Best Practice ด้านบรหิ ารจดั การ
Best Practice ด้านบรหิ ารจดั การ วิธปี ฏบิ ตั ิทีเ่ ปน็ เลศิ (Best Practice) ดา้ นการบริหารจดั การสถานศกึ ษา เรือ่ ง การพฒั นานวัตกรรมการบริหารโรงเรียน NY Model School สคู่ วามสำเร็จ โรงเรียนบ้านโนนยาง อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร สงั กัด สำนกั งานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษายโสธร เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
Best Practice ด้านบรหิ ารจัดการ สรปุ ผลการดำเนินงาน โครงการพัฒนานวตั กรรมการบริหารสถานศึกษาส่คู วามสำเรจ็ NY School Model โรงเรยี นบา้ นโนนยาง ประจำปีการศึกษา 2563 – 2565 โรงเรียนบ้านโนนยาง ได้เรมิ่ ดำเนินการพฒั นานวตั กรรมการบรหิ ารโรงเรยี นสคู่ วามสำเร็จ NY School Model โดยเรม่ิ เขา้ สกู่ ระบวนการพฒั นาคุณภาพการบรหิ ารสถานศกึ ษา NY School Model ในเดอื น มิถุนายน พ.ศ.2563 โดยเรม่ิ จากการการตรวจสอบทบทวนวสิ ยั ทัศน์ พันธกิจและประเมนิ ตนเอง และดำเนินการตามขัน้ ตอนการพัฒนานวัตกรรมการบรหิ ารโรงเรยี น NY School Model มาเปน็ ลำดบั ท้งั น้ีมวี ัตถปุ ระสงค์เพ่อื 1) ประเมินองค์กรตามเกณฑ์คณุ ภาพการบรหิ ารโรงเรยี น NY School Model 2) เพอ่ื เพ่มิ ขดี ความสามารถขององค์กรไปสูเ่ ป้าหมายที่ต้องการ 3) เพ่ือปรบั ปรงุ กระบวนการดาเนนิ งานให้ เปน็ ไปตามมาตรฐานสากล และ 4) เพ่ือเพ่ิมทกั ษะดา้ นการบรหิ ารจดั การสมยั ใหม่ให้แก่บคุ ลากร จงึ ไดน้ ำระบบ การบริหารคณุ ภาพองคก์ ร ตามแนวคดิ ของประเทศสหรฐั อเมรกิ า (Malcolm Baldrige) และของประเทศไทย มาประยุกต์ใช้ โดยโรงเรยี นได้ดำเนนิ การ ดงั นี้ สภาพปัญหา/ความเป็ นมา สบื เนื่องจากการปฏิรูปการศึกษา สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา ไดส้ รุป และรายงานว่า “พระราชบญั ญัติการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2542 และทีแ่ กไ้ ขเพิ่มเติม (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ.2545 เปน็ กรอบนโยบาย แนวทางในการปฏริ ปู การศึกษาของประเทศ ซึง่ หนว่ ยงานทางการศกึ ษาไดด้ ำเนนิ การปฏิรูปการศกึ ษาตามกรอบ แนวทางท่ีกำหนดดงั กล่าว ตั้งแตป่ ี 2542 จนถึงปจั จุบนั (สำนกั เลขาธกิ าร สภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ, 2552 : 1) โดยประเดน็ การพัฒนาคุณภาพการศึกษา/ผูเ้ รียน ในระดับการศึกษาข้นั พื้นฐาน พบว่า คะแนนเฉลย่ี ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนลดลง และในขอ้ เสนอการปฏิรปู การศกึ ษาในศตวรรษท่สี อง (พ.ศ.2552 -2561) รัฐบาล จะมุ่งเนน้ ให้คนไทยเรียนรตู้ ลอดชีวติ อยา่ งมีคณุ ภาพ โดยมเี ป้าหมายหลกั สามประการ คือพัฒนาคณุ ภาพและ มาตรฐานการศึกษาและเรียนรูข้ องคนไทย เพ่ิมโอกาสทางการศึกษา และเรียนรู้อย่างทั่วถงึ และมีคณุ ภาพ และ สง่ เสรมิ การมสี ว่ นร่วมของทกุ ภาคสว่ นของสังคมในการบรหิ ารและจดั การศึกษา และมีกรอบแนวทางการปฏริ ูป การศกึ ษา 4 ประการ คือ พัฒนาคณุ ภาพคนไทยยคุ ใหม่ พฒั นาคณุ ภาพครยู ุคใหม่ พัฒนาคุณภาพสถานศึกษา และแหลง่ เรียนรยู้ ุคใหม่ และพัฒนาคุณภาพการบรหิ ารจดั การยุคใหม่ (สานักงานเลขาธิการ สภาการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ, 2552 :1) แนวคิด หรือแรงจูงใจในการบรหิ ารจัดการโรงเรยี น NY School Model โรงเรียนบ้านโนนยาง ได้ตระหนักถึงความสำคญั ของการยกระดับคุณภาพขององคก์ ร ซ่ึงจะเปน็ การยกระดับมาตรฐานการปฏบิ ัตริ าชการ ส่งเสริม และสนบั สนุนใหค้ รูและบุคลากรในโรงเรียนนำไปใช้ในการ ยกระดบั การปฏิบัติงาน และใชใ้ นการประเมนิ การปฏบิ ตั ิงานด้วยตนเองอยา่ งมีประสิทธภิ าพยง่ิ ขึน้ จงึ ไดน้ ำ เทคนิคและเครื่องมือบริหารจัดการสมัยใหม่ตามแนวคดิ ของประเทศสหรฐั อเมรกิ า (Malcolm Baldrige) และ รปู แบบการบริหารจัดการประเสรฐิ โมเดล SPC-NDCA มาประยุกต์ใช้กบั โรงเรยี นโรงเรยี นบา้ นโนนยาง โดย บรหิ ารจัดการบนพ้นื ฐานปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งบูรณาการ ในการดำเนนิ การ ตงั้ แตก่ ารวเิ คราะห์
Best Practice ด้านบริหารจดั การ ความพอประมาณในด้านงบประมาณทจี่ ะต้องใช้ในการดำเนนิ โครงการ ความสามารถและความพอเพยี ง ของครแู ละบุคลากร หลักการและเหตุผลในการดำเนินโครงการ ความคุ้มคา่ ประสิทธผิ ลและประสิทธิภาพ มกี ารวางแผนการทำงานตามวงจร PDCA เพอ่ื สร้างภูมิคุ้มกนั ท่ดี ใี ห้กบั การทำงาน นอกจากนี้ยังบริหาร จดั การโดยใช้หลกั ธรรมาภิบาล มคี วามโปรง่ ใส ชัดเจนสามารถตรวจสอบได้ ตามเงอื่ นไขคุณธรรม และใช้ ความรทู้ ่ถี ูกตอ้ งตามหลักวชิ าในการกำกับ ตดิ ตามและประเมนิ ผลอยา่ งรอบคอบ ระมัดระวงั เพ่อื ใชเ้ ปน็ แนวทางในการดำเนนิ การพฒั นาโรงเรยี นใหม้ คี ณุ ภาพการปฏิบตั ิงานสงู ขน้ึ และมีมาตรฐานการทางานเทยี บเคียง กบั มาตรฐานสากล มองเหน็ ความสำคัญกบั การปฏบิ ตั ิราชการท่ีมุ่งเน้นให้การนำองคก์ รเป็นไปอย่างมีวิสัยทัศน์ มีความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คมให้ความสำคญั กบั ผ้เู รยี นและและผู้มสี ว่ นไดส้ ่วนเสยี ปรบั ปรุงระบบบริหารจดั การ ใหม้ คี วามยืดหย่นุ คล่องตัว ส่งเสรมิ ใหค้ รแู ละบุคลากรของโรงเรียนพัฒนาตนเอง มีความคิดริเรมิ่ และเรียนรู้ อย่างต่อเนื่อง ตัดสินใจโดยอาศยั ขอ้ มูลสารสนเทศ อยา่ งแท้จรงิ และทำงานโดยมุง่ เน้นผลลัพธ์เป็นสำคัญ เปา้ หมายในการพัฒนา เป้าหมายเชิงคณุ ภาพ 1. เพอื่ ให้โรงเรียนมีรปู แบบการบรหิ ารจัดการ / กระบวนการทำงานดว้ ยระบบคุณภาพท้ังองค์กร 2. เพื่อให้โรงเรยี นมีผลการปฏิบัติงานแบบเจริญกา้ วหนา้ 3. เพอ่ื ใหโ้ รงเรยี นมีมาตรฐานการจดั การเรยี นรูแ้ บบมาตรฐานสากล 4. เพ่ือให้ครู บุคลากร นกั เรียนและผู้มสี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี กับโรงเรยี นได้ร่วมมือพฒั นาโรงเรียนเพื่อให้ทนั ต่อการจัดการเรยี นรู้ ในศตวรรษที่ 21 เป้าหมายเชิงปริมาณ 1. การศึกษาดงู าน องค์กรทีไ่ ด้รับรางวลั การบรหิ ารมีคุณภาพทั้งองค์กรนอกสถานที่ จำนวน 2 แห่ง 2. การศกึ ษาดงู านโรงเรียนที่มีระบบการบรหิ ารจัดการท่ีสามารถเปน็ แบบอย่างได้ จำนวน 2 โรงเรียน คอื โรงเรียนหนองไศล อำเภอพนมไพร จงั หวดั ร้อยเอด็ และโรงเรยี นอนุบาลเมื่องใหม่ สุวรรณภมู ิ อ.สุวรรณภูมิ จังหวดั รอ้ ยเอ็ด 3. โรงเรยี นมกี ารกำหนดตวั ช้ีวดั ในระดบั องคก์ รและในระดับกลมุ่ งานทุกกลุ่มงาน 4. ครูและบคุ ลากรในโรงเรียนทุกคนมีการกำหนดตวั ชีว้ ัดระดับบคุ คล ระยะเวลา เริ่มดำเนนิ การต้ังแต่ 1 มิถุนายน 2562 - 30 กันยายน 2565 วิธีการพัฒนา ขัน้ ตอนที่ 1 การจดั ทำ Swot วิเคราะห์บริบท สรุปไดด้ ังน้ี หน่ึงโรงเรียน หนงึ่ นวัตกรรม รปู แบบการบริหารจัดการส่คู วามสำเร็จ NY School Model บทคดั ยอ่ นวัตกรรมรปู แบบการบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษาสู่ควาสำเร็จ NY School Model เป็นนวัตกรรม ด้านการบริหาร และการจัดการสถานศกึ ษาที่มวี ัตถปุ ระสงคส์ ำคญั เพอื่ ใชใ้ นการบรหิ ารจัดการ สร้างคนเกง่ คนดี มคี วามรคู้ ู่คณุ ธรรม อย่างเป็นรปู ธรรมภายใต้บริบทของสถานศึกษาและกระบวนการมีสว่ นรว่ มของทุกๆฝา่ ย โดย มีกระบวนการดำเนินงานทีใ่ ช้รปู แบบนวัตกรรม เพ่ือเปน็ ฟันเฟอื งสำคัญของโมเดลสูค่ วามสำเรจ็
Best Practice ดา้ นบริหารจัดการ สำหรบั จุดเดน่ ของนวัตกรรม รปู แบบการบริหารสถานศึกษาสูค่ วามสำเร็จ NY School Model เป็นความร่วมมือกนั ในการพฒั นาคณุ ธรรมให้เกิดข้ึนกับนักเรยี น ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาอยา่ งเปน็ รปู ธรรม ตัง้ แต่ระดบั ชั้นอนุบาลปที ่ี 2 ถงึ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 โดยนำกจิ กรรมท่ีส่งเสริมคุณธรรม อตั ลักษณ์ ของโรงเรยี นท้ัง 8 กิจกรรม มาใชใ้ นการดำเนินเร่ือง ผู้บรหิ ารและครูไดป้ ระชุมรว่ มกนั เพ่ือ วางแผนการพฒั นางาน ผ่านกระบวนการ PLC ซึ่งอยู่ ภายใต้ NY School model ทีข่ ับเคลอื่ น ส่งผลให้เกิดความรกั ความสามคั คี ในโรงเรียน ครูรุ่นพ่ี ให้ครรู ่นุ นอ้ ง พร้อมทง้ั การทำใหด้ เู ป็นตวั อย่าง การเปน็ แบบอยา่ งท่ดี ี นกั เรียนทุกคน ได้ลงมือปฏบิ ัตกิ ิจกรรมด้วยตนเอง จนกอ่ เกดิ ความประพฤตทิ ด่ี ีงาม เปน็ ประโยชนแ์ กต่ นเองและสังคม สง่ ผลให้ การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และประสบผลสำเร็จทกุ กจิ กรรม 2. หลักการและเหตุผล พระราชบัญญัติการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ.2542 และทแ่ี ก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 มาตรา 23 (3) กำหนดไวว้ า่ “การจัดการศึกษาทั้งในระบบการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ต้องเน้น ความสำคัญทั้งความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรู้ และบรู ณาการตามความเหมาะสมของแต่ละระดบั การศึกษา ในเรื่องความรู้เก่ียวกับศาสนา ศลิ ปะ วฒั นธรรม การกฬี า ภูมิปญั ญาไทย และการประยุกต์ ใชภ้ มู ปิ ญั ญา” พระราชดำรัสพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานแก่คณะบคุ คลต่างๆ ท่ีเข้าเฝา้ ฯ เน่ืองในโอกาสวนั เฉลิมพระชนพรรษา 4 ธันวาคม 2533 “ทกุ คนต่างมหี น้าที่ แต่ก็ไมไ่ ด้หมายความวา่ ทำเฉพาะหน้าทน่ี ั้น เพราะว่าถ้าคนใดทำหนา้ ท่ีเฉพาะ ของตวั โดยไมม่ องดคู นอน่ื งานกด็ ำเนนิ ไปไม่ได้ เพราะเหตุวา่ งานทกุ งานจะต้องพาดพงิ กัน จะต้อง เกีย่ วโยงกนั ฉะน้นั แตล่ ะคนจะต้องรู้ถงึ งานของผู้อ่นื แล้วช่วยกันทำ” “อนั น้ีกค็ วามหมายอีกอย่างของเศรษฐกิจหรือระบบพอเพียงเมอ่ื ปีท่แี ล้ว ตอนที่พูดพอเพียง แปลใน ใจแล้วกไ็ ด้พูดออกมาดวยวาจะแปลเปน SELF-SUF-FICIENCY (พ่ึงตนเอง) ถึงได้บอกว่า พอเพยี งแกตนเอง แต่ ความจริงเศรษฐกจิ พอเพียงน้ีกว้างขวางกว่า SELF-SUFFICIENCY คอื SELF-SUFFICIENCY หมายความว่า ผลิต อะไรมีพอทจ่ี ะใช้ ไมต่ ้องไปขอซอ้ื คนอ่นื อยูไ่ ด้ด้วยตนเอง (พง่ึ ตนเอง)” สถานศึกษาจึงเป็นเสมอื นเครื่องหลอมทีจ่ ะผลติ ทรัพยากรบุคคลอันสำคญั ยง่ิ ตอ่ การพฒั นาประเทศ ในปัจจุบันและอนาคต การจดั การเรียนรู้ท่ีเนน้ ทางด้านพุทธปิ ัญญาจะต้องกระทำควบค่ไู ปพร้อมๆกบั การเตมิ เต็ม ศกั ยภาพนักเรียนในด้านทักษะปฏบิ ตั ิท่ีเชือ่ มโยงสัมพนั ธ์ กับระบบการอยรู่ ว่ มกันระหว่างนกั เรียนกบั สงั คม นกั เรยี นจึงควรได้รับการปลูกฝังคณุ ธรรมจรยิ ธรรมท่ีสอดคล้องเหมาะสมในแตล่ ะบรบิ ท ดว้ ยเหตนุ ี้การจดั การศึกษาเพื่อชีวติ และสงั คม สามารถตอบสนองสงั คมไดโ้ ดยการสรา้ งเสรมิ และปลูกฝงั นกั เรยี นให้เปน็ ผูท้ ีม่ ีวินยั ใน ตนเอง ท้งั นี้เพื่อชว่ ยใหน้ กั เรยี นสามารถประพฤตปิ ฏบิ ัตติ นเป็นสมาชกิ ท่ีดขี องโรงเรยี นและสงั คม สามารถ ควบคมุ ดูแลตนเอง และสังคมสว่ นรวมให้อยูร่ ่วมกันได้อยา่ งปกติสุข ทง้ั น้ีเพอื่ พฒั นาผบู้ รหิ าร ครู บคุ ลากรทางการศกึ ษา และนักเรยี นให้มจี ิตสำนกึ ในบทบาทหน้าท่ี ของตวั เอง ปฏิบตั ิหน้าท่ีใหด้ ีท่ีสุด เคารพกฎเกณฑ์กติกา พรอ้ มใหต้ รวจสอบการกระทำได้เสมอ โดยพรำ่ สอน เพอื่ ให้ลกู หลานเยาวชนกา้ วทันต่อยคุ โลกาภวิ ัฒน์ ยดึ มนั่ ความซ่อื สัตยส์ จุ ริต เพ่ือสรา้ งคนดีให้บ้านเมือง การ ดำรงชวี ติ พอเพยี งตามพระราชดำรสั ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู ิพล อดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร โดยทำพอประมาณให้เหมาะสมกบั ตนเอง ไมฟ่ ุ้งเฟ้อและฝึกตนเองใหร้ จู้ ักความพอดี พอเหมาะ ดังนัน้ โรงเรยี นบ้านโนนยาง จงึ ได้จัดทำนวัตกรรมรูปแบบการบริหารสร้างคนดสี มู่ วลประชา NY School Model เพอ่ื ใชใ้ นการบรหิ ารจัดการสร้างคนดีท่เี ป็นรปู ธรรม ภายใตบ้ รบิ ทของสถานศึกษาและ กระบวนการมสี ่วนรว่ มของทุกๆฝา่ ย โดยมเี ปา้ หมายคือ นักเรียน ครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
Best Practice ดา้ นบริหารจัดการ 3. จุดประสงค์ 1. เพือ่ ส่งเสรมิ ให้นักเรยี น ครูและบคุ ลากรทางการศึกษามีคุณธรรม ตามอัตลกั ษณค์ ุณธรรรมของโรงเรยี น 2. เพอื่ ขับเคลอื่ นการพฒั นาคุณธรรมในโรงเรียนสกู่ ารปฏบิ ัติอยา่ งเป็นรูปธรรม 4. เปา้ หมาย (เชิงปริมาณ และเชิงคณุ ภาพ) 4.1 เชงิ ปริมาณ 4.1.1 ผูบ้ ริหาร ครู นกั เรยี นรอ้ ยละ 100 มคี วามซอื่ สตั ย์สุจรติ และร้จู ักช่วยเหลือ แบ่งปนั 4.1.2 ผบู้ ริหาร ครู นกั เรยี นร้อยละ 100 มีวนิ ัย รบั ผิดชอบ เช่ือฟังคำสง่ั สอนของพอ่ แม่ ครูอาจารย์ 4.1.3 ผู้บรหิ าร ครู นักเรยี นรอ้ ยละ 100 สามารถประพฤตติ นตามวัฒนธรรมไทยและศาสนาทีต่ นนบั ถอื ได้ 4.2 เชิงคุณภาพ 4.2.1 ผบู้ ริหาร ครู นักเรยี นมีความรบั ผิดชอบงานทไี่ ด้รบั มอบหมาย และเช่อื ฟังคำสงั่ สอนของพอ่ แม่ และ ครูอาจารย์ 4.2.2 ผู้บรหิ าร ครู นักเรียนไมน่ ำสิ่งของของผูอ้ ื่นมาเป็นของตนเอง ยอมรับเม่ือทำผดิ มนี ้ำใจ ช่วยเหลอื ผู้อ่นื 4.2.3 ผูบ้ รหิ าร ครู นกั เรียน เป็นผูม้ คี ณุ ธรรม จริยธรรมอนั ดีงาม 5. กรอบความคิด (Conceptual Frame Work) โรงเรียนบ้านโนนยาง ใช้กระบวนการพฒั นาผลงาน หนึง่ โรงเรียน หนึง่ นวตั กรรม ออกแบบและ สรา้ งนวตั กรรม เพ่อื เป็นเขม็ ทิศในการบริหารจัดการสถานศกึ ษาสู่ความสำเร็จ ประจำปีการศกึ ษา 2564 6. กระบวนการดำเนนิ กิจกรรม วธิ ีการดำเนินงาน กจิ กรรม/งานสำคัญ ระยะเวลา ผู้รบั ผดิ ชอบ 1. แตง่ ต้งั คณะทำงานโรงเรยี นคณุ ธรรม มถิ ุนายน 2564 นางสาวนรศิ รา นครวงษ์ 2. ประชุมระดมสมองของบคุ ลากรทุกฝ่าย มิถุนายน 2564 วางแผนดำเนนิ การโรงเรียนคุณธรรม 3. ดำเนนิ การตามแผน กรกฎาคม 2564 4. สรปุ โครงการ มีนาคม 2565 สถานท่ดี ำเนินการ โรงเรยี นบา้ นโนนยาง ตำบลพระเสาร์ อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร 7. การดำเนินงาน กระบวนการสรา้ งนวัตกรรมทางการศกึ ษา ข้ันท่ี 1 กำหนดวัตถปุ ระสงค์การพฒั นา ผบู้ ริหารและครรู ว่ มกันวเิ คราะห์สภาพแวดล้อมของโรงเรียน (SWOT Analysis) เพ่ือร่วมกนั คน้ หา จดุ แขง็ จุดอ่อน และสาเหตุของปญั หาที่เกิดข้ันในโรงเรยี น ซึง่ ผลจากการ SWOT Analysis พบวา่ ต้องพัฒนา คุณธรรมดา้ นความรับผดิ ชอบและพอเพียง ให้เกิดขน้ึ กับนักเรียน ครแู ละบุคลากรทางการศึกษา เพ่ือให้ สอดคล้องกบั คุณธรรมอัตลกั ษณท์ ีส่ ำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐานได้ กำหนดไว้
Best Practice ด้านบรหิ ารจัดการ ขนั้ ท่ี 2 กำหนดกรอบแนวคิด เมอื่ ไดก้ ำหนดจุดประสงค์ในการพฒั นาแลว้ ผูบ้ ริหาร ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ได้ศกึ ษา ค้นควา้ แนวคิดทฤษฎี และเอกสารงานวิจยั ท่เี ก่ียวข้องกบั คุณธรรมอตั ลักษณ์ของโรงเรยี นด้านความรบั ผิดชอบ และพอเพยี ง โดยการนำมาผสมผสานกบั ความคิดและประสบการณ์ของตนเอง พร้อมท้งั กำหนดเป็นกรอบ แนวคดิ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสรา้ งนวัตกรรม ข้นั ที่ 3 สรา้ งนวัตกรรม ผบู้ ริหาร ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ร่วมกันออกแบบและสร้างตัวต้นแบบนวัตกรรมใหส้ อดคลอ้ ง กับคณุ ธรรมอตั ลักษณท์ ีส่ ำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานไดก้ ำหนดไว้ ผ่านการจดั กจิ กรรมในรูปแบบ ของกจิ กรรมการการเรยี นการสอนตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้ กิจกรรมเสริมหลกั สตู ร กจิ กรรมนอกเวลาเรยี น ตัง้ แต่ระดับช้นั อนุบาลปที ี่ 2 ถงึ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 โดยใชเ้ ทคนคิ แนวคดิ ทฤษฎรี ะบบ System theory เปน็ ตัวขบั เคล่ือนการดำเนินงาน พรอ้ มทัง้ ใชเ้ กณฑ์รางวัลคณุ ภาพโรงเรียนคุณธรรมสพฐ. เป็นเครื่องมือในการ บรหิ ารจดั การ มกี ารตรวจสอบคณุ ภาพนวัตกรรมจากขอ้ มูลย้อนกลับ และการพฒั นาองค์กรควบคไู่ ปด้วย หลังจากนนั้ นำไปให้ผ้เู ชยี่ วชาญตรวจสอบรูปแบบนวัตกรรม ขั้นท่ี 4 นำนวัตกรรมไปใช้ เมื่อได้รปู แบบนวัตกรรมการพฒั นาเพื่อสง่ เสริมคณุ ธรรมดา้ นความรับผิดชอบ และพอเพียง ตาม คณุ ธรรมอตั ลักษณข์ องโรงเรียนแล้ว จงึ นำไปใชจ้ ริงในการบริหารงานการจัดการศึกษาโรงเรยี นบ้านโนนยาง ตามข้ันตอนของกระบวนการนวัตกรรม โดยควบคมุ ใหเ้ ป็นไปตามข้อกำหนดของ ตวั นวตั กรรม นำผลการ ดำเนนิ งานตามข้นั ตอนของนวัตกรรมไปให้ผ้เู ช่ียวชาญตรวจสอบ ซึ่งหากพบว่า ผลการใช้นวตั กรรมไมเ่ หมาะสม หรอื ไม่สมบูรณแ์ ล้ว จะเข้าสกู่ ารปรับปรงุ แก้ไขตามคำแนะนำของ ผ้เู ช่ียวชาญต่อไป ขั้นท่ี 5 เขียนรายงานเผยแพร่ เขียนรายงาน/เผยแพร่ เม่อื นำนวัตกรรมไปใช้ ผ้เู ชี่ยวชาญมีความเห็นเหมาะสม แลว้ จงึ เขียนรายงาน และเผยแพร่ แตห่ ากไม่มีความเหมาะสมผู้เชย่ี วชาญจะไดใ้ ห้คำแนะนำ ปรับปรงุ แก้ไข จนเสรจ็ สมบูรณ์แบบ จึง นำมาเขียนรายงาน และนำไปเผยแพรต่ ่อไป สภาพปัญหาก่อนการพัฒนา โรงเรียนบ้านโนนยาง เปน็ สถานท่ีผลิตทรัพยากรบุคคลอนั สำคัญย่ิงต่อการพฒั นาประเทศ ใน ปัจจบุ ันและอนาคต การจัดการเรยี นรทู้ เ่ี น้นทางดา้ นพุทธปิ ญั ญาจะต้องกระทำควบคู่ไปพร้อมๆกบั การเติมเต็ม ศกั ยภาพนักเรยี นในดา้ นทกั ษะ ปฏิบตั ิทีเ่ ช่ือมโยงสัมพนั ธก์ ับระบบการอยรู่ ่วมกนั ระหวา่ งนกั เรียนกับสงั คม ดังน้นั นักเรยี น ครู บคุ ลากรทางการศกึ ษา และผู้บริหารจึงควรไดร้ ับการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมทส่ี อดคล้อง เหมาะสม ในกบั บรบิ ทของโรงเรียนและสังคม ดว้ ยเหตุนี้การจดั การศึกษาเพ่อื ชวี ติ และสงั คม สามารถตอบสนอง สงั คมได้โดยการสร้างเสรมิ และปลูกฝังนักเรียน ครู บุคลากรทางการศกึ ษา และผู้บริหาร ใหเ้ ป็นผทู้ ่มี ีวนิ ยั ใน ตนเอง มีความรับผิดชอบ และอยู่อยา่ งพอเพยี ง ท้งั น้ี เพ่ือพฒั นาผบู้ ริหาร ครู บคุ ลากรทางการศกึ ษา และนักเรยี นใหม้ ีจติ สำนกึ ในบทบาทหน้าท่ี ของตวั เอง และปฏิบตั หิ น้าท่ีให้ดที ี่สดุ เคารพกฎเกณฑก์ ติกา พรอ้ มใหต้ รวจสอบการกระทำได้เสมอ โดยพร่ำ สอนเพื่อให้ลกู หลานเยาวชนก้าวทันตอ่ ยุคโลกาภิวฒั น์ ยดึ มนั่ ความซื่อสตั ย์สจุ ริต เพ่ือสรา้ งคนดใี ห้บ้านเมือง การ ดำรงชวี ิตพอเพยี งตามพระราชดำรสั ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมิพลอดลุ ยเดช โดยทำพอประมาณให้ เหมาะสมกับตนเอง ไม่ฟงุ้ เฟ้อแล ฝึกตนเองใหร้ ูจ้ ักความพอดี พอเหมาะ
Best Practice ดา้ นบรหิ ารจดั การ ดงั น้ันโรงเรียนบ้านโนนยาง จึงไดส้ ร้างนวตั กรรมรูปแบบการบริหารสรา้ งสรรค์คนดี NY School Model เพือ่ ใชใ้ นการบรหิ ารจดั การสรา้ งสรรค์คนดีทีเ่ ป็นรูปธรรม ภายใตบ้ ริบทของสถานศกึ ษาและกระบวนการ มสี ว่ นร่วมของทุกๆฝา่ ย โดยมีเป้าหมายคือ นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา การออกแบบนวัตกรรมเพ่ือการพัฒนา กรอบแนวคดิ ในการดำเนินงานตามรปู แบบการบริหารสร้างสรรคค์ นดดี ้วย NY School Model จัดกจิ กรรมทสี่ อดคล้องกับคุณธรรมความรับผดิ ชอบ และพอเพยี งตามคุณธรรมอตั ลักษณข์ องโรงเรยี น ใน รปู แบบการจัดการเรียนการสอนตามกลุ่มสาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมเสริมหลกั สตู ร กจิ กรรม นอกเวลาเรยี น ตั้งแต่ระดบั ชัน้ อนุบาลปีท่ี 2 ถงึ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 รูปแบบนวัตกรรม การบรหิ ารสร้างคนดีสปู่ วงประชา NY School Model Net Work Party หมายถึง การมสี ว่ นรว่ มของทกุ ฝา่ ย ความเปน็ น้ำหน่ึงอันเดียวกันมีความสามัคคี กลม เกลยี ว เป็นเอกภาพเดยี วกนั ในการปฏบิ ัตงิ านตามที่ไดร้ บั มอบหมาย ตามหนา้ ท่ี ตามบทบาทอนั ซ่งึ ให้บรรลุตาม วตั ถุประสงค์ ในเอกภาพเดียวกนั ทงั้ ระบบ ทง้ั นี้จะต้องสอดคล้องกับแนวปฏบิ ัติ แนวนโยบายและเพื่อพฒั นา นักเรยี นตามระบบการศึกษาของชาติ Attitude หมายถงึ ทัศนคติความคดิ เห็นต่อองค์กร ตอ่ บุคลากรในองค์กรท่ดี ี แผงไปด้วยคุณธรรมและความคิด เชงิ บวกในการพฒั นานักเรยี น พฒั นาตนเอง พัฒนาองคก์ ร ทงั้ ทางกาย ทางสติปัญญาและจติ ใจอันดงี าม Yell หมายถึง การกล่าวคำช่นื ชมทยี่ ่งิ ใหญ่ ส่งเสริมให้เกิดพลังในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ดี ้วย ความจริงใจ ตอ่ เนอ่ื ง สรา้ งความรู้สกึ ทีด่ ี มีพลงั ให้ทำงานบรรลุโดยยัง่ ยืน Obvious หมายถึง ความชัดเจน ความเด่นชัด เขา้ ใจง่าย เน่อื งจากในการดำเนินโครงการต้องมกี ารวางแผน ตามดำเนินงาน มีจดุ ประสงค์ มีเป้าหมาย มีการกำหนดคุณธรรมทตี่ ้องการพฒั นา อย่างชดั เจน เพอ่ื บรรลผุ ลที่ ถูกต้องชดั เจนเกิดผลรูปธรรมกบั นักเรยี นมากที่สุด Goodness หมายถงึ ความดีงาม คุณความดี ในการกระทำทุกสิง่ อย่างต้องปฏบิ ตั ดิ ้วยความตัง้ ใจ ความ จริงใจ ปฏบิ ัติดี ใชค้ ณุ ธรรมความดี เป็นแนวทางในการดำเนนิ ชวี ิตแล้วทกุ ส่ิงอยา่ งจะประสบผลสำเร็จ ดว้ ยคณุ ธรรมนำทาง
Best Practice ดา้ นบรหิ ารจดั การ กิจกรรมสง่ เสริม พัฒนาคณุ ธรรมด้านความรบั ผิดชอบและพอเพียงตามคุณธรรมอตั ลกั ษณโ์ รงเรียน กิจกรรมส่งเสรมิ พัฒนาคุณธรรมดา้ นความรบั ผดิ ชอบ และพอเพยี ง ตามคุณธรรมอัตลกั ษณ์โรงเรยี น ได้กำหนดกจิ กรรมตามคุณธรรมอตั ลักษณ์ของโรงเรียน จากการวเิ คราะห์สภาพปัญหาและบริบทของโรงเรยี น คือ “ความรบั ผิดชอบ” และ “พอเพยี ง” โดยมกี ิจกรรมทส่ี ่งเสรมิ คณุ ธรรม ยกตวั อยา่ ง 7.1. กจิ กรรมรู้ รกั รบั ผดิ ชอบ เปน็ กิจกรรมสง่ เสริมความรบั ผิดชอบต่อหนา้ ท่ี ท่ีไดร้ บั มอบหมายของผู้บรหิ าร ครแู ละนกั เรยี น การ ทำงานรว่ มกนั มีเป้าหมายเดียวกนั และมที ัศนคติที่ดีต่อองคก์ ร เพ่ือนร่วมงาน มีความมุ่งมนั่ ต้งั ใจ รักและเหน็ คุณคา่ ในการทำงานท่ีไดร้ ับมอบหมายอยา่ งเต็มความสามารถ ผบู้ รหิ ารและครปู ฏบิ ัตงิ าน ตรงเวลา เปน็ แบบอย่างทดี่ ีในการทำงานและการดำรงชีวิต ปลูกฝังให้นกั เรียนมคี วามรับผดิ ชอบในหน้าทข่ี องตนเอง มา โรงเรยี นทนั เวลา ทำกิจกรรมประชาธิปไตยตามกลมุ่ ทำความสะอาดห้องเรียนตามเวร ที่ได้รับมอบหมาย เข้า แถวเคารพธงชาตเิ ป็นระเบียบ หรือซือ้ ขนมตามจดุ หรือเส้นท่กี ำหนดไว้ 7.2. เกษตรกรนอ้ ย เปน็ กจิ กรรมท่ฝี ึกทักษะอาชพี และส่งเสริมการใช้ชีวิตอยา่ งพอเพยี งใหก้ บั ผูบ้ ริหาร ครู และนักเรยี น โดยการจัดกจิ กรรมอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารทกั ษะอาชพี ให้แกผ่ ู้บรหิ าร ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันวางแผนจัดกิจกรรม ส่งเสริมทักษะอาชพี “ปลูกผักสวนครัว” จำหน่าย โดยนักเรียนทกุ ระดับช้นั แบง่ หน้าทร่ี ับผดิ ชอบปลกู ผักและดูแล พชื ผกั สวนครวั นักเรียนช้นั อนบุ าลปีที่ 2-3 เพาะกลา้ ไม้ในกระถาง นกั เรียนชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1-6 ปลูกผกั สวน ครวั รดน้ำ พรวนดนิ ใส่ปุย๋ และเก็บผลผลิตนำไปจำหน่าย 7.3. กิจกรรมรู้แยก รู้ท้ิง เป็นกิจกรรมท่ฝี ึกให้เรียนแยกขยะและทง้ิ ขยะให้ถกู ท่ี โดยผู้บรหิ าร ครู และตัวแทนนกั เรยี นร่วมกัน ประชุม วางแผน เก่ยี วกบั การจัดการขยะในโรงเรียน มกี ารจดั อบรมเชงิ ปฏบิ ตั ิการการคดั แยกขยะ การกำหนด จดุ ทงิ้ ขยะท่ีชัดเจน ผู้บริหารคอยให้กบั ความรู้ครู ครูคอยใหค้ วามร้กู บั นักเรียนเกยี่ วกบั การคัดแยกขยะและการ ทง้ิ ขยะลงถังให้ถูกต้อง อีกทั้งยังมีการประชาสัมพันธ์ใหน้ ักเรยี นใช้ส่ิงของที่มีอยู่อย่างค้มุ คา่ เพ่ือลดการเกิดขยะใน โรงเรยี น ทงั้ ในรปู แบบของการอบรมหนา้ เสาธง การจัดทำปา้ ยนิเทศ จนทำให้นักเรยี นเกิดความเขา้ ใจและมี ทัศนคติท่ีดีต่อการจัดการขยะในโรงเรียน เม่ือเหน็ ขยะตกอยทู่ ่ีพนื้ นกั เรยี นจะก้มเก็บทนั ทีและนำไปทิ้งท่ถี งั ขยะ ดว้ ยตนเองโดยไม่ต้องรอคำส่งั จากครู ซ่ึงผบู้ ริหารและครจู ะคอยให้แรงเสริมทางบวกกับนักเรยี นโดยการกลา่ วช่นื ชมนักเรียนหนา้ เสาธงอยา่ งเป็นประจำ 8. ผลการดาํ เนินงาน ผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ท่ไี ดร้ บั ผลทเ่ี กดิ กบั นักเรียน นกั เรียนมกี ารพฒั นาตนเองตามคุณธรรมอตั ลกั ษณ์ของโรงเรยี นและมคี วามรู้ในการลงมือ ปฏิบัตโิ ครงงาน สง่ ผลให้นกั เรียนมาโรงเรยี นทันเวลา มคี วามต้ังใจและกระตือรือรน้ เข้าร่วมกจิ กรรมที่โรงเรยี น และหน่วยงานภายนอกจัดขึ้น มคี วามรับผิดชอบต่องานที่ได้รบั มอบหมาย ทำงานเสร็จและส่งงานตามเวลา ช่วยเหลือเพื่อนทำเวรตามกิจกรรมประชาธิปไตยในโรงเรยี นและเวรห้องเรยี น หอ้ งพิเศษ หลังจากทำเวรเสรจ็ นักเรียนมาเข้าแถวเคารพธงชาติเร็วขึ้น เข้าแถวและวางรองเท้าเปน็ ระเบยี บ ทิ้งขยะลงถังขยะ เกบ็ ขยะโดยไมร่ อ คำสงั่ จากครู มีความเสยี สละ มีจติ อาสา ช่วยเหลอื ครเู ม่ือมโี อกาส รุน่ พี่ช่วยเหลอื ดูแลรุน่ นอ้ ง ร้จู ักการใช้จา่ ย อยา่ งประหยัด ใช้ของที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า ผลที่เกิดกับครู การพฒั นาตนเองตามคุณธรรมอตั ลกั ษณข์ องโรงเรียนและมสี ่วนร่วมในการพฒั นางาน ส่งผล ให้ครูเข้าสอนตรงเวลา เอาใจใส่นักเรียน เตรยี มส่อื วสั ดุ อุปกรณ์ ประกอบการสอน ไม่ละท้ิงห้องเรียน ทำหน้าท่ี ทไี่ ดร้ ับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ แตง่ กายถูกต้องตามระเบยี บและข้อตกลงของโรงเรยี น มาโรงเรยี น
Best Practice ดา้ นบรหิ ารจัดการ ก่อนเวลาท่ีกำหนด มนี ำ้ ใจต่อเพ่ือนครดู ้วยกัน แบ่งปนั สื่อการสอน ใช้สอ่ื การสอนร่วมกันอยา่ งคมุ้ คา่ รวมถงึ มี การสร้างเครือข่ายร่วมกนั ภายในโรงเรยี น ระหว่างโรงเรียน และหน่วยงานอนื่ ส่งผลใหค้ รูไดร้ บั ความไว้วางใจ จากผปู้ กครอง ชุมชน และไดร้ ับรางวัลยกย่องเชดิ ชเู กียรติจากหนว่ ยงานต่างๆ ผลท่เี กดิ กับผู้บรหิ าร ผ้บู รหิ ารให้ความสำคญั ตอ่ การพัฒนาโรงเรียนตามคณุ ธรรมอัตลกั ษณข์ องโรงเรียน เปน็ ผู้นำ ในการขบั เคล่ือนพฒั นาโรงเรยี นภายใต้การบริหารงานแบบมสี ่วนร่วม มีความรบั ผดิ ชอบ ปฏิบัติหน้าท่ี ตรง เวลาและเตม็ เวลา มีภาวะผนู้ ำ แตง่ กายตามระเบียบและข้อตกลงของโรงเรียน ใช้จา่ ยอย่างประหยดั และบรหิ าร ทรัพยากรทีม่ ีอยอู่ ยา่ งคุ้มคา่ เกิดประโยชน์สูงสดุ ปฏบิ ตั ติ นเปน็ แบบอยา่ งทีด่ แี ก่ผู้ใต้บังคบั บัญชา มสี มรรถนะใน การบริหารจัดการอยา่ งเปน็ ระบบจนเปน็ ที่ประจกั ษช์ ดั และเปน็ ยอมรับจากสงั คม ดังจะเหน็ ไดจ้ ากการได้รบั รางวัลยกยอ่ งเชิดชเู กยี รตจิ ากหน่วยงานต่างๆ ผลท่เี กิดกับโรงเรียน จากการทีโ่ รงเรยี นมเี ป้าหมายในการพฒั นาโรงเรยี นตามคุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน มีทิศทางในการดำเนนิ งานชดั เจน โดยมีการจดั กจิ กรรมโครงการคุณธรรมต่างๆอย่างเป็นรปู ธรรมและนกั เรียนได้ มสี ่วนร่วมในการปฏิบตั ิกิจกรรม ทำให้ผลการดำเนนิ งานเป็นท่ยี อมรับจากคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน ผู้ปกครอง ชุมชน และหนว่ ยงานภายนอกโดยเห็นได้จากการได้รบั ความรว่ มมือจากชมุ ชน ผลท่ีเกิดกับครอบครัวของชุมชน จากการทโ่ี รงเรียนมเี ป้าหมายในการพัฒนาโรงเรยี นคณุ ธรรมอัตลักษณ์ ของโรงเรยี น มีทิศทางในการดำเนินงานชัดเจน สง่ ผลให้ชมุ ชนและหน่วยงานภายนอกยอมรบั ในผลการ ดำเนนิ งานของโรงเรียน ให้การชว่ ยเหลือสนับสนนุ ท้งั ดา้ นกำลงั ใจ กำลังทรัพย์และกำลังกายทกุ กิจกรรมท่มี ี โอกาส รวมไปถึง ใหก้ ารสนับสนุนวิทยากร ในการอบรมคณุ ธรรมด้านตา่ งๆ สนบั สนุนแหล่งเรยี นรู้ เพือ่ เพิม่ พูนความรแู้ กค่ รแู ละ นักเรยี นอย่างสม่ำเสมอ 9. ปัจจยั สคู่ วามสำเรจ็ โรงเรียนมเี ป้าหมายในการพัฒนาโรงเรียน มีทศิ ทางในการดำเนนิ งานชัดเจน อกี ทัง้ ยงั การบริหาร จดั การแบบมสี ว่ นรว่ ม ไดร้ บั การสนบั สนุน ส่งเสรมิ จากหนว่ ยงานทกุ ภาคสว่ น และองคก์ รข้างเคยี งในชุมชน อย่างต่อเนอื่ งมคี ณะครูท่ีมีความชำนาญ มคี วามรู้ มีผลงานโครงการทป่ี ระสบความสำเร็จเปน็ ที่ยอมรบั และไดร้ ับ การเผยแพร่ 10. บทเรยี นที่ไดร้ ับ (Lesson Learned) ผลจากการดำเนินงานตามรูปแบบการบรหิ ารสร้างสรรค์คนดี ด้วย NONYANG Model แล้ว พบวา่ ผบู้ ริหารและครู มพี ฤติกรรมเชงิ บวกมากขนึ้ ตระหนกั และปฏบิ ตั ิตามกฎระเบียบของทางราชการ ปฏิบตั ิงาน ตามภาระหนา้ ที่สำเรจ็ ลลุ ่วงอยา่ งดี เข้ารว่ มกิจกรรมที่เป็นประโยชนต์ ่อโรงเรียน ชุมชน และสงั คม เป็น แบบอยา่ งท่ดี ี นกั เรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ พัฒนาตนเองตามคุณธรรมอตั ลกั ษณข์ องโรงเรียนจนก่อเกดิ เปน็ ความประพฤติที่ดงี ามเป็นประโยชนต์ ่อตนเอง ครอบครวั และชุมชน 11. การเผยแพร่ ประชาสัมพนั ธ์ โรงเรียนมกี ารประชาสัมพนั ธก์ ารปฏบิ ัติงานพัฒนาโรงเรยี นคุณธรรมให้ผ้ปู กครอง ชุมชน องคก์ รท่ี เกยี่ วข้องไดท้ ราบเพ่ือให้เกิดความรว่ มมอื พัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรมใหก้ ับนักเรยี น ครูและบุคลากรทางการ ศกึ ษา สถานศึกษา ดังน้ี 1. จดั ประชาสมั พนั ธแ์ ละเผยแพร่ผลงานทง้ั จดั กจิ กรรมหน้าเสาธง ประชาสมั พันธ์เสียงตามสายในโรงเรียน เพจ Facebook ของโรงเรียน Line กลุม่ ต่างๆ วารสารประชาสัมพันธ์ประจำเดอื น เปน็ ต้น
Best Practice ดา้ นบริหารจดั การ 2. บรู ณาการโดยนำคุณธรรมอตั ลักษณ์สอดแทรกไวใ้ นกิจกรรมตา่ ง ๆ ของโรงเรียน 3. นำเสนอผลการพัฒนาโดยการจัดนทิ รรศการทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น มีการประชาสัมพันธโ์ ครงการ กจิ กรรมส่งเสรมิ คุณธรรมหนา้ เสาธง การประชมุ ครูประจำเดือน การประชุมนักเรยี นแกนนำ คณะกรรมการสภา นักเรียนทุกเดือน และการประชมุ ผู้ปกครอง ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการพัฒนาอยา่ งต่อเนอื่ ง จากการดำเนินงานนวตั กรรมรปู แบบการบรหิ ารสร้างสรรคค์ นดี NY School Model พบว่า การจดั กิจกรรมดงั กลา่ วควรมกี ารพัฒนาปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณป์ ัจจุบัน ดังนี้ 1. ควรพฒั นานวตั กรรมอย่างตอ่ เน่อื งเพ่ือเกิดความคล่องตัวในการจัดการศึกษา และเกิด ประโยชนส์ ูงสุดต่อ นักเรียน ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา 2. ควรเปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง ชุมชนไดเ้ ขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการจดั กิจกรรมมากกว่าน้ี 3. ควรสร้างเครือขา่ ยในการแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ผลการดำเนินงานระหวา่ งโรงเรยี นกับโรงเรียน 12. เงื่อนไขความสำเรจ็ โครงการมจี ุดเด่นของนวตั กรรม มีรูปแบบการบรหิ ารสร้างคนดสี มู่ วลประชา ด้วย NY School Model เปน็ ความร่วมมอื กนั ในการพฒั นาคุณธรรมใหเ้ กดิ ขน้ึ กบั นักเรยี น ครูและบุคลากรทางการศึกษาอยา่ ง เปน็ รปู ธรรม ต้งั แต่ระดบั ชั้นอนุบาลปที ี่ 2 ถึงช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 โดยนำกิจกรรมที่สง่ เสรมิ คณุ ธรรม อัต ลักษณ์ของโรงเรียนท้ัง 8 กิจกรรม มาใช้ในการดำเนินเร่อื ง ผูบ้ รหิ ารและครูได้ประชุมรว่ มกนั เพ่ือวางแผนการ พัฒนางานผ่านกระบวนการPLC ส่งผลให้เกิดความรัก ความสามัคคีในโรงเรยี น ครรู ุ่นพ่ี ให้คำแนะนำแกค่ รูรุ่น นอ้ ง พร้อมท้งั การทำใหด้ เู ป็นตัวอย่าง การเปน็ แบบอยา่ งท่ดี ี นกั เรยี นทุกคนได้ลงมือปฏิบตั กิ ิจกรรมดว้ ยตนเอง จนกอ่ เกดิ ความประพฤติทด่ี ีงาม เป็นประโยชนแ์ กต่ นเองและสงั คม ส่งผลให้ การดำเนินงานเป็นไปดว้ ยความ เรียบร้อย และประสบผลสำเร็จทุกกิจกรรม ********************************************************************************
Best Practice ด้านบริหารจัดการ ภาคผนวก ภาพรายงาน คำส่ัง เอกสารอ้างอิง
Best Practice ด้านบรหิ ารจัดการ ภาพรายงานข้ันตอนการดำเนนิ งาน ดา้ นการบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษา เร่อื ง การพัฒนานวัตกรรมการบรหิ ารโรงเรียน NY Model School สูค่ วามสำเรจ็ การประชมุ คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรยี นเพื่อวางแผนการดำเนินโครงการ การประชมุ คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนเพ่ือวางแผนการดำเนินโครงการ
Best Practice ด้านบรหิ ารจดั การ
Best Practice ด้านบรหิ ารจดั การ
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: