โครงงานภมู ศิ าสตรช์ าติไทย เรอื่ ง สนกุ กบั การเรียนร้ภู มู ศิ าสตร์ด้วยระบบภาพ 3 มติ ิ Geographic Inquiry Process Model and 3 D Map ผจู้ ดั ทำ 1. เด็กหญิงชญาดา อุทก ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 2. เด็กหญงิ แพรตะวัน ศรบี ญุ เรือง ประถมศกึ ษาปีที่ 5 3. เดก็ ชายจิรายุ พิระภาค ประถมศึกษาปีที่ 5 ท่ีปรึกษาโครงงาน คุณครนู รศิ รา นครวงษ์ คณุ ครกู นกวรรณ บุญนนั โครงงานนอ้ี ยภู่ ายใต้โครงการ 8 Cs ฐานคนดี ฐานสมรรถนะ วิถีนวัตกรรม และวฒั นธรรมคุณภาพ โรงเรยี นบ้านโนนยาง อำเภอมหาชนะชยั จังหวัดยโสธร สังกดั สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต 1 คณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน
โครงงานภมู ศิ าสตรช์ าตไิ ทย เรอ่ื ง สนกุ กับการเรียนรูภ้ มู ิศาสตร์ด้วยระบบภาพ 3 มิติ Geographic Inquiry Process Model and 3 D ผ้จู ัดทำ 1. เดก็ หญิงชญาดา อทุ ก ( องุ๋ อง๋ิ ) นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 5 2. เดก็ หญงิ แพรตะวนั ศรบี ุญเรือง ( ตน้ หอม ) นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 5 3. เด็กชายจิรายุ พิระภาค ( เก้า ) นักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ท่ีปรึกษาโครงงาน คุณครนู ริศรา นครวงษ์ คุณครกู นกวรรณ บุญนัน โครงงานน้อี ยู่ภายใต้โครงการ 8 Cs ฐานคนดี ฐานสมรรถนะ วิถีนวัตกรรม และวฒั นธรรมคุณภาพ โรงเรยี นบ้านโนนยาง อำเภอมหาชนะชัย จงั หวดั ยโสธร สังกดั สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษายโสธร เขต 1 E-mail [email protected] 095-6020785
ก บทคดั ย่อ หัวข้อโครงการ เร่อื ง สนกุ กับการเรยี นรู้ภมู ศิ าสตร์ด้วยระบบภาพ 3 มิติ Using Google Earth for Geographical Learning And Model 3 D ผจู้ ัดทำโครงการ 1. เดก็ หญิงชญาดา อุทก 2. เด็กหญงิ แพรตะวนั ศรีบุญเรือง 3. เด็กชายจิรายุ พริ ะภาค ครูทีป่ รกึ ษา คณุ ครูนรศิ รา นครวงษ์ คณุ ครูกนกวรรณ บุญนัน ผู้บรหิ ารสถานศึกษา นางรตั นาวงศ์ เลาะหะนะ โรงเรียนบ้านโนนยาง ตำบลพระเสาร์ อำเภอมหาชนะชยั จงั หวดั ยโสธร .............................................................................................................................. บทคัดย่อ โรงเรยี นบ้านโนนยาง ได้สรา้ งนวตั กรรมการเรียนการสอนจากการนำโปรแกรม Google Earth มาใช้เป็นเครือ่ งมือในการจัดทำโครงงานการเรยี นรู้ทางภูมิศาสตร์ ซง่ึ โปรแกรมท่ีศึกษาน้ีเป็นอีก แนวทางหน่งึ ในการจดั การเรียนรู้ ท่ีทำให้ผู้เรียนเขา้ ใจเน้ือหาวชิ าในศาสตร์ที่เรียนไดด้ ยี ิ่งข้ึน โดยเฉพาะ ภูมิศาสตร์ (Geography) ซง่ึ เป็นศาสตร์ท่ศี ึกษาความสมั พันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมธรรมชาติกบั ทางสงั คมที่ ปรากฏอย่ใู นพ้ืนที่ต่าง ๆ ผู้เรียนตอ้ งการนำเสนอในประเด็นทีส่ ำคญั ไดแ้ ก่ 1) การจดั การเรียนรใู้ นศตวรรษ ที่ 21 2) การจัดทำโครงงานที่เชื่อมตอ่ กบั การเรยี นรู้วชิ าภมู ศิ าสตร์ 3) การใช้ Google Earth ในการจัดทำ โครงงานภมู ิศาสตร์ โดยพบว่าการนำ Google Earth มาใชใ้ นการจดั การศึกษาภูมิศาสตร์ชาติไทย ทำให้ ผู้เรียนเหน็ ภาพและเข้าใจในเนอื้ หาสาระวิชา ทัง้ ลักษณะกายภาพของชาตไิ ทย สถานท่ีสำคัญ และภูมภิ าค ตา่ ง ๆ ทวั่ ประเทศ และประเทศเพ่ือนบ้าน เป็นต้น จะเห็นได้วา่ Google Earth มีความสำคัญต่อการจัดการ เรยี นรภู้ ูมิศาสตร์ นอกจากน้ียงั ชว่ ยใหเ้ กิดการเรียนรไู้ ด้รวดเร็วข้นึ และสามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ในกาดำรง ชวี ิตประจำวันได้ ในด้านการศกึ ษาเมื่อผู้เรียนนำโปรแกรม Google Earth มาปรบั ประยกุ ต์ใชใ้ นการเรียน ทำให้กลายเครอ่ื งมอื ในการค้นควา้ ขอ้ มูล ร้จู กั คน้ หา และค้นพบภูมิศาสตร์ชาตไิ ทยดว้ ยตนเอง เด็กมสี ว่ น ร่วมในการจัดการเรียนการสอนมากขนึ้ มีทักษะในการเขา้ ใชง้ านด้วยตนเอง เป็นการเปิดโลกแหง่ การเรยี นรู้ ไดอ้ ยา่ งยอดเยี่ยม นักเรยี นมีการต้งั คำถามเชงิ ภูมิศาสตร์ มีการรวบรวมขอ้ มูลจากการอ่านและแปล ความหมายจากแผนที่ ภาพถ่าย ขอ้ มูลสถติ ิ ข้อมูลเชงิ ปริมาณและเชงิ คุณภาพ รวมถงึ การเกบ็ ขอ้ มลู จาก การสอบถาม การออก ภาคสนาม และการอ้างอิงจากเอกสาร การออกภาคสนาม นบั ว่ามีความสำคัญเป็น อยา่ งมากในการศึกษาทางภมู ิศาสตร์ เป็นการฝึกทักษะ การสังเกตในพ้ืนทจี่ ริง จากการสัมภาษณ์ การ สอบถาม การบันทึกภาพ การออกภาคสนามจะช่วยกระตุน้ ให้เกดิ ความอยากรูอ้ ยากเหน็ เพลดิ เพลนิ ชว่ ยใหเ้ กดิ การเรยี นรู้เชงิ รุก (Active Learning) และนำไปสู่การสร้างและพัฒนานวตั กรรมต่อไป คำสำคญั : Google Earth, การจัดการเรียนรู้, ภูมศิ าสตร์
ข กติ ตกิ รรมประกาศ โครงงานภูมิศาสตร์ชาตไิ ทยนี้ ไดข้ อเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกโครงงานทีม่ กี ารดำเนนิ งาน ยอดเยีย่ มตามโครงการ “8Cs ฐานคนดี ฐานสมรรถนะ วถิ ีนวตั กรรม และวัฒนธรรมคณุ ภาพ” ประจำปี การศึกษา 2565 ซึง่ เนอ้ื หาโครงงานเล่มนี้ มีความสมบูรณแ์ ละได้เรมิ่ ตั้งแต่การนำเสนอโครงงาน บทคัดย่อ หลกั การและเหตุผล ตลอดจนผลการดำเนนิ งาน และการวิจัยนวัตกรรมโครงงาน คณะนกั เรียนผู้จดั ทำโครงการรูส้ กึ ยินดีเป็นอย่างมากหากท่านไดร้ ับประโยชน์จากโครงการ เลม่ น้ีเพราะจะทำใหผ้ ู้ศกึ ษาไดม้ ีความร้แู ละคน้ พบการใช้นวัตกรรม เทคโนโลยใี หม่ๆ ที่สามารถนำมาใช้ กับการเรยี น การสอนได้อย่างดเี ยีย่ มในวชิ าภมู ศิ าสตร์ ท้ายนค้ี ณะผู้จัดทำโครงงาน ต้องขอขอบพระคณุ คณุ ครนู ริศรา นครวงษ์ คณุ ครกู นกวรรณ บญุ นัน ทปี่ รกึ ษาโครงงาน และท่านผ้อู ำนวยการโรงเรียน นางรตั นาวงศ์ เลาะหะนะท่ีปรกึ ษารว่ มโครงงาน เปน็ อยา่ งยงิ่ ท่ไี ด้แนะนำจนโครงการสำเร็จลุล่วงไปได้ดว้ ยดี และผู้จดั ทำโครงงานหวังวา่ โครงการเล่มนี้ จะเปน็ ประโยชนแ์ ก่ทา่ นไม่มากกน็ ้อยหากผิดพลาดประการใดตอ้ งกราบขออภัยมา ณ ที่น้ีด้วย ขอขอบพระคณุ คณะผู้จัดทำ Geographic Inquiry Process Model and 3 D Map
1 บทที่ 1 บทนำ หลกั การและเหตุผล/ที่มาความสำคญั ในปัจจุบนั ววิ ฒั นาการในดา้ นเทคโนโลยมี ีความ เจรญิ ก้าวหน้าทำให้เทคโนโลยตี า่ ง ๆ ไดเ้ ข้ามา มบี ทบาท ต่อสงั คมไทยเป็นอยา่ งมาก จนทำ ให้เกิดความ เปล่ยี นแปลงทางด้านสงั คม เศรษฐกจิ และ สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะดา้ นการตดิ ตอ่ สอ่ื สารท่ีเปน็ ไปอย่างสะดวก และรวดเร็ว เราสามารถติดต่อส่ือสารกนั โดยผา่ นเครอ่ื งมืออิเลก็ ทรอนิกส์ เชน่ โทรศพั ท์มือถือ อนิ เตอรเ์ น็ต วทิ ยุ โทรทัศน์ เปน็ ต้น และอุปกรณ์ อเิ ลก็ ทรอนกิ สเ์ หลา่ นยี้ งั เปน็ สื่อกลางในการรับร้ขู ่าวสาร ตลอดจนสามารถส่งข่าวสารข้อมลู ไปยังสถานทต่ี ่างๆ ทั่ว โลกได้อย่างรวดเรว็ นอกจากน้ยี ังใช้ในการสืบค้นข้อมูล ซงึ่ เราสามารถสืบค้นข้อมลู หรอื คน้ คว้าหาความรู้ จาก แหลง่ ข้อมูลทัว่ โลกได้ในเวลาอนั รวดเรว็ การศกึ ษาจำเปน็ ตอ้ งมีการพฒั นาเปลยี่ นแปลงจาก ระบบ การศึกษาท่ีมีอยู่เดิม เพื่อให้ทนั ต่อการเปลยี่ นแปลง ของเทคโนโลยแี ละสภาพสังคมในปัจจุบัน จงึ ทำให้ ตอ้ งมี การพฒั นาเกี่ยวกบั นวัตกรรมการศกึ ษาท่ีจะนำมาใช้เพือ่ แกไ้ ขปญั หาทางด้านการศกึ ษาในด้านต่าง ๆ เชน่ ปัญหา ท่ีเกยี่ วเนือ่ งกับสถานทีเ่ รยี นไมเ่ พียงพอ จำนวนผ้เู รยี นท่ีมากขึ้น การพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมยั การผลิตและ พฒั นาส่ือใหม่ ๆ ขึน้ มาเพื่อตอบสนองการเรียนรขู้ อง มนุษย์ให้เพมิ่ มากขึ้นภายในระยะเวลาที่ สั้นลง การใช้ นวัตกรรมมาประยกุ ต์ในด้านการศึกษาจงึ มสี ว่ นชว่ ยให้ การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธภิ าพ ภมู ิศาสตร์จดั เปน็ สาระการเรยี นร้ใู นกลุ่มสาระการ เรียนรูส้ งั คมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม มีขอบขา่ ยการ เรียนรู้ทีม่ ีสาระหลกั ท่ีเกีย่ วข้องกบั ศาสตรต์ า่ งๆหลาย ศาสตร์ คอื สิ่งแวดล้อม มนุษยว์ ทิ ยา ทมี่ ุ่งให้มีความ เข้าใจในเร่ืองมิตสิ มั พันธท์ างภมู ศิ าสตร์กับสภาพแวดล้อม ตา่ ง ๆ ท่ีปรากฏอย่บู นโลก ความสัมพันธต์ ่อกนั และกัน รวมถึงตอ่ การดำรงชีวติ ของมนุษย์การจัดการเรยี นรู้ตอ้ ง ให้ผ้เู รียนรจู้ ักตนเอง แสวงหาความรแู้ ละประสบการณ์ใน การศึกษาความสัมพนั ธ์ของมนุษยแ์ ละสง่ิ แวดล้อมเชิงมิติ สัมพันธ์ ท้ังในสว่ นของประเทศไทยกับโลกทเ่ี ราอาศัยอยมู่ ี ความสามารถท่ีจะอธบิ ายลักษณะตำแหน่งแหลง่ ทอ่ี ยู่อาศัย ประเทศต่าง ๆ ในโลกปรากฏการณข์ องส่งิ แวดล้อม ทางธรรมชาติและวฒั นธรรม Google ไดเ้ ขา้ มามบี ทบาทในดา้ นการศึกษามากขึน้ โดยได้ผลติ โปรแกรมและซอฟตแ์ วร์ ต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกใหบ้ ุคลากรทางการศึกษารวมถึงบคุ คลท่ัวไป ไดใ้ ชใ้ นการเรียนการสอน Google Earth ก็เปน็ อกี หน่ึงโปรแกรมท่ีบริษทั Google ได้สร้างข้นึ สำหรบั การใชใ้ นเคร่ืองคอมพวิ เตอรส์ ว่ นบุคคล หรือในสมาร์ทโฟน เพือ่ ดู ภาพถา่ ยดาวเทยี ม ด้วยความสามารถของ Google Earth นั้นมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในมุมมองแบบ Street View ท่ีผใู้ ชง้ านสามารถดู ภูมศิ าสตร์ ทัศนยี ภาพในประเทศ นน้ั ๆ ทัว่ โลก จากภาพ 3 มิติ และมุมมอง 360 องศา ในดา้ นของการศึกษาสามารถนำโปรแกรม Google Earth มาประยุกตใ์ ช้เป็นสือ่ การสอนดิจทิ ัลชว่ ยในการจดั การศึกษาเช่น วิชาภูมศิ าสตร์ และทัง้ ยังเปน็ หนง่ึ ในคุณลักษณะของการศึกษายคุ ใหม่ทต่ี ้องนำเอาเทคโนโลยีมาใชป้ ระโยชน์ ใหเ้ กิดความน่าสนใจและมี ประสทิ ธภิ าพมากย่ิงขึ้น ผเู้ รียนจงึ เล็งเห็นวา่ ในการเรียน ศกึ ษาภูมิศาสตร์ทีใ่ ช้รปู แบบการบรรยายประกอบ กบั แผนทจี่ ำลองหรือลูกโลก แบบจำลองที่มขี นาดเลก็ ซึ่งเมอื่ นำมาใชใ้ นห้องท่ีมีนักเรยี น จำนวนมากจงึ ทำให้ ขาดความชดั เจนในเน้ือหา มองเห็นไมท่ ั่วถึงและยงั ขาดความนา่ สนใจ ทำใหผ้ ูเ้ รยี นไมเ่ ข้าใจเน้ือหาภูมิศาสตร์ จึงไมส่ ามารถใช้เครื่องมือทางภมู ศิ าสตร์เพ่ือคน้ คว้าดว้ ยตนเองได้ ผเู้ รียนจึงมีความคิดทจ่ี ะนำ การเรยี นแบบ ค้นพบเข้ามาใชใ้ นการเรียนวิชาภมู ศิ าสตร์ เพ่อื ให้ตวั นักเรยี นมสี ว่ นร่วมในการเรียนการสอนมากขึ้น
2 และมีโอกาสได้ศึกษาหาข้อมูลดว้ ยตนเอง เพราะวธิ กี ารเรยี นแบบคน้ พบเปน็ วิธีท่คี รผู สู้ อนมีหน้าทเ่ี พยี งแนะนำ และต้งั คำถามให้นักเรยี นไดค้ ้นหาคำตอบดว้ ยตนเอง ไมว่ า่ จะเปน็ เรอื่ งการศึกษาลักษณะภมู ปิ ระเทศ ตำแหน่ง ท่ตี งั้ และอนื่ ๆ โดยใช้โปรแกรม Google Earth มาเปน็ สอ่ื ดจิ ิทลั ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ให้กบั นกั เรยี นแทนสือ่ ลูกโลกจำลอง ทสี่ ามารถให้นักเรยี นไดศ้ ึกษาค้นควา้ เพ่ือ กระต้นให้เกิดความนา่ สนใจ ช่วยลดคา่ ใชจ้ า่ ย ประหยดั เวลาและยงั เป็นหนงึ่ ในคณุ ลักษณะของการศึกษายุค ใหม่ที่ต้องนำเอาเทคโนโลยีมาใชป้ ระโยชน์ให้เกดิ ประสทิ ธิภาพสูงสุด การจดั การเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21 การพฒั นาทกั ษะของผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21 เป็นมติ ิใหม่ของวงการศึกษาทที่ กุ องค์กร ทง้ั ในระดับประเทศ ลงมาถึงระดับทม่ี หี น้าท่ีโดยตรงหรอื ท่ีมีส่วนเก่ยี วข้องต่างให้ความสำคัญและร่วมมือกนั วางแผนการพฒั นาผเู้ รียนอย่างเปน็ ระบบ เพื่อให้ผูเ้ รยี นได้มที กั ษะสำคัญและจาเป็นบนพื้นฐานของคุณธรรม จริยธรรมในการอยู่รว่ มกนั ในสงั คมโลก เป็นผู้ที่มคี ุณลักษณะที่พึงประสงค์ของพลเมืองโลก และร่วมมอื กัน สรา้ งสรรคส์ ง่ิ ทีเ่ ปน็ ประโยชน์ตอ่ มวลมนษุ ย์และสภาพแวดล้อมในโลก สำหรับการจดั การศึกษาในศตวรรษท่ี 21 ผูเ้ รียนพงึ ได้รับการพัฒนาท้ังดา้ นความรู้ และทกั ษะทจี่ ำเปน็ สาหรบั การดารงชวี ิต ดังน้ี 1. ความรใู้ นวชิ าหลกั ได้แก่ ภาษา (ภาษาแม่ และภาษาโลก) ศิลปะ วิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ภมู ศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ หน้าที่พลเมืองและการปกครอง 2. ความรูใ้ นหัวขอ้ ทเี่ กย่ี วข้องในศตวรรษท่ี 21 เชน่ ความรู้เกย่ี วกับโลก การเป็นพลเมืองดี สุขภาพ ส่ิงแวดล้อม ความรู้ดา้ นการเงิน เศรษฐศาสตร์ ธรุ กิจละการเปน็ ผปู้ ระกอบการ 3. ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี ไดแ้ ก่ การร้เู ทา่ ทนั สารสนเทศ การรู้เทา่ ทันสือ่ และการรเู้ ท่า ทันเทคโนโลยี 4. ทกั ษะการเรียนรแู้ ละนวตั กรรม ไดแ้ ก่ ความคดิ สร้างสรรค์และนวัตกรรม การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณและ การแกป้ ัญหา การสื่อสารและการรว่ มมือ 5. ทกั ษะชวี ิตและอาชีพ ได้แก่ ความยดื หยุน่ และความสามารถในการปรบั ตวั มีภาวะของผู้นำในการ เปลีย่ นแปลงในทางสร้างสรรค์ มีทักษะทางสงั คมรอบตน และการเรียนรูข้ ้ามวัฒนธรรม มคี วามคดิ ริเริ่มและ มที ักษะในการจดั การทศิ ทางของตนเอง (ชนี้ ำตนเอง) การเพิ่มผลผลติ และความรบั ผิดชอบ ภาพที่ 1 ทักษะการเรยี นรูใ้ นศตวรรษที่ 21
3 จากภาพท่ี 1 ทักษะการเรยี นร้ใู นศตวรรษท่ี 21 จะเหน็ ไดว้ า่ นอกจากความรใู้ นวชิ าหลกั (วิชาแกน) และแนวคดิ สำคัญในศตวรรษที่ 21 ทกั ษะด้านสารสนเทศ สอ่ื และเทคโนโลยี ทักษะการเรียนรแู้ ละนวัตกรรม ทกั ษะชีวิตและอาชพี ยังมสี ่วนท่สี นับสนุนการจัดการศึกษาในศตวรรษท่ี 21 ได้แก่ มาตรฐานและการประเมนิ หลกั สตู รและการสอน การพัฒนาทางวิชาชีพ และสภาพแวดลอ้ มการเรียนรู้ ทีม่ ีส่วนสำคญั ในการพฒั นา ทักษะของผู้เรยี น โดยภูมิศาสตรถ์ อื ว่าเปน็ ความรูว้ ิชาหลักทมี่ ีความจาเปน็ และความร้เู กย่ี วกบั โลกและ ส่งิ แวดล้อมเปน็ แนวคิดสำคัญในศตวรรษที่ 21 ท่ีสามารถนากเู กิลเอริ ธ์ มาใช้เปน็ เครื่องมือท่ใี นการศึกษาเรยี นรู้ ศาสตร์ดังกล่าวได้อย่างดแี ละมีประสทิ ธภิ าพ ดงั นนั้ ภมู ิศาสตร์จงึ เปน็ เนื้อหาหลักท่ีสำคัญในการจัดการเรยี นรู้ และมีกูเกลิ เอริ ์ธเป็นทกั ษะดา้ นเทคโนโลยีท่ีนามาใชใ้ นการสง่ เสริมการเรยี นรู้ ทเ่ี ป็นประโยชนต์ อ่ การจัดการ เรยี นรมู้ ากยง่ิ ข้ึน การจดั การเรยี นรภู้ มู ิศาสตร์ สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร (2560) ไดป้ รบั ตัวชว้ี ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระภมู ิศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 เพราะเห็นวา่ สาระภูมิศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่เก่ยี วข้องทั้งวิทยาศาสตร์ และสังคม ศกึ ษา สามารถบรู ณาการกับศาสตรอ์ ่นื ๆ ได้ เชน่ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และคณติ ศาสตร์ รวมทั้งพจิ ารณาแลว้ เห็นว่า ปัจจุบันประเทศไทย และพน้ื ท่ีตา่ ง ๆ ของโลกเกดิ ภาวะวิกฤตดา้ นกายภาพ ด้าน สิ่งแวดล้อม และมีผลกระทบอย่างรนุ แรงมากข้นึ เร่อื ย ๆ นอกจากนั้นกระแสโลกาภวิ ัตน์ ความทันสมัยของ วิทยาการและเคร่อื งมือทางภูมศิ าสตร์ ท่เี ปน็ เทคโนโลยีสารสนเทศทางภมู ิศาสตร์มมี ากขน้ึ ตลอดจนการ อนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม เพ่อื การสร้างความยง่ั ยนื ซ่งึ การเรียนรู้เพียงสาระสาคัญของสาระ ภมู ศิ าสตรไ์ มเ่ พียงพอตอ่ การเปลี่ยนแปลงทเี่ กิดขึ้นอย่างรวดเรว็ และบางคร้งั เกดิ ขึ้นโดยคาดการณไ์ ม่ได้ ผู้เรียนจึงตอ้ งมีทกั ษะ กระบวนการ และความสามารถทางภูมศิ าสตร์ เพอื่ เปน็ เคร่ืองมือในการเรียนรู้ ประกอบกนั ดงั นน้ั จึงจาเป็นทจ่ี ะต้องมีการทบทวนและปรับปรงุ สาระภูมิศาสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคม ศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 เป้าหมายของการเรยี นภูมิศาสตร์ คือ ใหผ้ เู้ รียนเข้าใจลกั ษณะทางกายภาพของโลก ปฏสิ มั พันธ์ ระหว่างมนษุ ย์กบั สิ่งแวดล้อมท่กี ่อให้เกดิ การสร้างสรรคว์ ถิ ีการดาเนินชวี ิต เพื่อใหร้ ู้เทา่ ทัน ปรับตัวตามการ เปลยี่ นแปลงของส่งิ แวดล้อม ตลอดจนสามารถใชท้ ักษะ กระบวนการ ความสามารถทางภมู ศิ าสตร์ และ เคร่อื งมือทางภูมศิ าสตรจ์ ัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมตามสาเหตแุ ละปัจจยั อันจะนาไปส่กู ารปรบั ใช้ในการ ดาเนนิ ชีวิต ดงั น้ันเพอ่ื ให้การเรียนรสู้ าระภมู ศิ าสตร์บรรลุผลตามเปา้ หมายท่กี าหนดไว้ จึงไดก้ าหนดทิศทางสา หรับผ้สู อนใช้เปน็ แนวทางการจัดการเรยี นร้ทู ส่ี ง่ ผลให้ผู้เรยี นมีความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถ และทักษะ กระบวนการทางภูมศิ าสตร์ ท่ีสะทอ้ นสมรรถนะสาคญั และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ของผเู้ รียน ให้สอดคล้อง กับจุดมุ่งหมายของหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พ.ศ.2551 ที่มงุ่ พัฒนาให้เปน็ คนดี มีปญั ญา มี ความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และการประกอบอาชพี จึงได้กาหนดแนวทางการจัดการเรยี นรู้ ซง่ึ ประกอบดว้ ย (1) ความรู้ความเข้าใจทางภมู ิศาสตร์ (2) ความสามารถทางภมู ิศาสตร์ (3) กระบวนการทาง ภมู ศิ าสตร์ (4) ทักษะทางภูมิศาสตร์
4 จากเปา้ หมายของการเรยี นสาระภมู ิศาสตร์ท่ีข้างตน้ สามารถสรปุ ดงั ภาพที่ 2 ภาพที่ 2 เป้าหมายของการเรียนภมู ิศาสตร์ ท่ีมา : สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา (2560 : 3) ซง่ึ แนวทางในการจดั เรียนรตู้ าม การรเู้ รือ่ งภมู ิศาสตร์ (geo-literacy) เป็นความรพู้ ้นื ฐาน ของผ้เู รียนในครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 21 ใช้ในการแสวงหาความรู้ และตอบคำถามทีเ่ กย่ี วข้องกับทำเลท่ีตัง้ หรือ ความสมั พันธข์ องส่ิงต่าง ๆ บนพนื้ ผวิ โลก การพัฒนาให้ผเู้ รยี นสามารถดำรงตนอยูใ่ นวถิ ีของการเปน็ พลเมือง โลกทด่ี ี ตลอดจนเขา้ ใจการเปล่ยี นแปลงของสิง่ แวดลอ้ มได้อย่างถูกต้อง จำเปน็ ทีจ่ ะต้องทาให้ผ้เู รียนตระหนัก ในการร้เู ร่ืองภูมศิ าสตร์ ผู้สอนควรจะสอดแทรกการร้เู รอ่ื งภูมศิ าสตรใ์ นระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรยี น การสอน การรูเ้ ร่ืองภมู ิศาสตรเ์ ปน็ ลักษณะท่แี สดงความสามารถในการใช้ความเข้าใจเชงิ ภูมศิ าสตร์ (ability to use geographic understanding) และการใหเ้ หตผุ ลทางภมู ศิ าสตร์ (geographic reasoning) เพอ่ื การ ตัดสินใจเชิงภมู ิศาสตร์อย่างเป็นระบบ (systematic geographic decision) ในการแก้ไขปัญหาและวางแผน ในอนาคต (problem solving and future planning) วัตุประสงค์ 1. เพ่อื พฒั นาทักษะของผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 ทักษะด้านสารสนเทศ สอื่ และเทคโนโลยี ทกั ษะการเรียนรู้ และนวัตกรรม 2. เพ่อื ให้นักเรยี นมที ักษะ ให้มีความรู้ ความสามารถใช้โปรแกรมในการสืบค้นขอ้ มลู ได้ 3. เพ่อื พฒั นารูปแบบการศกึ ษาภมู ิศาสตร์รว่ มกับกระบวนการสืบค้นแผนที่แบบ 3 มติ ิ ทางภูมศิ าสตร์ โดยใช้ Google Earth ในการจดั การเรียนรู้ภูมศิ าสตร์ 4. ครแู ละนักเรยี นมเี คร่ืองมือเพอื่ เสรมิ สร้างการเรยี นรรู้ ่วมกนั ในการจดั การเรยี นการสอนในช้นั เรียน
เปา้ หมาย 5 1. ผ้เู รียนเขา้ ใจลกั ษณะทางกายภาพของโลก ปฏิสมั พันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิง่ แวดล้อมท่ีก่อใหเ้ กดิ การสรา้ งสรรคว์ ถิ ีการดาเนนิ ชวี ิต เพอื่ ใหร้ เู้ ทา่ ทัน ปรับตวั ตามการเปล่ยี นแปลงของส่ิงแวดลอ้ ม ตลอดจน สามารถใช้ทักษะ กระบวนการ ความสามารถทางภมู ิศาสตร์ และเคร่ืองมือทางภมู ิศาสตร์จดั การทรัพยากร และสิ่งแวดลอ้ มตามสาเหตแุ ละปจั จยั อันจะนาไปสู่การปรับใชใ้ นการดำเนินชวี ิต 2. เกดิ คุณลักษณะที่ดีต่อผู้เรยี น ในการสร้างความรู้ ความเขา้ ใจทนี่ ำไปสู่ข้อเทจ็ จรงิ ตา่ งๆทเี่ กยี่ วข้องกบั มนษุ ย์ และธรรมชาตสิ ิ่งแวดลอ้ มรอบตัวได้ แนวคดิ ทฤษฎี และงานวจิ ัยท่เี ก่ียวข้อง การดำเนนิ โครงงานครั้งนี้ ผดู้ ำเนนิ โครงงานได้แนวคิด เอกสาร และงานวิจยั เก่ียวข้องเพ่ือใช้ เปน็ แนวทางในการกำหนดโครงงาน โดยมีรายละเอยี ดดังน้ี 1. แนวคิดตามกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) 2. แนวคดิ การพัฒนารูปแบบการจดั การศกึ ษานอกสถานท่ีเสมอื นร่วมกบั กระบวนการสืบสอบและแผนท่แี บบ 3 มิตทิ างภูมิศาสตร์ เพื่อเสริมสร้างการรเู้ ร่ืองภูมศิ าสตร์ 3. แนวคิดองค์ความรู้และความเปน็ ศาสตร์ของสาขาวชิ าภูมศิ าสตร์และภมู สิ ารสนเทศศาสตร์ ของภาควชิ า ภูมศิ าสตร์ คณะสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ 4. ภาพถา่ ยจากดาวเทยี มทัว่ โลกรวมถึงสงิ่ ปลูกสรา้ ง 3 มติ แิ ละภูมิประเทศ สมู่ มุ มอง 360 องศา 1. แนวคดิ ทางภูมิศาสตร์ Geography concept แนวคดิ ทางภูมศิ าสตร์ทเี่ ก่ียวข้องกบั “ทำเล”และ“ทตี่ ้ัง” การทำความเข้าใจในความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งมนุษย์กบั ส่งิ แวดลอ้ มบนพน้ื โลก โดยเฉพาะอย่างย่ิง พฤติกรรมเชงิ สถานท่ี (Spatial behavior) ของมนุษย์ ไมส่ ามารถทำไดด้ ีด้วยการใชก้ ารสงั เกตและอธบิ ายจากสิ่งท่ีได้พบเห็นดว้ ยวิธีการพรรณนาหรือ การวเิ คราะห์ดว้ ยทฤษฎแี ละแบบจำลองเชิงปรมิ าณเทา่ นนั้ กจิ กรรมและการแสดงออกของมนุษยใ์ นแตล่ ะ สถานทบี่ นพืน้ โลกล้วนมคี วามเกย่ี วพันกนั อยา่ งลึกซ้ึง และแยบยลกับสิ่งแวดล้อมท้ังทางกายภาพและทาง ชวี ภาพที่ไม่อาจตีความเอาจากพฤติกรรมท่แี สดง และสามารถสงั เกตได้ (Overt behavior) โดยลำพงั พฤติกรรมเชิงสถานที่ของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไปตามความแตกต่างในการรบั รูห้ รือการมองสถานที่น้ันๆ ย่ิงไปกว่าน้ี การที่แต่ละคนประกอบกิจกรรมแตกต่างกันไปยังเปน็ เพราะอิทธพิ ลของปจั จัยอกี 2 กลุ่ม กล่าวคอื กลุ่มแรกเป็นปัจจัยภายในซึ่งเป็นปจั จยั ทางจิตวทิ ยาเป็นส่วนใหญ่ เช่น การเรียนรู้ ประสบการณ์ ความสามารถทางสติปญั ญา ทัศนคติ และบุคลกิ ภาพ เป็นตน้ อีกกลุ่มหน่ึงเปน็ ปัจจยั ภายนอก เปน็ ต้นว่า ระดับการศึกษา ฐานะทางเศรษฐกจิ สถานภาพและตำแหนง่ หนา้ ทีใ่ นสงั คม และเวลา กลา่ วโดยสรปุ ในสว่ นของการวเิ คราะหเ์ ชิงพฤติกรรมศาสตรก์ บั การศึกษาภมู ศิ าสตรค์ อื การศึกษาภมู ิศาสตร์ในปจั จบุ ัน โดยเฉพาะอย่างย่ิง ภมู ิศาสตรม์ นุษยม์ ใิ ชเ่ ปน็ เพียงการเสาะแสวงหาขอ้ เทจ็ จรงิ หรือตัวเลขที่เกย่ี วข้องกับมนุษย์ และสถานที่ แตเ่ ป็นความพยายามทจ่ี ะทำความเข้าใจในกิจกรรมและพฤติกรรมของมนุษยท์ ี่แสดงออกในแต่ ละสถานที่วา่ มีอะไรบา้ ง และทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ด้วยเหตนุ ้สี ำหรบั ผูท้ ส่ี นใจจะศกึ ษาภูมิศาสตร์มนษุ ย์อย่าง จรงิ จัง การทำความคุ้นเคยกับเทคนคิ และวธิ กี ารจึงยังไม่เป็นการเพียงพอ หากแตต่ ้องทำความเข้าใจใน สาระสำคญั และแนวคิดของสาขาวิชาใหไ้ ดเ้ ป็นอยา่ งดีดว้ ย (Lowe and Pederson, 1983)
6 2. แนวคิดองค์ความรแู้ ละความเป็นศาสตรข์ องสาขาวิชาภมู ิศาสตรแ์ ละภูมิสารสนเทศศาสตร์ ของภาควชิ าภมู ศิ าสตร์ คณะสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในเชิงระบบ ภมู ิศาสตร์มี 2 สว่ น คือ ส่วนท่เี ป็นแนวคดิ และทฤษฏี ซ่งึ มี 2 องคป์ ระกอบหลกั คอื ภมู ศิ าสตร์กายภาพ และภูมิศาสตรม์ นษุ ย์ และส่วนทเ่ี ชื่อมโยง 2 องค์ประกอบหลักในเชิงแนวคดิ นเี้ ข้าดว้ ยกนั คอื เทคนคิ ทางภูมิศาสตร์ และภมู ิศาสตร์ภูมิภาค แตล่ ะส่วน มีความสมั พันธ์สอดคลอ้ ง และสามารถอธบิ าย ความเชื่อมโยงระหวา่ งกันได้ 2.1 กลุ่มภมู ิศาสตร์กายภาพ เน้นการอธบิ ายหรือทาความเข้าใจในปรากฏการณ์เชงิ พื้นที่ท่มี ี Focus ที่โลก และบรรยากาศท่หี ่อหมุ้ โลกอยู่ จงึ มีทง้ั เน้อื หาในสว่ นที่เปน็ Lithosphere, Hydrosphere, Atmosphere และ Biosphere (โดยมีมติ ิของมนษุ ยผ์ นวกอยใู่ นฐานะท่ีเป็น The most powerful geographical agent ทที่ าให้อกี 3 spheres ถกู นำไปใชแ้ ละเปลยี่ นแปลงสภาพไปอย่างรวดเรว็ และรุนแรง รายวิชาหรอื องค์ความรู้ ในส่วนนี้ จึงเนน้ หรือประกอบไปดว้ ย กลุม่ วชิ าทเ่ี ก่ียวกบั ธรรมชาตเิ ป็นหลัก ไลจ่ ากวิชาภมู ศิ าสตรก์ ายภาพ และรายวชิ าทีม่ ีความเปน็ กายภาพมากไปน้อย คอื ภูมิศาสตร์ธรณสี ัณฐาน ภูมศิ าสตรช์ ายฝ่งั และทะเล ภูมิ ลักษณป์ ระเทศไทย ภมู ศิ าสตรอ์ ุตุนิยมวทิ ยา อุทกภมู ิศาสตร์ ภมู ิศาสตรส์ ิ่งแวดลอ้ ม ภูมศิ าสตรแ์ ละการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมอิ ากาศ ภมู ศิ าสตรท์ รพั ยากรการท่องเที่ยว (จะเป็นส่วนกายภาพ ถ้าเนน้ ทีค่ ุณภาพของ ทรัพยากร และเปน็ ส่วนมนษุ ย์ ถา้ เน้นการจดั การทรพั ยากรการทอ่ งเทีย่ ว) ในสว่ นของภูมศิ าสตร์กายภาพนี้ โดยภาพรวมจึงเปน็ การเรียนรู้ในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในสว่ นของ What? When? Where? How (กระบวนการทางธรรมชาติ) ซงึ่ สามารถนาขอ้ มูลหรือประเดน็ ย่อยภายใต้กลุ่มภมู ศิ าสตร์มนุษย์ มาอธิบาย ประกอบในสว่ นของ Who? Why? How? (กระบวนการในส่วนท่ีสมั พันธ์กบั มนุษย์) 2.2 กลุ่มภูมศิ าสตร์มนุษย์ เป็นรายวิชาในกลุม่ ท่ีเกี่ยวกับมนษุ ยแ์ ละกจิ กรรมบนระวางที่ทีเ่ กิดจากนา้ มือมนษุ ย์ ไล่จากท่ีมีความเชอ่ื มโยงกบั ภูมศิ าสตร์กายภาพ ท่ีเป็นสภาพทางธรรมชาตทิ ี่ถกู ดัดแปลงหรอื เปน็ กจิ กรรมของ มนุษย์ ท่ีจบั ต้องได้ มีความเป็นกายภาพมาก ไปยังสว่ นทีเ่ ป็นนามธรรมหรอื มีความเป็นมนุษยม์ ากทสี่ ดุ ได้แก่ ภูมศิ าสตร์การเกษตร ภูมิศาสตรก์ ารตัง้ ถิ่นฐาน ภมู ิศาสตรเ์ มือง ภูมศิ าสตรช์ นบท ภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ ภูมิศาสตร์การเมือง การวางแผนการใชท้ ี่ดินและการพฒั นาทอ้ งถน่ิ ภูมิศาสตร์ประชากร ภมู ศิ าสตร์สุขภาพ นโยบายทีด่ นิ และสิ่งแวดล้อม ภูมศิ าสตรม์ นุษย์ (กลมุ่ นี้ จงึ เปน็ การอธิบายปรากฏการณเ์ ชิงพ้ืนท่ที ่เี กิดข้ึนบน โลกจากนำ้ มอื มนุษย์ ท่สี ามารถอธิบายในเชงิ What? Where? How? Why? When? สว่ นขององคป์ ระกอบของกลุ่มวชิ าที่เป็นส่วนผสมผสานแนวคดิ ในการวิเคราะห์เชงิ ระบบนี้ มี 2 สว่ น คอื
7 2.3 กลุ่มเทคนคิ ทางภมู ศิ าสตร์ อันประกอบไปด้วยรายวิชาท่ีเนน้ การให้ความร้ทู ีเ่ ก่ยี วกบั เทคนิควธิ ีการใช้ และรายวชิ าทเ่ี นน้ การประยุกตเ์ ทคนคิ ทางภูมิศาสตร์เพื่อการวเิ คราะห์เชงิ พน้ื ท่ี เทคนคิ เหล่าน้ี อาจถูกำามา ใชโ้ ดยตรง (Utilized) หรอื ดัดแปลงใหเ้ หมาะสม (Applied) กบั งานวิจยั เชงิ พืน้ ท่ีในสาขาวชิ าภมู ิศาสตร์ ทั้ง ในส่วนของการเก็บรวบรวม นำเขา้ จัดระเบียบ ประมวลผล ใหอ้ อกมาในรปู ของข้อมลู เชงิ พน้ื ที่ และต้อง แสดงผลการวเิ คราะห์ออกมาเป็นแบบรูปเชิงพน้ื ท่ี (Spatial pattern) หรอื D: Display ภายใตแ้ นวคิด 4 PDS อนั ประกอบด้วย Distance, Division, Density, Design หรือเป็นการใชเ้ ทคนิคทางภมู ศิ าสตรเ์ พื่อ อธบิ ายกระบวนการเชิงพน้ื ท่ี (Spatial process) ของปรากฏการณท์ างธรรมชาติและกิจกรรมของมนษุ ย์ บนพืน้ พิภพ 2.4 กลุ่มภูมศิ าสตร์ภูมภิ าค คือ กลุ่มของรายวิชาที่เน้นการนำเสนอสภาพทางภมู ิศาสตรข์ องภมู ภิ าค ใน ระดับประเทศและระดับทวปี ทั้งในดา้ นกายภาพและมนุษย์ มกั มีโครงสร้างของเน้ือหาคลา้ ยคลึงกนั คอื ลกั ษณะทางภูมิศาสตร์ (สภาพภูมปิ ระเทศ ขนาด อาณาเขต ทรพั ยากรธรรมชาติ แหลง่ นา้ การใช้ประโยชน์ ทดี่ นิ สภาพแวดลอ้ ม) สภาพเศรษฐกจิ (สาขาการผลติ มูลค่าการผลติ แหล่งท่ีตั้งของทรัพยากร การผลติ ตลาด) ประชากร (เช้ือชาติ ภาษา วฒั นธรรม) รปู แบบการตง้ั ถน่ิ ฐาน การปกครองและการบรหิ ารทอ้ งถิ่น เปน็ ต้น ในส่วนนี้ สามารถใช้เทคนคิ ทางภูมศิ าสตรต์ ่างๆ นำ เสนอข้อมลู ของภูมภิ าคนน้ั ๆ สำหรบั หลักสูตรปี 2565 มเี พียง 1 รายวิชา คือ ภูมิศาสตร์ประชาคมอาเซยี น 3. แนวคดิ การพฒั นารปู แบบการจดั การศึกษานอกสถานท่ีเสมือนร่วมกับกระบวนการสืบสอบและแผนที่ แบบ 3 มิติทางภูมศิ าสตร์ เพ่ือเสริมสรา้ งการรเู้ รือ่ งภูมศิ าสตร์ ธรรมชาติของศาสตร์: ภมู ศิ าสตร์ ศาสตร์แหง่ การวิเคราะห์พ้นื ท่ี “นักภมู ิศาสตร์ ศกึ ษาคน้ คว้า เก่ยี วกับปรากฏการณ์บนโลก (ทัง้ ในสว่ นของพ้ืนพิภพและบนชนั้ บรรยากาศ) ในมุมมองท่ีเปน็ ปรภิ มู ทิ าง ภมู ิศาสตร์ โดยใหค้ วามสำคัญกับการสังเคราะห์ความคิดจากหลากหลายสาขาวชิ าเพ่ืออธิบายแบบรปู เชิงพนื้ ท่ี (Spatial patterns) ของปรากฏการณท์ างธรรมชาติหรอื ลักษณะของส่ิงปกคลมุ ดนิ และส่วนที่อยใู่ นชัน้ บรรยากาศของโลก ทั้งส่วนท่ีเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและส่วนที่เกดิ จากนา้ มอื มนุษย์ ดว้ ยการใช้เทคนิค เฉพาะทางภูมิศาสตร์” ลักษณะเดน่ ของสาขาวชิ าภูมิศาสตร์ มี 4 บริบท คอื Viewpoint, Synthesis, Temporal และ Representation 1. Viewpoint (บรบิ ทแห่งมุมมองเชิงพื้นที่) คือ การมีจุดสนใจ มุมมอง หรือทัศนคตใิ นเชงิ พ้ืนที่ (Spatial viewpoint) ท่นี ักให้ความสนใจกับ ‘how something happens’ ‘where it happens’ และ ‘how it is related to other happenings nearby and far away’ โดยแบ่งมมุ มองเชงิ พ้ืนทอี่ อกเปน็ 3 ระดับ คือ ระดับ Place, Space และ Scale มมุ มองในระดบั ‘place’ การวเิ คราะหเ์ ชิงพน้ื ทีท่ ีเ่ ป็นการศกึ ษากระบวนการหรอื ปรากฏการณ์ท่เี กิดข้ึนใน สถานที่ใดสถานทหี่ นงึ่ โดยเฉพาะ (a single location or within a single region) โดยสามารถกำหนดพ้นื ท่ี หรือขอบเขตการวิจัยเชงิ พ้ืนที่ในระดับครัวเรือน ระดบั ท้องถน่ิ ระดับจงั หวดั ระดับภาค ระดบั ชาติ หรือระดับโลก มมุ มองในระดบั ‘space’ การวิเคราะหเ์ ชงิ พื้นทท่ี ี่เปน็ การศกึ ษาถงึ สถานท่ีแหง่ ใดแหง่ หนึง่ ท่มี ีความสมั พันธ์ หรือขน้ึ อยู่กบั สถานทีแ่ ห่งอนื่ (how places are interdependent) เชน่ การวเิ คราะหค์ วามเชือ่ มโยง การ ไหลเวียนของสนิ ค้า ฯลฯ ซงึ่ ถือเป็นความสัมพนั ธเ์ ชงิ พนื้ ทีใ่ นแนวราบ มุมมองในระดบั ‘scale’ วเิ คราะหเ์ ชิงพน้ื ทที่ เี่ ป็นการศึกษาถึงกจิ กรรมของมนุษยแ์ ละปรากฏการณ์ท่เี กิดข้ึน ในธรรมชาติในสเกลทางพนื้ ที่ที่แตกตา่ งกัน เชน่ การวิเคราะหก์ ารเปล่ยี นแปลงของพืน้ ที่ป่าไม้ในสเกลระดับ ทอ้ งถน่ิ ระดบั เมือง และระดับชาติ ซ่ึงเปน็ ความสมั พันธ์เชงิ พ้ืนทใ่ี นแนวด่งิ
8 2. Synthesis คือ บริบทแห่งการสังเคราะห์ งานวิจยั ทางภมู ิศาสตร์ สามารถวเิ คราะห์ปรากฏการณ์ท่ีเกดิ ขึน้ ทางธรรมชาติ ปรากฏการณ์ท่ีเกิดขน้ึ จากน้ามือมนษุ ย์ หรือความสมั พนั ธ์ระหว่างปรากฏการณ์ทางธรรมชาติกับ กิจกรรมของมนุษย์ โดยมีการแสดงผลการวเิ คราะห์เชิงพนื้ ท่ี (Spatial analysis) ใน 2 ลกั ษณะ คือ กระบวนการเชิงพื้นที่ และแบบรปู เชงิ พ้นื ท่ี o กระบวนการเชงิ พื้นที่ (Spatial process) เปน็ การวเิ คราะห์ปรากฏการณ์เชงิ พ้ืนท่ีในลกั ษณะของ กระบวนการเกดิ และผลกระทบ เช่น กระบวนการและแบบรปู ของการเคลื่อนตวั ของเปลอื กโลกในลักษณะ ตา่ งๆ การตดิ ตามพฒั นาการของลาน้าโคง้ ตวัดกบั การเปล่ียนแปลงรูปแบบการใช้ท่ีดนิ ภัยธรรมชาตใิ น รปู แบบต่างๆ หรือปรากฏการณท์ ่เี กิดจากน้ามือมนุษย์ เช่น การรุกล้าพน้ื ที่ป่าไม้ การทาการเกษตร การ ขยายตวั ของเมือง ฯลฯ ซ่ึงวธิ ศี ึกษามักใชว้ ธิ ีแบบดัง้ เดิม (Traditional approach) ท่เี น้นการสังเกตการณ์ การสารวจ และการวจิ ยั เชิงประจักษ์ โดยใช้เทคโนโลยภี มู สิ ารสนเทศ และใช้วิธเี ชงิ ปริมาณ (Quantitative approach) ในการอธิบายในสว่ นของสาเหตแุ ละพฤติกรรมมนุษย์ แบบรูปเชงิ พนื้ ที่ (Spatial patterns) แบ่งออกเปน็ 3 ลักษณะ คอื 1. การวิเคราะหล์ กั ษณะของการกระจายเชิงพื้นท่ี (Spatial distribution) ใน 4 ลกั ษณะ คอื Point, Networks or Lines, Area or Surface, Region) ใชก้ ารอ่านและแปลตีความแผนท่แี ละภาพถ่าย 2. การวิเคราะห์ลกั ษณะของการแพรก่ ระจายเชงิ พ้นื ที่ (Spatial diffusion) เช่น การแพร่กระจายของโรคปอด อักเสบจากไวรัสโคโรนา่ การแพร่กระจายทางวัฒนธรรม (ภาษา การแตง่ กาย อาหาร วถิ ีชวี ิต) โดยใช้วธิ เี ชงิ ปรมิ าณ ด้วยการสัมภาษณ์และการออกแบบสอบถามมักใช้ Network analysis ในการแสดงผลการวิจัยที่ แสดงเส้นทางของการเชื่อมโยงระหว่างจุดกาเนิด และจดุ หมายปลายทาง 3. การวิเคราะหป์ ฏสิ ัมพันธเ์ ชิงพนื้ ที่ (Spatial interactions) เป็นการวเิ คราะหเ์ ชงิ พน้ื ที่ทมี่ กั ใช้วิธเี ชงิ พฤติกรรม (Behavioral approach) เนน้ การวิเคราะห์ความสะดวกในการเข้าถึงพื้นท่ใี จกลาง หรอื ความ เช่ือมโยงระหว่างพนื้ ที่ (connectivity) โดยต้องประยุกต์แนวคดิ หรอื แบบจาลองการใชแ้ บบจาลอง Distance Decay แบบจาลอง Gravity Model หรอื แนวคิด Interaction Potentials มาใชใ้ นการอภปิ รายผล ผลของ การวิเคราะหจ์ ะแสดงบนแผนที่ในลักษณะของความเชอื่ มโยง 4. ภาพถ่ายจากดาวเทียมท่ัวโลกรวมถงึ สิง่ ปลูกสร้าง 3 มิติและภูมิประเทศ สู่มมุ มอง 360 องศา Google Earth คือ โปรแกรมท่ีถกู สร้างและพัฒนาโดยบรษิ ัท กูเก้ิล จำกัด (Google) เพอื่ ดู ภาพถ่ายทางอากาศทีแ่ ม่นยำที่สุด พดู ง่ายๆเหมอื นเราสามารถเหาะเหินเดินอากาศไปท่ีไหนก็ไดบ้ นโลก ซึ่ง โปรแกรมน้ปี จั จุบนั ถูกพัฒนามาอยา่ งต่อเน่ืองจนสามารถเก็บข้อมลู เกอื บ 100% โดยการทำงานของ Google Earth จะทำงานในรูปแบบ Client Server และใครก็สามารถเข้าไปทดลองเลน่ หรอื นำไปพัฒนาในด้านตา่ งๆ ฟรี จุดเด่นของ Google Earth คอื แผนท่ที ่ีเกดิ จากภาพถ่ายจากหลากหลายข้อมลู ไม่ว่าจะเป็นทง้ั ภาพถ่าย ทางอากาศ ภาพจากดาวเทยี ม นำมาผสานและนำเสนอผา่ นระบบเทคโนโลยี Streaming พรอ้ มทำการเชือ่ ม ข้อมูลในมติ ิต่าง ๆ มาซ้อนทับภาพถา่ ย แต่ละชัน้ จะแสดงรายละเอียดตา่ ง ๆ กนั โดยสว่ นที่ใชค้ วบคมุ และ แสดงผล เรียกว่าโปรแกรม Google Earth Client การใชง้ านตอ้ งทำการเชื่อมต่อกับระบบอนิ เทอร์เนต็ ดว้ ย เพ่อื ได้ดงึ ภาพที่อย่บู นเซิฟเวอรข์ องกเู กลิ มาแสดงผล ทัง้ นีโ้ ปรแกรม Google Earth ไม่ไดเ้ กบ็ ไฟล์ภาพไว้ใน โปรแกรม แตท่ ำหน้าท่ีอ่านค่าพกิ ดั ละตจิ ดู ลองจิจดู ทีผ่ ใู้ ช้ตอ้ งการดูภาพ จากนั้นโปรแกรมจะทำการเช่ือม ต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ เพ่ือทำการดาวน์โหลดไฟล์ภาพแผนที่ข้ึนแสดงผลอยา่ งทนั ที โดยจะแสดงผลตำแหนง่ ของ
9 สถานทที่ ี่ปรากฏในโปรแกรมนน้ั มีเพยี งหลกั ๆ เชน่ ชือ่ ประเทศ ช่ือเมือง จังหวัด รัฐ และปัจจบุ ันนี้ฟเี จอรใ์ หม่ ที่ Google Earth สามารถทำได้บนสมาร์ทโฟน คือ พฒั นาแผนทีแ่ บบ 3D มากขนึ้ โดยจะปรากฏสถานที่จรงิ อยตู่ รงหนา้ ท่ีมีฟเี จอรด์ า้ น 3D ท่ีแสดงสถานที่เพิ่มมากขึ้น และกดแชรค์ วามประทับใจในรูปแบบโปสการด์ ดิจทิ ลั ได้ และมี Google Earth – Vovage – History – Lost Civilizations และฟเี จอรภ์ าพอดีตหรอื อารย ธรรมที่หายไป ทำให้สามารถย้อนเวลากลับไปดเู รื่องราวบนโลกใบนที้ ีม่ ีการเปลีย่ นแปลงไดอ้ ยา่ งน่าอัศจรรย์ แปลกตามากยิ่งข้นึ Google Earth แผนที่ดิจทิ ลั ท่นี ำเทคโนโลยที ท่ี นั สมัยเขา้ มาประยุกต์ใชไ้ ด้อย่างสมบรู ณ์ แบบท่ีสุด ช่วยในการหาสถานที่ต่างๆ บนโลกใบนไ้ี ด้อยา่ งลงตวั มีความแมน่ ยำและมีประสทิ ธภิ าพอย่างมาก เหมาะสำหรบั นักเดนิ ทางท่ตี ้องการหาจดุ หมายปลายทาง ค้นควา้ ส่งิ ใหม่ ๆ มีความสะดวกสบาย ไม่หลงทศิ หลงทางดว้ ยประสิทธภิ าพของ Google Earth ซอฟต์แวรร์ ะดับโลกที่ชว่ ยใหก้ ารเดนิ ทางเป็นไปอย่างราบรน่ื ท่ีสุด หลกั การทำงานของ Google Earth การทำงานของโปรแกรม Google Earth นน้ั จะทำงานผา่ นรปู แบบภาษาที่เรียกว่า KML (Keyhole Markup Language) และจะทำงานแบบ Client-Server โดยจะใชโ้ ปรแกรมทเ่ี รียกวา่ Google Earth Client ในการเช่ือมต่อควบคมุ การและแสดงผล โดยดึงภาพที่อยู่บน Server ของกเู กิลมาแสดง ซ่งึ โปรแกรม Google Earth จะดึงภาพถ่ายทางอากาศของ U.S. public domain และ ภาพถ่ายดาวเทียม
10 ของคีย์โฮล มาดดั แปลงร่วมกับระบบแผนทีข่ องกเู กิล ทำให้สามารถคน้ หาตำแหนง่ ที่ต้องการไดแ้ ละมกี าร อัพเดทข้อมูลให้มีความทันสมัยอยเู่ สมอ โดยโรงเรยี นบา้ นโนนยาง ไดน้ ำโปรแกรม Google Earth มาใชเ้ ปน็ สื่อการเรียนร้ทู ีม่ ี ประสิทธิภาพเพราะดว้ ยความทีเ่ ปน็ สอ่ื เทคโนโลยี ทสี่ ามารถนำพานักเรยี นไปสู่การค้นพบทีห่ ลากหลายและ นา่ ตน่ื ตาตน่ื ใจในความแตกตา่ งกนั ท้ังด้านภมู ิศาสตร์และวฒั นธรรมของโลก ซึง่ ช่วยกระตุ้นความสนใจของ นักเรยี นไดด้ ี นอกจากนย้ี ังสามารถประยุกตใ์ ชก้ ับวชิ าอ่นื ๆ เช่น เรยี นรู้เกี่ยวกับการวดั และ การคำนวณระยะทางในวชิ าคณติ ศาสตร์ หรือการศึกษาภาษาอังกฤษจากช่อื ของสถานท่ีต่าง ๆ เป็นต้น จดุ เด่นท่นี ่าสนใจ ความพเิ ศษทยี่ อดเยี่ยมของโปรแกรม เดินเที่ยวทวั่ ไทย ท่วั โลกไปกบั ฟังกช์ ่ัน Street View คือ การที่เราสามารถชมสถานท่สี ำคัญตา่ ง ๆ ท่วั ไทย ท่วั โลกได้อยา่ งอิสระ โดยไมจ่ ำเป็นตอ้ งเดนิ ทางไปสถานท่ีนัน้ จรงิ โดยผา่ นฟังก์ชัน่ ทเี่ รียกวา่ Street View ซงึ่ เราสามารถเลือกสถานทท่ี เี่ ราต้องสำรวจบนแผนที่จำลองในโปรแกรม หรอื พิมพส์ ถานท่ีในสว่ น ของการค้นหา แล้วปลอ่ ยใหโ้ ปรแกรมพาเราไปยังจดุ ที่กำหนด จากนนั้ ใช้ฟังกช์ ่ัน Street View โดยการคลิก ดึงไอคอนรปู คนท่ีอยู่ตรงมุมขวาของจอออกมาวางบนจุดทีเ่ รากำลงั สำรวจ ซ่ึงจดุ ทเ่ี ราจะสามารถลงไปสำรวจ ได้น้ัน จะต้องเป็นบริเวณเฉพาะที่แสดงขึน้ มาเปน็ สฟี ้าออ่ นเทา่ นน้ั บริเวณทไี่ มไ่ ด้ขึ้นเปน็ สีฟ้าอ่อนจะไมส่ ามารถ ลงไปสำรวจได้ ฟงั กช์ ั่นในโปรแกรม Google Earth เปน็ ฟงั ก์ชัน่ ใชง้ านได้ง่ายและเปน็ ประโยชน์ต่อการ จดั การเรียนการสอน ในฐานะของสือ่ การเรยี นรู้ทางเทคโนโลยีท่ีมปี ระสทิ ธิภาพ ซึ่งนอกจาก 3 ฟังก์ชนั่ ก็ ยงั มีฟงั ก์ชั่นอีกมากมายทนี่ า่ จะลองใช้ เช่น ฟังกช์ น่ั ท่ีมชี ื่อว่า I’m feeling lucky ซ่งึ เปน็ ไอคอนรปู ลกู เต๋าทาง ซา้ ยมือ ทีจ่ ะสมุ่ พาเราไปในสถานท่ตี า่ ง ๆ ทว่ั โลก หรอื ฟงั กช์ น่ั ท่ีเปลย่ี นภาพ 2D เป็น 3D สำหรบั รับชม สถานท่บี างแห่งทไ่ี ดท้ ำโมเดลแบบ 3D ไว้ เปน็ ตน้ ภาพมุมสูง 3 มิติ แสดงภูมศิ าสตร์บริเวณวิมานพญาแถน อ.เมือง จ.ยโสธร
11 บทท่ี 2 การดำเนนิ โครงงาน วธิ ีการดำเนินโครงงาน ข้ันที่ 1 ขั้นเตรียมการ 1. ประชุมลงมตคิ วามคดิ ในเร่ืองการการทำโครงงานภูมิศาสตร์นกั เรยี นช่วงชั้นที่ 2 2. สรุปลงความเห็นการทำโครงงานศึกษาการใช้โปรแกรมและสร้างนวัตกรรมด้านการเรียนการสอน ภูมศิ าสตร์ 3. ร่างโครงงานเสนอคุณครูที่ปรึกษาโครงงาน 4. มอบหมายหนา้ ทค่ี วามรับผิดชอบ 5. จัดเตรยี มวัสดุ อปุ กรณใ์ นการทำโครงงาน 6. จดั เตรียมสถานทใี่ นการดำเนินโครงงาน ขน้ั ที่ 2 ขน้ั ดำเนนิ งาน 1. จัดซ้อื วสั ดอุ ปุ กรณ์ตรวจสอบความพร้อมของอปุ กรณ์และสถานทป่ี ฏิบัตงิ าน 2. ศึกษาและทดลองการใชโ้ ปรแกรม และสร้างนวตั กรรม 3. ประเมนิ ผล กำกับตดิ ตาม ปญั หาอุปสรรค การดำเนินการโครงงาน 4. พัฒนา วิจยั โครงงานภมู ิศาสตร์ 5. เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์นวตั กรรมทกุ ช่องทาง เชน่ ไลน์กลุ่ม เพจ facebook โรงเรยี น E book ขัน้ ที่ 3 ขนั้ ประเมินผล 1. สรุปรายงานผลการปฏบิ ัติงาน 2. สรปุ รายงานการวจิ ัยนวตั กรรม 3. แบบสอบถาม/แบบประเมินโครงาน แผนการปฏบิ ตั ิงาน กิจกรรม/งานและข้ันตอนการปฏบิ ตั ิ ระยะเวลาดำเนินการ 2564 2565 ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. 1. ขั้นเตรยี มการ 1.1 เสนออนมุ ัติกิจกรรม 1.2 แตง่ ต้งั คณะกรรมการดำเนนิ งาน 1.3 ประชุมคณะทำงานนกั เรียน 2. ขน้ั ดำเนนิ การ 2.1 ประสานผเู้ ก่ยี วข้อง 2.2 เข้าใช้งานโปรแกรม จดั กจิ กรรมสง่ เสรมิ การ เรยี นรู้ การใชง้ านโปรแกรมร่วมกบั การเรยี น วชิ าภูมศิ าสตร์ 3. ข้ันสรุปและประเมินผล 3.1 ประเมินผลการจดั กิจกรรม 3.2 สรุปและรายงานผลการจัดการเรียนรู้
12 วันเวลาสถานที่ เรมิ่ ดำเนินงานตงั้ แต่ เดอื นตุลาคม 2564 ถึงเดอื นกนั ยายน 2565 สถานที่ โรงเรยี นบ้านโนนยาง ตำบลพระเสาร์ อำเภอมหาชนะชัย จังหวดั ยโสธร ขอบเขตดา้ นงบประมาณ และวสั ดุอปุ กรณ์ - เงินงบประมาณโรงเรียน จำนวน 1,000 บาท รายละเอยี ดการใชง้ บประมาณ เงนิ งบประมาณ เงนิ นอก รวม ใช้สอย วสั ดุ ที่ กิจกรรม/รายการ ตอบแทน รวม งบประมาณ งบประมาณ - -- 1 ประชุมชี้แจงโครงการ - -- -- - 2 แต่งตั้งคณะทำงาน - 500 500 3 ดำเนินการ - -- -- - 4 ประเมินผล - - 5 รายงานผลการดำเนนิ การ 500 500 1,000 1,000 1,000 รวม -- - 1,000 1,000 คา่ วสั ดุอุปกรณ์ นำเสนอโครงงาน 1. กระดาษชาร์ททำบอร์ดแสดงผลงาน 325 บาท 2. หมึกสแี ทง่ ใหญ่ จำนวน 6 แท่ง 200 บาท 3. กระดาษโฟโต้ จำนวน 1 รมี 190 บาท 4. กระดาษตกแต่งบอรด์ 100 บาท 5. เทปกาว 105 บาท 6. กาว 80 บาท รวม 1,000 บาท แผนการศึกษา และการเขา้ ใชง้ านโปรแกรม Google Earth เพอื่ ประยกุ ต์ใชก้ ับการจดั การเรียนการสอน ศกึ ษาภูมศิ าสตร์ แบบ 3 มิติ ไปยงั สว่ นตา่ งๆ ใน Google Earth Download Google Earth ไดท้ ี่ http://earth.google.com/ *คลิกท่ปี ุ่ม I'm good. Download GoogleEarth.exe หลังจาก Download เสร็จเรยี บรอ้ ย ใหท้ ำการติดต้ังตวั โปรแกรม เมื่อตดิ ตั้งเสร็จจะมี Icon GoogleEarh ที่ Desktop จากน้นั ใหด้ ำเนินการดังต่อไปน้ี 1. เปิด Google Earth ในคอมพิวเตอร์ 2. เลอื กการดำเนินการ ดังนี้ • ค้นหาสถานท่เี ฉพาะเจาะจง: คลิก \"ค้นหา\" • เลือ่ นไปรอบๆ: ลากเมาส์ • ซูมเขา้ หรือออก: ใช้ปุ่ม +/- ท่ีด้านขวาลา่ ง หรือคลิกขวาแล้วลากเมาส์ • สํารวจรอบๆ สถานที่: กด Ctrl ค้างไว้ + ลากหน้าจอ
13 แสดงภาพ 3 มิติ หากต้องการเปิดหรือปิดส่ิงปลกู สรา้ ง 3 มิตแิ ละตน้ ไม้ ให้ดำเนนิ การดังน้ี 1. เปิด Google Earth ในคอมพิวเตอร์ 2. คลิกรูปแบบแผนที่ ทางดา้ นซ้าย 3. เปิดหรือปิดฟังก์ชันเปิดใช้ส่งิ ปลูกสร้าง 3 มิติ เคล็ดลับ: ปิดส่ิงปลูกสร้าง 3 มิติเพ่ือแสดงภาพที่ใหม่กวา่ และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของ Google Earth แก้ปัญหาสถานทีโ่ หลดชา้ บางครั้งระบบใช้เวลาพอสมควรกว่าท่ีจะแสดงสถานทีใ่ น Google Earth ได้ หากต้องการดูภาพ Earth เรว็ ข้ึน คุณอาจต้องเปล่ยี นการต้ังค่าคณุ ภาพของรูป 1. เปิด Google Earth ในคอมพิวเตอร์ 2. คลิกเมนู การต้ังค่า ทด่ี า้ นซ้าย 3. เลอื กขนาดในส่วน \"ขนาดของแคชหน่วยความจำ\" ดังน้ี • หากต้องการโหลดภาพเรว็ ขน้ึ ใหเ้ พ่ิมขนาดแคช เคล็ดลับ: การเพ่ิมขนาดแคชจะทำไดง้ ่ายกว่าในอปุ กรณร์ นุ่ ใหม่ • หากคอมพิวเตอร์ทำงานชา้ ใหล้ ดขนาดของแคชและโหลดภาพช้าลง เคล็ดลับ: วธิ ีนอี้ าจทำให้ Google Earth ทำงานไดร้ าบร่นื ขน้ึ 4. คลิกบนั ทึก เคลด็ ลับ: ขณะรอใหส้ ถานที่โหลด ใหด้ ูความคบื หน้าในการโหลดภาพท่ีด้านซ้ายล่าง * Google Earth จะใช้งานไดต้ ่อเมือ่ เครื่องได้ทำการ เช่อิ มต่อ Internet อยเู่ ท่านั้น เพราะรูปถา่ ยจากดาวเทยี มตา่ งๆ จะถกู สง่ มาให้เรา ทาง Internet ในขณะทีเ่ ราเลือกดสู ่วนตา่ งๆของโลก แผนท่ีทางภูมศิ าสตร์โลกทีล่ ะเอยี ดทีส่ ดุ ดว้ ยภาพ 3 มติ ิ ประสบการณ์การคน้ หาทีน่ า่ สนใจท่ีสดุ ศกึ ษาภูมิศาสตรช์ าตไิ ทย และฟเี จอรใ์ หม่ ท่ีเพิ่มสงิ่ ปลูกสรา้ งโบราณสถานเกา่ แก่เพิ่มเตมิ เพื่อศึกษาอารยธรรมมนุษย์ได้อยา่ งสมบูรณ์ทส่ี ุด
14 ภาพการเข้าใช้งานโปรแกรม Google Earth เพื่อประยุกต์ใช้กับการเรยี นการสอนภมู ิศาสตร์ การประชุม วางแผนเตรียมความพร้อมการดำเนนิ งานโครงงานของคณะทำงาน ภาพการบนั ทึกขอ้ มูล ผลการดำเนนิ งาน การวิจัยเพื่อพฒั นาโครงงานลำดับตอ่ ไป ภาพการเข้าใชง้ านโปรแกรม Googel Earth เพื่อศึกษาภูมิศาสตร์ด้วยความละเอยี ดภาพจากดาวเทยี ม ด้วยมมุ มองหลากหลาย 360 องศา และภาพจำลองสถานที่โบราณท่ีสำคัญท่ัวไทย ทั่วโลก
15 ปัญหาและอปุ สรรค ความผิดพลาดจากการเข้าใช้งานโปรแกรม Googel Earth 1. Google Earth จะใช้งานได้ตอ่ เมื่อ เครื่องได้ทำการ เช่ือมต่อ Internet อยเู่ ทา่ นัน้ เพราะรปู ถ่าย จากดาวเทยี มต่างๆ จะถกู ส่งมาให้เราทาง Internet ในขณะที่เราเลอื กดสู ่วนตา่ งๆของโลก 2. นักเรียนแต่ละคนมี ความสามารถในการใชง้ าน Google Earth ไมเ่ ทา่ กนั การเผยแพร่ ประชาสัมพนั ธ์โครงงาน มีการประชาสัมพันธ์การศึกษาภมู ศิ าสตร์ดว้ ยโปรแกรมสมยั ใหม่ ใชเ้ ทคโนโลยีเข้ามาช่วยใน การศึกษาคน้ คว้าข้อมูล จนเกิดเปน็ นวตั กรรมดา้ นการเรียนรู้ทม่ี ีความสมบรู ณแ์ ละนำไปใชไ้ ด้จริง โดยระหว่าง การดำเนินงานในโครงการ คณะทำงานได้มีการนำเสนอ ประชาสมั พันธ์ความกา้ วหน้า ความสำเรจ็ ของ โครการ ผา่ นช่องทางตา่ งๆ เช่น บอรด์ ประชาสัมพนั ธแ์ สดงผลงานทางวชิ าการโรงเรยี น ช่องทาง Social Media Fanpaeg Facebook โรงเรยี น Line กล่มุ ผู้ปกครองนักเรยี น กลุ่มวชิ าสงั ศึกษา ผับหนงั สือ E book เสียงตามสายโรงเรียน เสียงตามสายชมุ ชน เปน็ ต้น Social โรงเรียนบ้านโนนยาง PubHTML5 E – Book เพจ
16 บทท่ี 3 ผลการดำเนนิ งาน ผลการดำเนนิ งานเปน็ ไปตามเป้าหมายและจุดประสงค์ของโครงงานทต่ี ้ังไว้ ผเู้ รยี นได้รับการ พฒั นาทั้งดา้ นความรู้ และทักษะ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งเนอื้ หาหลกั หรือวชิ าแกน พร้อมทั้งทกั ษะด้านเทคโนโลยี ท่จี าเป็นต้องนำมาใช้ในการเรียนรูใ้ นสาระของวิชา เพราะฉะนั้นการนำ Google Earth มาใชใ้ นการจดั การ เรียนรู้ภูมศิ าสตร์ ถอื เป็นการนาเทคโนโลยภี มู ิสารสนเทศ มาเปน็ เครื่องมือในการศึกษาเรยี นรู้ภูมศิ าสตร์ทีม่ ี ประสิทธิภาพ และเกิดประโยชนก์ ับผู้เรียนในฐานะทีเ่ ปน็ เครือ่ งมือทางการศึกษา สอดคล้องกับการศึกษาของ Todd (2007) ทัง้ เน้ือหา สาระ กระบวนการ และทกั ษะท่จี าเป็นในการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ที่ ขนั้ ตอนการดำเนนิ งาน ปญั หาอุปสรรค/แนวทางแก้ไข หมายเหตุ 1 ข้ันวางแผน ปญั หา/อุปสรรค 1.ประชมุ ศึกษาและหาขอ้ มูล - ไมม่ ี 2.นำเสนอหัวขอ้ โครงงาน 3.สง่ แบบรา่ งโครงงาน 2 ขนั้ เตรยี ม 1. เตรียมสถานท่ี ตรวจเช็คเคร่อื งมือ - ไม่มี สญั ญาณอินเตอรเ์ น็ต 2. เตรยี มส่อื วัสดุ/อปุ กรณ์ 3. ออกแบบการนำเสนอ เผยแพร่การ ทำโครงงาน 3 ข้นั ดำเนินการ ปัญหา/อุปสรรค 1.เร่มิ ดำเนินการตามแผนงานท่ี - ความเรว็ และแรงของสญั ญาณ กำหนดไว้ อินเตอรเ์ น็ตโรงเรียน สภาพอากาศทม่ี ี 2.จดั การเรยี นตามลำดับขั้นตอน ผลต่อสัญญาณ 3.จดั ทำรปู เลม่ บอรด์ นำเสนอโครงงาน - ทกั ษะ ความสามารถของผ้เู รยี นทเ่ี ข้า ใชง้ านโปรแกรม Google Earth แนวทางแก้ไข - ประสานแจ้งเจ้าหนา้ ที่ ให้ดูแล ปรบั ปรงุ คณุ ภาพสญั ญาณอินเตอรเ์ น็ต - ทำวจิ ยั การพัฒนาการเรยี นการสอน ดว้ ยวิธกี ารเรียนร้โู ดยใช้โปรแกรม Google Earth ในวชิ าภูมศิ าสตร์
4 ขั้นประเมนิ ผล ปญั หา/อุปสรรค 1. ตดิ ตาม ประเมนิ ผลการดำเนนิ งาน - เครอื่ งคอมพวิ เตอร์มีจำนวนไม่เพียงพอ 2. บันทึกผล สรปุ ผล เน่ืองจากมนี กั เรยี นสนใจเป็นจำนวนมาก 3. นำเสนอโครงงาน แนวทางแก้ปัญหา - จัดตารางเขา้ ใช้งานประจำวัน - บรู ณาการใช้โปรแกรม Google Earth ในการจดั การเรียนรู้ในศาสตร์อ่นื ๆ เชน่ ประวัตศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง เพื่อแกป้ ัญหาจำนวน นกั เรียนทีเ่ ขา้ ใชง้ านหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร คอมพวิ เตอร์ท่มี ีจำนวนมาก
18
19 วธิ กี ารจัดกจิ กรรมการเรียนรู/้ กระบวนการเรียนรู้ ใชว้ ธิ กี ารจดั กจิ กรรมการเรียนรู/้ กระบวนการเรยี นรู้ท่ีหลากหลาย ตวั อยา่ ง วิธีการสอนทจ่ี ะชว่ ยผเู้ รียนเกดิ การเรยี นรเู้ กี่ยวกบั ภมู ิศาสตร์ Geo – Literacy วธิ ีการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5 Es ( 5 Es Instructional model ) รูปแบบการสอนแบบ 5E เป็นกลยุทธ์การสอนท่ชี ่วยใหน้ ักเรยี นเข้าใจในสิ่งที่เรียนรไู้ ด้ดว้ ยตนเอง สรา้ งทั้งความสนใจ กระตนุ้ ใหเ้ กดิ การเรียนรู้ และปูทางให้กับการพฒั นาทักษะโดยใชก้ ารตง้ั คำถาม (inquiry) เป็นพื้นฐานในการใหผ้ ูเ้ รียนไดน้ ำประสบการณท์ เี่ รียนรหู้ รือฝึกฝน มาทดลองปฏบิ ัติหรือแสวงหาคำตอบ เกิด เป็นการเรียนรู้จากความเขา้ ใจที่ผเู้ รียนคอ่ ยๆ สรา้ งสมข้นึ มา โดยผูส้ อนจะเป็นผชู้ ว่ ยแนะนำแก้ไขและเสรมิ ต่อ ในส่วนทจ่ี ำเปน็ ตา่ งจากการสอนแบบเดิมท่ใี ชก้ ารป้อนความรจู้ ากผู้สอนเป็นหลัก การต้ังคำถาม (inquiry) เป็นกระบวนการทนี่ ักวิทยาศาสตร์และผศู้ ึกษาวิชาวทิ ยาศาสตรใ์ ชใ้ นการหา ความรู้เกยี่ วกบั ปรากฏการณ์ท่ีมีอยู่ในธรรมชาติ การตง้ั คำถามจะช่วยใหผ้ ูเ้ รยี นได้รับความรูแ้ ละความเข้าใจใน แนวคดิ หลักการ รปู แบบ และทฤษฎที เี่ กี่ยวข้อง การตง้ั คำถามจึงเปน็ สว่ นท่ีสำคัญอยา่ งยง่ิ ของการศึกษา วิทยาศาสตร์ในทุกระดบั และในทุกสาขาวิชาทางวทิ ยาศาสตร์ 5E model เปน็ รูปแบบการเรยี นการสอนที่ พัฒนาขึ้นมาโดยมุ่งหมายใหใ้ ช้เปน็ แนวทางการสอนและเรียนรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ แต่แนวทางนีก้ ส็ ามารถนำไป ปรับใชก้ ับการศึกษาวิชาความร้ใู นสาขาอ่นื ๆ โดยเฉพาะอย่างยง่ิ กับการให้การฝึกอบรมในสถานประกอบการ ซ่ึงผู้เรยี นต่างผ่านประสบการณก์ นั มามากพอท่จี ะเข้าใจปญั หาและนำสิง่ ท่เี รยี นรู้ไปปรบั ใช้ นอกจากนน้ั การเรยี นรรู้ ว่ มกันตามหลกั 5E ยังเปน็ พ้ืนฐานท่ดี ีสำหรบั การทำงานเป็นทีมอีกดว้ ย
20 วิธกี ารสอนแบบกระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ ( Geographic Inquiry Process ) ทิศทาง เพื่อใช้เป็นแนวทางการจดั การเรยี นรู้ท่ีส่งผลให้ผ้เู รียน มีความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถ และทักษะกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ ทีส่ ะท้อนสมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ของผเู้ รียน ใหส้ อดคล้องกับจุดมงุ่ หมายของหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ท่ีม่งุ พัฒนาให้เป็นคนดี มปี ญั ญา มีความสุข มศี ักยภาพในการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพ ผ้เู รยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจได้อยา่ งถูกต้องและชัดเจน สามารถคิดอยา่ งเปน็ ระบบ ยดื หยุน่ ได้ตามสภาพความเปน็ จรงิ และนำ ความรู้ไปใชใ้ นการดาเนนิ ชีวติ ตามเปา้ หมายท่ีกำหนดไว้
21 บทท่ี 4 การศึกษาวเิ คราะห์ เป้าหมายการเรียนรู้สาระภมู ิศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง 2560) สาระภูมิศาสตร์ ช่วยใหผ้ ู้เรยี นเขา้ ใจลกั ษณะทางกายภาพของโลก ปฏิสมั พนั ธ์ระหว่างมนุษย์ กบั สิ่งแวดลอ้ มที่ก่อให้เกดิ การสรา้ งสรรคว์ ถิ ีการดาเนนิ ชีวิต เพอ่ื ใหร้ ู้เทา่ ทนั ปรบั ตวั ตามการเปล่ียนแปลงของ ส่ิงแวดล้อม ตลอดจนสามารถใชท้ กั ษะ กระบวนการ ความสามารถทางภมู ศิ าสตร์ และเครือ่ งมือทาง ภูมศิ าสตร์จัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมตามสาเหตุและปัจจยั อันจะนำไปสู่การปรบั ใชใ้ นการดำเนินชวี ิต องคป์ ระกอบที่ทำให้ผูเ้ รียนมี Geo-literacy ความสามรถทางภูมศิ าสตร์ กระบวนการทางภูมิศาสตร์ ทักษะทางภมู ิศาสตร์ - ความเขา้ ใจระบบธรรมชาติของ - การตัง้ คำถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ - การสงั เกต มนุ ษย์ผา่ นปฏิสัมพนั ธ์ - การรวบรวมข้อมลู - การแปลความข้อมูลทาง - การให้เหตุผลทางภมู ิศาสตร์ผ่าน - การจัดการข้อมลู ภมู ิศาสตร์ การเช่อื มโยงระหว่างกัน - การวิเคราะห์ข้อมลู - การใชเ้ ทคนคิ และเคร่ืองมือทาง - การตดั สินใจเป็นระบบตามนยั - การสรปุ เพื่อตอบคำถาม ภูมิศาสตร์ - การคดิ เชงิ พนื้ ที่ - การคดิ แบบองคร์ วม - การใช้เทคโนโลยี - การใชส้ ถติ พิ ื้นฐาน
22 การจดั การเรยี นรู้โดยใชก้ ระบวนการทางภูมิศาสตร์ กระบวนการทางภูมศิ าสตร์ สามารถใชเ้ ปน็ แนวทางในการจัดกจิ กรรมทสี่ อดคล้องการเรียนรู้ แบบสืบสอบ และการเรียนรู้โดยใชป้ ัญหาเปน็ ฐาน อีกทงั้ ยงั เปน็ การสง่ เสรมิ ให้เกดิ การพัฒนาทกั ษะการ สังเกต ทักษะการแปลความข้อมลู ทางภมู ิศาสตร์ การใช้เทคโนโลยีและการสถิติพ้นื ฐานเพอื่ นามาส่ขู ้อสรุป ทเ่ี ป็นองคค์ วามรู้ท่เี ปน็ การเรียนรูท้ ม่ี ีความหมายสาหรบั ผู้เรียน โดยการนากระบวนการทางภูมศิ าสตร์มาใช้ใน การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบดว้ ยดว้ ยขน้ั ตอนดงั ต่อไปนี้ 1. การต้ังคำถามเชงิ ภูมิศาสตร์ การศึกษาภมู ิศาสตร์จะต้องอาศยั ความสามารถในการต้งั คาถาม คาถามทีใ่ ช้ ศกึ ษาในวชิ าภูมศิ าสตร์จะเปน็ คาถามทมี่ ีลักษณะเฉพาะ โดยเปน็ ปัญหาเก่ียวกับคาถามท่ีถามว่า ทไ่ี หน และทำไมจงึ ต้องเปน็ ท่ีนั่น (where and why there) จึงเปน็ สิ่งสำคัญอย่างย่ิงท่ีนักเรียนจะต้องพัฒนา และฝึกทักษะเก่ียวกับการต้งั คำถาม แนวคำถาม ตวั อย่างคำถาม - อะไรเปน็ ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ จากทำเลท่ตี ้งั และ - จากการท่ปี ระเทศไทย ไม่ตั้งอยู่ใกล้แนวรอยเล่อื น ความสัมพันธเ์ หลา่ นั้น จะเกิดผลดีอะไรบา้ ง - บางสิง่ บางอย่างน้ันสัมพันธ์กับอะไรบ้าง - ประเทศไทยเกิดแผ่นดินไหว และสนึ ามดิ ว้ ย เพราะอะไร การตง้ั คำถามนั้นจะตอ้ งเป็นคำถามท่ีมีความเป็นไปได้ในการหาคำตอบ นำมาสู่การต้ังสมมตฐิ าน ของคำตอบ และสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางในการรวบรวมข้อมูลเพ่ือหาคำตอบด้วย ในระดบั เริม่ ตน้ การฝึกตั้ง คำถามควรเรมิ่ ต้นแยกคำถามทางด้านภมู ิศาสตร์ออกจากคำถามท่ีทวั่ ไป ครรู ว่ มกันต้ังคำถามเพื่อชวนให้ นกั เรียนสงสัยและกระตุน้ ใหเ้ กิดคำถามต่อยอดตามมา 2. การเก็บรวบรวมข้อมลู ขอ้ มูลทีใ่ ชใ้ นการศึกษาภูมศิ าสตร์ เรยี กวา่ สารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information) เปน็ ข่าวสารทม่ี ีรายละเอยี ดเก่ียวกบั ทำเลทต่ี ั้ง ลักษณะทางกายภาพและกจิ กรรมของมนุษย์ เมอ่ื นักเรียนต้งั คำถามเชงิ ภูมิศาสตร์ นักเรยี นจะต้องรวบรวมข้อมลู จากการอา่ นและแปลความหมายจากแผนท่ี ภาพถ่าย ข้อมูลสถติ ิ ข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ รวมถงึ การเก็บข้อมลู จากการสอบถาม การออก ภาคสนาม และการอา้ งองิ จากเอกสาร การออกภาคสนาม นับวา่ มคี วามสำคัญเป็นอย่างมากในการศึกษาทางภูมศิ าสตร์ เปน็ การฝกึ ทักษะ การสังเกตในพนื้ ท่จี ริง ด้วยการสัมภาษณ์ การสอบถาม และการบนั ทึกภาพ การออกภาคสนามจะชว่ ย กระตนุ้ ให้ความอยากรู้อยากเหน็ เพลดิ เพลนิ ช่วยให้เกดิ การเรยี นรู้เชิงรกุ (active learning) จากการเก็บ ขอ้ มลู จะทาให้นักเรยี นเข้าใจลักษณะทางกายภาพและกิจกรรมของมนุษย์ท่ีเกิดข้นึ ในทต่ี ่างๆ 3. การจดั การขอ้ มูล เมอื่ นักเรยี นได้ข้อมูลแล้ว ก็ตอ้ งจดั การและนำเสนอออกไปด้วยวิธกี ารต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการ วิเคราะห์ข้อมูล เพราะข้อมลู ท่ีได้อาจจะกระจดั กระจาย และไมเ่ พียงพอ นักเรยี นจะต้องนาข้อมลู มาจำแนก และจดั กลมุ่ ให้อยูใ่ นรูปแบบแผนภาพ แผนผัง แผนที่ และกราฟ ทำให้เหน็ ภาพสรุปที่ชดั เจน ในการจดั การข้อมลู นัน้ นักเรยี นต้องมีความคดิ สรา้ งสรรค์ในการออกแบบและมวี ธิ กี ารนาเสนอข้อมูลอย่างเป็นระบบ การทำแผนทเี่ ป็นวธิ ีการทีน่ ิยมมากในการจดั การข้อมลู ดว้ ยการเขียนข้อความหรอื บันทึรายละเอียด จากการสำรวจท่ตี ้องการนาเสนอไว้ในแผนท่ี การใช้สญั ลักษณแ์ สดงขอ้ มลู ในแผนท่ี เช่น ทตี่ ้งั ของทรัพยากร ทีม่ อี ย่บู นโลก จุดตั้งถังขยะในโรงเรียน ตำแหน่งทเ่ี กดิ แผน่ ดินไหว พ้ืนทที่ ีป่ ระสบปัญหาสิ่งแวดล้อม
23 เปน็ การพฒั นาทักษะในการออกแบบสญั ลักษณ์ในแผนที่ การค้นหาทำเลทีต่ งั้ บนแผนท่ี การกำหนดทิศทาง และการใชม้ าตราส่วน 4. การวเิ คราะหข์ ้อมูล การวเิ คราะหข์ ้อมลู เปน็ การศึกษาแบบรปู ความสัมพันธ์ และความเชื่อมโยงท่เี กดิ ข้นึ ของ ปรากฏการณต์ า่ งๆ ทางภมู ิศาสตร์ ตลอดจนศกึ ษาแนวโนม้ ความสมั พันธ์ และความต่อเนอ่ื งของ ปรากฏการณห์ าความสมั พันธส์ อดคลอ้ งกันและลักษณะท่คี ล้ายกนั ระหว่างพื้นท่ี เปรยี บเทยี บกับข้อมลู จากแผนที่ กราฟ แผนภาพ ตาราง และอ่นื ๆ ดว้ ยการใชส้ ถติ อิ ย่างงา่ ยๆ เพื่อใหไ้ ด้คำตอบสำหรับคำถาม การวเิ คราะหป์ ฏิสัมพนั ธร์ ะหว่างการศึกษาภมู ศิ าสตร์กับกิจกรรมของมนุษย์ การใช้โปรแกรมเขา้ มาช่วยและมีบทบาทในการศกึ ษาภมู ิศาสตร์ เพ่ือต้องการเน้นให้เกดิ การพฒั นาการคิดวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ ความเชอื่ มโยง เปรียบเทยี บและใหเ้ หตุผลทางภูมศิ าสตร์ โดยเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นสบื ค้น รวบรวม ตคี วามสารสนเทศทางภมู ิศาสตรจ์ ากแหล่งสารสนเทศทาง ภมู ิศาสตรแ์ ละใชเ้ ครื่องมอื ทางภมู ศิ าสตรท์ เ่ี หมาะสม เพ่ือให้นกั เรยี นได้ฝกึ อา่ นทำความเขา้ ใจระบบธรรมชาติ และมนุษย์ และการมปี ฏสิ มั พันธ์ตอ่ กัน สดุ ท้ายคือการฝึกให้นักเรียนสามารถตดั สินใจเกี่ยวกับการมสี ว่ นร่วม จัดการสงิ่ แวดล้อมในชาตไิ ทยเราอย่างยัง่ ยนื ในฐานะทเี่ ปน็ สว่ นหนึ่งของระบบธรรมชาติ การสร้างสอื่ การสอนจำลอง สภาพทางภูมิศาสตร์ 3 มติ ิ จากโปรแกรม Google Earth ปัญหาและสาเหตุ ปญั หาทเี่ กิดจากการจดั การเรียนในรายวชิ าภูมิศาสตรร์ ว่ มกับการใชโ้ ปรแกรมในคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน 1. ทกั ษะ ความสามารถในการใชง้ านโปรแกรมของนักเรยี นบางคน ขาดทักษะ ความรู้ ในการเข้าใช้งาน 2. ความเร็วอนิ เตอรเ์ นต็ ไมแ่ รงพอ หากมีการใชง้ านพรอ้ มกนั หลายเคร่ือง 3. การใช้งานโปรแกรม ตอ้ งใช้เวลาในการอับโหลดข้อมลู ท่ีคน้ หาทำให้ใชเ้ วลามากในการประมวลผล แต่ละครั้ง เวลาเรียนใน 1 คาบเรียนจงึ น้อยเกนิ ไป ปญั หาทเี่ กดิ จากการใช้เครอ่ื งมอื โปรแกรมและอ่นื ๆ 1. อุปกรณค์ อมพิวเตอร์ไม่เพียงพอ ไม่รองรับโปรแกรมท่ีมกี ารอัพเดท 2. ใน Windows 10 Google Earth Pro มกั จะหยดุ ทำงานทำงานไมช่ ดั หรือลม่ หลงั จากการติดตั้ง 3. อปุ กรณส์ อื่ การสอนบางชิ้น เกบ็ ไม่เข้าท่ี ไมเ่ รยี บร้อย
24 4. บางคร้ัง Google Earth Pro ไมต่ อบสนองต่อคำสัง่ ใน Windows 10 แมว้ า่ คุณจะสามารถแก้ปัญหา บางอย่างกับโซลชู นั ทเ่ี หมาะสมได้หากคณุ รูจ้ ัก เหน็ ได้ชัดวา่ ไมส่ ะดวกถ้าแอพพลิเคชนั หยุดทำงานหรือทำงาน ไมไ่ ด้เลยในระหว่างการทำงาน 5. บางครง้ั คุณลักษณะบางอยา่ งของ Google Earth ไม่ทำงานเลยเช่น Street view, Google Earth Pro หยดุ ทำงานทัง้ หมด แนวทางแกไ้ ขข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขเพื่อใหไ้ ปถงึ เป้าหมายท่วี างไว้ แนวทางในการพัฒนา 1. สรา้ งและพัฒนานวตั กรรมโครงงาน 2. วจิ ยั พัฒนานวตั กรรมเพมิ่ เตมิ 3. จัดกจิ กรรมใหม้ ีความหลากหลาย ทันสมยั และใหมอ่ ยู่เสมอ 4. ติดตามขา่ วสารทางภมู ิศาสตร์ หรอื การปรบั ปรงุ อพั เดทโปรแกรมอยเู่ สมอ 5. รายละเอียดบางตอน ใหค้ รมู อบหมายให้นกั เรียนทำรายงานเพ่ิมเติม 6. ครสู อนทกั ษะการใชอ้ ุปกรณ์คอมพิวเตอรเ์ พ่ิมเตมิ เพือ่ ใหส้ ามารถใช้งานไดค้ ลอ่ งทกุ คน 7. การวัด และการติดตามประเมนิ ผลควรทำใหส้ ม่ำเสมอ หลักธรรมท่ีนำมาใชใ้ นการดำเนินงานโครงการ คอื อรยิ สจั 4 คือ กระบวนการสำคัญในการแก้ปัญหา ทุกข์ คือ นักเรยี นรปู้ ัญหาในการดำเนินกิจกรรมในโครงงาน สมุทัย คอื วเิ คราะห์สาเหตุ ของการจดั ทำโครงงาน นโิ รธ คอื วางเป้าหมายที่จะทำใหป้ ญั หาหมดสิน้ ไป ต้องการให้เกิดการพัฒนา มรรค คือ สรรหากจิ กรรมท่ีเหมาะสมในการแกป้ ญั หา สังคหวัตถุ 4 ซ่ึงเปน็ หลักในการสงเคราะหผ์ ู้อืน่ ประกอบด้วย ทาน การเอื้อเฟื้อเผ่ือแผ่ การเสยี สละ ปิยวาจา การกล่าววาจาสุภาพ เป็นประโยชน์ สรา้ งสามัคครี กั ใครเ่ ก้ือกลู กัน อตั ถจรยิ า ทำประโยชน์แกส่ ังคม สมานัตตตา ทำตนให้เข้ากับผู้อื่นได้อยา่ งเสมอภาค มีสุขร่วมกนั การตดิ ตามประเมนิ ผล ตวั บง่ ชค้ี วามสำเรจ็ วธิ กี ารประเมนิ เครือ่ งมือ - นกั เรยี นมคี วามต้องการศึกษา มคี วามตั้งใจใน ประเมินพฤติกรรม แบบประเมินพฤตกิ รรม การดำเนินงานทุกส่วน สังเกตพฤตกิ รรมระหว่าง แบบสอบถาม - นกั เรยี นมคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ถูกต้อง - นักเรียนมคี วามรูแ้ ละความเขา้ ใจ มีทักษะในการ การดำเนนิ กจิ กรรม แบบบนั ทึกคะแนน ใช้โปรแกรมร่วมกบั การเรียนภมู ศิ าสตรช์ าติไทย - ผู้เรียนมีการประชมุ วางแผนการดำเนินงานท่ี - ตอบแบบสอบถาม - แบบติดตาม ประเมิน ชดั เจน มีการวิจยั พัฒนานวัตกรรมโครงงานที่ - การเข้าร่วมกิจกรรม โครงงาน ชดั เจน - มกี ารตดิ ตาม ประเมินผลอย่างต่อเนื่อง
25 บทท่ี 5 บทสรุปและขอ้ เสนอแนะ สรุปผลการดำเนนิ การโครงงาน การดำเนินโครงงานเชอ่ื มโยงสกู่ ระบวนการเรยี นรู้และพฒั นาโครงงานตามโครงการ ของนักเรยี นตามวัตถปุ ระสงค์และเป้าหมายของโครงงาน ดังน้ี 1. ผู้เรียนบรรลุวตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนรู้โครงการ 8 Cs 2. ผเู้ รยี นเกดิ ทักษะ ความรู้ความเขา้ ใจ สร้างการเรยี นรู้ใหมๆ่ ให้เกิดขน้ึ กับการศึกษาภมู ิศาสตร์โดยการนำ เทคโนโลยีเข้ามาใช้ 3. ผู้เรียนมคี วามคดิ รเิ ริ่มสร้างสรรค์จาการเรียนรูใ้ นโครงงาน จนเกดิ การสร้างและพัฒนานวัตกรรม ด้านการเรียน การสอนภมู ศิ าสตร์ 4. ผเู้ รยี นไดม้ คี วามรู้และมองเหน็ ภาพพืน้ ที่ทางภูมิศาสตร์ในประเทศ ท่ีชดั เจนมากยิ่งขนึ้ ด้วยโปรแกรม ท่ที ันสมัย กับภาพ 3 มติ ิ และมุมมอง 360 องศาท่หี ลากหลาย ให้ท่องเที่ยวชมได้เสมือนจรงิ 5. ผู้เรียนไดล้ งมอื ปฏบิ ัติจริงในการนำเสนอ เผยแพรน่ วตั กรรม การเรียนรแู้ บบใหม่ในโครงงาน แผนการดำเนนิ งานในอนาคตและขอ้ เสนอแนะ การดำเนนิ งานโครงงานภูมศิ าสตรช์ าติไทย ไดป้ ระสบความสำเร็จจากการดำเนนิ กจิ กรรม ตลอดระยะเวลา 1 ปงี บประมาณ 2565 มีการออกนิเทศ ติดตามโดยผู้บริหารสถานศึกษา ผบู้ ริหารคณะ ศกึ ษานเิ ทศก์ จากเขตพนื้ ที่การศึกษาภาคเรยี นละ 1 ครั้ง มกี ารสร้างนวตั กรรม การวิจยั และปรบั ปรุง โครงงานอยเู่ สมอ เป็นระบบตามกระบวนการเพือ่ ใหเ้ ปน็ โครงงานทีป่ ระสบผลสำเร็จและมปี ระสิทธภิ าพ มากทสี่ ุดในการนำไปใช้ในการจัดการเรยี นการสอน นอกจากน้ยี ังมีการนำโครงงานและนวัตกรรมไปเผยแพร่ เพ่ือขยายผลและสรา้ งเครอื ข่ายในเครือข่ายคุณภาพการศกึ ษา และชอ่ งทางโลกออนไลน์อกี ด้วยเพื่อพัฒนาต่อ ยอดความคิด วิจยั สร้างผลงานนวตั กรรมต่อไปในอนาคต ……………………………………………………………………………………………………………………….
26 บรรณานกุ รม Backler, Stoltman. 1986. The nature of Geography literacy. Eric digest 35: November 1986. Baskerville. 2017. Geography literacy in globalized world without it,we are lost. [online]. www.thoughtco.com2geographic-literacy -in-a-globalized-woerld-1435585. (last accessed 5 March 2018). Bein, Frederick L. 1990. Baseline geography competency test: Administered in Indiana universities. Journal of Geography 89(6): 260-265. Bednard, Helfron, Niem Tu Huynh. 2013. Geography Education Research Road map for 21st century geography. Washington,DC. Association of American Geography. Bortolotto. 2017. Geo-literacy in the classroom. [online]. http://blogs.ubc.ca/bortolottoeducation/2017/08/06/geoliteracyintheclassroom. (last accessed 5 March 2018). Daley, Ryan. 2003. No geographer left behind: A policy guide to geography education and the No Child Left Behind Act of 2001 [Online]. www.aag.org/nclb.pdf (last accessed 27 June 2004). Douglass, Malcom P. 1998. The history, psychology, and pedagogy of geographic literacy. Westport, CT: Praeger. Edelson. 2011. Geo-literacy: Preparation for reaching decisions. [online]. www.nationalgeographic.org/news/geo- literacy-prepation-far-reaching- decisions2page1. (last accessed 5 March 2018). สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. 2561. คมู่ ือการใชม้ าตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวช้วี ดั สาระภูมศิ าสตร์ (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ในกลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พ.ศ. 2551. โรงพมิ พช์ มุ นุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย : กรุงเทพมหานคร. students in Dublin, Ireland. Journal of Geography 100: 49- 60. Winship. 2004. Geographic literacy and world knowledge among undergraduate college student. Virginia. Virginia Polytechnic Institute and state university.
ภาคผนวก - - คำสั่ง - แบบประเมนิ
คำสง่ั โรงเรียนบ้านโนนยาง ท่ี 5/๒๕65 เรอ่ื ง แตง่ ตง้ั คณะกรรมการดำเนินงานโครงการ ๘Cs ฐานความดี วิถีนวัตกรรม เพอ่ื พฒั นาคุณภาพของผู้เรียน ประจำปงี บประมาณ ๒๕65 ด้วยสำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษายโสธร เขต 1 ได้จัดกจิ กรรมในโครงการ 8Cs ฐานความดี วถิ ีนวตั กรรม เพ่ือพัฒนาคุณภาพของผู้เรยี น ตามแผนปฏิบตั ิการประจำปงี บประมาณ พ.ศ.๒๕๖๕ ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เพือ่ พฒั นาคุณภาพผู้เรยี นให้มมี าตรฐานตาม หลกั สูตรทีเ่ ป็นฐานสมรรถนะ โดยใหโ้ รงเรียนดำเนนิ การจัดกิจกรรมต่างๆตามปฏทิ ินการดำเนนิ งานในโครงการ ดงั น้ัน เพื่อให้การดำเนินงานในโรงเรียนประสบความสำเร็จและเป็นไปดว้ ยความเรยี บร้อยตาม วัตถุประสงค์ จึงขอแต่งตัง้ คณะกรรมการดำเนินงานโครงการ ดงั นี้ ๑. ทป่ี รึกษา ปฎิบตั หิ น้าท่ีใหค้ ำแนะนำ คำปรกึ ษาและตรวจสอบ ติดตาม ให้การดำเนินกจิ กรรมในโครงการ เป็นไปด้วยความเรยี บร้อย และถกู ตอ้ ง ประกอบด้วย ๑.๑ นางรตั นาวงศ์ เลาะหะนะ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบ้านโนนยาง ๒. คณะกรรมการดำเนนิ กิจกรรมในโครงการ มหี นา้ ท่ี ดำเนินกจิ กรรม กิจกรรมหลกั กจิ กรรมยอ่ ย ตามปฏทิ นิ การดำเนนิ งานในโครงการ ประกอบด้วย ๒.๑ นางสาวกนกวรรณ บุญนนั ครผู ชู้ ว่ ย ๒.๒ นางสาวสริ จิ ันทร์ คำบตุ ร ครผู ชู้ ่วย ๒.๓ นางสาวนริศรา นครวงษ์ พนกั งานราชการครู ๒.๔ นายพงษ์พัฒน์ ธรรมรักษ์ เจา้ หนา้ ทธี่ ุรการ ๒.๕ นางจณิ หน์ ภิ าห์ โรมพนั ธ์ ครูอตั ราจ้าง ๒.๖ นางสาวนันทิชา สุราโพธ์ิ ครอู ตั ราจ้าง ๒.๗ นายวิทยากลู โสระมรรค ครูอัตราจา้ ง ให้คณะกรรมการที่ได้รับการแต่งต้ังดำเนินการในส่วนที่เก่ียวข้อง ให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ และหากเกดิ ปัญหาอ่นื ใดใหร้ บี รายงานตอ่ ผบู้ ริหารสถานศึกษาโดยทันที เพือ่ จะได้หาแนวทางแกไ้ ขต่อไป ท้งั น้ี ต้งั แตบ่ ดั นีเ้ ป็นตน้ ไป ส่งั ณ วนั ท่ี ๓ มกราคม พ.ศ.๒๕6๕ ( นางรัตนาวงศ์ เลาะหะนะ ) ผู้อำนวยการโรงเรยี นบ้านโนนยาง
สรุปแบบประเมนิ โครงการ 8Cs ฐานความดี วิถีนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมสมรรถนะของผู้เรยี น ( โครงงานภูมศิ าสตร์ชาตไิ ทย ป.4-6 ) ประจำปีงบประมาณ 2565 ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ : เฉลี่ยร้อยละ มาก มาก ปาน น้อย น้อยทส่ี ดุ 1 กิจกรรมในโครงการบรรลุวตั ถุประสงค์ ท่ีสุด กลาง 2 ความเหมาะสมของสอื่ วัสดุ อปุ กรณ์โสตทัศนูปกรณ์ 100 3 ความเหมาะสม ความสามารถครู บุคลากรทางการศึกษา 75.18 24.82 82.70 17.30 นักเรียนคณะทำงานที่ดำเนนิ กิจกรรม 4 ความเหมาะสมของสถานทีท่ ี่จัดกจิ กรรม 100 5 ระยะเวลาท่ีใชใ้ นการดำเนินการจดั กจิ กรรม 100 6 การมสี ่วนร่วมในกิจกรรมของครู บคุ ลากรทางการศึกษา 100 และนกั เรยี น 100 7 นักเรยี นมคี ณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ตามหลักสตู ร 74.43 25.87 8 มีความรู้ ความเขา้ ใจโครงงานภูมศิ าสตร์ชาติไทย 100 9 ยอมรับความคดิ เห็น ทำงานกลุ่มรว่ มกนั ดว้ ยความสามคั คี 100 10 มคี วามตระหนกั ประโยชน์ของการทำโครงงานภมู ศิ าสตรช์ าติ 100 11 สามารถนำความรู้จากการทำโครงงานมาปรับใช้ในการดำเนนิ ชวี ติ ประจำวันได้ จำนวนนกั เรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 1 - 6 จำนวน 73 คน ครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา จำนวน 10 คน ผู้ปกครองนักเรยี น จำนวน 50 คน รวมผตู้ อบแบบประเมินโครงการ 133 คน
สารบัญ หนา้ เรอื่ ง ก ข บทคัดยอ่ 1 กติ ตกิ รรมประกาศ บทท่ี 1 5 หลักการและเหตุผล/ทม่ี าความสำคญั 11 แนวคดิ ทฤษฏี งานวจิ ัยท่เี กีย่ วขอ้ ง บทที่ 2 16 วธิ กี ารดำเนนิ โครงงาน/แผนการปฏบิ ตั ิงาน 11 บทที่ 3 19 ตารางแสดงผลการดำเนนิ งาน 21 วธิ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้/กระบวนการเรยี นรู้ 23 บทท่ี 4 24 ปญั หาและสาเหตุ 25 หลกั การและหลักธรรมทน่ี ำมาใช้ บทที่ 5 26 สรปุ ผลการดำเนนิ โครงงาน แผนการดำเนนิ งานในอนาคตและข้อเสนอแนะ บรรณานกุ รม ภาคผนวก
คำนำ โครงงานภมู ศิ าสตร์ชาตไิ ทย จัดทำข้นึ เพ่ือเป็นส่วนหนงึ่ ในการจัดการเรียนการสอนของกลุม่ สาระ การเรียนรู้รายวิชาสงั คมศึกษา และจัดทำข้ึนตามโครงการ “ 8Cs ฐานคนดี ฐานสมรรถนะ วิถนี วัตกรรม และวัฒนธรรมคุณภาพ เพื่อส่งเสรมิ สมรรถนะของผูเ้ รยี น” ประจำปีงบประมาณ 2565 มีวตั ถปุ ระสงค์เพ่ือ ฝึกให้เด็กมีความรู้ ความเขา้ ใจ และมที กั ษะตามแนวทางจัการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 คือใหม้ ีความรู้ ความสามารถด้านสารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี ทกั ษะชีวติ /การทำงาน ทักษะการเรียนร/ู้ นวัตกรรม ตลอด นำมาคดิ วเิ คราะห์แล้วลงมือปฏิบตั ิจรงิ ในการจัดทำโครงงานทต่ี ้องการศึกษาข้ึนมา ขอขอบพระคุณ นางรตั นาวงศ์ เลาะหะนะ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นโนนยาง ศกึ ษานเิ ทศกจ์ าก เขตพน้ื ท่ีการศึกษา ทีเ่ สนอแนะ ให้แนวทางคำปรกึ ษาเรือ่ งวิจัย นวัตกรรมและขอบพระคณุ คณะครโู รงเรยี น บ้านโนนยาง ท่ใี ห้การสนับสนุนด้านวัสดุอุปกรณ์ในการจดั ทำโครงงานตลอดจนใหก้ ำลังใจในการดำเนินงาน โครงการมาโดยตลอด ขา้ พเจา้ หวงั เปน็ อย่างยิ่งวา่ โครงงานภมู ศิ าสตร์เล่มนี้ จะเป็นประโยชน์สำหรบั ผู้เรยี น ครผู ูส้ อนและ ผูท้ ี่สนใจในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ตอ่ ยอดทางความคดิ ต่อไป นริศรา นครวงษ์ ครูท่ีปรกึ ษา
Search
Read the Text Version
- 1 - 37
Pages: