั สนิ ใจซ้อื และยงั ไดร้ บั อทิ ธพิ ลจากการตอบสนองต่ออาหารเพ่ือสุขภาพการวจิ ยั ไดส้ ร้างแบบทดสอบและทาการแจก แบบสอบถามตวั อยา่ งแบบส่มุ ในประเทศเดนมารก์ จานวน1,750คน การนั ต์ พุกชยั วานิชย์ (2556) ไดศ้ กึ ษาเร่อื ง พฤตกิ รรมการตดั สนิ ใจซอ้ื และรปู แบบการ ดาเนินชวี ิตท่มี ผี ลต่อส่วนประสมการตลาดของผู้บรโิ ภคผลิตภณั ฑ์อาหารทะเลแช่แข็งย่หี ้อ พรานทะเล ในเขตบางแคศึกษาวิจัยครัง้ น้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาถึงคุณลักษณะด้าน ประชากรศาสตรท์ ม่ี ผี ลต่อส่วนประสมการตลาดของผบู้ รโิ ภคผลติ ภณั ฑอ์ าหารทะเลแช่แขง็ ยห่ี อ้ พรานทะเล ในเขตบางแครวมทงั้ ศึกษาพฤติกรรมการการตดั สนิ ใจซ้อื ท่มี ผี ลต่อส่วนประสม การตลาดของผู้บรโิ ภคผลติ ภณั ฑอ์ าหารทะเลแช่แขง็ ยห่ี ้อ พรานทะเล ในเขตบางแค ตลอดจน ศกึ ษารปู แบบการดาเนินชวี ติ ทม่ี ผี ลต่อส่วนประสมการตลาดของผบู้ รโิ ภคผลติ ภณั ฑอ์ าหารทะเล
15 แช่แขง็ ยห่ี ้อ พรานทะเล ในเขตบางแคผลการวจิ ยั พบว่า ผู้บรโิ ภคใหค้ วามสาคญั ต่อปัจจยั ส่วน ประสมทางการตลาดทม่ี ผี ลต่อการเลอื กซอ้ื ผลติ ภณั ฑอ์ าหารแช่แขง็ ย่ีหอ้ พรานทะเล โดยรวมอยู่ ในระดบั มากโดยผู้บรโิ ภคให้ความสาคัญมากท่ีสุดในด้านบรรจุภณั ฑ์รองลงมาได้แก่ด้าน ผลติ ภณั ฑแ์ ละใหค้ วามสาคญั น้อยทส่ี ุดในดา้ นการส่งเสรมิ การตลาด สว่ นรปู แบบการดาเนินชวี ติ ของผบู้ รโิ ภค พบวา่ ผบู้ รโิ ภคใหค้ วามสาคญั ต่อรปู แบบการดาเนินชวี ติ โดยรวม อยู่ในระดบั มาก โดยผบู้ รโิ ภคใหค้ วามสาคญั มากทส่ี ุดในด้านความคดิ เหน็ รองลงมาไดแ้ ก่ด้านความสนใจและให้ ความสาคญั น้อยทส่ี ุดในด้านกจิ กรรมนอกจากน้ียงั พบว่ารปู แบบการดาเนินชวี ติ โดยรวมของ ผู้บรโิ ภคแตกต่างกนั มผี ลต่อส่วนประสมการตลาดของผบู้ รโิ ภคผลติ ภณั ฑอ์ าหารทะเลแช่แขง็ ยห่ี อ้ พรานทะเล โดยรวมแตกต่างกนั พรพรรณ ป้อมสุข (2554) ทาการศึกษาเก่ียวกับพฤติกรรมการบรโิ ภคอาหารเพ่ือ สุขภาพและปัจจยั ท่สี ัมพนั ธ์กันในกลุ่มประชาชนวยั ทางานในชุมชนเมอื งและชุมชนชนบท อาเภอบางละมงุ จงั หวดั ชลบรุ ผี ลพบว่า ตวั อยา่ งทงั้ สองกลุ่มมแี สดงพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหาร เ พ่ือ สุ ข ภ า พ ค ล้ า ย กัน ซ่ึง มีร ะ ดับ ข อ ง พ ฤ ติ ก ร ร ม อ ยู่ ใ น ร ะ ดับ พ อ ใ ช้ แ ล ะ ผ ล ก า ร วิเ ค ร า ะ ห์ ความสมั พนั ธพ์ บว่า ปัจจยั ทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สขุ ภาพของกลุ่ม ตัวอย่างคือ ปัจจัยด้านชีวะสังคม ได้แก่ เพศ ( x2 = 10.007) และอายุ (x2 = 12.502) มี ความสมั พนั ธก์ นั อยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถติ ทิ ร่ี ะดบั < .05 ปัจจยั ทางดา้ นจติ วทิ ยา ไดแ้ ก่ความรู้ (r = .250) ทศั นคต(ิ r = .327) มคี วามสมั พนั ธ์กันอย่างมนี ัยสาคญั ทางสถิติท่รี ะดบั < .05 ปัจจยั เอ้อื อานวยด้านการรบั รู้ขอ้ มูล ข่าวสารเก่ยี วกบั กาบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ (r = .331) และ ปัจจยั เสรมิ ดา้ นแรงสนับสนุนจากบคุ คล (r = .297) นนั้ มคี วามสมั พนั ธเ์ ชงิ บวกกบั พฤตกิ รรมการ บรโิ ภคอาหารเพอ่ื สขุ ภาพอยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถติ ทิ ร่ี ะดบั <.05 ดงั นนั้ ในการสง่ เสรมิ พฤตกิ รรม การบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพควรใหค้ วามรทู้ างโภชนาการทถ่ี ูกตอ้ ง โดยส่งเสรมิ ใหค้ รอบครวั มี ส่วนรว่ ม และมคี วามสอดคลอ้ งกบั รปู แบบการดาเนินชวี ติ ซง่ึ จะสามารถทาใหป้ ระชาชนปฏบิ ตั ิ พฤตกิ รรมในการดแู ลสุขภาพไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและยงั่ ยนื บงกช รตั นปรดี ากุล และ ณฏั ฐช์ ุดา วจิ ติ รจามรี (2553) ทาการศกึ ษาเร่อื ง อทิ ธพิ ลของ ทศั นคติและบรรทัดฐานกลุ่มอ้างอิงท่ีมตี ่อพฤติกรรมการซ้ือสินค้าและบรกิ ารออนไลน์ของ ผู้บรโิ ภควยั ทางาน ใช้วธิ กี ารวจิ ยั แสวงหาโดยผู้ตอบแบบสอบถามเป็นวยั ทางานตอนต้นอยู่ ในช่วงอายุระหว่าง 20-29 ปีในกรุงเทพมหานคร จานวน 400 คน ผลการวจิ ยั พบว่า พาณิชย์ อเิ ลก็ ทรอนิกส์www.pantipmarket.com เป็นเวบ็ ไซต์ท่ถี ูกเลอื กใช้มากท่สี ุด เคร่อื งสาอาง คอื สนิ คา้ ทม่ี กี ารซอ้ื ผ่านเวบ็ ไซดพ์ าณิชยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกสเ์ ป็นอนั ดบั หน่ึง โดยซอ้ื ครงั้ ละ 500 – 1,000
16 บาทและซอ้ื สปั ดาหล์ ะครงั้ เหตุผลทเ่ี ลอื กซอ้ื สนิ ค้าและบรกิ ารผ่านเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ น็ตเพราะ การเดนิ ทางท่ไี ม่ต้องออกไปซอ้ื สนิ ค้าท่รี า้ นค้า สรุปได้ว่า ทัศนคตแิ ละบรรทดั ฐานทางสงั คมมี อทิ ธพิ ลต่อพฤตกิ รรมการซ้อื สนิ คา้ และบรกิ ารออนไลน์ของผูบ้ รโิ ภควยั ทางานตอนต้น อย่างมี นยั สาคญั ทางสถติ ทิ ร่ี ะดบั 0.05 นัยนา สุทิน(2555) ทาการศึกษาเร่ือง พฤติกรรมการบริโภคอาหารมังสวิรัติของ ผบู้ รโิ ภคในกรุงเทพมหานคร โดยผวู้ จิ ยั ไดใ้ ชแ้ บบสอบถามในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จาการวจิ ยั พบว่า ลกั ษณะส่วนบุคคลด้านเพศ อายุ ภมู ลิ าเนาเดมิ ลกั ษณะการอยอู่ าศยั การศกึ ษา อาชพี และรายได้เฉล่ียต่อเดือนมคี วามสัมพนั ธ์กันกับพฤติกรรมการบรโิ ภคอาหารมงั สวิรตั ิของ ผบู้ รโิ ภคกรุงเทพมหานคร ดา้ นอายมุ คี วามสมั พนั ธก์ นั กบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารมงั สวริ ตั ิ ของผู้บรโิ ภคกรุงเทพมหานคร ด้านค่าใช้จ่ายในการบรโิ ภคอาหารมงั สวริ ตั ิในระดบั สูงโดย ผบู้ รโิ ภคทม่ี ชี ่วงอายุ25-34ปีรอ้ ยละ43.3 ผบู้ รโิ ภคทม่ี ชี ่วงอายุ15-24ปี รอ้ ยละ 3.0และผบู้ รโิ ภคท่ี มชี ่วงอายุ35-44ปี รอ้ ยละ9.0รวม 56.3 ด้านระยะเวลาในการบรโิ ภคอาหารมงั สวริ ตั ใิ นระดบั สงู มาก ผูต้ อบแบบสอบถามมกี ารบรโิ ภคอาหรมงั สวริ ตั สิ ูงสุดเป็นระยะเวลา1-3ปี รวมเป็นรอ้ ยละ 41.8 ดา้ นระดบั การศกึ ษามคี วามสมั พนั ธก์ นั กบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารมงั สวริ ตั ิ โดยผตู้ อบ แบบสอบถามส่วนใหญ่มรี ะดบั การศึกษาในระดบั ปรญิ ญาตรี ร้อยละ30.8 ผู้บรโิ ภคในระดบั มธั ยมศกึ ษา รอ้ ยละ 7.0และผูบ้ รโิ ภคทม่ี รี ะดบั การศกึ ษาในระดบั สูงกว่าปรญิ ญาตรี รอ้ ยละ4.0 รวม41.8 สรปุ ไดว้ ่าจากงานวจิ ยั พบว่า รปู แบบการดาเนินชวี ติ มคี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการ บรโิ ภคอาหารมงั สวริ ตั ิ ณัฐณิช สุรยิ ะฉาย (2558 : บทคดั ย่อ) ได้ศกึ ษาเร่อื งการปรบั เปล่ยี นพฤติกรรมการ บรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของประชากรวยั ทางานของไทยและมาเลเซยี ผลวจิ ยั พบว่ากระแส อาหารเพ่อื สุขภาพ ความต้องการรูปร่างและสุขภาพท่ดี ที าให้ประชากรวยั ทางานของไทยและ มาเลเซยี ได้ให้ความสนใจกบั อาหารสุขภาพและมกี ารบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพเพ่มิ ข้นึ จาก เม่อื ก่อน โดยผู้บรโิ ภคส่วนมากจะสงั่ ซ้อื ผ่านรา้ นออนไลน์เพราะมคี วามสะดวกและรวดเรว็ โดย ปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาดท่สี าคญั คอื ด้านผลติ ภณั ฑ์ ปัจจยั ด้านทศั นคติท่สี าคญั คอื ประสบการณ์ และปัจจยั ทางสงั คมทส่ี าคญั คอื กล่มุ อา้ งองิ โดยสง่ิ ทแ่ี ตกต่างคอื ปัจจยั ส่วนประสม ทางการตลาดดา้ นโปรโมชนั่ ในมาเลเซยี ไมส่ มั พนั ธต์ ่อการบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สขุ ภาพ ธรี วรี ์ วราธรไพบลู ย์ (2557 : บทคดั ย่อ) ศกึ ษาเร่อื งพฤตกิ รรมการบรโิ ภค : อาหรนิยม บรโิ ภคกบั อาหารเพ่อื สุขภาพ ผลการศกึ ษาพบวา่ ปัจจุบนั พฤตกิ รรมของการรบั ประทานอาหาร ของผู้บริโภคเปล่ียนไปจากอดีตอย่างมาก สาเหตุส่วนหน่ึงมาจาการท่ีมีการนาอาหาร
17 ต่างประเทศเขา้ มาเป็นจานวนมาก ส่วนพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพนนั้ พบว่าเม่อื อายุของผบู้ รโิ ภคสูงขน้ึ ผบู้ รโิ ภคมเี หตุผลมากขน้ึ ในการเลอื กบรโิ ภค โดยเลอื กอาหารทบ่ี รโิ ภค แล้วสุขภาพแขง็ แรงและส่งผลใหเ้ ลอื กบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพอ่นื ๆตามา โดยเลอื กซ้อื จาก หา้ งสรรพสนิ คา้ และรา้ นสะดวกซอ้ื ทท่ี าใหผ้ บู้ รโิ ภคมคี วามสะดวกมากทส่ี ุด ธญั ญลกั ษณ์ ทอนราช (2558) ความรเู้ ร่อื งอาหารเพ่อื สุขภาพ ค่มู อื น้ีเป็นการใหค้ วามรู้ สรา้ งความเขา้ ใจเร่อื งอาหาร รวมทงั้ หลกั การบรโิ ภคอาหารท่ถี ูกต้อง ทงั้ ในด้านคุณภาพและ ปรมิ าณ ถอื เป็นการส่งเสรมิ การพฒั นาพฤตกิ รรมสุขภาพของประชาชน ทาให้สามารถป้องกนั การเกดิ โรคจากพฤตกิ รรมการบรโิ ภคทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง ทาใหส้ ุขภาพแขง็ แรงโดยไมม่ โี รคแทรกซอ้ น ได้
บทที่ 3 ระเบยี บวิธีการศึกษา การวิจยั เร่อื ง “พฤติกรรมการบริโภคอาหารเพ่ือสุขภาพรูปแบอาหารคลีน ในเขต กรงุ เทพมหานคร” โดยมเี น้อื หาสาระสาคญั ในการดาเนินการตามลาดบั น้ี 3.1 การกาหนดประชากรและการเลอื กกลุ่มตวั อยา่ ง 3.2 การสรา้ งเครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั 3.3 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 3.4 การจดั ทาขอ้ มลู และการวเิ คราะหข์ อ้ มลู 3.5 สถติ ทิ ใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู 3.1 การกาหนดประชากรและการเลือกกล่มุ ตวั อย่างประชากร ประชากรท่ีใช้ในการวิจัยครัง้ น้ีเป็ นผู้บริโภคอาหารเพ่ือสุขภาพท่ีอยู่ในเขต กรงุ เทพมหานครซง่ึ ไมส่ ามารถระบุจานวนทแ่ี น่นอนได้ กลมุ่ ตวั อยา่ งทใ่ี ชใ้ นงานศกึ ษาวจิ ยั คอื เป็นผบู้ รโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพทอ่ี ยู่ อายุ 15 ปี ข้นึ ไปและอาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครซ่ึงไม่สามารถระบุจานวนจานวนท่ีแน่นอนได้ เน่ืองจากไมส่ ามารถทราบจานวนทแ่ี น่นอนไดจ้ งึ กาหนดขนาดตวั อยา่ งโดยใชส้ ูตรการหาขนาด ตวั อยา่ งทร่ี ะดบั ความเช่อื มนั่ 95% (กลั ยาวานิชยบ์ ญั ชา.2545:25-26) n=Z^2/〖4e〗^2 โดยแทนคา่ n แทน จานวนสมาชกิ ตวั อยา่ ง Z แทน ระดบั ความเชอ่ื มนั่ ทผ่ี วู้ จิ ยั กาหนดไว้
19 Z มคี ่าเทา่ กบั 1.96 ทร่ี ะดบั ความเช่อื มนั่ ท่ี 95% (ระดบั 0.05) e แทน สดั ส่วนของความคาดคลาดทจ่ี ะยอมใหเ้ กดิ ขน้ึ ดงั นนั้ n=〖(Z)〗^2/(สารองแบบสอบถาม 〖(ความเชอ่ื มนั่ )〗^2 )=x n= 〖(1.96)〗^2/(4 〖(0.05)〗^2 ) =384 ดงั นัน้ ขนาดตวั อย่างท่ใี ช้ในการวิจยั ครงั้ น้ีจานวน 200 คนและเพ่อื เป็นการป้องกัน ความผดิ พลาดของแบบสอบถามท่ไี ม่สมบูรณ์จงึ มกี ารสารองไว้ 4 % ของกลุ่มตวั อย่างเป็น จานวน 8 คนรวมขนาดกลุม่ ตวั อยา่ งทงั้ 208 ตวั อยา่ ง การวจิ ยั ครงั้ น้ผี วู้ จิ ยั จะใชว้ ธิ กี ารสุ่มตวั อยา่ งโดยมขี นั้ ตอนดงั น้ี ขนั้ ตอนท่ี 1 ใช้วธิ ีการเลือกตัวอย่างแบบอย่างง่าย (Simple Random Sampling ) เพ่อื เลอื กพน้ื ท่ี ขนั้ ตอนท่ี 2 ใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบโควต้า(Quota Sampling) โดยการ กาหนดกล่มุ ตวั อยา่ งจานวน 200 คน ขัน้ ตอนท่ี 3 ใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยอาศัยความสะดวก(Convenience Sampling) โดยการแจกแบบสอบถามแก่กลุ่มตวั อย่างตามท่พี ักอาศัย สถานท่ที างาน หรอื ศูนย์การค้าในเขตการปกครอง และสถานศึกษาตามท่ไี ด้เลอื กไวใ้ นขนั้ ตอนท่ี 1 จนครบตาม จานวนทก่ี าหนดไวใ้ นขนั้ ตอนท่ี 2 3.2 การสร้างเคร่ืองมือที่ใช้ในงานวิจยั 3.2.1 ขนั้ ตอนการสรา้ งเครอ่ื งมอื ในการวจิ ยั ดาเนินการสรา้ ง ดงั น้ี 1.ศกึ ษาตารา เอกสาร บทความ ทฤษฎหี ลกั การ และงานวจิ ยั ทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง เพ่อื กาหนด ขอบเขตการวจิ ยั และสรา้ งเครอ่ื งมอื ในการวจิ ยั ใหค้ รอบคลุมตามความมงุ่ หมายการวจิ ยั
20 2.สร้างแบบสอบถามโดยอาศัยกรอบแนวคิดและทฤษฎีท่ีเก่ียวข้องสัมภาษณ์ผู้ท่ี เก่ยี วขอ้ งเพ่อื กาหนดขอบเขตและเน้ือหาแบบทอสอบ จะได้มคี วามชดั เจนตามความมุ่งหมาย ตามการวจิ ยั ยง่ิ ขน้ึ 3.นาแบบสอยถามท่ีสร้างเสร็จแล้วไปขอรับคาแนะนาจากอาจารย์ท่ีปรึกษา เพ่ือ ตรวจสอบและปรบั ปรงุ แก้ไข เพ่อื ใหไ้ ดค้ วามเทย่ี งตรงในเชงิ เน้ือหาและความเช่อื ถอื ได้ เพ่อื ให้ ไดค้ าตอบตามวตั ถุประสงคท์ ต่ี อ้ งการ 4.นาแบบสอบถามทป่ี รบั ปรุงแก้ไข และผ่านการตรวจสอบความเทย่ี งตรงแลว้ เสนอต่อ อาจารยท์ ป่ี รกึ ษาสารนิพน์เพอ่ื พจิ ารณาตรวจสอบอกี ครงั้ ใหส้ มบรู ณ์ 5.นาแบบสอบถามท่ีผ่านการตรวจสอบและแก้ไขไปทดสอบใช้ (Try out) กับกลุ่ม ตวั อย่างท่มี ลี กั ษณะคล้ายคลงึ กบั กลุ่มตวั อย่างจานวน 10 คน แล้วนาผลท่ไี ด้ไปวเิ คราะห์หา ความเช่อื มนั่ (Reliability) ของชุดคาถามของแต่ลาตวั แปรด้วยวธิ กี ารหาค่าสมั ประสทิ ธอิ ์ ลั ฟา (Alpha Coefficiency) ของ Cronbach (กลั ยาวานีชยบ์ ญั ชา 2544:449) เพ่อื ทดสอบความความ คงทข่ี องชุดคาถาม 3.2.2 เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั ครงั้ น้ี ผวู้ จิ ยั ไดใ้ ชแ้ บบสอบถาม (Questionnaire) เป็นเครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ซง่ึ แบ่งเน้อื หาของแบบสอบถามไดด้ งั น้ี ส่วนท่ี 1 แบบสอบถามเก่ียวกับลกั ษณะส่วนบุคคลของผู้บรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ ประกอบด้วยขอ้ มูลต่างๆ คอื เพศ อายุ รายได้เฉล่ยี ต่อเดอื น การศกึ ษา ลกั ษณะท่อี ยู่อาศยั อาชพี สถานภาพสมรส มจี านวนทงั้ สน้ิ 7 ขอ้ ตงั้ แต่ขอ้ ท่ี 1-7 โดยขอ้ คาถามจะเป็นลกั ษณะให้ เลอื กตอบตามความเหมาะสมตามลกั ษณะของผูใ้ ชบ้ รกิ ารแต่ละคน เป็นลกั ษณะแบบสอบถาม แบบปลายปิด (Closed Ender Response Questions ) ขอ้ ท่ี 1. เพศ เป็นระดบั วดั ขอ้ มลู ประเภทนามบญั ญตั (ิ Nominal Scale) ขอ้ ท่ี 2. อายุ เป็นระดบั การวดั ขอ้ มลู ประเภทเรยี งลาดบั (Ordinal Scale) ขอ้ ท่ี 3. อาชพี เป็นระดบั การวดั ขอ้ มลู ประเภทนามบญั ญตั ิ (Nominal Scale) ขอ้ ท่ี 4. รายได้เฉล่ยี ต่อเดอื น เป็นระดบั การวดั ข้อมูลประเภทนามบัญญตั ิ (Nominal Scale)
21 ขอ้ ท่ี 5. ระดบั การศกึ ษา เป็นระดบั การวดั ขอ้ มลู ประเภทนามบญั ญตั ิ (Nominal Scale) ขอ้ ท่ี 6. สถานภาพสมรส เป็นระดบั การวดั ขอ้ มลู ประเภทนามบญั ญตั ิ (Nominal Scale) ขอ้ ท่ี 7. ลกั ษณะทอ่ี ยอู่ าศยั เป็นระดบั การวดั ขอ้ มลู ประเภทเรยี งลาดบั (Ordinal Scale) ส่วนท่ี 2 แบบสอบถามเกย่ี วกบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพรปู แบบอาหาร คลีนของผู้บริโภคโดยเป็นลักษณะแบบสอบถามแบบปลายปิด (Closed Ended Response Questions) ลกั ษณะของแบบสอบถามประกอบดว้ ยคาถามทม่ี หี ลายคาตอบใหเ้ ลอื ก (Multiple Choice Question)ทงั้ หมดจานวน 6 ขอ้ ส่วนท่ี 3 แบบสอบถามเก่ยี วกบั รูปแบบการดาเนินชวี ติ ได้แก่ กจิ กรรมทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั อาหารเพ่อื สุขภาพและการดแู ลสุขภาพความสนใจทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั อาหารเพอ่ื สุขภาพและการดแู ล สุขภาพ และความคดิ เหน็ ทางดา้ นรูปแบบการดาเนินชวี ติ ของผบู้ รโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพเป็น แบบสอบถามชนิดคาถามปลายปิด (Closed-ended Question)ซง่ึ ลกั ษณะคาถามประกอบดว้ ย ขอ้ ความทเ่ี ป็นการใหค้ วามสาคญั ในแต่ละดา้ น ใชร้ ะดบั วดั ขอ้ มลู ประเภทอนั ตรภาคชนั้ (Interval Scale) เป็นการวดั แบบ Likert Scale มี 5 ระดบั โดยมเี กณฑก์ ารใหค้ ะแนนโดย แบ่งออกเป็น 3 สว่ น ดงั น้ี สว่ นท่ี 3 ตอนท่ี 1 กจิ กรรมทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั อาหารอาหารและการดแู ลสขุ ภาพโดย มเี กณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั น้ี มรี ะดบั กจิ กรรมและถท่ี าเป็นประจา เทา่ กบั 5 คะแนน มรี ะดบั กจิ กรรมและถท่ี าเป็นบ่อยครงั้ เท่ากบั 4 คะแนน มรี ะดบั กจิ กรรมและถท่ี าบา้ งไมท่ าบา้ ง เท่ากบั 3 คะแนน มรี ะดบั กจิ กรรมและถน่ี านๆทาที เท่ากบั 2 คะแนน มรี ะดบั กจิ กรรมและถไ่ี มท่ าเลย เทา่ กบั 1 คะแนน ส่วนท่ี 3 ตอนท่ี 2 ความสนใจทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั อาหารเพ่อื สุขภาพและดแู ลสุขภาพ เป็นระดบั การวดั ขอ้ มลู ประเภทนามบญั ญตั ิ (Nominal Sacle) โดยมเี กณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั น้ี มรี ะดบั ความสนใจและความถม่ี ากทส่ี ดุ เท่ากบั 5 คะแนน มรี ะดบั ความสนใจและความถม่ี าก เทา่ กบั 4 คะแนน
22 มรี ะดบั ความสนใจและความถป่ี านกลาง เท่ากบั 3 คะแนน มรี ะดบั ความสนใจและความถน่ี ้อย เท่ากบั 2 คะแนน มรี ะดบั ความสนใจและความถน่ี ้อยทส่ี ุด เท่ากบั 1 คะแนน ส่วนท่ี 3 ตอนท่ี 3 ความคดิ เหน็ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั อาหารเพ่อื สุขภาพและการดูแลสุขภาพ เป็นระดบั การขอ้ มลู ประเภทนามบญั ญตั ิ (Nominal Scale) โดยมเี กณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั น้ี มรี ะดบั ความคดิ เหน็ และความถเ่ี หน็ ดว้ ยอยา่ งยงิ่ เทา่ กบั 5 คะแนน มรี ะดบั ความคดิ เหน็ และความถเ่ี หน็ ดว้ ย เทา่ กบั 4 คะแนน มรี ะดบั ความคดิ เหน็ และความถไ่ี มเ่ หน็ ดว้ ย เทา่ กบั 3 คะแนน มรี ะดบั ความคดิ เหน็ และความถไ่ี มเ่ หน็ เหน็ ดว้ ยอยา่ งยงิ่ เทา่ กบั 1 คะแนน 3.3 การเกบ็ รวบรวมข้อมลู การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ผวู้ จิ ยั ใชว้ ธิ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากแหลง่ ขอ้ มลู ทส่ี าคญั 2 แหง่ คอื 1.แหล่งขอ้ มลู ปฐมภมู ิ (Primary Data) โดยผวู้ จิ ยั ใชแ้ บบสอบถามในการเกบ็ ขอ้ มลู จาก กลุ่มตวั อยา่ งจานวน 200 คนโดยการส่งแบบสอบถามใหก้ บั ผตู้ อบแบบสอบถามพรอ้ มทงั้ ชแ้ี จง ขอ้ มลู และรอเกบ็ แบบสอบถามดว้ ยตนเองทงั้ น้ีจากการแจกแบบสอบถามจานวน 200 ฉบบั ได้ แบบสอบถามทม่ี คี าตอบสมบรู ณ์กลบั มาจานวน 200 ฉบบั คดิ เป็นรอ้ ยละ 100 2.แหล่งข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลท่ีได้จาก งานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งในอดตี วารสารหนงั สอื สงิ่ พมิ พเ์ อกสารทางวชิ าการและขอ้ มลู ทเ่ี ผยแพร่ทาง อนิ เตอรเ์ น็ต 3.4 การจดั ทาและการวิเคราะหข์ ้อมลู ผวู้ จิ ยั นาแบบสอบถามทร่ี วบรวมไดจ้ ากกลุ่มตวั อย่างมาดาเนินการประมวลผล ขอ้ มลู โดยใชโ้ ปรแกรมสาเรจ็ รปู และทาการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ตามขนั้ ตอน ดงั น้ี 1.การตรวจสอบข้อมูล (Editing) ผู้วจิ นั ตรวจสอบความสมบูรณ์ของการตอบ แบบสอบถามและแยกแบบสอบถามทไ่ี มส่ มบูรณ์ออกไป
23 2.การลงรหสั (Coding) นาแบบสอบถามทถ่ี ูกตอ้ งเรยี บรอ้ ยแลว้ มาลงรหสั ตามท่ี ไดก้ าหนดไวล้ ว่ งหน้า 3. นาขอ้ มูลท่ลี งรหสั แล้วไปบนั ทกึ ในเคร่อื งคอมพวิ เตอรเ์ พ่อื ประมวลผลโดย โปรแกรมเพอ่ื ทาการประมวลผลตามสถติ ติ ่างๆทเ่ี กย่ี วขอ้ งในการทดสอบสมมตุ ฐิ านโดยการวจิ ยั ครงั้ น้ีใชร้ ะดบั นัยสาคญั ทางสถติ ทิ ร่ี ะดบั 0.05 (Level of Significance) การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ของ แบบสอบถามจะทาการวเิ คราะหห์ าคา่ สถติ ติ ่างๆ ดงั น้ี 3.5 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะหข์ ้อมลู การวเิ คราะหส์ ถติ เิ ชงิ พรรณนา (Descriptive Analysis) 1.ค่ารอ้ ยละ (Percentage) ใช้วเิ คราะห์ขอ้ มูลทวั่ ไป (อภนิ ันท์ จนั ตานีใ 2538: 75) 2.สตู รค่าเฉลย่ี เลขคณติ (Arithmetic mean)หรอื (บญุ ชม ศรสี ะอาด. 2541: 56) 3.การหาค่าความเบย่ี งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation หรอื S.D.) เพ่อื ใช้ แปลความหมายขอ้ มลู ต่างๆ (บุญชม ศรสี ะอาด.2541:87) 4.สถติ ทิ ใ่ี ชท้ ดสอบความเช่อื มนั่ ของแบบสอบถาม การทดสอบความเช่อื มนั่ ของชุดคาถามท่ใี ช้เป็นเคร่อื งมอื เกบ็ ขอ้ มูล (Reliability of the test) โดยใช้วธิ หี าค่าสมั ประสทิ ธแิ ์ อลฟา (Coefficient)ของครอบบคั (Cronbach) (กลั ยาวาณชิ ยบ์ ญั ชา. 2544: 125-126) สถติ ใิ ชท้ ดสอบสมมตฐิ าน การทดสอบสถติ ิ Pearson Chi-Squuare ค่าสถติ ิ โดยทาการทดสอบ ความสมั พนั ธ์ระหว่างตวั แปร 2 กลุ่ม โดยใช้สูตร Chi-Square Test (นราศรี ไววนิชกุล; ชูศกั ดิ ์ อุดมศร.ี 2541)และ ทาการทดสอบเพม่ิ เตมิ เมอ่ื คา่ Chi-Square มคี วามสมั พนั ธอ์ ยา่ งมนี ยั สาคญั โดย ทดสอบความสมั พนั ธด์ ว้ ย สถติ ิ Cramer’s V
บทที่ 4 ผลการศึกษา การนาเสนอผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลของการทาวจิ ยั เร่อื ง พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหาร เพ่อื สุขภาพของผบู้ รโิ ภคในเขตกรงุ เทพมหานคร ผวู้ จิ ยั ไดก้ าหนดสญั ลกั ษณ์ต่างๆและอกั ษรยอ่ ทใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ดงั ต่อไปน้ี สญั ลกั ษณ์ท่ีใช้ในการวิเคราะหแ์ ละแปรผลข้อมลู n แทน จานวนผบู้ รโิ ภคกลมุ่ ตวั อยา่ ง S.D. แทน ค่าเบย่ี งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ������2 แทน คา่ ทใ่ี ชพ้ จิ ารณาในไค-สแควร์ (Chi-square) e แทน ระดบั นยั สาคญั ทางสถติ จิ ากการทดสอบ H0 แทน สมมตุ ฐิ านหลกั (Null Hypothesis) H1 แทน สมมตุ ฐิ านรอง (Alternative Hypothesis) * แทน มนี บั สาคญั ทางสถติ ทิ ร่ี ะดบั .05 การนาเสนอผลการวิเคราะหข์ ้อมลู ในการศกึ ษาครงั้ น้ี ผูว้ จิ ยั ไดท้ าการศกึ ษาถงึ ลกั ษณะส่วนบุคคลและรูปแบบการดาเนิน ชี วิ ต ท่ี มี ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ต่ อ พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร บ ริ โ ภ ค อ า ห า ร เ พ่ื อ สุ ข ภ า พ ข อ ง ผู้ บ ริ โ ภ ค ใ น กรงุ เทพมหานครจานวน 200 ราย โดยแบง่ เป็น 5 สว่ น ดงั น้ี ส่วนท่ี 1 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ลกั ษณะส่วนบุคคลของผตู้ อบแบบสอบถาม ส่วนท่ี 2 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เกย่ี วกบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สขุ ภาพ ส่วนท่ี 3 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เก่ยี วกบั รูปแบบการดาเนินชวี ติ และพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหาร เพอ่ื สุขภาพ ส่วนท่ี 4 การวเิ คราะห์ขอ้ มลู เพ่อื ทดสอบสมมุตฐิ านความสมั พนั ธร์ ะหว่างลกั ษณะส่วนบุคคลกบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพ
25 ส่วนท่ี 5 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เพ่อื ทดสอบสมมตุ ฐิ านความสมั พนั ธร์ ะหว่างรปู แบบการดาเนินชวี ติ กบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพ ส่วนท่ี 1 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ลกั ษณะสว่ นบุคคลของผตู้ อบแบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลลักษณะส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม ได้แก่ เพศ อายุ ลกั ษณะการอย่อู าศยั ระดบั การศกึ ษา อาชพี และรายได้เฉล่ยี ต่อเดอื น โดยแจกแจงเป็นค่า จานวนและค่ารอ้ ยละ ดงั น้ี ตาราง 2 จานวนและค่ารอ้ ยละของลกั ษณะสว่ นบคุ คลของผตู้ อบแบบสอบถาม ลกั ษณะส่วนบุคคล เพศ จานวนผตู้ อบแบบสอบถาม % (คน) ชาย 42% หญงิ 84 58% รวม 116 100% 200 อายุ จานวนผตู้ อบแบบสอบถาม % (คน) 15-20 5.0% 21-25 10 44.0% 26-30 88 19.5% 31-35 39 13.0% 36-40 26 7.0% 41-45 14 3.5% 46-50 7 2.5% มากกวา่ 50 5 4.0% ขอ้ ผดิ พลาด 8 1.5% รวม 3 100% 200
26 อาชพี จานวนผตู้ อบแบบสอบถาม % (คน) คา้ ขาย/ธุรกจิ สว่ นตวั 14.5% ลกู จา้ งเอกชน/พนกั งานบรษิ ทั 29 47.0% ขา้ ราชการ/รฐั วสิ าหกจิ 12.5% นกั เรยี น/นกั ศกึ ษา 94 26.0% รวม 100.0% 25 52 200 รายได้ จานวนผตู้ อบแบบสอบถาม % (คน) น้อยกวา่ 10,001 12% 10,001-20,001 บาท 23 28% 20,001-30,000 บาท 56 24% 30,001-40,000 บาท 48 14% 40,001-50,000 บาท 27 14% 50,001-60,000 บาท 28 5% 60,001-70,000 บาท 9 3% 70,001-80,000 บาท 5 1% 90,001-100,000 บาท 2 1% รวม 2 100% 200
27 ระดบั การศกึ ษา จานวนผตู้ อบแบบสอบถาม % (คน) ต่ากวา่ ปรญิ ญาตรี 14% ปรญิ ญาตรี 28 72% สงู กว่าปรญิ ญาตรี 144 14% รวม 28 100% 200 สถานภาพสมรส จานวนผตู้ อบแบบสอบถาม(คน) % โสด 147 74% สมรส 51 26% หยา่ รา้ ง/แยกกนั อยู่ 2 1% รวม 200 100% ลกั ษณะทอ่ี ยอู่ าศยั จานวนผตู้ อบแบบสอบถาม(คน) % บา้ น หอพกั /บา้ นเช่า/คอนโด 128 64% รวม 72 36% 200 100%
28 ผลจากตาราง 2 แสดงให้เหน็ ถงึ ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูลลกั ษณะส่วนบุคคลของผตู้ อบ แบบสอบถาม ซง่ึ ใชเ้ ป็นกลุ่มตวั อย่างในการศกึ ษาครงั้ น้ี จานวน 200 คนโดยสามารถจาแนก ตามตวั แปรได้ ดงั น้ี เพศ ผตู้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญงิ จานวน 116 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.58 และเพศชาย จานวน 84 คน รอ้ ยละ 0.42 อายุ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มอี ายุ 21 – 25 ปี จานวน 88 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.44 รองลงมา คอื กลุ่มอายุ 26 – 30 ปี จานวน 39 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.195 กลุ่มทม่ี อี ายุ 31 – 35 ปี จานวน 26 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.13 และกลุ่มทม่ี จี านวนน้อยทส่ี ดุ คอื กลุ่มทม่ี อี ายุ 46 – 50 ปี จานวน 5 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.25 อาชพี ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มอี าชพี เป็นลูกจ้างเอกชนหรอื พนักงานบริษัท จานวน 94 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.47 รองลงมาคอื นกั เรยี นหรอื นักศกึ ษา จานวน 52 คน คดิ เป็น รอ้ ยละ 0.26และกลุ่มทน่ี ้อยท่สี ุด คอื กลุ่มท่มี อี าชพี ขา้ ราชการหรอื รฐั วสิ าหกจิ จานวน 25 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.125 รายได้ ผตู้ อบแบบสอบถามสว่ นใหญ่มรี ายได้ 10,001-20,001 บาท จานวน 56 คน คดิ เป็นร้อยละ0.28 รองลงมา คอื มรี ายได้ 20,001-30,000 บาท จานวน 48 คน คดิ เป็นร้อยละ 0.24 และกลมุ่ ทน่ี ้อยทส่ี ุด 2 กล่มุ คอื มรี ายได้ 70,001-80,000 บาท และ 90,001-100,000 บาท จานวน 2 คนเท่ากนั คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.01 ระดบั การศึกษา ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มรี ะดบั การศกึ ษาปรญิ ญาตรี จานวน 144 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.72 รองลงมาคอื ต่ากว่าปรญิ ญาตรแี ละสูงกว่าปรญิ ญาตรี มจี านวน เทา่ กนั 28 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.14 สถานภาพสมรส ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มสี ถานภาพโสด จานวน 147 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.74 รองลงมาคอื สมรส จานวน 51 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.26 และกลุ่มทม่ี จี านวน น้อยทส่ี ดุ คอื หยา่ รา้ งหรอื แยกกนั อยู่ จานวน 2 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.01 ลกั ษณะทอ่ี ย่อู าศยั ผตู้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่มลี กั ษณะทอ่ี ยอู่ าศยั เป็น บา้ น จานวน 128 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.64 และกลุ่มผูม้ อี าศยั เป็นหอพกั บ้านเช่าและคอนโด จานวน 72 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ0.36
29 รปู แบบการเลอื กรบั ประทาน จานวน รอ้ ยละ ปรงุ อาหารทานเอง 12 6 ซอ้ื รบั ประทาน 20 10 ปรงุ อาหารทานเองและซอ้ื รบั ประทาน 14 7 154 77 ขอ้ ผดิ พลาด 200 รวม 100 ส่วนที่ 2 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เกย่ี วกบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ การวเิ คราะหพ์ ฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ ประกอบดว้ ยรปู แบบการดาเนิน ชวี ติ จุดประสงค์ในการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ โอกาสในการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ ความถ่ใี นการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ ระยะเวลาในการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ มอ้ื อาหาร ในการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ ค่าใชจ้ ่ายต่อมอ้ื ในการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ สถานท่ใี น การบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพและบคุ คลทม่ี อี ทิ ธพิ ลในการบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพ ตาราง 3 จานวนและรอ้ ยละของรปู แบบการดาเนินชวี ติ ของผตู้ อบแบบสอบถาม รปู แบบการดาเนนิ ชวี ติ เลอื ก ไมเ่ ลอื ก รวม รอ้ ยละ ไมเ่ คย 0 68 68 34 เคยและไมร่ บั ประทานต่อ 0 86 86 43 เคยและรบั ประทาน 36 10 46 23 รวม 36 164 200 100 1.รปู แบบการเลอื กรบั ประทานอาหารเพ่อื สุขภาพของผทู้ ่เี คยรบั ประทานและเลอื กรบั ประทาน ต่อ ส่วนท่ี 3 การวเิ คราะห์ขอ้ มลู เก่ยี วกบั รูปแบบการดาเนินชวี ติ และพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหาร เพ่อื สุขภาพ การวิเคราะห์รูปแบบการดาเนินชีวิตและพฤติกรรมการบริโภคอาหารเพ่อื สุขภาพ ประกอบด้วยด้านทศั นคตแิ ละความคดิ เหน็ ทเ่ี ก่ยี วกบั อาหารเพ่อื สุขภาพและดูแลสุขภาพ และ ดา้ นกจิ กรรมและความสนใจ วเิ คราะหโ์ ดยการหาค่าเฉลย่ี และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน ดงั น้ี
30 ตาราง 4 จานวนและรอ้ ยละดา้ นทศั นคตแิ ละดา้ นกจิ กรรมและความสนใจ ดา้ นทศั นคตแิ ละความคดิ เหน็ น้อย ปานกลาง มาก มากทส่ี ุด รวม รอ้ ยละ ทา่ นมคี วามห่วงใย เลอื ก 0 2 20 13 35 83.33 สขุ ภาพของตวั เองมาก ไมเ่ ลอื ก 0 21 4 7 16.67 น้อยเพยี งใด รวม 0 4 21 17 42 100 เป้าหมายในการดารงชวี ติ เลอื ก 0 37 25 35 62.5 โดยการมสี ขุ ภาพกายและ ไมเ่ ลอื ก 2 86 5 21 37.5 จติ ดจี ากการมรี ปู ร่างทด่ี ี รวม 2 11 13 30 56 100 เลอื ก 0 1 11 23 35 62.5 ชว่ ยลา้ งพษิ ได้ ไมเ่ ลอื ก 5 74 5 21 37.5 รวม 5 8 15 28 56 100 ตอ้ งการมสี ขุ ภาพทย่ี นื ยาว เลอื ก 0 65 24 35 62.5 และสมใจในสขุ ภาพของ ไมเ่ ลอื ก 0 96 6 21 37.5 สมาชกิ ในครอบครวั รวม 0 15 11 30 56 100 ด้านกิจกรรมและความสนใจ จานวนผตู้ อบ % แบบสอบถาม ออกกาลงั กาย เลอื ก 17.0% การเลน่ กฬี า ไมเ่ ลอื ก (คน) 83.0% การเลอื กรบั ประทานอาหารเพอ่ื สขุ ภาพ 34 100.0% รวม 166 6.5% เลอื ก 200 93.5% ไมเ่ ลอื ก 13 100.0% รวม 187 18.0% เลอื ก 200 82.0% ไมเ่ ลอื ก 36 100.0% รวม 164 200
31 เลอื ก 15 7.5% การรบั ประทานอาหารเสรมิ เช่น วติ ามนิ ไมเ่ ลอื ก 185 92.5% รวม 200 100.0% เลอื ก 23 11.5% การใชผ้ ลติ ภณั ฑด์ แู ลสุขภาพ ไมเ่ ลอื ก 177 88.5% รวม 200 100.0% เลอื ก 12 6.0% การตรวจสุขภาพประจาปี ไมเ่ ลอื ก 188 94.0% รวม 200 100.0% การพบแพทยแ์ ผนทางเลอื ก เช่น การ เลอื ก 0 0.0% ฝังเขม็ ไมเ่ ลอื ก 200 100.0% 200 100.0% รวม เลอื ก 3 1.5% การนวดแผนไทย/การนวดฝ่ าเทา้ ไมเ่ ลอื ก 197 98.5% รวม 200 100.0% เลอื ก 3 1.5% การทาสปา ไมเ่ ลอื ก 197 98.5% รวม 200 100.0% ผลจากตาราง 4 แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม ซง่ึ ใชเ้ ป็นกลุ่มตวั อย่างในการศกึ ษาครงั้ น้ี จานวน 200 คนโดย สามารถจาแนกได้ 2 ดา้ น อธบิ ายไดด้ งั น้ี ดา้ นทศั นคติ ผทู้ บ่ี รโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพส่วนใหญ่ใหค้ วามสาคัญกบั การดแู ลสุขภาพ รองลงมา คอื เป้าหมายในการดารงชวี ติ โดยการมสี ุขภาพกายและจติ ท่ดี จี ากการมรี ูปร่างท่ดี ี ช่วยลา้ งพษิ ไดแ้ ละต้องการมสี ุขภาพทย่ี นื ยาวและสมใจในสุขภาพของสมาชกิ ในครอบครวั โดย ทงั้ 3เหตุผลมสี ดั ส่วนทเ่ี ท่ากนั ดา้ นกจิ กรรมและความสนใจ ผูท้ ่บี รโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพมคี วามสนใจในการเลอื ก รบั ประทานอาหารเพ่ือสุขภาพมาเป็นอันดบั แรกรองลงมาเป็นการออกกาลังกาย การใช้
32 ผลิตภณั ฑ์เพ่อื สุขภาพ การรบั ประทานอาหารเสริม เช่น วิตามนิ เล่นกีฬา ตรวจสุขภาพ ประจาปี ตามลาดบั ส่วนท่ี 4 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เพ่อื ทดสอบสมมุตฐิ านความสมั พนั ธร์ ะหว่างลกั ษณะส่วนบุคคลกบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพ การทดสอบสมมุติฐานความสมั พนั ธ์ระหว่างลกั ษณะส่วนบุคลคลกบั พฤติกรรมการ บรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผบู้ รโิ ภคในกรุงเทพมหานคร โดยจาแนกตามเพศ อายุ ลกั ษณะ การอย่อู าศยั ระดบั การศกึ ษา อาชพี และรายได้เฉลย่ี ต่อเดอื น โดยวเิ คราะห์ความสมั พนั ธ์จาก ค่าสถติ ิ Chi-square ทร่ี ะดบั ความเช่อื มนั่ รอ้ ยละ 95 สมมุติฐานข้อท่ี 1 เพศมีความสัมพนั ธ์กับพฤติกรรมริโภคอาหารเพ่ือสุขภาพของ ผบู้ รโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร โดยมสี มมตุ ฐิ านยอ่ ยทางสถติ ไิ ดด้ งั น้ี H0 : เพศไมม่ คี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สขุ ภาพของผบู้ รโิ ภคใน กรงุ เทพมหานคร H1 : เพศมคี วามสมั พนั ธ์กบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผูบ้ รโิ ภคใน กรงุ เทพมหานคร ตาราง แสดงการทดสอบความสมั พนั ธร์ ะหว่างเพศกบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม การเลอื กรบั ประทานอาหารเพอ่ื สขุ ภาพ เพศ เลอื ก ไมเ่ ลอื ก รวม ชาย 11 73 84 หญงิ 25 91 116 รวม 36 164 200 ������2 = 2.360 df = 1
33 จากตาราง เม่อื ทดสอบความสมั พนั ธร์ ะหว่างเพศกบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยใช้สถิติ Chi-square ในการทดสอบ พบว่า เพศไม่มี ความสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม ทร่ี ะดบั .05 ดงั นนั้ จงั ปฏเิ สธสมมตุ ฐิ านหลกั (H1) และยอมรบั สมมตุ ฐิ านรอง (H0) พบวา่ เพศมคี วามสมั พนั ธ์ กบั พฤตกิ รรมกบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคการอาหารเพอ่ื สขุ ภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยมคี ่า สมั ประสทิ ธเิ ์ทา่ กบั 2.360 สมมตฐิ านขอ้ มลู ท่ี 2 อายุมคี วามสมั พนั ธ์กบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ ของผูบ้ รโิ ภคในกรุงเทพมหานคร ด้านโอกาสในการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ สามารถเขยี น เป็นสมมตฐิ านทางสถติ ดิ งั น้ี H0 : อายไุ มม่ คี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผบู้ รโิ ภคใน กรงุ เทพมหานคร ดา้ นโอกาสในการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ H1 : อายไุ ม่มคี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพของผบู้ รโิ ภคใน กรงุ เทพมหานคร ดา้ นโอกาสในการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สขุ ภาพ ตาราง แสดงการทดสอบความสมั พนั ธ์ระหว่างอายุกบั พฤติกรรมการบรโิ ภคอาหารเพ่ือ สุขภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม อายุ การเลอื กรบั ประทานอาหารเพ่อื สุขภาพ รวม 15-20 เลอื ก ไมเ่ ลอื ก 10 21-25 19 88 26-30 15 73 39 31-35 6 33 26 36-40 9 17 14 41-45 1 13 7 46-50 07 5 มากกวา่ 50 14 8 รวม 35 197 36 161 ������2 = 10.131 df = 7
34 จากตารางท่ี 10 เมอ่ื ทดสอบความสมั พนั ธร์ ะหว่างอายกุ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหาร เพ่อื สุขภาพของผูต้ อบแบบสอบถาม ในการทดสอบพบว่าอายุมคี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรม การบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผตู้ อบแบบทดสอบถาม อย่างมนี ัยสาคญั ทร่ี ะดบั .05 ดงั นัน้ จงึ ปฎเิ สสมมตฐิ านหลกั (H1) และยอมรบั สมมตฐิ านรอง (H0) และพบว่า อายไุ มม่ คี วามสมั พนั ธ์ กบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สขุ ภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยมคี า่ สมั ประสทิ ธเิ ์ท่ากบั 10.131 สมมตุ ฐิ านขอ้ ท่ี 3.อาชพี มคี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของ ผบู้ รโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร สามารถเขยี นเป็นสมมตุ ฐิ านทางสถติ ไิ ด้ ดงั น้ี H0 : อาชีพไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคอาหารเพ่ือสุขภาพใน กรงุ เทพมหานคร H1 : อาชีพมีความสัมพันธ์กับพฤตอกรรมการบริโภคอาหารเพ่ือสุขภาพใน กรงุ เทพมหานคร ตารางแสดงการทดสอบความสมั พนั ธร์ ะหว่างอาชพี กบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ ของผตู้ อบแบบสอบถาม การเลอื กรบั ประทานอาหารเพอ่ื สุขภาพ รวม อาชพี เลอื ก ไมเ่ ลอื ก 29 คา้ ขาย/ธรุ กจิ สว่ นตวั 7 22 94 25 ลกู จา้ งเอกชน/พนกั งานบรษิ ทั 16 78 52 200 ขา้ ราชการ/รฐั วสิ าหกจิ 3 22 นกั เรยี น/นกั ศกึ ษา 10 42 36 164 รวม ������2 = 1.464 df = 3 จากตารางเมอ่ื ทดสอบความสมั พนั ธ์ระหว่างอาชพี กบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผู้ตอบแบบสอบถามโดยใช้สถิติ Chi-square ในการทดสอบ พบว่า อาชีพมี ความสมั พนั ธ์กบั พฤติกรรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม อย่างมี นัยสาคญั ทร่ี ะดบั .05 ดงั นัน้ จงึ ยอมรบั สมมุตฐิ านหลกั (H0) และปฏเิ สธสมมุตฐิ านรอง (H1)
35 พบว่า อาชีพมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคอาหารเพ่ือสุขภาพของผู้ตอบ แบบสอบถามโดยมคี ่าสมั ประสทิ ธเิ ์ท่ากบั 1.464 สมมุติฐานข้อท่ี 4 รายได้มคี วามสมั พนั ธ์กบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ ของผบู้ รโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร สามารถเขยี นเป็นสมมตฐิ านทางสถติ ไิ ด้ ดงั น้ี H0 : รายไดไ้ ม่มคี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของ ผบู้ รโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร H1 : รายไดม้ คี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพของ ผบู้ รโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร ตาราง แสดงการทดสอบความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งรายไดก้ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สขุ ภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม การเลอื กรบั ประทานอาหารเพอ่ื สขุ ภาพ รายได้ เลอื ก ไมเ่ ลอื ก รวม น้อยกวา่ 10,001 4 19 23 56 10,001-20,001 บาท 7 49 48 27 20,001-30,000 บาท 9 39 28 9 30,001-40,000 บาท 6 21 5 2 40,001-50,000 บาท 3 25 2 200 50,001-60,000 บาท 36 60,001-70,000 บาท 14 70,001-80,000 บาท 20 90,001-100,000 บาท 11 รวม 36 164 ������2 = 14.451 df = 8 จากตารางเมอ่ื ทดสอบความสมั พนั ธร์ ะหว่างรายไดก้ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยใช้สถิติChi-square ในการทดสอบ พบว่า รายได้มี ความสมั พนั ธ์กับพฤติกรรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม อย่างมี นัยสาคญั ท่รี ะดบั .05 ดงั นัน้ จงึ ยอมรบั สมมติฐานหลกั (H0)และปฏิเสธสมมติฐานรอง (H1)
36 พบว่า รายได้มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคอาหารเพ่ือสุขภาพของผู้ตอบ แบบสอบถาม โดยมคี ่าสมั ประสทิ ธิ ์ 14.451 สมมติฐานข้อที่ 5 ระดบั การศกึ ษามคี วามสมั พนั ธก์ ารบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ ผบู้ รโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร สามารถเขยี นเป็นสมมตุ ฐิ านทางสถติ ไิ ด้ ดงั น้ี H0 : ระดบั การศกึ ษาไมม่ คี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพของผบู้ รโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร H1 : ระดบั การศกึ ษามคี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สขุ ภาพของผบู้ รโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร ตาราง แสดงการทดสอบความสมั พนั ธร์ ะหว่างระดบั การศกึ ษากบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหาร เพอ่ื สขุ ภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม การเลอื กรบั ประทานอาหารเพอ่ื สขุ ภาพ ระดบั การศกึ ษา เลอื ก ไมเ่ ลอื ก รวม ต่ากว่าปรญิ ญาตรี 2 26 28 144 ปรญิ ญาตรี 28 116 28 200 สงู กว่าปรญิ ญาตรี 6 22 รวม 36 164 ������2 = 2.663 df = 2 จากตาราง เม่อื ทดสอบความสมั พนั ธ์ระหว่างระหว่างระดบั การศกึ ษากบั พฤตกิ รรม การบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สขุ ภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม โดยใชส้ ถติ ิ Chi – square ในการทดสอบ พบว่า ระดบั การศกึ ษาไมม่ คี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผตู้ อบ แบบสอบถาม อย่างมนี ัยสาคญั ท่รี ะดบั .05 ดงั นัน้ จงึ ปฎิเสธสมมตฐิ านหลกั (H1)และยอมรบั สมมติฐาน (H0) แล้วพบว่า ระดับการศึกษากับพฤติกรรมการบริโภคอาหาร โดยมีค่า สมั ประสทิ ธเิ ์ท่ากบั 2.663 สมมติฐานข้อท่ี 6 สถานภาพสมรสมคี วามสมั พนั ธก์ ารบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพผบู้ รโิ ภคใน กรงุ เทพมหานคร สามารถเขยี นเป็นสมมตุ ฐิ านทางสถติ ไิ ด้ ดงั น้ี
37 H0 : สถานภาพสมรสไมม่ คี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สขุ ภาพของผบู้ รโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร H1 : สถานภาพสมรสมคี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สขุ ภาพของผบู้ รโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร ตาราง แสดงการทดสอบความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสถานภาพสมรสกบั พฤตกิ รรมการ บรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม การเลอื กรบั ประทานอาหารเพอ่ื สุขภาพ สถานภาพสมรส เลอื ก ไมเ่ ลอื ก รวม โสด 26 121 147 สมรส 10 41 51 หยา่ รา้ ง/แยกกนั อยู่ 02 2 36 164 200 รวม ������2 = 0.538 df = 2 จากตาราง เม่อื ทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างสถานภาพสมรสกับพฤติกรรมการ บรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยใช้สถติ ิ Chi – square ในการทดสอบ พบว่า สถานภาพสมรสมคี วามสมั พนั ธ์กบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผู้ตอบ แบบสอบถาม อย่างมนี ัยสาคญั ท่รี ะดบั .05 ดงั นัน้ จงึ ปฎิเสธสมมตฐิ านหลกั (H1)และยอมรบั สมมติฐาน (H0) แล้วพบว่า ระดับการศึกษากับพฤติกรรมการบริโภคอาหาร โดยมีค่า สมั ประสทิ ธเิ ์ท่ากบั 0.538 สมมติฐานข้อที่ 7 ลกั ษณะทอ่ี ยอู่ าศยั มคี วามสมั พนั ธก์ ารบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สขุ ภาพผบู้ รโิ ภคใน กรงุ เทพมหานคร สามารถเขยี นเป็นสมมตุ ฐิ านทางสถติ ไิ ด้ ดงั น้ี H0 : ลกั ษณะทอ่ี ยอู่ าศยั ไมม่ คี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผบู้ รโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร H1 : ลกั ษณะทอ่ี ยอู่ าศยั มคี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพของผบู้ รโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร
38 ตาราง แสดงการทดสอบความสมั พนั ธร์ ะหว่างลกั ษณะทอ่ี ยอู่ าศยั กบั พฤตกิ รรม การบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม การเลอื กรบั ประทานอาหารเพอ่ื สขุ ภาพ ลกั ษณะทอ่ี ยอู่ าศยั เลอื ก ไมเ่ ลอื ก รวม บา้ น 27 101 128 หอพกั /บา้ นเช่า/คอนโด 9 63 72 36 164 200 รวม ������2 = 2.306 df = 1 จากตาราง เม่อื ทดสอบความสมั พนั ธ์ระหว่างลกั ษณะท่อี ยู่อาศยั กบั พฤติกรรมการ บรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยใช้สถิติ Chi – square ในการทดสอบ พบว่า ลกั ษณะทอ่ี ย่อู าศยั มคี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผตู้ อบ แบบสอบถาม อย่างมีนัยสาคญั ท่ีระดับ.05 ดังนัน้ ปฏิเสธสมมติฐานหลัก(H1)และยอมรับ สมมติฐาน (H0) แล้วพบว่า ลักษณะท่ีอยู่อาศัยกับพฤติกรรมการบริโภคอาหาร โดยมีค่า สมั ประสทิ ธเิ ์ท่ากบั 2.306 สมมติฐานข้อที่ 8 รูปแบบการดาเนินชีวิตมีความสมั พันธ์การบริโภคอาหารเพ่ือ สขุ ภาพผบู้ รโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร สามารถเขยี นเป็นสมมตุ ฐิ านทางสถติ ไิ ด้ ดงั น้ี H0 : รปู แบบการดาเนินชวี ติ ไมม่ คี วามสมั พนั ธก์ บั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหาร เพอ่ื สขุ ภาพของผบู้ รโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร H1 : รูปแบบการดาเนินชวี ติ มคี วามสมั พนั ธ์กบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหาร เพอ่ื สขุ ภาพของผบู้ รโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร ตาราง แสดงการทดสอบความสมั พนั ธร์ ะหว่างรปู แบบการดาเนินชวี ติ กบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภค อาหารเพอ่ื สุขภาพของผตู้ อบแบบสอบถาม
39 รปู แบบการดาเนนิ ชวี ติ เลอื ก ไมเ่ ลอื ก รวม รอ้ ยละ ไมเ่ คย 0 68 68 34 เคยและไมร่ บั ประทานต่อ 0 86 86 43 เคยและรบั ประทาน 36 10 46 23 36 164 200 100 รวม ������2 =146.978 df = 2 จากตาราง เมอ่ื ทดสอบความสมั พนั ธร์ ะหว่างรปู แบบการดาเนนิ ชวี ติ กบั พฤตกิ รรมการ บรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยใช้สถิติ Chi – square ในการทดสอบ พบว่า มคี วามสมั พนั ธ์กบั พฤติกรรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม อย่างมนี ัยสาคญั ทร่ี ะดบั .05 ดงั นัน้ จงึ ปฎเิ สธสมมตฐิ านหลกั (H1)และยอมรบั สมมติฐาน (H0) แล้วพบว่า ลกั ษณะท่อี ยู่อาศยั กบั พฤติกรรมการบรโิ ภคอาหาร โดยมคี ่าสมั ประสิทธิเ์ ท่ากบั 146.978
บทที่ 5 สรปุ ผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยครัง้ น้ี ผู้วิจัยมุ่งศึกษาพฤติกรรมการบริโภคอาหารเพ่ือสุขภาพของ กรุงเทพมหานคร ลกั ษณะส่วนบุคคลท่มี คี วามสมั พนั ธ์กับพฤติกรรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพในกรุงเทพมหานครและรูปแบบการดาเนินชวี ติ ท่มี ผี ลต่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหาร เพ่อื สุขภาพของผู้บรโิ ภคในกรุงเทพมหานคร เพ่อื เป็นข้อมูลใหผ้ ู้ประกอบการรา้ นอาหารเพ่อื สุขภาพหรอื ผสู้ นใจเกย่ี วกบั อาหารเพ่อื สขุ ภาพ นาไปใชใ้ นเป็นขอ้ มลู ในการอา้ งองิ ต่อไป ทงั้ เพ่อื ประกอบธุรกิจด้านอาหารเพ่อื สุขภาพหรอื การบรโิ ภคส่วนบุคคลหรอื ในครวั เรอื น ผู้วิจยั ได้ สรปุ ผลของการวจิ ยั ดงั น้ี สงั เขปความมงุ่ หมายสมมตฐิ าน และวธิ ดี าเนินการวจิ ยั ความมงุ่ หมายของการวจิ ยั ในการวจิ ยั ครงั้ น้ผี วู้ จิ ยั ไดต้ งั้ ความมงุ่ หมายไวด้ งั น้ี 1.เ พ่ือ ศึ ก ษ า พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร บ ริโ ภ ค อ า ห า ร เ พ่ือ สุ ข ภ า พ ข อ ง ผู้ บ ริโ ภ ค ใ น เ ข ต กรงุ เทพมหานคร 2.เพอ่ื ศกึ ษาลกั ษณะสว่ นบุคคลทม่ี ผี ลต่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพของ ผู้บรโิ ภคในกรุงเทพมหานคร โดยจาแนกตามเพศ อายุ ลกั ษณะการอย่อู าศยั ระดบั การศกึ ษา อาชพี และรายไดเ้ ฉลย่ี ต่อเดอื น 3.เพ่ือศึกษารูปแบบการดาเนินชีวิตท่ีมีผลต่อการบริโภคอาหารเพ่ือสุขภาพของ ผบู้ รโิ ภคในกรงุ เทพมหานคร
41 สมมติฐานจากการวิจยั 1.เพศ มคี วามสมั พนั ธต์ ่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคของผบู้ รโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพ ในกรงุ เทพมหานคร 2.อายุ มคี วามสมั พนั ธต์ ่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคของผบู้ รโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพ ในกรงุ เทพมหานคร 3.ลกั ษณะทอ่ี ยอู่ าศยั มคี วามสมั พนั ธต์ ่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สขุ ภาพในกรงุ เทพมหานคร 4.ระดบั การศกึ ษา มคี วามสมั พนั ธต์ ่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ ในกรงุ เทพมหานคร 5.อาชพี มคี วามสมั พนั ธต์ ่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคของผบู้ รโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพในกรงุ เทพมหานคร 6.รายไดเ้ ฉลย่ี ต่อเดอื น มคี วามสมั พนั ธต์ ่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคของผบู้ รโิ ภค อาหารเพอ่ื สุขภาพในกรงุ เทพมหานคร 7.รปู แบบการดาเนินชวี ติ มคี วามสมั พนั ธต์ ่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคของผบู้ รโิ ภค อาหารเพ่อื สขุ ภาพในกรงุ เทพมหานคร วิธีดาเนิ นการวิจยั การกาหนดประชากรและเลอื กกล่มุ ตวั อยา่ ง กล่มุ ตวั อย่าง กล่มุ ตวั อยา่ งทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั ในครงั้ น้ี คอื ผบู้ รโิ ภคอาหารเพอ่ื สุขภาพทม่ี อี ายุ 15 ปีขน้ึ ไปและอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร โดยกาหนดขนาดของกลุ่มตวั อย่างเพ่อื เป็นตัวแทนใน การศกึ ษาครงั้ น้ี คอื ผบู้ รโิ ภคกลมุ่ วยั ทางาน ทร่ี ะดบั ความเช่อื มนั่ รอ้ ยละ 0.95 ไดข้ นาดตวั อยา่ ง จานวน 200 คนและเพมิ่ ตวั อยา่ งจานวน 15 คนและกลมุ่ ตวั อยา่ งน้ไี ดจ้ ากการส่มุ อยา่ งมขี นั้ ตอน ดงั น้ี
42 วิธีการส่มุ ตวั อย่างโดยมีขนั้ ตอนดงั นี้ ขนั้ ตอนท่ี 1 ใชว้ ธิ กี ารเลอื กสุ่มตวั อยา่ งแบบอยา่ งง่าย (Simple Random Sampling) เพอ่ื เลอื กพน้ื ท่ี ขนั้ ตอนท่ี 2 ใชว้ ธิ กี ารเลอื กกลุม่ ตวั อยา่ งแบบโควตา้ (Quota Sampling) โดย การกาหนดสดั ส่วนของผตู้ อบแบบสอบถามจานวน 200 คน ขนั้ ตอนท่ี 3 ใชว้ ธิ กี ารเลอื กกลุ่มตวั อย่างโดยอาศยั ความสะดวก (Convenience Sampling) โดยการแจกแบบสอบถามแก่กลุ่มตัวอย่างตามท่พี กั อาศัย สถานศึกษา สถานท่ี ทางานหรอื ศูนยก์ ารคา้ จากในขนั้ ตอนท่ี 1 จนครบตามจานวนทก่ี าหนดไวใ้ นขนั้ ตอนท่ี 2 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจยั เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั ครงั้ น้ี ผวู้ จิ ยั ไดใ้ ชแ้ บบสอบถาม (Questionnaire) เป็น เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ซง่ึ แบ่งเน้อื หาของแบบสอบถามไดด้ ังน้ี ส่วนท่ี 1 แบบสอบถามเก่ียวกับลกั ษณะส่วนบุคคลของผู้บรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพประกอบดว้ ยขอ้ มลู ต่างๆ คอื เพศ อายุ ลกั ษณะการอยอู่ าศยั ระดบั การศกึ ษา อาชพี และ รายได้เฉล่ียต่อเดอื น มีจานวนทงั้ ส้ิน 7 ข้อ ตัง้ แต่ข้อ 1-7 โดยข้อคาถามจะเป็นลกั ษณะให้ เลอื กตอบตามความเหมาะสมตามลกั ษณะของผู้บรโิ ภคแต่ละคน เป็นลกั ษณะแบบสอบถาม ปลายปิด (Closed Ended Response Questions) ดงั น้ี ขอ้ ท่ี 1 เพศ เป็นระดบั การวดั ขอ้ มลู ประเภทนามบญั ญตั ิ (Nominal Scale) ขอ้ ท่ี 2 อายุ เป็นระดบั การวดั ขอ้ มลู ประเภทเรยี งลาดบั (Ordinal Scale) ขอ้ ท่ี 3 ลกั ษณะการอยอู่ าศยั เป็นระดบั การวดั ขอ้ มลู นามบญั ญตั ิ (Nominal Scale) ขอ้ ท่ี 4 ระดบั การศกึ ษา เป็นระดบั การวดั ขอ้ มลู ประเภทเรยี งลาดบั (Ordinal Scale) ขอ้ ท่ี 5 อาชพี เป็นระดบั การวดั ขอ้ มลู ประเภทนามบญั ญตั ิ (Nominal Scale) ขอ้ ท่ี 6 รายไดเ้ ฉลย่ี ตอ้ เดอื น เป็นระดบั การวดั ขอ้ มลู ประเภทเรยี งลาดบั (Ordinal Scale)
43 ส่วนท่ี 2 แบบสอบถามเก่ยี วกบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพของ ผบู้ รโิ ภคโดยลกั ษณะของแบบสอบถามประกอบดว้ ยคาถามทม่ี หี ลายคาตอบให้เลอื ก (Multiple Choice Question) ส่วนท่ี 3 แบบสอบถามเก่ียวกับรูปแบบการดาเนินชีวิต ได้แก่ กิจกรรมท่ี เก่ยี วขอ้ งกบั อาหารเพ่อื สุขภาพและการดูแลสุขภาพ ความสนใจท่เี ก่ยี วกบั อาการเพ่อื สุขภาพ และการดแู ลสขุ ภาพ และความคดิ เหน็ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั อาหารเพอ่ื สขุ ภาพและการดแู ลสุขภาพของ ผู้บรโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ เป็นลกั ษณะแบบสอบถามปลายปิด (Closed Ended Response Question) โดยสอบถามความคดิ เห็นทางด้านรูปแบบการดาเนินชวี ติ ของผู้บโิ ภคอาหารเพ่อื สุขภาพ โดย แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดงั น้ี ส่วนท่ี 3 ตอนท่ี 1 กิจกรรมท่ีเก่ียวข้องกับอาหารเพ่ือสุขภาพและการดูแล สขุ ภาพเป็นระดบั การวดั ขอ้ มลู ประเภทนามบญั ญตั ิ (Nominal Scale) ส่วนท่ี 3 ตอนท่ี 2 ความสนใจท่เี ก่ยี วข้องกบั อาหารเพ่อื สุขภาพและการดูแล สขุ ภาพเป็นระดบั การวดั ขอ้ มลู ประเภทนามบญั ญตั ิ (Nominal Scale) ส่วนท่ี 3 ตอนท่ี 3 ความคดิ เหน็ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั อาหารเพ่อื สุขภาพและการดูแลสุขภาพเป็นระดบั การวดั ขอ้ มลู ประเภทนามบญั ญตั ิ (Nominal Scale) การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 1.ผวู้ จิ ยั และผชู้ ่วยเกบ็ ขอ้ มลู นาแบบสอบแบถามทส่ี รา้ งขน้ึ ไปใหผ้ ตู้ อบแบบสอบถาม พรอ้ มใหค้ าแนะนาในการตอบแบบสอบถามแก่ผตู้ อบแบบสอบถามตามกลุ่มตวั อย่างทก่ี าหนด ไว้ 2.เกบ็ รวบรวมแบบสอบถามทไ่ี ดร้ บั การตอบแลว้ ทงั้ หมดเพอ่ื ดาเนินการขนั้ ตอนการ วจิ ยั ต่อไป การวิเคราะหข์ ้อมลู เมอ่ื ไดร้ บั แบบสอบกลบั คนื มาแลว้ ผวู้ จิ ยั นาแบบสอบถามทร่ี วบรวมไดม้ าดาเนินการ ดงั น้กี ารจดั ทาขอ้ มลู การตรวจขอ้ มลู (Editing) จากแบบสอบถาม ผวู้ จิ ยั ตรวจสอบความสมบรู ณ์ ของการตอบแบบสอบถามโดยแยกแบบสอบถามทไ่ี มส่ มบรู ณ์ออก
Search