การวางรูปแบบระบบบัญชี Accounting system Formation 1 บทที่ การดาเนินงานธรุ กิจจดุ ประสงคข์ องการเรยี นรู้ 1. สามารถอธบิ ายถงึ ระบบของการดาเนนิ งานทางดา้ นธรุ กิจ 2. สามารถวิเคราะห์ถึงลกั ษณะของระบบธรุ กิจ 3. สามารถอธบิ ายถงึ รูปแบบการดาเนนิ งานธรุ กิจ 4. เรียนรเู้ กี่ยวกบั การจดั ต้งั และจดทะเบยี นนติ ิบุคคล 5. เรยี นรูเ้ กยี่ วกับขั้นตอนการขอเลขประจาตวั ผ้เู สียภาษขี องนิติบุคคลผา่ นทาง อนิ เตอร์เน็ต 6. กฎหมายธรุ กจิ ท่ีเก่ียวขอ้ งกับทางดา้ นธรุ กิจ การสนบั สนนุ จากผบู้ ริหารเป้ าหมายท่ีชดั เจน ความรบั ผดิ ชอบ ปัจจยั สค่ ู วามสาเรจ็การดาเนินการต่อเนื่อง การสอื่ สารมีประสิทธิผล การวดั และติดตามผล ศกั รินทร์ ถิรธรรมพล บทท่ี 1 ความรเู้ ก่ยี วกบั การดาเนินธรุ กิจ
2 Accounting system Formation การวางรปู แบบระบบบัญชี บทที่ การดาเนนิ งานธรุ กจิปัจจัยส่คู วามสาเร็จของธุรกิจ การดาเนินธุรกิจในปัจจุบันมีความแตกต่าง การสนบั สนนุ จากผบู้ ริหาร กับในอดีตเพราะในปัจจุบันจะมีเคร่ืองมือเครื่องใช้ ท่ีจะมาช่วยอานวยความสะดวกในการบริหารเป้ าหมายท่ีชดั เจน ความรบั ผดิ ชอบ จัดการกับในดาเนินงานธุรกิจอย่างมาก เพ่ือให้ ปัจจยั ส่คู วามสาเรจ็ การดาเนินงานการบริหารกิจการบรรลุเป้าหมาย ตามวัตถุประสงค์การดาเนินการต่อเนื่อง การสอ่ื สารมีประสทิ ธิผล ธรุ กิจ(Business) หมายถงึ กจิ กรรมทาง การวดั และติดตามผล ศกั รินทร์ ถิรธรรมพล ด้ าน เศ รษ ฐ กิ จ แ ล ะก ารพ าณิ ช ย์ มี เป้ าห ม ายภาพประกอบ 1-1 ระบบงานธรุ กจิ ทางด้านกาไร ในการจดั หาสนิ คา้ และบริการเพอื่ตอบสนองความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค (สมยศ และผสุ ดี,2522:4) ภาพประกอบ 1-1 ปจั จยั สู่ความสาเร็จ ของระบบงานธรุ กจิ ประกอบด้วย 6 ปจั จยั ดังนี้ 1. การวางเปา้ หมายท่ชี ัดเจน 2. การสนบั สนนุ จากผบู้ รหิ าร 3. ความรับผดิ ชอบ 4. การสอ่ื สารทีม่ ีประสิทธภิ าพ 5. การวดั และตดิ ตามผล 6. การดาเนินงานต่อเนื่อง1. การวางเปา้ หมายทช่ี ัดเจน ผู้บรหิ ารระดบั สงู เปน็ ผู้กาหนดทศิ ทางในอนาคตขององค์กร การวางแผนและการตดั สินใจของผู้บริหารจึงมีความสาคัญ ต่อการอยู่รอดและเติบโตขององค์กรโดยอาศัยความ เช่ียวชาญประสบการณ์ในการกาหนดเป้าหมายขององค์กร ความสาคัญของการมีเป้าหมายท่ีชดั เจน คือ ส่ิงท่ีผู้บริหารต้องให้ความสาคัญเป็นอันดับต้นๆ เพราะเป้าหมายจะช่วยให้ผู้บริหารมองเห็น ในส่ิงท่ีผู้บริหารต้องการ และในขณะเดียวกัน การมีเป้าหมายที่ชัดเจน ก็จะช่วยกาจัดที่ผู้บริหารไม่ตอ้ งการออกไปจากวตั ถปุ ระสงค์ขององค์กรบทท่ี 1 ความรเู้ กีย่ วกบั การดาเนินธรุ กจิ
การวางรปู แบบระบบบัญชี Accounting system Formation 3 เปา้ หมายจะช่วยให้ผบู้ ริหารมองเหน็ ในสิ่งท่ผี ู้บริหารตอ้ งการ การตั้งเป้าหมายต้องใหอ้ ยู่ในระดบั และมีความเป็นไปได้ท่ีจะประสบความสาเรจ็ ลักษณะเปา้ หมายที่ดีต้องกาหนดระยะเวลาถ้าไม่มีการกาหนดเวลา ก็แสดงว่าไม่ใช่เป้าหมาย ซ่ึงถือว่าเป็นเพียงความคิดริเริ่มเท่านั้นเป้าหมายจาเปน็ ต้องกาหนดเวลา ถึงจะสามารถบรรลุผลของความสาเร็จท่ีย่ิงใหญ่ได้ เปา้ หมายท่ชี ัดเจนก็คอื การทุม่ เทพลงั ใหอ้ อกมาสงู สดุ ในเวลาอันจากัด การบรหิ ารงานเพอ่ื ใหเ้ กิดประสิทธิภาพ และประสทิ ธิผล ตามเป้าหมายท่ีองค์กรกาหนดไว้น้นั จาเป็นต้องอาศยั การบริหารท่ีเปน็ ระบบและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมขององค์การ ผู้บริหารจะตอ้ งใช้ทรพั ยากรที่มอี ยา่ งจากดั ใหเ้ กิดประโยชน์สูงสดุ2. การสนบั สนุนจากผูบ้ รหิ าร ความสาเรจ็ ของทมี หรือความลม้ เหลวในการร่วมมอื กันนน้ั สะท้อนให้เหน็ ถึงปรชั ญาของฝ่ายบริหารขององค์กร ทมี จะทางานได้ดี เม่อื ฝ่ายบริหารให้การสนับสนุน ความสัมพันธท์ างสังคมแสดงถึงลักษณะนิสัยของความร่วมมือกนั ท่ีเห็นไดจ้ ากบคุ คลเหลา่ น้ันเอง และสร้างส่ิงท่ีเราเรยี กว่า“วัฒนธรรมการให้” ซ่ึงก็คือ ประสบการณ์ปฏิสัมพันธ์ของพนักงานกับผู้นาและผรู้ ่วมงานเป็นส่ิงที่มคี ุณค่าและเป็นการนาเสนอแบบไม่เหน็ แก่ตัว หรอื ที่เรียกว่าการให้3. ความรับผดิ ชอบ ภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบของบุคคล หมายถึง การกระทา หรอื การแสดงพฤตกิ รรมของบุคคลท่ีเป็นไปตามความคาดหวังตามตาแหน่งในอาชีพ หรือตาแหน่งท่ีสังคมกาหนดข้ึน ซ่ึงโครงสร้างของบทบาทประกอบด้วย ลักษณะที่เฉพาะของแต่ละบุคคล การแสดงพฤติกรรมและตาแหนง่ ทคี่ รองอยู่ หรือพฤตกิ รรมท่ีคนในสงั คมต้องทาตามสถานภาพในกลุม่ หรือสงั คม บคุ คลทมี่ บี ทบาทต่อสงั คม และปฏิบตั ติ ามหนา้ ท่ี ทสี่ งั คมยอมรบั ยอ่ มมคี วามสาคญั เปน็อันมาก เพราะทาให้การจัดระเบียบสังคมดีข้ึน ตลอดจนเป็นการควบคุมสังคมให้เป็นระเบียบ ถ้าคนไมป่ ฏิบัติตามหน้าท่ี ตามบทบาทของตนในสังคมให้สมกับสถานภาพท่ีไดร้ ับ ก็จะทาให้สังคมไม่มีระเบียบ ทาใหเ้ กดิ ปญั หาและความยงุ่ ยากให้แก่สังคม4. การสื่อสารที่มีประสิทธภิ าพ องค์กรธุรกิจ หรือหน่วยงานต่างๆ ส่วนใหญ่จะพบปัญหาเรื่องการส่ือสาร และการประสานงานภายใน และภายนอกองค์กร การจะทาให้การทางานเป็นไปด้วยความราบร่ืน ส่งผลถึงงานที่มีประสิทธิภาพน้ัน จาเป็นต้องมีเคร่ืองมือ วธิ ีการ และความรว่ มมือท่ีดี ระหว่างหน่วยงานระหวา่ งบคุ คลทั้งภายใน และภายนอกองค์กร ซึ่งทกุ คนภายในองคก์ ร ตอ้ งมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ บทที่ 1 ความรู้เก่ยี วกบั การดาเนินธุรกิจ
4 Accounting system Formation การวางรปู แบบระบบบัญชีเก่ียวกับการสื่อสาร และการประสานงานเบ้ืองต้นก่อน จึงจะทาให้การทางานร่วมกันประสบผลสาเร็จตามเป้าหมายที่ตง้ั ไว้ การส่ือสาร (Communication) หมายถึง กระบวนการถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก และอารมณ์เพ่ือให้เกิดความเข้าใจ มีความคิดร่วมกัน และเกิดพฤติกรรมตอบสนองต่อความคิดนั้นความสาคัญของการสื่อสารเป็นกระบวนการถ่ายทอดความคิดระหว่างผู้ส่งสาร และผู้รับสาร อันจะนาไปสกู่ ารปฏิบัตภิ ารกจิ ร่วมกนั กระบวนการสื่อสาร (Communication Process) มอี งค์ประกอบเป็นขน้ั ตอน ดงั นี้ 1. ผสู้ ง่ สาร (Sender) การติดตอ่ สื่อสาร จะต้องทาความเขา้ ใจเรอ่ื งทจี่ ะส่ือสารให้ชดั เจนสารที่จะส่ง (Message) อาจใช้วิธพี ูดคุย ออกคาส่ัง บันทึกข้อความข่าวสาร รายงานหรือส่ิงใดๆ กไ็ ด้ 2. ช่องทางหรือสอ่ื ในการตดิ ตอ่ สื่อสาร (Media / Source) คอื เคร่อื งมือ หรือตัวกลาง ในการส่งสาร อาจเป็นสัญญาณเสียงจากเครื่องขยายเสียง สัญญาณวิทยุ สัญญาณโทรทัศน์ Internet ทาง Website 3. ผู้รับสาร (Receiver) ตอ้ งมคี วามรู้ความเข้าใจในเร่ืองท่จี ะรับอยา่ งดี มีความคดิ ประสบการณ์ และทกั ษะ รวมถึงความสามารถในการถอดรหสั (Decoding) เพ่ือใหเ้ ข้าใจข่าวสารทผี่ ้สู ง่ สารส่งเปน็ รหัส (Encoding) ได้ดว้ ย อปุ สรรคท่ีทาให้การส่อื สารไม่มีประสทิ ธผิ ล 1. ความหมายเพีย้ น 2. สรปุ ความเขา้ ใจเอาเองว่าเปน็ ข้อเท็จจรงิ 3. สรปุ ความหมายเร็วเกนิ ไป 4. ใช้คาทีม่ ีหลายความหมาย 5. ประสบการณ์ คา่ นยิ ม และอคตขิ องผรู้ ับสาร 6. ความไม่พร้อมของผูร้ บั สาร ประสิทธภิ าพในการสอื่ สารข้ึนอยูก่ บั ปจั จยั หลายประการ ไดแ้ ก่ 1. ระดบั ความรู้ (Knowledge) ผูส้ ่งสาร และผรู้ ับสาร ทมี่ คี วามรใู้ กลเ้ คียงกันในเรอ่ื งทีต่ ้องการจะสอ่ื สาร 2. ทศั นคติ (Attitude) การที่ตา่ งฝา่ ยต่างมีทศั นคติทด่ี ี ต่อการส่ง และการรบัสาร ยอ่ มมโี อกาสพิจารณาตามความเป็นจรงิ ไดด้ ีกว่าการมีทัศนคตเิ ชิงลบต่อกัน ซ่ึงอาจนาไปสู่การตัดสนิ ใจดว้ ยอารมณ์ทีไ่ มเ่ หมาะสมบทที่ 1 ความรเู้ กยี่ วกับการดาเนนิ ธรุ กจิ
การวางรปู แบบระบบบัญชี Accounting system Formation 5 3. ระดับสงั คม และวฒั นธรรม (Social Cultural System) ผู้ส่งสาร และผู้รับสาร ที่เข้าใจระบบสังคมวัฒนธรรมของผู้ที่มาติดต่อ จะสามารถเลือกวิธีการ รูปแบบที่ติดต่อให้สอดคล้องและเหมาะสมได้ ภาษาทใ่ี ชใ้ นการสื่อสาร ควรเลือกให้เหมาะกับบุคคลเปา้ หมายของการตดิ ต่อส่ือสาร ประโยชนข์ องการส่ือสาร การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพจะนาประโยชน์มาสู่ความเข้าใจกัน ความร่วมมือและการประสานงานกันในการทางานเป็นอย่างดี เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ขององค์กรระบบธุรกจิ (Business System)5. การวดั และตดิ ตามผล การตดิ ตาม (Monitoring) หมายถึง กระบวนการของการวัด(Evaluation) หรอื การตรวจสอบท่ีทาเป็นประจา เป็นช่วงๆ การวัดและการตรวจสอบดังกล่าว ได้แก่ การวัดปัจจัยเข้า(Inputs) กระบวนการ (Process) และ ผลลัพธ์ (Outputs) ท่ีเกิดขึ้นในช่วงการดาเนินงานตามแผน โดยทัว่ ไปมักติดตามในดา้ นการจดั หา การเคลื่อนย้าย การนาทรัพยากรของโครงการมาใช้ว่าเปน็ ไปตามท่ีกาหนดไว้ในแผน และกาหนดการหรอื ไม่ วัตถุประสงค์ของการติดตาม คือ ต้องการช้ีให้เห็นถึงสถานการณ์ของโครงการให้เร็วท่ีสุดเท่าท่ีจะเร็วได้ ในเรื่องเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากร การปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ หรือ ผลิตผลรวมของโครงการ เพื่อจะไดจ้ ดั การแกไ้ ขปรบั ปรุงสถานการณ์ต่างๆ ของโครงการท่เี ป็นไปทนั ทว่ งที การตดิ ตามแบง่ ได้เป็น 3 ประเภท ดงั นี้ 1. การติดตามผลการปฏบิ ตั ิงาน 2. การตดิ ตามประสิทธภิ าพของโครงการ 3. การตดิ ตามประเมินผลของโครงการ 1. การตดิ ตามผลการปฏิบัตงิ าน ได้แก่ การติดตามดกู ารปฏิบัติงานตามโครงการนั้นวา่ได้ผลงานก้าวหน้าไปในทิศทางท่ีสอดคล้องกับแผนปฏิบัติงานตลอดจนงบประมาณที่กาหนดไว้หรือไม่ 2. การตดิ ตามประสิทธิภาพของโครงการ ไดแ้ ก่ การศกึ ษาตดิ ตามดูเม่ือมกี ารปฏบิ ตั ิงานเพ่อื ให้ได้ผลผลิตของโครงการออกมานน้ั ได้ใช้กรรมวิธีการผลิต หรือวิธีดาเนนิ งานท่ีประหยัดทีส่ ดุ หรือไม่ โดยอาจจะมกี ารเทียบเคยี งใหเ้ หน็ สดั ส่วนของผลผลติ กับปัจจยั นาเข้าของโครงการ บทที่ 1 ความรเู้ กยี่ วกบั การดาเนินธรุ กจิ
6 Accounting system Formation การวางรูปแบบระบบบญั ชี 3. การติดตามประเมนิ ผลของโครงการ ได้แก่ การศึกษาติดตามดูว่าการปฏิบัติงานตามโครงการน้ันได้ก่อให้เกิดผลผลิตตามท่ีกาหนดไว้หรือไม่ และผลผลิตที่เกิดข้ึนดังกล่าวสามารถบรรลวุ ัตถุประสงค์ของโครงการไดม้ ากน้อยเพยี งใด6. การดาเนนิ งานต่อเนอื่ ง การดาเนินงานต่อเนื่อง (Going Concern) หมายถึง การท่ีกิจการ สามารถดาเนินธุรกิจโดยใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่ไปได้โดยไม่ล้มละลาย หรือ ต้องเลิกกิจการเสียก่อนในการประเมินความเหมาะสมของข้อสมมติเก่ียวกบั การดาเนินงานต่อเนอ่ื งของกิจการ ฝ่ายบริหารต้องพิจารณาข้อมูลท้งั หมดทม่ี อี ยู่เกี่ยวกบั อนาคตเปน็ เวลาอย่างน้อย 12 เดือนนับจากวันส้ินรอบระยะเวลารายงาน ปัจจัยตา่ งๆ ทใี่ ช้ในการพิจารณาการดาเนินต่อเนือ่ ง เช่น 1. ความสามารถในการทากาไรท้ังในปจั จุบนั และในอนาคต 2. กาหนดการชาระคืนหน้ี 3. แหล่งเงินทนุ ทดแทนที่เป็นไปได้ระบบธรุ กจิ (Business System) ระบบการจัดการหรือการดาเนินงานธุรกิจ (Business System) คาว่า “System” หรือ“ระบบ” คือ การรวมตัวกันของหลายๆสิ่งเป็นรูปแบบท่ีมีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันดังน้ัน คาว่าระบบธุรกิจ (Business System) จึงแปลความหมายโดยรวมได้ว่า เป็นการรวมตัวหรือการเช่ือมความสัมพันธ์ในระบบงานย่อยๆ ภายในองค์กรให้มีความสัมพันธ์กันเพื่อจัดการและบริหารงานของกิจการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์หรือความสาเร็จในการดาเนินงานท่ีกิจการได้กาหนด เช่นวงจรธุรกิจ ถือเป็น ระบบ (System) ท่ีมีระบบย่อยๆ เป็นองค์ประกอบ ซึ่งระบบย่อย (Sub-Systems) ไดแ้ ก่ ระบบสนิ ค้า ระบบการตลาด ระบบบัญชี ระบบบริหารทรัพยากรบุคคล ระบบการสอ่ื สาร เป็นตน้บทที่ 1 ความร้เู ก่ียวกับการดาเนนิ ธรุ กจิ
การวางรูปแบบระบบบญั ชี Accounting system Formation 7 ขอบเขตของระบบความเป็นอสิ ระและเป็นทมี งาน ปฏิสมั พันธ์ ระบบย่อยภาพประกอบ 1-2 : ภาพจาลองระบบธุรกิจและองคป์ ระกอบของระบบ จากภาพประกอบท่ี 1-2 ขอบเขตของระบบ (System Boundary) โดยสมมติให้วงกลมใหญ่แทนองค์กรธุรกิจซึ่งในท่ีนี้คือ “ระบบธุรกิจ” ภายใต้ขอบเขตของระบบน้ี เป็นส่ิงที่ผู้บริหารสามารถวางแผนดาเนินกิจการและควบคุมกิจกรรมต่างๆ ให้บรรลุตามเป้าหมายขององค์กรได้ขณะท่ีส่ิงที่อยู่นอกขอบเขตของระบบจะไม่สามารถควบคุมได้ แต่เป็นส่ิงที่มีอิทธิพลต่อการดาเนินงานของธุรกิจทงั้ สิ้น ซึ่งหมายถงึ สิ่งที่เกิดข้ึนภายในองค์กร ผบู้ ริหารสามารถท่ีจะควบคุมได้และ สิ่งท่ีเกิดขึ้นภายนอกองค์กรไม่สามารถที่จะควบคุมได้ เช่น กฎหมายภาษีที่ออกใหม่กฎระเบยี บในหนว่ ยงานท่เี กี่ยวข้องและหรือเศรษฐกจิ การเมอื ง เป็นต้น โดยปกติแล้ว ระบบธุรกิจส่วนใหญ่ประกอบด้วยระบบย่อยๆ ท่ีเป็นพื้นฐานท่ีสาคัญอันประกอบด้วยระบบการผลิต ระบบการตลาด ระบบบัญชี ระบบสินค้าคงคลัง และระบบบรหิ ารงานบคุ คลแต่อาจมรี ะบบยอ่ ยอื่นๆ เพ่มิ ได้ซ่ึงข้ึนอยู่กับรปู แบบของธรุ กิจนนั้ ๆ เชน่ 1. ระบบยอ่ ย (Sub-systems) หมายถงึ หนา้ ท่ีการงานตา่ งๆ ท่อี ยูใ่ นระบบหลักของธุรกิจ เช่น หน้าท่ีการเงินบัญชี บริหารบุคคล การจัดการทางการตลาด ซึ่งวัตถุประสงค์เฉพาะของแต่ละหน้าทที่ แี่ ตกต่างกนั เชน่ เป้าหมายทางการตลาด คือ เพ่ือแสวงหาลูกค้า ในขณะที่หนา้ ท่ีทางการเงิน คือ การจัดหาแหล่งทุน และ การบริหารบุคคลมีหน้าท่ีจัดหาคนมาทางานให้ตรงกับตาแหน่งความรบั ผดิ ชอบและอืน่ ๆ เปน็ ต้น 2. ปฏิสัมพันธ์ (Interaction) ความสัมพันธ์ระหว่างระบบย่อยต่างๆ เพ่ือการแลกเปลย่ี นข้อมลู ขา่ วสารซ่งึ กนั และกนั เพ่ือการประสานงานกันให้บรรลเุ ป้าหมายหลักขององค์กร 3. ความเป็นอิสระต่อกนั พงึ่ พากนั (Independence and Interdependence) เป็นความอิสระต่อกันภายในระบบย่อยหนึ่งๆ ทาให้มองเห็นภาพได้ว่า ระบบยอ่ ยหนึ่งๆอาจถูกมองให้เป็นระบบหลักไดเ้ ชน่ กนั โดยมีขอบเขต วตั ถุประสงค์ และปฏิสมั พันธ์ได้เชน่ เดยี วกนั บทที่ 1 ความรู้เกีย่ วกับการดาเนินธรุ กิจ
8 Accounting system Formation การวางรูปแบบระบบบญั ชี ดงั นัน้ การศกึ ษาระบบงานใด ควรมีการพจิ ารณาจากมุมมองทง้ั 4 ดา้ น ประกอบดว้ ยทาอะไร(What) ; ทาอย่างไร (How) ; ทาเมือ่ ไหร่ (When) และ ใครเปน็ คนทา (Who) ดงั นี้ 1. ทาอะไร (What) วัตถุประสงค์ของระบบ คอื ทาอะไร มแี ผนงาน ข้นั ตอนอะไรบ้างที่จะนาพาไปสู่ความสาเร็จ (Goal) 2. ทาอย่างไร (How) วิธที างานอย่างไร ใชเ้ ครือ่ งมือใดเพื่อให้งานสาเรจ็ ไปอย่างรวดเรว็ 3. ทาเม่อื ไหร่ (When) เริม่ ทางานเมอ่ื ไหร่ และงานจะสาเร็จเม่อื ไหร่ 4. ใครเปน็ ผทู้ า (Who) หมายถึง บุคคลหรอื ทมี งานที่ทาหน้าท่รี ับผดิ ชอบในขอบเขตงานของตนที่แน่นอน รวมท้ังความสามารถในการได้รับมอบหมาย หรือการประสานงานต่อในอันท่ีจะเข้าใจอย่างถอ่ งแท้ถึงความต้องการของผ้ใู ช้ระบบ ระบบธุรกิจเป็นระบบท่ีพบเห็นกันอยู่ในชีวิตประจาวันคอ่ นข้างมาก ซ่ึงมีความสัมพันธ์กันในหลาย ๆ หน้าท่ีการงานอย่างเด่นชัด มีการแบ่งแยกหน้าที่กันอย่างชัดเจน โดยท่ีมีวัตถุประสงค์แตกต่างกนั ออกไป แต่กลับตอ้ งอาศัยข้อมลู ต่างๆเพ่ือทางานร่วมกนั อยา่ งเปน็ ระเบียบ เพื่อให้บรรลุวตั ถุประสงค์ขององค์กรร่วมกันเป็นเป้าหมายเดียวกัน เช่น มีวัตถุประสงค์เพ่ือแสวงหากาไร เพ่ือสรา้ งยอดขายหรือ เพือ่ สังคม เป็นตน้ผลกระทบของการทาธรุ กิจ โดยทั่วไป ระบบธุรกจิ จาเป็นตอ้ งรับขอ้ มูลจากภายนอกต่างๆ เขา้ มาในระบบ ซง่ึ ปัจจบุ ันสง่ิ แวดล้อมเหล่าน้ี มีอิทธพิ ลต่อการดาเนินงานของระบบธุรกิจเป็นอย่างมาก วิกฤตการณ์ต่างๆ ที่เกิดขน้ึ อาจส่งผลกระทบตอ่ ระบบธรุ กิจไดท้ ั้งภายในและภายนอกโดยมรี ายละเอยี ดดังต่อไปนี้ 1 ผลกระทบภายในระบบ (Internal Environment) คอื ผลกระทบท่ีเกดิ ข้ึนจากภายในองคก์ รท่สี ่งผลกระทบต่อองค์กรเอง โดยมากจะสามารถควบคุมได/้ หรือหลีกเล่ยี งได้ 2 ผลกระทบภายนอกระบบ (External Environment) คอื ผลกระทบทเ่ี กดิขึน้ จากภายนอกองค์กรที่สามารถเกิดข้ึนได้ตลอดเวลา โดยท่ีองค์กรไม่สามารถหลกี เล่ียง และยากต่อการควบคมุ หรอื บางคร้ังอาจควบคมุ ไมไ่ ดเ้ ลย นักวิเคราะห์ระบบจะต้องเข้าใจถึงลักษณะของระบบธุรกิจ สามารถแบ่งบอกได้3 ประการ คือ 2.1 จุดประสงค์ของธรุ กจิ (Purpose) 2.2 เปา้ หมายของธุรกจิ (Goals) หรอื วัตถปุ ระสงค์ (Objectives) 2.3 นโยบายของธุรกิจ (Policies)บทที่ 1 ความรเู้ กี่ยวกับการดาเนนิ ธุรกิจ
การวางรปู แบบระบบบัญชี Accounting system Formation 9 2.1 จุดประสงค์ของธุรกิจ (Purpose) โดยทั่วไปมักจะมีคาถามว่าเหตุใดจึงได้จัดต้ังธุรกิจขน้ึ กลุม่ ลูกค้าเป้าหมายคอื ใคร อะไรเป็นสนิ ค้า อะไรเป็นบริการ เป็นต้น นักวิเคราะหร์ ะบบทด่ี ีควรจะระมัดระวังถึงผลกระทบของระบบงานท่ีตนได้วางไว้ว่าจะทาให้มีการเปล่ียนไปของธุรกิจจะทาใหม้ ผี ลกระทบตอ่ ระบบงานขอ้ มลู หรอื ไมอ่ ย่างไร 2.2 เปา้ หมายของธุรกจิ (Goals) หรอื วัตถุประสงค์(Objectives) โดยท่วั ไปจดุ ประสงค์ของการทาธุรกิจทาโดยบุคคลหรือคณะบุคคล ถ้าพิจารณาในแง่ของการทากาไร สามารถแบ่งกจิ การอาจจะออกได้เปน็ 2 แบบ คือ กิจการที่หวังผลกาไร และ กจิ การทไี่ ม่ได้หวังกาไร เป้าหมายของธุรกิจ หรือวัตถุประสงค์ มักจะเป็นประโยคซึ่งครอบคลุมจุดประสงค์ของธุรกิจอย่างกว้างๆ เช่น เป้าหมายของธุรกจิ คือต้องการกาไรสูงสุด หรอื ต้องการส่วนแบ่งตลาดมากที่สดุ หรอื ต้องการลดตน้ ทนุ การผลติ ให้ต่าทส่ี ดุ เปน็ ต้น 2.3 นโยบายของธุรกิจ (Policies) การดาเนินงานขององค์กรจะต้องมีการกาหนดนโยบายในการจัดการ การเลือกนโยบายในการดาเนินงานกิจการเพื่อให้มีความสอดคล้องและอานวยประโยชน์ในการบริหารธุรกิจของกิจการให้สามารถดารงอยู่และมีผลกาไรจากประกอบการตามวตั ถปุ ระสงคท์ ไ่ี ดว้ างไว้ การเลือกนโยบายของธุรกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบันทึกบัญชีของธุรกิจ เช่น กิจการควรเลือกนโยบายในการบันทึกบัญชีต่างๆ ที่จะสอดคล้องกับประมวลรัษฎากร เช่น การใช้เกณฑ์คงค้าง การกาหนดอายุการใช้งานของสินทรัพย์ เป็นต้น เพื่อเป็นการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายโดยไม่ต้องมีการปรับปรุงรายการบัญชีให้ตรงกับที่กฎหมายภาษีอากรกาหนด ท่ีทาให้เกิดความยุ่งยากในภายหลัง เชน่ ตวั อย่างท่ี 1 ตัวอยา่ ง 1 นโยบายเก่ียวกับ สินทรัพย์ประเภทที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ การคิดค่าเส่ือมราคา โดยหลักท่ัวไปจะบันทึกรายการประเภทนี้ไว้ในหมวดสินทรัพย์ด้วยวิธีราคาทุนที่ได้รับ (Acquisition cost) หลังจากนั้นจึงนาราคาทุนน้ีไปเฉลี่ยเป็นค่าใช้จ่ายในรูปของค่าเส่ือม ราคาตามอายุการใช้งาน ท่ีถูกกาหนดขึ้นตามสินทรัพย์นั้น ๆ ประเภทของสินทรัพย์ เช่น เครื่องจักร อุปกรณ์ อาจมีราคาทุนสูง บางกรณีธุรกิจท่ีกาลังเจริญเติบโตอาจต้องการขยาย งาน และลงทนุ เพิม่ เน่ืองจากมรี ายไดเ้ ข้ามามาก ในลักษณะเช่นนี้ผจู้ ัดการจึงอาจตอ้ งการนา ราคาทนุ ของสินทรัพยม์ าคิดเปน็ ค่าใช้จา่ ยทันทเี พือ่ ทาให้กาไรน้อยลง ซึง่ กจ็ ะขดั กับหลักการ บทที่ 1 ความรเู้ กี่ยวกับการดาเนินธรุ กจิ
10 Accounting system Formation การวางรูปแบบระบบบัญชี ตัวอย่าง 1 (ตอ่ ) บัญชีและกฎหมายภาษีอากรท่ีกาหนดให้คิดค่าเสื่อมราคา เพราะถือว่าราคาทุนของ สินทรัพยเ์ หล่าน้ีเปน็ ค่าใช้จ่ายประเภทลงทนุ ( Capital expenditures) ตอ้ งนามาเฉล่ยี เป็น ค่าใช้จ่ายในการดาเนินงาน (Operating expenditures) ตามอายุการใช้งานในภายหลัง เท่านั้นผู้จัดการจึงอาจใช้เทคนิคโดยการแยกราคาทุนของส่วนประกอบต่าง ๆ ของอุปกรณ์ ออกจากกัน (ในกรณที อ่ี ุปกรณ์สามารถคิดแยกสว่ นได้) แทนการรวมราคาทุนทง้ั หมดไว้ในตัว อุปกรณ์เพียงตัวเดียว จะเท่ากับเป็นการกระจายอายุการใช้งานของอุปกรณ์ขนาดใหญ่ไป ให้กับส่วนประกอบเล็ก ๆ เหล่าน้ัน ทาให้อายุการใช้งานอาจน้อยกว่า 1 ปี ก็เป็นได้ และก็ สามารถนาราคาทนุ ของสว่ นประกอบเหลา่ นน้ั บนั ทึกเปน็ ค่าใชจ้ า่ ยในการดาเนินงานได้ทนั ทีลกั ษณะและรปู แบบการดาเนินงานธุรกจิ การประกอบธุรกิจการค้าอาจดาเนินการได้หลายรูปแบบ ท้ังโดยบุคคลคนเดียวเป็นเจ้าของกิจการโดยลาพัง หรืออาจดาเนินการโดยร่วมลงทุนกับบุคคลอ่ืนเป็นกลุ่มคณะก็ได้ การที่จะตัดสินใจเลือกดาเนินธุรกิจการคา้ ในรูปแบบใดน้นั ผู้ประกอบการจะตอ้ งคานึงถึงองคป์ ระกอบท่ีสาคัญหลายประการด้วยกัน เช่น ลักษณะของกิจการค้า เงินทุน ความรู้ความสามารถในการดาเนินธุรกิจ เป็นต้น ท้ังนี้ เพ่ือให้การประกอบธุรกิจน้ันประสบผลสาเร็จนามาซึ่งผล ประโยชน์และกาไรสูงสดุ (ภาพประกอบท่ี 1-3)บทท่ี 1 ความรูเ้ ก่ยี วกับการดาเนินธุรกิจ
การวางรปู แบบระบบบญั ชี Accounting system Formation 11 รปู แบบองคก์ รธุรกิจ เปน็ นิติบคุ คล ไม่เปน็ นติ บิ ุคคล(จดทะเบยี นจัดตง้ั ข้ึนตามกฎหมาย) (อาจตอ้ งจดทะเบียนตามพรบทะเบียนพาณชิ ย์)1. หา้ งหุ้นส่วนสามญั จดทะเบียน บริษัทมหาชนจากดั องค์กรธรุ กิจจัดตั้งหรอื จด2. หา้ งหุ้นส่วนจากดั ทะเบียนภายใตก้ ฏหมาย เฉพาะ บรษิ ัทจากดั กิจการรว่ มค้า ห้างหุ้นสว่ นสามัญ เจ้าของคนเดยี ว ภาพประกอบ 1-3 : รูปแบบการดาเนินงานของธรุ กจิ จากภาพประกอบ 1-3 รูปแบบการดาเนินงานของธรุ กจิ แบง่ แยกออกเปน็ 2 ประเภท คอื 1. ไม่เป็นนิติบุคคล (อาจตอ้ งจดทะเบียนตาม พระราชบญั ญตั ิทะเบยี นพาณิชย์)แบ่งเปน็ 2 ประเภท คือ 1.1 กจิ การรา้ นค้าเจ้าของคนเดียว 1.2 ห้างหุน้ สว่ นสามัญ 2. เปน็ นิติบุคคล (จดทะเบยี นจดั ต้ังขึน้ ตามกฎหมาย) แบ่งเปน็ 4 ประเภท คือ 2.1 ห้างหุน้ ส่วนสามญั จดทะเบยี น / หา้ งหุ้นส่วนจากัด 2.2 บรษิ ทั จากดั 2.3 บรษิ ทั มหาชนจากัด 2.4 องค์กรธรุ กิจจัดตง้ั หรือจดทะเบียนภายใตก้ ฎหมายเฉพาะ การดาเนินธุรกิจไม่ว่าจะทาธุรกิจประเภทใดก็ตาม ควรคานึงถึงหลักการปฏิบัติทางด้านภาษใี ห้สอดคลอ้ งกับประมวลรัษฎากรกาหนดไว้ บทท่ี 1 ความรเู้ กีย่ วกับการดาเนินธุรกิจ
12 Accounting system Formation การวางรปู แบบระบบบญั ชีการจดทะเบยี นนติ ิบุคคล การจดทะเบยี นนิติบคุ คล ไดแ้ ก่ การจดทะเบยี นหา้ งหุ้นสว่ นจากดั และ การจดั ทะเบยี นบริษัท จากัด 1. การจัดต้งั หา้ งห้นุ ส่วน การจัดต้งั หา้ งหนุ้ ส่วนนั้น โดยมีบุคคลตง้ั แต่ 2 คนขน้ึ ไป ตกลงที่จะทาการค้ารว่ มกัน มุง่ หวงั ท่จี ะแบง่ ผลกาไรจากการดาเนินกจิ การค้านั้น ขนั้ ตอนการจดทะเบียนจัดตัง้ ห้างหุ้นส่วนจากัด 1. หุน้ ส่วนตกลงกัน 2. จองช่ือ 3. จัดเตรียมคาขอ 4. ยื่นขอจดทะเบยี น การจัดตัง้ ห้างหุน้ ส่วนแบ่งออกได้เป็น 4 ขนั้ ตอน ดงั นี้ ขนั้ ตอนท่ี 1 ทาความตกลงระหวา่ งผเู้ ปน็ หุ้นส่วนในเรอื่ งสาคญั ๆ ข้ันตอนที่ 2 ขอตรวจสอบและจองชอ่ื ห้างหุ้นสว่ น ขน้ั ตอนที่ 3 จดั ทาคาขอจดทะเบยี นและเอกสารประกอบ ข้นั ตอนที่ 4 การยนื่ ขอจดทะเบียนข้ันตอนที่ 1 ทาข้อตกลงระหว่างผู้เป็นหุ้นสว่ นในเรื่องสาคัญๆ ห้างหุ้นส่วน เป็นรูปแบบการประกอบกิจการค้าที่มีบุคคลหลายบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องดังน้ันเพ่ือป้องกันปัญหาความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างประกอบการค้า ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนจงึ ควรทาขอ้ ตกลงกันในเรื่องสาคญั ๆ ให้ชดั เจนในเรอ่ื งดงั ต่อไปนี้บทที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับการดาเนินธุรกจิ
การวางรปู แบบระบบบญั ชี Accounting system Formation 13 1.1 จานวนเงินลงทุน หรือส่ิงที่ผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคนจะนามาลงทุน โดยผู้เป็นหุ้นส่วนสามารถลงทุนด้วยเงิน ทรัพย์สิน หรือแรงงานก็ได้ (ยกเว้น ห้างหุ้นส่วนจากัดความรับผิดจะลงทนุ ด้วยแรงงานไม่ได้) การลงทุนด้วยทรพั ย์สิน หรือแรงงานจะต้องตีราคาเปน็ จานวนเงนิ และกาหนดระยะเวลาชาระเงินหรือสิ่งท่ีผู้เป็นหุ้นส่วนจะนามาลงทุน ซ่ึงควรชาระให้ครบก่อนการจดทะเบียนจัดตัง้ หา้ งหุ้นสว่ น 1.2 กาหนดขอบเขตกรอบของกจิ การค้าทีห่ า้ งหุน้ สว่ นประกอบกิจการ เรยี กวา่“วัตถุประสงค์” ในปัจจุบันส่วนมากจะกาหนดวตั ถุประสงค์ไว้หลายด้าน เพ่ือความคล่องตัวในการเพ่ิมหรือปรับเปล่ียนจะได้ไม่เสียเวลาในการดาเนินการจดทะเบียนเพ่ิม หรือ เปล่ียนวัตถุประสงค์แต่การจดทะเบยี นวัตถุท่ีมปี ระสงคไ์ ว้เปน็ หลายๆ ด้านน้นั อาจจะไม่เปน็ ผลดี เนอื่ งจากเป็นการเปิดโอกาสใหผ้ ู้บรหิ ารประกอบกจิ การที่ไมเ่ ปน็ ไปตามแนวทางทตี่ นถนัดให้อานาจกว้างมากเกินไป 1.3 การแต่งตั้งหุ้นส่วนผู้จัดการ (หุ้นส่วนผู้จัดการ คือ ผู้ที่จะมีอานาจกระทาการแทนหา้ งหนุ้ สว่ น ซ่ึงต้องแตง่ ตั้งจากหนุ้ ส่วนจาพวกไม่จากดั ความรับผิดเท่านนั้ ) 1.4 การแบง่ สว่ นผลกาไรและขาดทุน 1.5 เรือ่ งอ่ืนๆ เช่น หลักเกณฑ์ และวิธกี ารเปลยี่ นแปลงขอ้ สัญญาจัดตงั้ ห้างเดมิ สถานท่ีที่จะใช้เป็นท่ีต้ังสานักงานใหญ่ ข้อจากัดในการใช้อานาจของหุ้นส่วนผู้จัดการ และการแต่งต้ังผู้ชาระบัญชี เป็นต้นขัน้ ตอนท่ี 2 ขอตรวจสอบและจองชือ่ ห้างหุ้นส่วน ปัจจุบนั การประกอบกจิ การในรปู แบบของห้างหุ้นส่วนสามัญนติ ิบุคคล หา้ งหุน้ ส่วนจากัดบริษัทจากดั และบริษทั มหาชนจากัดเปน็ จานวนมาก ดงั นนั้ เพอื่ มใิ ห้เกิดความสับสนเก่ียวกับช่ือท่ีคล้ายกันหรือซ้ากัน กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงกาหนดให้ผู้ท่ีประสงค์จะจดทะเบียนจัดต้ังห้างห้นุ สว่ นขน้ึ ใหม่ต้องขอตรวจและจองชอื่ นติ ิบุคคลก่อนทจ่ี ะจดทะเบียนจัดต้ัง โดยดาเนนิ การดังน้ี 2.1 สมคั รสมาชิกของ กรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ ท่ี www.dbd.go.th 2.2 เมื่อได้ USE NAME และ PASSWORD ให้เข้าไปท่หี นา้ จอหลักของ www.dbd.go.th 2.3 คล๊กิ เลอื ก จองชื่อนิติบคุ คล จากนัน้ เขา้ สกู่ ระบวนการจองชอ่ื ทางอินเตอร์เน็ตขั้นตอนท่ี 3 จดั ทาคาขอจดทะเบยี นและเอกสารประกอบเมื่อผ่านการตรวจสอบและตอบรับจากเจ้าหน้าท่ีว่าช่ือท่ีจะขอจดทะเบียนไม่คล้าย หรือซ้ากับชื่อนิติบุคคลอื่นท่ีได้จดทะเบียนไว้ก่อนแล้ว ผู้ขอจดทะเบียนต้องกรอกรายละเอียด (โดยวิธีการพิมพ์)ในแบบพิมพ์คาขอจดทะเบียนให้ครบถ้วนถูกต้องตรงตามความเป็นจริงใน แบบพิมพ์คาขอจดทะเบยี น บทที่ 1 ความร้เู กีย่ วกับการดาเนินธุรกจิ
14 Accounting system Formation การวางรูปแบบระบบบญั ชีขัน้ ตอนท่ี 4 การยื่นขอจดทะเบียน การยน่ื ขอจดทะเบยี นทาได้ 2 วธิ ี คือ 4.1 ยื่นคาขอจดทะเบยี นพร้อมเอกสารประกอบต่อนายทะเบยี น กรณนี ี้ หุ้นส่วนผู้จัดการจะไปยนื่ ขอจดทะเบยี นดว้ ยตนเอง หรือมอบอานาจให้ผู้อน่ื ไปดาเนนิ การแทนก็ได้ 4.2 ยื่นจดทะเบียนทางอินเตอร์ www.dbd.go.th เพ่ือให้นายทะเบียนตรวจพิจารณาคาขอจดทะเบียนก่อน และเมื่อผ่านการตรวจและตอบรบั คาขอจดทะเบียนถูกต้องแล้วน้ัน ให้ผู้ขอจดทะเบียนส่ังพิมพ์เอกสารคาขอจดทะเบียนดังกล่าว โดยให้ผู้เป็นหุ้นส่วนลงลายมือช่ือและประทับตราสาคัญของห้าง หลังจากนั้นนาไปย่ืนขอจดทะเบียนซึ่งขั้นตอนนี้จะมีความรวดเร็วกว่ากรณีการยื่นขอจดทะเบยี น วิธที ่ี 1 มาก เนอื่ งจากนายทะเบยี นจะตรวจเอกสารคาขอจดทะเบียนที่นามายื่นน้นั วา่ มคี วามถกู ต้องตรงกบั ทยี่ ื่นไวท้ างอินเตอรเ์ น็ตหรือไมเ่ ท่านั้น ขอ้ มลู ที่ใช้ 1. ชอื่ ของห้างหนุ้ สว่ น 2. วัตถปุ ระสงค์ของห้าง 3. ทตี่ งั้ สานกั งานแหง่ ใหญแ่ ละ/หรอื สาขา 4. ช่ือ ทอ่ี ยู่ อายุ สญั ชาติ และสิง่ ที่นามาลงหุ้น 5. ชื่อผเู้ ป็นห้นุ สว่ นผจู้ ดั การ (ตอ้ งเปน็ หนุ้ ส่วนไม่จากัดความรับผิด) กรณเี ป็นหา้ งหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ผู้เป็นหุ้นส่วนสามารถเขา้ เปน็ ห้นุ ส่วนผจู้ ัดการได้ทุกคน 6. ขอ้ จากัดอานาจหุ้นสว่ นผู้จดั การ( ถา้ มี ) 7. ตราสาคัญหรอื ตราสัญลกั ษณข์ องห้าง เอกสารและหลักฐานทต่ี อ้ งใช้ในการจดทะเบยี น ในการขอจดทะเบียนต้องเตรยี มเอกสารหลกั ฐานดังต่อไปนี้ 1. คาขอจดทะเบียนห้างหุน้ ส่วน (แบบ หส.1) 2. รายการจดทะเบยี น (แบบ หส.2) / หา้ งห้นุ ส่วนสามญั นิติบคุ คล 3. วตั ถุประสงค์ (แบบ ว.) 4. แบบ สสช.1 จานวน 1 ฉบับ 5. แบบจองช่อื นติ ิบุคคลทย่ี ังไม่เกนิ กาหนด 6. สาเนาบัตรประจาตัวของห้นุ ส่วนผู้จัดการทีล่ งลายมอื ชอื่ ในคาขอจดทะเบียน 7. สาเนาหลักฐานการรบั ชาระเงินลงหนุ้ ท่ีหา้ งหนุ้ ส่วนได้ออกใหแ้ กผ่ ้เู ป็นหุ้นสว่ น 8. สาเนาหลกั ฐานการเปน็ ผรู้ ับรองลายมือชือ่ (ถ้าม)ีบทที่ 1 ความรู้เก่ยี วกบั การดาเนนิ ธุรกจิ
การวางรปู แบบระบบบญั ชี Accounting system Formation 15 9. หนังสอื มอบอานาจ (กรณีท่ีผู้ขอจดทะเบียนไมส่ ามารถย่นื ขอจดทะเบียนได้ด้วยตนเองก็มอบอานาจให้บุคคลอ่ืนดาเนินการแทนโดยทาหนังสือมอบอานาจ และ ปิดอากรแสตมปด์ ้วย) 10. กรณีมีคนสัญชาตอ่นื ลงทุนหนุ้ ในหา้ งหุ้นส่วนตง้ั แตร่ ้อยละ 40 แตไ่ ม่ถงึ รอ้ ยละ 50 ของทนุ จดทะเบียน หรอื ลงทนุ ห้นุ ในห้างหุน้ สว่ นต่ากว่าร้อยละ 40 ของทุนจดทะเบียนและเปน็ ผ้มู ีอานาจกระทาการแทนห้างหุ้นส่วน ให้ผู้เปน็ หนุ้ สว่ นทีม่ ีสัญชาตไิ ทย สง่ หลักฐานแสดงทมี่ าของเงินลงทนุ ซงึ่ ปรากฏจานวน เงินสอดคล้องกับจานวนเงนิ ท่นี ามาลงทุนของผ้เู ปน็ ห้นุ สว่ น แต่ละคนดังนี้ สาเนาสมดุ เงนิ ฝากธนาคาร หรือสาเนาใบแจง้ ยอดบัญชีธนาคารยอ้ นหลัง6 เดอื น หรือ เอกสารท่ธี นาคารออกให้เพ่ือรบั รอง หรือแสดงฐานะทางการเงินของผู้ถอืหุ้นสาเนาหลักฐานแสดงแหลง่ ของเงินท่นี ามาลงทนุ อตั ราคา่ ธรรมเนียม 1. การจดทะเบียนหา้ งห้นุ สว่ นทุกจานวนเงนิ ไมเ่ กิน 100,000 บาท ทนุ ท่กี าหนดไว้100บาท เศษของ 100,000 บาทให้คิดเป็น 100,000 บาท ท้ังน้ีรวมกันไม่ให้ต่ากว่า 1,000 บาทไม่ใหเ้ กิน 5,000 บาท 2. หนงั สอื รับรองฉบบั ละ 200 บาท 3. ใบสาคัญแสดงการจดทะเบยี น ฉบับละ 100 บาท 4. กรณขี อใหน้ ายทะเบียนรับรองสาเนาเอกสารการจดทะเบียน หนา้ ละ 50 บาท สถานที่จดทะเบยี น 1. สานักงานแห่งใหญต่ ั้งอยใู่ นเขตกรงุ เทพมหานคร ย่ืนจดทะเบยี นท่ีสว่ นจดทะเบยี นธุรกิจกลางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ช้ัน 9 ถนนนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี หรือสานักงานบริการจดทะเบียนธุรกจิ ทงั้ 7 แห่ง ในเขตกรงุ เทพมหานคร 2. สานกั งานแหง่ ใหญ่ตั้งอยู่จงั หวดั อน่ื ย่นื จดทะเบียนไดท้ ี่สานกั งานพัฒนาธุรกิจการคา้ จังหวัด ทหี่ ้างห้นุ ส่วนมีสานกั งานแหง่ ใหญ่ตง้ั อยู่ 3. ยน่ื จดทะเบียนทางอินเตอร์เนต็ ที่ www.dbd.go.th บทท่ี 1 ความรูเ้ กีย่ วกบั การดาเนินธรุ กิจ
16 Accounting system Formation การวางรปู แบบระบบบญั ชี คาแนะนาในการจดทะเบยี นตงั้ บรษิ ทั จากัด2. การจดทะเบยี นจัดตง้ั บรษิ ัท จากดั ขัน้ ตอนการจัดต้ังบริษทั จากดัขน้ั ตอนท่ี 1 ผ้เู รม่ิ ก่อการจองชื่อนิติบุคคลย่ืนจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ ผเู้ รมิ่ ก่อการ 3 คนจดั ทาหนังสือบริคณหส์ นธิภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ นายทะเบียนอนุญาตให้จองชอื่ นิตบิ ุคคล จดทะเบยี นหนงั สอื บรคิ ณหส์ นธิ นดั ประชมุ ผู้เริม่ กอ่ การและผจู้ องซอ้ื หุ้น ขั้นตอนที่ 2ย่ืนจดทะเบยี นต้ังบรษิ ัทภายใน 3 ประชมุ ตง้ั บริษทั และแต่งตั้งกรรมการเดือนนบั แต่วันทไี่ ดม้ กี ารประชมุ ตง้ับริษัท กรรมการบริษทั เรยี กใหผ้ เู้ รม่ิ ก่อการ และผจู้ องซื้อห้นุ ชาระค่าห้นุ ยืน่ จดทะเบียนจดั ตั้งบริษทัข้นั ตอนการดาเนนิ การในการจดั ตั้งบรษิ ทั จากัด มี 2 ขัน้ ตอน คือ 2.1 การจดหนังสอื บริคณหส์ นธิ 2.2 การจดทะเบียนจัดต้งั บริษัทจากัดบทที่ 1 ความรเู้ ก่ียวกบั การดาเนินธรุ กิจ
การวางรูปแบบระบบบัญชี Accounting system Formation 17 2.1 ในการจดทะเบียนหนงั สอื บริคณห์สนธิ ตอ้ งดาเนนิ การดงั ตอ่ ไปนี้ 1. ผเู้ ร่ิมก่อการจองช่อื นิติบุคคล 2. เม่ือได้รับอนญุ าตใหใ้ ช้ชื่อ ผู้เริ่มก่อการอย่างนอ้ ย 3 คน เข้าชอ่ื กัน จดั ทาหนังสือบรคิ ณหส์ นธิ ผู้เร่ิมก่อการจะต้องมีคุณสมบตั ดิ งั นี้ เปน็ บุคคลธรรมดา จะเปน็ นิติบคุ คลไมไ่ ด้ มอี ายตุ ง้ั แต่ 21 ปี ขึน้ ไป จะต้องจองซอ้ื หนุ้ อยา่ งนอ้ ยคนละ 1 หุ้น 3. ผเู้ รม่ิ ก่อการยนื่ จดทะเบียนหนังสือบรคิ ณห์สนธติ อ่ นายทะเบียนภายใน 30 วนันับแต่วนั ทนี่ ายทะเบยี นอนญุ าตใหจ้ องชอ่ื นติ บิ คุ คล ข้อมลู ท่ีต้องใชใ้ นการจดทะเบยี นหนังสือบรคิ ณห์สนธิ การจดทะเบียนหนังสอื บริคณหส์ นธิ ผ้ขู อจดทะเบียนจะต้องเตรยี มขอ้ มลู ดงั ต่อไปนี้เพ่ือกรอกในคาขอจดทะเบยี นและเอกสารประกอบการจดทะเบยี น ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ชอ่ื บรษิ ทั (ตามท่ีไดจ้ องชือ่ ไว)้ 2. ท่ีตงั้ สานักงานแห่งใหญ่ (ต้งั อยู่ ณ จังหวดั ใด) 3. วตั ถุท่ปี ระสงค์ของบรษิ ัททจ่ี ะประกอบกจิ การคา้ 4 ทุนจดทะเบียนแบง่ เปน็ หนุ้ ๆ มูลคา่ หุ้นเทา่ ๆกนั (มลู ค่าหุน้ ไม่ต่ากว่า5บาท) 5 ชอ่ื ท่อี ยู่ อาชพี และจานวนหนุ้ ท่ผี ู้เรมิ่ กอ่ การจองช่ือไว้ 6 ชอ่ื ท่ีอยู่ อายุ สัญชาติ ของพยาน 2 คน เอกสารหลกั ฐานที่ต้องใช้ในการจดทะเบยี นหนงั สือบริคณห์ 1. คาขอจดทะเบยี นบรษิ ทั (แบบ บอจ.1) 2. หนงั สอื บริคณห์สนธิ (แบบ บอจ. 2) ติดอากรแสตมป์ 200 บาท 3. แบบวัตถุทปี่ ระสงค์ (แบบ ว.) 4. แบบจองชอ่ื นติ ิบคุ คล 5. หลกั ฐานให้ความเห็นชอบในการจัดตัง้ บริษัทเพ่ือประกอบธรุ กิจจากหนว่ ยงาน ที่เก่ียวขอ้ ง(ใช้เฉพาะการประกอบธุรกจิ ที่มกี ฎหมายพเิ ศษควบคุม) 6. สาเนาบตั รประจาตัวของผเู้ ร่ิมก่อการที่ลงลายมือชอ่ื ในคาขอจดทะเบียน 7. สานาหลกั ฐานการเปน็ ผูร้ บั รองลายมอื ชอื่ (ถ้ามี) 8. หนังสือมอบอานาจ(กรณที ี่ผู้ขอจดทะเบียนไมส่ ามารถยื่นขอจดทะเบียนได้ด้วยตนเองกม็ อบอานาจให้บคุ คลอ่ืนดาเนนิ การแทนโดยหนงั สือมอบอานาจและติดอากรแสตมป์) บทท่ี 1 ความรูเ้ กี่ยวกับการดาเนินธุรกจิ
18 Accounting system Formation การวางรปู แบบระบบบัญชี คา่ ธรรมเนยี ม คา่ ธรรมเนียมเก่ียวกับการจดทะเบียนหนังสอื บริคณหส์ นธิ ผขู้ อจดทะเบียนจะตอ้ งชาระคา่ ธรรมเนียมตามอตั ราท่ีกฎกระทรวงกาหนด ดงั น้ี การจดทะเบียนหนงั สอื บริคณหส์ นธิทุกจานวนเงนิ ไมเ่ กิน100,000 บาทจานวนทุนที่กาหนดไว้ 50 บาท เศษของ 100,000 บาท คิดเป็น 100,000 บาท ทั้งน้ีรวมกันไม่ให้ตา่ กว่า 500 บาทและไมใ่ ห้เกิน 25,000 บาท สถานท่ีจดทะเบยี น 1. สานกั งานแห่งใหญ่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ยื่นจดทะเบยี นได้ทีส่ ่วนจดทะเบียนกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ถนนนนทบุรี 1 จังหวัดนนทบุรี หรือสานักงานบริการจดทะเบียนธรุ กจิ ทง้ั 7 แห่ง 2. สานกั งานแหง่ ใหญต่ ้ังอยจู่ ังหวัดอน่ื จดทะเบียนได้ทส่ี านกั งานพฒั นาธรุ กิจการค้าที่บรษิ ัท มีสานกั งานแห่งใหญต่ ั้งอยู่ 3. ยื่นจดทะเบียนทางอินเตอรเ์ น็ตที่ www.dbd.go.th 2.2 การจัดตัง้ บรษิ ัทจากดั จดทะเบียนหนังสอื บริคณหส์ นธิ ผเู้ รมิ่ ก่อการจดั ใหม้ ีการจองซอื้ หุ้นทง้ั หมด วันที่ 1 นดั ประชมุ จดั ต้ังบริษัท คณะกรรมการ นดั =/>7 เรยี กชาระคา่ หุน้ ประชมุ จดั ตง้ั บรษิ ัท อยา่ งน้อย 25% วัน วนั ที่ 9 จัดทาคาขอจดทะเบยี น/ย่นื จดทะเบยี น ชาระคา่ ธรรมเนยี ม จดั ต้ังบรษิ ัทภายใน 3 เดอื น นายทะเบยี นรับจดทะเบยี น รับหนงั สือรับรอง / ใบสาคัญบทที่ 1 ความรูเ้ กี่ยวกับการดาเนนิ ธุรกจิ
การวางรูปแบบระบบบญั ชี Accounting system Formation 19 เมอ่ื จดทะเบยี นหนังสอื บริคณหส์ นธิแลว้ กใ็ หด้ าเนนิ การดงั นี้ 1. ผู้เรม่ิ ก่อการจดั ให้มกี ารจองซอื้ หุ้นทัง้ หมด 2. เมือ่ จองซอ้ื หนุ้ หมดแล้ว ให้ผู้เริ่มกอ่ การออกหนงั สอื นัดประชุมผู้เข้าซ้อื หุ้นเพ่ือประชุมจดั ตง้ั บริษทั * * การออกหนังสือนดั ประชุมจะต้องห่างจากวนั ประชุมอย่างน้อย 7 วนั 3. จัดประชมุ ผ้เู ขา้ ชอ่ื ซือ้ ห้นุ เพือ่ จัดตงั้ บรษิ ทั 3.1 องค์ประชมุ จะต้องมีผูเ้ ข้าช่ือหุ้นเขา้ ร่วมประชมุ ไม่น้อยกว่าก่ึงหน่งึ ของจานวนผเู้ ขา้ ช่ือซอ้ื หุ้นทั้งหมดและนับจานวนหนุ้ รวมกนั ไมน่ ้อยกว่าก่ึงหนึ่งของหุ้นทงั้ หมด (มอบฉันทะใหผ้ ู้อ่ืนเขา้ ประชุมแทนก็ได้) 3.2 วาระการประชุม (1) ทาความตกลงต้ังข้อบังคับของบริษัท (2) ให้สตั ยาบนั แกบ่ รรดาสัญญาซึ่งผเู้ ริ่มกอ่ การได้ทาไว้ และคา่ ใช้จ่ายทผ่ี ู้เริ่มก่อการต้องจ่ายในการเร่ิมก่อต้ังบริษทั (3) กาหนดจานวนเงินซ่งึ จะใหแ้ ก่ผูเ้ ร่ิมกอ่ การ (ถ้ามี) (4) กรณีท่ีบริษัทจะออกหุ้นบุริมสิทธิ ให้กาหนดจานวนหุ้นบรุ มิ สทิ ธพิ รอ้ มทง้ั กาหนดสภาพและบุรมิ สิทธิของหุน้ บุริมสทิ ธวิ า่ มีสภาพหรือสทิ ธอิ ยา่ งไร (5) กรณีทบี่ รษิ ทั จะออกห้นุ เพ่ือเป็นการตอบแทนการลงทนุ ด้วยทรัพยส์ ิน หรอื แรงงานจะต้องกาหนดจานวนหุ้นสามญั หรือหุ้นบรุ ิมสทิ ธิซ่งึ ออกให้เสมือนหนง่ึ ว่าได้ใช้เต็มค่าแล้วหรือได้ใช้แต่บางส่วนเพราะได้ใช้ค่าหุ้นด้วยอย่างอ่ืนนอกจากตัวเงิน โดยจะต้องระบุรายละเอียดให้ชดั เจนท้ังในหนังสือนดั ประชมุ และมติท่ปี ระชุม * แรงงานที่จะนามาตีราคาเป็นค่าหนุ้ ของบรษิ ัทต้องเปน็ แรงงานทไ่ี ด้กระทาไปแล้ว (6) การเรยี กชาระคา่ หุ้น (7) เลือกต้งั กรรมการและกาหนดอานาจกรรมการ (8) เลือกผู้สอบบญั ชีรับอนุญาต พรอ้ มทง้ั กาหนดค่าสนิ จ้าง การตงั้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเพื่อตรวจสอบ รับรองงบการเงินต้องแต่งตั้งบุคคลธรรมดาเท่าน้ัน แต่งตั้งสานักงานตรวจสอบบญั ชไี มไ่ ด้ 4. ผูเ้ ร่ิมก่อการมอบกจิ การงานให้คณะกรรมการท่ีได้รบั การแตง่ ต้ังจากท่ีประชมุ 5. คณะกรรมการเรยี กเก็บค่าหนุ้ จากผ้เู ขา้ ชอ่ื ซ้ือหุน้ อย่างน้อยร้อยละ 25 ของมูลคา่ หุ้น บทท่ี 1 ความรูเ้ กี่ยวกบั การดาเนินธุรกจิ
20 Accounting system Formation การวางรูปแบบระบบบญั ชี 6. เม่อื เกบ็ ค่าหุน้ ได้ครบแลว้ ให้กรรมการผมู้ ีอานาจจัดทาคาขอจดทะเบยี นตั้งบริษัทแล้วย่ืนจดทะเบยี นตอ่ นายทะเบียน การย่ืนจดทะเบียนจะต้องให้กรรมการผู้มีอานาจเป็นผู้ลงลายมือช่ือในคาขอจดทะเบียนและต้องย่ืนจดทะเบียนภายใน 3 เดือนนับแต่วันท่ีที่ประชุมจัดตั้งบริษัท ถ้าไม่จดทะเบียนภายในกาหนดเวลาดังกล่าวจะทาให้การประชุมตั้งบริษัทเสยี ไป หากต่อไปต้องการจดทะเบียนต้ังบริษัทก็ตอ้ งดาเนนิ การจัดประชมุ ผ้จู องซื้อหนุ้ ใหม่ ขอ้ มูลทตี่ อ้ งใชใ้ นการจัดต้ังบริษทั จากัด 1. ข้อบงั คับ (ถา้ มี) 2. จานวนทนุ (คา่ ห้นุ )ท่เี รยี กชาระแลว้ อยา่ งน้อยร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน 3. ชอื่ ทอ่ี ยู่ อายขุ องกรรมการ 4. รายชอื่ จานวนกรรมการท่ีมอี านาจลงลายมือชือ่ แทนบริษัท (อานาจกรรมการ) 5. ช่ือ เลขทะเบยี นผู้สอบบญั ชีรับอนุญาตพรอ้ มค่าตอบแทน 6. ชือ่ ทอี่ ยู่ สัญชาติ และจานวนหุน้ ของผถู้ ือหนุ้ แตล่ ะคน 7. ตราสาคัญ และ ทต่ี ั้งสานักงานแห่งใหญ่ / สาขา บริษัทจะไม่จดทะเบียนตราสาคัญของบริษัทก็ได้ หากว่าอานาจกรรมการไม่ได้กาหนดให้ตอ้ งประทับตราสาคญั ด้วย เอกสารหลกั ฐานทต่ี ้องใชใ้ นการจดทะเบียนจัดตั้งบริษทั จากดั 1. คาขอจดทะเบียนบรษิ ทั จากดั (แบบ บอจ.1) 2. รายการจดทะเบียนจดั ตั้ง (แบบ บอจ.3) 3. รายละเอียดกรรมการ (แบบ ก.) 4. บัญชรี ายชอ่ื ผถู้ อื หนุ้ (แบบ บอจ.5) 5. สาเนาหนังสอื นดั ประชุมต้ังบริษัท 6. สาเนารายงานการประชุมตงั้ บรษิ ัท 7. สาเนาขอ้ บงั คบั ติดอากร 200 บาท (ถ้ามี) 8. หลกั ฐานการชาระคา่ หุน้ ทบ่ี รษิ ทั ออกให้แกผ่ ถู้ ือห้นุ 9. กรณคี นตา่ งด้าวลงทุนในบรษิ ัทจากดั ต้ังแตร่ ้อยละ 40 แต่ไม่ถึงรอ้ ยละ 50 ของทนุ จดทะเบียน หรือ กรณีมคี นต่างด้าวลงทุนในบริษัทจากัดตา่ กว่าร้อยละ 40 ของทุนจดทะเบียนแต่คนต่างด้าวเป็นกรรมการผู้มีอานาจกระทาการแทนบริษัทให้ผู้ถือหุ้นท่ีมีสัญชาติไทยทุกคนส่งหลักฐานแสดงท่ีมาของเงินลงทุนที่สอดคล้องกับจานวนเงินท่ีชาระแล้วของผู้ถือหุ้นอย่างใดอย่างหนงึ่ ดงั ตอ่ ไปนี้บทที่ 1 ความรูเ้ กี่ยวกับการดาเนนิ ธุรกจิ
การวางรปู แบบระบบบัญชี Accounting system Formation 21 9.1 สาเนาสมุดเงินฝากธนาคาร สาเนาแจ้งยอดเงินฝากธนาคารย้อนหลงั 6 เดือน 9.2 เอกสารทธ่ี นาคารออกใหเ้ พ่อื รบั รองหรือแสดงฐานะทางการเงินของผู้ถือหุ้น 9.3 สาเนาหลักฐานที่แสดงแหล่งทมี่ าของเงินท่ีนามาชาระค่าหนุ้ 10. แบบ สสช. 1 จานวน 1 ฉบับ 11. สาเนาบตั รประจาตวั ของกรรมการท่ีลงช่ือในคาขอจดทะเบียน 12. สาเนาหลักฐานเปน็ ผรู้ บั รองลายมือชอ่ื (ถา้ ม)ี 13. หนงั สือมอบอานาจ (กรณที ีผ่ ขู้ อจดทะเบียนไม่สามารถย่ืนขอจดทะเบียนไดด้ ว้ ยตนเองกม็ อบอานาจใหบ้ คุ คลอ่นื ดาเนนิ การแทนโดยทาหนังสือมอบอานาจ และตดิ อากรแสตมป์) คา่ ธรรมเนยี ม 1. คิดตามทนุ จดทะเบยี นแสนละ 500 บาท แตไ่ มน่ อ้ ยกวา่ 5,000 บาท ไมเ่ กนิ250,000 บาท (เศษของแสนคดิ เป็นแสน) 2. หนงั สอื รับรอง ฉบับละ 200 บาท 3. ใบสาคญั แสดงการจดทะเบยี น ฉบบั ละ 100 บาท 4. รบั รองสาเนาเอกสาร หน้าละ 50 บาท สถานทจี่ ดทะเบียน 1. สานักงานแหง่ ใหญ่ตง้ั อยใู่ นเขตกรุงเทพมหานคร ย่ืนจดทะเบยี นได้ท่ี สว่ นจดทะเบียนธุรกิจกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ถนนนนทบุรี 1 จังหวัดนนทบุรี สานักงานบริการจดทะเบียนธรุ กจิ ท้งั 7 แห่ง 2. สานกั งานแหง่ ใหญต่ ้ังอยูจ่ งั หวดั อืน่ ย่ืนจดทะเบียนได้ที่สานกั งานพัฒนาธรุ กิจ 3. การค้าจังหวัดทบ่ี รษิ ทั มสี านกั งานแหง่ ใหญต่ ัง้ อยู่ 4. ยนื่ จดทะเบียนทางอนิ เตอรเ์ นต็ ท่ี www.dbd.go.th โปรดทราบ..... ปจั จุบัน ถ้าทา่ นจดทะเบียนจดั ตงั้ หา้ งหนุ้ ส่วนจากัด และหรือ บรษิ ทั จากดั ท่าน จะได้เลขประจาตัวผ้เู สยี ภาษีทนั ที ปจั จบุ ันเลขประจาตัวผู้เสยี ภาษีของนิติบคุ คลจะใช้หมายเลขเดียวกนั กับเลข ทะเบยี นพาณิชยข์ องนิติบุคคล สาหรับผูร้ ่วมลงทุน 2 คน ปัจจบุ นั สามารถจดทะเบียนและจดั ตงั้ นติ ิบคุ คลในรูป ของบริษทั จากดั และ ห้างหนุ้ สว่ นนิตบิ คุ คล........ บทที่ 1 ความรเู้ ก่ียวกบั การดาเนินธรุ กิจ
22 Accounting system Formation การวางรปู แบบระบบบญั ชีประเภทของการดาเนินงานธรุ กิจ การแบ่งประเภทของธุรกิจ (Type of business organizations) สามารถแบง่ ได้หลายแบบโดยพิจารณาด้านใดด้านหนึ่งเป็นหลัก หากพิจารณาจากขนาดของธุรกิจและเงินทุนในการลงทุนแล้ว แบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ ธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดกลาง และธุรกิจขนาดย่อมหากแบ่งตามลักษณะของผลิตภัณฑ์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ ธุรกิจอุตสาหกรรมและธุรกิจการเกษตร อย่างไรก็ตามในท่ีน้ีจะกล่าวถึงประเภทของธุรกิจที่จัดแบ่งประเภทตามลักษณะของการดาเนินงาน ซ่ึงแบง่ ออกเป็น 3 ประเภท คอื 1. ธรุ กิจซ้อื มา-ขายไป (Merchandising) 2. ธรุ กิจ-ผลิตสินค้าข้นึ มาเพ่อื ขาย (Manufacturing) 3. ธรุ กจิ -บรกิ าร (Service) 1. ธรุ กจิ ซอื้ มา-ขายไป ธุรกจิ ซื้อมา-ขายไป (Merchandising) เป็นการดาเนนิ งานในดา้ นการจัดหา และจาหนา่ ยสนิ ค้าทผ่ี ลติ จากธุรกจิ อุตสาหกรรมให้แก่ผู้อปุ โภคและบรโิ ภค เชน่ การค้าส่ง การคา้ ปลีกการคา้ ตา่ งประเทศ ท้งั ในรูปแบบของการคา้ แบบเจ้าของคนเดยี ว หา้ งหนุ้ ส่วนจากดั บริษัทจากัด 2. ธรุ กจิ -ผลติ สินคา้ ข้ึนมาเพื่อขาย ธุรกจิ อุตสาหกรรม หรอื ธุรกิจการผลิตสินค้าขน้ึ มาเพอ่ื ขาย(Manufacturing)เป็นการดาเนนิ งานการผลิต โดยการแปรรูปนาเข้า(Input)จากวตั ถุดบิ ทไ่ี ด้จากทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่หรือหามาได้ให้เป็นสินค้าสาเร็จรูปหรือก่ึงสาเร็จรูปในระบบโรงงานอุตสาหกรรม ท้ังในอุตสาหกรรมขนาดเล็ก อตุ สาหกรรมขนาดกลางและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เปน็ ตน้ นาเข้า กระบวนการผลติ ผลลพั ธ์ ภาพประกอบท่ี 1-4 กระบวนการผลติ สนิ ค้าขนึ้ มาเพ่ือขาย 3. ธรุ กิจ - บรกิ าร ธุรกจิ - บรกิ าร (Service) เปน็ การดาเนินธรุ กิจในดา้ นการใหบ้ ริการ แก่ผู้บรโิ ภคเพือ่ ความสะดวกสบาย เพื่อลดความยงุ่ ยาก เชน่ ธุรกิจโรงแรม ธรุ กจิ รา้ นเสริมสวย ธุรกิจรบั จ้างทาของ เป็นตน้บทท่ี 1 ความรู้เก่ยี วกบั การดาเนนิ ธรุ กิจ
การวางรูปแบบระบบบญั ชี Accounting system Formation 23กฎหมายธุรกิจ ในการดาเนินธุรกิจทุกประเภทจะต้องคานึงถึงกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ที่เก่ียวข้องกับการดาเนินธุรกิจ อาทิเช่น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายบัญชี และประมวลกฎหมายรัษฎากร เป็นต้น และยังมีกฎหมายอ่ืนท่ีต้องติดตามให้ทันกับการประกาศใช้กฎหมายท่ีเกยี่ วข้องกับธรุ กจิ นน้ั ๆ กฎหมายที่เกี่ยวขอ้ งในการทาธรุ กจิ ไดแ้ ก่ 1. กฎหมายแพง่ และพาณิชย์ 2. พระราชบญั ญตั กิ ารบัญชี พ.ศ. 2543 3. พระราชบัญญตั ิวชิ าชีพบัญชี พ.ศ. 2547 4.ประมวลกฎหมายรษั ฎากร 1. กฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ กฎหมายแพง่ และพาณิชย์ เป็นกฎหมายทใ่ี ช้บังคบั กบั บริษัท หา้ งรา้ นต่าง ๆ ที่จดทะเบียนขึ้นตามกฎหมายท่ีถูกต้อง โดยเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย ท่ีได้รับการรับรองจากนายทะเบียนพาณิชย์ ซ่ึงเป็นตัวแทนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าตามจังหวัดน้ันๆ โดยกฎหมายที่ใช้ในการบังคับ หรือกฎหมายที่นิติบุคคลบังคับใช้ได้แก่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3ลักษณะ 22 หนุ้ สว่ นและบรษิ ัท เป็นต้น 2. พระราชบัญญัตกิ ารบัญชี พ.ศ. 2543 พระราชบัญญตั กิ ารบญั ชี พ.ศ.2543 กาหนดให้ ห้างหุ้นสว่ นจดทะเบยี น บริษัทจากัด บริษัทมหาชนจากัด ที่จดั ต้ังตามกฎหมายไทย นิตบิ ุคคลที่ต้ังข้ึนตามกฎหมายตา่ งประเทศทป่ี ระกอบธุรกิจในประเทศไทย กจิ การร่วมค้าตามประมวลรัษฎากรเป็นผมู้ ีหน้าทจี่ ัดทาบัญชี และตอ้ งจัดให้มีการทาบัญชีสาหรับการประกอบธรุ กิจของตนโดยมีรายละเอยี ด หลกั เกณฑ์และวิธีการตามท่ีบัญญัตติ ามกฎหมายให้บคุ คลทตี่ ้องรับผิดชอบในการจัดทาบญั ชีได้แก่ เจ้าของกิจการ ผเู้ ป็นหนุ้ สว่ น และผทู้ าบัญชี เป็นต้นและเป็นกฎหมายท่จี ากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลเก่ยี วกับผู้ทีจ่ ะเป็นผู้จัดทาบัญชีของนิติบุคคลที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลถูกต้องตามกฎหมายได้ ต้องมีความรู้ทางด้านการศึกษาสาขาวิชาชีพบัญชีตามระดับความรู้กาหนด เริ่มต้ังแต่ ระดับการศึกษาอนปุ รญิ ญาตรี ประกาศนียบัตรวชิ าชพี ชนั้ สงู และ ระดบั ปรญิ ญาตรีทางการบญั ชี 3. พระราชบัญญัตวิ ิชาชพี บัญชี พ.ศ. 2547 เป็นกฎหมายทก่ี าหนดหน้าท่ีรองรับผมู้ หี น้าทใ่ี นการจดั ทาบัญชีตามกฎหมายพระราชบญั ญตั ิการบัญชี พ.ศ. 2543 โดยได้กาหนดวิชาชีพบัญชีให้หมายความรวมถงึ วิชาชีพใน บทท่ี 1 ความร้เู ก่ยี วกับการดาเนินธรุ กิจ
24 Accounting system Formation การวางรูปแบบระบบบญั ชีด้านการทาบัญชี ด้านการสอบบัญชี ด้านการบัญชีบริหาร ด้านการวางระบบบัญชี ด้านการบัญชีภาษีอากร ด้านการศึกษาและเทคโนโลยีการบัญชี และบริการเก่ียวกับการบัญชีด้านอื่นตามที่กาหนดโดยกฎกระทรวง ด้วย สาหรับผู้ทาบัญชี ให้หมายความรวมถึง ผู้ทาบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยการบัญชี พ.ศ.2543 4. ประมวลกฎหมายรัษฎากร ประมวลกฎหมายรษั ฎากร เปน็ กฎหมายเกีย่ วกบั การจัดเกบ็ ภาษเี งินได้จากบคุ คลหรือนิติบคุ คล ท่ีทาการค้ามีผลประกอบการกาไรจากการดาเนินงาน หรือ รายรับมากกวา่ รายจ่ายและหรือรายรับกอ่ นหักรายจา่ ย เป็นตน้ โดยจัดเก็บภาษเี งนิ ได้แบ่งเป็นแต่ละประเภทไดด้ ังนี้ 4.1 ภาษีเงินไดบ้ คุ คลธรรมดา 4.2 ภาษีเงนิ ได้นติ บิ ุคคล 4.3 ภาษีมลู ค่าเพมิ่ 4.4 ภาษีธุรกจิ เฉพาะ 4.5 ภาษีเงนิ ได้หกั ณ ท่ีจา่ ย 4.1 ภาษเี งินไดบ้ คุ คลธรรมดา ภาษเี งินได้บคุ คลธรรมดา คือ ภาษที ี่จดั เก็บจากบุคคลทว่ั ไป หรือ จากหน่วยภาษี ท่ีมีลักษณะพิเศษ ตามที่กฎหมายกาหนดและมีรายได้เกิดข้ึนตามเกณฑ์ท่ีกาหนด โดยปกติจัดเก็บเป็นรายปี รายได้ท่ีเกดิ ขึ้นในปีใดๆ ผู้มีรายได้มหี นา้ ท่ตี ้องนาไปแสดงรายการตนเองตามแบบแสดงรายการภาษีท่ีกาหนดภายในเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีถัดไป สาหรับผู้มีเงินได้บางกรณีกฎหมายยังกาหนดให้ยื่นแบบฯ เสียภาษีตอนครึ่งปี สาหรับรายได้ ที่เกิดข้ึนจริงในช่วงคร่ึงปีแรก เพ่ือเป็นการบรรเทาภาระภาษีที่ต้องชาระและเงินได้บางกรณี กฎหมายกาหนดให้ ผู้จ่ายทาหน้าท่ีหักภาษี ณ ท่ีจ่ายจากเงินได้ที่จ่ายบางส่วน เพ่ือให้มีการทยอยชาระภาษีขณะท่ีมีเงินได้เกิดขึ้นอีกด้วย 4.2 ภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ ุคคล ภาษเี งนิ ไดน้ ติ ิบคุ คล เปน็ ภาษีอากร ประเภททบี่ ญั ญัติไว้ ในประมวลรษั ฎากร จดั เก็บจากเงนิ ได้ของบริษัท หรือ หา้ งหุ้นสว่ นนิติบุคคล ทจ่ี ดทะเบยี นตามกฎหมาย 4.3 ภาษมี ลู คา่ เพิ่ม ผมู้ หี น้าทีเ่ สียภาษมี ลู ค่าเพม่ิ ประกอบการทขี่ ายสินคา้ หรอื ให้บรกิ ารในทางธุรกิจ หรือวิชาชีพเป็นปกติธุระ จะประกอบกิจการในรูปของบุคคลธรรมดา คณะบุคคลหรือ หา้ งห้นุ ส่วนสามญั ทมี่ ิใช่นติ ิบุคคล หรือนติ ิบุคคลใด ๆ หากมรี ายรับจากการขายสนิ คา้ หรือบทที่ 1 ความรเู้ กี่ยวกบั การดาเนนิ ธรุ กิจ
การวางรปู แบบระบบบัญชี Accounting system Formation 25ให้บริการเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี มีหน้าท่ีต้องย่ืนคาขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน โดยคานวณภาษที ่ีต้องเสยี จากภาษีขายหกั ด้วยภาษซี อื้ 4.4 ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ ภาษีธรุ กิจเฉพาะ ตามประมวลรัษฎากรประเภทจัดเกบ็ จากการประกอบกิจการเฉพาะอย่างแทนภาษีการค้าที่ถกู ยกเลิก ภาษีธุรกิจเฉพาะเร่ิมใช้บังคับใน พ.ศ.2535 พร้อมกันกับภาษีมูลค่าเพ่ิม กิจการท่ีจะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ เช่นธนาคาร ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณชิ ย์ หรือกฎหมายเฉพาะ การประกอบธุรกิจเงนิ ทนุ ธรุ กิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดติฟองซิเอร์ การรับประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต การรับจานาตามกฎหมายว่าด้วยโรงรบั จานา การประกอบกจิ การโดยปกติเย่ียงธนาคารพาณิชย์ เชน่ การให้กู้ยืมเงนิ คา้ ประกันแลกเปล่ียนเงินตรา ออก ซอ้ื ขายตั๋วเงนิ หรือรับสง่ เงินไปตา่ งประเทศด้วยวิธีตา่ งๆในกรณีมีปัญหาวา่ กจิ การใดเปน็ การประกอบกิจการโดยปกติเย่ียงธนาคารพาณิชย์หรือไม อธิบดีกรมสรรพากรจะเสนอให้คณะกรรมการวินิจฉยั ภาษีอากร พิจารณากาหนดขอบเขต และเงอ่ื นไข ของการประกอบกิจการดงั กล่าวน้นั และเม่ือคณะกรรมการวินจิ ฉยั ภาษีอากรได้วินิจฉัยแล้ว ให้ประกาศคาวนิ ิจฉัยนนั้ ในราชกิจจานุเบกษา การขายอสงั หาริมทรัพย์เป็นการค้าหรือหากาไรไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์นั้นจะได้มาโดยวิธีใดก็ตามทั้งน้ีตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับท่ี342) พ.ศ.2541 (ใชบ้ ังคบั ตั้งแต่ 1 มกราคม 2542 เปน็ ตน้ ไป) 4.5 ภาษีเงนิ ไดห้ ัก ณ ทจ่ี ่าย การหักภาษี ณ ท่จี า่ ย ของผู้จ่ายเงินได้พ่ึงประเมนิ ตามมาตรา 40 แหง่ประมวลรัษฎากร ซ่ึงมีหน้าที่หักภาษี ณ ท่ีจ่าย ตามคาส่ังอธิบดีกรมสรรพากรตามมาตรา 3 เตรสแห่งประมวลรัษฎากร ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เง่ือนไขและอัตราที่กาหนดไว้การคานวณหักภาษีณ ท่ีจ่าย ให้คานวณหักไว้ทกุ คร้ังที่จ่ายเงินได้พึงประเมิน ในอัตราร้อยละของยอดเงนิ ได้พงึ ประเมินทจี่ า่ ยในแต่ละครั้ง ตามประเภทเงนิ ไดพ้ ึงประเมนิ ท่กี าหนด แนวคิดในการประกอบธุรกิจของโลกในยุค พ.ศ. 2558 จากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทั่วโลกท่ีส่งผลต่อธุรกิจในปัจจุบัน การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) และการท่ีประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community : AEC) ในปี พ.ศ. 2558 การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้เง่ือนไขในการแข่งขันทางธุรกิจต้องอาศัยความรวดเร็ว และการรอบรู้ข่าวสารในการช่วงชิงความได้เปรียบเสียเปรียบจากคู่แข่งทางการค้า (Competitive advantage) การแข่งขัน(Competition) ซงึ่ ในปจั จบุ นั ในโลกธรุ กิจทเ่ี ขา้ ส่ยู คุ โลกาภิวตั น์ (Globalization) ไม่อาจจาแนก บทที่ 1 ความรูเ้ ก่ียวกบั การดาเนินธุรกิจ
26 Accounting system Formation การวางรูปแบบระบบบัญชีความแตกต่างระหว่างคู่แข่งภายในประเทศ และคู่แข่งต่างประเทศได้อีกต่อไปเพราะในบริบท(Context) ของโลกไรพ้ รมแดนนั้น การข้ามแดนในฐานะของพนั ธมิตรธรุ กจิ หรอื การรว่ มทุน หรือการไปจัดต้ังสาขาหรอื ตัวแทนในต่างประเทศถือเป็นปรากฏการณ์ธรรมดาเสมือนการขยายกจิ การไปยงั ต่างจังหวัด น่นั ยอ่ มหมายถึงยคุ แห่งการแข่งขนั ระดบั โลก(Global competition) เสมอื นอยูใ่ นสถานทแี่ ห่งเดียวกัน ดังน้ัน ผู้บรหิ ารจาเป็นท่ีจะต้องยอมรับการเปล่ียนแปลงและการพัฒนาของเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาก้าวไปขา้ งหน้าแบบก้าวกระโดด และรบั รู้ข่าวสารจากเครื่องมือส่ือสารท่ีมีการพัฒนาใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และสรรหาบุคลากรท่ีมีความรู้ ความชานาญในเรื่องเทคโนโลยีมาช่วยในการจัดการด้านข้อมูลข่าวสารและการบริหารจัดการในองค์กรการเรียนรู้และการดาเนินงานในธุรกิจการค้า การจัดต้ังตั้งองค์กร การตัดสินใจในการที่จะดาเนินงานธุรกิจในระยะเร่ิมแรก จึงนับว่ามีบทบาทสาคัญเป็นอย่างย่ิง การเลือกดาเนินธุรกิจท่ีถูกต้องจะสามารถช่วยให้การดาเนินงานบรรลุเป้าห มาย อย่างท่ีต้องการแล ะส ามารถประห ยั ดค่าใช้จ่ายทางด้าน ภ าษีอากรได้เป็ น อย่างมากสามารถประกอบผลการดาเนินงานให้มีความเติบโต และสามารถแข่งขันในตลาดการแข่งขันได้อย่างง่ายดายบทที่ 1 ความร้เู ก่ยี วกบั การดาเนินธรุ กิจ
การวางรปู แบบระบบบัญชี Accounting system Formation 27 แบบฝึกหดัแบบฝึกหัด แนวข้อสอบปรนัย เลอื กตอบ 15 ขอ้ ใหเ้ ลอื กคาตอบที่ถูกต้องเพยี งคาตอบเดยี ว1. ธรุ กจิ หมายถงึ ข้อใด1. กิจกรรมทางดา้ นเศรษฐกิจและการพาณิชยม์ เี ป้าหมายทางดา้ นกาไร2. กจิ กรรมด้านการพาณชิ ย์และบญั ชเี พ่อื ทาการคา้3. กจิ กรรมทางด้านทาการค้าเพื่อมุ่งหากาไร4. กิจกรรมเพอื่ การหาสินค้าซ้อื มาขายไปเพื่อทางการคา้2. คาว่า “System” หรือ “ระบบ” หมายถงึ ข้อใด1. ความสมั พันธข์ องหมวดบัญชีทีเ่ ก่ยี วข้องกัน2. การรวมตัวกนั ของหลายๆสิ่งเปน็ รูปแบบที่มีความเช่อื มโยงสัมพันธก์ นั3. การเชื่อมความสมั พนั ธ์ในระบบงานย่อยๆภายในองคก์ รให้มีความสัมพนั ธ์กนั เพื่อจัดการและบรหิ ารงาน4. ถกู ทุกข้อ3. ระบบย่อย (Subsystems) ได้แก่ ข้อใด1. เพือ่ แสวงหาลูกคา้ ในขณะทห่ี น้าท่ที างการเงินคือ การจัดหาแหล่งทุน2. หนา้ ทกี่ ารงานต่างๆท่ีอยู่ในระบบหลกั3. เป็นการรวมตัวหรอื การเชอื่ มความสมั พันธ์ในระบบงาน4. ความสมั พนั ธ์ในระบบงานย่อยๆภายในองค์กร4. คาว่า Policies หมายถึง1. จดุ ประสงคข์ องธุรกจิ 3. เป้าหมายของธุรกจิ2. วัตถุประสงค์ 4. นโยบายของธุรกิจ5. รปู แบบองคก์ รธรุ กจิ ไดแ้ ก่ข้อใด1. เปน็ นติ ิบุคคล ไมเ่ ปน็ นิตบิ ุคคล 3. ห้างหนุ้ สว่ นจากดั บรษิ ัทจากดั2 กิจการร่วมคา้ เจา้ ของคนเดียว 4 . หา้ งหุ้นส่วนสามัญ ห้างหุ้นส่วนจากดั6 ประเภทของการดาเนินงานธรุ กจิ ไดแ้ ก่1. ธุรกจิ ซอ้ื มา-ขายไป ธุรกจิ -ผลิตสินค้าขน้ึ มาเพ่ือขาย2. ธุรกจิ ซื้อมา-ขายไป ธรุ กิจ-บรกิ าร3. ธรุ กจิ ซือ้ มา-ขายไป ธรุ กิจ-ผลิตสินคา้ ขึน้ มาเพ่ือขาย ธุรกิจ-บริการ4. ธุรกิจซ้ือ-ขาย ผลิตสนิ คา้ บทที่ 1 ความรูเ้ กี่ยวกบั การดาเนินธรุ กิจ
28 Accounting system Formation การวางรูปแบบระบบบญั ชี7 กฎหมายธรุ กิจ ไดแ้ ก่1. กฎหมายแพง่ และพาณิชย์ 3. พระราชบญั ญัติการบัญชี พ.ศ. 25432. พระราชบญั ญัติวชิ าชพี บัญชี พ.ศ. 2547 4. ถกู ทกุ ข้อ8 ปัจจยั แวดล้อมทางธรุ กจิ ที่ควบคมุ ไม่ได้มคี วามหมายตรงกับข้อใด1. การบรหิ ารงานบคุ คล 3. แผนการกยู้ ืมของกจิ การ2. แผนการลงทนุ ของกจิ การ 4. กฎหมายการเมืองและการผูกขาด9 ขอ้ ใดหมายถึงกาไรสูงสุดในการประกอบธุรกจิ 1 การผลติ เพื่อให้เสียตน้ ทนุ ต่าทส่ี ดุ 2. การมงุ่ กอบโกยกาไรไวใ้ ห้มากท่ีสดุ เท่าที่จะทาได้ 3 การผลติ สินคา้ ให้ไดป้ รมิ าณมากทส่ี ดุ และมคี ุณภาพดี 4. จานวนผลกาไรมมี ากเพยี งพอเพื่อทจ่ี ะจงู ใจในการคา้10 ขอ้ ใดต่อไปน้ีไม่ใชล่ ักษณะของการดาเนินงานธรุ กจิ ประเภทบรกิ าร1 ธุรกจิ อาบอบนวด 3. ธรุ กจิ การพยาบาล2. ธรุ กจิ การท่องเทย่ี ว 4. ธรุ กจิ บรกิ ารโทรคมนาคม11 ธุรกจิ แบบใดทม่ี ีมาชา้ นานท่สี ุดในประเทศไทย1 ธุรกิจแฟรนไชส์ 3. ธรุ กจิ บรษิ ทั จากัด2. ธุรกิจสหกรณ์ 4. ธุรกจิ กิจการเจา้ ของคนเดียว12 ธุรกจิ ในข้อใดจะตอ้ งจดทะเบียนเป็นนติ บิ ุคคล 1 กจิ การเจา้ ของคนเดยี ว , ห้างหุ้นสว่ นสามัญ 2 ห้างหุ้นสว่ นสามัญ , บริษทั จากัด 3 ห้างหนุ้ ส่วนจากัด , บรษิ ัทจากดั 4 หา้ งหุน้ สว่ นสามญั , รฐั วิสาหกจิ13 ขอ้ ใดคือวตั ถปุ ระสงค์ในการจดั ต้งั ธุรกจิ 1. เพ่อื หาตลาดในการผลิต 2. เพื่อแสวงหาผลกาไร 3. เพ่อื ขายการผลิต 4. เพื่ออานวยประโยชน์ด้านสาธารณปู โภคบทที่ 1 ความรู้เกย่ี วกบั การดาเนินธุรกิจ
การวางรปู แบบระบบบญั ชี Accounting system Formation 2914 ขอ้ ใดเป็นสาเหตุสาคญั ท่ีทาให้เกิดกิจกรรมตา่ ง ๆ ทางธุรกิจ 1 ตอ้ งการสง่ สนิ ค้าไปขายยังต่างประเทศ 2 ทรพั ยากรของประเทศมีมากมายและเพ่อื ใช้ในประเทศ 3 ความต้องการบรโิ ภคสินค้า และบรกิ ารของมนุษย์ไม่มีทส่ี ้ินสดุ 4 ตอ้ งการใหป้ ระชาชนในประเทศมีมาตรฐานการครองชีพที่ดีข้นึ15 ขอ้ ใดต่อไปนีเ้ ปน็ การประกอบธรุ กิจแบบเจ้าของคนเดยี ว 1 นายวันชยั ขายกว๋ ยเตี๋ยวลูกชน้ิ หมู 2 นายปญั ญา ขายข้าวมันไกห่ า้ ดาว 3 แอน เปดิ รา้ นเจียงลูกช้นิ ปลา 4 โอ๋ ขายส่งลูกชิ้นแชมป์เฉลย ขอ้ คาตอบ ขอ้ คาตอบข้อ คาตอบ 63 11 411 74 12 222 84 13 332 91 14 344 10 1 15 151 บทที่ 1 ความร้เู ก่ยี วกบั การดาเนินธรุ กจิ
Search
Read the Text Version
- 1 - 29
Pages: